00:00:00 → 00:00:02 มีแต่แน่นอนจะมีบางครั้งที่กวนใจการทำงาน
00:00:02 → 00:00:04 ของร่างกายเรานะครับในการของการป้องกัน
00:00:04 → 00:00:06 เนี่ยมันอ่อนแอลงหรือว่าปริมาณที่เข้า
00:00:06 → 00:00:08 มาเรียนเยอะเกินไปนะครับจนร่างกายเราต้าน
00:00:08 → 00:00:11 ได้ไว้สุดท้ายก็นำไปสู่ภาวะที่ว่าภาวะปอด
00:00:11 → 00:00:13 ติดเชื้อได้
00:00:13 → 00:00:30 [เพลง]
00:00:30 → 00:00:32 วันนี้ก็เป็นหลักสุดท้ายของซีรีส์สร้างนะ
00:00:33 → 00:00:35 ครับวันนี้เราจะคุยเรื่องของภาวะปอดติด
00:00:35 → 00:00:36 เชื้อกันนะครับหรือว่าภาวะทิศทางเดินหาย
00:00:36 → 00:00:39 ใจเนี่ยติดเชื้อนะครับโดยชื่อหนึ่งที่รู้
00:00:39 → 00:00:42 จักกันทั่วไปว่าคือรบกวาดยมนะครับจะดีก็
00:00:42 → 00:00:44 น่าที่จะขึ้นวันนี้นะครับก็เราจะคุยกัน
00:00:44 → 00:00:47 เค้าๆภายในภาพออกนะครับว่าเราพูดถึงกว่า
00:00:47 → 00:00:49 ที่เชื้อเนี่ยมันเกิดอะไรขึ้นไปในปอดบ้าง
00:00:49 → 00:00:51 แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นไปในปอดมันมาสู่อาการ
00:00:51 → 00:00:54 ต่างๆที่เราก็รู้สึกว่าเห็นได้นะครับยัง
00:00:54 → 00:00:56 ไงนะครับที่นี่เริ่มจากภาวะปกติทั่วไป
00:00:57 → 00:00:58 ก่อนก็คือในสิ่งแวดล้อมที่เราอาศัยอยู่
00:00:58 → 00:01:00 เนี่ยต้องบอกว่ามันเอาไว้เชื้อจุลินทรีย์
00:01:00 → 00:01:03 นะครับอาการที่หายใจเข้าไปรู้ว่าตอนนี้
00:01:04 → 00:01:06 ที่ระหว่างที่ผมกำลังพูดอยู่เนี๊ยหายใจ
00:01:06 → 00:01:07 เข้าไปเนี่ยก็จะมีพวกสิ่งที่ช่วยตัวเล็กๆ
00:01:07 → 00:01:10 จะเล่นซีนะมากมายนะครับว่าจะเป็นพวกไวรัส
00:01:10 → 00:01:12 แบคทีเรียเชื้อราต่างๆลอยอยู่ในอากาศจะไป
00:01:12 → 00:01:15 หมดดังนั้นในทุกลมหายใจที่หายใจเข้าไปนะ
00:01:15 → 00:01:17 ครับสินชื่อเล็กๆเหล่านี้นะครับก็จะตามก็
00:01:17 → 00:01:19 เลยเปิดหัวด้วยลายข้างล่างก็จะหลุดลงไปจน
00:01:19 → 00:01:22 ถึงจุดส่วนที่ล่างสุดนะครับก็คือถุงลบได้
00:01:22 → 00:01:25 แต่จุลินทรีย์ส่วนใหญ่นะครับที่เราหายใจ
00:01:25 → 00:01:27 เข้าไปในถ้ำออกเป็นจุลินทรีย์ที่ไม่ก่อ
00:01:27 → 00:01:29 โรคนะครับคือไม่เข้าไปเฉยๆแล้วก็ออกมัน
00:01:29 → 00:01:31 ไม่ได้ยุ่งอะไรกำลังกายของเรามากนักบาง
00:01:31 → 00:01:33 ครั้งเวลาจะช่วยด้วยเนี่ยอ๋อการทำให้เรา
00:01:33 → 00:01:36 เหมือนกับมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงขึ้นแต่
00:01:36 → 00:01:37 ก็มีบางครั้งนะครับที่เป็นเชื้อ
00:01:37 → 00:01:39 จุลินทรีย์ที่สามารถเกาะโลกนี้สอนให้ลูก
00:01:39 → 00:01:42 เข้าในปอดของเราโดยเฉพาะถ้าเป็นต่อมเรา
00:01:42 → 00:01:45 ได้รับมาจากคนที่เขาป่วยอยู่แล้วก็หายใจ
00:01:45 → 00:01:47 ออกมานะครับแต่ก็ไม่ได้แปลว่าทุกครั้งที่
00:01:47 → 00:01:49 จุลินทรีย์ก่อโรคเนี่ยมันเข้าไปในปอดเรา
00:01:49 → 00:01:51 นะครับเข้าในทางเดินหายใจเนี่ยมันจะ
00:01:51 → 00:01:53 สามารถทำให้เราป่วยได้เพราะว่าได้ปล่อย
00:01:53 → 00:01:55 ของเรานั้นจึงจะบอกว่ามีคนไกลที่อย่าต่อ
00:01:55 → 00:01:58 สู้กับเชื้อโรคเนี่ยมากมายยกตัวอย่างง่าย
00:01:58 → 00:02:00 ๆนะครับที่เห็นชัดที่สุดถ้าเป็นเรื่องของ
00:02:00 → 00:02:03 คนในกันๆซึ่งมันก็คือกลไกที่เราใช้ลม
00:02:03 → 00:02:05 เรียนดัน 4 แปลกปลอมที่ทุกคนที่ทางเดิน
00:02:05 → 00:02:07 หายใจแล้วเข้าในถุงลงเนี่ยให้ลองดูกับมา
00:02:07 → 00:02:10 ข้างนอกหรือว่าคนไข้ที่สอนจะเรื่องของการ
00:02:10 → 00:02:12 สร้างเมื่อที่เราคุยกันไปนะครับที่เรา
00:02:12 → 00:02:14 เรียกว่าวิวคลาสซึ่ง Newcastle จะทำงาน
00:02:14 → 00:02:17 ร่วมกับพวกคนเล็กๆที่บกอยู่ในช่องทางไปใน
00:02:17 → 00:02:20 ใจนะครับหรือว่าซีเรียจะได้ระบบเต็มในการ
00:02:20 → 00:02:21 ทำงานร่วมกันมันมีชื่อเต็มที่เรียกว่า
00:02:21 → 00:02:23 เป็นมิวโคซินแลร์รี่ escalate เอ้อนะครับ
00:02:23 → 00:02:27 อยู่โคจะคับบลิวคลาสนะครับก็คือเมือกสิ
00:02:27 → 00:02:29 เรียนนะครับเราคนเล็กๆเขาจะไม่ค่อยพลาดบก
00:02:29 → 00:02:32 พวกเนี่ยให้มันออกขึ้นมานะครับก็จะออกมา
00:02:32 → 00:02:34 ในรูปของเสมหะที่นี่ด้วยความที่การ
00:02:34 → 00:02:36 เคลื่อนที่มันเป็นลักษณะเคลื่อนที่ขึ้น
00:02:36 → 00:02:38 ข้างบนนะครับก็เลยชักว่าว escalate ได้
00:02:38 → 00:02:40 ซึ่งก็แปลว่าเขามันเล็กที่เราใช้ขึ้นลง
00:02:40 → 00:02:43 แต่ทรงสูงๆกันดีกว่าใครที่ 3 นะครับของ
00:02:43 → 00:02:45 การป้องกันตัวปอดของเราเองเนี่ยมันก็คือ
00:02:45 → 00:02:48 สิ่งที่เราคุยกับแล้วนะครับในตอนกอดก็คือ
00:02:48 → 00:02:49 เป็นเรื่องของเซลล์ระบบภูมิคุ้มกันที่
00:02:49 → 00:02:52 อาศัยอยู่ในตัวถุงลมเลยอยู่ในทันใดใจเลย
00:02:52 → 00:02:55 ก็คือเซลล์ที่มีชื่อว่าแมคโครฟาจนะครับจะ
00:02:55 → 00:02:57 ไม่เข้าฝากอยากเป็นเซลล์ในระบบภูมิคุ้ม
00:02:57 → 00:03:00 กันที่คอยดักจับกินพวกเจริญซีโร่พวกเสื้อ
00:03:00 → 00:03:02 ผ้าซึ่งแปลความหมายต่างๆหมายถึงว่าบาง
00:03:02 → 00:03:04 ครั้งมันเป็นแค่เป็นฝุ่นต่างๆมันก็สามารถ
00:03:04 → 00:03:06 จะกินได้เป็นสิ่งแปลกปลอมและทั้งหมดนี้นะ
00:03:06 → 00:03:09 ครับก็เป็นคนใจป้องกันที่ทำให้เชื้อโรคใน
00:03:09 → 00:03:11 ต่อให้หลุดเข้าไปได้แต่ถ้ามันมีประมาณไม่
00:03:11 → 00:03:14 มากพรหลายครั้งมันก็จะทำให้เราก็ก่อ
00:03:14 → 00:03:17 ให้เกิดโรคอะไรแต่แน่นอนว่าจะมีบางครั้ง
00:03:17 → 00:03:19 ที่คนใจการทำงานของร่างกายเรานะครับในการ
00:03:19 → 00:03:22 ของการป้องกันเนี่ยอ่อนแอลงหรือว่าปริมาณ
00:03:22 → 00:03:24 ที่เข้ามาในมันเยอะเกินไปนะครับจนร่างกาย
00:03:24 → 00:03:27 เราต้านไม่ไหวสุดท้ายก็นำไปสู่ภาวะที่ว่า
00:03:27 → 00:03:29 ภาวะปอดติดเชื้อได้นี่สิ่งที่ทำให้เกิด
00:03:29 → 00:03:32 ปอดติดเชื้อนะครับแล้วไม่มีแค่ virus นะ
00:03:32 → 00:03:34 ครับก็จะมีต้องไปที่เชื้อราไวรัสเซ็ตมัน
00:03:34 → 00:03:36 ทำให้เกิดโรคปอดอักเสบติดเชื้อได้หมดคำ
00:03:36 → 00:03:39 ถามเพื่อโลกหรือว่าสารที่ระคายขึ้นเหล่า
00:03:39 → 00:03:42 นี้นะครับดูดเข้าไปในถุงลมเนี่ยมันมีอะไร
00:03:42 → 00:03:45 หรือว่ากลไกอะไรเกิดขึ้นบ้างในถุงลมนี่คน
00:03:45 → 00:03:47 ไกลของการติดเชื้อนะครับมันจะคล้ายกันหมด
00:03:47 → 00:03:48 ไม่ว่าการจะเชื่อมจะเป็นผู้ไปเที่ยวไว้
00:03:48 → 00:03:51 ล่าสุดเชื้อราหรือว่าชื่ออะไรก็ตามมันจะ
00:03:51 → 00:03:53 มีคนการที่คล้ายๆกันแต่น่าจะช่วงนี้มันดี
00:03:53 → 00:03:56 เป็นช่วงที่มีไวรัส isako ทวีทูลส์นะครับ
00:03:56 → 00:03:58 เป็นโลกโควิชในทีเนี่ยระบาดเดียวเกลียดจะ
00:03:58 → 00:04:01 ขอยกตัวอย่างเป็นไวรัสมีเหตุก็เป็นเหมือน
00:04:01 → 00:04:04 กับเป็นตุ๊กตานะคะเป็นโมเดลแต่ว่าพอจะ
00:04:04 → 00:04:07 เข้าใจการเกิดโรคของตัวเวลานำก็จะเข้าใจ
00:04:07 → 00:04:10 กันเกิดปอดบวมจากเชื้ออื่นด้วยที่นี่
00:04:10 → 00:04:12 เริ่มจากเราจิตนาการนะครับสุดเราเป็นตัว
00:04:12 → 00:04:14 เวลาตัวนี้นะครับสากลทวีทูลส์เนี่ยเราก็
00:04:14 → 00:04:18 หลุดเข้าโพรงจมูกมานะครับผ่านเธอในใจสมัธ
00:04:18 → 00:04:20 ผ่านเมื่อต่างๆผ่านแค่ข้างใต้ของร่างกาย
00:04:20 → 00:04:22 ออกไปได้แค่นี้เริ่มต้นนะครับเรามาเจอกัน
00:04:22 → 00:04:24 อาการว่าเรามันเป็นไวพลัสนะครับเป็นไวรัส
00:04:24 → 00:04:28 ซาร์โกซีทรูซึ่งเราก็รออยู่อากาศนะครับ
00:04:28 → 00:04:30 เสร็จแล้วล่ะเข้าโพรงจมูกไปผ่านขนจมูก
00:04:30 → 00:04:34 ผ่านเมื่อต่างๆลงไปได้นะครับถ้ามองในแง่
00:04:34 → 00:04:36 ของไวรัสนะครับคือมันเป็นไวรัสเนี่ยการจะ
00:04:36 → 00:04:38 เดินทางจากจมูกไปถึงทั่วโลกเนี่ยจะบอกว่า
00:04:38 → 00:04:41 ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะว่าจากที่บอกคนไกล
00:04:41 → 00:04:42 ต่างๆมันไม่เป็นอุปสรรคที่ขัดขวางตลอด
00:04:42 → 00:04:45 เส้นทางทั้งนั้นกว่าที่ไวรัสในจะเดินทาง
00:04:45 → 00:04:48 ลงไปถึงชมรมได้เนี่ยส่วนใหญ่ก็คือประมาณ
00:04:48 → 00:04:50 ไวรัสมันจะหายไปเยอะมากนะครับเช่นสมมติ
00:04:50 → 00:04:52 ว่าเข้าไปประมาณนึงถ้าจะหายไปสักครึ่งนึง
00:04:52 → 00:04:53 หรือมากกว่าเครื่องเรียกว่าจะไปถึงถุงลอง
00:04:53 → 00:04:56 ได้แล้วเมื่อไปถึงทุกลมเสร็จก็ยังไม่หมด
00:04:56 → 00:04:58 นะครับก็จะไปเจอแม็คโครฝากที่คอยดักจับ
00:04:58 → 00:05:00 กินอีกจะเห็นว่าเชิญก็เข้าไปเยอะๆเนี่ย
00:05:00 → 00:05:03 มันไม่สามารถทำให้เราป่วยได้นะครับก็ไม่
00:05:03 → 00:05:04 รู้ว่าจะรอดกลไกเหล่านี้ไปได้นะครับว่า
00:05:04 → 00:05:07 จากการถูกมากครับอาจจะกินได้มันจะทำให้
00:05:07 → 00:05:09 เกิดภาวะปอดติดเชื้อหรือว่าการติดเชื้อ
00:05:09 → 00:05:12 ที่ถุงลมขึ้นมาได้ที่ได้สมมติเวลาเสีย
00:05:12 → 00:05:14 สามารถเข้าไปถึงชมรมได้นะครับสิ่งที่เวลา
00:05:14 → 00:05:17 ซ่อมทำอย่างแรกเลยคือมันต้องหาที่มั่นนะ
00:05:17 → 00:05:19 ครับที่เกาะให้สำเร็จก่อนคือไม่ต้องหา
00:05:19 → 00:05:21 วิธีที่จะเจาะทะลุเข้าไปในเซลล์ให้ได้
00:05:22 → 00:05:24 เพราะอะไรเพราะถ้ามันเข้าได้นะครับหรือ
00:05:24 → 00:05:26 ว่าเกาะไม่อยู่เนี่ยมันก็มีโอกาสที่มันจะ
