00:00:00 → 00:00:02 ถ้ามีผู้สูงอายุคนนึงมาพูดกับเราว่าเขา
00:00:02 → 00:00:05 อยู่ไปวันๆเงี้ยอารมณ์นึงที่เป็นปัญหาได้
00:00:05 → 00:00:08 คืออารมณ์เหงาครับเป็นหนึ่งในปัจจัยที่
00:00:08 → 00:00:11 ค่อนข้างใหญ่เลยเพราะว่ามันอาจจะนำไปสู่
00:00:11 → 00:00:14 ความเศร้าต่อไปได้ครับเรามองเห็นว่าปัญหา
00:00:14 → 00:00:17 จริงๆของผู้สูงอายุคือความเหงาและความ
00:00:17 → 00:00:20 เศร้าเนาะเรามาเรียนรู้กับการสื่อสารความ
00:00:20 → 00:00:22 รักกับหมอพีดีกว่าครับพี่ไกมันจะมีสิ่ง
00:00:22 → 00:00:24 นึงที่เรียกว่าภาษา
00:00:24 → 00:00:28 รักหมอประจำ
00:00:28 → 00:00:31 ตระกูลสำหรับท่านใดที่มีปัญหาสุขภาพไม่
00:00:31 → 00:00:33 ว่าจะเป็นออฟิ Syndrome เข่าเสื่อมหลัง
00:00:33 → 00:00:35 เสื่อมหรือผู้สูงอายุที่ต้องการเสริมความ
00:00:35 → 00:00:38 แข็งแรงของกล้ามเนื้อรวมไปถึงการใช้ชีวิต
00:00:38 → 00:00:40 ให้ดียิ่งขึ้นสามารถติดต่อพวกเราผ่านช่อง
00:00:40 → 00:00:43 ทาง mds service ฟิตเนสกายภาพได้ผ่าน
00:00:43 → 00:00:46 ช่องทางเบอร์ติดต่อข้างล่างหรือ Facebook
00:00:46 → 00:00:48 mds Fitness ไกภาพกระดูกและข้อ
00:00:48 → 00:00:51 เชียงใหม่สวัสดีครับยินดีต้อนรับสู่ราย
00:00:51 → 00:00:54 การหมอประจำตระกูลครับผมไก่ชวนฟินะครับ
00:00:54 → 00:00:57 วันศุกร์นี้ครับศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์
00:00:57 → 00:01:00 วันวาเลนไทน์ครับเราก็อยากจะให้ความสำคัญ
00:01:00 → 00:01:03 กับพ่อๆแม่ๆด้วยการส่งความรักให้พ่อๆแม่ๆ
00:01:03 → 00:01:06 ครับวันนี้เลยมีความพิเศษขึ้นมาเพราะว่า
00:01:06 → 00:01:07 เรื่องที่เราจะคุยกันวันนี้ครับเกี่ยวกับ
00:01:07 → 00:01:09 ความรู้สึกและจิตใจครับวันนี้ก็เลยจะมี
00:01:09 → 00:01:12 ความพิเศษที่มีหมอด้านจิตเวทเข้ามาคุยกับ
00:01:12 → 00:01:17 เราด้วยหมอพีนั่นเองครับผมสวัสดีครับหมอ
00:01:17 → 00:01:20 พีนะครับนายแพทย์พีกาณบางไทรครับตอนนี้
00:01:20 → 00:01:23 เป็นจิตแพทย์อยู่ที่ใส่ใจคลินิกครับแล้ว
00:01:23 → 00:01:26 ก็มีออกตรวจที่ศูนย์สรีพัโรงพยาบาลสวนดอก
00:01:26 → 00:01:29 ด้วยครับสวัสดีนะครับหมอพีครับครับผมและ
00:01:29 → 00:01:32 แน่นอนครับหมอประจำตระกูลของเราครับขาด
00:01:32 → 00:01:35 ไม่ได้เลยครับคนนี้ครับหมอเฟมครับผมครับ
00:01:35 → 00:01:38 สวัสดีครับหมอเฟมนะครับก็ไม่ได้เป็น
00:01:38 → 00:01:40 จิตแพทย์นะครับแต่อยากมาขอความรู้จาก
00:01:40 → 00:01:43 จิตแพทย์นะครับวันนี้ก็จะมาเป็นส่วนนึง
00:01:43 → 00:01:45 เหมือนพี่ไก่นะครับเพราะว่าเห็นพี่ไก่ถาม
00:01:45 → 00:01:47 มาเยอะละอ่าเป็นตัวแทนหมู่บ้านเยอะแล้ว
00:01:47 → 00:01:49 ครับเดี๋ยววันนี้ผมจะมาช่วยเป็นตัวแทน
00:01:49 → 00:01:51 หมู่บ้านนะครับในการสอบถามประเด็นปัญหา
00:01:51 → 00:01:54 ด้านสุขภาพจิตเพื่อให้พ่อๆแม่ๆหรือผู้สูง
00:01:54 → 00:01:56 อายุร่วมไปถึงในวันนี้นะครับผมคิดว่าน่า
00:01:56 → 00:01:58 จะเป็นประเด็นเกี่ยวกับเรื่องของความรัก
00:01:58 → 00:02:01 ความสัมพันธ์ในครอบครัวกัวด้วยนะครับซึ่ง
00:02:01 → 00:02:02 ประเด็นจะเป็นยังไงเดี๋ยวเรามาเริ่มกัน
00:02:02 → 00:02:04 เลยนะครับอย่างที่ทุกคนทราบกันวันนี้เป็น
00:02:04 → 00:02:07 วันวาเลนไทน์เนาะส่วนมากคนก็จะบอกรักแฟน
00:02:07 → 00:02:09 หรือบอกรักคู่ชีวิตนะครับจนบางทีเราละเลย
00:02:09 → 00:02:13 ที่จะบอกรักคนอีกกลุ่มหนึ่งที่อยู่ใกล้
00:02:13 → 00:02:15 ตัวเรานั่นก็คือพ่อๆแม่ๆหรือว่าปู่ย่าตา
00:02:15 → 00:02:18 ยายของเราทีนี้ผมอยากถามหมอพีครับว่าใน
00:02:18 → 00:02:21 กลุ่มผู้สูงอายุที่เขาไม่ค่อยได้รับการ
00:02:21 → 00:02:25 บอกรักจากลูกๆหลานๆแบบเยครับคนกลุ่มเนี้ย
00:02:25 → 00:02:27 จากประสบการณ์ของหมอพีอ่ะครับเขาจะมีความ
00:02:27 → 00:02:30 รู้สึกทางอารมณ์หรือว่าทางด้านจิตใจใน
00:02:30 → 00:02:34 เรื่องใดบ้างครับถ้าสมมุติว่าผู้สูงอายุ
00:02:34 → 00:02:37 นะครับขาดการแสดงความรักจากลูกๆเยอะๆหรือ
00:02:37 → 00:02:40 ว่าบ่อยๆเข้าเนี่ยก็อาจจะอ่ามีอารมณ์บาง
00:02:40 → 00:02:43 อย่างที่อาจจะเจอได้บ่อยๆนะครับอารมณ์นึง
00:02:43 → 00:02:46 ที่เป็นปัญหาได้นะครับแล้วก็หลายคนอาจจะ
00:02:46 → 00:02:48 เจอแม้ว่าจะไม่ใช่ผู้สูงอายุก็ตามนะครับ
00:02:48 → 00:02:51 คืออารมณ์เหงาครับอารมณ์เหงาเนี่ยเป็น
00:02:51 → 00:02:54 หนึ่งในปัจจัยที่ค่อนข้างใหญ่เลยโดยเฉพาะ
00:02:54 → 00:02:57 ในกลุ่มผู้สูงอายุด้วยเพราะว่ามันอาจจะนำ
00:02:57 → 00:03:00 ไปสู่ความเศร้าต่อไปได้ครับความเหงาความ
00:03:00 → 00:03:03 เศร้าอ่ะอย่างประเด็นของพี่ครับน้องฟีคือ
00:03:03 → 00:03:05 อย่างสมมุติเวลาเราตรวจคนไข้ที่โรงพยาบาล
00:03:05 → 00:03:08 ใช่มั้ยครับพี่ไกเราก็จะพบว่าส่วนนึงเลย
00:03:08 → 00:03:10 อ่ะผู้สูงอายุส่วนมากเลยมักจะมาตรวจคน
00:03:10 → 00:03:13 เดียวอ่าอาจจะต้องขับรถมาบางคนนั่งรถมา
00:03:13 → 00:03:16 ตรวจคนเดียวครับทีเนี้ยก็ไม่ได้มีลูกหลาน
00:03:16 → 00:03:18 มาเนาะแลสิ่งที่ผมจะได้ยินอยู่สม่ำเสมอ
00:03:18 → 00:03:22 เลยก็คือเขาจะพูดคำว่าก็อยู่ไปวันๆอืใช้
00:03:22 → 00:03:25 ชีวิตไปวันๆอยู่ไปวันๆนะครับซึ่งในส่วน
00:03:25 → 00:03:27 ตัวผมรู้สึกว่าตรงเนี้เป็นปัญหานะในการ
00:03:27 → 00:03:30 รักษาคนไข้หรือว่าการให้ความช่วยเหลือ
00:03:30 → 00:03:32 เนาะเพราะคนไข้ที่ขาดกำลังใจอ่ะผมมองว่า
00:03:32 → 00:03:35 ขาดกำลังใจนะครับมันทำให้ผลลัพธ์ในการ
00:03:35 → 00:03:38 รักษาเนี่ยอาจจะทำได้ยากมากขึ้นทำให้ดี
00:03:38 → 00:03:40 ได้ยากมากขึ้นครับในส่วนนี้เองทาง
00:03:40 → 00:03:42 จิตแพทย์เนี่ยเามองมั้ยครับว่าสิ่งนี้
00:03:42 → 00:03:44 เป็นปัญหาของผู้สูงอายุครับจริงๆอย่างที่
00:03:44 → 00:03:48 พี่เฟรมพูดนะครับว่าบางทีเราได้ยินผู้สูง
00:03:48 → 00:03:51 อายุเนาะพูดออกมาว่าแบบอยู่ไปวันๆอย่าง
00:03:51 → 00:03:53 เงี้ยเราก็อาจจะรู้สึกว่าเขาหมดกำลังใจ
00:03:53 → 00:03:55 ได้ซึ่งจริงๆแล้วนะครับก็เป็นหนึ่งใน
00:03:55 → 00:03:57 สาเหตุหลักเลยแหละที่อาจจะทำให้เขาพูดออก
00:03:57 → 00:04:00 มาอย่างนั้นสาเหตุอื่นๆก็ยกตัวอย่างเช่น
00:04:00 → 00:04:03 บางทีอาจจะรู้สึกว่าขาดเป้าหมายเนาะอย่าง
00:04:03 → 00:04:07 เช่นบางคนอาจจะตั้งใจอยู่เพื่ออะไรบาง
00:04:07 → 00:04:11 อย่างนะครับอยู่กับคู่ครองอยู่กับลูกหลาน
00:04:11 → 00:04:13 หรืออะไรเงี้ยแล้วพอเป้าหมายนั้นไม่เป็น
00:04:13 → 00:04:18 ไปตามที่คิดไว้ก็อาจจะรู้สึกว่าไม่รู้จะ
00:04:18 → 00:04:20 ใช้ชีวิตต่อไปเรื่อยๆเพราะว่าอะไรก็เลย
00:04:20 → 00:04:22 อาจจะพูดว่าอยู่ไปวันๆซึ่งตรงนี้มันก็อาจ
00:04:22 → 00:04:24 จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ได้เหมือนกันครับ
00:04:24 → 00:04:26 เมื่อกี้ผมติดใจกับประโยคที่ว่าผู้สูง
00:04:26 → 00:04:29 อายุขาดเป้าหมายอ่าขอมาพูดประเด็นนี้ก่อน
00:04:29 → 00:04:32 ได้มยว่าเออจริงๆแล้วการที่ผู้สูงอายุ
00:04:32 → 00:04:35 แสดงบุคลิกบางอย่างหรือพฤติกรรมบางอย่าง
00:04:35 → 00:04:37 เนี่ยอาจจะบ่งบอกว่าเขาขาดเป้าหมายก็ได้
00:04:37 → 00:04:40 ถูกมยการขาดเป้าหมายโดยเฉพาะด้านสุขภาพ
00:04:40 → 00:04:43 เนี่ยยิ่งทำให้ส่งผลแย่มากเลยใช่มยครับที
00:04:43 → 00:04:46 นี้ถ้าเราดูแลพ่อๆแม่ๆหรือว่าบางครั้งอาจ
00:04:46 → 00:04:50 จะได้โทรไปหาพ่อแม่บ้างเงี้ยเราจะพอเช็ค
00:04:50 → 00:04:53 ได้ไหมมว่ามันมีสัญญาณอะไรที่บ่งบอกว่า
00:04:53 → 00:04:55 ตอนนี้ท่านกำลังขาดเป้าหมายอยู่เงี้ยครับ
00:04:55 → 00:04:58 อืที่อยากให้สังเกตเป็นหลักคือความ
00:04:58 → 00:05:01 เปลี่ยนแปลงนะครับครับหมายถึงว่าความ
00:05:01 → 00:05:03 เปลี่ยนแปลงเนี่ยอย่างเช่นบางคนเป็นคนพูด
00:05:03 → 00:05:06 เยอะอยู่เดิมถ้ายังพูดเยอะประมาณนี้อยู่
00:05:06 → 00:05:08 นะครับไม่ได้เปลี่ยนไปเราก็รู้สึกว่า
00:05:08 → 00:05:11 อันเนี้ยน่าจะยังไม่มีสัญญาณที่ชี้ชัดแต่
00:05:11 → 00:05:14 ถ้าเริ่มพูดน้อยลงหรือตรงกันข้ามพูดเยอะ
00:05:14 → 00:05:17 อยู่แล้วพูดมากขึ้นไปอีกนะครับอาจจะอยู่
00:05:17 → 00:05:19 ในระดับที่ขัดได้ยากหรืออะไรประมาณนี้อัน
00:05:19 → 00:05:22 นี้ก็คือความเปลี่ยนแปลงนะครับไม่ว่าจะ
00:05:22 → 00:05:25 เป็นการพูดการกินกินเยอะขึ้นหรือกินน้อย
00:05:25 → 00:05:28 ลงเนาะการนอนนะครับนอนเยอะขึ้นมากๆเลยแตก
00:05:29 → 00:05:31 ต่างจากเมื่อก่อนก็ตามหรือว่านอนน้อยลงนะ
00:05:32 → 00:05:34 ครับรวมถึงการเข้าสังคมหรือการเก็บตัว
00:05:34 → 00:05:38 ด้วยบางคนอาจจะไม่ได้บอกมาตรงๆครับแต่ว่า
00:05:38 → 00:05:40 จากเมื่อก่อนที่เป็นคนแบบร่าเริงออกสังคม
00:05:41 → 00:05:42 หรืออะไรอย่างเงี้ครับก็เอาแต่เก็บตัว
00:05:42 → 00:05:47 อยู่แต่ในบ้านอืแสดงว่าจริงๆแล้วพฤติกรรม
00:05:47 → 00:05:49 เนี่ยนอกจากจะส่งผลต่อสุขภาพกายยังเป็น
00:05:49 → 00:05:52 สัญญาณที่บ่งบอกถึงสุขภาพใจด้วยโอโหอัน
00:05:52 → 00:05:55 นี้น่าสนใจนะครับพี่ไก่อย่างครอบครัวผมก็
00:05:55 → 00:05:58 เคยเจอนะครับเป็นคุณตาแต่ว่าท่านเสียไปละ
00:05:58 → 00:06:00 ก่อนหน้าที่ท่านจะป่วยครับครับท่านก็จะ
00:06:00 → 00:06:03 เหมือนเล่าเรื่องเดิมๆซ้ำๆซ้ำๆเวลาเราโทร
00:06:03 → 00:06:06 หาหรือว่าคนในครอบครัวโทรหาเงี้ยเค้าก็จะ
00:06:06 → 00:06:09 พูดเรื่องเดิมๆเดิมๆเดิมๆจนเราสังเกตกัน
00:06:09 → 00:06:12 เองแล้วว่าโอเคนั่นคือสิ่งที่ผิดปกติ
00:06:12 → 00:06:14 อย่างการพูดเรื่องเดิมๆก็อาจจะเจอได้
00:06:14 → 00:06:17 เหมือนกันเป็นสัญญาณบอกได้ในหลายๆอย่าง
00:06:17 → 00:06:20 เลยครับ 1 คืออาจจะเป็นการทำงานของสมอง
00:06:20 → 00:06:22 บางส่วนที่บกพร่องไปอาจจะเป็นตัวที่ระบุ
00:06:23 → 00:06:25 ได้ว่ากำลังเริ่มมีภาวะสมองเสื่อมหรือ
00:06:25 → 00:06:28 เปล่าหรือมีพฤติกรรมบางอย่างที่เปลี่ยน
00:06:28 → 00:06:30 แปลงไปบางทีเขาอาจจะคิดถึงเนาะก็เลยพูด
00:06:30 → 00:06:32 เรื่องเดิมๆซ้ำๆบ่อยๆก็อาจจะดูเรื่อง
00:06:32 → 00:06:35 อารมณ์อะไรอย่างนี้ร่วมด้วยครับครับผมเอา
00:06:36 → 00:06:38 คำพูดของหมอเฟมประโยคที่พูดมาทั้งหมด
00:06:38 → 00:06:40 เมื่อกี้กับเอามารวมกันของหมอพีผมว่าคำ
00:06:40 → 00:06:43 ว่าอยู่ไปวันๆก็จะมาเข้ากับที่หมอพีพูด
00:06:43 → 00:06:46 ตรงที่ว่าผู้สูงอายุกลุ่มที่พูดว่าอยู่ไป
00:06:46 → 00:06:48 วันๆนี่เามีความเหงาอยู่ในตัวใช่มั้ยครับ
00:06:48 → 00:06:52 อืประเด็นเรื่องอยู่ไปวันๆกับความเหงาตรง
00:06:52 → 00:06:54 นี้ก็น่าสนใจครับเพราะว่าความเหงาเนี่ย
00:06:54 → 00:06:58 บางทีมันรุนแรงจนทำให้เรารู้สึกว่าไม่รู้
00:06:58 → 00:07:00 จะอยู่ทำไมถ้าต้องอยู่คนเดีวอย่างงนี้
00:07:00 → 00:07:02 เนาะนะครับแต่ทีนี้ผมขยายความเรื่องความ
00:07:02 → 00:07:05 เหงานิดนึงตัวความเหงาเองเนี่ยมันไม่ได้
00:07:05 → 00:07:07 แปลว่าการอยู่คนเดียวอย่างเดียวนะครับ
00:07:07 → 00:07:11 เพราะบางทีเรานั่งอยู่ท่ามกลางคนมากมาย
00:07:11 → 00:07:13 เลยเนาะแต่เราก็ยังรู้สึกเหงาได้เคยเป็น
00:07:13 → 00:07:16 ไหมครับออออาจจะมีบ้างเพราะเรารู้สึกไม่
00:07:16 → 00:07:20 Connect กับคนอื่นครับผมแล้วก็บางครั้ง
00:07:20 → 00:07:22 เราไม่ได้อยู่กับใครเลยเราอยู่คนเดียว
00:07:22 → 00:07:25 ครับแต่ว่าเราไม่เหงาเรารู้สึกว่าเรา
00:07:25 → 00:07:28 สามารถที่จะเชื่อมโยงประโยคนึงที่พี่ไก่
00:07:28 → 00:07:31 พูดมาเมื่อกี้เลยที่ผมชอบคือคำว่ารู้สึก
00:07:31 → 00:07:33 ว่า Connect กับคนอื่นหนึ่งในคีย์เวิร์ด
00:07:33 → 00:07:36 ของความเหงาคืออันนี้แหละครับก็คือว่ามัน
00:07:36 → 00:07:39 สามารถที่จะเกิดขึ้นได้ถ้าเรารู้สึกไม่
00:07:39 → 00:07:42 เชื่อมโยงหรือว่าไม่ Connect กับใครก็ตาม
00:07:42 → 00:07:45 ถ้าเราอยู่กับคนอื่นมากมายแล้วเรารู้สึก
00:07:45 → 00:07:48 เชื่อมโยงกับเขาความเหงานั้นก็จะไม่มาอฮ
00:07:48 → 00:07:50 หรือถ้าเราอยู่คนเดียวแล้วเราเชื่อมโยง
00:07:50 → 00:07:52 กับตัวเองได้มันก็ไม่มาเหมือนกันครับใน
00:07:52 → 00:07:55 ทางตรงกันข้ามถ้าเราอยู่กับคนอื่นมากมาย
00:07:55 → 00:07:57 แต่เราเชื่อมโยงกับใครไม่ได้เลยเราก็อาจ
00:07:57 → 00:08:00 จะเหงาได้อืแงว่าคววามเหงาเนี่ยเป็นสิ่ง
00:08:00 → 00:08:03 ที่ส่วนตัวจะต้องเป็นคนกำหนดเองถูกมมครับ
00:08:03 → 00:08:05 ว่าเราจะรู้สึกว่าเรามีการ Connect กับ
00:08:05 → 00:08:07 ใครหรือเปล่าหรือว่าเรารู้สึกว่าต่อให้
00:08:07 → 00:08:09 ไม่ต้อง Connect กับใครเรา Connect กับ
00:08:09 → 00:08:11 ตัวเองได้อันนี้ก็จะทำให้เราไม่เหงาเนาะ
00:08:11 → 00:08:14 อย่างเช่นพี่ไก่บอกให้ผมทำวันเสาร์จะเหงา
00:08:14 → 00:08:16 ได้ยังไงใช่ไหมมครับถ้าสมมุติว่าใครดู
00:08:16 → 00:08:18 แล้วยังเหงาอยู่นะครับแสดงว่าอาจจะยังไม่
00:08:18 → 00:08:20 ได้ Connect กับเรานะครับพี่ไก่ก็มา
00:08:20 → 00:08:22 Connect กับเราได้ทุกวันเสาร์ตอน 19 น
00:08:23 → 00:08:27 ครับใช่มครับอ่าซึ่งส่วนตัวก็คิดว่าอ่ะ
00:08:27 → 00:08:29 เราเข้าใจแบบนี้เนาะเราก็พยายามหาช่องทาง
00:08:29 → 00:08:31 ในการที่เป็นหมอเราก็ช่วยได้ถูกมั้ยครับ
00:08:31 → 00:08:34 เราหา activity หากิจกรรมหรือว่าเพิ่ม
00:08:34 → 00:08:36 ช่องทางในการที่ให้คนน่ะมา Connect กับ
00:08:36 → 00:08:38 เราได้มากขึ้นอันนี้ก็เป็นวิธีการนึงใช่่
00:08:38 → 00:08:40 ไหมมครับที่เราสามารถบรรเทาความเหงาหรือ
