00:00:00 → 00:00:02 สวัสดีครับวันนี้ผมจะมาเล่าเกี่ยวข้องกับ
00:00:03 → 00:00:05 อาการโรคแพนิคนะครับว่ามันเป็นอย่างไร
00:00:05 → 00:00:08 เกิดขึ้นได้อย่างไรมีวิธีในการดูแลรักษา
00:00:08 → 00:00:10 อย่างไรบ้างมันเป็นแล้วอันตรายหรือเปล่า
00:00:10 → 00:00:12 นะครับก็เดี๋ยววันนี้จะเล่าให้ฟังกันเลย
00:00:12 → 00:00:15 นะครับพบกับผมนะครับนายแพทย์ทวีธนียวรรณ
00:00:15 → 00:00:16 นะครับเป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่ประเทศ
00:00:16 → 00:00:19 สหรัฐอเมริกาเชี่ยวชาญโรคปอดการปลูกถ่าย
00:00:19 → 00:00:22 ปอดและวิกฤตบำบัดนะครับผมต้องขอบอกก่อนนะ
00:00:22 → 00:00:25 ครับว่าโรคทางแพทย์นี่นั้นมันเป็นโรคทาง
00:00:25 → 00:00:27 ด้านจิตเวชนะครับแล้วก็หมอที่รักษาจะเป็น
00:00:27 → 00:00:30 คุณหมอทางด้านจิตเวชเป็นหลักนะครับแต่ว่า
00:00:30 → 00:00:33 โรคแพนิคนั้นมันก็มีความคาบเกี่ยวกับสิ่ง
00:00:33 → 00:00:35 ที่ผมต้องดูแลรักษาอยู่เรื่อยๆนั่นก็คือ
00:00:35 → 00:00:38 เรื่องทางด้านโรคทางกายนั่นเองนะครับดัง
00:00:38 → 00:00:40 นั้นผมก็จะเล่าเรื่องนี้ให้ฟังในมุมมอง
00:00:40 → 00:00:42 ของแพทย์ที่ดูแล้วโรคทางกายเป็นหลักแล้ว
00:00:42 → 00:00:44 กันนะครับว่าเฮ้ยปกติผมเจอโรคอย่างเงี้ย
00:00:44 → 00:00:49 เราวินิจฉัยได้อย่างไรนะครับโรคแพนิคมัน
00:00:49 → 00:00:52 คืออะไรเอาง่ายๆเลยนะครับท่านเคยรู้สึกตก
00:00:52 → 00:00:54 ใจสุดขีดหรือเปล่าเช่นอยู่ๆมีคนมาจุด
00:00:54 → 00:00:56 ประทัดข้างหลังท่านอย่างเงี้ยนะครับหรือ
00:00:56 → 00:00:59 ว่าเราดูหนังผีแล้วก็เอ่อมันเงียบๆอยู่ดี
00:00:59 → 00:01:02 สีโผล่ออกมานะครับหรือว่าเราอยู่ในที่มืด
00:01:02 → 00:01:05 ๆแล้วมีโจรกระโดดออกมาข้างหน้าเรานั่น
00:01:05 → 00:01:07 แหละครับความรู้สึกอันนั้นน่ะคือแพนิคนะ
00:01:07 → 00:01:08 ครับ
00:01:08 → 00:01:12 มันจะมีอาการตกใจสุดขีดนะครับคือสมมุติ
00:01:12 → 00:01:15 ว่ามันมีบรรทัดระเบิดข้างหลังเรานะครับ
00:01:15 → 00:01:17 เรารู้สึกตอนแรกเราก็เฉยๆคุณเล่นกับ
00:01:17 → 00:01:19 เพื่อนอยู่ๆมีตู้มขึ้นมาข้างหลังเราเนี่ย
00:01:19 → 00:01:23 เกิดอะไรขึ้นนะครับสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ
00:01:23 → 00:01:27 เราตกใจมากหัวใจเต้นเร็วนะครับใจสั่นเลย
00:01:27 → 00:01:29 หายใจหอบเหนื่อยเร็วบางคนมีแน่นหน้าอก
00:01:29 → 00:01:33 ขึ้นมานะครับบางคนมีวิ่งเวียนศีรษะมึนนะ
00:01:33 → 00:01:37 ครับเหมือนว่าตัวเองมือช้าๆปากช้าๆเหมือน
00:01:37 → 00:01:39 วิญญาณจะหลุดออกจากร่างบางคนก็รู้สึกแบบ
00:01:39 → 00:01:43 นั้นนะครับบางคนมีเวียนหัวคลื่นไส้
00:01:43 → 00:01:45 อาเจียนตามมานะฮะหรือมีอาการอะไรอย่าง
00:01:45 → 00:01:47 อื่นอีกก็ได้มันก็รู้สึกหายใจไม่ออกมันจะ
00:01:47 → 00:01:50 ตายนะครับประมาณนั้นเลยนะครับแล้วมันก็
00:01:50 → 00:01:52 ไม่ได้หายไปไหนด้วยมันก็อยู่กับเราไปสัก
00:01:52 → 00:01:56 พักนึงเลยนะครับแต่ลักษณะที่เด่นของอาการ
00:01:56 → 00:01:58 Panic ที่ว่าไปทั้งหมดเนี่ยนะครับมัน
00:01:58 → 00:02:01 เกิดขึ้นตอนไหนก็ได้ไม่จำเป็นจะต้องมี
00:02:01 → 00:02:04 อะไรมากระตุ้นเลยนะครับเช่นบางคนเดินไป
00:02:04 → 00:02:08 เดินมาอยู่ๆก็เกิดบางคนขับรถติดไฟแดงตรง
00:02:08 → 00:02:10 สี่แยกเอ้ยเกิดขึ้นมาเลยนะครับหรือบางคน
00:02:10 → 00:02:13 อยู่ในลิฟท์อยู่ๆก็เกิดขึ้นมาเฉยโดยที่
00:02:13 → 00:02:16 ไม่ได้มีอะไรมากระตุ้นนะครับบอกไม่ได้ว่า
00:02:16 → 00:02:18 ทำไมถึงเกิดขึ้นมาแต่มันก็เกิดขึ้นมานะ
00:02:18 → 00:02:19 ครับ
00:02:19 → 00:02:22 แล้ว keyword ที่สำคัญก็คือเวลามันเกิด
00:02:22 → 00:02:26 เนี่ยมันจะใช้เวลาแป๊บเดียวไม่กี่นาที 2-3
00:02:26 → 00:02:29 นาทีเท่านั้นจากตอนแรกจนถึงตอนที่อาการ
00:02:30 → 00:02:32 มันที่สุดมันรุนแรงสุดนะครับมันจะใช้เวลา
00:02:32 → 00:02:35 แป๊บเดียวนะฮะเนื่องจากว่ามันใช้เวลาแป๊บ
00:02:35 → 00:02:38 เดียวจากที่มันเริ่มเป็นจนกระทั่งเป็นแรง
00:02:38 → 00:02:40 ที่สุดเนี่ยมันแป๊บเดียวมากคนก็จะกลัวมาก
