00:00:00 → 00:00:04 คนเราทุกคนเกิดมาแล้วต้องตายแต่ 30
00:00:04 → 00:00:08 วินาทีสุดท้ายของชีวิตเราเห็นอะไรมาฟังคำ
00:00:08 → 00:00:16 อธิบายแบบวิทยาศาสตร์กันนะครับ
00:00:16 → 00:00:19 สวัสดีครับทุกท่านเพจหมอท้อทางบาดเดียว
00:00:19 → 00:00:22 และ YouTube Channel หมอซอสทางบาดเดียว
00:00:22 → 00:00:25 นะครับกระผมหมอเกมนายแพทย์อดุลชัยธรรมา
00:00:25 → 00:00:27 แสงเสริฐนะครับก็กลับในครั้งในเรื่องของ
00:00:27 → 00:00:30 ลึกลับทางการแพทย์เรื่องลึกลับทางการ
00:00:30 → 00:00:32 แพทย์ในวันนี้เนี่ยเป็นเรื่องเกี่ยวกับ
00:00:32 → 00:00:34 ความตาย
00:00:34 → 00:00:37 30 วินาทีสุดท้ายในชีวิตของเราเนี่ยเรา
00:00:37 → 00:00:41 เห็นอะไรจริงๆแล้วเนี่ยมันเป็นคำถามทาง
00:00:41 → 00:00:45 บ้านนะครับนะเดี๋ยวหมอจะให้ดู
00:00:45 → 00:00:49 คือว่ามีคนเขาเรียกว่าแฟนคลับก็แล้วกันมา
00:00:49 → 00:00:52 comment ใต้ใน YouTube บอกว่าคุณหมอครับ
00:00:52 → 00:00:55 ผมอยากจะเล่าอยากจะฟังเกี่ยวเรื่องของ
00:00:55 → 00:00:57 กระบวนการการเสียชีวิตหน่อยเพราะว่าตัว
00:00:57 → 00:01:00 เขาเองเนี่ยมีอาการแพ้อาหารอย่างรุนแรง
00:01:00 → 00:01:05 หายใจไม่ออกหน้ามืดพอไปถึงโรงพยาบาลก็จอ
00:01:05 → 00:01:09 ดับไปเลยคือไม่รู้สึกตัวมาฟื้นอีกทีนึงก็
00:01:09 → 00:01:12 แบบเออมีหมอมีพยาบาลมาแล้ว
00:01:12 → 00:01:17 เขาก็เลยคิดว่าจริงๆแล้วตอนคนเราที่จะ
00:01:17 → 00:01:19 เสียชีวิตเนี่ยมันไม่ได้เจ็บปวดหรือทรมาน
00:01:19 → 00:01:22 เหมือนที่เขาคิดหรือเปล่าแล้วก็จะไม่น่า
00:01:22 → 00:01:26 จะมีเวลามานั่งระลึกถึงความหลังเห็นภาพ
00:01:26 → 00:01:29 เหมือนในหนังว่าตัวเองเคยทำอะไรไหมหรือ
00:01:29 → 00:01:33 เปล่าเพราะว่าสมองเนี่ยทำงานเพื่อรักษา
00:01:33 → 00:01:35 ชีวิตนะครับแล้วก็
00:01:35 → 00:01:38 อยากจะมาถามว่ามันมีความจริงมากน้อยแค่
00:01:38 → 00:01:41 ไหนเพราะว่าเคยคุยกับเพื่อน
00:01:41 → 00:01:44 ที่ผ่านประสบการณ์การเสียชีวิตมาแล้วเขา
00:01:44 → 00:01:47 ก็บอกว่าเฮ้ยเขาไม่รู้สึกอะไรเลยนะเหมือน
00:01:48 → 00:01:51 กับจอภาพมืดแล้วก็ดับไป
00:01:51 → 00:01:55 น่าสนใจไหมใครเคยมีประสบการณ์
00:01:55 → 00:01:58 ในการตายมาแล้วบ้าง
00:01:58 → 00:01:59 ยกมือ
00:01:59 → 00:02:03 หมอยกมือค่ะเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังจริงๆเคย
00:02:03 → 00:02:06 เล่าให้ฟังแล้วในเรื่องของ wingat เดี๋ยว
00:02:06 → 00:02:09 จะมาเล่าให้ฟังอีกทีนึงเพราะฉะนั้นตรงนี้
00:02:09 → 00:02:13 มีความน่าสนใจว่าเฮ้ยก่อนที่เราจะตายอยู่
00:02:13 → 00:02:16 ดีๆจอภาพมันดับไปแล้วเราก็ไม่มีความเจ็บ
00:02:16 → 00:02:20 ปวดหรือมันมีภาพเหมือนในหนังหรือเปล่ามี
00:02:20 → 00:02:23 อุโมงค์มีแสงมี
00:02:23 → 00:02:28 คนมาคอยรับเราอย่างนั้นหรือเปล่า
