ทำไมการแยกแยะระหว่างภาวะเศร้าซึมกับโรคจิตเวชจึงสำคัญ

ความคล้ายที่แตกต่าง ซึมเศร้ากับไบโพลาร์ แยกกันอย่างไร | โรงหมอ

จากช่อง : Thai PBS Podcast


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0600:00:09 ภาวะเศร้าซึมกับการเป็นโรคซึมเศร้าบาง

00:00:0900:00:11 ครั้งอาการปลายทางมันดูคล้ายๆกันแต่ไส้ใน

00:00:1100:00:14 ต่างกันต่างกันตรงที่ว่าถ้าเป็นโรคซึม

00:00:1400:00:16 เศร้าเนี่ยบางครั้งมันเป็นผลกระทบในเชิง

00:00:1600:00:18 ระดับร่างกายและเริ่มนอนไม่หลับเริ่มกิน

00:00:1800:00:21 ไม่ได้เริ่มทรุดโทรมบางครั้งอันนี้มันคือ

00:00:2100:00:23 โรคซึมเศร้าที่เกิดขึ้นทางกายอันมีผลมา

00:00:2300:00:25 จากเรื่องใจการแก้ไขเรื่องพวกนี้ควรจะ

00:00:2500:00:27 กลับไปดูเรื่องที่ตัวสิ่งที่เขาเจอใน

00:00:2700:00:30 ชีวิตมากกว่าว่าเขามีวิธีการรับมือยังไง

00:00:3000:00:32 เขาแก้ไขยังไงถ้าแก้ไม่ได้ปรับตัวไม่ได้

00:00:3200:00:34 มันก็พัฒนาไปสู่การเป็นซึมเศร้าเพราะว่า

00:00:3400:00:36 ถ้าซึมที่มันเข้มไปถึงโรคซึมเศร้าโดย

00:00:3600:00:37 เหมือนกัน

00:00:3700:00:38 [เพลง]

00:00:3800:00:42 ฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคภัยฟังราย

00:00:4200:00:47 การโรงหมอดิฉันสุรีพรวงสถิตพรค่ะ

00:00:4700:00:50 [เพลง]

00:00:5000:00:53 เดี๋ยวเราจะคุยกันกับอีกเรื่องนึงที่บาง

00:00:5400:00:56 คนอาจจะยังงงๆสงสัยเอ๊ะจะแยกอย่างไร

00:00:5600:00:59 ระหว่างซึมเศร้ากับไบโพล่ามันต่างกันไหม

00:00:5900:01:03 หรือมันมีอะไรดูคล้ายๆใกล้เคียงกันหรือ

00:01:0300:01:05 เปล่านะฮะเดี๋ยววันนี้เรามาขายข้อสงสัย

00:01:0500:01:09 กันกับวิธีการสังเกตนะคะกับดรสุรวุฒิ

00:01:0900:01:11 วงศ์ธารสวรรค์หรือคุณเอิ้นณจิตวิทยาการ

00:01:1100:01:13 ศึกษาค่ะสวัสดีค่ะคุณเอิ้นขาสวัสดีครับ

00:01:1300:01:15 คุณผู้ฟัง

00:01:1500:01:18 ต้องบอกว่าก่อนเข้ารายการเราได้คุยกันไป

00:01:1800:01:22 ในบางเรื่องกำลังรู้สึกว่าตัวเองเป็นใบ

00:01:2200:01:24 บัว

00:01:2400:01:27 เดี๋ยวก็พร้อมจะไปปะทะเดี๋ยวก็บางทีก็ดู

00:01:2700:01:29 แบบเออก็น่าสงสารคนนู้น

00:01:2900:01:32 แล้วเป็นเองหรือเปล่าไม่เข้าใจไม่เข้าใจ

00:01:3200:01:34 ตัวเองเหมือนกันเอางั้นคุณเอิ้นรบกวน

00:01:3400:01:36 หน่อย

00:01:3600:01:39 ซึมเศร้ากับไบโพล่า

00:01:3900:01:43 มันเป็นยังไงมันต่างกันไหมหรืออะไรยังไง

00:01:4300:01:46 อธิบายให้ฟังหน่อยเออโอเคครับก่อนที่เรา

00:01:4600:01:49 จะไปพูดถึงโรคซึมเศร้ากับโรคไบโพล่าเนาะ

00:01:4900:01:53 ผมจะพูดถึง Concept นี้ก่อนซึ่งผมย้ำเป็น

00:01:5300:01:54 ประจำว่า

00:01:5400:01:57 เวลาเราพูดถึงโรคอ่ะครับมันคือความแอ๊บ

00:01:5700:02:00 Normal หรือความผิดปกติมันคือ disor

00:02:0000:02:03 หรือเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้นั่นคือโรคใน

00:02:0300:02:07 ทางจิตเวชที่ในฝั่งของจิตเวชศาสตร์แล้วก็

00:02:0700:02:09 จิตแพทย์พูดถึงกันก็คือเป็นสิ่งที่มัน

00:02:0900:02:12 แอ๊บ Normal และ desolder ปิดปกติและควบ

00:02:1200:02:16 คุมไม่ได้อ่าทีนี้ก่อนที่จะพูดถึงตรงนั้น

00:02:1600:02:17 นะครับผมต้องแยกก่อนว่าแสดงว่ามันจะมี

00:02:1700:02:19 สิ่งที่เป็นภาวะเรียกว่า Normal และ Order

00:02:1900:02:20 ได้อยู่

00:02:2000:02:23 ภาวะที่ปกติถูกไหมครับมันก็ต้องมีอยู่

00:02:2300:02:26 แล้วก็จะมีภาวะไม่ปกติที่มีอยู่

00:02:2600:02:29 เวลาเราพูดถึงซึมเศร้าและไบโพลาร์จะอยู่

00:02:2900:02:34 ในโหมดของแอป Normal แล้ว

00:02:3400:02:37 ก่อนที่เราจะดูว่าอะไรเป็นโรคไม่ใช่โรค

00:02:3700:02:40 ครับต้องใช้ตรงนี้เป็นเกณฑ์ก่อนว่าสิ่ง

00:02:4000:02:42 ที่เป็นเดี๋ยวนี้มันถึงเลเวลหรือว่าถึง

00:02:4200:02:44 ระดับที่มันรบกวนการใช้ชีวิตหรือเป็นภัย

00:02:4400:02:47 กับชีวิตตัวเองเลยไหม

00:02:4700:02:50 ถ้านอกจากเป็นเรื่องภายในชีวิตแล้วต้องดู

00:02:5000:02:52 เรื่องความสมเหตุสมผลในการมีอยู่ของมัน

00:02:5200:02:57 ด้วยสมมุติว่าท่านในทางจิตวิทยาเนี่ย

00:02:5700:03:01 ซึมเศร้าแบบที่มีเรื่องราวมีสาเหตุมีมี

00:03:0100:03:04 ประสบการณ์มีบุคคลที่เกี่ยวข้องมี Story

00:03:0400:03:07 ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวข้องอย่างนี้ครับแล้ว

