00:00:05 → 00:00:09 สวัสดีครับผมวีระพงษ์ทวีศักดิ์ดิฉันสุด
00:00:09 → 00:00:13 ธิดาพรปริปและนี่คือศัลยกรรมความสุข
00:00:13 → 00:00:16 รายการที่ฟังแล้วทำให้คุณมีความสุขมาก
00:00:16 → 00:00:21 ขึ้นมีความทุกข์น้อยลง
00:00:21 → 00:00:25 สวัสดีครับพี่อ้อยสวัสดีค่ะพี่วีครับคุณ
00:00:25 → 00:00:27 ผู้ฟังครับวันนี้เรามากัน 2 คนนะครับมี
00:00:27 → 00:00:29 พี่อ้อยกับพี่วีนะหรือพี่วีกับพี่อ้อย
00:00:29 → 00:00:32 แล้วแต่ว่าจะเรียกชื่อใครก่อนก็ได้นะครับ
00:00:32 → 00:00:35 เพราะว่าศัลยกรรมความสุขตอนนี้เราก็จะมา
00:00:35 → 00:00:38 เป็นแบบจัดคู่แล้วนะครับนอกจากจะมีเสียง
00:00:38 → 00:00:41 ชายหนุ่มนะครับพี่วีแล้วก็จะมีเสียงพี่
00:00:41 → 00:00:42 อ้อยด้วย
00:00:42 → 00:00:44 ผมอยากจะเริ่มอย่างนี้เลยครับเริ่มด้วยคำ
00:00:44 → 00:00:49 ถามว่าพี่อ้อยเคยโดนเรียกป้าไหมฮะจะบอก
00:00:49 → 00:00:52 ว่าถ้าตอนนี้นะคะโดนบ่อยเลยค่ะ
00:00:52 → 00:00:57 [เพลง]
00:00:57 → 00:01:02 แต่โดนนานๆทีเนี่ยพอโดนเรียกทีเนี่ยโอ้โห
00:01:02 → 00:01:08 มันควันออกหัวค่ะ
00:01:08 → 00:01:11 แสดงว่าแต่ตอนนี้ไม่ตอนนี้ไม่จี๊ดแล้วใช่
00:01:11 → 00:01:20 ไหมคะ
00:01:20 → 00:01:23 ครับนี่เลยครับที่ผมถามคำถามนี้พี่อ้อย
00:01:23 → 00:01:26 เนี่ยเป็นเพราะว่าวันนี้ผมจะมาชวนคุย
00:01:26 → 00:01:29 เรื่องคำทักเจ็บจี๊ด
00:01:29 → 00:01:37 [เพลง]
00:01:37 → 00:01:39 คำทักเจ็บจี๊ดเนี่ยจริงๆแล้วคำทักมันมี
00:01:39 → 00:01:43 หลายอย่างนะจริงๆแล้วจะว่าเป็นจะว่าไปนะ
00:01:43 → 00:01:45 ครับพี่อ้อยถ้าพูดเรื่องคำทักที่ทำให้เรา
00:01:45 → 00:01:47 เจ็บจี๊ดเนี่ยมันมีหลายหลายแง่หลายมุม
00:01:47 → 00:01:50 หลายประเด็นมากเลยวันนี้เราเอาประเด็นนี้
00:01:50 → 00:01:52 ก่อนเลยประเด็นที่
00:01:52 → 00:01:56 ป้าเนี่ยพอมีคนเรียกป้าปุ๊บเนี่ยคนส่วน
00:01:56 → 00:01:58 ใหญ่มนุษย์ส่วนใหญ่ก็จะแบบประมาณแบบเจ็บ
00:01:58 → 00:02:02 จี๊ดนะแล้วก็หรือบางทีผมอ่านข่าวพี่อ้อย
00:02:03 → 00:02:06 เคยเคยเห็นเคยเห็นข่าวไหมที่เขาบอกว่ามี
00:02:06 → 00:02:10 เหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วก็
00:02:10 → 00:02:15 มีใครสักคนนึงผู้ชายสักคนหนึ่งไปขับรถ
00:02:15 → 00:02:18 เฉี่ยวชนกับใครสักคนนึงนะฮะแล้วก็ไปทำ
00:02:18 → 00:02:22 ร้ายร่างกายกันคู่กรณีอาจจะบาดเจ็บเลยก็