00:02:28 → 00:02:31 ปรากฏว่าตอนที่น้องเขาถามเนี่ยหมอก็นึก
00:02:31 → 00:02:35 ถึงคำพูดที่ว่าเนียนเดสต์ experience
00:02:35 → 00:02:40 ประสบการณ์ตอนที่จะใกล้ตายปรากฏว่าในช่วง
00:02:40 → 00:02:43 เวลาเดียวกันกับที่น้องเขาถามมาเนี่ยที่
00:02:43 → 00:02:46 ประเทศอเมริกามีการตีพิมพ์เขาเรียกว่า
00:02:46 → 00:02:50 Paper หรือ journal เกี่ยวกับการฟื้นกู้
00:02:50 → 00:02:54 ชีวิตรีซักสเตชั่นโดยสถาบันที่ชื่อว่า n
00:02:54 → 00:02:57 Yu แหล่งก่อน nyu languard เป็นสถาบัน
00:02:57 → 00:02:59 ที่เรียกว่าเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่และเป็น
00:02:59 → 00:03:01 อาคารบิดที่สอนแพทย์และก็นักเรียนแพทย์
00:03:01 → 00:03:05 ที่ใหญ่ที่สุดในนิวยอร์คที่พิมพ์เรื่อง
00:03:05 → 00:03:07 เกี่ยวกับว่า
00:03:07 → 00:03:10 การศึกษาเกี่ยวกับคนไข้ที่รอดชีวิตจาก
00:03:10 → 00:03:14 ภาวะหัวใจวายเห็นอะไรก่อนตาย
00:03:15 → 00:03:17 แล้วมันกลายเป็นเรื่องใหญ่เลยนะในที่
00:03:17 → 00:03:20 อเมริกาเป็นเรื่องใหญ่เลย
00:03:20 → 00:03:25 หมอจะมาพูดรายละเอียดให้ฟังว่าเขามีการทด
00:03:25 → 00:03:28 ลองอย่างไรเขาทดลองเรื่องเกี่ยวกับการตาย
00:03:28 → 00:03:31 โดยตรงหรอมันเป็นไปได้หรอสถาบันใหญ่ขนาด
00:03:31 → 00:03:35 นี้หรือเขามีวัตถุประสงค์อะไรแล้วสิ่งที่
00:03:35 → 00:03:38 มันเกิดขึ้นหรือข้อมูลเข้าได้รับเนี่ยมัน
00:03:38 → 00:03:41 คืออะไร
00:03:41 → 00:03:44 เริ่มเลือกเลยว่าเขาก็บอกว่าเขาเนี่ย
00:03:44 → 00:03:49 ศึกษาข้อมูลตั้งแต่ปี 2007-2020 โดยศึกษา
00:03:49 → 00:03:53 ในคนไข้ประมาณ 500-67 คน 5 6 7 นี่เลข
00:03:53 → 00:03:55 88 นะ
00:03:55 → 00:04:00 อันนี้มันบอกว่าสำหรับคนทำงานวิจัยตัวเลข
00:04:00 → 00:04:04 มันทำไมเรียนกันสวยจัง 567 อันนี้มีความ
00:04:04 → 00:04:08 สงสัยนะเขาบอกว่าคนไข้ 55 167 คนที่มี
00:04:08 → 00:04:13 ภาวะหัวใจวายเนี่ยเขาทำการติดมอนิเตอร์
00:04:13 → 00:04:17 หรือ eeg เพื่อนจะดูปริมาณออกซิเจนหรือ
00:04:17 → 00:04:22 กระบวนการการทำงานของสมองว่าในภาวะที่หัว
00:04:22 → 00:04:25 ใจหยุดเต้นหรือสมองทำงานอย่างไรจริงๆเป้า
00:04:25 → 00:04:27 วัตถุประสงค์ของอันนี้ก็คือว่า
00:04:27 → 00:04:30 เราเคยเห็นเราเคยได้ยินเรื่องของคุณเอส
00:04:30 → 00:04:34 กันตพงศ์ใช่ไหมที่ว่าพอมีการฟื้นคู่ชีวิต
00:04:34 → 00:04:36 ปรากฏว่าฟื้นขึ้นมาแล้วพูดได้แต่ภาษา
00:04:36 → 00:04:39 อังกฤษไม่ได้พูดภาษาไทยเพราะเขาบอกว่าใน
00:04:39 → 00:04:42 ช่วงที่มีสมองขาดออกซิเจนหรือขาดเลือดไป
00:04:42 → 00:04:44 เลี้ยงหรือในการที่เขาทำการกู้ชีพ CPR
00:04:44 → 00:04:49 เนี่ยมันมีสมองบางส่วนที่เสียหายเขาจะ
00:04:49 → 00:04:53 พยายามแก้ไขปัญหาตรงนี้อ่าเพราะฉะนั้น
00:04:53 → 00:04:54 อย่างที่บอกเขาไม่ได้ศึกษาเรื่องของความ
