00:00:00 → 00:00:02 สวัสดีครับวันนี้ผมจะมาเล่าเกี่ยวข้องกับ
00:00:02 → 00:00:05 เรื่องของกรดไหลย้อนนะครับโรคนี้เนี่ยผม
00:00:05 → 00:00:07 เคยเล่าเมื่อนานมาแล้วนะครับแต่ว่าก็ยัง
00:00:07 → 00:00:09 มีคนสอบถามเข้ามาอยู่เรื่อยๆก็เลยอยากจะ
00:00:09 → 00:00:12 มาเล่าใหม่ให้ฟังนะครับแล้วก็อยากจะเน้น
00:00:12 → 00:00:15 ย้ำด้วยว่ากรดไหลย้อนเนี่ยด้วยตัวมันเอง
00:00:15 → 00:00:17 นะครับมันมีอาการหลากหลายมากเลยไม่จำเป็น
00:00:18 → 00:00:21 จะต้องมีอาการแค่แสบยอดอกนะครับแสบคอย
00:00:21 → 00:00:23 อย่างเดียวก็ได้นะครับมันมีอาการอย่าง
00:00:23 → 00:00:25 อื่นๆซึ่งเราจะได้พูดถึงกันในวันนี้นะ
00:00:25 → 00:00:27 ครับและถ้าเราปล่อยให้อาการกรดไหลย้อนให้
00:00:27 → 00:00:30 มันเป็นนานๆเนี่ยมันทำให้เสี่ยงต่อโรค
00:00:30 → 00:00:32 อื่นๆมากมายเลยนะครับวันนี้ก็เลยอยากจะ
00:00:32 → 00:00:35 เอามาเล่าให้ฟังนะครับพบกับผมนะครับนาย
00:00:35 → 00:00:36 แพทย์ทันทีทันทีวันนะครับเป็นอาจารย์
00:00:36 → 00:00:38 แพทย์อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเชี่ยวชาญ
00:00:38 → 00:00:41 โรคปอดการปลูกถ่ายปอดและวิกฤตบำบัดนะครับ
00:00:41 → 00:00:45 สำหรับในกรณีทั่วๆไปหลายๆคนก็คงจะทราบว่า
00:00:45 → 00:00:48 กรดในกระเพาะเนี่ยนะครับมันมีฤทธิ์กัด
00:00:48 → 00:00:50 กร่อนได้ดังนั้นเวลาที่มันไหลย้อนนะครับ
00:00:50 → 00:00:53 ก็คือแปลว่ามันไหลย้อนทางจากกระเพาะขึ้น
00:00:53 → 00:00:56 มาสู่หลอดอาหารของเราเนี่ยก็จะทำให้เรามี
00:00:56 → 00:00:59 อาการแสบยอดอกด้านในนะครับบางคนมันย้อนมา
00:00:59 → 00:01:01 ไกลกว่านั้นจนถึงคอก็แสบช่องคอได้นะครับ
00:01:01 → 00:01:04 เหมือนอาการโรคกระเพาะนะครับนี่คืออาการ
00:01:04 → 00:01:07 ที่คนทั่วไปทราบกันนะครับแต่มันไม่ได้มี
00:01:07 → 00:01:10 เพียงแค่นั้นนะฮะบางคนนะครับอาการอื่นๆ
00:01:10 → 00:01:13 มันมีอะไรได้บ้างนะครับเช่นนอกเหนือจาก
00:01:13 → 00:01:16 แสบแล้วยังมีการเปรี้ยวในคอนะครับมีอาการ
00:01:16 → 00:01:19 บางคนขมคอก็มีเวลาตื่นมาตอนเช้าๆอาการพวก
00:01:19 → 00:01:22 นี้มันมักจะเป็นตอนที่เรานอนราบลงไปเพราะ
00:01:22 → 00:01:24 ว่าอะไรครับเพราะว่าปัญหาของกรดไหลย้อน
00:01:24 → 00:01:28 เนี่ยมันเกิดจากการที่หูรูดระหว่างหลอด
00:01:28 → 00:01:30 อาหารเรานะครับซึ่งหลอดอาหารเหล่าเนี้ย
00:01:30 → 00:01:32 คือเรากลืนอาหารเข้าไปปุ๊บก็ลงหลอดอาหาร
00:01:32 → 00:01:34 ลงไปจนถึงตรงหน้าอกใช่ไหมครับแล้วตรง
00:01:34 → 00:01:36 เนี้ยมันก็ติดกับกระเพาะนะครับที่ระหว่าง
00:01:36 → 00:01:39 หลอดอาหารกับตรงกระเพาะมันจะมีหูรูดตัว
00:01:39 → 00:01:42 นึงนะครับถ้าหูรูดตัวเนี้ยมันเสียนะครับ
00:01:42 → 00:01:44 ของที่อยู่ในกระเพาะเรามันก็สามารถที่จะ
00:01:44 → 00:01:49 ไหลย้อนทางกลับมาได้นะครับแล้วถ้าเรานั่ง
00:01:49 → 00:01:52 ตัวตรงยืนตัวตรงหรือเดินอยู่เนี่ยของทุก
00:01:52 → 00:01:54 อย่างมันจะถูกดึงลงข้างล่างด้วยแรงโน้ม
00:01:54 → 00:01:56 ถ่วงถูกไหมครับแต่ถ้าเมื่อไหร่เรานอนลงไป
00:01:56 → 00:01:58 แล้วล่ะก็แล้วไอ้ลิ้นตัวนี้ลองปิดไม่สนิท
00:01:58 → 00:02:00 ทุกอย่างมันก็ไหลขึ้นมาข้างบนหมดนะครับ
00:02:00 → 00:02:03 ดังนั้นคนที่มีโรคกรดไหลย้อนมักจะเกิด
00:02:03 → 00:02:06 อาการมากโดยเฉพาะเวลาที่นอนลงไปสักพัก
00:02:06 → 00:02:09 หนึ่งนะครับและถ้าเราทานอาหารมาอิ่มๆ
00:02:09 → 00:02:11 เนี่ยเสร็จแน่นอนนะครับเดี๋ยวแน่นหน้าอก
00:02:11 → 00:02:15 เลยนะครับแต่มันก็ไม่ได้มีแค่อาการเท่า
00:02:15 → 00:02:17 นั้นนะครับอาการอย่างอื่นมีด้วยเช่นยกตัว
00:02:17 → 00:02:20 อย่างคนไหนที่ฟันผุบ่อยเนี่ยอาจจะมีความ
00:02:20 → 00:02:22 เกี่ยวข้องด้วยนะครับเพราะว่ากรดมันไหล
00:02:22 → 00:02:25 ย้อนขึ้นมาโดนฟันโดนอะไรพวกนี้ทำให้ฟัน
00:02:25 → 00:02:29 ของเราผุได้นะครับบางคนมีการกินปากนะครับ
00:02:29 → 00:02:31 กลิ่นปากเยอะก็เพราะว่าภาวะนี้เหมือนกัน
00:02:31 → 00:02:35 บางคนเป็นหวัดบ่อยข้ออักเสบบ่อยก็เพราะ
00:02:35 → 00:02:38 ว่ากรดมันกัดอยู่ตรงหลังคอเราบ่อยๆนะครับ
00:02:38 → 00:02:41 เวลามันกัดเสร็จเกิดอะไรขึ้นไอ้พวกเยื่อ
00:02:41 → 00:02:43 บุต่างๆของเราเนี่ยมันก็เกิดแผลเล็กๆนะ
00:02:43 → 00:02:45 ครับเกิดการระคายเคืองเพราะมันระคายเคือง
00:02:45 → 00:02:47 เนี่ยเชื้อโรคมันชอบมันเข้าไปข้างในก็ไม่
00:02:47 → 00:02:50 สบายขึ้นมาเลยนะครับบางคนมาด้วยอาการ
00:02:50 → 00:02:54 ไซนัสอักเสบบ่อยอ่าอันนี้เฮ้ยเราเคยได้
00:02:54 → 00:02:55 ยินแต่ว่าไซนัสอักเสบบ่อยอาจจะเกี่ยวข้อง
00:02:55 → 00:02:59 กับโรคภูมิแพ้นะเฮ้ยมันเกี่ยวข้องกับโรค
00:02:59 → 00:03:02 กรดไหลย้อนด้วยแฮะทำไมจึงเป็นเช่นนั้นถ้า
00:03:02 → 00:03:04 นอนลงแล้วกรดมันไหลย้อนเข้ามาจนถึงหลัง
00:03:04 → 00:03:08 โพรงจมูกซึ่งตรงนั้นมีไซนัสนะครับถ้ามัน
00:03:08 → 00:03:11 ไปทำให้โพรงด้านหลังตรงนี้อักเสบก็เกิด
00:03:11 → 00:03:13 ใส่หน้าอักเสบขึ้นมาได้นะครับอ่า
00:03:13 → 00:03:17 ไม่ใช่แค่นั้นนะครับคือถ้าสมมุติมันไหล
00:03:17 → 00:03:18 ย้อนขึ้นมาเนี่ยบางคนไม่มีอาการใดทั้ง
