00:00:00 → 00:00:07 สวัสดีครับผมคิดว่าหลายคนนะครับคงเคยได้ ยินคำว่าเชื้อดื้อยานะครับแล้วก็คงจะมีคน
00:00:07 → 00:00:13 สงสัยว่าไอ้เชื้อดื้อยาตรงนี้เนี่ยมัน เป็นเชื้ออะไรมันมาจากไหนแล้วเราติดเข้า
00:00:13 → 00:00:19 ไปได้อย่างไรนะครับทำไมมันถึงเกิดแบบนี้ ขึ้นมาได้แล้วทำไมหมอถึงบอกว่าเวลาเราทาน
00:00:19 → 00:00:24 ยาฆ่าเชื้อเนี่ยควรจะต้องทานให้ครบนะครับ มันเกี่ยวอะไรกับเชื้อรืยานะฮะวันนี้ผมก็
00:00:24 → 00:00:28 จะมาเล่าให้ทุกคนฟังกันเลยนะครับ พบกับผม นะครับนายแพทย์ธนีย์ ธนียวัน เป็นอาจารย์
00:00:28 → 00:00:33 แพทย์อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เชี่ยวชาญโรคปอดการปลูกถ่ายปอดและวิกฤตบำบัดนะ
00:00:33 → 00:00:38 ครับ คำว่าเชื้อดื้อยาเนี่ยส่วนมากนะครับ เราจะใช้หมายถึงเชื้อแบคทีเรียนะครับ
00:00:38 → 00:00:44 แบคทีเรียก็คือเป็นสิ่งมีชีวิตที่มันมี เซลล์เดียวนั่นเองนะครับแต่ว่าลักษณะของ
00:00:44 → 00:00:49 เซลล์แบคทีเรียจะแตกต่างกับเซลล์ของ มนุษย์นะฮะโดยที่มันมีลักษณะหลายๆอย่าง
00:00:49 → 00:00:55 ที่อ่าเราอาจจะต้องไปดูรายละเอียดนะครับ อย่างไรก็ตามไอ้แบคทีเรียตัวนี้เนี่ยนะฮะ
00:00:55 → 00:01:03 มันสามารถที่จะต่อต้านยาที่เราให้เข้าไป ได้นะครับมันมีหลายเหตุผลและหลายกลไกใน
00:01:03 → 00:01:08 การที่มันจะต่อต้านยาที่เราให้เข้าไปยก ตัวอย่างเช่นเวลาที่เราให้ยาเข้าไปเนี่ย
00:01:08 → 00:01:14 ถ้าแบคทีเรียนะครับมันป้องกันไม่ให้ยามัน เข้าไปถึงตัวมันได้นะครับยาก็ไม่ได้ผลถูก
00:01:14 → 00:01:20 มั้ยครับหรือถ้ามันเข้าไปได้แต่ว่ามันโดน ปั๊มทิ้งออกมานะครับยาก็เข้าไปแล้วก็ออก
00:01:20 → 00:01:27 มามันก็ไม่มีผลต่อตัวแบคทีเรียนะหรือบาง กรณีเนี่ยมันเข้าไปปุ๊บมันทำลายทิ้งเลย
00:01:27 → 00:01:33 หรือบางกรณียาบางตัวเนี่ยเข้าไปเพื่อที่ จะจัดการกับกลไกบางอย่างของแบคทีเรียตัว
00:01:33 → 00:01:39 นั้นแต่ถ้าแบคทีเรียมันฉลาดมันเปลี่ยน แปลงกลไกของมันมันก็จะทำให้ยาตัวนั้นน่ะ
00:01:39 → 00:01:44 ใช้ไม่ได้ผลเรียบร้อยแล้วครับทีนี้เราพอ เข้าใจว่ามันมีกลไกหลายๆอย่างที่ทำให้
00:01:44 → 00:01:52 แบคทีเรียเนี่ยมันดื้อยาแล้วจริงๆเนี่ยนะ ครับทำไมมันถึงเกิดแบบนี้ขึ้นอันเนี้ย
00:01:52 → 00:02:00 เป็นสิ่งที่น่าสนใจละนะครับเหตุผลที่มัน เกิดขึ้นนะครับคือการใช้ยาฆ่าเชื้อขึ้นมา
00:02:00 → 00:02:05 ในโลกนี้ะครับการที่เรามียาฆ่าเชื้อ แบคทีเรียในตอนแรกอ่ะสมัยที่เราเจอยา
00:02:05 → 00:02:11 เพนิซิลินใหม่ๆเนี่ยไม่ว่าเชื้อโรคตัวไหน เจอยาตัวนี้เข้าไปนะครับตายเกลี้ยงเลยแต่
00:02:11 → 00:02:15 เดี๋ยวเนี้ยเพนิซิลินมันแทบจะเป็นยาที่ มันใช้อะไรไม่ได้ผลมันมีอยู่แค่บางโรค
00:02:15 → 00:02:21 เท่านั้นเองที่สามารถที่จะใช้เพนิซิลิน แล้วยังได้ผลอยู่นะครับเหตุใดจึงเป็นเช่น
00:02:21 → 00:02:28 นั้นนะครับคุณเคยได้ยินคำคำนึงมยครับว่า อะไรที่ไม่ฆ่าเรามันจะทำให้เราแข็งแกร่ง
00:02:28 → 00:02:32 ขึ้นนะครับ What Doesn't Kill you will Make
