00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีครับผมได้เห็นข่าวที่ทางกรมครบคุม
00:00:03 → 00:00:06 โรคนะครับออกมาเตือนเกี่ยวข้องกับโรค le
00:00:06 → 00:00:09 maniasis นะครับเพราะว่ามีการติดเชื้อ
00:00:09 → 00:00:13 นี้และมีคนเสียชีวิตไปแล้ว 2 คนโดย 2 คน
00:00:13 → 00:00:16 นี้นะครับเป็นคนที่มาจากทางตะวันออกกลาง
00:00:16 → 00:00:19 และแน่นอนครับพอมีเชื้อโรคชื่อแปลกๆแบบ
00:00:19 → 00:00:22 นี้เนี่ยต่างคนก็กังวลเรื่องของการเกิด
00:00:22 → 00:00:25 โรคระบาดหรือมันจะเป็นโรคแปลกๆมาในประเทศ
00:00:25 → 00:00:29 ของเราได้นะครับและมีคนเอาไปโพสต์นะครับ
00:00:29 → 00:00:32 สงสัยว่าเนี่ยอาจจะกลายไปเป็นโรคระบาด
00:00:32 → 00:00:35 ใหม่วันนี้นะครับผมจะมาอธิบายให้ฟังว่า
00:00:35 → 00:00:37 โรค le manasis เนี่ยนะครับมันคืออะไร
00:00:38 → 00:00:41 กันแน่มันมาจากไหนแล้วอาการเป็นอย่างไร
00:00:41 → 00:00:44 การรักษาจะเป็นอย่างไรทำยังไงได้บ้าง
00:00:44 → 00:00:47 เดี๋ยวไปฟังกันนะครับพบกับผมนะครับนาย
00:00:47 → 00:00:49 แพทย์ธนีธนียวันณเป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่
00:00:49 → 00:00:51 ประเทศสหรัฐอเมริกาเชี่ยวชาญโรคปอดการ
00:00:51 → 00:00:55 ปลูกถ่ายปอดและวิกฤตบำบัดนะครับโรค
00:00:55 → 00:00:57 manasis เนี่ยนะครับต้องบอกว่ามันไม่ใช่
00:00:57 → 00:01:00 โรคใหม่นะครับเราเจอมาตั้งนานแล้วนะครับ
00:01:00 → 00:01:02 แล้วในประเทศไทยของเราเนี่ยก็มีรายงานกัน
00:01:02 → 00:01:06 ตั้งแต่ประมาณปี 2539 นะครับจำนวนเคสที่
00:01:06 → 00:01:08 ประเทศไทยเนี่ยมีไม่ค่อยเยอะประมาณ 40
00:01:08 → 00:01:11 กว่าเคสนะครับแต่ก็มีเคสที่เสียชีวิตแล้ว
00:01:11 → 00:01:15 เหมือนกันนะฮะที่สำคัญนะครับส่วนใหญ่คน
00:01:15 → 00:01:18 ที่เป็นในประเทศไทยเนี่ยก็เป็นคนที่มาจาก
00:01:18 → 00:01:21 ต่างประเทศหรือไปทำงานที่ต่างประเทศแล้ว
00:01:21 → 00:01:24 ก็ติดมานะครับเชื้อโรคตัวนี้เนี่ยต้องบอก
00:01:24 → 00:01:27 นะครับว่าเค้าค้นพบครั้งแรกที่ประเทศ
00:01:27 → 00:01:31 อินเดียครับโดยคนที่ค้นพบนะครับมี 2 คนคน
00:01:31 → 00:01:36 แรกนะครับเป็นนักพญาธิวิทยาชาวสกอตนะครับ
00:01:36 → 00:01:40 ชื่อ William Book Leมนะครับและอีกคนนึง
00:01:40 → 00:01:44 เป็นหมอนะครับชาว Irish ชื่อว่า Charles
00:01:44 → 00:01:47 Donovan ทั้ง 2 คนเนี่ยนะครับเขาไปทำงาน
00:01:47 → 00:01:52 ที่เ่อโรงเรียนแพทย์ในอินเดียของทางเอ่อ
00:01:52 → 00:01:54 หน่วยงานทหารนะครับเพราะว่าตอนนั้นเนี่ย
00:01:54 → 00:01:57 ก็แน่นอนว่าอินเดียยังอยู่ภายใต้การปก
00:01:57 → 00:02:00 ครองของอังกฤษอยู่นะครับ 2 คนนี้เก็ไปทำ
00:02:00 → 00:02:03 งานที่นั่นแล้วต่างคนต่างก็ค้นพบไอ้เชื้อ
00:02:03 → 00:02:07 ตัวนี้พร้อมกันก็เลยมีการเอานามสกุลของ
00:02:07 → 00:02:10 ทั้ง 2 คนมาตั้งเป็นชื่อเชื้อตัวแรกนะ
00:02:10 → 00:02:13 ครับที่ค้นพบนั่นก็คือ le mania
00:02:13 → 00:02:16 Donovana นะครับ le mania ก็มาจากนาม
00:02:16 → 00:02:18 สกุลของคุณ William Book Richman นั่น
00:02:18 → 00:02:22 แหละครับDonovานก็มาจาก Donovan ซึ่งเป็น
00:02:22 → 00:02:26 นามสกุลของคุณสovanนะครับดังนั้น Rich
00:02:26 → 00:02:29 Mania เนี่ยเป็นชื่อแรก
00:02:29 → 00:02:32 ส่วนเนี่ยเป็นชื่อ species นะครับและต่อ
00:02:33 → 00:02:35 มาในอนาคตก็มีการค้นพบspeีซีสต่างๆอีก
00:02:35 → 00:02:40 เยอะแยะไปหมดนะครับและพอเค้าค้นพบเนี่ยก็
00:02:40 → 00:02:44 เริ่มสงศึกษาละว่าเฮ้ยมันเป็นได้ยังไงติด
00:02:44 → 00:02:47 มาจากไหนนะครับเค้าก็ไปเจอว่ามันติดต่อ
00:02:47 → 00:02:51 ได้ด้วยแมลงชนิดหนึ่งชื่อว่าลิ้นฝอยทราย
00:02:51 → 00:02:54 ซึ่งประเทศไทยเราก็มีนะครับภาษาอังกฤษ
00:02:54 → 00:02:58 เรียกว่า sandflies นะครับ sandfly เนี่ย
00:02:58 → 00:03:01 มันมีอยู่ 2 จีนัสหลักๆนะครับและเหตุผล
00:03:01 → 00:03:05 ที่เราต้องรู้ก็เพราะว่าแต่ละแมลงเนี่ยนะ
00:03:05 → 00:03:09 ครับมันมีเหยื่อที่ไม่เหมือนกันบางตัวไม่
00:03:09 → 00:03:11 ค่อยกัดคนบางตัวกัดคนบางตัวต้องไปกัด
00:03:12 → 00:03:14 สุนัขบางตัวกัดวัวอย่างเงี้นะครับมันจะ
00:03:14 → 00:03:15 ไม่เหมือนกันนะ