00:04:54 → 00:04:57 ตายนะเขาจะดูว่าเฮ้ยสมองมันมีการเสียหาย
00:04:57 → 00:05:01 อะไรแล้วก็ในส่วนไหนที่มันเสียหายบ้างโดย
00:05:01 → 00:05:05 เขามีกระบวนการอย่างที่บอกว่าติด eeg ดู
00:05:05 → 00:05:09 การทำงานของคลื่นสมองและเน้นไปเกี่ยวกับ
00:05:09 → 00:05:13 การได้ยินและการเห็นการรับรู้กันได้ยิน
00:05:13 → 00:05:15 และการเห็นว่าก่อนที่คนไข้จะเสียชีวิต
00:05:15 → 00:05:19 เนี่ยคนไข้รับรู้หรือได้ยินเหตุการณ์อะไร
00:05:19 → 00:05:22 บ้างหรือเปล่า
00:05:22 → 00:05:25 เขาเอาอย่างนี้เขาบอกเอาแท็บเล็ต
00:05:25 → 00:05:28 เปิดให้คนไข้เปิดเอาไว้นะ
00:05:28 → 00:05:31 เป็นภาพรูปภาพผลไม้ 10 ลูกแล้วก็เปิด
00:05:31 → 00:05:36 เสียงผ่านการมีค่านาทีในระหว่างที่ทำ CPR
00:05:36 → 00:05:40 ไปด้วยเข้าใจแล้วอยากจะรู้ว่าในระหว่างใน
00:05:40 → 00:05:42 ระหว่างนั้นเนี่ยที่คนไข้หัวใจหยุดเต้นไป
00:05:42 → 00:05:47 แล้วเนี่ยคนไข้รับรู้อะไรเพื่อว่าจะหา
00:05:47 → 00:05:51 วิธีการเขาเรียกดูแลสมองในช่วงทำสีพีอาร์
00:05:51 → 00:05:54 วัตถุประสงค์มันแค่นั้น
00:05:54 → 00:05:59 ปรากฏว่าคนที่เขาทำ CPR 567 คนเนี่ยมี
00:05:59 → 00:06:00 แค่นั้น
00:06:00 → 00:06:03 53 คนที่
00:06:03 → 00:06:07 เขาเรียกว่ากลับมาฟื้นฟูได้เต็มที่กลับมา
00:06:07 → 00:06:11 สามารถมาคุยสมองไม่มีการเสียหายเพราะว่า
00:06:11 → 00:06:15 เขาก็ต้องตัดกลุ่มคนที่มีปัญหาหรือโคม่า
00:06:15 → 00:06:19 ไปใช่ไหมโดยเขาบอกว่าพวกนี้เนี่ยระหว่าง
00:06:19 → 00:06:20 ที่
00:06:20 → 00:06:22 ระหว่างที่หัวใจหยุดเต้นเนี่ย
00:06:23 → 00:06:26 คลื่นสมองมันมีการทำงานอยู่
00:06:26 → 00:06:29 โดยเฉพาะคลื่นสมองที่ชื่อว่า Grammar
00:06:29 → 00:06:33 Wave แล้วจะมีคลื่นสมองอื่นๆด้วยแต่เรา
00:06:33 → 00:06:35 จะเน้นตัวแกมม่าเว็บก่อนนะแล้วเดี๋ยวจะ
00:06:35 → 00:06:38 เล่าให้ฟังว่า Grammar web เนี่ยมันคือ
00:06:38 → 00:06:40 อะไร
00:06:40 → 00:06:42 ฟังต่อ
00:06:42 → 00:06:45 แล้วปรากฏว่าอะไรรู้ป่ะไอ้ภาพที่เขาให้ดู
00:06:45 → 00:06:48 ก่อนแล้วก็เสียงให้ดูก่อนว่าเรื่องผลไม้
00:06:48 → 00:06:51 ที่เปิดอยู่ในช่วงระยะเวลาที่มีการทำ CPR
00:06:51 → 00:06:56 ไม่มีคนไข้คนไหนจำได้เลยนะมีบางคนมั่วถูก
00:06:56 → 00:06:58 เขาบอกว่า Random Lucky เพราะว่าถูกคน
00:06:58 → 00:07:03 นึงใน 11 คนจะ 53 คนเนี่ยนะ
00:07:03 → 00:07:06 สามารถรับรู้เขาเรียกว่า
00:07:06 → 00:07:10 CPR คือสามารถรับรู้เหตุการณ์เอาง่ายๆก็
00:07:10 → 00:07:13 คือว่ามีเหตุการณ์ที่เรียกว่าเมีย des
00:07:13 → 00:07:15 experia
00:07:15 → 00:07:17 ประสบการณ์ใกล้ตาย
00:07:17 → 00:07:19 น้อยมากนะ
00:07:19 → 00:07:21 11 คน
00:07:21 → 00:07:25 คือเอาง่ายรอดตายมา 53 ใช่ไหมมีแค่ประมาณ
00:07:25 → 00:07:30 11 คนที่สามารถที่มีประสบการณ์เนียน dss