00:03:18 → 00:03:21 สิ้นนะไม่มีเปรี้ยวขอไม่มีขมคอไม่มีแสบ
00:03:21 → 00:03:24 แน่นอกไม่มีแน่นหน้าอกอ่ะฟันก็ไม่ถูกอะไร
00:03:24 → 00:03:28 ไม่ถูกแต่มาด้วยอาการไอเรื้อรัง
00:03:28 → 00:03:31 รู้สึกว่าพูดมากๆพูดนานๆแล้วมันไอไอและไอ
00:03:31 → 00:03:33 แห้งๆไอตลอดเลยบางคนก็มีเสมหะแต่ส่วนใหญ่
00:03:33 → 00:03:34 จะไอแห้ง
00:03:34 → 00:03:37 เพราะว่าไอ้กรดเนี่ยนะครับมันไหลขึ้นมา
00:03:37 → 00:03:40 ถึงตรงนี้ปุ๊บมันไปไหนไม่ได้แค่หยดนี้หยด
00:03:40 → 00:03:44 เดียวมันลงไปข้างหลังตรงหลอดลมของเราซึ่ง
00:03:44 → 00:03:47 หลอดลมของเรามีเส้นเสียงนะครับถ้าไม่โดน
00:03:47 → 00:03:51 ตรงนั้นเรื่อยๆเนี่ยบางคนน่ะไอแรกๆ I พอ
00:03:51 → 00:03:52 นานๆเสียงแหบครับ
00:03:52 → 00:03:55 เสียงแหบแล้วทั้งๆที่เป็นนักร้องแล้ว
00:03:55 → 00:03:58 เสียงแหบไอบ่อยๆจะร้องเพลงรอดไหมครับก็
00:03:58 → 00:04:01 ลำบากถูกไหมครับก็ต้องแก้ไขภาวนานี้ให้ดี
00:04:01 → 00:04:03 ด้วยนะครับเพราะว่าบางคนเนี่ย
00:04:03 → 00:04:06 มีอาการไอเรื้อรังแล้วไปหาหมอหมอก็ 2 คอ
00:04:06 → 00:04:08 ดูว่าน่าจะเป็นเรื่องกรดไหลย้อนนะแต่ท่าน
00:04:08 → 00:04:10 ก็ไม่เชื่อเขาบอกว่าก็ไม่เห็นมีอาการแสบ
00:04:10 → 00:04:13 แก้วออกเลยนี่ไม่มีอาการแน่นกินข้าวก็ได้
00:04:13 → 00:04:14 ปกติเนี่ยไม่เห็นเกิดอะไรขึ้นเลยไม่ใช่
00:04:15 → 00:04:18 ครับนะเพราะว่ามันมีภาวะนี้ได้นะฮะแล้วกด
00:04:18 → 00:04:20 เพียงแค่ 1 หยดเท่านั้นเองก็ทำให้ท่านมี
00:04:20 → 00:04:22 อาการเหล่านี้ขึ้นมาได้แล้วนะครับไม่
00:04:22 → 00:04:24 จำเป็นจะต้องเป็นกรดเยอะๆไหลออกมาเป็น
00:04:24 → 00:04:25 แก้วอะไรเงี้ยอันไหน
00:04:25 → 00:04:28 ไม่ได้จำเป็นขนาดนั้นนะครับอ่าตรงนี้เป็น
00:04:28 → 00:04:31 สิ่งที่เราจำเป็นจะต้องรู้ไว้นะครับนี่
00:04:31 → 00:04:34 คืออาการของกรดไหลย้อนที่เรามักจะเจอแต่
00:04:34 → 00:04:36 นอกเหนือจากนั้นยังมีอาการบางอย่างที่อาจ
00:04:36 → 00:04:40 จะแปลกกว่านั้นหน่อยนะครับเช่นบางคนแพนิค
00:04:40 → 00:04:43 กำเริบเออนะครับแปลกไหมนะครับแพทย์ใน
00:04:43 → 00:04:46 กำเริบคืออะไร Panic ถ้าคนที่เป็นเขาก็จะ
00:04:46 → 00:04:48 รู้เลยเขาจะมีอาการรู้สึกหัวใจสั่นหายใจ
00:04:48 → 00:04:51 ไม่ทันนะครับบางคนก็มีมือจีบเท้าจีบรู้
00:04:51 → 00:04:54 สึกมึนหัวเวียนๆหัวหน้าจะมืดเลยนะครับบาง
00:04:54 → 00:04:56 คนก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะตายนะครับ
00:04:56 → 00:04:58 มันเป็นขึ้นมาเฉยๆนะครับคนที่มีกรดไหล
00:04:58 → 00:05:00 ย้อนแล้วก็ Panic ร่วมด้วยเนี่ยมันจะยิ่ง
00:05:00 → 00:05:02 ทำให้ Panic เป็นมากขึ้นด้วยซ้ำไปดังนั้น
00:05:02 → 00:05:05 ต้องไปแก้ไขเรื่องภาวะกรดไหลย้อนคนไหนที่
00:05:05 → 00:05:08 มีหัวใจเต้นผิดปกติมีโรคหัวใจอยู่เก่าก็
00:05:08 → 00:05:11 จะกำเริบได้บ่อยมากเลยนะครับถามว่าทำไม
00:05:11 → 00:05:14 ถ้ากดมันไหลย้อนเข้ามาตรงนี้เส้นประสาท
00:05:14 → 00:05:17 ตรงนี้นะครับมันอยู่ใกล้กับหัวใจมากเลยก็
00:05:17 → 00:05:19 เป็นการกระตุ้นทั้งระบบเลยนะก็ยิ่งเกิด
00:05:19 → 00:05:23 การทำงานของหัวใจที่มันผิดปกตินะครับนั่น
00:05:23 → 00:05:25 ก็เป็นสิ่งที่ท่านจำเป็นจะต้องทราบแล้ว
00:05:25 → 00:05:26 ต้องแก้ไขโดยเฉพาะคนที่มีโรคประจำตัว
00:05:26 → 00:05:30 เหล่านี้คนที่มีโรคปอดเช่นโรคหอบหืดนะ
00:05:30 → 00:05:33 ครับโรคถุงลมโป่งพองโรคหลอดลมโป่งพองรวด
00:05:33 → 00:05:35 หลอนลงมาเสพเรื้อรัง
00:05:35 → 00:05:38 พวกนี้อาการกำเริบได้ง่ายมากเลยถามว่า
00:05:38 → 00:05:39 ทำไม
00:05:39 → 00:05:41 กดเราไหลย้อนขึ้นมาใช่ไหมครับถ้ามันหล่น
00:05:41 → 00:05:45 ลงไปในปอดล่ะเออปอดก็เกิดการอักเสบก็เกิด
00:05:45 → 00:05:48 ปัญหาขึ้นมาโรคพวกนี้ก็จะกำเริบได้คนที่
00:05:48 → 00:05:50 มีโรคหอบก็จะหอบแล้วก็ไม่หายสักทีนะครับ
00:05:50 → 00:05:53 ก็ต้องไปแก้ไขภาวะกรดไหลย้อนมันถึงจะดี
00:05:53 → 00:05:56 ขึ้นนะครับแล้วมันเกี่ยวข้องกับหลายๆโลก
00:05:56 → 00:05:59 มากเลยทั้งโรคปอดเองนะครับทำให้โลกปลอด
00:05:59 → 00:06:01 เป็นมากขึ้นเพราะหัวใจเป็นมากขึ้นโรค
00:06:01 → 00:06:04 Panic ก็เป็นมากขึ้นและไม่ใช่แค่นั้นคน
00:06:04 → 00:06:07 ที่หลอดอาหารไวมากๆกดมันมาโดนหลอดอาหาร
00:06:07 → 00:06:10 แล้วเกิดอะไรขึ้นครับหลอดอาหารบีบเกร็ง
00:06:10 → 00:06:13 ปุ๊บปิดอย่างนี้เลยกินอาหารอะไรก็ติดอยู่
00:06:13 → 00:06:14 ตรงกลางเลย
00:06:14 → 00:06:17 กินแล้วไปจุกอยู่ตรงนี้มันลงไปไม่ได้
00:06:17 → 00:06:20 บางคนตอนมันบีบตัวเนี่ยรู้สึกเจ็บปวดแน่น
00:06:20 → 00:06:23 แล้วขึ้นมาเลยนะครับทุกครั้งที่มันไหล
00:06:23 → 00:06:25 ย้อนขึ้นมามันไม่ใช่แค่แสบแล้วมันเหมือน
00:06:25 → 00:06:28 อะไรข้างในมันปิดมันบิดมันอุดมันตันอย่าง
00:06:28 → 00:06:30 เงี้ยครับพวกนั้นก็คืออาการกรดไหลย้อน
00:06:30 → 00:06:31 เช่นกันนะครับ
00:06:31 → 00:06:34 ดังนั้นเนี่ยเราจะเห็นว่ากรดไหลย้อนเนี่ย
00:06:34 → 00:06:37 มันไม่ได้มีแค่อาการเรอเหม็นเปรี้ยวแล้ว
00:06:37 → 00:06:39 ก็แน่นหน้าอกแสบๆยอดอกแค่นั้นนะครับมันมี
00:06:39 → 00:06:42 อาการอีกหลากหลายซึ่งพวกเนี้ยถ้าท่านมีก็
