00:00:06 → 00:00:09 สวัสดีครับผมวีระพงษ์ทวีศักดิ์ดิฉันสุด
00:00:09 → 00:00:13 ธิดาพรปริปและนี่คือศัลยกรรมความสุข
00:00:13 → 00:00:16 รายการที่ฟังแล้วทำให้คุณมีความสุขมาก
00:00:16 → 00:00:19 ขึ้นมีความทุกข์น้อยลง
00:00:19 → 00:00:22 สวัสดีครับคุณผู้ฟังสวัสดีครับพี่อ้อย
00:00:22 → 00:00:26 สวัสดีค่ะพี่วีเราพบกันอีกนะครับตอนนี้
00:00:26 → 00:00:29 ศัลยกรรมความสุขเนี่ยผมมีคำถามพี่อ้อย
00:00:29 → 00:00:32 ครับคำถามคุณผู้ฟังด้วยนะฮะพี่อ้อยจำได้
00:00:32 → 00:00:36 ไหมครับว่าโทรศัพท์มือถือเนี่ยเครื่องแรก
00:00:36 → 00:00:39 ที่พี่อ้อใช้เนี่ยประมาณสักกี่ปีมา
00:00:39 → 00:00:44 หลายปียังไม่ออกเลยนานมากเลยใช่ไหมเป็น
00:00:44 → 00:01:24 โทรศัพท์มือถือยุคแรกที่มันใหญ่ๆใช่ไหม
00:01:24 → 00:01:57 [เพลง]
00:01:57 → 00:02:01 เป็นเรื่องเกี่ยวกับทุกหนักของนักเปรียบ
00:02:01 → 00:02:02 เทียบ
00:02:02 → 00:02:09 [เพลง]
00:02:09 → 00:02:13 ที่ผมพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับ Social Media
00:02:13 → 00:02:17 ก็เป็นเพราะว่าต้องบอกว่าทุกหนักของมัก
00:02:17 → 00:02:20 เปรียบเทียบจริงๆก็มีทุกยุคทุกสมัยนะสมัย
00:02:20 → 00:02:22 ก่อนคนก็เปรียบเทียบกันอะไรอย่างนี้แต่
00:02:22 → 00:02:28 ว่าตอนนี้มันหนักขึ้นซึ่งจำเลยที่ 1 ก็
00:02:28 → 00:02:34 คือสมาร์ทโฟนนี่แหละ
00:02:34 → 00:02:38 เพราะว่ามันทำให้คนเนี่ยโทรศัพท์มือถือ
00:02:38 → 00:02:41 ไอ้สมาร์ทโฟนสมัยนี้ความที่มันมี
00:02:41 → 00:02:45 โซเชียลมีเดียเนี่ยมีลายมี Facebook มี
00:02:45 → 00:02:47 นู่นนี่นั่นมี YouTube มีอะไรอย่างนี้นะ
00:02:47 → 00:02:52 เข้าถึงแล้วก็ได้เห็นปรากฏการณ์เห็นชีวิต
00:02:52 → 00:02:54 คนมากมาย
00:02:54 → 00:03:00 เห็นตั้งแต่อยู่บนเตียงเลยค่ะใช่
00:03:00 → 00:03:02 เราก็เห็นแล้วว่า
00:03:03 → 00:03:06 ชาวโลกเขาไปมีใครต่อใครเพื่อนเราเขาไปทำ
00:03:06 → 00:03:07 อะไรกันบ้าง
00:03:07 → 00:03:11 แล้ววันนี้เขาอยู่ที่ไหน
00:03:11 → 00:03:18 ก็น่าจะมีพฤติกรรมมีเหมือนเราแหละใช่ไหม
00:03:18 → 00:03:21 หยิบเลยหยิบเลย
00:03:21 → 00:03:25 อย่างแรกแล้วเราก็จะเห็นอย่างเช่นว่ามัน
00:03:25 → 00:03:29 จะเกิดการเปรียบเทียบทันทีเปิดมาปุ๊บเห็น
00:03:29 → 00:03:31 เปิด Facebook อ้าว
00:03:31 → 00:03:34 เพื่อนเรา
00:03:34 → 00:03:37 นี่โพสต์อย่างนี้แสดงว่า
00:03:37 → 00:03:40 สงกรานต์ที่ผ่านมา
00:03:40 → 00:03:47 อ้าวเขาไป
00:03:47 → 00:04:07 [เพลง]
00:04:07 → 00:04:11 อะไรบ้างของคนที่ทุกข์หนักจากการเปรียบ
00:04:11 → 00:04:12 เทียบ
00:04:12 → 00:04:18 คือเวลาต้องต้องเรียนก่อนว่าเวลาคนเรา
00:04:18 → 00:04:23 เปรียบเทียบมันมีรูปแบบการเปรียบเทียบ
00:04:23 → 00:04:27 เป็นถ้าแบ่งเป็นประเภทใหญ่ๆนี้เป็น 3
00:04:27 → 00:04:31 ประเภทนะคะอันแรกเลยในประเภทแรกเลยเนี่ย
00:04:31 → 00:04:34 ก็คือพอเห็นเขาแล้วแบบเหมือนยินดีกับเขา
00:04:34 → 00:04:38 อ่ะนะคะโอ้ดีจังเลยเขาไปเล่นหิมะอะไร
00:04:38 → 00:04:40 อย่างเงี้ยเอาเอาหิมะมาฝากด้วยนะอะไร
00:04:40 → 00:04:44 อย่างนี้นะคะก็ประมาณนี้กับประเภทที่ 2
00:04:44 → 00:04:49 ก็คือเขาก็มีชีวิตดีนะเออก็ก็ดีอ่ะอะไร
00:04:49 → 00:04:52 อย่างนี้ก็ผ่านเลยไปเฉยๆนะคะเหมือนก็รับ