00:03:0700:03:09 มันผลักดันให้เราเกิดอารมณ์อะไรบางอย่าง

00:03:0900:03:12 พวกนี้คือเป็นเรื่องทางจิตวิทยาที่เรารู้

00:03:1200:03:13 สึกว่าเข้าใจได้

00:03:1300:03:17 บางครั้งภาวะของความรู้สึกเศร้าซึมใส่ของ

00:03:1700:03:20 แล้วกันเนาะไม่ใช่ซึมเศร้านะภาวะซอบซึม

00:03:2000:03:23 กับการเป็นโรคซึมเศร้าบางครั้งอาการปลาย

00:03:2300:03:25 ทางมันดูคล้ายๆกัน

00:03:2500:03:28 มองด้วยตาเปล่ารู้สึกคล้ายๆกันแต่ไส้ใน

00:03:2800:03:31 ต่างกันไส้ในต่างกันตรงที่ว่าถ้าเป็นโรค

00:03:3100:03:33 ซึมเศร้าเนี่ยบางครั้งมันเป็นผลกระทบใน

00:03:3300:03:35 เชิงระดับร่างกายและ

00:03:3500:03:38 สมมุติผมยกตัวอย่างแบบศัพท์บ้านๆที่เรา

00:03:3800:03:40 เคยได้ยินตามละครนะคำว่าตรอมใจตายเคยเห็น

00:03:4000:03:43 มั้ยฮะเคยได้ยินอ่าตามใจตาจะเป็นเช่น

00:03:4300:03:46 คล้ายๆอย่างนั้นครับที่พอเราเศร้าจำผิด

00:03:4600:03:48 หวังจากชีวิตอะไรสักอย่างเนี่ยแล้วมัน

00:03:4800:03:50 เริ่มกระทบไปทีร่างกายเราเริ่มนอนไม่หลับ

00:03:5000:03:54 เริ่มกินไม่ได้เริ่มทดสอบบางครั้งอันนี้

00:03:5400:03:56 มันคือโรคซึมเศร้าที่เกิดขึ้นทางกายอัน

00:03:5600:03:58 นี้ผมมาจากใจ

00:03:5800:04:02 อย่างนี้เข้าใจได้ make sense การแก้ไข

00:04:0200:04:04 เรื่องพวกนี้ควรจะกลับไปดูเรื่องที่ตัว

00:04:0400:04:07 ตัวสิ่งที่เขาเจอในชีวิตมากกว่าเพราะเขา

00:04:0700:04:10 มีวิธีการรับมือยังไงเขาแก้ไขยังไงถ้าแก้

00:04:1000:04:12 ไม่ได้ปรับตัวไม่ได้มันก็พัฒนาไปสู่การ

00:04:1200:04:14 เป็นซึมเศร้าภาวะเศร้าซึมที่มันเข้มไปถึง

00:04:1400:04:15 โรคซึมเศร้าได้เหมือนกัน

00:04:1500:04:19 ร่างกายก็จะเริ่มรวนเริ่มพังประมาณนั้นนะ

00:04:1900:04:20 ครับซึ่งมันก็มีเหมือนกันนะอย่างเช่น

00:04:2000:04:23 ไบโพล่า

00:04:2300:04:26 ในไบโพล่าเนี่ยต้องบอกว่ามันคืออารมณ์แบบ

00:04:2600:04:29 บน 2 ขั้ว

00:04:2900:04:32 ซึมเศร้าจะเป็นแค่โทนอารมณ์แบบเดียวเศร้า

00:04:3200:04:35 ๆเศร้าๆหดหู่

00:04:3500:04:38 แต่ไบโพล่าเนี่ย

00:04:3800:04:41 ขั้วที่เศร้ากับขั้วที่ mania ก็คือขั้ว

00:04:4100:04:42 ที่พีคขึ้นไป

00:04:4200:04:47 พุ่งพล่านพีคเดือดคึกคะนองขืนเพลงเกิน

00:04:4800:04:49 เหตุโดนยามาหรือเปล่านี่พูดได้ง่ายเหมือน

00:04:4900:04:52 รถไฟหอแล้วกันเนาะรถไฟเหาะมันก็จะมีภาวะ

00:04:5200:04:54 ที่แบบวิ่งอยู่ตรงกลางถูกไหมฮะแล้วมันจะ

00:04:5400:05:02 มีแบบภาวะทิ้งดิ่งฮวบลงไปแบบฮวบลึกๆเลย

00:05:0200:05:05 ขึ้นมาอีกแล้วก็ลงมาอย่างนี้ครับเพราะ

00:05:0600:05:08 ฉะนั้นในความเป็นไบโพล่ามันจะมีการสลับ

00:05:0800:05:11 สลับระหว่างลงสุดแล้วขึ้นสุดแล้วก็ลงสุด

00:05:1100:05:17 ขึ้นสุดโอ้ดูวุ่นวายเนอะ

00:05:1700:05:21 การที่สารเคมีในสมองทำงานในปกติคือทั้ง

00:05:2100:05:24 ทั้งซึมเศร้ากับไบโพล่าก็คือสารเคมีสมอง

00:05:2400:05:27 ทำงานผิดปกติอันนี้เป็นหมอนทางการแพทย์

00:05:2700:05:30 ซึ่งถ้าเป็นซึมเศร้าจะมีโทนเดียวก็คือ

00:05:3000:05:34 เศร้าแต่ไบโพล่าจะมี 2 โทนก็คือเจ้าสุด

00:05:3400:05:42 แล้วก็ขึ้นไปพีคสุดเดือดสุดอารมณ์

00:05:4200:05:45 แต่ถ้าเวลาขึ้นเนี่ยก็ไม่ได้บอกว่าจะ

00:05:4500:05:49 อารมณ์ดีอาจจะแบบเกรี้ยวกราดก็ได้พูดมาก

00:05:4900:05:52 พูดไม่หยุดใช้จ่ายฟุ่มเฟือยแบบไม่ยั้งไม่

00:05:5200:05:55 คิดแล้ว

00:05:5500:05:58 ก็ต้องบอกว่าต้องแยกเอาตามความผิดปกติถ้า

00:05:5800:06:01 แบบมันดาวดิ่งมากดิ่งแบบโหจะตายแล้วแล้ว

00:06:0100:06:04 ก็แบบคือสมองสมองเริ่มไปแล้วความยอมความ

00:06:0400:06:07 จำสมาธิเริ่มหายเริ่มมองไม่เห็นอะไรดีๆใน

00:06:0700:06:10 ชีวิตเลยอย่างเงี้ยครับหรือว่ามันมีความ

00:06:1000:06:12 คิดอยากฆ่าตัวตายอันนี้คือภาวะที่มันผิด

00:06:1200:06:14 ปกติแหละมันเกินกว่าความชอบปกติที่คนจะ

00:06:1400:06:17 เป็นถ้าชอบปกติก็คืออ่าเศร้าแล้วเดี๋ยว

00:06:1700:06:20 เราก็กลับมาใช้ชีวิตปกติได้ในในวันหนึ่ง

00:06:2000:06:22 ที่ไม่ได้เศร้านานใช่ไหม

00:06:2200:06:25 เพราะงั้นระดับของความเป็นโรคมันจะรบกวน

00:06:2500:06:28 การใช้ชีวิตไปเลยอ่ะอ๋ออ่ะเห็นความต่าง

00:06:2800:06:30 และชัดเจนมากแล้วแบบไม่สามารถดึงกลับมา

00:06:3000:06:33 ได้แล้วมันดูเหมือนมีเหตุผลอื่นๆนอกจาก

00:06:3300:06:35 แค่เรื่องจิตใจด้วยซ้ำอาจจะมีภาวะอื่นที่

00:06:3500:06:51 มันแบบเข้มๆกว่านั้นจากทางร่างกาย

00:06:5100:06:55 มันก็ต้องมาสังเกตคือเพราะว่ามันเพราะ

00:06:5500:06:56 เวลามันดิ่งมันดิ่งด้วยกันทั้งคู่ทั้งซึม

00:06:5700:06:59 เศร้ากับไบโพล่ามันดิ่งลงไปทั้งคู่

00:06:5900:07:04 จะลงอย่างเดียวอ๋องั้นแสดงว่าถ้าเป็น

00:07:0400:07:06 ไบโพล่าเนี่ยเพราะดิ่งลงไปสักระยะหนึ่ง

00:07:0600:07:09 เดี๋ยวมันก็อยู่ๆกับพุ่งขึ้นมาแต่มันจะมี

00:07:0900:07:11 ภาวะที่แบบขึ้นมาแล้วแบบอยู่กลางๆยังไม่

00:07:1100:07:14 พุ่งก็มีแต่มันแค่ปริ่มๆแล้วมันจะเริ่ม

00:07:1400:07:16 พุ่งขึ้นไปเหมือนรถไฟเหาะ

00:07:1600:07:18 จากล่างสุดมันจะมีค่อยๆกลับมากลับมาตรง

00:07:1800:07:21 กลางแล้วก็เลยขึ้นไปเลยเหมือนกับแบบว่า

00:07:2100:07:25 เค้าเรียกอะไรมีแรงส่งคืนจากล่างสุดแล้ว

00:07:2500:07:28 ค่อยส่งขึ้นไปข้างบนแล้วก็ตกมาตามแรงโน้ม

00:07:2800:07:32 ถ่วงเลยตกลงมาโอ้ยแต่ว่าถ้าอย่างเงี้ย

00:07:3200:07:35 แสดงว่าคนรอบข้างก็ต้องสังเกตแบบหรือตัว

00:07:3500:07:37 เราจะสังเกตเห็นมั้ยเนาะตอนนั้นน่ะคือ

00:07:3700:07:39 เหมือนกับคนรอบข้างก็ต้องสังเกตว่าไอ้ที่

00:07:3900:07:43 มันผิดปกติอ่ะมันผิดปกติจากคนที่เคยปกติ

00:07:4300:07:44 มา

00:07:4400:07:47 อยู่ๆวันนึงก็มาแบบใช่แสดงว่าต้องมีตัว

00:07:4700:07:49 เทียบอ่ะครับตัวเทียบที่ว่าการใช้ชีวิตใน

00:07:4900:07:52 ระดับปกติความชอบปกติเออปกติมันน่าจะเป็น

00:07:5200:07:55 Range ประมาณไหนอยู่ช่วงระยะประมาณไหน

00:07:5500:07:58 แต่ถ้ามันดูเกินเลยกว่านั้นแสดงว่าเมื่อ

00:07:5800:07:59 เราเทียบกับตัวเทียบปกติแล้วเนี่ยมันดู

00:08:0000:08:03 แบบเฮ้ยมันเกินอ่ะแล้วมันมักจะต้องมีสิ่ง

00:08:0300:08:05 ที่บอกว่ารบกวนการใช้ชีวิต

00:08:0500:08:08 รบกวนการใช้ชีวิตตัวเขาเองและเริ่มเป็น

00:08:0800:08:12 เริ่มส่งมันครบผลกระทบไปสู่คนรอบข้างใน

00:08:1200:08:14 เชิงที่มันค่อนข้างมีความรุนแรงพอสมควร

00:08:1400:08:17 แล้วบางครั้งมันก็ดูไม่สมเหตุสมผลด้วยใช่

00:08:1700:08:20 ไหมที่เป็นผลกระทบกับคนรอบข้างมันดูไม่

00:08:2000:08:22 ค่อย make sense

00:08:2200:08:27 เรียกว่าเกินเบอร์อยู่ก็เหวี่ยงแล้วนั่น

00:08:2700:08:29 แหละแล้วก็คือคนรอบข้างก็ยังไม่รู้เลยตก

00:08:2900:08:32 ลงเรื่องอะไรยังงงๆอยู่

00:08:3200:09:14 [เพลง]

