00:00:00 → 00:00:02 สวัสดีครับวันนี้ผมจะมาเล่าเรื่องเกี่ยว
00:00:02 → 00:00:05 ข้องกับไมเกรนนะครับว่าโรคเนี้ยมันคือ
00:00:05 → 00:00:07 อะไรนะครับมันอันตรายหรือเปล่ามันมีอาการ
00:00:08 → 00:00:10 อะไรบางอย่างที่เราอาจจะไม่รู้นะครับมัน
00:00:10 → 00:00:12 ป้องกันแล้วก็รักษาได้อย่างไรนะครับพบกับ
00:00:12 → 00:00:15 ผมนะครับนายแพทย์เนียเนียวนะครับเป็น
00:00:15 → 00:00:17 อาจารย์แพทย์อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกานะ
00:00:17 → 00:00:19 ครับเชี่ยวชาญโรคปอดการปลูกถ่ายปอดและ
00:00:19 → 00:00:22 วิกฤตบำบัดนะครับไมเกรนเนี่ยมันเป็นอาการ
00:00:22 → 00:00:25 ปวดหัวอย่างหนึ่งนะครับที่มีลักษณะเฉพาะ
00:00:25 → 00:00:27 แล้วก็มันพบได้ค่อนข้างที่จะบ่อยนะครับ
00:00:27 → 00:00:30 แต่นอกเหนือจากนี้ไมเกรนก็ยังมีลักษณะที่
00:00:30 → 00:00:33 แยกย่อยต่อไปอีกแล้วแต่ว่าเป็นชนิดไหนของ
00:00:33 → 00:00:36 ไมเกรนอ่าพูดมาถึงตรงนี้คงจะมีคนอาจจะงง
00:00:36 → 00:00:38 เฮ้ยไมเกรนมันมีหลายแบบด้วยเหรอเดี๋ยวเรา
00:00:38 → 00:00:41 จะพูดกันต่อไปนะครับไมเกรนโดยทั่วๆไปแล้ว
00:00:41 → 00:00:44 เนี่ยนะครับลักษณะอาการปวดหัวเนี่ยมันมัก
00:00:44 → 00:00:47 จะปวดข้างเดียวนะครับตอนแรกที่เริ่มปวดก็
00:00:47 → 00:00:50 เหมือนจะปวดตื้อๆก่อนแต่ว่าปล่อยเวลาไว้
00:00:50 → 00:00:53 สักพักเนี่ยมันจะเริ่มปวดแรงมากขึ้นแล้ว
00:00:53 → 00:00:55 หลังจากที่มันตื้อๆเนี่ยนะครับมันจะกลาย
00:00:55 → 00:00:57 เป็นลักษณะเหมือนมีหัวใจเต้นอยู่ในหัวเลย
00:00:57 → 00:01:00 นะครับแบบตุ๊บๆๆตามหัวใจแล้วเต้นเลยนะ
00:01:00 → 00:01:04 ครับแล้วก็จะมีอาการอื่นๆที่มาพร้อมกับ
00:01:04 → 00:01:06 การปวดหัวด้วยนะครับก็คืออาการคลื่นแส้
00:01:06 → 00:01:10 อาเจียนหรืออาการที่เรากลัวแสงเราเห็นแสง
00:01:10 → 00:01:12 แล้วมันจะปวดมากขึ้นนะครับอาจจะมีอาการ
00:01:12 → 00:01:14 ได้ยินเสียงดังเนี่ยมันจะทนไม่ไหวเลยเรา
00:01:14 → 00:01:16 ต้องไปหาที่เงียบๆนะครับแล้วก็น้ำมืดๆ
00:01:17 → 00:01:19 เนี่ยนะครับหรือจะรู้สึกดีขึ้นมานะครับ
00:01:19 → 00:01:23 เวลาที่ปวดหัวเนี่ยอ่าบางคนอ้วกออกมาเลย
00:01:23 → 00:01:26 ก็มีนะครับคือคลื่นไส้มากจนทนไม่ไหวอมัน
00:01:26 → 00:01:29 ปวดมากแล้วก็เวลาที่เราทำกิจกรรมอะไรปกติ
00:01:29 → 00:01:33 เนี่ยมันจะยิ่งทำให้ปวดมากขึ้นเช่นไอจาม
00:01:33 → 00:01:35 เดินขึ้นเดินลงนะครับเท้ากระแทกพื้นทีนึง
00:01:35 → 00:01:37 เนี่ยไอ้หัวที่ปวดอยู่เนี่ยครับมันจะปวด
00:01:37 → 00:01:40 มากขึ้นเลยนะครับแล้วมันอาการปวดเนี่ยบาง
00:01:40 → 00:01:43 ครั้งมันเป็นได้ไม่นานอาจจะเป็นสักครึ่ง
00:01:43 → 00:01:45 ชั่วโมงก็หายบางคนเป็นเป็นวันก็มีนะครับ
00:01:45 → 00:01:48 ดังนั้นมันแล้วแต่ว่าจะเป็นแบบไหนนะครับ
00:01:48 → 00:01:51 อ่านี่คือลักษณะอาการปวดหัวไมเกรนที่เจอ
00:01:51 → 00:01:55 บ่อยๆนะครับเนี่ยมันจะลักษณะประมาณแบบนี้
00:01:55 → 00:01:58 แต่ก่อนที่เราจะผ่านเรื่องนี้ไปเนี่ยผมก็
00:01:59 → 00:02:01 อยากจะแนะนำอย่างนึงนะครับเพราะว่าเวลา
00:02:01 → 00:02:03 ที่เราปวดหัวเนี่ยทุกครั้งไม่จำเป็นจะ
00:02:03 → 00:02:06 ต้องเป็นไมเกรนนะครับเวลาเราปวดหัวเนี่ย
00:02:06 → 00:02:09 เราจะแยกในทางการแพทย์เป็น 2 สาเหตุหลัก
00:02:09 → 00:02:11 นะครับสาเหตุแรกเราเรียกว่า Primary
00:02:11 → 00:02:13 headache นะครับสาเหตุที่ 2 เราเรียกว่า
00:02:14 → 00:02:16 secondary headache นะครับ Primary
00:02:16 → 00:02:19 heche คือแปลว่าเราไปหาดูพยาธิสภาพใน
00:02:19 → 00:02:21 สมองหรือว่าในร่างกายของเราแล้วเนี่ยเรา
00:02:21 → 00:02:23 ไม่เจออะไรเลยนะครับไม่ได้เจออะไรที่มัน
00:02:23 → 00:02:26 ผิดปกติแบบชัดเจนนะฮะ secondary headache
00:02:26 → 00:02:29 นี่คือแปลว่าเรามีโรคอะไรบางอย่างที่แบบ
00:02:29 → 00:02:32 ชัดเจนมากๆแล้วทำให้เรามีอาการปวดหัวยก
00:02:32 → 00:02:34 ตัวอย่างเช่นเรามีมะเร็งอยู่ในสมองนะครับ
00:02:34 → 00:02:37 เรามีแส้เลือดโป่งพองในสมองอย่างเงี้ย
00:02:37 → 00:02:40 เป็นต้นนะครับพวกนั้นก็คือมีสาเหตุบาง
00:02:40 → 00:02:43 อย่างที่ทำให้เกิดอาการปวดหัวนะครับแล้ว
00:02:43 → 00:02:45 ก่อนที่เราจะโทษว่ามันเป็นไมเกรนเนี่ยนะ
00:02:45 → 00:02:48 ครับเราก็ต้องพยายามดูว่ามันไม่มีสาเหตุ
00:02:48 → 00:02:51 อะไรอย่างอื่นที่ทำให้เราเนี่ยเป็นอาการ
00:02:51 → 00:02:53 ปวดหัวก่อนนะครับเช่นเราไม่มีมะเร็งอยู่
00:02:53 → 00:02:56 ในสมองเราไม่มีอาการติดเชื้อในสมองนะครับ
00:02:56 → 00:02:59 เราไม่มีอ่าหลอดเลือดโป่งพองอะไรพวกเนี้ย
00:03:00 → 00:03:03 นะครับแล้วถามว่าเฮ้ยพูดมาอย่างเงี้ยแล้ว
00:03:03 → 00:03:04 มันจะแยกได้ยังไงเกิดบางคนเป็นมะเร็งใน
00:03:04 → 00:03:06 สมองเกิดบางคนเป็นเนื้องอกในสมองเราก็
00:03:06 → 00:03:09 กลัวสิว่าเฮ้ยไอ้ปวดหัวของเราเนี่ยต้อง
00:03:09 → 00:03:10 เป็นอย่างงั้นหรือเปล่าเวลาหมอเค้าคุย
00:03:10 → 00:03:13 เนี่ยเค้าแยกยังไงนะครับข้อแรกแยกจาก
00:03:13 → 00:03:17 อาการก่อนนะครับแล้วข้อ 2 ก็คือว่าอาจจะ
00:03:17 → 00:03:22 มีการตรวจภาพถ่ายทางสมองนะครับโดยอาการ
00:03:22 → 00:03:24 อย่างที่เมื่อกี้ผมบอกไปไมเกรนเนี่ยจะ
00:03:24 → 00:03:26 ต้องมีลักษณะเฉพาะนะครับมีอาการปวดหัวแบบ
00:03:26 → 00:03:28 ตุ๊บๆค่อยๆเป็นมากขึ้นเรื่อยๆเป็นรุนแรง
00:03:28 → 00:03:30 นะครับตอนที่เป็นอยู่ว่ามีคลื่นไส้
00:03:30 → 00:03:33 อาเจียนบางคนจะมีอาการเอ่อกลัวแสงนะครับ
00:03:33 → 00:03:35 กลัวเสียงพวกเนี้ยมันจะทำให้ปวดมากขึ้น
00:03:35 → 00:03:37 การเคลื่อนไหวพวกเนี้ยก็จะทำให้เรามี
00:03:37 → 00:03:39 อาการปวดมากขึ้นจะต้องไปอยู่ในห้องเงียบๆ
00:03:39 → 00:03:42 นั่งนิ่งๆนอนนิ่งๆครับหรือห้องเย็นๆเนี่ย
00:03:42 → 00:03:44 มันก็จะช่วยเราได้นะครับนี่คือประวัติที่
00:03:44 → 00:03:47 ชัดเจนของเรื่องอาการปวดหัวแต่เราก็ไม่
00:03:47 → 00:03:49 ได้ซักกันแค่นี้นะครับเพราะว่าไมเกรน
00:03:49 → 00:03:52 เนี่ยเวลาเราคุยกันเราคุยกันถึงอ่าอาการ
00:03:52 → 00:03:54 ปวดที่ทท่านเคยเป็นมาก่อนหรือเปล่าถ้า
00:03:54 → 00:03:57 ท่านเคยเป็นมาก่อนนะครับเช่นอาการปูดหัว
00:03:57 → 00:04:00 แบบเนี้ยนะฮะมันจะมีทั้งหมด 4 ระยะด้วย
00:04:00 → 00:04:02 กันนะครับและระยะพวกนี้มันมีความสำคัญใน
00:04:02 → 00:04:04 การแยกว่ามันเป็นไมเกรนจริงหรือเปล่านะ
00:04:04 → 00:04:07 ครับโดยระยะแรกเราเรียกว่า prodrome นะ
00:04:07 → 00:04:10 ครับดมก็คือก่อนที่เราจะเริ่มมีอาการ
00:04:10 → 00:04:13 ไมเกรนเนี่ยบางคนน่ะในช่วงประมาณสัก 1-2
00:04:13 → 00:04:15 วันก่อนหน้าเนี้ยบางคนเรู้สึกว่าเอ๊ะเรา
00:04:15 → 00:04:19 หงุดหงิดผิดปกตินะครับเราหิวบ่อยผิดปกติ
00:04:19 → 00:04:23 นะครับเรามีอาการท้องผูกบางคนมีอาการอ่า
00:04:23 → 00:04:25 รู้สึกแปลกๆรู้สึกว่าเฮ้ยมันอารมณ์ดีผิด
00:04:25 → 00:04:28 ปกติอย่างนี้ก็มีนะครับบางคนหาวบ่อยอ่า
00:04:28 → 00:04:30 หาวบ่อยๆในช่วงวัน 2 วันเนี่ยนะครับแล้ว
00:04:30 → 00:04:32 หลังจากนั้นก็จะเติมจะเริ่มตามมาด้วย
00:04:32 → 00:04:35 อาการปวดหัวะนะครับอันนี้คือระยะแรกซึ่ง
