00:00:03 → 00:00:04 [เพลง]
00:00:04 → 00:00:06 สำหรับใครที่พลาดงาน The Standard
00:00:06 → 00:00:09 Economic forum 2022 Age of
00:00:09 → 00:00:12 Tomorrow เศรษฐกิจไทยบนปาก
00:00:12 → 00:00:17 [เพลง]
00:00:17 → 00:00:20 เหวเราเปิดจำหน่ายให้รับชมย้อนหลังแล้ว
00:00:20 → 00:00:24 ครับ 1 วัน 1,500 บาท 3 วันราคา 3,900
00:00:24 → 00:00:27 บาทรับชมทางออนไลน์ตลอด 3 เดือนตั้งแต่
00:00:27 → 00:00:30 วันนี้ถึง 1 มีนาคม 2566 พร้อมสรุปบท
00:00:30 → 00:00:33 เรียนทุก
00:00:33 → 00:00:35 [เพลง]
00:00:35 → 00:00:39 sess เนื้อหาเข้มข้นเจาะลึกมองเห็นอนาคต
00:00:39 → 00:00:43 ก่อนใครพร้อมข้อคิดในการรับมือกับความไม่
00:00:43 → 00:00:47 แน่นอนสำหรับผู้นำยุคใหม่ตัวจริงที่ทำให้
00:00:47 → 00:00:50 คุณไม่ตก
00:00:50 → 00:00:53 เหวผมว่าปีหน้าเป็นจุดเปลี่ยนประเทศไทยคน
00:00:53 → 00:00:56 เนี่ยเกิน 40% บอกว่าตัวเองเนี่ยเบินเอา
00:00:56 → 00:00:59 ละแต่ผมคิดว่ามันกำลังสะท้อนว่าเราพาตัว
00:00:59 → 00:01:01 เราเองหนีจากเวทีโลกอนาคตเนี่ยเมืองจะ
00:01:02 → 00:01:04 แข่งกันดึงคนเก่งแข่งกันสร้างคนเก่งไม่
00:01:04 → 00:01:05 ใช่ไทยสร้างได้มั้ยใช่ไทยดึงคนเก่งได้
00:01:05 → 00:01:08 มั้ยสุดท้ายอยู่ไม่ได้
00:01:08 → 00:01:11 หรอกโอกาสสุดท้ายที่ผมไม่อยากให้คุณพลาด
00:01:12 → 00:01:14 กับงาน The Standard Economic forum
00:01:14 → 00:01:17 2022 Age of Tomorrow เศรษฐกิจไทยบน
00:01:17 → 00:01:26 ปาก
00:01:26 → 00:01:30 เหวมีใครเคยทายนิสัยตามกรุปเลือดมั้นะ
00:01:30 → 00:01:32 ครับว่าเอ้ยถ้าเกิดว่าเจอคนนี้เดินมาปุ๊บ
00:01:32 → 00:01:35 มีเลือดกรุ๊ปนี้ต้องเป็นคนใจร้อนแน่เลย
00:01:35 → 00:01:36 หรือว่าถ้าเป็นเลือดกรุ๊ปนั้นเนี่ยต้อง
00:01:36 → 00:01:39 เป็นคนเจ้าชู้แน่เลยอ่าแล้วเคยมยว่าถ้า
00:01:39 → 00:01:41 เกิดว่าเรามีเลือดกรุ๊ปนี้เราควรจะกิน
00:01:41 → 00:01:43 อาหารแบบนี้แล้วก็เลี่งอาหารแนวนั้นนะ
00:01:43 → 00:01:47 ครับเช่นมีเลือดกรุ๊ป B เงี้ยห้ามกิน
00:01:47 → 00:01:49 เนื้อห้ามกินเนื้อวัวเนื้อไก่นะครับผมเอง
00:01:49 → 00:01:51 ก็กรุ๊ป B ฮะแต่ก็กินทุกอย่างเลยก็ไม่
00:01:51 → 00:01:54 เห็นจะเป็นอะไรเลยทำไมคนเราถึงมักจะเอา
00:01:54 → 00:01:57 กรุ๊ปเลือดเนี่ยไปผูกกับสิ่งต่างๆมากมาย
00:01:57 → 00:01:58 นะครับแล้วไอ้สิ่งที่เราไปผูกเหล่านั้น
00:01:58 → 00:02:01 เนี่ยมันเป็นความจริงหรือเ่าและล่าสุดนะ
00:02:01 → 00:02:03 ครับกรุ๊ปเลือดเนี่ยก็ถูกนำไปแต่งเป็น
00:02:03 → 00:02:06 เพลงด้วยแล้วก็ดังมากกำลังอยู่ในกระแสเลย
00:02:06 → 00:02:09 ก็คือเพลงเลือดกรุ๊ป B นะครับอ้อวันนี้นะ
00:02:09 → 00:02:13 ครับผมข้าวต้นสมบูรณ์แล้วก็ท2ทจะพาทุกคน
00:02:13 → 00:02:15 นะฮะไปทำความรู้จักกับกรุ๊ปเลือดแล้วไปดู
00:02:16 → 00:02:19 ซิว่าไอ้ที่กินตามกรุ๊ปเลือดทายนิสัยตาม
00:02:19 → 00:02:22 กรุ๊ปเลือดหรืออื่นๆตามกรุ๊ปเลือดเนี่ย
00:02:22 → 00:02:24 มันจริงหรือเปล่า This is the Standard
00:02:24 → 00:02:28 podcast E Opening for your
00:02:28 → 00:02:32 ears Top tile podcast สุขภาพที่ใช้
00:02:32 → 00:02:36 วิทยาศาสตร์ไขปัญหาตั้งแต่หัวจด
00:02:36 → 00:02:39 เท้าก่อนอื่นเลยนะครับเรามาทำความรู้จัก
00:02:39 → 00:02:41 กับกรุ๊ปเลือดกันก่อนดีกว่าว่ากรุ๊ปเลือด
00:02:41 → 00:02:44 เนี่ยมันมีกี่ประเภทแล้วแต่ละประเภทเนี่ย
00:02:44 → 00:02:47 มันแยกแยะยังไงแล้วทำไมเราจึงจำเป็นที่จะ
00:02:47 → 00:02:50 ต้องรู้กรุ๊ปเลือดของตัวเองนะครับตอบคำ
00:02:50 → 00:02:52 ถามก่อนเลยว่าเราจำเป็นมากที่ควรจะรู้ว่า
00:02:53 → 00:02:55 กรุ๊ปเลือดของเราเนี่ยกรุ๊ปอะไรแล้วก็คน
00:02:55 → 00:02:57 ใกล้ชิดไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัวนะครับ
00:02:57 → 00:03:00 พ่อแม่แฟนหรือว่าลูกของเราเนี่ยมีกรุ๊ป
00:03:00 → 00:03:03 เลือดอะไรเพราะว่าสำคัญมากในการถ่ายเลือด
00:03:03 → 00:03:05 นะฮะสมมุติว่าวันนึงเกิดอุบัติเหตุหรือ
00:03:05 → 00:03:07 ว่ามีความจำเป็นที่ต้องไปโรงพยาบาลแล้วก็
00:03:07 → 00:03:10 รับการถ่ายเลือดเนี่ยจำเป็นที่จะต้องรีบ
00:03:10 → 00:03:12 แจ้งคุณหมอให้ถูกนะครับว่ากรุ๊ปเลือดของ
00:03:12 → 00:03:15 คุณหรือกรุ๊ปเลือดของคนในครอบครัวของคุณ
00:03:15 → 00:03:17 เนี่ยคือกรุ๊ปอะไรไม่งั้นเนี่ยอาจจะเกิด
00:03:17 → 00:03:18 การถ่ายเลือกที่ผิดพลาดแล้วทำให้เกิด
00:03:18 → 00:03:21 อันตรายกับชีวิตได้เลยนะครับงั้นลองเทส