00:08:40 → 00:08:43 ว่าความรู้สึกว่าไม่มีใครรู้สึกอยู่ไปวัน
00:08:44 → 00:08:47 ๆเนี่ยตรงนี้ก็จะพอแก้ได้ใช่มั้ครับจริงๆ
00:08:47 → 00:08:49 ผมมองว่าแก้ได้ดีเลยนะครับอย่างสมมุติว่า
00:08:49 → 00:08:53 อ่าอย่างกิจกรรมที่พี่เฟมพูดมาเนาะใน
00:08:53 → 00:08:55 เรื่องของการไลฟ์วันเสาร์หรืออะไรอย่าง
00:08:55 → 00:08:58 เงี้ยถ้าสมมุติว่ามาดูแล้วเชื่อมโยงได้
00:08:58 → 00:09:01 กับทั้งหมอเฟมแล้วแล้วก็พี่ไก่ผมว่าความ
00:09:01 → 00:09:03 เหงาของคนที่อยู่คนเดียวก็น่าจะลดลงไป
00:09:04 → 00:09:07 ด้วยเหมือนกันแล้วถ้าถ้าเป็นในเชิงของทาง
00:09:07 → 00:09:09 การแพทย์ในการรักษาครับครับถ้ามีผู้สูง
00:09:10 → 00:09:12 อายุคนนึงมาพูดกับเราว่าเอยู่ไปวันๆเงี้ย
00:09:12 → 00:09:16 ถ้าเราต้องรักษาบุคคลคนนั้นวิธีการในการ
00:09:16 → 00:09:18 รักษาจะต้องรักษายังไงอ่ะครับหรือว่าเค้า
00:09:18 → 00:09:21 มีอะไรแอบแฝงอยู่ถึงทำให้เขาคิดแบบนี้
00:09:21 → 00:09:24 ครับนอกจากความเหงาครับผมก็อาจจะต้องดู
00:09:24 → 00:09:27 ก่อนว่าความหมายของคำว่าอยู่ไปวันๆของเขา
00:09:27 → 00:09:29 มันคือความเหงาจริงหรือเปล่าหรือว่ามันมี
00:09:29 → 00:09:31 อย่างอื่นด้วยอีกปัจจัยนึงที่ค่อนข้าง
00:09:32 → 00:09:34 ใหญ่ในผู้สูงอายุแล้วก็เจอได้บ่อยกว่า
00:09:34 → 00:09:38 บุคคลทั่วไปคือความเศร้าครับอืความเศร้า
00:09:38 → 00:09:41 เนี้ยครับมันส่งผลไปถึงขั้นตอมใจได้เลย
00:09:41 → 00:09:43 มั้ยครับหรือหรือหรือถึงขั้นแบบตอมใจจน
00:09:43 → 00:09:46 เสียชีวิตอย่างเงี้ยเป็นไปได้มครับอืน่า
00:09:46 → 00:09:49 สนใจมากเลยครับคำนี้คำว่าตอมใจจริงๆมัน
00:09:49 → 00:09:52 อาจจะไม่ได้เ่ามีนิยามที่ตายตัวหรือว่า
00:09:52 → 00:09:55 ได้รับการพูดถึงแบบแพ่หลอ่ะะนะครับแต่ว่า
00:09:55 → 00:09:57 เวลาเราได้ยินคำเนี้ยเราก็มักจะนึกถึงคน
00:09:57 → 00:10:01 ที่อาจจะดูแล้วรู้สึกว่าซึมลงหรือว่าเฉา
00:10:01 → 00:10:04 ลงรู้สึกว่าการดูแลตัวเองอะไรต่างๆอาจจะ
00:10:04 → 00:10:08 ลดลงพวกเยครับซึ่งถ้าสมมุติลองนึกภาพตาม
00:10:08 → 00:10:11 นะครับถ้าเราแบบไม่ได้ทานข้าวการนอนก็ไม่
00:10:11 → 00:10:14 ดีหรืออะไรอย่างเงี้ยยิ่งเป็นผู้สูงอายุ
00:10:14 → 00:10:17 ด้วยสุขภาพก็อาจจะแย่ลงได้บางครั้งก็อาจ
00:10:17 → 00:10:20 จะทำให้เจ็บป่วยได้ง่ายขึ้นซึ่งถึงจุด
00:10:20 → 00:10:22 นั้นก็อาจจะทำให้เสียชีวิตได้เหมือนกัน
00:10:22 → 00:10:26 ครับอการตอมใจจนี่เป็นสิ่งที่สำคัญนะครับ
00:10:26 → 00:10:28 หลายๆท่านไม่รู้จักภาวะซึมเศร้าในผู้สูง
00:10:28 → 00:10:30 อายุเนาะเพราะว่าไม่ใช่บุคลากรทางการ
00:10:30 → 00:10:33 แพทย์แต่ว่าจะได้ยินบ่อยๆหรือบางครั้งดู
00:10:33 → 00:10:36 ละครดูอะไรเนี่ยก็จะเห็นคำว่าตรอมใจตาย
00:10:36 → 00:10:39 หรือบางครั้งอ่านข่าวว่าอ่าการสูญเสียผม
00:10:39 → 00:10:42 เชื่อว่าเวลาผู้สูงอายุเนี่ยมักจะมีการ
00:10:42 → 00:10:45 สูญเสียเป็นสิ่งสำคัญสิ่งหนึ่งเลยที่ทำ
00:10:45 → 00:10:47 ให้เกิดภาวะซึมเศร้าได้ถูกมั้ยครับที
00:10:47 → 00:10:49 เนี้ยผมอยากรู้ว่าจริงๆแล้วในผู้สูงอายุ
00:10:49 → 00:10:53 เนี่ยคำว่าตรอมใจกับคำว่าเศร้าเนี่ยมัน
00:10:53 → 00:10:58 เจอเยอะมครับถ้าพูดถึงตัวเอาเป็นตัวคำว่า
00:10:58 → 00:11:00 เศร้าเลยแล้วกันนะครับครับตัวคำว่าเศร้า
00:11:00 → 00:11:03 เนี่ยถ้าเทียบกันละในผู้สูงอายุกับใน
00:11:03 → 00:11:05 ประชากรทั่วไปเนี่ยต้องถือว่าผู้สูงอายุ
00:11:05 → 00:11:08 พบได้บ่อยกว่ามากนะครับเราอาจจะไม่ได้มี
00:11:08 → 00:11:10 เกณฑ์วัดความเศร้ากันแน่นอนเพราะว่าจริงๆ
00:11:10 → 00:11:12 ชีวิตเราก็อาจจะเจอความเศร้าได้ทุกวัน
00:11:12 → 00:11:14 เนาะนะครับแต่ถ้าวัดให้มันเป็นเกณฑ์ชัด
00:11:14 → 00:11:18 เจนเขาคก็จะมีเกณฑ์อย่างเช่นอ่าการวัดแบบ
00:11:18 → 00:11:20 ทดสอบซึมเศร้าหรืออะไรพวกนี้ยครับซึ่งเขา
00:11:20 → 00:11:23 ก็อาจจะเก็บเป็นสถิติได้ผมยกตัวอย่างง่าย
00:11:24 → 00:11:27 ๆว่าถ้าสมมุติในคนทั่วไปเนาะโรคซึมเศร้า
00:11:27 → 00:11:30 อาจจะพบได้ประมาณสัก 10% นะครับในผู้สูง
00:11:30 → 00:11:33 อายุเนี่ยเฉลี่ยพบได้เยอะกว่านั้นมากนะ
00:11:33 → 00:11:37 ครับแล้วแต่การศึกษาบางการศึกษาพบ 20%
00:11:37 → 00:11:39 บางั้งศึกษา 30 หรือไปจนถึง 40% ก็มี
00:11:39 → 00:11:42 เหมือนกันโอโหอเยอะมากเลยนะครับแสดงว่า
00:11:42 → 00:11:45 เราไม่รู้เลยนะครับว่าพ่อๆแม่ๆของเรา
00:11:45 → 00:11:47 เนี่ยจะมีภาวะนี้ซ่อนอยู่หรือเปล่าเพราะ
00:11:47 → 00:11:50 ถ้ามันเจอ 40% จริงเนี่ยแปลว่า 10 คนนี้
00:11:50 → 00:11:53 มี 4 คนแล้วนะครับอือืเยอะมากๆแสดงว่า
00:11:53 → 00:11:56 เป็นปัญหาที่สำคัญแล้วเราจะเอาชนะความ
00:11:56 → 00:11:59 เหงาก็ดีนะความเศร้าก็ดีนะครับในในมุมของ
00:11:59 → 00:12:02 จิตแพทย์ถ้าสมมุติอ่ะผมเข้าใจว่าเวลาเรา
00:12:02 → 00:12:04 เป็นหมอเนี่ยเราจะต้องทำการเ้าเรียกว่า
00:12:04 → 00:12:08 รักษาเนาะแต่ว่าในชีวิตจริง่ะครับคนที่จะ
00:12:08 → 00:12:10 อยู่ใกล้ชิดกับคนที่เขามีปัญหามากที่สุด
00:12:10 → 00:12:14 อ่ะคือครอบครัวหรือคนที่ดูแลนะทีเนี้ยใน
00:12:14 → 00:12:16 ในมุมมองของหมออครับอยากอยากจะถามว่าเรา
00:12:17 → 00:12:20 พอจะมีเคล็ดลับมครับที่คิดว่าง่ายแล้วก็
00:12:20 → 00:12:22 สามารถให้ทุกท่านนำไปใช้ได้เลยในการที่
00:12:22 → 00:12:24 เราจะดูแลทั้งความเหงาและความเศร้าอ่ะ
00:12:24 → 00:12:28 ครับอืมอย่างทั้งความเหงาและความเศร้านะ
00:12:28 → 00:12:31 ครับความเหงาก็คือการขาดการเชื่อมโยงเนาะ
00:12:31 → 00:12:34 ความเศร้าก็อาจจะเกิดได้จากหลายสาเหตุเลย
00:12:34 → 00:12:37 นะครับอันนี้ถ้าให้พูดน่าจะยาวเลยครับแต่
00:12:37 → 00:12:40 สรุปสั้นๆแล้วกันว่า 2 ตัวเนี้ยมันอาจจะ
00:12:40 → 00:12:42 เป็นอารมณ์ในเชิงลบมากกว่านะครับเราก็อาจ
00:12:43 → 00:12:45 จะเพิ่มอารมณ์ในเชิงบวกเพิ่มขึ้นมาใช่
00:12:45 → 00:12:49 เพื่อช่วยให้มีปัจจัยที่สามารถรับมือกับ
00:12:49 → 00:12:51 สิ่งต่างๆเหล่านี้ได้ดีขึ้นรวมไปถึงอีก
00:12:51 → 00:12:54 อย่างนึงที่รับมือได้ดีนะครับแล้วก็คิด
00:12:54 → 00:12:57 ว่าหลายๆคนที่ติดตามช่องเนี้ยน่าจะทำกัน
00:12:57 → 00:13:00 อยู่ด้วยคือการออกกำลังกายครับอืทิ้งท้าย
00:13:00 → 00:13:02 ไว้ดีนะครับเดี๋ยวเรื่องนี้ต้องขยายต่อ
00:13:02 → 00:13:05 ครับแต่ทีนี้ผมอยากจะมาคุยในประเด็นของ
00:13:05 → 00:13:08 พลังความบวกครับเพราะว่าหลายๆคนอาจจะเข้า
00:13:08 → 00:13:10 ใจว่าเอ๊เป็นการคิดบวกหรือเปล่าจะให้คิด
00:13:10 → 00:13:13 ในแง่ดีอย่างเดียวหรือเปล่าเนาะแต่ผมว่า
00:13:13 → 00:13:15 วันนี้วันแห่งความรักอ่ะจะเป็นไปได้ไห
00:13:15 → 00:13:18 ครับที่พลังบวกนั้นน่ะคือการมอบความรัก
00:13:18 → 00:13:22 หรือว่าการบอกรักกันันนี้ถูกไครับครับ
00:13:22 → 00:13:25 สามารถทำได้มให้กับผู้สูงอายุทำได้ครับทำ
00:13:25 → 00:13:29 ได้เอ่อโดยส่วนตัวเราคิดว่าส่งเสริมให้ทำ
00:13:29 → 00:13:31 ด้วยนะนะครับเพราะว่าบางทีเหมือนกับผู้
00:13:31 → 00:13:33 สูงอายุที่อาจจะเศร้าอยู่หรือขาดการ
00:13:33 → 00:13:36 เชื่อมโยงนะครับถ้ามีใครที่เข้ามาแสดง
00:13:36 → 00:13:39 ความรักหรือทำให้เขารู้สึกว่าสามารถที่จะ
00:13:39 → 00:13:42 เชื่อมโยงถึงกันได้พวกความเศร้ากับความ
00:13:42 → 00:13:45 เหงาก็ดีขึ้นได้อ่าแสดงว่าวันนี้ครับพี่
00:13:45 → 00:13:49 ไกเราต้องมาฝึกการเชื่อมโยงความรักให้กัน
00:13:49 → 00:13:52 แล้วล่ะครับทำยังไงครับเป็นที่มาแล้วครับ
00:13:52 → 00:13:54 วันนี้ก็ต้องถามหมอพีนะครับถามผมก็ไม่รู้
00:13:54 → 00:13:57 นะพี่ไกอ่ะแต่ว่าพูดอย่างงี้ครับถ้าถ้า
00:13:57 → 00:14:00 ถ้าก็มองความรักเป็นเหมือนการสื่อสารเนาะ
00:14:00 → 00:14:02 ครับอ่ามันก็ต้องมีทั้งผู้รับสารถูกมั้ย
00:14:02 → 00:14:05 ครับแล้วก็ผู้สงสารเนาะอ่ะในประเด็นวัน
00:14:05 → 00:14:07 นี้ขอสรุปคร่าวๆก่อนว่าเรามองเห็นว่า
00:14:08 → 00:14:11 ปัญหาจริงๆของผู้สูงอายุคือความเหงาและ
00:14:11 → 00:14:13 ความเศร้าเนาะซึ่งความเหงาก็อาจจะทำให้
00:14:13 → 00:14:17 ผู้สูงอายุขาดเป้าหมายแล้วก็อาจจะส่งผลทำ
00:14:17 → 00:14:19 ให้การขาดเป้าหมายด้านสุขภาพก็จะเป็นการ
00:14:19 → 00:14:22 ที่ทำให้สุดท้ายสุขภาพก็ไม่ดีไม่รู้จะ
00:14:22 → 00:14:24 อยู่ไปทำไมถูกมั้ยครับรวมไปถึงความเศร้า
00:14:24 → 00:14:27 เนี่ยถ้าเป็นมากๆก็กลายเป็นปัญหาซึ่งส่ง
00:14:27 → 00:14:31 ผลทั้งร่างกายและจิตใจเนาะซึ่งพวกเรามอง
00:14:31 → 00:14:33 ว่าการที่เราจะดูแลคนเหล่านี้ได้ก็ต้อง
00:14:33 → 00:14:36 ใช้การสื่อสารทางด้านความรักถูกมั้ยครับ
00:14:36 → 00:14:39 อ่าและแน่นอนครับตอนนี้เรามาเรียนรู้กับ
00:14:39 → 00:14:41 การสื่อสารความรักกับหมอพีดีกว่าครับพี่
00:14:41 → 00:14:43 ไก่อ่ะปกติพี่ไก่แสดงความรักกับคุณพ่อคุณ
00:14:43 → 00:14:46 แม่ยังไงบ้างผมถามก่อนเผื่อจะได้ให้หมอพี
00:14:46 → 00:14:50 บอกว่าพี่ไก่ทำถูกหรือเปล่าถ้าผมด้วยความ
00:14:50 → 00:14:53 ที่ผมเป็นคนที่ค่อนข้างจะสูงกว่าคนในบ้าน
00:14:53 → 00:14:56 แล้วกันสูงกว่าคนในบ้านหน่อยผมก็จะกอด
00:14:56 → 00:14:59 แล้วก็ทุกครั้งก็จะหอมที่หน้าผากออเพราะเ
00:14:59 → 00:15:02 จะอยู่ในดับพอดีก็หอมที่หน้าผาอืแทบทุก
00:15:02 → 00:15:04 ครั้งเวลาที่กลับบ้านหรืออะไรอย่างเงี้ย
00:15:04 → 00:15:07 ครับอืหมอเฟ่ะครับผมรอครับของผมเนี่ยตั้ง
00:15:07 → 00:15:10 แต่เด็กเลยคือตั้งธรรมเนียมไว้เลยครับว่า
00:15:10 → 00:15:14 โอเคก่อนนอนพูดกนทอ่าหรือว่าให้อยู่บ้าน
00:15:14 → 00:15:17 ด้วยกันก็จะไปกอดกันทุกคืนก่อนนอนนะครับ
00:15:17 → 00:15:19 อันนี้ก็คือเป็นธรรมเนียมที่ทำมาตั้งแต่
00:15:19 → 00:15:21 เด็กๆแล้วพี่ไก่ก็ก็ผมก็คิดว่าอันนี้ก็
00:15:21 → 00:15:24 เป็นการสื่อสารความรักนะทีเยครับในในมุม
00:15:24 → 00:15:27 ของหมอพีครับการสื่อสารความรักเนี่ยมันมี
00:15:27 → 00:15:29 รายละเอียดยังไงบ้างครับที่ผู้ชมทางบ้าน
00:15:29 → 00:15:33 เนี่ยอาจจะมองข้ามไปหรือว่าทำอยู่แล้วแต่
00:15:33 → 00:15:35 ไม่เห็นได้ผลเลยเออมันมีรายละเอียดยังไง
00:15:35 → 00:15:38 อ่ะครับอที่ทั้ง 2 ท่านยกตัวอย่างมานะ
00:15:38 → 00:15:41 ครับถือว่าเป็นตัวอย่างที่ดีมากๆเลยในการ
00:15:41 → 00:15:43 ที่ให้เห็นว่าจริงๆความรักมันไม่จำเป็น
00:15:43 → 00:15:46 ต้องแสดงออกรูปแบบเดียวนะครับการแสดงออก
00:15:46 → 00:15:49 ว่าเรารักใครสักคนเนี่ยมันมีหลายรูปแบบ
00:15:49 → 00:15:52 ครับหรือว่ามันจะมีสิ่งนึงที่เรียกว่า
00:15:52 → 00:15:56 ภาษารักภาษารักใช่เคยได้ยินมั้ยครับอืเคย
00:15:56 → 00:15:59 เห็นแต่ในนิยายอ่ะครับผมเออประมาณในนิยาย
00:15:59 → 00:16:02 เราพูดเหรอพูดผมรักหมอเฟมนะครับอย่างงี้
00:16:02 → 00:16:05 ใช่มั้ยเฮ้ยอันนี้ก็เกินไปนะครับพี่ไก๋
00:16:05 → 00:16:08 แต่ผมคิดว่าบางคนน่ะก็พอเป็นครอบครัว
00:16:08 → 00:16:10 เนี่ยมันพูดยากนะอย่างสมมุติเราเป็นผู้
00:16:11 → 00:16:14 ชายเงี้ยจะไปแบบแสดงความรักกับแม่มากๆ
00:16:14 → 00:16:18 อะไรเงี้ยถ้าถ้าถ้าไม่เคยทำหรือไม่ไม่ไม่
00:16:18 → 00:16:20 ใช่บุคลิกที่จะทำอ่ะก็อาจจะทำไม่ได้เนาะ
00:16:20 → 00:16:24 ภาษารักคำว่าภาษาเนาะอย่างที่พี่ไก่พูดมา
00:16:24 → 00:16:27 เมื่อกี้ว่าแบบจำเป็นจะต้องเป็นการบอกกัน
00:16:27 → 00:16:29 ผ่านคำพูดหรือเปล่าเราเราอาจจะเข้าใจ
00:16:29 → 00:16:31 อย่างนั้นเพราะมันมีคำว่าภาษาอยู่แต่จริง
00:16:31 → 00:16:34 ๆคำว่าภาษารักเนี่ยครอบคลุมได้กว้างกว่า
00:16:34 → 00:16:37 นั้นครับหมายถึงว่าการบอกรักเป็นหนึ่งใน
00:16:37 → 00:16:40 ภาษารักอย่างนี้แล้วกันซึ่งภาษารักโดย
00:16:40 → 00:16:43 หลักๆนะครับคือแล้วแต่ว่าจะมีการแบ่งยัง
00:16:43 → 00:16:48 ไงนะครับบางคนก็แบ่งเป็น 5 แบบบางคนก็อาจ
00:16:48 → 00:16:50 จะมีถึง 7 แบบได้เหมือนกันนะครับแต่ว่า
00:16:50 → 00:16:53 วันนี้เราจะมาพูดแบบดั้งเดิมแล้วกันจะ
00:16:53 → 00:16:57 เป็นเวอร์ชั่นของดรแี่ chapman ซึ่งเขา
00:16:57 → 00:17:01 แบ่งสาออกเป็น 5 อย่างด้วยกันนะครับ 5
00:17:01 → 00:17:04 อย่างนี้ก็จะประกอบไปด้วยตั้งแต่ 1 การ
00:17:04 → 00:17:07 สัมผัสนะครับอย่างเช่นที่พี่ไก่หรือว่า
00:17:07 → 00:17:10 หมอเฟมนะครับมีการบอกรักคนในครอบครัวผ่าน
00:17:10 → 00:17:14 การสัมผัสเนาะอันที่ 2 ก็อย่างที่หลายๆคน
00:17:14 → 00:17:17 รู้อยู่แล้วคือการบอกรักตรงๆเลยอันนี้ก็
00:17:17 → 00:17:20 คือการใช้คำพูดใช่ครับหรือว่าเขาจะเรียก
00:17:20 → 00:17:22 เป็นภาษาอังกฤษว่า Word of affirmation
00:17:22 → 00:17:27 นะครับผมอันที่ 3 ก็จะมีการบอกรักบางที
00:17:27 → 00:17:29 วันสำคัญอะไรอย่างงี้ก็มีการซื้อของต่างๆ
00:17:29 → 00:17:33 ให้เนาะนะครับก็คือใช่เป็นภาษาอีกอย่าง
00:17:33 → 00:17:37 นึงก็คือกิฟครับผมคือการให้ของบางอย่าง
00:17:37 → 00:17:40 ที่จับต้องได้แต่ผมว่าอันนี้อาจจะเป็นแบบ
00:17:40 → 00:17:42 คุณแม่ให้คุณลูกมากกว่ามครับให้ของขวัญ
00:17:43 → 00:17:45 เอ่อส่วนใหญ่เราน่าจะเห็นกันแบบนั้นเนาะ
00:17:46 → 00:17:48 ในครอบครัวนะครับแต่ว่าบางทีพอลูกโตขึ้น
00:17:48 → 00:17:51 ก็อยากให้คุณแม่เหมือนกันก็หรือบางทีคุณ
00:17:51 → 00:17:53 แม่ให้คุณพ่อคุณพ่อให้คุณแม่อย่างงี้ก็
00:17:53 → 00:17:55 ได้ผมว่าลูกล้องให้คุณแม่ก็ได้นะอย่างใน