00:02:22 → 00:02:26 ตามทีเนี่ยแล้วเขาก็รายงานว่าเออเขาเรียก
00:02:26 → 00:02:28 ผู้ชายคนนั้นแหละที่ไปทำร้ายอีกคนนึงอ่ะ
00:02:28 → 00:02:32 ว่าลุงนะฮะและชื่อลุงนี้ๆๆเนี่ยไปทำร้าย
00:02:32 → 00:02:36 คนนี้เนี่ยแล้วก็เขียนว่าลุงคนเนี้ยเอ่อ
00:02:36 → 00:02:39 เรียนจบมาจากนี่สาขานี้นะฮะแล้วก็อายุ
00:02:39 → 00:02:44 ประมาณ 50 กว่าๆประมาณนี้เพราะรายงาน
00:02:44 → 00:02:48 อย่างนี้ปึ๊บทุกคนก็บอกห๊ะ 50 เรียกลุง
00:02:48 → 00:02:50 แล้วหรอ
00:02:50 → 00:02:55 หรือป้าก็เหมือนกันก็จะมีแบบข่าวแบบราย
00:02:55 → 00:02:58 งานว่าผู้หญิงคนนึงไปมีเหตุการณ์ทะเลาะ
00:02:58 → 00:03:00 กับอะไรเงี้ยแล้วก็รายงานปุ๊บแล้วก็บอก
00:03:00 → 00:03:03 ว่าผู้หญิงคนนี้อายุ 40 กว่าแต่ไปเรียกใน
00:03:03 → 00:03:07 ข่าวรายงานว่าเป็นป้าเพราะฉะนั้นมีความ
00:03:07 → 00:03:11 รู้สึกว่าคำทักเนี่ยหลายคำเนี่ยมันทำให้
00:03:11 → 00:03:14 เรารู้สึกเจ็บจี๊ดที่อยากจะพูดถึงเรื่อง
00:03:14 → 00:03:17 นี้แล้วต้องบอกเลยนะครับคุณผู้ฟังประเด็น
00:03:17 → 00:03:21 นี้เนี่ยเหมาะมากเลยที่จะคุยกับพี่อ้อย
00:03:21 → 00:03:25 เพราะว่าพี่อ้อยเคยมีประสบการณ์ส่วนตัว
00:03:25 → 00:03:33 เกี่ยวกับเรื่องคำทักเจ็บจี๊ด
00:03:33 → 00:03:37 แถมให้นิดนึง
00:03:37 → 00:03:42 มีอารมณ์ร่วมไปกับเรื่องเล่านะคะก็คือ
00:03:42 → 00:03:47 ทีวีช่อง 1 ค่ะเป็นรายการสดค่ะวันนั้นก็
00:03:47 → 00:03:49 จะเป็นเหตุการณ์แบบเขาเรียกว่าอะไรเหตุ
00:03:49 → 00:03:54 การณ์ปัจจุบันก็จะเชิญคนมามาคุยเรื่องราว
00:03:54 → 00:03:57 ที่เป็นปัญหาวันนั้นก็สามีภรรยามาค่ะเออ
00:03:57 → 00:04:01 นั่งด้วยกันแล้วก็คู่กรณีค่ะปรากฏว่า
00:04:01 → 00:04:05 พิธีกรก็เรียกภรรยาว่าป้าแล้วก็เรียกสามี
00:04:05 → 00:04:11 ว่าว่าพี่นะคะ
00:04:11 → 00:04:16 เราดูอยู่เราเป็นผู้ชมทางบ้านเราก็ขำค่ะ
00:04:16 → 00:04:18 แล้วแล้วเขาก็แล้วเขาก็ขำตัวเองแล้วอ่ะ
00:04:18 → 00:04:22 เออทำไมเรียกเรียกตัวภรรยาว่าป้าแล้ว
00:04:22 → 00:04:24 เรียกสามีว่าพี่เค้าบอกไม่เป็นไรครับ
00:04:24 → 00:04:26 เรียกเลยยังไงก็ได้อะไรอย่างเงี้ยก็เลย
00:04:26 → 00:04:29 บอกว่าเออการตัดสินใจเรียกใครว่ายังไงอ่ะ
00:04:29 → 00:04:32 มันๆดูจากอะไรเนาะอะไรอย่างเงี้ยนะคะ
00:04:32 → 00:04:35 เพราะบังเอิญสามีเค้าอ่ะที่ออกรายการ
00:04:35 → 00:04:39 เนี่ยเค้าเค้าหนุ่มกับภรรยาคือไวไวอ่อน
