00:00:04 → 00:00:04 [ปรบมือ]
00:00:04 → 00:00:06 [เพลง]
00:00:06 → 00:00:08 [ปรบมือ]
00:00:08 → 00:00:11 [เพลง]
00:00:11 → 00:00:14 [ปรบมือ]
00:00:14 → 00:00:15 [เพลง]
00:00:16 → 00:00:19 แ
00:00:19 → 00:00:19 [เพลง]
00:00:19 → 00:00:20 [ปรบมือ]
00:00:20 → 00:00:23 [เพลง]
00:00:23 → 00:00:24 [ปรบมือ]
00:00:24 → 00:00:30 [เพลง]
00:00:30 → 00:00:31 [ปรบมือ]
00:00:31 → 00:00:32 [เพลง]
00:00:32 → 00:00:35 [ปรบมือ]
00:00:35 → 00:00:47 [เพลง]
00:00:47 → 00:00:49 ก็เริ่มจากน้องเนี่ยเหมือนคนเป็นหวัดทั่ว
00:00:49 → 00:00:52 ไปนี่แหละค่ะน้ำมูกเขาก็จะเป็นสีเขียวข้น
00:00:52 → 00:00:55 แล้วก็มีกลิ่นเหม็นเราก็มาหาด้วยอาการ
00:00:55 → 00:00:59 เด็กเป็นหวัดพอมาเจอคุณหมอคุณหมอก็เช็ค
00:00:59 → 00:01:01 ตรวจร่างกายไปด้วยปลายปกติให้ยาทานปาย
00:01:01 → 00:01:04 ปกติเละค่ะน้องทานยาไป 2 อาทิตย์เนี่ย
00:01:04 → 00:01:07 น้องหายจริงแต่พอกลับไปอาทิตย์ถัดไปเนี่ย
00:01:07 → 00:01:09 น้องก็ยังทรงๆคือเหมือนจะหายพอสักเดือน
00:01:09 → 00:01:12 อาทิตย์ที่ 4 น้องก็กลับมาเป็นอีกทั้งๆ
00:01:12 → 00:01:14 ที่เราก็ไม่ได้มีอะไรมากระตุ้นว่าจะเป็น
00:01:14 → 00:01:17 หวัดเออคือน้องเป็นหวัดไม่ไม่ปกติเหมือน
00:01:17 → 00:01:24 เป็นหวัดต่อเนื่องเรื้อรังเงี้ย
00:01:24 → 00:01:27 ค่ะคุณหมอครับสำหรับคุณแม่แล้วก็น้องตูน
00:01:27 → 00:01:30 เนี่ยมาพบคุณหมอด้วยอาการยังไงครับคือคือ
00:01:30 → 00:01:31 ของน้องเนี่ยมาด้วยปัญหาหลักๆก็คือเรื่อง
00:01:31 → 00:01:34 คัดจมูกเรื้อรังนะครับแล้วก็เอ่อมีการนอน
00:01:34 → 00:01:37 กรนแล้วก็มีเรื่องน้ำในหูชั้นกลางกับอีก
00:01:37 → 00:01:40 ข้านึงนี่มีหนองไหลจากหูอโอนี่เป็นหลาย
00:01:40 → 00:01:41 อย่างเลยนะครับหลายอย่างนี่คนเดียวเลย
00:01:41 → 00:01:44 ครับให้คุณแม่เล่าก่อนก่อนที่จะพามาพบคุณ
00:01:44 → 00:01:46 หมอเนี่ยตอนแรกอาการของน้องตูเป็นยังไง
00:01:46 → 00:01:49 ครับก็เป็นเหมือนเด็กเป็นหวัดคัดจมูกอ่า
00:01:49 → 00:01:51 ทั่วๆไปอ่ะค่ะที่เหมือนเราเป็นหวัดแต่ที
00:01:51 → 00:01:55 นี้พอพอทานยาไปก็พอพพอช่วงยาหมดเนี่ย
00:01:55 → 00:01:59 อาการก็ยังไม่หายดีพออาทิตยถัดไปปุ๊บก็
00:01:59 → 00:02:01 คือกลับมาเป็นอีกแล้วก็จะเริ่มเริ่มเริ่ม
00:02:01 → 00:02:05 จากเล็กๆจนมาเป็นจนน้ำมูกเขียวเขียวก็แม่
00:02:05 → 00:02:07 ก็ต้องกลับมาอีกแล้วหลังจากที่เรารู้สึก
00:02:07 → 00:02:10 ว่าเอ๊ะลูกเราเป็นหวัดบ่อยซะเหลือเกินก็
00:02:10 → 00:02:13 มาณหมอมาอีกทีก็คุณหมอก็เลยจับอ่าเซเรย์
00:02:13 → 00:02:17 ดูก็เลยปรากฏว่ารู้ว่าเป็นไซนัสอักเสบคุณ
00:02:17 → 00:02:19 หมอครับไอ้คำว่าไซนัสนี่มันคืออะไรครับ
00:02:19 → 00:02:22 อ๋อไซนัสก็เป็นโพรงอากาศนะครับที่อยู่ใน
00:02:22 → 00:02:24 กะลกศีรษะของเราก็อันนี้เดี๋ยวจะชีให้ดู
00:02:24 → 00:02:26 นะครับผมถ้าสมมุตินี่นะฮะรูปหน้าเราเป็น
00:02:26 → 00:02:29 แบบนี้รูปหน้าเราก็โพรงไซนัสจะมีหลายโพรง
00:02:29 → 00:02:31 ด้วยกันนะฮะก็หลักๆก็จะมีตรงที่อยู่
00:02:31 → 00:02:34 บริเวณโหนกแก้มนะครับผม 2 ข้างนะครับตรง
00:02:34 → 00:02:36 นี้ใช่อันนี้อยู่ที่หน้าผากนะครับ 2 ข้าง
00:02:37 → 00:02:39 แล้วก็มีที่หัวตา 2 ข้างนะครับอีกอันนึง
00:02:39 → 00:02:42 ก็มีอันเดียวนอยู่เอ่อใต้ถ่านกะลกศีรษะนะ
00:02:42 → 00:02:45 ครับผมนะฮะโพงไี่ทั้งหมดที่อาจารย์บอกคุณ
00:02:45 → 00:02:47 หมอบอกมานี่เป็นโพรงไซนัสหมดเลยใช่ครับผม
00:02:47 → 00:02:49 แล้วไอ้คำว่าโพรงไซนัสเนี่ยมันมีประโยชน์
00:02:50 → 00:02:51 อะไรมันทำหน้าที่อะไรกับร่างกายของเรา
00:02:51 → 00:02:53 ครับเออโพรงไซนัสก็มีคืออันนี้มันเป็น
00:02:53 → 00:02:56 ธรรมชาติสร้างมาเพราะว่าถ้าเกิดเรามี
00:02:56 → 00:02:58 กระโหลกศีรษะใช่มั้ยฮะถ้าเกิดเป็นกะโหลก
00:02:58 → 00:03:01 ทั้งอันเนี่ยเป็นกระดูกมันจะเราอาจจะรู้
00:03:01 → 00:03:04 สึกว่าหนักหัวมากพงเซนก็เลยเป็นโงอากาศ
00:03:04 → 00:03:06 เราก็เลยรู้สึกว่าหัวเราไม่หนักเกินไปอีก
00:03:06 → 00:03:08 อย่างนึงก็คือตัวไอ้โพรงไซนัสเนี่ยมันจะ
00:03:08 → 00:03:10 มีเยื้อบุอยู่แล้วมันก็จะผลิตไอ้สารคัด
00:03:10 → 00:03:13 หลั่งออกมานะครับเป็นเมือกอ่ะฮะทำให้ช่วย
00:03:13 → 00:03:16 เพิ่มความชุ่มชื้นในโพรงจมูกนะครับทำให้
00:03:16 → 00:03:19 อากาศที่ผ่านเข้าจากจมูกเนี่ยลงไปที่ปอด
00:03:19 → 00:03:21 เนี่ยมันชุ่มชื้นครับเราจะรู้ได้ยังไง
00:03:21 → 00:03:24 ครับว่าลูกหลานของเราเนี่ยเป็นหวัดธรรมดา
00:03:24 → 00:03:26 หรือว่าเป็นหวัดที่เกิดจากโพรงไซนัส
00:03:26 → 00:03:29 อักเสบครับอครับคือส่วนใหญ่เวลาเด็กเป็น
00:03:29 → 00:03:31 หวัดเนี่ยฮะเอ่อระยะเวลาที่เป็นหวัดก็ไม่
00:03:31 → 00:03:34 ควรจะนานจนเกินไปคืออาจจะมีคัจมูกน้ำมูก