00:09:1500:09:17 เพราะว่าอย่างอย่างตัวเขาเองเนี่ยมันมี

00:09:1700:09:20 เหตุการณ์ที่เขาไปเจอมาแล้วเขารู้สึกว่า

00:09:2000:09:22 แบบเนี่ยมันคือสิ่งที่มันค้างใครในใจเขา

00:09:2200:09:25 ไม่ได้คลี่คลายแต่ตอนที่ไปพบคุณหมอเนี่ย

00:09:2500:09:26 เหมือนกับคล้ายๆคุณหมอไม่ค่อยมีเวลาพูด

00:09:2700:09:29 คุยมากนักมันก็เลยกลายเป็นว่าคุณหมอซัก

00:09:2900:09:30 ถามตัวอาการเป็นหลัก

00:09:3000:09:33 เพราะเขาถามอาการปั๊บมันก็เลยกลายเป็นว่า

00:09:3300:09:35 ไม่ได้เข้าไปดูตัวตัวปัจจัยที่เป็นปัญหา

00:09:3500:09:39 จิตใจจริงๆพอมองแต่ตัวอาการปั๊บมันก็เลย

00:09:3900:09:41 กลายเป็นว่าอาการที่เขาเป็นในเชิง Normal

00:09:4100:09:44 เนี่ยมันดูมีแนวโน้มคล้ายๆกับการที่เป็น

00:09:4400:09:46 โรคจิตเวช

00:09:4600:09:48 ยกตัวอย่างเช่นสมมุติคนร้องไห้นะผมชอบยก

00:09:4800:09:51 ตัวอย่างเนี่ยร้องไห้เพราะเป่าหัวหอมแล้ว

00:09:5100:09:54 หัวหอมแบบไอระเหยต้องเข้าตาน้ำตาไหลกลับ

00:09:5400:09:55 อีกคนนึงเศร้าแล้วร้องไห้น้ำตาไหลเหมือน

00:09:5500:09:58 กันภาวะน้ำตาไหลเหมือนกันเนี่ยแต่ว่า

00:09:5800:10:01 ปัจจัยที่ทำให้น้ำตาไหลมันต่างกันปัจจัย

00:10:0100:10:05 ทางกายภาพที่เป็นไอระเหยทำให้น้ำตาไหลกับ

00:10:0500:10:07 ปัจจัยที่เป็นความเศร้าทำไมน้ำตาไหลน้ำตา

00:10:0700:10:09 ไหลเหมือนกันแต่ปัจจัยที่ทำให้ไหลไม่

00:10:0900:10:12 เหมือนกันอืมทีนี้ถ้าเราไปจับที่ตัวอาการ

00:10:1200:10:14 มากเกินไปมันเลยกลายเป็นว่าเราไม่ได้

00:10:1400:10:18 ประเมินและวิเคราะห์จริงๆว่าตัวแรกของ

00:10:1800:10:21 ปัญหาหรือปัจจัยกระตุ้นที่แท้จริงคืออะไร

00:10:2100:10:24 เพราะงั้นบางทีบางทีในๆในการพบคุณหมอใน

00:10:2400:10:27 บางครั้งเนี่ยมันก็จะมีจุดที่มันมีโอกาส

00:10:2700:10:29 Error ได้เหมือนกันในบางเคสถ้าเกิดคล้าย

00:10:2900:10:32 ๆว่าคุณหมอแบบคล้ายๆไม่มีเวลามากพอคนไข้

00:10:3200:10:34 เยอะหรือเพราะอะไรก็แล้วแต่ด้วยเหตุผล

00:10:3400:10:35 อื่นๆที่แบบทำให้คุณหมอไม่ได้คุยละเอียด

00:10:3500:10:38 บางครั้งก็ทำให้การวินิจฉัยมีความคลาด

00:10:3800:10:39 เคลื่อนได้เหมือนกัน

00:10:3900:10:42 ถ้าเป็นเคสอย่างนี้ปั๊บสมมุติผมยกตัว

00:10:4200:10:45 อย่างเกมที่เคยเจอเนอะ

00:10:4500:10:47 ตอนแรกเขาบอกเขาอาจจะเป็นไบโพลาร์ผมก็

00:10:4700:10:50 โอเคไม่เป็นไรแต่ก็ทานยาอยู่ไม่เป็นไรอ่ะ

00:10:5000:10:52 ลองฟังกันก่อนแล้วกันว่ามันมีปัจจัยไหน

00:10:5200:10:54 ไหมที่มันเกี่ยวกับจิตใจเพราะว่าผมทำงานณ

00:10:5400:10:57 จิตวิทยาเนอะผมก็พยายามดึงเฉพาะขอบเขตของ

00:10:5700:10:59 จิตใจมาทำงานถ้ามีส่วนไหนที่มันเป็น

00:10:5900:11:01 เรื่องเกินคือจิตใจและจะเป็นเรื่องร่าง

00:11:0100:11:03 กายอันนี้ผมก็แนะนำมาพบคุณหมอจิตแพทย์น่า

00:11:0300:11:07 จะดีกว่าเพราะสายผมจะช่วยไม่ได้แล้วพอเรา

00:11:0700:11:08 มานั่งฟังปัญหาชีวิตเขาจริงๆเนี่ยเพราะ

00:11:0800:11:11 ว่าจริงๆแล้วมันเป็นปัญหาตั้งแต่วัยเด็ก

00:11:1100:11:12 ของเขาเลย

00:11:1200:11:15 อ่าเรื่องที่แบบคล้ายๆว่าเขาไม่ได้รับการ

00:11:1500:11:17 ยอมรับจากจากแม่เขา

00:11:1700:11:20 แล้วก็ถูกเปรียบเทียบกับพี่น้องในบ้าน

00:11:2000:11:22 เปรียบเทียบกับลูกบ้านอื่นอ๋อมันเลยเป็น

00:11:2200:11:24 มันเป็นจุดที่ทำให้เขารู้สึกว่าเขาไม่เคย

00:11:2400:11:26 ได้รับการยอมรับเลย

00:11:2600:11:29 แล้วเขาก็เติบโตมาในสภาพแวดล้อมแบบนี้ที่

00:11:2900:11:33 แม่ด่าทอทุกวันมากๆเพราะงั้นโดยธรรมชาติ

00:11:3300:11:35 แล้วเวลาคนเราถูกกดขี่ทางอารมณ์อย่างนี้

00:11:3500:11:38 บ่อยๆไม่ได้รับการยอมรับเป็นไงฮะคนเราจะ

00:11:3800:11:41 มีความสุขไหมไม่มีไงไม่มีหรอกถูกไหมฮะก็

00:11:4100:11:43 เศร้าเขาก็รู้สึกว่าแม่เขาคือสิ่งนี้เป็น

00:11:4300:11:47 แก๊งคือบุคคลที่สำคัญกับชีวิตเขาไม่ใช่คน

00:11:4700:11:49 ที่เขาจะไม่แคร์เพราะงั้นประโยคแม่มีความ

00:11:4900:11:51 หมายกับเขามาก

00:11:5100:11:53 การใช้ชีวิตของเขาก็เลยเหมือนกับว่า

00:11:5300:11:55 พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้แม่ยอมรับ

