00:00:00 → 00:00:03 This Is Thai PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:05 world vi The
00:00:05 → 00:00:08 Voice สวัสดีครับผมวีรพงษ์ทวีศักดิ์
00:00:08 → 00:00:12 ดิฉันสุธิราพรปรีเปรมและนี่คือศัลยกรรม
00:00:12 → 00:00:15 ความสุขรายการที่ฟังแล้วทำให้คุณมีความ
00:00:15 → 00:00:18 สุขมากขึ้นมีความทุกข์น้อย
00:00:19 → 00:00:22 ลงสวัสดีครับคุณผู้ฟังสวัสดีครับพี่อ้อย
00:00:22 → 00:00:25 สวัสดีค่ะพี่วีสวัสดีคุณผู้ฟังด้วยเช่น
00:00:25 → 00:00:27 กันค่ะวันนี้ผมต้องเรียนคุณผู้ฟังนะครับ
00:00:27 → 00:00:29 แล้วก็เรียนไม่ต้องเรียนพี่อ้อยพี่อ้อย
00:00:29 → 00:00:32 รู้อยู่แล้วก็คือวันนี้เป็นวันที่ผมตื่น
00:00:32 → 00:00:34 เต้นมากจัดรายการมาหลายปีแล้วนะว้าวเอวัน
00:00:34 → 00:00:38 นี้ตื่นเต้นมากเพราะว่ามีแขกรับเชิญพิเศ
00:00:38 → 00:00:41 อ่ามีแขกรับชิญพิเศษนะครับคุณผู้ฟังวัน
00:00:41 → 00:00:44 นี้เราไม่ได้มากัน 2 คนเรามากัน 3 คนแต่
00:00:44 → 00:00:46 ว่าที่บอกตื่นเต้นเพราะว่าแขกรับเชิญ
00:00:46 → 00:00:49 พิเศษท่านนี้เป็นท่านที่ผมแบบรอคอยมานาน
00:00:49 → 00:00:52 มากเออที่รอคอยมานานเพราะอะไรนะมคุณผู้
00:00:52 → 00:00:56 ฟังแขกรับเชิญคนเนี้ยเขาถูกนินทาในรายการ
00:00:56 → 00:01:00 มาหลายตอนมากแล้วคนที่นินทาเเนี่ยก็คือ
00:01:00 → 00:01:03 พี่อ้อยนี่แหละนะก็เลยมีความรู้สึกว่าผม
00:01:03 → 00:01:07 ก็เลยคิดว่าถ้าเรานินทาเ้าบ่อยๆเนี่ยสัก
00:01:07 → 00:01:09 ครั้งนึงเราจะต้องเชิญเขมาร่วมในรายการซะ
00:01:09 → 00:01:13 เลยนะฮะออคนที่ถูกนินทาบ่อยๆแล้วคนที่
00:01:13 → 00:01:16 นินทาคือพี่อ้อยเนี่ยเขาคือใครครับพี่
00:01:16 → 00:01:18 อ้อยแขกรับเชิญวันนี้แอบแก้ข่าวนิดนึง
00:01:19 → 00:01:23 แล้วกันนะคะฮว่าไม่นินทาค่ะเล่าให้ฟังอ๋อ
00:01:23 → 00:01:26 เล่าให้ฟังโอเคเค้าคนนี้ก็คือลูกสาวพี่
00:01:26 → 00:01:30 อ้อยเองอ๋อค่ะลูกสาวพี่อ้อยใช่นี้เรามี
00:01:30 → 00:01:33 คุณผู้ฟังครับเรามีแขกรับเชิญคือลูกสาว
00:01:33 → 00:01:35 พี่อ้อยเองใช่เพราะฉะนั้นเราให้เแนะนำตัว
00:01:35 → 00:01:38 ดีมั้ยดีค่ะอ่าเชิญแนะนำตัวเลยครับค่ะ
00:01:38 → 00:01:42 สวัสดีค่ะก็ชื่อยะนะคะกิตติยามิยาม่าค่ะ
00:01:43 → 00:01:46 ก็นอกจากเป็นลูกแม่อ้อยแล้วนะคะปัจจุบัน
00:01:46 → 00:01:49 ก็ทำงานนะคะในส่วนของการพัฒนาทรัพยากร
00:01:49 → 00:01:53 บุคคลอ่าโอเคขอเสียงตมือต้อนรับลูกแม่
00:01:53 → 00:01:57 อ้อยตบมือตบมือตบมือคุณผู้ฟังตบด้วยนะ
00:01:57 → 00:02:01 ฮะโอเคครับแล้วก็อันนี้เป็นแขกรับเชิญที่
00:02:01 → 00:02:04 เวลาที่เราพูดถึงเข้าในรายการหลายครั้งผม
00:02:04 → 00:02:06 ก็เลยมีความคิดว่าอืถ้าเกิดว่าเราได้เข้า
00:02:06 → 00:02:08 มานี่นะเราก็มีหลายเรื่องที่ต้องเคลียร์
00:02:08 → 00:02:11 นะคแต่ว่าอีกอย่างหนึ่งที่ตื่นเต้นก็คือ
00:02:11 → 00:02:16 ว่าเรามีแขกรับเชิญที่ที่วัยต่างกันอืเออ
00:02:16 → 00:02:19 ผมเชื่อว่าเราจะได้มุมมองพิเศษที่ทำให้
00:02:19 → 00:02:22 แสนตกรรมความสุขเนี่ยมีคุณค่ามากขึ้นแล้ว
00:02:22 → 00:02:26 ก็ผู้ฟังก็จะได้มีความหลากหลายมากขึ้นค่ะ
00:02:26 → 00:02:29 น้องยะเป็นลูกไม้อ้อยนน้องยะเจนไหนครับ
00:02:29 → 00:02:33 เนี่ยเจนวายค่ะเจนวายใช่มั้ยค่ะเราจะถาม
00:02:33 → 00:02:35 เจนเพราะว่าเราไม่อยากจะบอกเป็นตัวเลก
00:02:35 → 00:02:38 อายุนะฮะก็ไปเดากันเอาเองนะฮเจน Y แล้ว
00:02:38 → 00:02:43 พี่อ้อยเจนไหนครับเจน B เี้ boomer เห็น
00:02:43 → 00:02:47 มั้ยคุณผู้ฟังครับเนี่ยพอ 2 แม่ลูกต่าง
00:02:47 → 00:02:50 เจนกันปุ๊บเนี่ยในสมัยนี้ผมเชื่อว่าคนทำ
00:02:50 → 00:02:53 งานหรืออะไรในสังคมเจะมีปัญหาเรื่องต่าง
00:02:53 → 00:02:56 เจนก็จะต่างใจก็ใจคิดเห็นต่างกันมีวิธี
00:02:56 → 00:02:59 คิดต่างกันแล้วก็แล้วก็มีประเด็นเยอะแยะ
00:02:59 → 00:03:02 มากมายมาไก่กองเป็นประเด็นนึงในในสังคมใน