00:03:21 → 00:03:24 กันง่ายๆครับผมขอถามเลยละกันว่าคุณกรุ๊ป
00:03:24 → 00:03:26 เลือดอะไรคะถามโปรดิวเซอร์ได้ครับ
00:03:26 → 00:03:28 โปรดิวเซอร์กรุ๊ปเลือดอะไรครับ B ครับ 2
00:03:28 → 00:03:30 คนเลยกรุ๊ปเลือด B แล้วเป็น b + หรือ B
00:03:30 → 00:03:34 ลบครับไม่รู้อ่ะไม่รู้อ่าเห็นมยคุณผู้ชม
00:03:34 → 00:03:36 รู้มครับว่าคุณผู้ชมกรุ๊ปเลือดอะไรหลายคน
00:03:36 → 00:03:38 อาจจะคุ้นเคยว่าอ่ะเราเป็น a ใหม่กว่า B
00:03:38 → 00:03:41 ใหม่กว่า a หรือ O แต่พอเริ่มถามเจาะลงไป
00:03:41 → 00:03:43 ว่าเป็นบวกหรือเป็นลบบางคนอาจจะไม่รู้
00:03:43 → 00:03:46 เพราะว่าไม่เคยตรวจแล้วก็ไม่คุ้นเคยนะ
00:03:46 → 00:03:48 ครับจริงๆแล้วนอกจากจะรู้ว่าเรามีกรุ๊ป A
00:03:48 → 00:03:50 B A หรือ O แล้วเนี่ยต้องรู้ด้วยนะว่า
00:03:50 → 00:03:52 เราเป็นกรุ๊ปบวกหรือลบมันมีความสำคัญ
00:03:52 → 00:03:55 เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังนะครับแต่ก่อนอื่นขอ
00:03:55 → 00:03:57 ถามอีกเรื่องนึงคิดว่ากรุ๊ปเลือดเนี่ย
00:03:57 → 00:04:02 แบ่งออกเป็นกี่ระบบพอจะเดาได้มครับมีกี่
00:04:02 → 00:04:06 ประเภทในโลกนี้ติกต
00:04:06 → 00:04:09 ติตอกระบบเลยเนาะ AO เงี้ยเรียกว่า 1
00:04:09 → 00:04:12 ระบบอ่าคิดว่ากรุ๊ปเลือดมีทั้งหมดกี่ระบบ
00:04:12 → 00:04:17 ฮะ 2 2 โอ๊ยมีแต่คนดาว 2 นะครับจริงๆ
00:04:17 → 00:04:21 แล้วกรุ๊ปเลือนนะครับมีทั้งหมด 43 ระบบ
00:04:21 → 00:04:25 เลยนะครับแต่ว่าเรามักจะคุ้นเคยกับแค่
00:04:25 → 00:04:28 อย่างมากคือ 2 ระบบก็คือ abo System
00:04:28 → 00:04:30 หรือว่า RS
00:04:30 → 00:04:32 resch System ซึ่งเราจะเรียกมันว่าบวก
00:04:32 → 00:04:35 หรือลบเท่านั้นเพราะว่าเลือด 2 ระบบนี้นะ
00:04:35 → 00:04:38 ครับมีความจำเป็นในการถ่ายเลือดค่อนข้าง
00:04:38 → 00:04:41 เยอะนะครับถ้าเกิดว่าเราถ่ายเลือดผิดหรือ
00:04:41 → 00:04:43 ว่าไม่ Match เนี่ยนะครับอาจจะส่งผลเสีย
00:04:43 → 00:04:46 ต่อร่างกายได้อ่ะทีนี้เรามาดูกันนิดนึง
00:04:46 → 00:04:51 ครับว่าไอ้เจ้า abo กับ RS System เนี่ย
00:04:51 → 00:04:53 มันแบ่งแยกย่อยยังไงบ้างชื่อก็บอกอยู่
00:04:53 → 00:04:57 แล้ว AO นะครับเพราะฉะนั้นจะมีเลือดได้
00:04:57 → 00:05:02 ทั้งหมด 4 ประเภทก็คือ A a b a หรือ
00:05:02 → 00:05:06 ว่า O นะครับส่วนเจ้ากลุ่ม rh เนี่ยครับ
00:05:06 → 00:05:09 ก็จะมีแบ่งได้ 2 ประเภทก็คือบวกหรือว่าลบ
00:05:09 → 00:05:12 อ่าอันนึงมี 4 ประเภทอันนึงมี 2 ประเภทนะ
00:05:12 → 00:05:15 ครับถ้าเอามารวมกัน combination ทั้งหมด
00:05:15 → 00:05:18 จะได้ทั้งหมด 8 ประเภทนะครับก็คือ a + a
00:05:18 → 00:05:23 ล B + B - AB + AB - แล้วก็ o +
00:05:23 → 00:05:25 o บมาดูสถิติซักหน่อยแล้วกันว่าทั่วโลก
00:05:25 → 00:05:28 เนี่ยเลือดรูปไหนมีเยอะที่สุดในโลกนะครับ
00:05:28 → 00:05:30 ก็ต้องบอกว่า
00:05:30 → 00:05:33 แบ่งอย่างนี้เลยเลือดที่มี rh + เนี่ย
00:05:33 → 00:05:36 ส่วนใหญ่จะมีเยอะ rh ลบจะมีน้อยนะครับและ
00:05:36 → 00:05:41 ในบรรดา rh + เนี่ยเรียงอันดับ 1 เลย O
00:05:41 → 00:05:44 + เยอะที่สุดในโลกครับมี 42% ทั่วโลกนะ
00:05:44 → 00:05:50 ครับ a + รองลงมา 31% B + 15% AB +
00:05:50 → 00:05:53 5% ครับอ่านั่นคือกลุ่มบวกเนาะที่กลุ่ม
00:05:53 → 00:05:54 ลบก็จะลองลงมาครับเรียงเหมือนเดิม
00:05:55 → 00:05:59 แพทเทิร์นเดิมเลยคือ O - 3% A - 2.5
00:05:59 → 00:06:04 B - 1% แล้วก็ AB - 0.5% นั่นหมาย
00:06:04 → 00:06:07 ความว่าส่วนใหญ่แล้วคนในโลกนี้มีเลือด
00:06:07 → 00:06:11 กรุ๊ป O แล้วก็น้อยสุดคือเลือดกรุ๊ป AB
00:06:11 → 00:06:13 นะครับแลถ้าจะให้เฉพาะเจาะจงไปมากกว่า
00:06:14 → 00:06:19 นั้น o + มีเยอะที่สุดในโลกและ a ลบมี
00:06:19 → 00:06:22 น้อยที่สุดในโลกครับอเพราะฉะนั้นถ้าวัน
00:06:22 → 00:06:24 นี้คุณยังไม่รู้นะครับว่าคุณเลือดกรุ๊ป
00:06:24 → 00:06:27 อะไรผมแนะนำว่าให้ลองแวะไปที่โรงพยาบาล
00:06:28 → 00:06:29 แล้วก็ตรวจเลือดสักหน่อยครับแป๊บเดียว
00:06:29 → 00:06:31 เจาะเลือดที่ปลายนิ้วนิดเดียวครับก็จะรู้
00:06:31 → 00:06:33 ผลแล้วครับทีนี้มาดูเรื่องของหลักการให้
00:06:33 → 00:06:36 เลือดนิดนึงฮะดีที่สุดเลยนะครับคือเราควร
00:06:36 → 00:06:40 จะรับเลือดหรือว่าให้เลือดระหว่างคน
00:06:40 → 00:06:43 บริจาคกับคนรับเนี่ยตรงหมู่กันนะครับก็
00:06:43 → 00:06:46 คือถ้าเป็น a + ก็ควรจะให้ a + นั่นคือ