00:11:5500:11:58 เหนื่อยเนาะแต่ก็ไม่เคยดีพอสำหรับแม่สัก

00:11:5800:12:03 ทีโอ้โหนี่ขนาดพยายามทำคือคือมันมันอยู่

00:12:0300:12:06 ภายใต้ภาวะความปวดดันอยากมีตัวตนในๆในสาย

00:12:0600:12:08 ตาแม่แต่ปรากฏว่าพยายามทำเท่าไหร่ก็ยัง

00:12:0800:12:13 ไม่สามารถได้สักทีนึงเพราะงั้นชีวิตของ

00:12:1300:12:15 สุภาพสตรีท่านนี้มันก็เหมือนไม่ถูกบีบถูก

00:12:1500:12:18 กฎเหมือนสปริงที่กดถูกกดอัดแน่นๆนะ

00:12:1800:12:21 พร้อมที่จะดีดใช่ๆเพราะงั้นความเศร้ามี

00:12:2100:12:24 แน่นอนเมื่อเมื่อเขาเศร้าในสถานการณ์ที่

00:12:2400:12:26 เป็นปัญหาของแม่เนี่ยอาการคล้ายๆคน

00:12:2600:12:28 depress แล้วถูกไหมคล้ายๆคนเป็นซึมเศร้า

00:12:2800:12:31 แต่เป็นซึมเศร้าที่เข้าใจได้เพราะเรื่อง

00:12:3100:12:33 แม่เพราะมีปัจจัย

00:12:3300:12:36 ที่เขาบีบมากๆมันจะมีจุดหนึ่งที่เขารู้

00:12:3600:12:38 สึกว่าทำไมฉันต้องเป็นอย่างนี้วะบางทีมัน

00:12:3800:12:40 ก็มีการประชดชีวิตเกิดขึ้น

00:12:4000:12:44 อ๋อคือมีคำถามในตัวเองแต่ว่าก็เลือกทาง

00:12:4400:12:46 ที่ประชดบางครั้งก็ระบายบางครั้งก็แบบ

00:12:4600:12:49 เกรี้ยวกราดมันก็เลยมีภาวะอาการคล้ายๆของ

00:12:4900:12:53 คนเป็นไบโพลาร์ก็คือแบบจากที่เศร้าซึมๆพอ

00:12:5300:12:56 จุดนึงเขาเกิดแบบคล้ายๆฟิวส์ขาดแต่อะไรก็

00:12:5600:12:58 ไม่รู้ก็เลยดีดขึ้นไปแบบทำไมถึงเสียง

00:12:5800:13:02 ประชดชีวิตโอ้ยนึกออกมั้ยฮะอ่ามันก็เลย

00:13:0200:13:06 กลายเป็นว่าลงลงก็มีขึ้นก็มี

00:13:0600:13:10 ลองนึกภาพเหมือนคนที่แบบคล้ายๆร้องไห้โดย

00:13:1000:13:12 ที่หัวเราะเฮ้อ

00:13:1200:13:15 คนที่แบบคล้ายๆฟิวส์จะขาดแล้วแบบร้องไห้

00:13:1500:13:18 น้ำตาไหลแต่หัวเราะชีวิตตัวเองนะ

00:13:1800:13:20 บางทีเราอาจจะแบบถ้ามองจากภายนอกเราจะรู้

00:13:2000:13:23 สึกว่าคนๆนี้เป็นโรคทางจิตเวชแต่จริงๆ

00:13:2300:13:25 แล้วถ้าเราเข้าใจที่รากฐานชีวิตเขาเราจะ

00:13:2500:13:28 รู้สึกว่าสิ่งนี้โคตรเข้าใจได้เลยเพราะ

00:13:2800:13:31 อะไรคนๆนี้ถึงหัวเราะทั้งน้ำตาไหลเศร้า

00:13:3100:13:34 มากแต่ยังหัวเราะอย่างนี้คล้ายๆมันสมเพชร

00:13:3400:13:35 ชีวิตน่ะคือมันไม่รู้จะยังไงแล้วอ่ะ

00:13:3500:13:38 อารมณ์ประมาณนี้ใช่ไหมทีนี้ถ้าเกิดจับ

00:13:3800:13:42 ต้องแก้ตัวอาการโดยไม่ถามที่มาที่ไปเราก็

00:13:4200:13:46 คงประเมินว่าเป็นไบโพลาร์จริงมั้ยก็ให้

00:13:4600:13:48 เออเพราะมันดีดสุดเพราะกลุ่มอาการมันดู

00:13:4800:13:51 ครบอ่ะใช่ๆความอยากตายก็มีอ๋อใช่น้อยใจ

00:13:5100:13:53 แม่อยากตายแน่นอน

00:13:5300:13:56 แต่อยากตายแบบไม่มีเหตุผลกับอยากตายเพราะ

00:13:5600:13:59 มีเหตุผลเนี่ยมันต่างกันนะฮะนิดเดียวเอง

00:13:5900:14:01 เนาะนิดเดียวเลยนะว่ามันมีความต่างอยู่

00:14:0100:14:04 ใช่เพราะงั้นผมเลยย้ำเสมอว่าการประเมิน

00:14:0400:14:07 และการสัมภาษณ์เป็นอะไรที่สำคัญมากเพราะ

00:14:0700:14:10 ถ้าทำไม่ละเอียดมันกลายเป็นว่าเราอาจจะตี

00:14:1000:14:12 ตารางคนๆนึงที่ไม่ได้เป็นโลกทางจิตเวชให้

00:14:1200:14:15 เป็นโรคทางจิตเวชได้เลยแล้วแนวทางการช่วย

00:14:1500:14:18 เหลือการรักษาก็จะปิดทางไปเลยจากที่ควรจะ

00:14:1800:14:20 ได้คุยเรื่องจิตใจเพื่อให้เขาปรับวางใจ

00:14:2000:14:23 ให้ถูกมันกลายเป็นว่าเราใช้ยาครับใช้ยา

00:14:2300:14:25 ปุ๊บมันกลายเป็นว่าคนๆนั้นก็เลยรักษาด้วย

00:14:2500:14:27 การใช้ยาโดยที่ไม่ได้ปรับใจตัวเองปัญหาก็

00:14:2700:14:29 เลยเกิดเป็นแพทเทิร์นเนาะไม่พอคนข้าง

00:14:3000:14:31 เคียงที่ตามมาอาจจะเป็นเรื่องของฤทธิ์ยา

00:14:3100:14:33 ที่ทำให้ข้อมูลหรือคิดอะไรไม่ออกอาจจะมี

00:14:3300:14:35 หรือบางครั้งมุมมองที่แบบว่าชีวิตดั้ง

00:14:3500:14:37 เดิมฉันก็แย่อยู่แล้วฉันยังเป็นป่วยเป็น

00:14:3700:14:40 โรคจิตเวชอีกเฮ้อก็เป็นปัญหาที่ซ้ำซาก

00:14:4000:14:42 เข้าไปซ้ำซ้อนเข้าไปแล้วเขาจะเริ่มต้นแม่

00:14:4200:14:45 ก็ได้ที่ฉันเป็นอย่างนี้พ่อแม่อ่าก็ไม่

00:14:4500:14:47 ได้ถูกแก้ฉะนั้นตรงนี้เป็นเรื่องที่คล้าย

00:14:4700:14:50 ๆต้องระมัดระวังมากๆในการที่เราจะประเมิน

00:14:5000:14:53 ว่าตกลงเป็นหรือไม่เป็นโรคของตัวเองอืม

00:14:5300:14:56 คืออันนี้ต้องบอกคุณผู้ฟังนะว่าอ่าในๆอัน

00:14:5600:14:59 นี้เป็นแค่บางเคสนะที่ๆๆแบบว่าเขาอาจจะ

00:14:5900:15:02 ยังไม่ได้ถูกเอาอะไรออกจากใจออกมาแล้วหา

00:15:0200:15:05 เหตุผลที่แท้จริงของการเป็นกับอีกแบบนึง