00:06:42 → 00:06:45 แนะนำว่าไปตรวจดีกว่าครับนะครับเพราะว่า
00:06:45 → 00:06:47 บางครั้งมันไม่ใช่กดไหลย้อนปกติมาอาจจะมี
00:06:47 → 00:06:49 อย่างอื่นปนนะฮะอ่ะทีนี้เรารู้ละ
00:06:49 → 00:06:52 เฮ้ยแล้วกรดไหลย้อนน่ะมันไม่ดียังไงเออ
00:06:52 → 00:06:54 มันไม่ดียังไงนอกเหนือจากการที่ทำให้โรค
00:06:54 → 00:06:57 ประจำตัวของเราเนี่ยมันคุมได้ยากขึ้นมัน
00:06:57 → 00:07:00 เองยังมีปัญหาอีกนะครับทำไม
00:07:00 → 00:07:02 ถ้ากรดไหลลงไปในปอดเราเรื่อยๆเรื้อรัง
00:07:02 → 00:07:04 เนี่ยสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือมันจะทำให้เป็น
00:07:04 → 00:07:07 พังผืดปอดพังผืดก็คือเป็นเนื้อเยื่อ
00:07:07 → 00:07:09 เกี่ยวพันที่มันไม่สามารถทำหน้าที่อะไร
00:07:09 → 00:07:12 ได้เลยแปลว่าอะไรครับแต่ว่าปอดของเราก็จะ
00:07:12 → 00:07:15 ทำงานผิดปกติปอดของเรามีหน้าที่ในการแลก
00:07:15 → 00:07:18 เปลี่ยนก๊าซถ้ามันถูกทดแทนด้วยพังผืดจะ
00:07:18 → 00:07:21 เกิดอะไรขึ้นมันก็แลกเปลี่ยนก๊าซไม่ได้ไง
00:07:21 → 00:07:24 ครับมันก็จะเกิดอาการเหนื่อยง่ายหอบง่าย
00:07:24 → 00:07:28 นะครับอ่าแล้วที่สำคัญคือมันแก้ไขไม่ได้
00:07:28 → 00:07:31 ครับพังผืดเราไม่มีทางกลับไปเหมือนเดิม
00:07:31 → 00:07:34 ได้ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันนี้นั่นก็คือ
00:07:34 → 00:07:36 เป็นสิ่งที่เราต้องกังวลมากๆแต่ก็ไม่รู้
00:07:36 → 00:07:38 เหมือนกันในอนาคตอาจจะมีเทคโนโลยีมาทำให้
00:07:38 → 00:07:40 มันดีขึ้นก็ได้นะครับแต่ว่าตอนนี้ยังไม่
00:07:40 → 00:07:43 มีนะครับงั้นตรงนี้ก็ต้องระวังมันทำให้
00:07:43 → 00:07:45 เกิดโรคพังผืดตอดได้นะครับ
00:07:45 → 00:07:49 การที่กรดมันไหลย้อนโดนหลอดอาหารนานๆหลอด
00:07:49 → 00:07:52 อาหารกลายเป็นมะเร็งได้อันนี้น่ากลัวนะ
00:07:52 → 00:07:56 ครับมันจะมีรอยโรคบางอย่างคือเซลล์ตรง
00:07:56 → 00:07:59 นั้นมันเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงแล้วเปลี่ยน
00:07:59 → 00:08:00 แปลงถ้าเราปล่อยไว้นานๆจะกลายไปเป็น
00:08:00 → 00:08:02 มะเร็งเลยนะครับการเปลี่ยนแปลงของเซลล์
00:08:02 → 00:08:05 ตรงหลอดอาหารตรงนี้เราจะเรียกว่า Beat
00:08:05 → 00:08:07 disa
00:08:07 → 00:08:09 ก็คือเป็นเซลล์ตรงนี้มันเกิดการเปลี่ยน
00:08:09 → 00:08:12 แปลงเนื่องจากการโดนการระคายเคืองบ่อยๆนะ
00:08:12 → 00:08:15 ครับแล้วคนที่เป็นแบรนด์จะต้องไปส่อง
00:08:15 → 00:08:18 กล้องดูทุกๆปีเลยด้วยแล้วก็ทำการ bioxy
00:08:18 → 00:08:20 หรือจะเอาชิ้นเนื้อตรงนั้นไปตรวจว่าเฮ้ย
00:08:20 → 00:08:22 มันกลายเป็นมะเร็งหรือยังนะถ้ามันกลาย
00:08:22 → 00:08:24 เป็นมากขึ้นอันนี้ต้องระวังเพราะมันต้อง
00:08:24 → 00:08:26 ไปรักษามะเร็งแล้วนะครับนี่ก็คือปัญหาของ
00:08:26 → 00:08:29 เรื่องของกรดไหลย้อนที่มันทำให้เกิดโรค
00:08:29 → 00:08:32 ตรงหลอดอาหารตรงนี้ได้นะครับเกิดฟันผุได้
00:08:32 → 00:08:34 เกิดปากเหม็นเกิดไซนัสอักเสบเกิดอะไรพวก
00:08:34 → 00:08:36 เนี้ยได้หมดเลยแล้วก็เกิดปอดอักเสบได้ปอด
00:08:36 → 00:08:38 เป็นพังผืดได้นะครับ Panic กำเนิดโรคหัว
00:08:38 → 00:08:40 ใจกำเริบนะครับพวกนี้มันไม่มีอะไรดีสัก
00:08:40 → 00:08:43 อย่างเลยนะครับอ่าตอนนี้เรารู้แล้วว่า
00:08:43 → 00:08:46 อาการอะไรที่ทำที่เป็นการกรดไหลย้อนแล้ว
00:08:46 → 00:08:49 กรดไหลย้อนปล่อยไว้นานๆมันเป็นอะไรได้นะ
00:08:49 → 00:08:53 ครับเรามาคุยกันถึงเรื่องว่าเออแล้วเราจะ
00:08:53 → 00:08:56 ป้องกันรักษามันได้อย่างไรนะครับ
00:08:56 → 00:09:00 หลายๆคนนะครับเคยมีประสบการณ์ว่าเป็นกรด
00:09:00 → 00:09:02 ไหลย้อนแล้วไปรักษากับหมอแล้วก็บอกว่า
00:09:02 → 00:09:07 ทำไมมันไม่หายสักทีบางคนก็กินยาเรียบร้อย
00:09:07 → 00:09:10 แล้วแล้วหยุดยาทำไมมันเป็นอีกเออทำไมมัน
00:09:10 → 00:09:12 เป็นไปอีกอ่ะนะครับต้องบอกอย่างนี้ครับ
00:09:12 → 00:09:16 ปัจจัยที่ทำให้โรคกรดไหลย้อนเนี่ยหายแล้ว
00:09:16 → 00:09:19 ก็ดีคือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเรานั่น
00:09:19 → 00:09:22 แหละครับแล้วอย่างที่ทุกคนทราบการปรับ
00:09:22 → 00:09:24 เปลี่ยนนิสัยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่
00:09:24 → 00:09:27 ใช้ของง่ายนะครับแต่ถ้าท่านทำได้มันจะ
00:09:27 → 00:09:29 เป็นการที่ช่วยเหลือร่างกายของท่านได้
00:09:29 → 00:09:32 ตลอดชีวิตท่านเลือกเองแล้วกันนะครับว่าจะ
00:09:32 → 00:09:36 สามารถทำได้ใจเราจะมั่นคงพอหรือเปล่าหรือ
00:09:36 → 00:09:39 ว่าใจเราจะไม่มั่นคงพอเราจะขอไปพึ่งยานะ
00:09:39 → 00:09:40 ครับเพราะหลายๆคนเพราะเพิ่งย้ายไม่ได้ก็
00:09:40 → 00:09:42 บอกว่าหมอเลี้ยงไข้หรือเปล่าขอไปกินเอ่อ
00:09:42 → 00:09:44 สมุนไพรตัวนี้เขาว่าดีแต่ทำให้กรดไหลย้อน
00:09:44 → 00:09:47 หายตัวนี้กินแล้วโน่นนี่ไปฉีดสเต็มเซลล์
00:09:47 → 00:09:49 ไปทำโน่นทำนี่แล้วเดี๋ยวมันจะดีขึ้นไม่ดี
00:09:49 → 00:09:51 หรอกครับมีอะไรก็ไม่หายนะฮะมันอยู่ที่
00:09:51 → 00:09:54 พฤติกรรมการรักษาตัวของตัวเองครับก็
00:09:54 → 00:09:56 เหมือนกับการที่จะบอกว่าเนี่ยเราไปหกล้ม
