00:00:01 → 00:00:04 (บ๊วย) ถ้าพูดถึงการวิ่ง ประโยชน์เยอะแยะมากมาย
00:00:04 → 00:00:06 ได้แก่อะไรครับอาจารย์ต้น
00:00:06 → 00:00:06 (อ.ต้น) ก็ได้หลากหลายระบบนะครับ
00:00:07 → 00:00:08 ระบบที่หนึ่งก็คือเรื่องของระบบหัวใจ
00:00:08 → 00:00:11 ทำให้การทำงานของระบบไหลเวียนดีขึ้น
00:00:11 → 00:00:12 การทำงานของหัวใจดีขึ้น
00:00:12 → 00:00:14 ส่วนระบบที่สองก็คือเรื่องของการหายใจนะครับ
00:00:14 → 00:00:16 หายใจก็คือการแลกเปลี่ยนเรื่องของแก๊สต่าง ๆ
00:00:16 → 00:00:17 เวลาที่เราหายใจเข้าไปนะครับ
00:00:17 → 00:00:21 ส่วนระบบที่สามคือระบบกล้ามเนื้อ ก็คือทำให้เผาผลาญได้ดีขึ้น
00:00:22 → 00:00:24 (บ๊วย) โอ้โฮ...พี่ต้นครับ อันนี้เล่นพูดแต่ข้อดีนี่นา
00:00:24 → 00:00:27 แต่มีบางคนครับ เขาบอกว่าอย่าวิ่งเลย
00:00:27 → 00:00:30 เพราะถ้าเกิดวิ่งมากไป จะทำให้เข่าเสื่อม
00:00:31 → 00:00:32 วันนี้นะครับ เรามาพิสูจน์กันว่า
00:00:32 → 00:00:37 ความเชื่อนี้จะเป็นจริงหรือไม่ เดี๋ยวรู้กันครับ
00:00:43 → 00:00:44 (บ๊วย) เราจะพิสูจน์กันอย่างไรครับพี่ต้น
00:00:44 → 00:00:46 (อ.ต้น) วันนี้เรามีการใช้อุปกรณ์ตัวหนึ่ง
00:00:46 → 00:00:48 ตัวนี้มันจะวัดแรงได้โดยตรงเลย
00:00:48 → 00:00:50 ตัวนั้นก็คือ FORCE PLATE
00:00:50 → 00:00:51 (บ๊วย) FORCE PLATE
00:00:51 → 00:00:53 (อ.ต้น) ถ้าโดยหลักก็คือแผ่นรับแรงกระแทก
00:00:53 → 00:00:55 ดูว่าจริง ๆ แล้วมันมีแรงกระแทกมากน้อยแค่ไหน
00:00:55 → 00:00:58 เวลาที่เราลงน้ำหนักไป หรือว่าเรากระทำบนแผ่นนั้น
00:00:59 → 00:01:00 (บ๊วย) เราจะทดลองอะไรบ้างครับพี่ต้น
00:01:00 → 00:01:02 (อ.ต้น) เราจะทดลอง 3 อย่างครับก็คือ
00:01:02 → 00:01:04 วิ่งเร็ว วิ่งช้า และก็เดิน
00:01:05 → 00:01:09 (บ๊วย) โดยน้องแชมป์เป็นคนวิ่ง ดูว่าอะไรที่มันลงน้ำหนักมากสุด
00:01:09 → 00:01:11 เอาล่ะครับ ถ้าพร้อมแล้วทดลองเลย
00:01:11 → 00:01:13 วิธีการวัดค่า FORCE PLATE นะครับ
00:01:13 → 00:01:14 เราจะวัดเป็นนิวตัน
00:01:14 → 00:01:15 (อ.ต้น) ใช่ครับ
00:01:15 → 00:01:18 (บ๊วย) ถ้าเกิดตอนนี้ น้องแชมป์หนัก 62 กิโลกรัม
00:01:18 → 00:01:19 คูณ 10 ก็จะเป็นหลักนิวตัน
00:01:19 → 00:01:20 (อ.ต้น) ใช่ครับ
00:01:20 → 00:01:21 (บ๊วย) แต่ถ้าเกิดเราตีง่าย ๆ
00:01:21 → 00:01:22 (อ.ต้น) ตีประมาณสัก 60
