00:00:04 → 00:00:06 [เพลง]
00:00:06 → 00:00:09 สวัสดีครับผมวีระพงษ์ทวีศักดิ์ดิฉันสุด
00:00:09 → 00:00:13 ธิดาภรณ์ปริและนี่คือศัลยกรรมความสุข
00:00:13 → 00:00:16 รายการที่ฟังแล้วทำให้คุณมีความสุขมาก
00:00:16 → 00:00:19 ขึ้นมีความทุกข์น้อยลง
00:00:19 → 00:00:23 คุณผู้ฟังครับผมเชื่อว่าชีวิตของเราในแต่
00:00:23 → 00:00:25 ละวันเนี่ยตอนนี้เราจะต้องเดินทางกันเยอะ
00:00:25 → 00:00:30 มากการเดินทางสมัยนี้ก็อย่างผมนี่ก็ขับรถ
00:00:30 → 00:00:34 ไปไหนมาไหนนะครับเราก็ไม่ค่อยเราต้อง
00:00:34 → 00:00:36 ระมัดระวังมากเรื่องเกี่ยวอุบัติเหตุ
00:00:36 → 00:00:40 เพราะว่ารถมันเยอะนะครับพี่อ้อยไม่ว่าจะ
00:00:40 → 00:00:42 เราขับรถต้องระวังของเราเองระวังคนอื่น
00:00:42 → 00:00:44 นู่นนี่นั่นไงแล้วโอกาสที่มันจะเกิด
00:00:44 → 00:00:50 อุบัติเหตุ
00:00:50 → 00:00:55 มันก็เกือบๆนะ
00:00:55 → 00:00:58 ครับมันมีประสบการณ์ครั้งหนึ่งครับที่น่า
00:00:58 → 00:00:59 สนใจว่า
00:00:59 → 00:01:03 ยังไม่ชนนะแค่เฉียดแต่พังยับเยิน
00:01:03 → 00:01:24 [เพลง]
00:01:24 → 00:01:34
00:01:34 → 00:01:37 [เพลง]
00:01:37 → 00:01:40 ก็เธอเป็น
00:01:40 → 00:01:42 สาวออฟฟิศเนาะเวลา
00:01:42 → 00:01:47 ออกจากบ้านไปเนี่ยก็ต้องไปที่ BTS
00:01:47 → 00:01:52 นะคะก็จากบ้านไปสถานีเนี่ยก็คือสอนวินพี่
00:01:52 → 00:01:53 วิน
00:01:53 → 00:01:58 [เพลง]
00:01:58 → 00:02:00 นึงเธอมาเล่าให้ฟังว่า
00:02:00 → 00:02:04 เธอสอนไปเนี่ยเราก็ออกจากซอยบ้านเนี่ย
00:02:04 → 00:02:07 มันจะต้องไปถนนเมนหลักนะคะที่จะวิ่งไป
00:02:07 → 00:02:12 สถานีรถไฟฟ้านี่แหละทีนี้พอพี่วินน่ะเขา
00:02:12 → 00:02:14 ออกมาจากซอยเนี่ยนะคะเขาก็ดูแล้วแหละว่า
00:02:14 → 00:02:19 มันไม่มีรถทางตรงมานะคะก็คิดว่าดูดีแล้ว
00:02:19 → 00:02:25 ก็กดว่าเขาก็เลี้ยวซ้ายออกไปนะคะสิ่งที่
00:02:25 → 00:02:29 เกิดขึ้นคืออยู่ๆก็มีรถเก๋งคันนึงค่ะมา
00:02:29 → 00:02:33 พุ่งมาทางตรงนะคะมาทางตรงมาจากไหนไม่รู้
00:02:33 → 00:02:35 เพราะตอนแรกมองดูไม่มี
00:02:35 → 00:02:41 ก็ปรากฏว่าจะบอกว่าเฉียดนี่แหละนะคะเฉียด
00:02:41 → 00:02:45 สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือว่าพอมันใกล้กันมาก
00:02:45 → 00:02:49 นะคะตัวหูช้างของรถเก๋งกับตัวแฮนด์
00:02:49 → 00:02:52 มอเตอร์ไซค์เนี่ยมันเหมือนแบบมันเฉียด
00:02:52 → 00:02:56 แล้วมอเตอร์ไซค์ก็เลยเหมือนจะล้มนะคะจะ
00:02:56 → 00:03:00 ล้มแล้วก็พอดีพี่วินก็เขาเรียกว่าอะไรยัน
00:03:00 → 00:03:04 ไว้หรอคะอ่าไม่ให้รถล้มแล้วก็ถามบอกว่า
00:03:04 → 00:03:07 น้องเป็นอะไรหรือเปล่า
00:03:07 → 00:03:09 ลูกก็บอกว่าอ๋อไม่เป็นไรพี่
00:03:09 → 00:03:10 ตอนนั้นน่ะ
00:03:10 → 00:03:14 ถ้าถ้าเป็นภาพในภาพยนตร์หรืออะไรก็ตาม
00:03:14 → 00:03:17 เนี่ยคงอาจจะมีควันออกที่หัวพี่วินแล้ว
00:03:17 → 00:03:21 แหละพูดๆๆนะคะแล้วก็พี่ผินก็บอกก็ไม่พูด
00:03:21 → 00:03:24 อะไรต่อคราวนี้บิดคันเร่งพอตั้งรถได้บิด
00:03:24 → 00:03:29 คันเร่งไล่ตามไล่ตามรถเก๋ง
00:03:29 → 00:03:33 ข้างหน้าคือสี่แยกค่ะตอนแรกเลยเขาคิดว่า
00:03:33 → 00:03:37 ไม่ทันแล้วแหละคงรถเก๋งคงไปผลเสียปรากฏ
00:03:37 → 00:03:40 ว่าไฟแดงอ๋อ
