00:00:00 → 00:00:02 อยู่ในโรงพยาบาลผู้สูงอายุพอดีเลย
00:00:02 → 00:00:06 >> ปัญหาที่เจอทุกวันนี้คือแบบโอ๊ยปัญหาตา
00:00:06 → 00:00:09 ยอดคิดเลยในผู้สูงอายุขอสัก 3 โรค
00:00:09 → 00:00:11 >> ได้เลยค่ะสำหรับผู้สูงอายุนะคะอันดับ 1
00:00:12 → 00:00:16 ขอยกให้ต้อกระจกค่ะเป็นโรคที่ถามว่าใคร
00:00:16 → 00:00:18 อายุยืนน่ะเป็นทุกคนเพราะมันคือความ
00:00:18 → 00:00:21 เสื่อมของเลนส์เลนส์เนี่ยคือแก้วตาที่
00:00:21 → 00:00:24 อยู่ข้างในตอนเราเกิดมาใหม่ๆเลนส์มันก็ใส
00:00:24 → 00:00:26 ดีค่ะแต่พออายุมากขึ้นมันจะเริ่มมีของ
00:00:26 → 00:00:30 เสียสะสมโดน UV ก็ทำให้เป็นต้อกระจกไว
00:00:30 → 00:00:32 ขึ้นบางคนมีอุบัติเหตุบางคนเป็นเบาหวาน
00:00:32 → 00:00:35 ต้อกระจกมันจะเป็นไวมากขึ้นถามว่าเกิด
00:00:35 → 00:00:38 อะไรขึ้นอาการคือเขาจะเริ่มเห็นว่ามันไม่
00:00:38 → 00:00:41 ใสและภาพมันเริ่มเหลืองๆมันเริ่มฝ้า
00:00:41 → 00:00:44 เหมือนเป็นหมอกบางๆตาค่ะไม่สามารถแก้ไข
00:00:44 → 00:00:46 ด้วยแว่นได้ลองแว่นเท่าไหร่ก็ไม่ชัด
00:00:46 → 00:00:48 อันเนี้ยคิดว่าน่าจะเป็นต้อกระจกเพราะ
00:00:48 → 00:00:50 เป็นโรคที่เจอมากที่สุดเลยอ
00:00:50 → 00:00:54 >> นะฮะทีนี้ถามว่าทำยังไงอ่าในประเทศไทยถ้า
00:00:54 → 00:00:57 ตามสิทธิ์การรักษาพวกสปสช.พอประกันสังคม
00:00:57 → 00:01:01 พวกเนี้ยเราจะมีเกณฑ์ค่าสายตาอยู่ว่าถึง
00:01:01 → 00:01:04 มัวถึงระดับเนี้ยจำเป็นจะต้องผ่าตัดและ
00:01:04 → 00:01:07 >> ใช่ค่ะถ้ามัวถึงระดับนึงเนี่ยเราสามารถ
00:01:07 → 00:01:10 แนะนำผ่าตัดได้คนไข้ถ้าใช้สิทธิ์การรักษา
00:01:10 → 00:01:13 ของรัฐบาลเนี่ยไม่เสียเงินเลยการผ่าตัด
00:01:13 → 00:01:16 ต้อกระจกในปัจจุบันวิธีสากลเลยเนี่ยคือ
00:01:16 → 00:01:18 การสลายด้วยคลื่นอัลตราซาวด์คือเป็นคลื่น
00:01:18 → 00:01:21 เสียงความถี่สูงสลายเลนส์อันเก่าที่มัน
00:01:21 → 00:01:23 ขุดออกไปแล้วเราก็จะฉีดเลนส์อันใหม่เข้า
00:01:24 → 00:01:26 ไปแทนเลนส์นี้เมื่อใส่เข้าไปแล้วเนี่ย
00:01:26 → 00:01:29 อยู่ได้ตลอดชีวิตค่ะยกเว้นแต่ว่าอ่าเขา
00:01:29 → 00:01:31 อาจจะมีอุบัติเหตุกระแทกแรงหรือว่าถุง
00:01:31 → 00:01:34 หุ้มเลนส์เ้าไม่แข็งแรงเนี่ยอาจจะมีเลนส์
00:01:34 → 00:01:37 เคลื่อนได้แต่ว่าอยู่ได้ตลอดชีวิตสามารถ
00:01:37 → 00:01:38 รักษาได้
00:01:38 → 00:01:38 >> อือ
