00:00:00 → 00:00:04 [เพลง]
00:00:04 → 00:00:07 อาการปัสสาวะเล็ดนะครับหมายถึงภาวะที่คน
00:00:07 → 00:00:09 ไข้มีปัสสาวะเล็ดออกมาโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ
00:00:09 → 00:00:11 ที่จะปัสสาวะนะครับโดยเราจะแบ่งกลุ่ม
00:00:11 → 00:00:13 อาการเนี่ยยเป็น 2 แบบก็คือแบบที่เป็น
00:00:13 → 00:00:16 ชั่วคราวนะครับแล้วก็แบบที่เป็นถาวรหรือ
00:00:16 → 00:00:18 เป็นเรื้อรังนะครับสาเหตุของอาการปัสสาวะ
00:00:18 → 00:00:20 เล็ดในผู้ป่วยที่เป็นชั่วคราวนะครับที่พบ
00:00:20 → 00:00:22 บ่อยที่สุดก็คือภาวะติดเชื้อในระบบทาง
00:00:22 → 00:00:25 เดินปัสสาวะนะครับลองลงมาก็จะเป็นผู้ป่วย
00:00:25 → 00:00:27 ที่มีปัญหาด้านระบบประสาทนะครับหรือผู้
00:00:27 → 00:00:30 ป่วยที่มีปัญหาด้านจิตเวทนะครับเช่นผู้
00:00:30 → 00:00:33 ป่วยที่เพ้อสับสนหรือผู้ป่วยที่ทานยา
00:00:33 → 00:00:36 รักษาโรคจิตเวชนะครับแล้วก็ทานยาปรับระบบ
00:00:36 → 00:00:38 ประสาทนะครับนอกจากนี้ก็จะมีกลุ่มพวกยา
00:00:38 → 00:00:41 ความดันบางชนิดแล้วก็ยาขับปัสสาวะนะครับ
00:00:41 → 00:00:44 จะทำให้ผู้ป่วยมีอาการปัสสาวะเล็ดได้นอก
00:00:44 → 00:00:46 จากนี้ก็จะพบในผู้ป่วยที่มีปัญหาในการ
00:00:46 → 00:00:49 เคลื่อนไหวเช่นผู้ป่วยที่นอนติดเตียงนะ
00:00:49 → 00:00:51 ครับหรือหลังผ่าตัดใหม่ๆไม่สามารถลุก
00:00:51 → 00:00:54 เคลื่อนไหวได้นะครับแล้วก็ยังพบปัญหาใน
00:00:54 → 00:00:56 ผู้ป่วยที่มีปัญหาท้องผูกนะครับก็จะทำให้
00:00:56 → 00:00:59 เกิดภาวะปัสสาวะเล็ดได้ครับอันนี้คือแบบ
00:00:59 → 00:01:01 ที่เป็นชั่วคราวส่วนแบบที่เป็นถาวรนะครับ
00:01:01 → 00:01:03 เราก็จะพูดถึงกลุ่มอาการที่พบได้บ่อยๆนะ
00:01:03 → 00:01:06 ครับก็คือ 1 กลุ่มอาการไอจามปัสสาวะเล็ด
00:01:06 → 00:01:08 คนไข้กลุ่มนี้เนี่ยส่วนใหญ่เนี่ยเป็นผล
00:01:08 → 00:01:11 จากในผู้หญิงที่อายุมากขึ้นนะครับเคยมี
00:01:11 → 00:01:13 ประวัติคลอดบุตรโดยคลอดทางช่องคลอดมาก่อน
00:01:13 → 00:01:15 หลายคนนะครับทำให้กล้ามเนื้อบริเวณอุ้ง
00:01:15 → 00:01:18 เชิงกเนี่ยไม่แข็งแรงเกิดการหย่อนยานนะ
00:01:18 → 00:01:21 ครับเมื่อมีแรงดันในช่องท้องเพิ่มมากขึ้น
00:01:21 → 00:01:23 กล้ามเนื้อหูรูดของคนไข้กลุ่มนี้เนี่ยไม่
00:01:23 → 00:01:25 สามารถรับแรงดันที่เพิ่มขึ้นอย่างทันที