00:09:56 → 00:09:59 แล้วเรามีแผลอยู่อันนึงนะครับไปหาหมอทายา
00:09:59 → 00:10:01 แผลดูแลแผลและแผลมันดีขึ้นแล้วเราไปหกล้ม
00:10:01 → 00:10:04 ใหม่ก็มีแผลเหมือนเดิมทุกวันแสงมันก็อยู่
00:10:04 → 00:10:05 ที่เดิมใหญ่ขึ้นเยอะใหญ่ขึ้นกว่าเดิมอีก
00:10:05 → 00:10:09 นะครับฉะนั้นวิธีการแก้ก็คือก็ต้องเราไม่
00:10:09 → 00:10:11 ไปหกล้มไงครับมันถึงจะไม่เป็นถูกไหมครับ
00:10:11 → 00:10:15 อ่าย้อนก็เหมือนกันถามว่าพฤติกรรมอะไรใน
00:10:15 → 00:10:18 การที่เราจะทำแล้วก็แก้ไขภาวะกรดไหลย้อน
00:10:18 → 00:10:22 ได้กรณีแรกเคี้ยวให้ละเอียดก่อนเลยนะครับ
00:10:22 → 00:10:24 เคี้ยวให้ละเอียดเลยคำๆนึงส่วนใหญ่จะใช้
00:10:24 → 00:10:27 เวลาประมาณต้องต้องเคี้ยวอย่างน้อยๆสัก
00:10:27 → 00:10:29 ประมาณ 30 ครั้งต่อคำถ้าอาหารมันเหนียว
00:10:29 → 00:10:32 มากย่อยยากยากก็แน่นอนว่าอาจจะต้องเคี้ยว
00:10:32 → 00:10:34 นานกว่านั้นนะครับ
00:10:34 → 00:10:39 อย่าทานอาหารจนกระทั่งอิ่มเพราะว่าถ้าเรา
00:10:39 → 00:10:42 อิ่มกระเพาะมันป่องเต็มที่แล้วหูรูดมัน
00:10:42 → 00:10:44 ยิ่งไม่ดีมันก็ไหลย้อนมาได้ง่ายๆถูกไหม
00:10:44 → 00:10:48 ครับนั่นก็คือปัญหานะครับฉะนั้นอย่าทาน
00:10:48 → 00:10:50 อาหารจนอิ่มคือกินอาจจะเป็นแบ่งเป็นหลาย
00:10:50 → 00:10:53 มื้อได้แต่อย่าทานจนอิ่มเต็มที่แล้วกันนะ
00:10:53 → 00:10:56 ครับแล้วก็พอเราทานเสร็จเนี่ยให้ไปเดิน
00:10:56 → 00:10:59 ย่อยอย่านอนเด็ดขาดอย่านั่งดูทีวีเด็ดขาด
00:10:59 → 00:11:01 เพราะว่ามันจะยิ่งทำไม่เป็นนะครับย่อยนี่
00:11:01 → 00:11:03 หมายความว่าท่านเดินสักประมาณ 15 นาทีช้า
00:11:03 → 00:11:06 ๆไม่ต้องเร่งไม่ต้องรีบนะครับเดินช้าๆ
00:11:06 → 00:11:08 15-20 นาทีหรือถ้าเกิดคนไหนเป็นมากก็อาจ
00:11:08 → 00:11:10 จะเดินครึ่งชั่วโมงนะครับถ้าเดินไม่ไหว
00:11:10 → 00:11:13 จริงๆก็จัดให้ตัวแน่นไว้เพราะบางคนเนี่ย
00:11:13 → 00:11:15 มีโรคกรดไหลย้อนแต่ว่าเนื่องจากตัวเอง
00:11:15 → 00:11:18 เนี่ยเป็นอัมพฤกษ์นะครับไม่สามารถเดินได้
00:11:18 → 00:11:20 พวกนี้วิธีก็คือจับให้นั่งไว้อย่างนี้
00:11:20 → 00:11:23 อย่างน้อยๆก็ครึ่งชั่วโมงนะครับอย่าลงไป
00:11:23 → 00:11:24 นอนเด็ดขาดเพราะว่านอนเมื่อไหร่ปุ๊บมัน
00:11:24 → 00:11:26 ได้ไหลย้อนขึ้นมาทันทีแล้วบางคนถ้าโชค
00:11:26 → 00:11:28 ร้ายอาหารไหลย้อนขึ้นมาแล้วสำลักเข้าปอด
00:11:28 → 00:11:31 นั้นก็คือเกิดปอดติดเชื้อนะครับเพราะ
00:11:31 → 00:11:34 ฉะนั้นตรงนี้อย่าทำนี่คือพฤติกรรมอันนึง
00:11:34 → 00:11:37 ที่จำเป็นจะต้องทำเคี้ยวให้ละเอียดอย่า
00:11:37 → 00:11:39 ทานจนอิ่มนะครับแล้วก็หลังจากทานเสร็จไป
00:11:39 → 00:11:42 เดินย่อยสักครึ่งชั่วโมงหรือถ้าเดินไม่
00:11:42 → 00:11:44 ได้ก็ให้ตัวนั่งตรงไว้อย่างน้อยครึ่ง
00:11:44 → 00:11:47 ชั่วโมงห้ามนอนลงไปเด็ดขาดมิฉะนั้นจะยิ่ง
00:11:47 → 00:11:50 เป็นนะครับอันที่ 2 เกี่ยวข้องกับอาหาร
00:11:50 → 00:11:53 ที่ทานนะครับต้องไปดูนะครับเพราะว่ามันมี
00:11:53 → 00:11:56 อาหารหลายประเภทเลยที่ทำให้กรดไหลย้อน
00:11:56 → 00:12:00 กลับเริ่มนะครับเช่นกาแฟคาเฟอีนช็อกโกแลต
00:12:00 → 00:12:03 นะครับมะเขือเทศนะครับบางคนกินผักชีก็
00:12:03 → 00:12:06 เป็นนะครับกินเซเลอรีก็เป็นนะครับแล้วแต่
00:12:06 → 00:12:08 ละคนเนี่ยอาหารที่กระตุ้นเนี่ยอาจจะไม่
00:12:08 → 00:12:10 เหมือนกันดังนั้นท่านจะต้องไปดูด้วยว่า
00:12:10 → 00:12:11 ตัวเองเนี่ยทานอาหารประเภทไหนแล้วกระตุ้น
00:12:11 → 00:12:14 แล้วมันเป็นหรือบางทีสังเกตตัวเองก็ได้
00:12:14 → 00:12:16 ว่ากินไอ้นี่แล้วเอ้ยมันเป็นนะน้ำอัดลม
00:12:16 → 00:12:19 นี่ก็ตัวดีเหมือนกันนะครับเพราะว่าน้ำอัด
00:12:19 → 00:12:22 ลมมันเป็นกรดครับแล้วมันก็มีลมที่มันอัด
00:12:22 → 00:12:24 เข้าไปมันก็จะทำให้เกิดความดันแล้วมันดัน
00:12:24 → 00:12:27 ไปไหนครับมันก็ดันขึ้นมาบนนะ
00:12:27 → 00:12:30 ไอ้พวกนี้จะต้องระวังแล้วของพวกนี้หาง่าย
00:12:30 → 00:12:33 นะครับเราแค่ Google หาว่าอาหารอะไรที่ทำ
00:12:33 → 00:12:35 ให้กรดไหลย้อนกลับเริ่มได้มันมาเป็นลิสต์
00:12:35 → 00:12:37 ยาวเลยนะครับเราก็ต้องไปดูว่าอาหารอะไร
00:12:37 → 00:12:39 ที่เราเรียกได้ก็ต้องพยายามเลี่ยงเหมือน
00:12:39 → 00:12:41 กันนะครับไม่ฉะนั้นมันก็จะกลับมาเป็นใหม่
00:12:41 → 00:12:43 อีกรอบนึงได้นะครับยิ่งเป็นใหม่ซ้ำเรื่อย
00:12:43 → 00:12:46 ๆมันก็ยิ่งไม่หายแล้วนะครับ
00:12:46 → 00:12:50 อันที่ 3 เรื่องของการขับถ่ายนะครับเรา
00:12:50 → 00:12:52 ต้องอยากให้ท้องผูกเพราะว่าถ้าเมื่อไหร่
00:12:52 → 00:12:54 เราท้องผูกมีอุจจาระอุดตันอยู่ที่ลำไส้
00:12:54 → 00:12:58 เราอาหารของเราในกระเพาะมันบีบลงไปแล้ว
00:12:58 → 00:13:01 มันไปเจออะไรครับก็เจออุจจาระเรานั่นแหละ
00:13:01 → 00:13:03 ครับแล้วมันไปต่อได้ไหมครับไม่ได้ไงครับ
00:13:03 → 00:13:05 ไม่ได้ว่ามันไปไหนมันก็ทนกลับมาตรงที่
00:13:06 → 00:13:07 เดิมแล้วมันก็ไหลขึ้นมาย้อนเหมือนเดิมนะ
00:13:07 → 00:13:10 ครับดังนั้นเรื่องของการขับถ่ายสำคัญมาก
00:13:10 → 00:13:13 นะครับสำคัญมากเราต้องให้ถ่ายได้ทุกวัน
