00:00:04 → 00:00:05 [ปรบมือ]
00:00:05 → 00:00:06 [เพลง]
00:00:06 → 00:00:08 [ปรบมือ]
00:00:08 → 00:00:11 [เพลง]
00:00:11 → 00:00:14 [ปรบมือ]
00:00:14 → 00:00:15 [เพลง]
00:00:16 → 00:00:19 แ
00:00:19 → 00:00:23 [เพลง]
00:00:23 → 00:00:24 [ปรบมือ]
00:00:24 → 00:00:30 [เพลง]
00:00:30 → 00:00:31 [ปรบมือ]
00:00:31 → 00:00:32 [เพลง]
00:00:33 → 00:00:35 [ปรบมือ]
00:00:35 → 00:00:40 [เพลง]
00:00:40 → 00:00:43 ใครเคยมีอาการแบบนี้บ้างครับปวดท้องปวด
00:00:43 → 00:00:47 แบบเป็นๆหายๆบางครั้งก็มีลมดันขึ้นมาจาก
00:00:47 → 00:00:49 ในช่องท้องด้วยนี่เป็นสัญญาณเตือนอย่าง
00:00:49 → 00:00:51 หนึ่งว่าคุณกำลังเป็นโรคกระเพาะอยู่นะ
00:00:52 → 00:00:54 ครับส่วนคุณแม่คนใหม่ที่เกิดมีผมร่วงเยอะ
00:00:55 → 00:00:58 หลังคลอดอย่าคิดว่าเป็นผมร่วงธรรมดาเพราะ
00:00:58 → 00:01:00 อาจมีโรคบางโรคซ่อนอยู่อย่าปล่อยทิ้งไว้
00:01:00 → 00:01:15 รีบมาปรึกษาแพทย์จะดีที่
00:01:15 → 00:01:19 สุดวันนี้มาหาหมอด้วยอาการปวดท้องแล้วก็
00:01:19 → 00:01:22 มีลมดันขึ้นมาที่ลิ้นปีกอาการนี้เกิดตอน
00:01:22 → 00:01:26 ช่วงนอนนะฮะนอนเวลากลางคืนจะเกิดก็แปลกใจ
00:01:26 → 00:01:29 ว่าตัวเองทำไมมีอาการอย่างนี้นะก็ถามตัว
00:01:29 → 00:01:32 เองว่าเราจะทำยังไงในเมื่อเราก็ออกกำลัง
00:01:32 → 00:01:36 กายด้วยก็เลยสงสัยตัวเองก็เลยถามคนที่เคย
00:01:36 → 00:01:38 เป็นโรคกระเพาะว่ามีอาการอย่างนี้มั้ยเา
00:01:38 → 00:01:41 บอกไม่มีไม่มีเราก็บอกเอ๊ยงั้นเราไปหาหมอ
00:01:41 → 00:01:46 ิมาไปพบแพทย์ดี
00:01:46 → 00:01:49 กว่าวันนี้คุณพี่มาพบคุณหมอด้วยอาการอะไร
00:01:50 → 00:01:52 ครับปวดท้องแล้วก็เหมือนมีลมในกระเพาะ
00:01:52 → 00:01:55 เยอะแล้วก็ดันขึ้นมาที่ลิ้นปี่แล้วก็ร้า
00:01:55 → 00:01:58 ไวที่ขาไกลนะคะโอ้โหขึ้นมาที่นี่เลยเหรอ
00:01:58 → 00:02:00 ค่ะฟังดูแล้วเนี่ยโกรดไหลย้อนรือเปล่า
00:02:00 → 00:02:02 ครับคุณหมอครับมีอาการปวดท้องกับมีลมใน
00:02:02 → 00:02:04 ท้องเยอะเนี่ยต้องคิดก่อนว่ามันเป็น
00:02:04 → 00:02:06 ลักษณะของตัวโรคกระเพาะอาหารหรือเปล่า
00:02:06 → 00:02:09 ซึ่งในโรคกระเพาะอาหารเนี่ยเอ่อมันก็จะมี
00:02:09 → 00:02:12 แบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ๆคือกลุ่มที่เเรียกเป็น
00:02:12 → 00:02:15 เอ่อโรคซียคืออาการจุกเสียดไม่สบายในท้อง
00:02:15 → 00:02:17 เป็นหลักกันนะฮยิ่งถ้ามีอาการเรื้อรังแบบ
00:02:17 → 00:02:19 นี้เนี่ยมันก็จะเข้าไปได้เข้ากับกลุ่มโรค
00:02:19 → 00:02:21 ที่เรียกว่าโรคกระพาะอาหารกลุ่มที่ไม่มี
00:02:21 → 00:02:24 แผลนะฮะเป็นคือในในภาษาอังกฤษก็จะเรียก
00:02:24 → 00:02:27 เป็นซียแต่อย่างเงี้ฮะคือจริงๆดิสเปปเซีย
00:02:27 → 00:02:29 เองเนี่ยมันเป็นลักษณะเหมือนกับอารอืด
00:02:29 → 00:02:32 ท้องไม่สบายในท้องนะครับแล้วก็เอ่ออาจจะ
00:02:32 → 00:02:36 มีจุกเสียดแน่นเอ่อเลอกินแล้วอาหารแล้ว
00:02:36 → 00:02:38 อิ่มเร็วปวดท้องฟังดูแล้วมันก็เป็นอาการ
00:02:38 → 00:02:41 ปกติของคนทั่วไปนะที่ถ้าเกิดก็จะมีเจอได้
00:02:41 → 00:02:44 แต่ในกลุ่มนี้อาจจะมีร่วมกับโรคบางโรค
00:02:44 → 00:02:48 เช่นกดไหลย้อนได้น้ำไส้แปรปรวนได้ท้องผูก
00:02:48 → 00:02:50 ได้อซึ่งมันมันบางทีมันเค้าเรียกว่ามันาบ
00:02:50 → 00:02:53 เขี่ยวกันงี้เวลาเราคุณหมอเจอคนไข้แบบนี้
00:02:53 → 00:02:55 ก็ต้องต้องซักในละเอียดก่อนว่ามันมีอาการ
00:02:55 → 00:02:57 แบบไหนแต่ว่าของอาการของคุณพี่เนี่ยคล้าย
00:02:57 → 00:02:59 ๆกับส่วนนึงจะเป็นลักษณะของตัวโรคกระเพาะ
00:02:59 → 00:03:01 อาหารใช่มั้ยฮะถ้าเป็นมา 10 ปีใจผมเองคิด
00:03:01 → 00:03:03 ว่าน่าจะเป็นกลุ่มโรคกระเพาะอาหารกลุ่ม
00:03:03 → 00:03:05 ที่ไม่มีแผลมากกว่าหรือโรคกระเพาะอาหาร
00:03:05 → 00:03:08 อักเสบอนะฮะครับแล้วก็บวกบางครั้งอาจจะจะ
00:03:08 → 00:03:10 คล้ายๆกับมีกฎไลย้อนด้วยเอ๊ะมันมีอาการ
00:03:10 → 00:03:12 แสบยอดอกหรือว่าเรอเปรี้ยวด้วยึเปล่าครับ
