00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีครับผมเคยเอาเรื่องของการทำ
00:00:03 → 00:00:05 การุณยฆาตนะครับหรือ
00:00:05 → 00:00:07 utanasia มาพูดให้ฟังเมื่อนานมาแล้วนะ
00:00:07 → 00:00:09 ครับในช่วงนั้นก็มีทั้งคนที่เห็นด้วยแล้ว
00:00:09 → 00:00:12 ก็คนไม่เห็นด้วยถูกไหมครับแต่วันนี้ผม
00:00:12 → 00:00:15 อยากจะเอาอีกแง่มุมนึงมาเล่าให้ฟังว่าถ้า
00:00:15 → 00:00:19 เราจำเป็นจะต้องมีการทำการุณยฆาตมันควรจะ
00:00:19 → 00:00:23 ต้องมีวิธีในการกระทำอย่างไรนะครับมีเหตุ
00:00:23 → 00:00:26 ผลอะไรในการทำแล้วเราจะเอาต้นแบบมาจากไหน
00:00:26 → 00:00:29 ดีนะครับก็พบกับผมนะครับนายแพทย์ธานี
00:00:29 → 00:00:31 ธนียวรรณนะครับเป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่
00:00:31 → 00:00:33 ประเทศสหรัฐอเมริกาเชี่ยวชาญโรคปอดการ
00:00:33 → 00:00:36 ปลูกถ่ายปอดและวิกฤตบำบัดนะครับ
00:00:36 → 00:00:39 สำหรับการุณยฆาตนะครับก็มีศัพท์ภาษา
00:00:39 → 00:00:41 อังกฤษว่ายูเทเนียมหรือว่าอีกอย่างหนึ่ง
00:00:41 → 00:00:46 ก็เรียกว่า assisted นะครับตรงนี้เนี่ย
00:00:46 → 00:00:49 มันมีในหลายประเทศนะครับยกตัวอย่างเช่น
00:00:49 → 00:00:51 ประเทศสวิตเซอร์แลนด์อันนี้เป็นที่เก่า
00:00:51 → 00:00:54 แก่ที่สุดที่ทุกคนคิดว่าอาจจะเคยได้ยินนะ
00:00:54 → 00:00:56 ครับมีที่สวิตเซอร์แลนด์ที่เบลเยี่ยมที่
00:00:56 → 00:00:59 แคนาดานะครับอเมริกาก็จะมีเหมือนกันแต่
00:00:59 → 00:01:02 เป็นบางรักนะครับที่โคลัมเบียเท่าที่ผม
00:01:02 → 00:01:04 ทราบมานะครับเนเธอร์แลนด์อย่างนี้มี
00:01:04 → 00:01:07 เหมือนกันนะครับแต่แน่นอนว่าต้นตำรับ
00:01:07 → 00:01:09 เนี่ยจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก
00:01:09 → 00:01:11 สวิตเซอร์แลนด์เพราะว่าสิ่งที่เขาทำมา
00:01:11 → 00:01:13 เนี่ยนะครับมันค่อนข้างที่จะมีระบบ
00:01:13 → 00:01:16 ระเบียบดีมากๆเลยนะครับผมก็เลยอยากจะเอา
00:01:16 → 00:01:19 เรื่องนี้มาเล่าให้ฟังเลยว่าถ้าเราจำเป็น
00:01:19 → 00:01:22 จะต้องทำเพราะว่าเราคิดว่าคนเราควรจะมี
00:01:22 → 00:01:25 สิทธิ์ตัดสินใจในชีวิตของตัวเองได้แล้ว
00:01:25 → 00:01:29 เราจะต้องทำเราควรจะทำแบบไหนนะครับแล้ว
00:01:29 → 00:01:31 เวลาเราจะควรทำแบบไหนเราก็ควรจะหันไปมอง
00:01:31 → 00:01:33 ประเทศที่เขาทำมานานแล้วในที่นี้ก็คือ
00:01:33 → 00:01:35 สวิตช์นะครับ
00:01:35 → 00:01:38 สวิตเซอร์แลนด์เนี่ยก็มีโปรแกรมอันอันนึง
00:01:38 → 00:01:40 ซึ่งเรียกว่าโปรแกรม Exit นะครับอีก
00:01:40 → 00:01:42 โปรแกรมก็คือชื่อว่าเด็คเน็ต Task นะครับ
00:01:42 → 00:01:45 และอีกอันนึงผมจำไม่ได้น่าจะชื่อว่า Life
00:01:45 → 00:01:47 Cycle ไลฟ์เซอร์เคิลสักอย่างนี่แหละครับ
00:01:47 → 00:01:49 แต่ว่าอันที่ดังๆเนี่ยก็คือ Exit เพราะ
00:01:49 → 00:01:51 มันเป็นโปรแกรมที่เก่าที่สุดตั้งแต่มีมา
00:01:51 → 00:01:54 นะครับตั้งมาตั้งแต่ปี 1982 นะครับปีที่
00:01:54 → 00:01:58 ผมเกิดพอดีนะครับในช่วงช่วงนั้นนะครับไอ้
00:01:58 → 00:02:01 โปรแกรม Exit เนี่ยมันคืออะไรมันมีหน้า
00:02:01 → 00:02:04 ที่ทำอะไรนะครับโปรแกรม Exit ก็จะเป็น
00:02:04 → 00:02:07 โปรแกรมที่ให้คำปรึกษาทั้งหมดเลยไม่ว่าจะ
00:02:07 → 00:02:09 เป็นในแง่ของ
00:02:09 → 00:02:12 แง่ทางกฎหมายนะครับการเขียนพินัยกรรม
00:02:12 → 00:02:15 Living Well นะครับการกำหนดว่าข้อกฎ
00:02:15 → 00:02:17 หมายควรจะต้องทำยังไงท่านควรจะต้องทำแบบ
00:02:17 → 00:02:20 ไหนมีการประเมินสุขภาพจิตสุขภาพกายของคน