00:03:02 → 00:03:05 บริษัทในธุรกิจในองค์กรเนี่ยทุกที่เลยนะฮ
00:03:05 → 00:03:08 ทุกที่เลยแต่สำหรับผมนะค่ะผมมีความรู้สึก
00:03:08 → 00:03:11 ว่าอะไรรู้มั้ยอะไรคะจะเจนไหนก็เจนไหน
00:03:11 → 00:03:13 เหอะก็มาดิครับ
00:03:13 → 00:03:17 [เพลง]
00:03:17 → 00:03:19 เลย
00:03:20 → 00:03:22 โอ้โหไม่เลือกเจนเลยเหรอคะไม่ไม่สดเลย
00:03:23 → 00:03:26 สำหรับผมเนี่ยต้องถามน้องยะเลยเออแล้ว
00:03:26 → 00:03:28 เมื่อกี้น้องยะบอกว่าก็ทำงานด้านพัฒนา
00:03:28 → 00:03:32 บุคคลพัฒนามนุษย์อใชค่ะเรื่องเกี่ยวกับ
00:03:32 → 00:03:35 การทำงานในสังคมเนี่ยทุกวันเนี้ยต่างเจน
00:03:35 → 00:03:37 นี้มีประเด็นเยอะมั้ยโอ้ค่อนข้างเยอะเลย
00:03:37 → 00:03:41 ค่ะเหรอๆใช่ค่ะปประมาณไหนส่วนใหญ่แล้ว
00:03:41 → 00:03:44 เนี่ยเด็กรุ่นใหม่เอามุมมองจากเด็กรุ่น
00:03:44 → 00:03:47 ใหม่แล้วกันค่ะนี่เด็กต้องบอกว่าเด็กรุ่น
00:03:47 → 00:03:50 ใหม่ใหม่กว่ายะก็มีค่ะที่เป็นเจนที่ลงไป
00:03:50 → 00:03:54 เนี่ยเขาคก็จะเริ่มทำงานใช่มั้ยคะอเก็จะ
00:03:54 → 00:03:58 มีมีความรู้สึกว่าเอ๊ทำไมเจนผู้ใหญ่ส่วน
00:03:58 → 00:04:04 ใหญ่ไม่ค่อยเอ่อรับฟังอืรับฟังเค้าหรือ
00:04:04 → 00:04:06 ว่าใช้วิธีการที่เค้าคิดว่าเฮ้ยอันเนี้ย
00:04:06 → 00:04:10 มันเวิร์คนะมันดีกว่าทำให้งานเนี่ยไปได้
00:04:10 → 00:04:15 เร็วออือเสร็จเร็วอะไรอย่างเงี้ยค่ะก็บาง
00:04:15 → 00:04:18 ทีเนี่ยพอผู้ใหญ่เนี่ยเารู้สึกว่าโอวิธี
00:04:18 → 00:04:22 นี้มันใหม่อือแล้วเาไม่เคยใช้มาก่อนมันจะ
00:04:22 → 00:04:25 เวิร์คหรือไม่เวิร์คเงี้ยค่ะเก็เลือกแนว
00:04:25 → 00:04:28 ทางเดิมที่เคคิดว่าเค้าเคยทำมาทุกวันนี้
00:04:28 → 00:04:31 ที่ฉันโตมาเป็นตำแหน่งนี้ได้เนี่ยเพราะ
00:04:31 → 00:04:34 วิธีอะไรเอออะไรอย่างเงี้ยค่ะแล้วก็รู้
00:04:34 → 00:04:36 สึกว่าเอ้ยเธอเป็นเด็กเธอยังไม่มี
00:04:36 → 00:04:40 ประสบการณ์นะอืเธอควรฟังฉันออประมาณนี้
00:04:40 → 00:04:43 ค่ะพี่ย่อเห็นมั้ยยังไม่ทันไรเลยเปิด
00:04:43 → 00:04:46 ประเด็นมาก็เอาแล้วเอาแล้วเป็นเรื่องเป็น
00:04:46 → 00:04:50 เรื่องแล้วใช่มเพราะว่า 2 เจนปึ๊บเนี่ยมี
00:04:50 → 00:04:54 เจนเี้ boomer กับเจนใหม่ๆเนี่ยจะ x YZ
00:04:54 → 00:04:57 อะไรเต็มไปหมดเลยี่นะก็ประสบการณ์ก็ต่าง
00:04:57 → 00:05:01 กันอใช่ค่ะแล้วเห็นก็ไม่เหมือนกันวิถี
00:05:01 → 00:05:04 ชีวิตก็ไม่เหมือนกันใช่ค่ะปัญหามันจะเกิด
00:05:04 → 00:05:08 ตรงที่เวลาที่ทำงานร่วมกันเนี่ยมันก็ต่าง
00:05:08 → 00:05:11 กันหมดเลยใช่ค่ะเมื่อกี้น้องยะพี่อ้อยได้
00:05:11 → 00:05:14 ยินมั้ยว่าน้องยะเพูดบอกว่าเค้าก็เด็ก
00:05:14 → 00:05:17 รุ่นใหม่เจะมองผู้ใหญ่ว่าเป็นอย่างนั้น
00:05:17 → 00:05:19 อือแล้วในระหว่างเดียวกันนน้องยะก็จะต้อง
00:05:19 → 00:05:22 มีผู้ใหญ่กว่าในที่ทำงานด้วยใช่ค่ะก็จะ
00:05:22 → 00:05:24 เมื่อกี้ก็เล่ารวบไปเลยนะว่าเด็กรุ่นใหม่
00:05:24 → 00:05:27 ก็จะมองว่าผู้ใหญ่เป็นอย่างงั้นส่วนผู้
00:05:27 → 00:05:30 ใหญ่ก็จะมองว่าเด็กเป็นอย่างงี้แล้วก็
00:05:30 → 00:05:33 เกิดประเด็นกันในที่ทำงานคราวนี้พี่อ้อย
00:05:33 → 00:05:35 เป็นเจนผู้ใหญ่ค่ะพอได้ยินเรื่องแบบนี้
00:05:35 → 00:05:39 แล้วรู้สึกยังไงรู้สึกหรอค่ะอือคือถ้า
00:05:39 → 00:05:42 เป็นพี่อ้อยคนเดิมอ่ะพี่อ้อยก็จะเป็น
00:05:42 → 00:05:44 อย่างที่อย่าพูดอ๋อเป็นจำเลยนั่นเองเป็น
00:05:44 → 00:05:48 จำเลยนั่นเองแล้วก็จะมีคำนึงอยู่ในหัว
00:05:48 → 00:05:51 ตลอดเวลาก็คือไอ้เด็กสมัยนี้ออย่างงี้
00:05:51 → 00:05:55 อย่างงั้นไม่ฟังไม่เรียนรู้ท้องง่ายหรือ
00:05:55 → 00:05:59 อะไรอย่างเงี้ยเต็มเต็มหัวเลยนะคะเออแต่
00:05:59 → 00:06:02 แต่ว่าพอหลังจากที่พี่อ้อยเปลี่ยนแปลงตัว
00:06:02 → 00:06:04 เองอ่ะออ่าเปลี่ยนิเปลี่ยน mindset ของ
00:06:04 → 00:06:08 ตัวเองว่าเอ้ยจริงๆเราสามารถที่จะเรียน