00:02:40 → 00:02:43 ว่าเฮ้ยเราเป็นอะไรเราเป็นโรคหัวใจเราจะ
00:02:43 → 00:02:45 ตายหรือเปล่าหัวใจมันเต้นเร็วมากเราใจ
00:02:45 → 00:02:47 สั่นเราหายใจไม่ออกเราแน่นหน้าอกเราหน้า
00:02:47 → 00:02:51 มืดมันหวิวๆแล้วนะครับมันจะตายแล้วนะครับ
00:02:51 → 00:02:53 ก็จะเกิดอาการกลัวมากๆที่จะเป็นแบบนั้น
00:02:53 → 00:02:56 ขึ้นมานะครับแต่พวกนี้เนี่ยปล่อยไว้สัก
00:02:56 → 00:02:58 พักมันก็จะเริ่มหายบางคนก็เป็นอย่างนี้
00:02:58 → 00:03:00 สักประมาณ 20 นาทีแล้วมันก็จะค่อยๆเบาลง
00:03:00 → 00:03:04 เบาลงเบาลงแล้วก็หายนะครับปัญหาคืออย่าง
00:03:04 → 00:03:06 นี้ครับมันเป็นอีกได้แล้วจะเป็นอีกเมื่อ
00:03:06 → 00:03:09 ไหร่ตอนไหนบอกไม่ได้ครับเตือนไม่ได้ไม่มี
00:03:09 → 00:03:11 อะไรเตือนเลยด้วยซ้ำไปนะฮะ
00:03:11 → 00:03:13 และที่สำคัญคือ
00:03:13 → 00:03:16 พอครั้งหนึ่งเนี่ยมันเกิดขึ้นในสถานที่
00:03:16 → 00:03:18 เดิมแล้วเช่นว่าสมมุติครั้งแรกเกิดใน
00:03:18 → 00:03:20 ลิฟต์ครั้งที่ 2 เกิดในลิฟท์อีกรอบหนึ่ง
00:03:20 → 00:03:24 มันจะเริ่มกลัวแล้วเฮ้ยถ้าเราเข้าลิฟต์
00:03:24 → 00:03:25 อีกรอบหนึ่งเนี่ยเดี๋ยวมันเป็นอีกจะทำยัง
00:03:25 → 00:03:28 ไงคนพวกนี้ก็เริ่มกลัวลิฟต์แล้วไม่อยาก
00:03:28 → 00:03:30 เข้าแล้วที่ไหนมีลิฟต์ก็ไม่ไปก็ต้องขึ้น
00:03:30 → 00:03:34 บันไดแทนนะครับหรือบางคนไปเป็นในรถก็ไม่
00:03:34 → 00:03:38 อยากจะขับรถแล้วนะครับต่อมามันก็จะเริ่ม
00:03:38 → 00:03:39 ขยายมาอยู่ๆเป็นเอาตอนอยู่ในห้องเรียน
00:03:39 → 00:03:43 เป็นตอนกำลังเล่นกีฬาอยู่เป็นตอนทำอะไร
00:03:43 → 00:03:45 สักอย่างอยู่กินข้าวอยู่ดูหนังอยู่ฟัง
00:03:45 → 00:03:47 เพลงอ่านหนังสือแล้วมันอยู่ๆเป็นขึ้นมานะ
00:03:47 → 00:03:50 ครับก็จะเริ่มกลัวไปหมดซะทุกอย่างละอยาก
00:03:50 → 00:03:53 จะพยายามหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้เกิดสถาน
00:03:54 → 00:03:56 ที่ที่ทำให้เกิดกิจกรรมที่ทำให้เกิดจน
00:03:56 → 00:03:58 กระทั่งกลัวไปหมดทุกอย่างนั่นก็คืออาการ
00:03:58 → 00:04:01 ที่เกิด Panic จนกระทั่งมีผลต่อการใช้
00:04:01 → 00:04:03 ชีวิตนะครับผมเคยได้ยินนักร้องบางคนเนี่ย
00:04:03 → 00:04:08 อยู่บนเวทีนะครับลองๆไปสักพักนึงให้มัน
00:04:08 → 00:04:10 ไม่ได้แล้วมันมันเกิดอาการ Panic คือมัน
00:04:10 → 00:04:12 กลัวตายมันเกิดขึ้นมาเดี๋ยวนั้นน่ะมัน
00:04:12 → 00:04:14 ร้องต่อไม่ได้แล้วต้องลงจากเวทีอย่างนั้น
00:04:14 → 00:04:15 ก็มีนะครับ
00:04:15 → 00:04:19 ทีนี้มันเกิดได้ยังไงนะครับ
00:04:19 → 00:04:22 มันเกิดได้จากจริงๆก็บอกต้องบอกตรงๆว่า
00:04:22 → 00:04:24 ไม่มีคนรู้ว่ามันทำไมถึงเกิดได้แต่สิ่ง
00:04:24 → 00:04:27 ที่ร่างกายของเราเนี่ยเกิดอาการพวกนั้น
00:04:27 → 00:04:30 ขึ้นมาก็คือระบบประสาทอัตโนมัติมันทำงาน
00:04:30 → 00:04:34 มากจนเกินเหตุนะครับมันทำงานมากเกินเกิน
00:04:34 → 00:04:36 ที่ควรจะเป็นนะครับแล้วพอมันเกิดแบบนั้น
00:04:36 → 00:04:39 ขึ้นมาเนี่ยก็จะเกิดอาการต่างๆที่เราว่า
00:04:39 → 00:04:42 มานะฮะแน่นอนว่ามันก็จะต้องมีคนที่คิดว่า
00:04:42 → 00:04:45 เออมันอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับสารเคมีใน
00:04:45 → 00:04:47 สมองสารสื่อประสาทในสมองที่มันผิดปกติไป
00:04:48 → 00:04:50 ทำให้เกิดอาการแบบนั้นนะครับอ่าอันนั้นก็
00:04:50 → 00:04:52 เป็นความคิดอันหนึ่งเพราะว่าเวลาที่เรา
00:04:52 → 00:04:56 รักษาโรคพวกนี้เราอาจจะให้ยาไปปรับสาร
00:04:56 → 00:04:57 สื่อประสาทในสมองเพื่อที่จะให้อาการดี
00:04:57 → 00:05:00 ขึ้นก็ได้นะครับทีนี้
00:05:00 → 00:05:03 ปัญหาของคนเหล่านี้เนี่ยที่เจอบ่อยที่สุด
00:05:03 → 00:05:07 เลยก็คือว่าไปหาหมอหมอตรวจทุกอย่างแล้ว
00:05:07 → 00:05:08 มันปกติ
00:05:08 → 00:05:11 แล้วตัวเองก็ยังฝังใจอยู่เพราะว่าเวลา
00:05:11 → 00:05:13 เป็นขึ้นมาทีมันจะตายเลยนะครับ
00:05:13 → 00:05:17 เช่นใจสั่นไม่หยุดเลยพอไปถึงห้องฉุกเฉิน
00:05:17 → 00:05:19 มันเริ่มดีขึ้นแล้วเพราะว่าพวกนี้มันมัน