00:03:16 → 00:03:19 ครับตัวแรกนะครับจีนัสแรกเราจะเรียกว่า
00:03:19 → 00:03:25 fปโบัสนะครับเนี่ยมันจะอยู่แถบอินเดียน่า
00:03:25 → 00:03:28 พวกเอิ่มเอิ่มมีมีแถบอินเดียแถบตะวันออก
00:03:28 → 00:03:32 กลางก็จะเป็นกลุ่มFบัสนะครับถ้านอกเรื่อง
00:03:32 → 00:03:34 นิดนึงนะครับถ้าใครที่มาต่างประเทศเนี่ย
00:03:34 → 00:03:38 จะเคยได้ยินคำว่าFPบินั่นก็คือเป็นคนที่
00:03:38 → 00:03:42 มีความเชี่ยวชาญในด้านการเจาะเลือดนะครับ
00:03:42 → 00:03:46 เออFปโบมัสนะครับมันแปลว่าการเจาะตัดเข้า
00:03:46 → 00:03:49 ไปในเส้นเลือดดำนี่ตัวนี้นะครับมันก็เป็น
00:03:49 → 00:03:51 เหตุผลที่เขามาตั้ง
00:03:51 → 00:03:55 ชื่อเป็นคนสุ่มเนี่ยเป็นไอ้แมลงลิ้นฝอยสั
00:03:55 → 00:03:58 สายนี่แหละครับส่วนจีนัสอีกอันนึงชื่อว่า
00:03:58 → 00:04:01 เอิ่รัฐโซเมียนะครับพวกนี้จะเจอในแถบ
00:04:01 → 00:04:05 เอิ่มบราซิลนะครับบราซิลโคลัมเบียอะไรแถว
00:04:05 → 00:04:08 นั้นนะครับดังนั้นจะเห็นได้ว่าเชื้อตัว
00:04:08 → 00:04:10 นี้เนี่ยมันไม่ได้มีแค่อินเดียแต่มีที่
00:04:10 → 00:04:12 ตะวันออกกลางมีที่บราซิลและจริงๆมันมี
00:04:12 → 00:04:15 ความแตกต่างกันด้วยนะครับถึงในด้านของ
00:04:15 → 00:04:18 พาหะแต่ไม่ว่ายังไงนะครับริ้นฝอยทราย
00:04:18 → 00:04:21 เนี่ยลักษณะมันคล้ายยุงแต่มันจะเล็กกว่า
00:04:21 → 00:04:24 ที่สำคัญครับมันกัดเจ็บมากๆเลยเหตุผลที่
00:04:24 → 00:04:27 มันกัดเจ็บมากนะครับเพราะว่าเวลาที่มันจะ
00:04:28 → 00:04:30 ดูดเลือดคนเราเนี่ยนะครับมันกัดแล้วมันจะ
00:04:30 → 00:04:33 ฉีกเนื้องั้นคนโดนกัดเนี่ยรู้ตัวแน่นอน
00:04:33 → 00:04:36 มันเจ็บมากนะครับมันเจ็บมากแล้วก็เหมือน
00:04:36 → 00:04:39 ยุงอีกเช่นกันนะครับตัวที่ดูดเลือดคือตัว
00:04:39 → 00:04:44 เมียนะครับตัวเมียข้อโชคดีอย่างนึงของคน
00:04:44 → 00:04:47 ไทยเนี่ยก็คือไอ้แมลงเนี่ยที่ประเทศไทย
00:04:47 → 00:04:50 มันไม่ค่อยกัดคนเออมันไม่ค่อยกัดคนนะครับ
00:04:50 → 00:04:53 ก็เลยถือว่าโชคดีเพราะฉะงั้นบางคนก็อาจจะ
00:04:53 → 00:04:58 คิดเอ๊ะเดี๋ยวนะแมลงตัวนี้มันสามารถนำ
00:04:58 → 00:05:02 เชื้อมาเนียได้แล้วค้นพบที่ประเทศอินเดีย
00:05:02 → 00:05:04 ประเทศแรกใช่มั้ยมีการระบาดที่อินเดีย
00:05:04 → 00:05:06 ด้วยและตอนนี้ประเทศไทยเรามีนักท่อง
00:05:06 → 00:05:10 เที่ยวอินเดียเยอะขึ้นเขาก็กลัวสิครับ
00:05:10 → 00:05:12 เฮ้ยโลกนี้มีที่อินเดียนักท่องเที่ยว
00:05:12 → 00:05:14 อินเดียเยอะขึ้นมาที่ประเทศไทยประเทศไทย
00:05:15 → 00:05:17 มีแมลงลิ้นฝอยทรายมันจะกัดแล้วแพ้ให้คน
00:05:17 → 00:05:20 ไทยหรือเปล่าโอกาสยากมากครับต้องบอกอย่าง
00:05:20 → 00:05:23 งี้โชคดีที่แมลงลิ้นฝอยทรายเนี่ยของไทยเ
00:05:23 → 00:05:25 มันไม่ค่อยกัดคนเท่าไหร่แต่ไม่ได้แปลว่า
00:05:25 → 00:05:28 มันไม่กัดนะครับอ่าทีนี้เล่าคร่าวๆอย่าง
00:05:28 → 00:05:32 นี้ก่อนต่อมาผมอยากจะเล่าให้ฟังด้วยว่า
00:05:32 → 00:05:36 ไอ้ตัวเชื้อโรคตัวนี้เนี่ยนะครับมันมี
00:05:36 → 00:05:39 อะไรน่าสนใจกว่ามันมันอาการเป็นยังไงตรวจ
00:05:39 → 00:05:42 เจอได้ยังไงนะครับต้องบอกอย่างนี้นะครับ
00:05:42 → 00:05:46 ว่าไอ้เชื้อตัวนี้เนี่ยนะฮะมันทำอาการได้
00:05:46 → 00:05:49 ให้เกิดได้ทั้งหมด 3 อาการด้วยกันนะครับ
00:05:49 → 00:05:52 อาการแรกก็คืออาการทางผิวหนังหรือที่เรา
00:05:52 → 00:05:55 เรียกว่าคutanous Le manasis นะครับ
00:05:56 → 00:05:57 cutaneous le manasis เนี่ยคือมันจะ
00:05:57 → 00:06:01 เป็นตุ่มนะครับตุ่มพองแล้วก็แตกออกบางที
00:06:01 → 00:06:04 เป็นหนองแล้วก็เป็นแผลเรื้อรังอาจจะมี 1
00:06:04 → 00:06:07 ตุ่มหรือมีหลายๆตุ่มเลยก็ได้นะครับโดย
00:06:07 → 00:06:09 หลังจากที่โดนไอ้ลิ้นฝอยทรายกัดเนี่ยนะ
00:06:09 → 00:06:14 ครับมันไม่มีระยะเวลาฟักตัวที่ชัดเจนบาง
00:06:14 → 00:06:16 ครั้งเนี่ย 2-3 วันบางครั้งเป็นอาทิตย์
00:06:16 → 00:06:18 บางครั้งเป็นเดือนบางครั้งเป็นปีกว่าจะ
00:06:18 → 00:06:21 เกิดอาการขึ้นมาดังนั้นมันทำนายไม่ได้ว่า
00:06:21 → 00:06:23 ใครเนี่ยจะเกิดขึ้นบ้างหลังจากที่โดนตัว
00:06:23 → 00:06:26 แมลงลิ้นฝอยทรายกัดเข้าไปนะครับแต่นี่คือ