00:13:13 → 00:13:15 หรือไม่ก็อย่างน้อยก็ 2-3 วันสักครั้ง
00:13:15 → 00:13:17 หนึ่งอ่ะเราก็ต้องถ่ายให้หมดท้องถ้าคนไหน
00:13:17 → 00:13:19 2-3 วันถ่ายครั้งนึงโอ้โหมันแน่นเหลือ
00:13:19 → 00:13:22 เกินอันนี้ไม่ได้แล้วก็ต้องไปหาทางวิธี
00:13:22 → 00:13:24 อื่นๆให้ได้ถ่ายออกมาได้นะครับตรงเนี้ย
00:13:24 → 00:13:27 สำคัญมากๆเลยครับเรื่องของพฤติกรรมในการ
00:13:27 → 00:13:29 ขับถ่ายนะครับ
00:13:29 → 00:13:32 ทีนี้นอกเหนือจากนี้แน่นอนว่าการรักษาโรค
00:13:32 → 00:13:34 ประจำตัวการดูยาบางชนิดที่ทำให้กรดไหล
00:13:34 → 00:13:36 ย้อนกำเริบอาจจะต้องแก้ไขตรงนั้นนะครับ
00:13:36 → 00:13:39 การที่เครียดมากๆกดมันก็จะไหลย้อนได้นะ
00:13:39 → 00:13:42 ครับการที่เราพักผ่อนไม่เพียงพอกดมันไหล
00:13:42 → 00:13:44 ย้อนได้ก็ต้องไปแก้ไขภาวะนั้นหมดเลยนะ
00:13:44 → 00:13:46 ครับอาหารต้องทานให้สมดุลพักผ่อนให้เพียง
00:13:46 → 00:13:49 พอไม่เครียดพวกนี้ก็ช่วยได้การออกกำลัง
00:13:49 → 00:13:51 กายก็ช่วยทำให้ภาวะพวกนี้มันดีขึ้นได้แต่
00:13:51 → 00:13:54 ที่ห้ามอย่างหนึ่งก็คือห้ามทานอาหารเสร็จ
00:13:54 → 00:13:57 ปุ๊บไปออกกำลังกายเลยเพราะว่าอะไรของที่
00:13:57 → 00:13:59 อยู่ในท้องเราเนี่ยมันเต็มไปหมดเลยเราทาน
00:13:59 → 00:14:02 อิ่มอิ่มเราไปออกกำลังกายออกกำลังกายมี
00:14:02 → 00:14:04 การเกร็งกล้ามเนื้อการหายใจเร็วมันไปกด
00:14:04 → 00:14:06 ไอ้ตรงอาหารตรงนี้ให้มันไหลย้อนขึ้นมาก็
00:14:06 → 00:14:08 ยิ่งเป็นนะครับดังนั้นห้ามไปออกกำลังกาย
00:14:08 → 00:14:13 หลังอาหารนะครับทานอาหารก่อนนอนอย่างน้อย
00:14:13 → 00:14:16 ๆต้องเว้นนะครับต้องเว้นมื้อสุดท้ายกับ
00:14:16 → 00:14:18 มื้อก่อนนอนอย่างน้อยๆก็ต้องเว้นสัก
00:14:18 → 00:14:20 ประมาณสัก 3 ชั่วโมงนะครับ 2-3 ชั่วโมง
00:14:20 → 00:14:22 ถ้าคนไหนเป็นหนักมากๆก็ต้อง 3 ชั่วโมงนะ
00:14:22 → 00:14:25 ครับถ้าเรากินปุ๊บนอนปั๊บอ่าเป็นแน่นอนนะ
00:14:25 → 00:14:27 ครับมันมันได้เป็นแน่ๆเลยนะครับดังนั้น
00:14:27 → 00:14:30 ต้องเว้นระยะระหว่างมื้อสุดท้ายกับมื้อ
00:14:30 → 00:14:33 นอนของเรานะครับบางคนขอดื่มนมนิดนึงก่อน
00:14:33 → 00:14:35 นอนได้ไหมได้นะครับอันนั้นก็ไม่ค่อยมี
00:14:35 → 00:14:37 ปัญหาอะไรสามารถทำได้แต่อย่าดื่มเข้าไป
00:14:37 → 00:14:39 เยอะแล้วกันถ้าดื่มเข้าไปเยอะก็ก็มีปัญหา
00:14:39 → 00:14:43 แล้วถ้าท่านกำลังมีกรดไหลย้อนอยู่แล้วไม่
00:14:43 → 00:14:46 แน่ใจแล้วต้องนอนเนี่ยวิถีก็คือพยายามนอน
00:14:46 → 00:14:49 ให้ตัวเองเนี่ยตัวเนี่ยสูงเข้าไปนะครับ
00:14:49 → 00:14:53 เอาหมอนไปลองที่หลังนะครับให้ตัวเรายก
00:14:53 → 00:14:55 ขึ้นมานิดนึงนะครับจากปกติเราสมมุติเรา
00:14:55 → 00:14:57 นอนอันนี้เป็นหัวนะครับเรานอนหน้าเป็น
00:14:57 → 00:14:59 อย่างนี้นะครับเรายกขึ้นมานิดนึงอย่างนี้
00:14:59 → 00:15:02 กำลังดีไม่ใช่เอาหมอนไปยัดไว้หลังคอนะ
00:15:02 → 00:15:05 ครับถ้าหลังคอยัดไว้หลังคอยังพอเรามาเป็น
00:15:05 → 00:15:07 เงี้ยมันจะยิ่งปวดคอแล้วก็กรดไหลย้อนมัน
00:15:07 → 00:15:09 ก็ไม่ได้หายไปไหนมันต้องให้ตัวเรายกขึ้น
00:15:09 → 00:15:11 มาตั้งแต่ตรงตรงเอวของเราเนี่ยและสมมุติ
00:15:12 → 00:15:13 ว่าตรงข้อมือผมเป็นเอวแล้วกันถ้าตรงข้อ
00:15:13 → 00:15:16 มือของเอวเนี่ยก็ยกมาแค่นี้นะครับอ่าตั้ง
00:15:16 → 00:15:19 แต่ตรงเอวนะครับสักประมาณ 30 องศาหรือว่า
00:15:19 → 00:15:21 หมอน 2 ใบยัดเข้าไปอย่างเงี้ยก็จะพอช่วย
00:15:21 → 00:15:24 ทำให้ท่านแก้ไขภาวะกรดไหลย้อนได้นะครับ
00:15:24 → 00:15:27 อ่าตรงนี้ก็เป็นสิ่งที่อยากจะรู้ในแง่ของ
00:15:27 → 00:15:29 การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อที่จะป้องกัน
00:15:29 → 00:15:33 กรดไหลย้อนต่อไปนี้ก็คือเฮ้ยแล้วรักษายัง
00:15:33 → 00:15:36 ไงนะครับต้องบอกอย่างนี้ก่อนของที่อยู่ใน
00:15:36 → 00:15:39 กระเพาะเราอ่ะมันไม่ใช่แค่กรด
00:15:39 → 00:15:42 มีน้ำมีอาหารมีน้ำดีได้เนี่ยประกอบไปใน
00:15:42 → 00:15:43 บางคน
00:15:43 → 00:15:46 แล้วถ้าเราไปรักษาด้วยการกินยาลดกรดนะ
00:15:46 → 00:15:49 ครับเช่นอ่าอย่างผมไม่ประสงค์นะครับยา
00:15:49 → 00:15:52 สมมุติที่ดีร้านนี้ที่ดีอย่า S ลงเม็ดผสม
00:15:52 → 00:15:55 ประเภทผสมหรืออะไรพวกเนี้ยที่ชื่อแปลกๆ
00:15:55 → 00:15:57 ที่ท่านอาจจะรู้บางท่านอาจจะไม่รู้ไม่
00:15:57 → 00:16:00 เป็นไรนะครับทานไปแล้วเนี่ยนะครับสิ่งที่
00:16:00 → 00:16:06 มันทำก็คือมันไปลดกรดมันไปลดกรดแต่มันไม่
00:16:06 → 00:16:09 ได้ยุ่งอะไรกับหูรูดของท่านถูกไหมครับหู
00:16:09 → 00:16:12 รูดระหว่างทางเดินอาหารท่ออาหารของท่าน
00:16:12 → 00:16:14 แล้วก็กระเพาะอาหารของท่านที่เปิดเหมือน
00:16:14 → 00:16:14 เดิม
00:16:15 → 00:16:17 แต่ถ้าท่านไม่มีกรดโอเคกรดมันไม่ไหลย้อน
00:16:17 → 00:16:20 เฮ้ยเราอย่างอื่นอะไรย้อนได้เปล่า
00:16:20 → 00:16:24 ที่นี่รู้หรือยังครับอาหารปกติที่ไม่ใช่
00:16:24 → 00:16:28 กรดน้ำน้ำดีพวกนี้ไม่ใช่กรดมันไหลย้อนได้
00:16:28 → 00:16:31 อยู่ดีครับดังนั้นเนี่ยการที่ท่าน
00:16:32 → 00:16:34 ทานยาลดกรดอยู่นะครับเมื่อจะเป็นยาอะไรก็