00:06:08 → 00:06:11 รู้ได้จากทุกคนทำไมเราถึงไปปิดกั้นหรือ
00:06:11 → 00:06:14 อะไรอย่างเงี้ยมันมันเริ่มต้นที่ตัวพี่
00:06:14 → 00:06:18 อ้อยเองที่ปรับไเส็จตัวเองแล้วก็เปลี่ยน
00:06:18 → 00:06:21 ตัวเองพอพอเปลี่ยนตัวเองแล้วเราก็เริ่ม
00:06:21 → 00:06:24 รับฟังมากขึ้นก็เลยกลายเป็นว่าเราคุยได้
00:06:25 → 00:06:28 อ่าไม่ว่าเจนไหนเจนไหนเราก็คุยได้
00:06:28 → 00:06:31 อันเนี้ยบทพิสูจน์ก็คือการที่เราปรับ mind
00:06:31 → 00:06:33 เซตตัวเองกับลูกซึ่งเมื่อก่อนนี้ไม่ฟัง
00:06:33 → 00:06:36 ไม่ฟังตอนหลังคืออ่ะที่บอกเมื่อก่อนบอก
00:06:36 → 00:06:39 ว่าเป็นนางยักษ์เนี่ยเพะไม่ฟังแต่พอตอน
00:06:39 → 00:06:41 หลังเนี่ยก็คือคุยกันก็เลยกลายเป็นเพื่อน
00:06:41 → 00:06:46 อ่าโอนี่คุณฟังนี่มยพอสมัยก่อนนะตอนอื่นๆ
00:06:46 → 00:06:48 ก่อนหน้านี้เวลาที่จัดกับพี่อ้อยนี่พี่
00:06:48 → 00:06:50 อ้อยก็บอกว่าเนี่ยสมัยก่อนเป็นอย่างงทำไม
00:06:50 → 00:06:53 รูกอย่างงี้ผมนึ่งเขใจว่าสักวันนึงฮะต้อง
00:06:53 → 00:06:57 มีลูกมานั่งตรงนี้แหละฝันเป็นจริงแล้วฝัน
00:06:57 → 00:07:01 เป็นจริงแล้วแล้วเราก็จะได้ถามเลยคว่า
00:07:01 → 00:07:03 ซึ่งมันเกี่ยวกับประเด็นนี้ด้วยนะที่ต่าง
00:07:03 → 00:07:06 เจนเนี่ยคือประเด็นที่ว่ามันมันมีหลายเจน
00:07:07 → 00:07:09 แล้วมันหลายเจนมันเป็นประเด็นเพราะว่า
00:07:09 → 00:07:12 ต่างคนต่างก็ยืนอยู่บนจุดของตัวเองใชแต่
00:07:12 → 00:07:14 เมื่อตะกี้เนี้ยพี่อ้อยพูดบอกว่าถ้าเป็น
00:07:14 → 00:07:17 พี่อ้อยสมัยก่อนแสดงว่าพี่อ้อยมี 2
00:07:17 → 00:07:20 เวอร์ชั่นใช่กับเวอร์ชั่นสมัยนี้เพราะ
00:07:20 → 00:07:24 ฉะนั้นถ้าเกิดว่าแต่ละเจนเลยนะถ้าคิดแบบ
00:07:24 → 00:07:30 นี้นะไม่มีปัญหาเลยนะคือถ้าคราวนี้ผมอยาก
00:07:30 → 00:07:34 จะย้อนไปว่าน้องยะสมัยก่อนเมื่อกี้ที่บอก
00:07:34 → 00:07:37 ว่าถ้าเป็นแม่สมัยก่อนเนี่ยเกิดอะไรขึ้น
00:07:37 → 00:07:42 เออที่บอกว่าไม่ฟังใช่มคะเออใช่ๆๆเรามี
00:07:42 → 00:07:47 ความรู้สึกว่าบางครั้งสิ่งที่แม่แนะนำอื
00:07:47 → 00:07:50 เป็นสิ่งที่แม่เขาใช้แหละอือในยุคสมัย
00:07:50 → 00:07:54 ก่อนอืแต่สมัยเนี้ยมันใช้แบบวิธีการเนี้ย
00:07:54 → 00:07:57 ไม่ได้ละอืใช่สังคมมันเปลี่ยนไปอะไร
00:07:57 → 00:08:01 เปลี่ยนๆไปเงี้ยค่ะอือๆมันใช้วิธีเดิมไม่
00:08:01 → 00:08:05 ได้ละอือๆใช่แล้วก็เรื่องสำคัญคือเรื่อง
00:08:05 → 00:08:08 เทคโนโลยีค่ะอือๆถ้าสมมุติว่าพูดถึง
00:08:08 → 00:08:10 เรื่องเทคโนโลยีเนี่ยเดี๋ยวเเราจะมี
00:08:10 → 00:08:14 เทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาทำช่วยเราในการทำงาน
00:08:14 → 00:08:16 หรือการใช้ชีวิตอะไรอย่างเงี้ยค่ะมันมี
00:08:16 → 00:08:19 ส่วนเกี่ยวข้องเยอะอือสมัยก่อนแม่เค้าไม่
00:08:19 → 00:08:21 มีไงเค้าก็จะแนะนำแบบที่ไม่มีเครื่องมือ
00:08:22 → 00:08:26 ช่วยอออใช่เราก็รู้สึกว่าหืไม่ได้หรอกยาก
00:08:26 → 00:08:30 ออือๆๆเรามีเครื่องมือเนี้ยอยู่เราใช้
00:08:30 → 00:08:32 เครื่องมือนี้ดีกว่าเอ่าๆๆแล้วพอเป็น
00:08:32 → 00:08:35 อย่างงั้นปึ๊บปฏิกิริยาที่เรามีต่อเ้าอ่ะ
00:08:35 → 00:08:39 กลับไปเป็นยังไงก็เหมือนจะฟังนะคะบางทีก็
00:08:39 → 00:08:42 เหมือนจะฟังคะก็ก็แต่ว่าจริงๆแล้วก็คือ
00:08:42 → 00:08:45 เข้าหูแล้วก็ทะลุออกไปอีกั้งนึงคนี่เฉลย
00:08:45 → 00:08:49 แล้วพี่อ้อยมีเถียงด้วยมั้ยมีมีค่ะมีมี
00:08:49 → 00:08:52 เถียงบ้างอะไรอย่างเงี้ยค่ะมีเถียงบ้าง
00:08:52 → 00:08:55 แต่เราก็จะพูดในมุมของเราเนาะเพเราไม่เคย
00:08:55 → 00:08:58 มองมุมของเค้าอะไรอย่างเงี้ยค่ะออ่าแล้ว
00:08:58 → 00:09:01 พอมาในตอนหลังเนี่เป็นแม่อ้อยเป็นพี่อ้อย
00:09:01 → 00:09:04 เวอร์ชั่นใหม่ที่เค้าเริ่มปรับวิธีคิดของ
00:09:04 → 00:09:06 เค้าเนี่ยแล้วเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง
00:09:06 → 00:09:10 ยังไงเกิดการเปลี่ยนแปลงคือต้องบอกว่าแม่
00:09:10 → 00:09:14 เเริ่มเปิดเปิดรับฟังความคิดเห็นจากเรา
00:09:14 → 00:09:17 เดิมๆนะเขาจะไม่ฟังหรอกเค้าแบบว่าเธอเป็น
00:09:17 → 00:09:20 ลูกฉันนะเธอต้องฟังในสิ่งที่ฉันพูดอือแต่
00:09:20 → 00:09:23 พอเค้าเปลี่ยนเค้าลองฟังว่าเอ้ยแล้วเรา
00:09:23 → 00:09:26 คิดยังไงล่ะอืเราก็เลยกล้าที่จะคุยกับเขา
00:09:26 → 00:09:28 ก็ทุกวันนี้ก็คือคุยทุกเรื่องค่ะไม่มี
00:09:28 → 00:09:31 ความรับเออต่อกันเออๆแล้วคุยทุกเรื่อง
00:09:32 → 00:09:35 แล้วก็รับฟังแล้วแลกเปลี่ยนกันอือพอมัน
00:09:35 → 00:09:37 แลกเปลี่ยนกันเี่มันเริ่มรู้ว่าอ๋อทำไม
00:09:38 → 00:09:41 แต่ก่อนนี้เขาถึงสอนเราแบบนี้อืมันมี
00:09:41 → 00:09:43 เหมือน Behind the scene ค่ะเออๆทำให้
00:09:43 → 00:09:47 เราเข้าใจเจตนาจริงๆอืค่ะซึ่งบางอย่างที่
00:09:47 → 00:09:50 เราคิดเนี่ยแล้วเรามั่นใจบางทีมันก็ไม่
00:09:50 → 00:09:53 เออมันไม่เวิร์คจริงๆนะพอเราฟังจากแม่เออ
00:09:53 → 00:09:57 อ๋องั้นเราต้องปรับยังไงล่ะถึงจะคิดว่า
00:09:57 → 00:10:01 เวิร์คทั้ง 2 เหมือนแบบเบรนกันนะคะว่า
00:10:01 → 00:10:05 สิ่งที่แม่พูดกับสิ่งที่เรามีเนี่ยเบรน
00:10:05 → 00:10:07 กันยังไงให้มันอยู่ตรงกลางแล้วมันออกมา
00:10:07 → 00:10:09 เป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะออโอครันนี้
00:10:09 → 00:10:13 ครันนี้มาจำเลยบ้างครับตอนี้ผมเหมือนเป็น
00:10:13 → 00:10:17 ุทผู้พิพากษาว่ายังไงคะคือสมัยก่อนเราเรา
00:10:18 → 00:10:20 ก็มีประสบการณ์ของเราค่ะแล้วเราก็เห็น
00:10:20 → 00:10:23 สิ่งที่เทำเราว่าเอ้ยอย่างนี้ไม่ใช่ว่ะ
00:10:23 → 00:10:26 เราก็ตู้มเลยใช่มั้ยแล้วกลายเป็นว่าโดน
00:10:26 → 00:10:30 แรงกลับใช่โดนสวนโดนทะลุหูอะไรนะฟังหู
00:10:30 → 00:10:33 ซ้ายทะลุหูขวาอันนั้นคือเวอร์ชั่นดีนะฟัง
00:10:33 → 00:10:36 หูซ้ายทะลุหูขวาแต่เวอร์ชั่นที่แบบตู้ม
00:10:36 → 00:10:39 กลับเนี่ยเอเยอะกว่าเยอะกว่าใช่ปใช่แล้ว
00:10:39 → 00:10:43 คราวนี้ก็เป็นระเบิดมันโยนไปโยนมาเออคราว
00:10:43 → 00:10:46 นี้ก็พินาศเลยแหละพินาศแต่พอจุดเริ่มต้น
00:10:46 → 00:10:48 ที่พี่อ้อยบอกว่าเราเริ่มเปลี่ยนเราเริ่ม
00:10:48 → 00:10:51 ฟังใช่ค่ะแล้วพอเราเริ่มเปลี่ยนปึ๊บเนี่ย
00:10:51 → 00:10:53 พี่อ้อยเห็นความเปลี่ยนแปลงมเห็นค่ะ
00:10:53 → 00:10:57 เปลี่ยนแปลงยังไงยกตัวอย่างเช่นก็คือเา้า
00:10:57 → 00:11:01 ก็ปกติแล้วเนี่ยเริ่มต้นจากตัวเองก่อนตัว
00:11:01 → 00:11:05 เองจะไม่ฟังอืแล้วตัวเองก็จะจะจะใส่กลับ
00:11:05 → 00:11:07 อืเอออย่างที่เคยเล่าอยู่ตอนนึงว่าเหมือน
00:11:08 → 00:11:11 กับถ้าสมมุติว่าเราไป 3 เดซิเบลเาจะมา 4
00:11:11 → 00:11:14 เดซิเบลเราจะไป 5 เขา 6 7 8 ก็อย่าง
00:11:14 → 00:11:18 เงี้ยแบบก็คือจะแบบเหมือนโยนเออแบบยิ่ง
00:11:18 → 00:11:21 ยิ่งยิคุยกันไปยิ่งลั่นยิ่งเถียงยิ่งแย้ง
00:11:21 → 00:11:24 อย่างเงี้ยเออาวเนี้ยเราเปลี่ยนเนี่ยก็
00:11:24 → 00:11:28 คือเราก็หยุดตัวเองก่อนอย่างที่บอกว่าการ
00:11:28 → 00:11:31 เปลี่ยนเงี้ยมันเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะ
00:11:31 → 00:11:35 ไปเปลี่ยนใครอื่นอือ่าเราจะบอกว่าลูกทำไม
00:11:35 → 00:11:38 เถียงทำไมไม่ฟังมันแบบนั้นน่ะมันไม่
00:11:38 → 00:11:41 สามารถลงเ่ยได้ด้วยดีเพราะฉะนั้นเราเรา
00:11:41 → 00:11:43 เองเราหยุดตัวเองก่อนพอเราหยุดตัวเองก่อน
00:11:43 → 00:11:46 เนี่ยเขาก็ชะงักเหมือนกันเพราะว่าเฮ้ย
00:11:46 → 00:11:50 เมื่อก่อนเราเคยใส่ใส่ทันทีพอพอเราหยุด
00:11:50 → 00:11:54 เนี่ยเขาก็จะชงักว่าเออะแบบแม่ทำไมถึง
00:11:54 → 00:11:58 หยุดทำไมไม่เหมือนเดิมอย่างเงี้ยพอพอเ
00:11:58 → 00:12:00 สังเกตมาว่าว่าเออเราไม่เหมือนเดิมเนี่ย
00:12:00 → 00:12:04 ไอ้สิ่งที่เค้าเรียกว่าเราจะไปเพิ่มดีกรี
