ทำไมการมี Work-Life Balance ถึงสำคัญต่อความ Productive ในระยะยาว

[PODCAST] Re-Mind | EP.6 - 7 วิธีเพิ่ม Productivity | Mahidol Channel

จากช่อง : Mahidol Channel มหิดล แชนแนล


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:03 [เสียงดนตรี]

00:00:0300:00:06 You're listening to Mahidol Channel Podcast.

00:00:0600:00:08 Listen for a better life.

00:00:0800:00:11 ฟังเพื่อชีวิตที่ดีกว่า

00:00:1100:00:14 และนี่คือรายการพอดแคสต์ของช่อง Mahidol Channel

00:00:1400:00:16 โดย มหาวิทยาลัยมหิดล

00:00:1600:00:20 [เสียงดนตรี]

00:00:2000:00:23 เครียด เศร้า มีความทุกข์ หาทางออกไม่ได้ ไม่รู้จะคุยกับใคร

00:00:2300:00:26 อยากให้ทุกคนมาฟังมหิดลแชนแนลพอดแคสต์

00:00:2600:00:29 ที่จะมาช่วยคุณในการจัดการ ปัญหาสุขภาพทางใจ

00:00:2900:00:33 ในรายการ Re-Mind รู้ทันปัญหาสุขภาพจิต สำรวจอารมณ์ความคิด

00:00:3400:00:36 เข้าใจพฤติกรรมของตนเองและคนใกล้ตัว

00:00:3600:00:39 กับผม หมอหลิว นายแพทย์สมบูรณ์ หทัยอยู่สุข

00:00:4000:00:45 จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล

00:00:4500:00:49 เป็นอย่างไรบ้างครับ กับเย็นวันจันทร์ต้นสัปดาห์

00:00:4900:00:53 ที่เราคุยกันไปเมื่อ EP ที่แล้ว เราคุยกันเรื่องของ Burnout ใช่ไหมครับ

00:00:5400:00:56 EP นี้ เราอยากจะมาชวนคุยกันอีกเรื่องหนึ่ง

00:00:5600:00:58 ที่ผมเกริ่นไปตั้งแต่ EP ที่แล้วว่า

00:00:5900:01:02 แล้วถ้าเราอยากทำงานให้ได้ดี ๆ

00:01:0200:01:06 เราอยากใช้เวลาที่มีอยู่ 24 ชั่วโมง

00:01:0600:01:08 ให้มันมีคุณค่า

00:01:0800:01:09 ให้เรารู้สึกว่า

00:01:1000:01:13 ทำไม 24 ชั่วโมงของเรา บางทีมันไม่เท่าคนอื่น

00:01:1300:01:16 แต่มันจะทำอย่างไรให้มันมีคุณค่าเท่า ๆ กัน

00:01:1600:01:22 แล้วผลิตผลงาน หรือผลิตสิ่งที่เรารู้สึกว่า มีคุณค่าได้เท่ากับอีกหลาย ๆ คน

00:01:2200:01:26 ที่เราชื่นชม แล้วเราก็ยอมรับนับถือ

00:01:2700:01:28 เราจะทำกันอย่างไร

00:01:2800:01:32 แล้วเราจะให้ความสำคัญกับงาน หรือสิ่งที่เราทำในชีวิตอย่างไร

00:01:3300:01:40 วันนี้ผมอยากชวนคุณผู้ฟังและคุณผู้ชมทุกท่าน ได้มารู้จักกับวิธีเพิ่มความ Productive

00:01:4000:01:43 และในช่วงท้ายก็ตรงกันข้าม

00:01:4300:01:48 ผมอยากจะชวนทุกคนมาฟัง ในเรื่องของ Counterproductive นะครับ

00:01:4800:01:50 ซึ่งถ้าไปมองแล้ว คนที่ Productive

00:01:5000:01:53 เขาจะมีลักษณะอย่างไร หรือเขาจะทำอะไรออกมา

00:01:5300:01:57 ผมเชื่อว่า Productive แต่ละคน ให้ความหมายไม่เหมือนกัน

00:01:5700:01:58 แต่ชวนคิดอย่างนี้ครับว่า

00:01:5900:02:03 เวลาที่เรามี Productivity หรือว่าเราเป็นคน Productive

00:02:0400:02:05 เราควรจะเป็นคนอย่างไร

00:02:0600:02:07 คือคนที่ทำงานได้เยอะ ๆ ไหม

00:02:0800:02:12 หรือเป็นคนที่ทำงานที่มีคุณค่า แล้วทำได้สำเร็จ

00:02:1300:02:14 แบบไหนกันแน่

00:02:1400:02:17 ดังนั้นจริง ๆ การที่เราจะเป็น คนที่มี Productive ได้

00:02:1700:02:22 เราต้องมีการจัดลำดับความสำคัญในการใช้ชีวิต

00:02:2200:02:26 เน้นย้ำอย่างนี้นะครับ "ในการใช้ชีวิต" ขีดเส้นใต้ 2 เส้น

00:02:2600:02:29 ไม่ใช่เฉพาะเรื่องของการจัดการเวลาเท่านั้น

00:02:2900:02:34 Productive เอง ไม่ใช่การบริหารเวลา เพื่อที่จะทำได้ทุกอย่าง

00:02:3400:02:37 เราไม่มีทางทำได้ทุกอย่างแน่ ๆ นะครับ

00:02:3700:02:42 ในช่วงอายุหรือในช่วงวัยที่ มันมีอะไรต่ออะไรเข้ามามหาศาล

00:02:4200:02:45 แต่บางทีมันก็เป็นเรื่องของการบริหารความคิด

00:02:4500:02:47 เพื่อจะไปจัดการเวลา

00:02:4700:02:52 เพื่อจะไปทำงานหรือทำบางสิ่งบางอย่าง ออกมาได้อย่างมีคุณภาพ

00:02:5200:02:55 ได้อย่างมีความสำคัญ ได้เหมาะกับสิ่งที่เรามีอยู่

00:02:5500:03:00 จริง ๆ มันก็อาจจะคล้าย ๆ กับ เรื่องของการบริหารจัดการต่าง ๆ

00:03:0000:03:02 คล้าย ๆ กับเรื่องของเศรษฐศาสตร์

00:03:0200:03:06 ที่เวลามีอยู่น้อย แต่สิ่งที่ต้องทำ มันมีอยู่เยอะ

00:03:0600:03:08 แล้วมันจะไปลงตัวอย่างไร

00:03:0800:03:10 เพื่อให้สิ่งที่มันทำมา

00:03:1000:03:11 มันทำให้เราพอใจ

00:03:1100:03:14 มันทำให้คนที่ได้รับผลจากสิ่งเหล่านั้นพอใจ

00:03:1500:03:15 อย่างนี้ครับ

00:03:1500:03:19 เวลาที่เราทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด หรือทำงานอย่างหนึ่งอย่างใด