00:04:52 → 00:04:57 รู้ไปซึ่งอันนี้ก็ก็ดีในระดับหนึ่งแต่อัน
00:04:57 → 00:04:59 ที่ 3 เนี่ยประเภทที่ 3 เนี่ยเป็นประเภท
00:04:59 → 00:05:03 ที่พอเปรียบเทียบเนี่ยแล้วเนี่ยเพราะเห็น
00:05:03 → 00:05:07 คนอื่นแล้วเนี่ยเอ่อมีคนกลับเอามาเขา
00:05:07 → 00:05:10 เรียกว่ากฎขมตัวเองค่ะค่ะกดข่มตัวเองว่า
00:05:10 → 00:05:12 อ๋อ
00:05:12 → 00:05:16 อะไรนะมีเงินไปเที่ยวเมืองนอกได้ไปเล่น
00:05:16 → 00:05:20 หิมะเราร้อนจะตายช้างอยู่บ้านเนี่ยค่าไฟ
00:05:20 → 00:05:23 ก็ไม่รู้เท่าไหร่เนี่ยจะมีเงินจ่ายไหม
00:05:23 → 00:05:27 อะไรไปยาวไปเลยนะคะก็คือมุมของเอามา
00:05:27 → 00:05:30 เปรียบเทียบแล้วทำให้ตัวเองเนี่ยไปเขา
00:05:30 → 00:05:33 เรียกว่าอะไรอ่ะยิ่งยิ่งด้อยมีความทุกข์
00:05:33 → 00:05:35 จากเลยมีความทุกข์หนักเนี่ยก็คือเป็น 3
00:05:35 → 00:05:38 ประเภทนี้ซึ่งการเปรียบเทียบเนี่ยต้องบอก
00:05:38 → 00:05:42 ว่ามีสารพัดรูปแบบในชีวิตเพราะว่าจริงๆ
00:05:42 → 00:05:46 ตั้งแต่เช้าตื่นขึ้นมาเนี่ยนะคะถ่ายโอ๊ย
00:05:46 → 00:05:49 ฉันถ่ายที่บ้านใหม่นะคะฉันถ่ายที่บ้าน
00:05:49 → 00:05:53 บ้านหลังใหม่ของฉันโพสต์ขึ้นนะคะไอ้นี่
00:05:53 → 00:05:56 โอ้โหตายละฉันตื่นขึ้นมาร้อนจะตายและ
00:05:56 → 00:05:59 เตียงเติงแฉะไปหมดด้วยความร้อนอะไรเงี้ย
00:05:59 → 00:06:03 คือตั้งแต่เอ่อเค้าเรียกกิจกรรมแรกเลยจน
00:06:03 → 00:06:06 กิจกรรมสุดท้ายของของก่อนนอนเนี่ยเปรียบ
00:06:06 → 00:06:09 เทียบได้หมดอืมค่ะคราวนี้พอเปรียบเทียบ
00:06:09 → 00:06:12 เสร็จแล้วเนี่ยจริงๆแล้วไอ้การที่เราเห็น
00:06:12 → 00:06:14 แล้วเราก็เปรียบเทียบมันก็เป็นเหมือนกับ
00:06:14 → 00:06:17 เป็นปกติธรรมดานะแต่ว่ามันทำให้เราเกิด
00:06:17 → 00:06:21 ความทุกข์เนี่ยยิ่งคนในสมัยนี้เนี่ยมือ
00:06:21 → 00:06:23 ถือก็คือเรียกว่ามือถือเพราะมันอยู่กับ
00:06:23 → 00:06:25 มือเรานี่แหละมันเป็นโทรศัพท์มันอยู่กับ
00:06:25 → 00:06:26 มือเรา
00:06:26 → 00:06:29 ก็เป็นอวัยวะนะคะใช่เป็นอวัยวะส่วนหนึ่ง
00:06:30 → 00:06:33 เลยแล้วมันทำให้เราสามารถติดตามทุกอย่าง
00:06:33 → 00:06:37 ได้ภายในเหมือนกับยกมือมาก็เหมือนกับเห็น
00:06:37 → 00:06:40 ทุกอย่างเนี่ยมันก็เลยเกิดการเปรียบเทียบ
00:06:40 → 00:06:46 บ่อยขึ้นทีขึ้นกว้างขึ้นในหลายเรื่องมัน
00:06:46 → 00:06:48 ก็เลยผมก็เลยเนี่ยเป็นที่มาของคำว่าทุกข์
00:06:48 → 00:06:53 หนักเนี่ยแล้วเราจะมีวิธีที่จะช่วยทำให้
00:06:53 → 00:06:56 คนที่จะต้องอยู่กับโลกที่มันเอื้อ
00:06:56 → 00:06:58 เทคโนโลยีที่มันเอื้อที่ทำให้เราเปรียบ
00:06:58 → 00:07:03 เทียบมากขึ้นเรื่อยๆให้เขาทุกไม่หนักเบา
00:07:03 → 00:07:07 บางลงมีความสุขมากขึ้นอยู่ทำยังไงคือเอ่อ
00:07:07 → 00:07:11 เวลาเรารับข้อมูลมาเนี่ยอืมนะคะเราเห็น
00:07:12 → 00:07:16 สารพัดเห็นน่ะนะคะเจอจะดูร้อยคนพันคนใน
00:07:16 → 00:07:20 เวลาไม่กี่นาทีก็ได้หมดนะคะแต่เวลาเรารับ
00:07:20 → 00:07:23 รู้ข้อมูลเข้ามาเนี่ย
00:07:23 → 00:07:26 นะคะไม่ว่าเค้าจะดีเลิศเค้าจะอะไร
00:07:26 → 00:07:29 ประเสริฐของเขายังไงรถใหม่บ้านใหม่เที่ยว
00:07:29 → 00:07:34 ต่างประเทศกินของหรูจบเรียนจบลูกเอออะไร
00:07:34 → 00:07:36 นะได้งานทำนู่นนี่อะไรเยอะแยะไปหมดเนี่ย