00:02:21 → 00:02:23 ที่จะเข้ามาอยู่ในโปรแกรมนี้รวมไปจนถึง
00:02:23 → 00:02:28 การที่ให้ยาเพื่อที่จะให้คนไข้จากไปอย่าง
00:02:28 → 00:02:30 สงบหรือการทำการุณอย่างข้านั่นเองและหลัง
00:02:30 → 00:02:34 จากที่ทำการดุลยภาพเสร็จแล้วก็จะต้องมี
00:02:34 → 00:02:37 การประสานงานนะครับทำให้พินัยกรรมต่างๆ
00:02:37 → 00:02:40 ที่เคยเขียนไว้เป็นไปตามนั้นนะครับประสาน
00:02:40 → 00:02:43 งานกับตำรวจกับทางกฎหมายจัดเตรียมเอกสาร
00:02:43 → 00:02:46 ทุกอย่างตั้งแต่เรื่องของทำศพทุกอย่าง
00:02:46 → 00:02:49 ทั้งหมดเลยนะครับซึ่งถือว่าเป็นองค์กร
00:02:49 → 00:02:52 อิสระที่มีความครบวงจรในแง่ของการกรุณา
00:02:52 → 00:02:55 คาดเป็นอย่างดีนะครับตรงนี้เป็นสิ่งที่
00:02:55 → 00:02:59 สำคัญเพราะว่าการทำการกรุณาคาดเนี่ยมัน
00:03:00 → 00:03:02 เป็นสิ่งที่ไม่ใช่ทุกคนจะอยากจะทำทำให้นะ
00:03:02 → 00:03:05 ครับเพราะแน่นอนถ้าเกิดว่าเรามีการ
00:03:05 → 00:03:09 การุณยฆาตโดยที่เราไม่มีการควบคุมให้ชัด
00:03:09 → 00:03:11 เจนนะครับมันก็ยังต้องเกิดปัญหาขึ้นมามาก
00:03:12 → 00:03:13 มายนะครับ
00:03:13 → 00:03:16 แล้วหมอบางคนก็อาจจะรู้สึกว่าเราไม่อยาก
00:03:16 → 00:03:19 จะทำให้มันเนื่องจากว่าเราไม่สบายใจส่วน
00:03:19 → 00:03:22 ตัวนะครับมันขัดกับหลักธรรมประจำใจของตัว
00:03:22 → 00:03:24 เองนะครับหรือกับหลักศาสนาอะไรก็แล้วแต่
00:03:24 → 00:03:27 การมีหน่วยงานอิสระขึ้นมาจัดการตรงนี้ให้
00:03:27 → 00:03:30 ทั้งหมดจึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากครับ
00:03:30 → 00:03:36 แล้ว Exit เนี่ยนะครับมันมันมีวิธีขั้น
00:03:36 → 00:03:39 ตอนในการทำงานอย่างไรนะครับอ่าตรงนี้ผมก็
00:03:39 → 00:03:41 อยากจะมาเล่าว่าเข้าว่าเขาทำยังไง
00:03:41 → 00:03:44 ข้อแรกก็คือจะต้องเป็นสมาชิกของเขาก่อนนะ
00:03:44 → 00:03:46 ครับโดยคนที่จะเป็นสมาชิกได้นี่คืออายุ 18
00:03:46 → 00:03:49 ปีขึ้นไปนะครับนั่นหมายความว่าถ้าอายุต่ำ
00:03:49 → 00:03:52 กว่านั้นเนี่ยไม่สามารถทำการดุลยภาพได้นะ
00:03:52 → 00:03:55 ครับอ่าอันนี้อันที่ 1 นะฮะ
00:03:55 → 00:03:59 อายุ 18 ปีขึ้นไปเป็นสมาชิกของเขาและต้อง
00:03:59 → 00:04:00 เป็น
00:04:00 → 00:04:02 ประชากรของสวิสเท่านั้นคือเป็น citizen
00:04:02 → 00:04:04 นะครับประชาชนของสวิสหรือเป็น promenent
00:04:04 → 00:04:06 Residence ของสวิตเซอร์แลนด์เท่านั้นนะ
00:04:06 → 00:04:09 ครับไม่ใช่ว่าท่านมาจากที่อื่นแล้วไปทำ
00:04:09 → 00:04:11 ได้นะครับเหตุผลที่ตรงนี้มันสำคัญมาก
00:04:11 → 00:04:15 เพราะว่าทาง Switch ก็เล็งเห็นว่าประเทศ
00:04:15 → 00:04:18 อื่นก็อยากจะมาขอทำการุณยฆาตที่ประเทศเขา
00:04:18 → 00:04:21 เขาเลยป้องกันไว้ก่อนเลยนะครับป้องกัน
00:04:21 → 00:04:25 อะไรป้องกัน Dash tourism
00:04:25 → 00:04:27 ที่ทางประเทศสวิตช์เขาออกกฎมาอย่างนี้เลย
00:04:27 → 00:04:30 ก็คือว่าถ้าเราไม่ใช่
00:04:30 → 00:04:34 ประชากรของเขาแล้วล่ะก็เขาจะไม่ทำให้นะ
00:04:34 → 00:04:37 ครับดังนั้นอันนี้เป็นข้อแรกๆเลยนะครับ
00:04:37 → 00:04:42 ที่ทาง Exit เขาจะดูนะครับข้อแรกคืออายุ
00:04:42 → 00:04:46 18 ขึ้นไปเป็นประชากรของเขานะครับและที่
00:04:46 → 00:04:50 สำคัญข้อที่ 3 ก็คือว่าเขาก็จะต้องแน่ใจ
00:04:50 → 00:04:54 ก่อนว่ามีโรคที่ไม่สามารถรักษาได้ไม่
00:04:54 → 00:04:57 สามารถยอมรับผลของมันได้นะครับหรือโรคที่
00:04:57 → 00:04:59 มีความทุกข์ทรมานสูงแน่นอนว่าจะต้องมีการ
00:04:59 → 00:05:02 ประเมินร่างกายทั้งหมดเลยนะครับไม่ว่าบาง
