00:00:06 → 00:00:08 กลุ่มที่เป็นโรคอ้วนก็คือกลุ่มที่ดัชนี
00:00:08 → 00:00:11 มวลกายเนี่ยเกิน 25 ขึ้นไปนะครับแล้วก็
00:00:11 → 00:00:14 กลุ่มที่เกิน 30 ขึ้นไปเนี่ยเรียกว่าเป็น
00:00:14 → 00:00:18 โรคอ้วนอันตรายมีผลกับคุณภาพชีวิตมีผลกับ
00:00:18 → 00:00:20 อายุขัยโดยตรงคนไทยอย่างน้อยนะครับอย่าง
00:00:20 → 00:00:23 น้อย 20.8 ล้านคนเนี่ยมีภาวะอ้วนหรือเป็น
00:00:23 → 00:00:26 โรคอ้วนเด็กอ้วนหรือว่าวัยรุ่นอ้วน
00:00:26 → 00:00:29 ปัจจุบันถือว่าเป็นปัญหาที่ทั่วโลกเจอ
00:00:29 → 00:00:32 คล้ายๆกันถ้าอายุน้อยโลกประจำตัวเยอะตั้ง
00:00:32 → 00:00:34 แต่ต้นเนี่ยเราก็เหมือนมีข้อจำกัดของ
00:00:34 → 00:00:36 ชีวิตเยอะตั้งแต่แรกแล้วอาจจะเป็นเบาหวาน
00:00:36 → 00:00:39 ขึ้นตาหรือเป็นเบาหวานลงไตเพื่อให้โอกาส
00:00:39 → 00:00:42 ในการเป็นมะเร็งเต้านมมะเร็งลำไส้ใหญ่
00:00:42 → 00:00:44 มะเร็งถุงน้ำดีมะเร็งกระเพาะ
00:00:44 → 00:00:46 [เพลง]
00:00:46 → 00:00:49 ฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคภัยฟังราย
00:00:49 → 00:00:56 การโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงสถิตพรค่ะ
00:00:56 → 00:00:58 สวัสดีค่ะคุณผู้ฟังค่ะได้เวลาแล้วนะคะกับ
00:00:58 → 00:01:01 รายการโรงหมอทาง Thai PBS podcas
00:01:01 → 00:01:04 สำหรับคุณผู้ฟังในวันนี้นะคะติดตามกันถึง
00:01:04 → 00:01:06 เรื่องของการรักษาแบบใหม่เกี่ยวกับโรค
00:01:06 → 00:01:08 อ้วนนี่แหละนะคะเขามีการรักษาแบบไหนกัน
00:01:08 → 00:01:11 บ้างนะคะแล้วก็น่าสนใจยังไงวันนี้ถึงได้
00:01:11 → 00:01:14 นำมาคุยกันต้องคุยกับนายแพทย์เสถียรพงษ์
00:01:14 → 00:01:16 จันทวิบูลย์ค่ะศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน
00:01:16 → 00:01:20 การผ่าตัดผ่านกล้องชั้นสูงและผ่าตัดโรค
00:01:20 → 00:01:22 อ้วนนะคะคลินิกโรคอ้วนโรงพยาบาลราชวิถี
00:01:22 → 00:01:26 ค่ะสวัสดีค่ะคุณหมอคะครับสวัสดีครับมากัน
00:01:26 → 00:01:28 อีกแล้วค่ะวันนี้เรื่องของโรคอ้วนนะคะ
00:01:28 → 00:01:32 เป็นอีกโรคนึงที่เอ่อต้องบอกว่าทำความ
00:01:32 → 00:01:34 เข้าใจกับคุณผู้ฟังกันอีกครั้งนึงก่อนนะ
00:01:34 → 00:01:38 คะคุณคุณหมอคะว่าโรคอ้วนเนี่ยแบบไหนถึงจะ
00:01:38 → 00:01:42 เรียกว่าโรคอ้วนค่ะคุณหมอก็กลุ่มที่เป็น
00:01:42 → 00:01:44 โรคอ้วนก็คือกลุ่มที่ดัชนีมวลกายเนี่ย
00:01:44 → 00:01:48 เกิน 25 ขึ้นไปนะครับหรือว่าใช้ค่าเขา
00:01:48 → 00:01:50 เรียกว่าค่า Body Mass Index Bed หรือ
00:01:50 → 00:01:53 BMI นะครับก็คือเป็นน้ำหนักเป็นกิโลกรัม
00:01:53 → 00:01:56 หารด้วยส่วนสูงเป็นเมตรยกกำลัง 2 นะครับ
00:01:56 → 00:01:58 ถ้าเกิดเกิน 25 ขึ้นไปเนี่ยถือว่าเป็นโรค
00:01:58 → 00:02:02 อ้วนแล้วก็กลุ่มที่เกิน 30 ขึ้นไปเนี่ย
00:02:02 → 00:02:05 เรียกว่าเป็นโรคอ้วนอันตรายก็คือมีผลกับ
00:02:05 → 00:02:08 คุณภาพชีวิตมีผลกับอายุขัยโดยตรงนะครับ
00:02:08 → 00:02:11 อันนี้ก็จะให้คุณผู้ฟังได้เข้าใจนะคะว่า
00:02:11 → 00:02:15 นี่คือเกณฑ์มาตรฐานที่มีการตั้งเอาไว้นะ
00:02:15 → 00:02:17 คะถ้าเกินเนี่ยก็ต้องระวังด้วยคือเดี๋ยว
00:02:18 → 00:02:20 นี้คุณหมอคะเรามีวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป
00:02:20 → 00:02:24 เนาะแล้วก็ความเครียดก็ค่อนข้างสูงแล้วก็
00:02:24 → 00:02:28 ความรีบเร่งอาหารการกินก็โอ้โหเอาแหละมัน
00:02:28 → 00:02:31 หลากหลายก็จริงนะคะแต่ส่วนใหญ่ก็จะ
00:02:31 → 00:02:34 บุฟเฟ่ต์เยอะขึ้นนะคะซึ่งล่อตาล่อใจเหลือ
00:02:34 → 00:02:36 เกินนะคะแล้วก็รวมไปถึง
00:02:36 → 00:02:40 เครื่องดื่มขนมหวานต่างๆเยอะถามคุณหมอค่ะ
00:02:40 → 00:02:44 คุณหมอคนไทยเป็นโรคอ้วนกันเยอะไหมคะก็คน
00:02:44 → 00:02:46 ไทยเนี่ยเป็นเยอะคือ 1 คืออาหารบ้านเรา
00:02:46 → 00:02:49 อร่อยนะครับอาหารบ้านเราอร่อยนะครับแล้ว
00:02:49 → 00:02:52 ก็อุดมสมบูรณ์นะครับดังนั้นจริงๆจากตัว
00:02:52 → 00:02:54 เลขเนี่ยคนไทยอย่างน้อยนะครับอย่างน้อย
00:02:54 → 00:02:58 20.8 ล้านคนเนี่ยมีภาวะอ้วนหรือเป็นโรค
00:02:58 → 00:03:02 อ้วนโหนะครับ 20.8 ล้านคนอันนี้เป็นตัว
00:03:02 → 00:03:05 เลขตั้งแต่ปี 2557 ละผมคิดว่าปัจจุบัน
00:03:05 → 00:03:08 เนี่ยน่าจะเกินนี้ไปละหรือถ้าพูดง่ายๆคือ
00:03:08 → 00:03:11 จริงๆคือคนไทย 1 ใน 3 เนี่ยเป็นโรคอ้วน
00:03:11 → 00:03:13 ใช้คำว่าโรคอ้วนเลยใช่ไหมคะเจอเยอะยิ่ง
00:03:13 → 00:03:17 กว่าโรคโควิดเลยนะครับมันเจอเยอะจริงๆก็
00:03:17 → 00:03:19 คือพูดง่ายๆคือ 1 ใน 3 ของคนไทยเนี่ยเป็น
00:03:19 → 00:03:23 โรคอ้วนนะครับเดินมา 3 คนนี้ 1 แล้วลอง
00:03:24 → 00:03:26 สังเกตดูนะครับเดินตามห้างเดินตามหน่อยก็
00:03:26 → 00:03:29 จะเจอเรื่อยๆคือบางคนอาจจะไม่ได้แบบอ้วน
00:03:29 → 00:03:33 เพลงหรืออย่างคนผอมๆไม่อาจจะบอกว่าผอมก็
00:03:33 → 00:03:36 ไม่ใช่ผอมแบบผอมจริงๆจังๆแต่อาจจะตัวไม่
00:03:36 → 00:03:38 ขนาดเท่ากับคนที่เขาอ้วนๆก็มีภาวะเสี่ยง
00:03:38 → 00:03:41 ในการเป็นโรคอ้วนได้เหมือนกันใช่ครับก็
00:03:41 → 00:03:43 คือเราต้องดูจริงๆถ้าจะวัดให้ละเอียด
00:03:43 → 00:03:47 เนี่ยก็ต้องใช้เครื่องวัดอ่ามวลร่างกายนะ
00:03:47 → 00:03:49 ครับแต่ว่าเราดูคร่าวๆนะครับก็ดูจากค่า