00:01:38 → 00:01:42 >> ยกเว้นว่าเค้าเนี่ยมีโรคอื่นร่วมหลังผ่า
00:01:42 → 00:01:44 ตัดอาจจะไม่ชัดเหมือนเดิมต้องบอกก่อนอัน
00:01:44 → 00:01:45 นี้คือโรคแรก
00:01:45 → 00:01:46 >> อื
00:01:46 → 00:01:52 >> ต่อไปโรคที่ 2 ค่ะอ่าแนะนำเป็นโรคต้อหิน
00:01:52 → 00:01:54 ความน่ากลัวของโรคต้อหินเนี่ยคือมันไม่มี
00:01:54 → 00:01:58 อาการค่ะหรืออาการเนี่ยมันมีแต่เราไม่
00:01:58 → 00:02:00 สามารถdetทคได้ค่ะมันสังเกตได้ยากมาก
00:02:01 → 00:02:03 เพราะว่าต้อหินเนี่ยมันจะเริ่มมัวจากขอบ
00:02:03 → 00:02:08 ภาพขอบภาพมันจะมืดๆแต่สมองก็ดันฉลาดมันมี
00:02:08 → 00:02:11 การทดแทนภาพเข้าไปได้เองด้วยทำให้กว่าจะ
00:02:11 → 00:02:13 รู้ตัวอีกทีเนี่ยมันต้องมืดเข้ามาจนใกล้
00:02:13 → 00:02:16 จุดศูนย์กลางที่เราใช้โฟกัสแล้วอ่ะค่ะเรา
00:02:16 → 00:02:18 ถึงจะเริ่มรู้ตัวว่าเอ๊ะทำไมมันไม่ชัด
00:02:18 → 00:02:19 >> อื
00:02:19 → 00:02:22 >> เพราะฉะนั้นเนี่ยอันตรายมากเพราะว่ามัน
00:02:22 → 00:02:23 เป็นภัยเงียบ
00:02:23 → 00:02:23 >> อื
00:02:24 → 00:02:27 >> ค่ะแล้วใครบ้างที่เสี่ยงจะเป็นโรคต้อหิน 1
00:02:27 → 00:02:29 เลยคือมีประวัติครอบครัวถ้าคุณพ่อคุณแม่
00:02:29 → 00:02:32 เราเป็นต้อหินเนี่ยเราอาจจะต้องเริ่มไป
00:02:32 → 00:02:34 สรีนนิ่งเพื่อหาว่าเอ๊ะเรามีขั้วประสาทตา
00:02:34 → 00:02:37 ที่น่าสงสัยเป็นต้อหินมั้ยเรามีความดันตา
00:02:37 → 00:02:41 ที่สูงมยหรือบางคนเนี่ยมีอุบัติเหตุค่ะ
00:02:41 → 00:02:43 การมีอุบัติเหตุเนี่ยบางทีมันไม่ส่งผลให้
00:02:43 → 00:02:46 เป็นต้อหินในขณะนั้นแต่ว่าผ่านไปหลายๆปี
00:02:46 → 00:02:48 เข้าเนี่ยอาจจะมีอาการต้อหินได้ความดันตา
00:02:48 → 00:02:51 ขึ้นสูงได้จากการที่มุมตามันได้รับบาด
00:02:51 → 00:02:54 เจ็บก็ทำให้เกิดปัญหาต้อหินได้ซึ่งการ
00:02:54 → 00:02:56 รักษาต้อหินเนี่ยเนี่ยเริ่มแรกเลยคุณหมอ
00:02:57 → 00:02:59 อาจจะให้เป็นการหยอดยาอ่าแล้วก็อาจจะมี
00:02:59 → 00:03:02 การยิงเลเซอร์แล้วก็สุดท้ายเลยถ้าไม่ไหว
00:03:02 → 00:03:05 จริงๆอาจจะมีการผ่าตัดนอกจากนี้เนี่ย
00:03:05 → 00:03:07 เทคโนโลยีเนี่ยไปไกลแล้วมีการใส่เครื่อง
00:03:07 → 00:03:11 มือเป็น minimal minimal invasive อ่า
00:03:11 → 00:03:13 glอคoma surgery
00:03:13 → 00:03:15 เสียบเข้าไปนิดนึงช่วยเพิ่มทางระบายน้ำลด