00:05:02 → 00:05:04 คนอาจจะเป็นผู้ป่วยติดเตียงนะครับหรือ
00:05:04 → 00:05:07 เป็นผู้ป่วยที่มีโรคมะเร็งร้ายแรงที่มัน
00:05:07 → 00:05:10 ยังไงก็ไม่หายหรือบางครั้งเรามันแก้ไขไม่
00:05:10 → 00:05:13 ได้จริงๆเนี่ยก็จะมีการพิจารณาด้วยทาง
00:05:13 → 00:05:15 Exit เขาก็จะมีการตรวจทั้งหมดเลยนะครับ
00:05:15 → 00:05:18 ว่ามันสมเหตุสมผลหรือเปล่านี่คือสิ่งที่
00:05:18 → 00:05:22 เขาทำอีกอย่างหนึ่งซึ่งจะต้องมีก็คือคน
00:05:22 → 00:05:26 ไข้ที่จะทำจะต้องมีสติสัมปชัญญะเพราะว่า
00:05:26 → 00:05:29 ทุกๆอย่างต้องออกมาจากคนคนนี้เท่านั้นไม่
00:05:29 → 00:05:32 สามารถออกมาจากญาติพี่น้องครอบครัวคนทั้ง
00:05:33 → 00:05:35 หมดได้มันหมายความว่าอะไรครับหมายความว่า
00:05:36 → 00:05:38 ถ้าเกิดเป็นผู้ป่วยติดเตียงที่ไม่รู้
00:05:38 → 00:05:42 เรื่องแล้วเขาจะไม่ทำให้ครับเขาจำไม่ทำ
00:05:42 → 00:05:46 การุณจะคาดให้นะครับจะต้องเป็นคนไข้ตัด
00:05:46 → 00:05:49 สินใจเองเท่านั้นนะครับตัดสินใจได้เอง
00:05:49 → 00:05:53 ด้วยตัวเองเท่านั้นโดยที่ปราศจากความกด
00:05:53 → 00:05:56 ดันจากใครทั้งหมดนะครับต้องไม่มีคนกดดัน
00:05:56 → 00:05:58 เขาต้องคิดของเขาเองเขาต้องเข้าใจเหตุผล
00:05:58 → 00:06:01 ทั้งหมดที่เขาทำไปไม่ใช่อยู่ๆรู้สึกว่า
00:06:01 → 00:06:05 วันนี้เรารถชนแล้วขาขาดไป 2 ข้างเราจะ
00:06:05 → 00:06:08 อยู่ยังไงในช่วงนั้นเนี่ยบางครั้งอาจจะ
00:06:08 → 00:06:10 เป็นช่วงที่เขากำลังมีอารมณ์ไม่ปกติมีการ
00:06:10 → 00:06:13 ซึมเศร้าจากการที่เขาปรับตัวไม่ได้นะครับ
00:06:13 → 00:06:16 แล้วก็นำไปสู่การอยากจะตายแต่แบบนี้เนี่ย
00:06:16 → 00:06:20 ทาง Exit จะไม่ทำให้จะต้องรอให้คนไข้ปรับ
00:06:20 → 00:06:23 ทุกอย่างให้เรียบร้อยซะก่อนนะครับให้
00:06:23 → 00:06:26 สัมภาษณ์จิตใจเข้าสู่ปกติแล้วก็มาประเมิน
00:06:26 → 00:06:29 อีกทีว่าเขายังจะมีความต้องการที่จะทำ
00:06:29 → 00:06:33 การุณยฆาตอยู่หรือเปล่านะครับถ้าเขายังมี
00:06:33 → 00:06:35 ความต้องการอยู่นะครับไม่ได้ทำเพราะว่า
00:06:35 → 00:06:40 อยู่ภายใต้อิทธิพลของคนอื่นๆแล้วก็ไม่ได้
00:06:40 → 00:06:42 อยู่ภายใต้อิทธิพลของอารมณ์ตัวเองมีสติ
00:06:42 → 00:06:44 สัมปชัญญะครบถ้วนในการตัดสินใจอันเนี้ย
00:06:44 → 00:06:48 เขาถึงจะประเมินว่าโอเคให้ผ่านได้นะครับ
00:06:48 → 00:06:50 นอกเหนือจากนี้เขายังช่วยเหลือในแง่ของ
00:06:50 → 00:06:54 การเตรียมเอกสารต่างๆไม่ว่าจะเป็นเอกสาร
00:06:54 → 00:06:58 ที่เกี่ยวข้องกับพินัยกรรมต่างๆนะครับคน
00:06:58 → 00:07:01 ที่อยู่เป็นสมาชิกของ Exit นั้นไม่ใช่คน
00:07:01 → 00:07:03 ที่ต้องการฆ่าตัวตายเท่านั้นนะครับไม่ได้
00:07:03 → 00:07:06 ต้องการการุณยฆาเท่านั้นแต่เขายังดูแลไป
00:07:06 → 00:07:08 จนถึงทุกๆครั้งที่คนไข้คนนั้นเนี่ยเข้า
00:07:08 → 00:07:11 โรงพยาบาลแล้วถ้าเกิดคนไข้คนนั้นเป็น
00:07:11 → 00:07:14 สมาชิกของ Exit แล้วมีการทำพินัยกรรมไว้
00:07:14 → 00:07:17 นะครับหรือมีอะไรก็แล้วแต่ที่เป็นผลทางกฎ
00:07:17 → 00:07:20 หมายทาง Exit เขาก็จะดูแลให้ว่าเนี่ยตอน
00:07:20 → 00:07:22 ไปอยู่โรงพยาบาลเนี่ยได้ทำตามนี้หรือ
00:07:22 → 00:07:24 เปล่านะครับเพราะว่าบางคนบอกอย่างนี้ครับ
00:07:24 → 00:07:28 ที่ไทยที่เจอบ่อยเช่นสมมุติว่าญาติผู้
00:07:28 → 00:07:31 ใหญ่ของเรานะครับไปเคยบอกกับเราไว้ว่า
00:07:31 → 00:07:34 เฮ้ยยังไงเนี่ยเราจะไม่เจาะคอเราจะไม่ใส่
00:07:34 → 00:07:38 ท่อเราจะไม่ขอล้างไตนะถ้าเกิดว่าชีวิตเรา
00:07:38 → 00:07:40 มาจนถึงขั้นที่มันต้องนอนติดเตียงเนี่ย