00:05:26 → 00:05:28 ถูกคัดออกมั้ยทีนะครับเราออกมาพร้อมกับลม
00:05:28 → 00:05:31 หายใจออกก็ได้แต่การที่เวลาจะเข้าเซลล์
00:05:31 → 00:05:33 ได้ไม่ใช่เรื่องง่ายนะครับเพราะว่ารัฐ
00:05:33 → 00:05:35 เนี่ยไม่ใช่ว่ามันอยากจะเจาะเข้าเสริมไหน
00:05:35 → 00:05:37 ก็จะเข้าได้เพราะว่าเซลล์ของมนุษย์หรือ
00:05:37 → 00:05:39 ว่าเส้นต่างของสิ่งมีชีวิตเนี่ยมันจะมีคน
00:05:39 → 00:05:41 ใครป้องกันไม่ให้พวกไวรัสเอดส์สามารถเข้า
00:05:41 → 00:05:43 ไปได้ง่ายพอสมควร
00:05:43 → 00:05:45 ปกตินะครับการที่เชื้อต่างๆมาจะเข้าไปใน
00:05:45 → 00:05:47 เซลล์ได้มันจะเหมือนกับจะต้องมีความ
00:05:47 → 00:05:49 จำเพาะกันอยู่นะครับก็คือว่าตัวไวรัสใน
00:05:49 → 00:05:51 ต้องมีเหมือนกับมีคุณแจเรามีโมเลกุลที่
00:05:51 → 00:05:55 สามารถที่จะจับเข้ากับช่องบางอย่างนะครับ
00:05:55 → 00:05:57 ของเซลล์เนี่ยเหมือนกับใครคุณแจนะเข้าไป
00:05:57 → 00:06:00 ได้และนี่ก็คือเหตุผลว่าทำไมเชื้อมีไฟล่า
00:06:00 → 00:06:02 สัตว์ต่างๆนะครับหรือว่าชั่วไวรัสของ
00:06:02 → 00:06:04 สัตว์แต่ละ 10 Easy เดี๋ยวมันไม่สามารถ
00:06:04 → 00:06:07 จะข้ามติดจากปี 4 1 ปีก p41 ได้ง่ายๆ
00:06:07 → 00:06:09 ส่วนอย่างนี้ก็มีความจำเพาะกับสัตว์แต่ละ
00:06:09 → 00:06:12 ชนิดนานๆทีนี้มันจะดีเชื้อก่อโรคของสัตว์
00:06:12 → 00:06:14 ชนิดนึงนะครับปีที่ 1 ที่สามารถกระโดด
00:06:14 → 00:06:16 ข้ามนะครับไปเกาะให้กับสิ่งมีชีวิตชนิด
00:06:16 → 00:06:19 หนึ่งได้เราเกิดเป็นโรคเดี๋ยวส่วนการเป็น
00:06:19 → 00:06:22 โรคใหม่ที่ไม่รู้จักขึ้นมาเหมือนอย่างก็
00:06:22 → 00:06:24 คงบิดกันนะครับที่สมุดเราเป็นไวรัสนะครับ
00:06:24 → 00:06:27 แล้วหรือไปยืนในถุงลมนะครับจะนาการนะครับ
00:06:27 → 00:06:29 มันจะไม่เราอยู่ไปอยู่ในถ้ำที่มีขนาดใหญ่
00:06:29 → 00:06:31 มากนะครับแล้วเมื่อเราสังเกตที่ผนังของ
00:06:31 → 00:06:33 ถุงลมที่อยู่รับรองเลยเราจะพบว่ามันมี
00:06:33 → 00:06:36 เซลล์ที่บุผนังท่วมและอยู่ 2 แบบด้วยกัน
00:06:36 → 00:06:39 เซลล์แบบได้ดำจะเป็นเซลล์ที่มันดูบางๆนะ
00:06:39 → 00:06:41 ครับเส้นนี้จะมีเวียกชีวิตทางการแพทย์นะ
00:06:41 → 00:06:43 ครับนึกว่าเป็นมอไซค์ท้ายวันนะครับหรือ
00:06:43 → 00:06:45 ว่า uomo new model ที่แปลว่าปอดนะครับ
00:06:45 → 00:06:48 ไซส์นะครับที่แปลว่าเซลล์ยังมอไซค์แค่วัน
00:06:48 → 00:06:50 ไปตรงตัวคือเป็นเซลล์ปอดชนิดที่ 1 ธรรมดา
00:06:50 → 00:06:53 ธรรมดานะครับด้วยความที่เสียวนี่มันบางนะ
00:06:53 → 00:06:55 ครับมันก็หน้าที่หลักของมันก็เป็นเรื่อง
00:06:55 → 00:06:57 ของการแลกเปลี่ยนแก๊สคือตัวมันบางมันจะ
00:06:57 → 00:06:59 ให้ก๊าซสมาน 7 เคลื่อนผ่านตัวมันไปได้
00:06:59 → 00:07:03 ง่ายก็ต้องไปตรงมาใช่แบบที่ 2 เนี่ยมันจะ
00:07:03 → 00:07:05 มีขนาดที่เราว่าหนากว่าเซลล์ชนิดที่ 1
00:07:05 → 00:07:07 เซลล์เช่นที่ 2 เนี่ยมันจะทำหน้าที่สร้าง
00:07:07 → 00:07:10 สารเคมีนะครับเป็นของเหลวชนิดหนึ่งที่รู้
00:07:10 → 00:07:13 จักกันในชื่อว่าเป็นสารแทรกกันนะครับซึ่ง
00:07:13 → 00:07:15 จะเล่าให้ฟังว่า 3 ชัดเนี่ยทำอะไรนะครับ
00:07:15 → 00:07:17 แต่เค้าๆก็คือมันเป็นของเหลวนะครับที่
00:07:17 → 00:07:19 เหมือนกับทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้ท่วมแล้ว
00:07:19 → 00:07:22 มันแซ่บหรือว่าติดไปที่มันจะมีเซลล์ส่วน
00:07:22 → 00:07:24 ที่ 3 นะครับเศรษฐศาสตร์เนี่ยมันไม่ใช่
00:07:24 → 00:07:26 เซลล์ที่บุคนะกลมจะเป็นเซลล์แม็คโครฟ้า
00:07:26 → 00:07:29 ที่อาศัยอยู่ภายในถุงลมเลยซึ่งมาจากคอย
00:07:29 → 00:07:31 จับกินพวกเชื้อโรคลด 10 รับรองกับต่างๆ
00:07:31 → 00:07:34 ที่หลุดเข้าไปเป็นถึงถุงลมคำถามคือถ้าเรา
00:07:34 → 00:07:36 เป็นไวรัสสาโกซีธูนเข้าไปรัดคอผิดเองเรา
00:07:36 → 00:07:39 จะเข้าที่เที่ยวไหนได้คำตอบก็คือว่าเราจะ
00:07:39 → 00:07:41 เข้าเซลล์ชั้นที่ 2 เพราะว่าอะไรเพราะ
00:07:41 → 00:07:44 บังเอิญไวรัสสาครปีทูน่ามันมีโมเลกุลคุณ
00:07:44 → 00:07:47 แจที่สามารถจับเข้ากับเซลล์ชนิดที่สองได้
00:07:47 → 00:07:51 พอดีนะครับเอ่อไปถึงว่าจั่วที่ผนังของ
00:07:51 → 00:07:54 เซลล์ชนิดที่สองมันจะมันดีมันเป็นโมเลกุล
00:07:54 → 00:07:55 นะครับที่รักมีลักษณะเหมือนกับเพื่อเป็น
00:07:55 → 00:07:58 ตัวจับนะครับจะเป็นลูกกุญแจก็ได้ซึ่งมี
00:07:58 → 00:08:00 ชื่อเรียกกับทางการว่าเอ่อรออยู่นะครับเอ
00:08:00 → 00:08:04 ซีอีและก็เลข 2 แล้วโตไวรัสซาร์โกซีทูว์
00:08:04 → 00:08:07 เนี่ยมันก็มีโมเลกุลที่จะมัดเข้ากับรู
00:08:07 → 00:08:09 กุญแจนี้ได้พอดีดังนั้นไว้ Last Call it
00:08:09 → 00:08:12 มันถึงสามารถติดเชื้อปล่อยเขาได้มันก็จะ
00:08:12 → 00:08:14 เข้าไปที่เซลล์ชนิดนี้ก็คือเซลล์กว่าชนิด
00:08:14 → 00:08:16 ที่ 2 ที่ได้เมื่อสเวลาส่วนเข้าไปในเซลล์
00:08:16 → 00:08:19 ได้มันทำอะไรต่อจริงๆแล้วนะครับปกตินะคะ
00:08:19 → 00:08:22 ติดเชื้อเนี่ยอย่างของเวลาเซ็ตตัวไวรัส
00:08:22 → 00:08:23 เองมันจะไม่ได้เข้าไปทั้งเซลล์นะครับจะ
00:08:23 → 00:08:26 ส่งถ้าส่วนพันธุกรรมของมันเข้าไปในกรณี
00:08:26 → 00:08:30 ของตัวโควิชมันก็คือตัวส่งทุกคำที่ว่า iA
00:08:30 → 00:08:32 เข้าไปนะครับแต่ว่าเวลาส่วนเช่นว่าจะส่ง
00:08:32 → 00:08:35 เป็นธุกรรมที่ว่าเป็น DNA ในเข้าไปที่พอ
00:08:35 → 00:08:37 ตัวสารพันธุกรรมของไวรัสมันเข้าไปในเซลล์
00:08:37 → 00:08:41 ได้ตัวไวรัสฉันจะใช้กลไกต่างๆภายในเซลล์
00:08:41 → 00:08:43 ในพื้นที่จะแบ่งตัวเพิ่มจำนวนให้มีจำนวน
00:08:43 → 00:08:46 ไวรัสเนี่ยเราไปดูกันของเวลาเชื่อมากขึ้น
00:08:46 → 00:08:49 เมื่อมาถึงจุดหนึ่งเนี่ยกองทัพของไวรัสนะ
00:08:49 → 00:08:51 ครับที่อยู่ภายในเซลล์มันก็จะใช้กลไกของ
00:08:51 → 00:08:53 เซลส์เหมือนกันเนี่ยทำหน้าที่เหมือนก็
00:08:53 → 00:08:56 เป็นไขให้ประตูเนี่ยของเซอร์มาเปิดออกมา
00:08:56 → 00:08:58 เพื่อให้เซลล์เนี่ยมันเดินทางออกมาจาก
00:08:58 → 00:09:01 เซลล์นั้นเราไปติดสให้ตื่นต่อไปก็และเกิด
00:09:01 → 00:09:05 กลไกแบบนี้ซ้ำป่วนไปเรื่อยๆนะครับที่นี่
00:09:05 → 00:09:07 เราจะมาดูฝั่งของร่างกายรู้กันบ้างว่า
00:09:07 → 00:09:09 ร่างกายของมนุษย์เนี่ย pop2 ต่อไว้ล่ะได้
00:09:09 → 00:09:12 ยังไงแน่นอนว่าเมื่อและไวรัสนะครับเข้าไป
00:09:12 → 00:09:14 ในเซลล์ได้มันก็จะก่อให้เกิดการบาดเจ็บก็
00:09:14 → 00:09:17 ในของถุงลมและของเซลล์เล็กขึ้นมาบ้างนะ
00:09:17 → 00:09:19 ครับไม่มากก็น้อยซึ่งการบาดเจ็บนี้นะครับ
00:09:19 → 00:09:22 มันจะมีผลต่อการทำงานของเซลล์จะได้ในกรณี
00:09:22 → 00:09:25 ของตัวไวรัสโควิชเนี่ยที่บอกก็คือมันเข้า
00:09:25 → 00:09:28 เซลล์ปล่อยชนิดที่ 2 เซลล์นี้ก็จะสร้าง
00:09:28 → 00:09:32 สรรค์สัตว์ต่างๆเนี่ยได้ลดลงซึ่งถุงลมใน
00:09:32 → 00:09:34 ก็จะมีโอกาสแซ่บได้ง่ายขึ้นแต่ว่าการตัด
00:09:34 → 00:09:36 เจ็บที่เกิดจากไวรัสมันเพลงเป็นเพียงแค่
00:09:36 → 00:09:39 ส่วนเดียวเท่านั้นนะครับการปัดจัดอีกส่วน
00:09:39 → 00:09:41 นึงอันเกิดจากคนใจที่ร่างกายของเราเองมัน
00:09:41 → 00:09:44 พยายามที่จะต่อสู้กับไวรัสมันก็คือคนไกล
00:09:44 → 00:09:46 ที่ภูมิคุ้มกันเหมือนกับต่อสู้แล้วเกิด
00:09:46 → 00:09:49 การทำลายถุงลมขึ้นมาเพราะอะไรเพราะว่าใน
00:09:49 → 00:09:51 การตอบสนองของระบบการมันจะมีการหลั่งสาร
00:09:51 → 00:09:54 เคมีต่างๆออกมาซึ่งสารเคมีเราเนี่ยก็จะมี
00:09:54 → 00:09:56 อยู่หลายชนิดด้วยกันนะครับมันจะมีชื่อ
00:09:56 → 00:09:58 เยอะนะครับจะไม่ได้อยากให้จำแต่ว่าอยากจะ
00:09:58 → 00:10:01 ให้ฟังนะครับอ.บางสะพานครูเอาไว้เฉยๆ
00:10:01 → 00:10:03 เพราะว่าหลายวันอื่นนะครับถ้าเราเคยอย่าง
00:10:03 → 00:10:06 อื่นแล้วมันมีชื่อที่มันสำคัญมากระบวนซ้ำ
00:10:06 → 00:10:09 กลับมาอีกจะทำให้ขอบคุณเคยจะพอจะจำได้ไป
00:10:09 → 00:10:12 เองนะครับพวกสารเคมีที่สร้างของมาเมื่อ
00:10:12 → 00:10:14 เซลล์หรือว่าถุงลมในบ้าน 7 นะครับก็จะ
00:10:14 → 00:10:16 เป็นสารที่เคยว่าเป็นสารใส่ทองคล้ายนะ
00:10:16 → 00:10:19 ครับแต่บางกลุ่มของสารเคมีเลยละชนิดที่
00:10:19 → 00:10:21 สร้างโดยเซลล์ภูมิคุ้มกันซึ่งมันทำหน้า
00:10:21 → 00:10:23 ที่เหมือนกับเป็นการสื่อสารระหว่างเซลล์
00:10:23 → 00:10:24 ด้วยกันหรือว่าเล็กพูดง่ายๆเล็กกำลัง
00:10:24 → 00:10:27 เสริมเข้ามาบริเวณที่บาดเจ็บก็ได้นอก
00:10:27 → 00:10:29 เหนือจากพวกสารชโยคล้ายซึ่งจะมีเป็นพวก
00:10:29 → 00:10:31 บริบูรณ์เล็กๆออกมานะครับซึ่งผู้นำจะออก
00:10:31 → 00:10:34 มาเวลาที่เซลล์และบาดเจ็บซึ่งจะพูดง่าย
00:10:34 → 00:10:37 ขึ้นนะครับพอไม่เอาภายในมันแตกมาก็ได้นะ
00:10:37 → 00:10:39 ครับมันก็สามารถกระตุ้นปะคุ้มกันให้ทำงาน
00:10:39 → 00:10:41 เพิ่มขึ้นได้ที่นี่สิ่งที่เกิดขึ้นตามมา
00:10:41 → 00:10:43 จากนี้นะครับจะเหมือนโดมิโนโดยตรงไป
00:10:43 → 00:10:46 เรื่อยๆก็คือว่าเซลล์ภูมิคุ้มกันพอมันถูก
00:10:46 → 00:10:49 เรียกนะครับหรือว่าจะถูกกระตุ้นให้มารวม
00:10:49 → 00:10:51 ตัวกันบริเวณที่รับบาดเจ็บเนี่ยมันก็