00:03:49 → 00:03:53 ดัชนีเหมือนกันนะครับซึ่งกลุ่มนี้พอยิ่ง
00:03:53 → 00:03:55 ในคนเอเชียหรือว่าอย่างในคนไทยเรายัง
00:03:55 → 00:03:59 เนี่ยน้ำหนักไม่เยอะมากนะครับแบบดัชนีมวล
00:03:59 → 00:04:02 กายนิดหน่อยนะครับมันมีความเสี่ยงที่จะ
00:04:02 → 00:04:07 เป็นเบาหวานได้เร็วกว่าคนคนฝรั่งนะครับ
00:04:07 → 00:04:10 อย่างพูดง่ายๆคือจริงๆถ้าดัชนีมวลกาย
00:04:10 → 00:04:13 ประมาณ 27 28 ขึ้นไปเนี่ยคนเอเชียแบบเรา
00:04:13 → 00:04:15 เนี่ยเริ่มเสี่ยงเป็นเบาหวานละพอเราจะพบ
00:04:15 → 00:04:17 ว่าคนเอเชียเนี่ยอ้วนดอกมักจะเป็นอ้วนลง
00:04:17 → 00:04:19 พุงด้วยแล้วก็มักจะไขมันในช่องท้องเยอะ
00:04:19 → 00:04:23 แขนขาเล็กส่วนฝรั่งเนี่ยเขาอาจจะอ้วนจริง
00:04:23 → 00:04:27 แต่ว่าเขาจะแขนขาแขนขาใหญ่ก็อาจจะไม่ใหญ่
00:04:27 → 00:04:30 มากเมื่อเทียบสัดส่วนนะครับดังนั้นคนไทย
00:04:30 → 00:04:34 เนี่ยเราก็ต้องระวังนิดนึงคืออาจจะดู
00:04:34 → 00:04:37 เนี่ยตัวไม่ได้ใหญ่มากนะครับแต่ว่าเนี่ย
00:04:37 → 00:04:41 เป็นเบาหวานละครับอันนี้ต้องตรวจสุขภาพ
00:04:41 → 00:04:44 เป็นประจำทุกปีนะคะใช่ต้องคอยเช็คน้ำตาล
00:04:44 → 00:04:46 ในเลือดนะครับหรือว่ายิ่งคนที่แบบมีคุณ
00:04:46 → 00:04:48 พ่อคุณแม่เป็นเบาหวาน
00:04:48 → 00:04:50 เนี่ยอาจจะต้องระวังเหมือนมีกรรมพันธุ์
00:04:50 → 00:04:53 ร่วมด้วยนะครับแล้วอย่างเงี้ยคืออย่างอาจ
00:04:54 → 00:04:56 จะเป็นความชื่นชอบของบางคนที่เห็นว่า
00:04:56 → 00:05:00 อย่างตั้งแต่เป็นเด็กก็จ้ำม่ำอ้วนแบบอุ๊ย
00:05:00 → 00:05:03 น่าหยิกหน้าหยอกนะคะแล้วก็แบบเอ้ยโตมาของ
00:05:03 → 00:05:07 เค้าก็บางอย่างบางคนเขาก็จะแบบทรงใช่ครับ
00:05:07 → 00:05:10 อ้วนมาตั้งแต่เด็กเลยคือเด็กอ้วนหรือว่า
00:05:10 → 00:05:13 วัยรุ่นอ้วนเนี่ยปัจจุบันถือว่าเป็นปัญหา
00:05:13 → 00:05:16 ที่ทั่วโลกเจอคล้ายๆกันไม่ว่าจะในยุค
00:05:16 → 00:05:19 ยุโรปอเมริการวมถึงบ้านเราเองด้วยนะครับ
00:05:19 → 00:05:23 ซึ่งพูดจริงๆก็คือเด็กที่อ้วนหรือว่าวัย
00:05:23 → 00:05:25 รุ่นที่อ้วนเนี่ยมันก็จะมีปัญหาเรื่อง
00:05:25 → 00:05:28 พฤติกรรมการกินพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ผิด
00:05:28 → 00:05:31 ปกตินะครับพอโตขึ้นมาเนี่ยเขาก็แสดงว่าจะ
00:05:31 → 00:05:34 เป็นผู้ใหญ่ที่อ้วนนะครับซึ่งมันไม่ได้
00:05:34 → 00:05:37 ไม่ได้ดูน่ารักหรือว่าอะไรนะครับตอนผม
00:05:37 → 00:05:40 เห็นมันก็จะมีความเสี่ยงที่จะมีโรคประจำ
00:05:40 → 00:05:42 ตัวตามมาอีกมากมาย
00:05:42 → 00:05:45 นะครับซึ่งถ้าอายุน้อยโรคประจำตัวเยอะ
00:05:45 → 00:05:48 ตั้งแต่ต้นเนี่ยเราก็เหมือนมีข้อจำกัดของ
00:05:48 → 00:05:51 ชีวิตเยอะตั้งแต่แรกแล้วอายุไม่เยอะ 18-19
00:05:51 → 00:05:54 ปีเป็นเบาหวานตั้งแต่ตอนนี้ก็มีโอกาสที่
00:05:54 → 00:05:58 จะจะสุขภาพเสียเยอะนะครับอาจจะเป็นเบา
00:05:58 → 00:06:02 หวานขึ้นตาหรือเป็นเบาหวานลงไตนะครับนอก
00:06:02 → 00:06:04 จากนี้เนี่ยพอน้ำหนักเยอะเนี่ยร่างกายจะ
00:06:04 → 00:06:07 มีเหมือนภาวะอักเสบจากการที่เซลล์ไขมัน
00:06:07 → 00:06:10 มันหลั่งสารอักเสบออกมาตลอดเวลานะครับมัน
00:06:10 → 00:06:13 ก็จะมีผลเช่นเพิ่มโอกาสในการเป็นมะเร็ง
00:06:13 → 00:06:16 เต้านมมะเร็งลำไส้ใหญ่มะเร็งถุงน้ำดี
00:06:16 → 00:06:20 มะเร็งกระเพาะนะครับรวมถึงในผู้หญิงเนี่ย
00:06:20 → 00:06:23 วัยรุ่นนะในผู้หญิงวัยรุ่นเนี่ยเจอค่อน
00:06:23 → 00:06:26 ข้างเยอะปัจจุบันคือพอน้ำหนักเยอะเนี่ยจะ
00:06:26 → 00:06:29 มีปัญหาเรื่องของสมดุลฮอร์โมนเพศทำให้มี
00:06:29 → 00:06:33 ปัญหาก็คือประจำเดือนไม่มาหรือว่าประจำ
00:06:33 → 00:06:36 เดือนมามากผิดปกตินะครับซึ่งสุดท้ายก็จะ
00:06:36 → 00:06:40 ไปส่งผลเรื่องของการมีบุตรในอนาคตอาจจะมี
00:06:40 → 00:06:42 บุตรยากหรือว่า
00:06:42 → 00:06:45 มีความเสี่ยงที่ตั้งครรภ์แล้วจะมีภาวะ
00:06:45 → 00:06:47 แทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ได้นะครับรวมถึง
00:06:47 → 00:06:52 จะมีปัญหาเช่นอาจจะมีผิวมันง่ายนะครับผิว
00:06:52 → 00:06:55 มันง่ายคนเยอะตามบริเวณที่ผิดปกติได้นะ
00:06:55 → 00:06:57 ครับซึ่งจริงๆเนี่ยสาเหตุหลักๆก็คือเป็น
00:06:57 → 00:07:00 มาจากน้ำหนักที่เยอะเกินหรือว่าเป็นโรค
00:07:00 → 00:07:03 อ้วนนะครับแล้วอย่างคุณแม่หลังคลอดหรอคะ
00:07:03 → 00:07:08 อย่างนี้ที่แบบน้ำหนักไม่ลงก็ยังคงแบบ
00:07:08 → 00:07:11 พอหลังคลอดไปแล้วปกติบางคนก็น้ำหนักลงใช่
00:07:11 → 00:07:13 ไหมบางคนก็ไม่ลงแถมยังตัวใหญ่ขึ้นกว่า
00:07:13 → 00:07:15 เดิมอันนี้ถือว่า
00:07:15 → 00:07:18 เสี่ยงเป็นโรคอ้วนหรือว่าเป็นโรคอ้วนได้
00:07:18 → 00:07:21 ไหมอย่างเงี้ยก็ก็เหมือนคิดเหมือนคนปกติ
00:07:21 → 00:07:23 นะครับคุณแม่หลังน้ำหนักเอ่อคุณแม่หลัง
00:07:23 → 00:07:25 คลอดเนี่ยปกติน้ำหนักก็ควรจะเข้าที่ได้
00:07:25 → 00:07:28 อืมนะครับถ้ามันไม่เข้าที่มันยังค้างอยู่
00:07:28 → 00:07:31 อย่างนั้นก็เรียกได้ว่าเป็นโรคอ้วนเหมือน
00:07:31 → 00:07:35 กันนะครับซึ่งซึ่งส่วนมากผู้หญิงก็จะน้ำ
00:07:35 → 00:07:37 หนักขึ้นหลังคลอดได้ค่อนข้างค่อนข้างเยอะ
00:07:37 → 00:07:40 นะครับแต่ว่าถ้าในคนปกติทั่วๆไปเนี่ยน้ำ