00:05:19 → 00:05:21 ใช้เวลาไม่นานนะครับตอนแรกที่เริ่มเป็น
00:05:21 → 00:05:24 ใช่ไหมครับ 4-5 นาทีแรงที่สุดหลังจากนั้น
00:05:24 → 00:05:26 ประมาณ 10-20 นาทีก็เริ่มเบาลงเบาลงไปถึง
00:05:26 → 00:05:28 ห้องฉุกเฉินสักครึ่งชั่วโมงนึงอ้าวหาย
00:05:28 → 00:05:31 แล้วนะครับตรวจเครื่องไฟฟ้าหัวใจก็ไม่มี
00:05:31 → 00:05:34 อะไรนะครับอ่าตรวจเลือดก็ไม่เจออะไรนะ
00:05:34 → 00:05:38 ครับแล้วก็ไปหาหมอหัวใจไปวิ่งสายพานก็ไม่
00:05:38 → 00:05:41 เจออะไรเหมือนกันนะครับแต่ก็ยังสงสัยอยู่
00:05:41 → 00:05:43 ดีว่าตัวเองเป็นอะไรมันต้องเป็นอะไรสัก
00:05:43 → 00:05:44 อย่างแล้วหมอหาไม่เจอหมอไม่เก่งหรือเปล่า
00:05:44 → 00:05:47 ไปเปลี่ยนหมอดีกว่าไปหาหมอคนนู้นคนนี้คน
00:05:47 → 00:05:49 นั้นนะครับหรือบางทีการดึงก็ไปห้อง
00:05:49 → 00:05:51 ฉุกเฉินแล้วก็ไม่เจออะไรเดี๋ยวก็เป็นอีก
00:05:51 → 00:05:54 ก็ไม่เจออะไรก็อยากจะไปหายาสมุนไพรหรือ
00:05:54 → 00:05:57 อะไรพวกนี้มาใช้หรือแม้แต่บางคน
00:05:57 → 00:06:02 ไปเจอว่าให้กินแอลกอฮอล์เอ๊ะมันสงบดีนะก็
00:06:02 → 00:06:04 เลยติดเหล้าไปเลยนะครับเพราะมันช่วย
00:06:04 → 00:06:05 เรื่องการ Panic เหมือนกันกินเหล้าพวกนี้
00:06:06 → 00:06:08 นะครับเพื่อทำให้ร่างกายมันมันเอ่อสงบลง
00:06:08 → 00:06:12 นะครับบางคนก็บอกว่าก็สูบกัญชาแล้วกันมัน
00:06:12 → 00:06:14 ทำให้เราสบายเคลิ้มมันน่าจะหายล่ะก็ไปติด
00:06:14 → 00:06:18 กัญชาแทนนะครับนั่นคือปัญหาของคนเหล่านี้
00:06:18 → 00:06:21 ต้องบอกอย่างนี้ก่อนเวลามาหาหมอด้วยอาการ
00:06:21 → 00:06:25 ทั้งหมดที่ว่ามานั้นนะครับเราจะไม่บอกว่า
00:06:25 → 00:06:27 เป็น Panic ก่อนนะครับเราต้องตรวจหาโรค
00:06:27 → 00:06:31 ทั้งหมดก่อนให้แน่ใจว่าไม่มีสาเหตุทำกาย
00:06:31 → 00:06:33 ที่มันอันตรายเพราะฉะนั้นถ้าเราพลาด
00:06:33 → 00:06:37 สาเหตุทางกายและเราไปรักษาโรคแพนิคเลยคน
00:06:37 → 00:06:40 นั้นอาจจะตายก็ได้นะครับจากโรคทางกายโอเค
00:06:40 → 00:06:44 โรคอะไรบ้างที่เราเจอแล้วมันอาจจะเป็น
00:06:44 → 00:06:46 สาเหตุทำให้เกิดแพนิคหรือบางครั้งเราเจอ
00:06:46 → 00:06:49 ทั้ง Panic ทั้งโรคทางกายพร้อมกันเลยก็
00:06:49 → 00:06:52 ได้นะครับแน่นอนโรคหัวใจเป็นอันดับแรกหัว
00:06:52 → 00:06:55 ใจเต้นผิดปกตินะครับในคนที่เป็น Panic
00:06:55 → 00:06:57 ตอนที่อาการกำลังกำเริบอยู่นะ
00:06:57 → 00:07:00 หัวใจเนี่ยมันจะค่อยๆเต้นเร็วขึ้นนะครับ
00:07:00 → 00:07:03 เร็วขึ้นทีละนิดทีละนิดทีละนิดจนถึงพีคจน
00:07:03 → 00:07:04 ถึงสูงสุดของมันแล้วมันก็จะอยู่อย่างนั้น
00:07:04 → 00:07:07 สักพักนึงแล้วมันค่อยช้าหรอกการเต้นผิด
00:07:07 → 00:07:10 ปกติของหัวใจแบบนี้เราเรียกว่าไซนัส
00:07:10 → 00:07:13 tactical มันก็คือการเต้นเร็วของหัวใจ
00:07:13 → 00:07:15 ที่มันเกิดจากการนำไฟฟ้าของหัวใจแบบปกติ
00:07:15 → 00:07:17 นี่แหละเหมือนกับเวลาเราไปวิ่งเราเหนื่อย
00:07:17 → 00:07:20 นะครับควรจะได้เต้นเร็วแบบนั้นแต่เรา
00:07:20 → 00:07:23 ต้องการจับดูสิว่ามันมีการเต้นผิดปกติของ
00:07:23 → 00:07:26 หัวใจแบบอื่นที่มันอันตรายหรือเปล่ายกตัว
00:07:26 → 00:07:29 อย่างเช่น atrial fiberation ซึ่งผมเคย
00:07:29 → 00:07:31 เล่ารายละเอียดไปแล้วว่ามันเกิดเพราะอะไร
00:07:31 → 00:07:34 มีวิธีในการดูแลรักษาอย่างไรท่านก็ย้อน
00:07:34 → 00:07:37 กลับไปดูเรื่องของการใจสั่นที่ผมเคยเล่า
00:07:37 → 00:07:39 ไปแล้วกันนะครับว่าเฮ้ยมันมีวิธีในการดู
00:07:39 → 00:07:42 แลอย่างไรนะครับเราต้องหาก่อนให้มันแน่ใจ
00:07:42 → 00:07:46 ว่าไม่ใช่โรคหัวใจโรคทางปอดล่ะนะครับแน่
00:07:46 → 00:07:48 นอนบางคนเป็นโรคหอบหืดขึ้นมามันกำเริบตอน
00:07:48 → 00:07:51 นั้นก็จะมีอาการแต่โรคทางเปราะเนี่ยมัน
00:07:51 → 00:07:54 แยกง่ายครับเพราะว่าอาการของมันเนี่ยมัน
00:07:54 → 00:07:56 ไม่ได้หายดีนะครับมันจะเป็นแล้วมันก็เป็น
00:07:56 → 00:07:58 ค้างอย่างนี้อยู่นานๆเลยไปถึงโรงพยาบาล