00:07:40 → 00:07:43 เราไม่เอานะแล้วเกิดอะไรขึ้นครับหลายๆ
00:07:43 → 00:07:46 ครั้งที่ไปถึงโรงพยาบาลเนี่ยหมอเขาก็จะ
00:07:46 → 00:07:50 คุยกับญาติและญาติก็บอกไม่เป็นไรเดี๋ยว
00:07:50 → 00:07:53 เจาะคอไปเลยผมทำผมอนุญาตเองนะครับผมเป็น
00:07:53 → 00:07:56 ลูกชายคนโตผมอนุญาตเองให้พ่อของผมเนี่ย
00:07:56 → 00:07:59 เจาะคอไปเลยนะครับทั้งๆที่รู้ตัวว่าพ่อ
00:07:59 → 00:08:02 เนี่ยสั่งไว้ตั้งแต่แรกเลยว่าอย่าเจาะนะ
00:08:02 → 00:08:06 ครับแต่ประเทศไทยนี่คือทำซึ่งจริงๆมันไม่
00:08:06 → 00:08:08 ถูกกฎหมายมันไม่ถูกอะไรเลยด้วยซ้ำไปนะ
00:08:08 → 00:08:10 ครับถ้าเกิดว่าเรามีเอกสารที่เขียนไว้ชัด
00:08:10 → 00:08:12 เจนเป็นลายลักษณ์อักษรรวมทั้งเรารู้ตัว
00:08:12 → 00:08:15 ว่าเขาไม่ต้องการแต่เราไปทำเพื่อยื้อ
00:08:15 → 00:08:17 ชีวิตเขาไว้ทั้งๆที่เขาไม่ต้องการอันนี้
00:08:17 → 00:08:19 มันไม่ถูกต้องทั้งในแง่ของกฎหมายแล้วก็
00:08:19 → 00:08:20 จริยธรรม
00:08:20 → 00:08:23 ดังนั้นเพื่อเป็นการให้แน่ใจว่าไม่มี
00:08:23 → 00:08:26 ปัญหานี้อยู่ทาง Exit เนี่ยเขามีการดูแล
00:08:26 → 00:08:30 ให้ทุกๆอย่างที่ทำกับเขาเนี่ยมีผลในทาง
00:08:30 → 00:08:34 ปฏิบัติแน่นอนนะครับเช่นถ้าคนไข้อยู่โรง
00:08:34 → 00:08:35 พยาบาลแล้วคนไข้เคยเขียนไว้กับ Exit ว่า
00:08:35 → 00:08:39 ขอไม่ใส่ท่อช่วยหายใจไม่ว่ากรณีใดๆก็ตาม
00:08:39 → 00:08:43 ไม่ขอเจาะคอไม่ขอใส่เครื่องอะไรก็แล้วแต่
00:08:43 → 00:08:47 นะครับเขาก็จะทำให้มันเป็นไปตามนั้นแล้ว
00:08:47 → 00:08:49 ถ้าเกิดมีญาติคนไข้มาวันนี้บอกว่าไม่ได้
00:08:49 → 00:08:51 หมอต้องทำให้ชั้นไม่ชั้นนั้นชั้นจะฟ้อง
00:08:51 → 00:08:54 แต่เหมือนอย่างงี้ไม่สำเร็จครับทางสวิส
00:08:54 → 00:08:56 เนี่ยกฎหมายเขาตรงไปตรงมาเข้มงวดมากแล้ว
00:08:56 → 00:08:59 ก็ดังนั้นเนี่ยจะเป็นการป้องกันทุกๆอย่าง
00:08:59 → 00:09:01 ได้ดีมากแล้วก็ทำให้ทุกๆอย่างเป็นไปตาม
00:09:01 → 00:09:06 ประสงค์ของผู้ที่เขาเขียนพินัยกรรมตรง
00:09:06 → 00:09:10 เนี้ยสำคัญสุดๆนะครับเพราะว่าทุกๆคนอย่าง
00:09:10 → 00:09:13 ที่บอกคนที่ต้องการการดูในค่ายเหตุผลก็
00:09:13 → 00:09:19 คือต้องการตัดสินใจชีวิตของตัวเองถูกไหม
00:09:19 → 00:09:20 ครับ
00:09:20 → 00:09:23 นี่ก็เหมือนกันคนไข้ที่เขาประสบเหตุแบบ
00:09:23 → 00:09:27 นั้นเขาต้องการตัดสินใจด้วยตัวเองเขาไม่
00:09:27 → 00:09:30 ต้องการให้คนอื่นมาตัดสินใจให้เขายกเว้น
00:09:30 → 00:09:32 ว่าเขาเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรไว้ว่า
00:09:32 → 00:09:35 ต้องการทำแบบนั้นอันนี้ตรงนี้เป็นสิ่งที่
00:09:35 → 00:09:39 ดีมากๆอย่างหนึ่งของ Exit นะครับทีนี้
00:09:39 → 00:09:42 สมมุติว่าคนไข้คนนี้เขาประเมินแล้วว่า
00:09:42 → 00:09:47 โอเคมีภาวะที่ไม่สามารถอยู่ต่อไปได้คนไข้
00:09:47 → 00:09:50 มีสภาพจิตใจที่มั่นคงนะครับตัดสินใจด้วย
00:09:50 → 00:09:54 หลักการเหตุผลแล้วก็มีสติทุกอย่างครบถ้วน
00:09:54 → 00:09:56 สิ่งต่อไปคืออะไรนะครับ
00:09:56 → 00:09:59 สิ่งต่อไปก็คือเตรียมตัวแหละครับว่าโอเค
00:09:59 → 00:10:03 เขาจะต้องให้ยาตัวหนึ่งเพื่อที่จะให้คน
00:10:03 → 00:10:06 ไข้เสียชีวิตนะครับยาตัวนั้นก็มีชื่อว่า
00:10:06 → 00:10:10 เพนโทบาบีธาว์นะครับโดยขนาดของยานะครับ
00:10:10 → 00:10:13 ขนาดของยาหรือ
00:10:13 → 00:10:15 การกินเนี่ยมันจะเป็นแค่ครั้งเดียวจะเป็น
00:10:15 → 00:10:18 น้ำดื่มหรือจะเป็นเม็ดก็ได้นะครับก็มี
00:10:18 → 00:10:21 ทั้ง 2 แบบแล้วแต่ว่าจะเลือกแบบไหนนะฮะ