00:04:35 → 00:04:37 จะมีหรือไม่มีก็ได้แต่คนส่วนใหญ่มักจะมี
00:04:38 → 00:04:40 นะครับบางทีประมาณสัก 2 ใน 3 หรือแบบ 3
00:04:40 → 00:04:42 ใน 4 ของคนไข้ที่เป็นไมเกรนเนี่ยก็จะมี
00:04:43 → 00:04:46 อาการเหล่าเนี้ที่เรียกว่าโดมนะครับระยะ
00:04:46 → 00:04:49 ที่ 2 ก็คือเป็นระยะที่เรียกว่าอ่านะครับ
00:04:49 → 00:04:52 อ่านี่เอ่อไม่ใช่ไม่ใช่อ่าที่มันมีแสงออก
00:04:52 → 00:04:54 มาจากตัวนะครับอันนั้นก็คนละอย่างกันนะ
00:04:54 → 00:04:58 ครับอ่าของไมเกรนเนี่ยจริงๆอ่าอาการอ่า
00:04:58 → 00:04:59 เนี่ยพบได้ไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่อจจะประมาณ
00:05:00 → 00:05:02 สัก 1 ใน 4 ของคนทั้งหมดนะครับมันมีได้
00:05:02 → 00:05:06 หลากหลายอาการมากเลยนะครับเช่นอาการที่
00:05:06 → 00:05:08 เรารู้สึกตาเบลอมัวๆหรือเห็นจุดมืดๆอยู่
00:05:09 → 00:05:11 ในตานะครับบางคนก็เห็นเส้นซิกแซกซิแซอยู่
00:05:11 → 00:05:14 ในตานะฮะบางคนมีอาการรู้สึกชาไปข้างนึงนะ
00:05:14 → 00:05:17 ครับชาในปากชาดนหน้าชาที่แขนข้างใดข้าง
00:05:17 → 00:05:20 หนึ่งอย่างเงี้ยนะฮะหรือบางคนก็มีอาการ
00:05:20 → 00:05:22 รู้สึกเวียนหัวมากๆนะครับอ่ามีคลื่นไส้
00:05:22 → 00:05:26 อาเจนแปลกๆละหรือะพวกเนี้ยนะครับมันมี
00:05:26 → 00:05:28 อาการหลากหลายบางคนก็รู้สึกมีอาการอ่อน
00:05:28 → 00:05:30 แรงข้างใดข้างหนึ่งซึ่งมันจะทำให้เราตกใจ
00:05:30 → 00:05:33 ได้นะครับเพราะเฮ้ยเราเป็นเส้นเลือดสมอง
00:05:33 → 00:05:35 มันตีบหรือเปล่าเราเป็นสตกหรือเปล่านะ
00:05:35 → 00:05:38 ครับอ่าหรือบางคนก็จะมีอาการที่แปลกๆไป
00:05:38 → 00:05:41 มากกว่านั้นคือบางคนอาจจะรู้สึกมวลๆท้อง
00:05:41 → 00:05:43 แล้วก็เป็นอย่างเงี้ยเป็นต้นนะครับนี่ก็
00:05:43 → 00:05:46 คือเอ่ออ่าซึ่งมันไม่ได้จำเป็นจะต้องมี
00:05:46 → 00:05:49 ทุกคนนะครับแล้วก็อาการพวกเนี้ยตอนแรกพอ
00:05:49 → 00:05:51 เราเริ่มเป็นแล้วเนี่ยเป็นไปสักพักนึง
00:05:51 → 00:05:53 แล้วมันจะตามมาด้วยอาการปวดหัวแบบไมเกรน
00:05:54 → 00:05:56 หรือบางคนก็มีแค่ออร่าอย่างเดียวแต่ปวด
00:05:56 → 00:05:59 หัวไม่มีนะครับไอ้นี้ก็มีนะฮะหรือบางคน
00:05:59 → 00:06:01 อาจจะมีมีอาการอย่างอื่นที่ผมไม่ได้พูดไป
00:06:01 → 00:06:04 อ่ามยกตัวอย่างเช่นพูดไม่ชัดหรือพูดแล้ว
00:06:04 → 00:06:07 หาคำที่เราจะพูดไม่ได้เฮ้ยเอ๊ะเราเอ้ย
00:06:07 → 00:06:09 เมื่อกี้พูดแล้วเสียงมันออกมาแบบเนี้ยนะ
00:06:09 → 00:06:12 ฮะคือเราจะงงๆเนี่ยอันนี้ก็จะเป็นอาการ
00:06:12 → 00:06:14 หนึ่งของไมเกรนได้นะครับเวลาที่เรามี
00:06:14 → 00:06:17 อาการนำระยะที่ 3 ก็แน่นอนเป็นระยะอาการ
00:06:17 → 00:06:20 ปวดไมเกรนอย่างที่เมื่อกี้บอกระยะที่ 4
00:06:20 → 00:06:21 เนี่ยเราเรียกว่า Post drome นะครับก็
00:06:21 → 00:06:25 คือหลังจากที่เราหายปวดแล้วเนี่ยบางคนจะ
00:06:25 → 00:06:27 มีอาการเพลียนะครับเพลียไปอีกสักระยะนึง
00:06:27 → 00:06:29 เลยหรือบางคนก็รู้สึกเอ้ยมันรู้สึกรู้สึก
00:06:30 → 00:06:32 สดชื่นขึ้นมาเฉยๆอันนี้ก็จะเป็นโพสดมได้
00:06:32 → 00:06:35 นะครับหรือบางคนที่มีอาการปวดเนี่ยถ้าเรา
00:06:35 → 00:06:37 ไปแตะโดนบริเวณที่ปวดเนี่ยมันมันปวดมัน
00:06:37 → 00:06:40 เจ็บยังเจ็บอยู่นะเหมือนมันระบมอ่ะนะครับ
00:06:40 → 00:06:42 เช่นว่าถ้าเราเป็นข้างซ้ายเเราไปแตะโดน
00:06:42 → 00:06:44 มันอย่างเงี้ยนะครับหรือเราไปลูบๆอย่าง
00:06:44 → 00:06:46 เงี้ยมันก็จะเจ็บขึ้นมานะครับเนี่ยก็เป็น
00:06:46 → 00:06:49 โพสดมหรือในขณะที่เรากำลังเป็นไมเกรนอยู่
00:06:49 → 00:06:52 ผมก็บอกว่าเอ้ยบางคนเนี่ยตอนที่กำลังปวด
00:06:52 → 00:06:54 หัวอยู่เนี่ยนะครับการที่เราไปเจอเสียง
00:06:54 → 00:06:58 ดังเจอแสงเจอเสียงคุยกันเจอกลิ่นพวกเนี้ย
00:06:58 → 00:07:01 นะครับเราก็อาจจะปวดหัวมากขึ้บางคนมันปวด
00:07:01 → 00:07:03 แม้กระทั่งเราไปแตะโดนไปแปรงฟันไปโกนหนวด
00:07:03 → 00:07:06 อย่างเงี้ยเจ็บมากขึ้นได้นะครับพวกนี้เรา
00:07:06 → 00:07:08 ก็เจอในไมเกรนนะฮะดังนั้นเนี่ยเราจะซัก
00:07:08 → 00:07:11 ประวัติเรื่องของ 4 อย่างนี้ก่อนนะครับ
00:07:11 → 00:07:12 นอกเหนือจากนั้นพอเราซักประวัติ 4 อย่าง
00:07:13 → 00:07:14 นี้เออมันรู้สึกคล้ายๆไมเกรนแล้วต่อไปเรา
00:07:14 → 00:07:17 ก็ต้องดูว่ามีอะไรที่กระตุ้นไมเกรนเพราะ
00:07:17 → 00:07:20 ว่าแน่นอนว่าถ้าเราเจอสิ่งที่กระตุ้นเรา
00:07:20 → 00:07:22 ก็ต้องบอกให้คนไข้เราเนี่ยหลีกเลี่ยงสิ่ง
00:07:22 → 00:07:24 กระตุ้นไม่งั้นมันก็เป็นอยู่เรื่อยๆนะ
00:07:24 → 00:07:27 ครับอะไรที่กระตุ้นบ้างนะครับแน่นอนความ
00:07:27 → 00:07:29 เครียดสามารถกระตุ้นอาการปวดไมเกรนได้ได้
00:07:29 → 00:07:33 นะครับอาการที่เรามีความเครียดเนี่หลายๆ
00:07:33 → 00:07:36 อย่างนะครับเช่นอ่าเราเครียดเรื่องการสอบ
00:07:36 → 00:07:39 เราเปลี่ยนงานเราย้ายบ้านเราตกงานนะครับ
00:07:39 → 00:07:42 เรามีปัญหาทางด้านการเงินหรืออะไรก็ได้นะ
00:07:42 → 00:07:44 ครับพวกนี้เกี่ยความเกี่ยวข้องหมดนะครับ
00:07:44 → 00:07:47 การที่เรานอนหลักพักผ่อนไม่เพียงพอนะครับ
00:07:47 → 00:07:49 ถ้าเราหลับๆตื่นๆนะครับหรือเรานอนดึกแล้ว
00:07:49 → 00:07:52 เราตื่นเช้าอย่างเงี้ยไมเกรนกินได้นะครับ
00:07:52 → 00:07:54 บางคนถ้ามีการนอนหลับที่ผิดปกติเช่นหยุด
00:07:54 → 00:07:57 หายใจในขนาดหลับก็ทำให้คุณภาพการนอนหลับ
00:07:57 → 00:07:59 ของเราเนี่ยเสียไปกรณีนี้ก็จะทำทำให้เรา
00:07:59 → 00:08:02 ปวดไมเกรนได้ง่ายขึ้นนะครับบางคนหาไปทุก
00:08:02 → 00:08:04 อย่างเลยนอนก็พอเพียงละนะฮะแต่รู้สึกตอน
00:08:04 → 00:08:06 เช้าๆมันง่วงเหงาเหานอนมันไม่แน่ใจแล้ว
00:08:06 → 00:08:09 เนี่ยเดี๋ยวตามมาด้วยปวดไมเกรนนะครับพวก
00:08:09 → 00:08:11 นี้ต้องไปดูว่าเรานอนหลับคุณภาพเป็นยังไง
00:08:11 → 00:08:15 นะครับการสูบบุหรี่การดื่มเหล้าพวกนี้ก็
00:08:15 → 00:08:17 จะทำให้ไมเกรนเรากำเริบได้นะครับการที่
00:08:17 → 00:08:20 เราทานอาหารไม่ตรงเวลานะครับอ้าอันเนี้ย
00:08:20 → 00:08:22 คนที่จะทำ intermittent fasting นะครับ
00:08:22 → 00:08:26 คืออยากจะอดอาหารระยะเวลานานๆนะครับตอน
00:08:26 → 00:08:30 แรกต้องอย่าหักโหมอย่าฝืนอย่ารีบทำนะครับ
00:08:30 → 00:08:32 ถ้าท่านทำแล้วท่านมีโอกาสจะเป็นไมเกรน
00:08:32 → 00:08:34 เนี่ยไมเกรนท่านมันจะรีบขึ้นมาตอนนั้นเลย
00:08:34 → 00:08:36 นะครับท่านก็จะเป็นไมเกรนนะดังนั้นคนที่
00:08:36 → 00:08:38 จะทำ intermittent fasting ถ้าท่านเคย
00:08:38 → 00:08:41 รับประทานอาหาร 3 มื้อมาก่อนแล้วอยู่ๆ
00:08:41 → 00:08:43 อยากจะตัดเหลือมื้อเดียวเลยโดยที่อดมัน
00:08:43 → 00:08:46 เลย 16 ชมงอะไรเงี้ยท่านอย่าทำนะครับอย่า
00:08:46 → 00:08:48 ไปหาทำนะเพราะว่าบางคนถ้าทำแบบนั้นเลย
00:08:48 → 00:08:52 เนี่ยอาจจะมีอาการปวดหัวรุนแรงนะครับทำ
00:08:52 → 00:08:54 ให้ท่านมีประสบการณ์ที่แย่ไปเลยจากการทำ
00:08:54 → 00:08:57 independent fasting เลยก็ได้นะครับอ่า
00:08:57 → 00:09:00 นอกเหนือจากนี้บางคนอาจจะมียาบางชนิดที่
00:09:00 → 00:09:02 ทำให้เป็นกลิ่นบางอย่างกลิ่นน้ำหอมฉุนๆ
00:09:02 → 00:09:04 พวกเนี้ยบางคนก็เป็นขึ้นมาได้กลิ่นควัน