00:03:12 → 00:03:15 มีอาการแสบยอดอกค่ะแต่ว่าไม่ได้แต่ไม่ไม่
00:03:15 → 00:03:18 ขึนบางครั้งก็ขึ้นมาถึงคอมฮะเรเปรี้ยวมี
00:03:18 → 00:03:20 มั้ยครับไม่มีค่ะแต่ไม่มีกลืนลำบากกลืน
00:03:20 → 00:03:23 ติดใช่มั้ยฮะมีกลืนของเหลวติดคอบางครั้ง
00:03:23 → 00:03:25 บางครั้งคึ้นไส้อาเจมีมั้ยครับไม่มีค่ะ
00:03:25 → 00:03:27 ไม่มีปวดท้องนี่มันปวดทั่วๆไปเลยเปล่า
00:03:27 → 00:03:30 ครับปวดช่วงกลางท้องกลางท้องแถวๆลิ้นปี่ร
00:03:30 → 00:03:33 เปล่าฮะคึแต่ไม่มีปัญหาเรื่องท้องผูกท้อง
00:03:33 → 00:03:36 เสียนะครับถ่ายปกติน้ำหนักไม่ลดไม่มีคนใน
00:03:36 → 00:03:38 ครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่มะเร็งเอ่อ
00:03:38 → 00:03:40 กระเพาะหรือมะเร็งตับนะไม่มีค่ะโรคประจำ
00:03:40 → 00:03:43 ตัวไม่มีใช่มั้ยครับเงความดันมีความดัน
00:03:43 → 00:03:45 สูงนะครับแล้วก็ถ้าเกิดมีประวัติเรื่อง
00:03:46 → 00:03:48 ของการกินยาแก้ปวดก็ต้องระวังก็อาจจะทำ
00:03:48 → 00:03:51 ให้มีอาการปวดท้องได้แต่ถ้าเกิดเป็นมา 10
00:03:51 → 00:03:53 ปีผมคิดว่าคงไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องของยา
00:03:53 → 00:03:56 แก้ปวดแต่ยกเว้นถ้าเกิดคุณพี่ต้องลองไปดู
00:03:56 → 00:03:58 ว่ามีถ้าเกิดมียาพวกปวดข้อปวดหลังอะไรพวก
00:03:58 → 00:04:01 เยอาจจะอาจจะไปทำให้เกิดอาการได้แต่ต้อง
00:04:01 → 00:04:03 ไปดูในรายละเอียดของยาอีกทีนึงอันนั้นนะ
00:04:03 → 00:04:05 ครับคุณหมอครับแล้วอย่างคุณพี่เค้าเป็นมา
00:04:05 → 00:04:08 10 ปีเนี่ยถ้าคนทั่วไปเราเจะรู้ตัวเอง
00:04:08 → 00:04:10 ได้ยังไงครับว่าเขาเป็นแบบคุณพี่แบบฉัน
00:04:10 → 00:04:12 เป็นโรคนี้แล้วเพราะว่าอาการที่คุณหมอบอก
00:04:12 → 00:04:14 มาแน่นจุกเสียมันเป็นปกติของคือถึงแม้
00:04:14 → 00:04:16 กลุ่มที่มีอาการแบบนี้เนี่ยก็ต้องถาม
00:04:16 → 00:04:20 อาการเตือนเหมือนกันทุกๆโรคนะฮะว่าไม่มี
00:04:20 → 00:04:23 อาการปวดท้องแบบรุนแรงมากไม่มีอาเจนเป็น
00:04:23 → 00:04:26 เลือดไม่มีอาการถ่ายดำไม่มีน้ำหนักลดไม่
00:04:26 → 00:04:29 มีการคำก้อนได้ในช่องท้องนะฮะถ้าเกิดไม่
00:04:29 → 00:04:31 มีอาการแบบนี้หรือไม่มีหวัดในครอบครัวที่
00:04:31 → 00:04:32 ว่ามีเกี่ยวข้องกับเรื่องของมะเร็งเอ่อ
00:04:32 → 00:04:35 ทางเดินอาหารเนี่ยนะครับผมว่าถ้าอย่างงี้
00:04:35 → 00:04:37 ก็ยังอาจจะพอสบายใจได้แต่ถ้าเกิดมีอาการ
00:04:37 → 00:04:39 เตือนสัญญาณเตือนอย่างที่เมื่อกี้ผมเรียน
00:04:39 → 00:04:41 มาเนี่ยไม่ได้อันนี้ต้องตรวจค้นเพิ่มเติม
00:04:41 → 00:04:43 เช่นอาจจะต้องส่องกล้องหรือในบางรายอาจจะ
00:04:43 → 00:04:45 ต้องทำอัตซาวในบางรายอาจจะต้องเจาะเลือด
00:04:46 → 00:04:47 เพิ่มเติมดูคือในกลุ่มโรคกระเพาะอาหาร
00:04:47 → 00:04:50 กลุ่มที่ไม่มีแผลเนี่ยฮะคือกลุ่มเนี้ย
00:04:50 → 00:04:52 ส่วนใหญ่เราจะแบ่งเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆคือ
00:04:52 → 00:04:54 กลุ่มนึงที่มีอาการลักษณะเหมือนก็ปวดแสบ
00:04:54 → 00:04:56 ท้องนะครับอีกกลุ่มนึงก็มีลักษณะอืดแน่น
00:04:56 → 00:04:59 กินอะไรแล้วมันรู้กไม่ย่อยจุกเสียดแน่นอื
00:04:59 → 00:05:02 ท้องอืท้องเฟ้อเรอเหม็นเปรี้ยวอะไรอย่าง
00:05:02 → 00:05:03 เงี้ยทำนองแบบเนะฮะทั้งนี้ทั้งนั้นจะต้อง
00:05:03 → 00:05:05 ไม่มีอาการเกี่ยวกับเรื่องการขับถ่ายไม่
00:05:05 → 00:05:07 มีอาการของกดไหลย้อนที่เมื่อกี้ผมเรียน
00:05:07 → 00:05:10 อ๋อแสดงว่าอาการหลักๆของคนปวดท้องเนี่ยจะ
00:05:10 → 00:05:13 แบ่ง 2 อย่างมีแผลในกระเพาะกับไม่มีถ้า
00:05:13 → 00:05:16 เกิดกลุ่มนี้เวลาเราเอามาสืบค้นเพิ่มเติม
00:05:16 → 00:05:19 เช่นส่องกล้องหรือทำซาเนี่ยส่วนใหญ่เนี่ย
00:05:19 → 00:05:21 เราจะเจอว่าไม่มีอะไรผิดปกติชัดเจนอัก
00:05:21 → 00:05:24 กระเพาะอาจจะมีอักเสบแดงๆนิดหน่อยประมาณ
00:05:24 → 00:05:27 สัก 20% อาจจะเกินว่ามีแผลในกระเพาะครับ
00:05:27 → 00:05:30 ที่เหลือก็จะเป็นมีกดไหลย้อนได้มีเรื่อง