00:06:27 → 00:06:30 หนึ่งในนั้นคืออาการทางผิวหนังนะอาการทาง
00:06:30 → 00:06:35 ผิวหนังเนี่ยบางกรณีโดยเฉพาะเชื้อโรค
00:06:35 → 00:06:38 มาเนียนที่มันมาจากบราซิลนะครับมันจะมี
00:06:38 → 00:06:41 ตัวพิเศษตัวนึงนะครับเราเรียกว่า le
00:06:41 → 00:06:43 mania
00:06:43 → 00:06:46 subัสนะครับและนามสกุลของมันคือ
00:06:46 → 00:06:49 Braziliian Sis นะครับก็มาจากคำว่า
00:06:49 → 00:06:52 บราซิลนั่นแหละ Le mania Brazilian Sis
00:06:52 → 00:06:55 นะฮะตัวนี้เนี่ยถ้าแถบบราซิลแถบโคลัมเบีย
00:06:55 → 00:06:58 เนี่ยมันจะมีความพิเศษอย่างนึงก็คือมัน
00:06:58 → 00:07:01 ไม่ได้ติดเชื้อแค่ผิวหนังแต่มันสามารถลาม
00:07:02 → 00:07:04 เข้าไปสู่เยื่อเมือกในช่องจมูกช่องปากเรา
00:07:04 → 00:07:07 ได้ทำให้มันเละไปหมดเลยนะครับบางคนก็จะมี
00:07:07 → 00:07:11 อาการเจ็บคัดจมูกเลือดออกได้นะไอ้แผลพวก
00:07:11 → 00:07:14 เนี้ยทั้งหมดน่ะถ้าเป็นที่ผิวนางนะส่วน
00:07:14 → 00:07:17 ใหญ่ไม่เจ็บครับถ้ามันเจ็บแปลว่ามันอาจจะ
00:07:17 → 00:07:20 มีการติดเชื้อซ้ำซ้อนจากเชื้อชนิดอื่น
00:07:20 → 00:07:23 เช่นแบคทีเรียตัวอื่นเข้าไปได้นะครับแผล
00:07:23 → 00:07:25 ที่มันเป็นจากตัวมาเนี่ยมันจะเป็นแผลเน่า
00:07:25 → 00:07:29 เรื้อรังแล้วมันไม่หายด้วยนะครับหลายๆ
00:07:29 → 00:07:30 ครั้ง
00:07:30 → 00:07:34 เนี่ยเนื่องจากว่ามันไม่มีระยะเวลาฟักตัว
00:07:34 → 00:07:36 ที่แน่นอนไม่มีใครรู้ว่ามันจะเกิดตามหลัง
00:07:36 → 00:07:40 จากการโดนแมลงกัดนานแค่ไหนนะครับหลาย
00:07:40 → 00:07:43 ครั้งนะครับเขาก็เลยไม่รู้ว่าเฮ้ยฉันไป
00:07:43 → 00:07:45 โดนกัดมาเมื่อไหร่แล้วอยู่ๆไอ้แผลนี้มัน
00:07:45 → 00:07:47 มาตั้งแต่เมื่อไหร่เขาก็จำไม่ได้เพราะมัน
00:07:47 → 00:07:50 ค่อยๆเกิดขึ้นนะครับนั่นก็คือเหตุผลที่
00:07:50 → 00:07:53 มันวินิจฉัยยากนะทีนี้ไอ้เชื้อที่บราซิล
00:07:53 → 00:07:56 เนี่ยนะครับพวกเนี้ยมันสามารถเข้าไปใน
00:07:56 → 00:07:59 เยื่อเมือกต่างๆได้นะครับอันเนี้เราจะ
00:07:59 → 00:07:59 เรียกว่า
00:07:59 → 00:08:04 เป็นเอ่อmuค cutanoous le manasis นะ
00:08:04 → 00:08:06 ครับก็คือมีการmuคก็คือmuคasเป็นเยื่อ
00:08:06 → 00:08:09 เมือกข้างในคิวสคือผิวหนังสก็คือไอ้โรค
00:08:09 → 00:08:11 ตัวนี้นะครับโดยมันจะกระจายจากตัวผิวหนัง
00:08:11 → 00:08:14 ที่หน้าแล้วเข้าไปในเยื่อเมือกได้มันจะมี
00:08:14 → 00:08:16 ชื่อเรียกพิเศษของภาวะ
00:08:16 → 00:08:20 mucocutanous richesis คือ espandia นะ
00:08:20 → 00:08:23 ครับ espandia เนี่ยเป็นชื่อพิเศษของมัน
00:08:23 → 00:08:24 อย่างหนึ่งนะ
00:08:24 → 00:08:28 ครับและมาถึงสิ่งที่อันตรายที่สุดที่ทำ
00:08:28 → 00:08:31 ให้เสียชีวิตได้แล้วครับนั่นก็คือ leach
00:08:31 → 00:08:35 manียที่มันเข้าไปทำลายอวัยวะภายในอ่า
00:08:35 → 00:08:38 อันเนี้ยเราจะเรียกว่า viseral le
00:08:38 → 00:08:40 manasis visal ก็แปลว่าอวัยวะภายใน
00:08:40 → 00:08:43 leichmanasis คือโรคตัวmanียนี่แหละนะ
00:08:43 → 00:08:48 ครับมีอีกชื่อนึงครับชื่อว่าคลาarนะครับ
00:08:48 → 00:08:53 คลาอาซาเนี่ยเป็นภาษาฮินดีดีนะครับภาษา
00:08:53 → 00:08:58 ฮินดีคารนี่คือแปลว่าดำนะครับนี่คือไข้
00:08:58 → 00:09:00 คือไข้ดำเพราะไอ้คนพวกเนี้ยเวลาที่ป่วย
00:09:00 → 00:09:04 หนักๆจะตัวคล้ำลงดำลงแล้วคาอาซ่าเนี่ยก็
00:09:04 → 00:09:11 เป็นชนิดนึงซึ่งทางอินเดียเนี่ยเขาเจอและ
00:09:11 → 00:09:14 คุณหมอที่ 2 คนที่บอกไปนักพยาธิวิทยาคน
00:09:14 → 00:09:18 นึง Book Richman นะครับกับเนี่ยเขาเจอ
00:09:18 → 00:09:20 ไอ้นี่แหละคาอาซAและเป็นครั้งแรกที่
00:09:20 → 00:09:23 อินเดียเค้าเลยใช้ภาษาฮินดีในการบรรยายคน
00:09:23 → 00:09:26 ไข้เหล่านี้นะครับโดยอาการของคนไข้พวก
00:09:26 → 00:09:30 เนี้ยคือมีไข้อ่อนเพลียน้ำหนักลดนะครับ
00:09:30 → 00:09:32 บางคนเนี่ยอาจจะมีปัญหาที่ผิวหนังเป็น
00:09:32 → 00:09:35 ตุ่มๆบางคนไม่มีก็ได้นะครับแต่มันจะมี
00:09:35 → 00:09:38 ปัญหาคือมีตับและม้าโตโดยขนาดม้าที่โต
00:09:38 → 00:09:41 ขึ้นเนี่ยมันจะโตมากกว่าตับนะครับอาจจะมี
00:09:41 → 00:09:45 ต่อมล้มเหลืองที่โตได้แล้วก็มีการที่
00:09:45 → 00:09:48 เชื้อมันไปทำลายไข่กระดูกทำให้เม็ดเลือด
