00:00:00 → 00:00:02 สวัสดีครับมีคนสอบถามเข้ามานะครับว่าการ
00:00:02 → 00:00:06 ใช้ภาชนะพลาสติกเพื่ออุ่นอาหารในไมโครเวฟ
00:00:06 → 00:00:08 มันจะเกิดอันตรายขึ้นหรือเปล่านะครับรวม
00:00:08 → 00:00:12 ทั้งถุงพลาสติกชนิดต่างๆซึ่งเราเอาใส่
00:00:12 → 00:00:14 อาหารร้อนมันจะเป็นปัญหาหรือเปล่าพลาสติก
00:00:14 → 00:00:17 จะละลายเข้าไปในอาหารทำให้เราได้รับพวก
00:00:17 → 00:00:20 นี้เข้าไปในร่างกายมพลาสติกมีอันตราย
00:00:20 → 00:00:22 อย่างไรนะครับวันนี้ผมก็เลยอยากจะเอา
00:00:22 → 00:00:24 เรื่องเนี้ยมาเล่าให้ฟังเลยนะครับเพราะ
00:00:24 → 00:00:26 ว่าหลายๆคนอาจจะคุ้นเคยแล้วก็เดี๋ยวนี้
00:00:26 → 00:00:30 เริ่มมีการกล่าวถึงพลาสติกบางางอย่างเช่น
00:00:30 → 00:00:33 ไมโครพลาสติกนะครับสาร bpa สารทาเลตไอ้
00:00:33 → 00:00:36 ของพวกเนี้ยมันคืออะไรเป็นอันตรายต่อร่าง
00:00:36 → 00:00:39 กายอย่างไรและเรามีวิธีในการป้องกันพวก
00:00:39 → 00:00:42 นี้อย่างไรได้บ้างนะครับพบกับผมนะครับนาย
00:00:42 → 00:00:44 แพทย์ธานีธนียวันนะครับเป็นอาจารย์แพทย์
00:00:44 → 00:00:46 อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเชี่ยวชานโรค
00:00:46 → 00:00:48 ปอดการปลูกถ่ายปอดและวิกฤตบำบัดนะครับ
00:00:49 → 00:00:51 ก่อนอื่นนะครับผมต้องขอกล่าวให้ทุกคนทราบ
00:00:52 → 00:00:54 ก่อนว่าพลาสติกเนี่ยจริงๆมันคืออะไรกัน
00:00:54 → 00:00:57 แน่นะครับพลาสติกเนี่ยมันมีต้นกำเนิดมา
00:00:57 → 00:01:00 จากน้ำมันดิบนี่แหละครับน้ำมันดิบเนี่ย
00:01:00 → 00:01:02 มันมีการกลั่นนะครับแล้วก็การเผาไหม้จน
00:01:02 → 00:01:06 สามารถที่จะทำให้เกิดสารพวกเอ่ออีเทน
00:01:06 → 00:01:09 โปรเนนะครับแล้วสารตัวนี้เนี่ยนะครับมัน
00:01:09 → 00:01:11 ก็ไปทำปฏิกิริยาต่อนะครับในกระบวนการ
00:01:11 → 00:01:13 สร้างพลาสติกเกิดเป็นสารพวกเอทิลีน
00:01:13 → 00:01:17 โพรพิลีนนะครับแล้วไอ้โมเลกุลเหล่าเนี้ย
00:01:17 → 00:01:19 เราจับมันมาต่อกันเป็นสายยาวๆเราจะเรียก
00:01:19 → 00:01:21 มันว่าโพลิเมอร์ในที่สุดก็จะเกิดการ
00:01:21 → 00:01:23 ประกอบกันไปเป็นสารที่เรียกว่าเป็น
00:01:23 → 00:01:26 พลาสติกนะครับแต่ในกระบวนการเนี่ยมันก็
00:01:26 → 00:01:29 ไม่ได้มีพลาสติกเพียงแค่ชนิดเดียวนะครับ
00:01:29 → 00:01:32 มันมีการเติมสารเคมีชนิดอื่นๆเข้าไปยกตัว
00:01:32 → 00:01:35 อย่างเช่นสาริ phenol a หรือ bpa นะครับ
00:01:35 → 00:01:37 เพื่อที่จะทำให้พลาสติกตัวนั้นเนี่ยมันมี
00:01:37 → 00:01:41 ความทนทานนะครับแล้วก็บางกรณีเราเติมสาร
00:01:41 → 00:01:43 ทาดเข้าไปทาตเนี่ยมันก็จะทำให้พลาสติก
00:01:43 → 00:01:46 เนี่ยมันมีมีการอ่าเปลี่ยนแปลงรูปร่างได้
00:01:46 → 00:01:48 นะครับเราจับมันดัดจับอะไรอย่าเงี้ยได้นะ
00:01:48 → 00:01:50 ครับเป็นรูปร่างตามที่เราต้องการนะครับ
00:01:51 → 00:01:54 แต่ไอ้ของพวกนี้ทั้งหมดเนี่ยมันก็ดันไป
00:01:54 → 00:01:57 เป็นปัญหาต่อสุขภาพนะครับและผมเชื่อว่า
00:01:57 → 00:02:00 หลายๆคนคงจะเคยได้ยินมาว่าพลาสติกเหล่า
00:02:00 → 00:02:03 นี้เนี่ยนะครับมันใช้เวลานานมากๆเลยกว่า
00:02:03 → 00:02:06 จะย่อยสลายได้นะครับบางอย่างเป็นหลักพัน
00:02:06 → 00:02:08 ปีเลยทีเดียวนะครับมันก็จะอยู่คู่กับเรา
00:02:08 → 00:02:12 ไปตลอดชีวิตเนี่ยนะครับทีนี้ไอ้พลาสติก
00:02:12 → 00:02:15 ตัวนี้เนี่ยนะครับมันมันอันตรายยังไงนะ