00:12:04 → 00:12:07 คววามโกรธเดซิเบลที่สูงขึ้นอะไรที่เมื่อ
00:12:07 → 00:12:10 กี้เล่าให้ฟังเนี่ยมันก็เลยกลายเป็นว่า
00:12:10 → 00:12:13 มันก็เลยคงที่มันก็เลยหยุดดูซิว่าเอ๊ะเออ
00:12:13 → 00:12:16 ทำไมอะไรยังไงด้วยอาจจะความสงสัยหรืออะไร
00:12:16 → 00:12:19 ก็ตามอือซึ่งตรงเนี้ยมันเลยทำให้ไม่เกิด
00:12:19 → 00:12:23 การทวีคูณของการไปเพิ่มพลังของประเด็นขัด
00:12:23 → 00:12:28 แย้งปัญหาอารมณ์อืมันก็เลยแทนคือตอนนั้น
00:12:28 → 00:12:30 อาจยังไม่แก้อะไรนะแต่ว่าอย่างอย่างน้อย
00:12:31 → 00:12:33 สุดมันไม่หนักขึ้นใช่มั้ใช่ๆตอนที่พี่
00:12:33 → 00:12:35 อ้อยเคยเล่าเรื่องนี้ให้ฟังผมขึ้นในใจเลย
00:12:35 → 00:12:39 ว่าถ้าเจอน้องยะผมต้องถามว่าสมัยก่อนเป็น
00:12:39 → 00:12:42 อย่างงั้นแม่เป็นนางยักษ์อยู่มาวันนึง
00:12:42 → 00:12:46 ปึ๊บพอเรายิงไปปุ๊บปกติต้องสวนกลับมา
00:12:46 → 00:12:49 เนี่ยแล้วจำความรู้สึกครั้งแรกได้มที่แบบ
00:12:49 → 00:12:52 ว่าเไม่สวนกลับมาจำความรู้สึกอันนั้นได้
00:12:52 → 00:12:54 มยรู้สึกยังไงแล้วเกิดอะไรขึ้นตอนแรกงง
00:12:54 → 00:13:00 ค่ะเออๆงงว่าเอ๊ะทำไมเาเงียบเออหรือว่า
00:13:00 → 00:13:04 หรือว่าเา้าเห็นด้วยกับเราอ๋อเออเอ๊ะแต่
00:13:04 → 00:13:06 แต่มันจะเห็นด้วยได้จริงหรอเพราะว่าเป็น
00:13:06 → 00:13:11 ประเด็นคล้ายๆเดิมเออๆเราก็งงค่ะเราก็ถ้า
00:13:11 → 00:13:16 เค้าเงียบเราก็เงียบอ้านี่ไงคือผมกำลัง
00:13:16 → 00:13:19 รู้สึกว่าเนี่ยประเด็นแรกเลยคืองงพองง
00:13:19 → 00:13:22 ปุ๊บยังไม่ประเด็นนั้นยังไม่ถูกเคลียร์นะ
00:13:22 → 00:13:26 ค่แต่พองงปุ๊บเนี่ยเราไม่ได้ใส่ฟืนเตอะ
00:13:26 → 00:13:29 เราไม่ได้ยิงอาวุธหนักใช่ปกติสมัยก่อน
00:13:29 → 00:13:33 ยิงมายิงกลับยิงมาอาวุธหนักขึ้นเรื่อยๆง
00:13:33 → 00:13:36 แต่ตอนนี้พองงปึ๊บก็ไม่ไม่ใส่อาวุธหนัก
00:13:36 → 00:13:39 เข้าไปอสถานการณ์มันก็ค่อยๆคลี่คลายลง
00:13:39 → 00:13:43 เรื่อยๆคือที่ผมสงสัยคือไม่ใช่สงสัยคือ
00:13:43 → 00:13:47 ประทับใจประเด็นนี้ที่สุดก็คือว่าเราจะ
00:13:47 → 00:13:49 เห็นว่าเนี่ยคือคุณผู้ฟังจะสังเกตเห็นเลย
00:13:50 → 00:13:53 ว่านี่คือจุดเริ่มต้นของการอยู่ร่วมกัน
00:13:53 → 00:13:57 อย่างมีความสุขของต่างเจนอืก็คือเริ่ม
00:13:57 → 00:14:00 สังเกตสังเกตเสร็จปุ๊บหยุดหยุดที่ตัวเอง
00:14:00 → 00:14:03 ค่ะราานี้กรณีนี้เนี่ยพี่อ้อยหรือแม่อ้อย
00:14:03 → 00:14:06 หยุดก่อนค่ะเพราะว่าเป็นคนที่มี
00:14:06 → 00:14:09 ประสบการณ์มากกว่าใช่มั้ยแล้วก็ไปเสาะ
00:14:09 → 00:14:11 แสวงหาวิธีไปเรียนอะไรต่ออะไรมาเริ่ม
00:14:11 → 00:14:15 สังเกตชีวิตตัวเองแล้วก็เริ่มหยุดก่อนอี
00:14:15 → 00:14:18 นี้พอหยุดก่อนปึ๊บอีกฟากนึงก็งงก็เลยหยุด
00:14:18 → 00:14:21 บ้างค่ะแล้วจุดเริ่มต้นของการพัฒนาของการ
00:14:21 → 00:14:24 อยู่ร่วมกันในต่างเจนเนี่ยมันก็เลย
00:14:24 → 00:14:27 สถานการณ์ก็ดีขึ้นเรื่อยๆจนถึงทุกวันนี้
00:14:27 → 00:14:32 แปลงร่างทั้งคู่ใช่ๆใช่ป่ะใช่ค่ะจากเดิม
00:14:32 → 00:14:34 ที่แม่เป็นนางยักษ์นี่แม่กลายเป็นนางฟ้า
00:14:34 → 00:14:37 เลยจากลูกเดิมที่เป็นอะไรนะเป็นตัวปัญหา
00:14:37 → 00:14:40 ใช่ป่ะอเออแต่กลายเป็นตอนนี้เนี่ยเพื่อน
00:14:40 → 00:14:42 กันเป็นเพื่อนอั
00:14:42 → 00:14:46 จ้าเป็นเพื่อนกันแล้วอย่างเงี้ยค่ะคือ
00:14:46 → 00:14:50 เนี่ยที่ผมนึกถึงเลยก็เรถ้าเกิดว่าเรามี
00:14:50 → 00:14:54 คน 2 เจนน่ะแล้วเป็น 2 เจนที่ในอดีตเคยมี
00:14:54 → 00:14:58 ปัญหาแบบอยู่ด้วยกันไม่ได้เลยค่ะแล้วเกิด
00:14:58 → 00:15:00 การเปลี่ยนแปลงในในจุดจุดของการเปลี่ยน
00:15:00 → 00:15:03 แปลงที่ผมเห็นนะก็คือนี่แหละแล้วทำไมผม
00:15:03 → 00:15:07 ถึงพูดตอนนี้ว่าเป็นเป็นตอนที่ชื่อว่าจะ
00:15:07 → 00:15:09 เจนไหนเจนไหนก็มาดีครับเนี่ยเพราะอะไร
00:15:09 → 00:15:12 ประเด็นของความอยู่ร่วมกันแบบต่างเจน