00:01:25 → 00:01:28 ได้นะครับก็ทำให้หูรุ่นเนี่ยปิดไม่สนิทก็
00:01:28 → 00:01:30 ทำให้เกิดภาวะปัสสาวะเล็ดขนาดหนไอจามได้
00:01:30 → 00:01:33 นะครับส่วนภาวะที่ 2 นะครับที่เจอได้บ่อย
00:01:33 → 00:01:35 ก็คือภาวะปัสสาวะเล็ดปัสสาวะราดเมื่อคน
00:01:36 → 00:01:38 ไข้ปวดปัสสาวะอันเนี้ยเกิดจากแรงดันใน
00:01:38 → 00:01:41 กระเพาะปัสสาวะเนี่ยมันสูงขึ้นทันทีอย่าง
00:01:41 → 00:01:44 รวดเร็วนะครับโดยที่สูงมากกว่าความดันใน
00:01:44 → 00:01:46 ท่อปัสสาวะก็ทำให้น้ำปัสสาวะที่อยู่ใน
00:01:46 → 00:01:48 กระเพาะปัสสาวะเนี่ยมันไหลออกมาอาการผิด
00:01:48 → 00:01:50 ปกติแบบนี้เนี่ยมักจะพบในผู้ป่วยที่มี
00:01:50 → 00:01:53 ความผิดปกติทางระบุประสาทและสมองเช่นอ่า
00:01:53 → 00:01:56 เป็นโรคทางสมองหรือเป็นโรคทางไขสันหลังนะ
00:01:56 → 00:01:58 ครับหรือคนไข้อีกกลุ่มนึงนะครับก็คือคน
00:01:58 → 00:02:00 ไข้ที่มีปัญหาตัวกระเพาะปัดปัสสาวะบีบตัว
00:02:00 → 00:02:03 ไวเกินนะครับคือการรับรู้น้ำปัสสาวะของคน
00:02:03 → 00:02:06 ไข้กลุ่มนี้เนี่ยรับรู้ได้เร็วกว่าปกตินะ
00:02:06 → 00:02:08 ครับทำให้การที่มีน้ำปัสสาวะอยู่ใน
00:02:08 → 00:02:10 กระเพาะปัสสาวะเพียงเล็กน้อยกระเพาะ
00:02:10 → 00:02:13 ปัสสาวะก็เกิดการบีบตัวก่อนกำหนดนะครับก็
00:02:13 → 00:02:15 ทำให้เกิดความต้องการปวดปัสสาวะขึ้นมาทัน
00:02:15 → 00:02:18 ทีต้องรีบไปห้องน้ำเพื่อระบายน้ำปัสสาวะ
00:02:18 → 00:02:21 [เพลง]
00:02:22 → 00:02:25 ออกอาการที่เข้าข่ายภาวะปัสสาวะเล็กนะ
00:02:25 → 00:02:27 ครับก็คือเรารู้สึกว่าเราปวดปัสสาวะแล้ว
00:02:27 → 00:02:30 แล้วเราต้องรีบไปเข้าห้องน้ำนะครับโดยที่
00:02:30 → 00:02:32 ไม่สามารถรอนานได้เช่นถ้าเราทำกิจกรรม
00:02:32 → 00:02:34 อะไรอยู่เราจะต้องแบบหยุดกิจกรรมนั้นแล้ว
00:02:34 → 00:02:36 ก็ต้องรีบไปเข้าห้องน้ำเลยนะฮะหรือว่าบาง
00:02:37 → 00:02:40 คนคือมีการไอจามแล้วปัสสาวะเล็ดออกมานะ
00:02:40 → 00:02:43 ครับอันนี้ก็คือเริ่มมีอาการผิดปกติแนะนำ
00:02:43 → 00:02:46 ให้มาพบแพทย์นะครับเพื่อหาสาเหตุแล้วก็
00:02:46 → 00:02:48 รับการรักษานะ
00:02:48 → 00:02:51 [เพลง]
00:02:51 → 00:02:54 ครับอันนี้เราจะพบบ่อยในคนไข้ที่เป็นผู้
00:02:54 → 00:02:57 หญิงนะครับโดยมีประวัติคลอดบุตรทางช่อง