00:07:36 → 00:07:40 เรารับข้อมูลเหล่านั้นเข้ามาเมื่อเวลาเรา
00:07:40 → 00:07:42 รับอ่ะให้เรา
00:07:42 → 00:07:46 อะไรอ่ะเหมือนคิดนิดนึงว่า
00:07:46 → 00:07:49 ภาพนั้นที่เราเห็นน่ะ
00:07:49 → 00:07:53 นะคะมันคือสิ่งที่เรารับเราเรารับมาเต็ม
00:07:53 → 00:07:56 เหมือน 100% โอ้โหตอนนี้คนเขากำลังสำเร็จ
00:07:56 → 00:08:00 เขาก็กำลังกินหรูอยู่สบายเขาร่ำรวยเขามี
00:08:00 → 00:08:03 ฐานะเขานู่นเขานี่ถามว่าภาพที่เราเห็นตรง
00:08:03 → 00:08:07 นั้นน่ะมันคือทั้งหมดทั้งมวลของชีวิตเขา
00:08:07 → 00:08:11 ไหมค่ะพี่วีว่างแล้วค่ะ
00:08:11 → 00:08:14 คุณผู้ฟังครับประเด็นอยู่ตรงที่ว่าสิ่ง
00:08:14 → 00:08:17 ที่เราเห็นในโซเชียลเนี่ยมันเป็นแค่มุม
00:08:17 → 00:08:19 เดียวมันเป็นแค่ด้านเดียว
00:08:19 → 00:08:22 แล้วทำให้ผมนึกไปถึงเรื่องเรื่องจริงแต่
00:08:22 → 00:08:25 เป็นเรื่องตลกนะครับมีเด็กคนหนึ่งฮะเขา
00:08:25 → 00:08:29 โพสต์ในโซเชียลมีเดียว่าแม่เขาเนี่ยนะ
00:08:29 → 00:08:32 ชอบว่าเขาวันๆนึงอ่ะเล่นแต่หน้าจอ
00:08:32 → 00:08:34 โทรศัพท์มือถือ
00:08:34 → 00:08:36 เขาก็เลยตอบแม่ก็บอกว่า
00:08:36 → 00:08:39 ก็จะทำยังไงได้ล่ะก็คือเขาก็ต้องเล่นหน้า
00:08:39 → 00:08:42 จอสิเพราะเขาลองพลิกเล่นหลังจอแล้วมันไม่
00:08:42 → 00:08:45 ได้
00:08:45 → 00:08:48 น่ารักมากเลยค่ะอันนี้เหมือนเป็นเรื่องขำ
00:08:48 → 00:08:51 นะแต่ผมผมนึกถึงเรื่องนี้เพราะอะไรรู้ไหม
00:08:51 → 00:08:54 เพราะว่าจริงๆแล้วเนี่ยเรื่องทุกเรื่อง
00:08:54 → 00:08:57 ที่เราเห็นมันมีทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
00:08:57 → 00:09:01 เราเห็นแต่ด้านหน้าแล้วเราก็เปรียบเทียบ
00:09:01 → 00:09:04 กับเฉพาะด้านหน้าแต่ถ้าเรามองให้รอบเนี่ย
00:09:04 → 00:09:08 เราจะเห็นทั้งด้านหน้าและด้านหลังมันจะทำ
00:09:08 → 00:09:12 ให้ผมเชื่อว่าทำให้เราเปรียบเทียบได้ได้
00:09:12 → 00:09:16 อย่างถูกต้องแท้จริงมากขึ้น
00:09:16 → 00:09:19 ผมผมนึกถึงเรื่องๆหนึ่งเลยครับมีเพื่อนคน
00:09:19 → 00:09:22 หนึ่งครับเขาไปเที่ยว
00:09:22 → 00:09:25 ที่สิงคโปร์
00:09:25 → 00:09:27 แล้วเขาระหว่างที่เขาไปเที่ยวสิงคโปร์
00:09:27 → 00:09:31 เนี่ยแล้วเขาก็โพสต์การเที่ยวที่สิงคโปร์
00:09:31 → 00:09:34 ตลอดเวลาแล้วเขาก็เปรียบเทียบสิงคโปร์
00:09:34 → 00:09:37 ครับประเทศไทย
00:09:37 → 00:09:39 แล้วเขาก็มีความทุกข์
00:09:39 → 00:09:43 กับประเทศไทยที่เขาโตมา
00:09:43 → 00:09:45 ว่าทำไม
00:09:45 → 00:09:50 สิงคโปร์ถึงรถไม่ติด
00:09:50 → 00:09:56 เรียบร้อยถึงมีฟุตบอลที่ดีประเทศไทยนี่
00:09:56 → 00:10:05 ฟุตบอลก็ไม่ดี
00:10:05 → 00:10:11 แล้วทำให้เขาถูกแต่ว่าเขาเห็นด้านเดียว
00:10:11 → 00:10:15 เขาเห็นด้านเดียวอีกด้านหนึ่งเนี่ยเขาไม่
00:10:15 → 00:10:15 เห็น
00:10:15 → 00:10:18 เขาจะได้เห็นต่อเมื่อเขาต้องไปเจออะไรบาง
00:10:18 → 00:10:20 อย่างยกตัวอย่างที่ผมนึกถึงสิงคโปร์กับ
00:10:20 → 00:10:24 เคสนี้เลยเพราะอะไรเพราะว่าผมเคยไปประชุม
00:10:24 → 00:10:25 ที่สิงคโปร์
00:10:25 → 00:10:29 แล้วเขาก็บอกว่า
00:10:29 → 00:10:32 ลูกค้าที่เป็นบริษัทที่สิงคโปร์เขาก็บอก
00:10:32 → 00:10:35 ว่าคุณรู้ไหมทำไมสิงคโปร์รถไม่ติด