00:09:48 → 00:09:51 แดงมันก็ต่ำก็เกิดภาวะวะโลหิตจางเม็ด
00:09:51 → 00:09:53 เลือดขาวต่ำภูมิก้านทานก็ตกลงนะครับเกล็ด
00:09:53 → 00:09:56 เลือดก็ต่ำก็จะเกิดเลือดออกง่ายแต่มันจะ
00:09:56 → 00:10:00 มีอันนึงซึ่งเจอได้ก็คือมีอิมogลบินหรือ
00:10:00 → 00:10:04 แอนตีบอดเนี่ยสูงมากขึ้นนะครับแต่สูงแบบ
00:10:04 → 00:10:08 ทำอะไรไม่ได้นี่อันนี้คือกรณีที่เกิดภาวะ
00:10:08 → 00:10:11 รุนแรงที่สุดของ Leach Mania นะครับโดย
00:10:11 → 00:10:15 เราไม่สามารถทำนายได้ว่าหลังจากโดนแมลง
00:10:15 → 00:10:17 กัดไปแล้วเนี่ยเมื่อไหร่จะเกิดอาการขึ้น
00:10:17 → 00:10:19 มาแล้วที่สำคัญครับถ้าโดนกัดแล้วมันป้อง
00:10:20 → 00:10:22 กันไม่ได้ด้วยที่จะให้มันไม่เกิดเราจะไม่
00:10:22 → 00:10:24 มีการให้ยาเข้าไปก่อนเพราะว่ายาที่ให้
00:10:24 → 00:10:26 เนี่ยแต่ละตัวผลมันไม่ค่อยแน่นอนแล้วมัน
00:10:26 → 00:10:28 ก็อันตรายซะด้วยซ้ำไปนะ
00:10:28 → 00:10:32 ครับทีนี้ผมขอย้อนไปนิดนึงว่าไอ้เชื้อ
00:10:32 → 00:10:36 เนี้ย Reich Mania เนี่ยนะครับมันยังไง
00:10:36 → 00:10:38 มันมันติดเข้ามาในคนมันยังไงกันแน่นะครับ
00:10:38 → 00:10:42 แล้วมันมาจากไหนต้องบอกอย่างี้ครับว่า
00:10:42 → 00:10:45 Leach Mania เนี่ยมันอยู่ในคนได้แล้ว
00:10:45 → 00:10:49 มันก็อยู่ในสัตว์ได้เช่นกันเช่นสุนัขนะ
00:10:49 → 00:10:54 ครับแมววัวควายนะครับสัตว์เลี้ยงลูกด้วย
00:10:54 → 00:10:57 นมบางอย่างก็จะติดได้นะครับหรือสัตว์ที่
00:10:57 → 00:11:00 มีกระเป๋าหน้าท้องนะฮะซึ่งภาษาอังกฤษเรา
00:11:00 → 00:11:03 เรียกว่ามาซuนะครับพวกสัตว์มีกระเป๋าหน้า
00:11:03 → 00:11:06 ท้องแล้วก็สัตว์พวกฟันแทะพวกหนูอย่าง
00:11:06 → 00:11:08 เงี้ยก็จะมีไอ้เชื้อพวกนี้อยู่ได้นะครับ
00:11:08 → 00:11:12 แต่อย่างที่บอกครับลิ้นฝอยทรายแต่ละชนิด
00:11:12 → 00:11:15 มันเลือกกัดสัตว์ที่ไม่เหมือนกันนะครับ
00:11:15 → 00:11:18 มันต้องเป็นลิ้นฝอยทรายที่กัดคนที่เป็น
00:11:18 → 00:11:20 แล้วมากัดอีกคนนึงเท่านั้นถึงจะเกิดโรค
00:11:20 → 00:11:24 ขึ้นมาอ่านี้คือเป็นกลไกนะครับสมมุติลิ้น
00:11:24 → 00:11:27 ฝอยทรายบินไปกัดคนนึงที่มันมีเชื้อโรค
00:11:27 → 00:11:31 เนี่ยนะครับเชื้อตัวนี้เนี่ยนะฮะมันเป็น
00:11:31 → 00:11:34 เชื้อที่เราเรียกว่าโปรโตซัวนะครับ
00:11:34 → 00:11:37 โปรโตซัวบางคนอาจจะเคยได้ยินแต่ว่าไม่เคย
00:11:37 → 00:11:39 รู้ว่ามันคืออะไรกันแน่นะครับมันต่างจาก
00:11:39 → 00:11:41 แบคทีเรียแต่งจากไวรัสยังไงนะครับต้องบอก
00:11:41 → 00:11:45 อย่างี้ก่อนไวรัสเนี่ยนะฮะมันก็จะมีสาร
00:11:45 → 00:11:48 พันธุกรรมเป็น DNA หรือ RNA แค่นั้นแล้ว
00:11:48 → 00:11:51 ก็มีเกราะหุ่มมันจบเลยไม่มีอวัยวะอย่าง
00:11:51 → 00:11:55 อื่นนะครับแต่แบคทีเรียเนี่ยมันมีมากขึ้น
00:11:55 → 00:11:58 ก็คือมีอวัยวะในเซลล์ของมันนะครับแต่
00:11:58 → 00:12:00 แบคทีเรียก็คือเป็น 1 เซลล์มันจะไม่ไปรวม
00:12:00 → 00:12:02 กับเซลล์อื่นจนกลายเป็นเหมือนคนที่มีหลาย
00:12:02 → 00:12:04 ๆเซลล์แบคทีเรียคือตัวเดี่ยวๆตัวใครตัว
00:12:04 → 00:12:08 มันในนั้นก็จะมีมีอวัยวะต่างๆนะครับมีสาร
00:12:08 → 00:12:10 พันธุกรรมมีนิวเคลียสแต่ว่านิวเคลียสมัน
00:12:10 → 00:12:13 ยังเหมือนกับห้องมันสร้างไม่เสร็จอ่ะนะ
00:12:13 → 00:12:16 ไม่มีห้องเป็นของตัวเองมันก็นิวเคลียสใน
00:12:16 → 00:12:18 นั้นมันก็แบบเหมือนกับมีสารพันธุกรรมอยู่
00:12:18 → 00:12:20 ในนั้นแต่มันก็ลอยไปลอยมานะครับไม่ได้
00:12:20 → 00:12:23 เป็นอ่าเป็นสัตว์เป็นส่วนอะไรนะครับนี่
00:12:23 → 00:12:26 คือแบคทีเรียเราเรียกเป็นโปรคาริโอดนะ
00:12:26 → 00:12:29 ครับถ้าเป็นยูคาริโอก็คือมันมีความเจริญ
00:12:29 → 00:12:32 มากขึ้นนะครับก็จะมีไอ้ตัวนิวเคลียสที่
00:12:32 → 00:12:34 มันเป็นห้องที่สร้างเสร็จแล้วมีสาร
00:12:34 → 00:12:36 พันธุกรรมอยู่ในนั้นนะครับถ้ายังเป็น
00:12:36 → 00:12:38 เซลล์เดี่ยวๆแล้วสามารถติดเชื้อเข้าไปใน
00:12:38 → 00:12:41 คนได้เราก็เรียกมันว่าโปรโตซัวนะ
00:12:41 → 00:12:45 ครับไอ้manนียเนี่ยคือเวลามันเข้าไปใน
00:12:45 → 00:12:47 ร่างกายของเราจากการที่โดนแมลงกัดแล้วนะ