00:07:58 → 00:08:01 ยังไงก็ตรวจเจอไม่ได้ยากนะครับ
00:08:01 → 00:08:03 อาการต่อมาก็คือกรดไหลย้อน
00:08:03 → 00:08:07 บางคนรู้สึกแน่นลิ้นปี่นะครับจุกๆลิ้นปี่
00:08:07 → 00:08:09 แล้วหลังจากนั้นก็ตามมาด้วยอาการ Panic
00:08:09 → 00:08:11 มันเจอร่วมกันได้แล้วก็เจอร่วมกันบ่อยซะ
00:08:11 → 00:08:14 ด้วยนะครับดังนั้นคนที่มีโรคกระเพาะนะ
00:08:14 → 00:08:17 ครับมีโรคกรดไหลย้อนท่านที่ไม่รักษาให้ดี
00:08:17 → 00:08:19 บางครั้งมันกระตุ้นแพนิคได้เหมือนกันนะ
00:08:19 → 00:08:21 ครับ
00:08:21 → 00:08:24 ถ้าสมมุติว่ามาถึงโรงพยาบาลอีกอย่างหนึ่ง
00:08:24 → 00:08:27 ที่ต้องตรวจก็คือเรื่องของโรคไทรอยด์เป็น
00:08:27 → 00:08:29 พิษนะครับบางคนมีไทรอยด์เป็นพิษก็จะเป็น
00:08:29 → 00:08:31 อย่างนี้ครับใจสั่นเหงื่อออกเยอะเหมือนจะ
00:08:31 → 00:08:34 ตายนะครับเป็นขึ้นมาได้นะครับแต่ตรงนั้น
00:08:34 → 00:08:37 เนี่ยบางทีเราก็พอบอกอาการได้เช่นคนไข้
00:08:37 → 00:08:40 เนี่ยเขาจะมีน้ำหนักไม่ค่อยเยอะตัวผอมนะ
00:08:40 → 00:08:42 ครับขี้ร้อนขี้หงุดหงิดนะครับประจำเดือน
00:08:42 → 00:08:45 มาไม่ปกติในผู้หญิงนะครับแล้วก็ใจสั่น
00:08:45 → 00:08:48 ตลอดเวลาหรือถ้าให้เราดูมือเนี่ยมือเขาจะ
00:08:48 → 00:08:50 สั่นอย่างนี้มือสั่นอย่างนี้ตลอดเวลามี
00:08:50 → 00:08:53 มือชื้นๆนะครับพวกนั้นก็สงสัยว่าเอ้ยอาจ
00:08:53 → 00:08:55 จะเป็นไทรอยด์เป็นพิษนะครับเราก็ต้องตรวจ
00:08:55 → 00:08:58 ดูซิว่าเป็นอย่างนั้นหรือเปล่านะฮะนอก
00:08:58 → 00:09:02 เหนือจากนี้มันมีอีก 2 อย่างซึ่งแพทย์จะ
00:09:02 → 00:09:03 พลาดไม่ได้เลยทีเดียวเพราะว่าถ้าพลาดแล้ว
00:09:03 → 00:09:05 อันตรายมากนะครับคือถ้าสมมุติว่าคนไข้
00:09:06 → 00:09:07 เนี่ยมีอาการอย่างที่ว่าไปแล้วมาถึงโรง
00:09:07 → 00:09:11 พยาบาลที่ห้องฉุกเฉินนะครับถ้ายังมีอาการ
00:09:11 → 00:09:13 อยู่นะครับนอกเหนือจากตรวจเครื่องไฟฟ้า
00:09:13 → 00:09:15 ส่วนใจตรวจทุกอย่างแล้วสิ่งที่ต้องตรวจ
00:09:15 → 00:09:17 อีก 2 อย่างเลยก็คือน้ำตาลที่ปลายนิ้วนะ
00:09:17 → 00:09:22 ครับเพราะว่ามันจะมีคนที่เป็นโรคเบาหวาน
00:09:22 → 00:09:25 ครั้งแรกเราไม่รู้ตัวนะครับน้ำตาลสูงจน
00:09:25 → 00:09:28 กระทั่งถึงขั้นวิกฤตแล้วถ้าเราไม่ได้
00:09:28 → 00:09:31 รักษาคนพวกนี้ตายได้นะครับเราจะเรียกภาวะ
00:09:31 → 00:09:35 นี้ว่า dka dibetic ketoxidosis ซึ่ง
00:09:35 → 00:09:37 เรื่องของเบาหวานผมก็ได้อธิบายไปทั้ง
00:09:37 → 00:09:38 เรื่องเรียบร้อยแล้วนะครับถ้าใครจำไม่ได้
00:09:39 → 00:09:41 ก็ลองกลับไปดูนะครับว่ามันคืออะไรนะครับ
00:09:41 → 00:09:43 ภาวะนี้ต้องวินิจฉัยให้ได้นะครับไม่ได้
00:09:43 → 00:09:46 นี่คือแย่แน่นอนภาวะที่ 2 ที่ต้อง
00:09:46 → 00:09:49 วินิจฉัยให้ได้เลยก็คือโรคลิ่มเลือดไปอุด
00:09:49 → 00:09:52 ตันระบบหลอดเลือดในปอดนะครับหรือที่เรา
00:09:52 → 00:09:55 เรียกว่าภูมิปัญญานั่นเองนะครับเพราะว่า
00:09:55 → 00:09:58 นี้เนี่ยเจอได้ง่ายๆในผู้หญิงอายุน้อย
00:09:58 → 00:10:01 แล้วทานยาคุมอยู่หรือสูบบุหรี่
00:10:01 → 00:10:04 3 อย่างนี้บวกกันเมื่อไหร่เราก็ต้อง
00:10:04 → 00:10:06 สงสัยภาวนานี้เสมอนะครับ
00:10:06 → 00:10:10 ต้องสงสัยภาวะนี้เสมอเวลาที่มาหาหมอแต่
00:10:10 → 00:10:13 ถ้าเราตรวจแล้วเราไม่เจอโอเคไม่เป็นถ้า
00:10:13 → 00:10:16 เราเป็นอาการพวกเนี้ยแล้วมันดีขึ้นได้ไม่
00:10:16 → 00:10:19 มีทางเป็นภูมิหรือไม่มีทางเป็นลิ่มเลือด
00:10:19 → 00:10:22 อุดตันในปอดแน่นอนแน่นอนเลยนะครับต้องบอก
00:10:22 → 00:10:24 ให้ชัดเจนว่ามันเป็นแบบนี้ดังนั้นเราตรวจ
00:10:24 → 00:10:27 ทุกอย่างให้แน่ใจก่อนว่าเรามีโรคอื่นๆที่
00:10:27 → 00:10:29 พออธิบายอาการได้ไหมถ้ามีเรารักษาโรคพวก
00:10:30 → 00:10:32 นั้นก่อนนะครับนอกเหนือจากนี้มันยังมีโรค
00:10:32 → 00:10:35 ทางด้านจิตเวชซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับโรค
00:10:35 → 00:10:37 แพนิคเช่นโรคซึมเศร้าโรควิตกกังวลเครียด
00:10:37 → 00:10:41 มากครับโรคกลุ่มที่เกิด ptsd หรือ