00:09:04 → 00:09:07 บางคนก็เป็นนะครับหรือบางคนเป็นตอนก่อนจะ
00:09:07 → 00:09:10 มีประจำเดือนอ่าอันนี้เราเราก็เจอได้บ่อย
00:09:10 → 00:09:13 ครับคือมันเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนเอสโตรเจน
00:09:13 → 00:09:15 ซึ่งมันจะลดลงในช่วงก่อนจะมีประจำเดือน
00:09:15 → 00:09:18 อันนั้นน่ะก็จะทำให้เราปวดหัวขึ้นมาได้นะ
00:09:18 → 00:09:21 ครับนี่คือเหตุผลคร่าวๆนะครับอ่านอกเหนือ
00:09:21 → 00:09:23 จากนี้มันจะมีอีกอย่างนึงคือเมืองไทยอาจะ
00:09:23 → 00:09:26 เจอถ้าร้อนมากๆนะบางคนก็เป็นไมเกรนนะครับ
00:09:26 → 00:09:29 ถ้าเราไปออกแดดนานๆน่ะอยู่ๆไมเกรนกินขึ้น
00:09:29 → 00:09:31 มาเลยก็มีนะครับดังนั้นถ้าเราสามารถหา
00:09:31 → 00:09:35 เห็ดพวกนี้ได้เนี่ยวิธีแน่นอนก็คือถ้ามี
00:09:35 → 00:09:38 เหตุการณ์นำมาก่อนนะครับเช่นเราอาจจะกิน
00:09:38 → 00:09:41 อะไรประหลาดเนี่ยเหตุการณ์นำมาก่อนแล้ว
00:09:41 → 00:09:43 เราเริ่มมีเฮ้ยมันเริ่มแปลกๆละเริ่มรู้
00:09:43 → 00:09:45 สึกประหลาดประลาดแล้วตหลังจากอ่าเริ่มมา
00:09:46 → 00:09:48 เริ่มเห็นเส้นซิกแซกเริ่มมึนๆหัวเริ่ม
00:09:48 → 00:09:50 หน่วงๆหัวนะครับหลังจากนั้นเริ่มปวดหัว
00:09:51 → 00:09:53 ปวดหัวแบบข้างเดียวด้วยข้างเดียวแบบตอน
00:09:53 → 00:09:56 แรกๆกมันก็หน่วงๆหนักๆตื้อๆแล้วสภาพมัน
00:09:56 → 00:09:58 รุนแรงมากขึ้นมันเริ่มกลายเป็นตู้บๆ
00:09:58 → 00:10:00 เหมือนมีหัวใจเต้นอยู่ในหัวหัวนะครับมี
00:10:00 → 00:10:03 อารคลื่นไส้อาเจียนเริ่มเห็นแสงพล่าๆนะ
00:10:03 → 00:10:06 ครับเจอแสงก็แสงจ้าๆก็ไม่ได้ละรู้สึกมัน
00:10:07 → 00:10:09 มันหงุดหงิดมันไม่ไหวมันจะอ้วกมันต้องไป
00:10:09 → 00:10:11 อยู่ในที่เงียบๆไอ้เงี้ยเราเริ่มสงสัยว่า
00:10:11 → 00:10:14 เป็นไมเกรนชัดเจนนะครับแล้วส่วนใหญ่คนที่
00:10:14 → 00:10:16 มาหาด้วยไมเกรนเนี่ยมักจะไม่ได้มาปวดหัว
00:10:16 → 00:10:19 ครั้งแรกหรอกครับมันจะเคยปวดแบบเนี้ยมา
00:10:19 → 00:10:21 ก่อนอาจจะมากจะน้อยก็แล้วแต่นะครับแต่
00:10:21 → 00:10:25 ไมเกรนมันจะปวดข้างเดียวซะส่วนใหญ่บางคน
00:10:25 → 00:10:27 เป็นปวด 2 ข้างได้นะครับแล้วก็มันจะไม่
00:10:27 → 00:10:29 อยู่ข้างเดิมตลอดเวลามันจะมีการย้ายไปไป
00:10:29 → 00:10:31 มานะครับเดี๋ยวซ้ายเดี๋ยวขวาแต่บางคนอาจ
00:10:31 → 00:10:34 จะมีอาการว่าปวดเอ้ยเราปวดข้างซ้ายบ่อย
00:10:34 → 00:10:36 กว่าอบางคนปวดข้างขวาบ่อยกว่าอันนี้
00:10:36 → 00:10:38 สามารถเกิดขึ้นได้นะครับดังนั้นพวกนี้
00:10:38 → 00:10:40 เนี่ยเราจะซักประวัติกลุ่มนี้ทั้งหมดก่อน
00:10:40 → 00:10:42 นะครับว่าเราสงสัยไมเกรนหรือเปล่าถ้า
00:10:42 → 00:10:44 สงสัยไมเกรนจริงๆไม่จำเป็นจะต้องไปตรวจ
00:10:44 → 00:10:48 MRI หรือ CT สแกนสมองเลยก็ได้นะครับอ่า
00:10:48 → 00:10:52 พวกนี้แต่ว่าเราก็จะต้องดูว่าเค้ามีโรค
00:10:52 → 00:10:54 ประจำตัวอะไรหรือเปล่าเค้ามีเหตุผลอะไรย
00:10:54 → 00:10:59 นะครับทีนี้เมื่อไหร่ที่เราจะต้องตรวจ
00:10:59 → 00:11:03 พิเศษเช่นตรวจสแกนสมองตรวจ MRI อ่าตรง
00:11:03 → 00:11:04 เนี้ยสำคัญนะ
00:11:04 → 00:11:09 ครับผมมีบางอย่างซึ่งถ้าเรามีสิ่งต่อไป
00:11:09 → 00:11:13 เนี้ยเราจำเป็นจะต้องตรวจ MRI หรือ CT
00:11:13 → 00:11:15 Scan เช่นถ้าท่านมีอาการเหมือนไมเกรนอ่ะ
00:11:16 → 00:11:17 แต่มันปวดอยู่ข้างเดียวอ่ะไม่เคยย้ายข้าง
00:11:17 → 00:11:19 เลยปวดอยู่ข้างซ้ายก็ข้างซ้ายทุกครั้งที่
00:11:19 → 00:11:22 ท่านปวดแบบเนี้ยควรจะต้องทำเพราะว่ามัน
00:11:22 → 00:11:24 อาจจะมีที่มีปัญหาอะไรอยู่ที่สมองข้าง
00:11:24 → 00:11:27 นั้นนะครับถ้าท่านไม่เคยเป็นไมเกรนไม่เคย
00:11:27 → 00:11:30 ปวดมาก่อนเลยในชีวิตแล้วเกิดอายุ 50 แล้ว
00:11:30 → 00:11:32 ท่านเมีอาการแบบเนี้ยท่านควรจะตรวจครับ
00:11:32 → 00:11:34 เพราะว่าอายุเยอะเนี่ยจะเสี่ยงต่อโรคต่าง
00:11:34 → 00:11:36 ๆเช่นโรคหลอดเลือดโป่งพองในสมองแล้วมัน
00:11:36 → 00:11:39 แตกขึ้นมาหรือโรคที่มันเป็นมะเร็งในสมอง
00:11:39 → 00:11:42 อย่างนี้เป็นต้นนะครับอ่าอันถ้าอายุเกิน
00:11:42 → 00:11:44 50 ควรจะตรวจนะครับถ้าท่านมีอาการทาง
00:11:44 → 00:11:47 ระบบประสาทที่อธิบายไม่ได้นะครับอยู่ๆเ้ย
00:11:47 → 00:11:49 อ่อนแรงไปเลยข้างนึงหรือตามันดับไปเลย
00:11:49 → 00:11:51 ข้างนึงหรืออยู่ๆพูดไม่ชัดขึ้นมานะครับมี
00:11:51 → 00:11:54 เวียนหัวมากๆแล้วก็พวกเนี้ยอ่อนแรงมีชา
00:11:54 → 00:11:56 อย่างเงี้ยนะครับคือก่อนที่เราจะบอกว่า
00:11:56 → 00:11:58 อาการทั้งหมดพวกเนี้ยมันเกิดจากไมเกรน
00:11:58 → 00:12:00 ท่านจะต้องหาหาอย่างอื่นก่อนอย่างที่
00:12:00 → 00:12:03 เมื่อกี้ผมบอกคือ secondary heche คือมี
00:12:03 → 00:12:05 เหตุผลที่ทำให้ท่านมีอาการแบบนั้นนะครับ
00:12:05 → 00:12:07 จะต้องหาเหตุก่อนเพราะบางทีต้องไปแก้ที่
00:12:07 → 00:12:10 สาเหตุพวกนั้นนะครับอ่าแต่ถ้าหาแล้วไม่
00:12:10 → 00:12:12 เจอเนี่ยท่านก็ยังเป็นไมเกรนได้นะครับไม่
00:12:12 → 00:12:14 ใช่ว่าท่านเป็นโรคร้ายอะไรแต่อย่างใดนะ
00:12:14 → 00:12:17 ครับอ่ะแต่ว่าถ้ามีอาการเหล่านั้นเนี่ย
00:12:17 → 00:12:21 ควรจะต้องใช้วิธีการตรวจแบบใช้ดูดูในสมอง
00:12:21 → 00:12:24 ของท่านดูว่าถ่ายภาพถ่าย MRI ภาพถ่าย CT
00:12:24 → 00:12:27 สแกนอย่างนี้เป็นต้นนะครับอ่าคนที่มีไข้
00:12:27 → 00:12:30 ร่วมด้วยอ่ามีไข้พวกเนี้ยยิ่งต้องหาคนที่
00:12:30 → 00:12:33 เคยเป็นมะเร็งมาก่อนคนที่ปวดหัวมากๆแล้ว
00:12:33 → 00:12:36 น้ำหนักลดนะครับหรือคนที่มีภูมิต้านทานบก
00:12:36 → 00:12:38 พร่องต่างๆเช่นรับประทานยากดภูมิต้านทาน
00:12:38 → 00:12:41 อยู่หรือเป็น HIV อยู่นะครับพวกเถ้าอยู่ๆ
00:12:41 → 00:12:44 ปวดหัวขึ้นมาเนี่ยเป็นปวดหัวที่อยู่ๆไม่
00:12:44 → 00:12:46 เคยเป็นนะแล้วมันเป็นเนี่ยควรจะต้องทำการ
00:12:46 → 00:12:49 ถ่ายภาพถ่ายทางสมองนะครับเพื่อดูว่ามีโรค
00:12:49 → 00:12:53 อื่นหรือเปล่านะครับอ่าอีกอย่างนึงคือถ้า
00:12:54 → 00:12:56 การปวดหัวของท่านนั้นตะเดิมมันก็ปวดอยู่
00:12:56 → 00:12:59 แบบนึงอยู่มาวันนึงมันเปลี่ยนแบบเลยอ่ะนะ
00:12:59 → 00:13:01 ครับจากตก่อนมันเป็นตุ๊บๆแบบเนี้ยแล้ว
00:13:01 → 00:13:03 อยู่ๆมันกมาเป็นบีบๆยาวๆให้้ไอ้ปวดแบบนี้
00:13:03 → 00:13:06 ไม่เคยปวดมาก่อนแฮะมันแปลกเฮ้ยอย่างเงี้ย
00:13:06 → 00:13:10 ควรจะต้องตรวจนะฮะหรืออีกกรณีนึงก็คือปวด
00:13:10 → 00:13:13 แบรุนแรงมากๆมากมากที่สุดในชีวิตไม่เคย
00:13:13 → 00:13:15 ปวดแบบนี้มาก่อนอย่างเงี้ยต้องทำทันที
00:13:15 → 00:13:17 เพราะว่าเราสงสัยว่ามีเส้นเลือดมันแตกใน
00:13:17 → 00:13:19 สมองนะครับถ้ามันปวดแบบรุนแรงมากๆทนไม่
00:13:19 → 00:13:23 ไหวต้องทำนะครับอ่าอีกอย่างนึงคือถ้าไม่
00:13:23 → 00:13:25 เคยปวดอะไรมาก่อนนี้ปวดเป็นครั้งแรกใน
00:13:25 → 00:13:28 ชีวิตของท่านเนี่ยครั้งแรกในชีวิตของท่าน
00:13:28 → 00:13:30 ที่รู้สึกรู้สึกว่าเฮ้ยไม่ไหวแล้วต้องไป
00:13:30 → 00:13:33 หาหมออย่างเงี้ยหมอก็จะตรวจให้นะครับนี่
00:13:33 → 00:13:36 คือคร่าวๆนะครับของว่าคนไหนที่จำเป็นจะ
00:13:36 → 00:13:40 ต้องตรวจคลื่นอ่าตรวจเรื่องของภาพถ่ายทาง
00:13:40 → 00:13:43 สมองด้วย CT สแกนหรือ MRI สมองนะครับแต่
