00:00:00 → 00:00:01 ก็
00:00:01 → 00:00:04 สวัสดีทุกคนนะครับยินดีต้อนรับเข้าสู่
00:00:04 → 00:00:06 พอร์ต Cash เรื่องเล่าจากร่างกายแล้วครับ
00:00:06 → 00:00:08 กับผมหมอเอวนายแพทย์ชัชพลเกียรติขจรธาดา
00:00:08 → 00:00:12 นะครับสวัสดีค่ะหมอขวัญข้าโอเควันนี้เรา
00:00:12 → 00:00:14 จะมาคุยกันเรื่องอะไรดีครับค่าก็ตอนที่
00:00:14 → 00:00:17 เราอัดผัดแขนเซฟตี้โซนนี้นะคะมันก็ใกล้
00:00:17 → 00:00:20 กับวันวาเลนไทน์พอดีอ่ะเทศกาลของความรัก
00:00:20 → 00:00:23 ก็เลยคิดว่าเราควรจะเรื่องอะไรที่มัน
00:00:23 → 00:00:25 เกี่ยวข้องกับความรักอ่ะมาพูดซะนิดนึง
00:00:25 → 00:00:29 โอเคได้ก็จะคุยกันเลยกันเองคือจริงๆแล้ว
00:00:29 → 00:00:31 อ่ะตอนที่เราทำหนังสือเรื่อง
00:00:31 → 00:00:34 500ล้านปีของความรักกันแล้วจริงนะมันมีบท
00:00:34 → 00:00:37 หนึ่งที่ผ่อนไหมชอบมากเลยก็คือบทที่
00:00:37 → 00:00:41 ให้ความรู้ว่าทำไมเนี่ยผู้ชายถึงไม่เข้า
00:00:41 → 00:00:43 ใจผู้หญิงแล้วก็ผู้หญิงไม่เข้าใจผู้ชาย
00:00:43 → 00:00:48 หรอโอเคคราวเนี้ยสมัยก่อนนะตอนที่สมัยที่
00:00:48 → 00:00:50 เรายังเด็กๆอยู่อ่ะตอนนั้นแหละถ้าเรา
00:00:50 → 00:00:53 ต้องการเข้าใจความแตกต่างเนี่ยมันแทบจะ
00:00:53 → 00:00:55 ไม่มีอะไรให้เราอ่านเลยคนไหนจำได้ว่าสมัย
00:00:55 → 00:00:59 ก่อนจะมีหนังสือเรื่องนึงชื่อว่าเมนส์
00:00:59 → 00:01:02 ประมาทข้อ 9 Women ฟังบีนัดซึ่งคิดมากๆ
00:01:02 → 00:01:05 เพียวได้อ่านมาเล่นนี้ขอดูอาหารก่อนนั้น
00:01:05 → 00:01:06 อยู่ประมาณ
00:01:06 → 00:01:10 เล่นหมอแล้วอ่ะประมาณปี 4 อะไรมั่งตี 4
00:01:10 → 00:01:13 ปี 500p จำได้จะได้อยู่เป็นหนังสือที่ดัง
00:01:13 → 00:01:16 มากของยกเลิกใช่คนมันก็ได้อ่านในละครใหม่
00:01:16 → 00:01:17 ว่าจริงๆแล้วอ้ะมันก็เป็นหนังสือที่ดี
00:01:17 → 00:01:20 เหมือนกันมันก็ช่วยทำให้เราเข้าใจเพศตรง
00:01:20 → 00:01:24 ข้ามในระดับหนึ่งแต่ว่าหลังจากนั้นมามัน
00:01:24 → 00:01:27 ก็มีอีกเล่มนึงตามมาชื่อว่า 7 not
00:01:27 → 00:01:30 That in Tu ซึ่งจริงๆถ้ามาแปลเป็นภาษา
00:01:30 → 00:01:33 สมัยใหม่ตอนนี้คงเป็นได้สั้นๆว่าอย่ามโน
00:01:33 → 00:01:35 ไปเอง
00:01:35 → 00:01:38 ซึ่งจริงๆแล้ว 2 เล่มนี้มันก็เป็นจุด
00:01:38 → 00:01:40 เริ่มต้นที่ดีนะแต่คนไม่ว่ามันอาจจะยัง
00:01:40 → 00:01:44 ไม่ได้อธิบายถึงวิทยาศาสตร์เบื้องหลัง
00:01:44 → 00:01:48 พฤติกรรมที่แตกต่างตรงนี้โอเคแต่ทั้งนี้
00:01:48 → 00:01:50 ทั้งนั้นเนี่ยเรื่องที่เราจะคุยกันเนี่ย
00:01:50 → 00:01:54 มันอาจจะเป็นเรื่องของด้วยว่ายังไงดีมัน
00:01:54 → 00:01:57 เป็นเรื่องของค่าเฉลี่ยเนอะของเพศชายของ
00:01:57 → 00:02:00 เพศหญิงแต่ว่ามันอาจจะไม่ได้ครอบคลุม
00:02:00 → 00:02:02 เนื้อผ้าเป็นเพศทั้งหมดเพราะว่าจริงๆแล้ว
00:02:02 → 00:02:04 ความเป็นเพศมันซับซ้อนมากถึงนี้ใช่ว่าจะ
00:02:04 → 00:02:07 มาถึงว่าเอ่อปกติในสมัยก่อนเราจะมาว่ามี
00:02:07 → 00:02:11 แค่เพศชายเพศหญิงแล้วก็ไอเดียก็คือว่า
00:02:11 → 00:02:13 สมัยก่อนเดอะมอลล์ว่าถ้าไม่ใช่เพชรผู้ชาย
00:02:13 → 00:02:16 ผู้หญิงมันคือผิดปกติมันจะยุคสมัยหนึ่ง
00:02:16 → 00:02:18 ที่ช่วยอย่างนั้นแต่จะว่าไปแล้วเนี่ยครับ
00:02:18 → 00:02:21 ในงานของวิทยาศาสตร์จริงๆเพศตรงกลางทั้ง
00:02:21 → 00:02:23 หลายแล้วเนี่ยคือในทางวิทยาศาสตร์ก็ถือ
00:02:23 → 00:02:25 ว่าไม่ติดปกติในทางการแพทย์เองก็ยอมรับ
00:02:25 → 00:02:28 กันมาระยะหนึ่งแล้วว่าคือเพชรตรงกลางไม่
00:02:28 → 00:02:31 ใช่ภาวะปกติถูกมั๊ยทีนี้ไอเดียก็คือว่า
00:02:31 → 00:02:33 สมุดว่าเรากำลังจะพูดถึงเรื่องของความรัก
00:02:33 → 00:02:35 ระหว่างผู้ชายผู้หญิงเนี่ยมันไม่ได้แปล
00:02:35 → 00:02:39 ว่ามันจะมีแค่สองเพศมีเท่านั้นละลายบาง
00:02:39 → 00:02:40 ครั้งถ้าเราบอกว่าผู้ชายเป็นแบบนี้เพียง
00:02:40 → 00:02:43 แบบนั้นเนี้ยก็ไม่ได้ไปวัดผู้ชายทุกคนจะ
00:02:43 → 00:02:45 เป็นแบบที่เราพูดหรือผู้หญิงทุกคนจะเป็น
00:02:45 → 00:02:48 แบบที่เราพูดแต่จะหมายถึงรักษาที่มันครับ
00:02:48 → 00:02:51 โดยแนวโน้มแล้วผู้ชายมีนาเราจะเป็นแบบนี้
00:02:51 → 00:02:55 ก็ยังมีแนวโน้มเป็นแบบนี้อ่ามันก็พูดถึง
00:02:55 → 00:02:57 ว่าพระพุทธของผู้ชายสูงกว่าผู้หญิงก็ไม่
00:02:57 → 00:02:59 ได้ไปผู้ชายทุกคนจะต้องสู้กับผู้หญิงแต่
00:02:59 → 00:03:02 ว่าตั้งค่าเฉลี่ยผู้ชายมีอารมณ์จะสูงกว่า
00:03:02 → 00:03:05 ส่วนตรงกลางเนี่ยมันก็จะสนองการที่มัน
00:03:05 → 00:03:08 ครับคือตรงกลางเนี่ยก็จะมีบางคนที่ลักษณะ
00:03:08 → 00:03:11 ค่อนไปทางผู้ชายบางคนข้อในผู้หญิงซึ่งตรง
00:03:11 → 00:03:13 นั้นก็จะเป็นผู้รายละเอียดเอาเป็นว่ามัน
00:03:13 → 00:03:16 ไม่ได้แปลว่ามีแค่ผู้ชายผู้หญิงเอาอย่าง
00:03:16 → 00:03:18 นี้ละกันได้นะเพราะว่าจริงๆถ้าเราพูด
00:03:18 → 00:03:20 เรื่องเพศมันเป็นเรื่องที่พูดได้ยาวมาก
00:03:20 → 00:03:24 เลยเพราะมันเป็นสเปกตรัมที่ช่างมากๆหลาก
00:03:24 → 00:03:28 หลายมากๆสมัยก่อนเราจะเรียก lgbt นะเพศ
00:03:28 → 00:03:30 ตรงกลางแต่ว่าตอนนี้เอา TV ทีไม่พอแล้วก็
00:03:30 → 00:03:33 เป็น LG B T Q Plus เพราะว่าคำว่า
00:03:33 → 00:03:35 พลัสเนี่ยมันบอกเลยว่ามีอะไรอีกมากมายเลย
00:03:35 → 00:03:38 ในความหลากหลายนี้ใช่ซึ่งลักษณะพูดมันมา
00:03:38 → 00:03:42 จากกลไกการเกิดเพศของธรรมชาติและกันมันมี
00:03:42 → 00:03:45 หลายขั้นตอนทำให้มันไม่ใช่แค่ว่ามี xx
00:03:45 → 00:03:47 สบายแล้วก็อยากเป็นชายหญิงธรรมดาโอเคนำ
00:03:47 → 00:03:50 เข้าเรื่องเลยดีกว่านะคะเท่านี้นะฮะยัง
00:03:51 → 00:03:53 กลับมาตรงที่ทำไมผู้ชายไม่เข้าใจผู้หญิง