00:07:30 → 00:07:32 relation และใน 11 คนอย่างที่บอกใน 500
00:07:32 → 00:07:37 กว่าคนที่เขาทำการ CPR มานะ
00:07:37 → 00:07:42 การตายเขาพูดนะการตายในความหมายของแพทย์
00:07:42 → 00:07:46 กับของคนทั่วไปอาจจะไม่เหมือนกันคนทั่วไป
00:07:46 → 00:07:50 หัวใจหยุดเต้นก็คือเสียชีวิตใช่ไหมแต่ทาง
00:07:50 → 00:07:53 การแพทย์เขาต้องดูว่าคลื่นสมองหยุดเต้น
00:07:53 → 00:07:55 ด้วยหยุดการทำงานด้วยหรือเปล่าคือสมอง
00:07:55 → 00:07:59 ต้องตายด้วยถ้า 2 อย่างนี้ตายถึงจะบอกว่า
00:07:59 → 00:08:04 ตายเคยจำได้ใช่ไหมมีการที่ว่าขโมยอวัยวะ
00:08:04 → 00:08:07 คนไข้แล้วเอาไปปลูกอีกคนนึงสมองก็ยังไม่
00:08:07 → 00:08:10 ทันตายเลยแต่บอกว่าเขาตายแล้ว
00:08:10 → 00:08:14 ดีนะดีนะไม่ได้บอกว่าที่ไหนแต่ถ้าใครพอจะ
00:08:14 → 00:08:16 จำได้เหตุการณ์ในเมืองไทยนี่แหละเพราะ
00:08:16 → 00:08:19 ฉะนั้นจะต้องมี 2 ส่วนที่ตายคือหัวใจหยุด
00:08:19 → 00:08:23 เต้นสมองหยุดเต้นแต่ประเด็นคือพอหัวใจ
00:08:23 → 00:08:26 หยุดเต้นไปแล้วสมองยังทำงานต่อไปอีก
00:08:26 → 00:08:29 ประมาณ 20-30 วินาที
00:08:29 → 00:08:32 ในช่วง 20-30 วินาทีนี่แหละที่มันเกิด
00:08:32 → 00:08:35 เหตุการณ์ที่เรียกว่า dearest explation
00:08:35 → 00:08:42 หรือประสบการณ์ก่อนตาย
00:08:42 → 00:08:46 เนี่ยมีภาวะเขาเรียกว่าล้มสมองกระทบ
00:08:46 → 00:08:49 กระเทือนล้มล้างสมองกระทบกระเทือน
00:08:50 → 00:08:53 ปรากฏว่าหลังทำการรักษาไปแล้ว
00:08:54 → 00:08:58 คนไข้มีอาการชักคนไข้อายุ 87 ปีมีอาการ
00:08:58 → 00:09:02 ชักคุณหมอคนนี้ก็เลยทำการตรวจ eeg ก็คือ
00:09:02 → 00:09:06 ตรวจคลื่นไฟฟ้าสมองเพื่อประเมินว่าสมอง
00:09:06 → 00:09:08 ของคนไข้มีปัญหาอะไร
00:09:08 → 00:09:12 ทำไมมันมีการชักเกิดขึ้นมีบาดแผลตรงไหนใน
00:09:12 → 00:09:16 สมองหรือเปล่าในขณะที่เขาตรวจ eeg นั้น
00:09:16 → 00:09:21 อยู่ดีๆคนไข้อายุ 87 มี Heart Attack
00:09:21 → 00:09:24 คือกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเสียชีวิต
00:09:24 → 00:09:28 เพราะฉะนั้นมันเลยมีการตรวจในคลื่นสมอง
00:09:28 → 00:09:31 ก่อนที่เขาจะตายเนี่ย 30 วินาทีมันพบว่า
00:09:31 → 00:09:33 มันมีกรรมมากเวฟ
00:09:33 → 00:09:36 ขึ้นอย่างรุนแรงเลยขึ้นแบบชัดเจนที่สุด
00:09:36 → 00:09:40 ก่อนที่คนไข้เสียชีวิตคราวนี้เมื่อกี้นี้
00:09:40 → 00:09:42 ก็พูดถึงเรื่อง grammar Wave ก่อนตาย
00:09:42 → 00:09:46 คลื่นสมองมันมีการทำงานโดยเฉพาะคลื่นที่
00:09:46 → 00:09:48 ชื่อว่า Grammar Wave Grammar Wave
00:09:48 → 00:09:50 คืออะไร
00:09:50 → 00:09:54 Grammar Wave จะพบได้ก็ต่อเมื่อมีการ
00:09:54 → 00:10:00 นั่งเข้าฌานสมาธิสูงๆหรือเป็นภาพเขาบอก
00:10:00 → 00:10:04 ว่ามันเป็นการสร้างภาพทารกเกิดขึ้นมาใน
00:10:04 → 00:10:08 สมองโดยดึงเมมโมรี่ recore ความทรงจำต่าง