00:13:43 → 00:13:45 ก็อาจจะมีกรณีอื่นๆอีกซึ่งผมไม่ได้พูดถึง
00:13:45 → 00:13:48 นะครับตรงนี้ก็จะต้องไปคุยกับหมอที่รักษา
00:13:48 → 00:13:51 นะครับดังนั้นข้อแรกหมอเขซักประวัติก่อน
00:13:51 → 00:13:54 ว่ามีอะไรกระตุ้นมยอันที่ 2 มีระยะโดมมี
00:13:54 → 00:13:57 อ่าคือมีอาการแปลกๆก่อนที่จะเกิดอาการปวด
00:13:57 → 00:14:00 หัวมย 3 คือคือลักษณะของอาการปวดหัวนั้น
00:14:00 → 00:14:03 น่ะเหมือนไมเกรนหรือเปล่านะครับก็คือปวด
00:14:03 → 00:14:06 ข้างเดียวตุ๊บๆนะครับรุนแรงมีอาการคลื่น
00:14:06 → 00:14:09 แส้เจียนเอ่อต้องไปอยู่ในที่มืดๆนะครับ
00:14:09 → 00:14:11 อยู่เฉยๆนิ่งๆนะครับแล้วหลังจากนั้นมีโพส
00:14:11 → 00:14:13 ดมคือมีอาจจะมีเพลียมีอาการอะไรอย่างอื่น
00:14:13 → 00:14:15 นะครับไปจับโดนแล้วเจ็บอะไรอย่างเงี้ย
00:14:15 → 00:14:17 เหลืออยู่ได้นะครับตรงนี้ก็คือเป็นสิ่ง
00:14:17 → 00:14:19 ที่หมอเขาจะซักประวัติทั้งหมดดูว่าเรา
00:14:19 → 00:14:22 จำเป็นจะต้องตรวจอะไรมนะครับส่วนใหญ่แล้ว
00:14:22 → 00:14:25 เนี่ยไมเกรนไม่ต้องตรวจอะไรครับวินิจฉัย
00:14:25 → 00:14:27 จากการซักประวัติได้อย่างเดียวแล้วเราก็
00:14:27 → 00:14:31 ให้การรักษาแนะนำได้เลยเลยทันทีนะครับอ่า
00:14:31 → 00:14:33 ทีนี้เราเข้าใจเรื่องของไมเกรนมาละผมก็
00:14:33 → 00:14:36 อยากจะบอกว่าเมื่อกี้ที่เราบอกว่ามี
00:14:36 → 00:14:38 Primary กับ secondary heche นะครับ
00:14:38 → 00:14:40 secondary heche คือมีเหตุผลชัดเจนนะ
00:14:40 → 00:14:42 ครับมีหลอดเลือดโป่งพรองในสมองมีการติด
00:14:42 → 00:14:43 เชื้อหรือมีมะเร็งอะไรเงี้ยก็แล้วแต่ถ้า
00:14:43 → 00:14:45 เราหาแล้วมันไม่มีเราซักประวัติแล้วมัน
00:14:45 → 00:14:47 ไม่มี Primary
00:14:47 → 00:14:49 heche อย่างที่บอกการปวดหัวทุกชนิดไม่
00:14:49 → 00:14:52 ใช่ไมเกรนนะครับ Primary Head เนี่ยมัน
00:14:52 → 00:14:55 มีอยู่อ่าหลักๆอยู่ 3 โรคเท่าที่ผมพอจะ
00:14:55 → 00:14:57 นึกได้นะครับโรคแรกก็ไอ้ไมเกรนนี่แหละ
00:14:57 → 00:14:59 ครับนะโรคที่ 2 คือเรียกว่าว่า tension
00:14:59 → 00:15:01 heche นะครับ tension heche คือเป็นการ
00:15:01 → 00:15:03 ปวดศีรษะที่เกี่ยวข้องกับความเครียดนะ
00:15:03 → 00:15:05 ครับหรือว่าจะเครียดทางด้านร่างกายหรือ
00:15:05 → 00:15:07 เครียดทางด้านจิตใจก็ได้นะครับมันจะปวด
00:15:07 → 00:15:09 ลักษณะเหมือนมีอะไรมารัดหัวมียางรัดหัว
00:15:09 → 00:15:12 อย่างเงี้ยรัดแน่นๆน่ะนะครับอ่าจะหนักๆ
00:15:12 → 00:15:16 แน่นๆพวกเนี้ยนะครับอ่าแต่อาการปวดหัวแบบ
00:15:16 → 00:15:18 เนี้ยมันเหมือนรัดใช่มั้ยรัดมันก็ต้อง
00:15:18 → 00:15:19 เป็นทั้ง 2 ข้างถูกมั้ยครับมันจะไม่เป็น
00:15:19 → 00:15:21 ข้างเดียวมันจะเป็น 2 ข้างแล้วพวกนี้รู้
00:15:21 → 00:15:25 สึกว่าบางคนอาจจะมีอาการแน่นๆหนักๆปวดหัว
00:15:25 → 00:15:27 บางลงลงท้ายทอยก็ได้นะครับแต่มันก็มักจะ
00:15:27 → 00:15:29 ไม่หนักเท่าไมเกรนไม่มีอาการตุ๊บๆไม่มี
00:15:29 → 00:15:31 อาการคลื่นไส้เจียนเหมือนไมเกรนนะครับนี่
00:15:31 → 00:15:34 คืออาการแบบ tension H นะครับซึ่งพวกเย
00:15:34 → 00:15:35 ก็ไม่ได้มีอะไรไม่ต้องไม่ต้องกลัวอะไรนะ
00:15:35 → 00:15:38 ครับมันก็กินยาอะไรส่วนใหญ่มันก็หายนะ
00:15:38 → 00:15:41 ครับแบบที่ 3 คือเรียกว่า cluster heche
00:15:41 → 00:15:43 นะครับ cluster heche นี่จริงๆมันมีแยก
00:15:43 → 00:15:46 ย่อยออกไปหลายๆชนิดนะครับแต่ว่าเอาเป็น
00:15:46 → 00:15:50 ว่าลักษณะของมันเนี่ยคือมันจะเป็นปวดแบบ
00:15:50 → 00:15:52 เริ่มรุนแรงทันทีตั้งแต่แรกเลยรุนแรงมากๆ
00:15:52 → 00:15:54 เลยมาแบบโหเหมือนมีดจิ้มหัวเข้าไปเลย
00:15:54 → 00:15:56 อย่างเงี้ยนะครับไม่ใช่ไมเกรนไมเกรนมันจะ
00:15:56 → 00:15:59 ค่อยๆบค่อยๆตอนแรกหนักๆนนๆแล้วมันแรงขึ้น
00:15:59 → 00:16:01 แรงขึ้นแรขึ้นไอ้เนี่ยมันจะมาแรงตั้งแต่
00:16:01 → 00:16:04 แรกเหมือนอยู่ๆมีเอามีคนเอามีดจิ้มหัวเลย
00:16:04 → 00:16:06 นะครับคืออาการพวกนี้มันจะเป็นข้างเดียว
00:16:06 → 00:16:08 รุนแรงมากนะครับเหมือนไฟฟ้าช็อตหัวข้าง
00:16:08 → 00:16:11 นั้นหรือมีอะไรแหลมๆจิ้มเข้าไปในหัวข้าง
00:16:11 → 00:16:14 นั้นนะครับแล้วมันมักจะมีอาการแปลกๆอย่าง
00:16:14 → 00:16:17 นึงก็คือถ้าท่านปวดข้างขวานะครับอาจจะมี
00:16:18 → 00:16:21 ตาแดงข้างขวาน้ำตาไหลข้างขวาจมูกตันข้าง
00:16:21 → 00:16:24 ขวาน้มูกไหลข้างขวาอ่านะครับเนี่ยคือ
00:16:24 → 00:16:27 อาการคัสเตอร์ hak ซึ่งมีวิธีในการรักษา
00:16:27 → 00:16:29 แบบเฉพาะเจาะจงแต่ว่าตอนนี้เราไม่พูดกัน
00:16:29 → 00:16:34 นะครับอ่าทีนี้เราพอรู้จักไมเกรนะเฮ้ย
00:16:34 → 00:16:37 แล้วถ้าเราสงสัยว่าเราเป็นไมเกรนเนี่ยมัน
00:16:37 → 00:16:39 เป็นได้ยังไงเป็นกรรมพันธ์หรือเปล่านะ
00:16:39 → 00:16:42 ครับไมเกรนเนี่ยนะครับมันมีความเกี่ยว
00:16:42 → 00:16:46 ข้องบางอย่างกับพันธุกรรมได้นะครับอ่าแต่
00:16:46 → 00:16:48 ว่ายีนซึ่งเกี่ยวข้องกับไมเกรนเนี่ยมัน
00:16:48 → 00:16:51 เยอะซะจนเราไม่สามารถที่จะบอกได้ว่าเฮ้ย
00:16:51 → 00:16:53 มียีนตัวนี้ทำไม่เป็นอย่างงั้นมันมีแค่
00:16:53 → 00:16:57 บางไมเกรนบางชนิดที่จะมีความเกี่ยวข้อง
00:16:57 → 00:17:01 กับยีนเหล่านั้นนะครับแต่ไมเกรนเนี่ยสิ่ง
00:17:01 → 00:17:05 ที่มันเกิดขึ้นได้เนี่ยในทางปฏิบัติทาง
00:17:05 → 00:17:08 การแพทย์นะครับปัจจุบันเขาเชื่อว่าเวลามี
00:17:08 → 00:17:11 สิ่งกระตุ้นนะฮะสิ่งกระตุ้นเช่นแสงเสียง
00:17:11 → 00:17:12 กลิ่นประหลาดหรือว่าเราไม่ได้นอนพวกเนี้ย
00:17:12 → 00:17:15 มันไปดันไปกระตุ้นทำให้สมองของเรามีการ
00:17:15 → 00:17:19 ตอบสนองที่ผิดปกติไปนะครับเอ่ออันนี้อาจ
00:17:19 → 00:17:21 จะงงนิดนึงเป็นภาษาทางการแพทย์นะเคเรียก
00:17:21 → 00:17:24 ว่าเอ่อเป็น cortical spreading of
00:17:24 → 00:17:27 depression นะครับ depression ไม่ใช่ไม่
00:17:27 → 00:17:30 ใช่โรคซึมเศร้านะครับอันนี้เป็นวิเป็นการ
00:17:30 → 00:17:32 เปลี่ยนแปลงของระบบประสาทนะครับ cortical
00:17:32 → 00:17:34 spreading of depression มันมีชื่อัง
00:17:34 → 00:17:38 ไง cal spreading of depression Of
00:17:38 → 00:17:40 layout lal นี่คือมันเป็นภาษานึงแปลว่า
00:17:40 → 00:17:43 เอ่อสิงโตนะครับมันไม่ใช่ไอนนะครับไม่ใช่
00:17:43 → 00:17:46 ีองแต่มันเลแต่มันเป็นภาษาอะไรไม่รู้ผม
00:17:46 → 00:17:50 เคยเรียนตอนเด็กๆลืมไปะนะครับตัวนี้เนี่ย
00:17:50 → 00:17:53 มันทำให้การนำประสาทนะครับกระแสไฟฟ้าใน
00:17:53 → 00:17:56 การนำประสาเนี่ยมันเปลี่ยนแปลงไปผิดปกติ
00:17:56 → 00:17:58 แล้วมันจะค่อยๆขยายไปเรื่อยๆจากบริเวณนึง
00:17:58 → 00:18:00 ซักบริเวณนึงก็คือมักจะเป็นจากข้างที่ปวด
00:18:01 → 00:18:03 สมมุติว่าผมปวดข้างขวาไอ้ตัวเนี้ยมันจะ
00:18:03 → 00:18:05 ค่อยๆขยายนะครับการนำประสไฟฟ้าของตรง
00:18:06 → 00:18:08 เนี้ยค่อยๆขยายขยายๆไปเรื่อยๆเริ่มจากตรง
00:18:08 → 00:18:10 เนี้ยพวกเนี้ยจะทำให้เราเกิดอาการต่างๆ
00:18:10 → 00:18:12 เช่นตาพราเห็นจุดดำๆเห็นเส้นซิกแซกนะครับ
00:18:12 → 00:18:15 มีอาการคลื่นแส้เจียนบางคนมีอาการเอเห็น