00:02:15 → 00:02:17 ครับผมต้องขอบอกอย่างนี้ก่อนเพื่อที่จะ
00:02:17 → 00:02:19 ตอบคำถามว่าพลาสติกเนี่ยมันเอาไปเข้า
00:02:19 → 00:02:21 ไมโครเวฟได้หรือเปล่ามันทนความร้อนได้
00:02:21 → 00:02:24 หรือเปล่าผมอยากจะให้ทุกคนที่มีภาชนะ
00:02:24 → 00:02:27 พลาสติกไม่ว่าจะเป็นแก้วพลาสติกนะครับ
00:02:27 → 00:02:30 กล่องพลาสติกทอวอะไรก็แล้วแต่เนี่ยให้ดู
00:02:30 → 00:02:33 ที่กล่องตอนนี้เลยนะครับมันจะมีสัญลักษณ์
00:02:33 → 00:02:35 สามเหลี่ยมนะครับสัญลักษณ์สามเหลี่ยม
00:02:35 → 00:02:38 เนี่ยเป็นสัญลักษณ์รีไซเคลพลาสติกแล้วตรง
00:02:38 → 00:02:41 นั้นตรงกลางของสามเหลี่ยมมันจะมีเลข 1 2
00:02:41 → 00:02:44 3 4 5 6 7 นะครับพลาสติกที่ใช้กับ
00:02:44 → 00:02:46 อาหารที่แบบใช้แล้วทิ้งส่วนใหญ่จะเป็น
00:02:46 → 00:02:48 ชนิดที่ 1 นะครับมีเบอร์ 1 นะครับหรือ
00:02:48 → 00:02:51 พลาสติกชนิดที่เราเรียกว่าเพชร P นะครับ
00:02:51 → 00:02:53 แต่ไอ้ชนิดเนี้ยเอาไปโดนความร้อนไม่ได้นะ
00:02:53 → 00:02:56 ครับมันจะละลายเข้าไปในอาหารแล้วก็จะเกิด
00:02:56 → 00:02:59 ปัญหาขึึ้นมาได้นะครับมันจะมีพลาสติกอยู่
00:02:59 → 00:03:02 2 ชนิดชนิดที่ถ้าเราจะเอาไปโดนความร้อน
00:03:02 → 00:03:04 มันสามารถทนความร้อนได้ก็คือพลาสติกชนิด
00:03:04 → 00:03:07 ที่ 2 และ 5 นะครับถ้าเราดูมันมีสาม
00:03:07 → 00:03:09 เหลี่ยมอย่างเงี้ยแล้วมันเขียนว่า 2 หรือ
00:03:09 → 00:03:12 5 อยู่ตรงกลางไอ้อย่างเงี้ยโดนความร้อน
00:03:12 → 00:03:14 ได้นะครับแล้วก็ไอ้ 2 ตัวเนี้ยจะเป็นการ
00:03:14 → 00:03:17 หลีกเลี่ยงสาร bpa แล้วก็สารทาลกได้ด้วย
00:03:17 → 00:03:19 นะครับหรืออีกอย่างนึงเนี่ยพลาสติกบางที
00:03:19 → 00:03:21 เค้าเขียนไว้ชัดเจนเลยว่าอันเนี้ยเข้า
00:03:21 → 00:03:24 ไมโครเวฟได้นะครับหรือจะมีสัญลักษณ์ที่
00:03:25 → 00:03:26 เป็นเหมือนรูปคลื่นอย่างเงี้ยนะครับคลื่น
00:03:26 → 00:03:29 อย่างเงี้ยต่อๆกันหลายอันอันนั้นก็แปลว่า
00:03:29 → 00:03:31 เป็นตัวที่สามารถเข้าไมโครเวฟได้นะครับ
00:03:31 → 00:03:35 ถ้ามันไม่ใช่พลาสติกชนิดต่อที่ผมพูดไป
00:03:35 → 00:03:37 เมื่อกี้มันไม่สามารถเอาเข้าไมโครเวฟได้
00:03:37 → 00:03:40 นะครับเพราะว่าถ้าเอาเข้าไปแล้วเนี่ยมัน
00:03:40 → 00:03:42 ก็จะเกิดการหลอมละลายแล้วก็เข้าไปปน
00:03:42 → 00:03:46 เปื้อนในอาหารนั่นคือปัญหาของการใช้
00:03:46 → 00:03:49 พลาสติกพวกนี้ดังนั้นดูเลยนะครับทุกภาชนะ
00:03:49 → 00:03:51 เนี่ยถ้ามันมีไอ้เครื่องหมายสามเหลี่ยม
00:03:51 → 00:03:53 มันจะต้องบอกไว้เลย 1 2 3 4 5 6 7
00:03:53 → 00:03:55 2 กับ 5 เนี่ยปลอดภัยที่สุดแต่ละอย่าง
00:03:55 → 00:03:58 เนี่ยมันก็มีรายละเอียดปลีกย่อยของมันนะ
00:03:58 → 00:04:01 ครับอ่าไม่ได้ว่าไอ้เลขตัวอื่นเนี่ยเอามา
00:04:01 → 00:04:03 ใช้ไม่ได้นะครับเพราะว่าอย่างที่เมื่อกี้
00:04:03 → 00:04:05 เรากล่าวไปเลข 1 เนี่ยนะครับพลาสติกที่มี
00:04:05 → 00:04:07 สามเหลี่ยมแล้วก็ 1 อยู่ตรงกลางอันเนี้ย
00:04:07 → 00:04:10 มันใช้ในอุตสาหกรรมอาหารค่อนข้างที่จะมาก
00:04:10 → 00:04:12 นะครับแล้วก็มักจะใช้กับกรณีที่ใช้ครั้ง
00:04:12 → 00:04:15 เดียวแล้วทิ้งไม่เอามาใช้มันใหม่ซ้ำ
00:04:15 → 00:04:17 เรื่อยซ้ำอีกนะครับแล้วก็ห้ามโดนความร้อน
00:04:17 → 00:04:20 โดยเด็ดขาดนะครับเบอร์ 1 นะฮะ
00:04:20 → 00:04:24 อ่าทีนี้ไอ้พลาสติกพวกนี้เนี่ยนะครับมัน
00:04:24 → 00:04:26 ยังไงต่อเมื่อกี้เราบอกว่าใช้เวลาย่อย
