00:00:00 → 00:00:02 สวัสดีครับเรื่องของน้ำดื่มไฮโดรเจนนะ
00:00:02 → 00:00:05 ครับก็กลายมาเป็นกระแสในโลกออนไลน์อีก
00:00:05 → 00:00:08 ครั้งนึงนะครับโดยมีการอ้างอิงว่ามัน
00:00:08 → 00:00:10 สามารถที่จะช่วยลดการอักเสบในร่างกายได้
00:00:11 → 00:00:13 ช่วยเรื่องของโรคหัวใจและหลอดเลือดโรคทาง
00:00:13 → 00:00:16 สมองต่างๆนะครับรวมไปถึงเรื่องของการชะลอ
00:00:16 → 00:00:20 วัยด้วยและวันนี้ครับผมก็เลยอยากจะหยิบยก
00:00:20 → 00:00:21 เรื่องนี้มาเล่าให้ทุกคนฟังนะครับว่าน้ำ
00:00:21 → 00:00:24 ไฮโดรเจนเนี่ยมันคืออะไรมันดีอย่างที่ว่า
00:00:24 → 00:00:27 จริงหรือเปล่าดื่มยังไงบ้างมีข้อเสียอะไร
00:00:27 → 00:00:31 มยและเมื่อเทียบกับน้ำชนิดอื่นเช่นน้ำ
00:00:31 → 00:00:35 ด่างหรือน้ำแร่มันจะดีกว่าน้ำเปล่ายังไง
00:00:35 → 00:00:37 บ้างเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังในวันนี้นะครับพบ
00:00:37 → 00:00:39 กับผมนะครับนายแพทย์ธนีธนียวัณเป็น
00:00:39 → 00:00:41 อาจารย์แพทย์อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
00:00:41 → 00:00:44 เชี่ยวชาญโรคปอดการปลูกถ่ายปอดและวิกฤต
00:00:44 → 00:00:47 บำบัดนะครับเรื่องของน้ำไฮโดรเจนนะครับ
00:00:47 → 00:00:50 ต้องบอกอย่างนี้ก่อนว่าจริงๆเนี่ยมันคือ
00:00:50 → 00:00:53 น้ำที่มีการเติมโมเลกุลไฮโดรเจนซึ่งเป็น
00:00:53 → 00:00:57 ก๊าซชนิดหนึ่งซึ่งถือว่าเป็นก๊าซโมเลกุล
00:00:57 → 00:01:00 เล็กที่สุดในจักรวาลนะครับทำให้มันสามารถ
00:01:00 → 00:01:03 ที่จะรวมตัวไปกับตัวน้ำได้ค่อนข้างที่จะ
00:01:03 → 00:01:06 ดีนะครับเวลาที่เราดื่มเข้าไปเนี่ยมันก็
00:01:06 → 00:01:08 จะสามารถถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้
00:01:08 → 00:01:12 โดยง่ายและตัวโมเลกุลของไฮโดรเจนนั้น
00:01:12 → 00:01:14 สามารถที่จะทะลุทะลวงไปได้ทุกส่วนของร่าง
00:01:14 → 00:01:18 กายรวมทั้งสมองด้วยนะครับก็เลยมีคนไป
00:01:18 → 00:01:21 พยายามศึกษาดูซิว่ามันมีข้อดีอะไรมยนะ
00:01:21 → 00:01:24 ครับก็ปรากฏว่าเจอว่ามันสามารถที่จะช่วย
00:01:24 → 00:01:28 ในการลดการเกิดอนุมูลอิสระได้นะครับแล้ว
00:01:28 → 00:01:30 ก็ส่วนอนุมูลอิสระที่มันเกิดมาแล้วเนี่ย
00:01:31 → 00:01:34 ก็จะมีการต้านอนุมูลอิสระได้โดยมันจะต้าน
00:01:34 → 00:01:37 เฉพาะบางตัวที่เป็นปัญหาสำหรับอนุมูล
00:01:37 → 00:01:40 อิสระนะครับไม่เพียงแค่นั้นครับมันยัง
00:01:40 → 00:01:43 สามารถที่จะช่วยลดการอักเสบในบางกรณีได้
00:01:43 → 00:01:46 ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้เนี่ยนะฮะมันช่วยใน
00:01:46 → 00:01:49 หลายๆเรื่องเช่นช่วยในเรื่องของสมรรถภาพ
00:01:49 → 00:01:51 ร่างกายในเรื่องของการออกกำลังกายทำให้
00:01:51 → 00:01:54 เรามีความทนทานมากขึ้นนะครับฟื้นตัวได้
00:01:54 → 00:01:57 เร็วมากขึ้นนะครับมีการศึกษาเกี่ยวข้อง
00:01:57 → 00:01:59 กับเรื่องของทางด้านหัวใจทางด้านของโรค
00:01:59 → 00:02:02 ความดันต่างๆก็พบว่ามันอาจจะช่วยเรื่อง
00:02:02 → 00:02:05 พวกนี้ได้อาจจะช่วยเรื่องของไขมันโดย
00:02:05 → 00:02:07 เฉพาะคอเลสเตอรอลต่างๆได้ช่วยเรื่องของ
00:02:07 → 00:02:10 ทางอัลไซเมอร์เรื่องของโรคพักินสันต่างๆ
00:02:10 → 00:02:13 นะฮะทั้งหมดทั้งมวลเนี่ยก็มีการศึกษา
00:02:13 → 00:02:16 อย่างไรก็ตามนะครับมันเป็นการศึกษาขนาด
00:02:16 → 00:02:20 เล็กมากนะครับแล้วก็ยังไม่ได้มีข้อมูลที่
00:02:20 → 00:02:23 ออกมาชัดเจนฟันธงขนาดนั้นว่ามันดี
00:02:23 → 00:02:25 อันเนี้ยคือสิ่งที่ทุกคนจะต้องทราบก่อนนะ
00:02:25 → 00:02:28 ครับถึงแม้ว่าข้อมูลทุกอย่างที่ออกมานะฮะ
00:02:28 → 00:02:33 มันจะฟังดูแล้วหรูเลิศดูดีนะครับแต่มันก็
00:02:33 → 00:02:35 เป็นข้อมูลที่มีข้อจำกัดค่อนข้างที่จะ
00:02:35 → 00:02:38 เยอะถ้าเราตามไปอ่านงานวิจัยแต่ละอย่าง
00:02:38 → 00:02:42 เนี่ยเราจะพบว่ามันทำในหลอดทดลองบางอันก็
00:02:42 → 00:02:46 ทำในสัตว์ทดลองนะครับหรือบางกรณีก็ทำในคน
00:02:46 → 00:02:49 จริงๆนะครับแต่จำนวนตัวอย่างที่อยู่ในงาน
00:02:49 → 00:02:51 ทดลองเนี่ยน้อยมากจนไม่สามารถที่จะสรุป
00:02:52 → 00:02:56 อะไรได้บางงานเนี่ยก็ได้ผลที่มันก้ำกึ่ง
00:02:56 → 00:02:59 กันอยู่ดีนะครับไม่แน่ใจว่ามันจะเป็นแบบ
00:02:59 → 00:03:02 นั้นจริงหรือไม่นะครับนี่คือปัญหาของข้อ
00:03:02 → 00:03:05 มูลทั้งหมดที่เรามีนะครับดังนั้นเราจะบอก
00:03:05 → 00:03:08 ว่ามันดีอย่างที่พูดเนี่ยคงจะลำบากหน่อย