00:06:46 → 00:06:50 โดยทฤษฎีแล้วดีที่สุดแต่ในความเป็นจริง
00:06:50 → 00:06:53 แล้วเนี่ยก็ไม่จำเป็นเสมอไปครับเพราะว่า
00:06:53 → 00:06:57 ถ้าใครก็ตามนะครับที่มีเลือดกรุ๊ป O ก็
00:06:57 → 00:07:00 ต้องเรียกว่าเป็น Universal D นะครับคุณ
00:07:00 → 00:07:02 เป็นคนที่ใจดีใจกว้างมากสามารถที่จะ
00:07:02 → 00:07:06 บริจาคเลือดให้กับคนได้ทุกคนเลยครับเลือด
00:07:06 → 00:07:09 กรุ๊ปอื่นๆสามารถที่จะรับเลือดจากกรุ๊ป O
00:07:09 → 00:07:12 ได้นะครับในทางตรงกันข้ามครับถ้าใครก็ตาม
00:07:12 → 00:07:16 ที่มีเลือดกรุ๊ป AB เขาเรียกว่า Universal
00:07:16 → 00:07:21 recipient ก็คือ AB เนี่ยสามารถที่จะรับ
00:07:21 → 00:07:25 เลือดได้จากทุกกรุ๊ปเลยนะครับในทางตรงกัน
00:07:25 → 00:07:28 ข้ามกรุ๊ป O เนี่ยมักจะต้องรับเลือดจาก
00:07:28 → 00:07:31 กรุ๊ป O เท่านั้นแม้จะเป็นคนใจดีนะครับ
00:07:31 → 00:07:34 แต่ว่าไม่สามารถจะรับเลือดจากกรุ๊ปอื่นๆ
00:07:34 → 00:07:37 ได้และเฉพาะเจาะจงไปกว่านั้นนะครับคนที่
00:07:37 → 00:07:41 มีเลือดกรุ๊ป O Negative หรือว่า O ลบ
00:07:41 → 00:07:44 เนี่ยฮะต้องบอกว่าค่อนข้างลำบากนิดนึง
00:07:44 → 00:07:46 เวลาที่จะถ่ายเลือดหรือว่ารับเลือดนะครับ
00:07:46 → 00:07:49 เพราะว่าคนกลุ่มเนี้ยมีความจำเป็นมากๆที่
00:07:49 → 00:07:52 จะต้องรับเลือดบริจาคเนี่ยจากคนที่มี
00:07:52 → 00:07:55 เลือดกรุ๊ป O ลบเท่านั้นครับต้องบอกว่า
00:07:55 → 00:07:58 เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ critical แล้วก็
00:07:58 → 00:08:01 สำคัญต่อชีวิตมากนะครับถึงขนาดที่ถ้าใคร
00:08:01 → 00:08:03 อายุประมาณผมเนี่ยจะคุ้นเคยกับภาพยนตร์
00:08:03 → 00:08:06 ที่ชื่อว่า O Negative นะครับเอาเจ้า
00:08:06 → 00:08:09 หลักการเนี้ยออกไป develop ทำเป็นหนังเลย
00:08:09 → 00:08:12 นะฮะว่าคนที่มีเลือดกรุ๊ปลบเนี่ยจะหา
00:08:12 → 00:08:15 เลือดบริจาคค่อนข้างยากมากๆครับทีนี้คน
00:08:15 → 00:08:19 อาจจะเริ่มสงสัยว่าเอ๊ะแล้วทำไมคนกรุ๊ป O
00:08:19 → 00:08:21 เนี่ยจะต้องรับเลือดเฉพาะกรุ๊ป O เท่า
00:08:21 → 00:08:25 นั้นงั้นขออธิบายในทางชีววิทยามากยิ่ง
00:08:25 → 00:08:27 ขึ้นแล้วกันเนาว่าไอ้ที่บอกว่าคนมีเลือด
00:08:27 → 00:08:30 กรุ๊ปต่างๆ A B A โอเนี่ยไอ้ที่มันต่าง
00:08:30 → 00:08:33 กันเมันต่างกันที่ตรงไหนนะครับอ่าทีนี้
00:08:33 → 00:08:35 ถ้าเกิดเราดูที่ในเลือดของเราในเลือดของ
00:08:35 → 00:08:38 เราเนี่ยจะมีสิ่งที่เรียกว่าเม็ดเลือดแดง
00:08:38 → 00:08:41 ครับสามารถจะจินตนาการเม็ดเลือดแดงหน้าตา
00:08:41 → 00:08:43 เหมือนกับโดนัทที่รูตรงกลางเนี่ยมันไม่
00:08:43 → 00:08:45 กลวงนะครับแต่เชฟเนี่ยคล้ายๆโดนัทเลยมัน
00:08:45 → 00:08:49 จะเป็นพองๆด้านนอกแล้วก็อ่าเริ่มจะรีบ
00:08:49 → 00:08:51 เข้ามาตรงกลางนะครับทีนี้เม็ดเลแดงสำคัญ
00:08:51 → 00:08:53 มากๆเพราะว่าเม็ดเลแดงเนี่ยทำหน้าที่ใน
00:08:54 → 00:08:56 การขนส่งออกซิเจนไปยังส่วนต่างๆของร่าง
00:08:56 → 00:09:00 กายนะครับที่ผิวของเม็ดเลือดแดเนี่ยก็จะ
00:09:00 → 00:09:03 มีโปรตีนอยู่เต็มไปหมดเลยนะครับและหนึ่ง
00:09:03 → 00:09:06 ในโปรตีนนั้นเนี่ยเป็นโปรตีนที่จะบอกว่า
00:09:06 → 00:09:09 คนๆนั้นเนี่ยมีเลือดกรุ๊ปอะไรนะครับซึ่ง
00:09:09 → 00:09:12 เจ้าโปรตีนหรือศัพท์ทางศัพท์เทคนิคเนี่ย
00:09:12 → 00:09:14 เรียกว่าแอนติเจนเนี่ยนะครับที่เป็นตัว
00:09:14 → 00:09:17 บอกกรุ๊ปเลือดเนี่ยจะมีได้ทั้งหมด 2 แบบ
00:09:17 → 00:09:22 คือแอนติเจนชนิด a กับแอนติเจนชนิด B
00:09:22 → 00:09:27 ครับถ้าเม็ดเลือดแดงของคนไหนมีโปรตีนหรือ
00:09:27 → 00:09:30 ว่าแอนติเจนชนิด a อยู่ที่ผิวเท่านั้นคนๆ
00:09:30 → 00:09:33 นั้นจะมีเลือดกรุ๊ป A แต่ถ้าเม็ดเลือดแดง
00:09:33 → 00:09:36 ใครมีแอนติเจน B เท่านั้นจะมีเลือดกรุ๊ป B
00:09:36 → 00:09:39 นะครับแต่ถ้าเม็ดเลือดแดงของใครมีทั้ง
00:09:39 → 00:09:43 แอนติเจนชนิด a และชนิด B อยู่ที่ผิวจะมี
00:09:43 → 00:09:44 เลือดกรุ๊ป
00:09:44 → 00:09:47 A แล้วเดาได้ไมครับว่า O เนี่ยจะเป็นยัง
00:09:47 → 00:09:50 ไงคนที่มีเลือดกรุ๊ป O นะครับเม็ดเลือด
00:09:50 → 00:09:54 แดงของเขาจะไม่มีทั้งแอนติเจน a และ
00:09:54 → 00:09:57 แอนติเจน b อยู่ที่ผิวของเม็ดเลือดแดง
00:09:57 → 00:09:59 นั่นเองครับรู้จักแอนติเจน
00:09:59 → 00:10:01 แล้วคือโปรตีนที่อยู่บนผิวของเม็ดเลือด
00:10:01 → 00:10:04 แดงผมจำเป็นต้องแนะนำให้รู้จักกับอีกตัว