00:02:32 → 00:02:38 You Stronger เช่นเดียวกับแบคทีเรีย ครับถ้ามันไม่ตายซักอย่างแล้วล่ะก็มันจะ
00:02:38 → 00:02:46 แข็งแกร่งขึ้นครับนะทีนี้การที่จะฆ่า เชื้อแบคทีเรียเนี่ยนะครับมันเกี่ยวอะไร
00:02:46 → 00:02:51 กับยาฆ่าเชื้อซึ่งแล้วยาฆ่าเชื้อมันมัน ยังไงนะครับคือถ้าสมมุติว่าเราให้ยาฆ่า
00:02:51 → 00:02:57 เชื้อที่เหมาะสมแบคทีเรียมันตายแล้วแล้ว ทำไมมันถึงรืยาได้ทำไมการที่หมอหลายๆคน
00:02:57 → 00:03:01 บอกว่าการจ่ายยาค่าเชื้อเนี่ยนะฮะถ้าเรา เราให้โดยไม่สมเหตุสมผลโอกาสในการเกิด
00:03:01 → 00:03:07 เชื้อรือยาในอนาคตในคนๆนั้นจะสูงขึ้นนะ ครับแล้วก็ไม่ใช่แค่คนๆนั้นมันทั้งโลก
00:03:07 → 00:03:13 เฮ้ยทำไมมันเป็นได้แบบนั้นนะครับมันเป็น แบบนี้ครับสมมุติว่าคุณไปหาหมอด้วยอาการ
00:03:13 → 00:03:19 เจ็บคอนะครับหลายๆคนจะอยากได้ยาอะไรก็ แล้วแต่ที่ทำให้มันหายเร็วๆนะครับก็บอก
00:03:19 → 00:03:24 หมอจ่ายยาแรงๆเลยถ้าเกิดว่าจ่ายยาไม่แรง เนี่ยมันหายช้านะครับหรือบางทีไปหาหมอหมอ
00:03:24 → 00:03:30 ก็บอกว่าเนี่ยมันเป็นจากการติดเชื้อไวรัส นะมันไม่ต้องกินหรอกยาฆ่าเชื้อยาแก้
00:03:30 → 00:03:35 อักเสบนะครับแต่คุณก็ยังจะเอาให้ได้เพราะ ว่ามีหมอคนนึงเ้าเคยให้คุณมาหรือบางครั้ง
00:03:35 → 00:03:40 ก็บอกว่าทุกครั้งเนี่ยพอป่วยเนี่ยมันต้อง ฉีดยาต้องได้ยาตัวเนี้ยถึงจะหายสิ่งที่
00:03:40 → 00:03:46 เกิดขึ้นเมื่อคุณได้ยาฆ่าเชื้อเข้าไปนะ ครับมันก็จะไปฆ่าเชื้อแบคทีเรียนะครับแต่
00:03:46 → 00:03:50 ในร่างกายคุณไม่ได้มีแบคทีเรียอยู่อย่าง เดียวนะครับร่างกายคุณสมมุติว่าคุณได้
00:03:50 → 00:03:56 เชื้อแบคทีเรียตัวนึงเข้ามาในการก่อโรคนะ ครับอ่าคุณกินยาฆ่าเชื้อไอ้แบคทีเรียก่อ
00:03:56 → 00:04:02 โรคเนี่ยอาจจะตายไปแต่อาจจะตายไม่หมดไอ้ ตัวที่ตายไม่หมดเนี่ยแหละครับที่มันหลง
00:04:02 → 00:04:06 เหลืออยู่แม้กระทั่งมันเหลืออยู่ไม่กี่ ตัวสัก 5 ตัว 10 ตัวเนี่ยนะครับที่มันยัง
00:04:06 → 00:04:14 ไม่ตายมันก็จะสร้างความทนทานต่อการติดต่อ การเอ่อต่อยาฆ่าเชื้อในอนาคตและทีนี้ไอ้
00:04:14 → 00:04:20 ไอ้เชื้อพวกนี้มันไปไหนล่ะมันก็อยู่ในตัว คุณนั่นแหละครับนะแล้วยาฆ่าเชื้อเวลาคุณ
00:04:20 → 00:04:26 กินหรือคุณฉีดเข้าไปนะครับเช่นคุณเจ็บคอ มันไม่ได้ไปเฉพาะตรงคอนะครับคุณกินเข้าไป
00:04:26 → 00:04:32 เนี่ยมันเข้าไปในกระเพาะลำไส้ถูกดูดซึม เข้าสู่กระแสเลือดแล้วกระแสเลือดเนี่ยมัน
00:04:32 → 00:04:37 ถึงมาที่คอของคุณนะครับแต่มันได้ไม่มาแค่ คออย่างเดียวนะครับมันไปทุกส่วนในร่างกาย
00:04:37 → 00:04:43 ที่มันเลือดไปถึงแล้วมันเกิดอะไร ขึ้นในส่วนต่างๆของร่างกายคุณเนี่ยนะครับ
00:04:43 → 00:04:49 มันจะมีแบคทีเรียเจ้าเท่นอยู่ซึ่งเรียก ว่าไมโครไบโอมเช่นในลำไส้ใหญ่ของคุณในลำ
00:04:49 → 00:04:53 ไส้เล็กของคุณก็มีแบคทีเรียมีสังคม แบคทีเรียซึ่งมันมีแบคทีเรียเยอะแยะ
00:04:53 → 00:05:00 มหาศาลเหมือนผิวหนังคุณก็มีนะครับในช่อง ปากคุณก็มีในปอดคุณก็มีนะครับครับไอ้