00:03:53 → 00:03:56 แล้วก็ทำไมผู้หญิงในไม่เข้าใจผู้ชายสมัย
00:03:56 → 00:03:59 ก่อนจะได้ยินเพื่อนได้บนบ่อยมากเลยเพื่อน
00:03:59 → 00:04:02 ผู้หญิงก็ว่าจะโอ้โห้โย้โดยผู้ชายชอบดู
00:04:02 → 00:04:04 บอลน่ะต้องตื่นมา 2:00 น 3:00 นมาเพื่อมา
00:04:04 → 00:04:07 ดูฟุตบอลเลยเงี้ยแล้วก็ตอนเช้าตื่นไปทำ
00:04:07 → 00:04:10 งานไม่ไหวแล้วเนี้ยหรือว่าผู้ชายทำไมชอบ
00:04:10 → 00:04:13 กีฬาอะไรที่มันดูอันตรายสิ่งเสียงแบบขับ
00:04:13 → 00:04:17 รถแข่งเปล่าชอบความเร็วว่าแบบเนี้ยส่วน
00:04:17 → 00:04:19 ผู้ชายเนี่ยก็มาจะบ่นผู้หญิงว่าเอ๊ะทำไม
00:04:19 → 00:04:23 อ่ะผู้หญิงวอลเวอร์เลยเนี่ยต้องแบบคอยบน
00:04:23 → 00:04:28 พูดอะไรซ้ำซ้ำๆหรือว่าต้องพยายามแสดงออก
00:04:28 → 00:04:29 ถึงอารมณ์อะไรเงี้ย Facebook Twitter
00:04:29 → 00:04:32 เลยเงี้ยก็จะต้องเหมือนกับประกาศ status
00:04:32 → 00:04:35 ตลอดเวลาว่าตอนนี้ฉันอะไรที่ไหนยังไงอยู่
00:04:35 → 00:04:38 อะไรเงี้ยดูมันมีความไม่เข้าใจตรงนี้
00:04:38 → 00:04:42 แต่ว่าความแตกต่างพวกเนี้ยน่าสนใจมากเลย
00:04:42 → 00:04:45 ว่ามันจริงๆแล้วเนี่ยมันเริ่มตั้งแต่ตอน
00:04:45 → 00:04:48 ที่เรายังเป็นมนุษย์ที่อยู่กันเป็นเผ่า
00:04:48 → 00:04:51 ยังยังมีลักษณะการใช้ชีวิตแบบล่าสถานของ
00:04:51 → 00:04:55 ป่าอยู่แต่ตอนนี้พี่เอาจะช่วยขยายตัวนี้
00:04:55 → 00:04:57 เลยได้ไหมว่ามันเป็นไปเป็นยังไงมายังไง
00:04:57 → 00:05:01 คือคือเค้าจริงที่บอกตรงที่จะไม่ได้ว่า
00:05:01 → 00:05:04 พี่เขียนในหนังสือเลยโอ้ทำไมจำไม่ได้นั่น
00:05:04 → 00:05:06 คือตัวเองขึ้นมาเขียนมานานแล้วประมาณ 8
00:05:06 → 00:05:08 ปีที่แล้วแล้วก็พอเขียนเสร็จก็ไม่ค่อยมี
00:05:08 → 00:05:10 โอกาสได้กลับไปอ่านเท่าไหร่ช่วยถ้าใคร
00:05:10 → 00:05:12 อ่านหนังสือแล้วแบบอธิบายแล้วมันมีความ
00:05:12 → 00:05:15 ต่างไงครับก็เลยก็ให้รู้ไว้นะความจำมัน
00:05:15 → 00:05:17 บางครั้งมันก็จะไม่ดีตาไว้ว่าอันนี้ละกัน
00:05:17 → 00:05:20 จะขอพูดแบบไม่ตรงกับคือผู้สดและนั้นอาจจะ
00:05:20 → 00:05:23 ไม่ต้องอ่านหนังสือเท่าไหร่
00:05:23 → 00:05:27 ค่ะเพราะแค่ส่วนนี้นะคะก็ต้องขอขอบคุณ
00:05:27 → 00:05:31 สปอนเซอร์ของเรา OC แลนด์คอนแทคเลนส์ราย
00:05:31 → 00:05:35 วันตัวเลนส์ทำจากวัสดุ S กับฟิวขั้น a
00:05:35 → 00:05:36 ค่ะ
00:05:36 → 00:05:40 คือความต่างระหว่างตัวผู้ 2 เพศเนี่ยมัน
00:05:40 → 00:05:43 ไม่ได้มีแค่มนุษย์ในงานของพฤติกรรมนะเวลา
00:05:43 → 00:05:46 คะนักชีววิทยาในเขาก็ศึกษาก็รู้อยู่แล้ว
00:05:46 → 00:05:48 ว่าสองเพศมันมักจะมีพฤติกรรมที่ต่างกัน
00:05:48 → 00:05:51 ที่เวลากลับมามองมันโดนเนี่ยมันจะมี
00:05:51 → 00:05:53 เรื่องของความคิดแวะมาเที่ยวสนใจกันไหม
00:05:53 → 00:05:56 ไว้ในแง่ของมุมมองของบัณฑิตในคือจิตวิยา
00:05:56 → 00:05:59 มันก็เกิดความสงสัยว่าให้ทำไมเราไม่ทำให้
00:05:59 → 00:06:02 ทำไมง่ายของกระบวนการวิวัฒนาการสมุดถ้า
00:06:02 → 00:06:04 เราผู้ชายผู้หญิงคิดเหมือนกันทุกอย่างมี
00:06:04 → 00:06:07 นิสัยคล้ายกันมันก็น่าจะดีถูกและเพราะว่า
00:06:07 → 00:06:09 ในแง่ของสังคมก็จะมีการลักษณะความปรองดอง
00:06:09 → 00:06:12 การทำอะไรคิดคล้ายๆกันแต่เป็นผู้ชายเนี่ย
00:06:12 → 00:06:15 มันมีวิธีการคิดที่จะมองเนี่ยที่เหมือน
00:06:15 → 00:06:18 กับต่างกันค่อนข้างมากจนดูเหมือนกับบาง
00:06:18 → 00:06:21 ครั้งมันชวนให้ขัดแย้งกันมันก็เลยเกิดคำ
00:06:21 → 00:06:24 ถามที่ว่าทำไมธรรมชาติถึงวิวัฒนาการเป็น
00:06:24 → 00:06:26 อย่างนั้นทำให้สมองมนุษย์ถึงวิวัฒนาการมา
00:06:26 → 00:06:30 เป็นแบบนี้ที่นี้จริงๆถ้าจะว่าถ้าจะหาจุด
00:06:30 → 00:06:32 ถ้าเราจะคุยกันก็อาจจะเริ่มจากจุดหนึ่งก็
00:06:32 → 00:06:35 คือว่าอาจจะมองได้ว่ามันเริ่มต้นตั้งแต่
00:06:35 → 00:06:38 ประมาณสมัยที่มนุษย์เนี่ยเริ่มเดินสองขา
00:06:38 → 00:06:42 มันจะมีการเปลี่ยนแปลงทางกายวิภาคของร่าง
00:06:42 → 00:06:44 กายมนุษย์เพื่อให้เหมาะการเดินสองขามาก
00:06:44 → 00:06:46 ขึ้นเพราะเชื่อว่าแต่เดิมบรรพบุรุษของ
00:06:46 → 00:06:47 มนุษย์เนี่ยก่อนที่จะลุกขึ้นมาเดินสองขา
00:06:47 → 00:06:50 เนี่ยจะเดินลักษณะเหมือนเดินเคยเดินด้วย
00:06:50 → 00:06:52 นักก็ Walking คือเดินด้วยข้อนี้คนเดือน
00:06:52 → 00:06:55 สีขาและอารมณ์ใครๆก็เล่นไลน์น้องอ่ะใช่
00:06:55 → 00:06:57 มันที่ก็เลยเดินเจอมาก็เลยนะ Girls
00:06:57 → 00:07:00 Walking ก็ทาบก็ดูสารคดีเอาแล้วก็ท่าน
00:07:00 → 00:07:03 กันนึกภาพไม่ออกเค้าไม่มีรูปให้ดูเนอะตา
00:07:03 → 00:07:06 เป็นว่าในภาพรวมก็คือว่าความรู้เรื่อง
00:07:06 → 00:07:08 ด้วย 2 ขานมันจะมีการวิวัฒนาการของการ
00:07:08 → 00:07:10 วิพากษ์เนี่ยเพื่อให้เดินสองขาในได้ดี
00:07:10 → 00:07:12 ขึ้นก็มีการเปลี่ยนแปลงหลายส่วนตั้งแต่
00:07:12 → 00:07:15 เท้าข่าวอะไรตั้งแต่มากมายแต่ที่สำคัญคือ
00:07:15 → 00:07:17 เรื่องของกระดูกเชิงกรานที่มีการเปลี่ยน
00:07:17 → 00:07:21 แปลงไปก็คือจะมีลักษณะที่สั้นขึ้นเอ่อได้
00:07:21 → 00:07:23 กระดูกเชิงการที่มันเปลี่ยนไปทั้งหลาย
00:07:23 → 00:07:26 แหล่เนี่ยในผู้หญิงการข้อลูกในทำได้ยาก
00:07:26 → 00:07:29 ขึ้นเพราะว่าทารกเด็กในจะข้อเราไม่ได้ยาก
00:07:29 → 00:07:33 ขึ้นมันมีความแค่ของเชิงกรานยุ่งในขณะ
00:07:33 → 00:07:35 เดียวกันในช่วงเวลาที่นี้ช่วงเวลาใกล้
00:07:35 → 00:07:37 เคียงกันเนี่ยสมองมนุษย์เนี่ยก็ค่อยๆ
00:07:37 → 00:07:41 วิวัฒนาการมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นซึ่งผลมันก็
00:07:41 → 00:07:44 คือขานการตกแกก็ทำให้คลาดยากขึ้นเพราะว่า
00:07:44 → 00:07:47 เชิงร้านเนี่ยเล็กลงแต่ว่าขนาดของศีรษะ