00:05:30 → 00:05:33 ของตัวเอ่อนิ่วในถุงน้ำดีได้มีเรื่องของ
00:05:33 → 00:05:36 มะเร็งเกี่ยวกับชนิดต่างๆได้ซึ่งจะเจอ
00:05:36 → 00:05:38 น้อยลงละแต่ส่วนใหญ่เนี่ย 60 70% เนี่ย
00:05:38 → 00:05:41 เป็นกลุ่มที่ไม่เจออะไรปกติชัดเจนแสดงว่า
00:05:41 → 00:05:42 อาการอาการปวดท้องแต่ละแบบมันไม่เหมือน
00:05:42 → 00:05:45 ต้องปวดตรงแถวๆลิ้นปี่นะฮะจะไม่ปวดต่ำ
00:05:45 → 00:05:47 กว่าสะดือไม่ปวดตรงเหนือหัวเหน่าอะไร
00:05:47 → 00:05:49 อย่างงี้ไม่ใช่ถามคุณหมออาการปวดท้อง
00:05:49 → 00:05:51 เนี่ยคำว่าปวดท้องมันมีตำแหน่งหลายที่บ
00:05:51 → 00:05:53 ท้องมันบ่งบอกอะไรบ้างเอางี้ตั้งแต่สะดือ
00:05:53 → 00:05:55 ขึ้นมาจนถึงลิ้นปี่เนี่ยอันเนี้ยถือว่า
00:05:55 → 00:05:58 อาการจะเข้าได้กับโรคนี้ซึ่งลักษณะปวดก็
00:05:58 → 00:06:01 จะเป็นปวดแบบตื้อๆก็ได้ปวดแน่นๆก็ได้แต่
00:06:01 → 00:06:03 บางคนก็อาจจะบอกปวดบี่เป็นพักๆก็ได้บางคน
00:06:03 → 00:06:05 อาจจะมีปวดร้าวไปด้านหลังก็มีแต่ถ้าเกิด
00:06:05 → 00:06:07 มีร้าวไปด้านหลังเราก็ต้องระวังว่าไม่ได้
00:06:07 → 00:06:09 มีก้อนหรือมีเรื่องของนิ่วในถุงน้ำดีอะไร
00:06:09 → 00:06:11 อย่างเงี้ยนะฮะที่อาจจะทำให้ปวดร้าวไป
00:06:11 → 00:06:13 ด้านหลังหรือแผลใน้ำไส้เล็กส่วนต้นหรือ
00:06:13 → 00:06:15 แผลในกระเพาะที่อยู่ด้านหลังๆอะไรอย่าง
00:06:15 → 00:06:17 เงี้ก็อาจจะมีปวดร้าวไปด้านหลังเหมือนกัน
00:06:17 → 00:06:19 อแสดงว่าตำแหน่งแต่ละตำแหน่งมันไม่เหมือน
00:06:19 → 00:06:21 กันแล้วก็เราก็อาจจะต้องามเช่นมีอาการ
00:06:21 → 00:06:24 ร่วมอื่นหรือเปล่าเช่นถ้ามีไข้หรือเปล่า
00:06:24 → 00:06:27 นะฮะมีเรื่องของเอ่ออย่างที่เมื่อกี้ผม
00:06:27 → 00:06:29 เรียนนะฮะกินข้าวแล้วเป็นยังไงบ้างนกิน
00:06:29 → 00:06:32 แล้วอาจจะดีขึ้นแย่ลงน้ำหนักลดหรือเปล่า
00:06:33 → 00:06:35 มีอาการอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องมีเหงื่อแตก
00:06:35 → 00:06:37 มีอะไรเกี่ยวข้องหรือเปล่าหรือมีอาการ
00:06:37 → 00:06:40 หน้าแดงนะครับนะฮะคือของคุณพี่เนี่ยน่าจะ
00:06:40 → 00:06:42 มีเรื่องของโรคกระเพาะอาหารกลุ่มที่ไม่
00:06:42 → 00:06:45 ไม่มีแผ่นะฮะร่วมกับอาจจะมีเรื่องของกด
00:06:45 → 00:06:47 หลายย้อนบางส่วนอืมันจะมันจะอาการเค้า
00:06:48 → 00:06:50 เรียกว่ามันคาบเกี่ยวกันได้อ๋อแต่ขึ้น
00:06:50 → 00:06:52 อยู่กับอาการนำเป็นอาการอะไรเป็นอาการด
00:06:52 → 00:06:53 ถ้าอย่างงั้นเนี่ยถ้าเกิดอาการที่ปวดจาก
00:06:53 → 00:06:56 การเจ็บแผลมีแผลในกระเพาะเนี่ยมันยังวิ
00:06:56 → 00:06:58 ยังรู้จักตัวเองวินิจฉัยตัวเองได้ง่าย
00:06:58 → 00:07:00 กว่าอาการที่แบบเกิดจากก็ต้องแล้วแต่ว่า
00:07:00 → 00:07:02 เป็นแผลในกระเพาะหรือแผลในลำไส้เล็กนะฮะ
00:07:02 → 00:07:03 เพราะถ้าเกิดอันนี้มันก็จะมีความแตกต่าง
00:07:04 → 00:07:05 กันเล็กน้อยแต่ว่าถ้าเกิดเราสงสัยหรือ
00:07:05 → 00:07:08 สันนิษฐานเช่นเราตรวจคไข้เนี่ยมีคนไข้มี
00:07:08 → 00:07:10 ร่างกายมีซีดแล้วก็มีหวาดถ่ายดำเป็นบาง
00:07:10 → 00:07:13 ครั้งร่วมกับมีกินยาปวดข้อปวดเข่านะฮะ
00:07:13 → 00:07:15 หรือยาในกลุ่มที่มันอาจจะมีรบกวนกระเพาะ
00:07:15 → 00:07:18 เนี่ยเราก็อาจจะต้องเอาไปสืบค้นเพิ่มเติม
00:07:18 → 00:07:20 เช่นอาจไปส่องกล้องดูจวะเจาะเลือดตรวจ
00:07:20 → 00:07:22 อะไรอย่างเงี้ยเพราะฉะนั้นก็ต้องมาหาคุณ
00:07:22 → 00:07:24 หมอดีกว่าก็ถ้าเกิดอะไราที่ไม่แน่ใจในราย
00:07:24 → 00:07:26 นึงอย่างงั้นก็ก็อาจจะมีความจำเป็นขอย้อน
00:07:26 → 00:07:29 กลับไปเมื่อสักครู่นี้คุณหมอบอกว่าอาการ
00:07:29 → 00:07:32 ของมีแก๊สในกระเพาะอาหารมากจนเกินไปเราจะ
00:07:32 → 00:07:34 รู้ได้ยังไงครับว่าตอนเนี้ยแหมกับแก๊สมัน
00:07:34 → 00:07:37 เยอะซะเหลือเกินบางคนเนี่ยชอบเลอมากบางคน
00:07:37 → 00:07:39 เลอน้อยทานข้าวหน่อยเลยอนี่ถือว่ามีแก๊ส
00:07:39 → 00:07:41 เยอะมั้ยฮะคือไอ้เรื่องแก๊สในท้องเนี่มัน
00:07:41 → 00:07:43 ก็เป็นเรื่องที่พูดยากนะฮะแต่คนข้างจะ