00:03:15 → 00:03:18 ความดันตาพวกนี้มีเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น
00:03:18 → 00:03:18 ไป
00:03:18 → 00:03:19 >> อื
00:03:19 → 00:03:22 >> ก็เป็นโรคที่เสียแล้วเสียเลยอ่ะค่ะต้อหิน
00:03:22 → 00:03:25 เพราะมันคือการที่ความดันตาเนี่ยเนี่ยมัน
00:03:25 → 00:03:29 สูงแล้วมันกดขั้วประสาทตาทำให้บางลงเสีย
00:03:29 → 00:03:32 หายไปแล้วส่วนไหนที่บางแล้วเสียหายไปแล้ว
00:03:32 → 00:03:35 เนี่ยมันเอากลับคืนมาไม่ได้ค่ะเพราะ
00:03:35 → 00:03:38 ฉะนั้นเนี่ยรักษาต้อหินเนี่ยมันไม่ได้มี
00:03:38 → 00:03:40 ดีขึ้นแต่เรากำลังรักษาไม่ให้มันแย่ลงไป
00:03:40 → 00:03:43 กว่าเดิมชะลอให้เขา้าเนี่ยสูญเสียการมอง
00:03:43 → 00:03:46 เห็นช้าที่สุดนี่คือเป้าหมายของโรคต้อหิน
00:03:46 → 00:03:50 >> อืถึง 2 โรคนี้คือต้อกระจกกับต้อหินอยาก
00:03:50 → 00:03:53 ให้เราฟังแล้วเข้าใจความต่างใช่มั้ย
00:03:53 → 00:03:55 >> ต้อกระจกก็เป็นเพียงแค่เรียงมันขุ่นตาม
00:03:55 → 00:03:58 อายุด้วยเพด้วยปัจจัยเสียงแต่ต้อหินหมอ
00:03:58 → 00:04:01 แปงบอกว่ามันเป็นภัยเงียบเพราะกว่ามันจะ
00:04:01 → 00:04:03 รู้ตัวอีกทีเดี๋มันจะเสียไปเยอะละ
00:04:03 → 00:04:04 >> ถูกต้องค่ะ
00:04:04 → 00:04:07 >> ตอหินชื่อมันก็พูดอยู่แล้วตาเรามันจะแข็ง
00:04:07 → 00:04:10 เหมือนหินเลยใช่มั้ยมันแข็งก็เพราะว่าน้ำ
00:04:10 → 00:04:11 มันไม่ถูกระบาย
00:04:11 → 00:04:11 >> ใช่ถูกต้องค่ะ
00:04:11 → 00:04:14 >> พอน้ำมันไม่ถูกระบายไอ้น้ำมันไปไปกดที่
00:04:14 → 00:04:16 ไหนก็กดที่จอประสาทตาเรา
00:04:16 → 00:04:17 >> กดที่ขั้วประสาทตา
00:04:17 → 00:04:20 >> กดที่ขั้วประสาทตานะครับแล้วทำให้เกิดการ
00:04:20 → 00:04:21 ทำลาย
00:04:21 → 00:04:25 >> นะคล้ายๆเหมือนแผลกดทัพนะฮะในระยะยาว
00:04:25 → 00:04:28 >> ซึ่งถ้าเรทมากก็ไม่ทันละ
00:04:28 → 00:04:31 >> ใช่มั้ฮะก็คือบอดไปเลยนะแต่ถ้าปัจจุบัน
00:04:31 → 00:04:33 หมอแบงบอกมันมีเทคโนโลยีใหม่ด้วยจริงๆมัน
00:04:33 → 00:04:35 ก็มีเลเวลตั้งแต่
00:04:35 → 00:04:39 >> หยอดยากินยาจนถึงผ่าตัดซึ่งสมัยนี้ก็เป็น
00:04:39 → 00:04:41 ผ่าตัดเทคนิคใหม่เพียงแค่เจาะรูธรรมดาไม่
00:04:41 → 00:04:43 ต้องผ่าตัดใหญ่ใช่ค่ะ
00:04:43 → 00:04:46 >> อืซึ่งอันนี้ผู้ผู้สูงอายุเข้าไปมันมี
00:04:46 → 00:04:48 นโยบายให้วัดความดันอยู่แล้วมั้ยที่โรง