00:17:55 → 00:17:57 วันสำคัญหรือใครที่กำลังฟังเราอยู่เนี่ย
00:17:57 → 00:17:59 ลูกลองให้คุณแม่แม่ดูหรือว่าให้คุณปู่คุณ
00:18:00 → 00:18:03 ย่าดูผมว่าท่านจะยิ้มมากๆเลยนะครับน่าส
00:18:03 → 00:18:05 น่าสนใจซึ่งจริงๆไม่จำเป็นต้องเป็นของที่
00:18:05 → 00:18:08 มีราคาแพงหรือว่าอะไรอย่างงี้เลยครับลอง
00:18:08 → 00:18:12 นึกภาพว่าถ้ามีลูกเอาของขวัญแบบชิ้นเล็กๆ
00:18:12 → 00:18:15 ก็ได้มาให้เราเราก็น่าจะรู้สึกดีใจเนาะนะ
00:18:15 → 00:18:19 ครับก็ถ้าสมมุติว่ามีลูกๆนะครับได้ดู
00:18:19 → 00:18:22 วีดีโอนี้ก็ลองสื่อสารความรักด้วยวิธีนี้
00:18:22 → 00:18:25 กับคุุณพ่อคุณแม่ดูนะครับผมโอเคครับก็จะ
00:18:25 → 00:18:28 มีสัมผัสแล้วคำพูดแล้วก็ให้ของขวัญในวัน
00:18:28 → 00:18:29 พิ
00:18:29 → 00:18:31 ใช่ครับอย่างที่ 4 คืออะไรครับอย่างที่ 4
00:18:31 → 00:18:36 ก็คือการกระทำครับการกระทำเนี่ยอาจจะเป็น
00:18:36 → 00:18:39 การทำบางสิ่งบางอย่างให้นะครับเพื่อให้
00:18:39 → 00:18:43 อีกฝ่ายนึงรับรู้ว่าเรากำลังแสดงออกถึง
00:18:43 → 00:18:46 ความรักหรือว่าความคิดถึงผ่านการดูแล
00:18:46 → 00:18:48 เรื่องราวต่างๆเหล่านั้นให้เขาใช่ครับ
00:18:48 → 00:18:52 แล้วก็อันสุดท้ายก็คือการให้เวลาร่วมกัน
00:18:52 → 00:18:54 ซึ่งเวลาร่วมกันในที่เนี้ยต้องเป็นเวลา
00:18:54 → 00:18:57 ที่มีคุณภาพหรือ Quality Time ผมว่า
00:18:57 → 00:19:00 เริ่มน่าสนใจแล้วครับเพราะว่าเราเรียนรู้
00:19:00 → 00:19:04 ทุกภาษาเลยเนาะภาษาอังกฤษภาษาไทยใช่มั้ย
00:19:04 → 00:19:07 ครับภาษาถิ่นเนาะแต่ว่าเราน่าจะต้อง
00:19:07 → 00:19:09 มาเรียนรู้ภาษาลักษณเนาะผมว่ามันเป็นพื้น
00:19:09 → 00:19:11 ฐานอะไรที่ทำให้เรามีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น
00:19:11 → 00:19:13 นะครับรวมไปถึงความรักความสัมพันธ์ใน
00:19:13 → 00:19:15 ครอบครัวดีขึ้นและแน่นอนมันก็ตามมาแต่
00:19:15 → 00:19:18 สิ่งดีๆเนาะแล้วในวันเครับผมอยากรู้ว่า
00:19:18 → 00:19:21 แล้วแต่ละคนเนี่ยถ้าสมมุติเราพูดภาษาไม่
00:19:21 → 00:19:24 เหมือนกันเราจะสื่อสารกันได้มั้ยหรือว่า
00:19:24 → 00:19:26 เราจะต้องพูดภาษาเดียวกันเท่านั้นเราถึง
00:19:26 → 00:19:29 จะสื่อสารกันได้เราจะรู้ได้ยังไงครับว่า
00:19:29 → 00:19:33 แต่ละคนมีภาษาเป็นแบบไหนอืสิ่งที่น่าสนใจ
00:19:33 → 00:19:36 มันอยู่ตรงนี้ครับคือภาษารักเนี่ยจะแตก
00:19:36 → 00:19:38 ต่างกับภาษาที่เราพูดคุยกันในชีวิตประจำ
00:19:38 → 00:19:41 วันคือภาษารักมันจะเป็นภาษาสากลต่อให้
00:19:41 → 00:19:45 ต่างชนชาติต่างอายุต่างศาสนาก็สามารถสื่อ
00:19:45 → 00:19:49 ความรักถึงกันได้หมดเลยนะครับถ้าเราเรียน
00:19:49 → 00:19:52 รู้ที่จะเข้าใจภาษารักของอีกฝ่ายแล้วแสดง
00:19:52 → 00:19:55 ออกตรงนั้นให้มากขึ้นเราก็จะสามารถสื่อ
00:19:55 → 00:19:59 ความรักไปถึงเขาได้ดีขึ้นใช่ครับสมมติ
00:19:59 → 00:20:01 สมมุติพี่ไก่ชอบการสัมผัสเงี้ยครับพี่ไก่
00:20:01 → 00:20:04 เเป็นคนชอบการสัมผัสแต่ว่าคนที่พี่ไก่รัก
00:20:04 → 00:20:08 เนี่ยเขาอาจจะเป็นคนที่ไม่บอกรักด้วยไม่
00:20:08 → 00:20:11 สัมผัสด้วยแต่อาจจะให้เวลาร่วมกันอย่าง
00:20:11 → 00:20:14 เดียวอะไรอย่าเงี้ยครับอันเนี้ยถือว่าพี่
00:20:14 → 00:20:16 ไก่จะมีความสุขมั้ยครับหรือว่าจะตอบโจทย์
00:20:16 → 00:20:20 พี่ไก่มครับถ้าอีกฝ่ายนึงเข้าใจจว่าภาษา
00:20:20 → 00:20:23 รักของพี่ไก่คืออะไรแล้วก็สามารถที่จะ
00:20:23 → 00:20:27 แสดงออกมาได้คืออาจจะไม่ถนัดบางคนไม่ถนัด
00:20:27 → 00:20:30 การสัมผัสเนาะไม่ชิกับต้องมากอดต้องมาหอม
00:20:30 → 00:20:32 แก้มหรืออะไรอย่างเงี้ครับแต่ถ้ารู้ว่า
00:20:32 → 00:20:35 สิ่งเนี้ยเป็นเหมือนกับสิ่งที่เป็นตัวแทน
00:20:35 → 00:20:38 ในการบอกความรักแล้วก็สามารถส่งตรงไปถึง
00:20:38 → 00:20:42 หัวใจพี่ไก่ได้จริงๆนะครับการที่เขาทำ
00:20:42 → 00:20:45 เพิ่มขึ้นมาเนี่ยมันจะทำให้พี่ไก่รู้สึก
00:20:45 → 00:20:48 ได้ถึงความแตกต่างแล้วก็สามารถที่จะรับ
00:20:48 → 00:20:50 ความรักได้มากขึ้นมันอาจจะไม่ได้เยอะมาก
00:20:50 → 00:20:54 มายแต่ว่าก็รับได้หมายถึงรับรู้ความรู้
00:20:54 → 00:20:59 สึกนั้นได้ครับผมถ้าไม่ได้แสดงออกตรงๆพี่
00:20:59 → 00:21:02 ไก่ก็อาจจะรับได้หมายถึงรับรู้ความรักที่
00:21:02 → 00:21:05 เขาแสดงออกมาได้แต่ว่าไม่ได้เต็มที่เท่า
00:21:05 → 00:21:09 ภาษารักที่พี่ไก่สื่อสารเป็นหลักแต่ในทาง
00:21:09 → 00:21:11 กับการตัวผมเองก็ต้องเข้าใจฝั่งเขาด้วย
00:21:11 → 00:21:15 แล้วฝั่งเขาก็เข้าใจเราด้วยใช่ใช่ๆแต่ละ
00:21:15 → 00:21:18 แบบเนี่ยเราจะทำอะไรได้บ้างเพราะว่าผมคิด
00:21:18 → 00:21:20 ว่าคนที่อยู่ทางบ้านเนี่ยพอถ้าคิดตามเรา
00:21:20 → 00:21:22 นะครับเขาจะต้องเอ๊ะอยากได้ตัวอย่างว่า
00:21:23 → 00:21:25 เฮ้ยทำแบบนั้นดีมั้ยนะทำแบบนี้ดีมเพื่อ
00:21:25 → 00:21:28 ให้แก้ปัญหากับตัวเองและครอบครัวได้เนาะ
00:21:28 → 00:21:30 ครับอย่างแรกเลยครับเรื่องของการสัมผัส
00:21:30 → 00:21:34 เนาะการสัมผัสอ่ะในส่วนนี้เองแต่ละคนก็
00:21:34 → 00:21:36 ชอบไม่เหมือนกันใช่ไหมมครับอย่างเช่นการ
00:21:36 → 00:21:39 กอดการหอมมันมีอย่างอื่นอีกมั้ยครับออพี
00:21:39 → 00:21:42 มีอีกเยอะเลยครับการสัมผัสบางทีพอเราพูด
00:21:42 → 00:21:44 ถึงการสัมผัสโดยเฉพาะด้านความรักเราก็อาจ
00:21:44 → 00:21:48 จะนึกไปถึงเรื่องในอ่าเชิงความสัมพันธ์
00:21:48 → 00:21:50 แบบแฟนหรืออะไรพวกนี้เนาะนะครับแต่ว่า
00:21:50 → 00:21:52 จริงๆแล้วมันไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนั้น
00:21:52 → 00:21:55 เสมอไปก็ได้นะครับอาจจะเป็นการจับมือนะ
00:21:55 → 00:21:59 ครับการตบไหล่เบาๆการบีบีบนวดให้หรืออะไร
00:21:59 → 00:22:02 อย่างงี้ก็ได้หรือบางครั้งการนั่งใกล้ชิด
00:22:02 → 00:22:04 กันแล้วก็มีการสัมผัสตัวกันเท่านั้นก็ทำ
00:22:04 → 00:22:08 ให้อีกฝ่ายรับรู้ถึงความรักได้แล้วอืแล้ว
00:22:08 → 00:22:11 ถ้าเป็นลูกหลานที่ต้องการแบบที่ 1 เนี่ย
00:22:11 → 00:22:14 ด้วยการสัมผัสเนี่ยสัมผัสกลับไปที่ผู้สูง
00:22:14 → 00:22:17 อายุหรือพ่อแม่ปู่ย่าตายายเนี่ยเขาจะต้อง
00:22:17 → 00:22:20 สัมผัสในรูปแบบไหนให้ท่านรู้สึกดีครับอืม
00:22:20 → 00:22:22 ตรงนี้น่าสนใจครับเพราะว่าจริงๆแล้วแม้
00:22:23 → 00:22:26 ว่าการสัมผัสมันจะเป็นภาษารักของคนๆนั้น
00:22:26 → 00:22:30 แต่อาจจะไม่ใช่ทุกการสัมผัสที่สามารถสื่อ
00:22:30 → 00:22:33 เข้าไปถึงจิตใจเขาได้โดยตรงนะครับบางคน
00:22:33 → 00:22:36 ชอบการกอดเนาะแต่บางคนชอบให้นั่งจับมือ
00:22:36 → 00:22:40 เฉยๆหรืออะไรอย่างนี้ก็ได้ลองค้นหาดูว่า
00:22:40 → 00:22:43 ถ้าคิดว่าการสัมผัสคือภาษารักของคนที่เรา
00:22:44 → 00:22:47 รักแล้วอ่ะเขาชอบการสัมผัสรูปแบบไหนมันก็
00:22:47 → 00:22:51 จะยิงตรงเข้าไปยิ่งขึ้นไปอีกครับอืนวด
00:22:51 → 00:22:54 มั้ยอลองนดก็ได้ครับบีบนวดก็ดีนะผมว่าแบบ
00:22:54 → 00:22:57 บีบนวดเล็กน้อยๆเนาแบบแบบสมัยดอนเด็กๆอ่ะ
00:22:57 → 00:23:00 ก็แต่ละคนก็อ่ะบีบนวดเอาใจใช่มั้ครับบาง
00:23:00 → 00:23:02 ครั้งอ่ะผมมองว่าการที่เราทำเล็กๆน้อยๆน
00:23:02 → 00:23:04 อาจจะแก้ปัญหาใหญ่ได้อย่างเช่นการไม่อยาก
00:23:04 → 00:23:06 มาโรงพยาบาลน่ะแต่ถ้าเราแสดงความใส่ใจ
00:23:07 → 00:23:09 จริงๆไปนั่งอยู่ไปนั่งบีบนวดให้เล็กน้อย
00:23:09 → 00:23:12 เนี่ยผมว่ามันก็มีโอกาสเปลี่ยนใจให้ผู้
00:23:12 → 00:23:15 สูงอายุที่เราอาจจะคิดว่าเขาดื้อเไม่รับ
00:23:15 → 00:23:17 ความรักจากเราเนี่ยเปลี่ยนความคิดได้นะ
00:23:18 → 00:23:20 อันนี้ผมเชื่อส่วนตัวแล้วกันแล้วผมคิดว่า
00:23:20 → 00:23:23 ถ้าใครลองทำแล้วเห็นผลก็มาพิมพ์บอกกันได้
00:23:23 → 00:23:25 นะครับอ่ะมาอันที่ 2 ดีกว่าเรื่องของคำ
00:23:25 → 00:23:28 พูดเนาะคำพูดเนี่ยผมว่ายากพี่ไก่ผมผมว่า
00:23:28 → 00:23:30 อันนี้เป็นเรื่องยากเพราะว่าแต่ละคนน่ะมี
00:23:30 → 00:23:33 การรับรู้คำพูดได้ตีความคำพูดไม่เหมือน
00:23:33 → 00:23:36 กันเนาะอย่างบางคนถ้าเป็นโรคที่เกี่ยวกับ
00:23:36 → 00:23:38 ความซึมเศร้าอะไรเงี้ยคำพูดบางคำเอาจจะ
00:23:38 → 00:23:41 เปราะบางนะเราหวังดีนะแต่อาจจะเปราะบางนะ
00:23:42 → 00:23:45 ครับอย่างคำพูดที่เป็นการสื่อสารความรัก
00:23:45 → 00:23:48 เนี่ยหมอพีคิดว่าอะไรบ้างที่เป็นตัวอย่าง
00:23:48 → 00:23:52 ให้คุณผู้ชมเนี่ยสามารถทำได้ครับคำพูดที่
00:23:52 → 00:23:54 เป็นการแสดงออกถึงความรักนะครับก็ยกตัว
00:23:54 → 00:23:58 อย่างเช่นคำพูดขอบคุณนะครับอย่างเช่น
00:23:59 → 00:24:01 ขอบคุณที่วันนี้ทำสิ่งนี้ให้ขอบคุณที่
00:24:01 → 00:24:04 ซื้ออันนี้มาให้หรือว่าขอบคุณที่
00:24:04 → 00:24:07 อ่าให้บางอย่างกับเราหรืออะไรอย่างเงี้
00:24:07 → 00:24:10 ครับคนที่มีภาษารักเป็นด้านคำพูดเขาก็จะ
00:24:10 → 00:24:13 รู้สึกดีใจนะครับขอบคุณในเรื่องเล็กๆน้อย
00:24:13 → 00:24:17 ๆใช่มั้ยใช่ครับจตกยุงโอ๊ยอันนี้เจ็บครับ
00:24:17 → 00:24:19 อันนี้อันนี้ไม่ใช่ภาษากายที่ดีนะครับอัน
00:24:19 → 00:24:21 นี้ไม่ใช่ภาษากายที่ดีครับโอขอบคุณครับ
00:24:21 → 00:24:23 พี่
00:24:23 → 00:24:26 ไกอ่าโอ้ง่ายนะครับอันนี้ง่ายนะง่ายนะคำ
00:24:26 → 00:24:29 ขอบคุณเป็นอันแรกครับครับอันที่ 2 ก็อาจ
00:24:29 → 00:24:32 จะเป็นคำชื่นชมนะครับหรือว่าการให้กำลัง
00:24:32 → 00:24:36 ใจนะครับอืผมว่ายิ่งเป็นผู้สูงอายุอ่ะ
00:24:36 → 00:24:40 ครับเขาอาจจะขาดความมั่นใจหรือการทำอะไร
00:24:40 → 00:24:44 บางอย่างเนาะถ้าเราสามารถชื่นชมได้หรือ
00:24:44 → 00:24:47 ชี้ให้เขาเห็นถึงจุดที่เขามีข้อดีได้อ่ะ
00:24:47 → 00:24:49 ผมว่าอันนี้ก็จะเป็นสิ่งนึงนะที่ทำให้เขา
00:24:49 → 00:24:52 อ่ะรู้สึกว่ามีคุณค่ามากขึ้นและก็จะมี
00:24:52 → 00:24:55 ความสุขมากขึ้นอย่างที่ผมเคยได้ยินบ่อยๆ
00:24:55 → 00:24:58 เลยโอ๊ยวันนี้กินข้าวหมดเลยเก่งจังเลยเอ
00:24:58 → 00:25:00 ชอบพูดกันแบบนี้นะครับพูดให้ผู้สูงอายุ
00:25:00 → 00:25:03 ฟังผมได้ยินบ่อยนะครับใช่ครับอืดีนะครับ
00:25:03 → 00:25:05 อันนี้ก็เป็นการแก้ปัญหาโภชนาการผู้สูง
00:25:05 → 00:25:07 อายุได้เนาเพราะว่าส่วนใหญ่ผู้สูงอายุมัก
00:25:07 → 00:25:10 กินไม่พอใช่มั้ยเออก็ดีกว่าหมอมานั่งบอก
00:25:10 → 00:25:13 ว่าต้องกินนั่นกินนี่ทำนั่นทำนี่ใช่มั้ย
00:25:13 → 00:25:15 ครับอ่าแต่ว่าจริงๆคนทางบ้านอาจจะเป็นคน
00:25:15 → 00:25:18 ดูแลเนี่ยแก้ปัญหาได้ดีกว่าเราอีกต่อไป
00:25:18 → 00:25:20 อันที่ 3 ต่อไปก็อันที่ 3 นะครับเป็น
00:25:20 → 00:25:22 เรื่องของการให้ของขวัญอ่าประเด็นเผมสนใจ
00:25:22 → 00:25:25 เป็นพิเศษนิดนึงเพราะว่าอ่ะส่วนตัวผมรู้
00:25:25 → 00:25:28 สึกว่าผมน่ะจะชอบออกสโลแกนเนาะบอกว่าถ้า
00:25:28 → 00:25:31 ท่านรักใครให้ส่งคลิปนี้เป็นของขวัญแสดง
00:25:31 → 00:25:34 ความรักความห่วงใยอ่ะเหมือนเป็นการชวนออก
00:25:34 → 00:25:37 กำลังกายผมว่าอันเนี้ยผมผมไม่รู้นะผมคิด
00:25:37 → 00:25:40 ว่ามันเป็นการสื่อสารความรักข้อนี้ได้ไ
00:25:40 → 00:25:43 ครับได้นะครับได้เลยมันคือของขวัญเนี่ย
00:25:43 → 00:25:47 มันอาจจะไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่ราคาแพง
00:25:47 → 00:25:50 หรือว่ามีชิ้นใหญ่ก็ได้ถ้าสมมุติว่าคนที่
00:25:50 → 00:25:53 เรารักมีภาษารักเป็นของขวัญการที่เราให้
00:25:53 → 00:25:56 อะไรบางอย่างที่มันอาจจะมองเห็นได้หรือ
00:25:56 → 00:25:58 ว่าจับต้องได้อย่างเงี้ยเขาก็จะรับรู้ได้
00:25:58 → 00:26:01 ถึงความรักได้ดีนะครับยกตัวอย่างเช่นเรา
00:26:01 → 00:26:07 ไม่จำเป็นต้องซื้อเอ่อของหรูๆแพงๆหรือพา
00:26:07 → 00:26:10 ไปกินร้านแพงๆหรืออะไรตลอดเวลาเติมกันวัน
00:26:10 → 00:26:13 ละนิดก็ได้ครับเป็นของชิ้นเล็กๆซื้อมาฝาก
00:26:13 → 00:26:15 วันนี้เจอไอ้นี้หยิบมาให้หรืออะไรอย่าง
00:26:15 → 00:26:19 เงี้ยครับอืทำกับข้าวทานร่วมกันในบ้านอื
00:26:19 → 00:26:21 ดีครับดีผมว่าเป็นเป็นอะไรที่ดีมากเลย
00:26:21 → 00:26:23 แล้วต่อไปอันที่ 4 เนี่ยอันนี้ประเด็น
00:26:23 → 00:26:26 เนี้ยผมว่าเป็นสิ่งที่นมนานละและผู้สูง
00:26:26 → 00:26:29 อายุชอบแต่หลายๆครั้งเรารเลยนะครับก็คือ
00:26:29 → 00:26:32 การบริการการดูแลใช่มั้ยครับผู้สูงอายุ
00:26:32 → 00:26:35 ซึ่งคำพูดนึงที่ผมจะใช้เสมอนะครับว่าแบบ
00:26:35 → 00:26:38 ผู้สูงอายุหรือว่าผู้ใหผู้หลักผู้ใหญ่
00:26:38 → 00:26:41 เนี่ยส่วนใหญ่อ่ะเขาชอบคนที่ปรนนิบัติ
00:26:41 → 00:26:45 หรือว่าการที่แบบดูแลปรนนิบัติน่ะอ่าผม
00:26:45 → 00:26:47 ว่าอันเนี้ยสามารถเอาไปใช้ได้มั้ยครับเอา
00:26:47 → 00:26:50 ไปใช้ได้ครับโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าผู้สูง
00:26:50 → 00:26:53 อายุหรือว่าคนที่เรารักเนี่ยมีภาษารักที่
00:26:53 → 00:26:56 เรารู้สึกว่าเป็นการอ่าให้การดูแลนะครับ
00:26:56 → 00:26:59 หรือว่า act of serv ซึ่งถ้าเขามีอย่าง
00:26:59 → 00:27:02 นี้เนี่ยแล้วเราดูแลเคคนะครับเขาจะยิ่ง
00:27:02 → 00:27:05 รับรู้ได้เลยว่าเราเนี่ยกำลังแสดงความรัก
00:27:05 → 00:27:10 ออกให้เขาอืมการดูแลอาจจะเป็นการทำอะไร
00:27:10 → 00:27:12 บางอย่างให้ครับอย่างเช่นทำกับข้าวให้
00:27:12 → 00:27:17 กวาดบ้านให้ดูแลทำความสะอาดเช็ดตัวล้างรถ
00:27:17 → 00:27:20 สมมุติจะไปเที่ยวกันก็อาจจะดูแลความเรียบ
00:27:20 → 00:27:22 ร้อยจัดกระเป๋าทำนู่นทำนี่ให้หรืออะไร