00:03:40 → 00:03:43 เจอไฟแดงรถเก๋งก็เลยต้องหยุด
00:03:43 → 00:03:49 พี่วินก็ตามไปทันนะคะก็ไปขอจบอ่าขอกระจก
00:03:49 → 00:03:50 ฝั่งคนขับ
00:03:50 → 00:03:55 พี่วินคราวนี้ได้บอกใส่แบบสาดเสียเทเสีย
00:03:55 → 00:03:59 แบบเนี่ยชนแล้วหนีหรออะไรโอ้โหแบบพรั่ง
00:03:59 → 00:04:01 พรูเยอะมากค่ะ
00:04:01 → 00:04:05 ลูกสาวที่สอนเป็นผู้โดยสารอยู่ข้างหลัง
00:04:05 → 00:04:10 บอกพี่ใจเย็นพี่นะคะจริงๆแล้วไม่รู้หรอก
00:04:10 → 00:04:13 ว่าพี่วินตอนนั้นน่ะจะได้ยินเสียงเขาไหม
00:04:13 → 00:04:18 เพราะว่าแกใส่แบบเต็มที่เลยนะคะโมโหสุดๆ
00:04:18 → 00:04:22 ค่ะโมโหที่โมโหมากเพราะมีความรู้สึกว่าชน
00:04:22 → 00:04:27 แล้วหนีแต่จริงๆมันคือเฉียดเนาะแต่ว่า
00:04:27 → 00:04:30 ถ้าเกิดว่าล้มลงไปเราก็ไม่รู้ว่าคันหลัง
00:04:30 → 00:04:33 มาจะยังไงใช่ไหมคะอันนี้เนี่ย
00:04:33 → 00:04:36 เอ่อลูกก็บอกว่าพี่ใจเย็นพี่ใจเย็นอ่าก็
00:04:36 → 00:04:39 เลยตัวเองก็เลยถามค่ะถามลูกว่า
00:04:39 → 00:04:44 เออเนี่ยที่เป็นคนซ้อนเนี่ยโกรธไหม
00:04:44 → 00:04:46 โกรธสิแม่
00:04:46 → 00:04:48 เพราะว่ามันจะล้มเลยนะ
00:04:48 → 00:04:51 เออนะคะถ้าเกิดรถหลังมาเราก็ไม่รู้เนาะ
00:04:51 → 00:04:55 โกรธๆแม่แล้วก็ก็เลยถามบอกว่าอ้าวถ้าเกิด
00:04:55 → 00:04:58 รถล้มไปอันนี้ก็คือมันจะเป็นเรื่องใหญ่
00:04:58 → 00:05:02 เลยเนาะมันจะมันคงแบบระงับอารมณ์โกรธมัน
00:05:02 → 00:05:04 คงไม่ได้หรอกหนูโกรธ
00:05:04 → 00:05:08 แล้วถ้าสมมุติว่าตอนนี้หนูเป็นคนซ้อนหนู
00:05:08 → 00:05:11 ก็โกรธใช่ไหมถ้าหนูเป็นคนขับเองถ้าหนู
00:05:11 → 00:05:14 เป็นพี่วินน่ะหนูจะโกรธไหมอ้าวจะไม่โกรธ
00:05:14 → 00:05:16 ได้ยังไงล่ะแม่ขนาดเป็นคนสอนยังโกรธเลย
00:05:16 → 00:05:19 แล้วถ้าเป็นพี่วินขับเองอ่ะแล้วรถมันจะ
00:05:19 → 00:05:22 ล้มลงไปอ่ะยิ่งโกรธใหญ่เลยเออแล้วถ้า
00:05:22 → 00:05:25 สมมุติว่าหนูเป็นพี่วินน่ะหนูโกรธหนูจะทำ
00:05:25 → 00:05:27 เหมือนพี่วินไหม
00:05:27 → 00:05:30 ก็ทำสิแม่
00:05:30 → 00:05:33 ขับไปแบบตามนี้แหละแล้วก็ไปแบบเออไปแบบ
00:05:33 → 00:05:37 เอ่อเหมือนกับว่าเขาอ่ะว่าเนี่ยทำไมทำ
00:05:37 → 00:05:39 อย่างนี้ทำไมชนแล้วหนีอะไรอย่างเงี้ยเออ
00:05:39 → 00:05:42 อ้าวแล้วทำไมหนูเป็นคนโดยสารแล้วหนูบอก
00:05:42 → 00:05:46 พี่วินบอกว่าพี่ๆจะเย็นๆล่ะเออทำไมหนูไป
00:05:46 → 00:05:50 บอกเขาแบบนั้นล่ะเออก็เลยแบบสงสัยอ่ะเขา
00:05:50 → 00:05:55 บอกว่าตอนนั้นน่ะพี่วินนะเขาแบบโกรธมาก
00:05:55 → 00:05:59 โกรธมากแล้วแบบใส่ไม่ยั้งอ่ะจนหนูอ่ะกลัว
00:05:59 → 00:06:03 อ๋อจนหนูกลัวว่าเฮ้ยเขาจะพี่วินก็จะไปทำ
00:06:03 → 00:06:07 อะไรผู้หญิงคนนั้นหรือเปล่าหนูก็เลยห้าม
00:06:07 → 00:06:10 เขาอ่ะพี่ใจเย็นๆเออ
00:06:10 → 00:06:16 แต่ถ้าเป็นหนูเป็นเองนะหนูหนูก็คงแบบเอา
00:06:16 → 00:06:19 ความโกรธเนี่ยไปด่าเขาไปว่าเขาเหมือนพี่
00:06:19 → 00:06:26 วินนี่แหละเออก็เลยบอกว่าอย่างนี้แสดงว่า
00:06:26 → 00:06:31 ถ้าเธอเป็นผู้โดยสารเธอมองเห็นอะไรบาง
00:06:31 → 00:06:33 อย่างที่
00:06:33 → 00:06:37 คนนี้พี่วินเขาแสดงออกมันทำให้เธอรู้สึก
00:06:37 → 00:06:43 กลัวมากกว่าความโมโหใช่แม่คือพี่วินน่ะมี
00:06:43 → 00:06:44 โมโหอย่างเดียว