00:04:48 → 00:04:48 พยาบาลหรือ
00:04:48 → 00:04:52 >> มีค่ะการสกรีนวัดสายตาวัดความดันตามีอยู่
00:04:52 → 00:04:52 แล้ว
00:04:52 → 00:04:53 >> ก็เข้าไปขอวัดได้เลย
00:04:53 → 00:04:53 >> ใช่ใช่ค่ะ
00:04:54 → 00:04:56 >> อ๋อมันเป็นมันเป็นรูทีนที่เขาจะวัดให้
00:04:56 → 00:04:56 อยู่แล้ว
00:04:56 → 00:04:59 >> มีมีอายุมั้ที่อายุไหนที่ควรจะเริ่มไปวัด
00:04:59 → 00:05:03 >> ใช่ค่ะเอ่อวัดความดันตาใช่มั้ยคะอ่าจริงๆ
00:05:03 → 00:05:04 แนะนำตั้งแต่ 40 ปีเลยนะคะ
00:05:05 → 00:05:08 >> 40 เลยนะครับออโอเควัดถี่แค่ไหนปีละ
00:05:08 → 00:05:11 ครั้งต้องแล้วแต่ว่าแรกสุดเนี่ยวัดความ
00:05:11 → 00:05:14 ดันตาแล้วได้เท่าไหร่ใช่ค่ะความดันตาปกติ
00:05:14 → 00:05:16 เนี่ยไม่เกิน 21
00:05:16 → 00:05:16 >> ออ
00:05:16 → 00:05:19 >> ค่ะถ้าเราตรวจเจอว่าเอ๊ะความดันตามัน 21
00:05:19 → 00:05:21 หรือมากกว่านั้นเนี่ยเราก็จะเริ่มสงสัย
00:05:21 → 00:05:24 แล้วว่าเอ๊ะคนไข้เนี่ยมีมีความเสี่ยงที่
00:05:24 → 00:05:26 จะเป็นต้อหินในอนาคตนะเราอาจจะต้องนัดมา
00:05:26 → 00:05:28 วัดความดันตาทุกปีอะไรอย่างเงี้ค่ะ
00:05:28 → 00:05:31 >> อโอเคก็คือให้เริ่มวัดก่อนเดี๋ยว
00:05:31 → 00:05:32 >> ใช่ค่ะ
00:05:32 → 00:05:34 >> วัดต่อถี่แค่ไหนเดี๋ยวตัวเลขจะเป็นตัวบอก
00:05:34 → 00:05:35 เอง
00:05:35 → 00:05:35 >> ใช่ค่ะ
00:05:35 → 00:05:37 >> โอเคครับ
00:05:37 → 00:05:38 >> อ่ะโรคที่ 3
00:05:38 → 00:05:42 >> โรคที่ 3 อยากจะแนะนำเรื่องอ่าเบาหวาน
00:05:42 → 00:05:43 ขึ้นจอประสาทตา
00:05:43 → 00:05:43 >> อื
00:05:43 → 00:05:46 >> ค่ะเพราะว่าเบาหวานก็อย่างที่ทุกคนทราบ
00:05:46 → 00:05:49 มันเป็นโรคที่พบมากเลยเป็นโรคเอ่อ NCD
00:05:49 → 00:05:51 ที่ทำให้เกิดความเสียหายตามมาหลายอย่าง
00:05:51 → 00:05:54 บางคนเป็นเบาหวานแล้วก็เป็นโรคไตเป็นเบา
00:05:54 → 00:05:57 หวานแล้วก็ต้องตัดขาตัดอะไรต่างๆเพราะว่า
00:05:57 → 00:05:59 ตัวเป็นแผลเนาะ
00:05:59 → 00:06:01 >> แต่ทีนี้ปัไอ้เบาหวานเนี่ยมันทำให้เกิด
00:06:01 → 00:06:04 ปัญหาที่ตาด้วยเนื่องจากว่าเบาหวานเนี่ย
00:06:04 → 00:06:06 ปัญหาคือมันทำให้เส้นเลือดเนี่ยมันไม่
00:06:06 → 00:06:07 แข็งแรงเหมือนเดิม
00:06:07 → 00:06:08 >> อือ
00:06:08 → 00:06:10 >> พอเส้นเลือดเราอ่อนแอปุ๊บเส้นเลือดที่ตา