00:02:57 → 00:02:59 คลอดจำนวนหลายคนนะครับทำให้กล้ามเนื้อ
00:02:59 → 00:03:02 บริเวณอุ้มเชิงกเกิดการหย่อนยานหรือคนไข้
00:03:02 → 00:03:05 ที่เคยผ่าตัดบริเวณอุ้มเชิงกมาก่อนนะครับ
00:03:05 → 00:03:07 ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนี้มันไม่แข็งแรง
00:03:07 → 00:03:10 เมื่ออายุมากขึ้นหากมีแรงดันที่มาที่ช่อง
00:03:10 → 00:03:13 ท้องอย่างทันทีเนี่ยกล้ามเนื้อที่กุ้ง
00:03:13 → 00:03:15 เชิงกาเนี่ยไม่สามารถรับแรงดันเหล่านั้น
00:03:15 → 00:03:18 ได้นะครับก็ทำให้หูรูดของบริเวณท่อ
00:03:18 → 00:03:20 ปัสสาวะเนี่ยปิดไม่สนิทแล้วก็ทำให้น้ำ
00:03:20 → 00:03:22 ปัสสาวะเล็ดออกมาได้
00:03:22 → 00:03:25 [เพลง]
00:03:25 → 00:03:29 ครับการรักษาภาวะปัสสาวะเล็ดปัสสาวะราดนะ
00:03:29 → 00:03:31 ครับก็ก็กลับไปที่สาเหตุครับว่าเป็นจาก
00:03:31 → 00:03:33 อะไรในกลุ่มคนไข้ที่เป็นชั่วคราวเช่นเคย
00:03:33 → 00:03:35 ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะมาก่อนนะครับก็
00:03:35 → 00:03:38 ต้องรักษาให้ยาปฏิชีวนะรักษาภาวะกระเพาะ
00:03:38 → 00:03:41 ปัสสาวะอักเสบหากการติดเชื้อหายไปภาวะ
00:03:41 → 00:03:43 ปัสสาวะเล็ดก็จะหายไปนะครับหรือในผู้ป่วย
00:03:43 → 00:03:47 ที่กินยาจิตเวชหรือกินยาปรับสมดุลทางสมอง
00:03:47 → 00:03:50 นะครับก็ต้องพบแพทย์ทางด้านโรคสมองหรือ
00:03:50 → 00:03:52 จิตแพทย์นะครับเพื่อปรับยาให้อาการเหมาะ
00:03:52 → 00:03:54 สมนะครับหรือคนไข้บางคนเกิดจากท้องผูกนะ
00:03:54 → 00:03:56 ครับก็ต้องรักษาเรื่องอาการท้องผูกให้ดี
00:03:57 → 00:03:58 ขึ้นเมื่อขับถ่ายปกติแล้วอาการปัสสาวะ
00:03:58 → 00:04:01 เล็ดก็จะหายไปนะครับส่วนในคนไข้ที่เป็น
00:04:01 → 00:04:04 เรื้อรังนะครับหรือเป็นถาวรเช่นในคนไข้
00:04:04 → 00:04:06 ที่เป็นภาวะไอจามปัสสาวะเล็ดอันนี้ก็แนะ
00:04:06 → 00:04:09 นำให้ทำการฝึกกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกนะครับ
00:04:09 → 00:04:12 หรือที่เราเคยได้ยินนะว่าฝึกขมิบเช่นตัว
00:04:12 → 00:04:14 อย่างเช่นการฝึกขมิบอุ้งเชิงกก็คือให้
00:04:14 → 00:04:16 ขมิบก้นนะครับเหมือนการกั้นปัสสาวะนะครับ
00:04:16 → 00:04:20 โดยขมิบค้างไว้ประมาณ 5-10 วินาทีหลังจาก
00:04:20 → 00:04:23 นั้นก็คลายประมาณ 10 วินาทีนะครับเซตนึง
00:04:23 → 00:04:25 ก็ทำประมาณสัก 10 ครั้งนะครับโดยที่วัน