00:10:21 → 00:10:24 แล้วสถานที่ที่คนไข้จะต้องการเสียชีวิต
00:10:24 → 00:10:28 เลือกได้ตามสบายใจชอบเลยนะครับบางคนเลือก
00:10:28 → 00:10:30 ที่จะอยู่ที่คลินิกอยู่ที่โรงพยาบาลหรือ
00:10:30 → 00:10:33 อยู่ที่บ้านท่ามกลางคนรายล้อมนะครับส่วน
00:10:33 → 00:10:35 ใหญ่แล้วก็มักจะเป็นที่บ้านซะส่วนใหญ่นะ
00:10:35 → 00:10:40 ฮะแล้วคนที่ให้ยาตัวนั้นคือต้องเป็นคนไข้
00:10:40 → 00:10:43 เองครับไม่ใช่คนอื่นแต่จะมีเจ้าหน้าที่
00:10:43 → 00:10:45 ของ Exit เนี่ยไปอยู่ด้วยนะครับไปอยู่
00:10:45 → 00:10:48 ด้วยไปคอยคุยด้วยนะครับแล้วก็จัดการทุก
00:10:48 → 00:10:51 อย่างให้เรียบร้อยนะครับแล้วคนไข้พอพร้อม
00:10:51 → 00:10:55 ก็จะทานยาตัวนั้นเข้าไปนะครับยาตัวนี้ออก
00:10:55 → 00:10:57 ฤทธิ์เร็วมากๆในขณะที่เขาขนาดยาที่เค้า
00:10:57 → 00:11:00 ให้ก็คือจะทำให้คนไข้ง่วงนอนมากๆเราก็
00:11:00 → 00:11:04 หลับไปแล้วก็กดการหายใจกดการทำงานของหัว
00:11:04 → 00:11:06 ใจเราก็เสียชีวิตนะครับใช้เวลาไม่กี่นาที
00:11:06 → 00:11:09 ไม่มีการทรมานอะไรแต่อย่างใดนะครับตรง
00:11:09 → 00:11:12 เนี้ยก็คือเป็นยาที่เขาใช้นะฮะส่วนขนาด
00:11:12 → 00:11:14 ที่ผมคงจะไม่บอกว่าทุกคนทราบนะครับก็จะ
00:11:14 → 00:11:18 ต้องไปถ้าจะทำจริงๆก็คือจะต้องต้องมีการ
00:11:18 → 00:11:20 คุยกันเยอะแยะไปหมดนะครับการบอกขนาดไปเลย
00:11:20 → 00:11:22 นี่เดี๋ยวได้ๆมีเรื่อง
00:11:22 → 00:11:25 คดีอะไรต่างๆกันมากมายนะครับดังนั้นผมจะ
00:11:25 → 00:11:28 ไม่เล่าให้ลงรายละเอียดแล้วกันนะครับดัง
00:11:28 → 00:11:30 นั้นนี่คือวิธีในการจัดการของเขาคือคนไข้
00:11:30 → 00:11:33 จะต้องเป็นคนให้ยาตัวเองถ้าคนไข้ไม่
00:11:33 → 00:11:36 สามารถให้ยาตัวเองได้ไม่สามารถทำโปรแกรม
00:11:36 → 00:11:38 นี้ได้ครับ
00:11:38 → 00:11:41 บางคนบอกว่าขอฉีดเข้าเส้นได้ไหมขอฉีดไอ้
00:11:41 → 00:11:42 นู่นไอ้นี่เข้าได้ไหมที่สวิตเซอร์แลนด์
00:11:42 → 00:11:44 เขาไม่ทำครับทำไม่ได้
00:11:44 → 00:11:47 ทำไม่ได้นะครับนี่คือเป็นสิ่งที่ผมคิดว่า
00:11:47 → 00:11:50 มันมันก็สมควรนะครับมันมีความยุติธรรมดี
00:11:50 → 00:11:52 เพราะว่าเขาเป็นคนกำหนดชีวิตของเขาได้ก็
00:11:52 → 00:11:54 ต่อเมื่อเขามีสิทธิ์ติดฉ่ำประเทศได้ที่ดี
00:11:54 → 00:11:57 แล้วเขาสามารถทำทุกอย่างได้ด้วยตัวเองไม่
00:11:57 → 00:11:59 ใช่เป็นการเอายาไปให้คนอื่นเพื่อเอามาให้
00:11:59 → 00:12:02 ตัวเองเพราะอย่างนี้ก็แปลว่าคนอื่นเป็นคน
00:12:02 → 00:12:06 ฆ่าเขาถูกไหมครับอ่าซึ่งมันไม่ถูกหลัก
00:12:06 → 00:12:09 หลายๆอย่างไม่ว่าจะเป็นคนที่เขาให้ยา
00:12:09 → 00:12:12 เนี่ยเขาจะหมอเขาอาจจะเป็นคนที่ไม่
00:12:12 → 00:12:14 ต้องการทำไม่ต้องการการุณยฆาตนะครับดัง
00:12:14 → 00:12:16 นั้นเรื่องนี้ผมคิดว่าการจัดการของสวิส
00:12:16 → 00:12:19 เนี่ยค่อนข้างที่จะดีเพราะเขาตัดเอาความ
00:12:19 → 00:12:22 รู้สึกตรงนี้ออกไปหมดนะครับความรู้สึกผิด
00:12:22 → 00:12:24 ที่บางครั้งหมอต้องไปให้ยาคุมกลุ่มนี้กับ
00:12:24 → 00:12:26 คนไข้ทำให้หมอมีความผิดติดตัวมีความรู้
00:12:26 → 00:12:28 สึกผิดติดตัวจะขัดกับหลักการอะไรก็แล้ว
00:12:28 → 00:12:31 แต่นะครับอันนี้เขาตัดออกไปเลยหมอไม่ต้อง
00:12:31 → 00:12:34 อยู่ในภาพทั้งหมดเลยคนที่เป็นคนฆ่าตัวตาย
00:12:34 → 00:12:38 เนี่ยคือคนไข้เองด้วยตัวเองภายใต้
00:12:38 → 00:12:41 ผมแนะนำของ Exit ทั้งหมดนะครับหมอก็จะออก
00:12:41 → 00:12:43 ไปจากภาพนี้โดยที่ตัวเองไม่ได้มีปัญหา
00:12:43 → 00:12:44 อะไรสักนิดเดียวนะครับ