00:03:34 → 00:03:37 ไหลน้ำมูกอาจจะแล้วแต่ว่าถ้าเกิดเป็นพวก
00:03:37 → 00:03:39 ไวรัสอาจจะนมูกใสๆแต่ถ้าเกิดเอ่อเป็น
00:03:39 → 00:03:41 แบคทีเรียเนี่ยบางทีน้ำมูกอาจจะข้นเขียว
00:03:41 → 00:03:43 มีกลิ่นเหม็นอะไรพวกเนี้ยฮะแต่ว่าลักษณะเ
00:03:43 → 00:03:46 ส่วนใหญ่มันจะหายภายใน 7-10 วันแต่ก็ต้อง
00:03:46 → 00:03:49 มาดูมามาตรวจเซเรย์ดูอีกทีนึงนะครับอ่ะ
00:03:49 → 00:03:51 หลังจากที่น้องตูนมาตรวจแล้วเป็นโพรง
00:03:51 → 00:03:53 ไซนัสอักเสบครับต่อไปนี่ยังไงฮะต้องรักษา
00:03:53 → 00:03:55 หรือว่าตรวจอะไรต่อไปครับคุณก็เพลนของ
00:03:55 → 00:03:57 น้องก็มีหลายปัญหาด้วยกันก็มีทั้งเรื่อง
00:03:57 → 00:04:00 นอนกลนด้วยครับผมครับก็ก็ตรวจร่างกายก็จะ
00:04:00 → 00:04:03 เห็นว่าของน้องเนี่ยมีตล่อมทอนซินโตนะ
00:04:03 → 00:04:06 ครับนะฮะแล้วก็พอเราส่งเซเรย์นี่เป็น
00:04:06 → 00:04:09 เซเรย์เอ่อกะโหลกศีรษะทางด้านข้างนะครับ
00:04:09 → 00:04:10 ตรงนี้จะเป็นทางด้านหน้านะฮะแล้วก็อันนี้
00:04:10 → 00:04:13 เป็นตรงไทอยทางด้านหลังนะครับนะอันนี้
00:04:13 → 00:04:15 เป็นจมูกก็พอเข้ามาเนี่ยฮะด้านหลังตรง
00:04:16 → 00:04:18 หลังโพงจมูกเนี่ยจะมีกล่อมกล่อมนึงเรา
00:04:18 → 00:04:20 เรียกว่ากล่อมอดินอยอดินอยใช่คือถ้าเกิด
00:04:20 → 00:04:22 เทียบกับกล่อมทอมซินก็หน้าที่คล้ายๆกัน
00:04:22 → 00:04:24 แต่ทานี้ของน้องน้องตูนเป็นยังไงฮะของ
00:04:24 → 00:04:27 น้องโตมากครับจะเห็นว่าถ้าเกิดในด็กปกติ
00:04:27 → 00:04:30 เนี่ยตรงนี้มันควรจะเป็นช่องอากาศสีดำๆฮค
00:04:30 → 00:04:32 มีช่องให้น้องหายใจแต่ว่าอย่าของน้อง
00:04:32 → 00:04:34 เนี่ยช่องแจะไม่เหลือเลยเพราะฉะนั้นเมื่อ
00:04:34 → 00:04:36 มันปิดหมดเลยแบบนี้เวลาน้องตูนหายใจหรือ
00:04:36 → 00:04:39 ว่าเวลานอนหลับกมันก็กกนแล้วก็น่าจะมี
00:04:39 → 00:04:42 หยุดหายใจด้วยเออที่น้ำมูกเขียวเป็นเป็น
00:04:42 → 00:04:45 หายๆเป็นบ่อยๆก็จริงๆหลักๆก็น่าจะเป็นจาก
00:04:45 → 00:04:48 ตัวนี้ส่วนนึงด้วยนะครับเพราะว่าต่อมเขา
00:04:48 → 00:04:50 โตทำให้บล็อกทำให้เหมือนกับว่าอากาศที่
00:04:50 → 00:04:53 หายใจเข้าไปมันเข้าได้ไม่ไม่เต็มที่แล้ว
00:04:53 → 00:04:55 ก็มันก็มีการบล็อกของพวกน้ำมูกนะครับแต่
00:04:55 → 00:04:57 เมื่อสักครู่นี้เห็นคุณหมอบอกว่าน้องตูน
00:04:57 → 00:05:00 เนี่ยตอนที่มาใหม่ๆเนี่ยของหนองไหลออกมา
00:05:00 → 00:05:02 จากหูมีเลือดไหลด้วยคืออะไรคุณแม่ครับตอน
00:05:02 → 00:05:06 นั้นอ๋อนี่เลยค่ะเนี่ยน้องตูนเมีเลือดออก
00:05:06 → 00:05:09 จากหูแบบนี้คุณแม่ก็เลยไม่ทราบว่าเอ๊ะ
00:05:09 → 00:05:11 ทำไมแต่แต่ก่อนที่เลือดจะไหลออกมาจากหู
00:05:11 → 00:05:14 เนี่ยน้องเขาไปว่ายน้ำเอ่าคุณแม่ก็ให้ไป
00:05:14 → 00:05:16 เรียนอ่ะให้เรียนว่ายน้ำที่โรงเรียนแล้ว
00:05:16 → 00:05:18 น้องเขพูดว่าวันนี้เหมือนมีขี้หูหลุดออก
00:05:19 → 00:05:21 มาเลยเข้าใจว่าน้ำเข้าหูนั่นแหละอ่าแล้ว
00:05:21 → 00:05:24 เผอิญว่านัดคุณหมอไว้อยู่แล้วก็เลยพพาพา
00:05:24 → 00:05:28 น้องตูดมาหาคุณหมอก็ก็ดูหูดูแลก็เลยทำให้
00:05:28 → 00:05:33 ทราบว่าน้องเนี่ยเขาแก้วหูเขาแบบยุบตัวโ
00:05:33 → 00:05:35 ไอ้การที่มีอาการหนองไหลออกมามีเลือดไหล
00:05:35 → 00:05:38 ออกมาเนี่ยมันคือเกี่ยวโยงมาจากโพรงไซนัส
00:05:38 → 00:05:40 อักเสบหรือเปล่าหรือว่าหลักๆใช่ก็เกี่ยว
00:05:40 → 00:05:42 กับเรื่องจมูกกับโพรงไซนัสแล้วก็หลักๆของ
00:05:42 → 00:05:45 น้องนี่คือกล่องอดินอยอครับมันโตทีนี้พอ
00:05:45 → 00:05:47 อดินอยโทำให้เกิดเอจมูกอักเสบได้บ่อยใช่
00:05:47 → 00:05:50 มั้ยฮะทีนี้จมูกกับหูชั้นกลางเนี่ยมันจะ
00:05:50 → 00:05:53 กร่อกันมันจะมีท่อตัวเยครับท่อตัวนี้จะ
00:05:53 → 00:05:57 เรียกว่าช tue มันจะต่อจากไอ้หูชั้นกลาง
00:05:57 → 00:05:59 ต่อมาที่หลังโพงจมูกนะครับซึ่งหลังโพง
00:05:59 → 00:06:01 จมูกก็จะมาไปใกล้ๆกับตล่อมอดินอยเหมือน
00:06:01 → 00:06:03 กันอ๋อมันเกี่ยวโยกันไปหมดเลยเกี่ยวกันไป
00:06:03 → 00:06:05 หมดครับของน้องเนี่ยหมอว่าน่าจะมีปัญหา
00:06:05 → 00:06:07 เรื่องคือตั้งแต่เรื่องเอ่อตล่อมอดินอยโต
00:06:07 → 00:06:09 เนี่ยฮะทำให้น้องเเป็นหวัดได้ง่ายนะครับ
00:06:09 → 00:06:12 แล้วก็คาดว่าการที่น้องเมีเป็นหวัดไปเป็น
00:06:12 → 00:06:15 หายๆเป็นมานานเนี่ยฮะมันทำให้เอ่อการทำ
00:06:15 → 00:06:17 งานของหูชั้นกลางเนี่ยผิดปกติไปแล้วก็
00:06:17 → 00:06:19 เหมือนกับว่ามีความดันในหูชั้นกลางเนี่ย
00:06:19 → 00:06:22 ติดลบแล้วก็มีน้ำคั่งในหูชั้นกลางครับออ
00:06:22 → 00:06:24 อาการที่ตอนนั้นเนี่ยเราแน่นอนน้องตูนได้
00:06:24 → 00:06:26 ยินไม่ค่อยชัดเราสังเกตอาการของน้องตูน
00:06:26 → 00:06:29 ตอนอยู่ที่บ้านยังไงคุณแม่ก็เทสกันได้ยิน
00:06:29 → 00:06:31 เหมือนเหมก็คือเทเองก็แบบว่าเหมือนเรียก