00:04:39 → 00:04:42 กว่าภรรยาแล้วก็แต่ว่ามันมัน Range มัน
00:04:42 → 00:04:45 กว้างเนาะป้ากับพี่เนี่ย
00:04:45 → 00:04:49 โอ้โหค่ะก็เลยขำดีค่ะอาจารย์
00:04:49 → 00:04:52 จริงๆแล้วเนี่ยถ้าเราจะวาดด้วยเรื่องคำ
00:04:52 → 00:04:54 ทักเนี่ยนะมันต้องเริ่มจากประเด็นนี้ด้วย
00:04:54 → 00:04:56 นะพี่อ้อยว่า
00:04:56 → 00:05:01 มันเป็นวัฒนธรรมของของพวกเราของจะเรียก
00:05:01 → 00:05:03 ว่าประเทศไทยหรือเปล่าหรือชาวเอเชียหรือ
00:05:03 → 00:05:07 เปล่าใช่ๆเราเหมือนนับเราต้องนับญาติไม่
00:05:07 → 00:05:09 ได้เป็นญาติกันนะแต่ว่าจะทักทายเนี่ยจะ
00:05:09 → 00:05:12 นับญาติเจอใครก็จะไม่ฝรั่งเนี่ยเขาจะมี
00:05:12 → 00:05:16 แต่อยู่ไอกับยู 2 อย่างนะจริงๆเขามีคำว่า
00:05:16 → 00:05:19 ลุงป้าน้าอามีแต่เขาไม่เอามาเป็นคำทักเลย
00:05:19 → 00:05:22 แต่เราเป็นคำทักก็คือเจอหน้าปุ๊บต้อง
00:05:22 → 00:05:25 เรียกพี่เรียกน้องเรียกน้าเรียกลุงเรียก
00:05:26 → 00:05:30 มันก็เลยกลายเป็นแต่ว่ามันจะมีคำทักบาง
00:05:30 → 00:05:35 อย่างที่ที่จี๊ดฟังแล้วมันจี๊ดอ่ะอ้าและ
00:05:35 → 00:05:37 คำว่าป้าเนี่ยที่อาจารย์ถามเมื่อกี้เนี่ย
00:05:37 → 00:05:41 เป็นคำแรกว่าก็คือเป็นจะบอกว่าอะไรอ่ะคำ
00:05:41 → 00:05:45 ว่าป้าเนี่ยทำไมถึงต้องเจ็บมันๆอาจจะมี
00:05:45 → 00:05:48 ที่มาที่ไปที่แบบพ่วงกับคำว่ามนุษย์ป้า
00:05:48 → 00:05:53 ที่มันเป็นเชิงลบอย่างนี้ค่ะแล้วก็คือถ้า
00:05:53 → 00:05:56 อะไรที่เป็นผู้หญิงอายุสูงอายุแล้วทำอะไร
00:05:56 → 00:06:01 ไม่ดีก็จะถูกแสตมป์เลยว่านี่คือมนุษย์ป้า
00:06:01 → 00:06:04 ทีนี้พอพอมาเป็นป้าอย่างเดียวเนี่ยมันก็
00:06:04 → 00:06:09 น่าจะรู้สึกความรู้สึกมันต่อเนื่องไม่ชอบ
00:06:09 → 00:06:13 เลยสำหรับตัวเองเนี่ยนะคะก็คือสมัยก่อน
00:06:13 → 00:06:18 ตอนอายุ 50 ก็ 10 กว่าปีละเกือบ 20 ปี
00:06:18 → 00:06:24 แล้วก็เอ่อไปซื้อผลไม้นะคะแล้วก็กำลัง
00:06:24 → 00:06:28 เลือกอยู่นะผลไม้สวยจังนะคะก็เลือกๆอยู่
00:06:28 → 00:06:30 คนขายก็พูดขึ้นมาบอกว่า
00:06:30 → 00:06:34 บางครั้งวันนี้มะม่วงดีนะป้า
00:06:34 → 00:06:37 กำลังเลือกอยู่หยุดเลยค่ะ
00:06:37 → 00:06:41 หยุดเลยค่ะมีความรู้สึกว่าคำว่าป้าเนี่ย
00:06:41 → 00:06:46 มันแสลงหูเออมันเจ็บจี๊ดเลยในใจคิดอะไร
00:06:46 → 00:06:51 มั้ยคะในใจบอกว่าเฮ้ยเอาอะไร
00:06:51 → 00:06:54 มาตัดสินว่ามาเรียกฉันว่าป้าฉันก็ไม่ได้