00:12:44 → 00:12:47 นี่คือเป็นองค์การอิสระที่ดีมากแล้วหลัง
00:12:47 → 00:12:49 จากเสียชีวิตแล้วยังไงต่อนะครับ
00:12:49 → 00:12:52 ก็ทาง Exit เนี่ยเขาก็จะแน่นอนมีการ
00:12:52 → 00:12:55 ประสานงานแต่ตำรวจมาตรวจสอบนะครับส่วน
00:12:55 → 00:12:57 ใหญ่ก็ไม่ต้องชันสูตรอะไรนะครับแต่ต้องมี
00:12:57 → 00:13:01 การตรวจนะครับนอกเหนือจากนี้คือก็ที่
00:13:01 → 00:13:04 สำคัญก็มีการจัดการตามพินัยกรรมจัดการศพ
00:13:04 → 00:13:07 จัดการทุกๆอย่างนะครับทั้งงานศพทำทุก
00:13:07 → 00:13:09 อย่างให้เรียบร้อยหมดทั้งอันคือตั้งแต่
00:13:09 → 00:13:12 แรกจนจบเลยครับนะซึ่งผมมองว่ามันเป็น
00:13:12 → 00:13:16 โมเดลที่ดีมากทีเดียวนะครับถ้าสมมุติว่า
00:13:16 → 00:13:19 เราต้องการทำการบัญญัติค่านะครับคือผม
00:13:19 → 00:13:20 ต้องบอกอย่างนี้ครับ
00:13:20 → 00:13:23 ในช่วงที่ผมคุยเรื่องการดูจากค่าในคลิป
00:13:23 → 00:13:26 ก่อนเนี่ยนะฮะประการแรกเลยเราต้องเข้าใจ
00:13:26 → 00:13:29 ก่อนว่า
00:13:29 → 00:13:32 คนที่จะทำการุณยฆาตได้เนี่ยบางครั้งเขา
00:13:32 → 00:13:35 ต้องการตายไปจากโลกนี้เพราะว่าเขาทรมานนะ
00:13:35 → 00:13:38 ฮะคำถามแรกที่เราควรจะต้องถามตัวเองเลยก็
00:13:38 → 00:13:41 คือว่าเราให้ทางเศรษฐกิจแคร์กับฮอตสปีด
00:13:41 → 00:13:44 ของเขาดีพอหรือยังในการช่วยแก้ไขปัญหา
00:13:44 → 00:13:47 ความทรมานของเขาช่วยแก้ไขปัญหาทาง
00:13:47 → 00:13:49 ครอบครัวทางจิตใจทางกฎหมายทางทุกอย่างกับ
00:13:49 → 00:13:52 เขาเราให้พอหรือยังนะครับถ้าเราให้เพียง
00:13:52 → 00:13:55 พอแล้วทุกอย่างเพียงพอแล้วนะครับแต่คนไข้
00:13:55 → 00:13:58 คนนี้ยังต้องการที่จะกระทำการุณยฆาต
00:13:58 → 00:14:03 อันเนี้ยถึงจะต้องไปเข้าข่ายกันดูทั้งหมด
00:14:03 → 00:14:06 ว่าคนไข้เหมาะสมจะเป็นผู้ป่วยที่ทำการฆ่า
00:14:06 → 00:14:07 ได้หรือเปล่านะครับ
00:14:07 → 00:14:11 ถ้าประเทศไทยจะทำตามแบบนี้ผมก็คิดว่าไม่
00:14:11 → 00:14:13 ต้องไปคิดให้เยอะแยะอะไรครับเอาโมเดลของ
00:14:13 → 00:14:15 สวิสมาทั้งอันเลยเนี่ยดีที่สุดเพราะว่า
00:14:15 → 00:14:17 มันจะต้องเป็นองค์กรอิสระไม่เกี่ยวอะไร
00:14:17 → 00:14:19 กับหมอไม่เกี่ยวอะไรกับโรงพยาบาลโรง
00:14:19 → 00:14:21 พยาบาลนั้นนะครับจะได้ไม่มีการหนักใจว่า
00:14:21 → 00:14:24 หมอคนนี้จะต้องเกิดหมอคนนี้อยู่เวรแล้ว
00:14:24 → 00:14:26 หมอคนนี้เขาไม่อยากจะทำให้ไม่ได้อะไร
00:14:27 → 00:14:29 อย่างนี้ถูกไหมครับก็จะต้องเป็นคนไข้ทำ
00:14:29 → 00:14:31 เองมีการประเมินทุกอย่างเองอยากจะเสีย
00:14:31 → 00:14:34 ชีวิตที่ไหนเลือกได้เองทำเรื่องข้อกฎหมาย
00:14:34 → 00:14:36 เรื่องเอกสารเรื่องทุกอย่างให้ตั้งแต่แรก
00:14:36 → 00:14:40 จนจบนะครับอ่าทุกๆอย่างมีคำว่า automy ก็
00:14:40 → 00:14:43 คือว่าเป็นคนๆนั้นน่ะตัดสินใจได้ด้วยตัว
00:14:43 → 00:14:46 เองไม่มีคนอื่นตัดสินใจให้ในกรณีนี้ก็คือ
00:14:46 → 00:14:49 คนไข้เป็นเจ้าของชีวิตของตัวเองเราจะทำ
00:14:49 → 00:14:51 ยังไงก็คือเป็นเรื่องของเราไม่ใช่เรื่อง
00:14:51 → 00:14:53 ของญาติเราไม่ใช่เรื่องของครอบครัวไม่ใช่
00:14:53 → 00:14:56 เรื่องของลูกเราแต่เป็นเรื่องของเราเองนะ
00:14:56 → 00:14:59 ครับตรงเนี้ยสำคัญสุดๆเลยเท่าที่เท่าที่
00:14:59 → 00:15:01 ผมมองนะครับแล้วมันเป็นโมเดลที่ค่อนข้าง
00:15:01 → 00:15:05 ดีมีองค์กรอิสระมีการบอกชัดเจนแล้วด้วย
00:15:05 → 00:15:08 ว่าป้องกัน desktorym คือไม่ต้องการให้คน
00:15:08 → 00:15:10 ไปที่สวิตช์เพื่อไปฆ่าตัวตายนะครับแต่แน่
00:15:10 → 00:15:14 นอนว่าใต้ดินมันก็อาจจะมีอันนี้ผมไม่แน่