00:15:12 → 00:15:15 เนี่ยมันไม่ได้ประเด็นของมันเนี่ยปัญหา
00:15:15 → 00:15:18 มันไม่ได้อยู่ที่ว่าต่างเจนแต่ว่าต่างคน
00:15:18 → 00:15:21 ต่างไม่ได้ใส่ใจกันน่ะเออต่างคนต่างไม่
00:15:21 → 00:15:24 ได้สังเกตไม่ได้ฟังกันเลยเนี่ยเหรอคะเออ
00:15:24 → 00:15:28 เพราะว่าในเท่าที่ได้ยินมาเออตามองค์กร
00:15:28 → 00:15:31 ต่างๆเนี่ยเอ่าเค้าพูดเหมือนกันหมดเป็น
00:15:31 → 00:15:34 เสียงเดียวกันเลยว่าเออปัญหามันก็คือ
00:15:34 → 00:15:38 ปัญหาต่างเจนอ้าแต่พี่วีกำลังบอกว่าไม่
00:15:38 → 00:15:41 ใช่ปัญหาต่างเจนอ่าเออปัญหามันไม่ได้อยู่
00:15:41 → 00:15:44 ที่เจนต่างกันอืเพราะอะไรรู้มั้ยพี่อ้อย
00:15:44 → 00:15:48 ที่ผมพูดว่าจะเจนไหนเจนไหนก็มาครับเนี่ย
00:15:48 → 00:15:51 ก็มาดีครับเนี่ยเพราะว่าผมอ่ะผมก็เป็นเจน
00:15:51 → 00:15:54 นึงอือแต่สำหรับผมก็ไม่ไม่เวลาที่ผมไป
00:15:54 → 00:15:57 บรรยายที่ไหนนะพี่อ้อยแล้วผมผมเนี่ยเป็น
00:15:57 → 00:16:01 วิทยากรที่เจนเี้ boomer นี่แหละแต่ว่า
00:16:01 → 00:16:03 ความที่เราจะต้องบรรยายตั้งแต่อนุบาลไปจน
00:16:04 → 00:16:07 ถึงปริญญาเอกเอือวิธีที่ผมใช้คืออะไรผมไป
00:16:07 → 00:16:10 อยู่เจนไหนก็ได้ผมแปลงร่างทันทีเลยผมจะ
00:16:11 → 00:16:13 แปลงร่างเป็นเจนเค้านี่แหละอือแล้วถามว่า
00:16:13 → 00:16:16 เราแปลงร่างเป็นเจนเค้าได้ไงเออมันยากตรง
00:16:16 → 00:16:19 ไหนไม่เห็นยากเลยเพราะอะไรเพราะว่ายกตัว
00:16:19 → 00:16:21 อย่างเช่นถ้าเราไปอยู่กับเด็กเราแปลงร่าง
00:16:21 → 00:16:23 เป็นเด็กดูเหมือนจะยากแต่ไม่ยากเพราะผมก็
00:16:24 → 00:16:27 แค่นึกว่าสมัยผมเป็นเด็กผมเป็นยังไงลืมไป
00:16:27 → 00:16:30 แล้วมันนานผมไม่ลืม
00:16:30 → 00:16:34 เราก็กุญแจสำคัญของเจนที่ต่างกันแล้วไม่
00:16:35 → 00:16:37 มีปัญหาเพราะอะไรเพราะในความเป็นจริงเรา
00:16:37 → 00:16:39 ก็เคยเป็นแบบที่เจนนั้นก็เป็นนั่นแหละใช่
00:16:39 → 00:16:43 เพราะเราเคยเป็นมาก่อนเราก็เคยเป็นแบบ
00:16:43 → 00:16:45 นั้นน่ะค่ะยกตัวอย่างเช่นเมื่อเร็วๆนี้
00:16:45 → 00:16:48 เลยนะพี่อ้อยผมไปบรรยายในโรงเรียนแล้วมี
00:16:48 → 00:16:52 ครูก็บอกว่าเนี่ยอาจารย์เด็กคนเนี้ยนะ
00:16:52 → 00:16:55 ต้องระวังเลยนะเพราะว่าเค้าเป็นพวกแบบชอบ
00:16:55 → 00:16:59 ตั้งคำถามที่ทำให้ครูแบบปวดหัวอือบอกยก
00:16:59 → 00:17:02 ตัวอย่างเช่นอะไรเถามคถามว่าทำไมต้องตัด
00:17:02 → 00:17:06 ผมอืทำไมต้องเข้าแถวอะไรอย่างเงี้ยอืพอเ
00:17:06 → 00:17:08 ยกตัวอย่างมา 2 คำถามนี้นะผมนึ่งในใจ
00:17:08 → 00:17:13 โอ้โหสบายะเพราะอะไรเพราะตอนผมเด็กผมก็
00:17:13 → 00:17:17 ถามได้พวกละนี่ไงตอนที่เราเป็นเด็กเราก็
00:17:17 → 00:17:22 ถามอืแต่ทำไมผู้ใหญ่มองว่าเด็กคนนี้เป็น
00:17:22 → 00:17:25 เด็กมีปัญหาล่ะคะเพราะว่าอะไรเพราะว่า
00:17:25 → 00:17:29 เพราะว่าคำถามเค้าเนี่ยมันทำให้ผู้ใหไป
00:17:29 → 00:17:32 ต่อไม่เป็นไงสมัยพี่วีถูกมองอย่างงั้น
00:17:32 → 00:17:35 ด้วยมั้ยคะไม่เพราะอะไรผมสงสัยแต่ผมไม่
00:17:35 → 00:17:39 ถามโอ้โอเคโอเคแต่ผมเก็บความสงสัยไว้ในใจ
00:17:39 → 00:17:41 แล้วผมก็เก็บไว้ข้างในนี่แหละอย่างเช่น
00:17:41 → 00:17:44 แล้วผมไม่ได้ถามแค่นี้นะพี่อ้อยค่ะตอนที่
00:17:44 → 00:17:46 ผมเป็นเจนเด็กเนี่ผมถามหนักกว่านี้อีกอื
00:17:46 → 00:17:50 แต่ว่าผมรู้เทคนิคในการถามคำถามโอว่าคำ
00:17:50 → 00:17:54 ถามไหนจะถามหรือคำถามไหนไม่ถามออต้องแชร์
00:17:54 → 00:17:57 นะคะหรือคำหรือคำถามไหนเราอยากถามมากแต่
00:17:57 → 00:18:01 เราไม่ถามเราเป็นกสิเพื่อแล้วให้เพื่อน
00:18:01 → 00:18:04 ถามให้เพื่อนเป็นเหยื่ออันนี้เป็นศิลปะใน
00:18:04 → 00:18:07 การสื่อสารไง่ะยกตัวอย่างเช่นคำถามที่ผม
00:18:07 → 00:18:10 ถามแล้วผมจะไม่ถามว่าทำไมต้องตัดผมอย่าง
00:18:10 → 00:18:14 เงี้ยแต่ผมจะผสมหลายอันมากเลยผมก็มีคำถาม