00:10:04 → 00:10:09 นึงคือ Anti คิดง่ายๆมันคือยามที่
00:10:09 → 00:10:13 คอยจับสิ่งแปลกปลอมนะครับแล้วก็กำจัดฮะมี
00:10:13 → 00:10:16 แอนติเจนชนิด a แอนติเจนชนิด B ในร่างกาย
00:10:16 → 00:10:18 ของเราก็มี
00:10:18 → 00:10:23 แิอต่อแอนติเจน a แล้วก็มีแอนติบอดี้ต่อ
00:10:23 → 00:10:26 แอนติเจน B ก็คือจะมียามครับในร่างกาย
00:10:26 → 00:10:29 มนุษย์เนี่ยก็จะมียามที่จะคอยมองว่าเฮ้ย
00:10:29 → 00:10:32 อันไหนคือแอนติเจน a แฮะถ้าเจอปุ๊บเราก็
00:10:32 → 00:10:34 จะยิงแล้วก็จะกำจัดมันเลยนะครับหรือว่า
00:10:34 → 00:10:36 ยามบางคนเนี่ยก็คือแอนติบอดี้ต่อแอนติเจน
00:10:36 → 00:10:38 B ก็จะคอยดูว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เจอ
00:10:38 → 00:10:42 แอนติบอดี้ B ปุ๊บก็จะไปกำจัดทันทีเพราะ
00:10:42 → 00:10:45 ฉะนั้นพอจะเดาได้มครับคนที่มีเลือดกรุ๊ป A
00:10:45 → 00:10:47 บอกไปแล้วว่าที่ผิวเม็ดเลแดงจะมีแอนติเจน
00:10:47 → 00:10:51 ชนิด a แต่ในน้ำเลือดเนี่ยนะครับเขาจะมี
00:10:51 → 00:10:55 แอนติบอดี้ชนิด B ครับมันจะตรงกันข้ามกัน
00:10:55 → 00:10:59 คนที่มีเลือดกรุ๊ป B จะมีแอนติเจน B แต่
00:10:59 → 00:11:03 จะมีแอนติบอดี้ a นะครับคนที่มีเลดกรุ๊ป A
00:11:03 → 00:11:07 จะมีแอนติเจนทั้ง a และ b แต่จะไม่มีแิอ
00:11:08 → 00:11:11 อะไรเลยนะครับในขณะที่คนกรุ๊ป O ไม่มี
00:11:11 → 00:11:15 แอนติเจนอะไรเลยบนเม็ดเลือดแดงก็จริงแต่เ
00:11:15 → 00:11:20 ดันมีแิอทั้ง a แล้วก็ B นแครับถามว่า
00:11:20 → 00:11:24 ทำไมต้องอธิบายมาจนถึงแิอด้วยเพราะเนี่ย
00:11:24 → 00:11:28 แหละคือเหตุผลว่าทำไม O ถึงต้องรับเลือด
00:11:28 → 00:11:31 คนกรุ๊ป O เท่านั้นเพราะว่า o มี
00:11:31 → 00:11:35 แอนติบอดี้ทั้ง a แล้วก็ B ครับเพราะ
00:11:35 → 00:11:37 ฉะนั้นถ้าเกิดว่าคนเลือดกรุ๊ป A กรุ๊ป B
00:11:37 → 00:11:41 หรือกรุ๊ป A ถ่ายเลือกเข้าไปให้คนกรุ๊ป O
00:11:41 → 00:11:44 เนี่ยเท่ากับว่าเา้าก็จะให้เม็ดเลือดแดง
00:11:44 → 00:11:47 ที่มีแอนติเจน a หรือว่าแอนติเจน b เข้า
00:11:47 → 00:11:49 ไปในคนที่เป็นเลือดกรุ๊ป O แล้วร่างกาย
00:11:49 → 00:11:51 ของคนที่มีเลือดกรุ๊ป O เนี่ยเขามี
00:11:51 → 00:11:54 แอนติบอดี้ทั้ง a กับ B อยู่แล้วใส่ไป
00:11:54 → 00:11:57 เนี่ยมันก็อาจจะทำปฏิกิริยาแล้วทำให้
00:11:57 → 00:11:59 เลือดเป็นพิษได้แล้วก็ไม่ปลอดภัยภยนั่น
00:11:59 → 00:12:03 เองนะครับแล้วก็เช่นกันครับถามว่าทำไมคน
00:12:03 → 00:12:05 ที่มีเลือดกรุ๊ป A สามารถรับเลือดได้ทุก
00:12:05 → 00:12:07 คนเพราะว่าในร่างกายของเขาไม่มี
00:12:07 → 00:12:10 แอนติบอดี้ต่อทั้งแอนติเจน a แล้วก็
00:12:10 → 00:12:13 แอนติเจน B เพราะฉะนั้นรับเลือดจากกรุ๊ป
00:12:13 → 00:12:15 ไหนก็ปลอดภัยทั้งสิ้นนั่นเองครับนั่นคือ
00:12:15 → 00:12:19 ระบบเลือด abo ฮะทีนี้มาถึงระบบเลือด rh
00:12:19 → 00:12:22 นิดนึงที่พูดถึงบวกกับลบนะครับคิดง่ายๆ
00:12:22 → 00:12:26 คือถ้าที่ผิวของเม็ดเลือดแดงนะครับมี
00:12:26 → 00:12:29 แอนติเจนหรือมีโปรตีนชนิดนึงแล้วะกันเรา
00:12:29 → 00:12:33 จะเรียกไปว่าคนนั้นมีเลือด rh + แต่ถ้า
00:12:33 → 00:12:36 ไม่มีแอนติเจนเรียกว่า rh ลบนะครับซึ่งใน
00:12:36 → 00:12:40 ทางเดียวกันนะครับกรุ๊ป rh + มีแอนติเจน
00:12:40 → 00:12:44 rh บนเมเตอร์แดงก็จะไม่มีแอนติบอดี้ต่อ
00:12:44 → 00:12:48 rh นะครับในขณะที่คนที่มีกรุ๊ป rh ลบจะ
00:12:48 → 00:12:51 ไม่มีแอนติเจนบนผิวเมอแดงแต่จะมี
00:12:51 → 00:12:54 แอนติบอดี้ในเลือดนะครับหลักการถยเลือดก็
00:12:54 → 00:12:58 คล้ายกันครับคนที่มีเลือด rh ลบเนี่ยนะ
00:12:58 → 00:13:01 ครับมีแิอต่อ rh อยู่เพราะฉะนั้นต้องรับ
00:13:01 → 00:13:03 เลือดจากกลุ่มที่เป็น rh ลบเท่านั้นไม่
00:13:03 → 00:13:07 สามารถรับเลือดจากกลุ่มที่เป็น rh + ได้
00:13:07 → 00:13:09 เพราะไม่งั้นเนี่ยแอนติบอดี้ของเขาจะไป
00:13:09 → 00:13:12 จัดการแอนติเจนบนผิวเม็ดเลือดแล้วก็ทำให้
00:13:12 → 00:13:15 เกิดอันตรายได้นะครับก็เป็นที่มาว่าทำไม O
00:13:15 → 00:13:18 Negative หรือว่า O ลบจำเป็นที่จะต้อง
00:13:18 → 00:13:22 รับเลือดจาก O ลบเท่านั้นไม่ควรที่จะรับ
00:13:22 → 00:13:24 เลือดจาก O บวกด้วยซ้ำไปด้วยเหตุผลนี้
00:13:24 → 00:13:27 นั่นเองฮะเมื่อกี้เล่าไปแล้วว่าอื้อหือ
00:13:27 → 00:13:31 เลือดกรุ๊ป O เนี่ยเนี่ยมีเยอะจังเลยแท่
00:13:31 → 00:13:33 จะครองโลกแล้วมีเยอะที่สุดในโลกนะครับ