00:07:47 → 00:07:50 และสมองนะกลับใหญ่ขึ้นส่วนทางก็ยิ่งทำให้
00:07:50 → 00:07:52 คลอดยากเข้าไปใหญ่จ่อยเพิ้นมีกระบวนการ
00:07:52 → 00:07:55 วิวัฒนาการที่มันเดินทางไปสวนกันเนี่ยมัน
00:07:55 → 00:07:58 ทำให้ธรรมชาติต้องหาวิธีแก้ปัญหาซึ่งวิธี
00:07:58 → 00:08:00 แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือทำให้ทารกของ
00:08:00 → 00:08:03 มนุษย์เนี่ยคลอดออกมาก่อนที่สมองเนี่ยจะ
00:08:03 → 00:08:08 พัฒนาเต็มที่หอก็คือจะได้สมองออกมาโตนอก
00:08:08 → 00:08:11 ครรภ์มารดาเฉลยขนาดศีรษะตอนที่คลอดเนี่ย
00:08:11 → 00:08:15 จะได้ไม่ใหญ่มากจะได้พอที่จะคลอดได้สะดวก
00:08:15 → 00:08:17 โอกาสรอดมากขึ้นเท่านั้นที่จะเห็นได้ชัด
00:08:17 → 00:08:20 ก็คือเรื่องของกระหม่อมใช่ไหมก็ morning
00:08:20 → 00:08:23 คือถ้าใครมีรูปเล็กจะนึกพอน็อคว่าทารกตอน
00:08:23 → 00:08:25 เด็กละครในสมองใจตกตลกมันจะยังไม่เชื่อม
00:08:25 → 00:08:29 กันมันจะมีส่วนที่ทำได้แบบนิ่มๆอยู่เพราะ
00:08:29 → 00:08:31 อะไรเพราะว่าการที่กระโหลกยังไม่เชื่อว่า
00:08:31 → 00:08:33 เนี่ยมันทำให้เวลาข้อน้องมาเนี่ยผัวเนี่ย
00:08:33 → 00:08:36 ศีรษะของเด็ดชะมัดที่จะถูกบีบให้มีขนาด
00:08:36 → 00:08:38 เล็กลงได้กินยุคได้ง่ายหน่อยอ่าระหว่าง
00:08:38 → 00:08:41 เดินทางแข็งแบบศีรษะเราแบบนี้ตอนคลอดมัน
00:08:41 → 00:08:44 ดีเข้าไปไม่ได้แล้วเธอฉันฟิคแล้วฉันว่า
00:08:44 → 00:08:47 ยุคหน่อยดิถึงนี่เดี๋ยวพอเด็กข้อต่อมา
00:08:47 → 00:08:49 ก่อนที่สมองจะพัฒนาเต็มที่นี่มาทำให้ทารก
00:08:49 → 00:08:51 ของมนุษย์เน็ตช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย
00:08:51 → 00:08:54 อ่ะออกมาแล้วเคยผลว่าทำไมทะเลาะกันทุกวัน
00:08:54 → 00:08:56 ละครมาแล้วน่าจะไม่เหมือนสัตว์เลี้ยงลูก
00:08:56 → 00:08:59 ด้วยนมส่วนใหญ่ที่คอยระมัดที่พอจะช่วย
00:08:59 → 00:09:02 เหลือตัวเองได้บ้างหอชายเหมือนมามันอะไร
00:09:02 → 00:09:04 แบบนี้นะมันเข้ามาแป๊บนึงก็คือเดินต่อแต่
00:09:04 → 00:09:07 ไปแล้วเราสบายสม่ำเสมอเดินตามแม่ได้แต่
00:09:07 → 00:09:10 ทะเลาะกันหนูจะใช้เวลาหลายปีมากทีนี้การ
00:09:10 → 00:09:12 ที่ทารกข้อต่อมาแล้วทำช่วยเหลือตัวเองไม่
00:09:12 → 00:09:16 ค่อยได้มันทำให้พ่อกับแม่เนี่ยจะไปต้อง
00:09:16 → 00:09:18 ช่วยกันเลี้ยงดูรูปมันต้องมีใครสักคนที่
00:09:18 → 00:09:20 อยู่กับลูกทุ่งให้เพราะว่าในโลกที่โรง
00:09:20 → 00:09:23 เรียนดำบรรพ์เนี่ยโลกก็หลักสังคมลักษณะ
00:09:23 → 00:09:26 ของป่าเราไม่สามารถวางทารกที่ไม่ที่ไหน
00:09:26 → 00:09:30 ได้เพราะมันมีทั้งงูมีทั้งอีกานกเหยี่ยว
00:09:30 → 00:09:34 ไม่ใช่อีกาโนะเกี่ยวมีงูนตรายเต็มไปหมด
00:09:34 → 00:09:35 มันจะเราจะไปหมดที่จะมาทำอันตรายเพราะ
00:09:35 → 00:09:37 ฉะนั้นทารกคุณต้องอยู่ใกล้กับแม่ตลอดเวลา
00:09:37 → 00:09:41 ที่นี่มนุษย์เนี่ยด้วยความที่ร่างกายมัน
00:09:41 → 00:09:45 โดนต้องการกินอาหารที่หลากหลายอ่ามันก็มี
00:09:45 → 00:09:47 เกิดการแบ่งงานกันทำ
00:09:47 → 00:09:51 ก็เกิดแบ่งงานกันทำใช่ไหมก็จะมีลักษณะที่
00:09:51 → 00:09:54 แบบเนี้ยมีผู้ชายนี้ของการหาอาหารในก็จะ
00:09:54 → 00:09:57 รับสงกรานต์อาหารที่ที่ต้องมีการออกไปล่า
00:09:57 → 00:10:00 สัตว์ส่วนผู้หญิงเนี่ยก็จะรักนักรักหนา
00:10:00 → 00:10:03 ของการหาของป่าหาของป่าในที่นี้จะหมายถึง
00:10:03 → 00:10:06 พวกรักพืชหัวมันหัวเผือกทั้งหลายและราก
00:10:06 → 00:10:11 ไม้เราต่างผลไม้เล็กๆน้อยๆซึ่งสามารถก็หา
00:10:11 → 00:10:14 ได้ไม่ยากจากที่พักมากก็คือกระเตงลูกออก
00:10:14 → 00:10:18 ไปคุยเอาตามพื้นเอาง่ายหน่อยเลยแล้วก็
00:10:18 → 00:10:20 เมื่อต่อให้ลูกค้าจะเดินได้เนี่ยก็จะต้อง
00:10:20 → 00:10:23 ลักษณะที่แบบพาลูกกับไปด้วยดูแลอย่างใกล้
00:10:23 → 00:10:27 ชิดแล้วก็หาอาหารแต่ว่าโดยรวมเนี่ยอ่าหนู
00:10:27 → 00:10:28 ยิ้มหาได้เนี่ยจะค่อนข้างเหมือนเป็นอาหาร
00:10:28 → 00:10:31 หลักธรรมะจุบันก็เหมือนผู้หญิงหาข้าวส่วน
00:10:31 → 00:10:34 ผู้ชายหักกับซึ่งไม่ได้แปลว่าจะได้ทุกวัน
00:10:34 → 00:10:36 อ่านนะครับหรือว่าคือเป็นอย่างนั้นทีนี้
00:10:36 → 00:10:39 เนี่ยเราจะเห็นว่าผู้ชายผู้หญิงในตอนนี้
00:10:39 → 00:10:41 มันมีเรื่องของการแบ่งหน้าที่กันและ
00:10:41 → 00:10:44 ถ้าไปช่วงเวลาเนี้ยเชื่อว่าจะเป็นก่อนที่
00:10:44 → 00:10:46 มนุษย์จะเป็นมนุษย์ด้วยซ้ำรอยคะนี่พอมัน
00:10:46 → 00:10:49 มีงานพฤติกรรมที่ต่างกันมีหน้าที่ต่างกัน
00:10:49 → 00:10:52 มันก็จะเกิดการวิวัฒนาการให้ร่างกายและ
00:10:52 → 00:10:56 สมองต่างๆและมีเหมาะกับกับหน้าที่ของตัว
00:10:56 → 00:10:59 เองที่ไหนผู้ชายเนี่ยลักษณะของการเวลาไป
00:10:59 → 00:11:02 ล่าสัตว์ของป่ามันจะสำคัญที่มันก็ต้องทำ
00:11:02 → 00:11:05 งานเป็นทีมต้องโฟกัสถูกแล้วก็งานผู้เรียน
00:11:05 → 00:11:08 จะมีความเสี่ยงอันตรายมันทำให้โดยภาพรวม
00:11:08 → 00:11:11 ในผู้ชายกันอย่างกับผู้ชายปัจจุบันซึ่งก็
00:11:11 → 00:11:14 คงไม่ต้องอธิบายมากชอบความเสี่ยงชอบทำ
00:11:14 → 00:11:17 อะไรคำๆแล้วก็ส่วนผู้หญิงจะไปรับของการ
00:11:17 → 00:11:20 ที่โอเคเป็นบ่อเพราะจะไม่ออกและก็คือผู้
00:11:20 → 00:11:23 หญิงหอเข้าใจก็คือถ้าอย่างนั้นในภาพออก
00:11:23 → 00:11:25 เลยส่วนผู้หญิงเนี่ยก็จะต้องเน้นเรื่อง
00:11:25 → 00:11:28 ความสัมพันธ์และความร่วมมือกันก็คือเพราะ
00:11:28 → 00:11:33 ว่าไหนจะต้องเลี้ยงลูกไหนจะต้องออกไปหา
00:11:33 → 00:11:36 อาหารไหนจะต้องดูแลเรื่องความเรียบร้อยใน
00:11:36 → 00:11:39 เผ่านะที่อยู่อาศัยอะไรต่างๆนานาเพราะ
00:11:39 → 00:11:41 ฉะนั้นตรงนี้ต้องใช้ความร่วมมือกันมาก