00:06:31 → 00:06:34 เบาๆก็ก็หันแต่ว่าบางทีก็เหมือนเหม่อแต่
00:06:34 → 00:06:37 เด็กแต่ด้วยความเหม่อเนี่ยเราก็ด้วยเด็ก
00:06:37 → 00:06:40 เนี่ยเออเราก็องเล่นทีวีดูทีวีเล่นของ
00:06:40 → 00:06:43 เล่นก็เลยเหม่อไม่ฟังหรือเปล่าเออพอพอ
00:06:43 → 00:06:46 ตรวจนี่แหละค่ะมาเทสการได้ยินก็ก็ตกใจ
00:06:46 → 00:06:48 อยู่คุณหมอบอกว่าข้างนี้ได้ยินเท่านี้นะ
00:06:48 → 00:06:50 ข้างนี้ได้ยินเท่านี้นะก็เลยเหมือนแบบ
00:06:50 → 00:06:53 อ้าวที่ผ่านมาเราอ่ะละเลยเราเราเราไม่ได้
00:06:53 → 00:06:56 ไปซีเรียสกับมันเรามองว่าพฤติกรรมเด็กการ
00:06:56 → 00:06:59 เล่นการอะไรเหม่อเงี้ยเรากลายเป็นว่าน้อง
00:06:59 → 00:07:02 ไม่เหมือนคนปกติใช่ๆค่ะนี่มันส่งผลมาจาก
00:07:02 → 00:07:04 โงไสนอักเสบลามไปเรื่องการได้ยินแล้วนะ
00:07:04 → 00:07:06 ตอนนี้ใช่นะครับแล้วยังไงฮะหลังจากที่เรา
00:07:06 → 00:07:09 ตรวจเจอเจอว่าข้างซ้ายเนี่ยแก้วหูทะลุนะ
00:07:09 → 00:07:12 ครับโอหแก้วหูทะลุเลยใช่ทะลุไปเลยครับมัน
00:07:12 → 00:07:13 เกิดจากอะไรครับแก้วหูทะลุเนี่ยฮะน่าจะ
00:07:13 → 00:07:16 เคยมีน้ำในหูชงกลางแล้วคงมีการอักเสบติด
00:07:16 → 00:07:18 เชื้อแทรกซ้อนแล้วก็ตอนที่มีอักเสบแทรก
00:07:18 → 00:07:20 ซ้อนเนี่ยมันคงมีหนองแตกออกมาแล้วมันก็
00:07:20 → 00:07:22 เลยทะลุแล้วคราวนี้มันคงไม่ปิดเองก็เลย
00:07:22 → 00:07:25 กลายเป็นรูเร้อรังแล้วก็พอไปว่ายน้ำเ้า
00:07:25 → 00:07:27 นี้ก็เลยพอน้ำเข้าไปก็มีการติดเชื้อขึ้น
00:07:27 → 00:07:29 มาอีกก็เลยมีเลือดไหลออกมาอันนี้เป็นหู
00:07:29 → 00:07:33 ด้านซ้ายของน้องตูนนะครับก็อันนี้เปิดเก
00:07:33 → 00:07:35 ตรงนี้จะเป็นแก้วหูนะครับทีนี้ของน้องตูน
00:07:35 → 00:07:38 เนี่ยเนี่ยตนี้มันมีพื้นที่บริเวณนี้สัก
00:07:38 → 00:07:42 ประมาณ 50% ของพื้นที่ทั้งหมดนะฮะทะลุไป
00:07:42 → 00:07:44 นะครับที่มองเห็นตรรงนี้อันนี้จะเป็นเย่อ
00:07:44 → 00:07:48 บุของหูชั้นกลางแล้วแล้วยังไงฮะพอพอแก้หู
00:07:48 → 00:07:51 ทะลุแบบนี้ปั๊บมันมีการรักษายังไงคุณหมอ
00:07:51 → 00:07:53 ครับก็ส่วนใหญ่เราต้องรักษาที่สาเหตุก่อน
00:07:53 → 00:07:55 อย่างเช่นถ้าเกิดมีเรื่องคัดจมูกน้ำมูก
00:07:55 → 00:07:58 ไหลหรือว่าอย่างตออดินอยโตเราต้องแก้ไข
00:07:58 → 00:08:00 ตรงนี้ก่อนนะฮะก็ถ้าเกิดเราแก้ไขตรงนี้
00:08:00 → 00:08:02 เสร็จเรียบร้อยเนี่ยก็ต้องตามดูก็ต้อง
00:08:02 → 00:08:05 ป้องกันไม่ให้เอ่อเกิดการติดเชื้อแทรก
00:08:05 → 00:08:07 ซ้อนอย่างเช่นถ้าเกิดเป็นหงเป็นหวัดเนี่ย
00:08:07 → 00:08:10 ต้องรีบรักษาหรือว่าต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้
00:08:10 → 00:08:12 น้ำเข้าหูเพราะว่าตอนนี้ไม่มีแก้วหูแล้ว
00:08:12 → 00:08:14 เพราะฉะนั้นถ้าเกิดน้ำเข้าไปเนี่ยมันจะ
00:08:14 → 00:08:16 เข้าไปในหูชั้นกลางโดยตรงโอ้โหอ่าแล้วถ้า
00:08:16 → 00:08:18 เกิดเรารักษาผ่าตัดมันจะกลับไปมีแก้วหู
00:08:18 → 00:08:20 เหมือนเดิมได้มั้ยครับจริงงจริงๆสามารถ
00:08:20 → 00:08:22 ผ่าตัดปะซ่อมแซมเยอะแก้วหูได้นะฮะแต่ว่า
00:08:22 → 00:08:26 ต้องรอให้สภาพของเค้าเนี่ยเอ่อดีขึ้นก่อน
00:08:26 → 00:08:27 ครับเรื่องจมูกต่างๆเรื่องการอักเสบเนี่ย
00:08:27 → 00:08:30 ให้มันดีขึ้นก่อนครับข้างขวานี้ยังไม่
00:08:30 → 00:08:32 ทะลุอันนี้ข้างขวาอันนี้ก็ดูถ้าเกิดดู
00:08:32 → 00:08:34 เผินๆจะเหมือนทะลุนะครับผมครับแต่ว่าจริง
00:08:34 → 00:08:37 ๆเอ่อไม่ได้ทะลุนะครับตรงนี้จะเห็นว่า
00:08:38 → 00:08:40 เนี่ยตรงเยฮะพื้นที่ส่วนใหญ่ของแก้วหู
00:08:40 → 00:08:42 ด้านขวาเนี่ยมันยุบตัวลงไปอันนี้ตอนนั้น
00:08:43 → 00:08:45 ลองใส่ลมเหมือนว่าเป่าความดันเข้าไปก็ดู
00:08:45 → 00:08:48 การขยับของเยื่อแก้วหูครับครับจะเห็นว่า
00:08:48 → 00:08:51 เนี่ยฮะตรงเนี้ยยังพอขยับได้นะครับอือแต่
00:08:52 → 00:08:53 ว่าส่วนเนี้ยมันเห็นว่านิ่งไปเลยมันไม่
00:08:53 → 00:08:55 ยอมขยับนะครับคือไอ้ที่นิ่งไปเลยเนี่ยคือ
00:08:55 → 00:08:58 ตรงนี้ตรงกลางนี่นิ่งนิไปเลยใช่ืนที่ใหญ่
00:08:58 → 00:09:00 เลยฮะมันนิ่งไปเลยการตอบสนองกับลมที่เป่า
00:09:00 → 00:09:02 เข้าไปครับคือมันยุบคงยุบมานานแล้วเพราะ
00:09:02 → 00:09:04 ว่าอนี้ไม่ไม่น่าเกิดภายในช่วง 2-3 เดือน
00:09:04 → 00:09:07 แสดงว่าอาการนี้กว่าจะมาถึงเยื่อแก้วหู
00:09:07 → 00:09:10 เนี่ยมันนิ่งไปแบบนี้เนี่ยคือน้องตูนต้อง
00:09:10 → 00:09:12 เป็นมานานแล้วน่าจะเป็นมาเป็นปีครับผมถึง
00:09:12 → 00:09:15 จะมีอาการแบบนี้ถูกต้องมั้ยครับแต่ด้าน
00:09:15 → 00:09:17 นี้ก็ยังถือว่าไม่ทะลุแก้วหูยังไม่ทะลุ
00:09:17 → 00:09:19 ด้านนี้ไม่ทะลุครับครับถ้าเกิดสมมุติว่า
00:09:19 → 00:09:23 คุณแม่ยังนิ่งนอนใจไม่พามาหาคุณหมออืท้าย