00:03:2000:03:23 คนเรานะครับ จะมีความแตกต่างกันคือ

00:03:2300:03:26 เราจะให้คุณค่าไม่เหมือนกัน

00:03:2600:03:30 บางคนให้คุณค่าในงานที่ออกมามาก ๆ

00:03:3000:03:31 มาก ๆ มาก ๆ เลย

00:03:3200:03:33 ดังนั้น Productive ของเขาคนนั้น

00:03:3400:03:36 มันอาจจะเป็นเรื่องของปริมาณงานที่ออกมามาก

00:03:3600:03:40 แต่บางคน Productive ไม่ใช่ปริมาณงานที่มาก

00:03:4000:03:44 แต่เป็นสิ่งที่เขารู้สึกว่าทำแล้วดีที่สุด

00:03:4400:03:47 ดีที่สุดก็คือ ในชิ้นงานนั้น ๆ เขารู้สึกว่า "มันใช่"

00:03:4800:03:48 มันต้องแบบนี้

00:03:4800:03:51 มันดีที่สุดเท่านั้น มันถึงจะ Productive ในสายตาเขา

00:03:5200:03:55 ดังนั้น Productive ของแต่ละคน อาจจะไม่เหมือนกัน

00:03:5600:03:59 ผมอยากจะชวนทุกคน กลับไปทบทวนตัวเองหน่อยนะครับว่า

00:03:5900:04:02 ถ้าโฟกัสเป็นเรื่องงาน เราให้คุณค่ากับเรื่องอะไรกันแน่

00:04:0300:04:04 ปริมาณงาน

00:04:0400:04:05 คุณภาพของงาน

00:04:0600:04:09 หรือบางคนคือความสนุกในการทำงาน

00:04:0900:04:13 บางคนชอบเลยนะถ้าไปทำงานแล้ว Enjoy

00:04:1300:04:16 มีเพื่อนร่วมงานที่ดี ไปที่ไหนแล้วรู้สึกทักทายใครต่อใครได้

00:04:1600:04:18 เขาก็รู้สึกว่าเขา Productive ในวันนั้น

00:04:1800:04:22 หรือบางคนต้องการ การทำแล้วได้รับการยอมรับสูง ๆ

00:04:2300:04:25 ทำแล้วเขารู้สึกว่ามีคนชื่นชมในผลงาน

00:04:2500:04:29 ว่านี่วันโน้นได้ไปฟังคุณหมอพูดบรรยายที่นั่น

00:04:2900:04:31 แล้วชื่นชมเลย

00:04:3100:04:33 ผมอาจจะมองว่า ผม Productive

00:04:3300:04:35 หรือบางคนคือมองที่ว่า

00:04:3500:04:37 ผลของงานที่ทำนั้น

00:04:3700:04:40 มันทำให้เกิดประโยชน์มากแค่ไหน

00:04:4100:04:44 ผมยกตัวอย่างเช่น บางคนทำงานเกี่ยวกับสุขภาพ

00:04:4400:04:46 เช่น เป็นบุคลากรทางการแพทย์

00:04:4600:04:50 เขารู้สึกว่าเขาทำไปแล้ว ผู้รับบริการได้ผลลัพธ์ที่ดี

00:04:5000:04:51 เขาก็รู้สึกว่า Productive

00:04:5100:04:55 บางคนเช่น ทำเรื่องของออกแบบบ้าน สมมุติ

00:04:5500:04:58 ทำแล้ว ลูกค้าซื้อบ้านอยู่ แล้วมีความสุข

00:04:5900:05:00 เขาก็รู้สึกว่าเขา Productive

00:05:0100:05:06 ดังนั้น จริง ๆ แล้ว Productive จะขึ้นอยู่กับ Value

00:05:0600:05:09 จะขึ้นอยู่กับการให้คุณค่า การให้ความหมายของคน ๆ นั้น

00:05:0900:05:11 ซึ่งไม่เหมือนกัน

00:05:1100:05:14 แล้วมันก็ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันด้วยนะครับ

00:05:1400:05:15 เพราะว่าอย่างไรก็ตามแล้ว

00:05:1500:05:18 แต่ละคน การให้คุณค่าและความหมาย ไม่เหมือนกันแน่ ๆ

00:05:1800:05:22 แล้วมันก็ส่งผลต่อความ Productive ที่ไม่เหมือนกันนะครับ

00:05:2300:05:24 ย้อนคิดตรงนี้ให้ดีนะครับ

00:05:2500:05:26 เพื่อที่เดี๋ยวเราจะไปกันต่อ

00:05:2600:05:29 ว่าเราจะไปดูว่า วิธีการสร้าง Productive ทำอย่างไร

00:05:2900:05:30 แต่ว่าเราต้องแน่ใจก่อนว่า

00:05:3000:05:33 ตัวเราเอง เราให้คุณค่าและความหมาย กับอะไรกันแน่

00:05:3300:05:35 แล้วเราจะไปสร้าง Productive กับมันอย่างไร

00:05:3600:05:41 [เสียงดนตรี]

00:05:4100:05:44 หลังจากที่เรารู้แล้วว่า Productive คืออะไร

00:05:4400:05:48 เรารู้แล้วว่าคุณค่าและความหมายของแต่ละอัน ส่งผลต่อ Productive อย่างไร

00:05:4900:05:54 ผมจะชวนทุกคนมารู้จักกับ วิธีการเพิ่มความ Productive ให้ตัวเอง

00:05:5400:05:56 แบ่งเป็นทั้งหมด 7 ข้อนะครับ

00:05:5700:05:58 มาที่ข้อแรกนะครับ

00:05:5900:06:02 คือการแบ่งพื้นที่การทำงานให้ชัดเจน

00:06:0200:06:05 แบ่งพื้นที่การทำงานคืออะไร

00:06:0500:06:08 แบ่งพื้นที่การทำงาน คือ พื้นที่ทางกายภาพเลยนะครับ

00:06:0800:06:10 โดยเฉพาะในยุคปัจจุบัน

00:06:1000:06:12 บางคน work from home

00:06:1200:06:15 ดังนั้นคือการแบ่งพื้นที่การทํางาน ให้ชัดเจนเลยนะครับ

00:06:1500:06:17 ผมพูดถึงออฟฟิศก่อนแล้วกัน ออฟฟิศทั่ว ๆ ไปก่อน

00:06:1700:06:19 ที่เรานั่งกัน ทำงานอยู่ สำหรับพนักงานออฟฟิศ

00:06:1900:06:23 มุมไหนเป็นมุมที่เราจะเอาไว้เป็นมุมพิมพ์งาน

00:06:2300:06:25 บริเวณไหนเป็นบริเวณที่จะประชุมงาน

00:06:2500:06:29 บริเวณไหนเป็นบริเวณที่จะ หย่อนใจในที่ทำงานของเรา

00:06:2900:06:30 มีสัดส่วนชัดเจน

00:06:3100:06:33 ถ้าเป็นที่บ้านของเรา

00:06:3300:06:36 ซึ่งผมเชื่อว่าอาจจะยากกว่าที่ออฟฟิศ

00:06:3600:06:39 เพราะว่าที่บ้านบางทีพื้นที่มันเคยเป็น ที่อยู่อาศัยอย่างเดียวใช่ไหม