00:13:33 → 00:13:37 ทำไมถึงเป็นแบบนั้นเคยสงสัยมั้ยแล้วเคย
00:13:37 → 00:13:40 สงสัยมครับว่าเอ๊บางทีเนี่ยเราสามารถที่
00:13:40 → 00:13:44 จะรู้ได้เนาะว่าแฟนของเรามีชู้หรือเปล่า
00:13:44 → 00:13:48 จากการที่เราเทียบกรุ๊ปเลือดลูกของเรากับ
00:13:48 → 00:13:50 กรุ๊ปเลือดของเราและกรุ๊ปเลือดแฟนของเรา
00:13:50 → 00:13:53 นะทำไมเราถึงสามารถที่จะพอเช็คได้นะครับ
00:13:53 → 00:13:55 เพื่อที่เราจะรู้คำตอบแล้วนะครับผมจำเป็น
00:13:55 → 00:13:59 ต้องขอเล่าลึกขึ้นนิดนึงคราวนี้จะย้อน
00:13:59 → 00:14:03 กลับไปถึงจีนระบบจีนที่กำหนดการสร้าง
00:14:03 → 00:14:08 แอนติเจนบนผิวเม็ดเลือดแดงะครับเรารู้ว่า
00:14:08 → 00:14:14 แอนติเจนมี 2 แบบคือ a กับ B แต่จีนที่
00:14:14 → 00:14:17 เป็นตัวกำหนดการสร้างแอนติเจนเนี่ยครับจะ
00:14:17 → 00:14:21 มี 3 แบบผมเรียกมันง่ายๆแล้วกันว่าเป็น
00:14:21 → 00:14:26 จีน a b แล้วก็ O นะครับจีน a กับจีน B
00:14:26 → 00:14:28 เนี่ยเป็นจีนที่อ่าเรียกได้ว่ามีศักดิ์
00:14:28 → 00:14:31 ศรีเท่ากันแล้วกันถือว่าอยู่ในระดับเดียว
00:14:31 → 00:14:34 กันนะครับแต่ไอ้เจ้าจีน O เนี่ยเ่อศักดิ์
00:14:34 → 00:14:36 ศรีน้อยกว่าเพื่อนนะครับถ้าเกิดว่า O
00:14:36 → 00:14:39 อยู่กับ a เนี่ยมันจะสู้ a ไม่ได้แล้วถ้า
00:14:39 → 00:14:41 O อยู่กับ B เนี่ยมันก็จะสู้ B ไม่ได้
00:14:41 → 00:14:43 เช่นกันนะครับแล้วปกติเนี่ยเราจะได้รับ
00:14:43 → 00:14:47 จีนจากพ่อกับแม่เรามาอย่างละ 1 เนาะอ่า
00:14:47 → 00:14:50 เพราะฉะนั้นถ้าเรามีเลือดกรุ๊ป A หมาย
00:14:50 → 00:14:55 ความว่าเราอาจจะมีจีน AA ก็คือได้ A มา
00:14:55 → 00:14:58 จากแม่และ a มาจากพ่อหรือเราอาจจะมีจีน AO
00:14:58 → 00:14:59 ก็ได้
00:14:59 → 00:15:02 นะครับก็คือ a มาจากพ่อหรือแม่หรือ O มา
00:15:02 → 00:15:04 จากพ่อหรือแม่เช่นกันนะครับไม่ว่าคุณจะมี
00:15:04 → 00:15:08 จีน AA หรือจีน AO คุณก็จะมีเลือดกรุ๊ป A
00:15:08 → 00:15:10 กรุ๊ป B ก็เหมือนกันคุณสามารถจะมีเลือด
00:15:10 → 00:15:14 กรุ๊ป B โดยที่จีนของคุณเป็น BB หรือ Bo
00:15:14 → 00:15:17 ก็ได้นะครับทีนี้กรุ๊ป A B ล่ะอ้าตรงไป
00:15:17 → 00:15:21 ตรงมาครับแสดงว่าคุณต้องมีจีน a กับ B ก็
00:15:21 → 00:15:24 คือต้องเอา a มาจับข้อหรือแม่และ b มาจาก
00:15:24 → 00:15:27 อีกคนนึงนะครับแล้วพอจะเดาได้มยกรุป O
00:15:27 → 00:15:30 อ่ากรุ๊ป O จำเป็นที่จะต้องได้รับจีนทั้ง
00:15:30 → 00:15:35 O จากพ่อแล้วก็ O จากแม่เท่านั้นนะครับ
00:15:35 → 00:15:38 คุณถึงจะมีกรุ๊ป O ทีนี้มันก็จะมีเหตุ
00:15:38 → 00:15:41 การณ์ที่อาจจะทำให้คนงงได้ครับว่าเอ๊ะ
00:15:41 → 00:15:45 ทำไมพ่อเลือกกรุ๊ป A แม่เลือดกรุ๊ป B
00:15:45 → 00:15:49 แล้วลูกสามารถเป็นกรุ๊ป O ได้ทั้งๆที่
00:15:49 → 00:15:52 เอ้ยมันดูไม่น่าเป็นไปได้รอเพะลูกน่าจะมี
00:15:52 → 00:15:54 กรุ๊ปเลือดเหมือนกับพ่อหรือเหมือนกับแม่
00:15:54 → 00:15:57 ก็คือควรจะเป็น a เป็น b หรือไม่ก็ a b
00:15:57 → 00:15:59 แล้ว O โผล่มาจากไหนเพราะบอกไปแล้วนะครับ
00:16:00 → 00:16:02 ว่าคนที่มีเลือดกรุ๊ป A สามารถมีจีน a
00:16:02 → 00:16:06 กับ O แล้วอีกคนนึงที่มีเลือดกรุ๊ป B
00:16:06 → 00:16:09 เนี่ยก็อาจจะมีจีน b กับ O ได้แล้วพอตอน
00:16:09 → 00:16:11 ที่พ่อกับแม่สร้างสเปิร์มหรือว่าสร้างไข่
00:16:12 → 00:16:15 เนี่ยครับสเปิร์มกับไข่มันก็อาจจะเป็น
00:16:15 → 00:16:18 สเปิร์ม type O หรือว่าแล้วไข type O
00:16:18 → 00:16:21 บังเอิญมาเจอกันลูกก็เลยมีจีน OO แล้วก็
00:16:22 → 00:16:25 ออกมาเป็นเลือดกรุ๊ป O ได้นะครับไม่ผิดนะ
00:16:25 → 00:16:27 ฮะอ่ะเพราะฉะนั้นก็ไม่ต้องแปลกใจนะครับ
00:16:27 → 00:16:30 ถ้าเกิดว่าเจอพ่อพ่อแม่เลือดกรุ๊ป A แล้ว
00:16:30 → 00:16:32 เลือดลูกมีเลือดกรุ๊ป O ไม่ได้มีชู้แต่
00:16:32 → 00:16:35 อย่างใดนะครับพอจะเริ่มเข้าใจระบบเลือด
00:16:35 → 00:16:38 มากยิ่งขึ้นนะครับทั้ง abo แล้วก็ rh ที
00:16:38 → 00:16:40 นี้บางคนอาจจะมีคำถามว่าเ้าแล้วทำไมต้อง
00:16:40 → 00:16:43 มีกรุ๊ปเลือดให้มันแตกต่างกันให้มัน
00:16:43 → 00:16:47 วุ่นวายด้วยทำไมคนทั้งโลกไม่มีเลือดกรุ๊ป
00:16:47 → 00:16:49 เดียวไปเลยเวลาที่ถ่ายเลือดมันก็จะได้
00:16:49 → 00:16:55 ง่ายเนาะนะครับคำตอบที่น่าจะดูสมเหตุสมผล
00:16:55 → 00:16:58 ที่สุดตามหลักชีววิทยาเี่นะครับก็คือ
00:16:58 → 00:17:00 เรื่องของของ Evolution หรือว่า
