00:00:00 → 00:00:04 คุณหมอครับเรื่องของภาวะหัวใจล้มเหลวอ่ะ
00:00:04 → 00:00:07 เราเคยได้ยินกันมาพอสมควรทีเดียวแต่ว่า
00:00:07 → 00:00:10 หนึ่งในวิธีการที่จะช่วยลดภาวะความเสี่ยง
00:00:10 → 00:00:13 เรื่องของหัวใจล้มเหลวเรื่องของการปรับ
00:00:13 → 00:00:17 ท่านั่งก่อนลุกจากเตียงจากเตียงมันช่วย
00:00:17 → 00:00:22 ได้จริงๆแล้วหนูตื่นเช้ามันจริงไหมคะคือ
00:00:22 → 00:00:26 ถ้าด้วยข้อความที่ว่าช่วยลดภาวะหัวใจล้ม
00:00:26 → 00:00:30 เหลวคงต้องเรียนว่าไม่เป็นความจริงนะคะ
00:00:30 → 00:00:34 การเกิดหัวใจล้มเหลวนั้นเกิดได้จากหลาย
00:00:34 → 00:00:37 สาเหตุมากส่วนใหญ่ก็มักจะมีเหตุกับตัวโรค
00:00:37 → 00:00:41 หัวใจเองหรือมีเหตุอื่นจากภายนอกเข้ามา
00:00:41 → 00:00:43 กระตุ้นแต่ไม่ใช่จากการเปลี่ยนแปลงท่าทาง
00:00:43 → 00:00:46 นะคะ
00:00:46 → 00:00:49 คือคือเวลาเราลุกจากเตียงบางคนก็จะมีความ
00:00:49 → 00:00:53 รู้สึกว่าเวียนหัวนิดๆเมื่อมีการปรับท่า
00:00:53 → 00:00:57 ทางข้อมูลนี้มันน่าจะใช้ได้เขาก็ทำกันมา
00:00:57 → 00:01:01 เป็นระยะหนึ่งเนี่ยจริงๆเนี่ยมันเวียนหัว
00:01:01 → 00:01:05 จากอะไรคะคุณหมอคะค่ะก็ก่อนจะอธิบายเลย
00:01:06 → 00:01:08 ค่ะอยากให้เข้าใจตรงไปของร่างกายก่อนนะคะ
00:01:08 → 00:01:12 เขาจะเอาคนปกติก่อนคนทั่วไปปกติเนี่ยค่ะ
00:01:12 → 00:01:16 เวลาที่เปลี่ยนท่าทางจากนอนมานั่งมายืน
00:01:16 → 00:01:19 เนี่ยร่างกายอย่างที่เราทราบว่ามันมีแรง
00:01:19 → 00:01:22 โน้มถ่วงใช่ไหมคะเลือดมันก็จะไหลตกไปข้าง
00:01:22 → 00:01:25 ล่างเพราะฉะนั้นมันก็มีโอกาสที่จะทำให้
00:01:25 → 00:01:29 ความดันลดลงแต่ร่างกายเรานั้นฉลาดมากก็
00:01:29 → 00:01:33 สามารถปรับร่างกายให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น
00:01:33 → 00:01:36 ให้หลอดเลือดส่วนปลายหดเกร็งเพิ่มเลือด
00:01:36 → 00:01:40 กับหัวใจทำให้รักษาความดันให้เพียงพอกับ
00:01:40 → 00:01:43 ความต้องการทำให้ไม่เกิดอาการเวียนศีรษะ
00:01:43 → 00:01:46 หรือหน้ามืดจะเป็นลมอันนี้พูดถึงคนเป็น
00:01:46 → 00:01:49 ปกติแต่อย่างไรก็ตามคนที่ไม่ปกติอย่าง
00:01:49 → 00:01:52 เช่นโดยเฉพาะผู้สูงอายุ
00:01:52 → 00:01:57 ผู้ที่มีโรคประจำตัวอย่างเช่นโรคหัวใจโรค
00:01:57 → 00:02:01 หลอดเลือดสมองหรือคนไข้เบาหวานเป็นต้น
00:02:01 → 00:02:04 อย่างนี้ค่ะกลุ่มผู้ป่วยเหล่านี้ก็จะ
00:02:04 → 00:02:07 เสี่ยงที่ว่าเวลาเปลี่ยนท่าทางด้วยความ
00:02:07 → 00:02:12 รวดเร็วร่างกายนั้นก็จะปรับตัวไม่ทันเป็น
00:02:12 → 00:02:15 ไปได้ค่ะเพราะฉะนั้นถ้าเรามีอาการแบบนี้
00:02:15 → 00:02:19 เวลาเราเปลี่ยนอิริยาบถนั่งนอนอย่างรวด
00:02:19 → 00:02:21 เร็วแสดงว่าเราอยู่ในกลุ่มเสี่ยงพวกนี้
00:02:21 → 00:02:25 แล้วใช่ไหมคะแสดงว่าจะต้องมีสาเหตุราคา
00:02:25 → 00:02:29 คืออย่างเช่นอย่างที่คุณนฤมลพูดว่าถ้าคน
00:02:29 → 00:02:38 หนุ่มๆสาวๆใช่ไหมคะ