00:05:00 → 00:05:05 แบคทีเรียเหล่านี้เนี่ยนะครับมันมีความ หลากหลายมีหลายชนิดแล้วถ้าเกิดมันได้ยา
00:05:05 → 00:05:11 ฆ่าเชื้อเข้าไปจะเกิดอะไรขึ้นมันจะมีบาง ตัวนะครับที่ตายไปบางตัวที่ไม่ตายแล้วพอ
00:05:11 → 00:05:17 การที่เกิดบางตัวตายบางตัวไม่ตายจะเกิด อะไรขึ้นสังคมของแบคทีเรียเหล่าเนี้ยจะ
00:05:17 → 00:05:23 เสียสมดุลไปนะครับเสียสมดุลไปแล้วมันเกิด อะไรขึ้นตรงเนี้ยสำคัญะนะฟังดีๆมันมี 2
00:05:23 → 00:05:29 ประการหลักๆประการแรกคือมันจะมีแบคทีเรีย บางตัวที่เป็นแบคทีเรียในร่างกายคุณเนี่ย
00:05:29 → 00:05:35 มันสร้างการต่อต้านกับยาฆ่าเชื้อเหล่านี้ พอมันสร้างการต่อต้านกับเชื้อเหล่านี้
00:05:35 → 00:05:40 ปุ๊บนะถ้าคุณมีแบคทีเรียตัวใหม่ที่จะก่อ โรคให้คุณเข้ามาในร่างกายเนี่ยไอ้
00:05:40 → 00:05:44 แบคทีเรียตัวดีของคุณเนี่ยที่แทนที่มันจะ ช่วยปกป้องร่างกายคุณนะครับมันอาจจะถ่าย
00:05:44 → 00:05:50 ทอดวิธีในการป้องกันยาฆ่าเชื้อให้กับ แบคทีเรียตัวใหม่ที่เข้ามาในร่างกายคุณก็
00:05:50 → 00:05:56 ได้แล้วถ้ามันทำแบบนั้นแล้วเมื่อไหร่ล่ะ ก็คุณก็จะได้เชื้อที่ดื้อยาต่อไปคุณก็จะ
00:05:56 → 00:06:01 มีปัญหาเชื้อดื้อยาไปเรื่อยๆนะครับยาตัว เดิมที่คุณเคยใช้แล้วได้ผลมันก็จะไม่ได้
00:06:01 → 00:06:08 ผลอีกต่อไปแล้วครับนี่คือประการแรกนะคือ มันสามารถถ่ายทอดวิธีในการต่อต้านยาฆ่า
00:06:08 → 00:06:15 เชื้อได้อันที่ 2 คือการที่สังคมของ แบคทีเรียในร่างกายคุณเนี่ยมันเสียสมดุล
00:06:15 → 00:06:23 ไปมันก็จะทำให้คุณเกิดอาการต่างๆนานาเช่น บางคนมีอาการท้องเสียนะครับบางคนเนี่ยมี
00:06:23 → 00:06:27 อาการที่แปลกประหลาดหลายๆอย่างเช่นรู้สึก เพลียบางคนน้ำหนักลดบางคนน้ำหนักเพิ่มบาง
00:06:27 → 00:06:33 คนมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคทั้งสมองบาง คนมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจนะครับ
00:06:33 → 00:06:38 เรารู้ว่าสังคมแบคทีเรียในช่องท้องของคน เนี่ยนะครับในลำไส้เนี่ยมันมีความแตกต่าง
00:06:38 → 00:06:44 กันคนอ้วนกับคนผอมเนี่ยแบคทีเรียก็ไม่ เหมือนกันนะครับคนไหนป่วยบ่อยที่ได้ยาฆ่า
00:06:44 → 00:06:50 เชื้อบ่อยๆสังคมแบคทีเรียก็เป็นอีกแบบ หนึ่งนะครับการที่เราไปศึกษาเรื่องพวก
00:06:50 → 00:06:53 เนี้มากขึ้นก็จะทำให้เราเข้าใจเรื่องพวก นี้มากขึ้นแต่การไปเปลี่ยนแปลงสังคม
00:06:53 → 00:06:59 แบคทีเรียในตอนเนี้ยมันยังไม่สามารถที่จะ แก้ไขปัญหาได้ทุกอย่างที่เราทำขึ้นมานะ
00:06:59 → 00:07:05 ครับปัญหาที่เราทำขึ้นมาคือการใช้ยาฆ่า เชื้อโดยไม่สมเหตุสมผลนะครับทีนี้เวลาเรา
00:07:05 → 00:07:12 ใช้ยาฆ่าเชื้อพวกเนี้ยเมื่อกี้ผมบอกะมัน มีการส่งต่อยีนที่มันเกิดการดื้อยาได้
00:07:12 → 00:07:17 ระหว่างแบคทีเรียที่อยู่ในตัวคุณนะครับ หรือแบคทีเรียที่ติดเข้ามาในตัวคุณใหม่ๆ
00:07:17 → 00:07:23 แต่มันไม่ได้อยู่แค่ตัวคุณครับเพราะว่า อะไรแบคทีเรียจากตัวคุณเนี่ยมันก็สามารถ