00:01:22 → 00:01:24 (บ๊วย) 60 ก็เท่ากับตอนนี้ น้องเขามี 600 นิวตัน
00:01:24 → 00:01:26 เดินไปไหนมี 600 นิวตัน
00:01:26 → 00:01:26 (อ.ต้น) ครับ
00:01:27 → 00:01:30 (บ๊วย) เริ่มจากวิ่งเร็วครับ เตรียมตัว
00:01:32 → 00:01:34 เข้าที่
00:01:34 → 00:01:36 ระวัง
00:01:36 → 00:01:37 ไป
00:01:40 → 00:01:42 มาแล้วครับ ค่าที่ออกมานะครับ
00:01:42 → 00:01:43 น้องแชมป์วิ่งสปีตเลย
00:01:43 → 00:01:46 ก็คือ 1,800 นิวตันนะครับ
00:01:46 → 00:01:49 เมื่อกี้ลงเท้าซ้าย ลองวัดเท้าขวา
00:01:49 → 00:01:52 เพื่อที่เปรียบเทียบเท้าซ้ายกับเท้าขวา
00:01:52 → 00:01:53 ถ้าลงน้ำหนักไม่เท่ากัน
00:01:53 → 00:01:56 (อ.ต้น) โอกาสความเสี่ยง เรื่องเกิดการบาดเจ็บก็จะมากขึ้นใช่ไหม
00:01:56 → 00:01:57 การลงน้ำหนักอะไรต่าง ๆ
00:01:57 → 00:01:59 (บ๊วย) ถ้าซ้ายและขวาลงน้ำหนักต่างกัน
00:01:59 → 00:02:00 อ๋อ...ที่มันเจ็บอยู่ เพราะเราลงน้ำหนักเยอะนั่นเอง
00:02:01 → 00:02:02 (บ๊วย) ปรับวิธีการวิ่งให้ถูกวิธีนั่นเอง
00:02:02 → 00:02:03 (อ.ต้น) ใช่ หรืออย่างน้องแชมป์
00:02:03 → 00:02:04 เขามีปัญหาเรื่องการบาดเจ็บอยู่แล้วใช่ไหม
00:02:04 → 00:02:07 เขาจะได้รู้ว่าจริง ๆ แล้ว 2 ข้างเขาทำไมมันถึงไม่เท่ากัน
00:02:07 → 00:02:08 (บ๊วย) บาดเจ็บอะไรครับ
00:02:08 → 00:02:09 (แชมป์) เคยขาหักครับ
00:02:09 → 00:02:11 (บ๊วย) ขาหักข้างไหนครับ (แชมป์) ข้างขวาครับ
00:02:11 → 00:02:13 (บ๊วย) ข้างขวาโอเค เดี๋ยวคราวนี้ลองดูลงขาขวานะ
00:02:13 → 00:02:14 (แชมป์) ครับ (บ๊วย) เอา ลุยครับ
00:02:14 → 00:02:17 (บ๊วย) ต่อไปนะครับ ทดสอบลงน้ำหนักขาขวานะครับ
00:02:17 → 00:02:18 ไป
00:02:19 → 00:02:20 (อ.ต้น) เร็ว (บ๊วย) สปีตครับ
00:02:24 → 00:02:28 (บ๊วย) ค่าออกมาแล้วนะครับ ซ้ายกับขวาไม่เท่ากัน
00:02:28 → 00:02:30 ซ้าย 1,800 ขวา 1,600
00:02:31 → 00:02:33 เท่ากับว่า ถ้าเกิดเทียบเป็นน้ำหนักตัว
00:02:33 → 00:02:38 คือข้างซ้ายลงเป็น 3 เท่า ข้างขวา 2 เท่าเกือบ 3 เท่า
00:02:38 → 00:02:41 ความจำเป็นอยู่อย่างนี้ครับ คุณผู้ชมครับ ก็คือว่า
00:02:41 → 00:02:44 ด้วยการที่ต่างกันนิดเดียวเนี่ยครับ อาจจะดูไม่เยอะ
00:02:44 → 00:02:46 แต่เวลาเราวิ่ง ถ้าเราขยันวิ่ง
00:02:46 → 00:02:50 จำนวนชั่วโมง จำนวนก้าว ที่ลงน้ำหนักไปเรื่อย ๆ
00:02:50 → 00:02:53 แสดงว่าการใช้งานยิ่งลงน้ำหนักเยอะ