00:27:22 → 00:27:25 อย่างเงี้ยนับว่าเป็นการดูแลหมดเลยครับ
00:27:25 → 00:27:27 เดินประคองกลางร่มให้ผมว่าก็ต้องเคแล้วนะ
00:27:27 → 00:27:29 ครับอครับผมผมนั้นก็เป็นหนึ่งในการดูแล
00:27:29 → 00:27:32 ที่แสดงออกถึงความรักได้ดีมากๆอืไม่ต้อง
00:27:32 → 00:27:35 เสียเงินเลยเนาะไม่ไม่ได้แบบดูมีมูลค่า
00:27:35 → 00:27:38 อะไรนะแต่ว่าดูมีคุณค่ามากๆเนาะโอ้ผมว่า
00:27:38 → 00:27:41 อันนี้น่าสนใจนะครับผู้สูงอายุชอบคน
00:27:41 → 00:27:44 ปรนิบัตินะครับพี่ไกอ่ะแล้วอันสุดท้าย
00:27:44 → 00:27:47 ครับผมว่าอันเนี้ยสำคัญมากที่สุดเลยคือ
00:27:47 → 00:27:49 การใช้เวลาร่วมกันถูกมครับแล้วต้องเป็น
00:27:49 → 00:27:52 เวลาที่มีคุณภาพด้วยอใช่ครับใช่อะไรบ้าง
00:27:52 → 00:27:55 ครับหมอพีช่วยแนะนำหน่อยได้มครับจริงๆ
00:27:55 → 00:27:58 เวลานั้นจะเป็นอะไรก็ได้เลยครับแต่ว่า
00:27:58 → 00:28:01 ความสำคัญอยู่ที่ถ้าเราโฟกัสไปที่อีกฝ่าย
00:28:01 → 00:28:04 นึงอย่างเต็มที่อ่ะอันนั้นนับว่าเป็นเวลา
00:28:04 → 00:28:06 ที่มีคุณภาพแล้วครับเราอาจจะกินข้าวกัน
00:28:07 → 00:28:10 เฉยๆนี่แหละแต่เราก็พูดคุยกันแล้วก็ให้
00:28:10 → 00:28:13 ความสนใจกับสิ่งที่อีกฝ่ายพูดรับฟังที่
00:28:13 → 00:28:17 เขาพูดแล้วก็อาจจะแชร์หรือว่าแค่รับฟังก็
00:28:17 → 00:28:18 ได้ครับตรงนั้นก็ถือว่าเป็นเวลาที่มี
00:28:18 → 00:28:22 คุณภาพะตรรงกันข้ามเลยถ้าสมมุติว่าเราคิด
00:28:22 → 00:28:25 ว่าอีกฝ่ายมีภาษารักเป็น Quality Time
00:28:25 → 00:28:28 หรือเวลาที่มีคุณภาพก็เลยพาเไปเที่ยวอแต่
00:28:28 → 00:28:30 ตลอดช่วงเวลาที่พาเขไปเที่ยวนี่เราเล่น
00:28:30 → 00:28:33 มือถือเราคุยงานเราติดต่อเรื่องอื่นโดย
00:28:33 → 00:28:36 ที่ไม่ได้สนใจเขาตรงนั้นก็อาจจะไม่ใช่
00:28:36 → 00:28:39 Quality Time อย่างเต็มที่อืแล้วอย่าง
00:28:39 → 00:28:41 หลายๆคนน่ะลูกหลานอยู่ต่างจังหวัดทำงาน
00:28:41 → 00:28:44 ต่างจังหวัดหรือว่าอยู่คนละบ้านกันงเงี้ย
00:28:44 → 00:28:46 ครับการแสดงความรักอ่ะอย่างเช่นการโทรไป
00:28:46 → 00:28:49 หาบ่อยๆโทรเวลาประจำอะไรอย่าเงี้ยผมว่า
00:28:49 → 00:28:52 อันนี้ก็คือเป็นการสื่อสารที่ดีมากๆเลย
00:28:52 → 00:28:56 ใช่มครับใช่ครับก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งจะ
00:28:56 → 00:28:58 เป็นช่วงเวลาก็ได้ครับหรือถ้าช่วงเวลา
00:28:58 → 00:29:00 นั้นมีการใส่คำพูดมันก็เป็นคำพูดได้
00:29:00 → 00:29:03 เหมือนกันการโทรหาเนี่ยถ้าจะให้เป็น
00:29:03 → 00:29:06 คุณภาพมากขึ้นเราลองเปลี่ยนเป็นวดีโอคอมย
00:29:06 → 00:29:09 อ่าเห็นหน้ากันด้วยเห็นรอยยิ้มเห็นสีหน้า
00:29:09 → 00:29:13 ท่าทางด้วยเอผมว่าดูดูน่ารักขึ้นนะแต่ผม
00:29:13 → 00:29:16 ว่าเวลาอีกสิ่งนึงที่คนดูแลหรือว่าลูกๆ
00:29:16 → 00:29:19 หลานๆควรทำเลยนะผมว่านะเวลาที่ท่านเปิด
00:29:19 → 00:29:23 คลิปออกกำลังกายลองมาทำกับท่านดูออทำไป
00:29:23 → 00:29:26 ด้วยกันให้กำลังใจดีกว่านั่งอยู่เฉยๆผม
00:29:26 → 00:29:29 ว่าอันนี้เป็นสิ่งที่ดีมากๆอืมใช่ครับน่า
00:29:29 → 00:29:33 ภูมิใจจนะครับพี่ไก่เออลูกหลานก็แฮปปี้คน
00:29:33 → 00:29:36 ออกกำลังกายก็แฮปปี้นะครับแล้วเราก็
00:29:36 → 00:29:38 แฮปปี้ไปเลยครับใช่เราก็แฮปปี้ด้วยครับ
00:29:38 → 00:29:41 อ่าก็โอ้วันนี้ผมว่าประเด็นสำคัญครบแล้ว
00:29:41 → 00:29:44 นะครับหมอพีก็คือปัญหาผู้สูงอายุเนี่ยถ้า
00:29:44 → 00:29:47 ในกรณีที่เป็นคนดูแลสามารถแก้ได้แหละใน
00:29:47 → 00:29:49 เรื่องของการให้ความรักและสื่อสารความรัก
00:29:49 → 00:29:51 ให้ตรงเนาะในวันนี้เราก็เราก็ได้รับรู้
00:29:51 → 00:29:54 เรื่องของการแสดงความรักรูปแบบต่างๆเนาะ
00:29:54 → 00:29:56 ใช้คำนี้ดีกว่าว่าเป็นการแสดงความรักมี
00:29:56 → 00:29:58 ตั้ง 5 แบบแล้วแต่ละแบบเนี่ยเรามาปีกย่อย
00:29:59 → 00:30:01 ละผมว่าวันเพอฟังเนี่ยผมว่ามันจะมีไอเดีย
00:30:01 → 00:30:03 เกิดขึ้นมาอีกเยอะเลยครับแต่ว่าสิ่งหนึ่ง
00:30:03 → 00:30:05 นะครับที่ผมคิดว่าเป็นประเด็นที่สำคัญมาก
00:30:05 → 00:30:08 ๆที่มันเชื่อมโยงกับเรื่องของการรักษา
00:30:08 → 00:30:11 หรือการดูแลสุขภาพเลยอ่ะนั่นก็คือการเอา
00:30:11 → 00:30:14 ไปใช้จริงออย่างส่วนตัวนะครับหมอพีถ้า
00:30:14 → 00:30:17 สมมุติหมอพีมองว่าสิ่งนี้ถูกนำไปใช้จริง
00:30:17 → 00:30:20 เนี่ยจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรต่อสังคม
00:30:20 → 00:30:23 หรือว่าต่อครอบครัวบ้างมครับผมว่าในที่
00:30:23 → 00:30:25 นี้เรื่องของการนำไปใช้จริงไม่ว่าจะเป็น
00:30:25 → 00:30:27 เรื่องภาษารักที่เราคุยกันวันนี้หรือว่า
00:30:27 → 00:30:30 เรื่องออกกำงกายก็ตามนะครับจะเกิดผลดี
00:30:30 → 00:30:33 หลายๆอย่างมากเลยอย่างนึงคือบางทีอ่ะความ
00:30:33 → 00:30:36 ขัดแย้งบางอย่างที่เกิดขึ้นภายในครอบครัว
00:30:36 → 00:30:39 ทั้งที่รักกันนะครับแต่บางทีรับรู้ถึง
00:30:39 → 00:30:41 ความรักอีกฝ่ายไม่ได้เพราะอาจจะสื่อสาร
00:30:41 → 00:30:45 ภาษารักไม่ตรงกันนะครับถ้าเอาไปปรับใช้ดู
00:30:45 → 00:30:48 อาจจะลดความขัดแย้งเหล่านี้ได้แล้วก็
00:30:48 → 00:30:51 สร้างความสมานฉันหรือว่าเพิ่มเติมความรัก
00:30:51 → 00:30:54 ในครอบครัวได้ดีขึ้นรวมถึงการออกกำลังกาย
00:30:54 → 00:30:57 ด้วยจริงๆมันเป็นเหมือนยาชนิดนึงเลยนะ
00:30:57 → 00:31:00 ครับอออกกำลังกายเนี่ยในทางการแพทย์หรือ
00:31:00 → 00:31:04 ในจิตเวทนะครับถ้าสมมุติว่ามีภาวะซึม
00:31:04 → 00:31:07 เศร้าแบบอ่อนๆนะแล้วออกกำลังกายสามารถหาย
00:31:07 → 00:31:11 ได้เลยออันนี้คือมีงานวิจัยอืแสดงว่าหลาย
00:31:11 → 00:31:14 ๆคนทางบ้านเนี่ยบางทีก็อาจจะซึมๆเศร้าๆ
00:31:14 → 00:31:17 อยู่ละอแต่มาออกกำลังกายกับหมอชนฟรินี่
00:31:17 → 00:31:20 หายเลยก็ได้นะครับคืออาจจะไม่รู้เลยไงว่า
00:31:20 → 00:31:22 แบบเพราะว่าถ้าคนเป็นอ่อนๆอาจจะยังไม่รู้
00:31:22 → 00:31:24 ด้วยซ้ำว่าเราเข้าขายที่ต้องได้รับการ
00:31:24 → 00:31:27 รักษาละอันนี้ก็เป็นสิ่งที่โอก็คือยาจริง
00:31:27 → 00:31:29 ๆเลยนะครับเนี่ยครับได้ทั้งสุขภาพกาย
00:31:29 → 00:31:32 สุขภาพใจอืมีหลายคลิปด้วยที่ฝึกสมองจีบ
00:31:33 → 00:31:36 แอวจีบแอผมก็ยังทำไม่ได้นะครับครับแต่พี่
00:31:36 → 00:31:38 ไกส่งไปให้คุณแม่ทำเรียบร้อยครับอ่านี่
00:31:38 → 00:31:40 เป็นการบอกรักที่ดีนะครับเป็นการบอกรัก
00:31:40 → 00:31:44 ครับอ่าโอเคครับงั้นสุดท้ายนี้ครับมอพี
00:31:44 → 00:31:47 ไหนๆก็มาคุยกับหมอจินตเวชลครับผมอยากให้
00:31:47 → 00:31:50 ฝากนิดนึงว่าอยากให้ความสำคัญแล้วกันถ้า
00:31:50 → 00:31:52 สมมุติตอนเนี้ยเป็นผู้สูงอายุอยู่เนาะผู้
00:31:52 → 00:31:55 สูงอายุบางคนอาจจะมีสังคมมีเพื่อนที่เขา
00:31:55 → 00:31:58 ก็ยังอยากจะบอกรักอยากีคอนแทคอยู่นะครับ
00:31:58 → 00:32:01 หรือว่าเป็นลูกๆหลานๆที่อยากจะบอกรักผู้
00:32:01 → 00:32:05 สูงอายุหรือผู้สูงอายุเองที่อยากจะกลับไป
00:32:05 → 00:32:08 บอกรักลูกๆหลานๆเนี่ยครับอยากจะฝากอะไร
00:32:08 → 00:32:12 สักเล็กน้อยได้มครับก็สำหรับเรื่องภาษา
00:32:12 → 00:32:14 รักที่ได้พูดกันไปวันนี้นะครับคิดว่าหลาย
00:32:14 → 00:32:17 คนน่าจะพอมองเห็นมากขึ้นว่าสามารถเอาไป
00:32:17 → 00:32:20 ใช้ต่อยังไงได้บ้างอาจจะลองดูว่าคนที่เรา
00:32:20 → 00:32:23 รักเนี่ยมีภาษารักเป็นแบบไหนเราจะได้
00:32:23 → 00:32:27 สามารถสื่อสารเพื่อเข้าไปส่งตรงถึงใจเข
00:32:27 → 00:32:30 ได้มากขึ้นแล้วมันก็อาจจะช่วยให้เรับรู้
00:32:30 → 00:32:33 ได้ว่าจริงๆแล้วบางอย่างที่เราทำมานะครับ
00:32:33 → 00:32:36 แม้จะไม่ตรงกับภาษารักของเขาแต่เรากำลัง
00:32:36 → 00:32:39 พยายามบอกรักเขาอยู่แต่พอเราสื่อสารได้
00:32:39 → 00:32:42 ตรงมากขึ้นเนี่ยเขาก็จะรับความรักได้ดี
00:32:42 → 00:32:45 ขึ้นด้วยตรงนี้มันก็ช่วยแก้ได้หลายอย่าง
00:32:45 → 00:32:47 นะครับทั้งเรื่องของปัญหาในครอบครัว
00:32:47 → 00:32:51 เรื่องของสุขภาพจิตนะครับผมอีกหนึ่งคำถาม
00:32:51 → 00:32:56 ครับผมอยากให้หมอพีฝากถึงคนดูแลหรือลูกๆ
00:32:56 → 00:32:58 ครับที่กำลังดูแลผู้สูงอายุอยู่ตตอนเนี้ย
00:32:58 → 00:33:01 อะไรคือสิ่งที่เราต้องโฟกัสและใส่ใจในผู้
00:33:02 → 00:33:06 สูงอายุในยุคสมัยนี้ครับก็สิ่งนึงที่หลาย
00:33:06 → 00:33:10 ๆคนอาจจะไม่ได้มองเห็นนะครับแต่ว่ามันอาจ
00:33:10 → 00:33:13 จะกลายเป็นปัญหาได้ก็คือเรื่องของสุขภาพ
00:33:13 → 00:33:17 จิตนะครับผมเพราะว่าในปัจจุบันเนี่ยจริงๆ
00:33:17 → 00:33:19 การตระหนักรับรู้ถึงปัญหาสุขภาพจิตในผู้
00:33:19 → 00:33:21 สูงอายุต้องเรียกว่าเพิ่มขึ้นค่อนข้าง
00:33:21 → 00:33:25 เยอะเลยนะครับผมหรือถ้าสมมุติว่าไม่แน่ใจ
00:33:25 → 00:33:27 ว่าผู้สูงอายุในบ้านของเราเนี่ยเริ่มมี
00:33:27 → 00:33:30 ปัญหาสุขภาพจิตแล้วยังก็สามารถพามาปรึกษา
00:33:30 → 00:33:33 กับจิตแพทย์ได้ครับอืออันนี้ก็คือทางด้าน
00:33:34 → 00:33:37 จิตเวทและทางด้านสุขภาพทางกายล่ะครับหมอ
00:33:37 → 00:33:40 เฟมอยากจะมีอะไรฝากถึงพ่อๆแม่ๆของเราม
00:33:40 → 00:33:44 ครับผมว่าส่วนตัวนะครับผมรักษาคนไข้มา
00:33:44 → 00:33:46 เยอะอ่ะผมรู้สึกว่าสุขภาพกายกับสุขภาพใจ
00:33:46 → 00:33:48 อ่ะยังไงมันก็ลิงก์กันยังไงก็เชื่อมโยง
00:33:48 → 00:33:51 กันครับถ้าสมมุติว่ากายไม่ดีใจมันจะดีได้
00:33:51 → 00:33:54 ยังไงถูกมั้ยครับและสำคัญเลยครับถ้าใจไม่
00:33:54 → 00:33:57 ดีเนี่ยกายก็จะไม่ดีนะครับโดยเฉพาะคนไข้
00:33:57 → 00:33:59 ของผมส่วนใหญ่เนี่ยมันมักจะเป็นโรคเรื้อ
00:33:59 → 00:34:03 รังคำว่าโรคเรื้อลังก็คือมันหายช้าหรือ
00:34:03 → 00:34:06 บางทีมันเป็นๆหายๆมันไม่หายขาดสักทีนะ
00:34:06 → 00:34:09 ครับซึ่งผมเชื่อว่าปัจจัยเหล่าเนี้ยส่งผล
00:34:09 → 00:34:12 ต่อสุขภาพจิตแน่นอนบางครั้งถ้าเราใส่ใจ
00:34:12 → 00:34:15 สุขภาพจิตด้วยดูแลร่างกายของเราให้ดีด้วย
00:34:15 → 00:34:17 แล้วผมเชื่อว่าสุดท้ายปลายทางอ่ะมันคือ
00:34:17 → 00:34:20 การที่เราสามารถตั้งเป้าหมายในการใช้
00:34:20 → 00:34:22 ชีวิตต่อไปได้เรามันจะไม่มีคำพูดที่ว่า
00:34:23 → 00:34:26 อยู่ไปวันๆหรือว่าเราจะไม่มีคำว่าตรอมใจ
00:34:26 → 00:34:28 นะครับแต่เราจะมีแต่ว่าพพรุ่งนี้เราอยาก
00:34:28 → 00:34:31 ทำอะไรเราอยากจะสุขภาพแข็งแรงขึ้นไปยังไง
00:34:31 → 00:34:33 นะครับเพผมก็เชื่อว่าอ่ะวันเนี้ยก็จะเป็น
00:34:33 → 00:34:36 ประเด็นนึงที่สำคัญมากๆแล้วก็ที่สำคัญนะ
00:34:36 → 00:34:39 ครับก็ไหนๆเรามาเจอกับหมอจิตเวชแล้วนะ
00:34:39 → 00:34:42 ครับถ้าสมมุติว่าผู้ชมทางบ้านนะครับชอบ
00:34:42 → 00:34:44 ประเด็นประมาณนี้หรือคำถามประมาณนี้นะ
00:34:44 → 00:34:46 ครับก็สามารถพิมพ์คอมเมนต์มาให้พวกเรา
00:34:46 → 00:34:48 บ่อยๆก็ได้นะครับเพราะว่ายังมีอีกหลาย
00:34:48 → 00:34:50 ประเด็นเลยที่เราอยากคุยกับหมอพีนะครับ
00:34:50 → 00:34:52 ไม่ว่าจะเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้
00:34:52 → 00:34:55 สูงอายุทำยังไรได้บ้างนะครับหรือว่ามาแตก
00:34:55 → 00:34:57 ในประเด็นของซึมเศร้าเนี่ยว่ามันส่งผล
00:34:57 → 00:35:00 อย่างไรเราจะแก้ปัญหาอย่างไรรนะครับรวม
00:35:00 → 00:35:03 ถึงปัญหาอีกมากมายเกี่ยวกับการนอนเกี่ยว
00:35:03 → 00:35:05 กับพฤติกรรมที่ปกติอย่างเช่นการกินใช่
00:35:05 → 00:35:08 มั้ยครับซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้ผมเชื่อว่า
00:35:08 → 00:35:10 มันเป็นปัญหาที่มาตั้งแต่จิตใจเราละซึ่ง
00:35:10 → 00:35:12 ถ้าใครชอบนะครับสามารถพิมพ์คอมเมนต์มาได้
00:35:12 → 00:35:15 เลยเนาะแล้วก็อยากให้หมอพีมาพูดประเด็น
00:35:15 → 00:35:17 ไหนจะได้ชวนหมอพีมาบ่อยๆนะครับเพราะว่า
00:35:17 → 00:35:19 ต้องแอบบอกี้ครับว่าหมอพีเค้าก็ยุ่งมากๆ
00:35:19 → 00:35:22 นะครับเค้าก็ยุ่งไม่แพ้เรานะครับก็หวัง
00:35:22 → 00:35:25 ว่าวันนี้ทุกท่านจะได้ประโยชน์จากพวกเรา
00:35:25 → 00:35:27 นะครับครับแล้วก็อย่าลืมนะครับถ้าดูคลิป
00:35:27 → 00:35:30 นี้แล้วยังรู้สึกว่ายังเหงาอยู่พรุ่งนี้
00:35:30 → 00:35:33 ครับวันเสาร์มาเจอกันในไลฟ์ครับวันเสาร์
00:35:33 → 00:35:36 จะเหงาได้ยังไงครับครับผมขอบคุณหมอพีมาก
00:35:36 → 00:35:38 เลยนะครับขอบคุณหมอเฟมด้วยนะครับสุดท้าย
00:35:38 → 00:35:40 ครับหมอพีครับถ้าอยากเจอหมอพีหรือว่าอยาก
00:35:40 → 00:35:43 ปรึกษากับหมอพีครับเจอหมอพีได้ที่ไหนบ้าง
00:35:43 → 00:35:46 ครับครับตอนนี้ก็ประจำอยู่ที่ใสใจคลินิก
00:35:46 → 00:35:50 ครับผมอยู่ตรงทางแถวๆสถานีรถไฟเชียงใหม่
00:35:51 → 00:35:53 จังหวัดเชียงใหม่อีกที่ก็คืออ่าศูนย์ 4
00:35:53 → 00:35:57 พัของโรงพยาบาลสวนดอกครับผมหรือโรงพยาบาล
00:35:57 → 00:36:00 มหารานครเชียงใหม่ครับใช่ได้เลยครับหรือ
00:36:00 → 00:36:03 ว่าจะติดต่อผ่านทางเราก็ได้นะครับแอด Line
00:36:03 → 00:36:05 ที่ f doct นะครับเดี๋ยวเราก็จะส่งต่อ
00:36:05 → 00:36:08 ให้หมอพีเลยครับผมก็วันนี้นะครับก็หวัง
00:36:08 → 00:36:10 ว่าทุกท่านจะมีความสุขในวันวาเลนไทน์นะ
00:36:10 → 00:36:13 ครับแล้วผมขอยืมคำของหมอเฟมาพูดครับวัน
00:36:13 → 00:36:15 นี้ครับขอให้ทุกท่านสุขภาพดีครับมีความ
00:36:15 → 00:36:19 สุขแล้วเราจะฟิด้วยสวัสดีสวัสดีครับ
00:36:19 → 00:36:21 สวัสดี
00:36:21 → 00:36:24 ครับหมอประจำตระกูล
00:36:24 → 00:36:27 [เพลง]