00:12:47 → 00:12:52 ครับมันจะอยู่ในรูปที่เราเรียกว่า
00:12:52 → 00:12:55 โปรสติโกอ้าอันนี้งงแล้วใช่ครับจริงๆไม่
00:12:55 → 00:12:57 มีอะไรยากนะครับในภาษาทางการแพทย์เราแปล
00:12:57 → 00:13:01 ให้ตรงๆโปรเนี่ยแปลว่าอยู่ข้างหน้าหรือมี
00:13:01 → 00:13:06 ก่อนนะครับmasิเนี่ยคือแทรกโกธเนี่ยคือ
00:13:06 → 00:13:09 เป็นอ่าไม่ใช่โกรธอ่ะ o เนี่ยคือเป็นสิ่ง
00:13:09 → 00:13:13 มีชีวิตนะครับโสติโกก็คือแปลว่าสิ่งมี
00:13:13 → 00:13:17 ชีวิตที่มีแซ่นะครับโมสติโกนี่ก็คือเค้า
00:13:17 → 00:13:20 จะไอ้ตัวmanียที่มันยังอยู่ในระยะที่มี
00:13:20 → 00:13:22 แส่พวกนี้เนี่ยนะฮะแซ่เนี่ยจะเรียกว่า
00:13:22 → 00:13:25 flagัเป็นขนยาวๆเส้นนึงเอาไว้เคลื่อนที่
00:13:25 → 00:13:28 นะครับเหมือนเอาแซ่ฟาดๆไปแล้วก็ตัวเมัน
00:13:28 → 00:13:31 เดินหน้าได้นะครับแล้วมันก็จะเจอเซลล์
00:13:31 → 00:13:33 เม็ดขาวตัวนึงมาจับกินนะครับนั่นก็คือ
00:13:33 → 00:13:37 เซลล์ชื่อว่าแมฟgeนะครับพอมันเข้าไปใน
00:13:37 → 00:13:41 แมคฟารได้มันตัดหางมันทิ้งก็แปลงร่างกาย
00:13:41 → 00:13:45 ไปเป็นอะสtอะนี่คือแปลว่าไม่มีmasสิคือ
00:13:45 → 00:13:50 แซ่นะครับโอดก็คือตัวของมันนี่แหละamซิโก
00:13:50 → 00:13:52 คือไม่มีแซ่มันอยู่ในเซลล์มันไม่ต้อง
00:13:52 → 00:13:55 เคลื่อนไหวอะไรแต่มันไม่ตายครับมันแบ่ง
00:13:55 → 00:13:58 ตัวอย่างมีความสุขสนุกสุขสรรอยู่ในตัว
00:13:58 → 00:14:01 แมโครฟนี่เลยเหตุผลที่มันทำแบบนั้นได้ก็
00:14:01 → 00:14:03 เพราะว่ามันมีกลไกบางชนิดที่ทำให้มันไม่
00:14:03 → 00:14:06 โดนย่อยนะโดยทั่วไปเนี่ยเวลาแมคโครฟารไป
00:14:06 → 00:14:09 จับอะไรกินน่ะมันจะอยู่ในถุงอย่างนึงนะ
00:14:09 → 00:14:13 ครับถุงนั้นเลยเรียกว่าฟาโกโซมนะครับซึ่ง
00:14:13 → 00:14:16 ถุงตัวเนี้ยมันจะต้องมีการทำลายของที่
00:14:16 → 00:14:20 อยู่ในถุงโดยการที่แมคโครฟาดมันก็จะส่ง
00:14:20 → 00:14:22 สิ่งอันนึงเรียกว่าเป็นกรดเข้มข้นนะครับ
00:14:22 → 00:14:25 เราเรียกว่าไโซโซมเอามารวมอยู่ในถุงสาด
00:14:25 → 00:14:27 กรดเข้าไปในถุงให้ไอ้ตัวเชื้อโรคมันตาย
00:14:27 → 00:14:29 ตายหมดเลยนะ
00:14:29 → 00:14:30 ครับ
00:14:30 → 00:14:35 แต่ไอ้ตัวเนี้ยมันฉลาดมันสามารถทำให้
00:14:35 → 00:14:37 ไรโซโซมกับฟาโกโซมมันรวมกันไม่ได้มันก็
00:14:37 → 00:14:40 เลยไม่โดนทำลายนะครับแต่แมโครฟารมันก็
00:14:40 → 00:14:42 ฉลาดมันก็มีวิธีอื่นนะครับในการสร้างสาร
00:14:42 → 00:14:45 อนุมูลอิสระขึ้นมาทำลายเซลล์ไอ้พวกเนี้ย
00:14:45 → 00:14:46 ตรง
00:14:46 → 00:14:49 แต่เชื้อโรคมันก็ฉลาดกว่าอีกมันมีเอนไซม์
00:14:49 → 00:14:53 ในการทำลายพวกสารอนุมูลอิสระทิ้งแถมมัน
00:14:53 → 00:14:56 ยังไปยุ่งเกี่ยวข้องกับกลไกในแมคโครฟardด
00:14:56 → 00:14:59 นะครับเพื่อบอกว่าเฮ้ยหลั่งสารต้านการ
00:14:59 → 00:15:02 อักเสบไม่ต้องไปเรียกพวกมาอยู่ของมันเฉยๆ
00:15:02 → 00:15:04 ให้มันแบ่งตัวเป็นบ้านที่มีความสุขของเรา
00:15:04 → 00:15:07 ดีกว่านะครับมันก็สั่งแมครฟาดให้หลั่งสาร
00:15:07 → 00:15:10 ที่ต้านการอักเสบเช่นอluinอะไรพวกเนี้ยนะ
00:15:10 → 00:15:14 ครับทำให้เฮ้ยไม่สามารถเรียกพวกมาได้แล้ว
00:15:14 → 00:15:17 ไอ้ตัวเนี่ยมันก็แบ่งตัวในแมฟardเยอะๆ
00:15:17 → 00:15:20 แบ่งไปเรื่อยๆก็เกิดโรคขึ้นมานะครับอัน
00:15:20 → 00:15:22 นี้คือเล่าให้เข้าใจก่อนว่าเอ้ยเชื้อมัน
00:15:22 → 00:15:26 ไปทำอะไรในร่างกายทำไมมันถึงมีปัญหานะฮะ
00:15:26 → 00:15:30 ทีนี้มาถึงเออแล้วถ้าเราสงสัยล่ะแล้วเรา
00:15:30 → 00:15:33 ตรวจยังไงนะครับถ้าสมมุติว่าเป็นมีผื่น
00:15:33 → 00:15:35 อย่างเงี้ยผื่นมันผื่นมันไม่ใช่เป็นผื่น
00:15:35 → 00:15:38 แดงๆนะมันจะเป็นเหมือนอ่าหนังที่มันเป็น
00:15:38 → 00:15:41 แผลเน่าแผลเละๆอย่างเงี้ยเออแล้วมันไม่
00:15:41 → 00:15:43 หายซักทีทำยังไงก็ไม่หายนะครับพวกเนี้ย
00:15:43 → 00:15:46 เราจะมีการตัดชิ้นเนื้อแล้วมาตรวจเรา
00:15:46 → 00:15:49 สามารถส่องกล้องจุลทัศน์แล้วก็ไปดูได้ว่า
00:15:49 → 00:15:52 ในเซลล์เนี่ยมันจะมีพวกตัวเนี้ยอสติโกด
00:15:52 → 00:15:54 อยู่เต็มไปหมดนะครับถ้าเราเจอแบบเนี้ย
00:15:54 → 00:15:59 สงสัยว่าใช่หรือเราส่ง PCR ก็สามารถตรวจ