00:02:38 → 00:02:43 แต่แน่นอนพออายุเยอะขึ้นอย่างเช่นเกิน 65
00:02:43 → 00:02:47 ปีขึ้นไปก็จะมีความเสี่ยงที่ว่าร่างกาย
00:02:48 → 00:02:52 เขาก็จะตอบสนองได้ช้าลงร่วมกับบางท่านอาจ
00:02:52 → 00:02:53 จะ
00:02:53 → 00:02:58 ดื่มน้ำไม่เพียงพอใช่ไหมคะหรือไปดื่ม
00:02:58 → 00:03:01 แอลกอฮอล์มาอะไรอย่างนี้ค่ะหรือพออายุ
00:03:01 → 00:03:04 เยอะก็ตามมาด้วยโรคประจำตัวเช่นที่เราเจอ
00:03:04 → 00:03:07 บ่อยคือเป็นความดันโลหิตสูงและถ้าเหล่า
00:03:07 → 00:03:10 นั้นก็รับประทานยาลดความดันโลหิตอีก
00:03:10 → 00:03:14 ก็จะทำให้เวลาเปลี่ยนแปลงท่าทางนั้นทำให้
00:03:14 → 00:03:18 ความดันมันลดต่ำลงไปได้อย่างนี้แหละค่ะ
00:03:18 → 00:03:21 เลยทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะหน่อยๆจนถึง
00:03:21 → 00:03:25 ปากจนถึงเหมือนจะเหมือนจะวูบเป็นลมอย่าง
00:03:25 → 00:03:28 นี้นะคะเป็นได้ค่ะในช่วงหน้าร้อนไม่
00:03:28 → 00:03:32 เกี่ยวไหมคะคุณหมอคะเห็นหลายคนเนี่ยบ่น
00:03:32 → 00:03:35 ชี้ประเด็นได้ถูกต้อง
00:03:35 → 00:03:44 คือตัวเองเป็นด้วยค่ะ
00:03:44 → 00:03:48 เรื่องอุณหภูมิใช่ไหมคะส่วนสูงเรื่องว่า
00:03:48 → 00:03:51 เหงื่อออกมากหรือบางท่านแม้แต่คนที่จะ
00:03:51 → 00:03:55 แข็งแรงนะคะไปวิ่งออกกำลังกลางแจ้งอาจจะ
00:03:55 → 00:03:58 ท่านอาจจะดื่มน้ำไม่เพียงพอหรือบางคนฟิต
00:03:58 → 00:04:01 นะคะตื่นมาแต่เช้ายังไม่ทันดื่มน้ำยังไม่
00:04:01 → 00:04:04 ทันทานอาหารก็เลยออกกำลังแล้วตรงนี้แหละ
00:04:04 → 00:04:07 ค่ะคือปัจจัยเสี่ยงเลยค่ะที่จะทำให้ท่าน
00:04:07 → 00:04:11 เหล่านั้นเนี่ยเกิดเป็นลมหรือว่าถึงขั้น
00:04:11 → 00:04:14 หมดสติได้ง่ายๆเลยทีเดียวค่ะเราเห็นตัว
00:04:14 → 00:04:17 อย่างในข่าวเยอะมากเลยอ่ะ
00:04:18 → 00:04:21 [เพลง]
00:04:21 → 00:04:25 ไหมคะเมื่อมาประกอบกับหน้าร้อนของเขาก็
00:04:25 → 00:04:27 ดันสูงมากกว่าใช่ไหมคะคุณหมอคะ
00:04:27 → 00:04:32 หมายถึงว่าถ้าจะทำให้เป็นลม
00:04:32 → 00:04:35 จริงๆต้องเรียนว่าเป็นได้ทั้งสองกรณีเลย
00:04:35 → 00:04:39 ค่ะคือคืออย่างเช่นการที่เวียนสิเวียน
00:04:39 → 00:04:42 ศีรษะมันอาจจะไม่จำเพาะนักเพราะว่าเวียน
00:04:42 → 00:04:45 ศีรษะเป็นจากอะไรก็ได้อาการเหมือนคนหน้า
00:04:45 → 00:04:46 มืดจะเป็น
00:04:46 → 00:04:50 ก็หมายความว่าเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอส่วน
00:04:50 → 00:04:53 ใหญ่ก็มักจะเป็นจากความดันค่อนข้างต่ำ
00:04:53 → 00:04:56 ส่วนความดันโลหิตสูงนั้นอาจจะเป็นลักษณะ
00:04:56 → 00:05:01 คนไข้ที่จะเล่าให้ให้คุณหมอฟังก็คืออาจจะ
00:05:01 → 00:05:02 บ่นว่า
00:05:02 → 00:05:05 ปวดศีรษะอย่างนี้ซะมากกว่าหรือเวียนหัว
00:05:05 → 00:05:08 ปวดหัวอาจจะเป็นออกไปทางอย่างนั้นมากกว่า
00:05:08 → 00:05:15 ค่ะ
00:05:15 → 00:05:20 ก็ต้องถามคุณหมอเลยว่าภาวะหัวใจล้มเหลว
00:05:20 → 00:05:23 เพราะคุณหมอครับส่วนใหญ่เนี่ยมันมันจะ