00:04:25 → 00:04:28 นึงก็ทำอย่างน้อย 3-5 เซตนะครับเพื่อเป็น
00:04:28 → 00:04:30 การฝึกกล้ามเนื้ออุ้มเชิงการให้แข็งแรง
00:04:30 → 00:04:32 มากขึ้นส่วนในคนไข้อีกกลุ่มนึงนะครับที่
00:04:32 → 00:04:35 เกิดภาวะปัสสาวะเล็ดขนาดปวดปัสสาวะอันนี้
00:04:36 → 00:04:38 หมอแนะนำให้มาพบแพทย์นะครับเพื่อรับยานะ
00:04:38 → 00:04:41 ครับก็จะมีการให้ยาพวกลดความไวของกระเพาะ
00:04:41 → 00:04:44 ปัสสาวะให้กระเพาะปัสสาวะมันบีบตัวช้าลง
00:04:44 → 00:04:46 นะครับแล้วก็พยายามหลีกเลี่ยงพวกเครื่อง
00:04:46 → 00:04:49 ดื่มที่มีคาเฟอีนนะครับหรือพวกชากาแฟน้ำ
00:04:49 → 00:04:51 อัดลมน้ำหวานเพราะการดื่มเครื่องดื่ม
00:04:51 → 00:04:53 กลุ่มนี้นะครับจะทำให้อาการกั้นปัสสาวะ
00:04:53 → 00:05:00 ไม่อยู่เป็นมากขึ้นครับ
00:05:00 → 00:05:02 ก็ขึ้นกับสาเหตุครับว่าสาเหตุเขาเป็นแบบ
00:05:02 → 00:05:05 ไหนถ้าเป็นสาเหตุที่เป็นชั่วคราวเรารักษา
00:05:05 → 00:05:07 สาเหตุแล้วอาการปัสสาวะเล็ดก็จะหายขาดนะ
00:05:07 → 00:05:10 ครับแต่ถ้าเป็นเรื้อรังหรือเป็นถาวรเช่น
00:05:10 → 00:05:13 ไอจามปัสสาวะเล็ดนะครับหรือภาวะปวด
00:05:13 → 00:05:15 ปัสสาวะแล้วปัสสาวะเล็ดอันนี้เราก็เริ่ม
00:05:15 → 00:05:18 ต้นโดยการเช่น 1 เราฝึกขมิบก่อนเสริมความ
00:05:18 → 00:05:20 แข็งแรงของกล้ามเนื้ออุ้มเชิงการหากฝึก
00:05:20 → 00:05:23 ขมิบแล้วกล้ามเนื้ออุ้มเชิงการแข็งแรง
00:05:23 → 00:05:25 ขึ้นนะครับก็ไม่ต้องทำอะไรเพิ่มนะครับก็
00:05:25 → 00:05:28 รักษาความสม่ำเสมอของการฝึกขมิบก็จะช่วย
00:05:28 → 00:05:30 ได้แต่ถ้าเกิดว่าเราฝึกขมิบแล้วยังเป็น
00:05:30 → 00:05:33 อยู่นะครับแนะนำให้ภบแพทย์เพื่อพิจารณา
00:05:33 → 00:05:36 เรื่องการผ่าตัดนะครับเช่นการใส่สลิงเข้า
00:05:36 → 00:05:38 ไปช่วยป้องกันภาวะปัสสาวะเล็ดนะครับส่วน
00:05:38 → 00:05:41 ในคนไข้ที่ภาวะปัสสาวะเล็ดขณะปวดปัสสาวะ
00:05:41 → 00:05:43 อันนี้ก็แนะนำให้มาพบแพทย์นะครับเพื่อรับ
00:05:43 → 00:05:46 ประทานยาควบคุมอาการนะครับไม่ให้ปัสสาวะ
00:05:46 → 00:05:48 เลนออกมาเพื่อให้สามารถใช้ชีวิตในการเข้า
00:05:48 → 00:05:51 สังคมได้โดยที่ไม่เสียบุคลิกนะครับแล้วก็
00:05:51 → 00:05:54 ไม่มีปัญหาในการเข้าห้องน้ำบ่อยกว่าปติ
00:05:54 → 00:05:58 [เพลง]
00:05:58 → 00:06:01 ครับ M