00:18:15 → 00:18:18 ได้ยินเสียงวิ่งๆในหัวที่เราเรียกว่า tus
00:18:18 → 00:18:20 นะครับหรือว่าเวียนหัวมากๆเหมือนเมาเรือ
00:18:20 → 00:18:22 เมารถอย่างเงี้ยพวกเนี้ยมันจะทำให้เกิด
00:18:22 → 00:18:23 แบบนี้ขึ้นมานะครับพอมันเกิดเสร็จปุ๊บ
00:18:24 → 00:18:27 เนี่ยมันจะไปกระตุ้นเส้นประสาทที่รับความ
00:18:27 → 00:18:29 เจ็บปวดที่บริเวณหน้าก็คือเส้นประสาทสมอง
00:18:29 → 00:18:31 คู่ที่ 5 ที่เรียกว่า trig germinal
00:18:31 → 00:18:33 nerve นะครับไอ้เส้นประสาทนี่แหละครับ
00:18:33 → 00:18:36 มันมีปัญหานะฮะตรงปงประสาทมันเนี่ยจะมี
00:18:36 → 00:18:39 นี้ภาษาทางการแพทย์นะครับฟังเอาสนุกๆพอนะ
00:18:39 → 00:18:41 ครับมันเรียกว่า calcitonin Gen related
00:18:42 → 00:18:44 peptide หรือ cgrp นะครับตัวนี้นี่แหละ
00:18:44 → 00:18:47 ที่เขาเชื่อว่ามีความเกี่ยวข้องกับไมเกรน
00:18:47 → 00:18:51 แบบมากๆนะครับเพราะว่าเส้นประสาทสมองคู่
00:18:51 → 00:18:53 ที่ 5 ตัวเนี้ยมันจะมีตัวเนี้ยมันออกมาพอ
00:18:53 → 00:18:55 ออกมาสิ่งที่ทำให้เกิดขึ้นก็คือมันจะทำ
00:18:55 → 00:18:59 ให้เส้นประสาทตัวนี้นำความเจ็บปวกหรือ
00:18:59 → 00:19:02 คววามรู้สึกอักเสบจากเส้นเลือดที่อยู่ใน
00:19:02 → 00:19:05 สมองในกะโหลกศีรษะของเราไปให้สมองเรารับ
00:19:05 → 00:19:09 รู้มันก็เลยเกิดอาการปวดขึ้นมานะครับเกิด
00:19:09 → 00:19:12 อาการรับรู้อาการปวดขึ้นมานะแล้วไอ้พวก
00:19:12 → 00:19:15 เนี้ยมันยังทำให้เกิดปัญหาทางด้านของการ
00:19:15 → 00:19:19 ควบคุมเซลล์ในสมองนะครับปกติเนี่ยจะมีตัว
00:19:19 → 00:19:22 กั้นระหว่างเลือดกับสมองซึ่งเรียกว่า
00:19:22 → 00:19:24 Blood Brain barrier นะครับถ้ามันเสีย
00:19:24 → 00:19:27 ไปจะมีการเข้าออกของสารที่มันผิดปกติ
00:19:27 → 00:19:29 ระหว่างเลือดและสมองได้พวกนี้ก็เชื่อว่า
00:19:29 → 00:19:32 มันน่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราเกิดอาการ
00:19:32 → 00:19:35 ไมเกรนขึ้นมาได้นะครับอ่านี่ก็คืออย่าง
00:19:35 → 00:19:38 หนึ่งนะฮะแต่เรื่องไมเกรนจริงๆมันยาวผมก็
00:19:38 → 00:19:40 จะเล่าอีกอย่างนึงคร่าวๆแล้วกันเพราะว่า
00:19:40 → 00:19:43 ไมเกรนเนี่ยมันไม่ได้มีชนิดเดียวนะครับ
00:19:43 → 00:19:48 มันมีหลากหลายชนิดเลยนะครับอ่ะเช่นอะไร
00:19:48 → 00:19:51 บ้างเช่นอ้ออันนี้อันนี้ต้องบอกก่อน
00:19:51 → 00:19:53 ไมเกรนส่วนใหญ่ทั้งหมดนะครับมันไม่เกิด
00:19:53 → 00:19:56 อันตรายเป็นยังไงมันก็ไม่ตายนะครับไม่มี
00:19:56 → 00:19:59 ปัญหาแต่มันจะมีไมเกรนบางประเภทเนี่ยที่
00:19:59 → 00:20:02 มันมีปัญหาจริงๆก็คือถ้ามันเป็นนานๆเป็น
00:20:02 → 00:20:05 มากๆแล้วเนี่ยบางคนชักนะครับชักจริงๆนะ
00:20:05 → 00:20:08 ครับไม่ได้ชักเล่นๆนะครับอันที่ 2 ทำให้
00:20:08 → 00:20:11 เนื้อสมองบางส่วนมันตายได้จริงๆเหมือนสตก
00:20:11 → 00:20:13 นะครับเหมือนเส้นเลือดสมองมันติดดอันนี้
00:20:13 → 00:20:15 เหมือนอาการเป๊ะเลยเช่นว่าเฮ้ยถ้าเราอ่อน
00:20:15 → 00:20:18 แรงก็อ่อนแรงไปเลยแล้วมันไม่หายอีกเลยนะ
00:20:18 → 00:20:20 ครับแล้วไปทำเซเรย์สมองก็เจอบริเวณนั้น
00:20:20 → 00:20:24 น่ะมันมีการตายนะครับแต่จะอย่างที่บอกมัน
00:20:24 → 00:20:27 ต่างกับสกอย่างนึงก็คือสกเนี่ยเส้นเลือ
00:20:27 → 00:20:30 ตีบมันมักจะไม่ปวดหัวอ่าแต่ไมเกรนมันปวด
00:20:30 → 00:20:32 หัวแล้วมีอารขึ้นไส้อาเจียนนะครับแล้วมี
00:20:32 → 00:20:35 อาการอ่าอ่าพวกนี้ก็คืออาการที่มันจะอยู่
00:20:35 → 00:20:38 ติดกับเราไปตลอดนะครับอ่าไมเกรนเนี่ยมัน
00:20:38 → 00:20:42 แบ่งแยกตามตามชนิดได้หลายๆชนิดเช่นอันนึง
00:20:42 → 00:20:46 เรียกว่า Bill ไน Bill ไมเกรนคือเป็น
00:20:46 → 00:20:49 ปัญหาไมเกรนที่มีอาการทางก้านสมองนะครับ
00:20:49 → 00:20:53 เช่นอะไรบ้างอ่ามีอาการชาที่หน้าข้างนึง
00:20:53 → 00:20:55 นะครับมีอาการพูดไม่ชัดมีอาการที่ได้ยิน
00:20:55 → 00:20:57 เสียงแบบเฮ้ยเสียงปกติแต่มันรู้สึกดังมาก
00:20:57 → 00:21:00 ขึ้นกว่าปกติเรียกว่า hyperacusis นะครับ
00:21:00 → 00:21:03 หรือมีมีการเวียนหัวเรียกว่า vertical นะ
00:21:03 → 00:21:05 ครับคือเหมือนบ้านมันหมุนอย่างเงี้ย
00:21:05 → 00:21:07 เหมือนอ่าถ้าใครไม่รู้จักบ้านหมุนก็ลอง
00:21:07 → 00:21:09 ยืนอยู่เฉยๆแล้วหมุนรอบๆตัวหมุนๆๆๆแล้ว
00:21:09 → 00:21:11 ลองหยุดดูนะครับแล้วท่านจะรู้สึกว่าไอ้
00:21:11 → 00:21:13 หน้ามันหมุนโครงเครงนั่นคือ vertical คือ
00:21:13 → 00:21:16 บ้านหมุนนะครับไม่ใช่รู้สึกเมาๆมึนๆนะคน
00:21:16 → 00:21:18 ละอย่างกันนะครับอ่านี้คือ vertical คือ
00:21:18 → 00:21:21 การหมุนนะฮอ่าหรือการได้ยินเสียงวิ้งๆ
00:21:21 → 00:21:23 เนี่ยเรียกว่า tinnitus นะครับเหมือนมีคน
00:21:23 → 00:21:26 เอาเสียงวีอย่างเงี้ยมาไว้ข้างๆหูเรา
00:21:26 → 00:21:30 อย่างเงี้ยนะฮะอันนี้คือเไกนซึ่งมันมักจะ
00:21:30 → 00:21:33 เจอในคนอายุน้อยกว่าคือประมาณสัก 7-20
00:21:33 → 00:21:35 ขวบแถวๆเนี้ยนะฮะแต่ถ้าเป็นไมเกรนจริงๆ
00:21:35 → 00:21:38 เนี่ยเราจะเจอเยอะในช่วงประมาณ 30-40 นะ
00:21:38 → 00:21:41 ฮะแต่ไอ้เไอ้ตัว basal ไมเกรนเนี่ยเจอใน
00:21:41 → 00:21:43 เด็กมากกว่าแล้วมันค่อยๆเปลี่ยนนะครับบาง
00:21:43 → 00:21:46 คนมีอาการแบบเนี้ยนะฮะแต่พอโตขึ้นลักษณะ
00:21:46 → 00:21:48 การปูดหัวมันเปลี่ยนลักษณะอ่าเขาเปลี่ยน
00:21:48 → 00:21:51 นะครับแต่ถ้าเป็น basil mic อ่าของเขาจะ
00:21:51 → 00:21:54 ประหลาดประดนะครับอ่าอย่างที่บอกเมื่อกี้
00:21:54 → 00:21:56 คือเนี่ยถ้าเป็น Bill คือมีอาการทางก้าน
00:21:56 → 00:21:59 สมองคือมีอาการมึนหัวพูดไม่ใชชัดนะครับมี
00:21:59 → 00:22:01 อาการชาข้างนึงมีอาการ
00:22:01 → 00:22:04 เอิมบางบางคนมีอาการได้ยินเสียงวิ้งๆนะ
00:22:04 → 00:22:07 ครับมีอาการบ้านหมุนนะฮะและที่สำคัญคือ
00:22:07 → 00:22:09 มันต้องมี 2 อาการนะครับไม่ใช่มีอาการ
00:22:09 → 00:22:12 เดียวถ้ามีอาการเดียวไม่ได้นะครับอ่า
00:22:12 → 00:22:14 เพราะว่าเราเจอคนที่เป็นเ่อเซิลไมเกรนมา
00:22:14 → 00:22:17 ด้วยอาการที่มีการรับรู้ตัวลดลงเหมือนซึม
00:22:17 → 00:22:22 ลงซึมลงเฉยๆเนี่ยไม่ใช่ Bill ไนเราต้องไป
00:22:22 → 00:22:24 หาสาเหตุอื่นเช่นว่าบางคนมีเลือสมองมัน
00:22:24 → 00:22:27 แตกไปแล้วเถึงซึมนะครับหรือเป็นโรคอื่นๆ
00:22:27 → 00:22:29 มีติดเชื้อในสมองอะไรหรือเปล่านะครับถ้า
00:22:29 → 00:22:31 เป็นเบซิลไมเกรนจะต้องมีอาการพวกเนี้ย
00:22:31 → 00:22:34 อย่างน้อย 2 อาการขึ้นไปนี่เป็นเวลาเรียน
00:22:34 → 00:22:35 แพทย์นี่เราต้องเน้นตรงนี้เลยต้อง 2
00:22:36 → 00:22:39 อาการขึ้นไปเช่นมีเสียงวิ่งๆในหูร่วมกับ
00:22:39 → 00:22:42 อาการลดเอ่อความรู้สึกตัวลดลงอ่าหรือมี
00:22:42 → 00:22:44 อาการชาร่วมด้วยอย่างเงี้ 3 อาการปุ๊บ
00:22:44 → 00:22:46 อย่างเงี้ยสงสัยอาจจะเป็น Bill ไมเกรนแต่
00:22:46 → 00:22:48 ถ้าเป็น Bill ไมเกนแล้วเราหาเหตุอะไรไม่
00:22:48 → 00:22:50 ได้นะเราต้องสแกนสมองไว้ก่อนเพื่อความแน่
00:22:50 → 00:22:53 นอนว่ามันไม่เป็นโรคอะไรประหลาดนะครับอ่า
00:22:54 → 00:22:56 อีกอย่างนึงคือ retinal ไนอ่า Retin ก็
00:22:56 → 00:22:59 คือจอรับประสาทตาถ้าเกิดว่าเราเป็นไมเกรน