00:09:23 → 00:09:25 ที่สุดน้องตูจะเป็นยังไงครับก็อย่างอย่าง
00:09:25 → 00:09:28 หูซ้ายเนี่ยก็น่าจะก็ทะลุไปแล้วใช่มั้ย
00:09:28 → 00:09:30 ครับส่วนหูขวาเนี่ยตรงเมันอาจจะยุบตัวจน
00:09:31 → 00:09:33 กระทั่งไม่มีการขยับเลยคือมันยุบไปทั้งหู
00:09:33 → 00:09:36 เลยอ่ะครับแล้วก็ถ้าเกิดเป็นนานๆเนี่ยพวก
00:09:36 → 00:09:38 เนี้ยมันจะมีคือในช่องหูเรามันจะมีพวกขี้
00:09:38 → 00:09:41 หูอยู่ใช่มั้ยฮะแล้วก็มีพวกเอ่อผิวหนัง
00:09:41 → 00:09:44 ที่อยู่ในช่องหูเนี่ยมันก็จะมีการสะสมของ
00:09:44 → 00:09:46 พวกไอ้ผิวหนังต่างๆเนี่ยมันจะมีเอนไซม์
00:09:46 → 00:09:49 ที่เข้าไปกัดกินกระดูกหูชั้นในนะครับมัน
00:09:49 → 00:09:51 จะกินเข้าไปบางคนกินเยอะเข้าไปเข้าไปถึง
00:09:51 → 00:09:53 สมองหรือว่าไปโดนเส้นประสาทที่วิ่งมา
00:09:53 → 00:09:55 เลี้ยงใบหน้าเกิดหน้าเบี้ยวก็ก็เคยเจอ
00:09:55 → 00:09:58 โอ้โหอันนี้คืออาการที่เกิดจากพรงไซนัส
00:09:58 → 00:10:00 อักเสบแล้วไม่ยอมมาพบกับคุณหมอจงจนส่งผล
00:10:01 → 00:10:03 ไปถึงเรื่องหูมันก็ลมต่อๆกทอดทๆคือไม่ใช่
00:10:03 → 00:10:04 บอกว่าทุกคนเป็นแล้วจะต้องเกิดอย่างงี้นะ
00:10:04 → 00:10:06 ฮะแต่ว่าไม่ได้เกี่ยวกับการแคะหูแล้วติด
00:10:06 → 00:10:09 เชื้ออะไรยังไงใช่มั้ยฮะก็จริงการแคกหูก็
00:10:09 → 00:10:11 ไม่ดีเหมือนกันก็ไม่ดีแต่ว่าอันนี้มัน
00:10:11 → 00:10:14 เกิดจากที่ว่าดีการทำงานของหูชั้นกลาง
00:10:14 → 00:10:16 เนี่ยมันผิดปกติไปอืครับตอนนี้ก็ผ่าตัด
00:10:16 → 00:10:18 แล้วอันนี้ผ่านแล้วครับผมผ่านแล้ววันนี้
00:10:18 → 00:10:20 ก็มา foll ใช่ครับผมอาการต่อไปเราจะเช็ค
00:10:20 → 00:10:22 ยังไงต่อฮะสำหรับน้องตูนมาเจอคุณหมอวัน
00:10:23 → 00:10:26 นี้ก็หมอก็จะดูในจมูกในลำคอนะฮะแล้วก็ดู
00:10:26 → 00:10:29 หูว่ามีปัญหาอะไรมั้ยแล้วก็ตอนที่ผ่าตัด
00:10:29 → 00:10:31 ไปเนี่ยสรุปว่าของน้องเมีเรื่องนอนกลนนะ
00:10:31 → 00:10:33 ครับแล้วก็หยุดหายใจขณะหลักครับแล้วกล่อง
00:10:33 → 00:10:36 ทอนซินในลำคอเนี่ยฮกับต่องอดินอยที่โชว์
00:10:36 → 00:10:39 เมื่อกี้โตก็เลยเอาตล่อมทอนซินกต่อมอนอย
00:10:39 → 00:10:42 ออกไปนะครับนะแล้วก็ส่วนหูเนี่ยฮะข้างขวา
00:10:42 → 00:10:44 เนื่องจากว่ามันยุบกัวเยอะเพราะฉะนั้นเรา
00:10:44 → 00:10:46 ต้องไปแก้ไขเรื่องความดันในหูให้มันกลับ
00:10:46 → 00:10:49 มาปกติอือก็เลยทำการเจาะตรงนี้ฮะเจาะ
00:10:49 → 00:10:51 เยื้อแก้วหูแล้วก็ใส่ท่อความดันใช่แล้วก็
00:10:51 → 00:10:53 ใส่ท่อปรับความดันใส่ท่อเข้าไปนะครับผม
00:10:53 → 00:10:56 แสดงว่าตอนนี้น้องตูนเอาต่อมทอมซินกับ
00:10:56 → 00:10:58 อดินอยออกไปแล้วออกไปหมดเลยครับผมครับเอ๊
00:10:58 → 00:11:00 ด้วยก่อนหน้าที่ของมันคือการกลั่นกรองค่า
00:11:00 → 00:11:02 เชื้อโลคใช่แล้วตอนนี้น้องตูไม่มีก็เป็น
00:11:02 → 00:11:04 หวัดง่ายสิครับใช่ก็การติดเชื้อเนี่ยส่วน
00:11:04 → 00:11:08 ใหญ่จะน้อยลงดีขึ้นนะฮะแล้วก็เอ่อร่างกาย
00:11:08 → 00:11:10 สามารถสร้างเอ่อภูมิต้านทานในกระแสเลือด
00:11:10 → 00:11:13 เนี่ยมาชดเชยได้ครับอ๋ออ่ะตอนนี้ไม่มี
00:11:13 → 00:11:14 แล้วนะฮะอ่ะวันนี้เดี๋ยวให้คุณหมอตรวจ
00:11:14 → 00:11:18 น้องตูนดูว่าคอหูยังปกติอยู่หรือเปล่านะ
00:11:18 → 00:11:22 ฮะอ่ะเชิญเลยครับคุณหมอเชิญตรวจเลย
00:11:22 → 00:11:25 ครับท้านซ้ายก็ดีครับมีน้ำมุ่งใสๆนิด
00:11:25 → 00:11:28 เดียวนะทัชิวอยู่ค่ะใช่ครับอ่าเดี๋ยวอ้า
00:11:28 → 00:11:32 ป่านะครับอล้อง R ดิครับอพูดอ่าดิออ่ะ
00:11:32 → 00:11:36 โอเคทอนซินไม่มีแล้วนะโอเคดูหูนะจ๊ะดูหู
00:11:36 → 00:11:42 ลูกข้างขวาก่อน
00:11:42 → 00:11:46 เนาะอ่าทะลุอยู่เหมือนเดิมไม่เป็นไรแล้ว
00:11:46 → 00:11:48 อักเสบมั้ยคะอ๋อไม่อักเสบไม่มีหนองอะไร
00:11:48 → 00:11:51 ครับเป็นแบบทะลุจิงแต่ว่ามันก็แห้งๆอยู่ต
00:11:51 → 00:11:53 นี้ครับดีขึ้นกว่าเดิมจะดีขึ้นคุณบครับ
00:11:53 → 00:11:55 แล้วอย่างงี้คือพอแก้วหูทะลุปั๊บเราต้อง
00:11:55 → 00:11:57 รักษาส่วนอื่นให้มันหายดีก่อนแล้วค่อย
00:11:57 → 00:11:59 กลับมาแก้ไขในเรื่องของแก้วหูต่อไปใช่
00:11:59 → 00:12:01 เพราะว่าถึงถ้าเกิดคืออีกอย่างนึงคือน้อง
00:12:01 → 00:12:04 เ้าเอ่ออายุยังน้อยอยู่ครับตัวเล็กอยู่ที
00:12:04 → 00:12:07 นี้ส่วนใหญ่ถ้าเกิดอายุน้อยๆเนี่ยถ้าเกิด
00:12:07 → 00:12:09 ไปผ่ากลับปะแก้วหูเนี่ยฮะไอ้ตัวท่อปรับ
00:12:09 → 00:12:11 ความดันเนี่ยมันยังทำงานได้ไม่เต็มที่
00:12:11 → 00:12:13 เหมือนว่ายังเจริญไม่เต็มที่อฮะเพราะ
00:12:13 → 00:12:15 ฉะนั้นโอกาสที่ปะแล้วอาจจะไม่ติดเนี่ยมี
00:12:15 → 00:12:17 เหมือนกันแต่ก็ต้องมารักษาไปเรื่อยๆดู
00:12:17 → 00:12:19 ตลอดเก็บไปทีละอย่างพูดง่ายๆใช่เก็บไป
00:12:19 → 00:12:21 เรื่อยๆนะครับคุณแม่ครับหลังจากที่น้อง