00:06:3900:06:40 พอต้องมาทำงานได้ด้วยนี่

00:06:4000:06:42 มันก็...บางทีมันก็ทับซ้อนกัน

00:06:4300:06:45 แต่ถ้าแบ่งได้ มันก็ควรจะมีนะครับ

00:06:4500:06:47 เช่น มีห้องที่สำหรับทำงานโดยเฉพาะเลย

00:06:4800:06:50 แต่ถ้าบางบ้าน อาจจะกว้างไม่พอ หรือบางคอนโดกว้างไม่พอ

00:06:5000:06:52 เราใช้วิธีการแบ่งพื้นที่

00:06:5200:06:55 หรือกั้นสัดส่วนก็ได้ครับ มีฉากมากั้น

00:06:5500:06:58 หรือมีชั้นเตี้ย ๆ มาวาง หรือมีต้นไม้มาวาง อันนี้

00:06:5800:07:02 บางทีมันก็ช่วยเรื่องของ การแบ่งพื้นที่ทางกายภาพในบ้านได้

00:07:0200:07:04 หรือโซนนี้สำหรับลูก

00:07:0400:07:06 โซนนี้สำหรับคุณยาย

00:07:0600:07:10 โซนนี้สำหรับอะไร อันนี้ก็ต้องแบ่งกันไปให้ชัดเจน

00:07:1000:07:13 การแบ่งพื้นที่การทำงานให้ชัดเจน

00:07:1300:07:16 มันเป็นการบอกสมองของเรา

00:07:1700:07:19 มันเป็นการตั้งเงื่อนไขกับสมองของเรา

00:07:2000:07:22 เช่น สมมุติผมนั่งโต๊ะตัวนี้

00:07:2200:07:24 หมายความว่า ผมต้องทำงาน

00:07:2400:07:29 เมื่อไหร่ที่เรามานั่งตรงโต๊ะตัวนี้ ด้วยเก้าอี้ตัวนี้ที่มีพนักพิงแบบนี้