00:07:23 → 00:07:28 ไปข้างนอกได้ไปยังไงล่ะในช่องปากคุณมี แบคทีเรียมั้ยครับถ้าคุณมีแบคทีเรียที่
00:07:28 → 00:07:32 มันดื้อยาอยู่เนี่ยคุณไอจามแล้วคุณไปป้าย ไว้สักที่นึงหรือไอจามแล้วไปอยู่สักที่
00:07:32 → 00:07:37 นึงมันก็อยู่ตรงนั้นละหรือคุณถ่ายอุจจาระ มันลงไปในส้วมมันก็ไปที่อื่นละไอ้
00:07:37 → 00:07:42 แบคทีเรียพวกเนี้ยมันกระจายไปทั่วโลกได้ ยิ่งเดี๋ยวนี้นะครับมีการเดินทางระหว่าง
00:07:42 → 00:07:48 ประเทศได้ง่ายขึ้นนะครับก็มีการกระจายของ เชื้อที่มันดื้อยาแล้วไอ้เชื้อเหล่านี้เ
00:07:48 → 00:07:54 ครับยังไงยังไงมันก็ต้องมีการปนเปื้อน เข้าไปในคนสักคนนะครับคุณอาจจะไปหยิบจับ
00:07:54 → 00:07:58 อะไรมาแล้วไอ้แบคทีเรียเข้าไปในร่างกาย คุณเรียบร้อยแล้วแต่บังเอิญตอนนั้นร่าง
00:07:58 → 00:08:02 กายคุณแข็งแรงมันมันก็ไม่ได้เกิดอะไรขึ้น มันก็อยู่กับคุณไปเรื่อยๆนะครับไอ้
00:08:02 → 00:08:06 แบคทีเรียตัวนี้มันก็ไปถ่ายทอดยีนที่เกิด การดื้อยาให้กับแบคทีเรียตัวอ่นอืที่อยู่
00:08:06 → 00:08:11 ในร่างกายของคุณนะครับในขณะที่คุณไม่ป่วย ไม่เป็นไรครับมันไม่เกิดอะไรขึ้นแต่ตอน
00:08:11 → 00:08:17 ที่คุณป่วยแล้วล่ะก็นะไอ้แบคทีเรียที่ อยู่ในร่างกายคุณทั้งหมดตอนเนี้ยมันมียีน
00:08:17 → 00:08:22 ที่เอาไว้ต่อต้านยาฆ่าเชื้อเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นเวลามีเชื้อตัวใหม่เข้ามามันบอก
00:08:22 → 00:08:27 เฮ้ยๆมาทางนี้สิเดี๋ยวจะสอนวิธีต่อต้าน อาญาฆ่าเชื้อให้นะครับมันก็จะทำให้คุณมี
00:08:27 → 00:08:33 ปัญหาแล้วคุณรู้ว่ามั้ยครับไอ้เชื้อโรค ต่างๆที่อยู่ในร่างกายคุณนี่แหละที่เป็น
00:08:33 → 00:08:41 พวกไมโครไบโอมพวกเนี้ยนะฮะมันสามารถทำให้ คุณติดเชื้อได้ด้วยนะเช่นเชื้อในทางเดิน
00:08:41 → 00:08:45 อาหารของเราเนี่ยนะครับมันควรจะอยู่ในแค่ ทางเดินอาหารแต่เมื่อไหร่ก็แล้วแต่ซึ่ง
00:08:45 → 00:08:51 มันเปลี่ยนที่อยู่เช่นบางคนทำความสะอาด เอ่อทวารหนักไม่ดีแล้วมันเข้าไปในช่องทาง
00:08:51 → 00:08:56 เดินปัสสาวะคุณแล้วล่ะก็คุณก็จะเกิดการ ติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะขึ้นมานะครับก็
00:08:56 → 00:09:04 เป็นเชื้อด้วยาได้นะครับหรือบางคนเนี่ยนะ ฮะเกิดมีปัญหาทางด้านลำไส้นะครับไม่ว่า
00:09:04 → 00:09:09 คุณจะได้เคมีบำบัดอยู่หรือคุณมีปัญหาอะไร ก็แล้วแต่ทำให้ผนังลำไส้ของเราเนี่ยมันมี
00:09:09 → 00:09:14 ปัญหาเชื้อโรคเหล่านี้แทนที่มันจะอยู่ใน ลำไส้นะครับมันก็สามารถทะลุเข้าเส้นเลือด
00:09:14 → 00:09:20 ของเราก็เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือดที่ เป็นเชื้อดื้อยาขึ้นมาได้นะครับนี่คือ
00:09:20 → 00:09:28 ความน่ากลัวของการเกิดเชื้อดื้อาทีนี้ผม อยากจะลงลึกอีกอย่างนึงก็คือว่าเอ๊ะแล้ว
00:09:28 → 00:09:33 บางคนเนี่ยที่ต้องใดยาฆ่าเชื้อเนี่ยนะ ครับทั้งๆที่มันให้เหมาะสมแล้วมันมันมี
00:09:33 → 00:09:39 ความเสี่ยงต่อการเกิดเชื้อด้วยายต้องบอก ว่ามีครับมีต่อให้คุณให้ยาฆ่าเชื้ออย่าง