00:06:10 → 00:06:13 ซึ่งเป็นเส้นเลือดที่อ่อนแอมากเส้นเล็ก
00:06:13 → 00:06:15 มากใช่มันก็
00:06:15 → 00:06:17 >> รั่วเหมือนกันค่ะเส้นเลือดมันรั่วทำให้
00:06:17 → 00:06:20 ของเสียเนี่ยอ่าไม่ว่าจะเป็นไขมันหรือ
00:06:21 → 00:06:22 อะไรต่างๆเนี่ยมันออกมาจากเส้นเลือดเลือด
00:06:22 → 00:06:26 มาที่อยู่ที่จอประสาทตาคนไข้ถ้าเป็นน้อยๆ
00:06:26 → 00:06:30 ระยะแรกๆเนี่ยอาจจะไม่มีอาการอะไรเลยมัน
00:06:30 → 00:06:32 มีตั้งแต่ระดับต้นเลยคือเห็นเป็นแค่จุด
00:06:32 → 00:06:34 เลือดออกเล็กๆในจอประสาทตาซึ่งคนไข้มักจะ
00:06:34 → 00:06:37 ไม่มีอาการระยะกลางก็คือเริ่มมีของเสีย
00:06:37 → 00:06:40 สะสมมากขึ้นระยะรุนแรงเนี่ยก็เริ่มมีจุด
00:06:40 → 00:06:43 เลือดออกทั่วในจอประสาทตาและอาจจะมีบางคน
00:06:43 → 00:06:48 มีจอประสาทตาบวมจากเบาหวานขึ้นตาด้วยบาง
00:06:48 → 00:06:51 คนเป็นรุนแรงมากมีเส้นเลือดงอกผิดปกติใน
00:06:51 → 00:06:54 ตาคะสุดท้ายเส้นเลือดที่งอกผิดปกติเหล่า
00:06:54 → 00:06:57 นั้นเนี่ยมันจะแตกโป๊ะมีเลือดออกทั่วทั้ง
00:06:57 → 00:07:01 วุ้นตาทำให้ตามัวทันทีได้ทีนี้มันเป็นโรค
00:07:01 → 00:07:04 ที่เราสามารถรักษาได้นะคะเราเลยแนะนำว่า
00:07:04 → 00:07:07 คนไข้ทุกคนที่เป็นเบาหวานต้องตรวจตาทุกปี
00:07:07 → 00:07:10 อย่างน้อยนะคะเพราะแม้ว่าตรวจแล้วจะไม่
00:07:10 → 00:07:12 เจอไม่ได้หมายความว่าปีหน้าคุณจะไม่มีแม้
00:07:12 → 00:07:14 น้ำตาลคุณจะดีไม่ได้หมายความว่าปีหน้าคุณ
00:07:14 → 00:07:17 จะไม่มีเบาหวานขึ้นตาค่ะเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:07:17 → 00:07:20 ใครเป็นเบาหวานหมอก็จะแนะนำให้มาขยายม่าน
00:07:20 → 00:07:22 ตาค่ะเพื่อตรวจตรวจหาเบาหวานขึ้นจอม
00:07:22 → 00:07:27 ประสาทตาทุกปีถ้าใครเจอว่ามีเริ่มมีเบา
00:07:27 → 00:07:30 หวานอาจจะระยะกลางเริ่มมีของเสียในตาแล้ว
00:07:30 → 00:07:32 หมอก็อาจจะนัดถี่หน่อยอาจจะนัดทุก 6
00:07:32 → 00:07:35 เดือนทีนี้ถ้าใครเริ่มเป็นระยะรุนแรงหมอ
00:07:35 → 00:07:37 อาจจะมีการยิงเลเซอร์หรือถ้าเริ่มมีจอ
00:07:37 → 00:07:40 ประสาทตาบวมหมออาจจะแนะนำให้มีการฉีดยา
00:07:40 → 00:07:41 เข้าหุนตา
00:07:41 → 00:07:42 >> อือ
00:07:42 → 00:07:45 >> ค่ะดีกว่ารอให้มันไปถึงระดับรุนแรงหรือ
00:07:45 → 00:07:48 รุนแรงมากแล้วแล้วเราสูญเสียการมองเห็นไป