00:10:35 → 00:10:37 เป็นเพราะว่า
00:10:37 → 00:10:40 สิงคโปร์
00:10:40 → 00:10:44 รถก็ราคาไม่ได้แพงกว่าของเรานะ
00:10:44 → 00:10:48 แต่ว่าที่แพงกว่ารถคือใบอนุญาต
00:10:48 → 00:10:51 ใบอนุญาตในการซื้อรถ
00:10:51 → 00:10:55 คือรถก็ราคาปกติแต่ใครจะซื้อรถเนี่ยต้อง
00:10:55 → 00:11:01 มีใบอนุญาตในการซื้อรถซึ่งแพงมาก
00:11:01 → 00:11:04 คือเขาควบคุมจำนวนรถ
00:11:04 → 00:11:07 และเขาบอกเลยว่าประเทศเขาจะมีรถอยู่แค่
00:11:07 → 00:11:10 1 สมมุตินะ 1 ล้านคัน
00:11:10 → 00:11:13 แล้วก็มีใบอนุญาต 1 ล้านใบ
00:11:13 → 00:11:16 เพราะฉะนั้นจะไม่มีทางที่มีรถเกินอันนี้
00:11:16 → 00:11:17 ได้เลย
00:11:17 → 00:11:20 แล้วถ้าเกิดใครอยากจะซื้อรถคุณต้องไปสอบ
00:11:20 → 00:11:22 แสวงหาใบอนุญาตซื้อรถมา
00:11:23 → 00:11:26 ซึ่งขายกันในราคาแพงมากอันนี้เรื่อง
00:11:26 → 00:11:27 เรื่องเดียวเลย
00:11:27 → 00:11:30 หรืออีกเรื่องหนึ่งเรื่องอะไรอ่ะเรื่อง
00:11:30 → 00:11:32 ฟุตบาทเรื่องเงิน
00:11:32 → 00:11:36 เขาลืมไปอย่างนึงว่าประเทศสิงคโปร์ถ้า
00:11:36 → 00:11:37 เทียบกับประเทศไทยแล้วเนี่ย
00:11:37 → 00:11:40 สิงคโปร์เล็กกว่า
00:11:40 → 00:11:43 เล็กกว่ากรุงเทพฯด้วยใช่ค่ะเพราะฉะนั้น
00:11:43 → 00:11:47 การบริหารจัดการมันก็ต้องต่างกันคือเรา
00:11:47 → 00:11:49 ไม่ได้บอกว่าเราเชียร์นักการเมืองรัฐบาล
00:11:49 → 00:11:51 หรือไม่คนละเรื่องนะไม่เกี่ยวไม่เกี่ยว
00:11:51 → 00:11:55 แต่เอาแค่นี้เพราะฉะนั้นเราจะเห็นเลยว่า
00:11:55 → 00:11:58 การเปรียบเทียบเนี่ยถ้าเราเปรียบเทียบ
00:11:58 → 00:12:01 เราจะมีความทุกข์ถ้าเราเห็นด้านเดียวหรือ
00:12:01 → 00:12:03 ถ้าเราเห็นอีกด้านหนึ่ง
00:12:03 → 00:12:05 สิงคโปร์
00:12:05 → 00:12:12 เรื่องแล้วผมเห็นแต่คนไทยหลายคนนะต้องใช้
00:12:12 → 00:12:13 คำนี้เลย
00:12:14 → 00:12:16 พอเปรียบเทียบปุ๊บก็มาด้อยค่าบ้านที่เรา
00:12:16 → 00:12:19 อยู่แล้วก็ไปชื่นชมเขาในขณะซึ่งผมเคยไป
00:12:19 → 00:12:23 ร่วมงานกับศิลปินชาวสิงคโปร์คนหนึ่งเขา
00:12:23 → 00:12:28 เป็นนักเป็นคนทำหนังแล้วเขาก็มาเมืองไทย
00:12:28 → 00:12:30 แล้วก็เข้ามาติดต่อให้ผมอ่ะเล่นดนตรี
00:12:30 → 00:12:34 เพียงแก้วประกอบในหนังของเขาเป็นหนังอาร์
00:12:34 → 00:12:36 ซึ่งเขาจะเอาไปส่งไปประกวด
00:12:36 → 00:12:39 ระหว่างที่กำลังทำงานก็คุยกันเชื่อไหม
00:12:39 → 00:12:43 ครับเขาบ่นอะไรเขาบ่นเกี่ยวกับรัฐบาลของ
00:12:43 → 00:12:45 เขา
00:12:45 → 00:12:50 อย่างนู้นอย่างนี้ไม่เห็นคุณค่าของศิลปะ
00:12:50 → 00:12:52 ก็เลยกลายเป็นว่าเออเพราะฉะนั้นเนี่ยหลาย
00:12:52 → 00:12:56 ครั้งเนี่ยเราให้การเปรียบเทียบถ้าเราจะ
00:12:56 → 00:13:00 เปรียบเทียบเราก็ต้องมั่นใจว่าเรามีข้อ
00:13:00 → 00:13:04 มูลทั้งสองด้านจริงๆอยากเรียนอย่างนี้ค่ะ
00:13:04 → 00:13:08 พี่วีถ้าถ้าบอกว่าข้อมูลทั้งสองด้านเนี่ย
00:13:08 → 00:13:11 ก็อาจจะ
00:13:11 → 00:13:15 อยากขยายมากกว่าว่าจริงๆอ่ะ
00:13:15 → 00:13:20 ในข้อเท็จจริงความเป็นจริงข้อมูล
00:13:20 → 00:13:23 ถ้าจะแบ่งให้แบบเคลียร์ๆเลยเนี่ยมันจะมี
00:13:24 → 00:13:28 ด้านของฉันแล้วก็ด้านของเธอแล้วก็ด้านที่
00:13:28 → 00:13:32 เป็นจริงเพราะฉะนั้นเนี่ยมันบอกว่าถ้าบอก