00:07:40 → 00:07:42 หนักมันควรต้องกลับมาใกล้เคียงกับก่อน
00:07:42 → 00:07:45 ตั้งครรภ์นะครับถ้าเกิดมันไม่ลงมาแปลว่า
00:07:45 → 00:07:47 ระหว่างตั้งครรภ์เนี่ยมันขึ้นเยอะเกินไป
00:07:47 → 00:07:51 มันขึ้นเยอะเกินไปฟังคุณหมอมานี้ก็อาจจะ
00:07:51 → 00:07:53 มีจากหลายๆอย่างเหมือนกันแล้วก็พฤติกรรม
00:07:53 → 00:07:56 ของทุกวันนี้เนาะคือเราแบบพฤติกรรมเนย
00:07:56 → 00:08:00 นิ่งอยู่กับโซฟาเป็นไลฟ์แบบคนเมืองอ่ะ
00:08:00 → 00:08:02 ครับเราไม่ค่อยได้เทรนทีไม่มี activity
00:08:02 → 00:08:04 อะไรเยอะนะครับอันนี้เป็นปัญหาอยู่แล้ว
00:08:04 → 00:08:08 ครับเราต้องพยายามระวังหน่อยนะย้อนไปสมัย
00:08:08 → 00:08:10 สมัยเด็กๆเลยอ่ะค่ะกระโดดเชือกกระโดดยาง
00:08:10 → 00:08:13 นะคะคุณหมอทันไหมคะ
00:08:14 → 00:08:18 เราไม่ได้มีการแบบโซเชียลหรืออะไรอย่าง
00:08:18 → 00:08:22 นี้มันก็เลยทำให้เราได้มีการไปเล่นไปวิ่ง
00:08:22 → 00:08:25 หรืออะไรก็แล้วแต่มันมีกิจกรรมทางกายค่อน
00:08:25 → 00:08:27 ข้างเยอะเนาะใช่ครับปัจจัยมันเยอะครับก็
00:08:27 → 00:08:30 คือมันคงเป็นเทรนด์ของของโลกปัจจุบันด้วย
00:08:30 → 00:08:32 ไม่ว่าจะเป็นฟาสต์ฟู้ดเรามีเวลาทานอาหาร
00:08:32 → 00:08:34 น้อยพฤติกรรมการกินอาหารแบบตะวันตกเข้ามา
00:08:34 → 00:08:38 ในบ้านเราเยอะหรือพวกบุฟเฟ่ต์เรากินแล้ว
00:08:38 → 00:08:41 ก็ติดใจอย่างนี้แล้วก็กินต่อหรือว่าบางคน
00:08:41 → 00:08:43 กินไปกินมาสุดท้ายก็เพราะมันพลาดมันใหญ่
00:08:43 → 00:08:46 ขึ้นเขาก็กินธรรมดาไม่อิ่มก็จะเพิ่ม
00:08:46 → 00:08:49 ปริมาณการกินไปเรื่อยๆคุณหมอใช้คำว่า
00:08:49 → 00:08:54 กระเพาะคราดเหมือนมันใช้ข้อนี้มันมันใหญ่
00:08:54 → 00:08:57 ขึ้นน่ะมันค้างมันๆโดนยืดขึ้นเรื่อยๆ
00:08:57 → 00:09:00 เรื่อยๆขยายขึ้นเรื่อยๆใช่สุดท้ายมันก็
00:09:00 → 00:09:03 กินยังไงก็ไม่อิ่มก็ต้องเพิ่มอย่างแต่
00:09:03 → 00:09:06 ก่อนเรากินข้าว 1 จานแล้วเราก็พยายามอัด 2
00:09:06 → 00:09:08 จานไปเรื่อยๆสุดท้ายก็พอแล้วก็ใหญ่ขึ้น
00:09:08 → 00:09:11 เราอัด 3 จานมันก็ใหญ่ขึ้นอีกแล้วพวกนี้
00:09:11 → 00:09:14 สามารถใหญ่มันก็ไม่ได้หดกลับลงมานะครับ
00:09:14 → 00:09:18 มันก็จะมีปัญหาได้คิดว่าจะว่าเออบางทีเรา
00:09:18 → 00:09:20 รู้สึกว่าจากกระเพาะเมื่อก่อนเป็นคนกิน
00:09:20 → 00:09:22 เยอะเดี๋ยวปัจจุบันนี้คือกินน้อยลง
00:09:22 → 00:09:25 กระเพาะมันน่าจะเล็กลงหรือเปล่านี่คุณ
00:09:25 → 00:09:27 ความเข้าใจจริงๆไม่ใช่หรอคะไม่ใช่ครับมัน
00:09:27 → 00:09:30 คงไม่สามารถหดกลับเข้ามาได้นะครับนึกภาพ
00:09:30 → 00:09:31 เหมือนเรา
00:09:31 → 00:09:34 ดูอย่างผิวหนังแล้วก็ได้ครับเวลาที่เรา
00:09:34 → 00:09:35 น้ำหนักเยอะแล้วเนี่ยมันยืดออกไปแล้ว
00:09:35 → 00:09:38 เนี่ยมันไม่ได้หดกลับเข้ามาย้วยเลยทีนี้
00:09:38 → 00:09:41 ใช่พอเราลดน้ำหนักมันก็จะมีภาวะ ui ได้นะ
00:09:41 → 00:09:44 ครับอย่างนี้กระเพาะย้วยเหรอคะคุณหมอ
00:09:44 → 00:09:47 ผมเป็นคำว่ากระเพาะยืดแล้วกันนะครับ
00:09:47 → 00:09:50 อ๋อไม่ไหวมันยืดออกเพราะฉะนั้นก็เลยทำให้
00:09:50 → 00:09:53 กินยังไงก็ไม่อิ่มสักทีรีบตอบโจทย์มากเลย
00:09:53 → 00:09:56 ทั้งนั้นน่ะเออใช่อาจจะอิ่มเช้าคนทั่วไป
00:09:56 → 00:10:00 นี่ขนาดว่าอิ่มตรงนั้นแล้วยังเรายังมีเขา
00:10:00 → 00:10:02 ก็แซวๆกันว่ามีกระเพาะสำหรับพื้นที่ใส่
00:10:02 → 00:10:04 ของหวานได้อีกนะคะใช่กระเพาะ 4 มิติ
00:10:04 → 00:10:09 กระเพาะ 5 มิติอะไรก็ว่าไปค่ะเต็มที่แต่
00:10:09 → 00:10:11 ถามว่าอิ่มไหมอิ่มอิ่มจนไม่ไหวแล้วแต่บาง
00:10:11 → 00:10:14 ทีมันอิ่มแล้วค่ะคุณหมอแต่ว่ามันรู้สึก
00:10:14 → 00:10:18 ว่าอยากกินอ่ะเสียดายบ้างแหละเนาะมันก็
00:10:18 → 00:10:21 คือจริงๆเวลาเราตัดสินใจว่าจะกินอะไรสัก
00:10:21 → 00:10:23 อย่างเนี่ยจริงๆมันมี 1 คือเรื่องของของ
00:10:23 → 00:10:26 ความหิวปกตินะครับอันนี้เป็นพาร์ทที่
00:10:26 → 00:10:29 เพื่อความอยู่รอดของร่างกายอันต่อมาเนี่ย
00:10:29 → 00:10:32 เป็นเรื่องของความอยากละความอยากหมายความ
00:10:32 → 00:10:35 ว่าเรากินแล้วร่างกายรู้สึกเหมือนได้รับ
00:10:35 → 00:10:38 รางวัลเช่นกินแล้วฮอร์โมนความสุขหลังนะ
00:10:38 → 00:10:40 ครับอันนี้ก็จะเป็นพาร์ทคล้ายๆเป็นพาร์ท
00:10:40 → 00:10:43 ของหวานแล้วกันที่คนชอบกินหรือสุดท้ายก็
00:10:43 → 00:10:45 คือกินแบบกินเพราะว่าต้องตัดสินใจว่าต้อง
00:10:45 → 00:10:49 กินเช่นเวลาเราไปกินบุฟเฟ่ต์กินไม่หมดโดน
00:10:49 → 00:10:52 ปรับแน่นอนอันนี้ก็เป็นพาร์ทที่แบบร่าง
00:10:52 → 00:10:54 กายสั่งให้กินละไม่อยากกินหรอกแต่ต้องกิน
00:10:54 → 00:10:57 ไม่งั้นเดี๋ยวจะโดนปรับนะครับซึ่งจริงๆ
00:10:57 → 00:10:59 พาร์ทที่เราควรจะกินเท่าที่พอเนี่ยคือพาย
00:10:59 → 00:11:03 ความหิวเฉยๆนะครับกินแล้วก็พอคำอย่างไหน
00:11:03 → 00:11:04 นิดหน่อยได้
00:11:04 → 00:11:08 เออไม่งั้นน้ำหนักเราก็จะขึ้นไปเรื่อยๆ
00:11:08 → 00:11:09 ได้
00:11:09 → 00:11:11 เพราะฉะนั้นก็ถ้าไม่อยากให้กระเพาะมัน
00:11:12 → 00:11:16 ขยายมากไปก็เอาแค่พออิ่มแบบแต่ละคนพออิ่ม
00:11:16 → 00:11:18 ก็ไม่เหมือนกันนะคะบางคนอาจจะกินแค่นี้
00:11:18 → 00:11:21 อิ่มเร็วกระเพาะคนเราเท่ากันไหมคะคุณหมอ