00:10:51 → 00:10:53 เหมือนเป็นการเรียกกำลังเสริมมาเข้ามา
00:10:53 → 00:10:56 เรื่อยๆนะครับก็จะเข้าไปที่ลอกแค่ลอกต้อง
00:10:56 → 00:10:58 เดี๋ยวจากนี้นะครับสารเคมีที่หลังออกมา
00:10:58 → 00:11:00 เนี่ยมันยังทำหน้าที่อย่างดีหรือว่านอก
00:11:00 → 00:11:02 เหนือจากการที่จะเสริมภูมิคุ้มกันเข้ามา
00:11:02 → 00:11:04 เนี่ยมันจะเป็นเข้าไปบอกเซลล์ข้างเคียง
00:11:04 → 00:11:06 ด้วยนะครับว่าตอนนี้มันมีภาวะติดเชื้อ
00:11:06 → 00:11:08 เกิดขึ้นแล้วเพื่อให้เสริมข้างเคียงมันนะ
00:11:08 → 00:11:11 ครับมีการสร้างบริการต่างๆนะครับขึ้นมา
00:11:11 → 00:11:13 ภายในเซลล์เพื่อที่จะเตรียมพร้อมที่จะรับ
00:11:13 → 00:11:15 มือเราต่อสู้กับไวรัสเหล่านี้ก็คือการตอบ
00:11:15 → 00:11:18 สนองนะครับที่เซลล์ที่ตาติดเชื้อเวลาแต่
00:11:18 → 00:11:21 มันป็อบน้องออกมาคราวนี้เราจะมาดูบ้างนะ
00:11:21 → 00:11:23 ครับว่าแมคโครฟาจเนี่ยที่เราคุยกันไปว่า
00:11:23 → 00:11:26 มันอยู่ในถุงลมเนี่ยเมื่อมีมันกินไวรัส
00:11:26 → 00:11:28 เข้าไปหรือว่ามัน Dtac นะครับหรือว่าจับ
00:11:28 → 00:11:30 ได้ว่ามีสิ่งแปลกปลอมเลยไปแล้วเข้ามา
00:11:30 → 00:11:33 เนี่ยมันจะทำอะไรบ้างวิธีการต่อสู้ของ
00:11:33 → 00:11:35 ประกบ Fast น่ารักๆควรจะอยู่ 2 อย่างด้วย
00:11:35 → 00:11:37 กันอย่างแรกนะครับคือมันจะทำหน้าที่
00:11:37 → 00:11:39 เหมือนเป็นทหารที่จะคอยจับกินเชื้อโรคและ
00:11:39 → 00:11:41 เซลล์แปลกปลอมนะครับอันนี้ตรงไปตรงมา
00:11:41 → 00:11:43 อย่างที่สอนนะครับก็คือมันจะใช้การสู้
00:11:43 → 00:11:46 ด้วยอาวุธเคมีก็คือจะมีการหลั่งสารเคมี
00:11:46 → 00:11:48 ต่างๆออกมาด้วยเหมือนกันซึ่งสรรค์ที่ดี
00:11:48 → 00:11:50 ที่มันก็ฟังออกมาน่าจะเป็นสารที่มีที่ไป
00:11:50 → 00:11:52 กระตุ้นภูมิคุ้มกันในเพิ่มอีกเหมือนกัน
00:11:52 → 00:11:55 ที่จะเห็นว่าคนใจการงานของระบบภูมิคุ้ม
00:11:55 → 00:11:58 กันต่างๆมันจะรับสงกรานต์ที่จะเพิ่มจาก 1
00:11:58 → 00:12:00 เป็น 2 จาก 2 เป็น 4 นะครับแล้วว่ามันต่อ
00:12:00 → 00:12:02 กันเป็นทอดๆเพื่อนเรียกกำลังเสริมเนี่ย
00:12:02 → 00:12:04 ให้เข้ามามากขึ้นฉันจะมีที่แม็คโครฝาก
00:12:04 → 00:12:06 หลังออกมานะครับหลายครั้งเราจะเรียกแจ้ง
00:12:06 → 00:12:08 เตือนพรุ่งนี้ว่าเป็นสารพวกทำให้เกิดภาวะ
00:12:08 → 00:12:11 เกิดการอักเสบนะครับตัวอย่างชื่อของสาร
00:12:11 → 00:12:13 เคมีครับเช่นอินเตอร์คินนะครับมีแต่ลูก
00:12:13 → 00:12:15 ขี้เดี๋ยวก็จะมีหลายด้อยฉันเป็นชนิดต่างๆ
00:12:15 → 00:12:18 เช่นอินเตอร์คินวันนั้นจะกินเซ็กส์นะครับ
00:12:18 → 00:12:21 ซึ่งก็จะมีชื่อเรียกต่างๆมากมายนะครับ
00:12:21 → 00:12:24 สัญชนีพูดเนี่ยจะไปกระตุ้นให้เกิดแกทั้งๆ
00:12:24 → 00:12:26 ที่เพิ่มขึ้นที่สำคัญคือมันทำให้เกิดภาวะ
00:12:26 → 00:12:29 เส้นเลือดนะครับก็มีการขยายตัวขึ้นคำถาม
00:12:29 → 00:12:31 ว่าคือเส้นเลือดที่มาถูกลบเหล่านี้มัน
00:12:31 → 00:12:33 ขยายตัวเพื่ออะไรก็อย่างที่เราเคยคุยกัน
00:12:33 → 00:12:36 ไปในหัวข้อการอักเสบนะคะว่าเส้นเลือดที่
00:12:36 → 00:12:38 ขยายตัวเนี้ยที่จึงก็เหมือนเป็นการเปิด
00:12:38 → 00:12:41 ถนนนะครับว่าเส้นทางเพื่อที่จะให้พวก
00:12:41 → 00:12:43 เลือดหรือว่าโซโลต่างเข้าไปบริเวณที่จะ
00:12:43 → 00:12:45 ระบาดเจ็บได้มากขึ้นเพราะอะไรเพราะเรา
00:12:45 → 00:12:47 ต้องการที่เซลล์ระบบพวกระบบภูมิคุ้มกันใน
00:12:47 → 00:12:49 เข้ามามากๆแล้วตัวเส้นเลือดไม่ใช่ขยาย
00:12:49 → 00:12:51 ใหญ่อย่างเดียวนะครับแต่ว่าตัวผนังของ
00:12:51 → 00:12:53 เส้นเลือดเนี่ยมันจะมีเหมือนกับรูรั่ว
00:12:53 → 00:12:57 เพิ่มมากขึ้นนะครับซึ่งกันมีรูรั่วแต่มัน
00:12:57 → 00:12:59 พับผ้าเป็นภาวะปกติครับเพื่อที่ได้พวกน้ำ
00:12:59 → 00:13:01 เลือดน้ำนี้นะคะรู้เที่ยวต่างๆหรือว่า
00:13:01 → 00:13:03 โปรตีนเนี่ยออกจากเส้นเลือดอ่ะเข้ามา
00:13:03 → 00:13:06 บริเวณที่เกิดการบาดเจ็บง่ายขึ้นแล้วแต่
00:13:06 → 00:13:09 ต่างๆที่เข้ามากันมากมายนี้นะครับก็จะทำ
00:13:09 → 00:13:12 หน้าที่ต่างกันไปก็คือเอาไหมครับเวลาเกิด
00:13:12 → 00:13:14 อุบัติเหตุก็จะมีรถดับเพลิงนะคะมีรถตำรวจ
00:13:14 → 00:13:18 นะครับมีความตึงนะครับเข้ามาซึ่งแต่ละคน
00:13:18 → 00:13:20 เนี่ยก็จะทำหน้าที่ต่างกันไปคนแก่เหล่า
00:13:20 → 00:13:22 นี้อย่างที่บอกนะครับจะไม่เป็นคนไกลปกติ
00:13:22 → 00:13:24 นะครับเป็นอะไรที่ดีของร่างกายที่จะใช้
00:13:24 → 00:13:28 ต่อสู้กับเธอลงต่างเพลงแต่ว่ากลไกเรียบ
00:13:28 → 00:13:31 เรามันเกิดขึ้นที่ปอดคำในถุงลมเนี่ยซึ่ง
00:13:31 → 00:13:33 มีหน้าที่แลกเปลี่ยนก๊าซเนี่ยก็จะมีผล
00:13:33 → 00:13:37 กระทบกับถุงลมได้ก็คือเราค่อยคุยกันไปนะ
00:13:37 → 00:13:39 ครับว่าผนังถุงลมเนี่ยมันจะทำงานได้ดีถ้า
00:13:39 → 00:13:42 มันอยู่ปีความบางนะครับแต่ว่าตอนที่มี
00:13:42 → 00:13:44 เกิดภาวะการเกษตรว่าจะมีน้ำแล้วก็เชิญ
00:13:44 → 00:13:47 ต่างหรือว่าโปรตีนเข้าไปด้วยนั้นมากทำให้
00:13:47 → 00:13:51 ความบางมันหายไปเมื่อเคยมีผลกระทบกับการ
00:13:51 → 00:13:53 ตั้งแต่เกิดก๊าซออกซิเจนนะครับซึ่งแน่นอน
00:13:53 → 00:13:55 ว่าถ้าพรุ่งนี้วันเกิดไม่เยอะนะครับเช่น
00:13:55 → 00:13:57 เกิดขึ้นกับบางถุงลมเนี่ยหรือว่าการเกษตร
00:13:57 → 00:13:59 รายได้น้อยเนี่ยเราก็ไม่สุกอะไรเราไม่ได้
00:13:59 → 00:14:02 ป่วยมีอะไรนะครับเพราะอย่างที่เคยคุยไป
00:14:02 → 00:14:05 วัดเราเนี่ยมีถุงลมสำรองในเยอะมากแต่ถ้า
00:14:05 → 00:14:07 พื้นที่ที่เกิดการอักเสบครับหรือพื้นที่
00:14:07 → 00:14:10 ที่มีปัญหาเนี่ยมันมีออกเรียนกว้างนะครับ
00:14:10 → 00:14:13 จนถึงจุดที่ว่าการแลกเปลี่ยนก๊าซสักมัน
00:14:13 → 00:14:16 ไม่ค่อยพอนะครับเราก็จะเริ่มมีอาการหอบ
00:14:16 → 00:14:19 เลยเกิดขึ้นซึ่งก็เกิดจากการที่ภาวะของซิ
00:14:19 → 00:14:22 เจนในเลือดต่ำลงและคำรับการเลื่อนสูงขึ้น
00:14:22 → 00:14:25 แล้วมันก็จะกระตุ้นสมองในให้เราหายใจเร็ว
00:14:25 → 00:14:28 ขึ้นที่นี่เวลาเราไปหาหมอนะครับคำถามคือ
00:14:28 → 00:14:31 หมอรู้ได้ไงว่ามีน้ำอยู่ในถุงลมปกติเวลา
00:14:31 → 00:14:33 มาตรวจร่างกายนะครับหลักๆหมอจะใช้หลักการ
00:14:33 → 00:14:36 ก็คือดูคำขอฟังนะครับเขาว่าดูหมายถึงอะไร
00:14:36 → 00:14:39 ก็คือหมอในจะสังเกตก็คือบอกได้ตานะครับ
00:14:39 → 00:14:41 ถ้ามีน้ำในถุงลมมากนะครับน้ำท่วมปอดเนี่ย
00:14:41 → 00:14:44 มันก็จะมีผลให้กันออนไลน์เป็นรถเส้นทำดี
00:14:44 → 00:14:46 อย่างที่ว่าไปนะครับขอให้เจอเร็วนะมองก็
00:14:46 → 00:14:49 จะสังเกตว่าผู้ป่วยเนี่ยหายใจเร็วก็จะมี
00:14:49 → 00:14:51 ลักษณะในระยะเช่นอาจจะดูหายใจเลือกนะครับ
00:14:51 → 00:14:54 หายใจเร็วมีการใช้กล้ามเนื้อส่วนอื่นของ
00:14:54 → 00:14:57 แบรนด์คอนะครับหนูหน้าอกเนี่ยช่วยในการ
00:14:57 → 00:15:00 หายใจเหมาะกับสังเกตพวกนี้คือได้นี้นะ
00:15:00 → 00:15:02 ครับที่ป่วยมากผู้ป่วยก็จะมีสีของปลาที่
00:15:02 → 00:15:06 ค้ำลงซึ่งการมองด้วยตาลประคำก็ประเมิน
00:15:06 → 00:15:09 ความรุนไรของเราเก้าอี้ประมาณหนึ่งที่นี้
00:15:09 → 00:15:12 ของการฟังในปกติหมอก็จะใช้หูฟังหมอนะครับ
00:15:12 → 00:15:14 ประเภทที่ปอดนะครับแล้วก็ให้ผู้ป่วยได้
00:15:14 → 00:15:18 ให้ใจลึกๆนะครับที่นี่หมอเลยต้องฟังการ
00:15:18 → 00:15:20 ฟังเสียงอะไรสิ่งที่ได้ยินเนี่ยเขาเรียก
00:15:20 → 00:15:22 ว่าเป็นเสียงก็ไม่มีชื่อเล่นนะครับทางการ
00:15:22 → 00:15:23 แพทย์เรียกว่าเสียงพรรคเก่านะครับก็มี
00:15:23 → 00:15:25 เสียงดังกลับๆนะครับอย่างกราฟ graph นะ
00:15:25 → 00:15:29 ครับประที่ผู้ป่วยในใจเข้าลึกๆเสียงกับๆ
00:15:29 → 00:15:30 เนี่ยมันเกิดจากการที่ถุงลมซึ่งตอนนั้น
00:15:30 → 00:15:33 มันตีบอยู่เนี่ยมันพยายามที่จะพองออก
00:15:33 → 00:15:36 พยางค์พองสู้กับน้ำนะครับที่มาถึงเรื่อง
00:15:36 → 00:15:39 ของการคอนะครับที่เวลาหมอเกาะเนี่ยถ้า
00:15:39 → 00:15:41 เป็นปลาที่ปกติมีแต่ลมและเสียงมันจะฟังดู
00:15:41 → 00:15:44 โปร่งแต่ถ้าเริ่มมีน้ำในถุงลมเนี่ยสิ่ง
00:15:44 → 00:15:46 ที่ฆ้อนมันก็จะเปลี่ยนไปก็คือเสียงจำ
00:15:46 → 00:15:49 เหมือนกับเสียงตื่นนะครับซึ่งแต่ละปัจจัย
00:15:49 → 00:15:50 เหล่านี้นะครับก็ทำให้หมอรู้ว่าตอนนี้มัน
00:15:50 → 00:15:53 นะครับมีนะไม่ถูกล้มเกิดขึ้นที่นี้คนที่
00:15:53 → 00:15:55 เป็นโรคปอดบวมก็จะมีภาวะ I โทรไหมครับ
00:15:55 → 00:15:58 ซึ่งส่วนหนึ่งก็จะมาจากภาวะการเกษตรอย่าง
00:15:58 → 00:16:00 ที่ว่าไปนะครับก็คือพอเกิดเพราะว่าเสี่ย
00:16:00 → 00:16:02 จะเป็นมีการหลังสันเคมีออกมาสรรค์ที่นี้
00:16:02 → 00:16:03 เราเลี้ยงเป็นกระตุ้นพวกเส้นประสาทนะครับ
00:16:03 → 00:16:07 ก็ทำให้เราเกิดการไอขึ้นมาสำหรับอาการ
00:16:07 → 00:16:09 เจ็บนะครับปกติที่เราเคยคุยกันเรื่องของ
00:16:09 → 00:16:11 ภาวะการอักเสบเราจะบอกว่าลักษณะข้าศึกมัน
00:16:11 → 00:16:14 จะมีคือปวดบวมแดงร้อนถูกเลยครับมันจะมี
00:16:14 → 00:16:16 เรื่องของอาการปวดและการเจ็บอยู่ด้วยแต่
00:16:16 → 00:16:18 ว่าต้องบอกว่าภายในตัวเนื้อปอดเดี๋ยวมัน