00:11:41 → 00:11:44 เตือนฉันผู้หญิงในก็จะต้องพูดคุยกันเยอะ
00:11:44 → 00:11:48 สื่อสารกันเก่งแล้วก็สามารถจากอารมณ์ของ
00:11:48 → 00:11:52 แต่ละคนได้ดีแล้วก็นอกจากนี้น่าจะไม่
00:11:52 → 00:11:54 เสียงเท่านั้นเพราะว่าต้องยังไงเนี่ยจะ
00:11:54 → 00:11:56 ต้องรีบไทยให้เร็วที่สุดเพื่อที่จะกลับมา
00:11:56 → 00:11:59 ดูแลลูกอะไรแบบนี้มั้ยโอเคก็เอาอยู่แล้ว
00:11:59 → 00:12:01 กันที่ว่าเดี๋ยวเราลบไปค่อยๆคุยตั้งแต่
00:12:01 → 00:12:04 เบสิคตั้งแต่เด็กขึ้นมาแล้วก็ต้องความ
00:12:04 → 00:12:06 ต่างมันคือที่เราคุยกันมาเนี่ยคือฮักเข้า
00:12:06 → 00:12:08 ใจเหตุผลแล้วว่าทำไมผู้ชายหรือผู้หญิง
00:12:08 → 00:12:10 ชนิดต่างกันทั้งหมดมันมีรากมาจาก
00:12:10 → 00:12:14 วิวัฒนาการที่มีความต่างมันก็จะมีความ
00:12:14 → 00:12:17 ต่างก็ตั้งแต่วัยเด็กเรามาเริ่มกันตรงนี้
00:12:17 → 00:12:21 ดีไหมได้เลยฮะก็มาเริ่มตั้งแต่แรกข้อดี
00:12:21 → 00:12:24 ไหมคือปกติเด็กทารกและคอเนี่ยต้องบอกว่า
00:12:24 → 00:12:27 ผู้ชายผู้หญิงเนี่ยตอนแรกข้อ 2 มาจริงๆก็
00:12:27 → 00:12:29 มีความต่างแล้วเพราะว่าตอนช่วงที่อยู่ใน
00:12:29 → 00:12:31 ท้องแม่เนี่ยก็จะมีเรื่องของข้อมูลเพศนะ
00:12:31 → 00:12:33 เข้ามาเกี่ยวข้องเด็กผู้ชายก็จะมีลักษณะ
00:12:33 → 00:12:36 ของการเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนเพศชายผู้หญิง
00:12:36 → 00:12:38 ก็จะมีการเพิ่มบุญกมลเพศหญิงซึ่งจะมีผล
00:12:38 → 00:12:42 ต่อการพัฒนาการของสมองให้มีลักษณะก็ต่าง
00:12:42 → 00:12:46 กันบ้างมากไม่มากไม่มากนักแต่ก็เพิ่มต่าง
00:12:46 → 00:12:48 กันแล้วที่นี่ทารกแรกคลอดออกมาในโดยใช้
00:12:48 → 00:12:50 ช่วงเดือนแรกเนี่ยของผู้ชายก็จะมีฮอร์โมน
00:12:50 → 00:12:53 เพศสูงอยู่จักรยาน 1 ผู้หญิงก็จะมี
00:12:53 → 00:12:55 ฮอร์โมนเทพสูงอยู่ประมาณสักขวบนึงถึง 1
00:12:55 → 00:12:58 ขวบฉะนั้นฮอร์โมนเพศทั้งสองเพศเขาจะก็จะ
00:12:58 → 00:13:01 ต่ำลงจนค่อนข้างน้อยหรือถ้าจะไม่มีเลยแต่
00:13:01 → 00:13:04 ว่าช่วงเวลาที่ข้อมูลเทพสูงขึ้นระยะสั้นๆ
00:13:04 → 00:13:06 มาก็มีผลให้เด็กผู้ชายผู้หญิงในมีแล้วนะ
00:13:06 → 00:13:10 ที่ต่างกันบ้างอ่าเริ่มจากตอนเป็นเบบี๋
00:13:10 → 00:13:12 ก่อนก็เป็นทารกเนี่ยผู้ชายผู้หญิงต่างๆใน
00:13:12 → 00:13:15 บ้างผ่อนดึกเพราะจะจำได้มั้ยอ๋อคือว่าชัด
00:13:15 → 00:13:16 เจนเลยเดี๋ยวผู้ชายหรือผู้หญิงนี่คือได้
00:13:16 → 00:13:19 ผู้หญิงเนี่ยส่วนใหญ่แล้วเนี่ยก็คือจะชอบ
00:13:19 → 00:13:23 มองคนชอบมองหน้าแล้วก็เด็กผู้หญิงเนี่ย
00:13:23 → 00:13:26 ชัดเจนเลยมีการศึกษาคอนเฟิร์มเยอะว่าเด็ก
00:13:26 → 00:13:29 ผู้หญิงน่าจะเข้าใจอารมณ์ในของคนที่ดูแล
00:13:29 → 00:13:32 ได้เร็วผู้ชายก็เลยเหมือนกับว่าอ้ะเกิด
00:13:32 → 00:13:35 สมมติว่าไอ้แม่อารมณ์เป็นแปลงเด็กเขาจะ
00:13:35 → 00:13:38 สามารถผิดอัพได้ทันทีเลยแล้วก็คือผู้ชาย
00:13:38 → 00:13:41 แนวโน้มจะมองหน้าน้อยกว่าเด็กผู้หญิงขึ้น
00:13:41 → 00:13:44 ขั้นต่ำถ้าชอบหมอกหน้าขนเพชรกับผู้หญิง
00:13:44 → 00:13:46 เนี่ยเมื่อดูเป็นเปอร์เซ็นต์มีนมจะมองกู
00:13:46 → 00:13:48 มองหน้าสบตานี้ใหญ่กว่าเพื่อเพียงจะเข้า
00:13:48 → 00:13:52 ใจกันโลกของคนที่เลี้ยงดูใช่ฮะแล้วก็นอก
00:13:52 → 00:13:55 จากหน้าที่ชัดเจนแล้วก็มีการศึกษามากๆเลย
00:13:55 → 00:13:58 เนี่ยนะคะยืนยันเยอะเลยก็คือเรื่องภาษา
00:13:58 → 00:14:00 เรื่องการสื่อสารเด็กผู้หญิงในสกิลทาง
00:14:00 → 00:14:03 ภาษาเนี่ยโดยเฉลี่ยแล้วเดี๋ยวจะพัฒนาไป
00:14:03 → 00:14:05 เร็วเป็นเด็กผู้ชายในชั้นเรียนไม่ 6
00:14:05 → 00:14:07 เดือน 12 เดือนเลยนะคะเพราะฉะนั้นไม่แปลก
00:14:07 → 00:14:09 เลยที่เด็กผู้หญิงน่าจะพูดได้เร็วกว่า
00:14:09 → 00:14:13 หรือว่าสื่อสารกับพ่อแม่น่ะเข้าใจอารมณ์
00:14:13 → 00:14:16 เลยเนี่ยได้ดีเคยคำสอบที่สักสอนในเราสอง
00:14:16 → 00:14:19 กว่าอันนี้ไปตอนช่วงวัยทารกนะคะนี่เรามา
00:14:19 → 00:14:22 ดูช่วงประมาณสักเด็กอนุบาลกันบ้างถอดเลย
00:14:22 → 00:14:25 เข้าโรงเรียนกันไปดูว่าถือว่าเรานึกภาพ
00:14:25 → 00:14:26 วิธีนั้นภาพก็คือมันก็เราไปโรงเรียน
00:14:26 → 00:14:28 อนุบาลและเห็นเด็กกลุ่มเด็กผู้ชายผู้หญิง
00:14:28 → 00:14:31 เล่นกันเนี่ยเราจะเห็นความต่างเธอแม้แต่
00:14:31 → 00:14:34 อย่างแรกสุดและก็คือเด็กผู้ชายในมีน้ำนม
00:14:34 → 00:14:36 จะเล่นกันแรงๆเช่นเด็กผู้หญิงก็มีแนวโน้ม
00:14:36 → 00:14:38 จะเล่นเป็นลักษณะที่แบบเป็นความสัมพันธ์
00:14:38 → 00:14:41 มิ้งมุ้งมิ้งซื้อขายของการเล่นแบบต่อองค์
00:14:41 → 00:14:45 การจะได้ก่อนที่จะคุยง่ายๆขอบขอเพลงนิด
00:14:45 → 00:14:47 นึงก็คือว่าจะพูดถึงเรื่องของการเล่นก่อน
00:14:47 → 00:14:50 นิดนึงว่ามันคือมันคืออะไรว่าทำไมเด็ก
00:14:50 → 00:14:53 ต้องเล่นใช่เออเพราะว่าให้พฤติกรรมกัน
00:14:53 → 00:14:55 เล่นเดี๋ยวมันพฤติกรรมนึงที่ไม่ได้พบแค่
00:14:55 → 00:14:57 ในมนุษย์และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทั้งหลาย
00:14:57 → 00:14:59 เนี่ยมันจะมีตอนที่เป็นเด็กเนี่ยมันจะมี
00:14:59 → 00:15:02 พฤติกรรมเล่นทั้งนั้นที่นี่เมื่อเราไป
00:15:02 → 00:15:05 ศึกษาดูพฤติกรรมการเล่นของสัดส่วนใหญ่เรา
00:15:05 → 00:15:08 จะเห็นลักษณะหนึ่งที่ออกมาก็คือว่าอย่าง
00:15:08 → 00:15:10 เช่นจะเป็นสัตว์ผู้สัตว์ผู้ล่านะเช่นพวก
00:15:10 → 00:15:13 สัตว์ตระกูลพวกหมาป่าเสือสิงโตแมวทั้ง
00:15:13 → 00:15:15 หลายแหละเวลาเล่นลักษณะการเริ่มจะไปรับ
00:15:15 → 00:15:20 สำคัญที่คอยตะปบกันฟัดกันหรือว่าใช้เท้า
00:15:20 → 00:15:23 คู่หน้าเดี๋ยวไปเหมือนกับไปตึงหรือเคยเอา