00:09:39 → 00:09:43 สมเหตุสมผลยังไงตรงกับเชื้อเป๊ะๆเลยนะ ครับแล้วก็ให้ระยะเวลานานพอที่จะเชื้อ
00:09:43 → 00:09:48 เหล่านั้นมันตายไปได้เนี่ยนะครับมันก็ยัง มีโอกาสเกิดเชื้อรือยาอยู่ดีเพราะว่ามัน
00:09:48 → 00:09:52 จะมีเชื้อบางตัวซึ่งมันไม่ตายอยู่ดีนะ ครับเช่นเชื้อที่อยู่ในร่างกายของคุณที่
00:09:52 → 00:09:58 เป็นตัวอื่นที่ไม่ได้ก่อโรคนะครับมันก็จะ เป็นเช่นนี้อยู่ดีแต่นี่แหละครับตรงเนี้ย
00:09:58 → 00:10:04 คุณฟังให้ดีเวลาคุณไปหาหมอเคยได้ยินหลายๆ ครั้งมั้ยครับว่าหมอครับขอยาที่แรงที่สุด
00:10:04 → 00:10:09 ขอยาที่ดีที่สุดบางบางคนบอกชื่อยี่ห้อไป เลยต้องได้ตัวนี้เท่านั้นแล้วการที่ไปขอ
00:10:09 → 00:10:14 ยาแรงยาพวกนั้นเนี่ยสิ่งที่คนมักจะเข้าใจ กันนะครับยาเหล่านั้นเนี่ยเป็นยาที่ครอบ
00:10:14 → 00:10:20 คลุมเชื้อโรคทีเดียวหลายๆชนิดนะครับยาที่ ครอบคลุมเชื้อโรคหลายชนิดเนี่ยมันจะทำให้
00:10:20 → 00:10:27 คุณมีโอกาสเกิดเชื้อดืยาได้สูงกว่ายาที่ ครอบคลุมเชื้อโรคบางชนิดนะครับดังนั้นถ้า
00:10:27 → 00:10:32 คุณได้ยาที่มันครอบคลุมกงกว้างเลยนะครับ กว้างทุกอย่างคือแบบเชื้อตัวไหนมาในยาตัว
00:10:32 → 00:10:37 นี้มันเอาอยู่หมดเลยนะครับได้เข้าไปนานๆ เนี่ยมันจะมีเชื้ออยู่บางตัวที่มันไม่ตาย
00:10:37 → 00:10:42 แล้วพอมันไม่ตายก็จะเกิดการดื้อยาขึ้นมา ในอนาคตยาตัวนั้นก็เราเริ่มไม่ได้ผลแล้ว
00:10:42 → 00:10:47 ครับนะถัดกับกรณีที่ถ้าเกิดยาตัวเนี้ยมัน ได้ผลกับไอ้เชื้อโรคตัวนี้ตัวเดียวอ่ะมัน
00:10:47 → 00:10:52 ไม่ไปยุ่งกับตัวอื่นสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ มันมุ่งเป้า่าจากไอ้เชื้อตัวนี้ตัวเดียว
00:10:52 → 00:10:57 นะครับส่วนไอ้เชื้อตัวอื่นของคุณเนี่ยมัน ไม่ไวต่ออาญาตัวนี้อยู่แล้วมันไม่เกิด
00:10:57 → 00:11:02 อะไรขึ้นนะครับดังนั้นการให้ยาฆ่าเชื้อ เนี่ยก็จะต้องพยายามให้มันเฉพาะเจาะจงกับ
00:11:02 → 00:11:08 เชื้อตัวที่มีปัญหามากที่สุดทีนี้เวลาเรา ไปโรงพยาบาลด้วยโรคติดเชื้ออย่างนึ่งถ้า
00:11:08 → 00:11:12 มันหนักขนาดต้องเข้าโรงพยาบาลเนี่ยขั้น แรกคุณหมอเขาจะให้ยาที่มันครอบคลุมเชื้อ
00:11:12 → 00:11:18 หลายๆตัวไว้ก่อนเผื่อว่ามันอาจจะมีปัญหา ได้นะครับแต่เขาคก็จะให้ระยะเวลาสั้นที่
00:11:18 → 00:11:24 สุดพอรู้ว่าเป็นเชื้ออะไรไวต่อยาฆ่าเชื้อ ตัวไหนเขาจะรีบเปลี่ยนเป็นตัวที่มันไวทัน
00:11:24 → 00:11:29 ทีโดยที่ไม่ให้ยาที่มันครอบคลุมเชื้อ กว้างๆจะพยายามมุ่งเป้าเหมือนเป็นแสง
00:11:29 → 00:11:32 เลเซอร์ยิงอีกเฉพาะไอ้ตัวนี้ตัวเดียว เพื่อที่จะให้ตัวอื่นมันไม่มีปัญหาแล้ว
00:11:32 → 00:11:39 คุณก็จะไม่เกิดการติดติดเชื้อรื้อยาขึ้น มานะครับนั่นคือวิธีในการรักษาของเรานะ
00:11:39 → 00:11:44 แต่แม้กระทั่งคุณทำให้ดีอย่างเงี้ยังไงก็ แล้วแต่มันก็เกิดชื้อรืยาขึ้นมาได้ทำไม
00:11:44 → 00:11:49 ถึงเกิดขึ้นได้นะครับประการแรกอย่างที่ บอกไปะมันมีเชื้อบางตัวไม่ตายะมันจะส่ง