00:16:18 → 00:16:20 ไม่เจ็บนะครับมาถึงว่ามันไม่มีตัวเช่น
00:16:20 → 00:16:23 ภาษาที่รับความเจ็บถ้าเรามีเดี๋ยวไปคลิป
00:16:23 → 00:16:26 ปอดเราเนี่ยก็จะไม่รู้จัก 7 อะไรแต่ว่า
00:16:26 → 00:16:28 ถ้าการเกษตรนะครับมันเกิดขึ้นเวรที่ไหม
00:16:28 → 00:16:30 ครับขอบของปอดและภาวะการเกษตรหรือสารเคมี
00:16:30 → 00:16:33 มันลามไปที่เยี่ยวปุ้มปอนะครับซึ่งตัว
00:16:33 → 00:16:35 อยู่ข้างปั่นมันมีเช่นภาษารับความเจ็บ
00:16:35 → 00:16:38 อยู่เราก็จะรู้จะเก็บได้โดยเฉพาะเวลาที่
00:16:38 → 00:16:41 หลายจะเล็กๆเราปอดมันไปเสียดสีกับตัวพอ
00:16:41 → 00:16:43 เยื่อหุ้มปอดเนี่ยก็จะรู้สึกเจ็บละที่หาย
00:16:43 → 00:16:46 ใจเข้าลึกๆตอนนี้ก็เป็นเรื่องของอาการนะ
00:16:46 → 00:16:49 ครับเรื่องของกลไกที่เกิดขึ้นที่นี่ยัง
00:16:49 → 00:16:51 แยกของการหายนะครับต้องบอกว่าในสมัยต้ม
00:16:52 → 00:16:53 และทันสมัยโบราณนะครับก่อนที่เราจะมี
00:16:53 → 00:16:55 เรื่องของการแพทย์ปัจจุบันนะครับตอนที่มี
00:16:55 → 00:16:57 เรื่องของยาปฏิชีวนะหรือมีเครื่องมือการ
00:16:57 → 00:17:00 แพทย์ต่างๆออต้องบอกว่ามันจะมีอีกส่วนนึง
00:17:00 → 00:17:02 ยาเสียชีวิตนะครับแต่ก็จะมีคนจำนวนไม่
00:17:02 → 00:17:05 น้อยที่สามารถหายได้คำถามว่าหายได้ยังไง
00:17:05 → 00:17:07 แม้ว่าจะไม่มีการรักษาโรคต่างๆคำตอบก็คือ
00:17:07 → 00:17:10 ว่าเพราะว่าจริงๆกลไกที่เราว่าไปทั้งหมด
00:17:10 → 00:17:13 นะครับส่วนนึงก็สามารถทำให้เราหายจากโรค
00:17:13 → 00:17:15 นี้ได้ก็คือถ้าภูมิคุ้มกันสามารถต่อสู้
00:17:15 → 00:17:17 ได้แล้วเมื่อถึงจุดนึงนะครับเมื่อร่างกาย
00:17:17 → 00:17:19 สามารถควบคุมภาวะติดเชื้อได้เนี่ยอาการ
00:17:19 → 00:17:22 อักเสบต่างๆมันก็ค่อยๆลดลงนะครับเซลล์
00:17:22 → 00:17:23 ภูมิคุ้มกันก็จะเข้าอยู่ทำงานแล้วเราก็
00:17:23 → 00:17:27 ค่อยๆฟื้นนะครับค่อยๆหายจากอาการป่วยซึ่ง
00:17:27 → 00:17:29 ก็จะเป็นกรณีที่ร่างกายสามารถต่อสู้ชนะ
00:17:29 → 00:17:32 กับเชื้อโรคได้ที่นี่เรามาดูกรณีที่ร่าง
00:17:32 → 00:17:34 กายแพ้บ้างนะครับก็คือผู้ป่วยหนักจน
00:17:35 → 00:17:37 กระทั่งเสียชีวิตเนี้ยยกตัวอย่างเช่นกรณี
00:17:37 → 00:17:39 ของปอดติดเชื้อสากล Switch Two นะครับ
00:17:39 → 00:17:42 ที่เราป่วยเป็นโรคจนเสียชีวิตเนี่ยเรามา
00:17:42 → 00:17:44 ดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นจริงๆบอกว่าคนไกลมัน
00:17:44 → 00:17:46 ก็เหมือนกับที่เราคุยกันไปเมื่อสักครู่นะ
00:17:46 → 00:17:48 ครับจะเป็นการตอบสนองที่รุนแรงกว่ามากเลย
00:17:48 → 00:17:50 จะพูดว่าจริงๆก็คือการใส่ชุดว่าจะเกิด
00:17:50 → 00:17:52 ขึ้นจากการที่ร่างกายเราตอบสนองรุนแรง
00:17:52 → 00:17:54 เกินไปนะครับไม่ค่อยว่าตัวไวรัสเดี๋ยวมัน
00:17:54 → 00:17:57 ไปกระตุ้นเซลล์ทำให้เกิดการอักเสบนะมาก
00:17:57 → 00:18:00 เกินไปแล้วว่าคนกันในปอดมีการหลังก็ไม่
00:18:00 → 00:18:02 ต้องตายออกมามากเกินไปนะครับมาจนเข้าสู่
00:18:02 → 00:18:05 ภาวะที่หรือว่าใส่ทุกครั้งจะตอบนะครับแต่
00:18:05 → 00:18:07 ว่าพายุใส่โต๊ะข่ายซึ่งภาวะนี้มันก็คือ
00:18:07 → 00:18:10 ภาวะการอักเสบที่มันลุกลามนะครับใหญ่โตจน
00:18:10 → 00:18:12 กระทั่งเหมือนกับไม่ได้จำกัดอยู่แค่
00:18:12 → 00:18:15 บริเวณที่ติดเชื้อคิดเล็กๆตรงนั้นนะครับ
00:18:15 → 00:18:18 แล้วพวกสารอักเสบต่างๆนะครับก็เข้าไปใน
00:18:18 → 00:18:19 เส้นเลือดและก็ไหลเวียนไปส่วนต่างๆของ
00:18:19 → 00:18:21 ร่างกายได้ซึ่งเมื่อจะไปก่อให้เกิดภาวะ
00:18:21 → 00:18:24 การอักเสบเนื้อทั่วร่างกายไปที่เอาไว้ว่า
00:18:24 → 00:18:26 ไหนก็จะทำให้เกิดภาวะการเกษตรที่อวัยวะ
00:18:26 → 00:18:29 นั้นเนื้อจัดการการทำลายที่อวัยวะนั้นได้
00:18:29 → 00:18:32 ทำให้ผู้ป่วยเดี๋ยวพีเส้นเลือดขยายทั่ว
00:18:32 → 00:18:36 ร่างกายนะครับความดันตกที่นี่ในกรณีของโค
00:18:36 → 00:18:38 วิชนะครับก็จะมีอีกกรณีนึงอีกปัจจัยหนึ่ง
00:18:38 → 00:18:41 ก็คือว่าการที่มันมีความจำเพาะกับเซลล์
00:18:41 → 00:18:44 ปอดเช่นที่สอนครับที่บอกว่าเป็นเซลล์ที่
00:18:44 → 00:18:47 สร้างสารแทรกตันได้เนี่ยมันก็จะทำให้ใน
00:18:47 → 00:18:49 ภายในปอดของเราในมีสารตัวนี้น้อยลงเพื่อ
00:18:49 → 00:18:52 สารแทรกตันน้อยลงคำถามว่าคือว่าสารเสพติด
00:18:52 → 00:18:55 ตามเนี่ยทำอะไรอย่างที่บอกไปนะครับศาล
00:18:55 → 00:18:57 เซลล์ไฟฟ้าจริงมันเป็นของเหลวที่หลังออก
00:18:57 → 00:19:00 มาเพื่อป้องกันให้ปลอดแซ่บแต่เครื่องนี้
00:19:00 → 00:19:03 ครับปกติเนี่ยภายในปอดของเรานะครับมันจะ
00:19:03 → 00:19:06 มีความชื้นอยู่นิดๆนะครับเพราะว่าการที่
00:19:06 → 00:19:08 เราหายใจเข้าไปในมันมีความชื้นอยู่ตรงไหน
00:19:08 → 00:19:10 ครับที่นี่พวกมาเลย์คุณของน้ำในเวลาที่
00:19:10 → 00:19:13 มันฉาบอยู่ที่ผิวของผนังทรงกลมเนี่ยเอา
00:19:13 → 00:19:15 มันเป็นธรรมชาติของมาเลย์คุณของน้ำประมาณ
00:19:15 → 00:19:19 ๆว่าถ้ามันเข้ามาอยู่ใกล้กันมันจะดูดเข้า
00:19:19 → 00:19:22 หากันซึ่งภาวะในจริงๆกับชื่อว่าหลายคน
00:19:22 → 00:19:25 คุ้นเคยนะคะอย่างที่เรานึกถึงภาพว่าเรามี
00:19:25 → 00:19:27 กระจกสองอันนะครับเรามาเหมือนกับฉีดละออง
00:19:27 → 00:19:30 น้ำเนี่ยเข้าไปที่ผิวของกระจกรอบกระจกมา
00:19:30 → 00:19:32 แปะเข้าหากันเราจะดึงกระจกออกจากการเงิน
00:19:32 → 00:19:35 ได้ยากขึ้นเหตุผลเพราะว่าน้ำแล้วมันจะดูด
00:19:35 → 00:19:37 กันแล้วก็เช่นเดียวกันนะครับพวกละอองน้ำ
00:19:37 → 00:19:40 นะครับผู้บริโภคน้ำที่ฉาบอยู่ที่ภายใน
00:19:40 → 00:19:43 ผนังของถุงลมเนี่ยมันก็จะทำแบบเดียวกันก็
00:19:43 → 00:19:45 คือตอนที่เราจะออกนะครับรับพลังท่วมแล้ว
00:19:45 → 00:19:48 เข้ามาใกล้กันเนี่ยน้ำที่ชาร์จไว้ที่ผนัง
00:19:48 → 00:19:50 ถุงลมไม่สะดุดให้ถุงลมในวันทราบติดกันไป
00:19:50 → 00:19:52 เลยแต่ว่าในภาวะจริงในคนทั่วๆไปมันจะไม่
00:19:52 → 00:19:55 เกิดภาวะนี้ขึ้นนะครับเพราะอะไรเพราะเรา
00:19:55 → 00:19:57 มีสารที่ภาษาแทรกตันนี้มันจะเป็นสารที่
00:19:57 → 00:19:59 ถูกสร้างขึ้นมาแล้วจะเคลือบอยู่ที่บริเวณ
00:19:59 → 00:20:02 ที่ผิวหน้าจะเอาถุงร่มทำให้ถุงลมเลี้ยง
00:20:02 → 00:20:05 ปลามาเข้ามาใกล้กันเนี่ยมันจะไม่ตีแป๊ปไป
00:20:05 → 00:20:08 ที่นี้ปัญหาของตนที่มันทราบก็คือว่าต้อง
00:20:08 → 00:20:10 บอกว่าเหมือนลูกโป่งนะครับก็คือลูกโป่ง
00:20:10 → 00:20:12 ตอนที่มันตอนที่เราเป่าจากที่เป็นแซ่บเลย
00:20:12 → 00:20:15 โดนจับเอายากกว่าถูกไหมครับก็ต้องใช้แว่น
00:20:15 → 00:20:17 ในการเป่าเนี่ยค่อนข้างมากแต่ถ้าลูกโป่ง
00:20:17 → 00:20:18 มันเริ่มพองขึ้นแล้วเนี่ยมันจะเป่าได้
00:20:18 → 00:20:21 ง่ายขึ้นเช่นเดียวกันตอนถุงลมที่มันแซ่บ
00:20:21 → 00:20:23 ติดกันเนี่ยการจะหายใจเข้าไปถุงแล้ว
00:20:23 → 00:20:26 เมืองทองขึ้นมาเนี่ยมันจะทำได้ยากมันต้อง
00:20:26 → 00:20:29 ใช้ on แรงดันได้ค่อนข้างมากจะในปอดเราก็
00:20:29 → 00:20:31 เลยมีคนไกลนี้เพื่อป้องกันให้ทั่วรอมัน
00:20:31 → 00:20:33 แซ่บที่นี่ในผู้ป่วยที่ป่วยเป็นโรคโควิช
00:20:33 → 00:20:35 เนี่ยนะครับสาวโชว์วิฑูรย์เนี่ยนะครับบอก
00:20:35 → 00:20:38 ว่าจะมีการสร้างสาร Stun ได้น้อยลงทำให้
00:20:38 → 00:20:41 ถุงลมมีความเสี่ยงที่จะแซ่บง่ายขึ้นเรา
00:20:41 → 00:20:43 ถ้าเกิดว่ามันเปล่ามันเกิดขึ้นกับทุนรวม
00:20:43 → 00:20:46 จำนวนมากนะครับก็เลยทำให้หลายข้างในผู้
00:20:46 → 00:20:48 ป่วยเนี่ยถุงแล้วมันทราบแล้วก็ไม่มีแรงพอ
00:20:48 → 00:20:50 ที่จะหายใจเข้าไปแล้วนะทำไมถุงลมแล้วพอง
00:20:50 → 00:20:53 กลับมาได้เราถ้าเป็นมากๆนะครับเกิดขึ้น
00:20:53 → 00:20:55 ล้มจนมากๆเนี่ยผู้ป่วยก็ต้องใส่เครื่อง
00:20:55 → 00:20:57 ช่วยหายใจนะครับที่มีลักษณะเหมือนเป็นการ
00:20:57 → 00:21:00 อัดลมเข้าไปนะครับคือมีแรงดันของลมดันดัน
00:21:00 → 00:21:02 ต่อไปเพื่อจะช่วยผักให้ถุงลมแล้วมันเปิด
00:21:02 → 00:21:04 ออกแล้วก็ไม่ทราบกลับเข้ามาเหมือนเดิมและ
00:21:04 → 00:21:06 ทั้งหมดนี้นะครับก็คือเรื่องราวของภาวะ
00:21:06 → 00:21:07 ปอดอักเสบติดเชื้อที่อยากจะเล่าให้ฟัง
00:21:07 → 00:21:10 คร่าวๆนะครับในพิโสดนี้นะครับก็ต้องบอก
00:21:10 → 00:21:12 ว่าเป็นพื้นฐานนะครับก็หวังว่าจะช่วยเข้า
00:21:12 → 00:21:14 ใจภาวะการติดเชื้อของปอดมากขึ้นนะครับ
00:21:14 → 00:21:17 แล้วก็ถือโอกาสจบซีรีส์รีบเลยนะครับไม่
00:21:17 → 00:21:19 ของปอดแล้วก็ทางเดินหายใจก็คิดว่าน่าจะพอ
00:21:19 → 00:21:22 มีประโยชน์นะครับสำหรับ CV นานะครับว่าจะ
00:21:22 → 00:21:24 ไปคุยเรื่องที่เกี่ยวข้องและก็ทำงานใกล้
00:21:24 → 00:21:28 ชิดกันบอทครับทั้งในๆมากๆก็คือระบบของ
00:21:28 → 00:21:30 ขั้วใจและหลอดเลือดนะครับเราจะมาทำเข้าใจ
00:21:30 → 00:21:34 ว่าระบบใจกันเลื่อนทำงานสัมพันธ์กับผ่อน
00:21:34 → 00:21:37 ง่ายแล้วก็รกใจต่างๆที่เกิดขึ้นในมันมีคน
00:21:37 → 00:21:40 ไปอะไรเกิดขึ้นบ้างแล้วเรามาเจอกันใหม่ใน
00:21:40 → 00:21:49 ที่สนหน้านะครับสวัสดีครับอ่า
00:21:49 → 00:21:52 [เพลง]