00:15:59 → 00:16:02 ตัวนี้ได้นะครับแต่ถ้าเกิดว่าเราอยากจะ
00:16:02 → 00:16:05 ชัวร์แบบ 100% เต็มเนี่ยเราต้องเอามันไป
00:16:05 → 00:16:09 เพาะเชื้อนะครับมันจะมีการเพาะเชื้อพิเศษ
00:16:09 → 00:16:13 อย่างนึงนะครับเอ่อมันจะต้องเพาะในน้ำยา
00:16:13 → 00:16:16 พิเศษอย่างนึงชื่อว่าอ่า Novy Magne
00:16:16 → 00:16:19 Nicole นะครับ Novy Magne Nicole
00:16:19 → 00:16:21 Media เนี่ยมันต้องเพาะในพวกเนี้ยมันถึง
00:16:21 → 00:16:23 จะโตขึ้นมาได้นะครับแต่ส่วนใหญ่ก็ไม่มี
00:16:23 → 00:16:25 ใครทำหรอกครับคือเขาตัดชิ้นเนื้อไปเห็น
00:16:25 → 00:16:30 แล้วก็จบเลยหรือว่าอ่าเอาตรวจ PCR ก็เห็น
00:16:30 → 00:16:33 อย่างไรก็ตามครับถ้าเป็นกรณีแบบที่มัน
00:16:33 → 00:16:36 เป็นทั้งร่างกายอ่ะมีไข้ด้วยมีน้ำหนักลด
00:16:36 → 00:16:39 มีซีดมีอะไรพวกเนี้ยพวกนั้นวิธีการตรวจ
00:16:39 → 00:16:42 ที่ดีที่สุดนะครับคือเจาะไข่กระดูกมาตรวจ
00:16:42 → 00:16:45 เชื้อพวกเนี้ยมันอยู่ในไข่กระดูกครับคุณ
00:16:45 → 00:16:47 จะเจาะตับเจาะม้ามาตรวจก็ได้นะครับแต่ว่า
00:16:47 → 00:16:50 มันอันตรายการเจาะตับถ้าเจาะผิดก็เลือด
00:16:50 → 00:16:52 ออกนะครับม้าเนี่ยเลือดออกง่ายมากดังนั้น
00:16:52 → 00:16:55 ไม่ควรเจาะนะถ้าจะเจาะอะไรก็ต้องเจาะไข
00:16:55 → 00:16:57 กระดูกบางคนบอกว่าตรวจเลือดได้มั้ยตรวจ
00:16:57 → 00:16:59 เลือดไม่ค่อยเจอครับมันไม่ได้อยู่ในเลือด
00:16:59 → 00:17:01 เท่าไหร่มันไปอยู่ที่อื่นแต่บางทีมันก็
00:17:01 → 00:17:04 เจอได้เหมือนกันนะถ้าเราตรวจ PCR นะครับ
00:17:04 → 00:17:07 อันนี้คือวิธีในการตรวจนะทีนี้มาถึงการ
00:17:07 → 00:17:09 รักษาละเฮ้ยเราทำอะไรกับมันได้บ้างเพราะ
00:17:09 → 00:17:11 ว่าเมื่อกี้เราบอกว่ามันป้องกันไม่ได้อ่ะ
00:17:11 → 00:17:15 มันไม่มียากินอะไรที่มันป้องกันได้นะครับ
00:17:15 → 00:17:17 อย่างดีการป้องกันก็คือเราต้องหลีกเลี่ยง
00:17:18 → 00:17:20 ไม่ให้มันกัดเหมือนกับการป้องกันยุง
00:17:20 → 00:17:22 เปี๊ยบเลยนะครับยากันยุงที่เราฉีดก็ป้อง
00:17:22 → 00:17:25 กันไอ้แซนฟlyตัวนี้ไม่ให้มากัดเราได้นะ
00:17:25 → 00:17:28 ครับอ่าโชคดีที่มันทำอย่างนั้นได้นะฮะ
00:17:28 → 00:17:32 แล้วก็มาถึงการรักษาแล้วการรักษาเนี่ยถ้า
00:17:32 → 00:17:35 มันเป็นเฉพาะที่ผิวหนังแล้วมันมีบริเวณ
00:17:35 → 00:17:37 จำกัดมากๆนะครับเล็กๆอย่างเงี้ยอันเนี้ย
00:17:37 → 00:17:40 เราใช้การจี้ไนโตรเจนเหลวให้มันตายไปหมด
00:17:40 → 00:17:43 ก็ได้นะครับสามารถทำได้แต่ถ้าเกิดมันมี
00:17:43 → 00:17:45 การลุกรามไปเยอะกว่านั้นนะครับอันเนี้ยจะ
00:17:45 → 00:17:49 ต้องใช้ยาแบบกินละยาแบบกินเนี่ยก็มีหลาย
00:17:49 → 00:17:52 ตัวนะครับตัวที่ปัจจุบันที่อเมริกามีใช้
00:17:52 → 00:17:53 นะชื่อ
00:17:53 → 00:17:57 ว่าฟซีนนะครับmuทฟีนซึ่งผมบอกอย่างงี้
00:17:57 → 00:18:01 ก่อนอันนี้อยากจะบอกไปถึงเอิ่มคนที่ให้
00:18:01 → 00:18:03 ความรู้ในประเทศไทยด้วยเค้าเขียนชื่อยา
00:18:03 → 00:18:07 ตัวนี้ผิดนะครับอ่ามันต้องเป็นmuทฟีน
00:18:07 → 00:18:09 อย่างที่ผมขึ้นให้อย่างเงี้ยแต่รู้สึกว่า
00:18:09 → 00:18:12 ที่เขาเขียนเนี่ยมันมันจะเขียนผิดเป็น muf
00:18:12 → 00:18:14 โฟซีนอะไรซักอย่างไม่รู้แต่เขียนผิดแน่ๆ
00:18:14 → 00:18:18 นะครับเพราะว่ายาตัวเนี้ยจริงๆมันสามารถ
00:18:18 → 00:18:21 ใช้ในอีกแบบนึงก็คือใช้ในการรักษาเชื้อ
00:18:21 → 00:18:25 อบ้าได้อ่าผมเคยพูดเรื่องยาตัวนี้ในการ
00:18:25 → 00:18:28 รักษาเชื้อชื่อว่าnิลียไปแล้วนะครับเพราะ
00:18:28 → 00:18:32 ว่ามันมันเป็นยาตัวนึงที่ใช้ได้นะซีน
00:18:32 → 00:18:35 เนี่ยสามารถที่จะใช้ได้นะครับเป็นยาที่
00:18:35 → 00:18:38 เราต้องกินทั้งหมดอ่า 4 สัปดาห์ติดกันนะ
00:18:38 → 00:18:41 ครับถ้าอาการข้างเขียวของมันอาจจะมีการ
00:18:41 → 00:18:44 ขึ้นไส้แจิแล้วมันเป็นพิษต่อตับต่อไตด้วย
00:18:44 → 00:18:46 ดังนั้นเราต้องมีการตรวจติดตามชัดเจนคน
00:18:46 → 00:18:48 ท้องห้ามกินเพราะว่ามันทำให้ลูกพิการนะ
00:18:48 → 00:18:51 ครับถ้าเรากินตัวนี้เข้าไปแล้วเราห้าม
00:18:51 → 00:18:54 ตั้งครรภ์แล้วถ้าเราให้นมบุตรแล้วห้ามให้
00:18:54 → 00:18:57 นมบุตรอย่างน้อย 5 เดือน 5 เดือนนะนานมาก