00:12:21 → 00:12:23 ตูนเนี่ยมาพบกับคุณหมอแล้วอาการของน้อง
00:12:23 → 00:12:26 ตูนเนี่ยดีขึ้นมั้ยฮะก็เห็นได้ชัดในวัน
00:12:26 → 00:12:29 ที่ผ่าตัดเสร็จเลยคือคืนนั้นเนี่ยน้องตูน
00:12:29 → 00:12:32 นอนไม่กนเลยครับเงียบสนิททั้งๆที่หลังจาก
00:12:32 → 00:12:35 ผ่าน่าจะแบบอักเสบหรืออะไรแต่น้องไม่เลย
00:12:35 → 00:12:39 คือนอนนิ่งมากมากเลยแล้วสบายหลับสบายหลับ
00:12:39 → 00:12:41 ลึกเลยตื่นมาสดชื่นเลยลึกเลยคุณหมอครับ
00:12:41 → 00:12:44 ถ้าเกิดอยากจะถามคุณหมอว่าอ่าเราไม่อยาก
00:12:44 → 00:12:46 ให้ลูกหลานของเราเป็นแบบน้องตูนแบบเนี้ย
00:12:46 → 00:12:49 เราควรจะมีข้อระมัดระวังในการใช้ชีวิตยัง
00:12:49 → 00:12:52 ไงบ้างครับอ๋อก็คือต้องดูถ้าเกิดน้องก็มี
00:12:52 → 00:12:55 ปัญหาว่าเออน้ำมูกเขียวหรือว่าคัดจมูก
00:12:55 → 00:12:58 บ่อยๆมีนอนกลนอะไรเงี้ยถ้าเกิดเป็นมาสัก
00:12:58 → 00:13:00 พักนึงคืออย่างถ้าเกิดเป็นหวัดเนี่ยสัก
00:13:00 → 00:13:02 7-10 วันมันควรจะหายนะครับถ้าเกิดอาการ
00:13:02 → 00:13:04 ไม่ดีขึ้นเนี่ยก็ควรจะพามาพบแพทย์นะครับ
00:13:04 → 00:13:06 อย่างน้อยๆแล้วก็มีนอนกนแล้วก็ต้องดูว่า
00:13:06 → 00:13:08 มีหยุดหายใจด้วยมั้ยกระสับกระส่ายหายใจ
00:13:08 → 00:13:11 ไม่เต็มอิ่มหรือว่าเอ่อกนแล้วมันหยุดหาย
00:13:11 → 00:13:13 ใจอะไรเงี้ยก็ก็ควรจะพามาตรวจเหมือนกัน
00:13:13 → 00:13:16 ครับการว่ายน้ำเกี่ยวมั้ยคุณแม่ณวันนี้
00:13:16 → 00:13:18 สำหรับคุณแม่เคสของน้องตูนคุณแม่ว่า
00:13:18 → 00:13:22 เกี่ยวเพราะว่าเด็กแต่ละคนเนี่ยการที่เขา
00:13:22 → 00:13:24 จะกั้นหายใจเทคนิคของแต่ละคนก็เหมือนผู้
00:13:25 → 00:13:27 ใหญ่ไม่น่าจะเหมือนกันแล้วแต่แบบว่าความ
00:13:27 → 00:13:30 สามารถของเขาน้องน้องตูนนี่น่าจะอ่ากั้น
00:13:30 → 00:13:33 หายใจไม่ไม่ไม่ไม่เป็นนะคะเออแล้วเราไป
00:13:33 → 00:13:36 หมั่นเรียนว่ายน้ำเข้าน้ำมันก็จะเข้าหู
00:13:36 → 00:13:38 เอ่ามันก็ทำแล้วเาอดินอยโตอยู่แล้วมันก็
00:13:38 → 00:13:41 ไปกระตุ้นให้เขาหูอักเสบติดเชื้อง่ายกช้า
00:13:41 → 00:13:43 เชื้อง่ายกว่าชาวบ้านเลยใช่คนอื่นเนี่อาจ
00:13:43 → 00:13:45 จะไม่ได้เป็นก็เข้าไปอาจจะไม่ติดเชื่อใช่
00:13:45 → 00:13:47 เด็กบางคนที่มองว่าเอ้เาว่ายน้ำแล้วเไม่
00:13:47 → 00:13:50 เห็นเป็นอะไรออาจจะว่าโอเคเเาอาจจะกั้น
00:13:50 → 00:13:52 หายใจเป็นเขาอาจจะมีเทคนิคเฉพาะตัวของเขา
00:13:52 → 00:13:55 เป็นเงี้ยค่ะอเพราะฉะนั้นพูดง่ายๆต้องคอย
00:13:55 → 00:13:57 สังเกตลูกหลานของตัวเองว่าอาการมีเป็นยัง
00:13:57 → 00:14:00 ไงนะฮะพามาพบกับคุณหมอนะครับอย่าปล่อย
00:14:00 → 00:14:04 เอาาไว้นานเป็นปีแบบน้องตูนแล้วจะเจอ 3
00:14:04 → 00:14:05 อย่างอย่างงนี้เลยอ้าวันนี้ก็ต้องขอ
00:14:05 → 00:14:07 ขอบคุณคุณหมอแล้วก็คุณแม่มากนะครับที่มา
00:14:07 → 00:14:09 พูดคุยกันในวันนี้ขอบคุณมากครับขอบคุณ
00:14:09 → 00:14:15 ครับคุณหมสวัสดีครับสวัสดี
00:14:15 → 00:14:20 ครับเออสมัยตอนที่ผมป่วยก็คือผมมีอาการก็
00:14:20 → 00:14:24 คือเป็นไข้มา 2-3 สัปดาห์กินยารดไข้ก็ไม่
00:14:24 → 00:14:27 หายซักทีแล้วก็มีอาการเบื่ออาหารครับน้ำ
00:14:27 → 00:14:31 หนักลดมา 3 กลแล้วก็มีไอแห้งๆมีเสมหะมี
00:14:31 → 00:14:34 เลือดปนมานิดหน่อยคิดว่าน่าจะเป็นวรรณโรค
00:14:34 → 00:14:38 อ่ะครับแต่ว่าตอนนั้นก็คือ 50 50 กับว่า
00:14:38 → 00:14:40 เป็นไข้หวัดธรรมดาไม่ไม่แน่ใจเหมือนกันก็
00:14:40 → 00:14:46 เลยมาตรวจกับอาจารย์
00:14:46 → 00:14:52 ดูคุณชุมพลป่วยเป็นโรคอ่าโรควัณโรคครับ
00:14:52 → 00:14:56 วันวรรณโรคคือโรคที่ไอแล้วก็ติดเชื้อได้
00:14:56 → 00:14:59 เลยโดยที่คนนั้นก็รับไปเป็นเกี่ยวกับทาง
00:14:59 → 00:15:01 เดินหายใจใช่มใช่ค่ะพอดีของคุณชูพลเนี่ย
00:15:01 → 00:15:04 เป็นเอ่อคนไข้ซึ่งได้รับการรักึกษาเรียบ
00:15:04 → 00:15:07 ร้อยแล้วพบคอสแล้วหายแล้วค่ะอเรว่าเป็น
00:15:07 → 00:15:10 ตัวอย่างว่าทำยังไงหายได้วัณโรคหายได้เรา
00:15:10 → 00:15:12 จำเป็นต้องดูแลอยู่กับคนที่ป่วยเป็น
00:15:12 → 00:15:15 วัณโรคอย่างไรและเาดูแลตัวเองอย่างไรให้
00:15:15 → 00:15:18 หายจากวรณโลกค่ะว้าวค่ะเยี่ยมเลยครับค่ะ
00:15:18 → 00:15:21 เพื่อความสบายใจเดี๋ยวให้คุณคุณบวยดูก่อน
00:15:21 → 00:15:24 นะคะอันนี้เป็นเซเรย์ปอดของคุณชุมพลขณะ
00:15:24 → 00:15:27 ที่มีเอ่อวัณโรคอยู่นะคะเมื่อหลายหลาย
00:15:27 → 00:15:30 เดือนก่อนค่ะเห็นมั้ยคะโรคเกิดเชื้ออะไร
00:15:30 → 00:15:33 ครับเชื้อชื่อเชื้อวรคชื่อ M bacterium
00:15:33 → 00:15:35 tuberculosis ค่ะหรือ TB อันนี้ตอนที่เา
00:15:35 → 00:15:39 มีโรคนะคะเห็นเป็นรอยโรคขาวๆนะคะอันนี้
00:15:39 → 00:15:41 ข้างนี้ปกติเห็นมั้ยคะมีรอยโรคขาวๆอยู่ก็
00:15:41 → 00:15:44 คือเป็นปอดอักเสบชนิดนึงหลังจากการรักษา