00:06:44 → 00:06:48 แต่หนูอ่ะมองดูพี่วินแล้วหนูตกใจหนูกลัว
00:06:48 → 00:06:51 เขาไปทำอะไรหนูก็เลยกลัวเขาไปทำอะไรผู้
00:06:51 → 00:06:54 หญิงคนนั้นมันก็เลยความกลัวมันก็เลยใหญ่
00:06:54 → 00:06:58 กว่าโมโหของหนูหนูก็เลยบอกเขาว่าใจเย็น
00:06:58 → 00:07:01 พี่ใจเย็นๆพี่สุดท้ายเรื่องนี้จบลงตรงที่
00:07:01 → 00:07:14 ว่าไฟเขียวค่ะ
00:07:14 → 00:07:18 เหตุการณ์นี้มันน่าสนใจตรงที่ว่าหัวข้อ
00:07:18 → 00:07:20 เราบอกว่าแค่เฉียดแต่พังยับเยินเนี่ยมัน
00:07:20 → 00:07:22 ดูเหมือนมันขัดแย้งกันนะ
00:07:22 → 00:07:23 เพราะว่า
00:07:23 → 00:07:28 เฉียดมันต้องไม่เสียเลยด้วยซ้ำไปถ้า
00:07:28 → 00:07:31 เฉี่ยวก็คือสะกิดนิดหน่อยแต่ถ้าเกิดมาก
00:07:31 → 00:07:34 กว่าสกิลนิดหน่อยก็คือชนโคมอ่ะอันนั้นน่ะ
00:07:34 → 00:07:38 มันถึงจะสมควรว่าเสียหายยับเยินใช่แต่ว่า
00:07:38 → 00:07:42 แค่เฉียดเนี่ยแต่เสียหายยับเยินในที่นี้
00:07:42 → 00:07:44 หมายถึงอะไรผมมีความรู้สึกว่าผมก็ตีความ
00:07:44 → 00:07:46 แล้วว่าอ๋อ
00:07:46 → 00:07:51 ถ้าเฉี่ยวรถจะสะกิดแล้วจะเป็นรอย
00:07:51 → 00:07:54 กระจกหูช้างอาจจะแตกอาจารย์ก็คือเสียหาย
00:07:54 → 00:07:56 แต่อันนี้
00:07:56 → 00:07:58 แค่
00:07:58 → 00:08:02 เฉียดรถน่ะไม่เสียหาย
00:08:02 → 00:08:06 แต่ที่เสียหายยับเยินเนี่ยคืออารมณ์ใช่
00:08:06 → 00:08:10 แล้วมันไม่ตะกี้นี้นะ 2 ประการก็คือว่า
00:08:10 → 00:08:14 ถ้าไม่มีคนสอนหายมาข่อยยั้งคอยเตือนคอย
00:08:14 → 00:08:17 ฉุดเอาไว้หน่อยนึงนะ
00:08:17 → 00:08:21 อาจจะเกิดการทำร้ายร่างกายกันได้
00:08:21 → 00:08:24 อันนี้อันที่ 1 อันต่อมาก็คือถ้าไม่มีไฟ
00:08:24 → 00:08:29 เขียวมาช่วยก็ยังอยู่กันต่อไปนี่นะก็มัน
00:08:29 → 00:08:31 อาจจะหลุด
00:08:31 → 00:08:35 อันนี้แหละจะเสียหายยับเยินอีกประการ
00:08:35 → 00:08:38 หนึ่งก็คือเผอิญวันนั้นเนี่ยคู่กรณีเป็น
00:08:38 → 00:08:39 ผู้หญิง
00:08:39 → 00:08:45 ลองจินตนาการดูว่าถ้าเป็นผู้ชายแล้วถ้า
00:08:45 → 00:08:47 เกิดเป็นผู้ชายแบบ
00:08:47 → 00:08:51 อาจจะไม่ยั้งขนาดนี้ใช่หรือถ้าเป็นผู้ชาย
00:08:51 → 00:08:56 ใจร้อนที่มีอาวุธใช่ซึ่งเราสมัยนี้ป๊อบก็
00:08:56 → 00:09:00 มีอาวุธกันง่ายจังแล้วเราก็เห็นข่าวมาไม่
00:09:00 → 00:09:03 รู้ตอบเท่าไหร่แล้วใช่ไหมรถเฉี่ยวกันปาด
00:09:03 → 00:09:07 หน้ากันบุบนิดนึงแต่ยิงเขาตายละหรือไม่
00:09:07 → 00:09:09 บุบแค่บีบแต่
00:09:09 → 00:09:15 ใช่ไหม
00:09:15 → 00:09:19 หลังจากนั้นก็ขับรถได้ตามไปตามมาปาดไปปาด
00:09:19 → 00:09:27 มาลงไปทะเลาะกันต่อยกันยิงกันเลย
00:09:27 → 00:09:32 แต่ว่านำไปสู่ความเสียหายยับเยินแต่ผม
00:09:32 → 00:09:34 ก่อนที่จะไปอีกเรื่องนึงผมขอสรุปประเด็น
00:09:34 → 00:09:37 ตรงนี้นิดนึงที่ผมสงสัยนะที่ผมแบบสนใจนะ
00:09:37 → 00:09:41 ก็คือว่าอีกอันนึงก็คือคำว่าที่พี่อ้อย
00:09:41 → 00:09:46 ถามลูกสาวว่าถ้าถามไป 3 ข้อถ้าถ้าถ้า
00:09:46 → 00:09:48 เนี่ย
00:09:48 → 00:09:49 ก็คือ
00:09:50 → 00:09:53 ถ้านี่หมายความว่าอะไรหมายความว่ามันยัง
00:09:53 → 00:09:56 ไม่เกิดขึ้น
00:09:56 → 00:09:58 แต่ประเด็นก็คือว่า
00:09:58 → 00:10:02 เนี่ยที่มอเตอร์ไซค์เนี่ยตามไปแล้วไปเคาะ