00:00:00 → 00:00:02 ถ้ามีผู้สูงอายุคนนึงมาพูดกับเราว่าเขา
00:00:02 → 00:00:05 อยู่ไปวันๆเงี้ยอารมณ์นึงที่เป็นปัญหาได้
00:00:05 → 00:00:08 คืออารมณ์เหงาครับเป็นหนึ่งในปัจจัยที่
00:00:08 → 00:00:11 ค่อนข้างใหญ่เลยเพราะว่ามันอาจจะนำไปสู่
00:00:11 → 00:00:14 ความเศร้าต่อไปได้ครับเรามองเห็นว่าปัญหา
00:00:14 → 00:00:17 จริงๆของผู้สูงอายุคือความเหงาและความ
00:00:17 → 00:00:20 เศร้าเนาะเรามาเรียนรู้กับการสื่อสารความ
00:00:20 → 00:00:22 รักกับหมอพีดีกว่าครับพี่ไกมันจะมีสิ่ง
00:00:22 → 00:00:24 นึงที่เรียกว่าภาษา
00:00:24 → 00:00:28 รักหมอประจำ
00:00:28 → 00:00:31 ตระกูลสำหรับท่านใดที่มีปัญหาสุขภาพไม่
00:00:31 → 00:00:33 ว่าจะเป็นออฟิ Syndrome เข่าเสื่อมหลัง
00:00:33 → 00:00:35 เสื่อมหรือผู้สูงอายุที่ต้องการเสริมความ
00:00:35 → 00:00:38 แข็งแรงของกล้ามเนื้อรวมไปถึงการใช้ชีวิต
00:00:38 → 00:00:40 ให้ดียิ่งขึ้นสามารถติดต่อพวกเราผ่านช่อง
00:00:40 → 00:00:43 ทาง mds service ฟิตเนสกายภาพได้ผ่าน
00:00:43 → 00:00:46 ช่องทางเบอร์ติดต่อข้างล่างหรือ Facebook
00:00:46 → 00:00:48 mds Fitness ไกภาพกระดูกและข้อ
00:00:48 → 00:00:51 เชียงใหม่สวัสดีครับยินดีต้อนรับสู่ราย
00:00:51 → 00:00:54 การหมอประจำตระกูลครับผมไก่ชวนฟินะครับ
00:00:54 → 00:00:57 วันศุกร์นี้ครับศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์
00:00:57 → 00:01:00 วันวาเลนไทน์ครับเราก็อยากจะให้ความสำคัญ
00:01:00 → 00:01:03 กับพ่อๆแม่ๆด้วยการส่งความรักให้พ่อๆแม่ๆ
00:01:03 → 00:01:06 ครับวันนี้เลยมีความพิเศษขึ้นมาเพราะว่า
00:01:06 → 00:01:07 เรื่องที่เราจะคุยกันวันนี้ครับเกี่ยวกับ
00:01:07 → 00:01:09 ความรู้สึกและจิตใจครับวันนี้ก็เลยจะมี
00:01:09 → 00:01:12 ความพิเศษที่มีหมอด้านจิตเวทเข้ามาคุยกับ
00:01:12 → 00:01:17 เราด้วยหมอพีนั่นเองครับผมสวัสดีครับหมอ
00:01:17 → 00:01:20 พีนะครับนายแพทย์พีกาณบางไทรครับตอนนี้
00:01:20 → 00:01:23 เป็นจิตแพทย์อยู่ที่ใส่ใจคลินิกครับแล้ว
00:01:23 → 00:01:26 ก็มีออกตรวจที่ศูนย์สรีพัโรงพยาบาลสวนดอก
00:01:26 → 00:01:29 ด้วยครับสวัสดีนะครับหมอพีครับครับผมและ
00:01:29 → 00:01:32 แน่นอนครับหมอประจำตระกูลของเราครับขาด
00:01:32 → 00:01:35 ไม่ได้เลยครับคนนี้ครับหมอเฟมครับผมครับ
00:01:35 → 00:01:38 สวัสดีครับหมอเฟมนะครับก็ไม่ได้เป็น
00:01:38 → 00:01:40 จิตแพทย์นะครับแต่อยากมาขอความรู้จาก
00:01:40 → 00:01:43 จิตแพทย์นะครับวันนี้ก็จะมาเป็นส่วนนึง
00:01:43 → 00:01:45 เหมือนพี่ไก่นะครับเพราะว่าเห็นพี่ไก่ถาม
00:01:45 → 00:01:47 มาเยอะละอ่าเป็นตัวแทนหมู่บ้านเยอะแล้ว
00:01:47 → 00:01:49 ครับเดี๋ยววันนี้ผมจะมาช่วยเป็นตัวแทน
00:01:49 → 00:01:51 หมู่บ้านนะครับในการสอบถามประเด็นปัญหา
00:01:51 → 00:01:54 ด้านสุขภาพจิตเพื่อให้พ่อๆแม่ๆหรือผู้สูง
00:01:54 → 00:01:56 อายุร่วมไปถึงในวันนี้นะครับผมคิดว่าน่า
00:01:56 → 00:01:58 จะเป็นประเด็นเกี่ยวกับเรื่องของความรัก
00:01:58 → 00:02:01 ความสัมพันธ์ในครอบครัวกัวด้วยนะครับซึ่ง
00:02:01 → 00:02:02 ประเด็นจะเป็นยังไงเดี๋ยวเรามาเริ่มกัน
00:02:02 → 00:02:04 เลยนะครับอย่างที่ทุกคนทราบกันวันนี้เป็น
00:02:04 → 00:02:07 วันวาเลนไทน์เนาะส่วนมากคนก็จะบอกรักแฟน
00:02:07 → 00:02:09 หรือบอกรักคู่ชีวิตนะครับจนบางทีเราละเลย
00:02:09 → 00:02:13 ที่จะบอกรักคนอีกกลุ่มหนึ่งที่อยู่ใกล้
00:02:13 → 00:02:15 ตัวเรานั่นก็คือพ่อๆแม่ๆหรือว่าปู่ย่าตา
00:02:15 → 00:02:18 ยายของเราทีนี้ผมอยากถามหมอพีครับว่าใน
00:02:18 → 00:02:21 กลุ่มผู้สูงอายุที่เขาไม่ค่อยได้รับการ
00:02:21 → 00:02:25 บอกรักจากลูกๆหลานๆแบบเยครับคนกลุ่มเนี้ย
00:02:25 → 00:02:27 จากประสบการณ์ของหมอพีอ่ะครับเขาจะมีความ
00:02:27 → 00:02:30 รู้สึกทางอารมณ์หรือว่าทางด้านจิตใจใน
00:02:30 → 00:02:34 เรื่องใดบ้างครับถ้าสมมุติว่าผู้สูงอายุ
00:02:34 → 00:02:37 นะครับขาดการแสดงความรักจากลูกๆเยอะๆหรือ
00:02:37 → 00:02:40 ว่าบ่อยๆเข้าเนี่ยก็อาจจะอ่ามีอารมณ์บาง
00:02:40 → 00:02:43 อย่างที่อาจจะเจอได้บ่อยๆนะครับอารมณ์นึง
00:02:43 → 00:02:46 ที่เป็นปัญหาได้นะครับแล้วก็หลายคนอาจจะ
00:02:46 → 00:02:48 เจอแม้ว่าจะไม่ใช่ผู้สูงอายุก็ตามนะครับ
00:02:48 → 00:02:51 คืออารมณ์เหงาครับอารมณ์เหงาเนี่ยเป็น
00:02:51 → 00:02:54 หนึ่งในปัจจัยที่ค่อนข้างใหญ่เลยโดยเฉพาะ
00:02:54 → 00:02:57 ในกลุ่มผู้สูงอายุด้วยเพราะว่ามันอาจจะนำ
00:02:57 → 00:03:00 ไปสู่ความเศร้าต่อไปได้ครับความเหงาความ
00:03:00 → 00:03:03 เศร้าอ่ะอย่างประเด็นของพี่ครับน้องฟีคือ
00:03:03 → 00:03:05 อย่างสมมุติเวลาเราตรวจคนไข้ที่โรงพยาบาล
00:03:05 → 00:03:08 ใช่มั้ยครับพี่ไกเราก็จะพบว่าส่วนนึงเลย
00:03:08 → 00:03:10 อ่ะผู้สูงอายุส่วนมากเลยมักจะมาตรวจคน
00:03:10 → 00:03:13 เดียวอ่าอาจจะต้องขับรถมาบางคนนั่งรถมา
00:03:13 → 00:03:16 ตรวจคนเดียวครับทีเนี้ยก็ไม่ได้มีลูกหลาน
00:03:16 → 00:03:18 มาเนาะแลสิ่งที่ผมจะได้ยินอยู่สม่ำเสมอ
00:03:18 → 00:03:22 เลยก็คือเขาจะพูดคำว่าก็อยู่ไปวันๆอืใช้
00:03:22 → 00:03:25 ชีวิตไปวันๆอยู่ไปวันๆนะครับซึ่งในส่วน
00:03:25 → 00:03:27 ตัวผมรู้สึกว่าตรงเนี้เป็นปัญหานะในการ
00:03:27 → 00:03:30 รักษาคนไข้หรือว่าการให้ความช่วยเหลือ
00:03:30 → 00:03:32 เนาะเพราะคนไข้ที่ขาดกำลังใจอ่ะผมมองว่า
00:03:32 → 00:03:35 ขาดกำลังใจนะครับมันทำให้ผลลัพธ์ในการ
00:03:35 → 00:03:38 รักษาเนี่ยอาจจะทำได้ยากมากขึ้นทำให้ดี
00:03:38 → 00:03:40 ได้ยากมากขึ้นครับในส่วนนี้เองทาง
00:03:40 → 00:03:42 จิตแพทย์เนี่ยเามองมั้ยครับว่าสิ่งนี้
00:03:42 → 00:03:44 เป็นปัญหาของผู้สูงอายุครับจริงๆอย่างที่
00:03:44 → 00:03:48 พี่เฟรมพูดนะครับว่าบางทีเราได้ยินผู้สูง
00:03:48 → 00:03:51 อายุเนาะพูดออกมาว่าแบบอยู่ไปวันๆอย่าง
00:03:51 → 00:03:53 เงี้ยเราก็อาจจะรู้สึกว่าเขาหมดกำลังใจ
00:03:53 → 00:03:55 ได้ซึ่งจริงๆแล้วนะครับก็เป็นหนึ่งใน
00:03:55 → 00:03:57 สาเหตุหลักเลยแหละที่อาจจะทำให้เขาพูดออก
00:03:57 → 00:04:00 มาอย่างนั้นสาเหตุอื่นๆก็ยกตัวอย่างเช่น
00:04:00 → 00:04:03 บางทีอาจจะรู้สึกว่าขาดเป้าหมายเนาะอย่าง
00:04:03 → 00:04:07 เช่นบางคนอาจจะตั้งใจอยู่เพื่ออะไรบาง
00:04:07 → 00:04:11 อย่างนะครับอยู่กับคู่ครองอยู่กับลูกหลาน
00:04:11 → 00:04:13 หรืออะไรเงี้ยแล้วพอเป้าหมายนั้นไม่เป็น
00:04:13 → 00:04:18 ไปตามที่คิดไว้ก็อาจจะรู้สึกว่าไม่รู้จะ
00:04:18 → 00:04:20 ใช้ชีวิตต่อไปเรื่อยๆเพราะว่าอะไรก็เลย
00:04:20 → 00:04:22 อาจจะพูดว่าอยู่ไปวันๆซึ่งตรงนี้มันก็อาจ
00:04:22 → 00:04:24 จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ได้เหมือนกันครับ
00:04:24 → 00:04:26 เมื่อกี้ผมติดใจกับประโยคที่ว่าผู้สูง
00:04:26 → 00:04:29 อายุขาดเป้าหมายอ่าขอมาพูดประเด็นนี้ก่อน
00:04:29 → 00:04:32 ได้มยว่าเออจริงๆแล้วการที่ผู้สูงอายุ
00:04:32 → 00:04:35 แสดงบุคลิกบางอย่างหรือพฤติกรรมบางอย่าง
00:04:35 → 00:04:37 เนี่ยอาจจะบ่งบอกว่าเขาขาดเป้าหมายก็ได้
00:04:37 → 00:04:40 ถูกมยการขาดเป้าหมายโดยเฉพาะด้านสุขภาพ
00:04:40 → 00:04:43 เนี่ยยิ่งทำให้ส่งผลแย่มากเลยใช่มยครับที
00:04:43 → 00:04:46 นี้ถ้าเราดูแลพ่อๆแม่ๆหรือว่าบางครั้งอาจ
00:04:46 → 00:04:50 จะได้โทรไปหาพ่อแม่บ้างเงี้ยเราจะพอเช็ค
00:04:50 → 00:04:53 ได้ไหมมว่ามันมีสัญญาณอะไรที่บ่งบอกว่า
00:04:53 → 00:04:55 ตอนนี้ท่านกำลังขาดเป้าหมายอยู่เงี้ยครับ
00:04:55 → 00:04:58 อืที่อยากให้สังเกตเป็นหลักคือความ
00:04:58 → 00:05:01 เปลี่ยนแปลงนะครับครับหมายถึงว่าความ
00:05:01 → 00:05:03 เปลี่ยนแปลงเนี่ยอย่างเช่นบางคนเป็นคนพูด
00:05:03 → 00:05:06 เยอะอยู่เดิมถ้ายังพูดเยอะประมาณนี้อยู่
00:05:06 → 00:05:08 นะครับไม่ได้เปลี่ยนไปเราก็รู้สึกว่า
00:05:08 → 00:05:11 อันเนี้ยน่าจะยังไม่มีสัญญาณที่ชี้ชัดแต่
00:05:11 → 00:05:14 ถ้าเริ่มพูดน้อยลงหรือตรงกันข้ามพูดเยอะ
00:05:14 → 00:05:17 อยู่แล้วพูดมากขึ้นไปอีกนะครับอาจจะอยู่
00:05:17 → 00:05:19 ในระดับที่ขัดได้ยากหรืออะไรประมาณนี้อัน
00:05:19 → 00:05:22 นี้ก็คือความเปลี่ยนแปลงนะครับไม่ว่าจะ
00:05:22 → 00:05:25 เป็นการพูดการกินกินเยอะขึ้นหรือกินน้อย
00:05:25 → 00:05:28 ลงเนาะการนอนนะครับนอนเยอะขึ้นมากๆเลยแตก
00:05:29 → 00:05:31 ต่างจากเมื่อก่อนก็ตามหรือว่านอนน้อยลงนะ
00:05:32 → 00:05:34 ครับรวมถึงการเข้าสังคมหรือการเก็บตัว
00:05:34 → 00:05:38 ด้วยบางคนอาจจะไม่ได้บอกมาตรงๆครับแต่ว่า
00:05:38 → 00:05:40 จากเมื่อก่อนที่เป็นคนแบบร่าเริงออกสังคม
00:05:41 → 00:05:42 หรืออะไรอย่างเงี้ครับก็เอาแต่เก็บตัว
00:05:42 → 00:05:47 อยู่แต่ในบ้านอืแสดงว่าจริงๆแล้วพฤติกรรม
00:05:47 → 00:05:49 เนี่ยนอกจากจะส่งผลต่อสุขภาพกายยังเป็น
00:05:49 → 00:05:52 สัญญาณที่บ่งบอกถึงสุขภาพใจด้วยโอโหอัน
00:05:52 → 00:05:55 นี้น่าสนใจนะครับพี่ไก่อย่างครอบครัวผมก็
00:05:55 → 00:05:58 เคยเจอนะครับเป็นคุณตาแต่ว่าท่านเสียไปละ
00:05:58 → 00:06:00 ก่อนหน้าที่ท่านจะป่วยครับครับท่านก็จะ
00:06:00 → 00:06:03 เหมือนเล่าเรื่องเดิมๆซ้ำๆซ้ำๆเวลาเราโทร
00:06:03 → 00:06:06 หาหรือว่าคนในครอบครัวโทรหาเงี้ยเค้าก็จะ
00:06:06 → 00:06:09 พูดเรื่องเดิมๆเดิมๆเดิมๆจนเราสังเกตกัน
00:06:09 → 00:06:12 เองแล้วว่าโอเคนั่นคือสิ่งที่ผิดปกติ
00:06:12 → 00:06:14 อย่างการพูดเรื่องเดิมๆก็อาจจะเจอได้
00:06:14 → 00:06:17 เหมือนกันเป็นสัญญาณบอกได้ในหลายๆอย่าง
00:06:17 → 00:06:20 เลยครับ 1 คืออาจจะเป็นการทำงานของสมอง
00:06:20 → 00:06:22 บางส่วนที่บกพร่องไปอาจจะเป็นตัวที่ระบุ
00:06:23 → 00:06:25 ได้ว่ากำลังเริ่มมีภาวะสมองเสื่อมหรือ
00:06:25 → 00:06:28 เปล่าหรือมีพฤติกรรมบางอย่างที่เปลี่ยน
00:06:28 → 00:06:30 แปลงไปบางทีเขาอาจจะคิดถึงเนาะก็เลยพูด
00:06:30 → 00:06:32 เรื่องเดิมๆซ้ำๆบ่อยๆก็อาจจะดูเรื่อง
00:06:32 → 00:06:35 อารมณ์อะไรอย่างนี้ร่วมด้วยครับครับผมเอา
00:06:36 → 00:06:38 คำพูดของหมอเฟมประโยคที่พูดมาทั้งหมด
00:06:38 → 00:06:40 เมื่อกี้กับเอามารวมกันของหมอพีผมว่าคำ
00:06:40 → 00:06:43 ว่าอยู่ไปวันๆก็จะมาเข้ากับที่หมอพีพูด
00:06:43 → 00:06:46 ตรงที่ว่าผู้สูงอายุกลุ่มที่พูดว่าอยู่ไป
00:06:46 → 00:06:48 วันๆนี่เามีความเหงาอยู่ในตัวใช่มั้ยครับ
00:06:48 → 00:06:52 อืประเด็นเรื่องอยู่ไปวันๆกับความเหงาตรง
00:06:52 → 00:06:54 นี้ก็น่าสนใจครับเพราะว่าความเหงาเนี่ย
00:06:54 → 00:06:58 บางทีมันรุนแรงจนทำให้เรารู้สึกว่าไม่รู้
00:06:58 → 00:07:00 จะอยู่ทำไมถ้าต้องอยู่คนเดีวอย่างงนี้
00:07:00 → 00:07:02 เนาะนะครับแต่ทีนี้ผมขยายความเรื่องความ
00:07:02 → 00:07:05 เหงานิดนึงตัวความเหงาเองเนี่ยมันไม่ได้
00:07:05 → 00:07:07 แปลว่าการอยู่คนเดียวอย่างเดียวนะครับ
00:07:07 → 00:07:11 เพราะบางทีเรานั่งอยู่ท่ามกลางคนมากมาย
00:07:11 → 00:07:13 เลยเนาะแต่เราก็ยังรู้สึกเหงาได้เคยเป็น
00:07:13 → 00:07:16 ไหมครับออออาจจะมีบ้างเพราะเรารู้สึกไม่
00:07:16 → 00:07:20 Connect กับคนอื่นครับผมแล้วก็บางครั้ง
00:07:20 → 00:07:22 เราไม่ได้อยู่กับใครเลยเราอยู่คนเดียว
00:07:22 → 00:07:25 ครับแต่ว่าเราไม่เหงาเรารู้สึกว่าเรา
00:07:25 → 00:07:28 สามารถที่จะเชื่อมโยงประโยคนึงที่พี่ไก่
00:07:28 → 00:07:31 พูดมาเมื่อกี้เลยที่ผมชอบคือคำว่ารู้สึก
00:07:31 → 00:07:33 ว่า Connect กับคนอื่นหนึ่งในคีย์เวิร์ด
00:07:33 → 00:07:36 ของความเหงาคืออันนี้แหละครับก็คือว่ามัน
00:07:36 → 00:07:39 สามารถที่จะเกิดขึ้นได้ถ้าเรารู้สึกไม่
00:07:39 → 00:07:42 เชื่อมโยงหรือว่าไม่ Connect กับใครก็ตาม
00:07:42 → 00:07:45 ถ้าเราอยู่กับคนอื่นมากมายแล้วเรารู้สึก
00:07:45 → 00:07:48 เชื่อมโยงกับเขาความเหงานั้นก็จะไม่มาอฮ
00:07:48 → 00:07:50 หรือถ้าเราอยู่คนเดียวแล้วเราเชื่อมโยง
00:07:50 → 00:07:52 กับตัวเองได้มันก็ไม่มาเหมือนกันครับใน
00:07:52 → 00:07:55 ทางตรงกันข้ามถ้าเราอยู่กับคนอื่นมากมาย
00:07:55 → 00:07:57 แต่เราเชื่อมโยงกับใครไม่ได้เลยเราก็อาจ
00:07:57 → 00:08:00 จะเหงาได้อืแงว่าคววามเหงาเนี่ยเป็นสิ่ง
00:08:00 → 00:08:03 ที่ส่วนตัวจะต้องเป็นคนกำหนดเองถูกมมครับ
00:08:03 → 00:08:05 ว่าเราจะรู้สึกว่าเรามีการ Connect กับ
00:08:05 → 00:08:07 ใครหรือเปล่าหรือว่าเรารู้สึกว่าต่อให้
00:08:07 → 00:08:09 ไม่ต้อง Connect กับใครเรา Connect กับ
00:08:09 → 00:08:11 ตัวเองได้อันนี้ก็จะทำให้เราไม่เหงาเนาะ
00:08:11 → 00:08:14 อย่างเช่นพี่ไก่บอกให้ผมทำวันเสาร์จะเหงา
00:08:14 → 00:08:16 ได้ยังไงใช่ไหมมครับถ้าสมมุติว่าใครดู
00:08:16 → 00:08:18 แล้วยังเหงาอยู่นะครับแสดงว่าอาจจะยังไม่
00:08:18 → 00:08:20 ได้ Connect กับเรานะครับพี่ไก่ก็มา
00:08:20 → 00:08:22 Connect กับเราได้ทุกวันเสาร์ตอน 19 น
00:08:23 → 00:08:27 ครับใช่มครับอ่าซึ่งส่วนตัวก็คิดว่าอ่ะ
00:08:27 → 00:08:29 เราเข้าใจแบบนี้เนาะเราก็พยายามหาช่องทาง
00:08:29 → 00:08:31 ในการที่เป็นหมอเราก็ช่วยได้ถูกมั้ยครับ
00:08:31 → 00:08:34 เราหา activity หากิจกรรมหรือว่าเพิ่ม
00:08:34 → 00:08:36 ช่องทางในการที่ให้คนน่ะมา Connect กับ
00:08:36 → 00:08:38 เราได้มากขึ้นอันนี้ก็เป็นวิธีการนึงใช่่
00:08:38 → 00:08:40 ไหมมครับที่เราสามารถบรรเทาความเหงาหรือ