00:04:26 → 00:04:29 สลายเป็นรปี 1000 ปีเลยนะครับมันไปไหนล่ะ
00:04:29 → 00:04:34 ฮะนะครับถ้าเราทิ้งลงสู่ธรรมชาตินะครับ
00:04:35 → 00:04:38 มันก็จะใช้เวลาของมันเนี่ยในการย่อยสลาย
00:04:38 → 00:04:40 ในขั้นตอนการย่อยสลายของพลาสติกเมื่อกี้
00:04:40 → 00:04:42 เราบอกว่าตอนมันประกอบเป็นพลาสติกเนี่ย
00:04:42 → 00:04:44 มันมีการเติมสารเคบบางตัวเข้าไปถูกมั้ย
00:04:44 → 00:04:47 ครับสารเคมีเหล่านั้นเนี่ยมันสามารถละลาย
00:04:47 → 00:04:50 ออกมาจากพลาสติกลงสู่ธรรมชาติแล้วถ้าน้ำ
00:04:50 → 00:04:54 ฝนน้ำทะเลไปชะล้างไอ้สารพิษพวกเนี้ยมันก็
00:04:54 → 00:04:58 เข้าสู่สิ่งมีชีวิตได้นะครับพอมันเข้าสู่
00:04:58 → 00:05:01 สิ่งมีชีวิตแล้วแล้วมันไปไหนล่ะครับมันก็
00:05:01 → 00:05:03 จะเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดเล็กได้เข้าไปก่อน
00:05:03 → 00:05:05 หลังจากนั้นก็สิ่งมีชีวิตที่ใหญ่ขึ้นมา
00:05:05 → 00:05:07 กินนะครับใหญ่ขึ้นมากินกินๆเข้าไปสุดท้าย
00:05:08 → 00:05:10 แล้วคนที่ได้เยอะที่สุดก็คือมนุษย์เพราะ
00:05:10 → 00:05:12 ว่าเราอ่ะเป็นคนที่อยู่สูงสุดของห่วงโซ่
00:05:12 → 00:05:14 อาหารเราก็ไปกินพวกนี้ซึ่งของพวกเนี้ยคือ
00:05:14 → 00:05:16 ไอ้พลาสติกที่เราทิ้งทุกวันมันก็ไปละลาย
00:05:16 → 00:05:19 อยู่ตามน้ำตามอะไรพวกนี้ทั้งหมดเลยนะครับ
00:05:19 → 00:05:22 แล้วก็ไม่ใช่แค่นั้นนี่คือสารเคมีที่
00:05:22 → 00:05:24 ละลายออกจากพลาสติกเท่านั้นนะครับแล้วตัว
00:05:24 → 00:05:28 พลาสติกเองล่ะอ้าพลาสติกเนี่ยมันไม่ได้
00:05:28 → 00:05:31 หายไปไหนนะครับมันสามารถโดนกระแทกโดนอะไร
00:05:31 → 00:05:33 เแตกมันเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยได้เราจะ
00:05:33 → 00:05:35 เรียกพวกชิ้นเล็กชิ้นน้อยเนี่ยว่า
00:05:35 → 00:05:38 ไมโครพลาสติกนะครับไมโครพลาสติกพวกนี้
00:05:38 → 00:05:41 เนี่ยนะครับมันสามารถที่จะโดนสัตว์ต่างๆ
00:05:42 → 00:05:45 กินเข้าไปได้นะครับพอมันกินเข้าไปมันก็
00:05:45 → 00:05:47 เหมือนกับสารเคมีเมื่อตะกี้เลยครับตอนแรก
00:05:47 → 00:05:49 เนี่ยสัตว์ชนิดเล็กกินเข้าไปก็กินได้
00:05:49 → 00:05:51 ปริมาณนึงสัตว์ชนิดใหญ่มันก็มากินสัตว์
00:05:51 → 00:05:53 ชนิดเล็กอีกต่อนึงมันก็ได้ไมโครพลาสติก
00:05:53 → 00:05:55 เข้าไปเพิ่มนะครับสมมุติว่าสัตว์ชนิดเล็ก
00:05:55 → 00:05:58 5 ตัวมีไมโครพลาสติกกันคนละ 2-3 อันนะ
00:05:58 → 00:06:01 ครับสัตว์ตัวใหญ่มากินมันทีนึงกิน 5 ตัว
00:06:01 → 00:06:03 เลยเป็นไงครับก็ได้ไมโครพลาสติกเข้าไป
00:06:03 → 00:06:06 มหาศาลเลยในตัวใหญ่แล้วก็ตัวใหญ่กว่ามา
00:06:06 → 00:06:08 กินอีกก็ได้เข้าไปเพิ่มขึ้นอีกนะครับแล้ว
00:06:08 → 00:06:10 มนุษย์เนี่ยหล่ะกินกันไปหมดเลยก็ได้สาร
00:06:10 → 00:06:13 ไมโครพลาสติกเข้าไปเต็มไปหมดเลยนะครับ
00:06:13 → 00:06:17 แล้วไมโครพลาสติกเนี่ยมันไม่ได้มีเฉพาะใน
00:06:17 → 00:06:19 สัตว์น้ำนะครับเพราะว่าหลายๆคนอาจจะเคย
00:06:19 → 00:06:23 เข้าใจเอ๊ะไมโครพลาสติกเนี่ยถ้าคนดูข่าว
00:06:23 → 00:06:25 คนติดตามเรื่องไมโครพลาสติกนะครับจะเห็น
00:06:25 → 00:06:27 ว่ามันจะอยู่ในทะเลซะส่วนใหญ่เพราะว่าทุก
00:06:27 → 00:06:30 ๆอย่างเนี่ยที่เราทิ้งเนี่ยขวดอะไรก็แล้ว
00:06:30 → 00:06:33 แต่มันมันไปสู่ทะเลได้แล้วก็มีคนไปเจอว่า
00:06:33 → 00:06:35 มันเป็นเค้าเรียกว่าเป็นกองพลาสติกกลาง