00:10:02 → 00:10:06 กระจกแล้วไประเบิดอารมณ์ใส่คราวนี้
00:10:06 → 00:10:08 คือไปว่าเขาประมาณว่า
00:10:08 → 00:10:11 ชนแล้วหนีเหรอถึงแม้ว่าคนนั้นอาจจะคิดว่า
00:10:11 → 00:10:15 ยังไม่ได้ชนแค่เฉียดเองแต่ว่าความเสียหาย
00:10:15 → 00:10:18 ที่มันเกิดขึ้นเนี่ยมันเกิดจาก
00:10:18 → 00:10:21 ท่าของมอเตอร์ไซค์
00:10:21 → 00:10:25 เนี่ยถ้าเกิดผมล้มไปแล้วถ้ามีรถตามมาคือ
00:10:25 → 00:10:27 ถ้าหมดแล้วหมายความว่าอะไรยังไม่เกิดขึ้น
00:10:27 → 00:10:30 จริงเลยแต่ว่าเราเอา
00:10:30 → 00:10:32 สิ่งที่คาดการณ์เนี่ย
00:10:32 → 00:10:36 เอามาจินตนาการเหมือนว่ามันเกิดขึ้นจริง
00:10:36 → 00:10:37 แล้ว
00:10:37 → 00:10:39 เหมือนกับว่าเกิดอารมณ์แล้วก็เกิดอารมณ์
00:10:39 → 00:10:41 แล้วมันก็จะทำให้
00:10:41 → 00:10:45 ก็เลยกลายเป็นการตอบข้อสงสัยว่า
00:10:45 → 00:10:50 ก็แค่เฉียดเองไม่ยับเยินได้ไงก็นี่แหละก็
00:10:50 → 00:10:53 เพราะว่าเอาท่าเนี่ยมาใส่มาใส่ว่ามันเป็น
00:10:54 → 00:10:59 จริงเป็นใจเข้ามาเกิดเป็นอารมณ์ใช่ซึ่ง
00:10:59 → 00:11:07 พี่อ้อยเรียกว่าเสียหายเกินจริงค่ะ
00:11:07 → 00:11:18 ก็เลยกลายเป็นว่าอ๋อนี่เอง
00:11:18 → 00:11:21 เคสที่ 2 ที่พี่ออยเจอหรือที่จะมาเล่า
00:11:21 → 00:11:24 เนี่ยมันจะให้คำตอบที่กว้างขึ้นและลึก
00:11:24 → 00:11:26 ขึ้นมา
00:11:26 → 00:11:30 เคสที่ 2 เนี่ยเป็นเคสที่ไม่ควรจะเสียหาย
00:11:30 → 00:11:33 แต่เสียหาย
00:11:33 → 00:11:37 นะคะอันนี้เป็น
00:11:37 → 00:11:41 เหตุการณ์ที่ตัวเองพบด้วยตัวเองเลยนะคะก็
00:11:41 → 00:11:45 คือเส้นทางที่มันจะมีเส้นถนนเขาเรียกว่า
00:11:45 → 00:11:48 ถนนจากพระราม 9 มาเนี่ยมันจะมีถนนทางลัด
00:11:48 → 00:11:54 ชื่อถนนเพชรอุทัยถนนอันนี้รถจะชอบมามารัด
00:11:54 → 00:11:57 เพราะว่ามันจะทะลุเพชรบุรีอโศกสุขุมวิท
00:11:57 → 00:12:00 อะไรอย่างเงี้ยได้นะคะตรงนั้นน่ะก็จะเป็น
00:12:00 → 00:12:04 เส้นที่ติดนะคะเส้นที่มาจากเพชรบุรีตรงไป
00:12:04 → 00:12:08 จะตรงไปพระราม 9 เนี่ยมันจะติดที่เรามา
00:12:08 → 00:12:10 จากพระราม 9 เนี่ยเราจะต้องเลี้ยวขวาเข้า
00:12:10 → 00:12:14 เพจอุทัยซึ่งมันจะถูกกั้นด้วยรถที่ตรงไป
00:12:14 → 00:12:16 พระราม 9 เพราะว่ามันจะติด
00:12:16 → 00:12:20 มันจะมีกระบะ 2 คันค่ะคันที่จะตรงไปแต่
00:12:20 → 00:12:24 ติดอยู่ค่ะตรงแยกกับคันที่ข้างหน้าพี่
00:12:24 → 00:12:26 อ้อยที่จะเลี้ยวขวาไปเพชรอุทัย
00:12:27 → 00:12:31 นี้รถทางตรงเนี่ยติดไอ้รถทางขวาเนี่ยเค้า
00:12:31 → 00:12:36 จะขอแทรกเขาก็จี้ปึ๊บแอร์พอร์ตข้างหน้าไป
00:12:36 → 00:12:39 นิดนึงปรากฏว่ามันไปได้นิดนึงไอ้นี่ก็จี้
00:12:39 → 00:12:42 ก็อย่างนี้ข้างหน้าอีกนิดไอ้นี่ก็จี้
00:12:42 → 00:12:47 เพื่อว่าจะขอแทรกให้เกาะได้เลี้ยวก่อน
00:12:47 → 00:12:50 เพราะว่ายังไงเสียทางตรงนี้มันติดไอ้นี่
00:12:51 → 00:12:55 ก็พยายามแทรกระหว่างรถกับหน้ากระบะกับไอ้
00:12:55 → 00:12:56 คันข้างหน้า
00:12:56 → 00:13:01 เสร็จแล้วก็อย่างนี้ก็อยู่หลายทีนะคะแต่
00:13:01 → 00:13:04 มันก็ยังไปไม่ได้จนกระทั่งเส้นตรงเนี่ยไป
00:13:04 → 00:13:08 ได้พอเส้นตรงไปได้กระบะคันทางตรงเนี่ยเขา
00:13:08 → 00:13:11 ไม่ให้คือจริงๆกระบะที่จะเลี้ยวหน้าพี่