00:11:21 → 00:11:23 ไม่เข้าอยู่แล้วครับไม่เท่าอยู่แล้วครับ
00:11:23 → 00:11:26 คือตัวใหญ่จะใหญ่กว่าไหมอันนี้บอกบอกไม่
00:11:26 → 00:11:28 ได้นะว่าตัวใหญ่จะใหญ่กว่าไหมโดยปกติมัน
00:11:28 → 00:11:32 ก็จะมีมีความหลากหลายอยู่นิดหน่อยโดยทั่ว
00:11:32 → 00:11:34 ๆไปอาจจะประมาณสัก 1.5 ลิตรนะครับขนาด
00:11:34 → 00:11:37 กระเพาะอาจจะบอกลบบางคน 2 ลิตรบางคนนิด
00:11:37 → 00:11:40 นึงเนี่ยก็มีนะครับแต่ว่าทุกคนคงไม่ได้
00:11:40 → 00:11:43 เท่ากันหรอกหรืออย่างเวลาเวลาผมส่องกล้อง
00:11:43 → 00:11:45 ผ่าตัดเนี่ยแต่ละคนขนาดกระเพาะก็ไม่ได้
00:11:45 → 00:11:46 เท่ากันอยู่แล้ว
00:11:46 → 00:11:49 นะครับก็จะ
00:11:49 → 00:11:51 อัดของกินเข้าไปได้มากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่
00:11:51 → 00:11:54 กับความจุขึ้นมาความจุอารมณ์เหมือนหม้อ
00:11:54 → 00:11:55 หุงข้าวเลย
00:11:55 → 00:12:00 ใส่เข้าไปมากเป็นหม้อหุงข้าวขยายใส่ได้นะ
00:12:00 → 00:12:02 คะแต่อันนั้นคือเป็นกระเพาะของเรานั่นเอง
00:12:02 → 00:12:05 นะคะอ่าแต่ว่าถ้าเกิดมันมีผลกระทบกินเยอะ
00:12:05 → 00:12:07 ขนาดนี้ไปวันนึงเนาะมันมีผลเรื่องของกับ
00:12:07 → 00:12:10 การเป็นโรคอ้วนหรือโรคอ้วนอันตรายขึ้นมา
00:12:10 → 00:12:13 อย่างเงี้ยคุณหมออย่างที่คุณหมอบอกมันมี
00:12:13 → 00:12:16 เรื่องของการผ่าตัดแบบใหม่เอออันนี้มัน
00:12:16 → 00:12:18 ยังไงคะคุณหมอ
00:12:18 → 00:12:21 คือจริงๆผ่าตัดกระเพาะเนี่ยจริงๆมันมีมา
00:12:21 → 00:12:25 เกิน 30 ปีแล้ววิธีมาตรฐานเดิมเนี่ยเขา
00:12:25 → 00:12:28 เรียกว่าเป็นวิธีบายพาสแล้วก็ก็คือเป็น
00:12:28 → 00:12:31 การตัดต่อกระเพาะให้เล็กลงส่วนนึงแล้วก็
00:12:31 → 00:12:33 ทำทางเชื่อมลำเส้นเล็กใหม่ด้วย
00:12:33 → 00:12:36 นะครับมันอาจจะฟังดูเห็นภาพยากนะนะครับ
00:12:36 → 00:12:39 เดี๋ยวๆต้องอาจจะต้องดูรูปอีกทีนึงนะครับ
00:12:39 → 00:12:43 อันต่อมาเนี่ยวิธีที่ได้รับความนิยมสูงใน
00:12:43 → 00:12:45 ช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเนี่ยเขาเรียกว่าเป็น
00:12:45 → 00:12:49 วิธีการผ่าตัดแบบ Sleep นะครับร้อยละ 80
00:12:49 → 00:12:51 90 ของคนไข้ทั่วโลกในปัจจุบันเนี่ยผ่า
00:12:51 → 00:12:53 ตัดด้วยวิธีนี้
00:12:53 → 00:12:56 ก็คือเป็นการตัดกระเพาะส่วนใหญ่ประมาณ 85%
00:12:56 → 00:13:00 ของกระเพาะออกไปนะครับเพื่อลดฮอร์โมนความ
00:13:00 → 00:13:05 หิวและทำให้ทานได้น้อยลงด้วยนะครับส่วน
00:13:05 → 00:13:08 วิธีแบบใหม่เนี่ยที่เริ่มมาในช่วง
00:13:08 → 00:13:11 ปัจจุบันเนี่ยสัก 3-4 ปีที่ผ่านมานะก็จะ
00:13:11 → 00:13:13 เป็นเขาเรียกว่าเป็นวิธีการผ่าตัดแบบ
00:13:13 → 00:13:17 Sleep Plus บายพาสเป็นสลิป Plus บายพาส
00:13:17 → 00:13:20 ใช่รวมกันนะครับข้อดีของการผ่าตัดวิธีแบบ
00:13:20 → 00:13:22 นี้ก็คือ
00:13:22 → 00:13:27 อาจจะเหมาะในคนเอเชียมากกว่าฝั่งยุโรป
00:13:27 → 00:13:29 หรือว่าฝั่งอเมริกาเพราะว่านะครับเพราะ
00:13:30 → 00:13:31 ว่าการผ่าตัดแบบ
00:13:31 → 00:13:35 Sleep เนี่ยมันจะมีข้อดีคือมันค่อนข้าง
00:13:35 → 00:13:40 ไม่ยุ่งยากซับซ้อนนะครับแล้วก็การที่เรา
00:13:40 → 00:13:44 ตัดกระเพาะออกไปเลยเนี่ยก็จะทำให้เรา
00:13:44 → 00:13:46 สามารถส่องกล้องหรือว่าตรวจเช็คกระเพาะใน
00:13:46 → 00:13:49 อนาคตได้คืออย่างนี้คือในเอเชียเนี่ยมัน
00:13:49 → 00:13:52 มีโอกาสที่จะเป็นมะเร็งกระเพาะได้มากกว่า
00:13:52 → 00:13:55 ฝั่งอเมริกาหรือฝั่งยุโรปถ้าเราทำบายพาส
00:13:55 → 00:13:57 แบบฝั่งนั้นแบบดั้งเดิมแบบวิธีแรกๆเนี่ย
00:13:57 → 00:14:00 โอกาสที่เราจะส่องกล้องเช็คกระเพาะใน
00:14:00 → 00:14:04 อนาคตเนี่ยมันจะยากเพราะว่ามันมันมันข้าม
00:14:04 → 00:14:14 ส่วนกระเพาะไป
00:14:14 → 00:14:17 นะครับมันก็เลยเป็นวิธีที่ได้รับความนิยม
00:14:17 → 00:14:19 เยอะในปัจจุบันเยอะในที่นี้หมายความว่า
00:14:19 → 00:14:23 นิยมในไต้หวันในญี่ปุ่นนะครับหรือว่า
00:14:23 → 00:14:25 กระทั่งในไทยเองก็เริ่มเริ่มมีคนทำเยอะ
00:14:25 → 00:14:28 ขึ้นนะครับคือผ่าตัดกระเพาะไปให้เล็กลง
00:14:28 → 00:14:32 บวกกับทางเชื่อมอาหารข้างล่างใหม่ด้วยมา
00:14:32 → 00:14:37 ที่ไหนคะลำไส้ก็คือมีหลายวิธีอาจจะบายพาส
00:14:37 → 00:14:40 ลำไส้เล็กส่วนต้นหรือบายพาสลำไส้เล็กส่วน
00:14:40 → 00:14:45 กลางอย่างนี้นะครับมันมีมันมีอ่ามีราย
00:14:45 → 00:14:47 ละเอียดค่อนข้างละเอียดเยอะนิดนึงในภาพ
00:14:47 → 00:14:51 นี้นะครับซึ่งพอเราคือคำว่าสลิป Plus
00:14:51 → 00:14:53 บายพาสเนี่ยคือเอากระเพาะออกแต่ว่าถ้า
00:14:53 → 00:14:56 เกิดเราใช้คำว่าบายพาสเฉยๆเนี่ยแบบดั้ง
00:14:56 → 00:14:58 เดิมเนี่ยเราจะเก็บกระเพาะทิ้งไว้ข้างใน
00:14:58 → 00:15:00 แต่เราจะไม่สามารถส่องกล้องเช็คกระเพาะ
00:15:00 → 00:15:03 ส่วนนี้ได้อีกต่อไปนะครับดังนั้นถ้า
00:15:03 → 00:15:06 สมมุติในอนาคตเกิดโชคร้ายเป็นกลุ่มที่มี
00:15:06 → 00:15:10 มะเร็งในกระเพาะส่วนเนี้ยมันก็จะเช็คได้
00:15:10 → 00:15:13 ช้าเพราะว่าเราๆไปเพราะเราจะมองไม่เห็นมา
00:15:13 → 00:15:15 แล้วเวลาเราส่องกล้องเช็คนะครับแต่ถ้า
00:15:15 → 00:15:18 เกิดเราทำเป็นสลิป Plus บายพาสเนี่ยเรา