00:06:36 → 00:06:39 ทะเลอ่าอยู่กันเป็นเกาะเลยนะครับพลาสติก
00:06:39 → 00:06:41 มันไปกรองอยู่ตรงนั้นแล้วมันอยู่ตรงนั้น
00:06:41 → 00:06:43 ไปไหนอครับมันก็ละลายออกมาในน้ำได้หรือ
00:06:43 → 00:06:45 แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่เป็น
00:06:45 → 00:06:46 ไมโครพลาสติกทำให้สัตว์น้ำมันกินเข้าไป
00:06:46 → 00:06:48 ได้ดังนั้นเนี่ยหลายคนอาจจะเข้าใจว่า
00:06:48 → 00:06:50 ไมโครพลาสติกเนี่ยอยู่ในสัตว์ทะเลสัตว์
00:06:50 → 00:06:53 น้ำซะเป็นส่วนใหญ่นะครับซึ่งมันก็ถูกแล้ว
00:06:53 → 00:06:55 ที่สำคัญเราไปเจอไมโครพลาสติกที่ที่เรา
00:06:56 → 00:06:59 ไม่คาดคิดอีกก็คือขั้วโลกเหนือครับ
00:06:59 → 00:07:01 แอนตาร์กติก้าอะไรพวกเนี้ยนะฮะตามน้ำแข็ง
00:07:01 → 00:07:05 ใหญ่ๆเราไปเจอไมโครพลาสติกตรงนั้นและที่
00:07:05 → 00:07:07 สำคัญไม่ใช่แค่นั้นเราไปเจอไมโครพลาสติก
00:07:07 → 00:07:10 บนภูเขาด้วยครับมันไปถึงตรงนั้นได้อย่าง
00:07:10 → 00:07:13 ไรก็ยังไม่มีใครทราบนะครับทำให้เดี๋ยวเ
00:07:13 → 00:07:16 ไมโครพลาสติกมันไม่ได้อยู่แค่ไอ้พวกปลา
00:07:16 → 00:07:20 อย่างเดียวแล้วนะครับในน้ำก็มีนะครับน้ำ
00:07:20 → 00:07:21 ที่เราดื่มกันทุกวันมันก็มีการปนเปลื้อน
00:07:21 → 00:07:25 ของไมโครพลาสติกนะครับในเครื่องใช้ประจำ
00:07:25 → 00:07:29 วันอะไรบ้างแชมพูยาสีฟันบางชนิดก็มีครีม
00:07:29 → 00:07:34 บำรุงผิวนะครับของเล่นเด็กอ่าของเล่นเด็ก
00:07:34 → 00:07:37 ยังมีเลยนะครับเนี่ยพวกนี้ทั้งหมดมันก็จะ
00:07:37 → 00:07:40 สามารถก่อกำเนิดไมโครพลาสติกได้แล้วก็ของ
00:07:40 → 00:07:45 เล่นเด็กรวมไปถึงขวดนมเด็กด้วยครับนะฮะ
00:07:45 → 00:07:48 ซึ่งปัจจุบันก็มีการรณรงค์ออกมาแล้วว่า
00:07:48 → 00:07:51 เรารู้ว่าสารบิ phenol a หรือ bpa กับ
00:07:51 → 00:07:53 สารทาตเนี่ยมันเป็นสารซึ่งถ้าเข้าไปใน
00:07:54 → 00:07:56 ร่างกายของเด็กเนี่ยมันจะอันตรายได้โดย
00:07:56 → 00:08:00 ที่มันจะมีความเ่อสำคัญกับระบบฮอร์โมนนะ
00:08:00 → 00:08:02 ครับแล้วก็อาจบางตัวเป็นสารก่อมะเร็งนะ
00:08:02 → 00:08:05 ครับจึงมีการรณณรงค์ว่าจะพยายามเอาสารตัว
00:08:05 → 00:08:07 2 ตัวเนี้ยออกไปจากของเล่นเด็กแล้วก็
00:08:07 → 00:08:09 ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับเด็กนะครับรวม
00:08:09 → 00:08:12 ทั้งพลาสติกบางชนิดก็จะมีการเขียนไว้ชนิด
00:08:12 → 00:08:16 เขียนไว้ชัดๆเลยว่า bpa fre tate ีคือ
00:08:16 → 00:08:19 ไม่มีสาร bpa และไม่มีสาร tate อยู่ใน
00:08:19 → 00:08:21 นั้นนะครับถ้าท่านซื้อผลิตภัณฑ์อะไรที่
00:08:21 → 00:08:23 มันไม่มี 2 ตัวเนี้ยก็อย่างน้อยก็ยังดีนะ
00:08:23 → 00:08:26 ครับเพราะว่ามันจะได้ไม่ไปยุ่งอะไรกับ
00:08:26 → 00:08:30 ร่างกายเรานะครับทีนี้เราจะสังเกตเห็นได้
00:08:30 → 00:08:33 ว่าไมโครพลาสติกเนี่ยมันมีอยู่ทุกที่เลย
00:08:33 → 00:08:36 อ่ะยังไงร่างกายเราก็จะต้องมีโอกาสได้รับ
00:08:36 → 00:08:39 มันเข้าไปเฮ้ยแล้วเราจะทำยังไงคือมันไม่
00:08:39 → 00:08:41 ใช่เรื่องของเราคนเดียวแล้วนะครับคุณจะ
00:08:41 → 00:08:44 รวยคุณจะจนคุณจะอยู่ชนชั้นไหนเนี่ยคุณมี
00:08:44 → 00:08:47 โอกาสได้รับไมโครพลาสติกเข้าไปเท่ากัน
00:08:47 → 00:08:50 เสมอนะครับอ่ะคุณชอบกินปลาดิบใช่มั้ยก็
00:08:50 → 00:08:52 ปลาพวกนี้มันแหละที่มันกินไมโครพลาสติก
00:08:52 → 00:08:55 เข้าไปแล้วคนเราก็มากินอีกรอบนึงนะครับ