00:16:34 → 00:16:37 แล้วแต่รักษายังไงก็แล้วแต่ถ้าท่านไม่
00:16:37 → 00:16:40 ปรับพฤติกรรมแล้วก็ไม่มีทางหายครับไม่มี
00:16:40 → 00:16:42 ทางหายเพราะว่าของอย่างอื่นที่มันไหลย้อน
00:16:42 → 00:16:45 ขึ้นมาได้เนี่ยมันก็มีฤทธิ์กัดกร่อนฤทธิ์
00:16:45 → 00:16:47 ทำลายพวกเนื้อเยื่อตรงบริเวณนี้ทั้งนั้น
00:16:47 → 00:16:49 เลยนะครับดังนั้นพวกนั้นก็จะทำให้เกิด
00:16:49 → 00:16:52 ปัญหาได้ดังนั้นท่านจะต้องมีการปรับ
00:16:52 → 00:16:55 เปลี่ยนพฤติกรรมเสมอนะครับสำหรับท่านซึ่ง
00:16:55 → 00:16:57 มีแต่กรดที่มันไหลย้อนส่วนอย่างอื่นไม่
00:16:57 → 00:17:00 ไหลย้อนถามว่ามีไหมมีครับแล้วพวกนี้นี่
00:17:00 → 00:17:02 แหละครับที่กินยาลดกรดไปสักระยะหนึ่งแล้ว
00:17:02 → 00:17:04 ดีขึ้นแล้วพอหยุดยาลดกรดแล้วมันเป็นใหม่
00:17:04 → 00:17:07 นั่นก็เพราะว่าท่านไม่ได้ปรับเปลี่ยน
00:17:07 → 00:17:09 พฤติกรรมตั้งแต่แรกแล้วพอกรดไหลย้อนเป็น
00:17:09 → 00:17:12 ซ้ำหลายๆรอบแล้วก็มันยิ่งรักษายากขึ้น
00:17:12 → 00:17:14 เรื่อยๆเรื่อยๆแล้วบางคนพอเป็น 3-4 รอบ
00:17:14 → 00:17:16 แล้วมันก็ไม่ตลอดไปก็ต้องกินยาไปตลอดแล้ว
00:17:16 → 00:17:18 ก็ปรับพฤติกรรมไปตลอดซึ่งมันก็มีปัญหา
00:17:18 → 00:17:20 เหมือนกันนะครับ
00:17:20 → 00:17:22 อย่าลืมกรดไหลย้อนก็จะมีคนถามเหมือนกัน
00:17:22 → 00:17:24 ว่ากินนานๆเป็นอะไรหรือเปล่า
00:17:24 → 00:17:27 ต้องตอบอย่างนี้ครับว่าเวลาที่เราจะให้
00:17:27 → 00:17:29 กินยาอะไรสักอย่างเนี่ยเราจะต้องพิจารณา
00:17:29 → 00:17:32 ก่อนว่าข้อดีมันมากกว่าข้อเสียถ้าข้อดี
00:17:32 → 00:17:35 มากกว่าเราไม่ได้สนใจแล้วว่าข้อเสียมันจะ
00:17:35 → 00:17:36 มีอะไรเพราะว่าตอนนี้ข้อดีมันมากกว่าเรา
00:17:36 → 00:17:41 ต้องกินนะครับแต่ถ้าเกิดว่าเรามีวิธีใน
00:17:41 → 00:17:44 การจุดมันได้นะครับหยุดยาพวกนี้ได้เราก็
00:17:44 → 00:17:46 ควรจะหยุดนะครับเพราะว่าแน่นอนว่าถ้าเรา
00:17:46 → 00:17:48 สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีธรรมชาติที่มันไม่
00:17:48 → 00:17:50 ได้มีอันตรายนะครับแล้วไม่มีผลข้างเคียง
00:17:50 → 00:17:52 อะไรนะครับเช่นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่
00:17:52 → 00:17:55 เมื่อกี้ผมบอกไปแล้วท่านหยุดยาได้ผู้คนทำ
00:17:55 → 00:17:58 ครับไม่ฉะนั้นมันก็จะได้ผลข้างเคียงจากยา
00:17:58 → 00:18:00 นะครับผลข้างเคียงจากยาลดกรดนานๆเกิดอะไร
00:18:00 → 00:18:03 ขึ้นบ้างอ่ะยกตัวอย่างยากลุ่มโปรตอนปั๊ม
00:18:03 → 00:18:06 ngitor ที่ใช้กันบ่อยๆเลยโอเมกประสงค์
00:18:06 → 00:18:09 แรปได้โปรอะไรพวกนี้นะครับ
00:18:09 → 00:18:13 ใช้ขนาดเนี่ยกระเพาะไม่มีกรดกรดในกระเพาะ
00:18:13 → 00:18:15 มันมีหน้าที่ย่อยอาหารแล้วมันก็จะมีหน้า
00:18:15 → 00:18:17 ที่จัดการกับแบคทีเรียหลายๆอย่างถ้ามัน
00:18:17 → 00:18:19 จัดการกับแบคทีเรียไม่ได้แล้วก็
00:18:19 → 00:18:23 บางคนเนี่ยจะเกิดภาวะท้องเสียจากเชื้อ
00:18:23 → 00:18:27 ที่ทำให้เกิดลำไส้อักเสบได้เช่นยาเช่น
00:18:27 → 00:18:29 เชื้อที่ชื่อว่า cdp นะครับ
00:18:29 → 00:18:33 cost radioidistour ตัวนี้มันทำให้เกิด
00:18:33 → 00:18:34 ท้องเสียแบบติดเชื้อที่เราจำเป็นจะต้อง
00:18:34 → 00:18:37 กินยาฆ่าเชื้อลงไปไม่งั้นไม่หายนะครับเรา
00:18:37 → 00:18:38 เชื่อผมเลยครับท่านไม่อยากเป็นเชื้อตัว
00:18:39 → 00:18:41 นี้เพราะถ้าเป็นทีโอลำบากมากเลยกินยากัน
00:18:41 → 00:18:44 ยาวนะครับนอกเหนือจากนี้มันทำให้เกิดภาวะ
00:18:44 → 00:18:46 แมกนีเซียมในร่างกายของท่านต่ำได้
00:18:46 → 00:18:49 แมกนีเซียมในร่างกายมันเป็นตัวที่ควบคุม
00:18:49 → 00:18:51 ระบบของกล้ามเนื้อนะครับเส้นประสาทต่างๆ
00:18:51 → 00:18:53 ถ้ามันต่ำกว่านี้ก็มีปัญหาได้ที่ระบบ
00:18:53 → 00:18:56 กล้ามเนื้อเส้นประสาทนะครับบางคนมีภาวะ
00:18:56 → 00:18:57 กระดูกพรุน
00:18:57 → 00:19:00 พวกนี้นะครับเพราะฉะนั้นใช้ไปนานๆมันก็มี
00:19:00 → 00:19:02 ปัญหาแต่ถ้าท่านสมมุติว่าท่านไม่ได้ปรับ
00:19:02 → 00:19:04 พฤติกรรมอะไรเลยเนี่ยถ้าท่านเลิกใช้ยาพวก
00:19:04 → 00:19:07 เนี้ยท่านก็มีกฎหมายย้อนขึ้นมานะครับมัน
00:19:07 → 00:19:09 ก็ไม่มีวิธีที่จะทำให้มันหายได้ยกเว้น
00:19:09 → 00:19:11 ท่านปรับพฤติกรรมตัวเองนั่นเองนะครับ
00:19:11 → 00:19:14 อ่ะทีนี้นอกเหนือจากภาวะกรดไหลย้อนปกติ
00:19:14 → 00:19:16 แล้วเนี่ยบางคนมันมีกรดไหลย้อนแต่ว่ามัน
00:19:16 → 00:19:17 มีอาการที่
00:19:17 → 00:19:21 ทำให้สงสัยโรคที่มันมากกว่านั้นก็ต้องไป
00:19:21 → 00:19:23 ตรวจมากกว่านั้นยกตัวอย่างเช่นกรดไหลย้อน
00:19:23 → 00:19:25 และทานยาแล้วมันไม่ดีขึ้นหมอก็อาจจะแนะนำ
00:19:25 → 00:19:28 ว่าต้องส่องกล้องละกรดไหลย้อนที่มีถ่าย
00:19:28 → 00:19:31 อุจจาระออกมาดำๆดำๆเนี่ยมันจะเหมือนยาง
00:19:31 → 00:19:34 มะตอยดำเละเหนียวติดส้วมพวกนี้แปลว่ามี
00:19:34 → 00:19:36 เลือดออกในทางเดินอาหารจำเป็นจะต้องส่อง
00:19:36 → 00:19:38 กล้องดูก็พอนะครับอันที่ 3 คือมีน้ำหนัก
00:19:38 → 00:19:40 ลด
00:19:40 → 00:19:42 มีน้ำหนักลดแล้วบางคนมีเหงื่อออกกลางคืน