00:10:41 → 00:10:43 postomatic trustice Order นะครับก็
00:10:43 → 00:10:46 คือการที่เราไปเจอเหตุการณ์ที่มันถึง
00:10:46 → 00:10:49 ชีวิตหรือหวาดกลัวมากๆในอดีตเช่นเราไปมี
00:10:49 → 00:10:53 สงครามมาคนเดินโดนข่มขืนมาเคยโดนทำร้าย
00:10:53 → 00:10:55 ร่างกายมานะครับอะไรพวกเนี้ยที่มันเป็น
00:10:55 → 00:10:58 ความฝังใจนะครับมันก็จะทำให้ท่านเกิด
00:10:58 → 00:11:01 อาการ Panic พวกนั้นธรรมดาได้แต่บางคนนะ
00:11:01 → 00:11:05 ครับจะตอนที่เกิดแพนเนี่ยมันจะมีแว๊บเข้า
00:11:05 → 00:11:07 มาในหัวเลยเหมือนกับตัวเองย้อนกลับไปอยู่
00:11:07 → 00:11:09 ในสถานการณ์แบบนั้นนะครับมันก็จะกลัวได้
00:11:09 → 00:11:12 นะครับอันนั้นก็คือโรค pts ดีนะครับที่
00:11:12 → 00:11:14 เราต้องไปรักษาตรงตัวโรคนั้นด้วยนะครับ
00:11:14 → 00:11:17 นอกเหนือจากนี้ก็คือเรื่องของยาเสพติด
00:11:18 → 00:11:21 ชนิดต่างๆไม่ว่าจะเป็นเหล้ากัญชาเอ่อหรือ
00:11:21 → 00:11:23 กระท่อมนะครับที่คนใช้เรื่อยๆนะครับ
00:11:23 → 00:11:28 คาเฟอีนนะครับสูบพล็อตนะฮะหรือสูบบุหรี่
00:11:28 → 00:11:29 ไฟฟ้า
00:11:29 → 00:11:33 ยาตัวอื่นพวกนี้บำรุงกำลังนะครับ Pre
00:11:33 → 00:11:36 Work out ต่างๆพวกนี้ทั้งหมดก็กระตุ้น
00:11:36 → 00:11:37 ให้เกิด Panic ได้
00:11:37 → 00:11:40 ทีนี้สมมุติว่าเราตรวจเรื่องทางกายไม่เจอ
00:11:40 → 00:11:42 อะไรแล้ว
00:11:42 → 00:11:44 ไปหาทุกที่เราไม่เจออะไรนะทำให้แน่ใจว่า
00:11:44 → 00:11:46 ไม่เจออะไร
00:11:46 → 00:11:50 สิ่งที่เราต้องมาทำต่อมาคืออะไรนะครับ
00:11:50 → 00:11:54 เราต้องรู้ก่อนว่าโรค Panic เนี่ยก็ผม
00:11:54 → 00:11:56 อยากจะบอกอย่างหนึ่งอันตรายของโรค Panic
00:11:56 → 00:11:59 ส่วนใหญ่แล้วนะครับมันไม่มีอันตรายทั้ง
00:11:59 → 00:12:04 สิ้นปล่อยไว้เฉยๆมันหายมันไม่ตายแต่เขามี
00:12:04 → 00:12:08 งานวิจัยที่พบอันนี้อันนี้น่าจะเป็นหมอ
00:12:08 → 00:12:11 ทางด้านทางด้านกายจะรู้จักมากกว่าหมอทาง
00:12:11 → 00:12:13 ด้านจิตเวชนะครับคือเขาพบว่าคนที่มีโรค
00:12:13 → 00:12:17 หัวใจมีโรคปอดนะครับจริงๆนะครับเช่นโรค
00:12:17 → 00:12:19 หัวใจอะไรก็แล้วแต่นะครับเส้นเลือดหัวใจ
00:12:19 → 00:12:23 ตีบหรือโรคปอดที่เป็นโรคหอบหืดโรคถุงลม
00:12:23 → 00:12:25 โป่งพองโรคอะไรก็แล้วแต่เรื้อรังที่มาโรง
00:12:25 → 00:12:28 พยาบาลแล้วบังเอิญคนนี้มี Panic ร่วมด้วย
00:12:28 → 00:12:30 เขาพบว่าคนที่มีอาการ Panic ร่วมกับอาการ
00:12:30 → 00:12:34 ทางกายจะมีโอกาสเสียชีวิตสูงกว่าคนที่ไม่
00:12:34 → 00:12:38 มีโรคแพนิคครับตรงนี้เป็นตัวที่อันตรายนะ
00:12:38 → 00:12:41 ครับเราต้องเราต้องรู้ไว้เสมอนะครับว่า
00:12:41 → 00:12:44 ถ้าเราเป็น Panic อย่างเดียวไม่มีโรค
00:12:44 → 00:12:47 อย่างอื่นเลยพวกนี้ไม่มีปัญหาครับไม่เกิด
00:12:47 → 00:12:50 อะไรขึ้นแต่ถ้ามี Panic ร่วมกับอาการของ
00:12:50 → 00:12:53 โรคทางกายโดยเฉพาะโรคหัวใจโรคปอดอาจจะมี
00:12:53 → 00:12:57 โอกาสเสียชีวิตสูงขึ้นกว่าคนที่ไม่มีโรค
00:12:57 → 00:13:01 แพนิคนะครับโรคแพนิคเรารู้และอาการมัน
00:13:01 → 00:13:03 เป็นยังไงเรารู้แล้วว่ามันไม่ได้ทำให้เรา
00:13:03 → 00:13:07 ตายได้นะครับสิ่งแรกที่เราต้องรู้ก่อนก็
00:13:07 → 00:13:10 คือถ้าเราไปหาหมอมาทุกหมอแล้วอ่ะมันไม่
00:13:10 → 00:13:12 เป็นมันไม่เจออะไรที่มันผิดปกติทางกาย
00:13:12 → 00:13:15 ต้องพยายามยอมรับให้แรกก่อนว่าเราอาจจะ
00:13:15 → 00:13:18 เป็นโรค Panic ซึ่งเป็นโรคทางจิตใจนะเรา
00:13:18 → 00:13:20 ควรจะไปพบหมอจิตเวชนะครับพอไปเจอหมอ
00:13:21 → 00:13:24 จิตเวชก็จะมีการรักษาหลักๆอยู่ทั้ง 2
00:13:24 → 00:13:26 อย่างอย่างแรกก็คือเป็นการสอนให้เราเข้า
00:13:26 → 00:13:30 ใจในสภาพร่างกายของเราว่าสิ่งที่เกิดขึ้น
00:13:30 → 00:13:33 นั้นมันเป็นสัญญาหลอกของร่างกายมันไม่ได้
00:13:33 → 00:13:36 มีอะไรที่น่าตกใจเลยแล้วเราก็จะไม่ตาย
00:13:36 → 00:13:39 เมื่อไหร่ที่เรายอมรับได้ว่าเฮ้ยเนี่ย
00:13:39 → 00:13:42 สัญญาณหลอกไม่เป็นไรหรอกเราก็จะรู้สึก