00:07:43 → 00:07:45 สังเกตเลยบอกโอคุณหมอบางทีเนี่ยท้องมัน
00:07:45 → 00:07:48 อืดมันป่องใหญ่เลยแต่ตอนเช้าๆบางทีมันแฟบ
00:07:48 → 00:07:51 แล้วะอ่าทำไมฮะก็คือคือกลุ่มนี้มันก็แสดง
00:07:51 → 00:07:53 ว่าส่วนใหญ่มันต้องเป็นลมครับแต่ลมเนี่ย
00:07:53 → 00:07:55 มันส่วนใหญ่ลมเนี่ยมัน 7 80% มันได้มา
00:07:55 → 00:07:58 จากภายนอกอือการพูดการคุยการกินอาหาร
00:07:58 → 00:08:01 อาหารบางอย่างอาจจะผลิตแก๊สได้เยอะอแล้ว
00:08:01 → 00:08:03 ก็บางส่วนก็อาจจะเกี่ยวข้องกับการบีบตัว
00:08:03 → 00:08:05 ของตัวลำไส้กับตัวกระเพาะแต่บางมีเหมือน
00:08:05 → 00:08:08 กันคนไข้ใน ICU หรือคนไข้ที่นอนโรงพยาบาล
00:08:08 → 00:08:10 ที่ต้องใส่ท่อหายใจบางทีกลืนลมเข้าไปตลอด
00:08:10 → 00:08:13 ก็อาจจะทำให้มีท้องอื่นท้องมีลมในท้องได้
00:08:14 → 00:08:16 อืบางคนอาการท้องผูกมันร่วมด้วยมั้ยครับ
00:08:16 → 00:08:18 คุณหมอทานเข้าไปปั๊บเนี่ยมันขอโทษนะครับ
00:08:19 → 00:08:20 มันไม่ผายลมเลยอ่ะร่ก็คืออย่างที่ผมเรียน
00:08:20 → 00:08:23 นะฮะโรคในกลุ่มเนี้ยอาจจะพบร่วมกับภาวะลำ
00:08:23 → 00:08:26 ไส้แปรปรวนหรือลักษณะของโลกท้องผูกได้อัน
00:08:26 → 00:08:28 นี้ก็ไม่แปลกออืนะฮะอ่ะถ้าอย่างงั้นคุณ
00:08:28 → 00:08:31 พี่ท่านนี้เราควรจะรักษายังไงครับคุณหมอ
00:08:31 → 00:08:33 ขั้นตอนในการรักษเดี๋ยวก็ผมก็คือตรวจร่าง
00:08:33 → 00:08:35 กายดูถ้าไม่มีอะไรนะครับนะฮะก็ดูแล้ว
00:08:35 → 00:08:38 ประวัติ 10 ปีถ้าเกิดเนื่องจากว่าถ้ามัน
00:08:38 → 00:08:40 ไม่มีสัญญาณเตือนอันตรายอย่างอื่นผมอาจจะ
00:08:40 → 00:08:42 ไม่ได้สืบค้นเพิ่มเติมอาจจะลองให้ยาไปทาน
00:08:42 → 00:08:44 ดูก่อนครับนะครับซึ่งยาในกลุ่มนี้ก็อาจจะ
00:08:44 → 00:08:47 มีทั้งยาลดการหลักดนะฮะอาจจะมียาเพิ่มการ
00:08:47 → 00:08:49 บีบตัวของตัวลำไส้นะครับนะฮะแล้วก็ดูว่า
00:08:49 → 00:08:52 ผลตอบสนองเป็นยังไงบ้างแล้วก็ปรับยากัน
00:08:52 → 00:08:54 ร่างกายของคนแต่ละคนเนี่ยสมมุติว่าทานต้ม
00:08:54 → 00:08:56 ยำชามเดียวกันเนี่ยนะฮะการหลั่งกรดเพื่อ
00:08:56 → 00:08:59 ที่จะมาย่อยต้มยำชามไม่เกี่ยวกับตักก่อน
00:08:59 → 00:09:01 ตักหลังนะฮะอ่ะไม่เกี่ยวแต่ละคนเนี่ยมัน
00:09:01 → 00:09:03 ส่งผลต่อน้ำย่อยแต่ละคนมันไม่เท่ากันถูก
00:09:03 → 00:09:06 มั้ยฮะมันส่งผลต่อแก๊สที่เกิดขึ้นในเฉพาะ
00:09:06 → 00:09:08 แต่ละคนแตกต่างกันมั้ยครับไอ้แก๊สที่เกิด
00:09:08 → 00:09:10 ขึ้นส่วนใหญ่มที่เรียนเมันส่วนใหญ่มันได้
00:09:10 → 00:09:13 มาจากภายนอกนะฮะอาหารบางอย่างเนี่ยมันอาจ
00:09:13 → 00:09:15 จะทำผลิตแก๊สได้เยอะเช่นอาหารกลุ่มตกูล
00:09:15 → 00:09:18 ฝักๆทั้งหมดนะฮะถั่วถั่วกระถินสะตอผัก
00:09:18 → 00:09:20 กระเฉดกหมปีบล็อกเคอรี่อะไรอย่างเงี้ยนะ
00:09:20 → 00:09:23 ฮะอาจจะอาจจะผลิตแก๊สได้เยอะเอ่อหรือแม้
00:09:23 → 00:09:25 กระทั่งน้ำดื่มบางอย่างก็อาจจะมีผลได้
00:09:25 → 00:09:27 เหมือนกันอย่างน้ำอัดลมมันก็อาจจะมีแก๊ส
00:09:27 → 00:09:31 นะฮะเอ่อได้เยอะๆหรือว่ามันมีคาเฟอีนผสม
00:09:31 → 00:09:34 อยู่ด้วยก็บางคนก็ sensitive แว่าไวต่อ
00:09:34 → 00:09:37 สารอาหารบางอย่างคาเฟอีนหรือว่าเรื่องของ
00:09:37 → 00:09:40 บางคนเนี่ยก็อาจจะไวต่อพวกน้ำที่มันมีรถ
00:09:40 → 00:09:43 จัดก็ได้พวกรสส้มหรือเปรี้ยวนะฮะอย่าง
00:09:43 → 00:09:45 เช่นน้ำมะนาวหรือน้ำส้มบางคนก็มีเขทาน
00:09:45 → 00:09:48 ปั๊บก็จะเกิดแก๊สคือมันจะไม่เกิดแก๊สบาง
00:09:48 → 00:09:50 ทีมันจะไปรบกวนแต่ว่าบางอย่างอย่างอย่าง
00:09:50 → 00:09:52 น้ำอลมก็อาจจะมีแก๊สที่อาจจะมาเข้ามา
00:09:52 → 00:09:55 เสริมทำคือคนบางคนเนี่ยพอมีแก๊สเพิ่มไป
00:09:55 → 00:09:57 นิดเดียวก็อาจจะไวละอืเพราะฉะนั้นเราก็
00:09:57 → 00:10:00 ต้องต้องต้องปรับดูลฮะพูดึงว่าพฤติกรรม
00:10:00 → 00:10:02 การกินของคนไข้เนี่ยสำคัญอือเวลาเราทาน
00:10:03 → 00:10:05 อาหารบางอย่างหรือบางชนิดแล้วมันเกิด
00:10:05 → 00:10:07 อาการเนี่ยถ้าง่ายสุดกปั้นทุบดินก็ต้อง