00:03:08 → 00:03:11 อีกอย่างนึงซึ่งยังคงเป็นประเด็นอยู่ก็
00:03:11 → 00:03:14 คือเรื่องของกลไกการออกฤทธิ์ของไฮโดรเจน
00:03:14 → 00:03:18 ครับแน่นอนมีคนคิดไว้มากมายแล้วก็มีงาน
00:03:18 → 00:03:20 วิจัยนะครับว่ามันน่าจะเป็นอย่างนั้น
00:03:20 → 00:03:23 อย่างนี้นะครับเช่นบางคนบอกว่ามันสามารถ
00:03:23 → 00:03:26 ที่จะไปยับยั้งยีนบางตัวในการก่อต่อโรค
00:03:26 → 00:03:29 ได้นะครับบางครั้งมันไปยุ่งเกี่ยวข้องกับ
00:03:29 → 00:03:32 ตัว Nerve 2 Nif นะครับซึ่งเกี่ยวข้อง
00:03:32 → 00:03:34 กับการอักเสบของร่างกายเรื่องของการสร้าง
00:03:34 → 00:03:38 อนุมูลอิสระพวกนี้เป็นต้นนะครับทั้งหมด
00:03:38 → 00:03:41 เนี่ยมันยังไม่ได้มีการยืนยันนะครับบางคน
00:03:41 → 00:03:44 บอกว่ามันสามารถที่จะไปลดเซลล์บางเซลล์
00:03:45 → 00:03:47 ที่มันเป็นเซลล์เจ้าปัญหาของการอักเสบทำ
00:03:48 → 00:03:50 ให้ค่าของการอักเสบในร่างกายเช่นตัว
00:03:51 → 00:03:53 อินเตอริวคิน 6 เนี่ยมันลดลงได้หรือ
00:03:53 → 00:03:57 อินเตอริว 1 เนี่ยลดลงได้ทั้งหมดนี่มัน
00:03:57 → 00:04:00 ยังเป็นเพียงแค่สมมุติฐานนะครับยังไม่ได้
00:04:00 → 00:04:03 มีข้อมูลที่ชัดเจนขนาดนั้นว่ามันทำได้ดัง
00:04:03 → 00:04:05 นั้นเนี่ยความสวยหรูที่กล่าวมาทั้งหมดไม่
00:04:05 → 00:04:08 ว่าจะเป็นเรื่องของการออกกำลังกายเรื่อง
00:04:08 → 00:04:11 ของการชะลอวัยโรคหัวใจโรคหลอดเลือดนะครับ
00:04:11 → 00:04:14 เรื่องของสมองต่างๆนะครับรวมทั้งการลด
00:04:14 → 00:04:16 อนุมูลอิสระทั้งหมดในร่างกายเนี่ย
00:04:16 → 00:04:19 อันเนี้ยยังมีข้อมูลที่ไม่เพียงพอที่จะ
00:04:19 → 00:04:23 บอกว่ามันเป็นเช่นนั้นนะทีนี้ถามว่าทำไม
00:04:23 → 00:04:25 มันถึงกลายมาเป็นกระแสได้นะครับก็ต้องบอก
00:04:25 → 00:04:28 อย่างงี้ครับว่าน้ำไฮโดรเจนเนี่ยมันไม่
00:04:28 → 00:04:30 ได้เพิ่งมาเป็นกระแสเอาตอนนี้นะครับมัน
00:04:30 → 00:04:33 เป็นกระแสมาตั้งนานแล้วโดยที่มี Celebrity
00:04:33 → 00:04:36 ต่างๆนะอย่างเช่นที่อเมริกาก็มีคนออกมา
00:04:36 → 00:04:39 โปรโมทว่าตัวเองเนี่ยใช้อันนี้เพื่อว่าจะ
00:04:39 → 00:04:42 ได้ดูอ่อนไวนะครับต้านอนุมูลอิสระแล้วก็
00:04:42 → 00:04:44 ช่วยเรื่องของการออกกำลังกายให้ฟื้นตัว
00:04:44 → 00:04:47 เร็วนะครับลดกรดแลคติในร่างกายนะฮะทำให้
00:04:47 → 00:04:49 ร่างกายของเขาเนี่ยกระชุ่มกระเชอยู่ตลอด
00:04:49 → 00:04:52 เวลานะครับก็มีการโปรโมทเยอะแยะไปหมดนะ
00:04:52 → 00:04:55 ครับและแน่นอนครับช่วงนั้นก็มีคนออกมาพูด
00:04:55 → 00:04:57 เหมือนผมว่าข้อมูลมันยังไม่เพียงพอที่จะ
00:04:57 → 00:05:01 บอกให้เป็นแบบนั้นนะฮะแล้วก็หายไปพักนึง
00:05:01 → 00:05:03 แล้วมันก็ขึ้นมาใหม่แล้วมันก็หายไปพักนึง
00:05:03 → 00:05:05 แล้วมันก็กลับมาใหม่มันเป็นเช่นเนี้ยอยู่
00:05:05 → 00:05:09 ซ้ำแล้วซ้ำเล่านะครับในเรื่องของยาอาหาร
00:05:09 → 00:05:12 เสริมหรือสิ่งแบบเนี้ยนะครับที่มันจะทำ
00:05:12 → 00:05:15 ให้คนหลายคนมีความสนใจมันมากขึ้นนะครับ
00:05:15 → 00:05:18 แต่ไม่ว่ายังไงก็ตามครับสำหรับท่านที่คิด
00:05:18 → 00:05:22 ว่าเออไม่เป็นไรแหละเท่าที่เราฟังมาทั้ง
00:05:22 → 00:05:24 หมดเนี่ยมันมีแต่ข้อดีถึงแม้ว่าข้อดี
00:05:24 → 00:05:26 เนี่ยเนี่ยมันจะยังไม่ได้รับการพิสูจน์
00:05:27 → 00:05:30 อะไรก็ตามนะครับไม่เป็นไรเราอยากจะใช้อ่ะ
00:05:30 → 00:05:32 เออแล้วมันต้องรู้อะไรบ้างนะครับข้อแรก
00:05:32 → 00:05:34 ต้องบอกอย่างงี้ครับว่าน้ำไฮโดรเจนจริงๆ
00:05:34 → 00:05:37 เนี่ยมันไม่ได้มีอันตรายอะไรนะครับผลเสีย
00:05:37 → 00:05:39 ของมันเนี่ยก็ไม่มีอะไรนะครับคุณสามารถ
00:05:39 → 00:05:41 ที่จะดื่มมันเข้าไปได้โดยที่ไม่เกิด
00:05:41 → 00:05:44 เรื่องอะไรกับร่างกายไม่จำเป็นว่าคุณจะ
00:05:44 → 00:05:45 ต้องมีโรคประจำตัวอะไรหรือเปล่าที่คุณ
00:05:46 → 00:05:48 ดื่มเข้าไปแล้วเกิดปัญหาขึ้นมาส่วนมากน้ำ
00:05:48 → 00:05:50 ไฮโรเจนเนี่ยไม่ได้เกิดปัญหาอะไรขึ้นมายก
00:05:50 → 00:05:53 เว้นแต่ว่าคุณดื่มมันมากจนเกินไปนะครับ
00:05:53 → 00:05:56 อันแน่นอนน้ำเปล่าปกติถ้าคุณดื่มมันมาก
00:05:56 → 00:06:00 และเร็วจนเกินไปคุณก็จะเกิดภาวะน้ำเป็น
00:06:00 → 00:06:03 พิษที่ทำให้ร่างกายของเราเนี่ยมีโซเดียม
00:06:03 → 00:06:06 ที่ต่ำลงแล้วก็แน่นอนครับมันจะส่งผลต่อ
00:06:06 → 00:06:09 สมองทำให้เกิดอาการชักได้นะฮะหรือว่าบาง
00:06:09 → 00:06:11 คนอาจจะมีอาการมึนงงอาจอาการสับสนต่างๆ