00:15:23 → 00:15:28 ปไปยึดตะปะเนี่ยฮะคือมันก็ไปกดเอาไว้แล้ว
00:15:28 → 00:15:31 ก็ไม่ค่อยมีกันนับกันวิ่งไล่กันอะไรแล้ว
00:15:31 → 00:15:35 คล้ายๆกับซ้อมแบบเวลาไปล่าจริงในชีวิตเอง
00:15:35 → 00:15:37 เขาก็ชื่อว่ากันเล่นมันเป็นสัญชาตญานที่
00:15:37 → 00:15:40 ทำให้สัตว์ในตอนที่เป็นเด็กฝึกทักษะที่จะ
00:15:40 → 00:15:43 เป็นที่ต้องใช้ถ้าโตขึ้นอยากเป็นสัตว์
00:15:43 → 00:15:45 ตระกูลที่พวกกินหญ้าซึ่งว่าจะเป็นเหยื่อ
00:15:45 → 00:15:47 ของผู้ล่ะเนี่ยตอนที่เล่นมันจะเป็นส่วน
00:15:47 → 00:15:51 ที่วิ่ง Speed วิ่งความเร็วมีการต่อลบ
00:15:51 → 00:15:54 ซ้าย - ขวามีการกลับนะคะหลอกเลยอย่างถ้า
00:15:54 → 00:15:57 เป็นสัตว์พวกพวกสัตว์ที่มันเป็นคลื่นๆ
00:15:57 → 00:16:00 เท้ากีบ 8 หลายๆครั้งก็จะรู้จากการเล่น
00:16:00 → 00:16:03 ที่เป็นลักษณะที่แบบบางครั้งเล่นกันอยู่
00:16:03 → 00:16:05 ก็มีการแบบยกเท้าถีบเหมือนมากที่อะไร
00:16:06 → 00:16:08 ประมาณเนี้ยซึ่งก็เป็นทักษะทำการต่อสู้
00:16:08 → 00:16:11 กับสัตว์ผู้ล่าที่กลับมาทิพย์กายของเด็ก
00:16:11 → 00:16:14 เอากลับมาที่มนุษย์กันบ้างเนาะจะไว้ในรู
00:16:14 → 00:16:16 บานกันบ้างเด็กทารกผู้ชายเนี่ยสมมติว่า
00:16:16 → 00:16:19 เราๆๆสมณะมีท่านมาอันนึงแล้วไปให้เด็กผู้
00:16:19 → 00:16:22 ชายเล่นแต่ผู้ชายจะเล่นเอาอ่ะท่อนไม้หรือ
00:16:22 → 00:16:25 ว่ากินไม้เนี่ยเป็นอาวุธเป็นดาบฟันกัน
00:16:25 → 00:16:27 บ้างเอามาทุ่มเงินบ้างหรืออะไรก็แล้วแต่
00:16:27 → 00:16:29 หรือเด็กผู้ชายเวลาเล่นกันในบางครั้งชุด
00:16:29 → 00:16:31 เด็กผู้ชายคนยิ่งๆยืนอยู่ก็มีเด็กผู้ชาย
00:16:31 → 00:16:33 คนหนึ่งวิ่งมาถึงปุ๊บมาเตะก้นปลุกคนที่
00:16:33 → 00:16:36 โดนเตะหันหน้ากลับไปพวกเป็นเพื่อนเนี่ย
00:16:36 → 00:16:39 อาจจะยิ้มให้ฉันก็วิ่งตามเพื่อจะตามไปเตะ
00:16:39 → 00:16:42 เตะกับเธอไหมในทางค่ามีแต่ผู้ชายนะวิ่งไป
00:16:42 → 00:16:46 เตะเด็กผู้หญิงแต่ผู้หญิงหัดมาเนี่ยก็คือ
00:16:46 → 00:16:48 ต้องให้ท่านทีถูกใจเกิดอะไรขึ้นทำไมต้อง
00:16:48 → 00:16:50 มาเล่นแรงๆแบบนี้ที่ฉันทำอะไรให้เธอเคือง
00:16:50 → 00:16:53 โกรธเอ่อเดี๋ยวผู้หญิงเล่นกันจะเน้น
00:16:53 → 00:16:56 เรื่องของความสัมพันธ์จะคุยกันต่อรองกัน
00:16:56 → 00:16:58 พ่อแม่ลูกเลยเนี่ยนะเด็กผู้หญิงชอบเล่น
00:16:58 → 00:17:02 พ่อแม่ลูกครอบครัวเรียนความสัมพันธ์
00:17:02 → 00:17:05 ระหว่างมนุษย์ในเรื่องของการที่จะเจรจา
00:17:05 → 00:17:08 ต่อรองส่วนถ้าพูดเด็กผู้ชายเวลาคุยกัน
00:17:08 → 00:17:10 เล่นกันในรัชกาลที่เหมือนกับก็จะรู้ว่า
00:17:10 → 00:17:13 เป็นบูลลี่อ่อนก็ได้ก็คือภาษาจะไม่ค่อย
00:17:13 → 00:17:17 คุยกันจะต่อรองชนะการสั่งบังคับคนอื่น
00:17:17 → 00:17:20 เนี่ยมาแล้วก็จะรักๆกันที่แบบค่อนข้างแบบ
00:17:20 → 00:17:23 แม้แต่อนุบาลพอเล่นสักพักมันจะไม่มีฝนจก
00:17:23 → 00:17:25 ขึ้นมามันจะมีความเป็นแก๊งค์มีความเป็น
00:17:25 → 00:17:28 ลำดับขั้นขึ้นมาซึ่งเขาก็เชื่อกันว่านะ
00:17:28 → 00:17:32 ว่าไอ้ความเป็นลำดับขั้นในฝูงแบบเนี้ยมัน
00:17:32 → 00:17:34 ก็เหมือนกับลิงคนอื่นที่มีระดับทันนะคะใน
00:17:34 → 00:17:37 ฝูงเนี่ยมันก็มีประโยชน์หลายอย่างมันก็
00:17:37 → 00:17:41 เอาแบบย่อๆนะมันก็คือเป็นคล้ายๆกับว่าทำ
00:17:41 → 00:17:44 ให้มันก็ถ้าจะเปรียบของฝูงและคืออย่าง
00:17:44 → 00:17:46 เช่นจริงๆบอกว่าลดความขัดแย้งมันรู้ว่า
00:17:46 → 00:17:49 ลำดับใครอยู่ระดับไหนถ้าคนสามารถต่อสู้
00:17:49 → 00:17:51 เต็มที่เป็นไฮโซได้วุ้นมือไหว้อาหารให้
00:17:51 → 00:17:54 คุณก็จะได้กินก่อนส่งแม่ไม่ทำให้เกิดการ
00:17:54 → 00:17:57 ต่อสู้ทุกครั้งที่มีอาหารในจำกัดหรือยัง
00:17:57 → 00:17:59 กับผสมพันธุ์เนี้ยมันก็จะมีการแค่ทดลอง
00:17:59 → 00:18:02 กันไปเกาะนต่อสู้กันตอนเด็กๆเพราะโตขึ้น
00:18:02 → 00:18:05 ก็จะรู้ว่าใครอยู่ในลำดับที่สูงกว่าเมื่อ
00:18:05 → 00:18:08 ถึงเวลาอย่างผสมพันธุ์มันก็จะมีนมที่ถ้า
00:18:08 → 00:18:10 ระหว่างแบบลำดับต่างกันมามากมันก็จะไม่
00:18:10 → 00:18:13 สู้กันก็ไม่ฝั่งที่อยู่ต่ำกว่ามันสู้ไปก็
00:18:13 → 00:18:16 เจ็บตัวเปล่าแล้วจริงๆความเป็นแม่ว่ามัน
00:18:16 → 00:18:18 ก็น่าจะมีผลทำให้เวลาออกล่าจริงมันมี
00:18:18 → 00:18:21 ประสิทธิภาพด้วยนะว่าใครล่าเก่งอ่ะระยะ
00:18:21 → 00:18:23 ไกลเป็นกองเสริมเก่งอะไรวันนี้ช่วยอันนี้
00:18:23 → 00:18:26 ก็มีผู้ในชิ้นเป็นสื่อแล้วก็ศึกษานั้นคือ
00:18:26 → 00:18:27 เวลากันออกไปล่าสัตว์เนี่ยของมนุษย์จะมี
00:18:27 → 00:18:30 ความต่างมันรู้เวลาแล้วสัตว์เนี่ยเราเข้า
00:18:30 → 00:18:32 ไปดูแลรักษาเราจะไม่คุยกันมากเหมือนกัน
00:18:32 → 00:18:34 เล่นฟุตบอลเนี่ยไหมทุกคนจะรู้หน้าที่ของ
00:18:34 → 00:18:37 ตัวเองคนนี้การวิ่งตาไปคนหรือว่าคนนี้ก็
00:18:37 → 00:18:40 เป็นดักเติมตรงนี้จะมีการสื่อสารกันและ
00:18:40 → 00:18:42 แน่นอนว่ากันวันเป็นทีนี้มีค่าไม่ต้องมี
00:18:42 → 00:18:46 ผู้นำแค่นี้เวลามันมีความเป็นเป็นชนเป็น
00:18:46 → 00:18:48 รถเครื่องลำดับขั้นอย่างเงี้ยมันก็จะรู้
00:18:48 → 00:18:51 ว่าใครเป็นคนส่งซิกแนลระหว่างที่กำลัง
00:18:51 → 00:18:53 ภาวะที่แบบไม่รู้ว่าจะทำอะไรดีทุกคนก็ทำ
00:18:53 → 00:18:57 ให้เหมาะกับตันทีมในการล่าอันนี้มันจะ
00:18:57 → 00:18:59 ช่วยคือพวกนี้เป็นพวกเปลี่ยนเล็กๆน้อยของ
00:18:59 → 00:19:02 การมีระดับขั้นในฝูงแล้วก็เชื่อว่าฉัน
00:19:02 → 00:19:04 ชาตยานมนุษย์เนี่ยมันก็จะเป็นของคุณชอบ
00:19:04 → 00:19:07 ผู้ชายเนี่ยมันจะวิวัฒนาการให้มีใครรู้
00:19:07 → 00:19:09 เป๊กกี้หมอเดินหรือว่าใครส่งใครต่ำ
