00:00:00 → 00:00:00 แต่
00:00:00 → 00:00:08 [เพลง]
00:00:08 → 00:00:19
00:00:19 → 00:00:23 ปัจจุบันความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีได้มี
00:00:23 → 00:00:25 ส่วนเข้ามาช่วยในการดูแลผู้ป่วยมากขึ้นนะ
00:00:25 → 00:00:28 คะตัวอย่างหนึ่งที่เราจะเห็นได้ก็คือ
00:00:28 → 00:00:31 เมื่อแพทย์ดูแลผู้ป่วยที่สงสัยว่ามีความ
00:00:31 → 00:00:34 ดันโลหิตสูงหรือกำลังรักษาความดันโลหิต
00:00:34 → 00:00:37 สูงจะมีการขอให้ผู้ป่วยวัดความดันโลหิต
00:00:37 → 00:00:40 ด้วยเครื่องวัดความดันโลหิตชนิดพกพาที่
00:00:40 → 00:00:44 บ้านภาษาอังกฤษเรียกว่าโคมหลัก Pressure
00:00:44 → 00:00:47 monitoring ซึ่งข้อมูลที่ได้จากความรัก
00:00:47 → 00:00:49 Pressure Monitor ลิงค์นี้จะเป็น
00:00:49 → 00:00:52 ประโยชน์มากในการดูแลผู้ป่วยแล้วก็ในการ
00:00:52 → 00:01:00 ปรับยาค่ะอ่ะ
00:01:00 → 00:01:01 แต่
00:01:01 → 00:01:05 ทั้งนี้การวัดความดันโลหิตที่บ้านเพื่อ
00:01:05 → 00:01:07 ให้มีประสิทธิภาพและได้ข้อมูลที่เชื่อถือ
00:01:07 → 00:01:10 ได้จำเป็นจะต้องได้รับความร่วมมือจากผู้
00:01:10 → 00:01:14 ป่วยและวิธีการวัดที่ถูกต้องวันนี้เราจะ
00:01:14 → 00:01:18 มาคุยถึงวิธีการกันนะคะ
00:01:18 → 00:01:22 [เพลง]
00:01:22 → 00:01:26 ได้กันเลือกเครื่องวัดความดันโลหิตชนิดพก
00:01:26 → 00:01:29 พาอาจนำไปใช้ที่บ้านหมอแนะนำให้ใช้
00:01:29 → 00:01:31 เครื่องวัดความดันโลหิตที่วัดความดัน
00:01:31 → 00:01:34 โลหิตที่บริเวณต้นแขนนะคะทั้งนี้เนี่ย
00:01:34 → 00:01:37 เครื่องวัดความดันโลหิตที่ใช้ควรจะเป็น
00:01:37 → 00:01:41 เครื่องที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานซึ่ง
00:01:41 → 00:01:45 สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ตามเว็บไซต์ดังที่
00:01:45 → 00:01:49 ยกตัวอย่างให้เห็นในจอค่ะโดยทั่วไปหมอไม่
00:01:49 → 00:01:52 แนะนำให้ใช้เครื่องวัดความดันที่วัด
00:01:52 → 00:01:56 บริเวณข้อมือวัดบริเวณปลายนิ้วนะคะเนื่อง
00:01:56 → 00:01:58 จากค่าที่ได้เนี่ยจะมีความคลาดเคลื่อนได้
00:01:58 → 00:02:01 มากยกเว้นผู้ป่วยบางรายเท่านั้นค่ะที่ไม่
00:02:02 → 00:02:04 สามารถวัดความดันโลหิตที่บริเวณต้นแขนได้
00:02:04 → 00:02:08 เนื่องจากต้นแขนมีขนาดใหญ่หรือว่ามีข้อ
00:02:08 → 00:02:11 จำกัดบางประการตอนที่จะเริ่มฉายเครื่อง
00:02:11 → 00:02:15 เพื่อให้แน่ใจว่าค่าที่วัดได้ถูกต้องควร