00:07:2900:07:32 เรารู้สึกว่า เออ ฉันต้องทำงานแล้ว

00:07:3300:07:34 ฉันจะไม่เอามือถือขึ้นมากด

00:07:3500:07:37 เพราะว่าฉันชินกับการที่นั่งตรงนี้ แล้วต้องทำงาน

00:07:3900:07:40 สมองเราสอนง่าย ๆ แบบนี้เลยนะครับ

00:07:4000:07:43 มันไม่ซับซ้อน แค่แบ่งพื้นที่ให้ชัด

00:07:4300:07:45 จัดวางอะไรต่าง ๆ นานาให้ชัด

00:07:4600:07:48 ในทางเดียวกัน

00:07:4800:07:50 ก็คือพื้นที่อื่น เช่น

00:07:5000:07:52 ตรงนี้เป็นโซนพักผ่อน

00:07:5200:07:54 เป็นโซนที่เราจะนั่งเพื่อดูทีวี

00:07:5500:07:57 เราก็จะไม่เอาคอมพิวเตอร์ไปนั่งทำงาน

00:07:5800:08:03 เราก็จะไม่เอามือถือไป Conference ตรงนั้น

00:08:0300:08:06 เพราะว่ามันจะเป็นการที่บอกสมองว่า

00:08:0600:08:08 ตกลงเป็นที่ทำงานหรือเป็นที่พักผ่อนกันแน่

00:08:0900:08:11 มันจะทำให้สมองงงครับ

00:08:1100:08:13 สมองงง การเรียนรู้ไม่เกิด

00:08:1400:08:16 ก็จะเกิดความสับสนเวลาที่ต้องทำอะไรบางอย่าง

00:08:1600:08:21 แล้วมันจะทำให้ทุก ๆ อย่างในชีวิต ดูสับสนและผสมปนเปกันไปทั้งหมด

00:08:2200:08:24 ง่าย ๆ ถ้าเราไปดูเด็กเล็ก

00:08:2400:08:25 บ้านไหนมีลูกเล็กนะครับ

00:08:2500:08:29 ช่วง work from home บางทีลูกจะงงแล้ว

00:08:2900:08:32 เวลาที่พ่อแม่ไม่ได้ไปทำงานทุกวัน บางวันพ่อแม่อยู่บ้าน

00:08:3200:08:34 กิจวัตรเขารวนครับ

00:08:3400:08:35 เด็กน่ะ สังเกตได้ง่าย ๆ เลย

00:08:3500:08:38 เมื่อไหร่ที่เขารวน เขาจะมีอาการงอแง

00:08:3800:08:40 เขาอาจจะมีการร้องกวนผิดปกติ

00:08:4100:08:44 วันไหนบางทีพ่อแม่อยู่บ้าน เขาก็รู้สึกว่าเขานึกว่าเป็นวันหยุด

00:08:4400:08:45 เขาก็จะเข้ามาหาพ่อกับแม่

00:08:4600:08:49 แต่ถ้าเราตั้งกติกาเงื่อนไขให้ชัดเจน เช่น

00:08:4900:08:51 มุมนี้เป็นมุมที่แม่จะนั่งทำงาน

00:08:5100:08:54 มุมนี้เป็นมุมที่พ่อจะนั่งประชุม

00:08:5400:08:55 หนูเข้ามาไม่ได้

00:08:5500:08:59 หรือถ้าเมื่อไหร่ที่ พ่อกับแม่นั่งเก้าอี้ตัวนี้แล้ว

00:08:5900:09:01 แสดงว่าพ่อแม่ต้องทำงาน

00:09:0200:09:04 หนูจะเข้ามายุ่งไม่ได้

00:09:0400:09:06 หนูต้องไปอยู่กับคุณยาย หนูต้องไปอยู่กับพี่เลี้ยง

00:09:0700:09:09 แบบนี้ เด็กเข้าใจเลยนะครับ

00:09:0900:09:12 แสดงว่ามนุษย์เราเรียนรู้ได้ สมองทุกสมองเรียนรู้ได้

00:09:1200:09:15 ถ้าเกิดการแบ่งพื้นที่ทางกายภาพอย่างชัดเจน

00:09:1500:09:17 เป็นวิธีง่าย ๆ วิธีแรก

00:09:1800:09:21 วิธีที่ 2 ในการเพิ่ม Productive คืออะไร

00:09:2100:09:25 คือ การที่เราไม่ทำงานแบบ Multitasking

00:09:2600:09:29 หลาย ๆ คนปัจจุบันชอบทำใช่ไหม

00:09:2900:09:31 เช่น บางคนฟังพอดแคสต์อยูุ่

00:09:3200:09:35 หมอก็เชื่อว่า บางทีกำลังเปิดดูอย่างอื่นไปด้วย

00:09:3500:09:40 บางคนสมัครสื่อออนไลน์ ที่เปิดได้หลาย ๆ แอปพร้อม ๆ กัน

00:09:4000:09:42 บางทีแอบเปิดโซเชียลอื่น ๆ ไปด้วยนะ

00:09:4200:09:43 กลับมาก่อน กลับมาก่อน

00:09:4300:09:45 กลับมาอยู่กับพอดแคสต์นี้ก่อน

00:09:4500:09:46 แล้วจะเพิ่ม Productive ยังไง

00:09:4700:09:48 เราไม่ควร Multitasking นะครับ

00:09:4900:09:50 เพราะอะไรรู้ไหมครับ

00:09:5000:09:54 จริง ๆ แล้วสมองของเราไม่ได้เก่งขนาดนั้นนะ

00:09:5400:09:58 มนุษย์เราไม่ได้ถูกออกแบบมา เพื่อการ Multitasking

00:09:5800:10:01 การคงสมาธิ การโฟกัส

00:10:0100:10:05 ทำได้อย่างเดียว ในขณะจิตเดียวเท่านั้น

00:10:0500:10:07 ไม่สามารถทำได้หลาย ๆ อย่างพร้อม ๆ กัน

00:10:0800:10:10 ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น เขาถึงบอกไงครับว่า

00:10:1000:10:11 เวลาขับรถ

00:10:1100:10:13 ไม่แนะนำให้คุยโทรศัพท์

00:10:1300:10:14 เพราะอะไร

00:10:1400:10:16 เพราะมันจะมีการแบ่งสมาธิไป

00:10:1700:10:18 เพื่อไปใช้กับการคุย

00:10:1800:10:21 แทนที่จะโฟกัสถนนที่อยู่ตรงหน้า

00:10:2100:10:22 แล้วมันทำให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรง

00:10:2200:10:24 แล้วหลาย ๆ คนพอเวลาเกิดอุบัติเหตุ ก็จะรู้สึกว่า

00:10:2400:10:27 รู้งี้ฉันไม่โทรศัพท์ดีกว่า

00:10:2700:10:29 ทุกคนก็รู้งี้กันหมดนะ

00:10:2900:10:32 เหมือนกันครับ เวลาทำงานก็เช่นเดียวกัน

00:10:3200:10:34 บางทีถ้างานผิดพลาด เรารู้สึกว่า

00:10:3400:10:37 รู้งี้ เราไม่ทำอันโน้นอันนี้ไปด้วย ระหว่างที่ทำงานดีกว่า

00:10:3700:10:41 เพราะคนเราไม่ได้ถูกออกแบบมา เพื่อ Multitasking ไงครับ

00:10:4100:10:47 ดังนั้น การโฟกัส การคงสมาธิกับการทำงาน ถึงเป็นเรื่องสำคัญ

00:10:4700:10:51 งานหลาย ๆ อย่าง บางทียิ่งงานที่เราทำแล้วชิน

00:10:5100:10:53 เรามักจะลืมในการโฟกัส

00:10:5300:10:56 เรามักจะคิดว่า โอ๊ย ง่าย ๆ เดี๋ยวเราก็ทำเสร็จ

00:10:5600:10:57 แต่หลายต่อหลายรายแล้วนะครับ

00:10:5700:10:59 ตกม้าตายจากเรื่องง่าย ๆ นี่แหละ

00:10:5900:11:01 จากเล็ก ๆ น้อย ๆ นี่แหละ

00:11:0100:11:03 แล้วบางทีส่งผลมหาศาล

00:11:0300:11:06 แล้วเราก็นึกว่า รู้งี้ให้ฉันไม่ Multitasking ดีกว่า

00:11:0600:11:08 ดังนั้น ลดการ Multitasking นะครับ

00:11:0800:11:12 โดยเฉพาะในน้อง ๆ ในวัยรุ่น

00:11:1200:11:14 หรือว่าในวัยของนักศึกษา

00:11:1400:11:17 บางทีเขาชินกับเรื่องของ Multitasking เป็นอย่างมาก

00:11:1700:11:23 จนกระทั่งไม่รู้ว่า จริง ๆ แล้ว คนเรา ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อ Multitasking