00:13:11 → 00:13:13 อ้อยเนี่ยเขาจะแทรกหน้ากระบะคันนี้แหละ
00:13:13 → 00:13:18 แต่คันที่ตรงไม่ให้เขาก็เล่นไปแต่แล่นไป
00:13:18 → 00:13:20 เสร็จแล้วเขาหยุดค่ะ
00:13:20 → 00:13:22 ปรากฏว่าไอ้รถกระบะหน้าพี่อ้อยเนี่ยเขา
00:13:22 → 00:13:25 เขาก็เลี้ยวขวาไปแต่ไอ้เลนขวาเนี่ยมันยัง
00:13:25 → 00:13:29 ไปไม่ได้มันก็เลยไปขายอยู่ครึ่งถนน
00:13:29 → 00:13:32 สิ่งที่เกิดขึ้นคือกระบะที่เลยไปแล้วที่
00:13:33 → 00:13:36 จะไปได้อ่ะเออก็คือขวาสุดไปได้แต่เขาไม่
00:13:36 → 00:13:40 ไปเขาหยุดค่ะเขาหยุดเสร็จแล้วเขาถอยเขา
00:13:40 → 00:13:44 เกียร์ถอยค่ะถอยมาชนกระบะคันนี้ค่ะตู้ม
00:13:44 → 00:13:47 ที่ 1 เดินหน้าถอยหลังอีกตู้มที่ 2 เดิน
00:13:48 → 00:13:52 นะตู้มที่ 3 เดินหน้าแล้วก็ปรืดไปเลยแล้ว
00:13:52 → 00:13:57 ค่อยไปซึ่งไอ้กระบะคันที่ถูกชนเนี่ยงง
00:13:57 → 00:13:59 แล้วก็ลงมา
00:13:59 → 00:14:02 แล้วก็เห็นกระบะคันนั้นไปแล้ว
00:14:02 → 00:14:04 เสร็จแล้วปรากฏว่า
00:14:04 → 00:14:09 เหมือนข้างหน้าจะมีเป็นไปติดอีกหนึ่งแยก
00:14:09 → 00:14:11 ไอ้คันนี้แทนที่จะเลี้ยวขวาเข้าเขตอุทัย
00:14:11 → 00:14:15 ไม่เลี้ยวเลี้ยวตามซึ่งตรงนั้นน่ะเราไม่
00:14:15 → 00:14:18 รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปเพราะเรา
00:14:18 → 00:14:21 เลี้ยวแล้วเราไปแล้วอ่ะ
00:14:21 → 00:14:24 เราในเหตุการณ์นี้เราพบว่า
00:14:24 → 00:14:31 เฮ้ยแค่ขอทางไอ้นี่ก็แบบอ่ะแหละแต่ไอ้คาง
00:14:31 → 00:14:33 ตรงก็ไม่ให้
00:14:33 → 00:14:36 คือถ้าเราอายุมารวยกันสักนิดเนี่ย
00:14:36 → 00:14:38 มันจะไม่เกิดเหตุการณ์เพราะมันไม่ได้ชน
00:14:38 → 00:14:43 กันแต่แรกนะคะแล้วถ้าสมมติว่าคุณไปได้
00:14:43 → 00:14:46 แล้วอ่ะคุณไปเลยอ่ะคุณก็จบใช่ไหมคะอ่ะ
00:14:46 → 00:14:50 อาการไม่พอใจสักพักนึงเดี๋ยวมันก็จบไปแต่
00:14:50 → 00:14:55 คุณต่อยอดไงคุณถอยมาชนเค้า 3 รอบอ่ะเออ
00:14:55 → 00:14:58 แล้วความเสียหายที่เกิดขึ้นคุณก็เสียหาย
00:14:58 → 00:15:02 นะเออแล้วให้รถคันนี้ก็เสียหายมันคุ้มไหม
00:15:02 → 00:15:09 กับความโมโหที่แคบไหม้อยากให้เขาแทรก
00:15:09 → 00:15:13 แค่นี้เราเห็นแล้วเราตกใจค่ะพี่วีเมื่อ
00:15:13 → 00:15:16 กี้นี้ผมผมชอบคำหนึ่งที่พี่อ้อยถามนะบอก
00:15:16 → 00:15:20 ว่ามันคุ้มไหมจริงๆตอบได้ง่ายๆเลยว่าไม่
00:15:20 → 00:15:23 คุ้มไม่คุ้มแต่ว่าในเมื่อไม่คุ้มแล้วมัน
00:15:23 → 00:15:24 เกิดขึ้นได้ยังไง
00:15:24 → 00:15:27 เพราะอะไรรู้ไหมเพราะว่าช่วงนั้นเพราะขาด
00:15:27 → 00:15:29 สติเนี่ย
00:15:29 → 00:15:31 มันไม่มีคำถามว่าคุ้มไหม
00:15:31 → 00:15:36 คือมันงงคือแบบมีอารมณ์มันพุ่งขึ้นมาทำ
00:15:36 → 00:15:37 อะไรก็ได้
00:15:38 → 00:15:42 มันมันไม่ยั้งคิดเลยอ่ะแล้วก็มันลืมถาม
00:15:42 → 00:15:45 ถ้าถามถามว่าคุ้มไหมเนี่ย
00:15:45 → 00:15:48 ถ้าแค่ถามตัวเองนะว่าคุ้มไหมนะ
00:15:48 → 00:15:50 ก็จะไม่ทำก็จะไม่ทำ
00:15:50 → 00:15:54 โมเม้นวินาทีนั้นขาดสติแล้วก็ไม่มีคำถาม
00:15:54 → 00:15:58 นี้ในใจเลยคุ้มไม่คุ้มไม่มีคำว่าคุ้มมี
00:15:58 → 00:15:59 อยู่คำเดียว
00:15:59 → 00:16:03 เอาสะใจ
00:16:03 → 00:16:08 เนี่ยสุดท้ายต้องมาแบกแบกปัญหาต่อนะแค่
00:16:08 → 00:16:11 สะใจใน 1 เสี้ยววินาทีเนี่ย