00:15:0500:15:07 ที่เขาเป็นทางจิตเวชจริงๆอันนั้นก็ต้องไป

00:15:0700:15:11 หาหมอนะคะเออไม่ใช่แบบว่าเขาเรียกอะไรมา

00:15:1100:15:13 นั่งคุยแล้วจะหายไม่ใช่เพราะงั้นถ้าเรา

00:15:1300:15:16 สงสัยว่าจะเป็นอะไรสักอย่างนึงหาเข้าหา

00:15:1600:15:18 ผู้เชี่ยวชาญดีที่สุดอืมแต่ก็ต้องเป็นผู้

00:15:1800:15:20 เชี่ยวชาญที่คล้ายๆเรารู้สึกว่าเออไว้วาง

00:15:2000:15:24 ใจโดยคุณสมบัติหรือคนอาวุธแล้วก็เอ่อผู้

00:15:2400:15:26 เชี่ยวชาญท่านนั้นสามารถอธิบายทุกอย่าง

00:15:2600:15:28 ให้เราเห็นภาพได้ว่าอ๋อมันกำลังเป็นสิ่ง

00:15:2800:15:29 นี้นะ

00:15:2900:15:32 ถ้างั้นแสดงว่าอย่างที่เคสที่ยกมาเนี่ย

00:15:3200:15:36 ที่เขามาหาเนี่ยเขารู้ว่ามันมีอะไรสัก

00:15:3600:15:39 อย่างนึงที่ยังไม่ได้ดึงออกไปเขาก็เลยมา

00:15:3900:15:41 หานายจิตวิทยาเพราะว่าตอนตอนตั้งต้นเขาไป

00:15:4100:15:44 พบจิตแพทย์ก่อนแล้วเขาก็ทานยามาสักได้สัก

00:15:4400:15:46 ประมาณปีนึงมั้งครับหรือ 2 ปีนี่แหละแล้ว

00:15:4600:15:50 เขารู้สึกว่าแบบมันก็ยังไม่ได้ดีขึ้นเลย

00:15:5000:15:52 คล้ายๆมองหาทางเลือกเพราะมันคงมีอะไรสัก

00:15:5200:15:54 อย่างแหละที่เขาน่าจะทำความเข้าใจเพิ่ม

00:15:5400:15:56 ได้เขาก็เลยนึกถึงนักจิตวิทยาเพราะเขารู้

00:15:5600:15:58 สึกว่าตัวเขามีเรื่องบางอย่างที่อยากจะ

00:15:5800:16:02 เคลียร์ในใจอ๋อเออๆอันนี้เขารู้ตัวเองไง

00:16:0200:16:05 พอมาคุยปั๊บเราก็เลยเห็นภาพว่าอ๋อภาวะที่

00:16:0600:16:08 คุณเป็นเนี่ยมันเข้าใจได้มากๆเลยจากที่

00:16:0800:16:10 อย่างที่เล่าให้ประวัติให้ฟังนะครับเพราะ

00:16:1000:16:12 งั้นทางแก้ของเรื่องนี้สุดท้ายมันคือการ

00:16:1200:16:15 ที่เราค่อยๆทำความเข้าใจความสัมพันธ์

00:16:1500:16:17 ระหว่างเรากับแม่เผลอๆต้องเข้าใจพื้นฐาน

00:16:1700:16:19 ของแม่ด้วยซ้ำว่าเพราะอะไรแม่จึงเป็นคน

00:16:1900:16:20 อย่างเงี้ย

00:16:2000:16:23 คือเหมือนจะให้แม่มาเข้าใจเราก็อาจจะแบบ

00:16:2300:16:25 ดูยากไปแล้วเพราะฉะนั้นตอนเนี้ยในเมื่อ

00:16:2500:16:28 เรารู้ว่าเอ้ยมันมีอะไรที่มันทำให้ให้

00:16:2800:16:30 เป็นแบบนี้เนื่องจากสาเหตุความสัมพันธ์

00:16:3000:16:34 เรารู้เราอันนี้แสดงว่าเราแก้ไขได้จากตัว

00:16:3400:16:36 เราเองเลยใช่แล้วก็มาปรับใจใหม่เพราะบาง

00:16:3600:16:40 ครั้งเราก็ยกเครดิตให้แม่ส่งไปครับ

00:16:4000:16:43 ด้วยความเป็นแม่อย่างที่ผมเคยเกริ่นในเทป

00:16:4300:16:46 กันก่อนนะว่าบางครั้งเด็กก็อยู่ในสังคม

00:16:4600:16:49 ที่ระบบอาวุโสมันนำระบบความกตัญญูมันนำ

00:16:4900:16:51 บางครั้งการรู้สึกว่าตัวเองคิดร้ายกับแม่

00:16:5100:16:53 หรือว่าโกรธแม่เป็นสิ่งที่ทำไม่ได้อย่า

00:16:5300:16:56 บาปเดี๋ยวบาปก็เลยกลายเป็นกฎคมความรู้สึก

00:16:5600:16:59 ตัวเองไปอีกว่าไม่ควรคิดอย่างนั้นกับแม่

00:16:5900:17:03 ควรจะต้องเทิดทูนแม่เสมอแต่ในความเป็น

00:17:0300:17:05 จริงแล้วผมผมจะชอบชวนแยกให้ออกแหละว่า

00:17:0500:17:09 จริงๆแล้วการเป็นแม่คนการคลอดลูกเป็นสิ่ง

00:17:0900:17:11 ที่ผู้หญิงทุกคนอาจจะทำได้

00:17:1100:17:13 แต่จิตวิญญาณของความเป็นแม่หรือเป็นคนที่

00:17:1300:17:15 แบบมีจิตใจละเอียดอ่อนที่จะเป็นแม่ที่จะ

00:17:1500:17:19 ดูแลลูกได้ดีแต่ละคนมีไม่เท่ากันอืมเพราะ

00:17:1900:17:21 งั้นเรามาอาจจะไม่จำเป็นต้องยกว่าแม่ทุก

00:17:2100:17:23 คนแบบโอ้โหสูงส่งแบบทุกคนเท่ากันหมด

00:17:2300:17:26 เราต้องแยกตามความเป็นจริงนะฮะคือแม่โอเค

00:17:2600:17:29 แม่พูดให้กำเนิดส่วนหนึ่งแต่ว่าเราต้องพอ

00:17:2900:17:32 จะแยกแยะได้ว่าแม่แม่เราก็เป็นมนุษย์คน

00:17:3200:17:35 หนึ่งที่ก็ควรได้รับการให้เกียรติให้รับ

00:17:3500:17:38 ได้รับการเคารพอืมแต่ไม่ได้หมายความว่า

00:17:3800:17:42 เราจะแบบยกให้เขาทำอะไรกับเราก็ได้

00:17:4200:17:46 มันต้องมีขอบเขตนะฮะมันต้องดูเหตุสมเหตุ

00:17:4600:17:48 สมผลด้วยนะ

00:17:4800:17:52 เอาเป็นตัวนำมันไม่ได้สุดท้ายเขายังคงรัก

00:17:5200:17:55 แม่ได้แต่เขาต้องมีขอบเขตว่าอยู่กับแม่

00:17:5500:17:58 ยังไงไม่ให้สิ่งที่แม่พูดมันทิ่มแทงใจเขา

00:17:5800:18:02 แล้วถ้าเขาเกิดเชื่อจริงๆว่าเขาไม่เคยดี

00:18:0200:18:04 พอเลยพ่อแม่บอกแล้วเขาจะเอาตัวรอดได้ยัง

00:18:0400:18:07 ไงในชีวิตแย่เลยเนอะเขาก็คงเห็นว่าตัวเอง

00:18:0700:18:08 ไม่เคยดีสักที

00:18:0800:18:10 นั่นแสดงว่าเขาก็ไม่เห็นความดีในตัวเอง