00:13:42 → 00:13:44 สบายใจขึ้นโอกาสที่เราจะควบคุมมันได้ก็จะ
00:13:44 → 00:13:48 ดีขึ้นนะครับก็เหมือนกับการที่เรากลัวที่
00:13:48 → 00:13:49 มืดนะครับ
00:13:49 → 00:13:52 ถ้าเรากลัวที่มืดเราไม่รู้ว่าอะไรอยู่ใน
00:13:52 → 00:13:54 นั้นมันอาจจะมีโจรมันอาจจะมีผีมันอาจจะมี
00:13:54 → 00:13:57 ตุ๊กแกมีสัตว์ร้ายอะไรที่ทำให้เรากลัวนะ
00:13:57 → 00:14:01 ครับแต่การที่เราฝึกจิตบำบัดแบบนี้หรือ
00:14:01 → 00:14:03 ที่เรียกว่า compative Behavior Beat
00:14:03 → 00:14:05 มันเป็นการสอนว่าจริงๆมันไม่มีอะไรหรอก
00:14:05 → 00:14:08 พูดง่ายๆก็คือเรากลัวที่มืดใช่ไหมเข้าใน
00:14:08 → 00:14:10 ที่มืดแล้วเปิดไฟเออมันไม่มีอะไรน่ากลัว
00:14:10 → 00:14:13 แล้วเราก็จะไม่กลัวตรงบริเวณนั้นอีกต่อไป
00:14:13 → 00:14:15 นะครับนั่นก็คือเป็นวิธีอย่างนึงซึ่ง
00:14:15 → 00:14:18 จิตแพทย์เนี่ยเขาจะสอนนะครับว่าทำยังไง
00:14:18 → 00:14:21 เวลาที่เราเกิดอาการขึ้นมาเราต้องอยู่กับ
00:14:21 → 00:14:24 มันให้ได้ต้องอดทนนะครับอันที่ 2 เวลาที่
00:14:24 → 00:14:27 มีอาการ Panic ขึ้นมาแน่นอนว่าทุกคนไม่มี
00:14:27 → 00:14:29 การควบคุมตัวเองเหมือนควบคุมไม่ไหวมันจะ
00:14:29 → 00:14:33 ตายเอามันยากนะฮะถูกไหมครับวิธีที่ควรจะ
00:14:33 → 00:14:36 ต้องทำก็คือการฝึกการหายใจนะครับยิ่งเรา
00:14:36 → 00:14:38 หายใจเร็วเท่าไหร่เนี่ยอาการมันจะยิ่งมาก
00:14:38 → 00:14:41 ขึ้นมากขึ้นเท่านั้นนะครับดังนั้นเวลาที่
00:14:41 → 00:14:44 เราเป็นเข้ามาสติมาก่อนเลยครับรู้ตัวว่า
00:14:44 → 00:14:49 โรคนี้มันไม่ตายไม่ต้องกลัวไม่ตายหายใจ
00:14:49 → 00:14:53 เข้าออกช้าๆนะครับเข้าทางจมูก
00:14:53 → 00:14:54 ท้ายที่สุด
00:14:54 → 00:14:58 ออกทางปาก
00:14:58 → 00:15:00 ยาวที่สุด
00:15:00 → 00:15:04 เข้าทางจมูก
00:15:04 → 00:15:07 ออกทางปาก
00:15:07 → 00:15:09 ทำอย่างนี้ครับช้าๆเลย
00:15:09 → 00:15:11 แล้วมันจะหายเอง
00:15:11 → 00:15:14 ครับแล้วมันจะหายเองสำหรับคนที่หายใจแรง
00:15:14 → 00:15:18 เร็วจนรู้สึกว่าตัวเองวิงเวียนหน้ามืดปาด
00:15:18 → 00:15:21 ชามือชาพวกนี้แล้วทำการหายใจแบบนั้นไม่
00:15:21 → 00:15:24 ได้วิธีอีกอันหนึ่งซึ่งผมแนะนำก็คือการ
00:15:24 → 00:15:27 เอาถุงกระดาษเนี่ยมาครอบปากครอบจมูกแล้ว
00:15:27 → 00:15:29 หายใจเข้าออกในนั้นสักพักหนึ่งถ้าไม่มี
00:15:29 → 00:15:32 ถุงกระดาษมือเรานี่แหละครับปิดปากปิดจมูก
00:15:33 → 00:15:33 นะครับ
00:15:33 → 00:15:36 หายใจเข้าไปในนี้พยายามทำให้ช้าที่สุด
00:15:36 → 00:15:38 เท่าที่เป็นไปได้นะครับเหตุผลที่มันเป็น
00:15:38 → 00:15:41 เช่นนั้นเพราะว่าบางคนเวลาเกิด Panic
00:15:41 → 00:15:42 attack เนี่ยหายใจเร็วจนกระทั่งเป็น
00:15:42 → 00:15:44 กลุ่มอาการที่เราเรียกว่าไฮเปอร์เป็น
00:15:45 → 00:15:46 ทะเลชันเป็นการหายใจปล่อยโอกาส
00:15:46 → 00:15:49 คาร์บอนไซม์ออกไปมากจนเกินไปเลือดของเรา
00:15:49 → 00:15:51 เกิดความเป็นด่างเส้นเลือดสมองของเราหด
00:15:51 → 00:15:53 ตัวลงเราก็เกิดอาการทั้งหมดที่ว่ามาทั้ง
00:15:53 → 00:15:55 หมดนะครับดังนั้นเราต้องไปเพิ่มธรรมดาใส่
00:15:55 → 00:15:57 เดี๋ยวร่างกายเราโดยการหายใจเอาลมหายใจ
00:15:57 → 00:16:00 ของเราที่มันออกไปอ่ะกลับเข้าไปใหม่
00:16:00 → 00:16:04 ก็ได้นะครับหรือง่ายๆใส่แมสก็ได้เดี๋ยว
00:16:04 → 00:16:05 นี้ใส่แมสแล้วหายใจมันอยู่ในแมสนั่นแหละ
00:16:05 → 00:16:07 เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นนะครับหรือเอาถุง
00:16:07 → 00:16:09 พลาสติกถุงกระดาษเนี่ยมันหายใจเข้าไป
00:16:09 → 00:16:11 เดี๋ยวก็จะดีขึ้นนะครับ
00:16:11 → 00:16:14 นั่นก็คือวิธีในการแก้ไขเบื้องต้น
00:16:14 → 00:16:17 แต่มันก็มีการใช้ยาเหมือนกันที่จะทำให้
00:16:17 → 00:16:21 อาการดีขึ้นยาส่วนใหญ่ที่อันนี้ผมก็สั่ง
00:16:21 → 00:16:23 จ่ายเป็นการส่วนตัวเหมือนกันนะครับผมก็
00:16:23 → 00:16:25 รักษาคนไข้คล้ายๆอาการแบบนี้เราจะให้ยา
00:16:25 → 00:16:26 กลุ่มที่เรียกว่า