00:11:2300:11:26 แล้ววิธีการที่ 3 ของการเพิ่มความ Productive

00:11:2600:11:28 คือเรื่องของการจัดลำดับความสำคัญ

00:11:2900:11:30 ชวนมองอย่างนี้ครับว่า

00:11:3000:11:32 งานในชีวิตของคนเรานี่

00:11:3200:11:38 ถ้าเราแบ่ง มันจะมีทั้งงานที่สำคัญ กับไม่สำคัญใช่ไหมครับ

00:11:3800:11:41 ผมเพิ่มอีกตัวแปรหนึ่งไป คือเรื่องของความด่วน

00:11:4100:11:42 ด่วน หรือไม่ด่วน

00:11:4300:11:44 จับคูณเลยนะครับ

00:11:4400:11:47 มันจะแบ่งเป็นทั้งงานสำคัญและด่วน

00:11:4700:11:49 งานสำคัญ แต่ไม่ด่วน

00:11:4900:11:52 งานไม่สำคัญ แต่ด่วน

00:11:5200:11:55 งานไม่สำคัญ แถมยังไม่ด่วน

00:11:5500:11:56 เอ้า มาดูทีละอันกัน

00:11:5600:11:59 โฟกัสที่ตัวของงานที่สำคัญเลยครับ

00:11:5900:12:01 ยังไงสำคัญก็ต้องทำใช่ไหม

00:12:0100:12:06 ถ้าสำคัญ แล้วมันมาโดยที่เรารู้

00:12:0600:12:09 มันมีแผนได้ อันนี้เราเรียกว่า สำคัญแต่ไม่ด่วน

00:12:0900:12:10 จริง ๆ อยากให้ทำอันนี้ก่อน

00:12:1000:12:13 เพราะงานที่สำคัญ เราต้องใช้เวลากับมัน

00:12:1300:12:17 เราต้องให้ ทุ่มเททรัพยากรที่เรามีกับมัน

00:12:1700:12:18 และทำให้เสร็จให้เร็ว

00:12:1800:12:22 เพื่อที่มันจะไม่แปรเปลี่ยนไปเป็น งานสำคัญที่ด่วน

00:12:2200:12:23 เพราะว่าถ้าสำคัญแล้วด่วน

00:12:2300:12:25 บางทีเรามักจะทำออกมาไม่ดี

00:12:2500:12:28 เพราะมันมีกรอบเวลาที่มันจำกัด และมันแคบ

00:12:2800:12:30 ถ้าเราทำงานที่สำคัญได้ดี

00:12:3000:12:32 ผมเชื่อว่าเราจะ Productive มาก ๆ เลยนะครับ

00:12:3200:12:35 เพราะว่างานที่ออกมามันจะทำให้เราพึงพอใจ

00:12:3500:12:37 ผู้รับผลผลิตผลงานของเราไป เขาก็จะพึงพอใจ

00:12:3700:12:41 แต่ส่วนที่ไม่อยากให้ไปยุ่งกับมันมาก

00:12:4100:12:43 แต่มันมักจะมากวนชีวิตของเรา

00:12:4300:12:44 คืองานที่ไม่สำคัญ

00:12:4400:12:46 คำมันบอกอยู่แล้วว่ามันไม่สำคัญ

00:12:4600:12:48 ถ้ามันไม่สำคัญ แต่บางทีมันต้องทำ

00:12:4900:12:51 มันต้องทำเพราะว่ามันเป็นหน้าที่ของเรา

00:12:5100:12:54 หรือบางทีมันเป็นเพราะ... แหม...ฟังแล้วน่าเห็นใจ

00:12:5400:12:56 ไม่มีใครทำ เราก็เลยต้องเป็นคนทำ

00:12:5600:12:59 เรามักจะไปใช้เวลากับเรื่องของงาน ที่ไม่สำคัญ แต่ไม่ด่วน

00:13:0000:13:03 เช่น ฉันชอบทำอันนี้ เพราะฉันชอบทำ มันง่าย ฉันก็เลยไปทำ

00:13:0300:13:05 แต่ถ้าทำบ่อย ๆ บ่อย ๆ

00:13:0500:13:08 คุณจะกลายไปเป็นคนที่ องค์กรไม่ค่อยเห็นความสำคัญนะ

00:13:0800:13:11 เพราะว่าคุณทำได้แต่งานที่ไม่สำคัญ แถมยังไม่ด่วน

00:13:1100:13:14 แต่บางงานมันเป็นงานที่ไม่สำคัญ แต่มันด่วน

00:13:1500:13:16 ก็อาจจะต้องเลือกเหมือนกันว่า

00:13:1600:13:19 เอ๊ะ ต้องทำ เพราะถ้าไม่ทำ มันจะไปกระทบกับคนอื่น

00:13:1900:13:22 ก็อาจจะต้องทำ เพื่อไม่ให้เป็นดินพอกหางหมูนะครับ

00:13:2200:13:23 ผ่านไปแล้ว 3 ข้อนะครับ

00:13:2300:13:30 สำหรับข้อที่ 4 อันนี้เป็นเรื่องของ การผัดวันประกันพรุ่ง

00:13:3000:13:32 โอ้โฮ พวกเราได้ยินเรื่องนี้ มาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก

00:13:3300:13:35 เราอยู่ในโรงเรียน คุณครูสอนมาตลอดว่า

00:13:3500:13:39 อย่าผัดวันประกันพรุ่งนะลูก ไม่งั้นเดี๋ยวดินจะพอกหางหมูต่าง ๆ นานา

00:13:3900:13:41 เราฟังกันมาตลอด

00:13:4100:13:44 บอกลูกตัวเองเวลาที่เขาทำงานไม่เสร็จ เราก็บอกมาตลอด

00:13:4400:13:47 แต่บางที กับตัวเราบางทีเราทำไม่ได้

00:13:4700:13:48 เราทำไม่ได้เพราะอะไร

00:13:4800:13:51 บางที เราเองไม่ชอบงานที่เราจะต้องทำ

00:13:5200:13:54 เราเองเรารู้สึกว่างานที่เราทำ มันไม่สนุก

00:13:5400:13:57 มันน่าเบื่อ มันไม่ได้ผลตอบแทนที่มันดีพอ

00:13:5700:13:58 เราก็เลยบอก เอ้า ไว้เดี๋ยวค่อยทำ

00:13:5900:14:02 แล้วพอไว้เดี๋ยวค่อยทำ ไว้เดี๋ยวค่อยทำ ไว้เดี๋ยวค่อยทำเรื่อย ๆ

00:14:0200:14:05 จากงานไม่ด่วน มันกลายเป็นงานด่วนไง

00:14:0500:14:07 แล้วถ้างานนั้นมันดันสำคัญ

00:14:0800:14:10 แล้วมันไม่ด่วน มันมาเป็นด่วน

00:14:1000:14:12 เกิดผลเสียหายเยอะนะครับ เวลาถ้าเกิดเราทำไม่เสร็จ

00:14:1200:14:15 หรือมันทำแล้ว ประสิทธิภาพมันไม่ได้ดีเท่าเดิม

00:14:1500:14:17 มันจะไม่ Productive นะครับ

00:14:1700:14:20 ดังนั้น การที่เราเลิกผัดวันประกันพรุ่ง

00:14:2000:14:22 จัดลำดับความสำคัญ มันก็เลยสัมพันธ์กัน

00:14:2200:14:28 ในขณะเดียวกัน ระหว่างทางจริง ๆ มันมี สิ่งที่มันมาดึงความสนใจเราไปตลอดเลย

00:14:2800:14:32 เช่น วันนี้มีซีรีส์ตอนใหม่ออกอากาศ

00:14:3300:14:35 วันนี้มีเกมใหม่

00:14:3500:14:38 ที่มา stream ให้ดูพอดี

00:14:3800:14:39 ต้องไปทำพอดี

00:14:3900:14:45 คนเราบางทีก็จะไปใช้เวลากับเรื่องอื่น ๆ ที่เป็นเรื่องของการพักผ่อนหย่อนใจ

00:14:4500:14:48 จนกระทั่งผัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อย ๆ

00:14:4800:14:51 แล้วก็ให้เหตุผลกับตัวเองด้วยว่า ทำไมฉันจะไม่ทำ

00:14:5100:14:53 ทำไมฉันจะไม่ทำงานถึงสิ่งที่ควรจะทำ

00:14:5300:14:55 แล้วก็รบกวนและเบียดเบียนตัวเองไปเรื่อย ๆ

00:14:5500:14:58 จนกระทั่งมันเกิดความไม่ Productive นะครับ

00:14:5900:15:03 ข้อที่ 5 สำหรับการเพิ่มความ Productive คือ

00:15:0300:15:06 ลดการใช้สื่อโซเชียล

00:15:0600:15:09 แล้วหันมาทำกิจกรรมกับคนใกล้ชิด คนรอบตัว

00:15:0900:15:13 คล้าย ๆ กับข้อที่บอกไป เรื่องของผัดวันประกันพรุ่ง

00:15:1300:15:14 เพราะสื่อโซเชียลต่าง ๆ นานา

00:15:1400:15:18 สื่อสังคมออนไลน์ พร้อมที่จะดึงเราออกไปทั้งหมด

00:15:1800:15:20 แต่ไม่ใช่มหิดลแชนแนลพอดแคสต์ของเรานะ

00:15:2000:15:23 เพราะของเราให้สาระกับทุกคนตลอดเวลาจริง ๆ

00:15:2300:15:27 ถ้าเกิดฟังแล้ว ใช้แล้วรู้สึกว่ามันเสียเวลา

00:15:2700:15:30 เคยเป็นไหมเสาร์อาทิตย์ บางทีไถสื่อสังคมออนไลน์

00:15:3000:15:33 ไถจนกระทั่งหมดแล้ว วนกลับมาก็ยังไถอีก

00:15:3300:15:34 แต่ไม่รู้จะออกไปไหน

00:15:3400:15:36 เพราะบางทีใช้เยอะ ใช้จนชิน

00:15:3600:15:40 แต่จริง ๆ แล้วคนในบ้าน คนในครอบครัว คนรอบตัวเราหลาย ๆ คน

00:15:4000:15:43 มีความน่าสนใจ มีเรื่องราว

00:15:4400:15:47 หรือมีสิ่งที่เราควรจะสื่อสารพูดคุยกัน

00:15:4700:15:52 การที่เราได้กลับไปสื่อสาร ได้กลับไปพูดคุย กับคนรอบข้างและทำกิจกรรมร่วมกันนี่