00:18:1000:18:13 แล้วอ่ะพวกเขามีอะไรดีบ้างพอไม่เห็นว่า

00:18:1300:18:17 ตัวเองมีอะไรดีมันก็มีแต่ความหายนะมีแต่

00:18:1700:18:20 ความแย่เพราะฉะนั้นในเคสอย่างเงี้ยสุด

00:18:2000:18:22 ท้ายเราก็กลับมาดูว่าเรากำลังคาดหวังอะไร

00:18:2200:18:24 กับคุณแม่คนนี้เกินจริงหรือเปล่า

00:18:2400:18:26 เพราะบางทีคุณแม่คนนี้ก็มีประวัติชีวิต

00:18:2600:18:29 ส่วนตัวอะไรบางอย่างที่เขาเป็นอยู่เขาถึง

00:18:2900:18:32 แสดงพฤติกรรมอย่างนี้ออกมาจากพื้นฐาน

00:18:3200:18:35 ชีวิตเค้าอือฟังดูแล้วเหมือนกับว่าจริงๆ

00:18:3500:18:38 ทุกอย่างเนี่ยเขาเรียกอะไรเหมือนมีเหตุ

00:18:3800:18:42 และมีผลใช่ครับเพราะเหตุนี้ผลออกมาเป็น

00:18:4200:18:45 แบบนี้คือมันมีมันมีอะไรที่รองรับในการหา

00:18:4500:18:48 คำตอบอยู่เออแต่ถ้าเราเข้าใจแม่ปั๊บบาง

00:18:4800:18:50 ครั้งเราอาจจะลดความคาดหวังที่มีต่อแม่ลง

00:18:5000:18:53 ก็ได้แล้วก็จะรู้สึกว่าปลดล็อคเลยนะใช่

00:18:5300:18:56 รู้สึกว่าเข้าใจได้ที่แม่ทำแบบนี้ไม่ได้

00:18:5600:18:57 บอกว่าไม่สมควรทำอย่างนี้กับเรานะแต่บอก

00:18:5700:19:00 ว่ารู้สึกว่าเข้าใจมากขึ้นว่าเพราะอะไร

00:19:0000:19:03 ทำอย่างนี้พอเข้าใจปุ๊บเราก็เลยลด

00:19:0300:19:06 ความคาดหวังบางอย่างว่าพอเรารู้จักผู้

00:19:0600:19:08 หญิงคนนี้ชัดเจนเราจะรู้เลยว่าคนคนนี้จะ

00:19:0800:19:10 ทำอะไรให้เราหรือไม่ทำอะไรให้เรา

00:19:1000:19:13 พอรู้ปั๊บเราก็จะแบบลดความคาดหวังอะไรบาง

00:19:1300:19:14 อย่างที่รู้ว่ายังไงแม่ไม่มีทางทำให้เรา

00:19:1400:19:17 แน่เราก็จะเลิกคาดหวังแล้วเราคงไม่มีทาง

00:19:1700:19:20 ได้สิ่งนี้หรอกและสิ่งที่แม่ทำบางอย่าง

00:19:2000:19:22 เราก็จะรู้สึกไม่ประหลาดใจไม่ได้เหนือ

00:19:2200:19:24 ความคาดหมายที่แม่ทำสิ่งนี้กับเราเราได้

00:19:2400:19:28 รู้เหตุผลแล้วไงของการของการมีพฤติกรรม

00:19:2800:19:32 แบบนี้พฤติกรรมแบบนี้ใช่ไหมเออคนนี้ตาม

00:19:3200:19:35 จริงมากๆปึ๊บความคาดหวังลดลงความเจ็บปวด

00:19:3500:19:38 ก็น้อยลงเขาเริ่มแยกแยะออกว่าประโยคไหน

00:19:3800:19:40 ที่แม่พูดเพราะอะไรแล้วประโยคไหนควรเก็บ

00:19:4000:19:43 มาใส่ใจประโยคไหนไม่ควรเก็บมาใส่ใจแต่ถ้า

00:19:4300:19:45 มันมีอีกมุมนึงนะอันนี้อันนี้สมมุติเป็น

00:19:4500:19:49 ตัวเองแหละว่าเอ๊ะถ้าเราเจอแม่แบบนี้เรา

00:19:4900:19:52 อาจจะโอเคเราหดหู่แน่ๆแหละทำอะไรก็ไม่ดี

00:19:5200:19:55 เลยนะวันนึงเราอาจจะมีแรงผลักดันทำให้เรา

00:19:5500:19:58 รู้สึกว่าเราอยากออกไปอยู่คนเดียว

00:19:5800:20:02 ไม่หาเหตุผลและไม่มานั่งหาว่าจริงๆแล้ว

00:20:0200:20:05 ฉันมีอะไรที่ฉันอยากจะปลดพูดออกมาอยากจะ

00:20:0500:20:08 ดึงออกมาไม่คิดอย่างนั้นน่ะ

00:20:0800:20:12 ก็ได้ครับก็ไม่ผิดคืออย่างที่ผมเคยคุยใน

00:20:1200:20:15 เทปมันๆนะว่าวิธีการแก้ปัญหามีหลายแบบไม่

00:20:1500:20:17 ได้มีสูตรตายตัวแต่ว่าแต่ละอย่างให้ผล

00:20:1700:20:19 ลัพธ์ไม่เหมือนกันแต่มันจะกลายทำให้เรา

00:20:1900:20:20 เราเหมือนกับว่า

00:20:2000:20:25 มันก็ยังคาอยู่ในใจเราด้วย

00:20:2500:20:30 นะคะแต่มันอาจจะลดลดความเข้มข้นเพราะว่า

00:20:3000:20:32 เหมือนที่บอกว่าการอยู่ใกล้ไฟถูกไหมฮะไฟ

00:20:3200:20:35 มันก็เผาเราการอยู่ห่างจากไฟก็ทำให้ไฟ

00:20:3500:20:36 รั่วเขาน้อยลงอ่ะครับ

00:20:3600:20:39 คือเรื่องนี้ไม่ได้บอกว่าคุณแม่ผิดนะคะ

00:20:3900:20:42 คุณผู้ฟังต้องฟังแล้วจับจับคำตอบดีๆเพราะ

00:20:4200:20:46 ว่าเดี๋ยวจะหาว่าเอ๊ะเราขอโทษแม่โทษแม่

00:20:4600:20:48 หรือเปล่าไม่ใช่นะคะคือพื้นฐานของแม่ที่

00:20:4800:20:51 ถูกเลี้ยงดูมาจนเติบโตมาเป็นแม่ได้ทุกวัน

00:20:5100:20:53 นี้อาจจะมีปัจจัยทำให้เขากลายเป็นคนแบบ

00:20:5300:20:56 นี้ใช่ครับกับลูกที่อยู่ในสภาวะแบบนี้แวด

00:20:5600:20:59 ล้อมแบบนี้มันก็ทำให้คนคนนึงก็กลายเป็น

00:20:5900:21:02 อีกแบบนึงได้เพราะฉะนั้นก็คือไม่มีใครถูก

00:21:0200:21:05 ไม่มีใครผิดเพียงแต่แค่ว่ามันมีปัจจัยมา

00:21:0500:21:07 ทำให้มันเกิดสถานการณ์แบบนี้ขึ้น

00:21:0700:21:10 ใช่เพราะอย่างเหตุการณ์นี้สมมติย้อนกลับ

00:21:1000:21:12 ไปอีกทีนึงเนาะเพราะเขาเริ่มเข้าใจแม่ตาม

00:21:1200:21:14 จริงปั๊บลดความคาดหวังความโกรธความแค้น

00:21:1400:21:18 ต่อแม่ก็เลยอาจจะทุเลาลงดูมีความสุขขึ้น

00:21:1800:21:20 นะอ่าตัวเราลงไม่พอเนาะส่วนอีกส่วนหนึ่ง

