00:00:00 → 00:00:03 อาการอาหารติดคอ ก็มีระดับความรุนแรงที่ไม่เหมือนกัน
00:00:03 → 00:00:06 การมีความรู้เบื้องต้น เรื่องการปฐมพยาบาลอาหารติดคอ
00:00:06 → 00:00:07 มีความสำคัญมาก
00:00:07 → 00:00:13 เพราะว่าถ้าอาหารติดคอแบบอุดสนิท แล้วเราไม่ทำการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที
00:00:13 → 00:00:15 คนไข้ก็มีโอกาสเสียชีวิตได้ค่ะ
00:00:15 → 00:00:23 [เสียงดนตรี]
00:00:23 → 00:00:27 สิ่งที่สังเกตว่าอาหารนั้น หรือสิ่งแปลกปลอมนั้น
00:00:27 → 00:00:28 จะอุดสนิทหรือไม่สนิท
00:00:28 → 00:00:30 มีวิธีการดูค่ะ ยกตัวอย่างเช่น
00:00:31 → 00:00:32 ถ้าอาหารอุดสนิท
00:00:32 → 00:00:38 คนที่ร้องขอความช่วยเหลือ ก็คือ จะมีอาการพูดไม่มีเสียง
00:00:38 → 00:00:39 หรือร้องไม่มีเสียง
00:00:39 → 00:00:42 แล้วอาการจะเกิดขึ้นแบบฉับพลันทันที
00:00:42 → 00:00:46 แล้วคนไข้ก็จะมีอาการเหมือนขาดอากาศ และจะเริ่มเขียวได้
00:00:46 → 00:00:48 ถ้าอุดไม่สนิท วิธีการแยกก็คือ
00:00:48 → 00:00:54 เขายังมีเสียงพูดอยู่ เพราะว่าเสียงที่เราพูด มันมาจากหลอดลมที่ออกมา
00:00:54 → 00:00:55 ฉะนั้น ถ้าอาหารอุดไม่สนิท
00:00:55 → 00:00:59 เสียงพูดเขาหรือร้องขอความช่วยเหลือ ก็ยังมีเสียงออกมาอยู่
00:00:59 → 00:01:03 การปฐมพยาบาลเบื้องต้นสำหรับ อาหารติดคอที่อุดสนิทมีความสำคัญมาก
00:01:03 → 00:01:06 เพราะว่าการที่อาหารอุดสนิทหมายความว่า
00:01:06 → 00:01:10 ร่างกายคนเราจะขาดอากาศ ขาดออกซิเจน เพราะว่ามันอุดหลอดลม
00:01:10 → 00:01:13 ก็จะไม่มีอากาศ ออกซิเจน เคลื่อนผ่านเข้าออก
00:01:13 → 00:01:15 ฉะนั้น ก็ทำให้ขาดอากาศ
00:01:15 → 00:01:18 แล้วโดยปกติ มีการศึกษาพบว่า
00:01:18 → 00:01:22 สมองเราทนการขาดออกซิเจน ได้ประมาณ 4 นาที
00:01:22 → 00:01:23 หลังจากนั้นก็จะเสียชีวิตได้
00:01:23 → 00:01:26 [เสียงดนตรี]
00:01:26 → 00:01:30 ก่อนหน้าที่จะทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น แก่ผู้ป่วยที่อาหารติดคอ
00:01:30 → 00:01:32 เราควรที่จะต้องโทรขอความช่วยเหลือ
00:01:32 → 00:01:37 หรือว่าเรียกขอความช่วยเหลือ ให้คนที่อยู่ใกล้เคียงกับเรา ช่วยโทร 1669
00:01:37 → 00:01:41 หรือเราเองเป็นคนโทร 1669 เพื่อเรียกรถมาช่วย