00:06:11 → 00:06:14 แล้วก็พูดไม่รู้เรื่องพวกเนี้ยเกิดขึ้น
00:06:14 → 00:06:16 ได้นะครับไม่ว่าคุณจะดื่มน้ำชนิดไหนเข้า
00:06:16 → 00:06:19 ไปก็ตามโดยที่ดื่มมากจนเกินไปและดื่มเร็ว
00:06:19 → 00:06:22 จนเกินไปนะครับน้ำไฮโดรเจนนี่ก็ไม่เว้น
00:06:22 → 00:06:25 เหมือนกันนะฮะทีนี้เรามาลองดูกันว่าน้ำ
00:06:25 → 00:06:29 ไฮโดรเจนเนี่ยมันทำยังไงนะครับวิธีในการ
00:06:29 → 00:06:32 ทำน้ำไฮโดรเจนเนี่ยมีด้วยกันหลักๆ 2 วิธี
00:06:32 → 00:06:35 แรกเนี่ยครับเขาเรียกว่าอิเลectrolysนะ
00:06:35 → 00:06:37 ครับก็คือเป็นการใช้กระแสไฟฟ้าเนี่ยไปแยก
00:06:37 → 00:06:40 โมเลกุลของน้ำให้มันเกิดเป็นโมเลกุลของ
00:06:40 → 00:06:43 ก๊าซไฮโดรเจนอยู่ในน้ำนะครับวิธีที่ 2
00:06:43 → 00:06:46 เนี่ยจะใช้เป็นแมกนีเซียมนะครับหรือ
00:06:46 → 00:06:48 elemental magนีumมันเป็นเม็ดเนี่ยเจะมี
00:06:48 → 00:06:51 ไขเป็นเม็ดเลยเอาหยอดลงไปในน้ำแล้วมันจะ
00:06:51 → 00:06:54 กลายเป็นฟองฟู่ขึ้นมานะครับโดยมันจะไปรวม
00:06:54 → 00:06:56 กับน้ำแล้วเกิดปฏิกิริยากลายไปเป็นตัว
00:06:56 → 00:06:59 ไฮโดรเจนกับแมกนีเซียมไฮดรอกไซด์ขึ้นมานะ
00:06:59 → 00:07:02 ครับถ้าเกิดคุณดื่มน้ำที่ใช้ไอ้ตัวเม็ด
00:07:02 → 00:07:04 แมกนีเซียมทำเนี่ยคุณก็จะได้ทั้ง
00:07:04 → 00:07:06 แมกนีเซียมเข้าไปในร่างกายซึ่งเรื่องของ
00:07:06 → 00:07:08 แมกนีเซียมผมเคยทำคลิปไปแล้วนะครับก็ลอง
00:07:08 → 00:07:11 ไปย้อนดูว่ามันดียังไงนะฮะกับไอ้ตัว
00:07:11 → 00:07:14 ไฮโดรเจนซึ่งเรากำลังพูดถึงนะฮะนี่คือ
00:07:14 → 00:07:17 ขั้นตอนในการทำซึ่งมี 2 แบบนะครับแบบ
00:07:17 → 00:07:20 อิเล็กทรisเนี่ยก็จะขายเป็นเครื่องทำเลย
00:07:20 → 00:07:22 ก็ได้นะครับหรือบางทีก็เป็นขวดนะอย่างที่
00:07:22 → 00:07:25 อเมริกาก็จะมีกับขวดที่เอาไว้เสียบปลั๊ก
00:07:25 → 00:07:27 แล้วก็มันทำน้ำให้เราเลยนะฮะกดปุ่มแล้ว
00:07:27 → 00:07:29 มันทำให้นะฮะกับแบบเครื่องที่เราต้องเอา
00:07:29 → 00:07:32 น้ำแล้วเติมเข้าไปในนั้นแล้วมันผลิตออกมา
00:07:32 → 00:07:35 ให้นะครับนี่คือเป็นการผลิต 2 วิธีด้วย
00:07:35 → 00:07:39 กันนะครับถามว่ามันเติมไฮโดรเจนเข้าไปมัน
00:07:39 → 00:07:42 เติมแค่ไหนยังไงนะครับแล้วมันมีปัญหาอะไร
00:07:42 → 00:07:47 มองอย่างี้ว่าในอากาศของเราเนี่ยมันมี
00:07:47 → 00:07:51 ไฮโดรเจนอยู่ประมาณ 0.5 ในล้านส่วนหรือ
00:07:51 → 00:07:55 0.5 ppm นะครับในการทำน้ำไฮโดรเจนเนี่ย
00:07:55 → 00:07:59 นะครับอ่าก็มีความหลากหลายของความเข้มข้น
00:07:59 → 00:08:02 ของไฮโดรเจนในนั้นนะมีตั้งแต่ 0.5 5
00:08:02 → 00:08:06 เท่าอากาศเลยไปจนถึงบางเจ้าก็บอกว่าถึง 10
00:08:06 → 00:08:09 นะครับถึง 10 เนี่ยผมดูแล้วยากมากนะครับ
00:08:09 → 00:08:12 เท่าที่ดูเนี่ยส่วนใหญ่จะอยู่ประมาณ
00:08:12 → 00:08:18 3-5 ppm นะครับหรือ 3-5 มกรัใน 1 ลิตร
00:08:18 → 00:08:21 ของน้ำนะครับอ่าโดยประมาณคือประมาณอย่าง
00:08:21 → 00:08:23 นั้นเลยนะฮะอันนี้คือสิ่งที่เขา้าทำผลิต
00:08:23 → 00:08:26 ออกมาได้นะฮะอันนี้แน่นอนครับว่าแต่ละ
00:08:26 → 00:08:29 แบรนด์แต่ละเจ้าแล้วก็แมกนีเซียมที่เอา
00:08:29 → 00:08:31 ไว้ใส่เนี่ยนะครับมันจะได้ค่าตัวเนี้ยไม่
00:08:31 → 00:08:36 เหมือนกันนะครับอย่างไรก็ตามบางกรณีมันทำ
00:08:36 → 00:08:38 ออกมาแล้วมันเท่าอากาศเป๊ะเลยนะครับใน
00:08:38 → 00:08:41 อากาศเนี่ยคุณหายใจเข้าไปตลอดวันใช่มั้
00:08:41 → 00:08:43 ครับสมมุติหายใจเข้าไป 10 ลิตรเนี่ยโดย
00:08:44 → 00:08:46 ทั่วไปมันจะได้ไอ้ตัวไฮโดรเจนเข้าไปใน
00:08:46 → 00:08:49 ร่างกายเนี่ยประมาณซัก 7-8 อย่างเงี้ยนะ
00:08:49 → 00:08:51 ฮะแต่ปัญหาคือไฮโดรเจนที่เข้าไปทางเดิน
00:08:51 → 00:08:54 หายใจโดยการหายใจแบบปกติเนี่ยมันจะไม่
00:08:54 → 00:08:57 ค่อยดูดซึมจะแตกต่างจากไฮโดรเจนที่คุณผสม
00:08:57 → 00:08:59 เข้าไปในน้ำแล้วดื่มเข้าไปอย่างนั้นน่ะจะ
00:08:59 → 00:09:04 ดูดซึมได้มากคนหน่อยนึงนะครับถามว่าแล้ว
00:09:04 → 00:09:06 มีอะไรที่ต้องรู้อีกอย่างนึงก็คือ
00:09:06 → 00:09:09 ไฮโดรเจนเนี่ยนะครับมันละลายแล้วมันก็
00:09:09 → 00:09:11 ระเหยออกไปได้ง่ายมากและเร็วมากด้วยซ้ำไป
00:09:11 → 00:09:14 นะครับถ้าเกิดมันอยู่ในภาชนะที่เป็น
00:09:14 → 00:09:16 พลาสติกมันสามารถทะลุพลาสติกหายออกไปได้
00:09:16 → 00:09:20 เลยนะครับถ้าเกิดสมมุติว่าคุณทำน้ำเสร็จ
00:09:20 → 00:09:22 คุณเปิดมันแล้วเพื่อดื่มเนี่ยไอ้ตัว
00:09:22 → 00:09:25 ไฮโดรเจนตัวนั้นเนี่ยจะระเขยไปในเวลา 1