00:22:59 → 00:23:02 บางคนจะรู้สึกว่าเฮ้ยมันมีจุดมืดๆดำๆอยู่
00:23:02 → 00:23:05 ที่ตาเรามืดบอดไปเลยอมองไม่เห็นอ่าอย่าง
00:23:05 → 00:23:08 นี้เป็นต้นอ่าเ่อหรืออีกอย่างนึงซึ่งน่า
00:23:08 → 00:23:12 กลัวก็คือเรียกว่าเอเิิไนเิิเิแปลว่า
00:23:12 → 00:23:14 ครึ่งพิก็แปลว่าหรือพียก็คือเป็นการ
00:23:14 → 00:23:17 เคลื่อนเคลื่อนไหวไม่ได้พูดง่ายๆคืออัมพา
00:23:17 → 00:23:20 ครึ่งซีกนะฮะเช่นซิกซายอัมพาตไปเลยนะครับ
00:23:20 → 00:23:22 แต่ส่วนใหญ่มันมักจะปวดหัวข้างเดียวกับ
00:23:22 → 00:23:24 ไอ้ที่เรามีอพาตอย่างเงี้ยนะฮะบางคนก็
00:23:24 → 00:23:26 เป็นปวดสลับเป็นสลับมาแต่ว่าตอนที่กำลัง
00:23:26 → 00:23:29 มีไมเกรนเนี่ยบางคนข้างนึงอ่ะมันอ่อนแรง
00:23:29 → 00:23:31 ไปเลยแล้วเราก็จะสงสัยว่าเฮ้ยนี่เราเป็น
00:23:31 → 00:23:34 เส้เลือสมองติเป็นสตกหรือเปล่านะครับถ้า
00:23:34 → 00:23:36 เป็นอย่างเงี้ยแน่นอนครั้งแรกที่เป็นเ
00:23:36 → 00:23:39 ต้อง xray สมองทำสแกนเไทำทุกอย่างให้
00:23:39 → 00:23:41 เรียบร้อยก่อนว่ามันไม่ใช่แน่ๆแล้วถึงจะ
00:23:41 → 00:23:44 บอกว่าเออมันเป็น hemiplegic ไนนะครับนี่
00:23:44 → 00:23:46 ก็คือเป็นหลายๆอย่างนะฮนอกเหนือจากนี้ก็
00:23:46 → 00:23:48 คือบางคนอย่างที่บอกเป็นเอ่อเป็นตอนก่อน
00:23:48 → 00:23:51 มีประจำเดือนก็ได้นะครับอ่ะตอนนี้เรารู้
00:23:51 → 00:23:53 แล้วว่ามันมีหลายชนิดจริงๆมันมีมากกว่า
00:23:53 → 00:23:56 นี้แต่เราเอาเท่านี้พอนะฮะแล้วเราจะทำไง
00:23:56 → 00:23:59 ดีนะครับขั้นแรกถ้าเรามีปวดหัวไม่ว่าจะ
00:23:59 → 00:24:02 ปวดยังไงก็แล้วแต่ให้เราทำไดอารี่ไว้ถ้า
00:24:02 → 00:24:04 เราเป็นบ่อยนะครับไดอารี่นี้จดอะไรนะครับ
00:24:04 → 00:24:08 จดว่าปวดหัววันไหนตอนก่อนปวดทำอะไรไปกิน
00:24:08 → 00:24:11 อะไรมาไปทำกิจกรรมอะไรมีความเครียดอะไรม
00:24:11 → 00:24:14 กินยาตัวไหนอยู่จดไว้ให้หมดนะครับเช่นเเ
00:24:14 → 00:24:17 วันเนี้ยผมไปไปวิ่งมาที่สวนรุมมันร้อนมาก
00:24:17 → 00:24:20 เลยนะครับมันชื้นมากเลยแล้วก็ไปมีป้าคน
00:24:20 → 00:24:22 นึงวิ่งแล้วก็โอ้โหน้ำหอมฉุนเราดมเข้าไป
00:24:23 → 00:24:25 แล้วหลังจากนั้นเราเริ่มรสุกมึนๆประหลาดๆ
00:24:25 → 00:24:27 แล้วเริ่มวิงๆะกลับมาบ้านก็เห็นเห็นเส้น
00:24:27 → 00:24:31 แบบเป็นแสงปิ๊บๆในตามีเส้นซิกแซกซิแซก
00:24:31 → 00:24:33 วิ่งแล้วหลังจากนั้นก็เริ่มปวดหัวตอนเวลา
00:24:33 → 00:24:36 อ่า 16:00 นนะครับตอนแรกปวดน้อยแล้วสัก
00:24:36 → 00:24:39 พักมีอาการปวดมากขึ้นมีอาการขึ้นไส้ไอเจ
00:24:39 → 00:24:42 ร่วมด้วยนะครับปวดอยู่นาน 5 ชมงกินไนอไป
00:24:42 → 00:24:44 แล้วมันถึงดีขึ้นนะแต่ว่าพอมันหายแล้วมัน
00:24:44 → 00:24:46 ก็รู้สึกแปลกๆคือจดอย่างเงี้ไว้ให้หมดเลย
00:24:46 → 00:24:48 ให้ละเอียดที่สุดนะครับแล้วมันเป็นวันไหน
00:24:48 → 00:24:50 เป็นเมื่อไหร่เราจะได้รู้ถึงความถี่ของ
00:24:50 → 00:24:52 การเป็นนะครับแล้วเอาแบบเยไปให้หมอเ้าดู
00:24:52 → 00:24:55 เวลาที่หาหมอเนี่ยมันจะทำให้แบบเฮ้ยเรา
00:24:55 → 00:24:58 วินิจฉัยได้ชัดเจนง่ายสุดนะครับอ่ะแล้ว
00:24:58 → 00:25:00 บางทีเราอาจจะไม่ต้องไปหาหมอก็ได้เพราะ
00:25:00 → 00:25:02 ว่าเรารู้ว่าอ๋อทำแบบนี้มันถึงเป็นไงถ้า
00:25:02 → 00:25:04 อย่างงั้นเราก็เลิกทำสิมันจะได้ไม่เป็นนะ
00:25:04 → 00:25:07 ครับอ่าก็หลีกเลี่ยงเหล่านั้นได้ทีนี้มา
00:25:07 → 00:25:11 ถึงขั้นตอนของการรักษาละเพราะว่าแน่นอนจะ
00:25:11 → 00:25:13 มีคนที่เป็นไมเกรนเนี่ยมันเป็นเงินเยอะ
00:25:13 → 00:25:16 อ่ะนะเป็นบางคนเป็นนานนะฮะบางคนเป็นแบบใน
00:25:16 → 00:25:19 เดือนนึงอ่ะเป็นซัก 2 อาทิตย์อย่างเงี้ย
00:25:19 → 00:25:21 เป็น 15 วันขึ้นไปซึ่งอันนั้นมีคำเรียก
00:25:21 → 00:25:23 เฉพาะนะเรียกว่า chronic ไมเกรนก็คือคน
00:25:23 → 00:25:25 ทั่วๆไปมันก็อาทิตย์ละครั้งนึงอะไรอย่าง
00:25:25 → 00:25:27 เงี้ยหรือว่า 2-3 อาทิตย์ก็มีสักครั้งนึง
00:25:27 → 00:25:29 แต่ไอ้คนพวกเนี้ยคือมันเป็นแทบจะทุกวัน
00:25:29 → 00:25:31 เลยอ่ะมันเป็นติดต่อกันยาวๆเลยเงี้ย 2
00:25:31 → 00:25:33 อาทิตย์ไม่ยอมหาย 3 อาทิตย์ก็ยังเป็นเป็น
00:25:33 → 00:25:35 ไปทุกวันอย่างเงี้ยพวกนี้คือ Chic ไมเกรน
00:25:35 → 00:25:38 ซึ่งจำเป็นจะต้องรักษานะครับไมเกรนถ้า
00:25:38 → 00:25:41 เป็นไม่ค่อยบ่อยก็ใช้ยาแก้ปวดธรรมดาก็ได้
00:25:41 → 00:25:43 นะครับโดยวิธีการรักษาไมเกรนเนี่ยขั้นแรก
00:25:43 → 00:25:46 แน่นอนต้องปรับเปลี่ยนอ่า Lifestyle หรือ
00:25:46 → 00:25:49 การใช้ชีวิตนะฮะพักผ่อนให้เพียงพอนะครับ
00:25:49 → 00:25:52 หลีกเลี่ยงการอดอาหารนานๆหรือการที่เรา
00:25:52 → 00:25:54 กินอาหารไม่เป็นเวลาต้องหลีกเลี่ยงความ
00:25:54 → 00:25:56 เครียดถ้ามีแล้วต้องไปเผาผลาญมันออกให้
00:25:56 → 00:25:57 เร็วที่สุดนะครับถ้าเราเจอยาบางตัวที่เรา
00:25:58 → 00:25:59 กินเสร็จปุ๊บแล้วมันปวดหัวทุกทีเนี่ยออก
00:25:59 → 00:26:02 ไปถามหมอให้เค้าเปลี่ยนยานะครับหรือในบาง
00:26:02 → 00:26:04 กรณีที่เรารู้ว่าเรามีประจำเดือนเนี่ย
00:26:04 → 00:26:06 แล้วเราจะปวดหัวทุกทีเลยเนี่ยในช่วงนั้น
00:26:06 → 00:26:08 น่ะเราอาจจะกินยาดักไว้ก่อนก่อนที่มันจะ
00:26:08 → 00:26:11 ปวดก็ได้นะครับมันจะช่วยเราได้เยอะนะฮะ
00:26:11 → 00:26:14 อ่านอกเหนือจากเรื่องพวกนี้เสร็จปุ๊บแล้ว
00:26:14 → 00:26:18 เนี่ยกาแฟก็สำคัญนะครับบางคนเนี่ยการหยุด
00:26:18 → 00:26:20 กาแฟกันทาหารจะทำให้ปวดไมเกรนขึ้นมานะ
00:26:20 → 00:26:22 ครับดังนั้นคนที่แบบเฮ้ยอยากจะหักดิบเรา
00:26:23 → 00:26:25 กินมันปกติวันนี้เรากิน 10 แก้วเรากินแบบ
00:26:25 → 00:26:27 หวยเรือรังเรากลัวมีปัญหาต่อสุขภาพเราทำ
00:26:27 → 00:26:30 ยังไงดีไม่ใช่ว่าวันพรุ่งนี้ลดเหลือ 0
00:26:30 → 00:26:33 แก้วนะครับไม่ได้นะครับอไม่ได้นะถ้านอาจ
00:26:33 → 00:26:35 จะต้องแบบอ่ะ 10 แก้ววันนี้อ่ะพรุ่งนี้ 9
00:26:35 → 00:26:38 แก้วแล้วมันโอเคพอพอกล้อมแก้มพอทนไวแล้ว
00:26:38 → 00:26:40 ลอง 8 แก้วดูอะไรอย่างเงี้ยค่อยๆลดนะครับ
00:26:40 → 00:26:42 ไม่ใช่จุดจบไปเลยไม่ได้นะครับยิ่งเป็นนะ
00:26:42 → 00:26:45 ฮะคนที่กินกาแฟนี่ก็ต้องอย่าลืมนะครับว่า
00:26:45 → 00:26:47 ถ้าท่านกินก่อนนอนเี่ไม่ได้นะครับถ้าคน
00:26:47 → 00:26:49 ที่มีการปวดหัวเจะยิ่งเป็นใหญ่เลยนะครับ
00:26:49 → 00:26:53 อ่ะปรับเปลียดชีวิตก่อนอันที่ 2 การใช้ยา
00:26:53 → 00:26:57 ละการใช้ยามีอะไรบ้างมีแบบการใช้ยาเพื่อ
00:26:57 → 00:26:59 รักษาตอนที่ที่กำลังปวดกันอันที่ 2 คือยา
00:26:59 → 00:27:03 เพื่อป้องกันไม่ให้มันปวดน่ายารักษาเช่น
00:27:03 → 00:27:06 อะไรบ้างอ่าบางคนไนอนะครับทานพวกเอเตต่าง
00:27:06 → 00:27:10 ๆเช่นไอบูเฟนนาอกเซนนะฮะไดโครฟิเนกอย่าง
00:27:10 → 00:27:13 งี้เป็นต้นหรือเคกิอาคอกเซียอะไรแล้วแต่
00:27:14 → 00:27:19 ชอบนะครับโดยลักษณะการกินยาจะต้องจำไว้
00:27:19 → 00:27:23 เลยนะครับตรงนี้จำดีๆกินเมื่อมันเริ่มปวด
00:27:23 → 00:27:25 หรือเมื่อเรารู้ตัวว่ามันจะปวดถ้าเรามี
00:27:25 → 00:27:28 ออร่ามีอาการเตือนกินมาตอนนั้นแหะครับ
00:27:28 → 00:27:30 อย่าไปรอให้มันปวดมากเพราะว่ากินตอนมัน