00:01:41 → 00:01:43 เพราะว่าการที่เราช่วยเหลือเบื้องต้น
00:01:43 → 00:01:45 มีโอกาสที่อาหารจะหลุดหรือไม่หลุดก็ได้
00:01:45 → 00:01:49 ถ้าหากหลุด คนไข้ก็ต้องมีการดูแลต่อเนื่อง
00:01:49 → 00:01:52 แต่ถ้าเกิดอาหารที่ติดคอ หรือสิ่งแปลกปลอมที่ติดคอยังไม่หลุด
00:01:52 → 00:01:55 แล้วเกิดคนไข้หมดสติ หัวใจหยุดเต้นขึ้นมา
00:01:55 → 00:01:58 จะได้มีทีมเข้าช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที
00:01:58 → 00:02:01 [เสียงดนตรี]
00:02:01 → 00:02:04 เมื่อเด็กมีอาการเหนื่อย ร้องไม่มีเสียง
00:02:04 → 00:02:05 และเริ่มเขียว
00:02:05 → 00:02:08 เราสงสัยภาวะอุดกั้นทางเดินหายใจ
00:02:08 → 00:02:09 เมื่อเปิดปากดู
00:02:09 → 00:02:11 ก็ไม่พบสิ่งแปลกปลอมอะไรนะครับ
00:02:11 → 00:02:12 ก็ต้องเริ่มทำการช่วยเหลือ
00:02:15 → 00:02:18 โดยการคว่ำเด็กลง แล้วก็ตบที่สะบักแรง ๆ 5 ครั้ง
00:02:19 → 00:02:22 1, 2, 3, 4, 5
00:02:23 → 00:02:24 พลิกกลับมานะครับ
00:02:25 → 00:02:28 1, 2, 3, 4, 5
00:02:29 → 00:02:33 แล้วก็ตรวจดูนะครับว่ามีสิ่งแปลกปลอม อยู่บริเวณทางเดินหายใจหรือยัง
00:02:33 → 00:02:37 การปฐมพยาบาลอาหารติดคอเด็กเล็ก ต้องเน้นแบบเร็วและแรง
00:02:37 → 00:02:40 เพราะว่าถ้าไม่เร็วและแรง
00:02:40 → 00:02:42 แรงดันที่อยู่ในช่องอก มันจะไม่เพียงพอ
00:02:42 → 00:02:45 เพราะไม่ต้องกลัวว่าเด็กจะกระดูกหักหรืออะไร
00:02:45 → 00:02:50 เพราะว่าจริง ๆ แล้ว การที่เราไม่ช่วยเขา เพื่อให้อาการออกมา เขาจะเสียชีวิต
00:02:50 → 00:02:54 เราจะทำไปเรื่อย ๆ สลับหลัง 5 ครั้ง หน้า 5 ครั้ง
00:02:54 → 00:02:58 แล้วก็เช็กว่ามีสิ่งแปลกปลอม ที่อุดกั้นออกมาไหม
00:02:58 → 00:02:59 ถ้ามีให้เอาออก
00:02:59 → 00:03:01 ทำไปเรื่อย ๆ สลับไปมา
00:03:01 → 00:03:04 จนกว่าอาหารหรือสิ่งแปลกปลอมนั้น จะหลุดออกมา
00:03:04 → 00:03:09 หรือจนกว่าเด็กจะหมดสติไป แล้วเราก็จะหยุด เปลี่ยนเป็น CPR แทน
00:03:09 → 00:03:10 สิ่งที่ไม่ควรทำในเด็กเล็ก
00:03:10 → 00:03:15 คือการที่จับเด็กที่บริเวณขา แล้วก็ห้อยหัวเด็กลงมา แล้วก็เขย่า
00:03:15 → 00:03:18 วิธีนี้ไม่ได้ช่วยทำให้อาหารที่ติดหลุดออกมา
00:03:18 → 00:03:23 จะทำให้เด็กมีโอกาสที่จะได้รับบาดเจ็บ ที่ศีรษะ และเลือดออกในสมองได้