00:09:25 → 00:09:28 ชม.เนี่ยหมดแล้วไม่มีและดังนั้นถ้าคุณ
00:09:28 → 00:09:31 เปิดทิ้งไว้เนี่ยก็มันก็ไม่มีน้ำไฮโรเจน
00:09:31 → 00:09:33 อยู่ในนั้นแล้วนะครับถ้าเกิดคุณจะซื้อ
00:09:33 → 00:09:35 เครื่องมาคุณทำเสร็จคุณต้องดื่มเดี๋ยว
00:09:35 → 00:09:37 นั้นนะครับถ้าคุณจะใช้แมกนีเซียมเป็นเม็ด
00:09:37 → 00:09:40 ฟู่คุณใส่เสร็จปุ๊บคุณต้องดื่มเดี๋ยวนั้น
00:09:40 → 00:09:42 คุณจะรอไม่ได้เพราะว่ามันจะหายไปเรื่อยๆ
00:09:42 → 00:09:45 นะครับมันหายไปอย่างรวดเร็วนะครับน้ำดื่ม
00:09:45 → 00:09:48 ตัวนี้มีรสชาติมีลักษณะเป็นยังไงบ้างมัน
00:09:48 → 00:09:52 จะซ่ามั้ยก็ต้องบอกว่ามันไม่ใช่น้ำซ่านะ
00:09:52 → 00:09:54 ครับคุณดื่มเข้าไปจะไม่รู้สึกซ่าเหมือน
00:09:54 → 00:09:56 เวลาที่คุณไปดื่มน้ำอัดลมมันจะไม่เป็นแบบ
00:09:56 → 00:09:59 นั้นนะครับส่วนรสชาติเนี่ยเหมือนน้ำปกติ
00:09:59 → 00:10:02 นี่แหละยกเว้นแต่ถ้าเกิดคุณจะใช้แบบกรณี
00:10:02 → 00:10:05 ที่ทำด้วยเม็ดแมกนีเซียมซึ่งบางคนเจะใส่
00:10:05 → 00:10:07 พวกรสชาติบางอย่างเข้าไปในนั้นทำให้มันมี
00:10:07 → 00:10:09 รสชาติได้บ้างหรือตัวแมกนีเซียมบางทีกิน
00:10:09 → 00:10:12 เข้าไปแล้วก็จะมีความเค็มเล็กน้อยนะครับ
00:10:12 → 00:10:15 ก็จะมีอ่าลักษณะรสชาติที่แตกต่างจากน้ำ
00:10:15 → 00:10:17 ปกตินิดหน่อยนะ
00:10:17 → 00:10:20 ครับตัวที่เอาไว้เก็บน้ำเนี่ยนะฮะคุณต้อง
00:10:20 → 00:10:23 แน่ใจว่าคุณทำเดี๋ยวนั้นนะฮะอันนี้เตือน
00:10:23 → 00:10:24 ไว้เลยนะเพราะไม่ฉะนั้นคุณจะได้ไม่ได้
00:10:24 → 00:10:26 ประโยชน์อะไรทั้งสิ้นจากการทำน้ำ
00:10:26 → 00:10:29 แมกนีเซียมแล้วมันทำค้างแล้วเอาแช่ไว้ใน
00:10:29 → 00:10:31 ตู้เย็นน่ะก็ไม่ได้ด้วยเพราะว่ามันจะค่อย
00:10:31 → 00:10:34 ๆซึมแล้วหายไปนะฮะมีภาชนะที่เอาไว้เก็บ
00:10:34 → 00:10:37 ตัวนี้โดยเฉพาะ
00:10:37 → 00:10:40 มขวดอลูมิเนียมนะทั้งอันต้องเป็น
00:10:40 → 00:10:42 อลูมิเนียมไม่ใช่พลาสติกนะครับต้องเป็น
00:10:42 → 00:10:44 ขวดพิเศษคุณก็เติมน้ำที่คุณทำเข้าไปใน
00:10:44 → 00:10:47 นั้นแล้วก็ปิดฝาให้แน่นๆอันเนี้ยยังพอ
00:10:47 → 00:10:49 เก็บได้อยู่นะครับแต่ก็ไม่แน่เหมือนกัน
00:10:49 → 00:10:50 เพราะว่ามันก็ระเหยออกมาได้เรื่อยๆคุณ
00:10:51 → 00:10:53 เปิดปุ๊บมันก็ออกไปแล้วนะครับเหมือนกับ
00:10:53 → 00:10:57 กรณีน้ำอัดลมนั่นเองนะฮะน่ะนี่คือกรณีของ
00:10:57 → 00:11:00 น้ำไฮโดรเจนนะครับจริงๆในเรื่องของ
00:11:00 → 00:11:04 ไฮโดรเจนเนี่ยเรามีการใช้ในอ่าการดำน้ำนะ
00:11:04 → 00:11:07 ครับชื่อไฮดรออกนะไฮดรอกเนี่ยจะเป็นการ
00:11:07 → 00:11:10 ผสมระหว่างไฮโดรเจนฮีเลียมแล้วก็ตัว
00:11:10 → 00:11:13 ออกซิเจนนะฮะเพื่อป้องกันภาวะที่เรามี
00:11:13 → 00:11:16 ไนโตรเจนในร่างกายสูงจนเกินไปจากการที่
00:11:16 → 00:11:19 เราดำน้ำลงไปลึกๆแล้วก็พอลอยขึ้นมาเนี่ย
00:11:19 → 00:11:22 ไฮโดรเจนเอ้ตัวไนโตรเจนเนี่ยมันจะออกมาทำ
00:11:22 → 00:11:24 ให้เกิดอาการต่างๆโดยเฉพาะถ้าเราขึ้นมา
00:11:24 → 00:11:27 จากน้ำด้วยความเร็วที่มากจนเกินไปนะครับ
00:11:27 → 00:11:31 ผมเคยทำคลิปเรื่องของเอ่อโรคน็อน้ำนะครับ
00:11:31 → 00:11:33 หรือไนโตรเจนnโคosisไปแล้วนะฮะเมื่อ
00:11:33 → 00:11:36 ประมาณ 3-4 ปีที่แล้วถ้าใครลืมก็อยากจะ
00:11:36 → 00:11:38 รู้ก็ลองไปดูในนั้นได้นะครับแต่ในนั้นผม
00:11:38 → 00:11:41 ไม่ได้พูดถึงไดริxนะครับก็เนี่ยแหละเอามา
00:11:41 → 00:11:45 เล่าให้ฟังว่ามันมีตรงนี้อยู่ด้วยนะครับ
00:11:45 → 00:11:47 ทีนี้พอเรารู้แล้วว่าน้ำไฮโดรเจนเนี่ยมัน
00:11:47 → 00:11:50 ทำยังไงนะฮะและมันพอมีประโยชน์อะไรบ้าง
00:11:50 → 00:11:53 ข้อเสียของมันก็ไม่ได้มีอะไรนะครับการทำ
00:11:53 → 00:11:56 มันก็ทำได้ 2 แบบดื่มก็ต้องดื่มทันทีนะ
00:11:56 → 00:12:00 ครับสิ่งที่ต้องรู้ต่อไปนะครับก็คือราคา
00:12:00 → 00:12:02 ของพวกเนี้ยไม่ได้ราคาถูกนะครับอย่างผม
00:12:02 → 00:12:05 เพิ่งดูในเว็บไซต์ของที่อเมริกาเนี่ยถ้า
00:12:05 → 00:12:08 เป็นเม็ดแมกนีเซียมนะครับที่ทำเนี่ยเดือน
00:12:08 → 00:12:10 ๆนึงเอ่อจริงๆไม่ได้เดือนหรอกกระปุกนึง
00:12:10 → 00:12:13 มันขึ้นอยู่กับคุณดื่มมันบ่อยแค่ไหนนะ
00:12:13 → 00:12:16 ครับตัวกระปุกนึงของมันเนี่ยก็จะราคาอยู่
00:12:16 → 00:12:18 ที่ประมาณ 1,000 บาทนะครับถึง 2,000 บาท
00:12:18 → 00:12:21 นะถ้าเกิดคุณดื่มมันหม้อบ่อยมากๆเลยก็แน่
00:12:21 → 00:12:24 นอนครับว่าเดือนนึงก็อาจจะหลายพันบาทนะ