00:10:08 → 00:10:15 ๆเข้ามาในอดีตสร้างเป็นภาพทารกล่ำให้เห็น
00:10:15 → 00:10:18 ตรงนี้อธิบายได้แล้วใช่ไหมว่าทำไมก่อนตาย
00:10:18 → 00:10:22 ถึงได้เห็นภาพย้อนหลังตั้งแต่อดีตจนถึง
00:10:22 → 00:10:26 ปัจจุบันอธิบายได้แล้ว 1 ข้อแล้วนะเพราะ
00:10:26 → 00:10:33 ในสมองมีการกระตุ้น
00:10:33 → 00:10:34 แต่
00:10:34 → 00:10:39 กราฟอื่นๆเนี่ยครบน้อยจะพบอีกอันนึง
00:10:39 → 00:10:43 ในช่วงระยะเวลาที่เกิดความฝัน
00:10:43 → 00:10:47 ที่ตั้งเวฟเนี่ยหรือการนั่งสมาธิในระดับ
00:10:47 → 00:10:53 สูงขึ้นมาในระดับอีกระดับหนึ่ง
00:10:53 → 00:10:59 น่าสนใจนะน่าสนใจนะ
00:10:59 → 00:11:01 ครั้งที่หมอก็เลยไปหา Paper ของคนที่เขา
00:11:01 → 00:11:04 ทำเรื่องเกี่ยวกับ experation ที่ในจำนวน
00:11:04 → 00:11:08 ที่เยอะมากกว่านั้นก็คือ 5,000 คนแต่
00:11:08 → 00:11:10 5,000 คนนี้ไม่ได้มีการตรวจขึ้นไฟฟ้า
00:11:10 → 00:11:15 สมองนะแต่เป็นการสัมภาษณ์โดย Doctor
00:11:15 → 00:11:17 jetfly long เนี่ยเขาตั้งสถาบันที่ชื่อ
00:11:17 → 00:11:18 ว่า
00:11:18 → 00:11:22 เนชั่นเลยนะก่อตั้งมาประมาณเกือบ 20 ปี
00:11:22 → 00:11:25 แล้วอ่ะ 1998
00:11:25 → 00:11:27 เขาอธิบายถึง
00:11:27 → 00:11:29 เขายังไงอ่ะ
00:11:29 → 00:11:32 ข้อมูลที่เกิดที่มีการสัมภาษณ์เขาบอกว่า
00:11:32 → 00:11:37 ในคนที่มีภาวะตายแล้วก็ฟื้นขึ้นมาหรือมี
00:11:37 → 00:11:40 การช่วยชีวิตและฟื้นขึ้นมาเนี่ยมีแค่ 45%
00:11:40 → 00:11:43 เท่านั้นที่สามารถมาพูดเกี่ยวกับเรื่อง
00:11:43 → 00:11:45 เกี่ยวกับ neth experation คือ
00:11:45 → 00:11:47 ประสบการณ์การเสียชีวิต
00:11:47 → 00:11:51 อีก 55% ก็คือจอภาพได้
00:11:51 → 00:11:54 ดังนั้นแน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะพบ
00:11:54 → 00:11:57 ประสบการณ์ก่อนเสียชีวิต
00:11:57 → 00:12:00 55% หรืออาจจะมากกว่านั้นในบางเปเปอร์
00:12:00 → 00:12:05 มากกว่านั้นส่งให้ฟัง
00:12:05 → 00:12:07 โดยประสบการณ์การเสียชีวิตเขาแบ่งเป็น 2
00:12:07 → 00:12:31 ส่วนคือประสบการณ์แบบ Positive Positive
00:12:31 → 00:12:32 ก็คืออะไรรู้สึกร่างร่องรอยเบาหวิวไม่รู้สึกเจ็บปวดใดๆอีกต่อไปรู้สึกถึงแสงสว่างสีขาวอันอบอุ่นอันนี้นะมีเรื่องจริงตัวของหมอเองเคยมีประสบการณ์อย่างนี้ก็คือว่าตอนที่ไปวิ่งคือจริงๆเนี่ยปกติก่อนหน้านี้นะสักตอนอายุ
00:12:32 → 00:12:32
00:12:32 → 00:13:00 เป็นนักกีฬาวิ่งโอ้โหเก่งแข็งแรงมากแต่พอเทรนนิ่งคือมาเป็นศัลยแพทย์เนี่ยมาฝึกเรียนสันติภาพก็ไม่ได้ทำการฝึกเลยเอาแต่เรียนก็แล้วกันเพราะมันไม่มีเราไม่มีเวลาวิ่งงานยุ่ง
00:13:00 → 00:13:05 ลงไปนอนนอนระหว่างที่นอนนั้นน่ะ
00:13:06 → 00:13:20 โอ๊ยรู้สึกอะไรวะแล้วรู้สึกแบบมันเป็นความรู้สึกที่เบาสบายและอบอุ่นเหมือนแบบไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนแบบนั้นเลยอ่ะ