00:03:23 → 00:03:26 ก็จะทำให้เด็กมีโอกาสเสียชีวิตตามมาได้ เพราะเด็กขาดอากาศ
00:03:26 → 00:03:29 [เสียงดนตรี]
00:03:29 → 00:03:33 สำหรับเด็กโตกับผู้ใหญ่ ท่าทางจะเหมือนกัน
00:03:33 → 00:03:37 ก็คือ เป็นการยืนยันก่อนว่า ผู้ที่เราจะเข้าช่วยนั้น
00:03:37 → 00:03:40 มีอาหารติดคอจริง ๆ หรือว่าสิ่งแปลกปลอมติดคอจริง ๆ
00:03:40 → 00:03:42 ก็คือ ถ้าเขายังมีสติอยู่
00:03:42 → 00:03:46 เขาก็อาจจะเรียกเรา หรือกวักมือช่วย หรือเอามือกุมคอ
00:03:46 → 00:03:48 แต่ว่าการพูดเขา ไม่มีเสียงพูดออกมา
00:03:48 → 00:03:50 วิธีการเข้าช่วยเหลือก็คือ
00:03:50 → 00:03:52 เข้าทางด้านหลังตัวของผู้ป่วย
00:03:52 → 00:03:55 โอบมือล้อมรอบตัวผู้ป่วย
00:03:55 → 00:03:58 แล้วก็เอามือข้างหนึ่งกำ โดยที่เก็บนิ้วโป้งไว้
00:03:58 → 00:04:01 แล้วก็หันด้านนิ้วโป้งเข้าที่บริเวณลิ้นปี่
00:04:01 → 00:04:05 จากนั้นใช้มืออีกข้างหนึ่ง ช้อนท้ายบริเวณด้านนิ้วก้อย
00:04:06 → 00:04:11 แล้วผู้เข้าช่วยออกแรงกระทุ้งเข้าหาตัวเอง ในแนวเฉียงขึ้นด้วยความเร็วและแรง
00:04:11 → 00:04:15 ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าสิ่งแปลกปลอม หรืออาหารนั้นจะหลุดออกมา
00:04:15 → 00:04:19 หรือว่าคนที่อาหารติดคอนั้น จะพูดออกมามีเสียงได้
00:04:19 → 00:04:22 หรือถ้าหมดสติไป ก็ต้องเปลี่ยนเป็น CPR เช่นเดียวกัน
00:04:22 → 00:04:26 ในผู้ใหญ่ที่มีการปฐมพยาบาลด้วยการทุบหลัง
00:04:26 → 00:04:29 ที่เราเข้าใจกันว่าจะทำให้อาหารหลุดออกมา
00:04:29 → 00:04:32 จริง ๆ แล้ว การทุบหลัง ไม่ได้ทำให้อาหารหลุดออกมา
00:04:32 → 00:04:32 ซึ่งต่างจากเด็ก
00:04:32 → 00:04:35 ในเด็ก การปฐมพยาบาลเพื่อให้อาหาร
00:04:35 → 00:04:38 หรือสิ่งแปลกปลอมที่อุดกั้น ทางเดินหายใจหลุดออกมา
00:04:38 → 00:04:41 คือการทุบบริเวณสะบักสองข้าง ด้วยความเร็วและแรง
00:04:42 → 00:04:44 แต่กับผู้ใหญ่ใช้วิธีนี้ไม่ได้ผล
00:04:44 → 00:04:47 เพราะว่าเด็กตัวเล็กกว่า ต่างกับผู้ใหญ่ที่ตัวใหญ่กว่า
00:04:47 → 00:04:49 การที่เราทุบลงไป
00:04:49 → 00:04:51 ความเร็วและแรง มันไม่พอค่ะ
00:04:51 → 00:04:58 [เสียงดนตรี]
00:04:58 → 00:05:01 เจ็บป่วยฉุกเฉิน อย่าลืมโทร. 1669 นะคะ