00:08:55 → 00:08:59 แล้วสัตว์ตัวใหญ่ก็จะมีได้เหมือนกันอ่า
00:08:59 → 00:09:01 มันก็จะเป็นอย่างเงี้ยแลในชีวิตประจำวัน
00:09:01 → 00:09:03 เรามีพลาสติกเยอะแค่ไหนเต็มไปหมดเลยถูก
00:09:03 → 00:09:07 มั้ยครับดังนั้นเนี่ยอันนึงซึ่งมนุษย์
00:09:07 → 00:09:09 ทั้งโรคเนี่ยต้องช่วยกันก็คือจะต้องช่วย
00:09:09 → 00:09:11 กันลดปริมาณพลาสติกใช้พลาสติกที่มัน
00:09:11 → 00:09:13 รีไซเคิได้แล้วก็ถ้าเรามีอุปกรณ์ที่เป็น
00:09:14 → 00:09:17 พลาสติกนะครับควรจะเอาไปรีไซเคิแทนที่จะ
00:09:17 → 00:09:19 ทิ้งลงไปในถังขยะธรรมดาเพราะว่าถ้าทิ้งลง
00:09:19 → 00:09:23 ไปในถังขยะธรรมดาบางทีมันไปไหนครับกลับ
00:09:23 → 00:09:25 สู่ธรรมชาติแล้วธรรมชาติไปไหนครับกลับมา
00:09:25 → 00:09:27 ที่เรานั่นแหละครับนะนั้นปัจจุบันเนี่ยมี
00:09:27 → 00:09:31 พลาสติกอยู่ในโลกเป็นรล้านตันพันล้านตัน
00:09:31 → 00:09:33 น่ะนะครับมันไม่ไปไหนอ่ะเพราะว่ามันใช้
00:09:33 → 00:09:35 เวลาเป็น 1000 ปีกว่าจะโดนย่อยแล้วคนที่
00:09:35 → 00:09:38 รับเคราะห์ก็คือพวกเรานั่นเองอ่ะนี่คือใน
00:09:38 → 00:09:42 กรณีที่เราช่วยกันทั้งโลกนะครับแต่แล้ว
00:09:42 → 00:09:45 เราจะทำอะไรได้บ้างในฐานะที่เราเป็นผู้
00:09:45 → 00:09:49 บริโภคมันก็มีหลายอย่างที่เราสามารถทำได้
00:09:49 → 00:09:52 อย่างแรกเลือกพลาสติกที่จะเอามาใช้นะครับ
00:09:52 → 00:09:55 ถ้าเราจะเอาเข้าไมโครเวฟหรือจะไปโดนของ
00:09:55 → 00:09:57 ร้อนจะต้องเป็นพลาสติกที่ทนความร้อนได้
00:09:57 → 00:09:59 เท่านั้นนะครับคือถ้ามีมีสัญลักษณ์
00:09:59 → 00:10:01 รีไซเคิเป็นรูปสามเหลี่ยมจะต้องเป็น
00:10:01 → 00:10:04 สัญลักษณ์ที่เขียนเลข 2 กับเลข 5 เท่า
00:10:04 → 00:10:06 นั้นนะครับหรืออันที่เขียนไว้ตรงๆเลยว่า
00:10:06 → 00:10:09 ทนความร้อนได้เอาเข้าไมโครเวฟได้นี้คือ
00:10:09 → 00:10:11 อันที่ 1 คือต้องรับพลาสติกเข้ามาในร่าง
00:10:11 → 00:10:14 กายให้น้อยที่สุดนะครับอาหารนี่ก็แน่นอน
00:10:14 → 00:10:16 ว่าจะต้องทานเฉลี่ยเข้าไปหลายอย่างหลาย
00:10:16 → 00:10:18 อย่างนะครับเพราะว่าถ้าทานอย่างใดอย่าง
00:10:18 → 00:10:20 หนึ่งโอกาสได้รับไมโครพลาสติกก็จะสูงขึ้น
00:10:20 → 00:10:23 นะครับเกลือเกลือนี่แหละครับมี
00:10:23 → 00:10:26 ไมโครพลาสติกเยอะเหมือนกันนะครับผมเคยพูด
00:10:26 → 00:10:28 ไปในคลิปเรื่องเกลือและเรื่องของ
00:10:28 → 00:10:30 ไมโครพลาสติกว่าไปเจอที่ไหนบ้างถ้าเป็น
00:10:30 → 00:10:32 เกลือหิมาลายันนี้อาจจะไมโครพลาสติกน้อย
00:10:32 → 00:10:33 กว่าเพราะว่ามันอยู่ในที่สูงนะครับโอกาส
00:10:33 → 00:10:35 เจอไมโครพลาสติกขึ้นไปถึงตรงนั้นเนี่ยบาง
00:10:35 → 00:10:38 ทีน้อยกว่านะครับก็เอออาจจะมีการใช้ได้นะ
00:10:38 → 00:10:41 ครับแล้วก็ทะเลบางบางแห่งนะครับมี
00:10:41 → 00:10:44 ไมโครพลาสติกเยอะกว่าบางแห่งตรงเนี้ยก็
00:10:44 → 00:10:46 ต้องไปดูะนะครับว่าเฮ้ยตรงไหนมีเยอะตรง
00:10:46 → 00:10:48 ไหนมีน้อยเราก็ต้องไปเลือกกินปลาจากแถบ
00:10:48 → 00:10:50 นั้นนะครับถ้าแถบไหนมีเยอะเราก็ไปกินกับ
00:10:50 → 00:10:54 มันไม่ได้เพราะว่าเดาเข้าร่างกายนะครับ
00:10:54 → 00:10:59 และที่สำคัญคือการออกกำลังกายครับการการ
00:10:59 → 00:11:01 ออกกำลังกายที่มีเหงื่อเนี่ยเราพบว่ามัน
00:11:01 → 00:11:03 สามารถพอจะขับไมโครพลาสติกออกมาจากร่าง
00:11:03 → 00:11:07 กายได้เอ้ยอันนี้เจ๋งนะครับอ่างั้นมัน