00:17:00 → 00:17:03 วิวัฒนาการถ้าใครเคยเรียนมาเนี่ยจะเคยได้
00:17:03 → 00:17:06 ยินคำว่า Natural Selection นะครับก็คือ
00:17:07 → 00:17:10 ใครเก่งกล้าใครแข็งแกร่งเนี่ยก็อยู่รอดไป
00:17:10 → 00:17:12 เพราะว่าสิ่งแวดล้อมบนโลกเราเนี่ยครับมัน
00:17:12 → 00:17:15 มีความโหดร้ายอยู่เนาะตัวที่อ่อนแอก็ก็
00:17:15 → 00:17:17 อย่าอยู่เลยตายๆไปซะให้ตัวที่แข็งแรงเขา
00:17:17 → 00:17:20 อยู่เขาจะได้สืบพันธุ์แล้วก็ดำรงเผ่า
00:17:20 → 00:17:24 พันธุ์ของสีสนั้นๆไปนะครับคนเราก็เช่นกัน
00:17:24 → 00:17:27 ครับมนุษย์เราเนี่ยเกิดมาเพื่อที่จะดำรง
00:17:27 → 00:17:29 เผ่าพันธุ์เกิดมาเพื่อที่จะมีลูกสืบทอด
00:17:29 → 00:17:32 ทายาทเนาะเพราะฉะนั้นการที่ธรรมชาติเนี่ย
00:17:32 → 00:17:35 นะครับสร้างให้มนุษย์เราเนี่ยมีกรุ๊ป
00:17:35 → 00:17:39 เลือดที่แตกต่างกันออกไปเนี่ยก็เป็นการ
00:17:39 → 00:17:42 กระจายความเสี่ยงครับเพราะว่ากรุ๊ปเลือด
00:17:42 → 00:17:45 ที่แตกต่างกันเนี่ยอาจจะมีความทนทานต่อ
00:17:45 → 00:17:48 โรคที่ไม่เท่ากันนะครับเพราะฉะนั้นเวลา
00:17:48 → 00:17:50 ที่เจอโรคระบาดอะไรสักอย่างนึงเนี่ยก็อาจ
00:17:50 → 00:17:54 จะทำให้มนุษย์ที่มีกรุ๊ปเลือดบางกรุ๊ป
00:17:54 → 00:17:57 เนี่ยอาจจะพ่ายแพ้ต่อโรคนั้นแล้วก็เสีย
00:17:57 → 00:18:00 ชีวิตไปในขณะที่มนุษย์ที่มีกรุ๊ปเลือดบาง
00:18:00 → 00:18:03 กรุ๊ปที่สามารถที่จะทนทานแล้วก็ต้านทาน
00:18:03 → 00:18:06 โลกนั้นเนี่ยก็สามารถที่จะอยู่รอดแล้วก็
00:18:06 → 00:18:08 ดำรงเผ่าพันธุ์ได้ไม่สูญพันธุ์นั่นเองนะ
00:18:08 → 00:18:11 ครับมีหลักถามายืนยันสมมุติฐานนี้ด้วยนะ
00:18:11 → 00:18:14 ครับว่าเป็นการกระจายความเสี่ยงจึงทำให้
00:18:14 → 00:18:16 มนุษย์เราเนี่ยมีกรุปเลือดแตกต่างกันออก
00:18:16 → 00:18:19 ไปนะครับหลักฐานนึงที่ค่อนข้างชัดเจนมาก
00:18:19 → 00:18:23 เลยนะครับก็คือโรคมาลาเรียครับหลายคนอาจ
00:18:23 → 00:18:25 จะไม่รู้นะครับว่าปัจจุบันนี้นะครับยัง
00:18:25 → 00:18:29 ไม่มีวัคซีนที่ใช้ในการป้องกันโรค
00:18:29 → 00:18:32 มาลาเรียหรือว่าไข้จับสั่นหรือว่าไข้ป่า
00:18:32 → 00:18:35 ได้เลยนะครับที่ยุงก้นป่องเนี่ยเป็นพาหะ
00:18:35 → 00:18:37 ซึ่งในวงการวิทยาศาสตร์เนี่ยก็มีความ
00:18:37 → 00:18:40 พยายามมากๆที่จะพัฒนาวัคซีนแล้วก็จริงๆ
00:18:40 → 00:18:43 ตอนเนี้ยต้องบอกว่าใกล้แล้วครับที่วัคซีน
00:18:43 → 00:18:46 ตัวแรกของโลกที่ป้องกันโรคมาลาเรียจะเกิด
00:18:46 → 00:18:48 ขึ้นนะครับทำไมผมถึงบอกว่ามาลาเรียเนี่ย
00:18:48 → 00:18:52 อาจจะเป็นหลักฐานที่สำคัญที่จะบอกว่าเอ้อ
00:18:52 → 00:18:54 ซัพพอร์ตว่าคนเราถึงมีกรุ๊ปเลือดหลากหลาย
00:18:54 → 00:18:57 นะครับเามีการเปรียบเทียบแผนที่ว่า
00:18:57 → 00:18:59 มาลาเรียเกิดขึ้นที่ตรงไหนเยอะๆบนโลกใบ
00:18:59 → 00:19:01 นี้นะครับแล้วก็เจอว่าโอ้จุดไหนที่
00:19:02 → 00:19:04 มาลาเรียเยอะจุดนั้นคนมักจะเป็นเลือด
00:19:04 → 00:19:08 กรุ๊ป O ครับมันมีเหตุผลด้วยนะอ่าเพราะ
00:19:08 → 00:19:11 ว่าเวลาที่เชื้อพาราไซต์นะครับหรือว่า
00:19:11 → 00:19:13 ไวรัสที่ทำให้เกิดโรคมาลาเรียเนี่ยเข้าไป
00:19:13 → 00:19:15 ในร่างกายของเราแล้วเนี่ยครับมันจะไปโจม
00:19:15 → 00:19:19 ตีเม็ดเลือดแดงครับแล้วเม็ดเลือดแดงชนิด
00:19:19 → 00:19:21 ที่มีแอนติเจน a เนี่ยครับโดยเฉพาะเลย
00:19:21 → 00:19:23 เนี่ยมันจะค่อนข้างอ่อนไหวแล้วก็
00:19:23 → 00:19:25 sensitive มากนะครับเมื่อเจ้าไวรัสเนี่ย
00:19:25 → 00:19:28 นะครับไปโจมตีเม็ดเลือดแดงที่มีแอนติเจนเ
00:19:28 → 00:19:30 อยู่ที่ผิวเนี่ยฮะมันสามารถที่จะสร้างสาร
00:19:30 → 00:19:33 เคมีตัวนึงนะครับที่ผิวของเม็ดดแดงนั้น
00:19:33 → 00:19:36 ซึ่งทำหน้าที่เป็นเหมือนกาวครับทุกคนแล้ว
00:19:36 → 00:19:39 เวลาเม็ดเลือดแดงอื่นๆที่ไม่โดนไวรัสโจม
00:19:39 → 00:19:42 ตีเครับวิ่งเข้ามาใกล้เนี่ยมันก็จะไปเกาะ
00:19:42 → 00:19:44 ๆๆๆๆไอ้เจ้าเม็ดเลือดแดงที่ติดเชื้อครับ
00:19:44 → 00:19:48 ทำให้เมเนี่ยกองกันเป็นพเนินอยู่ในเส้น
00:19:48 → 00:19:50 เลือดแล้วก็จะบล็อกทางของเลือดแล้วก็
00:19:50 → 00:19:53 บล็อกการลำเลียงออกซิเจนไปยังส่วนต่างๆ
00:19:53 → 00:19:55 ของร่างกายได้ครับนักวิทยาศาสตร์เคก็เจอ
00:19:55 → 00:19:59 ว่าคนที่มีเม็ดเลือดแดงที่ไม่แอนติเจนเลย
00:19:59 → 00:20:01 นะครับสามารถที่จะต้านทานการสร้างโปรตีน
00:20:01 → 00:20:04 ที่ทำหน้าที่เป็นกาวเนี้ยได้ครับเวลาที่