00:12:24 → 00:12:26 ครับส่วนถ้ามันเป็นเครื่องอิเลectrolysis
00:12:26 → 00:12:29 พวกเนี้ยก็แล้วแต่แบรนด์นะครับมันมีตั้ง
00:12:29 → 00:12:32 แต่ราคาถูกยราคาแพงมากนะครับถ้าแพงมากก็
00:12:32 → 00:12:35 โน่น 3-40,000 เหมือนกันนะครับถ้าราคาถูก
00:12:35 → 00:12:38 ก็มีตั้งแต่ระดับอ่าระดับหลักพันนะครับ
00:12:38 → 00:12:41 หลักพันกับหลักแพงมากๆเป็นหมื่นเนี่ยก็
00:12:41 → 00:12:44 มันจะมีความแตกต่างกันที่การทำได้กี่
00:12:44 → 00:12:48 ครั้งนะครับมีการอ่ามีวารันตีอยู่นานแค่
00:12:48 → 00:12:51 ไหนนะครับแล้วก็อยู่ที่เรื่องของปริมาณ
00:12:51 → 00:12:53 ของไฮโดรเจนที่ทำแล้วใส่เข้าไปในนั้นได้
00:12:53 → 00:12:56 นะครับอันเนี้ยก็จะเป็นสิ่งที่ทุกคนจะ
00:12:56 → 00:13:00 ต้องทราบนะฮะส่วนดื่มเข้าไปแค่ไหน
00:13:00 → 00:13:03 อันเนี้ยแล้วแต่เลยครับไม่มีการกำหนดแต่
00:13:03 → 00:13:05 อย่างที่ผมเคยทำคลิปไปนะครับว่าถ้าเป็นไป
00:13:05 → 00:13:08 ได้ควรจะดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 2
00:13:08 → 00:13:10 ลิตรโดยที่ไม่เกี่ยงว่าน้ำนั้นคือน้ำอะไร
00:13:10 → 00:13:13 นะครับถ้าเกิดคุณจะดื่มน้ำตัวน้ำไฮโดรเจน
00:13:13 → 00:13:15 คุณก็ต้องดื่มน้ำรวมให้ได้แบบนี้นะครับ
00:13:15 → 00:13:18 มันไม่มีคำว่าดื่มว่าน้อยไปแล้วมันไม่ได้
00:13:18 → 00:13:20 อะไรขึ้นมาหรือมากไปแล้วไม่ได้อะไรขึ้นมา
00:13:20 → 00:13:22 เพราะว่าปัจจุบันยังไม่มีใครรู้นะครับว่า
00:13:22 → 00:13:24 น้ำไฮโรดโรเจนถ้าจะต้องดื่มให้เกิด
00:13:24 → 00:13:26 ประโยชน์แล้วมันจะต้องดื่มเข้าไปแค่ไหน
00:13:26 → 00:13:29 ยังไงและด้วยความเข้มข้นของไฮโดรเจนแค่
00:13:29 → 00:13:32 ไหนตรงนี้ไม่มีใครตอบได้และยังไม่มีงาน
00:13:32 → 00:13:35 วิจัยใดๆทั้งสิ้นนะครับอ่าตรงนี้คุณต้อง
00:13:35 → 00:13:37 ทราบไว้ก่อนนะบางคนบอกเฮ้ยเราต้องเอาน้ำ
00:13:37 → 00:13:40 ไฮโดรเจนขนาดนี้เพียงพอมั้ยอ่าอันยี่ห้อ
00:13:40 → 00:13:43 นี้มันบอกว่ามันทำได้ 3 ppm ยี่ห้อนี้
00:13:43 → 00:13:46 บอกว่าทำได้ 2 ppm อีกยี่ห้อนึงทำได้ 7
00:13:46 → 00:13:50 ppm แต่ราคามันแพงมากเลยอันไหนคุ้มกว่า
00:13:50 → 00:13:53 ไม่มีใครบอกได้ครับตรงนี้ไม่มีใครบอกได้
00:13:53 → 00:13:55 แล้วดื่มปริมาณเท่าไหร่ถึงจะเกิดประโยชน์
00:13:55 → 00:13:57 ไม่มีใครบอกได้ดื่มไปนานแค่ไหนถึงจะเกิด
00:13:57 → 00:14:00 ประโยชน์ไม่มีใครบอกได้เช่นกันครับถ้าไป
00:14:00 → 00:14:03 ดูรีวิวเนี่ยจะมีตั้งแต่คนที่บอกว่าดื่ม
00:14:03 → 00:14:05 เข้าไปแล้วอู้๊ดื่มแล้วดีตั้งแต่ครั้งแรก
00:14:05 → 00:14:07 เลยรู้สึกร่างกายสดชื่นกับอีกคนนึงก็บอก
00:14:07 → 00:14:09 ว่าเดื่มมาตั้ง 3-4 เดือนไม่เห็นมันเกิด
00:14:09 → 00:14:13 อะไรขึ้นเลยนะครับผมบอกงี้ถ้าคุณดื่มเข้า
00:14:13 → 00:14:15 ไปครั้งแรกแล้วคุณรู้สึกสดชื่นดีเลย
00:14:15 → 00:14:18 อันเนี้ยมโนไปเองละมันไม่ได้ทำงานเร็ว
00:14:18 → 00:14:20 ขนาดนั้นหรอกครับถ้าเกิดคุณเข้าใจกลไกการ
00:14:20 → 00:14:23 ออกดิสของมันเช่นถ้าไปลดอนุมูลอิสระเนี่ย
00:14:23 → 00:14:25 อนุมูลอิสระของคุณหายไปตอนเนี้ยมันไม่ทำ
00:14:25 → 00:14:27 ให้คุณรู้สึกดีตอนนี้หรอกครับมันเป็นไป
00:14:27 → 00:14:30 ไม่ได้ดังนั้นถ้าเกิดคุณดื่มเข้าไปวัน 2
00:14:30 → 00:14:32 วันหรือตอนเนี้ยแล้วรู้สึกดีทันที
00:14:32 → 00:14:34 อันเนี้ยคิดไปเองแล้วครับไม่เกี่ยวอะไร
00:14:35 → 00:14:37 กับตัวน้ำไฮโดรเจนนะมโนล้วนๆนะฮะส่วนบาง
00:14:38 → 00:14:40 คนก็บอกดื่มไปตั้งเนี่ยตั้ง 3-4 เดือนไม่
00:14:40 → 00:14:42 เห็นจะดีขึ้นเลยออกกำลังกายก็เหมือนเดิม
00:14:42 → 00:14:44 นะครับความดันกับเถ่าเดิมไปเจาะเลือดแล้ว
00:14:44 → 00:14:46 ก็ไขมันก็ยังสูงเหมือนเดิมอย่างี้มันโกหก
00:14:46 → 00:14:49 นี่หว่าอะไรก็มักจะเป็นเช่นนั้นนะครับ
00:14:49 → 00:14:52 เพราะว่าบางคนอาจจะคิดว่าเอ้อไหนๆก็ไหนๆ
00:14:52 → 00:14:55 ละฟังดูข้อมูลเนี่ยถึงแม้ว่ามันจะเป็นข้อ
00:14:55 → 00:14:57 มูลที่ยังไม่ใช่ข้อมูลชุดใหญ่เท่าไหร่นะ
00:14:57 → 00:15:00 ครับไม่ใช่ทดลองเยอะแต่ว่ามันก็ดีอย่าง
00:15:00 → 00:15:02 งั้นแล้วเราก็มาใช้ในชีวิตประจำวันแล้ว
00:15:02 → 00:15:04 คุณก็ทำทุกอย่างเหมือนเดิมกินของก็ไม่ได้
00:15:04 → 00:15:07 ควบคุมอาหารให้มันดีนะครับกินจังฟู้ดกิน
00:15:07 → 00:15:10 ของขนมตลอดเวลาใครมั่นคุณก็เหมือนเดิมสิ
00:15:10 → 00:15:12 ครับถูกมั้ยน้ำเนี่ยมันไม่ได้ช่วยขนาด