00:11:07 → 00:11:10 เป็นการบอกได้ว่าไอ้ไมโครพลาสติกเนี่ยเรา
00:11:10 → 00:11:12 สามารถที่จะออกกำลังกายได้ช่วยได้เหมือน
00:11:12 → 00:11:14 กันนะครับเพราะว่าการออกกำลังายจริงๆมัน
00:11:14 → 00:11:15 ช่วยได้ทุกอย่างแต่ถ้าเป็นการออกกำลังกาย
00:11:15 → 00:11:17 ที่มีเหงื่อเยอะๆมันจะช่วยขับไอ้พวกนี้
00:11:17 → 00:11:19 ออกมาได้ไม่ใช่แค่ขับจากพลาสติกอย่าง
00:11:19 → 00:11:22 เดียวนะครับถ้าคนที่ได้รับโลหะหนักเข้าไป
00:11:22 → 00:11:25 ก็สามารถขับออกมาทางผิวหนังได้คนที่นั่ง
00:11:25 → 00:11:27 ซาวน่าคนที่นั่งสตีมพวกนี้ก็สามารถขับไอ้
00:11:27 → 00:11:29 พวกเนี้ยโลหะหนักหรือว่าเอ่อจะเป็น
00:11:29 → 00:11:32 ไมโครพลาสติกออกมาทางผิวหนังได้นะครับไม่
00:11:32 → 00:11:35 จำเป็นจะต้องไปทำคีเลชั่นอะไรให้ให้
00:11:35 → 00:11:37 เปลืองสตางค์ของท่านนะครับแล้วนั่นก็จะ
00:11:37 → 00:11:40 เป็นปัญหาด้วยนะถ้าท่านทำคีชนะครับอ่าอัน
00:11:40 → 00:11:42 นี้ก็เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งที่ช่วย
00:11:42 → 00:11:46 ได้นะครับทีนี้ไมโครพลาสติกเนี่ยมันเข้า
00:11:46 → 00:11:49 ร่างกายแล้วมันไปไหนยังไงบ้างเออตรงเน่า
00:11:49 → 00:11:52 สำคัญละมันเข้าทางร่างกายเนี่ยได้ทางไหน
00:11:52 → 00:11:56 นะครับคือทางการหายใจหรือการกินเข้าไป
00:11:56 → 00:11:58 ครับเป็นสเป็นส่วนใหญ่ที่มันเข้าสู่ร่าง
00:11:58 → 00:12:01 กายพอมันเข้าสู่ร่างกายแล้วเนี่ยส่วนใหญ่
00:12:01 → 00:12:04 ของไมโครพลาสติกร่างกายเราสามารถขับออกมา
00:12:04 → 00:12:07 ได้ทางอุจจาระและบางส่วนทางปัสสาวะนะครับ
00:12:07 → 00:12:09 ส่วนใหญ่จะทางอุจจาระมากกว่านะครับเพราะ
00:12:09 → 00:12:13 ว่ามันจะมีพลาสติกซิ่งไม่สามารถถูกดูดซึม
00:12:13 → 00:12:15 เข้าไปร่างกายได้มันก็จะโดนขับออกมาทางป
00:12:15 → 00:12:18 ทางอุจจาระแล้วก็ปนกับน้ำดีปนกับอุจจาระ
00:12:18 → 00:12:21 ออกมานะครับแต่มันก็จะมีส่วนที่โดนดูดซึม
00:12:21 → 00:12:24 เข้าไปสู่กระแสเลือดเราได้ซึ่งปัจจุบัน
00:12:24 → 00:12:27 เนี่ยเราเริ่มพอจะมีความเข้าใจแล้วว่ามัน
00:12:27 → 00:12:30 มีปัญหาเยอะนะครับคือมีปัญหาต่อระบบ
00:12:30 → 00:12:33 ฮอร์โมนต่อระบบภูมิก้านทานนะครับบางอย่าง
00:12:33 → 00:12:35 เป็นสารก่อมะเร็งนะครับแล้วเราก็ไม่แน่ใจ
00:12:35 → 00:12:38 ว่ามันจะไปยุ่งกับระบบหัวใจระบบไตระบบ
00:12:38 → 00:12:40 สมองของเราจะเกิดอัลไซเมอร์อะไรขึ้นมา
00:12:40 → 00:12:42 หรือเปล่านะครับคือมันอาจจะมีความเกี่ยว
00:12:42 → 00:12:44 ข้องนะครับและยิ่งตอนนี้ปัญหา
00:12:44 → 00:12:47 ไมโครพลาสติกนี้เป็นปัญหาใหญ่มากซึ่งคน
00:12:47 → 00:12:50 ไม่รู้คนไม่รู้นะครับเพราะมันมองไม่เห็น
00:12:50 → 00:12:53 ไงฮะแล้วมีอะไรอีก PM 2.5 เดี๋ยวนี้โลก
00:12:53 → 00:12:55 เราก็อยู่ยากขึ้นทุกวันแล้วไอ้ของพวกนี้
00:12:55 → 00:12:58 มันมาจากไหนครับก็มาจากมนุษย์ทั้งนั้นเลย
00:12:58 → 00:13:01 นะนะครับแล้วคนคเดียวไม่สามารถที่จะแก้
00:13:01 → 00:13:03 ปัญหาเรื่องพวกนี้ได้นะต่อให้รัฐบาลทั้ง
00:13:03 → 00:13:07 โลกทำก็ไม่สามารถแก้ได้ถ้าเกิดว่าทุกุคน
00:13:07 → 00:13:10 ไม่รู้จักปัญหาตนี้แล้วก็ไม่ช่วยกันแก้
00:13:10 → 00:13:13 มันก็แก้ไม่ได้นะครับอ่างั้นปัจจุบันเรา
00:13:13 → 00:13:15 รู้ว่าไมโครพลาสติกเนี่ยมันอันตรายต่อ
00:13:15 → 00:13:17 ร่างกายมนุษย์หลายๆอย่างนะครับแล้วคาดว่า