00:21:2000:21:23 ที่เราต้องทำงานต่อก็คือว่าให้เขาย้อนมา

00:21:2300:21:25 เห็นคุณค่าของตัวเองจริงๆโดยที่ไม่ต้อง

00:21:2500:21:28 ให้แม่เป็นผู้ตัดสินว่าเราดีหรือไม่ดีอ๋อ

00:21:2800:21:32 เพราะว่าแต่เดิมคุณค่าของเขาถูกยึดโยง

00:21:3200:21:34 ด้วยประโยชน์ของแม่เสมอถูกมั้ยฮะเพราะ

00:21:3400:21:37 งั้นในทางจิตวิทยาเราพยายามที่จะลด

00:21:3700:21:40 อิทธิพลตรงนั้นของของแม่ลงแล้วให้อิทธิพล

00:21:4000:21:43 หลักในการเห็นคุณค่ากลับมาที่ตัวเขาว่า

00:21:4300:21:47 ถ้าเราตัดเรื่องการประเมินของแม่ออกโดย

00:21:4700:21:49 ตัวคุณเองคุณเห็นว่าตัวเองเป็นลูกที่แบบ

00:21:4900:21:52 ทำอะไรเต็มที่หรือยังดีที่สุดตามเงื่อนไข

00:21:5200:21:55 ที่คุณรู้สึกว่าพอจะทำได้หรือยังอย่างนี้

00:21:5500:21:58 ครับทีนี้พอเขาพอเขาเริ่มลดความคาดหวัง

00:21:5800:22:00 ปุ๊บแล้วก็เริ่มกลับมาเห็นสิ่งดีๆที่ตัว

00:22:0000:22:02 เองเป็นโดยที่ไม่ยึดโยงกับการประเมินจาก

00:22:0200:22:05 แม่แต่เห็นจากผลลัพธ์ที่ตัวเองทำจากความ

00:22:0600:22:08 เจตนาดีจากปรารถนาดีจากผลลัพธ์ที่เกิด

00:22:0800:22:10 ขึ้นดีๆอะไรก็แล้วแต่เขาจะเริ่มชื่นชมตัว

00:22:1000:22:14 เองได้จากเดิมที่รอให้แม่ชมก็กลายเป็นชม

00:22:1400:22:17 ตัวเองได้เอ่อลดความคาดหวังได้ก็ทุกข์

00:22:1700:22:20 น้อยลงแล้วก็เริ่มมาตั้งหลักชีวิตได้มาก

00:22:2000:22:22 ขึ้นซึ่งเขาอาจจะเริ่มเห็นการวางตัวกับ

00:22:2200:22:25 แม่ที่เหมาะสมมากขึ้นก็ได้จากเรื่องคนๆ

00:22:2500:22:27 นี้อาจจะรู้สึกว่าถ้าอยากให้แม่ดีต้อง

00:22:2700:22:31 วิ่งเข้าหาแม่ตลอดเอาชนะแม่อืมๆอ่าแต่ใน

00:22:3100:22:33 ความเป็นจริงแล้วเราลองมาเสมอแหละเป็น

00:22:3300:22:35 หลายสิบๆปีพบบ้านเราเขาหาแม่เท่าไหร่ก็

00:22:3500:22:36 ไม่เคยเป็นผล

00:22:3600:22:38 แสดงว่ามันคงต้องมีวิธีการที่เราจะต้อง

00:22:3800:22:41 ถอยออกมาจากแม่เหมือนกันเราอาจจะเข้าได้

00:22:4100:22:43 ในจังหวะที่เหมาะสมแต่เราก็ต้องถอยใน

00:22:4300:22:45 จังหวะที่ควรจะถอยด้วย

00:22:4500:22:47 พอลดความคาดหวังว่าจะต้องวิ่งเข้าหาแม่

00:22:4700:22:49 ตลอดเปลี่ยนแพทเทิร์นว่าจากเดิมที่เข้า

00:22:4900:22:52 ตลอดกลายเป็นเริ่มเฟดเป็นความทุกข์ก็น้อย

00:22:5200:22:56 ลงใช่ๆพอทุกข์น้อยลงปั๊บอย่างที่ผมบอกมา

00:22:5600:22:59 อาการที่มันคล้ายๆไบโพลาร์มันก็ทุเลาลง

00:22:5900:23:03 สปริงที่ถูกกดมันก็ถูกคลายถูกไหมฮะยืด

00:23:0300:23:06 หยุ่นได้ยืดหยุ่นได้ไม่หดหู่เท่าไหร่คือ

00:23:0600:23:08 อาจจะโดนกระทบบ้างแต่ความหดหู่มันน้อย

00:23:0800:23:11 น้อยลงมากแล้วจุดที่มันจะประชดชีวิตแล้ว

00:23:1100:23:13 ไปทำอะไรเสี่ยงๆมันก็เบาลงตามผลพวงของ

00:23:1300:23:15 สปริงที่มันถูกคลายฮะ

00:23:1500:23:18 แต่ว่าทุกเคสทุกปัญหานี้คือไม่ได้บอกว่า

00:23:1800:23:21 คุยครั้งเดียวแล้วจะจบอ่าใช่อันนี้แล้ว

00:23:2100:23:24 แต่คนต้องมีระยะเวลาว่าตัวตัวเขาเองแบบ

00:23:2400:23:27 ประสบการณ์มากแค่ไหนตกผลึกมากๆแค่ไหน

00:23:2700:23:29 เพราะคนบางคนแค่เราชี้ในบางพอยท์เขาเก็ต

00:23:2900:23:32 อะไรก็มีฮะอือเชฟปึ๊บก็เข้าใจเลยอ๋อเข้า

00:23:3200:23:34 ใจแล้วเค้าติดแค่ตรงนี้ที่เขาแบบไม่

00:23:3400:23:35 อนุญาตให้ตัวเองแบบรู้สึกแบบนี้อย่าง

00:23:3600:23:38 เงี้ยเออแปลกเนาะมีมีบางเคสอันนี้ก็คือ

00:23:3800:23:41 คล้ายๆเขาเขาได้ใคร่ครวญมาเยอะมากๆแล้ว

00:23:4100:23:44 แต่เหมือนคล้ายๆขาดคนช่วยชี้ว่าจริงๆเขา

00:23:4400:23:45 ทำอย่างนี้ได้นะ

00:23:4500:23:47 พอมีใครสักคนมายืนยันว่าเขาทำอย่างนี้ได้

00:23:4700:23:50 แต่ไม่ใช่แค่เราบอกว่าทำได้นะแต่มันต้อง

00:23:5000:23:52 มีเหตุผลอธิบายว่าเพราะอะไรเราถึงมี

00:23:5200:23:54 สิทธิ์ที่จะทำสิ่งนี้ได้อ๋อแต่แต่ทุก

00:23:5400:23:57 อย่างเนี่ยก็คือต้องต้องเป็นเหตุเป็นผล

00:23:5700:24:00 ถูกต้องไม่ใช่ว่าแบบว่าไปสนับสนุนในแง่

00:24:0000:24:04 ความคิดที่แบบร้ายๆ

00:24:0400:24:06 สุดท้ายทุกอย่างมันควรจะอยู่เข้าที่เข้า

00:24:0600:24:09 ทางแล้วปรับตัวอย่างเหมาะสมสิ่งที่เขาว่า

00:24:0900:24:11 เหมาะสมแต่ละคนก็ต่างกันถูกไหมครับมันก็

00:24:1100:24:13 เป็นเรื่องของแต่ละแต่ละคนละ

00:24:1300:24:16 ทีนี้เพราะงั้นพอเคสนี้เพราะเขามามาได้

00:24:1600:24:18 พูดคุยแล้วคลิก LINE ตรงนี้มันกลายเป็น

00:24:1800:24:23 ว่าเขารู้สึกมีความสุขมากขึ้น