00:13:20 → 00:13:23 ระหว่างที่เรากำลังลอยไปอยู่อย่างนั้นนะ
00:13:23 → 00:13:25 ได้ยินเสียง
00:13:25 → 00:13:27 เสียงแฟน
00:13:27 → 00:13:32 เรียกพี่เป็นอะไรพี่เป็นอะไรพี่เป็นอะไร
00:13:32 → 00:13:35 ปรากฏลืมตาขึ้นมามีคนมุงอยู่เต็มเลย
00:13:35 → 00:13:38 [เสียงหัวเราะ]
00:13:38 → 00:13:40 เราก็งง
00:13:40 → 00:13:42 เราก็งงแล้วเราก็
00:13:42 → 00:13:43 มอง
00:13:43 → 00:13:47 เกิดอะไรขึ้นเขาบอกตะกี้นี้พี่ชัก
00:13:47 → 00:13:49 เราก็
00:13:49 → 00:13:52 ชักยังไงเขาบอกว่าเหมือนเกร็งแบบ
00:13:52 → 00:13:58 หน้าบิดเบี้ยวเลยอ่ะ
00:13:58 → 00:14:01 อันนี้เรื่องจริงเลยนะแล้วหลังจากนั้นนะ
00:14:01 → 00:14:03 เราไปตรวจเพราะเราคิดว่าหัวใจเราผิดปกติ
00:14:03 → 00:14:06 ไงเพราะวิ่งแล้วมันเหนื่อยมาก
00:14:06 → 00:14:11 ไปทำสเต็กมีหมอนั่งดูเลยแล้วให้เราวิ่งพอ
00:14:11 → 00:14:15 กดโอ้โหวิ่งจนจบคอร์สของ Excel เพราะว่า
00:14:15 → 00:14:18 มันจะเป็นลูกวิ่งใช่ป่ะแล้วมันค่อยๆปรับ
00:14:18 → 00:14:22 ความชันสูงขึ้นสูงขึ้นสูงขึ้นคือหมอว่า
00:14:22 → 00:14:27 เขากะให้เราวิ่งจนแบบเนาะ
00:14:27 → 00:14:30 ปรากฏว่าชันขนาดนี้แล้วเรายังวิ่งได้อีก
00:14:30 → 00:14:32 อย่าง 45 องศา
00:14:32 → 00:14:36 เขาบอกปกติไม่เจออะไร
00:14:36 → 00:14:39 นี่เรื่องจริงเลยนี่เรื่องจริงเลยนะมาพูด
00:14:39 → 00:14:43 ต่อครั้งที่ประสบการณ์แบบ Negative ก็คือ
00:14:43 → 00:14:46 แบบย่ำแย่เขาบอกจะเจออะไรเขาบอกว่าจะเจอ
00:14:46 → 00:14:51 แต่ความแบบโศกเศร้าเจอแบบความร้อนนะแล้ว
00:14:51 → 00:14:56 ก็ความโกรธเกรี้ยวเขาบอกว่าบางคนก็เห็น
00:14:56 → 00:15:00 นรกนี่คือคนที่มี
00:15:00 → 00:15:05 2 กลุ่มนะกลุ่ม Positive
00:15:05 → 00:15:10 มีประมาณ 900 ล้านคนนะในการศึกษาปี 2011
00:15:10 → 00:15:17 ว่ามีเนี่ย
00:15:17 → 00:15:21 30 วินาทีสุดท้ายก่อนเสียชีวิตคุณเห็น
00:15:21 → 00:15:24 อะไรนะแบบวิทยาศาสตร์อย่างที่บอกว่าคนไข้
00:15:24 → 00:15:29 ที่มีภาวะหัวใจวายเขาตรวจเขาเอาคืนเขา
00:15:29 → 00:15:32 ตรวจขึ้นสมองและทำการ CPR ใช่ไหม
00:15:32 → 00:15:36 ปรากฏว่ากราฟในสมองก่อนที่หัวใจจะหยุด
00:15:36 → 00:15:40 เต้นเนี่ยมี gramma Wave อย่างที่หมอพูด
00:15:40 → 00:15:44 ไปกับกีต้าร์แก้มเป็นการสร้างภาพให้เรา
00:15:44 → 00:15:51 แกรมในสมองดึงข้อมูลในชีวิตตั้งแต่อดีตจน
00:15:51 → 00:15:54 ถึงปัจจุบันมาสร้างภาพ
00:15:54 → 00:15:57 20% ที่กลับมาจากความตายสมองทำงาน
00:15:57 → 00:15:59 สมบูรณ์ให้พี่เข้าปั๊มช่วยชีวิตพอที่จะมา
00:16:00 → 00:16:03 สัมภาษณ์ได้ก็คือ 50% 50 กว่าคนและมี
00:16:03 → 00:16:06 เพียง 45% ก็คือครึ่งหนึ่งมีประสบการณ์
00:16:06 → 00:16:09 ที่พูดเกี่ยวกับเมีย descripation
00:16:09 → 00:16:14 อีก 55% ที่กลับมาจากการฟื้นคืนชีวิต