00:27:30 → 00:27:34 ปวดมากมันไม่หายครับอ่านะครับยากลุ่มต่อ
00:27:34 → 00:27:36 มาที่เราจะเจอแล้วใช้กันก็คือยากลุ่มที่
00:27:36 → 00:27:40 เรียกว่าทริปแทนนะครับทริปแทนมีตัวเยอะ
00:27:40 → 00:27:42 แยะไปหมดนะครับต้องไปถามอ่าหมอแล้วก็
00:27:42 → 00:27:45 เภสัชที่รักษานะครับเราไม่สามารถไปซื้อมา
00:27:45 → 00:27:47 เองได้นะครับอ่ายกตัวอย่างเช่นยา suum
00:27:47 → 00:27:49 trp แน R Trip แนอะไรพวกเมีแบบกินแล้ว
00:27:49 → 00:27:51 ก็มีแบบพ่นจมูกแต่ที่เมืองไทยผมไม่แน่ใจ
00:27:51 → 00:27:55 ว่าเ่อมีแบบพ่นจมูกหรือเปล่านะฮะก็ตัวนี้
00:27:55 → 00:27:58 แต่ก่อนที่จะใช้ยาพวกนี้เนี่ยคุยกับหมอ
00:27:58 → 00:28:00 ชัดเจนก่อนเพราะว่าอะไรเพราะว่าการใช้ยา
00:28:00 → 00:28:04 พวกนี้ยาแก้ปวดต่อเนื่องกันยาวๆมันจะยิ่ง
00:28:04 → 00:28:07 ทำให้ปวดมากขึ้นอ่าอันนี้เราจะเรียกว่า
00:28:07 → 00:28:10 medication overuse heche นะครับเช่น
00:28:10 → 00:28:14 ถ้าเรากินทริปแทนกินทุกวันเลยนะทุกๆ
00:28:14 → 00:28:16 ไปทริปแนห้ามกินเกิน 9 วัน 10 วันนะถ้า
00:28:16 → 00:28:18 กินเกินนั้นน่ะมันจะยิ่งปวดหัวะดังนั้น
00:28:18 → 00:28:20 ถ้าท่าไหนที่จำเป็นจะต้องใช้ยามันทุกวัน
00:28:20 → 00:28:22 เพื่ออาการปวดหัวท่านต้องไปหาหมอแล้วครับ
00:28:22 → 00:28:24 อย่ารักษาเองมันไม่ดีขึ้นแน่ๆนะครับยังไง
00:28:24 → 00:28:28 ก็ไม่ดีขึ้นนะแล้วไอ้พวกทริปแทนพวกเนี้ย
00:28:28 → 00:28:30 ก็อาจจะมีปัญหาเพราะว่ามันจะมีไมเกรนบาง
00:28:30 → 00:28:33 ชนิดซึ่งเราจะห้ามกินเช่น hemic ไมเกรน
00:28:33 → 00:28:35 คือมีการอ่อนแรงร่วมด้วยหรือคนที่มีโรค
00:28:35 → 00:28:37 หัวใจบางอย่างมีการตีบตันของเส้นเลือด
00:28:37 → 00:28:39 สมองพวกเนี้ยเ่อห้ามกินนะครับถ้าจะกินก็
00:28:39 → 00:28:41 ต้องไปคุยกับหมอก่อนว่าท่านสามารถกินได้
00:28:41 → 00:28:43 จริงๆหรือเปล่านะครับงั้นยาไมเกรนพวกแปลก
00:28:43 → 00:28:46 ๆพวกเนี้ยอันตรายต้องไปถามหมอนะครับแล้ว
00:28:46 → 00:28:49 เมื่อกี้ที่ผมบอกว่าไอ้สมองของเราเนี่ย
00:28:49 → 00:28:51 มันมี calcitonin Gen related pepti
00:28:51 → 00:28:53 ที่มีความเกี่ยวข้องมันทำให้ปวดหัวเราก็
00:28:53 → 00:28:58 มียาไปยับยั้งมันอ่ายายับยั้งเช่นยา ub
00:28:58 → 00:29:00 gant นะครับเมืองไทยน่าจะมีแล้วละแต่ผม
00:29:00 → 00:29:02 ไม่แน่ใจมันเป็นยาค่อนข้างใหม่ที่อเมริกา
00:29:02 → 00:29:05 ก็ใช้กันเยอะนะฮะ ub G Pant นะครับเป็น
00:29:05 → 00:29:08 ยาแบบกินนะฮะอ่ะอย่างเงี้ยเป็นต้นนอก
00:29:08 → 00:29:12 เหนือจากนี้ก็มีอาจจะมียาแก้ถ้าคนไหนที่
00:29:12 → 00:29:14 มันมีอาการมึนหัวเป็นหลักเนี่ยคือยาแก้
00:29:14 → 00:29:19 คลื่นไส้อาเจียนนะครับเคปยาอ่าไดสไดนาน
00:29:19 → 00:29:21 พวกนี้ก็สามารถที่จะช่วยเรื่องของการปวด
00:29:21 → 00:29:24 หัวการไมเกรนได้เหมือนกันนะฮะแล้วอีก
00:29:24 → 00:29:25 อย่างนึงซึ่งคนไม่รู้แล้วผมก็คิดว่า
00:29:25 → 00:29:28 ประเทศไทยไม่มีด้วยนะครับก็คือคือเป็น
00:29:28 → 00:29:30 เครื่องกระตุ้นสมองอ่าเครื่องกระตุ้นสมอง
00:29:30 → 00:29:33 เนี่ยไม่ต้องใช้ใบสังแพทย์ที่อเมริกา
00:29:33 → 00:29:36 สามารถไปซื้อได้เลยแต่มันแพงมากมันคือ
00:29:36 → 00:29:38 ราคาที่ผมเช็คคือน่าจะอยู่ที่ประมาณ 500
00:29:38 → 00:29:41 ดอลลาร์ก็ประมาณ 15,000 16,000 นะครับ
00:29:41 → 00:29:44 ไอ้เครื่องนี้มันจะเป็นเครื่องที่ยี่ห้อ
00:29:44 → 00:29:48 มันจะชื่อเอิม sefar dual นะครับถ้าผมจำ
00:29:48 → 00:29:50 ไม่ผิดอันนี้น่าจะชื่อประมาณเนี้ย sefar
00:29:50 → 00:29:52 dual คือเครื่องมันจะเหมือนเป็นเป็นที่
00:29:52 → 00:29:54 แปะงี้มาแปะไว้ตรงหน้าผากเราแล้วมันจะ
00:29:54 → 00:29:56 ปล่อยกระแสไฟฟ้าอ่อนๆเข้าไปกระตุ้นเส้น
00:29:56 → 00:29:58 ประสาทที่เรียกว่าไ germinal nerve
00:29:58 → 00:30:00 เมื่อกี้ที่ผมบอกคือาสมองคุดที่ 5 ที่มัน
00:30:00 → 00:30:03 รับรู้ความเจ็บปวดเนี่ยตอนปวดหัวเนี่ย
00:30:03 → 00:30:05 เริ่มปวดอ่ะแปะไว้เลยแปะไว้ชั่วโมงนึงนะ
00:30:05 → 00:30:07 ครับมันจะช่วยนะฮะแล้วมันก็จะใช้ในการ
00:30:07 → 00:30:10 ป้องกันไมเกรนได้ด้วยก็คือแทนที่เราใช้
00:30:10 → 00:30:12 ชั่วโมงนึงเพื่อแก้การปูดหัวแล้วก็แปะมัน
00:30:12 → 00:30:14 ไว้สัก 20 นาทีในวันที่เราไม่ปวดนะฮะมัน
00:30:14 → 00:30:16 จะป้องกันไม่ให้เราปวดไมเกรนได้อันนี้ก็
00:30:16 → 00:30:19 เป็นสิ่งที่ทาง fda อเมริกาเนี่ยอนุญาต
00:30:19 → 00:30:21 ให้เอามาขายได้แล้วครับโดยไม่ต้องมีใบสัง
00:30:21 → 00:30:23 แพนจริงๆมันมีมาตั้งชาตินึงะมีตั้งแต่
00:30:23 → 00:30:26 โน่นตอนสมัยผมไปเรียนใหม่ๆปี 2013 2014
00:30:26 → 00:30:28 ตอนนั้นน่ะตอนช่วงที่ผมเรียนจบเนี่ยมันก็
00:30:28 → 00:30:30 มีออกมาขายแล้วแต่ตอนนั้นเนี่ยจะต้องใช้
00:30:30 → 00:30:32 ใบสังแพ่ตอนนี้ไม่ต้องแล้วนะครับถ้าใคร
00:30:32 → 00:30:35 อยากจะหาซื้อมีตังค์พอก็บินไปอเมริกาซื้อ
00:30:35 → 00:30:37 ได้ที่เมืองไทยผมคิดว่าไม่มีนะครับอ่ะนี่
00:30:37 → 00:30:41 คือวิธีในการรักษาช่วงที่มีอาการปวดมากๆ
00:30:41 → 00:30:45 แล้วมันก็มีวิธีในการป้องกันนะครับวิธีใน
00:30:45 → 00:30:47 การป้องกันตรงนี้จะต้องไปคุยกับหมอเ้า
00:30:47 → 00:30:49 แล้วนะครับเพราะว่าถ้าท่านมีอาการปวดหัว
00:30:49 → 00:30:52 ไมเกรนบ่อยมากๆหรือเป็นไมเกรนชนิดที่แปลก
00:30:52 → 00:30:55 ๆที่เป็นขึ้นมาแล้วมันรู้สึกเฮ้ยมันมันหา
00:30:55 → 00:30:57 ยากเหลือเกินมันมีอาการที่เรารู้สึกกังวล
00:30:57 → 00:31:01 นะครับตรงนี้จะต้องไปหาหมอมันมียาเยอะมาก
00:31:01 → 00:31:03 เลยนะครับที่เราจะใช้แล้วก็ยาแต่ละประเภท
00:31:03 → 00:31:05 ก็เหมาะกับแต่ละคนนะครับผมจะไม่เล่ายาทุก
00:31:05 → 00:31:08 ตัวนะครับเพราะมันเป็นไปไม่ได้มันจะเยอะ
00:31:08 → 00:31:09 เกินไปแต่ว่าจะยกตัวอย่างให้ฟังยกตัว
00:31:09 → 00:31:12 อย่างเช่นยา Beta blocker ซึ่งเป็นยาลด
00:31:12 → 00:31:14 ความดันชนิดหนึ่งที่เราใช้ยาที่ทำให้หัว
00:31:14 → 00:31:17 ใจเต้นชาร์จลงนี่ก็มีอ่าคนใช้ในการป้อง
00:31:17 → 00:31:20 กันไมเกรนนะครับยาแคลเซียม chanal bloger
00:31:20 → 00:31:22 เช่นยา verapamil พวกนี้ก็สามารถที่จะ
00:31:22 → 00:31:25 ป้องกันไมเกรนได้นะครับยา tricyclic
00:31:25 → 00:31:27 antidepressant นะครับเป็นยาที่เกี่ยว
00:31:27 → 00:31:30 ข้องกับการการอ่าต้านเศร้านะครับยาต้าน
00:31:30 → 00:31:33 เศร้าชนิดหนึ่งนะครับเช่นยามี trine นะ
00:31:33 → 00:31:35 ตัวนี้เป็นตัวที่แบบศึกษาเยอะที่สุดนะ
00:31:35 → 00:31:39 สามารถช่วยได้นะครับหรือยาที่มันยับยั้ง
00:31:39 → 00:31:42 เิมตัว calcineurin Gen related
00:31:42 → 00:31:45 peptide ก็มีนะครับแบบกินก็มีหรือแบบฉีด
00:31:45 → 00:31:47 ก็มีนะอันนี้แบบฉีดถ้ามันแบป้องกันเบางที
00:31:48 → 00:31:50 เราใช้แบบฉีดแต่เมืองไทยไม่น่าจะมีนะครับ
00:31:50 → 00:31:53 อ่าตัวเนี้มันเป็นยาแอนติบอดี้สำหรับ cgrp
00:31:53 → 00:31:55 นะครับต้องฉีดเข้าไปนะเราก็ไม่พูดกันแล้ว
00:31:55 → 00:31:57 กันเพราะว่าไม่น่าจะมีเมืองไทยแล้วมันก็
00:31:57 → 00:31:59 จะคงแพงมากถ้าจะมีก็คงจะต้องมีทุนทรัพย์