00:18:14 → 00:18:17 หนักกว่านั้นก็คือผมมีความรู้สึกว่าเฮ้ย
00:18:17 → 00:18:22 ผู้ใหญ่นี่สับสนเป่าวะคือเวลาที่จะมาอ้าง
00:18:22 → 00:18:25 ว่าเรายังเด็กอยู่นะอก็มาบอกเราว่าเธอ
00:18:25 → 00:18:29 เนี่ยไม่ต้องไปไวผมยาวหรอกยังเด็กอยู่อนะ
00:18:29 → 00:18:32 ก็เลยจะเอาเหตุผลเนี้ยมาอ้างเพื่อให้เรา
00:18:32 → 00:18:35 ไปตัดผมรเป็นเด็กยังไม่ต้องไว้ผมยาวหรอก
00:18:35 → 00:18:38 ไม่ต้องรอเรออะไรมากตัดผมจะได้ง่ายๆเป็น
00:18:38 → 00:18:42 เด็กวันเดียวพอวันรุ่งขึ้นนะก็มาบอกกับ
00:18:42 → 00:18:45 เราว่าเธอเนี่ยทำไมไม่มีความรับผิดชอบเลย
00:18:45 → 00:18:47 เป็นผู้ใหญ่แล้วเนี่ยเออจริงต้องรู้จัก
00:18:47 → 00:18:50 รับผิดชอบสิเออแล้วผมเอา 2 อันเนี้ยมาชน
00:18:51 → 00:18:54 กันแล้วก็ถามคำถามคำถามที่ 3 หนักกว่า
00:18:54 → 00:18:57 เดิมอีกผมถามคำถามกับตัวเองว่าตกลงเราจะ
00:18:57 → 00:19:00 เป็นเด็กหรือเราเป็นผู้ใหญ่ว่ะ
00:19:00 → 00:19:03 เออๆๆไม่ั้นถ้าให้ผมเกิดการเรียนรู้ว่า
00:19:03 → 00:19:06 ไอ้เหตุผลที่เมาอ้างเราอ่ะมันไม่ใช่ของ
00:19:06 → 00:19:11 จริงอ่าเป็นแค่เหตุผลที่อ้างพี่อ้อยเห็นม
00:19:11 → 00:19:14 ว่าผมเป็นตอนที่ผมเป็นเด็กผมแสบแค่
00:19:14 → 00:19:18 ไหนค่ะมันทำให้เรารู้ว่าเวลาที่เด็กถามคำ
00:19:19 → 00:19:21 ถามที่เรามีความรู้สึกไอ้เด็กคนนี้มันแสบ
00:19:21 → 00:19:24 อ่ะเออๆสำหรับผมไม่ใช่ปัญหาเลยอือเพราะ
00:19:24 → 00:19:28 อะไรเพราะว่าผมเป็นอย่างงั้นแหละอืคือแต่
00:19:28 → 00:19:31 ประโยชน์มันคืออะไรดู้มั้ยประโยชน์มันคือ
00:19:31 → 00:19:36 เวลาที่เราเข้าใจเด็กสักคนนึงเราจะไม่มี
00:19:36 → 00:19:39 รู้สึกว่าพฤติกรรมเาเป็นปัญหาอ่าแล้วเรา
00:19:39 → 00:19:43 จะสื่อสารให้เขารู้ว่าเฮ้ยเราอ่ะพวกเดียว
00:19:43 → 00:19:46 กันอือแล้วพอถึงจุดนั้นปึ๊บนะเ้าเปิดใจ
00:19:46 → 00:19:51 ให้เราเลยอมันทำให้เราแบบพอเเปิดใจให้เรา
00:19:51 → 00:19:55 เนี่ยมันทำให้หลังจากนั้นเนี่ยคือพอเขา
00:19:55 → 00:19:59 เปิดใจน้องยะเห็นมยว่าตอนที่แม่เ้านิ่ง
00:19:59 → 00:20:02 แล้วเราก็เลยนิ่งตอนที่เรานิ่งนั่นน่ะคือ
00:20:02 → 00:20:08 ตอนที่เราเปิดใจอืใช่ค่ะเห็นป่ะพอเราเปิด
00:20:08 → 00:20:10 ใจปึ๊บสิ่งที่เขาพูดเนี่ยเราจะเห็นด้วย
00:20:10 → 00:20:12 ไม่เห็นด้วยอันนี้เรื่องนึงแต่พอเราเปิด
00:20:12 → 00:20:16 ใจปึ๊บเนี่ยเราจะเข้าใจเมากขึ้นเห็นภาพคำ
00:20:16 → 00:20:19 ว่าเปิดใจเลยพี่วีเพราะว่าอเพราะว่าตอน
00:20:19 → 00:20:24 ที่ปิดใจเนี่ยอ่ามันหูอื้อตาลายจะคิดแต่
00:20:24 → 00:20:27 จะเถียงอย่างเดียวเขาพูดอะไรก็ได้เพื่อ
00:20:27 → 00:20:31 เถียงเอาชนะอืเออๆคอืโหแสดงว่าตอนนี้น้อง
00:20:31 → 00:20:35 ย่างเห็นมั้ว่า EP นี้ก็คือจะเจนไหนเจไหน
00:20:35 → 00:20:38 ก็มาดีครับเนี่ยอือแท้ที่จริงปัญหามันไม่
00:20:38 → 00:20:42 ได้อยู่ที่ต่างเจนอือแต่มันปัญหาอยู่ที่
00:20:42 → 00:20:45 ก็ที่มันมีปัญหาเพราะว่าต่างเจนเนี่ยมัน
00:20:45 → 00:20:48 ก็เป็นลักษณะของมันแต่ทุกเจนเนี่ยปิดใจ
00:20:48 → 00:20:53 หมดเลยออืใช่ค่ะปิดใจอยู่กับของตัวเอง
00:20:53 → 00:20:56 เนี่ยแล้วน้องยะเห็นมยว่าเนี่ยอน้องยะจะ
00:20:57 → 00:20:59 สังเกตเห็นเลยว่าถ้าเกิดว่าเราทำงานเนี่ย
00:20:59 → 00:21:02 แล้วเคยเห็นคนในที่ทำงานหรือว่าที่เรา
00:21:02 → 00:21:06 เกี่ยวข้องมยที่เป็นคนลักษณะของต่างเจน
00:21:06 → 00:21:10 แต่อยู่ด้วยกันได้เคยเห็นค่ะเออแล้วมัน
00:21:10 → 00:21:13 เกิดขึ้นเพราะไงเค้าคุยกันค่ะเหมือนแชร์
00:21:13 → 00:21:18 กันออืว่าพี่เค้าคิดยังไงอน้องคิดยังไง
00:21:18 → 00:21:22 อือค่ะแล้วก็เอาวิธีนั้นน่ะมาเหมือนอย่าง
00:21:23 → 00:21:27 ที่ยะบอกก่อนหน้านี้ก็คือเบรนกันอืๆ่มั้ย
00:21:27 → 00:21:29 เนี่ยมันก็กลับมาสู่ solution เดิมใช่
00:21:29 → 00:21:33 มั้ยพี่อ้อยค่ะค่ะก็คือว่าแสดงว่าอะไรที่