00:15:12 → 00:15:14 นั้นถ้ามันช่วยก็ช่วยเล็กน้อยถ้าคุณตามไป
00:15:14 → 00:15:17 อ่านรายงานมันช่วยเล็กน้อยครับไม่ได้ช่วย
00:15:17 → 00:15:20 เยอะขนาดที่คุณอยากจะให้มันเป็นนะครับนี่
00:15:20 → 00:15:23 กรณีของน้ำน้ำไฮโดรเจนบางคนก็บอกว่าอ้า
00:15:23 → 00:15:25 แล้วน้ำด่างน้ำเกลือแร่น้ำอะไรอย่างอื่น
00:15:25 → 00:15:29 เนี่ยมันดียังไงนะครับน้ำด่างเนี่ยก็แน่
00:15:29 → 00:15:32 นอนนะครับว่าตัวมันเองข้อดีเนี่ยมีไม่กี่
00:15:32 → 00:15:34 อย่างครับอย่างแรกเลยนะฮะคือเรื่องของกรด
00:15:35 → 00:15:38 ไหลย้อนก็เนื่องจากมันเป็นด่างมันก็เลยไป
00:15:38 → 00:15:40 ทำให้กรดมันกลายไปเป็นกลางแล้วก็อาจจะไป
00:15:41 → 00:15:43 ยับยั้งเอนไซม์ในกระเพาะต่างๆเช่นเอนไซม์
00:15:43 → 00:15:45 อ่าเพปซินพวกเนี้ยทำให้มันหมดฤทธิ์แล้วก็
00:15:45 → 00:15:48 ไม่ย่อยนะครับก็เลยทำให้กรดไหลย้อนทุก
00:15:48 → 00:15:50 อย่างมันดีขึ้นโรคกระเพาะเนี่ยก็อาจจะ
00:15:50 → 00:15:52 ทุเลาเอาลงแต่เมื่อไหร่ที่คุณหยุดดื่ม
00:15:52 → 00:15:53 เดี๋ยวมันก็เป็นใหม่ได้นะครับเพราะว่า
00:15:53 → 00:15:55 ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ความเป็นกรดเป็น
00:15:56 → 00:15:58 ด่างอย่างเดียวปัญหามันอยู่ที่อื่นหรือ
00:15:58 → 00:16:00 บางคนเป็นโรคกระเพาะเพราะว่ามีการติด
00:16:00 → 00:16:03 เชื้อเฮิโคobacต polline นะครับคุณกินน้ำ
00:16:03 → 00:16:06 ด่างเข้าไปโอเคมันก็ทำให้ในกระเพาะของคุณ
00:16:06 → 00:16:09 เนี่ยมีความเป็นกลางมากขึ้นนะครับแต่ว่า
00:16:09 → 00:16:11 ไอ้เชื้อนี่มันไม่ได้หายไปไหนอ่ะเดี๋ยว
00:16:11 → 00:16:13 คุณหยุดกินมันก็เป็นใหม่หรือเชื้อมันก็จะ
00:16:13 → 00:16:15 ไปของมันเรื่อยๆนะครับดังนั้นเรื่องนี้
00:16:15 → 00:16:17 เนี่ยผมก็เคยพูดไปแล้วเช่นกันนะครับใน
00:16:17 → 00:16:19 เรื่องของ Holy กับโรคกระเพาะถ้าจำไม่ได้
00:16:19 → 00:16:24 ก็ลองย้อนย้อนกลับไปฟังดูนะครับส่วนการ
00:16:24 → 00:16:27 ที่บางคนบอกว่าน้ำด่างเนี่ยมันจะไปทำให้
00:16:27 → 00:16:29 ร่างกายของเราเป็นด่างมากขึ้นนะครับช่วย
00:16:29 → 00:16:31 ในเรื่องของการชะลอวัยป้องกันมะเร็งนะ
00:16:31 → 00:16:34 ครับลดอนุมูลอิสระหรืออะไรพวกเนี้ยเนี่ย
00:16:34 → 00:16:37 ทั้งหมดที่พูดมาอย่างนี้นะฮะไม่จริงสัก
00:16:37 → 00:16:39 อย่างนะครับน้ำด่างเนี่ยมันไม่สามารถ
00:16:39 → 00:16:42 เปลี่ยนให้ร่างกายของคุณเป็นด่างได้ถ้า
00:16:42 → 00:16:44 คุณไม่เชื่อผมท้าคุณเลยคุณดื่มน้ำด่าง
00:16:44 → 00:16:46 เข้าไปฤทธิ์ 2 หรือคุณไปเจาะเลือดดูเลยก็
00:16:46 → 00:16:49 ได้หรือบางคนไปฟังบางกูรูที่บอกว่าให้กิน
00:16:49 → 00:16:52 โซดามิเข้าไป 30 เม็ด 50 เม็ดต่อวันอะไร
00:16:52 → 00:16:56 เงี้ยผมบอกเลยบ้าแล้วบ้าแน่ๆคุณกินเข้าไป
00:16:56 → 00:16:57 อย่างนั้นเดี๋คุณจะเอามันไปละลายแล้วก็
00:16:57 → 00:17:00 ดื่มเข้าไปก็แล้วแต่คุณนะครับแต่ว่าไม่มี
00:17:00 → 00:17:03 ทางที่ร่างกายของคุณจะเกิดเป็นด่างได้นะ
00:17:03 → 00:17:06 ฮะและมันก็ไม่ได้ช่วยชะลอไวไม่ได้ช่วย
00:17:06 → 00:17:08 ป้องกันมะเร็งไม่ได้ช่วยรักษามะเร็งคนที่
00:17:08 → 00:17:10 เป็นมะเร็งก็ไม่ได้ทำให้มะเร็งมันดีขึ้น
00:17:10 → 00:17:13 แต่อย่างใดนะครับทั้งหมดทั้งมวลเนี่ยน้ำ
00:17:13 → 00:17:16 ด่างเมันมีดีอย่างเดียวคืออาจจะบางคนชอบ
00:17:16 → 00:17:17 รสชาติแล้วก็อีกอย่างหนึ่งคือเรื่องของ
00:17:18 → 00:17:20 กรดไหลย้อนกับโรคกระเพาะเท่าอย่างอื่นไม่
00:17:20 → 00:17:24 มีอะไรเลยนะครับไม่มีอะไรเลยนะฮะถ้าใครไป
00:17:24 → 00:17:27 ฟังมาก็ต้องระมัดระวังด้วยนะครับสำหรับคน
00:17:27 → 00:17:30 ที่กินโซดาิเข้าไปมันไม่ใช่ได้แค่ไม่ไม่
00:17:30 → 00:17:33 ใช่ได้แค่เรื่องด่างเท่านั้นครับแต่ว่าจะ
00:17:33 → 00:17:36 ได้ตัวโซเดียมเข้าไปด้วยดังนั้นคุณอาจจะ
00:17:36 → 00:17:39 มีภาวะโซเดียมเกิดในร่างกายมีอาการขาบวม
00:17:39 → 00:17:41 มีอาการความดันโลหิตสูงได้อันนั้นก็ต้อง
00:17:41 → 00:17:43 ระมัดระวังนะครับดังนั้นถ้าเกิดคุณจะดื่ม
00:17:43 → 00:17:46 น้ำด่างเนี่ยคุณก็ดื่มได้ครับแต่ว่ามัน
00:17:46 → 00:17:49 ไม่ได้มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากขนาดที่บาง
00:17:49 → 00:17:52 คนที่เป็นกูรูเค้าโฆษณาไว้นะฮะแล้วสุด
00:17:52 → 00:17:56 ท้ายน้ำเกลือแร่อ่าน้ำเกลือแร่ก็แน่นอนมี
00:17:56 → 00:17:58 เกลือแร่อยู่ในนั้นนะครับน้ำเกลือแร่
00:17:58 → 00:18:00 เนี่ยบางคนบอกว่าจะทดแทนเกลือแร่ในร่าง