00:15:18 → 00:15:20 สามารถเช็คกระเพาะได้ตลอดเพราะเรายังอยู่
00:15:20 → 00:15:23 ดีไหมไม่ได้เป็นมะเร็งไม่ได้มีกรดไหลย้อน
00:15:23 → 00:15:26 ไม่ได้มีก้อนเลยขึ้นมานะครับก็จะปลอดภัย
00:15:26 → 00:15:28 แต่ไม่ได้หมายความว่าการตัดกระเพาะเนี่ย
00:15:28 → 00:15:30 เพิ่มโอกาสเป็นมะเร็งอะไรนะอันนี้ไม่
00:15:30 → 00:15:33 เกี่ยวกันแยกกันแยกการใช้แค่บอกเฉยๆว่า
00:15:33 → 00:15:37 เวลาเราตรวจสุขภาพประจำปีตรวจเช็คส่อง
00:15:37 → 00:15:39 กล้องอะไรพวกนี้นะครับถ้าทำแบบบายพาส
00:15:39 → 00:15:40 เนี่ยมันจะไปเช็คกับเพาะไม่ได้
00:15:40 → 00:15:44 แต่ถ้าเป็นแบบแบบที่ทุกวันนี้อ่ะปี 2 ปี
00:15:44 → 00:15:49 ที่ผ่านมานี้ที่คนนิยมเริ่มทำก็คือเหมือน
00:15:49 → 00:15:53 เป็นวิวัฒนาการในการผ่าตัดมาเรื่อยๆเราก็
00:15:53 → 00:15:54 พยายาม
00:15:54 → 00:15:57 ลดข้อด้อยของการผ่าบายพาสในสมัยก่อน
00:15:57 → 00:16:00 เราก็พยายามปรับไปเรื่อยๆตามวิวัฒนาการ
00:16:00 → 00:16:03 หรอกครับว่าทำอะไรมันถึงจะดีขึ้นลดข้อ
00:16:03 → 00:16:05 เสียยังไงอย่างนี้นะครับ
00:16:05 → 00:16:08 อันนี้คือสนใจมากเพราะว่าคุณหมอบอกว่า
00:16:08 → 00:16:10 กระเพาะเราแล้วเราก็ทำเป็นเส้นทางเชื่อม
00:16:10 → 00:16:14 มาที่ลำไส้แสดงว่าปกติคือกระเพาะแล้วก็
00:16:14 → 00:16:18 ต่อกับลำไส้อยู่แล้วด้วยปกติใช่ไหมคะแต่
00:16:18 → 00:16:20 เราเปลี่ยนเส้นทางใช่คือผมพูดให้ฟังง่ายๆ
00:16:20 → 00:16:21 คือสมมุติ
00:16:21 → 00:16:24 กระเพาะเดิมเนี่ยมันก็ต่อกับลำไส้เล็ก
00:16:24 → 00:16:26 ส่วนต้นเรามันจะเล็กส่วนกลางแล้วก็ลำไส้
00:16:26 → 00:16:29 เล็กส่วนปลายแล้วค่อยไปแล้วค่อยไปลำไส้
00:16:29 → 00:16:32 ใหญ่การที่เราทำบายพาสก็หมายความว่าเรา
00:16:32 → 00:16:36 อาจจะปรับทางเดินอาหารเช่นจากกระเพาะมาลำ
00:16:36 → 00:16:38 ไส้เล็กส่วนกลางเลยไม่ผ่านเราจะได้ส่วน
00:16:39 → 00:16:43 ต้นใช่หรือว่าอาจจะกระเพาะมาลำไส้เล็ก
00:16:43 → 00:16:46 ส่วนต้นแล้วก็ข้ามลำไส้เล็กส่วนกลางไป
00:16:46 → 00:16:49 โผล่ลำไส้เล็กส่วนท้ายได้เลยนะครับดัง
00:16:49 → 00:16:52 นั้นโดย Concept ก็คือมันลดขนาดกระเพาะ
00:16:52 → 00:16:55 ปรับฮอร์โมนแล้วก็สุดท้ายการที่อาหาร
00:16:55 → 00:16:58 เนี่ยมันไปถึงลำไส้เล็กส่วนปลายหรือส่วน
00:16:58 → 00:17:00 กลางเลยได้เร็วขึ้นเนี่ยมันจะกระตุ้นให้
00:17:00 → 00:17:04 ร่างกายสร้างฮอร์โมนความอิ่มนะครับมันก็
00:17:04 → 00:17:06 จะเหมือน feedback ไปที่สมองว่าเนี่ยอิ่ม
00:17:06 → 00:17:11 ได้แล้วครับ
00:17:11 → 00:17:15 อาจจะฟังดูเหมือนเป็นแค่ข้อความอิ่มนะแต่
00:17:15 → 00:17:17 ว่าจริงๆไอ้เจ้าฮอร์โมนความอิ่มเนี่ยมัน
00:17:17 → 00:17:21 มีชื่อว่าแบบตัว glp 1 ชื่อของมันนะมัน
00:17:21 → 00:17:24 สามารถช่วยร่างกายหลายๆอย่างได้เช่นช่วย
00:17:24 → 00:17:28 กระตุ้นการสร้างอ่าฮอร์โมนที่รักษาโรคเบา
00:17:28 → 00:17:31 หวานหรือฮอร์โมนอินซูลินได้ดีขึ้นแล้วก็
00:17:31 → 00:17:34 ตัว GoPro เนี่ยตัวคำนวณความอิ่มเนี่ยลด
00:17:34 → 00:17:37 การสร้างไขมันบริเวณตับนะครับหรือว่า
00:17:37 → 00:17:39 เพิ่มอ่า
00:17:39 → 00:17:43 ความไวของเพิ่มให้ภาวะเบาหวานยิ่งขึ้น
00:17:43 → 00:17:45 ความไวของ receptor ของฮอร์โมนเบาหวานยัง
00:17:45 → 00:17:46 ทำงานดีขึ้น
00:17:46 → 00:17:49 นะครับดังนั้นจริงๆมันมีประโยชน์เยอะใดๆ
00:17:49 → 00:17:51 ก็ตามพอเราทำให้มันกระตุ้นให้เรามองความ
00:17:51 → 00:17:54 อิ่มเนี่ยมันเร็วขึ้นเนี่ยมันก็เป็น
00:17:54 → 00:17:56 เหมือนการรักษาโรคไปในตัวนะครับเราอาจจะ
00:17:56 → 00:18:00 เคยได้ยินพวกยาฉีดปากกาวลดน้ำหนักอะไรพวก
00:18:00 → 00:18:02 นี้นะครับซึ่งจริงๆยาฉีดปากกาลดน้ำหนัก
00:18:02 → 00:18:05 เนี่ย Concept ก็คือมาจากฮอร์โมนความอิ่ม
00:18:05 → 00:18:07 ตัวนี้เอามาสังเคราะห์ใหม่
00:18:07 → 00:18:09 นะครับให้มี
00:18:09 → 00:18:13 ให้มีอายุนานขึ้นแล้วก็เอามาฉีดนะครับ
00:18:13 → 00:18:16 ซึ่งไอ้ยาฉีดปัจจุบันเนี่ยยาฉีดลดน้ำหนัก
00:18:16 → 00:18:19 เนี่ยก็ใช้ทั้งรักษาเบาหวานด้วยใช้ทั้งลด
00:18:19 → 00:18:23 น้ำหนักด้วยนะครับแต่ว่าขนาดยาจะต่างกัน
00:18:23 → 00:18:25 อินเทอร์เน็ตเยอะ
00:18:25 → 00:18:28 แต่ถ้าพูดง่ายๆคือเวลาเราผ่าตัดกระเพาะ
00:18:28 → 00:18:31 พลัสใบพาสอะไรพวกนี้ไปเนี่ยเราก็เหมือนจะ
00:18:31 → 00:18:34 มีฮอร์โมนความอิ่มที่สร้างจากธรรมชาติของ
00:18:34 → 00:18:36 ร่างกายเราตลอดโดยที่เราไม่ต้องมีเสีย
00:18:36 → 00:18:40 เงินซื้อยาพวกนี้นะครับอะไรอย่างนี้เส้น
00:18:40 → 00:18:42 ทางที่มันลดลงอย่างเงี้ยค่ะเปลี่ยนเส้น
00:18:42 → 00:18:44 ทางเป็นบายพาสออกมาอย่างเงี้ยค่ะไอ้
00:18:44 → 00:18:46 เรื่องการ
00:18:46 → 00:18:49 หน้าที่ของลำไส้เล็กดูดซึมสารอาหารอย่าง
00:18:49 → 00:18:56 นี้มันจะพอไหมคะ
00:18:56 → 00:18:58 การที่เรา
00:18:58 → 00:19:01 ผ่าตัดน้ำหนักเนี่ยมันเป็นการ Balance
00:19:01 → 00:19:05 ระหว่างภาวะขาดสารอาหารประมาณหนึ่งกับ
00:19:05 → 00:19:09 ภาวะที่ที่ร่างกายได้อาหารเยอะเกินไปเรา
00:19:09 → 00:19:11 ต้องทำให้มันอยู่กึ่งกลางระหว่าง 2 อย่าง
00:19:11 → 00:19:14 นี้นะครับโดยทั่วๆไปเนี่ยหลังผ่าตัดเนี่ย