00:05:23 → 00:05:26 สามารถเกิดขึ้นได้ในในช่วงช่วงวัยไหนกัน
00:05:26 → 00:05:29 เยอะๆครับคุณหมอครับที่ๆเราจะมีโอกาส
00:05:29 → 00:05:33 สุ่มเสี่ยงเจอกันเยอะเหลือเกินนะคุณหมอ
00:05:33 → 00:05:37 ก็ต้องเรียนว่าสาเหตุของหัวใจล้มเหลวถ้า
00:05:37 → 00:05:40 พูดว่าบ่อยที่สุดนะคะสาเหตุก็จะเป็นจาก
00:05:40 → 00:05:45 หลอดเลือดหัวใจอุดตันเฉียบพลันนะคะเพราะ
00:05:45 → 00:05:47 ฉะนั้นกลุ่มอายุที่จะเป็นได้ก็เป็นได้
00:05:47 → 00:05:51 ตั้งแต่คนกลางคนจนถึงอายุมากในคนไข้ที่มี
00:05:51 → 00:05:54 ความเสี่ยงเสี่ยงอะไรก็คืออันดับแรกเลย
00:05:54 → 00:05:56 ค่ะสำหรับหมอหัวใจที่ไม่ชอบเลยก็คือสูบ
00:05:56 → 00:05:58 บุหรี่
00:05:58 → 00:06:02 ใช่ไหมคะคนไปสูบบุหรี่คนมีโรคประจำตัว
00:06:02 → 00:06:06 เช่นเบาหวานความดันโลหิตสูงเป็นต้นค่ะ
00:06:06 → 00:06:10 หรือไขมันสูงค่ะ
00:06:10 → 00:06:14 แล้วก็จะทำให้เกิดหัวใจล้มเหลวแต่หัวใจ
00:06:14 → 00:06:16 ล้มเหลวนั้นก็เป็นได้จากหลายสาเหตุอีก
00:06:16 → 00:06:26 ครับ
00:06:26 → 00:06:31 บางประเภทอันนี้ก็จะค่อนข้างกว้างนิดนึง
00:06:31 → 00:06:33 ค่ะ
00:06:33 → 00:06:37 มันไปกระตุ้นการทำงานเป็นเร็วแล้วก็แรง
00:06:37 → 00:06:42 แบบจนแบบน่ากลัวแบบนี้ใช่มั้ย
00:06:42 → 00:06:46 กล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรงแบบนี้อย่างนี้
00:06:46 → 00:06:48 เหมาะหัวใจเจอได้เรื่อยๆเลยค่ะ
00:06:48 → 00:06:53 ช่วงอายุเอ่อถ้าไม่นับช่วงกลางคนคุณหมอ
00:06:53 → 00:06:54 ครับคนวัยหนุ่มสาว
00:06:54 → 00:06:58 ณปัจจุบันจึงเพิ่มมันมีโอกาสที่จะเจอกัน
00:06:58 → 00:07:01 ได้เยอะไหมครับเพราะว่าอาจจะถ้าท่านฟัง
00:07:01 → 00:07:04 ที่คุณหมอบอกเนี่ยเรื่องของเบาหวานเอย
00:07:04 → 00:07:07 ความดันโลหิตสูงเอยเนี่ยปัจจัยหลักๆมันมา
00:07:07 → 00:07:09 จากเรื่องของอาหารการกินแล้วอาหารการกิน
00:07:09 → 00:07:11 ในปัจจุบันมันโอ้โหมันก็เต็มไปด้วยอาหาร
00:07:11 → 00:07:16 ปรุงปรุงรส
00:07:16 → 00:07:18 แปลงอะไรอย่างนี้เยอะนะครับคุณหมอฮะ
00:07:18 → 00:07:21 ก็คือปัจจุบัน
00:07:21 → 00:07:25 เรียกว่าหมอหัวใจไม่ได้หยุดเลยนะคะ
00:07:25 → 00:07:29 จากเดิมที่เห็นภาพเลยในคนที่อายุค่อนข้าง
00:07:29 → 00:07:32 อะแต่ว่ายังไงก็เยอะอาจจะแค่ 50 60 ใช่
00:07:32 → 00:07:35 ไหมคะเดี๋ยวนี้บางท่านโดยเฉพาะผู้ชาย
00:07:35 → 00:07:38 เนี่ยบางที 30 ปลายๆก็มาหาหมอหัวใจแล้ว
00:07:38 → 00:07:42 ไม่ว่าจะเป็นแบบเฉียบพลันหรือว่าเป็นแบบ
00:07:42 → 00:07:45 เรื้อรังมานะคะเพราะว่ารูปหัวใจแสดงอาการ
00:07:45 → 00:07:48 ได้ทั้งแบบเฉียบพลันและแบบเรื้อรังแล้วก็
00:07:48 → 00:07:51 เท่าที่เจอก็คือสูบบุหรี่ค่ะพูดเหมือน
00:07:51 → 00:07:52 เดิมเลยค่ะ
00:07:52 → 00:07:56 ประวัติใช้ยาเสพติดเช่นยาบ้ายกตัวอย่างยา
00:07:56 → 00:08:00 อะไรแถวนั้นเนี่ยค่ะอันนี้เป็นกลุ่มคน
00:08:00 → 00:08:02 อายุน้อยเนี่ยเราจะเจอประวัติพวกอย่างนี้