00:02:15 → 00:02:18 จะเอาเครื่องที่จะใช้วัดความดันที่บ้านมา
00:02:18 → 00:02:20 เปรียบเทียบกันกับเครื่องที่วัดความดันใน
00:02:20 → 00:02:24 โรงพยาบาลหรือตามคลีนิคเพื่อที่จะให้แน่
00:02:24 → 00:02:27 ใจว่าค่าที่ได้ในการวัดผู้ป่วยคนเดียวกัน
00:02:27 → 00:02:30 มีค่าใกล้เคียงกันถึงจะเริ่มใช้เครื่อง
00:02:30 → 00:02:31 นั้นนะคะ
00:02:31 → 00:02:42 [เพลง]
00:02:42 → 00:02:45 โดยในครั้งแรกเราจะให้วัดความดันที่
00:02:45 → 00:02:48 บริเวณต้นแขนทั้งสองข้างก่อนนะคะแล้วก็ดู
00:02:48 → 00:02:51 ว่าความดันที่ได้เนี่ยจะข้างไหนเนี่ยสูง
00:02:51 → 00:02:55 กว่ากันเราจะให้ชายข้างนั้นเป็นข้ามที่
00:02:55 → 00:02:58 วัดทุกครั้งในการวัดค่ะเมื่อวัดความดัน
00:02:58 → 00:03:00 โลหิตแล้วเนี่ย
00:03:00 → 00:03:02 มีเครื่องวัดความดันบางรุ่นหนึ่งจะสามารถ
00:03:02 → 00:03:04 ส่งข้อมูลเข้าไปเก็บไว้ในโปรแกรมใน
00:03:04 → 00:03:07 สมาร์ทโฟนหรือว่าระบบเก็บข้อมูล
00:03:07 → 00:03:09 อิเล็กทรอนิกส์ได้แต่ถ้าไม่มีฟังก์ชั่น
00:03:09 → 00:03:13 นั้นไม่เป็นไรนะคะเราสามารถใช้แบบฟอร์มใน
00:03:13 → 00:03:17 การบันทึกข้อมูลดังที่เห็นในรูปซึ่งเป็น
00:03:17 → 00:03:19 แบบปลอมที่ใช้จริงที่แผนกผู้ป่วยนอกโรง
00:03:19 → 00:03:23 พยาบาลจุฬาลงกรณ์แบบฟอร์มนี้จะบันทึกได้ 7
00:03:23 → 00:03:28 วันต่อไปเป็นการแนะนำการปฏิบัติตัวก่อน
00:03:28 → 00:03:32 การวัดความดันที่บ้านตามคำแนะนำของสมาคม
00:03:32 → 00:03:35 ความดันโลหิตสูงแห่งประเทศไทยค่ะ
00:03:35 → 00:03:39 งดการดื่มชากาแฟหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟ
00:03:39 → 00:03:42 อีนงดการสูบบุหรี่ก่อนการวัดความดัน
00:03:42 → 00:03:45 ประมาณ 30 นาทีผู้ป่วยควรจะถ่ายปัสสาวะ
00:03:45 → 00:03:49 ให้เรียบร้อยนั่งพับบนเก้าอี้ในห้องที่
00:03:49 → 00:03:53 เงียบสงบเป็นเวลา 3-5 นาทีเวลานั่งนะคะ
00:03:53 → 00:03:57 หลังพิงพนักไม่เกร็งปล่อยตัวตามสบายถ้า
00:03:57 → 00:04:01 สองข้างวางราบบนพื้นไม่นับถอยห้างแล้วก็
00:04:01 → 00:04:05 ไม่พูดคุยขณะวัดแขนข้างที่ต้องการวัดวาง
00:04:05 → 00:04:09 บนโต๊ะแล้วก็ไม่กำมือพันธุ์ที่วัดความดัน
00:04:09 → 00:04:12 ให้อยู่ระดับเดียวกันกับหัวใจจากนั้นเปิด
00:04:12 → 00:04:15 เครื่องและกดปุ่มเริ่มวัดความดันโลหิตค่ะ
00:04:15 → 00:04:18 เครื่องจะเริ่มตามลมเข้าไปในที่พันแขน