00:16:11 → 00:16:15 แต่คุณน่ะลดคุณพังเออคุณก็ต้องไปซ่อมอีก
00:16:15 → 00:16:22 กี่มืออะไรของคุณน่ะ
00:16:22 → 00:16:25 ไปเจอกันข้างหน้านี้นะน่าจะเรื่องใหญ่
00:16:25 → 00:16:25 กว่านี้
00:16:26 → 00:16:32 ความเสียหายนี้น่าจะมากกว่าที่พี่อ้อย
00:16:32 → 00:16:36 คำตอบง่ายๆนะพี่อ้อยก็คือผมพึ่งทำให้ผม
00:16:36 → 00:16:38 นึกถึงประสบการณ์ที่เร็วๆนี้ผมไปบรรยายใน
00:16:39 → 00:16:39 เรือนจำ
00:16:39 → 00:16:42 แล้วผมก็ไปถามผู้ต้องขังว่า
00:16:42 → 00:16:44 ถามคำถามอะไรเนี่ยเกี่ยวกับเรื่อง
00:16:44 → 00:16:48 ชีวิตมนุษย์ว่าอะไรถูกอะไรดีอะไรควรตอบ
00:16:48 → 00:16:49 ได้หมดทุกข้อเลย
00:16:49 → 00:16:53 ผมก็เลยบอกว่าเฮ้ยรู้หมดกูรู้หมดแล้วนี่
00:16:53 → 00:16:59 ถ้าอย่างนั้นผมก็ไม่ต้องบรรยายล่ะสิเออ
00:16:59 → 00:17:02 ถ้างั้นผมขออนุญาตถามอีกคำถามเดียว
00:17:02 → 00:17:05 ถ้าคำถามนี้คุณตอบได้นะผมกลับอันนี้คุณ
00:17:06 → 00:17:09 ยายอันนี้คุณยายในเรือนจำในคุกก็ในเมื่อ
00:17:09 → 00:17:11 ถามทุกอย่างรู้หมดแล้วเนี่ยผมก็ถามเขาถาม
00:17:11 → 00:17:11 ว่า
00:17:11 → 00:17:13 ถ้างั้นผมขอถามหน่อยว่า
00:17:13 → 00:17:15 แล้วคุณรู้ไหมว่า
00:17:15 → 00:17:19 ในเมื่อคุณรู้ทุกอย่างอะไรถูกอะไรผิดอะไร
00:17:19 → 00:17:23 ควรอะไรไม่ควรทำไงดีรู้หมดเลยคำถามคือ
00:17:23 → 00:17:28 แล้ววันนี้คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง
00:17:28 → 00:17:31 เขานั่งเงียบเลยต้องบอกว่า
00:17:31 → 00:17:35 ทรงพลังสุดๆไม่รู้
00:17:35 → 00:17:39 ก็ในเมื่อรู้ทุกอย่างแต่ในเมื่อเขาไม่ได้
00:17:39 → 00:17:43 ปึ๊บเนี่ยเขาไม่รู้ปุ๊บผมก็เลยรู้ว่าผมมา
00:17:43 → 00:17:45 ที่นี่เพื่ออะไร
00:17:45 → 00:17:48 แล้วผมก็ให้เขาทำกิจกรรมง่ายมากๆเลยพี่
00:17:48 → 00:17:49 อ้อย
00:17:49 → 00:17:52 เป็นกิจกรรมที่ง่ายมากเพื่อตอบคำถามนี้
00:17:52 → 00:17:56 เลยนะผมก็บอกว่าตอนนี้คุณผู้ฟังฟังอยู่
00:17:56 → 00:17:59 ด้วยนะลองทำไปพร้อมผมเลยก็ได้นะเออพี่
00:17:59 → 00:18:01 อ้อยทำไปด้วยก็ได้นะผมให้เขาทำอะไรรู้ไหม
00:18:01 → 00:18:06 ผมบอกว่าเอาทุกคนนั่งตัวตรงแล้วทุกคนตบ
00:18:06 → 00:18:08 มือหนึ่งครั้ง
00:18:08 → 00:18:12 เขาก็ทุกคนก็ตกมือหนึ่งครั้งเอาทุกคนตบ
00:18:12 → 00:18:15 มือหนึ่งครั้งเขาก็ตกปืน 1 ครั้งแล้วคราว
00:18:15 → 00:18:16 นี้ผมพูดใหม่ว่า
00:18:16 → 00:18:21 เอาใหม่ตอนนี้เนี่ยถ้าผมไม่พูดคำว่าตบมือ
00:18:21 → 00:18:23 คุณก็ไม่ต้องตบมือ
00:18:23 → 00:18:27 มันง่ายไหม
00:18:27 → 00:18:30 มันยากตรงไหน
00:18:30 → 00:18:34 ก็ไม่ยากไงใช่ไหมผมก็อ่ะทดสอบใหม่นะย้ำ
00:18:34 → 00:18:38 ถ้าผมไม่พูดคำว่าตบมือก็ไม่ต้องตบมือ
00:18:38 → 00:18:44 พยักหน้าผมก็บอกอ่ะ
00:18:44 → 00:18:48 2 ครั้ง
00:18:48 → 00:18:53 พอบอกว่า 2 ครั้งเค้าตก
00:18:53 → 00:18:55 ไม่ได้กินที่ผมพูดคำว่า
00:18:55 → 00:18:58 2 ครั้งแต่ไม่มีคำว่าตกมือ
00:18:58 → 00:18:59 แล้ว
00:18:59 → 00:19:04 กันผมบอกเอาใหม่ลองอีกครั้งนึงนะทุกคน
00:19:04 → 00:19:05 นั่งตัวตรง
00:19:05 → 00:19:08 ตอนนี้เขาตั้งใจแล้วใช่ไหมผมก็บอกนั่งตรง
00:19:08 → 00:19:12 ๆนะครับ 1 ครั้ง
00:19:12 → 00:19:16 มาทันทีเลยผมบอกว่าสรุปแล้วเนี่ยถ้าผมไม่