00:08:02 → 00:08:06 หรือคนไข้ที่มีพันธุกรรมค่ะคนที่มี
00:08:06 → 00:08:08 พันธุกรรม
00:08:08 → 00:08:11 ในครอบครัวเป็นโรคหัวใจคนรุ่นถัดไปก็จะมา
00:08:12 → 00:08:16 ด้วยโรคหัวใจเร็วขึ้นอย่างนี้ค่ะก็เป็น
00:08:16 → 00:08:20 ได้เช่นกันค่ะแล้วเขารุนแรงมากที่สุด
00:08:20 → 00:08:24 เนี่ยถึงขนาดที่ยังไงคะคุณหมอหัวใจเขาจะ
00:08:24 → 00:08:28 แบบ
00:08:28 → 00:08:34 หัวใจหยุดเต้นนอกโรงพยาบาลจนถึงว่าหายใจ
00:08:34 → 00:08:36 หอบเหนื่อยมากแล้วก็มาห้องฉุกเฉินคุณหมอ
00:08:36 → 00:08:39 ต้องช่วยช่วยเหลืออย่างฉุกเฉินอย่างนี้ก็
00:08:39 → 00:08:42 มีค่ะมีหลากหลายรูปแบบค่ะ
00:08:42 → 00:08:47 อาการที่คุณหมอได้ได้บอกไปก็คือมันจะมี
00:08:47 → 00:08:49 อาการเตือนก่อนใช่ไหมครับไอ้เรื่องของ
00:08:49 → 00:08:54 ภาวะหัวใจล้มเหลวเนี่ยคือผมผมเห็นว่ากีฬา
00:08:54 → 00:08:57 หลายคนนะที่ผมเห็นในต่างประเทศอยู่ที่แบบ
00:08:57 → 00:09:00 กำลังเตะฟุตบอลอยู่เนี่ยเขาก็วูบแล้วก็
00:09:00 → 00:09:04 เสียชีวิตในท้ายที่สุดมันจะมีสัญญาณหรือ
00:09:04 → 00:09:06 ว่ามีอาการอะไรตัวเองบ่งบอกไหมครับแล้ว
00:09:06 → 00:09:08 มันจะมีช่วงเขาช่วงเวลาช่วงเวลาทองในการ
00:09:08 → 00:09:10 ที่จะปั๊ม
00:09:11 → 00:09:15 เพื่อที่จะให้เขากลับมามีชีวิตได้ตามปกติ
00:09:15 → 00:09:19 แบบเดิมยังไงมันเป็นยังไงบ้างครับคุณหมอ
00:09:19 → 00:09:24 ตอบคำถามสุดท้ายก่อนนะคะว่าใช่ค่ะเออจริง
00:09:24 → 00:09:28 ๆเวลานาทีทองเนี่ยก็คือเราถ้าสมมุติว่า
00:09:28 → 00:09:31 เกิดเหตุหัวใจหยุดเต้นนอกโรงพยาบาลนาที
00:09:31 → 00:09:34 ทองก็คือเราจะต้องรีบช่วยเหลือหัวใจให้
00:09:34 → 00:09:37 เลือดไปเลี้ยงสมองให้เพียงพอภายใน 4 นาที
00:09:37 → 00:09:42 สมองจะเป็นอวัยวะที่อ่าเขาเรียกว่าอะไรนะ
00:09:42 → 00:09:46 คะขาดเลือดแล้วแล้วแย่ได้ง่ายสุดมีเวลา
00:09:46 → 00:09:50 สั้นที่สุดเพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่าหลาย
00:09:50 → 00:09:54 ครั้งก็ตอนนี้รัฐบาลก็พยายามส่งเสริม
00:09:54 → 00:09:57 เรื่องการติดเครื่องช็อคหัวใจหรือที่
00:09:57 → 00:10:00 เรียกว่าเครื่อง aed อยู่ตาม
00:10:00 → 00:10:05 สถานที่สาธารณะเช่นที่ออกกำลังกาย
00:10:05 → 00:10:09 ที่บอกว่าบางท่านคิดว่าท่านแข็งแรงดียิ่ง
00:10:09 → 00:10:12 ออกกำลังอย่างนี้ใช่ไหมคะแต่ว่าเหตุไม่
00:10:12 → 00:10:15 คาดคิดเกิดกับใครก็ได้ค่ะเพราะมันเป็น
00:10:15 → 00:10:19 เรื่องเฉยเพราะฉะนั้น 1 ก็คือรีบทำการ
00:10:19 → 00:10:21 ประเมินเบื้องต้นเราก็เรียกขอความช่วย
00:10:21 → 00:10:25 เหลือค่ะกระทรวงสาธารณสุขเรามีเบอร์ 1669
00:10:25 → 00:10:29 อยากให้ท่านผู้ฟังจดไว้เลยค่ะไม่ว่าจะ
00:10:29 → 00:10:33 เกิดเหตุที่ไหนนอกบ้านในบ้านคนใกล้ชิด
00:10:33 → 00:10:36 ท่านหรืออะไรไม่ออกท่านโทรก่อนเลยค่ะ
00:10:36 → 00:10:40 ทางทีมของสาธารณสุขยินดีช่วยเหลือค่ะให้