00:08:40 → 00:08:43 ว่าความรู้สึกว่าไม่มีใครรู้สึกอยู่ไปวัน
00:08:44 → 00:08:47 ๆเนี่ยตรงนี้ก็จะพอแก้ได้ใช่มั้ครับจริงๆ
00:08:47 → 00:08:49 ผมมองว่าแก้ได้ดีเลยนะครับอย่างสมมุติว่า
00:08:49 → 00:08:53 อ่าอย่างกิจกรรมที่พี่เฟมพูดมาเนาะใน
00:08:53 → 00:08:55 เรื่องของการไลฟ์วันเสาร์หรืออะไรอย่าง
00:08:55 → 00:08:58 เงี้ยถ้าสมมุติว่ามาดูแล้วเชื่อมโยงได้
00:08:58 → 00:09:01 กับทั้งหมอเฟมแล้วแล้วก็พี่ไก่ผมว่าความ
00:09:01 → 00:09:03 เหงาของคนที่อยู่คนเดียวก็น่าจะลดลงไป
00:09:04 → 00:09:07 ด้วยเหมือนกันแล้วถ้าถ้าเป็นในเชิงของทาง
00:09:07 → 00:09:09 การแพทย์ในการรักษาครับครับถ้ามีผู้สูง
00:09:10 → 00:09:12 อายุคนนึงมาพูดกับเราว่าเอยู่ไปวันๆเงี้ย
00:09:12 → 00:09:16 ถ้าเราต้องรักษาบุคคลคนนั้นวิธีการในการ
00:09:16 → 00:09:18 รักษาจะต้องรักษายังไงอ่ะครับหรือว่าเค้า
00:09:18 → 00:09:21 มีอะไรแอบแฝงอยู่ถึงทำให้เขาคิดแบบนี้
00:09:21 → 00:09:24 ครับนอกจากความเหงาครับผมก็อาจจะต้องดู
00:09:24 → 00:09:27 ก่อนว่าความหมายของคำว่าอยู่ไปวันๆของเขา
00:09:27 → 00:09:29 มันคือความเหงาจริงหรือเปล่าหรือว่ามันมี
00:09:29 → 00:09:31 อย่างอื่นด้วยอีกปัจจัยนึงที่ค่อนข้าง
00:09:32 → 00:09:34 ใหญ่ในผู้สูงอายุแล้วก็เจอได้บ่อยกว่า
00:09:34 → 00:09:38 บุคคลทั่วไปคือความเศร้าครับอืความเศร้า
00:09:38 → 00:09:41 เนี้ยครับมันส่งผลไปถึงขั้นตอมใจได้เลย
00:09:41 → 00:09:43 มั้ยครับหรือหรือหรือถึงขั้นแบบตอมใจจน
00:09:43 → 00:09:46 เสียชีวิตอย่างเงี้ยเป็นไปได้มครับอืน่า
00:09:46 → 00:09:49 สนใจมากเลยครับคำนี้คำว่าตอมใจจริงๆมัน
00:09:49 → 00:09:52 อาจจะไม่ได้เ่ามีนิยามที่ตายตัวหรือว่า
00:09:52 → 00:09:55 ได้รับการพูดถึงแบบแพ่หลอ่ะะนะครับแต่ว่า
00:09:55 → 00:09:57 เวลาเราได้ยินคำเนี้ยเราก็มักจะนึกถึงคน
00:09:57 → 00:10:01 ที่อาจจะดูแล้วรู้สึกว่าซึมลงหรือว่าเฉา
00:10:01 → 00:10:04 ลงรู้สึกว่าการดูแลตัวเองอะไรต่างๆอาจจะ
00:10:04 → 00:10:08 ลดลงพวกเยครับซึ่งถ้าสมมุติลองนึกภาพตาม
00:10:08 → 00:10:11 นะครับถ้าเราแบบไม่ได้ทานข้าวการนอนก็ไม่
00:10:11 → 00:10:14 ดีหรืออะไรอย่างเงี้ยยิ่งเป็นผู้สูงอายุ
00:10:14 → 00:10:17 ด้วยสุขภาพก็อาจจะแย่ลงได้บางครั้งก็อาจ
00:10:17 → 00:10:20 จะทำให้เจ็บป่วยได้ง่ายขึ้นซึ่งถึงจุด
00:10:20 → 00:10:22 นั้นก็อาจจะทำให้เสียชีวิตได้เหมือนกัน
00:10:22 → 00:10:26 ครับอการตอมใจจนี่เป็นสิ่งที่สำคัญนะครับ
00:10:26 → 00:10:28 หลายๆท่านไม่รู้จักภาวะซึมเศร้าในผู้สูง
00:10:28 → 00:10:30 อายุเนาะเพราะว่าไม่ใช่บุคลากรทางการ
00:10:30 → 00:10:33 แพทย์แต่ว่าจะได้ยินบ่อยๆหรือบางครั้งดู
00:10:33 → 00:10:36 ละครดูอะไรเนี่ยก็จะเห็นคำว่าตรอมใจตาย
00:10:36 → 00:10:39 หรือบางครั้งอ่านข่าวว่าอ่าการสูญเสียผม
00:10:39 → 00:10:42 เชื่อว่าเวลาผู้สูงอายุเนี่ยมักจะมีการ
00:10:42 → 00:10:45 สูญเสียเป็นสิ่งสำคัญสิ่งหนึ่งเลยที่ทำ
00:10:45 → 00:10:47 ให้เกิดภาวะซึมเศร้าได้ถูกมั้ยครับที
00:10:47 → 00:10:49 เนี้ยผมอยากรู้ว่าจริงๆแล้วในผู้สูงอายุ
00:10:49 → 00:10:53 เนี่ยคำว่าตรอมใจกับคำว่าเศร้าเนี่ยมัน
00:10:53 → 00:10:58 เจอเยอะมครับถ้าพูดถึงตัวเอาเป็นตัวคำว่า
00:10:58 → 00:11:00 เศร้าเลยแล้วกันนะครับครับตัวคำว่าเศร้า
00:11:00 → 00:11:03 เนี่ยถ้าเทียบกันละในผู้สูงอายุกับใน
00:11:03 → 00:11:05 ประชากรทั่วไปเนี่ยต้องถือว่าผู้สูงอายุ
00:11:05 → 00:11:08 พบได้บ่อยกว่ามากนะครับเราอาจจะไม่ได้มี
00:11:08 → 00:11:10 เกณฑ์วัดความเศร้ากันแน่นอนเพราะว่าจริงๆ
00:11:10 → 00:11:12 ชีวิตเราก็อาจจะเจอความเศร้าได้ทุกวัน
00:11:12 → 00:11:14 เนาะนะครับแต่ถ้าวัดให้มันเป็นเกณฑ์ชัด
00:11:14 → 00:11:18 เจนเขาคก็จะมีเกณฑ์อย่างเช่นอ่าการวัดแบบ
00:11:18 → 00:11:20 ทดสอบซึมเศร้าหรืออะไรพวกนี้ยครับซึ่งเขา
00:11:20 → 00:11:23 ก็อาจจะเก็บเป็นสถิติได้ผมยกตัวอย่างง่าย
00:11:24 → 00:11:27 ๆว่าถ้าสมมุติในคนทั่วไปเนาะโรคซึมเศร้า
00:11:27 → 00:11:30 อาจจะพบได้ประมาณสัก 10% นะครับในผู้สูง
00:11:30 → 00:11:33 อายุเนี่ยเฉลี่ยพบได้เยอะกว่านั้นมากนะ
00:11:33 → 00:11:37 ครับแล้วแต่การศึกษาบางการศึกษาพบ 20%
00:11:37 → 00:11:39 บางั้งศึกษา 30 หรือไปจนถึง 40% ก็มี
00:11:39 → 00:11:42 เหมือนกันโอโหอเยอะมากเลยนะครับแสดงว่า
00:11:42 → 00:11:45 เราไม่รู้เลยนะครับว่าพ่อๆแม่ๆของเรา
00:11:45 → 00:11:47 เนี่ยจะมีภาวะนี้ซ่อนอยู่หรือเปล่าเพราะ
00:11:47 → 00:11:50 ถ้ามันเจอ 40% จริงเนี่ยแปลว่า 10 คนนี้
00:11:50 → 00:11:53 มี 4 คนแล้วนะครับอือืเยอะมากๆแสดงว่า
00:11:53 → 00:11:56 เป็นปัญหาที่สำคัญแล้วเราจะเอาชนะความ
00:11:56 → 00:11:59 เหงาก็ดีนะความเศร้าก็ดีนะครับในในมุมของ
00:11:59 → 00:12:02 จิตแพทย์ถ้าสมมุติอ่ะผมเข้าใจว่าเวลาเรา
00:12:02 → 00:12:04 เป็นหมอเนี่ยเราจะต้องทำการเ้าเรียกว่า
00:12:04 → 00:12:08 รักษาเนาะแต่ว่าในชีวิตจริง่ะครับคนที่จะ
00:12:08 → 00:12:10 อยู่ใกล้ชิดกับคนที่เขามีปัญหามากที่สุด
00:12:10 → 00:12:14 อ่ะคือครอบครัวหรือคนที่ดูแลนะทีเนี้ยใน
00:12:14 → 00:12:16 ในมุมมองของหมออครับอยากอยากจะถามว่าเรา
00:12:17 → 00:12:20 พอจะมีเคล็ดลับมครับที่คิดว่าง่ายแล้วก็
00:12:20 → 00:12:22 สามารถให้ทุกท่านนำไปใช้ได้เลยในการที่
00:12:22 → 00:12:24 เราจะดูแลทั้งความเหงาและความเศร้าอ่ะ
00:12:24 → 00:12:28 ครับอืมอย่างทั้งความเหงาและความเศร้านะ
00:12:28 → 00:12:31 ครับความเหงาก็คือการขาดการเชื่อมโยงเนาะ
00:12:31 → 00:12:34 ความเศร้าก็อาจจะเกิดได้จากหลายสาเหตุเลย
00:12:34 → 00:12:37 นะครับอันนี้ถ้าให้พูดน่าจะยาวเลยครับแต่
00:12:37 → 00:12:40 สรุปสั้นๆแล้วกันว่า 2 ตัวเนี้ยมันอาจจะ
00:12:40 → 00:12:42 เป็นอารมณ์ในเชิงลบมากกว่านะครับเราก็อาจ
00:12:43 → 00:12:45 จะเพิ่มอารมณ์ในเชิงบวกเพิ่มขึ้นมาใช่
00:12:45 → 00:12:49 เพื่อช่วยให้มีปัจจัยที่สามารถรับมือกับ
00:12:49 → 00:12:51 สิ่งต่างๆเหล่านี้ได้ดีขึ้นรวมไปถึงอีก
00:12:51 → 00:12:54 อย่างนึงที่รับมือได้ดีนะครับแล้วก็คิด
00:12:54 → 00:12:57 ว่าหลายๆคนที่ติดตามช่องเนี้ยน่าจะทำกัน
00:12:57 → 00:13:00 อยู่ด้วยคือการออกกำลังกายครับอืทิ้งท้าย
00:13:00 → 00:13:02 ไว้ดีนะครับเดี๋ยวเรื่องนี้ต้องขยายต่อ
00:13:02 → 00:13:05 ครับแต่ทีนี้ผมอยากจะมาคุยในประเด็นของ
00:13:05 → 00:13:08 พลังความบวกครับเพราะว่าหลายๆคนอาจจะเข้า
00:13:08 → 00:13:10 ใจว่าเอ๊เป็นการคิดบวกหรือเปล่าจะให้คิด
00:13:10 → 00:13:13 ในแง่ดีอย่างเดียวหรือเปล่าเนาะแต่ผมว่า
00:13:13 → 00:13:15 วันนี้วันแห่งความรักอ่ะจะเป็นไปได้ไห
00:13:15 → 00:13:18 ครับที่พลังบวกนั้นน่ะคือการมอบความรัก
00:13:18 → 00:13:22 หรือว่าการบอกรักกันันนี้ถูกไครับครับ
00:13:22 → 00:13:25 สามารถทำได้มให้กับผู้สูงอายุทำได้ครับทำ
00:13:25 → 00:13:29 ได้เอ่อโดยส่วนตัวเราคิดว่าส่งเสริมให้ทำ
00:13:29 → 00:13:31 ด้วยนะนะครับเพราะว่าบางทีเหมือนกับผู้
00:13:31 → 00:13:33 สูงอายุที่อาจจะเศร้าอยู่หรือขาดการ
00:13:33 → 00:13:36 เชื่อมโยงนะครับถ้ามีใครที่เข้ามาแสดง
00:13:36 → 00:13:39 ความรักหรือทำให้เขารู้สึกว่าสามารถที่จะ
00:13:39 → 00:13:42 เชื่อมโยงถึงกันได้พวกความเศร้ากับความ
00:13:42 → 00:13:45 เหงาก็ดีขึ้นได้อ่าแสดงว่าวันนี้ครับพี่
00:13:45 → 00:13:49 ไกเราต้องมาฝึกการเชื่อมโยงความรักให้กัน
00:13:49 → 00:13:52 แล้วล่ะครับทำยังไงครับเป็นที่มาแล้วครับ
00:13:52 → 00:13:54 วันนี้ก็ต้องถามหมอพีนะครับถามผมก็ไม่รู้
00:13:54 → 00:13:57 นะพี่ไกอ่ะแต่ว่าพูดอย่างงี้ครับถ้าถ้า
00:13:57 → 00:14:00 ถ้าก็มองความรักเป็นเหมือนการสื่อสารเนาะ
00:14:00 → 00:14:02 ครับอ่ามันก็ต้องมีทั้งผู้รับสารถูกมั้ย
00:14:02 → 00:14:05 ครับแล้วก็ผู้สงสารเนาะอ่ะในประเด็นวัน
00:14:05 → 00:14:07 นี้ขอสรุปคร่าวๆก่อนว่าเรามองเห็นว่า
00:14:08 → 00:14:11 ปัญหาจริงๆของผู้สูงอายุคือความเหงาและ
00:14:11 → 00:14:13 ความเศร้าเนาะซึ่งความเหงาก็อาจจะทำให้
00:14:13 → 00:14:17 ผู้สูงอายุขาดเป้าหมายแล้วก็อาจจะส่งผลทำ
00:14:17 → 00:14:19 ให้การขาดเป้าหมายด้านสุขภาพก็จะเป็นการ
00:14:19 → 00:14:22 ที่ทำให้สุดท้ายสุขภาพก็ไม่ดีไม่รู้จะ
00:14:22 → 00:14:24 อยู่ไปทำไมถูกมั้ยครับรวมไปถึงความเศร้า
00:14:24 → 00:14:27 เนี่ยถ้าเป็นมากๆก็กลายเป็นปัญหาซึ่งส่ง
00:14:27 → 00:14:31 ผลทั้งร่างกายและจิตใจเนาะซึ่งพวกเรามอง
00:14:31 → 00:14:33 ว่าการที่เราจะดูแลคนเหล่านี้ได้ก็ต้อง
00:14:33 → 00:14:36 ใช้การสื่อสารทางด้านความรักถูกมั้ยครับ
00:14:36 → 00:14:39 อ่าและแน่นอนครับตอนนี้เรามาเรียนรู้กับ
00:14:39 → 00:14:41 การสื่อสารความรักกับหมอพีดีกว่าครับพี่
00:14:41 → 00:14:43 ไก่อ่ะปกติพี่ไก่แสดงความรักกับคุณพ่อคุณ
00:14:43 → 00:14:46 แม่ยังไงบ้างผมถามก่อนเผื่อจะได้ให้หมอพี
00:14:46 → 00:14:50 บอกว่าพี่ไก่ทำถูกหรือเปล่าถ้าผมด้วยความ
00:14:50 → 00:14:53 ที่ผมเป็นคนที่ค่อนข้างจะสูงกว่าคนในบ้าน
00:14:53 → 00:14:56 แล้วกันสูงกว่าคนในบ้านหน่อยผมก็จะกอด
00:14:56 → 00:14:59 แล้วก็ทุกครั้งก็จะหอมที่หน้าผากออเพราะเ
00:14:59 → 00:15:02 จะอยู่ในดับพอดีก็หอมที่หน้าผาอืแทบทุก
00:15:02 → 00:15:04 ครั้งเวลาที่กลับบ้านหรืออะไรอย่างเงี้ย
00:15:04 → 00:15:07 ครับอืหมอเฟ่ะครับผมรอครับของผมเนี่ยตั้ง
00:15:07 → 00:15:10 แต่เด็กเลยคือตั้งธรรมเนียมไว้เลยครับว่า
00:15:10 → 00:15:14 โอเคก่อนนอนพูดกนทอ่าหรือว่าให้อยู่บ้าน
00:15:14 → 00:15:17 ด้วยกันก็จะไปกอดกันทุกคืนก่อนนอนนะครับ
00:15:17 → 00:15:19 อันนี้ก็คือเป็นธรรมเนียมที่ทำมาตั้งแต่
00:15:19 → 00:15:21 เด็กๆแล้วพี่ไก่ก็ก็ผมก็คิดว่าอันนี้ก็
00:15:21 → 00:15:24 เป็นการสื่อสารความรักนะทีเยครับในในมุม
00:15:24 → 00:15:27 ของหมอพีครับการสื่อสารความรักเนี่ยมันมี
00:15:27 → 00:15:29 รายละเอียดยังไงบ้างครับที่ผู้ชมทางบ้าน
00:15:29 → 00:15:33 เนี่ยอาจจะมองข้ามไปหรือว่าทำอยู่แล้วแต่
00:15:33 → 00:15:35 ไม่เห็นได้ผลเลยเออมันมีรายละเอียดยังไง
00:15:35 → 00:15:38 อ่ะครับอที่ทั้ง 2 ท่านยกตัวอย่างมานะ
00:15:38 → 00:15:41 ครับถือว่าเป็นตัวอย่างที่ดีมากๆเลยในการ
00:15:41 → 00:15:43 ที่ให้เห็นว่าจริงๆความรักมันไม่จำเป็น
00:15:43 → 00:15:46 ต้องแสดงออกรูปแบบเดียวนะครับการแสดงออก
00:15:46 → 00:15:49 ว่าเรารักใครสักคนเนี่ยมันมีหลายรูปแบบ
00:15:49 → 00:15:52 ครับหรือว่ามันจะมีสิ่งนึงที่เรียกว่า
00:15:52 → 00:15:56 ภาษารักภาษารักใช่เคยได้ยินมั้ยครับอืเคย
00:15:56 → 00:15:59 เห็นแต่ในนิยายอ่ะครับผมเออประมาณในนิยาย
00:15:59 → 00:16:02 เราพูดเหรอพูดผมรักหมอเฟมนะครับอย่างงี้
00:16:02 → 00:16:05 ใช่มั้ยเฮ้ยอันนี้ก็เกินไปนะครับพี่ไก๋
00:16:05 → 00:16:08 แต่ผมคิดว่าบางคนน่ะก็พอเป็นครอบครัว
00:16:08 → 00:16:10 เนี่ยมันพูดยากนะอย่างสมมุติเราเป็นผู้
00:16:11 → 00:16:14 ชายเงี้ยจะไปแบบแสดงความรักกับแม่มากๆ
00:16:14 → 00:16:18 อะไรเงี้ยถ้าถ้าถ้าไม่เคยทำหรือไม่ไม่ไม่
00:16:18 → 00:16:20 ใช่บุคลิกที่จะทำอ่ะก็อาจจะทำไม่ได้เนาะ
00:16:20 → 00:16:24 ภาษารักคำว่าภาษาเนาะอย่างที่พี่ไก่พูดมา
00:16:24 → 00:16:27 เมื่อกี้ว่าแบบจำเป็นจะต้องเป็นการบอกกัน
00:16:27 → 00:16:29 ผ่านคำพูดหรือเปล่าเราเราอาจจะเข้าใจ
00:16:29 → 00:16:31 อย่างนั้นเพราะมันมีคำว่าภาษาอยู่แต่จริง
00:16:31 → 00:16:34 ๆคำว่าภาษารักเนี่ยครอบคลุมได้กว้างกว่า
00:16:34 → 00:16:37 นั้นครับหมายถึงว่าการบอกรักเป็นหนึ่งใน
00:16:37 → 00:16:40 ภาษารักอย่างนี้แล้วกันซึ่งภาษารักโดย
00:16:40 → 00:16:43 หลักๆนะครับคือแล้วแต่ว่าจะมีการแบ่งยัง
00:16:43 → 00:16:48 ไงนะครับบางคนก็แบ่งเป็น 5 แบบบางคนก็อาจ
00:16:48 → 00:16:50 จะมีถึง 7 แบบได้เหมือนกันนะครับแต่ว่า
00:16:50 → 00:16:53 วันนี้เราจะมาพูดแบบดั้งเดิมแล้วกันจะ
00:16:53 → 00:16:57 เป็นเวอร์ชั่นของดรแี่ chapman ซึ่งเขา
00:16:57 → 00:17:01 แบ่งสาออกเป็น 5 อย่างด้วยกันนะครับ 5
00:17:01 → 00:17:04 อย่างนี้ก็จะประกอบไปด้วยตั้งแต่ 1 การ
00:17:04 → 00:17:07 สัมผัสนะครับอย่างเช่นที่พี่ไก่หรือว่า
00:17:07 → 00:17:10 หมอเฟมนะครับมีการบอกรักคนในครอบครัวผ่าน
00:17:10 → 00:17:14 การสัมผัสเนาะอันที่ 2 ก็อย่างที่หลายๆคน
00:17:14 → 00:17:17 รู้อยู่แล้วคือการบอกรักตรงๆเลยอันนี้ก็
00:17:17 → 00:17:20 คือการใช้คำพูดใช่ครับหรือว่าเขาจะเรียก
00:17:20 → 00:17:22 เป็นภาษาอังกฤษว่า Word of affirmation
00:17:22 → 00:17:27 นะครับผมอันที่ 3 ก็จะมีการบอกรักบางที
00:17:27 → 00:17:29 วันสำคัญอะไรอย่างงี้ก็มีการซื้อของต่างๆ
00:17:29 → 00:17:33 ให้เนาะนะครับก็คือใช่เป็นภาษาอีกอย่าง
00:17:33 → 00:17:37 นึงก็คือกิฟครับผมคือการให้ของบางอย่าง
00:17:37 → 00:17:40 ที่จับต้องได้แต่ผมว่าอันนี้อาจจะเป็นแบบ
00:17:40 → 00:17:42 คุณแม่ให้คุณลูกมากกว่ามครับให้ของขวัญ
00:17:43 → 00:17:45 เอ่อส่วนใหญ่เราน่าจะเห็นกันแบบนั้นเนาะ
00:17:46 → 00:17:48 ในครอบครัวนะครับแต่ว่าบางทีพอลูกโตขึ้น
00:17:48 → 00:17:51 ก็อยากให้คุณแม่เหมือนกันก็หรือบางทีคุณ
00:17:51 → 00:17:53 แม่ให้คุณพ่อคุณพ่อให้คุณแม่อย่างงี้ก็
00:17:53 → 00:17:55 ได้ผมว่าลูกล้องให้คุณแม่ก็ได้นะอย่างใน