00:16:26 → 00:16:32 serotonin ชื่อ
00:16:32 → 00:16:36 นะครับหรือ ssri นะครับกลุ่มยา ssr ที่
00:16:36 → 00:16:38 เราจ่ายกันบ่อยๆพวกนี้ก็ยกตัวอย่างเช่นยา
00:16:38 → 00:16:40 กลุ่มเซอร์ฮาลีนนะครับหรือบางคนเรียกว่า
00:16:40 → 00:16:41 Loft
00:16:41 → 00:16:44 ก็จ่ายปกติตรงนี้ต้องให้หมอเขาดูนะครับ
00:16:44 → 00:16:46 ว่าเขาจะจ่ายเท่าไหร่แต่ว่าเวลาผมเจอ
00:16:46 → 00:16:49 อาการคล้ายๆอย่างนี้ผมจะใช้ขนาดต่ำๆก่อน
00:16:49 → 00:16:51 เช่น 25 มิลลิกรัมแล้วดูซิว่ามีปัญหาอะไร
00:16:51 → 00:16:53 ไหมนะครับเพราะยาพวกนี้บางคนกินแล้วคลื่น
00:16:53 → 00:16:55 ไส้อาเจียนมีอาการอย่างอื่นแปลกๆมานะครับ
00:16:55 → 00:16:58 เราก็จะให้เขากินเข้าไปก่อนแล้วก็ลองดูซิ
00:16:58 → 00:17:01 ว่าสักประมาณอาทิตย์นึงโอเคไหมถ้าโอเคเรา
00:17:01 → 00:17:03 อาการยังไม่หายแล้วค่อยๆปรับยาขึ้นทีละ
00:17:03 → 00:17:05 นิดทีละหน่อยทีละ 25-25-25 อย่างเงี้ยไป
00:17:05 → 00:17:08 เรื่อยๆจนกระทั่งอยู่ที่ประมาณ 75-100
00:17:08 → 00:17:10 อย่างเงี้ยผมก็ส่วนใหญ่โดยประสบการณ์ส่วน
00:17:10 → 00:17:13 ตัวนะครับอาการของมักจะดีขึ้นนะฮะแต่ยัง
00:17:13 → 00:17:15 ไงก็ตามผมไม่ได้รักษาด้วยตัวเองถ้าเป็น
00:17:15 → 00:17:17 อาการทางด้านแพนิคเนี่ยผมจะส่งให้หมอ
00:17:17 → 00:17:19 จิตเวชดูแต่ถ้ามันมีอาการอื่นทางกายร่วม
00:17:19 → 00:17:22 ด้วยแล้วก็กว่าจะถึงนัดหมอจิตเวชนี่อีกโห
00:17:22 → 00:17:24 เป็นเดือนเลยอันนั้นผมจะเริ่มอยากไปก่อน
00:17:24 → 00:17:26 นะครับเพราะว่ามันจะสามารถช่วยเหลือพวก
00:17:27 → 00:17:30 เนี้ยให้ดีขึ้นได้นะครับแต่ถ้าใช้ยาตัว
00:17:30 → 00:17:32 นี้ไม่ได้ตัวอื่นก็มีให้เลือกใช้เยอะแยะ
00:17:32 → 00:17:34 ไปหมดนะครับซึ่งตรงนั้นก็คงจะต้องปรึกษา
00:17:34 → 00:17:36 หมอจิตเวชนะครับเช่นอ่าอาจจะใช้ยากลุ่ม
00:17:36 → 00:17:39 fluox สักทีเอ่อ site Prime พวกนี้เป็น
00:17:39 → 00:17:42 ต้นนะครับแล้วก็จะสามารถเลือกแล้วตั้งแต่
00:17:42 → 00:17:45 อาการได้นะครับและเมื่อให้ยาพวกนี้แล้ว
00:17:45 → 00:17:48 คุมอาการไปได้แล้วเนี่ยส่วนใหญ่เท่าที่ผม
00:17:48 → 00:17:51 เห็นเพื่อนหมอจิตเวชรักษานะครับเขาก็จะ
00:17:51 → 00:17:53 ให้กินยาพวกนี้อย่างน้อยๆก็ 6 เดือนหรือ
00:17:53 → 00:17:56 ปีนึงส่วนใหญ่ก็จะสักปีนึงนะครับแล้วพอ
00:17:56 → 00:17:59 ครบปีแล้วเนี่ยค่อยๆเริ่มหยุดยาแต่ต้องทำ
00:17:59 → 00:18:02 ความเข้าใจก่อนว่าหยุดแล้วเดี๋ยวมันก็
00:18:02 → 00:18:04 กลับมาเป็นใหม่ได้ในบางคนนะครับบางคนหาย
00:18:04 → 00:18:06 ไปประมาณ 2-3 ปีแล้วไม่เป็นเลยแล้วอยู่ๆ
00:18:06 → 00:18:08 กลับมาเป็นใหม่ก็ได้นะครับแต่ตอนนั้น
00:18:08 → 00:18:12 เนี่ยถ้าท่านยังมีสติแล้วก็จำว่าเฮ้ยโรค
00:18:12 → 00:18:15 นี้มันไม่ตายมันรักษาได้มันไม่ได้ทำอะไร
00:18:15 → 00:18:18 ฉันมันเป็นสัญญาณหลอกนะครับ
00:18:18 → 00:18:25 ก็แก้ไขได้นะครับอ่าแก้ไขได้พวกนี้ก็ต้อง
00:18:25 → 00:18:29 ต้องพยายามไปดูนะครับว่าเราจะรักษาด้วย
00:18:29 → 00:18:31 วิธีไหนแต่ส่วนใหญ่แล้วยาที่เราให้ก็
00:18:31 → 00:18:35 อย่างที่บอกนะครับคือยากลุ่ม selective
00:18:35 → 00:18:37 zeroticer พวกนี้นะครับเราก็จะให้ตัวนี้
00:18:37 → 00:18:39 นะยาตัวอื่น
00:18:39 → 00:18:42 ผมไม่ค่อยแนะนำโดยเฉพาะยากลุ่มที่เรียก
00:18:42 → 00:18:45 ว่า benso diasipine เช่น snack เอาพระ
00:18:45 → 00:18:47 โซน Ram นะครับโคลนหน้า 4 แต้ม Reverse
00:18:48 → 00:18:51 อะไรพวกนี้เหตุผลเพราะว่าอะไรโอเคยาพวก
00:18:51 → 00:18:54 นี้มันระงับอาการ Panic ได้เร็วมากนะครับ
00:18:54 → 00:18:56 มันจะง่วงหน่อยแต่มันระงับได้เร็วมาก
00:18:56 → 00:18:59 ปัญหาของมันก็คือจะติดยาง่ายมากเหมือนกัน
00:18:59 → 00:19:03 นะครับติดยาง่ายมากแล้วนอกเหนือจากนี้ก็
00:19:03 → 00:19:05 คือมันทำให้การนอนหลับเราผิดปกติและเมื่อ
00:19:05 → 00:19:08 ไหร่เราหยุดยาแพนิคบางคนเป็นมากขึ้นเราก็
00:19:08 → 00:19:10 นอนไม่หลับมากขึ้นนะครับดังนั้นยากลุ่ม
00:19:10 → 00:19:14 พวกเนี้ยผมจะไม่ให้เลยนะครับในการรักษา