00:11:49 → 00:11:55 ต่อวิธีในการต่อต้านเชื้อเ่อต่อต้านยาฆ่า เชื้ออันที่
00:11:55 → 00:12:00 2 บางทีนะครับระหว่างที่คุณกำลังให้ยา อยู่เนี่ยเชื้อเนี่ยมันกลายพันธ์ได้เชื้อ
00:12:00 → 00:12:06 แบคทีเรียมันแบ่งตัวเร็วมากนะครับในการ แบ่งตัวแต่ละครั้งถ้าเกิดว่ามันสามารถ
00:12:06 → 00:12:12 กลายพันุ์ได้มันก็จะต่อต้านยาค่าเชื้อของ คุณได้ทันทีนะครับหรือถ้ายาค่าเชื้อของ
00:12:12 → 00:12:18 คุณขนาดมันไม่สูงพอเช่นคุณมีฝีหนองบาง อย่างอย่างเงี้ยยาค่าเชื้อมันเข้าไปในฝี
00:12:18 → 00:12:23 หนองพวกเนี้ยได้ยากนะครับแล้วถ้าเกิด เชื้อมันอยู่ตรงกลางล่ะนะถ้าเชื้อมันอยู่
00:12:23 → 00:12:26 ตรงกลางยาฆ่าเชื้อเข้าไปถึงเนี่ยเข้าไป ได้นิดเดียวนิดเดียวมันก็เหมือนคุณได้ได้
00:12:26 → 00:12:30 ยาค่าเชื้ออ่อนๆอ่อนๆไปเชื้อมันก็แบบ เรียนรู้แล้วสามารถที่จะกลายเป็นเชื้อ
00:12:30 → 00:12:36 ดื้อยาได้ทันทีดังนั้นเนี่ยบางคนเนี่ยนะ ครับที่เป็นฝีหนองหรือมันมีอะไรก็แล้วแต่
00:12:36 → 00:12:41 ที่มีน้ำในช่องท้องหรือน้ำในช่องทรงอกที่ มันติดเชื้อเนี่ยพวกเนี้ยเขาถึงต้องเจาะ
00:12:41 → 00:12:47 แล้วระบายมันออกไงครับจะต้องใส่ท่อระบาย จะต้องผ่าตัดนะครับดังนั้นหลายๆคนที่กลัว
00:12:47 → 00:12:53 การผ่าตัดเพราะว่ามันกลัวเจ็บหรือกลัว อะไรก็แล้วแต่ถ้าหมอเขาแนะนำนะครับคือคุณ
00:12:53 → 00:12:57 ต้องทำเพราะไม่ฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นก็ คือเชื้อในที่สุดมันจะดื้อยาแล้วก็จะไม่
00:12:57 → 00:13:04 สามารถที่จะจัดการมันได้นะครับงั้นกรณี นี้คือกรณีที่ยามันไม่สามารถไปถึงที่
00:13:04 → 00:13:09 เชื้อได้เชื้อบางตัวฉลาดกว่านั้นมันสร้าง แผ่นฟิล์มที่เรียกว่าไบโอฟิล์มขึ้นมานะ
00:13:09 → 00:13:13 ครับไบโอฟิล์มคืออะไรสมมุติว่าตรงนี้เป็น ผนังเป็นผิวหนังของผมนะครับแล้วแบคทีเรีย
00:13:13 → 00:13:18 มันมาสร้างสร้างเมืองมันอยู่ตรงนี้นะครับ มันสร้างเกราะหุ้มเมืองก็คือเป็นเมือก
00:13:18 → 00:13:23 ลื่นๆเรียกว่าไอฟีลนะครับไอ้เมือกลื่นๆ ตรงเนี้ยมันเป็นตัวที่ทำให้มันยึดเกาะกับ
00:13:23 → 00:13:29 ผนังได้ดีขึ้นไม่หลุดออกไปไหนแล้วยาฆ่า เชื้อก็ทะลุไปถึงตัวเชื้อไม่ได้ได้ด้วย
00:13:29 → 00:13:36 ซ้ำไปนะครับนี่ก็คืออีกกลไกนึงที่ทำให้ เชื้อมันเกิดการดื้อยานะครับได้ง่ายนะตรง
00:13:36 → 00:13:41 นี้เป็นเรื่องที่หลายๆคนอาจจะไม่เคยทราบ มาก่อนแต่ก็ทราบซะตรงนี้นะครับดังนั้น
00:13:41 → 00:13:47 เนี่ยการใช้ยาจะต้องใช้อย่างเหมาะสมแล้ว ผมก็ต้องขอบอกเลยนะครับว่าปัจจุบันเนี้ย
00:13:47 → 00:13:52 หมอหลายๆคนก็ให้ยาไม่ถูกต้องเหมือนกันนะ ครับคือคนไข้เป็นอะไรมาแล้วก็จ่ายยาแรงไป
00:13:52 → 00:13:57 เสมอยาค่าเชื้อที่มันครอบคลุมทุกอย่าง เพราะว่าส่วนหนึ่งนะครับถ้าเป็นโรงพยาบาล
00:13:57 → 00:14:02 เอกชนบางที่นะกับหมหมอบางคนเค้าจะบอกว่า เออลูกค้ามาอย่างนี้เราก็ต้องจัดการคนไข้
00:14:02 → 00:14:06 มาอย่างนี้ต้องทำให้หายให้เร็วที่สุดก็จะ ให้ยาที่มันดีที่สุดซึ่งนั่นก็ไม่ถูกต้อง