00:10:40 → 00:10:43 คำแนะนำได้แล้วก็มีรถรับส่งมาโรงพยาบาล
00:10:43 → 00:10:46 ใกล้ที่สุดได้แต่ยังไงก็ตามนาทีทองของเรา
00:10:46 → 00:10:51 ใช่ไหมคะอย่างน้อยๆมีเครื่องชอบไฟฟ้าที่
00:10:51 → 00:10:53 มาช่วยประเมินได้ว่าจะต้องช็อคหัวใจไหม
00:10:53 → 00:10:57 รวมถึงการช่วยฟื้นคืนชีพเบื้องต้นเนี่ย
00:10:57 → 00:11:00 แหละค่ะเป็นเป็นปัจจัยสำคัญแต่หมอก็ไม่
00:11:00 → 00:11:04 อยากเน้นอันนั้นมากอยากจะเน้นว่าเราป้อง
00:11:04 → 00:11:09 กันป้องกันผิวตรงนั้นดีกว่านะคะอย่างเช่น
00:11:09 → 00:11:12 อย่างประเด็นเรื่องเรื่องอากาศร้อนอย่าง
00:11:12 → 00:11:16 นี้ใช่ไหมคะตอนนี้ก่อนหน้านี้สัก 2
00:11:16 → 00:11:19 อาทิตย์ที่ผ่านมาพูดกันเรื่องฮิตโกรธใช่
00:11:19 → 00:11:22 ไหมคะก็อาจจะไม่ต้องถึงขั้นปลูกก็ได้ใน
00:11:22 → 00:11:24 แง่อากาศร้อนก็ทำให้คนเป็นลมได้ยังไม่
00:11:24 → 00:11:28 ต้องถึงก็ได้ก็อยากเตือนท่านผู้ฟังนะคะ
00:11:28 → 00:11:32 ไม่ว่าจะส่งอายุหรือสูงอายุนะคะไม่ว่าก็
00:11:32 → 00:11:35 ตามข้อแนะนำที่หมออยากแนะนำก็คือว่าก่อน
00:11:36 → 00:11:40 ที่ท่านจะเอ่อออกไปนอกบ้านไปออกกำลังท่าน
00:11:40 → 00:11:44 ดื่มน้ำให้เพียงพอนะคะแล้วก็จริงๆเรื่อง
00:11:44 → 00:11:48 การเปลี่ยนแปลงท่าทางเนี่ยเวลาที่จะเป็น
00:11:48 → 00:11:51 ได้บ่อยก็คือเวลาตื่นนอนนะคะที่เขาบอกก็
00:11:51 → 00:11:53 คือเพราะว่าการที่เรานอนมาทั้งคืนเนี่ย
00:11:53 → 00:11:56 ร่างกายก็จะมีการขาดน้ำได้ง่ายเพราะ
00:11:56 → 00:11:59 ฉะนั้นตอนที่ท่านตื่นขึ้นมาตอนเช้าเนี่ย
00:11:59 → 00:12:02 อาจจะค่อยๆลุกนะคะลุกขึ้นมานั่งข้างเตียง
00:12:02 → 00:12:05 ก่อนนับ 1 นาทีถ้าสบายดีแล้วก็ค่อยลุก
00:12:05 → 00:12:09 เดินลุกทำอะไรต่อไปหรืออาจจะดื่มน้ำก็
00:12:09 → 00:12:13 ดื่มแก้วก่อนแล้วค่อยไปทำกิจวัตรต่างๆอัน
00:12:13 → 00:12:16 นี้ก็เป็นข้อแนะนำที่จะช่วยลดอุบัติเหตุ
00:12:16 → 00:12:19 ที่จะเกิดจากการหน้ามืดเป็นลมจากการ
00:12:19 → 00:12:23 เปลี่ยนท่าทางอย่างรวดเร็วได้แสดงว่ามัน
00:12:23 → 00:12:26 ก็อาจเกิดขึ้นได้ก็ควรจะนั่งก่อนไม่ใช่
00:12:26 → 00:12:32 ว่าลุกพรวดพราดแล้วก็เอาเท้าลงพื้นเลยค่ะ
00:12:32 → 00:12:37 หมอก็ไม่ได้ค้านนะคะหมายความว่าวิธีที่จะ
00:12:37 → 00:12:40 ให้ทำอย่างนั้นน่ะเป็นเป็นวิธีที่เรียก
00:12:40 → 00:12:43 ว่าถ้าท่านทำได้เนี่ยเรียกว่าดีทีเดียว
00:12:43 → 00:12:47 แต่ข้อความมันอาจจะผิดไปนิดนึงว่าทำยังไง
00:12:47 → 00:12:51 แล้วเนี่ยช่วยลดหัวใจวาย
00:12:51 → 00:12:55 ค่ะมันไม่สามารถบอกว่าข้อมูลนั้นถูกต้อง
00:12:55 → 00:12:59 ได้แต่สิ่งที่ให้แชร์ให้ทำกันเนี่ยหมอว่า
00:12:59 → 00:13:03 ดีนะคะก็คือเย็นค่อยๆลุกค่อยๆนั่งแล้ว
00:13:03 → 00:13:07 ค่อยๆเดินอันนี้ 3 นาทีเนี่ยจริงๆพูดถูก
00:13:07 → 00:13:10 ต้องคือบางท่านน่ะเวลาลุกปุ๊บอาจจะเกิด
00:13:10 → 00:13:15 ได้เร็วภายใน 10 วินาที 30 วินาทีแต่บาง