00:02:53 → 00:02:57 มันจะมีโอกาสเสื่อมถอย มากกว่าใช้งานน้อยกว่า
00:02:57 → 00:03:00 (บ๊วย) ต่อไปนะครับ เราจะทดสอบการจ๊อกกิ้งนะครับ
00:03:00 → 00:03:02 สบาย ๆ วิ่งเหยาะ ๆ ปกติ
00:03:02 → 00:03:03 ระวัง
00:03:04 → 00:03:04 ไป
00:03:15 → 00:03:16 (บ๊วย) เอาล่ะครับ
00:03:16 → 00:03:18 ทีนี้มี 2 สีแล้วอย่างที่บอก
00:03:18 → 00:03:21 สีแดงกับสีเขียว ลงเท้าซ้ายกับเท้าขวาเลย
00:03:21 → 00:03:23 (อ.ต้น) ก็จะอยู่ประมาณ 1,400 - 1,300 ใช่ไหม
00:03:23 → 00:03:24 เราดูอีกอันก็คือ
00:03:24 → 00:03:27 การวิ่งเร็วกับวิ่งช้าวิ่งจ๊อกกิ้งต่างกัน กับเรื่องแรงกระแทก
00:03:27 → 00:03:28 (บ๊วย) อ่อ...เมื่อกี้ 1,800 นะ
00:03:29 → 00:03:31 (อ.ต้น) ใช่ เพราะฉะนั้นถามว่ากรณีที่คุณเริ่มต้น
00:03:31 → 00:03:32 ร่างกายคุณยังไม่พร้อม
00:03:32 → 00:03:34 ความสามารถยังไม่พร้อม
00:03:34 → 00:03:35 คุณต้องเริ่มจากการจ๊อกกิ้งก่อน
00:03:35 → 00:03:38 ขนาดจ๊อกกิ้ง แรงก็จะอยู่ประมาณนี้
00:03:38 → 00:03:39 แต่ถ้าคุณไปเริ่มจากการวิ่งเร็วเลย
00:03:39 → 00:03:41 แล้วร่างกายคุณยังไม่พร้อม
00:03:41 → 00:03:44 อาจจะเสี่ยงต่อการเกิดการบาดเจ็บได้ง่าย
00:03:44 → 00:03:44 (บ๊วย) ต่อไปนะครับ
00:03:44 → 00:03:46 เราจะทดสอบโดยการเดินนั่นเอง
00:03:47 → 00:03:51 เดี๋ยวจะให้เดิน 2 แบบ เดินเร็ว กับ เดินปกติ
00:03:51 → 00:03:51 พร้อม
00:03:52 → 00:03:52 เดินครับ
00:03:59 → 00:04:01 (บ๊วย) มาแล้ว
00:04:01 → 00:04:02 (อ.ต้น, บ๊วย) โอ้โฮ
00:04:02 → 00:04:05 (บ๊วย) ไม่ถึง 800 กับ 1,000 นิวตัน
00:04:05 → 00:04:06 (บ๊วย) เข้าที่
00:04:06 → 00:04:07 เดินครับ
00:04:21 → 00:04:25 (บ๊วย) เดินเร็วกับเดินช้าคือเดินปกติ แตกต่างกันนิดเดียวเอง
00:04:25 → 00:04:25 (อ.ต้น) นิดเดียว
00:04:25 → 00:04:28 จริง ๆ แล้ว ถ้าเราดูเรื่องของเดินช้าเนี่ย
00:04:28 → 00:04:31 มันก็ใกล้เคียงกับน้ำหนักตัวของน้องเขาล่ะ
00:04:31 → 00:04:31 (บ๊วย) ครับ
00:04:31 → 00:04:33 (อ.ต้น) น้องเขาเฉลี่ยอยู่ที่ 600 นิวตัน
00:04:33 → 00:04:38 ถ้าเดินช้าของเขาก็อยู่ ประมาณ 650 - 700 สองข้าง
00:04:38 → 00:04:41 ซึ่งมันก็เป็นไปตามนั้น เพราะว่าเขาเคลื่อนที่แค่นิดเดียว
00:04:41 → 00:04:43 เพราะฉะนั้นแรงกระแทกก็เลยค่อนข้างน้อย
00:04:43 → 00:04:44 (บ๊วย) จากค่าที่ได้ครับพี่ต้น