00:31:59 → 00:32:02 สูงนะครับถึงจะสามารถที่จะเอาพของพวกนี้
00:32:02 → 00:32:06 มาใช้ได้นะฮะเอ่อหรือบางคนก็ใช้ยาการชัก
00:32:06 → 00:32:08 บางกลุ่มนะยาการชักบางทีมันก็สามารถที่จะ
00:32:08 → 00:32:11 ช่วยในแง่ของการป้องกันไมเกรนได้นะครับ
00:32:11 → 00:32:13 นี่ก็คือวิธีในการใช้ยายาป้องกันหมายความ
00:32:13 → 00:32:16 ว่าต่อให้เราไม่ปวดก็ต้องกินนะครับยา
00:32:16 → 00:32:18 รักษาอาการปวดก็คือเมื่อปวดถึงกินนะครับ
00:32:18 → 00:32:22 และอย่าลืมปวดคือเริ่มๆปวดแล้วจึงกินนะฮะ
00:32:22 → 00:32:24 งั้นนี่ก็คือทั้งหมดของไมเกรนเท่าที่ผมพอ
00:32:24 → 00:32:27 จะจำได้นะครับขอสรุปอีกทีนะครับไมเกรน
00:32:27 → 00:32:28 เนี่ยนะฮะ
00:32:28 → 00:32:32 มันมีสาเหตุนะครับสาเหตุในปัจจุบันเราคิด
00:32:32 → 00:32:35 ว่าเป็นการที่มีการมากระตุ้นสมองแล้วการ
00:32:35 → 00:32:37 ตอบสนองของสมองเราเนี่ยมันผิดปกติทำให้
00:32:37 → 00:32:41 เกิดการแพร่ของอ่าลักษณะการนำไฟฟ้าของ
00:32:41 → 00:32:44 สมองอย่างนึงนะครับแพร่ไปเสร็จปุ๊บมันทำ
00:32:44 → 00:32:47 ให้เรามีอาการปวดมากขึ้นนะฮะโดยทั่วๆไปจะ
00:32:47 → 00:32:49 ต้องมีตัวกระตุ้นนะครับเช่นอาการอดหลับอด
00:32:49 → 00:32:52 นอนกินข้าวไม่ตรงเวลานะครับไปเจอกลิ่นฉุน
00:32:52 → 00:32:54 ไปเจอความร้อนไปเจอความเครียดต่างๆอ่า
00:32:54 → 00:32:57 หรือว่าการที่เรานอนหลับไม่มีคุณภาพการ
00:32:57 → 00:32:58 ดื่มเหล้าการสูบบุหรี่พวกนี้สามารถ
00:32:59 → 00:33:00 กระตุ้นไมเกรนได้การมีประจำเดือนสามารถ
00:33:00 → 00:33:02 กระตุ้นไมเกรนได้ถ้าเราหาตัวกระตุ้นเจอ
00:33:02 → 00:33:05 เราก็ต้องหลีกเลี่ยงนะครับอาการไมเกรนก็
00:33:05 → 00:33:08 มี 4 ระยะนะครับะระยะแรกเรียกว่าโดรมนะ
00:33:08 → 00:33:10 ครับโดมก็อาจจะมีอาการเช่นหาวบ่อยนะครับ
00:33:10 → 00:33:12 รู้สึกหงุดหงิดรู้สึกบางคนรู้สึกดีด้วย
00:33:12 → 00:33:15 ซ้ำไปบางคนมีท้องผูบางคนมีหิวบ่อยนะครับ
00:33:15 → 00:33:17 อาจจะนำมาก่อนสักวัน 2 วันหลังจากนั้นก็
00:33:17 → 00:33:21 เริ่มบางคนมีอ่าก็คือมีประมาณสัก 25% นะ
00:33:21 → 00:33:24 ครับเช่นเห็นแสงซิกแซกซิแซกอยู่ในตานะ
00:33:24 → 00:33:26 ครับทั้งๆที่มันไม่มีของจริงมีอาการมึน
00:33:26 → 00:33:28 หัวแปลกๆบางคนมีอาการชาๆยิบๆตามหน้านะ
00:33:28 → 00:33:31 ครับอ่าแล้วก็เข้าสู่ระยะปวดหัวไมเกรนจะ
00:33:31 → 00:33:34 ปวดข้างเดียวนะครับมันจะมักจะย้ายข้างนะ
00:33:34 → 00:33:36 ครับซ้ายเดี๋ยวขวาเดี๋ยวซ้ายเดี๋ยวขวานะ
00:33:36 → 00:33:38 ครับตอนแรกเป็นแบบตื้อๆก่อนแล้วมันก็จะ
00:33:38 → 00:33:41 ค่อยๆรุนแรงมากขึ้นมีอาการปวดแบบตู้บๆ
00:33:41 → 00:33:43 อยู่ในหัวนะครับแล้วอาการร่วมที่มาตอน
00:33:43 → 00:33:46 นั้นก็คือมักจะมีการคลื่นแส่เจียนนะครับ
00:33:46 → 00:33:48 กลัวแสงนะครับเสียงแสงจ้าไม่ได้เห็นเสียง
00:33:48 → 00:33:50 ได้ยินเสียงดังไม่ได้นะครับอยู่ในที่ร้อน
00:33:50 → 00:33:52 ๆไม่ได้ต้องเข้าไปนอนอยู่ในที่เงียบๆการ
00:33:52 → 00:33:55 ที่เราเคลื่อนไหวไปมาเดินกับพื้นเมีแรง
00:33:55 → 00:33:57 กระแทกก็จะยิ่งทำให้เราปวดมากขึ้นนะครับ
00:33:57 → 00:33:59 หลังจากนั้นก็เข้าสู่ระยะสุดท้ายคือโพส
00:33:59 → 00:34:01 ดรมหลังจากที่เราหายไปแล้วเนี่ยบางคนยัง
00:34:01 → 00:34:03 มีเพลียต่อได้บางคนมีรู้สึกอารมณ์แปรปรวน
00:34:03 → 00:34:06 อะไรก็ได้นะครับวิธีในการที่เราปวดมาแล้ว
00:34:06 → 00:34:10 เนี่ยถ้าเราอายุมากกว่า 50 ปวดเป็นครั้ง
00:34:10 → 00:34:13 แรกของชีวิตปวดรุนแรงที่สุดในชีวิตมีโรค
00:34:13 → 00:34:16 ประจำตัวที่มีความเสี่ยงต่อโรคสมองเป็น
00:34:16 → 00:34:19 มะเร็งมีน้ำหนักลดมีภูมิต้านทานบกพร่องนะ
00:34:19 → 00:34:21 ครับพวกเนี้ยควรจะต้องทำการสแกนสมองถ้า
00:34:21 → 00:34:24 การเราปวดแล้วอยู่ๆมันเปลี่ยนวิธีการปวด
00:34:24 → 00:34:26 ซึ่งเราไม่เคยปวดแบบนี้มาก่อนเลยแต่ก่อน
00:34:26 → 00:34:28 มันปวดอีกแบบนึงวันนี้มาปวดอีกแบบนึงควร
00:34:28 → 00:34:31 จะต้องตรวจหาเสมอถ้าเรามีไข้นะครับเรา
00:34:31 → 00:34:33 ต้องตรวจหาเสมอมีน้ำหนักลดมีเหงื่อออก
00:34:33 → 00:34:36 กลางคืนจะต้องตรวจด้วยการถ่ายภาพทางสมอง
00:34:36 → 00:34:39 ด้วย CT สแกนหรือ mi แล้วแต่หมอเค้าเสมอ
00:34:39 → 00:34:41 นะครับเราวินิจฉัยกันด้วยการซักประวัติแล
00:34:41 → 00:34:44 ก็ตรวจร่างกายนะครับทั่วๆไปไมเกรนไม่ได้
00:34:44 → 00:34:46 อันตรายนะครับไม่ได้เกิดอะไรเราไม่จำเป็น
00:34:46 → 00:34:49 ต้องไปหาอะไรพิเศษนะครับเราหาแค่นี้พอนะ
00:34:49 → 00:34:52 ครับอ่านอกเหนือจากนั้นคือวิธีในการรักษา
00:34:52 → 00:34:54 ขั้นแรกก็คือปรับเปลี่ยนชีวิตของเราก่อน
00:34:54 → 00:34:57 นะครับกินให้พอเพียงกินให้มันตรงเวลานะ
00:34:57 → 00:35:00 ครับอย่าอดหลับอดนอนนะครับหลีกเลี่ยงชา
00:35:00 → 00:35:02 กาแฟบุหรี่อะไรพวกเนี้ถ้าคนไหนกินอะไร
00:35:02 → 00:35:03 แล้วเป็นก็ต้องหลีกเลี่ยงสิ่งนั้นนะครับ
00:35:04 → 00:35:06 ถ้าเป็นไมเกรนก็อาจจะกินยาดักการปวดไว้
00:35:06 → 00:35:08 ตั้งแต่ช่วงที่เรารู้ว่าเออประจำเรือนเรา
00:35:09 → 00:35:10 จะเริ่มมาละเราก็ต้องกินตอนนั้นนะครับถ้า
00:35:10 → 00:35:13 เราเป็นตำเมนๆตอนประจำเรือนเนี่ยยนะครับ
00:35:13 → 00:35:17 ยารักษามี 2 แบบคือ Primary นะครับเ่อ
00:35:17 → 00:35:19 prevention ก็คือยาป้องกันแล้วก็ยารักษา
00:35:19 → 00:35:22 นะครับถ้าปวดก็คือกินยาตั้งแต่ก่อนที่มัน
00:35:22 → 00:35:24 จะปวดรุนแรงกินตั้งแต่แรกเลยถ้าเรารู้ตัว
00:35:24 → 00:35:26 ว่าจะปวดกินยาดักไว้เลยมีหลายหลายชนิดนะ
00:35:26 → 00:35:29 ครับเอ่อเอ่ออย่ากินยาแก้ปวดนานนะครับ
00:35:29 → 00:35:31 ยิ่งนานยิ่งมีปัญหาเพราะมันจะยิ่งปวดมาก
00:35:31 → 00:35:34 ขึ้นนะครับยาตัวเอ่อตัวนึงที่ผมไม่ได้พูด
00:35:34 → 00:35:36 ถึงคือยากลุ่มที่เรียกว่าเอกอนะครับหรือ
00:35:36 → 00:35:39 โกทาพวกเนี้ยไม่ควรจะเอาหามากินเองอ่ะบาง
00:35:39 → 00:35:41 บางทีมันมันเป็นยาที่มีปัญหาซะมากกว่านะ
00:35:41 → 00:35:43 ครับถ้าเราเลี่ยงได้ก็เลี่ยงนะครับแล้วก็
00:35:43 → 00:35:46 เอ่ออีกตัวนึงก็คือเป็นยากลุ่มป้องกัน
00:35:46 → 00:35:48 ซึ่งมีหลากหลายชนิดถ้าเราเป็นไมเกรนและ
00:35:48 → 00:35:50 อาการเข้าได้กับไมเกรนแล้วเราอ่าทำการ
00:35:50 → 00:35:51 ปรับเปลี่ยนชีวิตแล้วมันหายไปได้ไม่
00:35:51 → 00:35:53 จำเป็นต้องเจอหมอนะครับแต่ถ้ามันเป็นอยู่
00:35:53 → 00:35:56 เรื่อยๆไม่หายไปหาหมอนะครับให้เาวินิจฉัย
00:35:56 → 00:35:59 แล้วก็สั่งการรักษาแล้วที่สำคัญอย่าลืม
00:35:59 → 00:36:01 ถามหมอให้เข้าใจก่อนที่จะออกมาจากห้องนะ
00:36:01 → 00:36:03 ครับเพราะว่าถ้าท่านมาถามผมผมก็จะไม่
00:36:03 → 00:36:05 สามารถตอบท่านได้เนื่องจากประวัติแต่ละคน
00:36:05 → 00:36:06 ไม่เหมือนกันแล้วผมก็ไม่มีทุกๆอย่างที่
00:36:06 → 00:36:09 ท่านทราบอยู่ในหัวนะครับผมไม่มีเวลามา
00:36:09 → 00:36:12 นั่งสอบถามท่านถึงทุกๆอย่างนะครับโอเควัน
00:36:12 → 00:36:13 นี้ก็เล่ามาซะยาวนะครับหวังว่าจะเป็น
00:36:14 → 00:36:16 ประโยชน์กับหลายๆท่านที่มีอาการปวดหัวนะ
00:36:16 → 00:36:17 ครับวันนี้เท่านี้นะครับขอบคุณมากครับ
00:36:17 → 00:36:21 สวัสดีครับ