00:24:2300:24:26 ก็เป็นจุดหนึ่งที่ทำให้เขากลับไปพบ

00:24:2600:24:29 จิตแพทย์แล้วก็ได้รับการลดยาเพราะว่ามัน

00:24:2900:24:32 คือไม่ต้องใช้ยาแล้วเพราะว่าจริงๆแล้วบาง

00:24:3200:24:36 ทีอาจจะไม่ได้แค่เรื่องของสารเคมีมันเป็น

00:24:3600:24:39 เรื่องของใจของเรื่องจิตใจโอ้โหแค่พวกแค่

00:24:3900:24:43 ฟังดูเนี่ยพอคลี่คลายได้แล้วเนี่ยปลดปมใน

00:24:4300:24:45 ใจได้แล้วมีความรู้สึกว่าแค่เราฟังนะเรา

00:24:4500:24:47 รู้สึกว่าเขาต้องมีความสุขมากกว่าเดิมแน่

00:24:4700:24:50 ๆเลยอ่ะใช่ครับเออยิ้มได้แล้วอะไรเงี้ย

00:24:5000:24:53 โฟกัสแค่เรื่องแม่และเขาอาจจะโฟกัสเรื่อง

00:24:5300:24:54 เกี่ยวกับชีวิตด้านอื่นๆที่เขาสามารถทำ

00:24:5400:24:56 แล้วพึ่งพาตัวเองให้มีความสุขได้ใช่เพราะ

00:24:5600:24:58 นี่กำลังคิดอยู่ว่าถ้าต่อยอดไปนะต่อยอด

00:24:5800:25:00 แนวความคิดว่าถ้าเกิดสมมุติวันหนึ่งแม่

00:25:0000:25:03 เขาไม่อยู่แล้วแล้วเขายังต้องหดอ่ะยังรู้

00:25:0300:25:05 สึกว่าตัวเองยังไม่มีคุณค่าอะไรที่อยู่

00:25:0500:25:07 ยังไงต่อไปอ่ะนั่นแหละครับคือปัญหาเออ

00:25:0700:25:10 เหมือนที่ผมบอกว่าสุดท้ายเราพยายามแบบที่

00:25:1000:25:13 จะลดทอนไม่ให้อิทธิพลภายนอกมีผลกับเขามาก

00:25:1300:25:16 เกินไปเหมือนกับว่าเราต้องดำรงชีวิตอยู่

00:25:1600:25:20 ต่อไปให้ได้อ่ะใช่มั้ยคะจะแบบอืมอันนี้ก็

00:25:2000:25:23 เป็นเรื่องที่แบบว่าไม่น่าเชื่อเลยเนาะ

00:25:2300:25:24 ว่าแบบ

00:25:2400:25:27 คือจริงๆน่าจะมีอีกหลายเคสอะไรสังคมเยอะ

00:25:2700:25:31 มีเยอะเพียงแค่ว่าเราไม่รู้แค่นั้นเองแต่

00:25:3100:25:34 ว่าวันนี้คุณผู้ฟังก็คงจะแยกออกแล้วซึม

00:25:3400:25:37 เศร้ากับไบโพล่าแล้วก็วิธีการที่ที่มัน

00:25:3700:25:39 เกิดขึ้นบางทีมันอาจจะเกิดจากปัจจัยอย่าง

00:25:3900:25:41 อื่นทำให้ใจเราแย่

00:25:4100:25:43 ไม่ได้เป็นเรื่องของกายภาพอย่างเดียวหรอก

00:25:4300:25:46 กายภาพจริงๆก็คือมันมักจะไม่ค่อยมีเรื่อง

00:25:4600:25:48 เกี่ยวกับประสบการณ์ชีวิตหรือเหตุการณ์ใน

00:25:4800:25:50 ชีวิตเท่าไหร่มันจะเป็นอารมณ์ที่จู่ๆก็

00:25:5000:25:53 โผล่ขึ้นมาเลยมันก็แยกออกแล้วแล้วมันก็จะ

00:25:5300:25:56 มีความคล้ายๆว่ารบกวนชีวิตมากอย่างที่ผม

00:25:5600:25:58 บอกบางครั้งบางครั้งมันเกิดขึ้นจากปัจจัย

00:25:5800:26:00 กายภาพอย่างเดียวแต่บางครั้งมันเกิดขึ้น

00:26:0000:26:02 จากกันเหนี่ยวนำของเรื่องจิตใจก่อนแล้วก็

00:26:0300:26:05 เลยทำให้ร่างกายพังก็มีทีนี้ถ้าร่างกาย

00:26:0500:26:07 พังไม่ว่าไม่ว่าจะเกิดขึ้นด้วยตัวมันโดนๆ

00:26:0700:26:10 หรือว่าจิตใจทำให้ร่างกายพังสุดท้ายอาจจะ

00:26:1000:26:12 ต้องมีการใช้ยาช่วยสนับสนุนก่อนแต่ว่าถ้า

00:26:1200:26:15 เกิดเหตุการณ์นั้นไม่ใช่การเจ็บป่วยนั้น

00:26:1500:26:16 ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องจิตใจโอเคการใช้

00:26:1600:26:18 อย่างเดียวโอเคแต่ว่าถ้าแบบมันมีเรื่อง

00:26:1800:26:20 เกี่ยวกับจิตใจเข้ามาเกี่ยวข้องยังไงก็

00:26:2000:26:22 ควรกลับไปคุยกับน้าจิตวิทยาเพื่อจะได้จัด

00:26:2200:26:25 การจิตใจตรงนั้นนะครับอืมก็เรียกว่าวิธี

00:26:2500:26:29 การแบบในการที่จะรักษาคนไข้ถึงแม้จะแตก

00:26:2900:26:30 ต่างกันแต่ท้ายที่สุดคือผลลัพธ์ที่

00:26:3000:26:33 ต้องการคือคนไข้หายจากอาการนั้นๆเหมือนๆ

00:26:3300:26:37 กันก็มีข้อดีข้อข้อดีที่วิธีการแตกต่าง

00:26:3700:26:39 กันตามหลักการทางการแพทย์เหมือนใช้

00:26:3900:26:41 เครื่องมือฮะใช้เครื่องมือให้ถูกกับงาน

00:26:4100:26:44 ที่เราจะทำอยู่ที่ว่าแบบจะเลือกใช้อันไหน

00:26:4400:26:46 แค่นั้นเองไม่มีไม่ได้บอกว่าจิตวิทยาเป็น

00:26:4600:26:49 จิตเวชแล้วต้องไปใช้ยาไม่ดีไม่ใช่บางทีดี

00:26:4900:26:52 จำเป็นต้องใช้ด้วยซ้ำไปนะคะอ่ะว่ากันไป

00:26:5200:26:58 เนาะเอาแหละวันนี้หมดเวลาสำหรับคุณเอิ้น

00:26:5800:27:00 แล้วก็จะกลับมาเจอกันใหม่วันนี้ต้อง

00:27:0000:27:03 ขอบคุณดรสุรวุฒิวงศ์ธารสวัสดิ์ค่ะณ

00:27:0300:27:05 จิตวิทยาการปรึกษานะคะขอบคุณค่ะคุณเอิ้น

00:27:0500:27:09 ขาสวัสดีค่ะ

00:27:0900:27:12 ติดตามรายการทางเว็บไซต์และ Application

00:27:1200:27:14 ของไทยพีแดช็อต

00:27:1400:27:17 spotify soundcloud Google podcast

00:27:1700:27:19 Apple podcast และ YouTube Channel

00:27:1900:27:22 Thai PBS ผ่อน

00:27:2200:27:26 ค่ะ beautiful

00:27:2600:27:32 [เพลง]