00:15:14 → 00:15:16 ใจเหมือนกันนะครับแต่ว่ามันก็ผมก็เคยได้
00:15:16 → 00:15:18 ยินมาเหมือนกันว่ามีคนทำแบบนั้นนะครับแต่
00:15:18 → 00:15:20 ว่าถ้าเราไปตาม
00:15:20 → 00:15:23 ตามเส้นทางปกติของเขาจริงๆแล้วเนี่ยมันทำ
00:15:23 → 00:15:25 ไม่ได้นะครับจะต้องเป็นคนของสวิตช์เท่า
00:15:25 → 00:15:26 นั้นถึงจะอยู่ในโปรแกรมพวกนี้ได้นะครับ
00:15:26 → 00:15:30 แล้วก็ต้องมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนจะไม่มี
00:15:30 → 00:15:33 คนมาให้ยาเรานะครับจะต้องเป็นเราให้ยาตัว
00:15:33 → 00:15:35 เองดังนั้นคนที่นอนติดเตียงแล้วไม่รู้ตัว
00:15:35 → 00:15:38 อะไรเงี้ยไม่ได้นะครับเขาไม่ทำให้เราก็
00:15:38 → 00:15:40 อยู่ๆจะให้เราไปฉีดยาให้ก็ไม่ได้ซึ่งผม
00:15:40 → 00:15:42 มองว่าตรงนี้ได้เป็นประเด็นใหญ่ของประเทศ
00:15:42 → 00:15:45 ไทยแน่ๆนะครับเพราะว่าถ้าเกิดว่ามีคนไข้
00:15:45 → 00:15:48 ที่นอนติดเตียงอยู่อย่างนี้นะครับคนนึง
00:15:48 → 00:15:50 แล้วเขาไม่รู้เรื่องอะไรแล้วแล้วตอนแรก
00:15:50 → 00:15:53 เนี่ยเขาบอกไว้ว่าเฮ้ยอยากจะถ้าเป็นอย่าง
00:15:53 → 00:15:56 นี้อยากให้เขาอยู่เลยนะครับต่อให้เขาบอก
00:15:56 → 00:15:58 ว่าอย่างนั้นอย่าให้อยู่เลยเนี่ยการที่
00:15:58 → 00:16:01 หมอไปให้ยาเพื่อให้เขาไปเลยนะมันทำไม่ได้
00:16:01 → 00:16:05 นะครับทำไม่ได้นะแล้วถามว่าเฮ้ยแล้วถ้า
00:16:05 → 00:16:06 เป็นกรณีที่คนไข้ไม่สามารถตัดสินใจได้
00:16:06 → 00:16:08 เช่นนอนติดเตียงหรือว่ามีปัญหาทางด้าน
00:16:08 → 00:16:10 สมองหรืออะไรก็แล้วแต่ที่ตัดสินใจไม่ได้
00:16:10 → 00:16:15 เนี่ยแล้วมีภาวะที่มันทรมานร่างกายแล้วก็
00:16:15 → 00:16:17 หลายๆอย่างเนี่ยหรือมีภาวะที่ยังไงมันก็
00:16:17 → 00:16:19 ต้องเสียชีวิตแน่ๆอยู่แล้วเนี่ยเราทำยัง
00:16:19 → 00:16:22 ไงในกรณีแบบนั้นเพราะว่าเราทำการุณยฆาต
00:16:22 → 00:16:25 ไม่ได้แบบนั้นก็ก็ต้องค่อยเข้าข่ายแทนเลย
00:16:25 → 00:16:28 ดิ care และ hospits อย่างที่กรณีของ Exit
00:16:28 → 00:16:30 จะมีการประสานให้ทำเหมือนกันในคนไข้ที่
00:16:30 → 00:16:31 เป็นเช่นนั้นนะครับ
00:16:31 → 00:16:35 ตรงนี้เป็นสำคัญถ้าไม่สามารถกำลังมีนัก
00:16:35 → 00:16:37 ฆ่าได้ก็จะต้องมี Pirate care และ Hall
00:16:37 → 00:16:41 Speed care เพื่อที่จะให้เขาจากไปอย่าง
00:16:41 → 00:16:45 สงบแล้วก็ยังมีศักดิ์ศรีของคนคนหนึ่งนะ
00:16:45 → 00:16:48 ครับตรงนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมากเพื่อให้
00:16:48 → 00:16:50 เขาไม่ทรมานในกรณีที่เขาตัดสินใจเองไม่
00:16:50 → 00:16:53 ได้นะครับแล้วแบบที่ 3 ผมก็เห็นคนคนหลายๆ
00:16:53 → 00:16:58 คนอาจจะสับสนก็คือการปฏิเสธการรักษาการ
00:16:58 → 00:17:01 ปฏิเสธการรักษาเนี่ยหรือบางครั้งเป็นถ้า
00:17:01 → 00:17:04 เป็นในการปฏิเสธการช่วยเหลือชีวิตเราจะ
00:17:04 → 00:17:07 เรียกว่าดู not reasonation นะครับอ่าดู
00:17:07 → 00:17:11 not recussitive นะครับเอ่อบางทีก็อาจ
00:17:11 → 00:17:13 จะมีรายละเอียดปลีกย่อยก็คืออาจจะมีบอก
00:17:13 → 00:17:15 ว่าดูน็อตคือไม่ใส่ท่อช่วยหายใจอะไรอย่าง
00:17:15 → 00:17:16 เงี้ยเข้ามา
00:17:16 → 00:17:20 บวกไปด้วยนะครับตรงนี้เนี่ย
00:17:20 → 00:17:23 การเป็นการปฏิเสธการรักษาไม่ใช่เป็นการ
00:17:23 → 00:17:26 ฆ่านะครับไม่ใช่การดูจากค่าเราต้องเข้าใจ
00:17:26 → 00:17:28 ตรงนี้ก่อนนะครับ
00:17:28 → 00:17:31 การทำปกการทำการปฏิเสธการรักษาหมายความ
00:17:31 → 00:17:35 ว่าถ้าสมมุติว่าเราไปอยู่ในภาวะที่หัวจะ