00:20:04 → 00:20:07 เจอเจ้าไวรัสเยแทคเพราะฉะนั้นคนที่มี
00:20:07 → 00:20:09 เลือดกรุ๊ป O เนี่ยก็เลยจะแข็งแกร่งแล้ว
00:20:09 → 00:20:12 ก็สามารถที่จะต้านทานต่อมาลาเรียได้ครับ
00:20:12 → 00:20:14 ไม่ใช่แค่นั้นนะครับคนที่มีเลือดกรุ๊ป O
00:20:14 → 00:20:17 เนี่ยเขาคก็ยังเจอว่ามีความเสี่ยงที่จะ
00:20:17 → 00:20:20 เป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบเลือดโดย
00:20:21 → 00:20:24 เฉพาะโรคหัวใจหรือว่าสตกเนี่ยน้อยกว่าคน
00:20:24 → 00:20:26 ที่มีเลือดกรุ๊ปอื่นๆด้วยนะฮะแต่ก็ไม่ได้
00:20:26 → 00:20:28 หมายความว่าเลือดกรุ๊ป O เนี่ยจะแข็ง
00:20:28 → 00:20:30 แกร่งกว่าเลือดกรุ๊ปอื่นๆนะครับเพราะว่า
00:20:30 → 00:20:33 ขึ้นอยู่กับโรคครับแต่ละกรุ๊ปเลือดเนี่ย
00:20:33 → 00:20:35 บางทีก็มีความเสี่ยงต่อโรคที่ไม่เหมือน
00:20:35 → 00:20:40 กันฮะนั่นจึงเป็นที่มาครับว่าทำไมถึงมี
00:20:40 → 00:20:43 การเผยแพร่องค์ความรู้หรือว่าชุดข้อมูล
00:20:43 → 00:20:47 ว่าคนที่มีเลือดกรุ๊ปนี้กรุ๊ปนั้นเนี่ย
00:20:47 → 00:20:50 ควรจะกินอาหารแบบนี้แบบนั้นเท่านั้นถึงจะ
00:20:50 → 00:20:54 ดีต่อสุขภาพของเรานะครับซึ่งที่มาที่ไป
00:20:54 → 00:20:56 เนี่ยมันก็เกิดจากการที่นักวิทยาศาสตร์
00:20:56 → 00:20:58 หรือว่าคุณหมอเนี่ยเาเริ่มสังเกตแล้วเ
00:20:58 → 00:21:00 เก็บสถิติแล้วก็เจอว่าอ่าคนที่มีเลือด
00:21:00 → 00:21:02 กรุ๊ปนี้เนี่ยบางทีเนี่ยอาจจะมีปัญหา
00:21:03 → 00:21:06 สุขภาพบางอย่างมากกว่าเลือดอีกกรุ๊ปนึง
00:21:07 → 00:21:09 แล้วก็เกิดเป็น recommendation หรือคำแนะ
00:21:09 → 00:21:11 นำมาว่าอ้อก็ควรจะกินอาหารกลุ่มนี้สิ
00:21:11 → 00:21:14 เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดปัญหาสุขภาพ
00:21:14 → 00:21:16 เรื่องนั้นๆนะครับแต่ทุกคนครับชุดข้อมูลเ
00:21:16 → 00:21:18 ครับก็ต้องบอกว่ามันเป็นชุดข้อมูลที่ไม่
00:21:18 → 00:21:22 สามารถที่จะ Apply ได้กับคนทั้งโลกคนกุ๊ป
00:21:22 → 00:21:25 O ทุกคนนะครับเพราะมันก็คือสถิติอ่ะครับ
00:21:25 → 00:21:27 การทำวิจัยเนี่ยมันสามารถที่จะเก็บสถิติ
00:21:28 → 00:21:30 ได้ไม่ดีเยอะมากมันอาจจะเป็นแค่กลุ่มใด
00:21:30 → 00:21:32 กลุ่มนึงเท่านั้นการที่เก็บข้อมูลได้
00:21:32 → 00:21:34 เพิ่มมากขึ้นมากขึ้นมากขึ้นชุดข้อมูลมัน
00:21:34 → 00:21:37 ก็อาจจะเปลี่ยนก็เป็นได้นะครับจึงมีกลุ่ม
00:21:37 → 00:21:40 นักวิจัยครับที่ทำงานทางด้านนริด้านอาหาร
00:21:40 → 00:21:43 เนี่ยพยายามศึกษาเลยว่าเอ้ยที่เขา recom
00:21:43 → 00:21:45 มาเนี่ยมันจริงหรือเปล่าก็เลยเอาคนมาทั้ง
00:21:45 → 00:21:49 หมด 1,500 คนลองดูซิครับแบ่งกรุ๊ปเลือด
00:21:49 → 00:21:52 เลยแล้วก็ลองให้ทุกกรุ๊ปเลือดเนี่ยกิน
00:21:52 → 00:21:55 อาหารที่เหมาะสมของแต่ละกรุ๊ปเลือดครับ
00:21:55 → 00:21:57 คือกรุ๊ป O เนี่ยก็ลองให้กินทั้งอาหารที่
00:21:57 → 00:21:59 เหมาะกับทั้งกรุ๊ป O กรุ๊ป a กรุ๊ป B
00:21:59 → 00:22:01 กรุ๊ป A B แล้วก็ทุกกรุ๊ปก็ทำเหมือนกัน
00:22:01 → 00:22:04 นะครับแล้วก็เก็บข้อมูลสุขภาพสิ่งที่เขา
00:22:04 → 00:22:06 ทำนะครับเขาก็บอกว่าอืมสุดท้ายนะครับเก็
00:22:06 → 00:22:09 เจอว่าอือย่างที่เขาบอกว่าอาหารที่เหมาะ
00:22:09 → 00:22:12 กับคนกรุ๊ป a เนี่ยคืออาหารที่เน้นไปทาง
00:22:12 → 00:22:15 พืชผักเยอะๆนะครับเค้าก็เจอว่าถ้าเกิดว่า
00:22:15 → 00:22:18 การกินอาหารตามกรุ๊ปเลือดเนี่ยมันมีจริง
00:22:18 → 00:22:21 นะครับนั่นหมายความว่าคนกรุ๊ป a ที่กิน
00:22:21 → 00:22:24 อาหารที่เหมาะสมกับกรุ๊ป A ควรจะมีสุขภาพ
00:22:24 → 00:22:27 หรือว่าค่าต่างๆที่สะท้อนความสมบูรณ์แข็ง
00:22:27 → 00:22:30 แรงของร่างกายเนี่ยดีกว่าคนกรุ๊ปอื่นๆถูก
00:22:30 → 00:22:32 มยครับแต่ในการทดลองเนี่ยเา้าก็เจอว่าไม่
00:22:32 → 00:22:37 จริงเลยคนกรุ๊ป O ที่กินอาหาร Diet
00:22:37 → 00:22:40 สำหรับกรุ๊ป A เนี่ยดันมีสุขภาพที่ดีกว่า
00:22:40 → 00:22:42 คนกรุ๊ป a ด้วยซ้ำไปนะครับแล้วเขาก็เจอ
00:22:42 → 00:22:46 ข้อมูลที่มี Conflict หรือว่าค้านกับการ
00:22:46 → 00:22:48 แนะนำการกินอาหารตามกรุ๊ปเรื่องเนี่ยอีก
00:22:48 → 00:22:51 หลายๆชุดข้อมูลมากๆนะครับก็ทำให้สุดไว้
00:22:51 → 00:22:54 ว่าไม่จริงนะครับการที่กินอาหารที่มีพืช
00:22:54 → 00:22:57 ผักเยอะๆเนี่ยไม่ว่าคุณจะเป็นเลือดกรุ๊ป
00:22:57 → 00:23:00 ไหนเนี่ยก็ย่อมดีครับดีกับสุขภาพหรือการ
00:23:00 → 00:23:03 กินอาหารที่มีเนื้อสัตว์เยอะๆแล้วก็ลดการ