00:14:06 → 00:14:11 ทำให้เกิดการติดเชื้อด้วยยาขึ้นมาได้นะ ครับถ้าเป็นโรงพยาบาลรัฐบาลปัญหาอย่าง
00:14:11 → 00:14:15 หนึ่งที่เราเจอนะคือคนไข้มันเยอะจนเกินไป แล้วทุกๆครั้งที่คนไข้มาหาหมอเนี่ยก็จะ
00:14:15 → 00:14:21 พูดเหมือนกันนะครับคือผมเจ็บคอผมอยากจะ หายเร็วเสียงมันแถบเนี่ยอยากจะหายเร็วนะ
00:14:21 → 00:14:25 ครับหลอดงมาเสพทุกครั้งมันต้องได้ยาฆ่า เชื้อตัวเนี้ยนะครับแล้วหมอเมีคนไข้แบบ
00:14:25 → 00:14:29 เป็นรคนอย่างเงี้ยนะครับเมาคอยอธิบายคุณ ทีละคนทีละคคนมันก็ไม่ได้ก็บอกเออตัด
00:14:29 → 00:14:34 รำคาญเลยคุณเอาไปเลยแล้วกันตัวนี้แต่คุณ รู้มั้ยครับว่าการทำแบบนั้นเนี่ยก็ทำให้
00:14:34 → 00:14:39 เกิดการติดเชื้อรือยามากขึ้นในสังคมเรา ปัจจุบันไม่ใช่เฉพาะคุณนะครับแต่ทั้งโลกะ
00:14:39 → 00:14:45 ที่สำคัญคืออย่างที่เมื่อกี้ผมบอกเชื้อ พวกเยมันไปทุกที่คุณมีโอกาสได้รับเข้าไป
00:14:45 → 00:14:49 หมดนะครับแล้วถ้าคุณได้รับเข้าไปตอนนี้ คุณอายุน้อยคุณแข็งแรงคุณไม่เป็นไรหรอก
00:14:49 → 00:14:54 เดี๋ยวรอจนกระทั่งคุณอายุเยอะภูมิต้านทาน ตกแล้วตอนนั้นนะครับที่จะมีปัญหานะฮะคน
00:14:54 → 00:15:00 ที่มีโรคประจำตัวเบาหวานความดันไขมันนะ ครับคนที่ดูแลระบบภูมิต้านทานตัวเองไม่ดี
00:15:00 → 00:15:05 คนที่ต้องทานยากดภูมิต้านทานคนที่มีภูมิ ต้านทานผิดปกติมี HIV แล้วไม่ได้รักษาให้
00:15:05 → 00:15:13 มันดีติดเชื้อพวกนี้เข้าไปเนี่ยแย่นะครับ แย่นะมันรักษายากนะครับตรงเนี้ก็เป็นหลาย
00:15:13 → 00:15:20 ๆอย่างที่หลายๆคนก็ไม่ได้ให้ความสำคัญนะ ฮะไวรัสมันก็สามารถดื้อยาได้นะครับดื้อยา
00:15:20 → 00:15:25 ได้นะเพียงแต่ว่าหลายๆครั้งแล้วไวรัสมัน อาจจะดื้อยากกว่ามันแล้วแต่ชนิดของไวรัส
00:15:25 → 00:15:30 ด้วยนะครับอย่างเช่นไวรัส HIV อย่าเงี้ย อาจจะต้องใช้ยา 3 ตัวนะครับเพราะถ้าคุณ
00:15:30 → 00:15:33 ใช้้ตัวเดียวแป๊บเดียวมันก็ดื้อแล้วแต่ ต้องมาจัดการมาทั้ง 3 ทางมันถึงจะไม่ดื้อ
00:15:33 → 00:15:38 อะไรอย่างนี้เป็นต้นนะครับวัณโรคอย่าง เงี้ยถ้าใช้ยาตัวเดียวดื้อยาแน่นอนมัน
00:15:38 → 00:15:44 ต้องใช้ยาหลายๆตัวเพื่อที่จะจัดการมันแบบ นี้เป็นต้นนะครับก็มีเชื้ออีกหลากหลายนะ
00:15:44 → 00:15:51 ครับที่มันเกิดการดื้อยาเพราะว่าเรามีการ ใช้ยาฆ่าเชื้อที่มากจึงจำเป็นนะครับเป็น
00:15:51 → 00:15:58 แบบนั้นนะงั้นตรงเนี้ยผมอยากจะเล่าให้ หลายๆคนฟังให้ตระหนักถึงปัญหาตรรงนี้
00:15:58 → 00:16:03 เพราะว่ามันไม่ใช่ปัญหาเฉพาะบุคคลนะครับ มันเป็นปัญหาทั้งโลกเลยที่คุณกำลังเจอใน
00:16:03 → 00:16:08 โรงพยาบาลหลักๆของที่อเมริกาหรือที่ไทย เองก็แล้วแต่นะครับมันจึงต้องมียาฆ่า
00:16:08 → 00:16:13 เชื้อบางประเภทที่หมอทั่วไปสั่งไม่ได้นะ ครับจะต้องใช้หมอโรคติดเชื้อเฉพาะเท่า
00:16:13 → 00:16:18 นั้นที่อนุมัติว่าสั่งจ่ายได้เพราะว่าไม่ ฉะนั้นถ้าทุกคนสั่งจ่ายได้นะครับมันก็จะ