00:13:15 → 00:13:18 ท่านเป็นช้ากว่านั้นเขาบอกว่าสามารถเกิด
00:13:18 → 00:13:21 ได้ช้าถึง 3 นาทีได้เลยเพราะฉะนั้นที่เขา
00:13:21 → 00:13:23 บอกว่าค่อยๆลุกช้าๆหลักนาทีถึง 3 นาที
00:13:23 → 00:13:28 เนี่ยเป็นวิธีที่ไม่ไม่ไม่แย่เลยนะคะใช่
00:13:28 → 00:13:32 คนเดียวเลยค่ะอันนี้เห็นแก่ตัวเอง
00:13:32 → 00:13:35 ในช่วงหน้าร้อนเนี่ยก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน
00:13:35 → 00:13:39 ว่าเอ๊ทำไมเราปรับเปลี่ยนท่าตามปกติเออ
00:13:39 → 00:13:43 เราลองมานั่งค่อยๆมันช่วยได้แล้วก็อากาศ
00:13:43 → 00:13:46 ร้อนทำให้หลอดเลือดขยายตัวการเตรียม
00:13:46 → 00:13:51 เหงือกใช่การก้มลงไปนะคะคุณหมอก้มลงไปต่ำ
00:13:51 → 00:14:01 ๆนี่ไม่ได้เลยนะคะค่ะ
00:14:01 → 00:14:05 นอกจากนี้อ่ะค่ะก็ยังอยากเน้นเรื่องบาง
00:14:05 → 00:14:06 ท่านอาจจะ
00:14:06 → 00:14:10 ไม่ใช่แค่เปลี่ยนท่าทางจากที่นอนนะคะพูด
00:14:10 → 00:14:14 ถึงการเข้าห้องน้ำด้วยค่ะผู้สูงอายุอย่าง
00:14:14 → 00:14:17 เช่นท่านตื่นมาเข้าห้องน้ำตอนดึกอย่างนี้
00:14:17 → 00:14:19 ค่ะ
00:14:19 → 00:14:30 [เพลง]
00:14:30 → 00:14:34 อุบัติเหตุซะมากกว่าที่ว่าพอมีอาการแล้ว
00:14:34 → 00:14:36 ก็ล้มหัวฟาด
00:14:36 → 00:14:42 ล้มกระดูกหักเป็นต้นค่ะ
00:14:42 → 00:14:46 มันมันควรจะต้องทำกันทุกช่วงวัยไหมครับ
00:14:46 → 00:14:49 คุณหมอครับเรื่องของเวลาก่อนที่จะลุกขึ้น
00:14:49 → 00:14:52 ไปทำกิจกรรม 1 2 3 4 เนี่ยคุณจะต้อง
00:14:52 → 00:14:55 นั่งตั้งสติก่อนสัก
00:14:55 → 00:14:58 1 2 3
00:14:58 → 00:15:02 เป็นคำถามที่ดีมากเลยค่ะแต่คำตอบไม่มีค่ะ
00:15:02 → 00:15:05 จริงๆ
00:15:05 → 00:15:08 ไม่ว่าอยากจะเรียนว่าอย่างที่พี่ที่เล่า
00:15:08 → 00:15:12 ตั้งแต่เริ่มเริ่มรายการว่าคนปกติร่างกาย
00:15:12 → 00:15:15 เขาจะปรับตัวได้เพราะฉะนั้นเนี่ยเมื่อ
00:15:15 → 00:15:18 ไหร่เราไม่ปกติค่ะหมอเขายกตัวอย่างคำว่า
00:15:18 → 00:15:22 เราไม่ปกติก่อนนะคะแม้จะท่านเกิดอายุน้อย
00:15:22 → 00:15:25 อาจจะ 20 ปี
00:15:25 → 00:15:30 เช่นช่วงนั้นไม่สบายเป็นไข้ช่วงนั้นท้อง
00:15:30 → 00:15:33 เสียทานอาหารไม่ได้
00:15:33 → 00:15:37 ช่วงนั้นพักผ่อนไม่เพียงพอช่วงนั้น
00:15:37 → 00:15:40 ดื่มน้ำไม่เพียงพอหรือดื่มแอลกอฮอล์มา
00:15:40 → 00:15:43 เป็นต้นค่ะเมื่อร่างกายท่านไม่ปกติค่ะ
00:15:43 → 00:15:46 ท่านต้องทำสิ่งอย่างเงี้ยช้าๆค่ะแต่ถ้า
00:15:46 → 00:15:49 ร่างกายแข็งแรงปกตินะคะหมอว่าการเปลี่ยน
00:15:49 → 00:15:52 ท่าทางที่ที่ทำอยู่เป็นกิจวัตรหมอบอกว่า
00:15:52 → 00:15:56 ไม่มีปัญหาแต่เพียงแต่ว่าถ้าทำให้ช้าลง
00:15:56 → 00:15:59 ได้เช่นว่าเราลุกมานั่งแล้วโอเคไม่มี
00:15:59 → 00:16:02 อาการอะไรแล้วไปต่อถ้าทำได้เป็นนิสัยหรือ
00:16:02 → 00:16:06 ว่าที่ดีเนี่ยมันก็ย่อมส่งผลดีต่อแต่ท่าน
00:16:06 → 00:16:11 เองค่ะคือนึกภาพกันดีดๆดีดตัวเองจากที่