00:13:17 → 00:13:19 ในอนาคตคงจะมีวิจัยออกมาเรื่อยๆว่ามัน
00:13:19 → 00:13:22 อันตรายอย่างไรบ้างสารตัวไหนอะไรบ้างแล้ว
00:13:22 → 00:13:24 ก็เราพยายามเอาาสารที่อันตรายเนี่ยออกไป
00:13:24 → 00:13:29 จากพลาสติกชนิดต่างๆที่เรามีนะครับต้องดู
00:13:29 → 00:13:31 แลเรื่องพลาสติกที่ทนความร้อนได้ไม่ได้นะ
00:13:31 → 00:13:34 ครับอาจจะอ่านดูว่าเออพลาสติกที่เราใช้
00:13:34 → 00:13:36 มันไม่มีสาร bpa นะไม่มีสารทาเลตนะมันจะ
00:13:36 → 00:13:38 ได้ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายนะครับใช้
00:13:38 → 00:13:41 พันธนะที่มันใช้ซ้ำได้พวกแก้วพวกอะไร
00:13:41 → 00:13:44 อย่างเงี้ยจะดีกว่านะครับหรือหลอดเราอาจ
00:13:44 → 00:13:47 จะมีหลอดส่วนตัวที่เป็นอ่าหลอดเหล็กอย่าง
00:13:47 → 00:13:49 เงี้ยนะครับหรือหลอดซิลิโคนอะไรพวกเนี้ย
00:13:49 → 00:13:52 ก็สามารถที่จะใช้ได้นะครับจุกนมเด็กอย่าง
00:13:52 → 00:13:53 งี้เหมือนกันจุกนมเด็กที่เป็นลาทกเนี่ย
00:13:54 → 00:13:56 อันเนี้ยก็จะมีไมโครพลาสติกปนได้นะครับ
00:13:56 → 00:13:59 ถ้าเราไปใช้พวกจุกซิลิโคนก็จะดีกว่ากว่า
00:13:59 → 00:14:02 นะครับแต่รู้สึกว่าตอนหลังเนี่ยมันมี
00:14:02 → 00:14:05 เอิ่มมีการค้นพบที่ญี่ปุ่นถ้าผมจำไม่ผิด
00:14:05 → 00:14:08 นะที่ญี่ปุ่นเนี่ยจะมีการค้นพบแบคทีเรีย
00:14:08 → 00:14:10 ตัวนึงเมื่อประมาณสักปี 2016 ว่ามัน
00:14:10 → 00:14:13 สามารถใช้เอนไซม์ของมันเนี่ยกินพลาสติก
00:14:13 → 00:14:18 ได้นะครับอ่าตัวนี้น่ะมันก็เป็นเป็นที่
00:14:18 → 00:14:21 แบบน่าสนใจอย่างนึงนะครับแบคทีเรียกิน
00:14:21 → 00:14:23 พลาสติกตัวนี้นะครับเดี๋ยวผมจะลองค้นให้
00:14:23 → 00:14:27 ดูว่ามันเอ่อมันมีผมไม่แน่ใจว่ามันมันมี
00:14:27 → 00:14:29 อะไรตัวไหนนะครับแต่ว่ามันจะมีแบคทีเรีย
00:14:29 → 00:14:32 ตัวนึงนะครับที่สามารถเอ่อค้นแล้วก็จัด
00:14:32 → 00:14:35 การกับพลาสติกได้นะครับตัวนี้
00:14:35 → 00:14:39 เอ่อน่าจะมีการต่อยอดว่าเอ้ยเราจะเอา
00:14:39 → 00:14:42 แบคทีเรียตัวเนี้ยมาย่อยสลายพลาสติกให้
00:14:42 → 00:14:44 มันมากขึ้นเพราะว่าปัจจุบันเนี้ยนะครับ
00:14:44 → 00:14:46 พลาสติกมันใช้เวลาเป็นร้อยเป็น 1000 ปี
00:14:46 → 00:14:48 แต่ถ้าเราใช้แบคทีเรียตัวนี้ในการย่อย
00:14:48 → 00:14:51 สลายพลาสติกได้นะอาจจะเป็นนวัตกรรมใหม่ใน
00:14:51 → 00:14:53 การรีไซเคิพลาสติกเลยก็ได้นะครับ
00:14:53 → 00:14:56 เอิ่มตัวนี้มันชื่อ
00:14:56 → 00:15:00 ลน่าจะชื่อ idon เนี่ยครับถ้าถ้าผมจำไม่
00:15:00 → 00:15:02 ผิดนะน่าจะชื่อลอะไรสักอย่าง
00:15:02 → 00:15:06 เอิ่มแต่ต้องลองไปต้องลองไปค้นดูมันมัน
00:15:06 → 00:15:10 ชื่อนาสกุลเป็นภาษาญี่ปุ่นอ่า saris เอ้อ
00:15:10 → 00:15:14 idon ล saris นะครับตัวเนี้มันเจอมาซัก
00:15:14 → 00:15:18 ระยะนึงะแต่ว่าก็น่าจะเป็นตัวที่มีบทบาท
00:15:18 → 00:15:21 มากขึ้นถ้าเกิดเค้าไปทำพัธุกรรมให้มันกิน
00:15:21 → 00:15:23 พลาสติกได้เร็วขึ้นก็น่าจะเป็นตัวที่ช่วย
00:15:23 → 00:15:26 ได้นะครับอืตรงนี้ก็เป็นเหตุหนึ่งที่เรา
00:15:26 → 00:15:29 จะต้องทำนะครับดังนั้นแล้วเนี่ย
00:15:29 → 00:15:32 คำถามที่ว่าพลาสติกเอาไปอุ่นอาหารเข้า
00:15:32 → 00:15:35 ไมโครเวฟได้มยคำตอบคือได้แต่จะต้องเป็น
00:15:35 → 00:15:37 ชนิดที่มันทนความร้อนนะครับจะต้องดูด้วย
00:15:37 → 00:15:39 ว่ามันเป็นเบอร์ 2 กับเบอร์ 5 นะครับที่