00:13:32 → 00:13:34 ว่ามี 2 ด้านก็อาจจะยังไม่ครบอย่างนี้นะ
00:13:34 → 00:13:38 คะแล้วก็สิ่งที่เราเห็นตรงนั้นน่ะมันไม่
00:13:38 → 00:13:42 ว่าจะเป็นด้านของของเธอเนี่ยนะคะเราอาจจะ
00:13:42 → 00:13:45 ไม่ได้เห็นบอกว่าด้านของเธอที่เราเห็นตรง
00:13:45 → 00:13:48 นั้นเรานึกว่ามัน 100% ที่ที่บอกว่าไป
00:13:48 → 00:13:49 เที่ยวต่างประเทศนู่นนี่อะไรอย่างเงี้ย
00:13:49 → 00:13:52 จริงๆอ่ะถ้าสมมุติว่าไปเที่ยวต่างประเทศ
00:13:52 → 00:13:55 อ่ะ 5 วัน 7 วันอย่างมากเดือนนึงอ่ะ
00:13:55 → 00:13:59 สมมุติแล้วอีกอีก 12 เดือนล่ะชีวิตก็เป็น
00:13:59 → 00:14:02 ยังไงเราก็ไม่ได้เห็นเขาอาจจะทำงานหนัก
00:14:02 → 00:14:05 ต้องมากเลยชีวิตเขาถึงแบบมีเงินเยอะไป
00:14:05 → 00:14:08 แล้วมันก็ไม่ได้เห็นเพราะฉะนั้นเนี่ยจะ
00:14:08 → 00:14:10 บอกว่าถ้ามองเป็นด้านของฉันด้านของเธอเรา
00:14:10 → 00:14:14 ก็ด้านที่เป็นจริงค่ะค่ะแล้วก็อีกอย่าง
00:14:14 → 00:14:17 นึงครับพี่อ้อยครับเวลาที่เราบอกว่าเรา
00:14:17 → 00:14:19 อยากจะคลายทุกข์จากการที่เราเปรียบเทียบ
00:14:19 → 00:14:21 นะฮะอีกอันที่เราต้องรู้เลยว่า
00:14:21 → 00:14:24 มันมีหน้าฉากกับหลังฉากใช่ๆมีอยู่ครั้ง
00:14:24 → 00:14:28 หนึ่งอ่ะสมัยก่อนที่ตอนที่ผมยังทำงานด้าน
00:14:28 → 00:14:31 สื่อสารอยู่แล้วผมก็ต้องตระเวนไปฉายหนัง
00:14:31 → 00:14:34 สารคดีเนี่ยตามต่างจังหวัด
00:14:34 → 00:14:37 แล้วทุกครั้งที่เวลาที่มีการฉายหนัง
00:14:37 → 00:14:40 สารคดีโปรโมทกิจการของรัฐบาลอะไรอย่างนี้
00:14:40 → 00:14:42 ของรัฐสมัยก่อนของกระทรวง
00:14:42 → 00:14:45 เพื่อให้ชาวคนต่างจังหวัดเนี่ย
00:14:45 → 00:14:49 มาดูกันเยอะๆก่อนที่เราจะฉายโฆษณา
00:14:49 → 00:14:51 ประชาสัมพันธ์เรื่องใดเรื่องหนึ่งของ
00:14:51 → 00:14:55 กระทรวงใดกระทรวงหนึ่งเขาก็จะมีหมอลำ
00:14:55 → 00:14:59 เปิดเวทีใหญ่เลยแล้วก็มีจอใหญ่แล้วก็มี
00:14:59 → 00:15:02 เวทีผมก็อยู่เป็นคนดูเรื่องของการฉาย
00:15:02 → 00:15:04 ประชาสัมพันธ์เรื่องเรื่องที่เขาต้องการ
00:15:04 → 00:15:08 จะสื่อสารแต่ก่อนที่เราจะฉายเนี่ยเปิดฉาก
00:15:08 → 00:15:13 ด้วยหมอลำก่อนโอ้โหคนมาดูเฮฮากันใหญ่มาดู
00:15:13 → 00:15:15 กันใหญ่เลยหมอลำแล้วก็แล้วก็มีการแจกอะไร
00:15:15 → 00:15:18 อย่างนี้นะมันทำให้เราเห็น
00:15:18 → 00:15:22 ด้านหน้าเวทีแล้วก็ด้านหลังเวที
00:15:22 → 00:15:26 คือเวลาที่เขามีนักร้องหมอลำนะครับพี่
00:15:26 → 00:15:27 อ้อย
00:15:27 → 00:15:30 เขาจะมีเขาเรียกว่าอะไรนะเป็นแดนเซอร์ใช่
00:15:30 → 00:15:33 ไหมฮะ
00:15:33 → 00:15:36 สวยมากแล้วเขาก็เต้นกันแบบอื้อหือสวยงาม
00:15:36 → 00:15:40 พร้อมเพรียงยิ้มแย้มแจ่มใสมีความสุขอัน
00:15:40 → 00:15:41 นั้นคือด้านหน้าฮะ
00:15:41 → 00:15:44 แต่หลังเวทีพี่อ้อยรู้ไหมครับคุณผู้ฟัง
00:15:44 → 00:15:47 รู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นก็คือความที่
00:15:47 → 00:15:51 นักเต้นแดนเซอร์เนี่ยเขาจะมีอยู่
00:15:51 → 00:15:53 ชุดเดียวทีมเดียวเพราะว่าผมพิมพ์ใหญ่มาก
00:15:54 → 00:15:58 นึกว่าเปลี่ยนเขาต้องเปลี่ยนคือพอนักร้อง
00:15:58 → 00:16:01 เปลี่ยนเนี่ยแดนเซอร์พอนักร้องคนนี้ร้อง
00:16:01 → 00:16:06 จบแดนเซอร์ชุดนี้ก็วิ่งลงวิ่งลงมาปุ๊บ