00:19:15 → 00:19:18 เราคำนวณอยู่แล้วแหละว่าลำเส้นเล็กที่
00:19:18 → 00:19:21 เหลือเนี่ยพอนะครับแต่อาจจะต้องร่วมกับคน
00:19:21 → 00:19:24 ไข้เนี่ยอาจต้องทานวิตามินเสริมหลังผ่า
00:19:24 → 00:19:25 ตัดด้วย
00:19:25 → 00:19:27 แล้วก็เน้นทานอาหารที่มีประโยชน์ต่างผ่า
00:19:27 → 00:19:31 ตัดเช่นเน้นทำอาหารที่โปรตีนสูงนะครับ
00:19:31 → 00:19:34 เป็นหลักนะครับเราก็จะเลี่ยงอาหารกลุ่ม
00:19:34 → 00:19:40 ที่ไม่จำเป็นมากเช่นข้าวแป้งน้ำตาลนะครับ
00:19:40 → 00:19:43 ผลไม้นะครับกลุ่มนี้เราอาจจะเลี่ยงไป
00:19:43 → 00:19:46 ผลไม้ด้วยหรอคะผลไม้เนี่ยมันจะมีน้ำตาล
00:19:46 → 00:19:49 ค่อนข้างเยอะคืออย่างที่บางคนจะบอกว่า
00:19:49 → 00:19:52 ผลไม้เนี่ยน้ำตาลฟรุกโตสและผลไม้เนี่ยมัน
00:19:52 → 00:19:56 ทำให้เราติดแล้วก็เมาง่ายด้วยนะครับมันก็
00:19:56 → 00:19:58 ทำให้น้ำหนักขึ้นค่อนข้างเร็วผู้ใหญ่บาง
00:19:58 → 00:20:01 คนเนี่ยผมเจอคนไข้บางคนนะอันนี้ต้องเล่า
00:20:01 → 00:20:03 ให้ฟังเฉยๆคือบางคนคิดว่ากินผลไม้ไม่อ้วน
00:20:03 → 00:20:05 ซึ่งซึ่งอันนี้ไม่จริงเลยนะครับไม่จริง
00:20:05 → 00:20:09 เลยต้องพยายาม Control อย่างพูดง่ายอย่าง
00:20:09 → 00:20:12 บางคนกินแต่ทุเรียนเลยส้มอย่างนี้นะครับ
00:20:12 → 00:20:15 น้ำตาลสูงกินต่อเนื่องอย่างเงี้ยก็ไม่ดี
00:20:15 → 00:20:19 นะครับมะม่วงของของไทยช่วงนี้ก็น่ามะม่วง
00:20:19 → 00:20:23 เนอะคนก็สั่งมากินแต่มะม่วงเลยคนไข้น้ำ
00:20:23 → 00:20:26 หนักไม่ลงแน่นอนแบบนี้นะครับต้องระวังไม่
00:20:26 → 00:20:27 เดี๋ยวว่าหลายคนก็จะบอกว่าเอ้ยกินพวกนี้
00:20:27 → 00:20:30 ไม่เป็นไรหรอกคุณหมอไม่รู้หรอก
00:20:30 → 00:20:33 ตรวจไม่เจอหรอกรู้ใช่ไหมคะว่าจากค่าเลือด
00:20:33 → 00:20:36 ใช่ไหมคะว่าน้ำตามันสูงตอนนี้เราก็ไม่
00:20:36 → 00:20:38 ต้องบอกว่าเขากินอะไรมาถ้าเขาไม่บอกเรา
00:20:38 → 00:20:42 แล้วก็เราก็ใส่มากเพราะบางคนอาจจะใช้วิธี
00:20:42 → 00:20:45 เลี่ยงแบบนี้อุ๊ยหืมกินนิดเดียวแต่จริงๆ
00:20:45 → 00:20:49 โอ้โหค่าน้ำตาลมาพุ่งสูงปี๊ดเลยนะฮะเออ
00:20:49 → 00:20:51 อันนี้ก็แต่ว่าในวิธีการต่างๆเหล่านี้
00:20:51 → 00:20:54 เนี่ยคือก็จะอยู่ในความควบคุมไปจนถึงแม้
00:20:54 → 00:20:56 จะผ่าตัดเสร็จไปแล้ว
00:20:56 → 00:20:59 ใช่มั้ยคุณหมอก็ต้องควบคุมดูแลไปก่อนใช่
00:20:59 → 00:21:02 ครับคือหลังผ่าตัดเนี่ยเราต้องผมใช้คำนี้
00:21:02 → 00:21:05 เราต้องได้รับการดูแลโดยแพทย์และทีม
00:21:05 → 00:21:08 สหัสขันธ์วิชาชีพทีมสหศาสตร์สาขาวิชาชีพ
00:21:08 → 00:21:10 ก็คือมีนักกำหนดอาหาร
00:21:10 → 00:21:15 นักกายภาพนะครับอายุรแพทย์โรคต่อมไร้ท่อ
00:21:15 → 00:21:18 นะครับช่วยกันดูแลคนไข้ประคับประคองไป
00:21:18 → 00:21:20 เรื่อยๆเพราะยังไงคนไข้หลังผ่าตัดเนี่ย
00:21:20 → 00:21:23 เขาก็ต้องปรับพฤติกรรมปรับอาหารปรับวิธี
00:21:23 → 00:21:26 การใช้ชีวิตร่วมด้วยนะครับเพื่อให้ได้ผล
00:21:26 → 00:21:29 ดีนะครับซึ่งโดยปกติเนี่ยน้ำหนักมันจะลง
00:21:29 → 00:21:31 ถึงจุดต่ำสุดหลังผ่าก็อยู่ที่ประมาณ 6
00:21:31 → 00:21:35 เดือนถึง 12 เดือนนะครับเราก็ต้องประคับ
00:21:35 → 00:21:38 ประคองดูกันไปเรื่อยๆนะครับแล้วก็หลังผ่า
00:21:38 → 00:21:41 ตัดอีก 1 ปี 2 ปี 3 ปีอาจจะต้องมาติดตาม
00:21:41 → 00:21:43 เป็นระยะเรื่อยๆไม่ใช่ว่าผ่าเสร็จแล้วก็
00:21:43 → 00:21:46 หายไปเลยนะครับเพราะว่าอาจจะต้องมาเช็ค
00:21:46 → 00:21:48 อย่างที่บอกก็คือเรื่องของสารอาหารเรื่อง
00:21:48 → 00:21:52 ของวิตามินว่าเพียงพอไหมนะครับโดยเฉพาะ
00:21:52 → 00:21:54 การผ่าตัดในกลุ่มที่เป็นแบบบายพาสร่วม
00:21:54 → 00:21:57 ด้วยเนี่ยอาจจะต้องมาฉีดวิตามินเสริมทุก
00:21:57 → 00:22:00 6-12 เดือนนะครับก็คือเป็นวิตามินบี 12
00:22:00 → 00:22:03 จริงๆวิตามินบี 12 เนี่ยมันสะสมที่ตับ
00:22:03 → 00:22:06 เนี่ยอยู่ได้ประมาณสัก 3-5 ปีแต่ว่าเรา
00:22:06 → 00:22:08 แนะนำให้มาฉีดต่อเนื่องทุก 6-12 เดือน
00:22:08 → 00:22:09 เพื่อสะสมไว้
00:22:09 → 00:22:11 นะครับเพราะถ้าเกิดขาดวิตามินบี 12 เนี่ย
00:22:12 → 00:22:15 มันมีโอกาสที่จะมีภาวะเลือดจางได้อ๋อนะ
00:22:15 → 00:22:17 ครับดังนั้นยังไงคนไข้ผ่าตัดไปเสร็จเนี่ย
00:22:17 → 00:22:20 ต้องอยู่กับหมอไปอีกนานผมใช้คำว่าอยู่กับ
00:22:20 → 00:22:22 หมอไปตลอดชีวิตเลยละกันนะครับต้องแบบ
00:22:22 → 00:22:25 Contact มาได้ติดต่อหมอได้มาติดตามสม่ำ
00:22:25 → 00:22:28 เสมออย่างน้อยปีละครั้งนะครับหรืออย่าง
00:22:28 → 00:22:30 น้อยก็ต้องรู้ว่าตัวเองต้องไปเจาะเลือดดู
00:22:30 → 00:22:38 ค่าอะไรปีละครั้งเราจะมีเพื่อนเป็นคุณหมอ
00:22:38 → 00:22:42 เจอกันเรื่อยๆ
00:22:42 → 00:22:45 คือหมายความว่าถ้าเกิดคนไข้กลับไปแล้วไม่
00:22:45 → 00:22:48 ได้ดูแลตัวเองว่าเอ้ยฉันผ่าตัดมันเล็กลง
00:22:48 → 00:22:50 แล้วอ่ะมันไอ้นู่นนี่นั่นไงฉันก็กินผม
00:22:50 → 00:22:52 กระหน่ำเลยอย่างนี้มันมีโอกาสกลับมาแบบ
00:22:52 → 00:22:56 เอ้ยแผลปริแตกหรือว่าหรือแบบอ้วนขึ้นกว่า
00:22:56 → 00:22:59 เดิมเป็นไปได้ไหมคะเอาเรื่องแผลปิดแต่
00:22:59 → 00:23:02 ก่อนคือถ้าผล 14 วันหรือพ้นเดือนนึงเนี่ย
00:23:02 → 00:23:06 โอกาสน้อยมากน้อยมากๆนะครับส่วนเรื่องกิน