00:19:09 → 00:19:13 โอเคแล้วมาถึงตรงไหนแล้วคุยแล้วชักลืมก็
00:19:13 → 00:19:16 เราก็จะมองเห็นภาพความแตกต่างในวัยเด็ก
00:19:16 → 00:19:20 แล้วเนอะคราวนี้พอเข้าสู่วัยรุ่นณตอนที่
00:19:20 → 00:19:23 ฮอร์โมนเพศมันกลับมาครั้งนึงแล้วก็โมนเพศ
00:19:23 → 00:19:26 ในมันกลับมามีผลกับสมองอ่ะตอนนี้ก็น่าจะ
00:19:26 → 00:19:30 ยิ่งทำให้คือกรัมของสองเพศมายิ่งต่างกัน
00:19:30 → 00:19:33 ชัดเนอะใช่เพราะว่าอย่างที่บอกก็คือ
00:19:33 → 00:19:36 ฮอร์โมนเพศมันมีผลกับพฤติกรรมของคนเนอะ
00:19:36 → 00:19:38 แล้วก็มันเทศมันจะมีการเพิ่มขึ้นสูงใน 2
00:19:38 → 00:19:41 ครั้งครั้งแรกในจะเป็นตอนตอนวัยเด็กขอ
00:19:41 → 00:19:43 เป็นข้ารองที่ครั้งนี้ก็คือตอนวัยรุ่น
00:19:43 → 00:19:46 เห็นแล้วก็จะเริ่มเห็นแล้วว่าโอเคช่วงวัย
00:19:46 → 00:19:49 รุ่นในวันพฤติกรรมหลายอย่างที่คล้ายกันใน
00:19:49 → 00:19:51 ทั้งสองเพศเช่นต้องการมีความเป็นตัวของ
00:19:51 → 00:19:53 ตัวเองมากขึ้นต้องการที่จะต่างไปจากพ่อ
00:19:53 → 00:19:57 แม่ลูกคนที่เป็นผู้ปกครองแล้วแต่นี่เป็น
00:19:57 → 00:20:00 ธรรมชาติของวัยรุ่นสุดจริงก็พบว่าในลิง
00:20:00 → 00:20:02 อื่นก็มีพฤติกรรมนี้ด้วยก็คือพวกไว้
00:20:02 → 00:20:05 เดี๋ยวต้องพูดเล่นกันว่าในสังคมล่าสัตว์
00:20:05 → 00:20:08 ของป่านวัยรุ่นในคือวัยทำงานเถิดพวกวัย
00:20:08 → 00:20:10 รุ่นเนี่ยก็คือผู้ที่เหมือนครับในฉันไม่
00:20:10 → 00:20:13 ได้เผ่าเนี่ยพวกนักรบทั้งหลายแล้วพวกนัก
00:20:13 → 00:20:17 ล่าเท่าไรและแล้วก็คือวัย 13 มาไวกำลัง
00:20:17 → 00:20:20 แบบห้าวกันว่าไม่ Romeo ไว้กลางซ่าสุดขีด
00:20:20 → 00:20:23 ซ่ามากส่วนพวกทะเบียน 20 กว่านี้จะเริ่ม
00:20:23 → 00:20:26 แบบพวกโสและเริ่มขี้บ่นสร้างรู้สึกแกะมาก
00:20:26 → 00:20:29 เลยมีอายุไข่ในโทนสมัยก่อนก็ไม่ค่อยยาว
00:20:29 → 00:20:32 มากจะเป็นว่าอย่างที่บอกก็คือว่าอันนี้
00:20:32 → 00:20:35 เป็นอันหนึ่งที่อธิบายว่าทำไมเด็กวัยรุ่น
00:20:35 → 00:20:36 ทุกวันนี้บางครั้งเรามองว่าแบบก้าวร้าว
00:20:36 → 00:20:39 เพราะว่าธรรมชาติเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น
00:20:39 → 00:20:41 เนี่ยมันพร้อมที่จะถ้าเป็นมันเป็นโรค
00:20:41 → 00:20:43 เบอร์โทรมาจะเป็นจริงๆวัยรุ่นคือวัยที่
00:20:43 → 00:20:47 แบบพร้อมไปลาแล้วพร้อมที่จะเป็นผู้นำแต่
00:20:47 → 00:20:50 ว่าทุกวันนี้วัยรุ่นเนี่ยมันยังอยู่ถือ
00:20:50 → 00:20:52 ว่าเป็นวัยที่ต้องเรายังมองว่าไม่เป็นผู้
00:20:52 → 00:20:54 ใหญ่ได้จะมองว่าต้องอยู่ในกฎเกณฑ์ต้อง
00:20:54 → 00:20:57 เรียนหนังสือมันก็เลยขัดกับพอมวล 1
00:20:57 → 00:20:59 ฮอร์โมนมันคือต้องการที่จะแบบฉันพร้อม
00:20:59 → 00:21:01 แล้วจะเป็นผู้นำถ้าอย่างนี้พวกชนเผ่าทอน
00:21:01 → 00:21:04 ตาบอกเขาช่วงวัยรุ่นจะมีพิธีกรรมที่ทำให้
00:21:04 → 00:21:05 เหมือนกับเขารู้สึกว่าเขาเปลี่ยน path
00:21:05 → 00:21:09 จากวัยเด็กเข้าสู่วัยที่แบบต้องรับผิดชอบ
00:21:09 → 00:21:12 โอเคกลับมาที่วัยรุ่นเกิดน้องจะเห็นความ
00:21:12 → 00:21:15 ต่างของผู้ชายผู้หญิงมีอะไรบ้างเนี่ยคือ
00:21:15 → 00:21:17 วันใหม่ว่าวัยรุ่นเนี่ยพฤติกรรมอันนึงอ่ะ
00:21:17 → 00:21:19 ที่เราเห็นชัดเลยก็คือว่าไม่ว่าจะเป็นผู้
00:21:19 → 00:21:22 ชายหรือผู้หญิงเนี่ยต่างก็ชอบอยู่เป็น
00:21:22 → 00:21:25 กลุ่มทุกคนจะต้องมีกลุ่มมิดแก๊งอะไรเงี้ย
00:21:25 → 00:21:27 ของตัวเองแต่ว่าลักษณะของแกมันจะต่างกัน
00:21:27 → 00:21:32 นิดนึงใช่คืออย่างที่บอกขึ้นจริงพวกนี้
00:21:32 → 00:21:33 เรามาครั้งไม่ต้องที่บายเยอะนะว่าทุกคน
00:21:34 → 00:21:37 เคยผ่านมาแล้วคือวัยรุ่นผู้ชายเนี่ยเรา
00:21:37 → 00:21:38 เป็นแก๊งค์อย่างที่บอกก็จะรักษามันที่เรา
00:21:38 → 00:21:41 คุยกันเนี่ยมีลำดับขั้นเยอะจะมีฝนโจกนะ
00:21:41 → 00:21:44 อ่ามีแบบหรือว่าใครเป็นเบอร์ 2 เบอร์ 3
00:21:44 → 00:21:46 แล้วก็จะมีคนที่มันก็อาจจะเป็นคนที่โดนคน
00:21:46 → 00:21:49 อื่นแกล้งนิดนึงเลยแบบนั้นแล้วใช้งานเยอะ
00:21:49 → 00:21:52 เอ่อส่วนกลุ่มผู้หญิงเนี่ยจะไม่ค่อยมีแนว
00:21:52 → 00:21:55 นี้ผู้หญิงเอาเค็มจะมีคนที่เด่นสวยที่สุด
00:21:55 → 00:21:58 เก่งที่สุดอะไรก็แล้วแต่แต่ว่ามันจะมี
00:21:58 → 00:22:00 ความรู้สึกเพียงที่จะเท่าเทียมแต่ว่าฉัน
00:22:00 → 00:22:02 เป็นส่วนกลางตรงแม้มันจะไม่เป็นลักษณะการ
00:22:02 → 00:22:05 ที่เป็นบี้คนอื่นๆแล้วคนนี้ลำดับขั้นมัน
00:22:05 → 00:22:07 ไม่มันไม่เหมือนกับของผู้ชายความเท่า
00:22:07 → 00:22:10 เทียมกันมันสูงกว่ามากเลยช่วยเพราะว่าผู้
00:22:10 → 00:22:12 ชายอย่างที่บอกก็คือว่าเป็นเหมือนกับ
00:22:12 → 00:22:15 ต้องการที่เหมือนกับสั้นๆห้วนๆแก้ปัญหาขอ
00:22:15 → 00:22:18 แล้วก็งานทั้งรักษาของงานที่พัฒนาการมา
00:22:18 → 00:22:20 เรียที่บอกคือเขาไปเรื่องของการต่อกล้า
00:22:20 → 00:22:24 ทั้งหลายแล้วจึงทำการที่งานที่ต้องตัดสิน
00:22:24 → 00:22:26 ใจต้องเด็ดขาดต้องเด็ดเดี่ยวที่นี่ผู้
00:22:26 → 00:22:28 หญิงเวลาละส่วนของฝ่าอย่างที่เราคุยไป
00:22:28 → 00:22:31 เมื่อกี้บ้างแล้วเนี่ยคือเวลาของไปลากออก
00:22:31 → 00:22:34 ไปหาของป่าในจริงมันก็มีอันตรายของมัน
00:22:34 → 00:22:35 อยู่ตรงแม้ผู้หญิงบางครั้งก็ลูกเล็กๆ
00:22:35 → 00:22:38 เนี่ยไปเดิน Way ใกล้ที่นี่ระหว่างกันหา
00:22:38 → 00:22:41 ของป่าเนี่ยมันจะมีมันจะมีลักษณะที่แบบก็
00:22:41 → 00:22:44 เชื่อไปลำดับขั้นถ้าทุกคนมันก็มีความเท่า
00:22:44 → 00:22:47 เทียมกันแล้วก็ระหว่างที่หาของป่าก็จะ
00:22:47 → 00:22:49 เป็นการพูดคุยอย่างที่กันว่ากันไปใช้ใน
00:22:49 → 00:22:51 การพูดคุยกันไม่ใช่แค่เมาส์ธรรมดามันมี