00:15:44 → 00:15:47 ครบคอร์สเรียบร้อยแล้ว 6 เดือนนะคะหายไป
00:15:47 → 00:15:49 แล้วค่ะตำแหน่งที่เป็นฝ้าขาวๆอันนี้คือ
00:15:50 → 00:15:53 ปอดปกติแล้วค่ะก็คือหายขาดปกิค่ะตอนเป็น
00:15:54 → 00:15:56 ตอนแรกกังวลมั้ยครับช่วงนั้นโอกังวล
00:15:56 → 00:15:58 เหมือนกันครับเพราะว่าเป็นไข้แล้วไม่หาย
00:15:58 → 00:16:02 ซักทีอาการคือเป็นไข้และไม่หายค่ะคุณชูพล
00:16:02 → 00:16:05 ลองเล่าสิคะว่าตอนแรกมาด้วยอาการอะไรคือ
00:16:05 → 00:16:08 ก็คือผมเป็นไข้มา 3 สัปดาห์แล้วแล้วก็กิน
00:16:08 → 00:16:10 ยารดไข้กินอะไรพวกนี้มันก็ไม่หายไปต่อ
00:16:10 → 00:16:13 เนื่อง 3 สัปดาห์นี้นานมากน่ะครับทีแล้ว
00:16:13 → 00:16:17 ก็มีกินอาหารไม่ค่อยลงครับน้ำหนักลดไป 3
00:16:17 → 00:16:23 กกอแล้วก็มีไอแห้งๆมีมีเสมหะมีเลือดปนมา
00:16:23 → 00:16:27 นิดหน่อยครับอืที่เราดูในหนังไงในหนังที่
00:16:27 → 00:16:29 แใช่ค่ะ
00:16:29 → 00:16:32 เลือดเงี้ยแล้วก็เสียชีวิตไปอ่าแต่ไม่ถึง
00:16:33 → 00:16:35 ขั้นนั้นค่ะอทีนี้เรารู้มั้ยคะว่าสาเหตุ
00:16:35 → 00:16:38 ตอนที่เราคือตอนติดผมไม่รู้ว่ารู้มั้ย
00:16:38 → 00:16:40 ครับว่าติดมาจากไหนน่าจะติดจากคนในชุมชน
00:16:40 → 00:16:45 ผมนะอืครับๆไปกินข้าวด้วยกันไปไปดูหนังไป
00:16:45 → 00:16:47 อะไรพวกนี้ด้วยกันอาจจะเป็นไปได้ทีนี้ถาม
00:16:47 → 00:16:50 อาจารย์ผมว่าโลกเหล่าเนี้ยป้องกันได้ใช่
00:16:50 → 00:16:52 มั้ยครับป้องกันได้ไม่ให้ติดกันได้ใช่ค่ะ
00:16:52 → 00:16:57 แล้วก็ติดจากอะไรครับก็เป็นโรคติดต่อนะคะ
00:16:57 → 00:16:59 ส่วนใหญ่เนี่ยก็เชื้อจะไปอยู่ในปอดของคน
00:16:59 → 00:17:02 แล้วทำให้เกิดโรคปอดอักเเสบงั้นการที่คน
00:17:02 → 00:17:04 ไข้ที่มีเชื้ออยู่ในตัวโดยที่ยังไม่ได้
00:17:04 → 00:17:08 รักษาเนี่ยไอออกมานะคะอายออกมาก็จะเป็น
00:17:08 → 00:17:11 ละอองเล็กๆเรียกว่าลตนะคะประมาณ 5 ไมครอน
00:17:11 → 00:17:13 นะคะก็จะฟุ่งอยู่ในอากาศโดยที่มีเชื้อนอน
00:17:13 → 00:17:16 อยู่ในไอ้ลตอันนั้นด้วยครับคนที่อยู่ใกล้
00:17:16 → 00:17:20 ชิดเขานะคะก็สามารถจะสูดบลตนั้นเข้าในปอด
00:17:20 → 00:17:23 ได้แล้วก็ไปก่อให้เกิดโรคในปอดโดยเฉพาะคน
00:17:23 → 00:17:25 ที่ไม่แข็งแรงนะคะพวกที่เป็นกลุ่มเสี่ง
00:17:25 → 00:17:29 ต่างๆเช่นเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปีอือฮผู้
00:17:29 → 00:17:32 สูงอายุนะคะผู้ที่มีโรคเรื้อรังเช่นเบา
00:17:32 → 00:17:36 หวานไายวายเรื้อรังนะคะหรือพวกที่มีภูมิ
00:17:36 → 00:17:38 พุมกันบกพร่องได้รับเชื้อไปแล้วก็อาจจะ
00:17:38 → 00:17:40 ก่อให้เกิดโรคเลยก็จะอาจจะมีอาการเลยอีก
00:17:40 → 00:17:42 กลุ่นึงเกแต่ถ้าเกิดกลุ่มนึงคนที่เมื่อ
00:17:42 → 00:17:45 กี้อาจารย์บอกว่าแบบไม่แข็งแรงถ้าเกิดเค
00:17:45 → 00:17:47 แข็งแรงถ้าแข็งแรงก็มีโอกาสที่จะไม่ติด
00:17:47 → 00:17:49 ค่ะไม่ติดก็ได้ใช่มั้ยใช่ค่ะมีโอกาสที่
00:17:49 → 00:17:52 ไม่ติดโอกาสที่จะติดประมาณ 20% ใน 100%
00:17:52 → 00:17:54 อีก 80% ได้รับเชื้อแล้วเนี่ยร่างกายแข็ง
00:17:54 → 00:17:56 แรงสามารถจะกำจัดเชื้อไปได้เองแอนติบอดี้
00:17:56 → 00:17:59 ของเราทำงานอันนั้นเองมัน่าเชเชื้อโรคไป
00:17:59 → 00:18:01 ได้ก็ไม่ก่อให้เกิดปลอดอักเสบแล้วก็ไม่
00:18:01 → 00:18:04 เกิดอาการแต่คนไข้คนถัดมาที่ใน 20% นั้น
00:18:04 → 00:18:08 ที่รับเชื้อก็จะเป็นโรคะแล้วก็ปล่อยให้คน
00:18:08 → 00:18:10 ใกล้ตัวเขาต่อไปก็ถึงได้เรียกว่าเป็นโรค
00:18:10 → 00:18:13 ติดต่อนะค่ะอ๋อทีนี้ผมถามอาจารย์นิดนึง
00:18:13 → 00:18:16 ครับว่าตอนนี้เรารับรู้มาว่าทางแอฟริกา
00:18:16 → 00:18:19 เงี้ยครับคือเ้ามีชื้อโรกอบลอย่าเงี้ยบอก
00:18:19 → 00:18:21 เป็นเรื่องของเกี่ยวกับทางเดินหายใจ
00:18:21 → 00:18:23 เหมือนกันใช่มั้ยครับมีส่วนนึงที่เกี่ยว
00:18:23 → 00:18:25 กับทางเดือนหายใจค่ะคือบล่าเป็นไวรัสค่ะ
00:18:25 → 00:18:28 เป็นคนละเชื้อคนละประเภทกับกับ TB หรือณ
00:18:28 → 00:18:32 โรคออแล้วต่อแต่ากันปัจจุันยังไม่ทราบราย
00:18:32 → 00:18:36 ละเอียดมาสำหรับการติดต่อเพียงแต่ว่าอาจ
00:18:36 → 00:18:38 จะมาจากสิ่งคัดหลังซึ่งไวรัสติดเชื้อส่วน
00:18:38 → 00:18:40 ใหญ่จะเป็นสิ่งคัดหลังของคนไข้ที่เป็นโรค
00:18:41 → 00:18:43 ก็จะมีเชื้อผสมมากับสิ่งคัดหลั่งเหล่า
00:18:43 → 00:18:45 นั้นแล้วเราก็ไปสัมผัสกับสิ่งข้าหลัง
00:18:45 → 00:18:47 เหล่านั้นแล้วก็มาป้ายตัวเองก็อาจจะติด
00:18:47 → 00:18:50 เชื้ออย่างนั้นได้การติดเชื้อส่งต่อทาง
00:18:50 → 00:18:52 หายใจยังไม่ยังไม่มีหลักฐานพิสูจน์ชัดเจน
00:18:52 → 00:18:56 แน่นอนขณะที่เป็นวัณโรคพอมาตรวจบอกที่
00:18:56 → 00:18:59 บ้านว่าเป็นวัณโรคปุ๊บที่บ้านก็ให้ใส่กาก
00:18:59 → 00:19:00 อ่ะครับออซึ่งมันเป็นวิธีการที่ถูกต้อง
00:19:01 → 00:19:02 มั้ยครับในการป้องกันถูกต้องถูกต้องค่ะ