00:16:14 → 00:16:17 ไม่มีประสบการณ์รับรู้ก็คือจอภาพดับอัน
00:16:17 → 00:16:20 นี้จะพูดเล่าเรื่องของเพื่อนให้ฟังเพื่อน
00:16:20 → 00:16:24 หมอตามอายุประมาณสัก 45 ปี
00:16:24 → 00:16:28 เขาเล่าให้ฟังว่าตอนเช้าตื่นมา
00:16:28 → 00:16:31 อาบน้ำเสร็จอยู่ดีๆแน่นหน้าอกเคยจำได้ว่า
00:16:31 → 00:16:34 หมอเคยพูดว่าถ้าแน่นหน้าอกเหมือนมีอะไรมา
00:16:34 → 00:16:37 เหยียบแล้วร้าวไปที่แขนเนี่ยเป็นกล้าม
00:16:37 → 00:16:41 เนื้อหัวใจขาดระดับเขาจำที่หมอพูดได้เป็น
00:16:41 → 00:16:46 เพื่อน
00:16:46 → 00:16:51 ขับรถพาไปโรงพยาบาลหน่อยเพราะว่าแบบนั้น
00:16:51 → 00:16:54 หัวใจขาดเลือด
00:16:54 → 00:16:58 เช้าขับรถไปโรงพยาบาลเจ้าพระยา
00:16:58 → 00:17:02 ไปถึงเนี่ยมันแน่นหน้าอกเห็นหน้าพยาบาล
00:17:02 → 00:17:03 แล้ว
00:17:03 → 00:17:04 ปรากฏ
00:17:04 → 00:17:09 เท่านั้นแหละจอภาพดับ
00:17:09 → 00:17:14 ไปตื่นอีก 2 วันผ่านมา
00:17:15 → 00:17:17 ตื่นขึ้นมาเนี่ยมันบอกว่ามันจำเหตุการณ์
00:17:17 → 00:17:19 อะไรไม่ได้เลย
00:17:19 → 00:17:21 ตอนแรกเราถามมันว่าเฮ้ยหลับไป 2 วันหรือ
00:17:21 → 00:17:25 ไปไหนอยากให้มันเล่าไงเรื่องเกี่ยวกับ
00:17:25 → 00:17:28 เหนือธรรมชาติบอกว่าไม่ได้ไปไหนเลยหลับไป
00:17:28 → 00:17:31 2 วันไม่รู้ด้วยว่าหลับไป 2 วันก็แค่
00:17:31 → 00:17:37 หลับภาพมืดไปแล้วก็ตื่นขึ้นมา
00:17:37 → 00:17:39 แต่ในช่วงที่เขาหลับไปเนี่ยมันมีการทำ
00:17:39 → 00:17:42 intervention คือมีการสวนหัวใจมีขยาย
00:17:42 → 00:17:44 พันธุ์ดูเลยเขาไม่รู้ตัวเลยนะ
00:17:44 → 00:17:49 ไม่รู้เรื่องเลย
00:17:49 → 00:17:54 มาดูต่อมาดูต่อนะ
00:17:54 → 00:17:56 ครั้งที่มาพูดถึงประสบการณ์ของอย่างที่
00:17:56 → 00:17:59 บอกเมื่อกี้ 15% ที่ไม่พบเจออะไรเลยนะ
00:17:59 → 00:18:02 ส่วนใน 45%
00:18:02 → 00:18:06 พบอะไรบ้างใน 45% เนี่ยเขาพบเรื่องเหนือ
00:18:06 → 00:18:09 ธรรมชาติคือ Super Natural เพียง 20%
00:18:09 → 00:18:14 และอีก 80% เนี่ยได้ยินเกี่ยวกับเรื่อง
00:18:14 → 00:18:18 ราวในห้องฉุกเฉินได้ยินนะเพราะว่าตามหลัก
00:18:18 → 00:18:22 ได้ยินว่าหมอพูดอะไรพยาบาลสั่งอะไร
00:18:22 → 00:18:26 แต่มีแค่ 20% ที่จะกลับมาเล่าว่าเห็นแสง
00:18:26 → 00:18:31 สีขาวเห็นญาติพี่น้องนะเห็นอุโมงค์มีน้อย
00:18:31 → 00:18:33 มากเพราะฉะนั้นอย่างที่บอกว่าอันนี้ก็จะ
00:18:33 → 00:18:35 ตอบคำถามของ
00:18:35 → 00:18:38 แฟนคลับนะที่มาถามว่าเฮ้ย
00:18:38 → 00:18:41 คนเราเนี่ย
00:18:41 → 00:18:43 ตายแล้วเนี่ยอาจจะไม่ได้มีประสบการณ์
00:18:43 → 00:18:45 เกี่ยวกับความตายทุกคน
00:18:45 → 00:18:48 มีพบเพียงแค่ 20%
00:18:48 → 00:18:53 มีพบเพียงแค่ 20% นะสำหรับคนที่กลับมาได้
00:18:53 → 00:19:00 อย่างนี้มันน้อยกว่านั้นอีกนะใช่ไหม