00:22:51 → 00:22:54 ฟังก์ชั่นอันนี้เข้ามาจากการที่ไปศึกษาชน
00:22:54 → 00:22:57 เผ่าล่าสัตว์ของป่าในยุคปัจจุบันเนี่ยเขา
00:22:57 → 00:23:00 เพราะว่ากาลเวลาคุยกันเนี่ยหลายๆครั้ง
00:23:00 → 00:23:03 นั้นในการเช็คเพราะทุกคนกับที่คนก้มหน้า
00:23:03 → 00:23:05 ง่วนอยู่กับการยุ่งกับทำงานตัวเองกัน
00:23:05 → 00:23:07 ตะโกนพูดคุยกันได้ไม่เหมือนการเช็คว่า
00:23:07 → 00:23:11 อยู่ทุกคนอยู่ครบไหมหรือว่าเราอยู่ห่าง
00:23:11 → 00:23:13 ไกลจากกลุ่มไปหรือเปล่าคือเสียงเราดูแบบ
00:23:13 → 00:23:16 ไกลมากแล้วไม่ค่อยเรียนคนอื่นมาจะบอกว่า
00:23:16 → 00:23:18 เราไปไกลกันไปแล้วอาจจะได้แบบว่าใครใช้
00:23:18 → 00:23:21 ว่าไม่มีใครอ่ะที่หลุดรอดสายตาไปแล้วอาจ
00:23:21 → 00:23:23 จะโดนเสือข้าไปอะไรแบบนี้ใช่เพราะว่า
00:23:23 → 00:23:25 อันตรายมันอยู่ค่อนข้างมากเพราะฉะนั้นการ
00:23:25 → 00:23:28 พูดคุยกันมันเป็นหนึ่งในฟังก์ชันที่
00:23:28 → 00:23:31 จำเป็นต่อภาชนะผู้หญิงชอบเมามอยเนอะเรา
00:23:31 → 00:23:33 ถึงแบบว่าเออโทรมามอยกันได้เป็นชั่วโมง
00:23:33 → 00:23:36 ชั่วโมงแล้วก็รู้สึกฟินนะเนี้ยกันมอยส์
00:23:36 → 00:23:39 เพราะว่าในไงถ้าเป็นส่วนหนึ่งก็เป็น
00:23:39 → 00:23:40 เรื่องของข้อมูลด้วยคืออย่างเช่นผู้หญิง
00:23:40 → 00:23:43 ในเวลามีคือเรื่องของความเครียดเนี่ยเฮ้อ
00:23:43 → 00:23:45 หรืออะไรก็แล้วแต่ผู้หญิงจะชอบคุยกันถูก
00:23:45 → 00:23:48 ไหมเพราะว่าการพูดคุยกับผู้หญิงมันจะทำ
00:23:48 → 00:23:52 ให้รู้สึกผ่อนคลายเพราะฉะนั้นผู้หญิง
00:23:52 → 00:23:54 เนี่ยไม่ต้องการแก้ปัญหาต้องการที่จะคุย
00:23:54 → 00:23:56 ต้องการที่จะเล่ากันที่จะบรรยายละเอียด
00:23:56 → 00:24:00 เรามาเล่ามาฟังมาส่วนผู้ชายในเวลามีปัญหา
00:24:00 → 00:24:02 และความเครียดเนี่ยมากจะต้องการแก้ปัญหา
00:24:02 → 00:24:06 Fake แปลปัญหาทุกอย่างจะหาวิธีมันก็
00:24:06 → 00:24:09 โฟกัสอยู่เงียบๆโฟกัสคิดถึงแผนการว่าจะ
00:24:09 → 00:24:11 แก้ปัญหายังไงดีที่นี่แหละผู้ชายผู้หญิง
00:24:11 → 00:24:14 มีปัญหาหน้ามันก็เลยเกิดกันเข้าใจไม่ตรง
00:24:14 → 00:24:17 กันอย่างเช่นเพราะผู้หญิงมีปัญหากับบ้าน
00:24:17 → 00:24:18 เนี่ยสิ่งที่อยากทำคืออยากจะเม้าท์อยากจะ
00:24:18 → 00:24:21 พูดจะระบายเนี่ยมาแล้วก็คาดหวังให้มีคน
00:24:22 → 00:24:24 ฟังแต่ผู้ชายเดี๋ยวพอฟังเสร็จแล้วก็เพียง
00:24:24 → 00:24:27 ที่จะรีบแก้ปัญหาให้แก่เจ้าแบบว่าอยู่
00:24:27 → 00:24:30 เงียบๆคนเดียวเพื่อจะมาโฟกัสว่าซาแก้
00:24:30 → 00:24:32 ปัญหายังไงไม่เชิญทำไมถึงว่าจะเป็นปัญหา
00:24:32 → 00:24:34 ผู้ชายผู้ชายก็อยากจะอยู่คนเดียวคนโฟกัส
00:24:34 → 00:24:37 แบบว่าผู้หญิงมีปัญหาในผู้ชายก็จะรีบแก่
00:24:37 → 00:24:39 เธอแค่ไหนผู้หญิงอยากพูดเนี่ยผู้ชายก็จะ
00:24:39 → 00:24:43 ขัดแล้วก็บอกว่านี่ไงว่าไงจบก็เขตและชนะ
00:24:43 → 00:24:46 ผู้ชายก็อ้าแก้ปัญหาเสร็จไปนั่งดูบอลอยู่
00:24:46 → 00:24:48 แล้วผู้หญิงก็แบบครึ่งสิฉันยังไม่ได้พูด
00:24:48 → 00:24:51 เลยใช่วันนี้ระบายไม่เต็มที่เลยใช่สูตร
00:24:51 → 00:24:53 ฉันคนอื่นยังไม่ได้บัตรทำงานเต็มที่เลย
00:24:53 → 00:24:56 ประมาณเนี้ยอันนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งความต่ำ
00:24:56 → 00:24:59 มันก็เลยทำให้แบบบางทีเกิดความไม่เข้าใจ
00:24:59 → 00:25:04 กันขึ้นใช่คราวเนี้ยคือความไม่เข้าใจตรง
00:25:04 → 00:25:07 นี้ของรู้ไหมว่าตอนที่มีลูกแล้วอ้ะมัน
00:25:07 → 00:25:09 ยิ่งทำให้ความก็ไม่เข้าใจตรงนี้มันยิ่ง
00:25:09 → 00:25:13 เข้มข้นขึ้นนะเพราะว่าผู้หญิงเนี่ยก็จะ
00:25:13 → 00:25:15 ยิ่งปกติซึ่งลูกเป็นห่วงลูกเป็นห่วง
00:25:15 → 00:25:19 เรื่องกับความเรียบร้อยของบ้านค่าน้ำค่า
00:25:19 → 00:25:22 ไฟความสัมพันธ์อะไรเงี้ยในขณะที่ผู้ชาย
00:25:23 → 00:25:26 อาจจะบางทีไม่มีรู้แล้วกับบ้างานมากขึ้น
00:25:26 → 00:25:31 คือใช่ถึงจะตรงนี้น่าสนใจเพราะว่าอ่ามัน
00:25:31 → 00:25:34 มีคนเล่าเรื่องนั้นจึงจะบอกคิดว่าเป็นงาน
00:25:34 → 00:25:36 วิจัยที่น่าสนใจดีเอามันเป็นงานวิจัยที่
00:25:36 → 00:25:40 ศึกษาในชัดนะคุณหนูเออฉันรู้ด้วยนมชนิด
00:25:40 → 00:25:43 อ่ะ Store ชื่อสกุลหนูอะไรประมาณนี้แล้ว
00:25:43 → 00:25:46 ก็ชอบก็มีการส่งสักความสงสัยอย่างหนึ่ง
00:25:46 → 00:25:48 ว่าปกติเรารู้ว่าสัตว์ตัวผู้ทั้งหลายแหละ
00:25:48 → 00:25:50 ที่เหมือนตัวที่อยู่เลี้ยงลูกด้วยกันนะ
00:25:51 → 00:25:55 เวลามีลูกเนี่ยมันผู้ชายจะลดลงซึ่งจะมีผล
00:25:55 → 00:25:58 ให้ความดุร้ายของสัตว์น้อยลงแต่ก็เพราะ
00:25:58 → 00:26:01 ว่าให้หนูตัวนี้เนี่ยสายพันธุ์เนี้ยพอมี
00:26:01 → 00:26:03 ลูกเสร็จปุ๊บมันจะเป็นดูเดินร้ายมากขึ้น
00:26:03 → 00:26:07 อ้าผมจะขอพิกัดให้พวกหนังสือพิมพ์กัดพา
00:26:07 → 00:26:10 บุกกองขาดกระจุยเลยอ่อนโยนในที่ควรจะเป็น
00:26:10 → 00:26:13 ก็มันก็ดูแปลกจะได้ต่อมาหรือเมื่อศึกษา
00:26:13 → 00:26:15 ระบบในเซตติ้งที่ศึกษานะมันไม่ใช่พัฒนา
00:26:15 → 00:26:18 วัดธรรมชาติคืออยู่ในกรงที่เข้าไปดู
00:26:18 → 00:26:21 พฤติกรรมของหนูตัวเนี้ยไอ้สัตว์รู้เดิม
00:26:21 → 00:26:23 ตัวเล็กตัวนี้ในธรรมชาตินะครับเพราะว่า
00:26:23 → 00:26:26 ไม่จริงๆไม่ใช่ตอนที่มันมีลูกเนี่ยสิ่ง
00:26:26 → 00:26:30 ที่มันทำคือมันจะไปพวกฉีกใบไม้กิ่งไม้
00:26:30 → 00:26:34 เนี่ยเอามาสร้างรังเธอแม้เพราะฉะนั้นคือ
00:26:34 → 00:26:36 พฤติกรรมของการที่ที่ไม่ใช่ดุร้ายเต็ม
00:26:36 → 00:26:39 พฤติกรรมของการที่เลี้ยงลูกดูแลลูกด้วย
00:26:39 → 00:26:44 กันพยามจะสร้างรางอ๋อขอขอเธอจริงๆที่ตอน