00:04:18 → 00:04:21 แล้วก็ปล่อยลมออกโดยอัตโนมัติอาจจะรู้สึก
00:04:21 → 00:04:25 แน่นหรือเจ็บเล็กน้อยที่สำคัญคือต้องอยู่
00:04:25 → 00:04:29 นิ่งในขณะวัดนะคะถ้ารู้สึกเจ็บมากหรือ
00:04:29 → 00:04:32 ต้องกันหยุดวัดให้กดปุ่นหยุดเครื่องจะ
00:04:32 → 00:04:35 ปล่อยลมออกทันทีค่ะด้านนำให้วัดความดัน
00:04:35 → 00:04:40 โลหิตวันละสองช่วงเวลาคือช่วงเช้าช่วงที่
00:04:40 → 00:04:43 2 ก็คือช่วงเย็นก่อนเข้านอนค่ะในช่วง
00:04:43 → 00:04:46 เช้านี้ให้วัดภายใน 1 ชั่วโมงหลังตื่นนอน
00:04:46 → 00:04:50 และก่อนรับประทานยาลดความดันโลหิตนะคะใน
00:04:50 → 00:04:53 การวัดความดันโลหิตในแต่ละช่วงอย่างเช่น
00:04:53 → 00:04:57 ช่วงเช้าให้วัด 2 ครั้งห่างกัน 1 นาที
00:04:57 → 00:05:01 สรุปคือวัดช่วงเช้าสองและช่วงเย็น 2
00:05:01 → 00:05:05 ครั้งรวมเป็นวันละ 4 ครั้งนะคะให้วัดเป็น
00:05:05 → 00:05:08 ระยะเวลา 3 ถึง 7 วันติดต่อกันไปในแต่ละ
00:05:08 → 00:05:12 เดือน
00:05:12 → 00:05:15 ในกรณีที่ผู้ป่วยได้รับการรักษามาระยะ
00:05:16 → 00:05:18 หนึ่งและสามารถควบคุมความดันโลหิตได้ดี
00:05:18 → 00:05:22 ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนยาใดๆอาจวัดในช่วง
00:05:22 → 00:05:25 3-7 วันก่อนพบแพทย์ครั้งถัดไปก็พอค่ะ
00:05:25 → 00:05:29 ทั้งนี้ในการเริ่มวัดความดันแนะนำตัดค่า
00:05:29 → 00:05:32 ที่วัดได้ในวันแรกออกและคำนวณหาค่าเฉลี่ย
00:05:32 → 00:05:35 จากวันที่เหลืออย่าลืมนำแบบบันทึกมาให้
00:05:35 → 00:05:39 แพทย์ดูทุกครั้งที่มาพบแพทย์ค่ะค่าความ
00:05:39 → 00:05:41 ดันโลหิตที่วัดได้ที่บ้านจากเครื่องวัด
00:05:41 → 00:05:44 ความดันโลหิตชนิดพกพาจะต่ำกว่าค่าที่วัด
00:05:44 → 00:05:47 ได้ที่สถานพยาบาลประมาณ 5 มิลลิเมตรปรอท
00:05:48 → 00:05:50 จึงถือว่าความดันโลหิตสูงเมื่อความดัน
00:05:50 → 00:05:54 โลหิตขณะหัวใจบีบตัวมากกว่าหรือเท่ากับ
00:05:54 → 00:05:57 135 มิลลิเมตรปรอทหรือความดันโลหิตขณะ
00:05:57 → 00:06:00 หัวใจคลายตัวมากกว่าหรือเท่ากับ 25
00:06:00 → 00:06:02 มิลลิเมตรปรอท
00:06:02 → 00:06:04 [เพลง]
00:06:04 → 00:06:07 ไม่แนะนำให้ผู้ป่วยปรับขนาดยาลดความดัน
00:06:07 → 00:06:10 โลหิตด้วยตนเองตามค่าความดันที่วัดได้ที่
00:06:10 → 00:06:13 บ้านโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์ค่ะการวัดความ
00:06:13 → 00:06:18 ดันโลหิตที่บ้านไม่ยากเลยใช่ไหมคะอ่ะ
00:06:18 → 00:06:37 [เพลง]