00:23:03 → 00:23:05 กินอาหารพวกคาร์โบไฮเดรตหรือว่าน้ำตาล
00:23:05 → 00:23:07 เนี่ยก็ย่อมดีกับคนทุกกรุ๊ปเลือดครับใน
00:23:07 → 00:23:10 ขณะเดียวกันครับการหลีกเลี่ยงการกินอาหาร
00:23:10 → 00:23:14 ที่มี dary product หรือว่าส่วนผสมของนม
00:23:14 → 00:23:18 หรือว่าเนยเนี่ยครับก็จะดีกับทุกๆคนเช่น
00:23:18 → 00:23:20 กันไม่ได้ดีกับเฉพาะคนที่มีกรุ๊ปเลือด
00:23:20 → 00:23:23 กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งครับเพราะฉะนั้นสรุปนะ
00:23:23 → 00:23:27 ครับการกินอาหารตามกรุ๊ปเลือดเนี่ยทุกวัน
00:23:27 → 00:23:29 นี้ยอมรับการทำวงการแล้วว่าเป็น pud
00:23:29 → 00:23:32 Science นะครับว่าไม่มีความจำเป็นที่จะ
00:23:32 → 00:23:35 ต้องกินตามกรุ๊ปเลือดทางที่ดีสิ่งที่คุณ
00:23:35 → 00:23:38 ควรจะทำคือกินอาหารให้ถูกต้องตามหลัก
00:23:38 → 00:23:41 โภชนาการนะครับกินให้หลากหลายกินอาหารที่
00:23:41 → 00:23:44 มีประโยชน์ต่อร่างกายนะครับก็เพียงพอแล้ว
00:23:44 → 00:23:47 ที่สำคัญกว่าที่คุณควรจะใส่ใจนะครับคือ
00:23:47 → 00:23:50 คุณควรจะรู้ตัวเองว่าเราแพ้อาหารประเภท
00:23:50 → 00:23:52 ไหนหรือเปล่าแล้วก็ควรจะหลีกเลี่ยงอาหาร
00:23:52 → 00:23:55 ประเภทนั้นนะครับไม่ว่าจะเป็นซีฟู้ดหรือ
00:23:55 → 00:24:00 ว่าโบกถั่วหรือว่าแพแโปรตีนในนมหรือเปล่า
00:24:00 → 00:24:01 อย่างเช่นแลคโตสนะครับแล้วควรจะหลีก
00:24:01 → 00:24:04 เลี่ยงเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับร่างกาย
00:24:04 → 00:24:07 อันนั้นน่ะยังจะดีกว่าการกินอาหารตาม
00:24:07 → 00:24:09 กลุ่มเลือดด้วยซ้ำไปครับโอเคไปแล้ว 1
00:24:09 → 00:24:11 เรื่องนะการกินอาหารตามกลุ่มเลือดไม่
00:24:11 → 00:24:14 จำเป็นแล้วก็ไม่จริงนะครับทีนี้ทายนิสัย
00:24:14 → 00:24:16 ตามกรุ๊ปเลือดล่ะก็ต้องบอกตามตรงครับว่า
00:24:16 → 00:24:17 ทุกวันนี้นะครับวิทยาศาสตร์ยังพิสูจน์ไม่
00:24:17 → 00:24:21 ได้ครับว่ากรุ๊ปเลือดสามารถที่จะควบคุม
00:24:21 → 00:24:23 พฤติกรรมของคนให้มีเทรดหรือว่าคา
00:24:23 → 00:24:26 characteristic เฉพาะแค่นั้นนะครับไม่มี
00:24:26 → 00:24:29 จริงเลยครับแต่ว่าอันนี้เป็นความเชื่อ
00:24:29 → 00:24:32 แล้วก็เป็นข้อมูลที่ต้องบอกว่าคนญี่ปุ่น
00:24:32 → 00:24:35 แล้วก็คนเกาหลีเนี่ยเคคอีนมากๆเอาจจะมี
00:24:35 → 00:24:37 ศาสตของเขาแล้วก็เกิดการเผยแพร่ไปทั่วโลก
00:24:37 → 00:24:41 นะครับแต่ยังไม่มี evidence มายืนยันตาม
00:24:41 → 00:24:44 หลักวิทยาศาสตร์ครับแต่สิ่งที่ชัวร์นะ
00:24:44 → 00:24:46 ครับคือว่าใครที่มีเลือดกรุ๊ป O เนี่ย
00:24:46 → 00:24:49 ครับยุงมักจะกัดมากกว่าเลือดกรุ๊ปอื่นๆ
00:24:49 → 00:24:52 เพราะเเจอว่าเลือดกรุ๊ป O เนี่ยครับจะมี
00:24:52 → 00:24:55 อ่า association หรือว่ามีความเกี่ยว
00:24:55 → 00:24:59 เนื่องกับการปล่อยกรดแลคหรือว่าแอมโมเนีย
00:24:59 → 00:25:02 มากกว่าคนที่มีเลือดกรุ๊ปอื่นครับแล้วยุง
00:25:02 → 00:25:04 เนี่ยครับมักจะใช้เจ้าสารเคมีไม่ว่าจะ
00:25:04 → 00:25:08 เป็นแอมโมเนียกรดแลคติกหรือว่าสารที่ผลิต
00:25:08 → 00:25:09 เวลาที่เราออกกำลังกายหรือมีเหงื่อเนี่ย
00:25:10 → 00:25:13 ครับในการตามล่าหาเหยื่อหรือว่าตามล่าหา
00:25:13 → 00:25:15 เลือดนะครับแต่เนี่ยก็ไม่ใช่เป็นเหตุผล
00:25:15 → 00:25:17 เดียวนะครับที่จะบอกว่าทำไมยุงถึงกัดคุณ
00:25:17 → 00:25:19 เพราะว่ายุงเนี่ยยังบินตามแก๊สคาร์บอน
00:25:19 → 00:25:22 ออกไซด์หรือว่าความร้อนรวมถึงวัตถุสีดำๆ
00:25:22 → 00:25:25 ด้วยนะครับเพราะฉะนั้นใครก็ตามที่อ่ามี
00:25:25 → 00:25:28 อุณหภูมิสูงทำกิจกรรมมาออกกำลังกายใมา
00:25:28 → 00:25:31 เสียเหงื่อเยอะๆหรือว่าผลิตของเสียเยอะๆ
00:25:31 → 00:25:33 ทางผิวหนังเนี่ยแน่นอนคุณจะล่อยุงครับรวม
00:25:33 → 00:25:36 ถึงการใส่เสื้อผ้าสีดำๆด้วยครับโอเคครับ
00:25:36 → 00:25:39 วันนี้เราก็รู้ที่มาที่ไปของการแบ่งกรุ๊ป
00:25:39 → 00:25:41 เลือดแล้วนะครับแล้วก็รู้แล้วว่าการกิน
00:25:41 → 00:25:44 อาหารตามกรุ๊ปเลือดเนี่ยมันไม่จำเป็นเลย
00:25:44 → 00:25:48 นะครับทางที่ดีคุณควรจะกินอาหารให้ถูก
00:25:48 → 00:25:50 หลับโภชนาการมากกว่าแล้วก็ควรจะรู้ตัวว่า
00:25:50 → 00:25:53 เราแพ้อาหารประเภทไหนนะครับแล้วก็หลีก
00:25:53 → 00:25:56 เลี่ยงการกินอาหารประเภทนั้นก็จะดีที่สุด
00:25:56 → 00:26:01 ครับครับ To To the Standard podcast
00:26:01 → 00:26:05 Open for your