00:26:44 → 00:26:46 นั้นสึกที่ตอนนั้นๆมันไม่ใช่เรื่องของนี้
00:26:46 → 00:26:48 หรอกมันเป็นแค่บอกว่าเวลาเราศึกษา
00:26:48 → 00:26:51 พฤติกรรมของสัตว์ในรถที่ทำคนเราต้องอยู่
00:26:51 → 00:26:54 ในบริบทที่ถูกต้องเพื่อการนี้ในธรรมชาติ
00:26:54 → 00:26:56 เราเข้าใจดีแต่พอมาอยู่ในกรงมันดูเป็นแบบ
00:26:56 → 00:26:59 ตีความผิดแต่เพียงแต่ว่ามันก็สะท้อนกลับ
00:26:59 → 00:27:02 มาที่เรื่องนี้แล้วก็คือว่าเวลาพอมีลูก
00:27:02 → 00:27:04 เนี่ยหลายครั้งเนี่ยผู้หญิงมีแนวโน้มที่
00:27:04 → 00:27:07 จะเข้าใจเรื่องรู้เรื่องในบ้านเนี่ยแล้ว
00:27:07 → 00:27:11 ก็เหมือนกับกังวลนะเว้ยทำไมแบบสามีฉัน
00:27:11 → 00:27:13 ช่วยไม่ช่วยเลี้ยงลูกเลยซอยแม่ก็จะแบบใช้
00:27:13 → 00:27:16 เวลาที่บ้านเยอะสนใจรู้เยอะก็อยากจะให้
00:27:16 → 00:27:19 สามีมาอยู่ด้วยค่ะดูการเนี่ยพอมีลูกหรือ
00:27:19 → 00:27:21 บางครั้งผู้ชายก็มีความเครียดผู้ชายแล้ว
00:27:21 → 00:27:24 ก็แผนจะแก้ปัญหาลดความเครียดตัวเองก็คือ
00:27:24 → 00:27:26 เพื่อจะไปโฟกัสที่แบบฉันจะทำยังไงถึงจะ
00:27:26 → 00:27:30 แบบหาเงินมาเลี้ยงลูกอย่างขามันโครงสร้าง
00:27:30 → 00:27:32 ความมั่นคงจะทำงานให้เยอะขึ้นก็กลายเป็น
00:27:32 → 00:27:35 ว่าพยายามจะเลี้ยงลูกดูวิธีการที่แบบผู้
00:27:35 → 00:27:38 ชายก็คือออกจากบ้านทำงานเยอะทำงานดึกขึ้น
00:27:38 → 00:27:41 มันก็เลยเป็นความเข้าใจผิดกันผู้หญิงกับ
00:27:41 → 00:27:44 ค่าตอบแทนที่จะมาช่วยกันเลี้ยงลูกชายผู้
00:27:44 → 00:27:45 ชายก็ไม่เหงาฉันนี่ไงฉันก็ทำหน้าที่แบบ
00:27:45 → 00:27:47 ของฉันให้แต่บางครั้งเนี่ยต้องบอกว่า
00:27:47 → 00:27:50 เนื่องจากให้เนี่ยมันเป็นเป็นสัญชาตญาน
00:27:50 → 00:27:52 ลึกๆมันไม่ได้มาจากการคิดถูกไหมมันแค่
00:27:52 → 00:27:55 เป็นร้ายเป็นความรู้สึกแรงขับว่าแบบขอให้
00:27:55 → 00:27:57 มีลูกแล้วอ่ะเพราะฉันก็ทำงานหนักทำงานนะ
00:27:57 → 00:28:00 ขนาดโดยที่ไม่ได้คิดเป็นต่างๆหรอกราคานี้
00:28:00 → 00:28:03 วิธีการสื่อสารในก็ต่างกันอีกเพราะผู้ชาย
00:28:03 → 00:28:06 ผู้หญิงชอบพยายามจะสื่อสารแต่ผู้ชายจะ
00:28:06 → 00:28:08 ซื้อทานน้อยกว่าก็ยิ่งเสื่อมไม่เข้าใจผิด
00:28:08 → 00:28:12 นะคะยายนั้นก็คือมันก็จะทำให้ก็ไม่เข้าใจ
00:28:12 → 00:28:15 กันแต่ว่าพอเราเข้าใจตัวนี้เราเข้าใจ
00:28:15 → 00:28:17 วิทยาศาสตร์หรือว่าความต่างตอนนี้มันก็ทำ
00:28:17 → 00:28:19 ให้ออกคุยกันเข้าใจมากขึ้น
00:28:19 → 00:28:22 จริงแล้วก็ก็สามารถสื่อสารได้ตรงจุดมาก
00:28:22 → 00:28:24 ขึ้นเนาะ
00:28:24 → 00:28:28 เดี๋ยวใจมากเลยก็จริงก็ต้องบอกว่าจริงๆก็
00:28:28 → 00:28:31 จะมีเนื้อหาเยอะกว่านี้เนาะแล้วก็ข้าง
00:28:31 → 00:28:34 เซเว่น Tie in นิดนึงก็จะหมดว่าแบบใครสน
00:28:34 → 00:28:36 ใจนะคือจริงๆบอกว่าจะไม่ว่าเขียนเรื่อง
00:28:36 → 00:28:39 นี้ไว้คนขับไว้ค่อนข้างค่อนข้างเยอะหลาย
00:28:39 → 00:28:41 บทเหมือนกันอาจจะ 2-3 บทจะไม่ได้เหมือน
00:28:41 → 00:28:43 กันมีแต่ถ้าใครสนใจเนี่ยมันก็มีหามากกว่า
00:28:43 → 00:28:46 นี้ก็สามารถจะไปหาได้ทั้งสื่อในก็ชื่อว่า
00:28:46 → 00:28:49 500ล้านปีของความรักมี 2 เล่มและเนี่ยจะ
00:28:49 → 00:28:52 เล่น 2 เดี๋ยวขอเล่านิดนึงแล้วกันหนังสือ
00:28:52 → 00:28:53 หรือเมียตอนที่จะเขียนตอนนั้นพี่จำได้ว่า
00:28:53 → 00:28:55 กลับไม่ได้ไปอยู่ในแผ่นที่จะเขียนเอาไว้
00:28:55 → 00:28:58 แต่ตอนนั้นจะถึงไว้กั้นใกล้วันวาเลนไทน์
00:28:58 → 00:29:01 แบบนี้เลยใช่แล้วก็ได้ยินในทีวีหรือว่า
00:29:01 → 00:29:03 จิตทั้งพิธีเลยวิธีเวลา in 2 ครั้งติด
00:29:03 → 00:29:06 กันก็คือมีพิธีกรพูดคะบอกว่าเขาพูดไปว่า
00:29:06 → 00:29:08 ทำนองว่าความรักไม่สามารถเข้าใจได้
00:29:08 → 00:29:11 วิทยาศาสตร์ได้ซึ่งหมายเราอยู่ในสาย
00:29:11 → 00:29:14 วิทยาศาสตร์แล้วก็มีความสบายให้เรารู้ว่า
00:29:14 → 00:29:17 เรื่องนี้มันศึกษามาเป็นเป็นจะร้อยปีแล้ว
00:29:17 → 00:29:20 มั้งเอ่อเราก็มีความรู้มากคือโอเคมันไม่
00:29:20 → 00:29:22 เข้าใจทุกอย่างแต่ว่ามีองค์ความรู้เยอะ
00:29:22 → 00:29:25 ประมาณนึงแล้วก็ไม่รู้สึกว่าเออน้ำมันไม่
00:29:25 → 00:29:29 มีอย่างที่บอกกับมันไม่มีหนังสือที่เขียน
00:29:29 → 00:29:31 เรื่องนี้สำหรับคนทั่วไปนะมากก็เลยจะใช้
00:29:31 → 00:29:33 เขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาตั้งแต่แรกอาจ
00:29:33 → 00:29:36 จะเขียนเล็กๆนี่บอกให้ทันวันวาเลนไทน์
00:29:36 → 00:29:38 ปรากฎว่าแกเป็นสองเล่มยักษ์แบ่งตัวไป
00:29:38 → 00:29:43 เรื่อยๆก็โอเคนะคะก็ก็ทำเสร็จเรียบร้อยนะ
00:29:43 → 00:29:46 ฮะก็ถ้าเกิดว่าใครสนใจนะคะก็ลองไปหามา
00:29:46 → 00:29:50 อ่านกันดูได้โอเคก็สำหรับวันนี้เดี๋ยว
00:29:50 → 00:29:53 พี่สนนี้ก็คงพอเท่านี้เนอะได้เนื้อหากัน
00:29:53 → 00:29:56 ประมาณ 1 ค่าก็จะ Happy Valentine ล่วง
00:29:56 → 00:29:58 หน้านะคะขอให้ทุกคนมีความสุขครับก็ขอบคุณ
00:29:58 → 00:30:01 ทุกคนนะครับที่ติดตามฟังมาจนถึงตอนคล้าย
00:30:01 → 00:30:04 ของพิโสดนะครับถ้าชอบยังไงนะครับก็ผมอยาก
00:30:04 → 00:30:07 รบกวนขอช่วยกดไลค์กดแชร์นะครับเป็น
00:30:07 → 00:30:09 คอมเม้นท์สร้างไอ้เกดชั้นให้หน่อยจะทำให้
00:30:09 → 00:30:13 มีคนเห็นพอดแคสต์มากขึ้นนะครับช่วงวันนี้
00:30:13 → 00:30:15 เราสองคนก็ขอลาไปก่อนนะครับแล้วพบกันใหม่
00:30:15 → 00:30:19 ในพี่ส่วนหน้านะครับสวัสดีครับแต่ที่ 5
00:30:19 → 00:30:22 แล้วก็ต้องขอขอบคุณ OC เลนส์นะครับ
00:30:22 → 00:30:25 คอนแทคเลนส์รายวันทำจากวัสดุ tested
00:30:25 → 00:30:28 ฟิลคอน a ที่สนับสนุนในการในพิสณฑ์นี้นะ
00:30:28 → 00:30:31 ครับอ่ะ
00:30:31 → 00:30:36 [เพลง]