00:18:57 → 00:18:59 นะครับดังนั้นอันนี้ต้องชัวร์ก่อนว่าเรา
00:18:59 → 00:19:02 ไม่ตั้งครรภนะฮะในกรณีที่เป็นเยอะยาอีก
00:19:02 → 00:19:05 กลุ่มนึงซึ่งสามารถใช้กินแล้วก็ช่วย
00:19:05 → 00:19:07 เรื่องพวกนี้ได้คือยาในกลุ่มที่เราเรียก
00:19:07 → 00:19:10 ว่าเอโซนะครับเป็นยาฆ่าเชื้อราเช่น
00:19:10 → 00:19:13 คีโตโกนาโซไอตราโกนาโซฟลูโกนาโซพวกนี้แต่
00:19:13 → 00:19:15 ว่าไอ้ยาพวกเนี้ยผลของมันไม่ค่อยแน่ไม่
00:19:15 → 00:19:17 ค่อยนอนเท่าไหร่กินเข้าไปแล้วอาจจะไม่
00:19:17 → 00:19:20 ชัวร์ว่ามันจะหายนะครับแต่ถ้ามันเป็น
00:19:20 → 00:19:22 รุนแรงเช่นมีไข้แล้วเชื้อมันไปทำลายไข่
00:19:22 → 00:19:25 กระดูกมันไปอยู่ในตับในม้าต่อมน้ำเหลือง
00:19:25 → 00:19:29 ก็โตอันน้ำหนักลดแย่มากๆเลยเนี่ยอันภาวะ
00:19:29 → 00:19:33 เนี้ยที่เราเรียกว่าเป็นคาอาซ่านะครับการ
00:19:33 → 00:19:37 รักษาจะต้องใช้เป็นยาที่ฉีดเข้าไปยาที่
00:19:37 → 00:19:40 ฉีดปัจจุบันที่เราเจอว่ามันมันออกลิ้น
00:19:40 → 00:19:43 แล้วได้ดีที่สุดเนี่ยชื่อว่าแมฟทicin B
00:19:43 → 00:19:47 นะครับโดยแมฟทicinเนี่ยตัวที่เราใช้กัน
00:19:48 → 00:19:49 เนี่ยจะเป็น
00:19:49 → 00:19:52 ไosomalicinซึ่งมันมีผลข้างเคียงน้อยกว่า
00:19:52 → 00:19:55 อีกตัวนึงอีกตัวนึงที่มีผลแค่เคียงมัน
00:19:55 → 00:19:59 เยอะกว่าชื่ออ่าแมฟทicin deoxyate นะครับ
00:19:59 → 00:20:02 แต่ว่าแน่นอนแฟterin liposomal ampin
00:20:02 → 00:20:05 มันแพงกว่าแต่มันก็ดีกว่านะครับเราจะให้
00:20:05 → 00:20:08 ทั้งหมด 10 วันนะครับยาฟicซinเนี่ยเวลา
00:20:09 → 00:20:11 เราให้เราจะต้องมีความรับระมัดระวังนะ
00:20:11 → 00:20:14 ครับคือมันจะทำให้คนไข้เนี่ยมีไข้หนาว
00:20:14 → 00:20:18 สั่นนะครับเกล็ดเลือดตกได้นะครับแล้วก็มี
00:20:18 → 00:20:22 ค่าไตที่มันเสียไปได้มันจะทำให้ค่าเอ่อ
00:20:22 → 00:20:24 เกลือแร่ในร่างกายเนี่ยผิดปกติจากตัวมัน
00:20:24 → 00:20:28 เองได้นะครับอืตรงเเราก็ต้องคอยดูให้แน่
00:20:28 → 00:20:30 ใจว่ามันไม่มีปัญหาตรงนี้ถ้ามีเราก็ต้อง
00:20:30 → 00:20:33 แก้ไขปัญหาไปตามแต่ว่าปัญหามันคืออะไรนะ
00:20:33 → 00:20:36 ครับแมฟทินเป็นตัวหนึ่งซึ่งเราให้ได้นะ
00:20:36 → 00:20:39 ครับอีกกลุ่มนึงก็คือเป็นยาที่เขา้าจะมี
00:20:39 → 00:20:40 ใช้ในเอิ่ม
00:20:40 → 00:20:44 อินเดียในตะวันออกกลางในบราซิลพวกเนี้ยก็
00:20:44 → 00:20:48 จะเป็นยาที่มีพลวงเป็นส่วนผสมเออมียาใน
00:20:48 → 00:20:51 โลกเนี้ยไม่กี่อย่างหรอกนะครับที่มันจะมี
00:20:51 → 00:20:54 พลวงหรือภาษาอ่าภาษาอังกฤษเราเรียกว่า
00:20:54 → 00:20:58 animony นะพลวงในanิไม่กี่อย่างหรอกครับ
00:20:58 → 00:21:01 ที่มีพรวงเป็นส่วนผสมนะครับซึ่งยาในกลุ่ม
00:21:01 → 00:21:03 ที่มีพลวงเป็นส่วนผสมเนี่ยตัวนึงชื่อว่า
00:21:03 → 00:21:05 โซเดียม
00:21:05 → 00:21:07 สิโบลูโคน
00:21:07 → 00:21:11 น่าตัวที่ 2 นี่คือ
00:21:11 → 00:21:14 แมกนติมนะครับอ่ามี 2 ตัวที่เป็นพรวงตัว
00:21:14 → 00:21:18 เนี้ยก็จะให้ได้นะฮะที่เราต้องให้รักษายา
00:21:18 → 00:21:21 3 ตัวเนี้ยก็เป็นตัวที่ได้ผลดีกว่าตัว
00:21:22 → 00:21:24 อื่นๆตัวอื่นๆถามว่ามีมั้มีแต่ว่ามันไม่
00:21:24 → 00:21:28 ค่อยดีนะครับตัวแรกก็คือพาโมไมซินนะพวก
00:21:28 → 00:21:30 เนี้ยเป็นยาในกลุ่มที่เราเรียกว่า
00:21:30 → 00:21:33 อะมิโนไกรโคไซด์จะมีปัญหาได้กับคนที่มี
00:21:33 → 00:21:35 ปัญหาเรื่องไตแล้วก็อาจจะทำให้หูเนี่ยมี
00:21:35 → 00:21:37 ปัญหาได้ดังนั้นเนี่ยเราไม่ค่อยให้แล้วผล
00:21:37 → 00:21:40 การรักษามันก็ไม่ค่อยดีอีกตัวนึงคือ
00:21:40 → 00:21:43 pนทามีนนะครับpนทามดีนตัวนี้ก็ผลข้าง
00:21:43 → 00:21:45 เคียงเยอะเราก็ไม่ค่อยให้เหมือนกันแล้วผล
00:21:45 → 00:21:47 การรักษาก็ไม่ค่อยดีดังนั้นเราก็จะไปให้
00:21:47 → 00:21:48 ในกลุ่มพวกเมื่อเกียรติที่เราบอกไปทั้ง
00:21:48 → 00:21:50 หมดนะ
00:21:50 → 00:21:54 ฮะรักษาแล้วมันเป็นยังไงต่อนะครับรักษา
00:21:54 → 00:21:58 แล้วเนี่ยยังมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้
00:21:58 → 00:22:00 เพราะเชื้อพวกเนี้ยมันตายยากมากบางทีมัน
00:22:00 → 00:22:02 ซ่อนมันลดปริมาณลงมันหายไปแล้วเราปล่อย