00:19:02 → 00:19:05 ถูกต้องค่ะคืออาการส่วนใหญ่ที่จะมาสำหรับ
00:19:05 → 00:19:07 เชื้อวโรคก็จะแตกต่างจากบาดอักเสบธรรมดา
00:19:08 → 00:19:10 เล็กน้อยนะคะก็คือจะไข้เรื้อรังนะคะซึ่ง
00:19:10 → 00:19:13 คุณชูพงษ์ก็มีแล้วก็มีอาการไอเรื้อรังนะ
00:19:13 → 00:19:15 คะเกินกว่า 3 เดือนขึ้นไปก็ต้องสงสัยแล้ว
00:19:15 → 00:19:17 ว่าเอ๊ะมันผิดปกติแล้วล่ะเป็นหวัดอะไร
00:19:17 → 00:19:19 ธรรมดาทำไมหายไม่นานร่วมกับมีเสียมหะที่
00:19:19 → 00:19:22 ปลดเลือดก็ต้องระวังเล็กน้อยว่าใช่เป็น
00:19:22 → 00:19:23 วัณโรคหรรือเปล่าหรือเป็นโรคติดเชื้อ
00:19:23 → 00:19:26 อย่างอื่นหรือไม่ใช่โรคติดเชื้อเช่นมะเรง
00:19:26 → 00:19:28 ปอดก็จะไอเป็นเลือดได้เช่นกันเพราะฉะนั้น
00:19:28 → 00:19:30 อาการต่างๆซึ่งผิดปกติเหล่านี้เนี่ยจะ
00:19:30 → 00:19:33 ต้องมาตรวจละนะคะคราวนี้ของคุณชูพลเนี่ย
00:19:33 → 00:19:35 มีประวัติสัมผัสกับผู้ติดเชื้อนะคะแล้วก็
00:19:35 → 00:19:37 เมีอาการไอเรื้อรังซึ่งเข้ากันได้กับ
00:19:37 → 00:19:41 วัณโรคพอเ่อมาหาหมอครั้งแรกด้วยอาการ
00:19:41 → 00:19:43 เหล่านั้นก็เราก็สงสัยแล้วว่าอาจจะเป็น
00:19:43 → 00:19:46 การติดเชื้อวัณโรคได้ก็ต้องถ่ายเซเรปอด
00:19:46 → 00:19:49 ซึ่งก็เจอว่ามีฝ้าขาวในปอดจริงนะคะแล้วก็
00:19:49 → 00:19:52 ต้องตรวจเสมหะนะคะก็พบว่าพิสูจน์ว่ามี
00:19:52 → 00:19:54 เชื้อโรคจริงนะคะเชื้อก็จากจากเสมหาก็จะ
00:19:54 → 00:19:57 เป็นไอ้ตัวขีดสีแดงๆนี่แหละ
00:19:57 → 00:20:01 ค่ะนะคะเป็นการย้อมพิเศษนะคะย้อมพิเศษ
00:20:01 → 00:20:03 เรียกว่า Acid fash staining นะคะก็จะ
00:20:03 → 00:20:07 เห็นเป็นเชื้อสีแดงๆอย่างงี้ถ้าเจอปุ๊บก็
00:20:07 → 00:20:09 ใช่แล้วล่ะน่าจะเป็นวัณโรคนะคะประกอบกับ
00:20:09 → 00:20:12 อาการเหล่านี้ก็ต้องให้รับประทานยานะคะจะ
00:20:12 → 00:20:16 มียารักษาวัณโรคเนี่ยหลายชนิดนิดนึงคือ
00:20:16 → 00:20:19 เชื้อเนี่ยอยู่ในตัวเราได้นานแล้วก็ครับ
00:20:19 → 00:20:21 อาจจะฆ่ายากนิดนึงงั้นก็จะต้องกินยาหลาย
00:20:21 → 00:20:25 ชนิดเลยนะคะร่วมกันอาจจะเป็นหลายหลาย
00:20:25 → 00:20:27 เกือบ 10 เม็ดนะคะนั่นคือวิธีการรักษาใน
00:20:27 → 00:20:30 ทางแพทย์คือว่าให้รับประทานยาเป็นระยะ
00:20:30 → 00:20:33 เวลานานทางด้านคนไข้ที่ป่วยนะครับผู้ป่วย
00:20:33 → 00:20:35 ต้องดูแลตัวเองอย่างไรครับค่ะ 1 รับ
00:20:35 → 00:20:38 ประทานยานะคะการเริ่มตรงตามที่ที่คุณหมอ
00:20:39 → 00:20:41 หมอให้ไปนะคะยาเนี่ยอย่าให้ขาต้องกินทุก
00:20:42 → 00:20:44 วันแล้วก็อดทนกินเป็นระยะเวลานานสักเอ่อ
00:20:44 → 00:20:47 โดยทั่วไปสูตปกติก็ประมาณ 6 เดือนที่สั้น
00:20:47 → 00:20:49 ที่สุดถ้าถ้าปฏิบัติตัวดีอย่างคุณชุมพล
00:20:49 → 00:20:52 นี่ก็จะหายขาดเลยเพราะว่ากินยาสม่ำเสมอ
00:20:52 → 00:20:55 ทุกวันนะคะต่อเนื่องค่ะแล้วก็ถ้าเกิดมีผล
00:20:55 → 00:20:58 ข้างทิของยาก็มาตรวจนะคะไม่กินกินหยุดๆ
00:20:58 → 00:21:00 เพราะฉะทำให้เชื้อดืยาได้ง่ายนะคะแล้วก็
00:21:00 → 00:21:03 กินยาหลายตัวนิดนึงนะก็จะมีผลข้างเคียง
00:21:03 → 00:21:05 บ้างเล็กน้อยก็เราก็ต้องระมัดระวังผลข้าง
00:21:05 → 00:21:08 เคียงแล้วก็จะมีการตรวจติดตามเป็นระยะระะ
00:21:08 → 00:21:10 เพื่อให้แน่ใจว่า 1 เสมหะไม่พบเชื้อแล้ว
00:21:10 → 00:21:13 หลังจากรักษาไปก็จะทำเขาก็จะเลิกติดต่อคน
00:21:13 → 00:21:16 อื่นและคนอื่นก็ระวังตัวน้อยลง 2 ก็คือ
00:21:16 → 00:21:18 ต้องรักษาร่างกายให้เขาแข็งแรงอ่ะค่ะออก
00:21:18 → 00:21:21 กำลังกายสม่ำเสมออยู่ในที่ที่มีแสงแดด
00:21:21 → 00:21:23 ส่องถึงเพราะว่าเชื้อโรคเนี่ยเวลาเราไอ
00:21:23 → 00:21:25 ออกมาเนี่ยค่ะอยู่ในอากาศที่มีแสงแดดส่อง
00:21:25 → 00:21:27 ถึงก็เชื้อก็จะตายใส่หน้ากากอยู่ที่บ้าน
00:21:27 → 00:21:29 ก็ถูกต้องแล้วเพราะว่าเวลาเจาอย่างน้อยก็
00:21:29 → 00:21:33 คือเ่อเหล่านั้นก็จะไม่ออกมาวนเปื้อนใน
00:21:33 → 00:21:35 อากาศอเป็นอย่างงั้นเลยใช่มั้ยครับครับๆ
00:21:35 → 00:21:38 คือผมผมเข้าใจนะคุณชมพลปกติแล้วเนี่ย
00:21:38 → 00:21:40 แพทย์จะมีคอนเซปในการรักษาปฏิบัติตามนี้
00:21:40 → 00:21:43 หายชัวร์ๆแต่ในชีวิตจริงมันต้องมีการปรับ
00:21:43 → 00:21:46 เปลี่ยนแปลงชีวิตเพื่อให้เข้าอการรักษา
00:21:46 → 00:21:49 มันมีอะไรที่ยากมั่งครับลำบากน่าจะเป็น
00:21:49 → 00:21:52 เรื่องการกินข้าวร่วมกันนะครับอืยังไงบาง
00:21:52 → 00:21:55 ทีกินข้าวร่วมกันบางทีที่บ้านก็ให้ใช้
00:21:55 → 00:21:57 ช้อนกลางแต่บางทีบางครั้งผมก็ต้องแยกไป
00:21:57 → 00:22:00 กินคนเดียวเพราะว่าเรากลัวว่าจะไปติดกับ
00:22:00 → 00:22:03 คนอื่นจะทำให้คนอื่นเป็นโรคด้วยทีนี้ผม
00:22:03 → 00:22:05 ถามนี้ได้มมันจะมีคนที่เข้าใจและคนที่ไม่
00:22:05 → 00:22:08 เข้าใจคนที่เข้าใจก็จะเหมือนคนที่มีเชื้อ