00:16:06 → 00:16:10 เนี่ยอีกชุดนึงจะวิ่งขึ้นวิ่งขึ้นปุ๊บ
00:16:10 → 00:16:14 แล้วในระหว่างที่เพลงนึงก็ความยาวไม่กี่
00:16:14 → 00:16:21 นาที
00:16:21 → 00:16:24 หลังจากเท่านั้นครับ
00:16:24 → 00:16:27 พอเขาพ้นขอบเวทีนะ
00:16:27 → 00:16:31 เขาจะเริ่มมีทีมงานถอดทุกอย่าง
00:16:32 → 00:16:36 อลังการของของแดนเซอร์อ่ะไม่ว่าจะเป็นขน
00:16:36 → 00:16:38 นก
00:16:38 → 00:16:43 ค่อยๆปลดทุกอย่างอย่างรวดเร็วเหลือแต่จะ
00:16:43 → 00:16:45 เรียกว่าเหมือนเป็นชุดชั้นในก็ได้แต่ว่า
00:16:45 → 00:16:49 เป็นชุดชั้นในแบบที่เขาเป็นเหมือนชุดว่าย
00:16:49 → 00:16:52 น้ำ
00:16:53 → 00:17:01 แกะแกะ
00:17:01 → 00:17:05 แล้วก็หน้าตาที่แบบว่ายิ้มแย้มแจ่มใสหน้า
00:17:05 → 00:17:07 เวทีเมื่อกี้ตอน
00:17:07 → 00:17:10 หายไปหมดเต็มไปด้วยความแบบร้อนด้วยนะ
00:17:10 → 00:17:12 เพราะว่าเต้น
00:17:12 → 00:17:17 ไปด้วยความรีบเร่งร้อนกังวลเครียดว่าจะ
00:17:17 → 00:17:21 ทันไหมอันนี้คือหลังฉากแต่ที่เราเห็น
00:17:21 → 00:17:23 เมื่อกี้คือหน้าฉาก
00:17:23 → 00:17:27 เห็นแต่ความสวยงามพร้อมเพรียงแค่พ้นขอบ
00:17:27 → 00:17:30 เวทีเนื่องจากว่าผมอยู่หลังเวทีเลยเห็น
00:17:30 → 00:17:32 ภาพอย่างนี้
00:17:32 → 00:17:35 มันทำให้เราตระหนักถึง
00:17:35 → 00:17:39 เรื่องของของความเป็นความเป็นไปของสิ่ง
00:17:39 → 00:17:42 ที่เราอยู่กับมันเนี่ยมันมีทั้งหน้าฉาก
00:17:42 → 00:17:45 แล้วก็หลังจากอย่าง
00:17:45 → 00:17:50 เข้มข้นน่ะหรืออีกอันนึงที่พี่ก็ต้องนึก
00:17:50 → 00:17:53 ออกทันทีเลยนะฮะก็คือพี่อ้อยเคยดูละครไหม
00:17:53 → 00:17:56 ดูทุกวันเลย
00:17:56 → 00:18:01 ติดละครเลยใช่ไหม
00:18:01 → 00:18:04 บางคนเขาก็ไม่ชอบเขาบอกน้ำเน่าหรืออะไรก็
00:18:04 → 00:18:07 ตามแต่เรามีความรู้สึกเราผ่อนคลายถ้าเรา
00:18:07 → 00:18:08 ดูเพื่อการผ่อนคลาย
00:18:08 → 00:18:12 คราวนี้เวลาที่เราดูละครเนี่ยแน่นอนเลย
00:18:12 → 00:18:15 ทุกเรื่องละครก็จะมีประมาณนี้นะมีพระเอก
00:18:15 → 00:18:18 นางเอกแล้วก็มีเพื่อนพระเอกเพื่อนนางเอก
00:18:18 → 00:18:22 นางรองพระรองพระรองแล้วก็ต้องมีอะไรอีก
00:18:22 → 00:18:26 ตัวร้ายตัวร้ายนี่เลยตัวร้ายนี่ขาดไม่ได้
00:18:26 → 00:18:30 ขาดไม่ได้เลยทำไม่ทัน
00:18:30 → 00:18:39 เป็นตัวร้ายเนี่ยดังกว่านางเอกใช่ไหม
00:18:39 → 00:18:40 อันนี้คือ
00:18:40 → 00:18:43 ดารานักแสดงก็มีหน้าฉากหลังฉากเหมือนกัน
00:18:43 → 00:18:45 แล้ว
00:18:45 → 00:18:48 หลายครั้งเลยนะครับเคยสังเกตเห็นไหมครับ
00:18:48 → 00:18:56 ว่าตัวร้ายที่พี่อ้อยลองนึกถึงตัวร้าย
00:18:56 → 00:18:59 ในละครก็อะไรนะ
00:18:59 → 00:19:03 คะแต่ว่าถ้าเป็นด้านหลังฉากอย่างที่เรา
00:19:03 → 00:19:07 กำลังคุยกันก็คือตัวจริงของเขาตัวจริงของ
00:19:07 → 00:19:13 เขาเนี่ยพบว่ามีนางร้ายหลายคนเลยที่ที่จะ
00:19:13 → 00:19:18 บอกว่าใช้คำว่าอะไรดีคะพี่วีคือดีแสนดีดี
00:19:18 → 00:19:20 กว่าเราอ่ะจิตใจดีกว่าเราอ่ะ
00:19:20 → 00:19:22 ใช่ธรรมะ
00:19:22 → 00:19:27 ช่วยเหลือคนหรือว่าอะไรทุกอย่างเลย
00:19:27 → 00:19:31 อันนั้นคือชีวิตจริงแต่หน้าเวทีคนนี้ถ้า
00:19:31 → 00:19:33 รับบทเมื่อไหร่เนื่องจากว่าโครงหน้าหรือ