00:17:55 → 00:17:57 วันสำคัญหรือใครที่กำลังฟังเราอยู่เนี่ย
00:17:57 → 00:17:59 ลูกลองให้คุณแม่แม่ดูหรือว่าให้คุณปู่คุณ
00:18:00 → 00:18:03 ย่าดูผมว่าท่านจะยิ้มมากๆเลยนะครับน่าส
00:18:03 → 00:18:05 น่าสนใจซึ่งจริงๆไม่จำเป็นต้องเป็นของที่
00:18:05 → 00:18:08 มีราคาแพงหรือว่าอะไรอย่างงี้เลยครับลอง
00:18:08 → 00:18:12 นึกภาพว่าถ้ามีลูกเอาของขวัญแบบชิ้นเล็กๆ
00:18:12 → 00:18:15 ก็ได้มาให้เราเราก็น่าจะรู้สึกดีใจเนาะนะ
00:18:15 → 00:18:19 ครับก็ถ้าสมมุติว่ามีลูกๆนะครับได้ดู
00:18:19 → 00:18:22 วีดีโอนี้ก็ลองสื่อสารความรักด้วยวิธีนี้
00:18:22 → 00:18:25 กับคุุณพ่อคุณแม่ดูนะครับผมโอเคครับก็จะ
00:18:25 → 00:18:28 มีสัมผัสแล้วคำพูดแล้วก็ให้ของขวัญในวัน
00:18:28 → 00:18:29 พิ
00:18:29 → 00:18:31 ใช่ครับอย่างที่ 4 คืออะไรครับอย่างที่ 4
00:18:31 → 00:18:36 ก็คือการกระทำครับการกระทำเนี่ยอาจจะเป็น
00:18:36 → 00:18:39 การทำบางสิ่งบางอย่างให้นะครับเพื่อให้
00:18:39 → 00:18:43 อีกฝ่ายนึงรับรู้ว่าเรากำลังแสดงออกถึง
00:18:43 → 00:18:46 ความรักหรือว่าความคิดถึงผ่านการดูแล
00:18:46 → 00:18:48 เรื่องราวต่างๆเหล่านั้นให้เขาใช่ครับ
00:18:48 → 00:18:52 แล้วก็อันสุดท้ายก็คือการให้เวลาร่วมกัน
00:18:52 → 00:18:54 ซึ่งเวลาร่วมกันในที่เนี้ยต้องเป็นเวลา
00:18:54 → 00:18:57 ที่มีคุณภาพหรือ Quality Time ผมว่า
00:18:57 → 00:19:00 เริ่มน่าสนใจแล้วครับเพราะว่าเราเรียนรู้
00:19:00 → 00:19:04 ทุกภาษาเลยเนาะภาษาอังกฤษภาษาไทยใช่มั้ย
00:19:04 → 00:19:07 ครับภาษาถิ่นเนาะแต่ว่าเราน่าจะต้อง
00:19:07 → 00:19:09 มาเรียนรู้ภาษาลักษณเนาะผมว่ามันเป็นพื้น
00:19:09 → 00:19:11 ฐานอะไรที่ทำให้เรามีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น
00:19:11 → 00:19:13 นะครับรวมไปถึงความรักความสัมพันธ์ใน
00:19:13 → 00:19:15 ครอบครัวดีขึ้นและแน่นอนมันก็ตามมาแต่
00:19:15 → 00:19:18 สิ่งดีๆเนาะแล้วในวันเครับผมอยากรู้ว่า
00:19:18 → 00:19:21 แล้วแต่ละคนเนี่ยถ้าสมมุติเราพูดภาษาไม่
00:19:21 → 00:19:24 เหมือนกันเราจะสื่อสารกันได้มั้ยหรือว่า
00:19:24 → 00:19:26 เราจะต้องพูดภาษาเดียวกันเท่านั้นเราถึง
00:19:26 → 00:19:29 จะสื่อสารกันได้เราจะรู้ได้ยังไงครับว่า
00:19:29 → 00:19:33 แต่ละคนมีภาษาเป็นแบบไหนอืสิ่งที่น่าสนใจ
00:19:33 → 00:19:36 มันอยู่ตรงนี้ครับคือภาษารักเนี่ยจะแตก
00:19:36 → 00:19:38 ต่างกับภาษาที่เราพูดคุยกันในชีวิตประจำ
00:19:38 → 00:19:41 วันคือภาษารักมันจะเป็นภาษาสากลต่อให้
00:19:41 → 00:19:45 ต่างชนชาติต่างอายุต่างศาสนาก็สามารถสื่อ
00:19:45 → 00:19:49 ความรักถึงกันได้หมดเลยนะครับถ้าเราเรียน
00:19:49 → 00:19:52 รู้ที่จะเข้าใจภาษารักของอีกฝ่ายแล้วแสดง
00:19:52 → 00:19:55 ออกตรงนั้นให้มากขึ้นเราก็จะสามารถสื่อ
00:19:55 → 00:19:59 ความรักไปถึงเขาได้ดีขึ้นใช่ครับสมมติ
00:19:59 → 00:20:01 สมมุติพี่ไก่ชอบการสัมผัสเงี้ยครับพี่ไก่
00:20:01 → 00:20:04 เเป็นคนชอบการสัมผัสแต่ว่าคนที่พี่ไก่รัก
00:20:04 → 00:20:08 เนี่ยเขาอาจจะเป็นคนที่ไม่บอกรักด้วยไม่
00:20:08 → 00:20:11 สัมผัสด้วยแต่อาจจะให้เวลาร่วมกันอย่าง
00:20:11 → 00:20:14 เดียวอะไรอย่าเงี้ยครับอันเนี้ยถือว่าพี่
00:20:14 → 00:20:16 ไก่จะมีความสุขมั้ยครับหรือว่าจะตอบโจทย์
00:20:16 → 00:20:20 พี่ไก่มครับถ้าอีกฝ่ายนึงเข้าใจจว่าภาษา
00:20:20 → 00:20:23 รักของพี่ไก่คืออะไรแล้วก็สามารถที่จะ
00:20:23 → 00:20:27 แสดงออกมาได้คืออาจจะไม่ถนัดบางคนไม่ถนัด
00:20:27 → 00:20:30 การสัมผัสเนาะไม่ชิกับต้องมากอดต้องมาหอม
00:20:30 → 00:20:32 แก้มหรืออะไรอย่างเงี้ครับแต่ถ้ารู้ว่า
00:20:32 → 00:20:35 สิ่งเนี้ยเป็นเหมือนกับสิ่งที่เป็นตัวแทน
00:20:35 → 00:20:38 ในการบอกความรักแล้วก็สามารถส่งตรงไปถึง
00:20:38 → 00:20:42 หัวใจพี่ไก่ได้จริงๆนะครับการที่เขาทำ
00:20:42 → 00:20:45 เพิ่มขึ้นมาเนี่ยมันจะทำให้พี่ไก่รู้สึก
00:20:45 → 00:20:48 ได้ถึงความแตกต่างแล้วก็สามารถที่จะรับ
00:20:48 → 00:20:50 ความรักได้มากขึ้นมันอาจจะไม่ได้เยอะมาก
00:20:50 → 00:20:54 มายแต่ว่าก็รับได้หมายถึงรับรู้ความรู้
00:20:54 → 00:20:59 สึกนั้นได้ครับผมถ้าไม่ได้แสดงออกตรงๆพี่
00:20:59 → 00:21:02 ไก่ก็อาจจะรับได้หมายถึงรับรู้ความรักที่
00:21:02 → 00:21:05 เขาแสดงออกมาได้แต่ว่าไม่ได้เต็มที่เท่า
00:21:05 → 00:21:09 ภาษารักที่พี่ไก่สื่อสารเป็นหลักแต่ในทาง
00:21:09 → 00:21:11 กับการตัวผมเองก็ต้องเข้าใจฝั่งเขาด้วย
00:21:11 → 00:21:15 แล้วฝั่งเขาก็เข้าใจเราด้วยใช่ใช่ๆแต่ละ
00:21:15 → 00:21:18 แบบเนี่ยเราจะทำอะไรได้บ้างเพราะว่าผมคิด
00:21:18 → 00:21:20 ว่าคนที่อยู่ทางบ้านเนี่ยพอถ้าคิดตามเรา
00:21:20 → 00:21:22 นะครับเขาจะต้องเอ๊ะอยากได้ตัวอย่างว่า
00:21:23 → 00:21:25 เฮ้ยทำแบบนั้นดีมั้ยนะทำแบบนี้ดีมเพื่อ
00:21:25 → 00:21:28 ให้แก้ปัญหากับตัวเองและครอบครัวได้เนาะ
00:21:28 → 00:21:30 ครับอย่างแรกเลยครับเรื่องของการสัมผัส
00:21:30 → 00:21:34 เนาะการสัมผัสอ่ะในส่วนนี้เองแต่ละคนก็
00:21:34 → 00:21:36 ชอบไม่เหมือนกันใช่ไหมมครับอย่างเช่นการ
00:21:36 → 00:21:39 กอดการหอมมันมีอย่างอื่นอีกมั้ยครับออพี
00:21:39 → 00:21:42 มีอีกเยอะเลยครับการสัมผัสบางทีพอเราพูด
00:21:42 → 00:21:44 ถึงการสัมผัสโดยเฉพาะด้านความรักเราก็อาจ
00:21:44 → 00:21:48 จะนึกไปถึงเรื่องในอ่าเชิงความสัมพันธ์
00:21:48 → 00:21:50 แบบแฟนหรืออะไรพวกนี้เนาะนะครับแต่ว่า
00:21:50 → 00:21:52 จริงๆแล้วมันไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนั้น
00:21:52 → 00:21:55 เสมอไปก็ได้นะครับอาจจะเป็นการจับมือนะ
00:21:55 → 00:21:59 ครับการตบไหล่เบาๆการบีบีบนวดให้หรืออะไร
00:21:59 → 00:22:02 อย่างงี้ก็ได้หรือบางครั้งการนั่งใกล้ชิด
00:22:02 → 00:22:04 กันแล้วก็มีการสัมผัสตัวกันเท่านั้นก็ทำ
00:22:04 → 00:22:08 ให้อีกฝ่ายรับรู้ถึงความรักได้แล้วอืแล้ว
00:22:08 → 00:22:11 ถ้าเป็นลูกหลานที่ต้องการแบบที่ 1 เนี่ย
00:22:11 → 00:22:14 ด้วยการสัมผัสเนี่ยสัมผัสกลับไปที่ผู้สูง
00:22:14 → 00:22:17 อายุหรือพ่อแม่ปู่ย่าตายายเนี่ยเขาจะต้อง
00:22:17 → 00:22:20 สัมผัสในรูปแบบไหนให้ท่านรู้สึกดีครับอืม
00:22:20 → 00:22:22 ตรงนี้น่าสนใจครับเพราะว่าจริงๆแล้วแม้
00:22:23 → 00:22:26 ว่าการสัมผัสมันจะเป็นภาษารักของคนๆนั้น
00:22:26 → 00:22:30 แต่อาจจะไม่ใช่ทุกการสัมผัสที่สามารถสื่อ
00:22:30 → 00:22:33 เข้าไปถึงจิตใจเขาได้โดยตรงนะครับบางคน
00:22:33 → 00:22:36 ชอบการกอดเนาะแต่บางคนชอบให้นั่งจับมือ
00:22:36 → 00:22:40 เฉยๆหรืออะไรอย่างนี้ก็ได้ลองค้นหาดูว่า
00:22:40 → 00:22:43 ถ้าคิดว่าการสัมผัสคือภาษารักของคนที่เรา
00:22:44 → 00:22:47 รักแล้วอ่ะเขาชอบการสัมผัสรูปแบบไหนมันก็
00:22:47 → 00:22:51 จะยิงตรงเข้าไปยิ่งขึ้นไปอีกครับอืนวด
00:22:51 → 00:22:54 มั้ยอลองนดก็ได้ครับบีบนวดก็ดีนะผมว่าแบบ
00:22:54 → 00:22:57 บีบนวดเล็กน้อยๆเนาแบบแบบสมัยดอนเด็กๆอ่ะ
00:22:57 → 00:23:00 ก็แต่ละคนก็อ่ะบีบนวดเอาใจใช่มั้ครับบาง
00:23:00 → 00:23:02 ครั้งอ่ะผมมองว่าการที่เราทำเล็กๆน้อยๆน
00:23:02 → 00:23:04 อาจจะแก้ปัญหาใหญ่ได้อย่างเช่นการไม่อยาก
00:23:04 → 00:23:06 มาโรงพยาบาลน่ะแต่ถ้าเราแสดงความใส่ใจ
00:23:07 → 00:23:09 จริงๆไปนั่งอยู่ไปนั่งบีบนวดให้เล็กน้อย
00:23:09 → 00:23:12 เนี่ยผมว่ามันก็มีโอกาสเปลี่ยนใจให้ผู้
00:23:12 → 00:23:15 สูงอายุที่เราอาจจะคิดว่าเขาดื้อเไม่รับ
00:23:15 → 00:23:17 ความรักจากเราเนี่ยเปลี่ยนความคิดได้นะ
00:23:18 → 00:23:20 อันนี้ผมเชื่อส่วนตัวแล้วกันแล้วผมคิดว่า
00:23:20 → 00:23:23 ถ้าใครลองทำแล้วเห็นผลก็มาพิมพ์บอกกันได้
00:23:23 → 00:23:25 นะครับอ่ะมาอันที่ 2 ดีกว่าเรื่องของคำ
00:23:25 → 00:23:28 พูดเนาะคำพูดเนี่ยผมว่ายากพี่ไก่ผมผมว่า
00:23:28 → 00:23:30 อันนี้เป็นเรื่องยากเพราะว่าแต่ละคนน่ะมี
00:23:30 → 00:23:33 การรับรู้คำพูดได้ตีความคำพูดไม่เหมือน
00:23:33 → 00:23:36 กันเนาะอย่างบางคนถ้าเป็นโรคที่เกี่ยวกับ
00:23:36 → 00:23:38 ความซึมเศร้าอะไรเงี้ยคำพูดบางคำเอาจจะ
00:23:38 → 00:23:41 เปราะบางนะเราหวังดีนะแต่อาจจะเปราะบางนะ
00:23:42 → 00:23:45 ครับอย่างคำพูดที่เป็นการสื่อสารความรัก
00:23:45 → 00:23:48 เนี่ยหมอพีคิดว่าอะไรบ้างที่เป็นตัวอย่าง
00:23:48 → 00:23:52 ให้คุณผู้ชมเนี่ยสามารถทำได้ครับคำพูดที่
00:23:52 → 00:23:54 เป็นการแสดงออกถึงความรักนะครับก็ยกตัว
00:23:54 → 00:23:58 อย่างเช่นคำพูดขอบคุณนะครับอย่างเช่น
00:23:59 → 00:24:01 ขอบคุณที่วันนี้ทำสิ่งนี้ให้ขอบคุณที่
00:24:01 → 00:24:04 ซื้ออันนี้มาให้หรือว่าขอบคุณที่
00:24:04 → 00:24:07 อ่าให้บางอย่างกับเราหรืออะไรอย่างเงี้
00:24:07 → 00:24:10 ครับคนที่มีภาษารักเป็นด้านคำพูดเขาก็จะ
00:24:10 → 00:24:13 รู้สึกดีใจนะครับขอบคุณในเรื่องเล็กๆน้อย
00:24:13 → 00:24:17 ๆใช่มั้ยใช่ครับจตกยุงโอ๊ยอันนี้เจ็บครับ
00:24:17 → 00:24:19 อันนี้อันนี้ไม่ใช่ภาษากายที่ดีนะครับอัน
00:24:19 → 00:24:21 นี้ไม่ใช่ภาษากายที่ดีครับโอขอบคุณครับ
00:24:21 → 00:24:23 พี่
00:24:23 → 00:24:26 ไกอ่าโอ้ง่ายนะครับอันนี้ง่ายนะง่ายนะคำ
00:24:26 → 00:24:29 ขอบคุณเป็นอันแรกครับครับอันที่ 2 ก็อาจ
00:24:29 → 00:24:32 จะเป็นคำชื่นชมนะครับหรือว่าการให้กำลัง
00:24:32 → 00:24:36 ใจนะครับอืผมว่ายิ่งเป็นผู้สูงอายุอ่ะ
00:24:36 → 00:24:40 ครับเขาอาจจะขาดความมั่นใจหรือการทำอะไร
00:24:40 → 00:24:44 บางอย่างเนาะถ้าเราสามารถชื่นชมได้หรือ
00:24:44 → 00:24:47 ชี้ให้เขาเห็นถึงจุดที่เขามีข้อดีได้อ่ะ
00:24:47 → 00:24:49 ผมว่าอันนี้ก็จะเป็นสิ่งนึงนะที่ทำให้เขา
00:24:49 → 00:24:52 อ่ะรู้สึกว่ามีคุณค่ามากขึ้นและก็จะมี
00:24:52 → 00:24:55 ความสุขมากขึ้นอย่างที่ผมเคยได้ยินบ่อยๆ
00:24:55 → 00:24:58 เลยโอ๊ยวันนี้กินข้าวหมดเลยเก่งจังเลยเอ
00:24:58 → 00:25:00 ชอบพูดกันแบบนี้นะครับพูดให้ผู้สูงอายุ
00:25:00 → 00:25:03 ฟังผมได้ยินบ่อยนะครับใช่ครับอืดีนะครับ
00:25:03 → 00:25:05 อันนี้ก็เป็นการแก้ปัญหาโภชนาการผู้สูง
00:25:05 → 00:25:07 อายุได้เนาเพราะว่าส่วนใหญ่ผู้สูงอายุมัก
00:25:07 → 00:25:10 กินไม่พอใช่มั้ยเออก็ดีกว่าหมอมานั่งบอก
00:25:10 → 00:25:13 ว่าต้องกินนั่นกินนี่ทำนั่นทำนี่ใช่มั้ย
00:25:13 → 00:25:15 ครับอ่าแต่ว่าจริงๆคนทางบ้านอาจจะเป็นคน
00:25:15 → 00:25:18 ดูแลเนี่ยแก้ปัญหาได้ดีกว่าเราอีกต่อไป
00:25:18 → 00:25:20 อันที่ 3 ต่อไปก็อันที่ 3 นะครับเป็น
00:25:20 → 00:25:22 เรื่องของการให้ของขวัญอ่าประเด็นเผมสนใจ
00:25:22 → 00:25:25 เป็นพิเศษนิดนึงเพราะว่าอ่ะส่วนตัวผมรู้
00:25:25 → 00:25:28 สึกว่าผมน่ะจะชอบออกสโลแกนเนาะบอกว่าถ้า
00:25:28 → 00:25:31 ท่านรักใครให้ส่งคลิปนี้เป็นของขวัญแสดง
00:25:31 → 00:25:34 ความรักความห่วงใยอ่ะเหมือนเป็นการชวนออก
00:25:34 → 00:25:37 กำลังกายผมว่าอันเนี้ยผมผมไม่รู้นะผมคิด
00:25:37 → 00:25:40 ว่ามันเป็นการสื่อสารความรักข้อนี้ได้ไ
00:25:40 → 00:25:43 ครับได้นะครับได้เลยมันคือของขวัญเนี่ย
00:25:43 → 00:25:47 มันอาจจะไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่ราคาแพง
00:25:47 → 00:25:50 หรือว่ามีชิ้นใหญ่ก็ได้ถ้าสมมุติว่าคนที่
00:25:50 → 00:25:53 เรารักมีภาษารักเป็นของขวัญการที่เราให้
00:25:53 → 00:25:56 อะไรบางอย่างที่มันอาจจะมองเห็นได้หรือ
00:25:56 → 00:25:58 ว่าจับต้องได้อย่างเงี้ยเขาก็จะรับรู้ได้
00:25:58 → 00:26:01 ถึงความรักได้ดีนะครับยกตัวอย่างเช่นเรา
00:26:01 → 00:26:07 ไม่จำเป็นต้องซื้อเอ่อของหรูๆแพงๆหรือพา
00:26:07 → 00:26:10 ไปกินร้านแพงๆหรืออะไรตลอดเวลาเติมกันวัน
00:26:10 → 00:26:13 ละนิดก็ได้ครับเป็นของชิ้นเล็กๆซื้อมาฝาก
00:26:13 → 00:26:15 วันนี้เจอไอ้นี้หยิบมาให้หรืออะไรอย่าง
00:26:15 → 00:26:19 เงี้ยครับอืทำกับข้าวทานร่วมกันในบ้านอื
00:26:19 → 00:26:21 ดีครับดีผมว่าเป็นเป็นอะไรที่ดีมากเลย
00:26:21 → 00:26:23 แล้วต่อไปอันที่ 4 เนี่ยอันนี้ประเด็น
00:26:23 → 00:26:26 เนี้ยผมว่าเป็นสิ่งที่นมนานละและผู้สูง
00:26:26 → 00:26:29 อายุชอบแต่หลายๆครั้งเรารเลยนะครับก็คือ
00:26:29 → 00:26:32 การบริการการดูแลใช่มั้ยครับผู้สูงอายุ
00:26:32 → 00:26:35 ซึ่งคำพูดนึงที่ผมจะใช้เสมอนะครับว่าแบบ
00:26:35 → 00:26:38 ผู้สูงอายุหรือว่าผู้ใหผู้หลักผู้ใหญ่
00:26:38 → 00:26:41 เนี่ยส่วนใหญ่อ่ะเขาชอบคนที่ปรนนิบัติ
00:26:41 → 00:26:45 หรือว่าการที่แบบดูแลปรนนิบัติน่ะอ่าผม
00:26:45 → 00:26:47 ว่าอันเนี้ยสามารถเอาไปใช้ได้มั้ยครับเอา
00:26:47 → 00:26:50 ไปใช้ได้ครับโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าผู้สูง
00:26:50 → 00:26:53 อายุหรือว่าคนที่เรารักเนี่ยมีภาษารักที่
00:26:53 → 00:26:56 เรารู้สึกว่าเป็นการอ่าให้การดูแลนะครับ
00:26:56 → 00:26:59 หรือว่า act of serv ซึ่งถ้าเขามีอย่าง
00:26:59 → 00:27:02 นี้เนี่ยแล้วเราดูแลเคคนะครับเขาจะยิ่ง
00:27:02 → 00:27:05 รับรู้ได้เลยว่าเราเนี่ยกำลังแสดงความรัก
00:27:05 → 00:27:10 ออกให้เขาอืมการดูแลอาจจะเป็นการทำอะไร
00:27:10 → 00:27:12 บางอย่างให้ครับอย่างเช่นทำกับข้าวให้
00:27:12 → 00:27:17 กวาดบ้านให้ดูแลทำความสะอาดเช็ดตัวล้างรถ
00:27:17 → 00:27:20 สมมุติจะไปเที่ยวกันก็อาจจะดูแลความเรียบ
00:27:20 → 00:27:22 ร้อยจัดกระเป๋าทำนู่นทำนี่ให้หรืออะไร