00:00:00 → 00:00:02 มีแต่แน่นอนจะมีบางครั้งที่กวนใจการทำงาน
00:00:02 → 00:00:04 ของร่างกายเรานะครับในการของการป้องกัน
00:00:04 → 00:00:06 เนี่ยมันอ่อนแอลงหรือว่าปริมาณที่เข้า
00:00:06 → 00:00:08 มาเรียนเยอะเกินไปนะครับจนร่างกายเราต้าน
00:00:08 → 00:00:11 ได้ไว้สุดท้ายก็นำไปสู่ภาวะที่ว่าภาวะปอด
00:00:11 → 00:00:13 ติดเชื้อได้
00:00:13 → 00:00:30 [เพลง]
00:00:30 → 00:00:32 วันนี้ก็เป็นหลักสุดท้ายของซีรีส์สร้างนะ
00:00:33 → 00:00:35 ครับวันนี้เราจะคุยเรื่องของภาวะปอดติด
00:00:35 → 00:00:36 เชื้อกันนะครับหรือว่าภาวะทิศทางเดินหาย
00:00:36 → 00:00:39 ใจเนี่ยติดเชื้อนะครับโดยชื่อหนึ่งที่รู้
00:00:39 → 00:00:42 จักกันทั่วไปว่าคือรบกวาดยมนะครับจะดีก็
00:00:42 → 00:00:44 น่าที่จะขึ้นวันนี้นะครับก็เราจะคุยกัน
00:00:44 → 00:00:47 เค้าๆภายในภาพออกนะครับว่าเราพูดถึงกว่า
00:00:47 → 00:00:49 ที่เชื้อเนี่ยมันเกิดอะไรขึ้นไปในปอดบ้าง
00:00:49 → 00:00:51 แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นไปในปอดมันมาสู่อาการ
00:00:51 → 00:00:54 ต่างๆที่เราก็รู้สึกว่าเห็นได้นะครับยัง
00:00:54 → 00:00:56 ไงนะครับที่นี่เริ่มจากภาวะปกติทั่วไป
00:00:57 → 00:00:58 ก่อนก็คือในสิ่งแวดล้อมที่เราอาศัยอยู่
00:00:58 → 00:01:00 เนี่ยต้องบอกว่ามันเอาไว้เชื้อจุลินทรีย์
00:01:00 → 00:01:03 นะครับอาการที่หายใจเข้าไปรู้ว่าตอนนี้
00:01:04 → 00:01:06 ที่ระหว่างที่ผมกำลังพูดอยู่เนี๊ยหายใจ
00:01:06 → 00:01:07 เข้าไปเนี่ยก็จะมีพวกสิ่งที่ช่วยตัวเล็กๆ
00:01:07 → 00:01:10 จะเล่นซีนะมากมายนะครับว่าจะเป็นพวกไวรัส
00:01:10 → 00:01:12 แบคทีเรียเชื้อราต่างๆลอยอยู่ในอากาศจะไป
00:01:12 → 00:01:15 หมดดังนั้นในทุกลมหายใจที่หายใจเข้าไปนะ
00:01:15 → 00:01:17 ครับสินชื่อเล็กๆเหล่านี้นะครับก็จะตามก็
00:01:17 → 00:01:19 เลยเปิดหัวด้วยลายข้างล่างก็จะหลุดลงไปจน
00:01:19 → 00:01:22 ถึงจุดส่วนที่ล่างสุดนะครับก็คือถุงลบได้
00:01:22 → 00:01:25 แต่จุลินทรีย์ส่วนใหญ่นะครับที่เราหายใจ
00:01:25 → 00:01:27 เข้าไปในถ้ำออกเป็นจุลินทรีย์ที่ไม่ก่อ
00:01:27 → 00:01:29 โรคนะครับคือไม่เข้าไปเฉยๆแล้วก็ออกมัน
00:01:29 → 00:01:31 ไม่ได้ยุ่งอะไรกำลังกายของเรามากนักบาง
00:01:31 → 00:01:33 ครั้งเวลาจะช่วยด้วยเนี่ยอ๋อการทำให้เรา
00:01:33 → 00:01:36 เหมือนกับมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงขึ้นแต่
00:01:36 → 00:01:37 ก็มีบางครั้งนะครับที่เป็นเชื้อ
00:01:37 → 00:01:39 จุลินทรีย์ที่สามารถเกาะโลกนี้สอนให้ลูก
00:01:39 → 00:01:42 เข้าในปอดของเราโดยเฉพาะถ้าเป็นต่อมเรา
00:01:42 → 00:01:45 ได้รับมาจากคนที่เขาป่วยอยู่แล้วก็หายใจ
00:01:45 → 00:01:47 ออกมานะครับแต่ก็ไม่ได้แปลว่าทุกครั้งที่
00:01:47 → 00:01:49 จุลินทรีย์ก่อโรคเนี่ยมันเข้าไปในปอดเรา
00:01:49 → 00:01:51 นะครับเข้าในทางเดินหายใจเนี่ยมันจะ
00:01:51 → 00:01:53 สามารถทำให้เราป่วยได้เพราะว่าได้ปล่อย
00:01:53 → 00:01:55 ของเรานั้นจึงจะบอกว่ามีคนไกลที่อย่าต่อ
00:01:55 → 00:01:58 สู้กับเชื้อโรคเนี่ยมากมายยกตัวอย่างง่าย
00:01:58 → 00:02:00 ๆนะครับที่เห็นชัดที่สุดถ้าเป็นเรื่องของ
00:02:00 → 00:02:03 คนในกันๆซึ่งมันก็คือกลไกที่เราใช้ลม
00:02:03 → 00:02:05 เรียนดัน 4 แปลกปลอมที่ทุกคนที่ทางเดิน
00:02:05 → 00:02:07 หายใจแล้วเข้าในถุงลงเนี่ยให้ลองดูกับมา
00:02:07 → 00:02:10 ข้างนอกหรือว่าคนไข้ที่สอนจะเรื่องของการ
00:02:10 → 00:02:12 สร้างเมื่อที่เราคุยกันไปนะครับที่เรา
00:02:12 → 00:02:14 เรียกว่าวิวคลาสซึ่ง Newcastle จะทำงาน
00:02:14 → 00:02:17 ร่วมกับพวกคนเล็กๆที่บกอยู่ในช่องทางไปใน
00:02:17 → 00:02:20 ใจนะครับหรือว่าซีเรียจะได้ระบบเต็มในการ
00:02:20 → 00:02:21 ทำงานร่วมกันมันมีชื่อเต็มที่เรียกว่า
00:02:21 → 00:02:23 เป็นมิวโคซินแลร์รี่ escalate เอ้อนะครับ
00:02:23 → 00:02:27 อยู่โคจะคับบลิวคลาสนะครับก็คือเมือกสิ
00:02:27 → 00:02:29 เรียนนะครับเราคนเล็กๆเขาจะไม่ค่อยพลาดบก
00:02:29 → 00:02:32 พวกเนี่ยให้มันออกขึ้นมานะครับก็จะออกมา
00:02:32 → 00:02:34 ในรูปของเสมหะที่นี่ด้วยความที่การ
00:02:34 → 00:02:36 เคลื่อนที่มันเป็นลักษณะเคลื่อนที่ขึ้น
00:02:36 → 00:02:38 ข้างบนนะครับก็เลยชักว่าว escalate ได้
00:02:38 → 00:02:40 ซึ่งก็แปลว่าเขามันเล็กที่เราใช้ขึ้นลง
00:02:40 → 00:02:43 แต่ทรงสูงๆกันดีกว่าใครที่ 3 นะครับของ
00:02:43 → 00:02:45 การป้องกันตัวปอดของเราเองเนี่ยมันก็คือ
00:02:45 → 00:02:48 สิ่งที่เราคุยกับแล้วนะครับในตอนกอดก็คือ
00:02:48 → 00:02:49 เป็นเรื่องของเซลล์ระบบภูมิคุ้มกันที่
00:02:49 → 00:02:52 อาศัยอยู่ในตัวถุงลมเลยอยู่ในทันใดใจเลย
00:02:52 → 00:02:55 ก็คือเซลล์ที่มีชื่อว่าแมคโครฟาจนะครับจะ
00:02:55 → 00:02:57 ไม่เข้าฝากอยากเป็นเซลล์ในระบบภูมิคุ้ม
00:02:57 → 00:03:00 กันที่คอยดักจับกินพวกเจริญซีโร่พวกเสื้อ
00:03:00 → 00:03:02 ผ้าซึ่งแปลความหมายต่างๆหมายถึงว่าบาง
00:03:02 → 00:03:04 ครั้งมันเป็นแค่เป็นฝุ่นต่างๆมันก็สามารถ
00:03:04 → 00:03:06 จะกินได้เป็นสิ่งแปลกปลอมและทั้งหมดนี้นะ
00:03:06 → 00:03:09 ครับก็เป็นคนใจป้องกันที่ทำให้เชื้อโรคใน
00:03:09 → 00:03:11 ต่อให้หลุดเข้าไปได้แต่ถ้ามันมีประมาณไม่
00:03:11 → 00:03:14 มากพรหลายครั้งมันก็จะทำให้เราก็ก่อ
00:03:14 → 00:03:17 ให้เกิดโรคอะไรแต่แน่นอนว่าจะมีบางครั้ง
00:03:17 → 00:03:19 ที่คนใจการทำงานของร่างกายเรานะครับในการ
00:03:19 → 00:03:22 ของการป้องกันเนี่ยอ่อนแอลงหรือว่าปริมาณ
00:03:22 → 00:03:24 ที่เข้ามาในมันเยอะเกินไปนะครับจนร่างกาย
00:03:24 → 00:03:27 เราต้านไม่ไหวสุดท้ายก็นำไปสู่ภาวะที่ว่า
00:03:27 → 00:03:29 ภาวะปอดติดเชื้อได้นี่สิ่งที่ทำให้เกิด
00:03:29 → 00:03:32 ปอดติดเชื้อนะครับแล้วไม่มีแค่ virus นะ
00:03:32 → 00:03:34 ครับก็จะมีต้องไปที่เชื้อราไวรัสเซ็ตมัน
00:03:34 → 00:03:36 ทำให้เกิดโรคปอดอักเสบติดเชื้อได้หมดคำ
00:03:36 → 00:03:39 ถามเพื่อโลกหรือว่าสารที่ระคายขึ้นเหล่า
00:03:39 → 00:03:42 นี้นะครับดูดเข้าไปในถุงลมเนี่ยมันมีอะไร
00:03:42 → 00:03:45 หรือว่ากลไกอะไรเกิดขึ้นบ้างในถุงลมนี่คน
00:03:45 → 00:03:47 ไกลของการติดเชื้อนะครับมันจะคล้ายกันหมด
00:03:47 → 00:03:48 ไม่ว่าการจะเชื่อมจะเป็นผู้ไปเที่ยวไว้
00:03:48 → 00:03:51 ล่าสุดเชื้อราหรือว่าชื่ออะไรก็ตามมันจะ
00:03:51 → 00:03:53 มีคนการที่คล้ายๆกันแต่น่าจะช่วงนี้มันดี
00:03:53 → 00:03:56 เป็นช่วงที่มีไวรัส isako ทวีทูลส์นะครับ
00:03:56 → 00:03:58 เป็นโลกโควิชในทีเนี่ยระบาดเดียวเกลียดจะ
00:03:58 → 00:04:01 ขอยกตัวอย่างเป็นไวรัสมีเหตุก็เป็นเหมือน
00:04:01 → 00:04:04 กับเป็นตุ๊กตานะคะเป็นโมเดลแต่ว่าพอจะ
00:04:04 → 00:04:07 เข้าใจการเกิดโรคของตัวเวลานำก็จะเข้าใจ
00:04:07 → 00:04:10 กันเกิดปอดบวมจากเชื้ออื่นด้วยที่นี่
00:04:10 → 00:04:12 เริ่มจากเราจิตนาการนะครับสุดเราเป็นตัว
00:04:12 → 00:04:14 เวลาตัวนี้นะครับสากลทวีทูลส์เนี่ยเราก็
00:04:14 → 00:04:18 หลุดเข้าโพรงจมูกมานะครับผ่านเธอในใจสมัธ
00:04:18 → 00:04:20 ผ่านเมื่อต่างๆผ่านแค่ข้างใต้ของร่างกาย
00:04:20 → 00:04:22 ออกไปได้แค่นี้เริ่มต้นนะครับเรามาเจอกัน
00:04:22 → 00:04:24 อาการว่าเรามันเป็นไวพลัสนะครับเป็นไวรัส
00:04:24 → 00:04:28 ซาร์โกซีทรูซึ่งเราก็รออยู่อากาศนะครับ
00:04:28 → 00:04:30 เสร็จแล้วล่ะเข้าโพรงจมูกไปผ่านขนจมูก
00:04:30 → 00:04:34 ผ่านเมื่อต่างๆลงไปได้นะครับถ้ามองในแง่
00:04:34 → 00:04:36 ของไวรัสนะครับคือมันเป็นไวรัสเนี่ยการจะ
00:04:36 → 00:04:38 เดินทางจากจมูกไปถึงทั่วโลกเนี่ยจะบอกว่า
00:04:38 → 00:04:41 ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะว่าจากที่บอกคนไกล
00:04:41 → 00:04:42 ต่างๆมันไม่เป็นอุปสรรคที่ขัดขวางตลอด
00:04:42 → 00:04:45 เส้นทางทั้งนั้นกว่าที่ไวรัสในจะเดินทาง
00:04:45 → 00:04:48 ลงไปถึงชมรมได้เนี่ยส่วนใหญ่ก็คือประมาณ
00:04:48 → 00:04:50 ไวรัสมันจะหายไปเยอะมากนะครับเช่นสมมติ
00:04:50 → 00:04:52 ว่าเข้าไปประมาณนึงถ้าจะหายไปสักครึ่งนึง
00:04:52 → 00:04:53 หรือมากกว่าเครื่องเรียกว่าจะไปถึงถุงลอง
00:04:53 → 00:04:56 ได้แล้วเมื่อไปถึงทุกลมเสร็จก็ยังไม่หมด
00:04:56 → 00:04:58 นะครับก็จะไปเจอแม็คโครฝากที่คอยดักจับ
00:04:58 → 00:05:00 กินอีกจะเห็นว่าเชิญก็เข้าไปเยอะๆเนี่ย
00:05:00 → 00:05:03 มันไม่สามารถทำให้เราป่วยได้นะครับก็ไม่
00:05:03 → 00:05:04 รู้ว่าจะรอดกลไกเหล่านี้ไปได้นะครับว่า
00:05:04 → 00:05:07 จากการถูกมากครับอาจจะกินได้มันจะทำให้
00:05:07 → 00:05:09 เกิดภาวะปอดติดเชื้อหรือว่าการติดเชื้อ
00:05:09 → 00:05:12 ที่ถุงลมขึ้นมาได้ที่ได้สมมติเวลาเสีย
00:05:12 → 00:05:14 สามารถเข้าไปถึงชมรมได้นะครับสิ่งที่เวลา
00:05:14 → 00:05:17 ซ่อมทำอย่างแรกเลยคือมันต้องหาที่มั่นนะ
00:05:17 → 00:05:19 ครับที่เกาะให้สำเร็จก่อนคือไม่ต้องหา
00:05:19 → 00:05:21 วิธีที่จะเจาะทะลุเข้าไปในเซลล์ให้ได้
00:05:22 → 00:05:24 เพราะอะไรเพราะถ้ามันเข้าได้นะครับหรือ
00:05:24 → 00:05:26 ว่าเกาะไม่อยู่เนี่ยมันก็มีโอกาสที่มันจะ