00:19:42 → 00:19:44 เริ่มรู้สึกกินอะไรไม่ค่อยได้กินเราก็
00:19:44 → 00:19:46 อิ่มง่ายพวกนี้ต้องระวังมะเร็งในกระเพาะ
00:19:46 → 00:19:48 นะครับพวกนี้หมอก็จะต้องส่องท่องดูก็พอ
00:19:48 → 00:19:51 ถ้าท่านมีอาการน้ำหนักลดโดยที่ท่านไม่ได้
00:19:51 → 00:19:54 ตั้งใจลดน้ำหนักนะครับต้องส่องก๊อปส่อง
00:19:54 → 00:19:55 กล้องนะครับ
00:19:55 → 00:19:57 แล้วถ้าโอเคตรวจการส่องกล้องทำทุกอย่าง
00:19:57 → 00:20:00 แล้วมันไม่เจออะไรเลยนะครับแล้วยังมี
00:20:00 → 00:20:02 อาการของกรดไหลย้อนที่รุนแรงอยู่ถามว่าทำ
00:20:02 → 00:20:06 ยังไงก็มีการผ่าตัดนะครับผ่าตัดรัดตัว
00:20:06 → 00:20:09 กระเพาะนะครับคือสมมุตินี่เป็นท่ออาหาร
00:20:09 → 00:20:11 ของเรานะครับแล้วก็ตรงตรงกำมือตรงนี้ของ
00:20:12 → 00:20:13 ผมเป็นกระเพาะนะครับอาหารมันไหลย้อนมาได้
00:20:13 → 00:20:15 แล้วได้ตรงนี้เพราะว่าหูรูดตรงเนี้ยมันมี
00:20:15 → 00:20:19 ปัญหานะครับวิธีในการผ่าตัดก็คือมันมีได้
00:20:19 → 00:20:22 หลายแบบนะครับแบบที่เราทำทั่วๆไปก็มันจะ
00:20:22 → 00:20:25 เชื่อว่าเอ่อฟันโดเรเคชั่นนะครับฟันโดมมา
00:20:25 → 00:20:26 จากคำว่า fundus fundus ก็คือเป็นส่วน
00:20:26 → 00:20:28 ป่องของกระเพาะที่มันอยู่รอบๆทางเดิน
00:20:28 → 00:20:31 อาหารทางเดินอาหารเรามาตรงนี้ปุ๊บมันจะมี
00:20:31 → 00:20:33 ป่องๆเป็นโดมขึ้นมาตรงเนี้ยเค้าเรียกว่า
00:20:33 → 00:20:35 ฟันเนิร์สนะครับฟันโอเครเคชั่นก็คือการ
00:20:35 → 00:20:38 เอาเนี่ยมารัดรอบๆนี้ทำให้เหมือนสร้าง
00:20:38 → 00:20:40 เป็นหูรูดเทียมขึ้นมานะครับเพื่อไม่ให้กด
00:20:40 → 00:20:43 มันไหลย้อนขึ้นไปได้อ่าอาจจะมีหลายแบบอาจ
00:20:43 → 00:20:45 จะนิดเส้นฟันตัว playgration Coupe
00:20:45 → 00:20:47 1,000cation อะไรก็แล้วแต่นะครับก็เป็น
00:20:47 → 00:20:49 วิธีของหมอตรงนี้ให้หมอเค้าไปพิจารณาเอา
00:20:49 → 00:20:53 เองหรือมันก็มีบางกรณีซึ่งอาจจะทำพิธี
00:20:53 → 00:20:55 อื่นได้เช่นการไม่ได้ผ่าตัดใหญ่อาจจะเอา
00:20:55 → 00:20:58 ตัววงแหวนนะครับไปรัดตรงหูรูดตรงนี้ให้
00:20:58 → 00:21:00 มันเป็นหูรูดเทียมละกันอันนั้นก็เป็นอีก
00:21:00 → 00:21:03 วิธีหนึ่งนะครับหรือบางคนที่เป็นอาการ
00:21:03 → 00:21:06 น้อยๆหมอก็อาจจะใช้วิธีในการส่องกล้องนะ
00:21:06 → 00:21:08 ครับเข้าไปในหลอดอาหารตรงนี้นะครับสมมุติ
00:21:08 → 00:21:10 กลมๆนี้เป็นหลอดอาหารนะส่องกล้องเข้ามา
00:21:10 → 00:21:13 ปุ๊บเข้าไปในกล้องอย่างนี้นะครับแล้วเขา
00:21:13 → 00:21:17 ก็จะไปยิงขึ้นความถี่รอบๆนี้ยิงๆๆทำให้หู
00:21:17 → 00:21:19 รูดตรงนี้มันติดตัวลงมานะครับนี่ก็เป็น
00:21:19 → 00:21:22 อีกวิธีนึงซึ่งสามารถที่จะทำได้นะครับแต่
00:21:22 → 00:21:24 ว่าท่านจะเหมาะกับวิธีไหนนั้นต้องไป
00:21:24 → 00:21:26 ปรึกษาหมอนะครับถามผมก็ไม่ได้เหมือนกันนะ
00:21:27 → 00:21:29 ครับเพราะมันต้องใช้ข้อมูลหลายอย่างในการ
00:21:29 → 00:21:32 ประกอบการตัดสินใจว่าเอ้ยเราจะต้องผ่าตัด
00:21:32 → 00:21:34 รัดกระเพาะตรงนั้นหรือใส่เอ่อตัวยางรัด
00:21:34 → 00:21:38 ได้หรือว่าอ่าเข้าไปยิงข้างในให้มันปิดลง
00:21:38 → 00:21:41 มาได้นะครับก็ทำได้ 38 หลักๆนั่นเองนะ
00:21:41 → 00:21:44 ครับนี่ก็คือเป็นวิธีในการรักษานะครับดัง
00:21:44 → 00:21:47 นั้นโดยสรุปนะครับเรื่องของกรดไหลย้อนมัน
00:21:47 → 00:21:49 ไม่ใช่เรื่องปกติสุขนะครับไม่ใช่เรื่อง
00:21:49 → 00:21:53 ที่เล่นๆนะครับมันมีอาการหลากหลายตั้งแต่
00:21:53 → 00:21:56 อาการแสบยอดอกนะครับอาการบางคนจะอ้วกออก
00:21:56 → 00:21:58 มาเลยบางคนกลืนแล้วมันติดนะครับบางคนมี
00:21:58 → 00:22:01 อาการปากเหม็นฟันผุไซนัสอักเสบติดหวัด
00:22:01 → 00:22:04 บ่อยคออักเสบบ่อยนะครับมีอาการไอเรื้อรัง
00:22:04 → 00:22:06 ได้นะครับโดยที่ไม่มีอาการแสบยอดอกเลยนะ
00:22:06 → 00:22:09 ครับแล้วปล่อยไว้นานๆบางคนเป็นมะเร็งใน
00:22:09 → 00:22:12 กระเพาะไปเป็นมะเร็งในหลอดอาหารนะครับมี
00:22:12 → 00:22:14 อาการปอดมันอักเสบได้นะครับเกิดเป็น
00:22:14 → 00:22:17 พังผืดทำให้โรคปอดต่างๆที่ท่านเป็นกำเริบ
00:22:17 → 00:22:20 นะครับทำให้โรคหัวใจกำเริบโรคแพนิคกำเริบ
00:22:20 → 00:22:23 ยกทุกอย่างกำเริบหมดเลยนะครับก็ต้องไปแก้
00:22:23 → 00:22:25 ไขนะครับอีกอย่างหนึ่งซึ่งผมเริ่มพูด
00:22:25 → 00:22:27 อย่างหนึ่งคือคนที่เป็นโรคอ้วนอ้วนมากๆ
00:22:27 → 00:22:30 พวกนี้ก็กรดไหลย้อนได้ง่ายคนที่ตั้งครรภ์
00:22:30 → 00:22:32 ก็กดไหลย้อนได้ง่ายเพราะว่ากระเพาะของเรา
00:22:32 → 00:22:35 โดนเบียดด้วยเด็กที่อยู่ในครรภ์แล้วก็โดน
00:22:35 → 00:22:38 เบียดด้วยเอ่อด้วยน้ำหนักที่เยอะขึ้นหรือ
00:22:38 → 00:22:40 ว่าไขมันที่เยอะขึ้นก็เบียดกระเพาะได้
00:22:40 → 00:22:42 แล้วในคุณแม่ที่ท้องอยู่เนี่ยมันมี
00:22:42 → 00:22:45 ฮอร์โมนนะครับฮอร์โมนพวกเนี้ย Project
00:22:45 → 00:22:46 Storage พวกนี้มันจะทำให้กระเพาะมันบีบ
00:22:46 → 00:22:49 ตัวช้าลงนะครับของมันก็ผ่านไปได้ช้าลงลูก
00:22:49 → 00:22:51 ของท่านก็เบียดอยู่นะครับก็จะยิ่งทำให้
00:22:51 → 00:22:53 เกิดกรดไหลย้อนได้ง่ายขึ้นดังนั้นพวก