00:23:06 → 00:23:08 แล้วเนี่ยกลับมาน้ำหนักเยอะเพิ่มขึ้น
00:23:08 → 00:23:11 อย่างนี้นะครับบางคนกลัวผ่าไปนะสมมุติหนู
00:23:11 → 00:23:14 ลงจากอ่า 200 กมมันเหลือสัก 100 กมเนี่ย
00:23:14 → 00:23:17 กว่าจะกลับขึ้นไปเท่าเดิมอันนี้โอกาสน้อย
00:23:17 → 00:23:20 มากกลับน้อยมากผมอธิบายอย่างนี้คือสมมุติ
00:23:20 → 00:23:22 วอลลุ่มกระเพาะเดิมเนี่ยความจุกระเพาะ
00:23:22 → 00:23:25 เนี่ยสมมุติสัก 1,000 ซีซีแล้วกันนะครับ
00:23:25 → 00:23:29 หลังผ่าตัดเนี่ยมันเหลือประมาณสักอ่า 150
00:23:29 → 00:23:33 บาทถึง 200 บาทนะครับแล้วก็เราก็จะปรับ
00:23:33 → 00:23:35 ฮอร์โมนกินได้น้อยลงเลยน้อยลงเนี่ยน้ำ
00:23:35 → 00:23:38 หนักก็จะลงมาโอกาสที่กระเพาะเดิมจะกลับไป
00:23:38 → 00:23:40 ใหญ่เท่าเดิมอะไรเงี้ยมันมันน้อยมากจาก
00:23:40 → 00:23:42 งานวิจัยเนี่ยเราก็มีวัดนะที่ 5 ปีเนี่ย
00:23:42 → 00:23:45 อาจจะใหญ่เพิ่มขึ้นได้แต่ก็อย่างน้อยก็
00:23:45 → 00:23:47 300 cc 350 บาทอะไรอย่างเงี้ยอย่างมาก
00:23:47 → 00:23:50 นะครับดังนั้นโอกาสที่จะกลับไปน้ำหนัก
00:23:51 → 00:23:53 เท่าเดิมเนี่ยมันน้อยจริงๆยกเว้นนะยกเว้น
00:23:53 → 00:23:56 คนไข้กินแต่น้ำหวานทั้งวันเลยแล้วก็กิน
00:23:56 → 00:23:58 ด้วยความอยากไม่ได้กินด้วยความหิวนะกิน
00:23:58 → 00:24:02 ด้วยความอยากฉันจะกินน้ำหวานฉันจะกินแป้ง
00:24:02 → 00:24:04 น้ำตาลรัวๆอย่างนี้นะครับมันก็มีโอกาสที่
00:24:04 → 00:24:07 จะกลับไปจุดเดิมได้แต่ว่าผมใช้คำว่าน้อย
00:24:07 → 00:24:10 มากแล้วกันน้อยในที่นี้คือน้อยกว่า 2.5%
00:24:10 → 00:24:14 นะครับซึ่งอย่างที่ที่คุยกับคุณหมอมานี่
00:24:14 → 00:24:16 นะคะคุณผู้ฟังอันนี้สำหรับคนที่เป็นโรค
00:24:16 → 00:24:18 อ้วนจริงๆหรือว่าโรคอ้วนอันตรายจริงๆนะคะ
00:24:18 → 00:24:21 ไม่ใช่ว่าแบบฉันอยากจะเดินไปเพื่อผ่าตัด
00:24:21 → 00:24:23 กระเพาะสวยๆอย่างนั้นไม่ใช่นะคะคือจริงๆ
00:24:24 → 00:24:26 โดนคอนเซ็ปต์คนกลุ่มนี้เขาระมัดระวังตัว
00:24:26 → 00:24:28 เองอยู่แล้วเขารู้ว่าเขาเป็นโลกเค้าต้อง
00:24:28 → 00:24:29 รักษาเขาจะไม่ปล่อยให้ตัวเองกลับมาเท่า
00:24:29 → 00:24:32 เดิมแน่นอนเพราะฉะนั้นมีอย่างมันจะต้อง
00:24:32 → 00:24:35 แบบผ่าให้แบบว่าลงมาน้ำหนักลงมาแค่ไหนคะ
00:24:35 → 00:24:38 แบบว่าเช่นแบบคุณหมออยากให้ลงมาเยอะๆเลย
00:24:38 → 00:24:41 แบบจาก 200 โลให้มันเหลือ 100 กกหรือ 90
00:24:41 → 00:24:43 อะไรขนาดนั้นนะคะจำเป็นต้องเป็นขนาดนั้น
00:24:43 → 00:24:46 ไหมปกติโดยเฉลี่ยเนี่ยน้ำหนักก็จะลดลง
00:24:46 → 00:24:49 ประมาณสัก 30% จากจุดตั้งต้นแต่ถ้าผมพูด
00:24:49 → 00:24:53 ให้ฟังดูดูว่าประสบความสำเร็จนะเราจะใช้
00:24:53 → 00:24:56 ค่าก็คือน้ำหนักส่วนเกินคนไข้เนี่ยหายไป
00:24:56 → 00:24:59 เกิน 50% ครึ่งนึงละนะครับคือถ้าเกิดหาย
00:24:59 → 00:25:01 ไปเกิน 50% เนี่ยถือว่าประสบความสำเร็จ
00:25:01 → 00:25:02 แล้ว
00:25:02 → 00:25:04 เป็นเป้าหมายหลักเราแล้วก็มาบวกกับการดู
00:25:04 → 00:25:07 แลตัวเองหลังผ่าตัดอีกก็จะเพิ่ม
00:25:07 → 00:25:11 ประสิทธิภาพก็มันก็ต้องดูแลกันไปตลอดเนอะ
00:25:11 → 00:25:14 นะครับก็โดยรวมๆก็โดยเฉลี่ยเนี่ยน้ำหนัก
00:25:14 → 00:25:16 ส่วนเกินมันจะหายไปถ้านับเฉพาะน้ำหนัก
00:25:16 → 00:25:19 ส่วนเกินนะประมาณ 60-70% แต่ว่าถ้าเกิด
00:25:19 → 00:25:21 เกิน 50% ได้เราถือว่าประสบความสำเร็จ
00:25:21 → 00:25:22 แล้ว
00:25:22 → 00:25:26 เป็นเป็นขั้นพื้นฐานที่ที่จริงๆคือคนจะ
00:25:26 → 00:25:29 ได้รับแบบนี้ถูกต้องคือน้ำหนักหายไป
00:25:29 → 00:25:31 ประมาณนึงนะอย่างน้อยสัก 5% 10% เนี่ย
00:25:31 → 00:25:34 สุขภาพมันดีขึ้นแล้วนะครับหายไปสัก 10%
00:25:34 → 00:25:37 เนี่ยไขมันเกาะตับเลยดีขึ้นแล้วนะครับหาย
00:25:37 → 00:25:40 ไป 15% เนี่ยมีโอกาสหายขาดจากเบาหวานนะ
00:25:40 → 00:25:43 ครับอะไรมันดีขึ้นหมดแล้วใช่มั้ยจริงๆเรา
00:25:43 → 00:25:45 อย่างที่บอกเราไม่ได้ทำว่าพร้อมกลับมา
00:25:45 → 00:25:48 หุ่นนางแบบนะเราทำเพื่อให้โรคประจำตัวเขา
00:25:48 → 00:25:51 หายนะครับแล้วก็ดูแค่เนี่ยถ้าโลกประจำตัว
00:25:51 → 00:25:53 หายเนี่ยก็ถือว่า success ประสบความ
00:25:53 → 00:25:56 สำเร็จและถ้าไปดูแลตัวเองแล้วทำให้ตัวเอง
00:25:56 → 00:25:59 ได้หุ่นได้แบบนางแบบนายแบบนางแบบได้เป็น
00:25:59 → 00:26:03 กำไรที่เหลือใช่ครับท้ายนี้ค่ะคุณหมอมี
00:26:03 → 00:26:06 อะไรอยากฝากถึงคุณผู้ฟังหน่อยไหมคะก็การ
00:26:06 → 00:26:08 ผ่าตัดกระเพาะเนี่ยก็เป็นการลดน้ำหนักที่
00:26:08 → 00:26:10 ลดได้ค่อนข้างเยอะถาวร
00:26:10 → 00:26:13 นะครับแล้วก็โดยรวมๆเนี่ยถือว่าปลอดภัย
00:26:13 → 00:26:16 แต่ว่าต้องภายใต้การดูแลของแพทย์ที่
00:26:16 → 00:26:18 เชี่ยวชาญแล้วก็
00:26:18 → 00:26:21 มีการเตรียมพร้อมกับผ่าตัดที่ดีนะครับรวม
00:26:21 → 00:26:23 ถึงหลังผ่าตัดเนี่ยก็ต้องติดตามกับแพทย์
00:26:23 → 00:26:24 สม่ำเสมอ
00:26:24 → 00:26:27 อันนี้ก็จะมีคุณหมอเป็นเพื่อนกันไปสำหรับ
00:26:27 → 00:26:30 คนที่เข้าเคสในการผ่าตัดในลักษณะของการ
00:26:30 → 00:26:32 ที่นักศึกษาโรคอ้วนนั่นเองนะคะอ่านก็เป็น
00:26:32 → 00:26:36 สิ่งที่นวัตกรรมทางการแพทย์ใหม่ๆที่จริงๆ