00:05:26 → 00:05:28 ถูกคัดออกมั้ยทีนะครับเราออกมาพร้อมกับลม
00:05:28 → 00:05:31 หายใจออกก็ได้แต่การที่เวลาจะเข้าเซลล์
00:05:31 → 00:05:33 ได้ไม่ใช่เรื่องง่ายนะครับเพราะว่ารัฐ
00:05:33 → 00:05:35 เนี่ยไม่ใช่ว่ามันอยากจะเจาะเข้าเสริมไหน
00:05:35 → 00:05:37 ก็จะเข้าได้เพราะว่าเซลล์ของมนุษย์หรือ
00:05:37 → 00:05:39 ว่าเส้นต่างของสิ่งมีชีวิตเนี่ยมันจะมีคน
00:05:39 → 00:05:41 ใครป้องกันไม่ให้พวกไวรัสเอดส์สามารถเข้า
00:05:41 → 00:05:43 ไปได้ง่ายพอสมควร
00:05:43 → 00:05:45 ปกตินะครับการที่เชื้อต่างๆมาจะเข้าไปใน
00:05:45 → 00:05:47 เซลล์ได้มันจะเหมือนกับจะต้องมีความ
00:05:47 → 00:05:49 จำเพาะกันอยู่นะครับก็คือว่าตัวไวรัสใน
00:05:49 → 00:05:51 ต้องมีเหมือนกับมีคุณแจเรามีโมเลกุลที่
00:05:51 → 00:05:55 สามารถที่จะจับเข้ากับช่องบางอย่างนะครับ
00:05:55 → 00:05:57 ของเซลล์เนี่ยเหมือนกับใครคุณแจนะเข้าไป
00:05:57 → 00:06:00 ได้และนี่ก็คือเหตุผลว่าทำไมเชื้อมีไฟล่า
00:06:00 → 00:06:02 สัตว์ต่างๆนะครับหรือว่าชั่วไวรัสของ
00:06:02 → 00:06:04 สัตว์แต่ละ 10 Easy เดี๋ยวมันไม่สามารถ
00:06:04 → 00:06:07 จะข้ามติดจากปี 4 1 ปีก p41 ได้ง่ายๆ
00:06:07 → 00:06:09 ส่วนอย่างนี้ก็มีความจำเพาะกับสัตว์แต่ละ
00:06:09 → 00:06:12 ชนิดนานๆทีนี้มันจะดีเชื้อก่อโรคของสัตว์
00:06:12 → 00:06:14 ชนิดนึงนะครับปีที่ 1 ที่สามารถกระโดด
00:06:14 → 00:06:16 ข้ามนะครับไปเกาะให้กับสิ่งมีชีวิตชนิด
00:06:16 → 00:06:19 หนึ่งได้เราเกิดเป็นโรคเดี๋ยวส่วนการเป็น
00:06:19 → 00:06:22 โรคใหม่ที่ไม่รู้จักขึ้นมาเหมือนอย่างก็
00:06:22 → 00:06:24 คงบิดกันนะครับที่สมุดเราเป็นไวรัสนะครับ
00:06:24 → 00:06:27 แล้วหรือไปยืนในถุงลมนะครับจะนาการนะครับ
00:06:27 → 00:06:29 มันจะไม่เราอยู่ไปอยู่ในถ้ำที่มีขนาดใหญ่
00:06:29 → 00:06:31 มากนะครับแล้วเมื่อเราสังเกตที่ผนังของ
00:06:31 → 00:06:33 ถุงลมที่อยู่รับรองเลยเราจะพบว่ามันมี
00:06:33 → 00:06:36 เซลล์ที่บุผนังท่วมและอยู่ 2 แบบด้วยกัน
00:06:36 → 00:06:39 เซลล์แบบได้ดำจะเป็นเซลล์ที่มันดูบางๆนะ
00:06:39 → 00:06:41 ครับเส้นนี้จะมีเวียกชีวิตทางการแพทย์นะ
00:06:41 → 00:06:43 ครับนึกว่าเป็นมอไซค์ท้ายวันนะครับหรือ
00:06:43 → 00:06:45 ว่า uomo new model ที่แปลว่าปอดนะครับ
00:06:45 → 00:06:48 ไซส์นะครับที่แปลว่าเซลล์ยังมอไซค์แค่วัน
00:06:48 → 00:06:50 ไปตรงตัวคือเป็นเซลล์ปอดชนิดที่ 1 ธรรมดา
00:06:50 → 00:06:53 ธรรมดานะครับด้วยความที่เสียวนี่มันบางนะ
00:06:53 → 00:06:55 ครับมันก็หน้าที่หลักของมันก็เป็นเรื่อง
00:06:55 → 00:06:57 ของการแลกเปลี่ยนแก๊สคือตัวมันบางมันจะ
00:06:57 → 00:06:59 ให้ก๊าซสมาน 7 เคลื่อนผ่านตัวมันไปได้
00:06:59 → 00:07:03 ง่ายก็ต้องไปตรงมาใช่แบบที่ 2 เนี่ยมันจะ
00:07:03 → 00:07:05 มีขนาดที่เราว่าหนากว่าเซลล์ชนิดที่ 1
00:07:05 → 00:07:07 เซลล์เช่นที่ 2 เนี่ยมันจะทำหน้าที่สร้าง
00:07:07 → 00:07:10 สารเคมีนะครับเป็นของเหลวชนิดหนึ่งที่รู้
00:07:10 → 00:07:13 จักกันในชื่อว่าเป็นสารแทรกกันนะครับซึ่ง
00:07:13 → 00:07:15 จะเล่าให้ฟังว่า 3 ชัดเนี่ยทำอะไรนะครับ
00:07:15 → 00:07:17 แต่เค้าๆก็คือมันเป็นของเหลวนะครับที่
00:07:17 → 00:07:19 เหมือนกับทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้ท่วมแล้ว
00:07:19 → 00:07:22 มันแซ่บหรือว่าติดไปที่มันจะมีเซลล์ส่วน
00:07:22 → 00:07:24 ที่ 3 นะครับเศรษฐศาสตร์เนี่ยมันไม่ใช่
00:07:24 → 00:07:26 เซลล์ที่บุคนะกลมจะเป็นเซลล์แม็คโครฟ้า
00:07:26 → 00:07:29 ที่อาศัยอยู่ภายในถุงลมเลยซึ่งมาจากคอย
00:07:29 → 00:07:31 จับกินพวกเชื้อโรคลด 10 รับรองกับต่างๆ
00:07:31 → 00:07:34 ที่หลุดเข้าไปเป็นถึงถุงลมคำถามคือถ้าเรา
00:07:34 → 00:07:36 เป็นไวรัสสาโกซีธูนเข้าไปรัดคอผิดเองเรา
00:07:36 → 00:07:39 จะเข้าที่เที่ยวไหนได้คำตอบก็คือว่าเราจะ
00:07:39 → 00:07:41 เข้าเซลล์ชั้นที่ 2 เพราะว่าอะไรเพราะ
00:07:41 → 00:07:44 บังเอิญไวรัสสาครปีทูน่ามันมีโมเลกุลคุณ
00:07:44 → 00:07:47 แจที่สามารถจับเข้ากับเซลล์ชนิดที่สองได้
00:07:47 → 00:07:51 พอดีนะครับเอ่อไปถึงว่าจั่วที่ผนังของ
00:07:51 → 00:07:54 เซลล์ชนิดที่สองมันจะมันดีมันเป็นโมเลกุล
00:07:54 → 00:07:55 นะครับที่รักมีลักษณะเหมือนกับเพื่อเป็น
00:07:55 → 00:07:58 ตัวจับนะครับจะเป็นลูกกุญแจก็ได้ซึ่งมี
00:07:58 → 00:08:00 ชื่อเรียกกับทางการว่าเอ่อรออยู่นะครับเอ
00:08:00 → 00:08:04 ซีอีและก็เลข 2 แล้วโตไวรัสซาร์โกซีทูว์
00:08:04 → 00:08:07 เนี่ยมันก็มีโมเลกุลที่จะมัดเข้ากับรู
00:08:07 → 00:08:09 กุญแจนี้ได้พอดีดังนั้นไว้ Last Call it
00:08:09 → 00:08:12 มันถึงสามารถติดเชื้อปล่อยเขาได้มันก็จะ
00:08:12 → 00:08:14 เข้าไปที่เซลล์ชนิดนี้ก็คือเซลล์กว่าชนิด
00:08:14 → 00:08:16 ที่ 2 ที่ได้เมื่อสเวลาส่วนเข้าไปในเซลล์
00:08:16 → 00:08:19 ได้มันทำอะไรต่อจริงๆแล้วนะครับปกตินะคะ
00:08:19 → 00:08:22 ติดเชื้อเนี่ยอย่างของเวลาเซ็ตตัวไวรัส
00:08:22 → 00:08:23 เองมันจะไม่ได้เข้าไปทั้งเซลล์นะครับจะ
00:08:23 → 00:08:26 ส่งถ้าส่วนพันธุกรรมของมันเข้าไปในกรณี
00:08:26 → 00:08:30 ของตัวโควิชมันก็คือตัวส่งทุกคำที่ว่า iA
00:08:30 → 00:08:32 เข้าไปนะครับแต่ว่าเวลาส่วนเช่นว่าจะส่ง
00:08:32 → 00:08:35 เป็นธุกรรมที่ว่าเป็น DNA ในเข้าไปที่พอ
00:08:35 → 00:08:37 ตัวสารพันธุกรรมของไวรัสมันเข้าไปในเซลล์
00:08:37 → 00:08:41 ได้ตัวไวรัสฉันจะใช้กลไกต่างๆภายในเซลล์
00:08:41 → 00:08:43 ในพื้นที่จะแบ่งตัวเพิ่มจำนวนให้มีจำนวน
00:08:43 → 00:08:46 ไวรัสเนี่ยเราไปดูกันของเวลาเชื่อมากขึ้น
00:08:46 → 00:08:49 เมื่อมาถึงจุดหนึ่งเนี่ยกองทัพของไวรัสนะ
00:08:49 → 00:08:51 ครับที่อยู่ภายในเซลล์มันก็จะใช้กลไกของ
00:08:51 → 00:08:53 เซลส์เหมือนกันเนี่ยทำหน้าที่เหมือนก็
00:08:53 → 00:08:56 เป็นไขให้ประตูเนี่ยของเซอร์มาเปิดออกมา
00:08:56 → 00:08:58 เพื่อให้เซลล์เนี่ยมันเดินทางออกมาจาก
00:08:58 → 00:09:01 เซลล์นั้นเราไปติดสให้ตื่นต่อไปก็และเกิด
00:09:01 → 00:09:05 กลไกแบบนี้ซ้ำป่วนไปเรื่อยๆนะครับที่นี่
00:09:05 → 00:09:07 เราจะมาดูฝั่งของร่างกายรู้กันบ้างว่า
00:09:07 → 00:09:09 ร่างกายของมนุษย์เนี่ย pop2 ต่อไว้ล่ะได้
00:09:09 → 00:09:12 ยังไงแน่นอนว่าเมื่อและไวรัสนะครับเข้าไป
00:09:12 → 00:09:14 ในเซลล์ได้มันก็จะก่อให้เกิดการบาดเจ็บก็
00:09:14 → 00:09:17 ในของถุงลมและของเซลล์เล็กขึ้นมาบ้างนะ
00:09:17 → 00:09:19 ครับไม่มากก็น้อยซึ่งการบาดเจ็บนี้นะครับ
00:09:19 → 00:09:22 มันจะมีผลต่อการทำงานของเซลล์จะได้ในกรณี
00:09:22 → 00:09:25 ของตัวไวรัสโควิชเนี่ยที่บอกก็คือมันเข้า
00:09:25 → 00:09:28 เซลล์ปล่อยชนิดที่ 2 เซลล์นี้ก็จะสร้าง
00:09:28 → 00:09:32 สรรค์สัตว์ต่างๆเนี่ยได้ลดลงซึ่งถุงลมใน
00:09:32 → 00:09:34 ก็จะมีโอกาสแซ่บได้ง่ายขึ้นแต่ว่าการตัด
00:09:34 → 00:09:36 เจ็บที่เกิดจากไวรัสมันเพลงเป็นเพียงแค่
00:09:36 → 00:09:39 ส่วนเดียวเท่านั้นนะครับการปัดจัดอีกส่วน
00:09:39 → 00:09:41 นึงอันเกิดจากคนใจที่ร่างกายของเราเองมัน
00:09:41 → 00:09:44 พยายามที่จะต่อสู้กับไวรัสมันก็คือคนไกล
00:09:44 → 00:09:46 ที่ภูมิคุ้มกันเหมือนกับต่อสู้แล้วเกิด
00:09:46 → 00:09:49 การทำลายถุงลมขึ้นมาเพราะอะไรเพราะว่าใน
00:09:49 → 00:09:51 การตอบสนองของระบบการมันจะมีการหลั่งสาร
00:09:51 → 00:09:54 เคมีต่างๆออกมาซึ่งสารเคมีเราเนี่ยก็จะมี
00:09:54 → 00:09:56 อยู่หลายชนิดด้วยกันนะครับมันจะมีชื่อ
00:09:56 → 00:09:58 เยอะนะครับจะไม่ได้อยากให้จำแต่ว่าอยากจะ
00:09:58 → 00:10:01 ให้ฟังนะครับอ.บางสะพานครูเอาไว้เฉยๆ
00:10:01 → 00:10:03 เพราะว่าหลายวันอื่นนะครับถ้าเราเคยอย่าง
00:10:03 → 00:10:06 อื่นแล้วมันมีชื่อที่มันสำคัญมากระบวนซ้ำ
00:10:06 → 00:10:09 กลับมาอีกจะทำให้ขอบคุณเคยจะพอจะจำได้ไป
00:10:09 → 00:10:12 เองนะครับพวกสารเคมีที่สร้างของมาเมื่อ
00:10:12 → 00:10:14 เซลล์หรือว่าถุงลมในบ้าน 7 นะครับก็จะ
00:10:14 → 00:10:16 เป็นสารที่เคยว่าเป็นสารใส่ทองคล้ายนะ
00:10:16 → 00:10:19 ครับแต่บางกลุ่มของสารเคมีเลยละชนิดที่
00:10:19 → 00:10:21 สร้างโดยเซลล์ภูมิคุ้มกันซึ่งมันทำหน้า
00:10:21 → 00:10:23 ที่เหมือนกับเป็นการสื่อสารระหว่างเซลล์
00:10:23 → 00:10:24 ด้วยกันหรือว่าเล็กพูดง่ายๆเล็กกำลัง
00:10:24 → 00:10:27 เสริมเข้ามาบริเวณที่บาดเจ็บก็ได้นอก
00:10:27 → 00:10:29 เหนือจากพวกสารชโยคล้ายซึ่งจะมีเป็นพวก
00:10:29 → 00:10:31 บริบูรณ์เล็กๆออกมานะครับซึ่งผู้นำจะออก
00:10:31 → 00:10:34 มาเวลาที่เซลล์และบาดเจ็บซึ่งจะพูดง่าย
00:10:34 → 00:10:37 ขึ้นนะครับพอไม่เอาภายในมันแตกมาก็ได้นะ
00:10:37 → 00:10:39 ครับมันก็สามารถกระตุ้นปะคุ้มกันให้ทำงาน
00:10:39 → 00:10:41 เพิ่มขึ้นได้ที่นี่สิ่งที่เกิดขึ้นตามมา
00:10:41 → 00:10:43 จากนี้นะครับจะเหมือนโดมิโนโดยตรงไป
00:10:43 → 00:10:46 เรื่อยๆก็คือว่าเซลล์ภูมิคุ้มกันพอมันถูก
00:10:46 → 00:10:49 เรียกนะครับหรือว่าจะถูกกระตุ้นให้มารวม
00:10:49 → 00:10:51 ตัวกันบริเวณที่รับบาดเจ็บเนี่ยมันก็