00:18:00 → 00:18:04 กายได้มันก็เป็นสิ่งที่ดีมีแมกนีเซียมมี
00:18:04 → 00:18:06 โซเดียมมีฟอสฟอรัสมีอะไรหลายๆอย่างนะครับ
00:18:06 → 00:18:08 อย่างที่ต้องการมีแคลเซียมมีซิงค์มีอะไร
00:18:08 → 00:18:11 เงี้ยนะครับจริงๆผมต้องบอกอย่างงี้ครับ
00:18:11 → 00:18:16 ว่าโอเคมันมีเกลือแร่นะฮะน้ำแร่น้ำแร่น้ำ
00:18:16 → 00:18:18 เกลือแร่น้ำอะไรพวกเนี้ยน้ำแร่บริสุทธิ์
00:18:18 → 00:18:21 มาจากแหล่งภูเขาอะไรอย่างเงี้เลยก็ได้นะ
00:18:21 → 00:18:25 ครับพวกนี้เนี่ยมันมีเกลือแร่จริงๆแต่
00:18:25 → 00:18:27 อาหารที่คุณกินถ้าคุณกินให้สมดุลเนี่ยมัน
00:18:27 → 00:18:29 ก็เพียงพอแล้วครับคุณไม่ต้องเติมเกลือแร่
00:18:29 → 00:18:31 เข้าไปหรอกครับมันไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้น
00:18:31 → 00:18:32 มาเลยนะ
00:18:32 → 00:18:38 ฮะงั้นถ้าถามเนี่ยจริงๆแล้วน้ำไฮโดรเจน
00:18:38 → 00:18:42 น้ำด่างน้ำแร่ทั้ง 3 อย่างเนี่ยนะครับถ้า
00:18:42 → 00:18:45 จะเอาจริงๆนะน้ำปกติอ่ะดีอยู่แล้วคุณไม่
00:18:45 → 00:18:47 ต้องไปหาน้ำอะไรพิสดารมากินถ้าพูดถึง
00:18:47 → 00:18:50 เรื่องของความรู้ความเข้าใจและราคาน้ำ
00:18:50 → 00:18:53 เปล่าธรรมดาเนี่ยมันราคาถูกที่สุดแล้วมัน
00:18:53 → 00:18:55 ก็คุ้มที่สุดขอแค่คุณดื่มให้มันเพียงพอ
00:18:55 → 00:18:58 เท่านั้นเองวันละประมาณ 2 ลิตรหรือบางคน
00:18:58 → 00:19:01 อาจจะบอกว่าเออดื่มจนปัสสาวะของเรามันใส
00:19:01 → 00:19:03 ได้มั้ยอ่ะได้นะครับถ้าปัสสาวะมันดู
00:19:03 → 00:19:05 เหลืองเหลืองขึ้นมาเหลืองเข้มอันนี้อาจจะ
00:19:06 → 00:19:07 ต้องดื่มเพิ่มเติมเข้าไปหน่อยอันนี้ก็
00:19:07 → 00:19:10 เป็นวิธีหนึ่งที่ทำได้เหมือนกันอย่างไรก็
00:19:10 → 00:19:13 ตามก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะใช้วิธีในการดู
00:19:13 → 00:19:15 ปัสสาวะแล้วใสแล้วบอกว่ามันดื่มน้ำเพียง
00:19:15 → 00:19:19 พอได้เช่นในคนที่ดื่มกาแฟมากๆหรือทานยา
00:19:19 → 00:19:21 กับปัสสาวะเพราะพวกเนี้ยจะทำให้ปัสสาวะ
00:19:21 → 00:19:23 มากกว่าปกติแล้วปัสสาวะมันจะใสแต่ไม่ได้
00:19:23 → 00:19:26 หมายความว่าร่างกายของคุณมีน้ำได้เพียงพอ
00:19:26 → 00:19:29 นะครับในกรณีแบบนี้คุณก็อาจจะต้องดูว่า
00:19:29 → 00:19:32 คุณจะต้องดื่มให้ได้ประมาณ 2 ลิตรนะครับ
00:19:32 → 00:19:36 ยกเว้นคนที่มีโรคหัวใจนะครับโรคไตบาง
00:19:36 → 00:19:38 อย่างนะครับโรคตับแข็งอย่างเงี้ยที่มัน
00:19:38 → 00:19:41 อาจจะมีภาวะน้ำเกินในร่างกายได้ง่ายตรง
00:19:41 → 00:19:43 เนี้ยอาจจะต้องมีการปรึกษาคุณหมอที่เขาดู
00:19:43 → 00:19:46 แลเราอยู่ด้วยว่าจะต้องดื่มน้ำปริมาณเท่า
00:19:46 → 00:19:49 ไหร่นะครับสำหรับผมซึ่งเคยดูแลคนไข้ปลูก
00:19:49 → 00:19:52 ถ่ายปอดที่เค้ามีโรคไตร่วมด้วยนะครับผม
00:19:52 → 00:19:55 ไม่มีการจำกัดน้ำใดๆทั้งสิ้นนะครับถึงแม้
00:19:55 → 00:19:57 ว่าเขาจะกินยาขับปัสสาวะผมก็ให้กินน้ำ
00:19:57 → 00:19:59 เท่าเดิม 2 ลิตรไม่เห็นมีคนไหนที่มีปัญหา
00:19:59 → 00:20:02 สักคนในมือผมนะเท่าที่ผมดูแลมานะครับจะมี
00:20:02 → 00:20:05 กรณีเดียวที่อาจจะมีปัญหานั่นก็คือคนไข้
00:20:05 → 00:20:07 ที่มันฟอกไตไปแล้วอันนั้นแหละที่อาจจะ
00:20:07 → 00:20:10 ต้องมีการจำกัดบางอย่างโดยที่เรามีการให้
00:20:10 → 00:20:12 คนไข้ชั่งน้ำหนักทุกวันถ้าเกิดอยู่ๆน้ำ
00:20:12 → 00:20:14 หนักมันเพิ่มขึ้น 1 กก.ทุกวันไอ้อย่าง
00:20:14 → 00:20:17 เงี้ยแปลว่าร่างกายของเขาเนี่ยเริ่มมีน้ำ
00:20:17 → 00:20:20 เกินในร่างกายอาจจะต้องงดการกินน้ำลงไป
00:20:20 → 00:20:22 ก่อนนะครับแล้วก็อาจจะต้องไปล้างไตในช่วง
00:20:22 → 00:20:24 เวลานั้นเพื่อเอาน้ำที่เกินออกจากร่างกาย
00:20:24 → 00:20:28 ด้วยนะฮะดังนั้นโดยสรุปนะครับคุณกินน้ำ
00:20:28 → 00:20:30 ไม่เพียงพอก็พอแล้วไม่ต้องไปเสียตังค์กิน
00:20:31 → 00:20:32 อะไรแปลกๆแบบนี้แต่ถ้าเกิดคุณจะเสียตังค์
00:20:32 → 00:20:35 ไปกินน้ำแปลกๆแบบเนี้ยคุณอยากจะกินน้ำ
00:20:35 → 00:20:38 ไฮโดรเจนนะครับก็สามารถทำได้ทำเสร็จแล้ว
00:20:38 → 00:20:41 ให้รีบดื่มอย่าทิ้งมันไว้เพราะว่าไอ้
00:20:41 → 00:20:44 ไฮโดรเจนที่คุณทำออกมาเนี่ยมันจะระเหยหาย
00:20:44 → 00:20:46 ไปหรือมันทะลุพลาสติกที่เป็นขวดออกมาข้าง
00:20:46 → 00:20:48 นอกได้คุณจะต้องมีขวดพิเศษที่เป็น
00:20:48 → 00:20:51 อลูมิเนียมเอาไว้เก็บมันโดยเฉพาะนะครับ
00:20:51 → 00:20:53 หรือบางคนอาจจะบอกว่าฉันทำน้ำ 3 อย่างปน