00:19:00 → 00:19:03 โดยเขาพูดว่าฝรั่งอธิบายต่อนะอธิบายต่อนะ
00:19:03 → 00:19:08 ฝรั่งก็พูดว่าไอ้เนี่ย Super Natural
00:19:08 → 00:19:12 ที่คุณแบบเห็นนู่นเห็นนี่มีเทวดามารับมี
00:19:12 → 00:19:16 อุโมงค์สีขาวแสงสีขาวความรู้สึกดีหรือ
00:19:16 → 00:19:19 เห็นญาติพี่น้องเนี่ยมันเกิดจากยาหรือ
00:19:19 → 00:19:20 เปล่า
00:19:20 → 00:19:23 เกิดจากยาที่ในระหว่างทำการ CPR หรือ
00:19:23 → 00:19:26 เปล่าไม่ว่าจะเป็นแอดมินาเลียนหรือเขาบอก
00:19:26 → 00:19:29 แคตตามีนเนี่ยในระหว่างที่บางคนเนี่ยฉีด
00:19:29 → 00:19:32 ยาน้ำสลบอย่างเงี้ย
00:19:32 → 00:19:36 หรือแค่ฝันไปรู้สึกตัวเองจริงๆแล้วมันคือ
00:19:36 → 00:19:40 ความฝันหรืออย่างที่บอกที่คุณจะเห็นแสงสี
00:19:40 → 00:19:44 ขาววาบขึ้นมาเนี่ยเป็นเพราะว่าเขากระตุก
00:19:44 → 00:19:46 ไฟฟ้าที่หน้าอกคุณอยู่หรือเปล่านะอย่าง
00:19:46 → 00:19:49 CPR เสร็จแล้วก็ตกไฟฟ้าใช่ไหม
00:19:49 → 00:19:53 เขาก็ไม่ได้เชื่อนะว่าสิ่งที่คุณบอกว่า
00:19:53 → 00:19:55 เป็นเรื่องเหนือธรรมชาติ
00:19:55 → 00:19:57 มันเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติจริงๆมันอาจจะ
00:19:57 → 00:20:01 มี Factor อื่นๆไปทำให้เกิดเรื่องเหนือ
00:20:01 → 00:20:04 ธรรมชาติอย่างนั้นก็ได้อย่างนั้นก็แล้ว
00:20:04 → 00:20:07 แต่อย่างหมอหมอก็เสียงบอกว่าเฮ้ยผมเกิดใน
00:20:07 → 00:20:11 สนามวิ่งนะในสวนสาธารณะไอ้พวกยาอย่างนี้
00:20:11 → 00:20:12 มันไม่มีเลยนะ
00:20:12 → 00:20:14 ถูกป่ะ
00:20:14 → 00:20:16 แล้วหลายคนอย่างที่บอกว่าถ้าหลายคนที่เคย
00:20:16 → 00:20:19 มีประสบการณ์หรือฟังหมอพูดเนี่ยเขาบอกให้
00:20:19 → 00:20:22 ผมยังไม่อยู่ในขั้นตอนนี้เลยส่วนคนที่
00:20:22 → 00:20:26 อยู่ในขั้นตอนนี้คือไปน็อคที่โรงพยาบาลก็
00:20:26 → 00:20:29 ไม่มีประสบการณ์นึกออกป่ะไม่มีประสบการณ์
00:20:29 → 00:20:30 แบบนั้นเหมือนกัน
00:20:30 → 00:20:32 เพราะฉะนั้นคนที่มีประสบการณ์เนี่ยถูก
00:20:32 → 00:20:37 เลือกแล้วนะ fast track
00:20:37 → 00:20:41 ไปเลยเนี่ยขึ้นไปเลยนะอันนี้ล้อเล่นล้อ
00:20:41 → 00:20:43 เล่นอ่า
00:20:43 → 00:20:46 เรื่อง 30 วินาทีก่อนตายเนี่ยมันค่อนข้าง
00:20:46 → 00:20:49 ยาวเดี๋ยวหมอขอแบ่งเป็น 2 ตอนเดี๋ยวจะ
00:20:49 → 00:20:52 เล่าตอนที่ 2 ซึ่งตอนที่ 2 เนี่ยจะเป็น
00:20:52 → 00:20:57 วิธีการฝึกตายเพื่อไปสู่ภพภูมิและสุคติ
00:20:57 → 00:21:02 อันนี้น่าสนใจนะอย่างที่บอกเราคุยกันแบบ
00:21:02 → 00:21:07 วิทยาศาสตร์ผสมพุทธศาสนาอย่าลืมกดติดตาม
00:21:07 → 00:21:10 และสั่นกระดิ่งด้วยนะครับโดยเฉพาะสั่น
00:21:10 → 00:21:13 กระดิ่งไม่งั้นท่านจะพลาดตอนต่อไปนะสาระ
00:21:13 → 00:21:15 ความรู้ดีๆจากเพจหมอศัลยกรรมบาทเดียวและ
00:21:15 → 00:21:18 YouTube Channel นะครับขอบคุณครับ
00:21:18 → 00:21:21 สวัสดีครับ