00:10:07 → 00:10:10 บอกพยายามหลีกเลี่ยงอือหรือพยายามทาน
00:10:10 → 00:10:12 อาหารปริมาณอย่างงั้นน้อยลงอมีทั้ง 2 แบบ
00:10:12 → 00:10:15 ในปัจจุบันคือหลีกเลี่ยงไปเลยหรือพยายาม
00:10:15 → 00:10:18 สู้กับมันฮะโดยพยายามไต่ระดับการกินอาหาร
00:10:18 → 00:10:20 ที่เราแพ้เขึ้นไปแต่ถ้าเกิดคนที่มีภูมิ
00:10:20 → 00:10:22 แพ้แบบรุนแรงนั้นก็คงไม่แนะนำสังเกตตัว
00:10:22 → 00:10:25 เองมั้ยว่าเราก่อนหน้านี้เราทานอะไรแล้ว
00:10:25 → 00:10:29 มันเกิดอาการแน่นจุบเสียขึ้นมาเลยเช่นอา
00:10:29 → 00:10:32 บางอย่างอาจะมีการสง่าทานคือเคี้ยวอาหาร
00:10:32 → 00:10:35 ไม่ไม่ละเอียดนะฮอืบางทีเคี้ยวอาหารไม่
00:10:35 → 00:10:37 ละเอียดแล้วก็มันอาจจะเป็นได้อ๋อย่อยยาก
00:10:37 → 00:10:39 พอย่อยยากเสร็จปุ๊บแก๊สมันก็อยู่ในนินา
00:10:39 → 00:10:42 ใช่มั้ยฮะก็คืออย่างงี้ถ้าเกิดมันมีปัญหา
00:10:42 → 00:10:44 เรื่องท้องผูกด้วยเพราะเมื่อกี้เอ่อถ้า
00:10:44 → 00:10:47 เกิดมีด้วยเนี่ยบางทีก็อาจจะมีบางส่วน
00:10:47 → 00:10:48 อาการที่มันมีลมในท้องเนี่ยบางทีมันไม่
00:10:48 → 00:10:51 ได้เป็นแบบตรงไปตรงมาแบบคณิตศาสตร์เนะฮะ
00:10:51 → 00:10:53 บางทีมันมีรายละเอียดเยอะก็ต้องดูเป็นลาย
00:10:53 → 00:10:55 ๆไปนะฮะอ่ะถ้าอย่างงั้นคุณพี่ท่านนี้ต้อง
00:10:55 → 00:10:57 รักษาด้วยทานยาก่อนเดี๋ยวผมก็ลองให้ปรับ
00:10:57 → 00:10:59 ยาดูนะครับปรับพฤติกรรมดูนนนึงว่ามันมี
00:10:59 → 00:11:02 อะไรหรือเปล่าคนไข้บางคนเก็บอาการมานาน
00:11:02 → 00:11:04 เป็น 10 ปีโดยที่ไม่มาพบคุณหมอมันมันส่ง
00:11:04 → 00:11:06 ผลเสียยังไงมั้ยฮะมันก็ผมว่าอันนี้กลุ่ม
00:11:06 → 00:11:08 นี้มันก็อาจจะไปรบกวคุณภาพชีวิตมากกว่า
00:11:08 → 00:11:10 แต่บางทีคนไข้เนี่ยคือก็รู้สึกว่าเอ๊
00:11:10 → 00:11:12 อาการมันก็กวนใจแต่ว่ามันไม่ได้กวนใจมาก
00:11:13 → 00:11:15 จนถึงขนาดว่าต้องไปพบแพทย์แล้วบ้านเรา
00:11:15 → 00:11:17 เนี่ยส่วนใหญขี้เกรงใจเป็นแพทย์บางทีก็เอ
00:11:17 → 00:11:19 ถ้ายังไม่ได้เป็นหนักหนาสาหัสฉันยังไม่ไป
00:11:19 → 00:11:22 ดีกว่าก็บางทีซื้อยาทานเองแล้วก็ยาบ้าน
00:11:22 → 00:11:24 เราเนี่ยมันหาซื้อตามท้องตลาดได้ง่ายครับ
00:11:24 → 00:11:26 ซื้อแล้วก็เอ่อเขาคก็เอามาทานยาดูแล้วมัน
00:11:26 → 00:11:29 ดูว่าเป็นยังไงบ้างบางทีถ้าเกิดดูเพอทน
00:11:29 → 00:11:32 ไหวเคิดว่ายังไม่มาแต่ถ้าเกิดเขามีอาการ
00:11:32 → 00:11:34 สัญญาณเตือนอย่างที่ผมเรียนถ้ามีถ่ายเป็น
00:11:34 → 00:11:37 เลือดมาแน่นอนถ้าเกิดสังคมมีการรับรู้ใน
00:11:37 → 00:11:39 เรื่องของรายละเอียดเรื่องโรคมากขึ้น
00:11:39 → 00:11:42 เนี่ยก็จะทำให้คนไข้เนี่ยเข้าใจในตัวโรค
00:11:42 → 00:11:45 แล้วก็อาจจะสามารถเอ่อประพฤติปฏิบัติตัว
00:11:45 → 00:11:48 แล้วก็มีแนวทางในการที่จะมาพบแพทย์เได้
00:11:48 → 00:11:50 ได้ถูกต้องมากขึ้นนะครับวันนี้ก็ต้องขอ
00:11:50 → 00:11:52 ขอบคุณคุณหมอนะครับแล้วก็คุณพี่นะครับที่
00:11:52 → 00:11:54 มา่าเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับโรคภัยเกี่ยว
00:11:54 → 00:11:56 กับโรคกระเพาะนะครับขอบพระคุณครับคุณหมอ
00:11:57 → 00:11:58 ขอบพระคุณครับคุณพี่ครับสครับสวัดีครับ
00:11:58 → 00:12:08 โอค
00:12:08 → 00:12:11 วันนี้มาพบแพทย์ก็ด้วยสาเหตุที่ว่าหลัง
00:12:11 → 00:12:13 คลอดมา 3 เดือนอ่ะค่ะผมร่วงค่อนข้างเยอะ
00:12:13 → 00:12:16 เลยอ่ะค่ะแล้วก็ยังหาสาเหตุไม่เจอทั้งน้น
00:12:16 → 00:12:19 ที่ใช้ชีวิตตามปกติไม่ได้เกิดการเปลี่ยน
00:12:19 → 00:12:22 แปลงอะไรอ่ะค่ะก็ทำไมถึงผมร่วงอะไรอย่าง
00:12:22 → 00:12:24 เงี้ยแล้วหลายๆคนก็เริ่มทักอ่ะค่ะว่าผม
00:12:24 → 00:12:27 บ้างขึ้นมีเกิดอะไรหรือเปล่าอะไรอย่าง
00:12:27 → 00:12:29 เงี้ยค่ะวันนี้ก็เลยอยากจะมาขอปรึกษาคุณ
00:12:29 → 00:12:32 หมอหน่อยอ่ะค่ะว่าเป็นยังไงบ้างแบบมันมี
00:12:32 → 00:12:35 สาเหตุอะไรบ้างอ่ะ
00:12:35 → 00:12:38 [เพลง]
00:12:38 → 00:12:42 ค่ะมีปัญหาเรื่องคือผมคือร่วงเยอะหรือยัง