00:15:39 → 00:15:42 มีสัญลักษณ์สามเหลี่ยมหรือเขียนชัดๆว่า
00:15:42 → 00:15:44 มันสามารถเข้าไมโครเวฟได้นะครับถ้าเป็น
00:15:44 → 00:15:47 ถุงพลาสติกที่เราไปกินตามที่ต่างๆพวกนั้น
00:15:47 → 00:15:50 เนี่ยผมบอกเลยนะครับว่ามันเป็นถุงพลาสติก
00:15:50 → 00:15:51 ที่มันไม่มีการเขียนตราอะไรไว้ทั้งสิ้น
00:15:52 → 00:15:54 มันแปลว่ามันไม่น่าทนความร้อนอะไรได้หรอก
00:15:54 → 00:15:56 ครับเราก็ต้องอย่าไปกินมันบ่อยเพราะถ้า
00:15:56 → 00:15:57 เรากินเข้าไปแล้วเออมันเข้าร่างกายไปแล้ว
00:15:57 → 00:16:00 นะครับและและไอ้สารไมโครพลาสติกนั้นอ่า
00:16:00 → 00:16:03 มันอาจจะมีสารเคมีชนิดอื่นซึ่งอยู่ใน
00:16:03 → 00:16:06 พลาสติกแล้วก็ละลายปนไปด้วยนะครับทำให้
00:16:06 → 00:16:08 เราได้มีปัญหาเข้าไปกับร่างกายเราอีกนะ
00:16:08 → 00:16:11 ครับอาจจะเป็นก่อมเร็งนะครับจะทำให้ตับไต
00:16:11 → 00:16:14 หัวใจมีปัญหาระบบฮอร์โมนมีปัญหานะครับการ
00:16:14 → 00:16:17 พัฒนาสมองหรืออะไรพวกเนี้ยมีปัญหาได้เรา
00:16:17 → 00:16:19 อาจจะไม่รู้ในตอนนี้แต่ถ้าเรากินสะสมไป
00:16:19 → 00:16:21 เรื่อยๆมันก็อาจจะเกิดปัญหาขึ้นกับ
00:16:21 → 00:16:25 มนุษยชาติได้นะครับงั้นวิธีในการป้องกัน
00:16:25 → 00:16:27 หลีกเลี่ยงพลาสติกให้มากที่สุดถ้าดูการ
00:16:27 → 00:16:30 ใช้พลาสเอาเบอร์ 2 กับเบอร์ 5 นะครับถ้า
00:16:30 → 00:16:33 เราจะไปซื้อดูอันที่มันมี bpa ฟรีนะครับ
00:16:33 → 00:16:36 คือไม่มี B bpa ไม่มีสารทาเลสนะครับถ้า
00:16:36 → 00:16:39 เป็นไปได้นะครับทานอาหารให้หลากหลายอย่า
00:16:39 → 00:16:41 ไปทานแต่ของอย่างใดอย่างหนึ่งนะครับคิด
00:16:41 → 00:16:43 ว่าทานปลาแล้วจะปลอดภัยปลานี่แหละครับมัน
00:16:43 → 00:16:45 จะมีสารปัญหาพวกเนี้ยเยอะแยะเพราะว่าเรา
00:16:45 → 00:16:47 กินมันเข้าไปเยอะๆมันก็ได้สารพวกเนี้เข้า
00:16:47 → 00:16:50 ไปเยอะนะครับออกกำลังกายให้เหงื่อออกมัน
00:16:50 → 00:16:52 จะสามารถไล่เอาสารพวกนี้ออกไปได้บ้างนะ
00:16:52 → 00:16:54 ครับไมโครพลาสติกเมื่อเข้าสู่ร่างกายเรา
00:16:54 → 00:16:56 สามารถที่จะขับออกไปทางอุจจาระได้บ้างนะ
00:16:56 → 00:16:59 ครับบางบางส่วนก็ทางปัสสาวะได้แล้วก็ถ้า
00:16:59 → 00:17:01 เราเหงื่อออกเยอะๆมันจะพอขลับออกไปได้
00:17:01 → 00:17:05 บ้างนะครับโอเคนะครับวันนี้ก็ประมาณเท่า
00:17:05 → 00:17:07 นี้แล้วะกันเอ่อสัพท์ทางวิชาการบางอย่าง
00:17:07 → 00:17:09 เนี่ยผมจะขอลดไว้ในที่นี้คือคนที่เล่น
00:17:09 → 00:17:11 เรื่องไมโครพลาสติกจริงๆเนี่ยเาจะรู้เลย
00:17:11 → 00:17:14 ว่าไมโครพลาสติกคือเล็กกว่า 5 มมนะครับ
00:17:14 → 00:17:17 อ่าแต่มันจะมีชนิดที่เรียกว่านาโนพลาสติ
00:17:17 → 00:17:18 คือเล็กไปกว่านั้นอีกคือเล็กจิ๋วมันเล็ก
00:17:18 → 00:17:22 กว่า 1 ไมโครเมตรนะครับก็จะก็จะมีคำศัพท์
00:17:22 → 00:17:24 ที่มันแตกต่างกันไปแล้วก็อาจจะมีการดูด
00:17:24 → 00:17:26 ซึมการไปทำอะไรกับร่างกายที่มันแตกต่าง
00:17:26 → 00:17:28 กันไปบ้างนะครับตรงนี้ผมจะไม่ลงอะไ
00:17:28 → 00:17:30 ละเอียดแล้วะกันนะครับก็ละไว้ในสฐานที่
00:17:30 → 00:17:32 เข้าใจนะครับถ้าเกิดคนที่เป็นผู้เชี่ยว
00:17:32 → 00:17:35 ชาญมาฟังก็อ่าเข้าใจไว้นะครับว่าผมจะไม่
00:17:35 → 00:17:37 ได้กล่าวถึงตรงนั้นนะครับถ้าคนไหนมีคำถาม
00:17:37 → 00:17:39 อะไรก็สอบถามมาแล้วะกันนะครับวันนี้เท่า
00:17:39 → 00:17:44 นี้นะครับขอบคุณมากครับสวัสดีครับ