00:22:02 → 00:22:04 ไว้เดี๋มันกลับมาใหม่ได้เราก็ต้องรักษา
00:22:04 → 00:22:08 อีกรอบนึงนะครับหรือบางคนเนี่ยที่เป็นแบบ
00:22:08 → 00:22:11 รุนแรงแดงก็คือเป็นแบบคาอาซ่าเป็นไข้ดำ
00:22:11 → 00:22:13 เนี่ยเป็นทั้งตัวมีไข้มีอะไรเงี้ยหลัง
00:22:13 → 00:22:16 รักษาไปแล้วนะครับจะเกิดภาวะหนึ่งเรา
00:22:16 → 00:22:19 เรียกว่า postaza
00:22:19 → 00:22:23 dermalasis นะครับอันเนี้ยคือหน้าจะเป็น
00:22:23 → 00:22:27 ตุ่มๆได้หรือว่ามีผิวที่มันเป็นผิวสีผิด
00:22:27 → 00:22:29 ปกติไปเป็นจุดๆๆเป็นดำเป็นด่างอย่างเงี้ย
00:22:29 → 00:22:32 ได้เหมือนกันนะครับเราก็เจอได้ทำให้มีการ
00:22:32 → 00:22:35 ผิดรูปถาวรไอ้โรคมาเนียเนี่ยเป็นโรคที่คน
00:22:35 → 00:22:37 เป็นแล้วโชคร้ายมากเพราะว่ามันมักจะทำให้
00:22:37 → 00:22:40 มีการผิดรูปแบบถาวรไม่ว่ามันจะเป็นตรงไหน
00:22:40 → 00:22:45 ก็แล้วแต่นะครับเออเนี่ยก็เป็นสิ่งที่เอา
00:22:45 → 00:22:48 มาเล่าให้ทุกคนเข้าใจนะครับถ้าถามผมนะโรค
00:22:48 → 00:22:51 เนี้ยไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นนะครับเมือง
00:22:51 → 00:22:53 ไทยตั้งนานแล้วจนถึงตอนเนี้ยโอกาสเป็น
00:22:53 → 00:22:55 เนี่ยมันน้อยมากที่เราต้องระวังก็คือคน
00:22:55 → 00:22:58 ที่ไปเที่ยวในถิ่นที่มันมีโรคนิรบัตนั่น
00:22:58 → 00:23:01 แหละครับเช่นตะวันออกกลางนะฮะไปแถบบราซิล
00:23:01 → 00:23:04 โคลัมเบียนะเปรูเงี้ยหรือว่าไปอินเดียนะ
00:23:04 → 00:23:06 ครับตรงไหนที่มันมีตัวพวกนี้อยู่ก็ต้อง
00:23:06 → 00:23:08 ระมัดระวังให้ดีนะครับวิธีการระมัดระวัง
00:23:09 → 00:23:12 ก็เหมือนการระมัดระวังยุงอ่ะฮะใช้ยากัน
00:23:12 → 00:23:15 ยุงแบบพ่นแบบทามหรืออะไรก็ได้สามารถกัน
00:23:15 → 00:23:17 มันได้นะครับถ้านอนก็แน่นอนครับต้องมี
00:23:17 → 00:23:19 มุ้งถ้าเราจะไปอยู่ตามประเทศพวกนั้นนะฮะ
00:23:19 → 00:23:21 ส่วนใหญ่จะไปติดมาจากประเทศทวดนั้นนะส่วน
00:23:21 → 00:23:23 บางคนบอกว่าเอ้ยเดี๋ยวนักท่องเที่ยว
00:23:23 → 00:23:25 ประเทศนั้นแล้วเอามาประเทศไทยจะทำให้เรา
00:23:25 → 00:23:27 ติดได้มั้ยโอกาสติดมันมีแต่มันยากหน่อย
00:23:27 → 00:23:30 เพราะว่าโชคดีที่ลิ้นฝอยทรายของไทยเนี่ย
00:23:30 → 00:23:32 มันไม่ค่อยกัดคนเท่าไหร่แต่มันก็ไม่ได้
00:23:32 → 00:23:34 แปลว่าไม่กัดนะอาจจะกัดก็ได้ในอนาคตแต่
00:23:34 → 00:23:37 มันยากหน่อยเท่านั้นเองนะครับโลกพวกนี้
00:23:37 → 00:23:40 ไม่สามารถติดต่อจากคนไปสู่คนโดยตรงได้
00:23:40 → 00:23:42 สมมุติว่าคุณไปเจอคนนึงอุ๊ยแผลมันน่า
00:23:42 → 00:23:45 เกลียดมากเลยขึ้นเต็มตัวเลยเงี้ยคุณไปจับ
00:23:45 → 00:23:48 คุณไม่ติดนะไม่ติดนะครับมันต้องมีการกัด
00:23:48 → 00:23:50 แล้วเข้าไปในเลือดของคุณเอออย่างเงี้ยติด
00:23:50 → 00:23:56 นะฮะแล้วก็คนเนี่ยเอาไปแพร่เชื้อตัวเนี้ย
00:23:56 → 00:23:58 ให้กับสัตว์ได้แต่ก็ต้องมีลิ้นฝอยทรายมา
00:23:58 → 00:24:01 กัดคุณแล้วไปกัดสัตว์นะครับเท่านั้นมัน
00:24:01 → 00:24:05 ถึงจะสามารถทำได้นะไม่งั้นมันทำไม่ได้นะ
00:24:05 → 00:24:07 ครับโอเควันนี้ผมก็หวังว่าความรู้เรื่อง
00:24:07 → 00:24:10 เกี่ยวข้องกับ leich mania จะเป็น
00:24:10 → 00:24:12 ประโยชน์กับหลายๆคนนะครับโรคนี้ผมคิดว่า
00:24:12 → 00:24:14 ส่วนตัวนะไม่ได้น่ากลัวมากขนาดนั้นนะครับ
00:24:14 → 00:24:16 แล้วคิดว่ามันไม่น่าจะระบาดที่ประเทศไทย
00:24:16 → 00:24:19 ได้ขนาดนั้นด้วยซ้ำไปแต่ว่าอยากจะให้ทุก
00:24:19 → 00:24:22 คนรู้จักกับโรคชนิดนี้ไว้บ้างก็ดีเพราะ
00:24:22 → 00:24:24 ว่าเดี๋ยวเนี้ยโรคเรามันมีโรคแปลกประหลาด
00:24:24 → 00:24:27 เยอะแยะไปหมดนะครับแต่บางคนอาจจะไม่รู้
00:24:27 → 00:24:29 ว่าโรคเนี้ยมันมีมาตั้งนานแล้วแล้วก็ไม่
00:24:29 → 00:24:32 ใช่โรคใหม่ไม่ต้องตื่นตกใจอะไรไปนะครับ
00:24:32 → 00:24:35 ถ้ามีอะไรเราก็รับฟังด้วยสติหาความรู้
00:24:35 → 00:24:38 แล้วเราพอเข้าใจปุ๊บเราก็จะไม่ได้ตกใจ
00:24:38 → 00:24:40 กลัวขนาดนั้นเพราะว่าเรารู้ว่ามันคืออะไร
00:24:40 → 00:24:42 ป้องกันได้ยังไงโอกาสในการเป็นอะไรมันมี
00:24:42 → 00:24:44 แค่ไหนบ้างนะครับโอเควันนี้เล่าให้ฟัง
00:24:45 → 00:24:49 เท่านี้นะครับขอบคุณมากครับสวัสดีครับ