00:12:42 → 00:12:45 ไงครับคือช่วงนี้ลักษณะแบบว่าคือสังเกต
00:12:45 → 00:12:47 เห็นตัวเองว่ารู้สึกว่าผมมันร่วงเยอะมาก
00:12:47 → 00:12:49 เลยอ่ะค่ะแบบว่าในห้องนอนนี่คือแบบว่า
00:12:50 → 00:12:52 กวาดแล้วเจอแต่เส้นผมจากก่อนหน้านี้แบบ
00:12:52 → 00:12:55 มันไม่เคยเป็นมาก่อนก็เลยแบบเริ่มกังวล
00:12:55 → 00:12:59 เจอมากขึ้นเหมือนกันค่ะอืทีนี้นอกจาก
00:12:59 → 00:13:02 อาการผมร่วงแล้วอ่ะค่ะยังมีอาการอะไรที่
00:13:02 → 00:13:06 บนหนังศีรษะอีกมคะเช่นอาการเจ็บคันมี
00:13:06 → 00:13:09 รังแคอืหรือว่ามีอาการอะไรที่เรารู้สึก
00:13:09 → 00:13:14 ผิดปกติบนหนังศีรษะไคะไม่มีเลยนะคะคือไม่
00:13:14 → 00:13:16 ไม่ได้รู้สึกว่ามีการเปลี่ยนแปลงว่าคั
00:13:16 → 00:13:19 หรือเจ็บอะไรคือสังเกตเห็นจริงๆก็คือรู้
00:13:19 → 00:13:22 สึกว่ามันร่วงมากขึ้นเฉยๆอ่ะค่ะนอกนั้นก็
00:13:22 → 00:13:25 ปกติอแล้วก็ก่อนหน้าเยค่ะนอกจากเรื่อง
00:13:25 → 00:13:28 คลอดบุตรแล้วอ่ะค่ะมีความเจ็บป่วยอะไร
00:13:28 → 00:13:31 อย่างอื่นมยคะมีมีไม่สบายนอนโรงพยาบาลไม่
00:13:31 → 00:13:34 นะคะคือแบบว่าไม่ไม่ได้เจ็บป่วยอะไรอ่ะ
00:13:34 → 00:13:39 ค่ะค่ะมีอาการใจสั่นมือสากินจุน้ำหนักลด
00:13:39 → 00:13:42 หรืออะไรงี้ั้ยคะเหมือนโรคที่แบบเขาพูดก
00:13:42 → 00:13:44 เป็นไทรรอยด์เป็นอะไรเงี้ยค่ะเรารู้สึก
00:13:44 → 00:13:46 ว่าเรามีอาการอะไรแปลกๆในร่างกายเรามั้ย
00:13:46 → 00:13:50 คะอ๋อไม่ค่ะตอนท้องก็เช็คก็ไม่มีอะไรนะคะ
00:13:50 → 00:13:53 อือาการปกติดีตลอดนะคะเออเรื่องโรคประจำ
00:13:53 → 00:13:56 ตัวนะคะที่บางโรคเนี่ยอาจจะทำให้ผมร่วง
00:13:56 → 00:13:58 ได้อย่างไทรรอยด์เงไม่มีอย่างโรคอื่นที่
00:13:58 → 00:14:00 อาจจะต้องถามจะเป็นโรคกลุ่มแพ้ภูมิตัวเอง
00:14:00 → 00:14:04 แพ้แดดอะไรเงี้ยนะคะมีมั้ยคะผื่นแพ้แดด
00:14:04 → 00:14:06 เวลาโดนแดดมีผื่นเหมือนผีเสื้ออยู่บนเรูก
00:14:06 → 00:14:09 ผีเสื้อบนหน้าหรือว่าออาการปวดข้อเรื้อ
00:14:09 → 00:14:13 รังอะไรเงี้ยไม่มีค่ะแต่ว่าออกแดดได้ตาม
00:14:13 → 00:14:16 ปกติช่วงนี้มีซื้อยาซื้ออาหารเสริมอะไรมา
00:14:16 → 00:14:20 ทานมั้ยคะอืไม่นะคะแบบว่ามีแต่กินนอาหาร
00:14:21 → 00:14:24 ให้ครบอะไรอย่างเงี้ยค่ะอือนอกจากนั้นนะ
00:14:24 → 00:14:27 คะก็คืออาการทหนังศีรษะไม่มีอะไรเนาะ
00:14:27 → 00:14:30 เดี๋ยวเราลองมาตรวจังศีรษะกันก่อนนิดนึง
00:14:30 → 00:14:33 นะคะว่านอกจากผมร่วงค่ะก็คือถ้าเป็นภาวะ
00:14:34 → 00:14:36 ผมร่วงหลังคอดเนี่ยปกติผมร่วงก็จะร่วง
00:14:36 → 00:14:39 ธรรมดาโดยที่ไม่มีหนังศีรษะเปลี่ยนแปลงนะ
00:14:39 → 00:14:42 คะแต่เดี๋ยวขอดูนิดนึงนะคะว่าเพื่อนเช็ค
00:14:42 → 00:14:45 ได้ค่ะว่านอกจากผมร่วงที่เป็นร่วงหนังข้อ
00:14:45 → 00:14:48 ธรรมดาแล้วเนี่ยยังมีผมภาวะอื่นๆหรือ
00:14:48 → 00:14:50 เปล่าเช่นหนังศีรษะอักเสบรังแคหรืออะไร
00:14:51 → 00:14:53 ที่กระตุ้นให้ผมร่วงนะคะนอกจากนั้นเนี่ย
00:14:53 → 00:14:56 อาจจะต้องตรวจหนักศีรษะว่ามีอาการที่เป็น
00:14:56 → 00:14:59 ผมร่วงเฉพาะบางโรคหรือเปล่าเช่นผมร่วง
00:14:59 → 00:15:03 เป็นหย่อมนะคะหรือว่ามีอาการผมร่วงแบบ
00:15:03 → 00:15:06 เป็นแผลเป็นซึ่งอาจจะเกี่ยวกับโรคอื่นๆ
00:15:06 → 00:15:09 อีกนะคะฉะนั้นเรื่องผมร่วงเนี่ยคืออาจจะ
00:15:09 → 00:15:11 ฟังดูเหมือนแบบเอ๊ะผมร่วงธรรมดาคิดไปเอง
00:15:11 → 00:15:13 หรืออะไรหรือเปล่าแต่ว่าจริงๆแล้วมันก็มี
00:15:13 → 00:15:16 โรคในร่างกายที่ซ่อนอยู่เยอะค่ะซึ่งเราก็
00:15:16 → 00:15:19 คงจะต้องตรวจให้ละเอียดนะ
00:15:19 → 00:15:24 [เพลง]
00:15:24 → 00:15:29 คะหนังศีรษะก็ปกติดีนะคะ
00:15:29 → 00:15:31 ค่ะแล้วหลังจากที่เราตรวจหนังศีรษะโดย
00:15:31 → 00:15:34 ละเอียดแล้วนะคะว่าไม่มีโรคไม่มีภาวะที่
00:15:34 → 00:15:38 ผิดปกตินะคะเราก็จะทำการทำการ Pool Test
00:15:38 → 00:15:42 นะคะก็คือดึงผมว่ามีภาวะที่ผมอ่อนแอหรือ
00:15:42 → 00:15:49 ว่าที่จะหลุดติดมือออกมาหรือเปล่านะ