00:17:35 → 00:17:37 ตื่นเต้นการหายใจเราไม่ทำงานเราขอปฏิเสธ
00:17:37 → 00:17:40 การใส่ท่อช่วยใจนะการปั๊มหัวใจการช็อคหัว
00:17:40 → 00:17:42 ใจการอะไรก็แล้วแต่นี่คือการปฏิเสธการ
00:17:42 → 00:17:46 รักษาซึ่งคนไข้ก็จะเสียชีวิตนะครับและใน
00:17:46 → 00:17:48 ช่วงการเสียชีวิตนั้นถ้ามีการทรมานเกิด
00:17:48 → 00:17:52 ขึ้นเราก็จะใช้ paled มาช่วยดูแลรักษา
00:17:52 → 00:17:54 อาการไม่ให้เขาทรมานทำให้เขาไปอย่างสงบ
00:17:54 → 00:17:57 แล้วก็มีศักดิ์ศรีนะครับนี่คือการปฏิเสธ
00:17:57 → 00:17:59 การรักษาและไพเรท care ก็สามารถเข้ามา
00:17:59 → 00:18:00 ช่วยตรงนี้ได้
00:18:00 → 00:18:02 แต่การการุณยฆาตนั้น
00:18:02 → 00:18:05 เป็นการที่ทำให้คนไข้ตายด้วยตัวเองนะครับ
00:18:05 → 00:18:08 ตายด้วยด้วยตัวเองคือในกรณีของสวิสคือกิน
00:18:09 → 00:18:11 ยาแล้วให้เสียชีวิตเองนะครับไม่ใช่การ
00:18:11 → 00:18:13 ปฏิเสธการรักษานะครับนี่คนละอย่างกันต้อง
00:18:13 → 00:18:17 แยกให้ออกนะครับแล้วถ้าเกิดคนไข้เขาไม่
00:18:17 → 00:18:20 สามารถตัดสินใจได้เองแต่มีภาวะที่เข้ากัน
00:18:20 → 00:18:23 แบบนั้นได้กรณีคือ Pirate care และ Hot
00:18:23 → 00:18:25 Speed อ่าต้องแยก 3 อันให้ชัดเจนก่อนนะ
00:18:25 → 00:18:26 ครับ
00:18:26 → 00:18:29 ดังนั้นถ้าเราประเทศไทยเราอยากจะก้าวหน้า
00:18:29 → 00:18:32 ไปทำแบบนั้นก็จะต้องมีตรงนี้ให้ชัดเจนมิ
00:18:32 → 00:18:34 ฉะนั้นถ้าเราทำไม่ชัดเจนแล้วล่ะก็มันจะ
00:18:34 → 00:18:37 เกิดไอ้นี่ขึ้นมา Dead tourism คือทุกคน
00:18:37 → 00:18:40 อยากจะมาประเทศไทยเพื่อมาตายด้วยอะไรก็
00:18:40 → 00:18:41 แล้วแต่ซึ่งมันจะทำให้ภาพลักษณ์ดูไม่ดี
00:18:41 → 00:18:43 เลยนะครับไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวหรือ
00:18:43 → 00:18:45 บางคนอาจจะคิดไปไกลถึงมองว่า
00:18:45 → 00:18:48 ถ้าเราไปเราอยากจะตายเราอยากจะไปประเทศ
00:18:48 → 00:18:50 ประเทศหนึ่งที่เขาอนุญาตให้เราตายได้นะ
00:18:50 → 00:18:53 สักครั้งหนึ่งเราขอไปอยู่ตรงชายหาดอะไร
00:18:53 → 00:18:55 ที่มันดีๆสวยๆแล้วเราไปกินยาตายตรงนั้น
00:18:55 → 00:18:57 ได้ไหมผมคิดว่ามันจะทำให้ภาพลักษณ์ของ
00:18:57 → 00:18:59 ประเทศเราไม่ดีเลยนะครับที่จะทำแบบนั้น
00:18:59 → 00:19:02 ได้ดังนั้นจะต้องมีการควบคุมทุกอย่างให้
00:19:02 → 00:19:05 ดีทั้งหมดก่อนนะครับแล้วก็คนไหนที่
00:19:05 → 00:19:07 ตั้งองค์กรอิสระขึ้นมาตรงนี้ก็ต้องมีการ
00:19:07 → 00:19:09 ตรวจสอบให้ดีเส้นทางการเงินเอาทุกอย่าง
00:19:09 → 00:19:11 ให้มันชัดเจนมากมายนะครับแล้วก็มีการ
00:19:11 → 00:19:14 ประเมินทุกๆท่านจากผู้เชี่ยวชาญนะครับ
00:19:14 → 00:19:16 แล้วคนไหนที่รู้สึกสบายใจที่จะทำงานใน
00:19:16 → 00:19:18 องค์กรแบบนี้ก็ให้เขาทำนะครับคนไหนที่ไม่
00:19:18 → 00:19:21 สบายใจก็ห้ามบังคับนะครับอ่าอย่างผมเนี่ย
00:19:21 → 00:19:24 ผมอาจจะไม่สบายใจในการที่จะให้ยาคนไข้ให้
00:19:24 → 00:19:27 ตายเพราะฉะนั้นบอกให้ผมทำตามพินัยกรรมของ
00:19:27 → 00:19:30 เขาผมก็ทำไม่ได้อ่าผมก็ไม่ทำนะครับแต่ถ้า
00:19:30 → 00:19:32 มีองค์กรอิสระผมก็บอกว่าโอเคคุณต้องติด
00:19:32 → 00:19:35 ต่อองค์กรอิสระนั้นดังนั้นคุณสามารถทำ
00:19:35 → 00:19:38 แล้วก็กำหนดชีวิตตัวเองได้นะครับโอเควัน
00:19:38 → 00:19:40 นี้ก็เอามาเล่าให้ฟังเท่านี้นะครับใครมี
00:19:40 → 00:19:42 อะไรสงสัยมีข้อชี้แนะหรือว่ามีความคิด
00:19:42 → 00:19:45 อะไรเพิ่มเติมก็บอกมาได้นะครับวันนี้เท่า
00:19:45 → 00:19:48 นี้นะครับขอบคุณมากครับสวัสดีครับ