00:15:5200:15:55 มันจะเติมเรื่องของความสัมพันธ์ในบ้านครับ

00:15:5500:15:58 การเติมความสัมพันธ์ในบ้านจะเพิ่มอะไรครับ

00:15:5800:16:01 เพิ่มฮอร์โมนที่เราเรียกว่า ออกซิโตซิน

00:16:0100:16:05 ออกซิโตซินเป็นฮอร์โมน ที่ช่วยเรื่องของความสัมพันธ์ในครอบครัว

00:16:0600:16:09 เพิ่มสายใยของคนในครอบครัวโดยไม่รู้ตัว

00:16:0900:16:12 แล้วก็ไปลดฮอร์โมน ที่เป็นฮอร์โมนแห่งความเครียดโดยไม่รู้ตัว

00:16:1300:16:15 ซึ่งถ้าอยู่ในสื่อสังคมออนไลน์

00:16:1500:16:16 มันแทนกันไม่ได้ครับ

00:16:1600:16:19 มันแทนการมีปฏิสัมพันธ์ต่อหน้ากันไม่ได้แน่ ๆ

00:16:1900:16:22 ดังนั้นแนะนำ ถ้าอยากเพิ่ม Productive ลดโซเชียลสักหน่อย

00:16:2200:16:25 ในวันที่เรามีเวลาในการอยู่ด้วยกันนะครับ

00:16:2600:16:31 ข้อที่ 6 คือเรื่องของการทำกิจกรรม หรือทำงานอดิเรกที่เราสนใจ

00:16:3200:16:35 ผมใช้กว้าง ๆ เพราะว่างานอดิเรก ที่แต่ละคนสนใจไม่เหมือนกัน

00:16:3600:16:38 บางคนชอบออกกำลังกาย

00:16:3800:16:40 ชอบไปฟิตเนส ชอบไปยิม

00:16:4000:16:43 บางคนชอบออกไปเดินรอบ ๆ หมู่บ้าน

00:16:4300:16:45 บางคนชอบออกไปเดินใต้คอนโด

00:16:4500:16:48 มีวิธีการต่าง ๆ นานามากมายหลากหลาย การออกกำลังกาย

00:16:4800:16:50 บางคนไม่ออกกำลังกาย

00:16:5000:16:52 ทำกิจกรรมที่ตัวเองสนใจเช่นอะไร

00:16:5200:16:53 อ่านหนังสือ

00:16:5300:16:55 ไปเดินชอปปิง

00:16:5500:16:58 ไปดูหนัง ไปฟังเพลง

00:16:5800:17:00 ไปเล่นกับน้องหมาน้องแมวที่บ้าน

00:17:0100:17:04 สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้คือกิจกรรม งานอดิเรก

00:17:0400:17:07 หรือ Activity ที่แต่ละคนสนใจ ซึ่งสามารถไปทำได้

00:17:0700:17:10 แต่เน้นย้ำแบบนี้ครับ Activity ที่สนใจ

00:17:1000:17:15 ต้องเป็น Activity ที่ไม่ก่อให้เกิดผลเสีย หรือผลกระทบเชิงลบนะครับ

00:17:1500:17:19 เพราะบางที บางพฤติกรรมไปทำแล้ว สนุกชั่วครั้งชั่วคราว

00:17:1900:17:23 แต่ในระยะยาวส่งผลเสียมหาศาล อันนี้ก็ไม่แนะนำเช่นเดียวกัน

00:17:2400:17:26 ข้อสุดท้ายของการเพิ่มความ Productive นะครับ

00:17:2600:17:30 คือให้ความสำคัญกับเรื่องของ Work-Life Balance

00:17:3100:17:36 ผมเชื่อว่ามนุษย์ Gen Y หรือ Gen Z เน้นตรงนี้มาก ๆ เรื่องของ Work-Life Balance

00:17:3700:17:42 ทำไมพวกเราถึงไม่ทำงานจนกระทั่ง โอ้โฮ...ถาโถม

00:17:4200:17:44 ทำไมพวกเราถึงไม่ทำงานหามรุ่งหามค่ำ

00:17:4500:17:47 เพราะว่าคน Gen Y หรือ Gen Z รู้สึกว่า

00:17:4700:17:51 เราควรที่จะมีเวลาให้ตัวเอง

00:17:5200:17:54 ในความสมดุลของชีวิต

00:17:5400:17:56 ชีวิตไม่ได้มีแค่งาน งาน ๆ

00:17:5600:18:00 หลาย ๆ คนบอกว่า ถ้ามีเรื่องครอบครัวมา ฉันไปครอบครัวก่อน

00:18:0000:18:03 ถ้ามีเรื่องแฟนมา ฉันไปเรื่องแฟนก่อน

00:18:0300:18:05 ถ้ามีเรื่องลูกมา ฉันไปเรื่องลูกก่อน

00:18:0600:18:08 แบบนี้แต่ละคนให้คุณค่าไม่เหมือนกันนะ

00:18:0900:18:13 ซึ่งอยากชวนคิด สำหรับคนที่เป็นหัวหน้างาน

00:18:1400:18:17 บางทีหัวหน้างานที่อยู่ในฐานะผู้บังคับบัญชา

00:18:1700:18:20 บางคนอาจจะไม่เข้าใจลูกทีม

00:18:2000:18:23 เพราะว่าบางทีผู้บังคับบัญชาหรือว่าหัวหน้า

00:18:2300:18:27 ก็รู้สึกว่ามุ่งที่งานเป็นหลัก จะต้องอย่างนั้นอย่างนี้เท่านั้น

00:18:2700:18:29 แต่สุดท้ายมันไม่ไปด้วยกัน

00:18:3000:18:34 ถ้าสุดท้ายมุ่งที่งานอย่างเดียว ไม่เกิด Work-Life Balance ลูกทีมไม่เอาด้วย

00:18:3400:18:35 คุณจะไปทำงานกับใคร

00:18:3600:18:37 มันไม่เหลือใครทำงานกับคุณนะ

00:18:3700:18:39 คุณเอาบริษัทคนเดียวไหวไหม

00:18:3900:18:41 พาองค์กรไปรอดคนเดียวไหวไหม

00:18:4100:18:43 ผมเชื่อว่าไม่ไหวนะ

00:18:4300:18:46 และถ้าอยากทำงานกับ คนรุ่น Gen Y หรือ Gen Z นี่นะครับ

00:18:4700:18:50 Work-Life Balance เขาให้คุณค่าอย่างมาก ๆ เลยทีเดียว

00:18:5100:18:55 Work-Life Balance ของพวกเขา ก็อาจจะมีการให้รางวัลตัวเองในวันหยุด