00:15:49 → 00:15:54 คะของคนไข้นะคะก็พบว่าเป็นน่าจะเป็นระดับ
00:15:54 → 00:15:57 น้อยนะคะก็คือดึงแล้วก็ไม่มีผมร่วงติดมือ
00:15:57 → 00:16:00 มานะคะอันนี้น่าจะหลังคลอดมาสักระยะนึง
00:16:00 → 00:16:03 ใช่่มั้ยคะหลังคลอดมาได้ประมาณัก 3 เดือน
00:16:03 → 00:16:06 ค่ะค่ะก็พอดีค่ะเป็นช่วงที่ผมจะร่วงได้พอ
00:16:06 → 00:16:09 ดีอ่ะค่ะหลังคลอดประมาณ 2-3 เดือนนะคะ
00:16:09 → 00:16:12 สำหรับคนไข้นะคะหมอว่ายังไม่ต้องทำอะไร
00:16:12 → 00:16:16 อ่ะค่ะอาจจะกินอาหารให้ครบนะคะห้ามหมู
00:16:16 → 00:16:18 แล้วก็พักผ่อนให้เพียงพอแต่ช่วงนี้อาจจะ
00:16:18 → 00:16:21 ยากนิดนึงในช่วงเลี้งลูกแต่ว่าแต่ถ้าเป็น
00:16:21 → 00:16:23 เป็นน้อยอย่างเงี้ยค่ะผมอาจจะขึ้นเองได้
00:16:23 → 00:16:26 ค่ะคือรอเวลาแต่ถ้าเกิดในคนที่เป็นมาก
00:16:26 → 00:16:28 กว่านี้นะคะหมออาจจะสั่งพวกวิตามินหรือ
00:16:28 → 00:16:32 ว่าว่ายาทากระตุ้นรากผมไปให้ทาด้วยค่ะแต่
00:16:32 → 00:16:34 ว่าอาจจะต้องรอหลังให้นมบุดแต่ถ้าเป็น
00:16:34 → 00:16:38 เยอะๆก็คือรอรอจนหลังให้นมบุดค่ะหลังจาก
00:16:38 → 00:16:41 หยุดให้นมบุดอ่ะค่ะเราก็จะมียาทาในกลุ่ม
00:16:41 → 00:16:44 ทากระตุ้นรากผมหรืออะไรเงี้ยค่ะให้ทาอีก
00:16:44 → 00:16:47 ทีนึงค่ะเพราะว่าถ้าเกิดให้นมบุดอยู่ก็
00:16:47 → 00:16:49 คือยังไม่แนะนำให้ใช้ยากลุดนี้อ่ะค่ะคิด
00:16:49 → 00:16:52 ว่าการพักผ่อนแล้วก็รอร่างกายให้ฟื้นฟู
00:16:52 → 00:16:55 ตามธรรมชาติเนี่ยค่ะผมก็จะขึ้นใหม่ได้เอง
00:16:55 → 00:16:59 อค่ะทีนี้คิดว่ารอหลังช่วงให้นมเสร็จแล้ว
00:16:59 → 00:17:02 อาจจะนัดกลับมาตรวจอีกครั้งนึงค่ะว่าจะ
00:17:02 → 00:17:05 ให้ยาอะไรกลับไปทาบางทีถ้าเกิดผู้ชายล่ะ
00:17:05 → 00:17:08 ครับแล้วก็ต้องผู้ชายผู้หญิงเองผมร่วง
00:17:08 → 00:17:10 เท่าไหร่เหรอถึงจะต้องเริ่มความกังวลแล้ว
00:17:10 → 00:17:14 ครับค่ะถ้าเป็นปริมาณเส้นผมเนี่ยก็จะตัด
00:17:14 → 00:17:17 ที่ 100 เส้นต่อวันน่ะนะคะแต่ว่าคือตัว
00:17:17 → 00:17:20 เลขเนี้ยมันก็ไม่ได้เป็นตัวเลขตายตัวนะคะ
00:17:20 → 00:17:22 เอาจริงๆแล้วเราคงจะต้องมาดูอาการมากกว่า
00:17:22 → 00:17:26 ไม่ว่าจะเป็นอาการเจ็บหนังศีรษะมีแดงมี
00:17:26 → 00:17:31 บัวมีคันมีผืดเป็นขุยหรือว่ามีอาการอย่าง
00:17:31 → 00:17:34 อื่นผิดปกติเช่นผมร่วงเป็นหย่อมนะคะคือ
00:17:34 → 00:17:37 ร่วงเป็นดวงๆเลยซึ่งคนไข้ก็เป็นเยอะ
00:17:37 → 00:17:39 เหมือนกันหรือว่าร่วงแล้วมีแผลเป็นคือ
00:17:39 → 00:17:42 ร่วงแล้วมันไม่ขึ้นเลยอนะคะถ้าเกิดมี
00:17:42 → 00:17:46 อาการอาการแบบเยค่ะหรือว่าอาการที่เป็น
00:17:46 → 00:17:48 อาการทางร่างกายอย่างอื่นที่ผิดปกตินะคะ
00:17:48 → 00:17:50 อาจจะต้องมาตรวจละเอียดแต่ว่าเดี๋ยวจะลอง
00:17:50 → 00:17:54 ยกตัวอย่างคร่าวๆให้ดูนะคะอย่างเช่นโรค
00:17:54 → 00:17:59 กลุ่มเยค่ะถ้าเกิดเป็นร่วมแบบไม่มีแผลที่
00:17:59 → 00:18:01 แปลว่าอะไรก็คือแปลว่าผมร่วงแล้วมีโอกาส
00:18:02 → 00:18:04 ผมขึ้นมาปกตินะคะเราก็จะเห็นว่าอันนี้ค่ะ
00:18:05 → 00:18:07 ก็ยังมีรูขุมขนอยู่นะคะซึ่งผมร่วงแบบ
00:18:07 → 00:18:11 เนี้ยก็คือจะทำให้เวลาผมมันขึ้นมาใหม่ก็
00:18:11 → 00:18:14 จะเต็มได้เหมือนเดิมนะคะก็จะไม่ไม่มีแผล
00:18:14 → 00:18:17 เป็นแล้วก็ต่อมาก็จะเป็นโรคผมร่วงเป็น
00:18:17 → 00:18:20 หย่อมอย่างที่บอกไปนะคะหรือว่าผมร่วงจาก
00:18:20 → 00:18:23 การดึงรั้งบางคนดารานักแสดงหรือว่าคนที่
00:18:23 → 00:18:26 รัดผมในทรงเดิมทุกวันแบบดึงไปข้างหลัง
00:18:26 → 00:18:29 เยอะๆค่ะกลุ่มนี้ใช่คบางคผมก็จะเถิกขึ้น
00:18:30 → 00:18:32 เรื่อยๆนะคะกลุ่มนี้ก็จะอยู่อยู่ในกลุ่ม
00:18:32 → 00:18:35 ที่ผมรวกจากการดึงรไม่แค่ะแล้วก็กลุ่มที่
00:18:35 → 00:18:39 อาจจะเป็นเชื้อราบนหนังศีรษะนะคะแล้วก็
00:18:39 → 00:18:41 อันนี้เรียกว่าโรคเจน effluvium หรือว่า
00:18:41 → 00:18:44 เป็นผมร่วงจากความเจ็บป่วยในร่างกายนะคะ
00:18:44 → 00:18:48 หรือภาวะร่างกายที่มันผิดปกติก็คือของคน