00:22:08 → 00:22:10 HIV เราสามารถอยู่ร่วมกับเขาได้แล้วประ
00:22:10 → 00:22:13 ทานข้าวช้อนเดียวกันยังได้เลยเพราะน้ำลาย
00:22:13 → 00:22:16 ไม่ไม่ได้ติดมันต้องติดำาที่มากพอครับ
00:22:16 → 00:22:19 เพราะฉะนั้นเรามีผลกระทบอะไรบ้างกับคนที่
00:22:19 → 00:22:21 เข้าใจแล้วก็คนที่ไม่เข้าใจเออส่วนใหญ่จะ
00:22:21 → 00:22:23 เข้าใจนะครับแสดงว่ามีส่วนน้้อยที่ไม่
00:22:23 → 00:22:26 เข้าใจส่วนน้อยบางทีเก็กลัวว่าแบบเรากิน
00:22:26 → 00:22:28 ข้าวด้วยกันแม้จะใช้ช้อนกลางแต่เก็กลัว
00:22:28 → 00:22:31 บอกว่าบางทีเรากินอยู่เราอาจจะไอหรือจาม
00:22:31 → 00:22:33 ทำให้เชื้อมันแพร่กระจายบางทีเค้าก็ไม่
00:22:33 → 00:22:35 กล้ามากินข้าวร่วมกับเราแต่ก็พยายาม
00:22:35 → 00:22:38 อธิบายเ้าว่าเออช่วงนี้เรากำลังรักษาอยู่
00:22:38 → 00:22:41 ไม่ได้เป็นอยู่ในระยะแพร่เชื้อให้เขาสบาย
00:22:41 → 00:22:46 ใจได้อออเอาข้อมูลมาบอกเนั่นเองใช่ค่ะ
00:22:46 → 00:22:48 เยี่ยมเลยแล้วก็เข้าใจเพื่อนโอหสุดยอดเลย
00:22:48 → 00:22:50 ครับเชื้อทีบีที่อาจารย์บอกคือมันส่งผล
00:22:50 → 00:22:53 ต่อปอดของเราแล้วใช่มั้ยฮะวรรณโลกอ๋อมัน
00:22:53 → 00:22:55 เป็นทำงานที่ปอดมันมีสามารถเป็นส่วนอื่น
00:22:55 → 00:22:58 ได้ด้วยมั้ยครับได้ค่ะก็จุดแรกที่ไปก็
00:22:58 → 00:23:00 อย่าอย่างที่เรียนไปแล้วก็คือลตที่มี
00:23:00 → 00:23:02 เชื้อโรคหายใจเราสุดหายใจเข้าไปก็ไปที่
00:23:02 → 00:23:06 ปอดก่อนหลังจากนั้นค่ะก็จะติดเชื้อปุ๊บก็
00:23:06 → 00:23:08 จะกระจายไปตามต่อมน้ำเหลืองก็เป็นต่อมน้ำ
00:23:08 → 00:23:10 เหลืองที่ขั้วปอดไปตต่อมน้ำเหลืองที่คอไป
00:23:11 → 00:23:14 ที่สมองได้ไปเยืพุ่มสมองได้ไปที่กระดูก
00:23:14 → 00:23:19 ข้อตับไตก็จะมีอาการของแต่ละอวัยวะที่ถูก
00:23:19 → 00:23:21 เอ่อเชื้อโรคไปก่อโรคนะค่ะบางส่วนก็ทำให้
00:23:21 → 00:23:24 เกิดเป็นลักษณะของไล้ฝีเช่นถ้าไปที่
00:23:24 → 00:23:26 กระดูกสันหลังก็อาจจะทำให้เกิดมีไข้แล้ว
00:23:26 → 00:23:29 ก็ปวดหลังแล้วก็เอ่ออาจจะมีถ้าฝีอันนั้น
00:23:29 → 00:23:32 ใหญ่อาจจะกดทับเส้นประสาทก็แขนขาขาอาจจะ
00:23:32 → 00:23:34 อ่อนแรงหรืออะไรอย่างเงี้ได้สุดท้าย
00:23:34 → 00:23:36 อันตรายก็คือเหมือนเสียชีวิตได้เหมือนกัน
00:23:36 → 00:23:38 ได้เหมือนกันค่ะถ้าไม่รักษาแต่ถ้าเกิด
00:23:38 → 00:23:41 รักษาหายขาดแน่นอนหายขาดค่ะอพอฟังหายขาด
00:23:42 → 00:23:45 ได้เราสบายใจแต่ณวันนึงเมื่ออดีตอการ
00:23:45 → 00:23:48 เนี่ยมันเคยรุนแรงรุนแรงระดับไหนครับก็มี
00:23:48 → 00:23:51 การแพร่กระจายนะคะเนื่องจาก 1 เอ่อยาที่
00:23:51 → 00:23:54 มีอยู่ยังไม่ดีพอที่จะฆ่าเชื้อได้ได้ดีนะ
00:23:54 → 00:23:57 คะ 2 ก็คือเ่อเราไม่ไม่ได้มีการป้องกัน
00:23:57 → 00:24:00 ที่ดีพออาจจะไม่ทราบว่ามันติดต่ออย่างไร
00:24:00 → 00:24:03 เพราะงั้นก็จะมีการกระจายจากเอ่อผู้ป่วย 1
00:24:03 → 00:24:07 ท่านไปคนรอบข้างอีกหลายท่านนะคะก็แพร่กัน
00:24:07 → 00:24:09 ไปเรื่อยๆก็คือเป็นการโรคติดต่ออย่าง
00:24:09 → 00:24:11 ระบาดกันเป็นหมู่อือย่างเงี้ยค่ะเพราะ
00:24:11 → 00:24:14 ฉะนั้นก็ก็เลยทำให้การควบคุมโรคเป็นไปได้
00:24:14 → 00:24:17 ยากแสดงว่าโลกใดก็ตามที่วันนี้น่ากลัว
00:24:17 → 00:24:20 อนาคตอาจจะไม่น่ากลัวก็ได้เพราะเทคโนโลยี
00:24:20 → 00:24:22 ในการแดีขึ้นกับคนไข้มีความรู้มากขึ้น
00:24:22 → 00:24:24 เกี่ยวกับเรื่องโรคแล้วก็รู้จักป้องกัน
00:24:24 → 00:24:26 ตัวมากขึ้นแล้วก็ให้การรักษาให้หายขาดก็
00:24:26 → 00:24:28 จะลดการแพร่กระจายของโรคได้แล้วก็อนี้คือ
00:24:29 → 00:24:30 ความตั้งใจของรายการของเราครับคือ
00:24:30 → 00:24:33 เทคโนโลยีการแพทย์แพทย์ก็ทำหน้าที่ของเรา
00:24:33 → 00:24:36 เราในฐานะประชาชนผมคนนึงเป็นคนกลางก็จะนำ
00:24:36 → 00:24:39 ข้อมูลมาบอกทุกๆสัปดาห์นี่แหละว่าเรา
00:24:39 → 00:24:41 สามารถป้องกันได้แม้กระทั่งเรารับรู้ข้อ
00:24:41 → 00:24:44 มูลในเรื่องของการรักษามาแล้วเในการ
00:24:44 → 00:24:46 ปฏิบัติจริงมีอะไรที่มันขวางกั้นอยู่นี่
00:24:46 → 00:24:49 คือหน้าที่ของเราที่ทำให้เราอยู่ร่วมกับ
00:24:49 → 00:24:52 โรคในโลกในี้ได้ง่ายมากขึ้นขอบคุณเลยครับ
00:24:52 → 00:24:53 มากค่ะ
00:24:53 → 00:24:57 [ปรบมือ]
00:24:57 → 00:25:10 [เพลง]
00:25:10 → 00:25:12 [ปรบมือ]
00:25:12 → 00:25:16 [เพลง]
00:25:16 → 00:25:17 [ปรบมือ]
00:25:17 → 00:25:20 [เพลง]
00:25:20 → 00:25:21 [ปรบมือ]
00:25:21 → 00:25:27 [เพลง]
00:25:27 → 00:25:29 เเ
00:25:29 → 00:25:32 [ปรบมือ]
00:25:32 → 00:25:37 [เพลง]
00:25:37 → 00:25:39 [ปรบมือ]
00:25:39 → 00:25:40 [เพลง]
00:25:40 → 00:25:44 [ปรบมือ]
00:25:44 → 00:25:58 [เพลง]
00:25:58 → 00:26:01 เ
00:26:01 → 00:26:11 [เพลง]