00:10:51 → 00:10:53 เหมือนเป็นการเรียกกำลังเสริมมาเข้ามา
00:10:53 → 00:10:56 เรื่อยๆนะครับก็จะเข้าไปที่ลอกแค่ลอกต้อง
00:10:56 → 00:10:58 เดี๋ยวจากนี้นะครับสารเคมีที่หลังออกมา
00:10:58 → 00:11:00 เนี่ยมันยังทำหน้าที่อย่างดีหรือว่านอก
00:11:00 → 00:11:02 เหนือจากการที่จะเสริมภูมิคุ้มกันเข้ามา
00:11:02 → 00:11:04 เนี่ยมันจะเป็นเข้าไปบอกเซลล์ข้างเคียง
00:11:04 → 00:11:06 ด้วยนะครับว่าตอนนี้มันมีภาวะติดเชื้อ
00:11:06 → 00:11:08 เกิดขึ้นแล้วเพื่อให้เสริมข้างเคียงมันนะ
00:11:08 → 00:11:11 ครับมีการสร้างบริการต่างๆนะครับขึ้นมา
00:11:11 → 00:11:13 ภายในเซลล์เพื่อที่จะเตรียมพร้อมที่จะรับ
00:11:13 → 00:11:15 มือเราต่อสู้กับไวรัสเหล่านี้ก็คือการตอบ
00:11:15 → 00:11:18 สนองนะครับที่เซลล์ที่ตาติดเชื้อเวลาแต่
00:11:18 → 00:11:21 มันป็อบน้องออกมาคราวนี้เราจะมาดูบ้างนะ
00:11:21 → 00:11:23 ครับว่าแมคโครฟาจเนี่ยที่เราคุยกันไปว่า
00:11:23 → 00:11:26 มันอยู่ในถุงลมเนี่ยเมื่อมีมันกินไวรัส
00:11:26 → 00:11:28 เข้าไปหรือว่ามัน Dtac นะครับหรือว่าจับ
00:11:28 → 00:11:30 ได้ว่ามีสิ่งแปลกปลอมเลยไปแล้วเข้ามา
00:11:30 → 00:11:33 เนี่ยมันจะทำอะไรบ้างวิธีการต่อสู้ของ
00:11:33 → 00:11:35 ประกบ Fast น่ารักๆควรจะอยู่ 2 อย่างด้วย
00:11:35 → 00:11:37 กันอย่างแรกนะครับคือมันจะทำหน้าที่
00:11:37 → 00:11:39 เหมือนเป็นทหารที่จะคอยจับกินเชื้อโรคและ
00:11:39 → 00:11:41 เซลล์แปลกปลอมนะครับอันนี้ตรงไปตรงมา
00:11:41 → 00:11:43 อย่างที่สอนนะครับก็คือมันจะใช้การสู้
00:11:43 → 00:11:46 ด้วยอาวุธเคมีก็คือจะมีการหลั่งสารเคมี
00:11:46 → 00:11:48 ต่างๆออกมาด้วยเหมือนกันซึ่งสรรค์ที่ดี
00:11:48 → 00:11:50 ที่มันก็ฟังออกมาน่าจะเป็นสารที่มีที่ไป
00:11:50 → 00:11:52 กระตุ้นภูมิคุ้มกันในเพิ่มอีกเหมือนกัน
00:11:52 → 00:11:55 ที่จะเห็นว่าคนใจการงานของระบบภูมิคุ้ม
00:11:55 → 00:11:58 กันต่างๆมันจะรับสงกรานต์ที่จะเพิ่มจาก 1
00:11:58 → 00:12:00 เป็น 2 จาก 2 เป็น 4 นะครับแล้วว่ามันต่อ
00:12:00 → 00:12:02 กันเป็นทอดๆเพื่อนเรียกกำลังเสริมเนี่ย
00:12:02 → 00:12:04 ให้เข้ามามากขึ้นฉันจะมีที่แม็คโครฝาก
00:12:04 → 00:12:06 หลังออกมานะครับหลายครั้งเราจะเรียกแจ้ง
00:12:06 → 00:12:08 เตือนพรุ่งนี้ว่าเป็นสารพวกทำให้เกิดภาวะ
00:12:08 → 00:12:11 เกิดการอักเสบนะครับตัวอย่างชื่อของสาร
00:12:11 → 00:12:13 เคมีครับเช่นอินเตอร์คินนะครับมีแต่ลูก
00:12:13 → 00:12:15 ขี้เดี๋ยวก็จะมีหลายด้อยฉันเป็นชนิดต่างๆ
00:12:15 → 00:12:18 เช่นอินเตอร์คินวันนั้นจะกินเซ็กส์นะครับ
00:12:18 → 00:12:21 ซึ่งก็จะมีชื่อเรียกต่างๆมากมายนะครับ
00:12:21 → 00:12:24 สัญชนีพูดเนี่ยจะไปกระตุ้นให้เกิดแกทั้งๆ
00:12:24 → 00:12:26 ที่เพิ่มขึ้นที่สำคัญคือมันทำให้เกิดภาวะ
00:12:26 → 00:12:29 เส้นเลือดนะครับก็มีการขยายตัวขึ้นคำถาม
00:12:29 → 00:12:31 ว่าคือเส้นเลือดที่มาถูกลบเหล่านี้มัน
00:12:31 → 00:12:33 ขยายตัวเพื่ออะไรก็อย่างที่เราเคยคุยกัน
00:12:33 → 00:12:36 ไปในหัวข้อการอักเสบนะคะว่าเส้นเลือดที่
00:12:36 → 00:12:38 ขยายตัวเนี้ยที่จึงก็เหมือนเป็นการเปิด
00:12:38 → 00:12:41 ถนนนะครับว่าเส้นทางเพื่อที่จะให้พวก
00:12:41 → 00:12:43 เลือดหรือว่าโซโลต่างเข้าไปบริเวณที่จะ
00:12:43 → 00:12:45 ระบาดเจ็บได้มากขึ้นเพราะอะไรเพราะเรา
00:12:45 → 00:12:47 ต้องการที่เซลล์ระบบพวกระบบภูมิคุ้มกันใน
00:12:47 → 00:12:49 เข้ามามากๆแล้วตัวเส้นเลือดไม่ใช่ขยาย
00:12:49 → 00:12:51 ใหญ่อย่างเดียวนะครับแต่ว่าตัวผนังของ
00:12:51 → 00:12:53 เส้นเลือดเนี่ยมันจะมีเหมือนกับรูรั่ว
00:12:53 → 00:12:57 เพิ่มมากขึ้นนะครับซึ่งกันมีรูรั่วแต่มัน
00:12:57 → 00:12:59 พับผ้าเป็นภาวะปกติครับเพื่อที่ได้พวกน้ำ
00:12:59 → 00:13:01 เลือดน้ำนี้นะคะรู้เที่ยวต่างๆหรือว่า
00:13:01 → 00:13:03 โปรตีนเนี่ยออกจากเส้นเลือดอ่ะเข้ามา
00:13:03 → 00:13:06 บริเวณที่เกิดการบาดเจ็บง่ายขึ้นแล้วแต่
00:13:06 → 00:13:09 ต่างๆที่เข้ามากันมากมายนี้นะครับก็จะทำ
00:13:09 → 00:13:12 หน้าที่ต่างกันไปก็คือเอาไหมครับเวลาเกิด
00:13:12 → 00:13:14 อุบัติเหตุก็จะมีรถดับเพลิงนะคะมีรถตำรวจ
00:13:14 → 00:13:18 นะครับมีความตึงนะครับเข้ามาซึ่งแต่ละคน
00:13:18 → 00:13:20 เนี่ยก็จะทำหน้าที่ต่างกันไปคนแก่เหล่า
00:13:20 → 00:13:22 นี้อย่างที่บอกนะครับจะไม่เป็นคนไกลปกติ
00:13:22 → 00:13:24 นะครับเป็นอะไรที่ดีของร่างกายที่จะใช้
00:13:24 → 00:13:28 ต่อสู้กับเธอลงต่างเพลงแต่ว่ากลไกเรียบ
00:13:28 → 00:13:31 เรามันเกิดขึ้นที่ปอดคำในถุงลมเนี่ยซึ่ง
00:13:31 → 00:13:33 มีหน้าที่แลกเปลี่ยนก๊าซเนี่ยก็จะมีผล
00:13:33 → 00:13:37 กระทบกับถุงลมได้ก็คือเราค่อยคุยกันไปนะ
00:13:37 → 00:13:39 ครับว่าผนังถุงลมเนี่ยมันจะทำงานได้ดีถ้า
00:13:39 → 00:13:42 มันอยู่ปีความบางนะครับแต่ว่าตอนที่มี
00:13:42 → 00:13:44 เกิดภาวะการเกษตรว่าจะมีน้ำแล้วก็เชิญ
00:13:44 → 00:13:47 ต่างหรือว่าโปรตีนเข้าไปด้วยนั้นมากทำให้
00:13:47 → 00:13:51 ความบางมันหายไปเมื่อเคยมีผลกระทบกับการ
00:13:51 → 00:13:53 ตั้งแต่เกิดก๊าซออกซิเจนนะครับซึ่งแน่นอน
00:13:53 → 00:13:55 ว่าถ้าพรุ่งนี้วันเกิดไม่เยอะนะครับเช่น
00:13:55 → 00:13:57 เกิดขึ้นกับบางถุงลมเนี่ยหรือว่าการเกษตร
00:13:57 → 00:13:59 รายได้น้อยเนี่ยเราก็ไม่สุกอะไรเราไม่ได้
00:13:59 → 00:14:02 ป่วยมีอะไรนะครับเพราะอย่างที่เคยคุยไป
00:14:02 → 00:14:05 วัดเราเนี่ยมีถุงลมสำรองในเยอะมากแต่ถ้า
00:14:05 → 00:14:07 พื้นที่ที่เกิดการอักเสบครับหรือพื้นที่
00:14:07 → 00:14:10 ที่มีปัญหาเนี่ยมันมีออกเรียนกว้างนะครับ
00:14:10 → 00:14:13 จนถึงจุดที่ว่าการแลกเปลี่ยนก๊าซสักมัน
00:14:13 → 00:14:16 ไม่ค่อยพอนะครับเราก็จะเริ่มมีอาการหอบ
00:14:16 → 00:14:19 เลยเกิดขึ้นซึ่งก็เกิดจากการที่ภาวะของซิ
00:14:19 → 00:14:22 เจนในเลือดต่ำลงและคำรับการเลื่อนสูงขึ้น
00:14:22 → 00:14:25 แล้วมันก็จะกระตุ้นสมองในให้เราหายใจเร็ว
00:14:25 → 00:14:28 ขึ้นที่นี่เวลาเราไปหาหมอนะครับคำถามคือ
00:14:28 → 00:14:31 หมอรู้ได้ไงว่ามีน้ำอยู่ในถุงลมปกติเวลา
00:14:31 → 00:14:33 มาตรวจร่างกายนะครับหลักๆหมอจะใช้หลักการ
00:14:33 → 00:14:36 ก็คือดูคำขอฟังนะครับเขาว่าดูหมายถึงอะไร
00:14:36 → 00:14:39 ก็คือหมอในจะสังเกตก็คือบอกได้ตานะครับ
00:14:39 → 00:14:41 ถ้ามีน้ำในถุงลมมากนะครับน้ำท่วมปอดเนี่ย
00:14:41 → 00:14:44 มันก็จะมีผลให้กันออนไลน์เป็นรถเส้นทำดี
00:14:44 → 00:14:46 อย่างที่ว่าไปนะครับขอให้เจอเร็วนะมองก็
00:14:46 → 00:14:49 จะสังเกตว่าผู้ป่วยเนี่ยหายใจเร็วก็จะมี
00:14:49 → 00:14:51 ลักษณะในระยะเช่นอาจจะดูหายใจเลือกนะครับ
00:14:51 → 00:14:54 หายใจเร็วมีการใช้กล้ามเนื้อส่วนอื่นของ
00:14:54 → 00:14:57 แบรนด์คอนะครับหนูหน้าอกเนี่ยช่วยในการ
00:14:57 → 00:15:00 หายใจเหมาะกับสังเกตพวกนี้คือได้นี้นะ
00:15:00 → 00:15:02 ครับที่ป่วยมากผู้ป่วยก็จะมีสีของปลาที่
00:15:02 → 00:15:06 ค้ำลงซึ่งการมองด้วยตาลประคำก็ประเมิน
00:15:06 → 00:15:09 ความรุนไรของเราเก้าอี้ประมาณหนึ่งที่นี้
00:15:09 → 00:15:12 ของการฟังในปกติหมอก็จะใช้หูฟังหมอนะครับ
00:15:12 → 00:15:14 ประเภทที่ปอดนะครับแล้วก็ให้ผู้ป่วยได้
00:15:14 → 00:15:18 ให้ใจลึกๆนะครับที่นี่หมอเลยต้องฟังการ
00:15:18 → 00:15:20 ฟังเสียงอะไรสิ่งที่ได้ยินเนี่ยเขาเรียก
00:15:20 → 00:15:22 ว่าเป็นเสียงก็ไม่มีชื่อเล่นนะครับทางการ
00:15:22 → 00:15:23 แพทย์เรียกว่าเสียงพรรคเก่านะครับก็มี
00:15:23 → 00:15:25 เสียงดังกลับๆนะครับอย่างกราฟ graph นะ
00:15:25 → 00:15:29 ครับประที่ผู้ป่วยในใจเข้าลึกๆเสียงกับๆ
00:15:29 → 00:15:30 เนี่ยมันเกิดจากการที่ถุงลมซึ่งตอนนั้น
00:15:30 → 00:15:33 มันตีบอยู่เนี่ยมันพยายามที่จะพองออก
00:15:33 → 00:15:36 พยางค์พองสู้กับน้ำนะครับที่มาถึงเรื่อง
00:15:36 → 00:15:39 ของการคอนะครับที่เวลาหมอเกาะเนี่ยถ้า
00:15:39 → 00:15:41 เป็นปลาที่ปกติมีแต่ลมและเสียงมันจะฟังดู
00:15:41 → 00:15:44 โปร่งแต่ถ้าเริ่มมีน้ำในถุงลมเนี่ยสิ่ง
00:15:44 → 00:15:46 ที่ฆ้อนมันก็จะเปลี่ยนไปก็คือเสียงจำ
00:15:46 → 00:15:49 เหมือนกับเสียงตื่นนะครับซึ่งแต่ละปัจจัย
00:15:49 → 00:15:50 เหล่านี้นะครับก็ทำให้หมอรู้ว่าตอนนี้มัน
00:15:50 → 00:15:53 นะครับมีนะไม่ถูกล้มเกิดขึ้นที่นี้คนที่
00:15:53 → 00:15:55 เป็นโรคปอดบวมก็จะมีภาวะ I โทรไหมครับ
00:15:55 → 00:15:58 ซึ่งส่วนหนึ่งก็จะมาจากภาวะการเกษตรอย่าง
00:15:58 → 00:16:00 ที่ว่าไปนะครับก็คือพอเกิดเพราะว่าเสี่ย
00:16:00 → 00:16:02 จะเป็นมีการหลังสันเคมีออกมาสรรค์ที่นี้
00:16:02 → 00:16:03 เราเลี้ยงเป็นกระตุ้นพวกเส้นประสาทนะครับ
00:16:03 → 00:16:07 ก็ทำให้เราเกิดการไอขึ้นมาสำหรับอาการ
00:16:07 → 00:16:09 เจ็บนะครับปกติที่เราเคยคุยกันเรื่องของ
00:16:09 → 00:16:11 ภาวะการอักเสบเราจะบอกว่าลักษณะข้าศึกมัน
00:16:11 → 00:16:14 จะมีคือปวดบวมแดงร้อนถูกเลยครับมันจะมี
00:16:14 → 00:16:16 เรื่องของอาการปวดและการเจ็บอยู่ด้วยแต่