00:18:5500:18:59 มีเวลา ถึงจะทำงานหนักแค่ไหน แต่เขาก็จะมาออกกำลังกายตอนเย็นทุกวัน

00:18:5900:19:01 เขาจะเข้ายิมตามตารางที่เขาวางไว้ทุกวัน

00:19:0200:19:05 ดังนั้น การที่เขาไม่ได้ทำงานนอกเวลา

00:19:0500:19:07 การที่เขาไม่ได้ทำงานเยอะเท่าคุณ

00:19:0700:19:11 ไม่ได้แปลว่าเขาขี้เกียจ หรือไม่ได้แปลว่าเขาไม่ Productive นะครับ

00:19:1100:19:15 สิ่งนั้นที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ อาจจะส่งผลต่อ Productive ในระยะยาว

00:19:1500:19:18 ซึ่งสำคัญกว่า Productive ระยะสั้น

00:19:1800:19:23 หลังจากเราฟังเรื่องของ การเพิ่ม Productive ไปแล้ว 7 วิธี

00:19:2300:19:25 ทีนี้มาฝั่งตรงกันข้ามบ้าง

00:19:2500:19:27 จาก 7 อันนี้เราเหลือ 5

00:19:2700:19:32 [เสียงดนตรี]

00:19:3200:19:36 5 พฤติกรรมการทำงานที่ถ่วงความเจริญก้าวหน้า

00:19:3600:19:38 โอ้โฮ ฟังแล้วปวดใจ เดี๋ยวขอเป็นภาษาอังกฤษแล้วกันนะ

00:19:3900:19:42 5 Counterproductive Work Behavior

00:19:4200:19:44 หมายความว่าไม่ควรทำนะ

00:19:4400:19:50 เดี๋ยวฟังก่อน ข้อแรกคือ คนที่ชอบวิจารณ์ คนที่ชอบออกความเห็น

00:19:5000:19:51 คนกลุ่มนี้เป็นไง

00:19:5200:19:55 พูดเก่ง ตำหนิเก่ง

00:19:5600:19:58 หรือเรียกง่าย ๆ ปากเก่ง

00:19:5800:20:01 ใช้ปากทำงานนะ ไปที่ไหนไม่มีใครชอบหรอกครับ

00:20:0100:20:03 คนกลุ่มนี้มักจะส่งพลังทางลบ

00:20:0300:20:07 เห็นอะไรก็ตำหนิ เห็นอะไรก็ไม่ชอบอย่างนั้นอย่างนี้ไม่ดี

00:20:0700:20:10 คนเหล่านี้ มักจะมีคนจับกลุ่มกันนินทา

00:20:1100:20:12 เพื่อจะบอกว่า แหม...ทีตัวเองไม่ทำ

00:20:1200:20:15 ชอบสั่ง ชอบบอกคนนั้นคนนี้ ชอบตำหนิคนนั้นคนนี้

00:20:1500:20:17 ทำได้ไหมตัวเองน่ะ อะไรอย่างนี้ครับ

00:20:1700:20:21 ดังนั้นแล้วอย่างแรกคือ เราไม่อยากให้วิจารณ์หรือไม่อยากให้ตำหนิ

00:20:2100:20:24 จนกระทั่งส่งผลกระทบทางลบกับคนอื่นนะครับ

00:20:2400:20:29 พฤติกรรมที่ 2 ที่ไม่แนะนำให้ทำคือ คนที่ชอบทำงานเดิม ๆ ซ้ำ ๆ

00:20:2900:20:31 ในยุคของศตวรรษที่ 21

00:20:3100:20:35 เราพูดถึงทักษะที่เรียกว่า Reskill, Upskill

00:20:3600:20:39 ทักษะเดิม ๆ ที่ทำซ้ำ ๆ ได้

00:20:3900:20:41 ใช้ความง่ายซ้ำ ๆ

00:20:4100:20:43 เชื่อผมไหมครับ อนาคตคุณจะไม่มีงานทำ

00:20:4300:20:46 เพราะว่าคุณจะถูกหุ่นยนต์ทํางานแทน

00:20:4600:20:51 AI เก่งมาก ๆ ในการทำงานที่ซ้ำ ๆ เหมือนเดิม

00:20:5100:20:54 ดังนั้น ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณไม่อยาก ถูกหุ่นยนต์แย่งงาน

00:20:5500:21:00 มาชวนกันเพิ่มทักษะตัวเอง มาชวนกันหาทักษะใหม่ ๆ ว่า

00:21:0000:21:02 ฉันจะทำยังไง ฉันจะทำอะไร ต้องเพิ่มแล้วครับ

00:21:0300:21:05 ยิ่งคนที่อาวุโสมากขึ้นในการทำงาน

00:21:0500:21:10 คนกลุ่มนี้ องค์กรคาดหวังว่า คุณจะเป็นเมนเทอร์ให้คนอื่นได้

00:21:1000:21:11 คุณจะโค้ชคนอื่นได้

00:21:1100:21:14 คุณจะ Contribute ให้องค์กรได้ มากกว่าเด็ก ๆ ที่จบใหม่ ๆ

00:21:1400:21:17 ดังนั้น ไม่แนะนำให้ทำงานเดิม ๆ ซ้ำ ๆ

00:21:1700:21:20 พฤติกรรมที่ 3 ที่จะเกิดการ Counterproductive นะครับ

00:21:2000:21:23 คือกลุ่มที่ไม่มีการวางเป้าหมาย ในการดำเนินชีวิต

00:21:2400:21:26 หรือเรียกง่าย ๆ ก็คือ ใช้ชีวิตไปวัน ๆ

00:21:2700:21:30 คนที่ไม่มีการวางเป้าหมายในการดำเนินชีวิต

00:21:3000:21:32 มักจะเริ่มผิดพลาดที่ Step แรก

00:21:3200:21:36 คือ การที่เขาไม่รู้ว่าตัวเขาเอง ให้คุณค่าและความหมายกับเรื่องอะไร

00:21:3700:21:44 เขาไม่รู้ว่าตัวเขาเองกำลังอยู่ในจุดไหน ของเส้นทางการเดินทางของชีวิตการทำงาน