00:21:33 → 00:21:36 ผมพูดว่าผมไม่ได้พูดเกินจริงว่าต่างเจน
00:21:36 → 00:21:39 ไม่ใช่ปัญหาอืเพราะต่างเจนก็ไม่ใช่ปัญหา
00:21:39 → 00:21:42 จริงๆอแต่ปัญหามันอยู่ตรงไหนนยะว่าอยู่
00:21:42 → 00:21:47 ที่การปิดใจค่ะไม่เปิดใจรับฟังอืเห็นป่ะ
00:21:47 → 00:21:50 ซึ่งเป็นได้ทุกเจนไม่เกี่ยวกับเจนไหนเจน
00:21:50 → 00:21:52 ไหนทุกเจนเอ็งเป็นอย่างงั้นแต่เอ็งก็ปิด
00:21:52 → 00:21:55 ใจอยู่กับของเอ็งนี่แหละข้าก็เป็นอย่าง
00:21:55 → 00:21:58 งี้ข้าก็ไม่สนใจเ็งเหมือนกันเพงั้นความ
00:21:58 → 00:22:01 ต่างระหว่างเจนไม่ใช่ปัญหาอืแต่ปัญหามัน
00:22:01 → 00:22:04 อยู่ที่ไม่สนใจกันแล้วก็ไม่เปิดใจแล้วก็
00:22:04 → 00:22:07 ไม่ฟังกันแล้วก็น้องย้าใช้คำว่าบางที่ที่
00:22:07 → 00:22:11 แก็ใช้วิธีการคุยกันเธอคิดยังไงแต่ว่า
00:22:11 → 00:22:14 เวลาที่เมื่อตะกี้นี้พี่แม่อ้อยพูดมาคำ
00:22:14 → 00:22:18 นึงน่าสนใจนะก็คือว่าเวลาที่เราปิดใจแล้ว
00:22:18 → 00:22:21 ไม่ฟังเนี่ยหูมันอื้อไ
00:22:21 → 00:22:25 แบบหูมันอื้ออก็เลยไม่ฟังหนักเไปอีกอือ
00:22:25 → 00:22:29 ใช่ค่ะก็หูอื้อปุ๊บนี่ก็มีมีอาวุธเท่า
00:22:29 → 00:22:31 ไหร่ก็ถล่มกันหนักกว่าเดิมอีกอย่างเงี้ย
00:22:31 → 00:22:34 เพราะฉะนั้นเนี่ยที่บอกว่าเจนไหนเจนไหนก็
00:22:34 → 00:22:37 มาดีครับเนี่ยไม่ได้บอกว่าตัวเองเจ๋งนะ
00:22:37 → 00:22:40 หรือว่าไม่ได้บอกว่าเราจัดการกับมันไม่
00:22:40 → 00:22:44 ใช่อแต่เรารู้เคล็ดลับเคล็ดลับก็คือแค่
00:22:44 → 00:22:48 ฟังอืแต่ว่าก่อนจะฟังมันอยู่ๆมันจะฟังมัน
00:22:48 → 00:22:53 ยากอือก็คือเปิดใจปึ๊บเนี่ยแล้วผลที่ได้
00:22:53 → 00:22:56 ก็คืออย่างที่ตั้งแต่เริ่มเลยครับคุณผู้
00:22:56 → 00:22:58 ฟังที่เล่าให้ฟังเนี่ยครั้งแรกเลยพอพี่
00:22:58 → 00:23:03 อ้อยเปิดใจปึ๊บน้องยะงงก่อนใช่จะอยู่ใน
00:23:03 → 00:23:06 อาการงงความดีของอาการงงก็คืออะไรเราก็
00:23:06 → 00:23:09 ไม่ใส่อาวุธเติมเราไม่เติมไฟอือเราก็หยุด
00:23:09 → 00:23:13 ก่อนใช่ปึ๊บไฟมันก็ไม่โหมกพืนหนักขึ้นงี้
00:23:13 → 00:23:16 มันก็จะค่อยๆมอดลงเรื่อยๆแล้วก็เริ่มเปิด
00:23:16 → 00:23:19 ใจทั้งคู่หลังจากนั้นก็จากการที่แบบว่า
00:23:19 → 00:23:22 แม่เคยเป็นนางยักษ์ลูกเคยเป็นตัวร้ายนาง
00:23:22 → 00:23:24 ร้ายอะไรอย่างเงี้ยสถานการณ์ดีขึ้นแล้วก็
00:23:24 → 00:23:27 เปลี่ยนหมดเลยอืแล้วคุณผู้ฟังครับอันนี้
00:23:27 → 00:23:30 วันเนี้ยเป็น Ep ที่พูดถึงเรื่องต่างเจน
00:23:30 → 00:23:33 แล้วเป็นการที่เราพิสูจน์ให้เห็นด้วยของ
00:23:33 → 00:23:35 จริงเลยคเพราะว่าแม่ลูกที่นั่งอยู่ตรงนี้
00:23:36 → 00:23:39 เนี่ยต่างเจนทั้งคู่เลยครับคุณผู้ฟังนะฮะ
00:23:39 → 00:23:42 แล้วก็เคยเอาความต่างเนี่แบบมาถล่มใส่กัน
00:23:42 → 00:23:44 แต่วันนี้เนี่เปลี่ยนหมดแล้วใชค่ะแล้ววัน
00:23:44 → 00:23:47 นี้ดีใจมากเลยที่เราไม่ได้พูดถึงเขาเป็น
00:23:47 → 00:23:51 บุคคลที่ 3 เราพูดถึงเขาแต่เขาอยู่ตรงนี้
00:23:51 → 00:23:54 เลยค่ะค่ะนะครับมายืนยันค่ะมายืนยันนะฮ
00:23:54 → 00:23:57 แล้วก็มาแบ่งปันให้เราได้เข้าใจลึกมาก
00:23:57 → 00:24:00 ขึ้นเรื่อยๆเรื่อยด้วยนะฮะค่ะก็วันนี้
00:24:00 → 00:24:03 ศัลยกรรมความสุขนะครับปกติก็บอกว่าผมและ
00:24:03 → 00:24:07 พี่อ้อยนะฮก็ต้องลาไปก่อนวันนี้สัญกรรม
00:24:07 → 00:24:11 ความสุขเนี่ยก็คือผมพี่วีนะพี่อ้อยแล้วก็
00:24:11 → 00:24:14 น้องย๊ะต้องลาไปก่อนนะครับพบกันใหม่ EP
00:24:14 → 00:24:19 หน้าครับสวัสดีครับสวัสดีค่ะสวัสดี
00:24:19 → 00:24:22 ค่ะติดตามรายการทางเว็บไซต์และ
00:24:22 → 00:24:26 แอปพลิเคชันของไย PBS podcast spotify
00:24:26 → 00:24:28 Sou Cloud Google podcast Apple
00:24:28 → 00:24:32 podcast และ YouTube Channel Thai PBS
00:24:32 → 00:24:35 podcast Thai PBS podcast View the
00:24:35 → 00:24:37 world via The Voice
00:24:37 → 00:24:43 [เพลง]