00:16:16 → 00:16:18 ว่าต้องบอกว่าภายในตัวเนื้อปอดเดี๋ยวมัน
00:16:18 → 00:16:20 ไม่เจ็บนะครับมาถึงว่ามันไม่มีตัวเช่น
00:16:20 → 00:16:23 ภาษาที่รับความเจ็บถ้าเรามีเดี๋ยวไปคลิป
00:16:23 → 00:16:26 ปอดเราเนี่ยก็จะไม่รู้จัก 7 อะไรแต่ว่า
00:16:26 → 00:16:28 ถ้าการเกษตรนะครับมันเกิดขึ้นเวรที่ไหม
00:16:28 → 00:16:30 ครับขอบของปอดและภาวะการเกษตรหรือสารเคมี
00:16:30 → 00:16:33 มันลามไปที่เยี่ยวปุ้มปอนะครับซึ่งตัว
00:16:33 → 00:16:35 อยู่ข้างปั่นมันมีเช่นภาษารับความเจ็บ
00:16:35 → 00:16:38 อยู่เราก็จะรู้จะเก็บได้โดยเฉพาะเวลาที่
00:16:38 → 00:16:41 หลายจะเล็กๆเราปอดมันไปเสียดสีกับตัวพอ
00:16:41 → 00:16:43 เยื่อหุ้มปอดเนี่ยก็จะรู้สึกเจ็บละที่หาย
00:16:43 → 00:16:46 ใจเข้าลึกๆตอนนี้ก็เป็นเรื่องของอาการนะ
00:16:46 → 00:16:49 ครับเรื่องของกลไกที่เกิดขึ้นที่นี่ยัง
00:16:49 → 00:16:51 แยกของการหายนะครับต้องบอกว่าในสมัยต้ม
00:16:52 → 00:16:53 และทันสมัยโบราณนะครับก่อนที่เราจะมี
00:16:53 → 00:16:55 เรื่องของการแพทย์ปัจจุบันนะครับตอนที่มี
00:16:55 → 00:16:57 เรื่องของยาปฏิชีวนะหรือมีเครื่องมือการ
00:16:57 → 00:17:00 แพทย์ต่างๆออต้องบอกว่ามันจะมีอีกส่วนนึง
00:17:00 → 00:17:02 ยาเสียชีวิตนะครับแต่ก็จะมีคนจำนวนไม่
00:17:02 → 00:17:05 น้อยที่สามารถหายได้คำถามว่าหายได้ยังไง
00:17:05 → 00:17:07 แม้ว่าจะไม่มีการรักษาโรคต่างๆคำตอบก็คือ
00:17:07 → 00:17:10 ว่าเพราะว่าจริงๆกลไกที่เราว่าไปทั้งหมด
00:17:10 → 00:17:13 นะครับส่วนนึงก็สามารถทำให้เราหายจากโรค
00:17:13 → 00:17:15 นี้ได้ก็คือถ้าภูมิคุ้มกันสามารถต่อสู้
00:17:15 → 00:17:17 ได้แล้วเมื่อถึงจุดนึงนะครับเมื่อร่างกาย
00:17:17 → 00:17:19 สามารถควบคุมภาวะติดเชื้อได้เนี่ยอาการ
00:17:19 → 00:17:22 อักเสบต่างๆมันก็ค่อยๆลดลงนะครับเซลล์
00:17:22 → 00:17:23 ภูมิคุ้มกันก็จะเข้าอยู่ทำงานแล้วเราก็
00:17:23 → 00:17:27 ค่อยๆฟื้นนะครับค่อยๆหายจากอาการป่วยซึ่ง
00:17:27 → 00:17:29 ก็จะเป็นกรณีที่ร่างกายสามารถต่อสู้ชนะ
00:17:29 → 00:17:32 กับเชื้อโรคได้ที่นี่เรามาดูกรณีที่ร่าง
00:17:32 → 00:17:34 กายแพ้บ้างนะครับก็คือผู้ป่วยหนักจน
00:17:35 → 00:17:37 กระทั่งเสียชีวิตเนี้ยยกตัวอย่างเช่นกรณี
00:17:37 → 00:17:39 ของปอดติดเชื้อสากล Switch Two นะครับ
00:17:39 → 00:17:42 ที่เราป่วยเป็นโรคจนเสียชีวิตเนี่ยเรามา
00:17:42 → 00:17:44 ดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นจริงๆบอกว่าคนไกลมัน
00:17:44 → 00:17:46 ก็เหมือนกับที่เราคุยกันไปเมื่อสักครู่นะ
00:17:46 → 00:17:48 ครับจะเป็นการตอบสนองที่รุนแรงกว่ามากเลย
00:17:48 → 00:17:50 จะพูดว่าจริงๆก็คือการใส่ชุดว่าจะเกิด
00:17:50 → 00:17:52 ขึ้นจากการที่ร่างกายเราตอบสนองรุนแรง
00:17:52 → 00:17:54 เกินไปนะครับไม่ค่อยว่าตัวไวรัสเดี๋ยวมัน
00:17:54 → 00:17:57 ไปกระตุ้นเซลล์ทำให้เกิดการอักเสบนะมาก
00:17:57 → 00:18:00 เกินไปแล้วว่าคนกันในปอดมีการหลังก็ไม่
00:18:00 → 00:18:02 ต้องตายออกมามากเกินไปนะครับมาจนเข้าสู่
00:18:02 → 00:18:05 ภาวะที่หรือว่าใส่ทุกครั้งจะตอบนะครับแต่
00:18:05 → 00:18:07 ว่าพายุใส่โต๊ะข่ายซึ่งภาวะนี้มันก็คือ
00:18:07 → 00:18:10 ภาวะการอักเสบที่มันลุกลามนะครับใหญ่โตจน
00:18:10 → 00:18:12 กระทั่งเหมือนกับไม่ได้จำกัดอยู่แค่
00:18:12 → 00:18:15 บริเวณที่ติดเชื้อคิดเล็กๆตรงนั้นนะครับ
00:18:15 → 00:18:18 แล้วพวกสารอักเสบต่างๆนะครับก็เข้าไปใน
00:18:18 → 00:18:19 เส้นเลือดและก็ไหลเวียนไปส่วนต่างๆของ
00:18:19 → 00:18:21 ร่างกายได้ซึ่งเมื่อจะไปก่อให้เกิดภาวะ
00:18:21 → 00:18:24 การอักเสบเนื้อทั่วร่างกายไปที่เอาไว้ว่า
00:18:24 → 00:18:26 ไหนก็จะทำให้เกิดภาวะการเกษตรที่อวัยวะ
00:18:26 → 00:18:29 นั้นเนื้อจัดการการทำลายที่อวัยวะนั้นได้
00:18:29 → 00:18:32 ทำให้ผู้ป่วยเดี๋ยวพีเส้นเลือดขยายทั่ว
00:18:32 → 00:18:36 ร่างกายนะครับความดันตกที่นี่ในกรณีของโค
00:18:36 → 00:18:38 วิชนะครับก็จะมีอีกกรณีนึงอีกปัจจัยหนึ่ง
00:18:38 → 00:18:41 ก็คือว่าการที่มันมีความจำเพาะกับเซลล์
00:18:41 → 00:18:44 ปอดเช่นที่สอนครับที่บอกว่าเป็นเซลล์ที่
00:18:44 → 00:18:47 สร้างสารแทรกตันได้เนี่ยมันก็จะทำให้ใน
00:18:47 → 00:18:49 ภายในปอดของเราในมีสารตัวนี้น้อยลงเพื่อ
00:18:49 → 00:18:52 สารแทรกตันน้อยลงคำถามว่าคือว่าสารเสพติด
00:18:52 → 00:18:55 ตามเนี่ยทำอะไรอย่างที่บอกไปนะครับศาล
00:18:55 → 00:18:57 เซลล์ไฟฟ้าจริงมันเป็นของเหลวที่หลังออก
00:18:57 → 00:19:00 มาเพื่อป้องกันให้ปลอดแซ่บแต่เครื่องนี้
00:19:00 → 00:19:03 ครับปกติเนี่ยภายในปอดของเรานะครับมันจะ
00:19:03 → 00:19:06 มีความชื้นอยู่นิดๆนะครับเพราะว่าการที่
00:19:06 → 00:19:08 เราหายใจเข้าไปในมันมีความชื้นอยู่ตรงไหน
00:19:08 → 00:19:10 ครับที่นี่พวกมาเลย์คุณของน้ำในเวลาที่
00:19:10 → 00:19:13 มันฉาบอยู่ที่ผิวของผนังทรงกลมเนี่ยเอา
00:19:13 → 00:19:15 มันเป็นธรรมชาติของมาเลย์คุณของน้ำประมาณ
00:19:15 → 00:19:19 ๆว่าถ้ามันเข้ามาอยู่ใกล้กันมันจะดูดเข้า
00:19:19 → 00:19:22 หากันซึ่งภาวะในจริงๆกับชื่อว่าหลายคน
00:19:22 → 00:19:25 คุ้นเคยนะคะอย่างที่เรานึกถึงภาพว่าเรามี
00:19:25 → 00:19:27 กระจกสองอันนะครับเรามาเหมือนกับฉีดละออง
00:19:27 → 00:19:30 น้ำเนี่ยเข้าไปที่ผิวของกระจกรอบกระจกมา
00:19:30 → 00:19:32 แปะเข้าหากันเราจะดึงกระจกออกจากการเงิน
00:19:32 → 00:19:35 ได้ยากขึ้นเหตุผลเพราะว่าน้ำแล้วมันจะดูด
00:19:35 → 00:19:37 กันแล้วก็เช่นเดียวกันนะครับพวกละอองน้ำ
00:19:37 → 00:19:40 นะครับผู้บริโภคน้ำที่ฉาบอยู่ที่ภายใน
00:19:40 → 00:19:43 ผนังของถุงลมเนี่ยมันก็จะทำแบบเดียวกันก็
00:19:43 → 00:19:45 คือตอนที่เราจะออกนะครับรับพลังท่วมแล้ว
00:19:45 → 00:19:48 เข้ามาใกล้กันเนี่ยน้ำที่ชาร์จไว้ที่ผนัง
00:19:48 → 00:19:50 ถุงลมไม่สะดุดให้ถุงลมในวันทราบติดกันไป
00:19:50 → 00:19:52 เลยแต่ว่าในภาวะจริงในคนทั่วๆไปมันจะไม่
00:19:52 → 00:19:55 เกิดภาวะนี้ขึ้นนะครับเพราะอะไรเพราะเรา
00:19:55 → 00:19:57 มีสารที่ภาษาแทรกตันนี้มันจะเป็นสารที่
00:19:57 → 00:19:59 ถูกสร้างขึ้นมาแล้วจะเคลือบอยู่ที่บริเวณ
00:19:59 → 00:20:02 ที่ผิวหน้าจะเอาถุงร่มทำให้ถุงลมเลี้ยง
00:20:02 → 00:20:05 ปลามาเข้ามาใกล้กันเนี่ยมันจะไม่ตีแป๊ปไป
00:20:05 → 00:20:08 ที่นี้ปัญหาของตนที่มันทราบก็คือว่าต้อง
00:20:08 → 00:20:10 บอกว่าเหมือนลูกโป่งนะครับก็คือลูกโป่ง
00:20:10 → 00:20:12 ตอนที่มันตอนที่เราเป่าจากที่เป็นแซ่บเลย
00:20:12 → 00:20:15 โดนจับเอายากกว่าถูกไหมครับก็ต้องใช้แว่น
00:20:15 → 00:20:17 ในการเป่าเนี่ยค่อนข้างมากแต่ถ้าลูกโป่ง
00:20:17 → 00:20:18 มันเริ่มพองขึ้นแล้วเนี่ยมันจะเป่าได้
00:20:18 → 00:20:21 ง่ายขึ้นเช่นเดียวกันตอนถุงลมที่มันแซ่บ
00:20:21 → 00:20:23 ติดกันเนี่ยการจะหายใจเข้าไปถุงแล้ว
00:20:23 → 00:20:26 เมืองทองขึ้นมาเนี่ยมันจะทำได้ยากมันต้อง
00:20:26 → 00:20:29 ใช้ on แรงดันได้ค่อนข้างมากจะในปอดเราก็
00:20:29 → 00:20:31 เลยมีคนไกลนี้เพื่อป้องกันให้ทั่วรอมัน
00:20:31 → 00:20:33 แซ่บที่นี่ในผู้ป่วยที่ป่วยเป็นโรคโควิช
00:20:33 → 00:20:35 เนี่ยนะครับสาวโชว์วิฑูรย์เนี่ยนะครับบอก
00:20:35 → 00:20:38 ว่าจะมีการสร้างสาร Stun ได้น้อยลงทำให้
00:20:38 → 00:20:41 ถุงลมมีความเสี่ยงที่จะแซ่บง่ายขึ้นเรา
00:20:41 → 00:20:43 ถ้าเกิดว่ามันเปล่ามันเกิดขึ้นกับทุนรวม
00:20:43 → 00:20:46 จำนวนมากนะครับก็เลยทำให้หลายข้างในผู้
00:20:46 → 00:20:48 ป่วยเนี่ยถุงแล้วมันทราบแล้วก็ไม่มีแรงพอ
00:20:48 → 00:20:50 ที่จะหายใจเข้าไปแล้วนะทำไมถุงลมแล้วพอง
00:20:50 → 00:20:53 กลับมาได้เราถ้าเป็นมากๆนะครับเกิดขึ้น
00:20:53 → 00:20:55 ล้มจนมากๆเนี่ยผู้ป่วยก็ต้องใส่เครื่อง
00:20:55 → 00:20:57 ช่วยหายใจนะครับที่มีลักษณะเหมือนเป็นการ
00:20:57 → 00:21:00 อัดลมเข้าไปนะครับคือมีแรงดันของลมดันดัน
00:21:00 → 00:21:02 ต่อไปเพื่อจะช่วยผักให้ถุงลมแล้วมันเปิด
00:21:02 → 00:21:04 ออกแล้วก็ไม่ทราบกลับเข้ามาเหมือนเดิมและ
00:21:04 → 00:21:06 ทั้งหมดนี้นะครับก็คือเรื่องราวของภาวะ
00:21:06 → 00:21:07 ปอดอักเสบติดเชื้อที่อยากจะเล่าให้ฟัง
00:21:07 → 00:21:10 คร่าวๆนะครับในพิโสดนี้นะครับก็ต้องบอก
00:21:10 → 00:21:12 ว่าเป็นพื้นฐานนะครับก็หวังว่าจะช่วยเข้า
00:21:12 → 00:21:14 ใจภาวะการติดเชื้อของปอดมากขึ้นนะครับ
00:21:14 → 00:21:17 แล้วก็ถือโอกาสจบซีรีส์รีบเลยนะครับไม่
00:21:17 → 00:21:19 ของปอดแล้วก็ทางเดินหายใจก็คิดว่าน่าจะพอ
00:21:19 → 00:21:22 มีประโยชน์นะครับสำหรับ CV นานะครับว่าจะ
00:21:22 → 00:21:24 ไปคุยเรื่องที่เกี่ยวข้องและก็ทำงานใกล้
00:21:24 → 00:21:28 ชิดกันบอทครับทั้งในๆมากๆก็คือระบบของ
00:21:28 → 00:21:30 ขั้วใจและหลอดเลือดนะครับเราจะมาทำเข้าใจ
00:21:30 → 00:21:34 ว่าระบบใจกันเลื่อนทำงานสัมพันธ์กับผ่อน
00:21:34 → 00:21:37 ง่ายแล้วก็รกใจต่างๆที่เกิดขึ้นในมันมีคน
00:21:37 → 00:21:40 ไปอะไรเกิดขึ้นบ้างแล้วเรามาเจอกันใหม่ใน
00:21:40 → 00:21:49 ที่สนหน้านะครับสวัสดีครับอ่า
00:21:49 → 00:21:52 [เพลง]