00:21:4500:21:47 แน่นอนเวลาที่ไม่รู้เส้นทาง ไม่รู้เป้าหมาย

00:21:4800:21:52 มันก็เหมือนเรือที่แล่นไป แล้วไม่รู้แผนที่ว่าจะไปที่ไหน

00:21:5200:21:54 มันก็ไปถึงก็มีแต่ทะเลเวิ้งว้าง

00:21:5400:21:57 ไปถึงตรงนั้นก็แล้วแต่ เจอสัตว์อะไร เจออะไรมาขวาง

00:21:5700:22:00 ก็ชนไป แล้วก็แก้ปัญหาเฉพาะหน้ากันไปวัน ๆ

00:22:0000:22:02 มันจะไม่ Productive อย่างรุนแรงนะครับ

00:22:0200:22:06 เพราะว่ามันทำ แล้วมันจะไปเจอแต่เรื่องของงานที่ไม่สำคัญ

00:22:0600:22:09 แต่มันด่วนตลอดเวลา เพราะมันไม่เคยมีเป้าหมายว่าจะทำไปทำไม

00:22:0900:22:12 ดังนั้น ชวนตั้งเป้าหมาย เพื่อไม่ให้ถ่วงความเจริญนะครับ

00:22:1200:22:17 พฤติกรรมที่ 4 คือ คนที่ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง

00:22:1700:22:19 คนที่ขาดความเชื่อมั่นในตัวเองนี่

00:22:1900:22:22 จะทำให้ Counterproductive ได้อย่างไรบ้าง

00:22:2200:22:24 เป็นเพราะว่าเวลาที่ไม่เชื่อมั่นแล้วนี่

00:22:2500:22:26 มันจะไม่กล้าทำอะไรเลยนะครับ

00:22:2600:22:28 เวลาที่จะทำอะไรแต่ละอย่าง

00:22:2800:22:30 ก็จะกลับมาตั้งคำถามกับตัวเองว่า

00:22:3000:22:34 เอ๊ะ มันจะดีไหม เดี๋ยวไปถามคนนี้ก่อนดีกว่า

00:22:3400:22:36 เอ๊ะ หัวหน้าจะว่าหรือเปล่านะ

00:22:3600:22:39 เอ๊ะ เพื่อนร่วมงานจะมองฉันยังไงนะ

00:22:3900:22:41 เอ๊ะ แล้วถ้ามีคนเอาไปโพสต์โซเชียล

00:22:4100:22:44 เอ๊ะ ในกลุ่มไลน์บริษัท จะมีคนเมาท์ฉันหรือเปล่านะ

00:22:4400:22:45 โน่น นี่ นั่น โน่น

00:22:4500:22:47 สุดท้ายคืออะไรครับ ไม่ทำ

00:22:4700:22:50 ไม่ทำก็มักจะโดน คนที่ Productive กว่า เอาไปทำ

00:22:5000:22:53 คุณก็จะต้องมาทำงานเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ที่ไม่มีใครทำนะครับ

00:22:5300:22:56 ส่วนพฤติกรรมสุดท้ายของ Counterproductive

00:22:5600:22:58 เรื่องของการไม่เปิดใจรับฟัง

00:22:5900:23:00 จริง ๆ การไม่เปิดใจรับฟัง

00:23:0000:23:04 มันเป็นการสะท้อนถึง การไม่ยอมรับในความแตกต่าง

00:23:0400:23:06 ไม่ยอมรับในความหลากหลายครับ

00:23:0600:23:08 คนที่ไม่เปิดใจรับฟัง

00:23:0800:23:12 ไม่เปิดใจ จะส่งผลกับตัวเองและส่งผลต่อคนอื่น

00:23:1200:23:13 เพราะอะไร ตัวเองก็จะหงุดหงิด

00:23:1400:23:17 ไม่โอเค ไม่พึงพอใจกับสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่

00:23:1700:23:19 ในขณะเดียวกันส่งผลต่อคนอื่นอย่างไร

00:23:1900:23:21 ถ้าคนนั้นเป็นหัวหน้า

00:23:2100:23:23 เป็นคนที่เป็นผู้บังคับบัญชา

00:23:2300:23:25 หรือคนนั้นเป็นคนสำคัญในทีม

00:23:2500:23:27 ก็มักจะคอยขัดคนอื่นตลอดเวลา

00:23:2700:23:29 เพราะว่าเขาจะไปบอกอันนั้นไม่ดี อันนั้นไม่เหมาะ

00:23:2900:23:30 ให้ฟังเขา ให้เชื่อเขาอย่างเดียว

00:23:3100:23:34 แต่ถ้าคน ๆ นั้นเป็นลูกทีม ไม่เปิดใจ ไม่ฟัง

00:23:3400:23:36 บางคนไม่แสดงวิธีการ ด้วยการที่พูดออกไปว่าฉันไม่เห็นด้วย

00:23:3600:23:39 แต่บางทีเป็นการไม่ทำ ดื้อเงียบ

00:23:3900:23:42 เพราะว่าอะไร ไม่สนใจ ไม่ฟัง ไม่ยอมรับความหลากหลาย

00:23:4200:23:44 คนที่ไม่ทำ ไม่ยอมรับความหลากหลาย

00:23:4500:23:47 ก็จะไม่สามารถทำงานร่วมกันเป็นทีมได้

00:23:4700:23:50 ซึ่งจริง ๆ แล้วคุณสมบัติ ของการทำงานร่วมกันเป็นทีม

00:23:5000:23:54 เป็นคุณสมบัติสำคัญอย่างหนึ่งเลย ในการดำรงชีวิตอยู่ในโลกยุคปัจจุบัน

00:23:5400:23:56 เป็นยังไงกันบ้างครับ ได้ฟังไปทั้งหมดแล้วนะครับ

00:23:5600:24:00 ทั้งเรื่องของ 7 วิธี ในการเพิ่มความ Productive

00:24:0000:24:04 และ 5 พฤติกรรมของการทำงาน ที่ถ่วงความเจริญก้าวหน้า

00:24:0500:24:09 เลือกได้เนอะว่าอยากจะทำข้างไหน อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ

00:24:1000:24:14 แล้วเราจะได้ใช้เวลา 24 ชั่วโมงของเรา ให้ Productive

00:24:1400:24:16 ให้เกิดการทํางานที่มีประสิทธิภาพ

00:24:1600:24:19 ให้เราเป็นคนที่องค์กรต้องการ

00:24:1900:24:23 ให้เราไม่ Burnout ให้เรามีคุณค่า แล้วเรามีความหมาย

00:24:2300:24:26 พบกับรายการ Re-Mind รู้ทันปัญหาสุขภาพจิต

00:24:2700:24:31 สำรวจอารมณ์ความคิด เข้าใจพฤติกรรมของตนเองและคนใกล้ตัว

00:24:3200:24:34 ทุกวันจันทร์ เวลา 18.00 น.

00:24:3400:24:36 ที่ Mahidol Channel Podcast

00:24:3600:24:38 ผ่านช่องทาง Facebook Mahidol Channel

00:24:3900:24:40 YouTube Mahidol Channel

00:24:4100:24:42 Apple Podcasts

00:24:4200:24:43 Spotify

00:24:4300:24:44 Anchor

00:24:4400:24:45 Blockdit

00:24:4700:24:52 ดำเนินรายการโดย หมอหลิว อาจารย์นายแพทย์สมบูรณ์ หทัยอยู่สุข