00:22:53 → 00:22:56 เนี้ยก็อาจจะต้องไปรักษาแล้วการรักษาในคน
00:22:56 → 00:22:58 ท้องก็มักจะให้ยาลดกรดแบบชนิดเป็นน้ำหรือ
00:22:58 → 00:23:01 เป็นอย่างอื่นที่เข้าไปช่วยทำให้กรดมัน
00:23:01 → 00:23:03 เป็นกลางก็มีส่วนช่วยได้บ้างสมมุตินั้นก็
00:23:03 → 00:23:06 ต้องไปปรึกษาคุณหมอทางสูตรเด็ดๆที่รักษา
00:23:06 → 00:23:08 ท่านอยู่นะครับเขาก็จะช่วยท่านได้นะครับ
00:23:08 → 00:23:12 อ่าการป้องกันแน่นอนว่ากินอาหารได้เป็น
00:23:12 → 00:23:14 ให้เคี้ยวให้ละเอียดเลยนะครับเคี้ยวให้
00:23:14 → 00:23:16 ละเอียดไปดูด้วยว่าอาหารตัวไหนที่ทำให้
00:23:16 → 00:23:19 เป็นหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านั้นนะครับทาน
00:23:19 → 00:23:22 อาหารก็อย่าทานจนอิ่มนะครับทานเสร็จไป
00:23:22 → 00:23:24 เดินหรือนั่งไว้อย่างน้อยก็ครึ่งชั่วโมง
00:23:24 → 00:23:27 อย่าลงนอนเด็ดขาดนะครับแล้วหลังจากนั้น
00:23:27 → 00:23:29 เนี่ยต้องระวังอย่าไปทานอาหารใกล้เวลานอน
00:23:29 → 00:23:32 นะครับให้เว้นระยะเวลาสัก 2 ชั่วโมงทาน
00:23:32 → 00:23:34 อาหารเสร็จใหม่ๆอย่าไปออกกำลังกายนะครับ
00:23:34 → 00:23:36 ถ้าจะออกกำลังกายออกตอนท้องว่างๆเนี่ยดี
00:23:36 → 00:23:39 แล้วครับนะฮะนอกเหนือจากนี้การใช้ยาระยะ
00:23:39 → 00:23:41 เวลานานๆก็มีปัญหาได้นะครับก็ต้องไปดู
00:23:41 → 00:23:43 ด้วยว่าท่านยังมีประโยชน์ถึงการใช้ยาตรง
00:23:43 → 00:23:45 นั้นหรือเปล่านะครับการผ่าตัดก็มีส่วน
00:23:45 → 00:23:47 ช่วยได้เหมือนกันนะฮะแล้วก็อีกอย่างหนึ่ง
00:23:47 → 00:23:49 คือเรื่องของการนอนให้ศีรษะสูงขึ้นมานิด
00:23:49 → 00:23:52 นึงตรงนั้นก็ช่วยได้นะครับอันนี้ก็คิดว่า
00:23:52 → 00:23:56 น่าจะครบพอสมควรสำหรับเบื้องต้นของกรดไหล
00:23:56 → 00:23:59 ย้อนแต่ก็ยังมีรายละเอียดอื่นๆอีกเฉพาะ
00:23:59 → 00:24:01 บุคคลนะครับซึ่งท่านอาจจะต้องไปปรึกษาหมอ
00:24:01 → 00:24:04 ที่ตรวจท่านดูนะครับเพราะบางคนเนี่ยมี
00:24:04 → 00:24:06 อาการกรดไหลย้อนแต่มันไม่ใช่กรดไหลย้อน
00:24:06 → 00:24:08 บางคนมีอาการแน่นอกตรงกลางตรงเนี้ยเราไม่
00:24:08 → 00:24:10 เคยเป็นมาก่อนและคิดว่าเป็นกรดไหลย้อน
00:24:10 → 00:24:13 อย่างที่คิดว่าเป็นกรดไหลย้อนได้อย่าง
00:24:13 → 00:24:14 เดียวนะครับมันมีโรคอื่นยกตัวอย่างเช่น
00:24:14 → 00:24:17 ท่านแน่นตรงนี้มากๆบางคนเป็นนิ่วในถุงน้ำ
00:24:17 → 00:24:19 ดีแล้วถุงนึงมีอักเสบก็เป็นได้นะครับบาง
00:24:19 → 00:24:22 คนแน่นตรงนี้แล้วจริงๆเป็นโรคหัวใจขาด
00:24:22 → 00:24:24 เลือดอยู่ตอนนั้นก็เป็นได้โดยเฉพาะถ้า
00:24:24 → 00:24:26 เป็นผู้หญิงอายุเยอะๆเนี่ยนะครับแล้วมี
00:24:26 → 00:24:28 อาการแน่นๆตรงนี้ขึ้นมาอย่าไปคิดว่าเฮ้ย
00:24:28 → 00:24:32 นี่มันลมตีขึ้นไปจากอาหารเดี๋ยวขอเอายา
00:24:32 → 00:24:35 อะไรมาทานนะครับกินยากระต่ายขาวเอา
00:24:35 → 00:24:38 มหาหิงค์ทาพุงนะก็เลยเดี๋ยวจะขายยานะครับ
00:24:38 → 00:24:40 ถ้าอายุเยอะๆแล้วไปหาหมอเลยดีกว่าเพราะ
00:24:40 → 00:24:42 ว่าบางคนเนี่ยเป็นลิ่มเลือดมันไปอุดตัน
00:24:42 → 00:24:45 เส้นเลือดหัวใจหัวใจขาดเลือดแล้วถ้าท่าน
00:24:45 → 00:24:46 ไม่รักษารักษาไม่ทันกล้ามเนื้อหัวใจมัน
00:24:46 → 00:24:48 ตายแล้วตายเลยนะครับแก้ไม่ได้นะครับตรง
00:24:48 → 00:24:50 นั้นก็ต้องระวังให้ดีเพราะว่ามันมีโรคที่
00:24:50 → 00:24:54 อาการคล้ายกับอะไรกรดไหลย้อนถ้าท่านเคย
00:24:54 → 00:24:56 เป็นมาตลอดเวลาอันนี้ก็โอเคถ้าท่านก็รู้
00:24:56 → 00:24:57 ว่าอาการเป็นยังไงแต่ถ้าท่านนี้ไม่เคย
00:24:57 → 00:24:59 เป็นมาก่อนแล้วอยู่ๆมาเป็นแน่นมากๆไปหา
00:25:00 → 00:25:02 หมอเลยครับอย่าไปรักษาเองที่บ้านเพราะว่า
00:25:02 → 00:25:05 มันมักจะไม่หายสมุนไพรต่างๆบางทีทำให้กรด
00:25:05 → 00:25:07 ไหลย้อนเป็นมากขึ้นอีกนะครับท่านต้องไปดู
00:25:07 → 00:25:09 ด้วยว่าสมุนไพรอะไรบางคนกินแล้วเป็นเยอะ
00:25:09 → 00:25:12 นะครับบางคนกินแล้วเขาบอกว่าดีแต่มันกิน
00:25:12 → 00:25:15 แล้วไม่ดีนะครับอ่าตรงนี้ก็ต้องฝากไว้
00:25:15 → 00:25:18 ด้วยนะฮะสำหรับเรื่องของยาการรักษาในทาง
00:25:18 → 00:25:21 การแพทย์เรามีหลักฐานวิจัยทุกอย่างชัดเจน
00:25:21 → 00:25:23 เราโปร่งใสเรามีการบอกไว้ด้วยว่าอะไรที่
00:25:23 → 00:25:26 มีผลข้างเคียงอย่างไรข้อดีข้อเสียอย่างไร
00:25:26 → 00:25:28 แต่ถ้าเป็นสมุนไพรเป็นอาหารเสริมไปทุกๆ
00:25:28 → 00:25:30 อย่างเนี่ยมันมีแต่ข้อดีที่เขาบอกออกมา
00:25:30 → 00:25:32 ส่วนข้อเสียมีอะไรบ้างก็ไม่ได้บอกไม่ได้
00:25:32 → 00:25:35 มีฉลาดเขียนว่าข้อเสียคืออะไรเขาจะเขียน
00:25:35 → 00:25:38 ไว้แค่เอ่อสตรีมีครรภ์เด็กผู้ให้นมบุตร
00:25:38 → 00:25:41 ต่างๆก็จะต้องระวังปรึกษาแพทย์แค่นั้นเอง
00:25:41 → 00:25:43 ไม่ได้บอกเลยอื่นนะครับดังนั้นตรงนี้ต้อง
00:25:43 → 00:25:46 ระวังให้ดีไม่มีอะไรที่มีข้อดี 100% มัน
00:25:46 → 00:25:48 ต้องมีข้อเสียปนอยู่ถ้าท่านไม่เห็นข้อ
00:25:48 → 00:25:51 เสียดูเลยครับนั่นคือของที่ท่านไม่ควรจะ
00:25:51 → 00:25:54 ใช้นะครับโอเควันนี้ก็เท่านี้นะครับใครมี
00:25:54 → 00:25:56 อะไรสงสัยก็สอบถามมาได้นะครับขอบคุณมาก
00:25:56 → 00:25:58 ครับสวัสดีครับ