00:16:11 → 00:16:15 นอนของหลายๆคนนะหนุ่มสาวเนี่ยเขาก็ทำของ
00:16:15 → 00:16:19 เขาอยู่ปกติแต่ว่าเมื่อไหร่ที่
00:16:19 → 00:16:23 พบว่าอย่างที่อาจารย์บอกนะคะเออมีอาการ
00:16:23 → 00:16:27 อ่อนเพลียดื่มแล้วแอลกอฮอล์นะคะเออ
00:16:27 → 00:16:31 อาจจะท้องเสียมันก็ลุกพรึบพับไม่ไหวนะผม
00:16:31 → 00:16:35 เคยเป็นนะครับคุณหมอคือเวลาตอนเช้าพอตื่น
00:16:35 → 00:16:41 มาปั๊บเรารีบดีดตัวเองว่า
00:16:41 → 00:16:44 มันเลยต้องแบบนั่งอันนี้มันเป็นอาการ
00:16:45 → 00:17:10 หนึ่งของปฏิกิริยาของร่างกายไหมครับ
00:17:10 → 00:17:13 ค่อยๆนึกไว้ตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่ช่วงวัย
00:17:13 → 00:17:28 ไหนเอาง่ายๆ 30 35 ขึ้นดีไหมคะ
00:17:28 → 00:17:31 จริงๆถ้านับตามเกณฑ์ที่เขาว่าอายุเยอะเรา
00:17:31 → 00:17:34 ต้องระวังก็คือเกิน 65 ปีแล้วค่ะตามสถิติ
00:17:34 → 00:17:38 เขาบอกว่าพบอาการเหล่านี้ได้ถึง 30% นะคะ
00:17:38 → 00:17:42 เพราะฉะนั้นก็แต่คนอายุน้อยเนี่ยเขาบอกพบ
00:17:42 → 00:17:44 ได้สัก 5%
00:17:44 → 00:17:47 กว่า 50 ปี
00:17:47 → 00:17:52 เอาง่ายๆเขาบอกว่าก็ลืมตามาค่อยๆตะแคง
00:17:52 → 00:17:55 ก่อนที่จับนอนหงายตรงขึ้นไปก็ไม่ได้ตั้ง
00:17:55 → 00:17:58 แต่แคงก่อนค่อยๆขยับขึ้นมานั่งอะไรอย่าง
00:17:58 → 00:18:03 นี้นะคะไม่ถึงขนาดนั้น 3 นาทีตรงนี้ 30
00:18:03 → 00:18:05 วินาที
00:18:05 → 00:18:09 ว่าเราอยู่ตรงไหนยังไงเนาะไม่ต้องบีบตัว
00:18:09 → 00:18:13 นะเพราะคุณหมอบอกว่าอาการที่ผมเป็นเกิด
00:18:13 → 00:18:15 ขึ้นในผู้สูงอายุผมต้อง
00:18:15 → 00:18:22 เตือนตัวเองแล้วมันเกิดอะไรขึ้น
00:18:22 → 00:18:26 ท่านใดมีอาการเหล่านี้บ่อยๆจริงๆอยากให้
00:18:26 → 00:18:29 ปรึกษาแพทย์นะคะเพราะว่าบางครั้งเนี่ย
00:18:29 → 00:18:32 ท่านอย่างเช่นถ้าท่านรู้ว่ามีโรคประจำตัว
00:18:32 → 00:18:35 อยู่เดิมหรือว่าทานยาอะไรอยู่ยาบางอย่าง
00:18:35 → 00:18:37 หรือยาที่ท่านได้มาใหม่อาจจะเป็นตัว
00:18:37 → 00:18:41 กระตุ้นที่ทำให้ท่านมีอาการเหล่านี้ได้ก็
00:18:41 → 00:18:44 อยากให้กลับไปปรึกษาแพทย์ประจำตัว
00:18:44 → 00:18:47 นะคะหรือบางท่านไม่เคยตรวจสุขภาพไม่เคย
00:18:47 → 00:18:50 เช็คร่างกายถ้ามีอาการเหล่านี้บ่อยๆหมอ
00:18:50 → 00:18:53 แนะนำให้ไปตรวจสุขภาพและเช็คบางครั้งโรค
00:18:53 → 00:18:57 บางอย่างซ่อนเร้นนะคะไม่ต้องไม่เจอค่ะ
00:18:57 → 00:19:01 ก็อย่างนี้นะก็ลองไปตรวจสุขภาพเรื่องของ
00:19:01 → 00:19:03 การตรวจสุขภาพครับคุณหมอครับควรจะต้อง
00:19:03 → 00:19:06 ตรวจการเป็นประจำทุกปีไหมครับคุณหมอครับ
00:19:06 → 00:19:09 ในช่วงวัยไหนควรจะต้องเริ่มไปตรวจสุขภาพ
00:19:09 → 00:19:13 กัน
00:19:13 → 00:19:17 เมื่อก่อนเนี่ยเขาแนะนำว่าอายุเกิน 40 ปี
00:19:17 → 00:19:20 แม้จะเรียกว่าไม่มีประวัติครอบครัวอะไร
00:19:20 → 00:19:23 อย่างนี้นะคะแต่ถ้าท่านใดมีประวัติ
00:19:23 → 00:19:26 ครอบครัวมีโรคประจำตัวเช่นในครอบครัวท่าน