00:07:48 → 00:07:50 แล้วเนี่ยมันรักษายากเอากลับมายาก
00:07:50 → 00:07:50 >> อือ
00:07:50 → 00:07:51 >> ใช่ใช่ค่ะ
00:07:51 → 00:07:54 >> อืเปาหวานก็เปรียบเสมือนเลือดที่เต็มไป
00:07:54 → 00:07:56 ด้วยน้ำตาลเปรียบเสมือนเลือดกลายเป็นน้ำ
00:07:56 → 00:08:00 เชื่อมน้ำเชื่อมพวกนี้พอมันเกาะๆมันทำให้
00:08:00 → 00:08:03 เลือดเส้นเลือดเราเหนียวเหนอะอักเสบง่าย
00:08:03 → 00:08:06 พังง่ายอย่างที่หมอกำลังจะแนะนำว่าไม่ใช่
00:08:06 → 00:08:09 ว่าเบาหวานเราคุมแล้วเบาหวานจะขึ้นตาไม่
00:08:10 → 00:08:14 ได้ต้องตรวจพอตรวจถ้าเจอก็อาจจะเริ่มใส่
00:08:14 → 00:08:18 ใจเฝ้าระวังเพราะป้องกันไม่ให้เกิดการ
00:08:18 → 00:08:20 ทำลายของจอประสาตรา
00:08:20 → 00:08:22 >> ถูกต้องซึ่งผมเชื่อว่ามันเป็นตะกร้าใหญ่
00:08:22 → 00:08:23 และเป็นปัญหาใหญ่
00:08:23 → 00:08:28 >> ใช่ค่ะ
00:08:28 → 00:08:31 >> แปงคิดว่าคนสมัยนี้เนี่ยมีอาการตาแห้ง
00:08:31 → 00:08:35 เยอะมากค่ะเรียกว่าเป็นโรคที่ปวดคนไข้ทุก
00:08:35 → 00:08:38 ๆวันนี้นะคะไม่ว่าจะเป็นมาด้วยรู้สึก
00:08:38 → 00:08:42 เหมือนอะไรอยู่ในตารู้สึกเคืองๆตารู้สึก
00:08:42 → 00:08:46 แบบแสบตาง่ายทำไมมองไปสักพักใช้สายตาสัก
00:08:46 → 00:08:48 พักทำไมมันมัวไปเลยอ่ะค่ะคุณหมอหรือว่า
00:08:48 → 00:08:51 อ่าทำไมหลับตาสักพักพักลืมตามาใหม่เอ้อ
00:08:51 → 00:08:54 มันดีขึ้นหรือบางคนเนี่ยตื่นเช้าขึ้นมา
00:08:54 → 00:08:57 เนี่ยโอ้โหลืมตาลำบากมากตามันหนักๆมันแสบ
00:08:57 → 00:08:59 อะไรอย่างเงี้ยค่ะก็ล้วนแล้วแต่เป็นอาการ
00:08:59 → 00:09:03 ของตาแห้งทั้งนั้นเลยค่ะถามว่าทำไมถึง
00:09:03 → 00:09:05 เกิดอาการตาแห้งเนี่ยจริงๆแล้วมีหลาย
00:09:05 → 00:09:09 สาเหตุที่เป็นตัวทำให้เกิดอ่าอาการตาแห้ง
00:09:09 → 00:09:12 แต่ว่าอ่าไม่ใช่แค่อาการนะคะเป็นโรคตา
00:09:12 → 00:09:16 แห้งเลยก็คือว่าอ่าบางคนเนี่ยอาจจะมีโรค
00:09:16 → 00:09:19 ภูมิคุ้มกันเดิมอ่าไม่ว่าจะเป็นโจ๊กเรนนะ
00:09:19 → 00:09:23 คะที่ทำให้อ่าแห้งผิวแห้งด้วยปากแห้งด้วย
00:09:23 → 00:09:25 อะไรอย่างเงี้ยเขาก็จะตาแห้งอยู่แล้วแต่
00:09:25 → 00:09:27 บางคนเนี่ยที่พบเยอะมากในทุกวันนี้นะคะ
00:09:27 → 00:09:31 คือเป็นไมโบเมี่ยน Grand Dฟังก์ชค่ะคือ
00:09:31 → 00:09:33 ไมโบเมียนแกรนด์เนี่ยคือต่อมไขมันที่อยู่