00:19:16 → 00:19:17 พูดคำว่าตบมือ
00:19:18 → 00:19:19 ก็ไม่ต้องตบมือ
00:19:19 → 00:19:21 ยากไหม
00:19:21 → 00:19:23 ก่อนหน้านี้เขาถามว่ามันยากตรงไหนก็คือ
00:19:23 → 00:19:26 มันง่ายใช่ไหมแต่ตอนนี้เขาไม่กล้าตอบเขา
00:19:26 → 00:19:28 แล้วผมก็สรุปว่าพวกคุณรู้ไหมว่าเกิดอะไร
00:19:28 → 00:19:30 ขึ้น
00:19:30 → 00:19:35 เรื่องที่ง่ายที่สุดง่ายมากๆง่ายสุดๆ
00:19:35 → 00:19:37 แต่ถ้าเราไม่มีสติเรื่องที่ง่ายกลายเป็น
00:19:37 → 00:19:39 เรื่องยากทันที
00:19:39 → 00:19:43 ผิดพลาดทันทีถ้าเราไม่มีสติอันนี้ไม่ต้อง
00:19:43 → 00:19:46 พูดถึงเรื่องยากเรื่องยากถ้าไม่มีสติยับ
00:19:46 → 00:19:48 เยิน
00:19:48 → 00:19:52 และนี่คือเหตุผลและนี่คือคำตอบว่าคุณรู้
00:19:52 → 00:19:53 ทุกเรื่อง
00:19:53 → 00:19:57 แต่คุณมาอยู่ที่นี่ได้ไงเพราะในวินาที
00:19:57 → 00:20:02 นั้น
00:20:02 → 00:20:05 ผมไม่ได้บรรยายอะไรมากไปกว่านี้
00:20:05 → 00:20:07 แล้วทำให้เขารู้เลยว่า
00:20:07 → 00:20:11 ไหนลองแบ่งปันและลองนึกถึงวินาทีนั้นสิ
00:20:11 → 00:20:15 วินาทีที่คุณตัดสินใจที่จะทำอะไรบางอย่าง
00:20:15 → 00:20:17 โดยที่
00:20:17 → 00:20:21 แล้วมันเป็นเหตุทำให้คุณมาอยู่ที่นี่
00:20:21 → 00:20:25 และนึกย้อนไปเขาก็แบ่งปันกันนะเออว่ะเรา
00:20:25 → 00:20:27 ขาดสติจริงๆ
00:20:27 → 00:20:30 ถ้ามีสตินิดเดียวนะเราจะไม่มาอยู่ที่นี่
00:20:30 → 00:20:33 แล้วผมก็สรุปให้เขาแบบเห็นชัดๆนะว่า
00:20:33 → 00:20:35 เนี่ย
00:20:35 → 00:20:38 แค่เฉียดแต่ไม่ยับเยินเนี่ย
00:20:38 → 00:20:40 ถ้าเรามีสติ
00:20:40 → 00:20:44 คือผมก็ชี้ให้เขาเห็นว่า
00:20:44 → 00:20:47 ไม่ต้องไปเกี่ยวกับมิติของศาสนาเลยนะก็
00:20:47 → 00:20:50 คือคนเราเนี่ยทำอะไรโดยไม่มีสติเนี่ยก็
00:20:50 → 00:20:53 คือว่าอะไรก็คือว่าเราทำสิ่งนั้นมี
00:20:53 → 00:20:57 ปฏิกิริยาตอบโต้ไปแบบอัตโนมัติ
00:20:57 → 00:21:00 คือไม่ได้คิดอัตโนมัติ
00:21:00 → 00:21:03 ใครด่ามาแล้วก็ด่ากลับเลย
00:21:03 → 00:21:07 ใครมาบีบแตรเราก็โกรธเลย
00:21:07 → 00:21:12 ใครมาเราก็จะกลับเลยอย่างนี้อันนี้ก็คือ
00:21:12 → 00:21:13 ทำโดยอัตโนมัติ
00:21:13 → 00:21:19 ถ้ามีสตินะ
00:21:19 → 00:21:22 เราก็จะไม่ตอบโต้ไปโดยอัตโนมัติ
00:21:22 → 00:21:26 พี่วีค่ะถ้าสมมุติว่า
00:21:26 → 00:21:31 บางคนบอกว่ามีสติมันยังไง
00:21:31 → 00:21:35 ถ้าพี่อ้อยจะใช้คำง่ายกว่านั้นคำว่ายั้ง
00:21:35 → 00:21:40 คิดได้ไหมคะได้เพราะสติคือตัวยั้งคิด
00:21:40 → 00:21:43 ใช่เลยเป็นเรื่องขอบคุณมากเลยครับพี่อ้อย
00:21:43 → 00:21:49 เพราะว่ามันทำให้ชัดเจน
00:21:49 → 00:21:53 แล้วจะทำอะไรเนี่ยก็ไม่อัตโนมัติ
00:21:53 → 00:21:56 แล้วผมมีแบบฝึกหัดด้วยนะมีแบบฝึกหัดเพราะ
00:21:57 → 00:22:26 ว่าหลายคนบอกว่าจะทำให้มีสติยั้งคิดน่ะ
00:22:26 → 00:22:28 คุณใส่นาฬิกามือไหน
00:22:28 → 00:22:32 เขาบอกใส่มือซ้ายบอกคุณลองย้ายมามือขวาดิ
00:22:32 → 00:22:35 เฮ้อคือความที่เราใส่นาฬิกามือซ้ายตลอด
00:22:35 → 00:22:38 ชีวิตเนี่ยเวลาที่เราดูนาฬิกาเนี่ยเราจะ
00:22:38 → 00:22:39 ดูแบบอัตโนมัติ
00:22:39 → 00:22:44 เราจะยกมือท่านขึ้นทันทีแล้ววันที่และวัน