00:26:36 → 00:26:38 ถึงแม้จะมีมา 30 ปีแล้วแต่มันก็จะมีวิธี
00:26:38 → 00:26:42 การนะคะในการรักษาหรือว่าในการผ่าตัดใหม่
00:26:42 → 00:26:44 ๆขึ้นมาเรื่อยๆนะคะวันนี้เราได้มาอัปเดต
00:26:44 → 00:26:46 ในแง่มุมของความรู้ในด้านนี้กันนะคะ
00:26:46 → 00:26:48 ขอบคุณคุณหมอเสถียรพงษ์ค่ะที่มาให้ความ
00:26:48 → 00:26:50 รู้กับรายการของเราด้วยนะคะขอบคุณค่ะ
00:26:50 → 00:26:53 สวัสดีค่ะอ่ะนะคะคุณผู้ฟังทั้งหมดเวลา
00:26:53 → 00:26:56 แล้วนะคะเราจะกลับมาพบกันใหม่กับรายการ
00:26:56 → 00:26:59 โรงหมอทาง Thai PBS podcast นะคะใน
00:26:59 → 00:27:01 ครั้งหน้าค่ะขอบคุณที่ติดตามรับฟังวันนี้
00:27:01 → 00:27:04 หมดเวลาแล้วลาไปก่อนนะคะสวัสดีค่ะ This
00:27:04 → 00:27:07 Is Point PBS โคตรแคทความกลัวหรือ
00:27:07 → 00:27:09 phobia ในทางจิตเวชหมายถึงอะไรส่งผลอะไร
00:27:09 → 00:27:13 กับร่างกายบ้างดรสุพัฒน์แสนแจ่มใสจาก
00:27:13 → 00:27:15 สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและ
00:27:15 → 00:27:18 ครอบครัวมหาวิทยาลัยมหิดลมาเล่าให้ฟัง
00:27:18 → 00:27:19 ครับ
00:27:19 → 00:27:23 ในทางจิตวิทยานะครับหรือจิตเวชเนี่ยมันก็
00:27:23 → 00:27:26 เป็นความกลัวที่มันเกินกว่าปกติกลัวใน
00:27:26 → 00:27:29 สิ่งที่อาจจะไม่สมเหตุสมผลกลัวในสิ่งที่
00:27:29 → 00:27:31 ถึงรู้แล้วว่าคนอื่นจะมองว่ามันไม่เห็น
00:27:31 → 00:27:33 น่ากลัวอย่างนั้นเลยเขาก็ไม่สามารถที่จะ
00:27:33 → 00:27:36 หยุดความกลัวที่เกิดขึ้นได้ซึ่งสิ่งที่จะ
00:27:36 → 00:27:39 เกิดขึ้นคือว่านอกจากอารมณ์ความรู้สึกคือ
00:27:39 → 00:27:41 ความกลัวเป็นความรู้สึกเนอะพอมีความรู้
00:27:41 → 00:27:43 สึกกลัวขึ้นมาเนี่ยมันจะตาม้าคือเรื่อง
00:27:43 → 00:27:45 ของการเกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย
00:27:45 → 00:27:49 เช่นเขาอาจจะรู้สึกตลกเนาะตกใจกลัวหายใจ
00:27:49 → 00:27:53 เร็วขึ้นแน่นหน้าอกรู้สึกเหงื่อแต่รู้สึก
00:27:53 → 00:27:55 อยากจะหนีออกจากบริเวณนั้นบางคนอาจจะยืน
00:27:55 → 00:27:58 นิ่งแล้วร้องไห้ก็ได้ในเมื่อเขาเจอกับ
00:27:58 → 00:28:00 สิ่งที่เรารู้สึกกลัวครับยกตัวอย่างเช่น
00:28:00 → 00:28:03 บางคนกลัวสุนัขละกันซึ่งหลายๆคนก็จะสรุป
00:28:03 → 00:28:05 ไม่เห็นหน้ากูเลยนะรักไม่ใช่ครับแต่ผมก็
00:28:05 → 00:28:09 จะมีความกลัวและบางคนก็กลัวมากปกติคนที่
00:28:09 → 00:28:12 ไม่กลัวเลยก็เราก็ไม่ข้ามไปสำหรับคนที่
00:28:12 → 00:28:15 กลัวก่อนกลัวแบบกลัวกลัวสุนัขเราแน่นอนก็
00:28:15 → 00:28:17 อาจจะเคยมีประสบการณ์ในการฝึกอากาศนี้เขา
00:28:17 → 00:28:19 ก็จะมีความสุนัขที่ก็แปลกหน้าไม่คุ้นเคย
00:28:19 → 00:28:23 เขาก็รู้สึกระวังนะว่าจะมากัดเอาไหมแต่
00:28:23 → 00:28:28 ถ้าเจ้าขอสุนัขหรืออาจจะเป็นรู้จักกัน
00:28:28 → 00:28:30 เจ้าของบอกว่าอ๋อตรงนี้ไม่กัดหรอกเข้ามา
00:28:30 → 00:28:32 ได้มันเอาอย่างนี้แหละเดี๋ยวจับไว้ไม่กัด
00:28:32 → 00:28:35 หรอกเขาก็ฝึกประเมินแล้วว่าเอ้ยเออเจ้า
00:28:36 → 00:28:39 ของอยู่ก็ไม่เห่าด้วยแต่หาก
00:28:39 → 00:28:42 มันสมเหตุสมผลก็คือไม่น่าจะกัดประเมิน
00:28:42 → 00:28:45 แล้วเขาก็เลยเข้าไปหาสุนัขหรือเดินผ่าน
00:28:45 → 00:28:48 เจ้าสำนักคนนั้นได้นั่นคือผมว่ากลัวปกติ
00:28:48 → 00:28:50 ที่เราสามารถกลัวได้เพราะเรามีประสบการณ์
00:28:50 → 00:28:52 ที่ไม่ดีหรืออาจจะกลัวในสิ่งที่เราอาจจะ
00:28:52 → 00:28:54 เคยได้ยินมาว่ามันอันตรายน่ากลัวแต่ว่าพอ
00:28:54 → 00:28:59 มีคำอธิบายมีคนยืนยันว่ามันโอเคนะเขาก็
00:28:59 → 00:29:01 สามารถที่จะเอาชนะความกลัวทางได้นั่นคือ
00:29:01 → 00:29:03 ความกลัวปรับปกติแต่นี่คำว่าเกินก็คือว่า
00:29:03 → 00:29:08 ต่อให้โค้ชพูดยืนยันด้วยหลักฐานด้วยสิ่ง
00:29:08 → 00:29:11 ต่างๆว่ามันปลอดภัยนะมันไม่เป็นอันตรายนะ
00:29:11 → 00:29:14 เขาก็ยังรู้สึกว่าอยากไม่อยากจะเผชิญกับ
00:29:14 → 00:29:16 สิ่งเหล่านั้นไม่อยากกลับไปเจอสถานการณ์
00:29:16 → 00:29:20 นั้นสุนัขเนี่ยไม่เคยกัดใครมาก่อนเลยเขา
00:29:20 → 00:29:23 ก็รู้สึกไม่เอาอ่ะเขาก็คือไม่เข้าบ้าน
00:29:23 → 00:29:25 แล้วแหละยอมให้ยืนคุยหน้าบ้านก็ได้
00:29:25 → 00:29:28 เป็นลักษณะที่มันรบกวนต่อชีวิตประจำวัน
00:29:28 → 00:29:31 ของเขาก็คือในเชิงจิตวิทยาเนี่ยเราจะมอง
00:29:31 → 00:29:33 ว่าเป็นโรคหรือเปล่าเนี่ยนะครับก็คือ
00:29:33 → 00:29:36 พิจารณาว่าอาการที่เกิดขึ้นเนี่ยก็คือ 1
00:29:36 → 00:29:39 ก็คือมันรบกวนต่อการใช้ชีวิตรบกวนต่อการ
00:29:39 → 00:29:42 มีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนรบกวนต่อการทำงาน
00:29:42 → 00:29:46 ของเขารบกวนต่อการดูแลสุขอนามัยตัวเองอัน
00:29:46 → 00:29:48 นั้นก็คือจะพิจารณาถึงว่าความเป็นโรคใน
00:29:48 → 00:29:50 แง่ของความกลัวผิดปกติก็คือการที่เขากลัว
00:29:51 → 00:29:52 จนทำให้เขาเนี่ยขาดโอกาสอะไรบางอย่างไปใน
00:29:52 → 00:29:56 ชีวิตได้อย่างเงี้ยครับ
00:29:56 → 00:30:01 This is typius
00:30:01 → 00:30:04 ติดตามรายการทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น
00:30:04 → 00:30:09 ของไทยพีแดช็อต
00:30:09 → 00:30:18 และ YouTube Channel Thai PBS หมดค่ะ
00:30:18 → 00:30:24 [เพลง]