00:19:33 → 00:19:36 บุคลิกหรือเสียงหรืออะไรก็ตามกรี๊ดเลย
00:19:36 → 00:19:38 เหมาะจะเป็นตัวร้าย
00:19:38 → 00:19:42 คือร้ายจนกระทั่งบางเรื่องใช่ไหมฮะเขาบอก
00:19:42 → 00:19:48 เอาทุเรียนตบหน้าไปตลาดที่แม่ค้าด่าเลย
00:19:48 → 00:19:53 อันนั้นคือสิ่งที่เราเห็นแล้วก็เราก็
00:19:53 → 00:19:56 เชื่อเชื่อไปตามนั้นแต่ว่าจริงๆแล้วใน
00:19:56 → 00:19:58 ชีวิตจริงเขาอ่ะ
00:19:58 → 00:20:01 กลายเป็นว่าเขาเป็นคนที่น่ารักมากดีมาก
00:20:01 → 00:20:05 หรือในทางกลับกัน
00:20:05 → 00:20:09 นางเอก
00:20:09 → 00:20:11 [เพลง]
00:20:11 → 00:20:13 เรียบร้อย
00:20:13 → 00:20:15 พี่อ้อยและคุณผู้ฟังเชื่อว่าคิดว่ามีไหม
00:20:15 → 00:20:19 ครับที่คนที่เล่นเป็นตัวเอกเป็นนางเอกแต่
00:20:19 → 00:20:24 ว่าในชีวิตจริงกลายเป็นคนที่บุคลิกเป็น
00:20:24 → 00:20:25 ตรงกันข้ามเลย
00:20:25 → 00:20:30 คิดว่าต้องมีค่ะสิ่งหนึ่งที่พอพี่บีพูด
00:20:30 → 00:20:31 แล้วคิดได้เนี่ย
00:20:31 → 00:20:37 คือคนที่เป็นนางเอกเนี่ยมีความจะบอกว่ามี
00:20:37 → 00:20:41 ความเสี่ยงที่จะเป็นคนที่
00:20:41 → 00:20:45 ตรงกันข้ามชีวิตจริงตรงกันข้ามกับภาพใน
00:20:45 → 00:20:48 ละครเนี่ยเพราะว่าคนเป็นนางเอกได้เนี่ยจะ
00:20:48 → 00:20:50 ได้เงินเยอะ
00:20:50 → 00:20:55 เงินเยอะเนี่ยมันทำให้ฉันฉันรู้สึกว่าฉัน
00:20:55 → 00:20:58 ใช้ชีวิตอย่างนี้อย่างนั้นได้ฉันมีเงื่อน
00:20:58 → 00:21:00 ไขได้อะไรประมาณนี้ค่ะก็เลยมีความรู้สึก
00:21:00 → 00:21:05 ว่าอาจจะเป็นไปในทางนั้นได้ง่ายด้วย
00:21:05 → 00:21:09 แล้วก็ประสบการณ์จริงๆของผมก็เคยเจออีก
00:21:09 → 00:21:11 ครั้งนึงเป็นผมเคยเจอนักร้องคนหนึ่งบน
00:21:11 → 00:21:13 เวทีนักร้องดังด้วยนะฮะ
00:21:13 → 00:21:17 แล้วก็ร้องเพลงเพราะมากมี FC ชื่นชมแบบบน
00:21:17 → 00:21:19 เวทีนะ
00:21:19 → 00:21:22 มอบดอกไม้ขอบคุณที่พูดจาแบบให้กำลังใจดี
00:21:22 → 00:21:27 มากเลยพอหลังจากออกมาจากข้างหลังร้อง
00:21:27 → 00:21:30 เสร็จลงมาข้างล่างนะครับมันเกิดการผิดคิว
00:21:30 → 00:21:34 อะไรบางอย่างนะหูยหลังเวทีจนกระทั่งทุกคน
00:21:34 → 00:21:36 ตกใจเลย
00:21:36 → 00:21:37 เพราะฉะนั้นเนี่ย
00:21:37 → 00:21:41 ที่เราเล่าเรื่องมาหรือชวนคุยมาทั้งหมด
00:21:41 → 00:21:44 เนี่ยมันเป็นเรื่องของทุกหนักของนักเรียน
00:21:44 → 00:21:48 เทียบเป็นเพราะว่าเรามีความทุกข์อัน
00:21:48 → 00:21:50 เนื่องมาจากความการเปรียบเทียบเป็นเพราะ
00:21:50 → 00:21:51 ว่า
00:21:51 → 00:21:55 เราลืมไปเราไปหยิบฉากนึงของเขา
00:21:55 → 00:21:58 เมื่อเปรียบเทียบแล้วเอาเรื่องเดียวเรา
00:21:58 → 00:22:01 เอามุมเดียวเราเห็นคนโพสต์เรื่องนึงแล้ว
00:22:01 → 00:22:04 ก็ไปเปรียบเทียบโดยเราไปเปรียบเทียบกับ
00:22:04 → 00:22:08 เขาจากเรื่องเดียวที่เขาโพสต์แล้วเราก็
00:22:08 → 00:22:10 เกิดความทุกข์หนัก
00:22:10 → 00:22:13 หรือว่าเราไปเห็นใครบางคนเป็นอะไรบาง
00:22:13 → 00:22:16 อย่างแล้วเราก็ไปเกิดการเปรียบเทียบแล้ว
00:22:16 → 00:22:18 เราก็ไปตำหนิเขาเราก็ไปเปลี่ยนเขาแล้วก็
00:22:18 → 00:22:23 ไปชอบเขาทั้งสองฝั่งเลยนะแต่ว่าเราลืมไป
00:22:23 → 00:22:26 อย่างนึงว่าของทุกอย่างเนี่ยมันมีน่าใช้