00:09:33 → 00:09:36 ที่เปลือกตาของเราคนปกติมีอยู่และทำหน้า
00:09:36 → 00:09:39 ที่ที่จะผลิตน้ำมันออกมาเคลือบน้ำตาเพื่อ
00:09:39 → 00:09:42 ให้น้ำตาเนี่ยมันฉาบบนตาได้นานอ่าพอน้ำตา
00:09:42 → 00:09:46 ฉาบบนตาได้นานน้ำตาไม่ระเหยไปไวเราก็สบาย
00:09:46 → 00:09:49 ตาเนาะเราก็เอ่อยังมองชัดดีเพราะว่าน้ำตา
00:09:49 → 00:09:52 เนี่ยมันช่วยในการมองเห็นด้วยทีนี้พอ
00:09:52 → 00:09:55 ไมโบเมี่ยนแกรนด์เราเนี่ยมันเริ่มเสื่อม
00:09:55 → 00:09:58 สภาพไปจากทั้งที่ว่าเอ่อมีสิ่งสกปรกด้วย
00:09:59 → 00:10:01 นะคะมีการอักเสบด้วยใช้สายตาเยอะๆยิ่ง
00:10:02 → 00:10:04 จ้องมือถือเล่นแท็บเล็ตอะไรเยอะๆเนี่ยมัน
00:10:04 → 00:10:06 ยิ่งเกิดการอักเสบของไมโบเมี่ยนแกรนด์
00:10:06 → 00:10:08 แล้วมันก็ทำให้ไบโบเมี่ยนแกรนด์ที่ทำหน้า
00:10:08 → 00:10:10 ที่ผลิตน้ำมันออกมาเนี่ยมันทำได้ไม่
00:10:10 → 00:10:13 เหมือนเดิมน้ำมันพอมันผลิตน้อยลงก็เกิด
00:10:13 → 00:10:16 อะไรขึ้นคะน้ำตาก็ระเหยไวพอไม่มีตัวที่
00:10:16 → 00:10:17 ช่วยฉาบน้ำตาไว้
00:10:17 → 00:10:20 >> ก็ทำให้ตาแห้งมากพอตาแห้งมากก็เกิดการ
00:10:20 → 00:10:23 อักเสบในตามากไมโบนแกรนดก็ยิ่งเจ๊งเข้าไป
00:10:23 → 00:10:26 ใหญ่วนกันไปอย่างเงี้ยสุดท้ายคนไข้ก็มา
00:10:26 → 00:10:29 รู้อีกทีก็คือแสบตามากและเคืองตามากจน
00:10:29 → 00:10:30 ต้องใช้น้ำตาเถียม
00:10:30 → 00:10:31 >> อื
00:10:31 → 00:10:33 >> เพราะฉะนั้นใครที่ใช้สายตาเยอะๆไม่ว่าจะ
00:10:33 → 00:10:36 ต้องเป็นหน้าจอคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตหรือ
00:10:36 → 00:10:39 ว่ามือถือแล้วรู้สึกว่าเคืองๆตาแสบตา
00:10:39 → 00:10:42 เนี่ยก็แนะนำมาตรวจตาว่าเอ้ยเรามีเป็น
00:10:42 → 00:10:45 ไมโบเมนGLนDฟฟังก์ชมีเป็นโรคตาแห้งมย
00:10:45 → 00:10:48 จำเป็นจะต้องเอ่อได้รับการหยอดน้ำตาเทียม
00:10:48 → 00:10:51 หรือว่าการดูแลต่อมไขมันที่เปลือกตาใหม่
00:10:51 → 00:10:52 ค่ะ
00:10:52 → 00:10:56 >> โออันนี้ดีมากก็สรุปสั้นๆสำหรับชาวบ้าน
00:10:56 → 00:11:00 ใครที่เข้าใจว่าใช้สายตานานๆจะมีแค่ปัญหา
00:11:00 → 00:11:04 สายตาสั้นไม่ใช่นะครับต่อมน้ำมันก็ฝ่อ
00:11:04 → 00:11:07 อักเสบทำให้เกิดปัญหาแทรกซ้อนตามมาก็
00:11:07 → 00:11:10 เหมือนเข่าใช้นานๆมันไม่ใช่แค่ปวดเข่ามัน
00:11:10 → 00:11:15 ทำให้เข่าเสื่อมเข่าแห้งได้นะครับ