00:19:14 → 00:19:16 ของผมไม่เคยจ่ายเลยสักเคสเดียวนะครับยก
00:19:16 → 00:19:18 เว้นๆอยู่ในโรงพยาบาลผมอาจจะให้บางครั้ง
00:19:18 → 00:19:21 แต่กลับบ้านไม่เคยให้หรือถ้ามาที่คลินิก
00:19:21 → 00:19:23 ตรวจกับผมเนี่ยผมไม่เคยให้ยากลุ่มนี้เลย
00:19:23 → 00:19:26 สักครั้งเดียวก็ไม่เคยนะครับอ่าถ้าจะให้
00:19:27 → 00:19:29 ก็ต้องให้อยู่ในการควบคุมของหมอจิตเวชเรา
00:19:29 → 00:19:32 ไม่สามารถไปใช้เองได้แล้วเพราะว่าปัญหา
00:19:32 → 00:19:34 ที่ผมเจอเยอะที่สุดก็คือเคยได้ยากลุ่มพวก
00:19:34 → 00:19:37 นี้มาใช้แล้วแล้วมันติดแล้วติดหมายความ
00:19:37 → 00:19:41 ว่าถ้าไม่ใช้จะมีอาการแล้วบางครั้งใช้ขณะ
00:19:41 → 00:19:43 เดิมก็ไม่ได้ก็ต้องเพิ่มขนาดเข้าไปเพราะ
00:19:43 → 00:19:44 ไม่งั้นเนี่ยอาการมันจะมาแล้วหรือไม่งั้น
00:19:44 → 00:19:46 ก็นอนไม่หลับละนะครับก็ต้องไปกินเพิ่ม
00:19:46 → 00:19:49 ขึ้นหรือบางคนต้องไปกินเหล้ากินอะไรเพิ่ม
00:19:49 → 00:19:52 ขึ้นก็มีอาการเข้าไปใหญ่แล้วพอมาหาหมอทาง
00:19:52 → 00:19:56 ด้านโรคทางกายก็จะบอกหมอว่าไม่ได้หรอกผม
00:19:56 → 00:19:59 ต้องกินยาตัวนี้ไม่กินมันไม่หายหมอจะให้
00:19:59 → 00:20:01 หยุดไม่ได้หยุดแล้วเดี๋ยวเดี๋ยวผมเป็น
00:20:01 → 00:20:03 ขึ้นมาทำยังไงหมอรับผิดชอบหรือเปล่าอย่าง
00:20:03 → 00:20:06 นี้นะครับผมเจอบ่อยมากเลยที่เจอแล้วติด
00:20:06 → 00:20:09 ไอ้ยาพวกนี้นะครับแล้วระยะยาวยาวพวกเนี้ย
00:20:09 → 00:20:12 มันไม่ใช่แค่ติดนะครับมันมีผลต่อระบบความ
00:20:12 → 00:20:16 จำบางคนกินระยะยาวก็ความจำก็เสื่อมได้
00:20:16 → 00:20:18 ง่ายขึ้นนะครับอ่าหยุดแล้วมันก็จะดีขึ้น
00:20:18 → 00:20:20 แต่ถ้ายิ่งกินมานานๆอันนี้ก็อาจจะมีปัญหา
00:20:20 → 00:20:24 ระยะยาวได้นะครับอันนี้เป็นสิ่งที่ปกติผม
00:20:24 → 00:20:27 ไม่ไม่แนะนำให้ท่านกินยากลุ่มนี้เด็ดขาด
00:20:27 → 00:20:29 ถ้าท่านกินอยู่นะครับแนะนำว่าปรึกษาคุณ
00:20:29 → 00:20:33 หมอที่รักษาเพื่อพยายามปรับลดยาแล้วก็หา
00:20:33 → 00:20:36 วิธีอื่นหรือหายาตัวอื่นที่จะมาช่วยควบ
00:20:36 → 00:20:37 คุมอาการของท่านนะครับ
00:20:37 → 00:20:40 โอเควันนี้โดยสรุปนะครับอาการ Panic ก็
00:20:40 → 00:20:43 คือจริงๆมันเป็นอาการอะไรที่ตกใจสุดขีดนะ
00:20:43 → 00:20:46 ครับเหมือนกับตัวเองจะตายมีอาการใจสั่น
00:20:46 → 00:20:49 แน่นหน้าอกหน้ามืดนะครับบางคนก็มีปากปาก
00:20:49 → 00:20:52 ชาๆมือช้าๆหน้าชาๆนะครับมีเหงื่อออกตาม
00:20:52 → 00:20:54 ตัวคลื่นไส้อาเจียนเป็นได้หมดทุกอย่าง
00:20:54 → 00:20:55 แล้วก็เวลาที่เป็นเนี่ย
00:20:55 → 00:20:59 มันเป็นในสถานการณ์อะไรก็ได้เลยเวลาเป็น T
00:20:59 → 00:21:01 เนี่ยมันใช้เวลาประมาณ 2-3 นาทีเท่านั้น
00:21:01 → 00:21:03 ตำแต่เริ่มเป็นจนกระทั่งเป็นแรงที่สุด
00:21:03 → 00:21:06 แล้วก็บังปล่อยไว้สักพักนึง 20-30 นาที
00:21:06 → 00:21:08 บางทีมันหายไปเองไปหาหมอบางทีก็ตรวจแล้ว
00:21:08 → 00:21:11 ไม่เจออะไรทุกอย่างเลยนะครับแต่ก็ต้อง
00:21:11 → 00:21:13 ตรวจนะครับตรวจหาโรคทางกายให้ครบทุกอย่าง
00:21:13 → 00:21:16 ก่อนนะครับอ่าพอหลังจากนั้นเราก็รักษาได้
00:21:16 → 00:21:19 นะครับทีนี้เวลาที่รักษาก็มียาอยู่หลาย
00:21:19 → 00:21:22 ตัวนะครับต้องปรึกษาคุณหมอทั้งนั้นจิตเวช
00:21:22 → 00:21:24 นะครับโรคแพนิคเราสามารถเจอร่วมกับอาการ
00:21:24 → 00:21:28 โรคทางจิตเวชอื่นๆหรือโรคทางกายก็ได้นะ
00:21:28 → 00:21:30 ครับมันจะทำให้โรคทางกายเวลากำเริบเนี่ย
00:21:30 → 00:21:34 เป็นมากขึ้นแล้วก็มีการวิจัยว่าถ้าเรามี
00:21:34 → 00:21:37 โรคทางกายเช่นโรคหัวใจกับโรคปอดแล้วมี
00:21:37 → 00:21:39 อาการแฮนิคกำเริบบ่อยๆนะครับโอกาสที่จะ
00:21:39 → 00:21:42 เสียชีวิตนั้นสูงกว่าคนที่ไม่มีโรคแพนิค
00:21:42 → 00:21:45 นะครับดังนั้นต้องรักษาคู่กันไปนะฮะโอเค
00:21:45 → 00:21:47 วันนี้ก็หวังว่าจะให้ความกระจ่างแก่หลายๆ
00:21:47 → 00:21:49 คนได้นะครับวันนี้ก็เท่านี้นะครับขอบคุณ
00:21:49 → 00:21:52 มากครับสวัสดีครับ