00:19:26 → 00:19:30 คุณพ่อคุณแม่พี่น้องมีโรคหัวใจโรคเบาหวาน
00:19:30 → 00:19:33 โรคความดันอย่างที่เรียนไปข้างต้นว่าคน
00:19:33 → 00:19:36 ที่มีประวัติครอบครัวหรือพันธุกรรมเนี่ย
00:19:36 → 00:19:39 ก็อาจจะมาหามีอาการโรคเหมือนกันเนี่ยได้
00:19:39 → 00:19:42 เร็วขึ้นงั้นบางทีอายุตั้งแต่ 35 ขึ้นไป
00:19:42 → 00:19:46 แนะนำให้ตรวจสุขภาพได้แล้วค่ะแต่ว่าจะ
00:19:46 → 00:19:49 ต้องทุกปีไหมเนี่ยก็ขึ้นอยู่กับว่าเช็ค
00:19:49 → 00:19:52 ครั้งที่ 1 นั้นมีอะไรผิดปกติหรือไม่ค่ะ
00:19:52 → 00:19:55 แต่สิ่งที่คุณหมอย้ำมาตั้งแต่ต้นว่าเป็น
00:19:55 → 00:19:58 ศัตรูกับเรื่องหัวใจ
00:19:58 → 00:20:00 พฤติกรรมการ
00:20:00 → 00:20:07 สำคัญจริงๆค่ะ
00:20:07 → 00:20:13 เป็นพาพาหะเป็นตัวเป็นตัวสารตั้งต้นในการ
00:20:13 → 00:20:17 ทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆเลยนะ
00:20:17 → 00:20:19 คะโรคหลอดเลือดสมองด้วย
00:20:19 → 00:20:23 โรคปอดด้วยนะคะทั้งในแง่ของลมโป่งพองแล้ว
00:20:23 → 00:20:27 ก็มะเร็งปอดด้วยสุดท้ายคุณหมอมีอะไรที่จะ
00:20:27 → 00:20:31 แนะนำการลุกนั่งจากที่นอนหรือว่าเปลี่ยน
00:20:31 → 00:20:35 อิริยาบถต่างๆอย่างรวดเร็วมันมีข้อดี
00:20:35 → 00:20:38 อย่างไรกับการที่เราจะต้องมานั่งขึ้นหน้า
00:20:38 → 00:20:43 ที่ชีวิตพิจารณาหรือเราควรทำได้อย่างตาม
00:20:43 → 00:20:45 ใจเรายังไงคะคุณหมอคะ
00:20:45 → 00:20:47 [เพลง]
00:20:47 → 00:20:50 ก็อยากให้ทุกท่านอันดับแรกเลยดูแลสุขภาพ
00:20:51 → 00:20:53 นะคะโดยเฉพาะช่วงหน้าร้อนให้ดีในเรื่อง
00:20:53 → 00:20:58 ของไม่ให้ขาดน้ำนะคะ
00:20:58 → 00:21:02 การเป็นลมนะคะโดยเฉพาะภิกษุอันดับ 2
00:21:02 → 00:21:04 เรื่องการเปลี่ยนท่าทางเนี่ยคือถ้าท่าน
00:21:04 → 00:21:07 สามารถทำได้ไม่ว่าจะช่วงอายุไหนเนี่ยอยาก
00:21:07 → 00:21:11 ให้ทำช้าๆค่ะไม่ว่าจะเป็นรู้สึกที่นอนมา
00:21:11 → 00:21:14 นั่งมาเดินหรือจะไปบางท่านที่เจอบ่อย
00:21:14 → 00:21:16 เนี่ยแม้แต่อายุน้อยๆก็คือนั่งยองๆแล้ว
00:21:16 → 00:21:19 ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วบางคนหน้ามืดหมด
00:21:19 → 00:21:23 สติได้เลยนะคะเพราะฉะนั้นก็สิ่งเหล่านี้
00:21:23 → 00:21:28 เป็นเรื่องง่ายๆที่ท่านทำเองได้นะคะแล้ว
00:21:28 → 00:21:31 ก็ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุอันที่ไม่คาดคิด
00:21:31 → 00:21:34 หรือเหตุที่จะทำให้เสียใจภายหลังได้ก็ก็
00:21:34 → 00:21:36 ฝากไว้ค่ะ
00:21:36 → 00:21:38 ปรับเปลี่ยนอิริยาบถระมัดระวังกันให้ดีนะ
00:21:38 → 00:21:40 คะแล้วก็เลิกบุหรี่กัน
00:21:41 → 00:21:43 เรื่องของสุขภาพอาหารการกินพฤติกรรมการ
00:21:43 → 00:21:46 ใช้ชีวิตสำคัญมากๆนะครับวันนี้ต้องขอ
00:21:46 → 00:21:48 ขอบพระคุณคุณหมอมากๆนะครับที่มาให้ความ
00:21:48 → 00:21:50 รู้กับเราในค่ำคืนวันนี้นะครับคุณหมอครับ
00:21:50 → 00:21:54 ขอบคุณค่ะ