00:04:44 → 00:04:46 เราจะสรุปอะไรได้บ้างครับ
00:04:46 → 00:04:47 ที่มีผลต่อเข่าของเราครับ
00:04:47 → 00:04:50 (อ.ต้น) โอเค อันแรกเลยก็คือ ความเสี่ยงนะครับ
00:04:50 → 00:04:51 ถ้าเกิดว่า ถ้าเราไล่ดูตั้งแต่
00:04:51 → 00:04:53 เดินช้า เดินเร็ว จ๊อกกิ้ง และก็วิ่งใช่ไหม
00:04:53 → 00:04:55 เพราะฉะนั้นตัววิ่งเร็ว จะถือว่ามีความเสี่ยงมากที่สุด
00:04:55 → 00:04:57 เพราะมีแรงกระแทกมากขึ้น
00:04:57 → 00:04:58 (บ๊วย) 3 เท่านะ (อ.ต้น) 3 เท่า ใช่ครับ
00:04:58 → 00:05:00 (บ๊วย) 3 เท่ากับน้ำหนักตัวนะ
00:05:00 → 00:05:02 (อ.ต้น) ใช่ ถ้าเรามองย้อนกลับว่า คนที่ต้องการที่จะเริ่มออกกำลังกาย
00:05:02 → 00:05:04 ถ้าอยู่ดี ๆ เขาไม่เคยวิ่งเลย ไม่เคยจ๊อกกิ้งเลย
00:05:04 → 00:05:08 แล้วไปวิ่ง โอกาสความเสี่ยง เรื่องการเกิดการบาดเจ็บจะค่อนข้างสูง
00:05:08 → 00:05:10 (บ๊วย) แสดงว่าทำอะไรที่มันเกินตัว มีโอกาสบาดเจ็บสูงมาก
00:05:10 → 00:05:13 (อ.ต้น) ใช่ เพราะฉะนั้น เขาควรต้องเริ่มจากเดินเร็วก่อน
00:05:13 → 00:05:14 สักพักนึงพอเริ่มพัฒนาขึ้น ดีขึ้น
00:05:14 → 00:05:18 ก็เขยิบมาเป็นเรื่องของจ๊อกกิ้ง และก็วิ่งเร็วนะครับ
00:05:18 → 00:05:20 (บ๊วย) ถ้าเรามีการซ้อมอย่างสม่ำเสมอ
00:05:20 → 00:05:22 พัฒนาการเราจากเดินเนี่ย
00:05:22 → 00:05:24 ไปจนถึงอยากวิ่งได้เนี่ย
00:05:24 → 00:05:26 ใช้เวลาประมาณเท่าไรครับพี่ต้น
00:05:26 → 00:05:26 (อ.ต้น) ช่วงแรกคงไม่ได้
00:05:27 → 00:05:29 จะบอกว่าให้เร็ว ๆ ว่าให้เดือน สองเดือน อาจจะไม่ได้
00:05:29 → 00:05:32 มันอาจจะต้องเผื่อไว้ ประมาณอย่างน้อย 6 - 8 สัปดาห์ขึ้นไป
00:05:32 → 00:05:33 ส่วนใหญ่ก็จะเริ่มจาก 20 นาที
00:05:33 → 00:05:36 หลักจากนั้นเราดีขึ้น สัปดาห์ถึงสองสัปดาห์
00:05:36 → 00:05:38 ก็ค่อย ๆ เพิ่มทีละ 5 ถึง 10 เปอร์เซ็นต์
00:05:38 → 00:05:40 จากเวลาที่ 20 นาที ก็ค่อย ๆ เพิ่มขึ้น
00:05:40 → 00:05:41 อย่างต่อเนื่องนะครับ
00:05:41 → 00:05:43 แล้วก็หมายถึงว่าวันเว้นวัน
00:05:43 → 00:05:47 (บ๊วย) เข่าจะพังหรือไม่พัง ขึ้นอยู่กับตัวเราเอง เตรียมตัว
00:05:47 → 00:05:50 (อ.ต้น) ความพร้อม (บ๊วย) ความพร้อมตัวเรามากแค่ไหน
00:05:50 → 00:05:51 (อ.ต้น) ค่อยเป็นค่อยไป
00:05:51 → 00:05:52 (บ๊วย) รู้ว่าประมาณตนมากแค่ไหน ใช่ไหมครับพี่ต้น
00:05:52 → 00:05:53 (อ.ต้น) ใช่ครับ