00:22:44 → 00:22:46 แรกที่เราย้ายนาฬิกากลับไปอยู่มือขวานะ
00:22:46 → 00:22:47 ครับ
00:22:47 → 00:22:50 ช่วงแรกๆเราจะยกมือยกมือซ้ายขึ้นเปล่าๆ
00:22:50 → 00:22:54 ที่ไม่มีนาฬิกาอันนั้นน่ะคือการทำโดยไม่
00:22:54 → 00:22:57 มีสติอัตโนมัติ
00:22:57 → 00:23:00 ถ้าเรามีสติยังคิดเนี่ยแล้วเรารู้ก่อนว่า
00:23:00 → 00:23:04 ตอนนี้นะเราย้ายมาอยู่มือขวาแล้วเราก็จะ
00:23:04 → 00:23:07 ดูนาฬิกามือขวา
00:23:07 → 00:23:12 ของพี่อ้อยไม่ไม่ใช่กรณีย้ายค่ะกรณีลืม
00:23:12 → 00:23:16 ใส่นาฬิกาแล้ววันนั้นน่ะจะยกมือซ้ายบ่อย
00:23:16 → 00:23:18 มากเพราะยกขึ้นมาเสร็จมันไม่รู้ว่ากี่โมง
00:23:18 → 00:23:20 ก็ผ่านไป
00:23:20 → 00:23:27 แล้วเราก็ไม่รู้ว่ากี่โมงเพราะอีกสักพัก
00:23:27 → 00:23:32 เรายกมือซ้ายโดยอัตโนมัติเพราะฉะนั้นไอ้
00:23:32 → 00:23:33 เนี่ยคือ
00:23:33 → 00:23:35 คือ
00:23:35 → 00:23:38 ฝั่งตรงข้ามของการมีสติ
00:23:38 → 00:23:43 ก็คือทำโดยอัตโนมัติโดยไม่รู้ตัวไม่ยั้ง
00:23:43 → 00:23:47 คิดเลยพอเราทำเสร็จแล้วแล้วบอกพอเล่าใน
00:23:47 → 00:23:50 เรือนจำอ้าวแล้วคุณไม่ใส่นาฬิกาทำไง
00:23:50 → 00:23:52 ก็บรรยายถึงเที่ยงใช่ไหมเดี๋ยวคุณไปกิน
00:23:52 → 00:23:54 ข้าวเที่ยง
00:23:54 → 00:23:57 คุณถนัดมือขวาคุณก็ใช้ช้อนมือขวาใช่ไหม
00:23:57 → 00:24:01 มื้อนี้ลองใช้มือซ้ายดู
00:24:01 → 00:24:06 คุณจะรู้เลยว่าตักก็ลำบากจะใส่ปากก็ยาก
00:24:06 → 00:24:11 แต่การทำอะไรโดยที่แบบฝืนจากปกติที่เคยทำ
00:24:11 → 00:24:15 อันนี้คือการฝึกเรียกสติแล้ว
00:24:15 → 00:24:19 ทุกครั้งที่ทำระเบิดจะเลี้ยงสติตลอดเวลา
00:24:19 → 00:24:22 เพราะฉะนั้นเนี่ยคุณผู้ฟังครับจากเรื่อง
00:24:22 → 00:24:27 ของการที่แค่เฉี่ยวแต่ถ้าเราไม่มีสตินะ
00:24:27 → 00:24:30 มันพังยับเยินได้จริง
00:24:30 → 00:24:34 แต่ว่าถึงแม้แต่ว่าถ้าเราขับรถน่ะถ้า
00:24:34 → 00:24:37 เรื่องขับรถแล้วเกิดอุบัติเหตุจริง
00:24:37 → 00:24:43 ชนจริงรถแบบยับจริงแต่ถ้ามีสติเราก็จะไม่
00:24:43 → 00:24:46 เสียหายยับเยินหรือว่าก็จะปลอดภัยมากขึ้น
00:24:46 → 00:24:50 ใช่เพราะฉะนั้นเนี่ยแค่เฉี่ยวถ้าไม่มีสติ
00:24:50 → 00:24:54 ผ่านยับเยินได้จริงแต่ถ้าเกิดเราเจออะไร
00:24:54 → 00:24:56 ที่หนักหนาแต่ถ้ามีสติ
00:24:56 → 00:25:00 ความเสียหายก็จะน้อยลงเพราะฉะนั้นในวัน
00:25:00 → 00:25:03 นี้นะครับคุณผู้ฟังครับแค่เฉี่ยวแต่ยับ
00:25:03 → 00:25:08 เยินมีจริงครับแต่ว่าชนยับเลยแต่ไม่เสีย
00:25:08 → 00:25:13 หายเยอะก็มีจริงทั้งหมดนี้ก็คือสติคือคำ
00:25:13 → 00:25:17 ตอบครับรายการศัลยกรรมความสุขไหมครับราย
00:25:17 → 00:25:19 การที่จะมุ่งเน้นแบ่งปันแง่คิดมุมมอง
00:25:19 → 00:25:23 เพื่อให้พวกเรามีชีวิตที่มีความสุขขึ้นมี
00:25:23 → 00:25:25 คุณค่าขึ้นแล้วก็สดใสขึ้นไม่ขุ่นมัวนะ
00:25:25 → 00:25:28 ครับผมวีระพงษ์ทวีศักดิ์นะครับพี่วีครับ
00:25:28 → 00:25:31 แล้วก็พี่อ้อยก็ต้องลาไปก่อนครับพบกัน
00:25:31 → 00:25:36 ใหม่ในตอนหน้าครับสวัสดีครับสวัสดีค่ะ
00:25:36 → 00:25:39 ติดตามรายการทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น
00:25:39 → 00:25:41 ของไทย
00:25:41 → 00:25:45 pdaspash
00:25:45 → 00:25:54 และ YouTube
00:25:54 → 00:25:59 [เพลง]