00:18:48 → 00:18:50 ไข้ที่เป็นหลังคลอดก็จะจัดอยู่ในกลุ่มนี้
00:18:50 → 00:18:53 นะคะไม่ต้องกังวลนะคะผมมันจะขึ้นมาเหมือน
00:18:53 → 00:18:56 เดิมค่ะก็คือจะไม่ได้ทิ้งว่าเป็นหย่อมผม
00:18:56 → 00:18:58 ร่วงอะไรไว้นะคะนอกจากนั้นอันนี้จะเป็น
00:18:58 → 00:19:01 อีกกลุ่มนึงแล้วค่ะแบบมีแผละค่ะแบบมีแผล
00:19:01 → 00:19:04 ละซึ่งถ้าเรามีเห็นว่าหนังศีรษะเรามีแผล
00:19:04 → 00:19:06 หรือมีอะไรผิดปกติแบบนี้เราคงจะต้องรีบ
00:19:06 → 00:19:09 มหาแพทย์นะคะก็คืออันนี้จะดูเหมือนเรา
00:19:09 → 00:19:11 เหมือนเป็นแผลหกล้มแล้วเวลาขึ้นมามันก็จะ
00:19:11 → 00:19:13 เป็นเลี่ยนๆไปเลยเนื้อมันก็จะผิดปกตินะคะ
00:19:13 → 00:19:16 อันนี้ก็จะเป็นแบบมีแผลเป็นซึ่งกลุ่ม
00:19:16 → 00:19:20 เนี้ยถ้าเรามารักษาไม่ทันก็จะผมก็จะเป็น
00:19:20 → 00:19:23 แผลเป็นไปเลยก็คือว่าเส้นผมไม่สามารถเกิด
00:19:23 → 00:19:26 ขึ้นใหม่ได้แะแต่ว่าเราสามารถใช้วิธีการ
00:19:26 → 00:19:29 ผ่าตัดย้ายเซลล์รากผมไปปลูกอือเพื่อตก
00:19:29 → 00:19:32 แต่งแผลเปญได้ค่ะตได้นะครับตได้ค่ะใช่ค่ะ
00:19:32 → 00:19:34 ในโรคกลุ่มนี้ค่ะจะเป็นโรคที่ค่อนข้างจะ
00:19:35 → 00:19:37 ต้องมาตรวจร่างกายอย่างละเอียดอ่ะค่ะ
00:19:37 → 00:19:40 เพราะว่าแต่ละโรคเนี่ยก็จะมีลักษณะจำเพาะ
00:19:40 → 00:19:43 อ่ะค่ะซึ่งอาจจะต้องดูโดยแพทย์ผู้เชี่ยว
00:19:43 → 00:19:46 ชาญนะคะค่ะซึ่งแต่ว่าโรคเหล่าเยค่ะถ้า
00:19:46 → 00:19:48 เกิดเรารักษาเร็วบางโรคที่มันเกิดจากการ
00:19:49 → 00:19:51 อักเสบหรือว่าการติดเชื้อถ้าเรารักษาเร็ว
00:19:51 → 00:19:54 เราอาจจะป้องกันไม่ให้เขาเป็นแผลเป็นถาวร
00:19:54 → 00:19:57 ได้อือฮึนะคะแต่ถ้าเกิดเป็นแผลเป็นถาวรไป
00:19:58 → 00:20:01 แล้วเราก็จะมีการตรวจดูนะคะว่าถ้าเกิดโรค
00:20:01 → 00:20:06 สงบหรือว่าโรคหายแล้วนะคะแล้วเป็นแผลเป็น
00:20:06 → 00:20:08 อย่างเดียวล่ะอาจจะมีการผ่าตัดย้ายเซลล์
00:20:08 → 00:20:11 รากผมก็คือศิริราชนะคะตอนนี้เทคโนโลยี
00:20:11 → 00:20:14 ใหม่ล่าสุดของเราก็จะเป็นการใช้หุ่นยนต์
00:20:14 → 00:20:17 ผ่าตัดช่วยผ่าตัดอค่ะหุ่นยนต์ผ่าตัดปลูก
00:20:17 → 00:20:20 ไถยก็คือจะมีลักษณะเหมือนแขนกลนะคะแต่ว่า
00:20:20 → 00:20:23 แขนกลตัวเนี้ยจะมีกล้องค่ะซึ่งทำให้เวลา
00:20:23 → 00:20:26 ที่เราจะย้ายเซลล์รากผมจากไททอยมาปลูกที่
00:20:26 → 00:20:28 บริเวณเป็นแผลเป็นหรือว่าย้ายมาปลูกที่
00:20:28 → 00:20:32 บริเวณด้านหน้าค่ะตัวหุ่นยนต์กับกล้องตัว
00:20:32 → 00:20:35 เค่ะจะทำงานประสานกันมองไปที่รากผมก็คือ
00:20:35 → 00:20:39 เป็นกำลังขยายสูงทำให้การขาตัดแต่ละเส้น
00:20:39 → 00:20:41 เนี่ยเจาะเข้าไปเนี่ยทำให้ความผิดพลาดต่ำ
00:20:41 → 00:20:43 มากนะคะน้อยกว่ามนุษย์คือเรียกได้ว่าแม่น
00:20:44 → 00:20:46 ยำกว่ามนุษย์ใช่ค่ะแล้วก็มนุษย์ถ้าเกิดทำ
00:20:46 → 00:20:48 นานๆหรืออะไรเงี้ยค่ะอาจจะมีความล้าความ
00:20:48 → 00:20:51 ทำให้มันเที่ยงตรงน้อยลงแต่หุ่นยนต์เนี่ย
00:20:51 → 00:20:54 จะช่วยแก้ปัญหาตรงนี้แล้วก็ความเร็วก็จะ
00:20:54 → 00:20:56 มากกว่ามนุษย์นะคะตรงนี้ก็คือคนไข้ก็จะ
00:20:56 → 00:20:59 เจ็บตัวน้อยกว่าใช้ระยะเวลาสั้นกว่าผล
00:20:59 → 00:21:02 แทรกซ้อนจากการผ่าตัดอะไรเงี้ยค่ะก็จะดี
00:21:02 → 00:21:06 น้อยลงค่ะ
00:21:06 → 00:21:06 [เพลง]
00:21:06 → 00:21:09 [ปรบมือ]
00:21:09 → 00:21:16 [เพลง]
00:21:16 → 00:21:20 [ปรบมือ]
00:21:20 → 00:21:20 [เพลง]
00:21:21 → 00:21:23 [ปรบมือ]
00:21:23 → 00:21:26 [เพลง]
00:21:26 → 00:21:28 [ปรบมือ]
00:21:28 → 00:21:31 เ
00:21:31 → 00:21:33 [เพลง]
00:21:33 → 00:21:33 [ปรบมือ]
00:21:33 → 00:21:35 [เพลง]
00:21:35 → 00:21:38 [ปรบมือ]
00:21:38 → 00:21:39 [เพลง]
00:21:39 → 00:21:40 [ปรบมือ]
00:21:40 → 00:21:42 [เพลง]
00:21:42 → 00:21:45 [ปรบมือ]
00:21:45 → 00:21:58 [เพลง]
00:21:58 → 00:22:01 เ
00:22:01 → 00:22:28 [เพลง]
00:22:28 → 00:22:32 แ
00:22:32 → 00:22:39 [เพลง]