00:20:53 → 00:20:56 กันเลยได้มยนะครับคือเอาน้ำแร่ที่เป็น
00:20:56 → 00:21:00 ด่างนะครับแล้วเอาไปเติมไฮโดรเจนอันนั้น
00:21:00 → 00:21:02 ก็แล้วแต่คุณล่ะครับมันสามารถที่จะทำได้
00:21:02 → 00:21:05 เหมือนกันนะฮะงั้นพวกเนี้ยบางคนก็อาจจะ
00:21:05 → 00:21:09 บอกว่าเออถ้ากินแล้วอาจจะมีผลดีในเรื่อง
00:21:09 → 00:21:11 ของสมองในเรื่องลดการอักเสบในเรื่องของ
00:21:11 → 00:21:13 การชะลวัเรื่องของการออกกำลังกาย
00:21:13 → 00:21:17 อ่านะครับก็อันนี้แล้วแต่เลยนะครับข้อมูล
00:21:17 → 00:21:19 ยังไม่ชัดเจนที่จะตอบได้ว่าเป็นแบบนั้น
00:21:19 → 00:21:21 ถ้าเกิดคุณอยากจะกินคุณมีเงินเยอะใน
00:21:21 → 00:21:24 กระเป๋านะครับเราก็รู้สึกว่าเอ๊เงินแค่
00:21:24 → 00:21:26 นี้เราเสียได้นะครับมันไม่ได้เกิดปัญหา
00:21:26 → 00:21:28 อะไรกับเราอันนั้นคุณก็ดื่มครับแต่ถ้าถาม
00:21:28 → 00:21:31 ว่าคุ้มมั้ยสำหรับคนที่มีรายได้ทั่วๆไปผม
00:21:31 → 00:21:33 คิดว่ามันไม่ค่อยคุ้มค่าเงินในกระเป๋าของ
00:21:33 → 00:21:36 คุณนะครับและอีกอย่างนึงของพวกเนี้ยเวลา
00:21:36 → 00:21:39 คุณกินไปแล้วรู้สึกดีส่วนใหญ่นะครับมโนไป
00:21:39 → 00:21:42 เองทั้งนั้นแหละนะมโนไปเองล้วนๆเลยนะฮะ
00:21:42 → 00:21:44 และถ้าเกิดคุณอยากจะแน่ใจว่ามันทำแบบนั้น
00:21:44 → 00:21:47 ได้จริงหรือเปล่าคุณลองก็ได้น้ำไฮโรเจน
00:21:47 → 00:21:49 มันไม่ได้เสียหายยกเว้นราคามันแพงเท่า
00:21:49 → 00:21:51 นั้นเองถ้าเกิดคุณดื่มมันได้ถูกต้องนะ
00:21:51 → 00:21:54 ครับก็ลองดูอย่างี้สมมุติคุณจะดื่มมัน
00:21:54 → 00:21:57 เพราะว่าคุณเป็นโรคหัวใจโรคความดันแล้วก็
00:21:57 → 00:22:00 มีไขมันสูงคุณก็ลองดื่มไปครับดื่มไปสัก
00:22:00 → 00:22:03 2-3 เดือนแล้วไปตรวจดูว่าคอเลสเตอรอลของ
00:22:03 → 00:22:06 คุณมันลงหรือเปล่านะครับดูซิว่าเรื่องของ
00:22:06 → 00:22:09 โรคหัวใจแล้วก็เรื่องความดันของคุณมันคุม
00:22:09 → 00:22:13 ได้ดีหรือเปล่านะครับโดยระหว่างนี้อย่า
00:22:13 → 00:22:16 หยุดยาที่คุณกินเป็นอันขาดเพราะว่ามันอาจ
00:22:16 → 00:22:19 จะทำให้ตัวโรคกำเริบได้นะครับส่วนคนที่มี
00:22:19 → 00:22:21 แค่เรื่องของไขมันที่มันสูงปกติแล้วคุณ
00:22:21 → 00:22:24 อยากจะทดลองคุณก็ลองดื่มไปก็ได้ครับถ้า
00:22:24 → 00:22:26 คุณยังไม่อยากกินยาแล้วคุณลองดูซิว่าดื่ม
00:22:26 → 00:22:28 ไปสักเดือน 2 เดือนเนี่ยไขมันมันจะลดหรือ
00:22:28 → 00:22:30 เปล่าถ้าไม่ลดคุณก็จะได้คำตอบกับตัวเอง
00:22:30 → 00:22:32 แล้วครับว่าน้ำไฮโดรเจนไม่ได้ช่วยอะไรเลย
00:22:32 → 00:22:35 นะดังนั้นอันนี้ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์
00:22:35 → 00:22:38 กับหลายๆคนนะครับถ้าถามผมผมคิดว่าน้ำ
00:22:38 → 00:22:39 เปล่าเนี่ยแหละครับดีที่สุดขอให้ดื่มให้
00:22:39 → 00:22:42 ได้ 2 ลิตรต่อวันนะครับหรือบางคนก็อาจจะ
00:22:42 → 00:22:44 แล้วแต่ตัวโรคประจำตัวที่เป็นนะครับไม่
00:22:44 → 00:22:47 จำเป็นจะต้องไปสรรหาน้ำแปลกๆมาดื่มนะครับ
00:22:47 → 00:22:50 มันไม่ได้มีประโยชน์อะไรมากมายเลยถ้าด้วย
00:22:50 → 00:22:52 ข้อมูลความรู้ที่มีอยู่ตอนนี้ทั้งหมดนะ
00:22:52 → 00:22:57 ครับก็ต้องบอกว่าสรุปแล้วน้ำด่างน้ำแร่
00:22:57 → 00:23:00 น้ำไฮโดรเจนไม่ได้มีประโยชน์อะไรมากไป
00:23:00 → 00:23:04 กว่าน้ำปกติแต่อย่างใดนี่คือด้วยข้อสรุป
00:23:04 → 00:23:07 ปัจจุบันแต่ถ้ามีข้อสรุปในอนาคตคือมีงาน
00:23:07 → 00:23:10 วิจัยที่มันใหญ่นะครับใหญ่ขนาดไหนคือถ้า
00:23:10 → 00:23:11 คุณจะวิทยาเรื่องน้ำไฮโดรเจนคุณต้องมี
00:23:12 → 00:23:14 ระดับ randomized control trial มีคน
00:23:14 → 00:23:17 อยู่ในนั้นเนี่ยเป็นตัวอย่างเป็น 1000 คน
00:23:17 → 00:23:19 แล้วเอามาเทียบกันเลยคนที่ดื่มกับไม่ดื่ม
00:23:19 → 00:23:21 มันต่างกันมั้ยนะครับต้องเป็นระดับนั้นนะ
00:23:21 → 00:23:23 ครับซึ่งผมบอกได้เลยว่าไม่มีทางคนมีใครทำ
00:23:23 → 00:23:26 หรอกครับนะแต่ก็ต้องมีข้อมูลแบบนั้นเรา
00:23:26 → 00:23:28 ถึงจะสามารถพูดได้อย่างชัดเจนว่ามันทำได้
00:23:28 → 00:23:31 อย่างที่เขาโฆษณาจริงๆดังนั้นต้องอย่าไป
00:23:31 → 00:23:34 ให้กูรูหลายๆท่านหลอกท่านได้นะครับว่ามี
00:23:34 → 00:23:36 ข้อมูลครบแล้วมาออกมาจากอเมริกาออกมาจาก
00:23:36 → 00:23:39 ญี่ปุ่นเพราะว่ามันไม่ได้มีข้อมูลในระดับ
00:23:39 → 00:23:42 ที่เชื่อถือได้ขนาดนะครับโอเควันนี้ก็
00:23:42 → 00:23:44 เท่านี้นะครับใครมีอะไรสอบถามก็สอบถามมา
00:23:44 → 00:23:48 ได้นะครับขอบคุณมากครับสวัสดี