00:27:22 → 00:27:25 อย่างเงี้ยนับว่าเป็นการดูแลหมดเลยครับ
00:27:25 → 00:27:27 เดินประคองกลางร่มให้ผมว่าก็ต้องเคแล้วนะ
00:27:27 → 00:27:29 ครับอครับผมผมนั้นก็เป็นหนึ่งในการดูแล
00:27:29 → 00:27:32 ที่แสดงออกถึงความรักได้ดีมากๆอืไม่ต้อง
00:27:32 → 00:27:35 เสียเงินเลยเนาะไม่ไม่ได้แบบดูมีมูลค่า
00:27:35 → 00:27:38 อะไรนะแต่ว่าดูมีคุณค่ามากๆเนาะโอ้ผมว่า
00:27:38 → 00:27:41 อันนี้น่าสนใจนะครับผู้สูงอายุชอบคน
00:27:41 → 00:27:44 ปรนิบัตินะครับพี่ไกอ่ะแล้วอันสุดท้าย
00:27:44 → 00:27:47 ครับผมว่าอันเนี้ยสำคัญมากที่สุดเลยคือ
00:27:47 → 00:27:49 การใช้เวลาร่วมกันถูกมครับแล้วต้องเป็น
00:27:49 → 00:27:52 เวลาที่มีคุณภาพด้วยอใช่ครับใช่อะไรบ้าง
00:27:52 → 00:27:55 ครับหมอพีช่วยแนะนำหน่อยได้มครับจริงๆ
00:27:55 → 00:27:58 เวลานั้นจะเป็นอะไรก็ได้เลยครับแต่ว่า
00:27:58 → 00:28:01 ความสำคัญอยู่ที่ถ้าเราโฟกัสไปที่อีกฝ่าย
00:28:01 → 00:28:04 นึงอย่างเต็มที่อ่ะอันนั้นนับว่าเป็นเวลา
00:28:04 → 00:28:06 ที่มีคุณภาพแล้วครับเราอาจจะกินข้าวกัน
00:28:07 → 00:28:10 เฉยๆนี่แหละแต่เราก็พูดคุยกันแล้วก็ให้
00:28:10 → 00:28:13 ความสนใจกับสิ่งที่อีกฝ่ายพูดรับฟังที่
00:28:13 → 00:28:17 เขาพูดแล้วก็อาจจะแชร์หรือว่าแค่รับฟังก็
00:28:17 → 00:28:18 ได้ครับตรงนั้นก็ถือว่าเป็นเวลาที่มี
00:28:18 → 00:28:22 คุณภาพะตรรงกันข้ามเลยถ้าสมมุติว่าเราคิด
00:28:22 → 00:28:25 ว่าอีกฝ่ายมีภาษารักเป็น Quality Time
00:28:25 → 00:28:28 หรือเวลาที่มีคุณภาพก็เลยพาเไปเที่ยวอแต่
00:28:28 → 00:28:30 ตลอดช่วงเวลาที่พาเขไปเที่ยวนี่เราเล่น
00:28:30 → 00:28:33 มือถือเราคุยงานเราติดต่อเรื่องอื่นโดย
00:28:33 → 00:28:36 ที่ไม่ได้สนใจเขาตรงนั้นก็อาจจะไม่ใช่
00:28:36 → 00:28:39 Quality Time อย่างเต็มที่อืแล้วอย่าง
00:28:39 → 00:28:41 หลายๆคนน่ะลูกหลานอยู่ต่างจังหวัดทำงาน
00:28:41 → 00:28:44 ต่างจังหวัดหรือว่าอยู่คนละบ้านกันงเงี้ย
00:28:44 → 00:28:46 ครับการแสดงความรักอ่ะอย่างเช่นการโทรไป
00:28:46 → 00:28:49 หาบ่อยๆโทรเวลาประจำอะไรอย่าเงี้ยผมว่า
00:28:49 → 00:28:52 อันนี้ก็คือเป็นการสื่อสารที่ดีมากๆเลย
00:28:52 → 00:28:56 ใช่มครับใช่ครับก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งจะ
00:28:56 → 00:28:58 เป็นช่วงเวลาก็ได้ครับหรือถ้าช่วงเวลา
00:28:58 → 00:29:00 นั้นมีการใส่คำพูดมันก็เป็นคำพูดได้
00:29:00 → 00:29:03 เหมือนกันการโทรหาเนี่ยถ้าจะให้เป็น
00:29:03 → 00:29:06 คุณภาพมากขึ้นเราลองเปลี่ยนเป็นวดีโอคอมย
00:29:06 → 00:29:09 อ่าเห็นหน้ากันด้วยเห็นรอยยิ้มเห็นสีหน้า
00:29:09 → 00:29:13 ท่าทางด้วยเอผมว่าดูดูน่ารักขึ้นนะแต่ผม
00:29:13 → 00:29:16 ว่าเวลาอีกสิ่งนึงที่คนดูแลหรือว่าลูกๆ
00:29:16 → 00:29:19 หลานๆควรทำเลยนะผมว่านะเวลาที่ท่านเปิด
00:29:19 → 00:29:23 คลิปออกกำลังกายลองมาทำกับท่านดูออทำไป
00:29:23 → 00:29:26 ด้วยกันให้กำลังใจดีกว่านั่งอยู่เฉยๆผม
00:29:26 → 00:29:29 ว่าอันนี้เป็นสิ่งที่ดีมากๆอืมใช่ครับน่า
00:29:29 → 00:29:33 ภูมิใจจนะครับพี่ไก่เออลูกหลานก็แฮปปี้คน
00:29:33 → 00:29:36 ออกกำลังกายก็แฮปปี้นะครับแล้วเราก็
00:29:36 → 00:29:38 แฮปปี้ไปเลยครับใช่เราก็แฮปปี้ด้วยครับ
00:29:38 → 00:29:41 อ่าก็โอ้วันนี้ผมว่าประเด็นสำคัญครบแล้ว
00:29:41 → 00:29:44 นะครับหมอพีก็คือปัญหาผู้สูงอายุเนี่ยถ้า
00:29:44 → 00:29:47 ในกรณีที่เป็นคนดูแลสามารถแก้ได้แหละใน
00:29:47 → 00:29:49 เรื่องของการให้ความรักและสื่อสารความรัก
00:29:49 → 00:29:51 ให้ตรงเนาะในวันนี้เราก็เราก็ได้รับรู้
00:29:51 → 00:29:54 เรื่องของการแสดงความรักรูปแบบต่างๆเนาะ
00:29:54 → 00:29:56 ใช้คำนี้ดีกว่าว่าเป็นการแสดงความรักมี
00:29:56 → 00:29:58 ตั้ง 5 แบบแล้วแต่ละแบบเนี่ยเรามาปีกย่อย
00:29:59 → 00:30:01 ละผมว่าวันเพอฟังเนี่ยผมว่ามันจะมีไอเดีย
00:30:01 → 00:30:03 เกิดขึ้นมาอีกเยอะเลยครับแต่ว่าสิ่งหนึ่ง
00:30:03 → 00:30:05 นะครับที่ผมคิดว่าเป็นประเด็นที่สำคัญมาก
00:30:05 → 00:30:08 ๆที่มันเชื่อมโยงกับเรื่องของการรักษา
00:30:08 → 00:30:11 หรือการดูแลสุขภาพเลยอ่ะนั่นก็คือการเอา
00:30:11 → 00:30:14 ไปใช้จริงออย่างส่วนตัวนะครับหมอพีถ้า
00:30:14 → 00:30:17 สมมุติหมอพีมองว่าสิ่งนี้ถูกนำไปใช้จริง
00:30:17 → 00:30:20 เนี่ยจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรต่อสังคม
00:30:20 → 00:30:23 หรือว่าต่อครอบครัวบ้างมครับผมว่าในที่
00:30:23 → 00:30:25 นี้เรื่องของการนำไปใช้จริงไม่ว่าจะเป็น
00:30:25 → 00:30:27 เรื่องภาษารักที่เราคุยกันวันนี้หรือว่า
00:30:27 → 00:30:30 เรื่องออกกำงกายก็ตามนะครับจะเกิดผลดี
00:30:30 → 00:30:33 หลายๆอย่างมากเลยอย่างนึงคือบางทีอ่ะความ
00:30:33 → 00:30:36 ขัดแย้งบางอย่างที่เกิดขึ้นภายในครอบครัว
00:30:36 → 00:30:39 ทั้งที่รักกันนะครับแต่บางทีรับรู้ถึง
00:30:39 → 00:30:41 ความรักอีกฝ่ายไม่ได้เพราะอาจจะสื่อสาร
00:30:41 → 00:30:45 ภาษารักไม่ตรงกันนะครับถ้าเอาไปปรับใช้ดู
00:30:45 → 00:30:48 อาจจะลดความขัดแย้งเหล่านี้ได้แล้วก็
00:30:48 → 00:30:51 สร้างความสมานฉันหรือว่าเพิ่มเติมความรัก
00:30:51 → 00:30:54 ในครอบครัวได้ดีขึ้นรวมถึงการออกกำลังกาย
00:30:54 → 00:30:57 ด้วยจริงๆมันเป็นเหมือนยาชนิดนึงเลยนะ
00:30:57 → 00:31:00 ครับอออกกำลังกายเนี่ยในทางการแพทย์หรือ
00:31:00 → 00:31:04 ในจิตเวทนะครับถ้าสมมุติว่ามีภาวะซึม
00:31:04 → 00:31:07 เศร้าแบบอ่อนๆนะแล้วออกกำลังกายสามารถหาย
00:31:07 → 00:31:11 ได้เลยออันนี้คือมีงานวิจัยอืแสดงว่าหลาย
00:31:11 → 00:31:14 ๆคนทางบ้านเนี่ยบางทีก็อาจจะซึมๆเศร้าๆ
00:31:14 → 00:31:17 อยู่ละอแต่มาออกกำลังกายกับหมอชนฟรินี่
00:31:17 → 00:31:20 หายเลยก็ได้นะครับคืออาจจะไม่รู้เลยไงว่า
00:31:20 → 00:31:22 แบบเพราะว่าถ้าคนเป็นอ่อนๆอาจจะยังไม่รู้
00:31:22 → 00:31:24 ด้วยซ้ำว่าเราเข้าขายที่ต้องได้รับการ
00:31:24 → 00:31:27 รักษาละอันนี้ก็เป็นสิ่งที่โอก็คือยาจริง
00:31:27 → 00:31:29 ๆเลยนะครับเนี่ยครับได้ทั้งสุขภาพกาย
00:31:29 → 00:31:32 สุขภาพใจอืมีหลายคลิปด้วยที่ฝึกสมองจีบ
00:31:33 → 00:31:36 แอวจีบแอผมก็ยังทำไม่ได้นะครับครับแต่พี่
00:31:36 → 00:31:38 ไกส่งไปให้คุณแม่ทำเรียบร้อยครับอ่านี่
00:31:38 → 00:31:40 เป็นการบอกรักที่ดีนะครับเป็นการบอกรัก
00:31:40 → 00:31:44 ครับอ่าโอเคครับงั้นสุดท้ายนี้ครับมอพี
00:31:44 → 00:31:47 ไหนๆก็มาคุยกับหมอจินตเวชลครับผมอยากให้
00:31:47 → 00:31:50 ฝากนิดนึงว่าอยากให้ความสำคัญแล้วกันถ้า
00:31:50 → 00:31:52 สมมุติตอนเนี้ยเป็นผู้สูงอายุอยู่เนาะผู้
00:31:52 → 00:31:55 สูงอายุบางคนอาจจะมีสังคมมีเพื่อนที่เขา
00:31:55 → 00:31:58 ก็ยังอยากจะบอกรักอยากีคอนแทคอยู่นะครับ
00:31:58 → 00:32:01 หรือว่าเป็นลูกๆหลานๆที่อยากจะบอกรักผู้
00:32:01 → 00:32:05 สูงอายุหรือผู้สูงอายุเองที่อยากจะกลับไป
00:32:05 → 00:32:08 บอกรักลูกๆหลานๆเนี่ยครับอยากจะฝากอะไร
00:32:08 → 00:32:12 สักเล็กน้อยได้มครับก็สำหรับเรื่องภาษา
00:32:12 → 00:32:14 รักที่ได้พูดกันไปวันนี้นะครับคิดว่าหลาย
00:32:14 → 00:32:17 คนน่าจะพอมองเห็นมากขึ้นว่าสามารถเอาไป
00:32:17 → 00:32:20 ใช้ต่อยังไงได้บ้างอาจจะลองดูว่าคนที่เรา
00:32:20 → 00:32:23 รักเนี่ยมีภาษารักเป็นแบบไหนเราจะได้
00:32:23 → 00:32:27 สามารถสื่อสารเพื่อเข้าไปส่งตรงถึงใจเข
00:32:27 → 00:32:30 ได้มากขึ้นแล้วมันก็อาจจะช่วยให้เรับรู้
00:32:30 → 00:32:33 ได้ว่าจริงๆแล้วบางอย่างที่เราทำมานะครับ
00:32:33 → 00:32:36 แม้จะไม่ตรงกับภาษารักของเขาแต่เรากำลัง
00:32:36 → 00:32:39 พยายามบอกรักเขาอยู่แต่พอเราสื่อสารได้
00:32:39 → 00:32:42 ตรงมากขึ้นเนี่ยเขาก็จะรับความรักได้ดี
00:32:42 → 00:32:45 ขึ้นด้วยตรงนี้มันก็ช่วยแก้ได้หลายอย่าง
00:32:45 → 00:32:47 นะครับทั้งเรื่องของปัญหาในครอบครัว
00:32:47 → 00:32:51 เรื่องของสุขภาพจิตนะครับผมอีกหนึ่งคำถาม
00:32:51 → 00:32:56 ครับผมอยากให้หมอพีฝากถึงคนดูแลหรือลูกๆ
00:32:56 → 00:32:58 ครับที่กำลังดูแลผู้สูงอายุอยู่ตตอนเนี้ย
00:32:58 → 00:33:01 อะไรคือสิ่งที่เราต้องโฟกัสและใส่ใจในผู้
00:33:02 → 00:33:06 สูงอายุในยุคสมัยนี้ครับก็สิ่งนึงที่หลาย
00:33:06 → 00:33:10 ๆคนอาจจะไม่ได้มองเห็นนะครับแต่ว่ามันอาจ
00:33:10 → 00:33:13 จะกลายเป็นปัญหาได้ก็คือเรื่องของสุขภาพ
00:33:13 → 00:33:17 จิตนะครับผมเพราะว่าในปัจจุบันเนี่ยจริงๆ
00:33:17 → 00:33:19 การตระหนักรับรู้ถึงปัญหาสุขภาพจิตในผู้
00:33:19 → 00:33:21 สูงอายุต้องเรียกว่าเพิ่มขึ้นค่อนข้าง
00:33:21 → 00:33:25 เยอะเลยนะครับผมหรือถ้าสมมุติว่าไม่แน่ใจ
00:33:25 → 00:33:27 ว่าผู้สูงอายุในบ้านของเราเนี่ยเริ่มมี
00:33:27 → 00:33:30 ปัญหาสุขภาพจิตแล้วยังก็สามารถพามาปรึกษา
00:33:30 → 00:33:33 กับจิตแพทย์ได้ครับอืออันนี้ก็คือทางด้าน
00:33:34 → 00:33:37 จิตเวทและทางด้านสุขภาพทางกายล่ะครับหมอ
00:33:37 → 00:33:40 เฟมอยากจะมีอะไรฝากถึงพ่อๆแม่ๆของเราม
00:33:40 → 00:33:44 ครับผมว่าส่วนตัวนะครับผมรักษาคนไข้มา
00:33:44 → 00:33:46 เยอะอ่ะผมรู้สึกว่าสุขภาพกายกับสุขภาพใจ
00:33:46 → 00:33:48 อ่ะยังไงมันก็ลิงก์กันยังไงก็เชื่อมโยง
00:33:48 → 00:33:51 กันครับถ้าสมมุติว่ากายไม่ดีใจมันจะดีได้
00:33:51 → 00:33:54 ยังไงถูกมั้ยครับและสำคัญเลยครับถ้าใจไม่
00:33:54 → 00:33:57 ดีเนี่ยกายก็จะไม่ดีนะครับโดยเฉพาะคนไข้
00:33:57 → 00:33:59 ของผมส่วนใหญ่เนี่ยมันมักจะเป็นโรคเรื้อ
00:33:59 → 00:34:03 รังคำว่าโรคเรื้อลังก็คือมันหายช้าหรือ
00:34:03 → 00:34:06 บางทีมันเป็นๆหายๆมันไม่หายขาดสักทีนะ
00:34:06 → 00:34:09 ครับซึ่งผมเชื่อว่าปัจจัยเหล่าเนี้ยส่งผล
00:34:09 → 00:34:12 ต่อสุขภาพจิตแน่นอนบางครั้งถ้าเราใส่ใจ
00:34:12 → 00:34:15 สุขภาพจิตด้วยดูแลร่างกายของเราให้ดีด้วย
00:34:15 → 00:34:17 แล้วผมเชื่อว่าสุดท้ายปลายทางอ่ะมันคือ
00:34:17 → 00:34:20 การที่เราสามารถตั้งเป้าหมายในการใช้
00:34:20 → 00:34:22 ชีวิตต่อไปได้เรามันจะไม่มีคำพูดที่ว่า
00:34:23 → 00:34:26 อยู่ไปวันๆหรือว่าเราจะไม่มีคำว่าตรอมใจ
00:34:26 → 00:34:28 นะครับแต่เราจะมีแต่ว่าพพรุ่งนี้เราอยาก
00:34:28 → 00:34:31 ทำอะไรเราอยากจะสุขภาพแข็งแรงขึ้นไปยังไง
00:34:31 → 00:34:33 นะครับเพผมก็เชื่อว่าอ่ะวันเนี้ยก็จะเป็น
00:34:33 → 00:34:36 ประเด็นนึงที่สำคัญมากๆแล้วก็ที่สำคัญนะ
00:34:36 → 00:34:39 ครับก็ไหนๆเรามาเจอกับหมอจิตเวชแล้วนะ
00:34:39 → 00:34:42 ครับถ้าสมมุติว่าผู้ชมทางบ้านนะครับชอบ
00:34:42 → 00:34:44 ประเด็นประมาณนี้หรือคำถามประมาณนี้นะ
00:34:44 → 00:34:46 ครับก็สามารถพิมพ์คอมเมนต์มาให้พวกเรา
00:34:46 → 00:34:48 บ่อยๆก็ได้นะครับเพราะว่ายังมีอีกหลาย
00:34:48 → 00:34:50 ประเด็นเลยที่เราอยากคุยกับหมอพีนะครับ
00:34:50 → 00:34:52 ไม่ว่าจะเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้
00:34:52 → 00:34:55 สูงอายุทำยังไรได้บ้างนะครับหรือว่ามาแตก
00:34:55 → 00:34:57 ในประเด็นของซึมเศร้าเนี่ยว่ามันส่งผล
00:34:57 → 00:35:00 อย่างไรเราจะแก้ปัญหาอย่างไรรนะครับรวม
00:35:00 → 00:35:03 ถึงปัญหาอีกมากมายเกี่ยวกับการนอนเกี่ยว
00:35:03 → 00:35:05 กับพฤติกรรมที่ปกติอย่างเช่นการกินใช่
00:35:05 → 00:35:08 มั้ยครับซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้ผมเชื่อว่า
00:35:08 → 00:35:10 มันเป็นปัญหาที่มาตั้งแต่จิตใจเราละซึ่ง
00:35:10 → 00:35:12 ถ้าใครชอบนะครับสามารถพิมพ์คอมเมนต์มาได้
00:35:12 → 00:35:15 เลยเนาะแล้วก็อยากให้หมอพีมาพูดประเด็น
00:35:15 → 00:35:17 ไหนจะได้ชวนหมอพีมาบ่อยๆนะครับเพราะว่า
00:35:17 → 00:35:19 ต้องแอบบอกี้ครับว่าหมอพีเค้าก็ยุ่งมากๆ
00:35:19 → 00:35:22 นะครับเค้าก็ยุ่งไม่แพ้เรานะครับก็หวัง
00:35:22 → 00:35:25 ว่าวันนี้ทุกท่านจะได้ประโยชน์จากพวกเรา
00:35:25 → 00:35:27 นะครับครับแล้วก็อย่าลืมนะครับถ้าดูคลิป
00:35:27 → 00:35:30 นี้แล้วยังรู้สึกว่ายังเหงาอยู่พรุ่งนี้
00:35:30 → 00:35:33 ครับวันเสาร์มาเจอกันในไลฟ์ครับวันเสาร์
00:35:33 → 00:35:36 จะเหงาได้ยังไงครับครับผมขอบคุณหมอพีมาก
00:35:36 → 00:35:38 เลยนะครับขอบคุณหมอเฟมด้วยนะครับสุดท้าย
00:35:38 → 00:35:40 ครับหมอพีครับถ้าอยากเจอหมอพีหรือว่าอยาก
00:35:40 → 00:35:43 ปรึกษากับหมอพีครับเจอหมอพีได้ที่ไหนบ้าง
00:35:43 → 00:35:46 ครับครับตอนนี้ก็ประจำอยู่ที่ใสใจคลินิก
00:35:46 → 00:35:50 ครับผมอยู่ตรงทางแถวๆสถานีรถไฟเชียงใหม่
00:35:51 → 00:35:53 จังหวัดเชียงใหม่อีกที่ก็คืออ่าศูนย์ 4
00:35:53 → 00:35:57 พัของโรงพยาบาลสวนดอกครับผมหรือโรงพยาบาล
00:35:57 → 00:36:00 มหารานครเชียงใหม่ครับใช่ได้เลยครับหรือ
00:36:00 → 00:36:03 ว่าจะติดต่อผ่านทางเราก็ได้นะครับแอด Line
00:36:03 → 00:36:05 ที่ f doct นะครับเดี๋ยวเราก็จะส่งต่อ
00:36:05 → 00:36:08 ให้หมอพีเลยครับผมก็วันนี้นะครับก็หวัง
00:36:08 → 00:36:10 ว่าทุกท่านจะมีความสุขในวันวาเลนไทน์นะ
00:36:10 → 00:36:13 ครับแล้วผมขอยืมคำของหมอเฟมาพูดครับวัน
00:36:13 → 00:36:15 นี้ครับขอให้ทุกท่านสุขภาพดีครับมีความ
00:36:15 → 00:36:19 สุขแล้วเราจะฟิด้วยสวัสดีสวัสดีครับ
00:36:19 → 00:36:21 สวัสดี
00:36:21 → 00:36:24 ครับหมอประจำตระกูล
00:36:24 → 00:36:27 [เพลง]