00:22:26 → 00:22:30 ก็มีหลานชายหนึ่งได้มันมีมากกว่าที่เรา
00:22:30 → 00:22:31 เห็น
00:22:31 → 00:22:35 ถ้าเราถ้าเรารู้แบบนี้เนี่ยมันจะทำให้เรา
00:22:35 → 00:22:38 คลายความทุกข์ไปนะ
00:22:38 → 00:22:40 ถ้าเกิดว่าเราดูแล้วรู้สึกเราเกลียดเขา
00:22:40 → 00:22:44 เนี่ยเราก็จะคลายความเกลียดลงหรือความชอบ
00:22:45 → 00:22:46 หรือความหลง
00:22:46 → 00:22:50 เราก็จะคลายความชอบความหลงนี้เมื่อกี้นี้
00:22:50 → 00:22:54 ผมผมชอบที่พี่อ้อยพูดถึงนะว่ามันมีมุมของ
00:22:54 → 00:22:57 เขามุมของเราแล้วก็มันมีความจริงมุมของ
00:22:57 → 00:23:01 ความเป็นจริงที่เป็นจริงๆใช่ค่ะซึ่งถ้า
00:23:01 → 00:23:05 เรามองไม่รอบนี่เราจะจริงๆมองรอบยากค่ะ
00:23:05 → 00:23:08 อาจารย์เพราะว่าเราไม่รู้หรอกชีวิตคนอื่น
00:23:08 → 00:23:11 เขาส่วนที่เราไม่ได้เห็นน่ะเออมันเป็นยัง
00:23:11 → 00:23:15 ไงนะคะในมุมมองของตัวเองก็เลยอยากจะบอก
00:23:15 → 00:23:18 ว่าจริงๆถ้าไม่เปรียบเทียบได้ดีที่สุดแต่
00:23:18 → 00:23:21 ถ้าจะเปรียบจริงๆอ่ะเปรียบเทียบกับตัวเอง
00:23:21 → 00:23:25 ว่าวันนี้ฉันดีกว่าเมื่อวานนิดนึงก็ยังดี
00:23:25 → 00:23:29 นิดนึงมันมีความสุขแต่ถ้าคุณอยากเปรียบ
00:23:29 → 00:23:32 เทียบกับคนอื่นจริงๆคุณต้องเอ่อความคิด
00:23:32 → 00:23:35 เห็นแรงคือเปรียบเทียบเพื่อให้เขาเป็นแรง
00:23:35 → 00:23:41 บันดาลใจให้เราดีขึ้นมี 2 ข้อเท่านั้นค่ะ
00:23:41 → 00:23:46 พี่อ้อยคือผมคิดว่านะการเปรียบเทียบที่ดี
00:23:46 → 00:23:48 ที่สุดนะก็คือการเปรียบเทียบกับตัวเราเอง
00:23:48 → 00:23:53 ในเวอร์ชั่นเก่าของเมื่อวานว่าฉันวันนี้
00:23:53 → 00:23:54 กับฉันเมื่อวานนี้
00:23:54 → 00:23:58 มันมีอะไรดีขึ้นไหมก็มีความสุข
00:23:58 → 00:24:02 แล้วเราก็จะพัฒนาขึ้นเรื่อยๆเพราะฉะนั้น
00:24:02 → 00:24:04 คุณผู้ฟังครับอันนี้ก็เป็น
00:24:04 → 00:24:08 แนวความคิดของรายการศัลยกรรมความสุขนะ
00:24:08 → 00:24:10 ครับเราก็มีความเชื่อว่า
00:24:10 → 00:24:13 เราจะชีวิตเราจะดีขึ้นหรือแย่ลงมันไม่ได้
00:24:13 → 00:24:15 ขึ้นอยู่กับว่าเราเจออะไรมันขึ้นอยู่กับ
00:24:15 → 00:24:19 ว่าเรามีวิธีคิดเรามี mindset เรามี
00:24:19 → 00:24:22 ทัศนคติที่เราจะใช้เผชิญหน้ากับเรื่อง
00:24:22 → 00:24:23 เหล่านั้นยังไงซึ่ง
00:24:23 → 00:24:27 ศัลยกรรมความสุขที่ผ่านมาเนี่ยในระยะอัน
00:24:27 → 00:24:31 ไม่ไกลไม่ใกล้เนี่ยนะครับก็จะพบว่าเดิม
00:24:31 → 00:24:34 สมัยก่อนผมก็จัดอยู่คนเดียวตอนนี้ก็มีพี่
00:24:34 → 00:24:37 อ้อยเข้ามาเสริมเนี่ยก็เป็นประโยชน์กับ
00:24:37 → 00:24:39 คุณผู้ฟังมากเพราะเราจะได้เห็นประสบการณ์
00:24:39 → 00:24:42 เพิ่มเติมขึ้นจากจากพี่อ้อยซึ่งก็เป็นผู้
00:24:42 → 00:24:46 ที่มีประสบการณ์ของชีวิตมีแง่คิดมุมมอง
00:24:46 → 00:24:49 ที่หลากหลายมากขึ้นนะครับก็วันนี้
00:24:49 → 00:24:53 ศัลยกรรมความสุขเวลาหมดลงแล้วนะครับผมและ
00:24:53 → 00:24:55 พี่อ้อยต้องขอลาไปก่อนนะครับสวัสดีครับ
00:24:55 → 00:24:59 สวัสดีค่ะ
00:24:59 → 00:25:02 ติดตามรายการทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น
00:25:02 → 00:25:08 ของไทย
00:25:08 → 00:25:12 และ YouTube Channel Thai PBS pass
00:25:12 → 00:25:17 ใช้ PBS Plus
00:25:17 → 00:25:22 [เพลง]