00:16:18 → 00:16:24 มีปัญหาเรื่องของเชื้อดื้อยาที่มันมาก ขึ้นทุกวันทุกวันนั่นแหละครับนะงั้นตอน
00:16:24 → 00:16:30 นี้คงรู้แล้วนะครับว่าเชื้อดื้อยาเนี่ย มันมาจากไหนนะครับแล้วมันอยู่กับเราเนี่ย
00:16:30 → 00:16:35 มันอยู่ไปตลอดชาตินะครับมันไม่หายไปไหน จากร่างกายเรานะเราไปกำจัดมันก็ไม่ได้ถึง
00:16:35 → 00:16:41 คุณกำจัดเชื้อตัวนี้ไปแต่เชื้อตัวอื่นๆ ซึ่งมันมียีนในการต่อต้านยาฆ่าเชื้อตัว
00:16:41 → 00:16:47 นั้นเรียบร้อยแล้วต่อไปคุณติดตัวอะไรมา มันก็ส่งอีข้อมูลตรงนี้ไปให้ทำให้คุณก็
00:16:47 → 00:16:53 ไม่มีทางที่จะหลีกหนีจากปัญหานี้ได้ต่อ ให้คุณรวยล้นฟ้ายังไงนะครับคุณก็จะติด
00:16:53 → 00:16:59 เชื้อด้วยยาชนิดนี้ได้อยู่ดีนั่นแหละครับ นะงั้นอันนี้ก็ต้องบอกให้ทุกคนช่วยกันนะ
00:16:59 → 00:17:04 ครับเวลาไปหาหมอถ้าเกิดหมอเขาบอกว่าอยาก กินยาฆ่าเชื้อก็อยากกินนะครับแลถ้าคุณได้
00:17:04 → 00:17:10 ยาฆ่าเชื้อมาแล้วนะกรุณากินให้หมดเพราะ ว่าถ้าคุณกินไปครึ่งทางแล้วมันไม่หมดเช่น
00:17:10 → 00:17:15 บางคนบอกว่าโอ๊ยอาการดีขึ้นแล้ว 2 วัน 3 วันดีขึ้นแล้วขอไม่กินยาได้มั้ยกลัวมีผล
00:17:15 → 00:17:19 ข้างเคียงอคำตอบของผมก็คือไม่ได้ครับไม่ ว่าคุณจะดีขึ้นไม่ดีขึ้นยังไงคุณต้องกิน
00:17:19 → 00:17:24 ให้หมดเพราะว่าการที่กินไม่หมดเนี่ยเชื้อ บางตัวที่มันกำลังจะตายมันไม่ตายพอมันไม่
00:17:24 → 00:17:29 ตายโอกาสเกิดเชื้อรือยามันจะสูงขึ้นแต่ ถ้าเรากินยาให้หมดยังน้อยๆนะไอ้เชื้อพวก
00:17:29 → 00:17:35 นี้มันตายหมดโอกาสเกิดเชื้อได้ยามีมั้ยมี แต่มันน้อยกว่าการที่เชื้อมันตายไปไม่หมด
00:17:35 → 00:17:39 นะครับดังนั้นตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญกินยา ฆ่าเชื้อก็ต้องกินให้หมดถ้ามันไม่จำเป็น
00:17:39 → 00:17:46 ก็ไม่ต้องกินถ้าหมอเไม่แนะนำก็ไม่ต้องกิน นะครับมีกรณีนึงซึ่งผมจะเล่าให้ฟังก็คือ
00:17:46 → 00:17:53 มีคนที่ติดเชื้อไวรัสทางอ่าคอทำให้เจ็บคอ ได้นะครับพอติดเชื้อไวรัสแล้วเนี่ยตอนแรก
00:17:53 → 00:17:57 มันไม่เป็นไรแต่ตอนหลังเป็นการติดเชื้อ แบคทีเรียแทรกซ้อนเข้าไปนะครับและกรณีที่
00:17:57 → 00:18:01 ต้องใช้ยาค่าเชื้อเชื้อแล้วคนพวกนี้แหละ ครับที่ไปหาหมอแล้วบอกว่าเนี่ยเห็นมั้ย
00:18:01 → 00:18:05 มันต้องให้ยาฆ่าเชื้อถึงจะหายเปล่าเลย ครับจริงๆตอนแรกท่านเป็นโรคติดเชื้อไวรัส
00:18:05 → 00:18:10 ไม่ต้องให้ยาฆ่าเชื้อมันก็หายของมันเอง ไวรัสเนี่ยหลายๆกรณีมันไม่มียาฆ่าเชื้อนะ
00:18:10 → 00:18:15 ครับเช่นไวรัสหวัดทั่วไปไม่มียาฆ่าเชื้อ นะมันมีแต่โควิดไข้หวัดใหญ่อย่างเงี้ยพอ
00:18:15 → 00:18:21 มีแต่ตัวอื่นๆเนี่ยไม่มีนะครับก็ต้องรอ ให้มันหายเองแล้วการไปกินยาฆ่าเชื้อทั้งๆ
00:18:21 → 00:18:25 ที่ท่านไม่ได้มีเชื้อที่มันจะไปต้องกิน เนี่ยมันจะทำให้เกิดเชื้อรือยาขึ้นมามาก
00:18:25 → 00:18:29 กว่าเดิมนะครับโอเควันนี้ผมเล่าให้ฟัง เพียงเท่านี้นะครับครับถ้าใครสงสัยอะไรก็
00:18:29 → 00:18:35 สอบถามมาแล้วกันนะครับขอบคุณมากครับ สวัสดีครับ