00:06:54 → 00:06:58 เป็นพี่ของแม่เธอซะหน่อยไม่ใช่แบบว่า
00:06:58 → 00:07:02 เริ่มเหวี่ยงเหอะเริ่มเหวี่ยงแล้วก็พูดจา
00:07:02 → 00:07:06 มีหน้าฟังไม่น่าซื้อไม่ซื้อแล้วค่ะแล้วก็
00:07:06 → 00:07:09 ไปเลยต่อให้มะม่วงดีแค่ไหนถูกแค่ไหนนะคะ
00:07:09 → 00:07:13 คำว่าป้าเนี่ยมันจี๊ดโดนใจนะคะเพราะ
00:07:13 → 00:07:18 ฉะนั้นพอพูดไม่เข้าหูไปกระทบใจเลยบอกว่า
00:07:18 → 00:07:25 ตัดสินใจไม่ซื้อล่ะนี่คือประสบการณ์ตรง
00:07:25 → 00:07:28 ครับอันนี้เป็นตัวแสดงไม่ใช่ของจริงไม่
00:07:28 → 00:07:31 ใช่ตัวแสดงแทนเลยนะฮะแต่เมื่อกี้ตอนที่ผม
00:07:31 → 00:07:32 ฟังเนี่ยผมเกิดความคิดขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลย
00:07:33 → 00:07:37 นะครับว่าเอ่อพี่อ้อยกำลังเลือกซื้อผลไม้
00:07:37 → 00:07:41 เสร็จแล้วแม่ค้าเรียกว่าป้าปึ๊บแบบว่า
00:07:41 → 00:07:45 จี๊ดเลยปรี๊ดเลยนะแล้วก็คิดสารพัดเลยแล้ว
00:07:45 → 00:07:48 ก็มีวิธีการเดี๋ยวนั้นเลยว่าไม่ซื้อแล้ว
00:07:48 → 00:07:51 ผมเกิดความคิดว่าอะไรหรือเปล่าเฮ้ย
00:07:51 → 00:07:52 คือ
00:07:52 → 00:07:56 พี่อ้อยตอนนั้นโดนเรียกว่าเป็นว่าโดน
00:07:56 → 00:07:57 เรียกว่าป้า
00:07:57 → 00:08:01 ไม่แฮปปี้นะไม่แต่พฤติกรรมแบบนั้นน่ะคือ
00:08:01 → 00:08:06 มนุษย์ป้าใช่เลยใช่เลย
00:08:06 → 00:08:09 แล้วสำหรับคุณผู้ฟังนะครับ
00:08:09 → 00:08:12 คนในสมัยนี้เนี่ยก็จะมีตกอยู่ในอาการนี้
00:08:12 → 00:08:15 เยอะก็คือเจอคำทักบางอย่างที่ทำให้เรา
00:08:15 → 00:08:18 จี๊ดอาจจะอันนี้เป็นแค่ตัวอย่างนะครับว่า
00:08:18 → 00:08:20 มนุษย์ป้าเนี่ยเป็นตัวอย่างแต่ว่ามันมี
00:08:20 → 00:08:23 อีกหลายคำแต่ว่าประเด็นสำคัญที่ผมคิดว่า
00:08:23 → 00:08:25 น่าจะมีประโยชน์กับคุณผู้ฟังก็คือ
00:08:25 → 00:08:30 ณตอนนั้นโดนเรียกป้าแล้วจี๊ดเนี่ยแล้วตอน
00:08:30 → 00:08:35 นี้ถ้าโดนเรียกว่าสวัสดีครับป้า
00:08:35 → 00:08:37 เกิดอะไรขึ้นนะ
00:08:37 → 00:08:42 เมื่อกี้นี้ตอนที่พูดเล่าเรื่องซื้อผลไม้
00:08:42 → 00:08:47 นะคะก็ได้พูดบอกว่าคำว่าป้าเนี่ยมันไม่
00:08:47 → 00:08:52 เข้าหูเพราะมันไม่เข้าหูมันไปกระทบใจพอ
00:08:52 → 00:08:57 กระทบใจแล้วแบบไม่ชอบไม่พอใจแล้วก็ตัดสิน
00:08:57 → 00:09:00 ใจบอกว่าไม่ซื้อเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:09:00 → 00:09:03 เอ่อก็เลยบอกว่ากระบวนการมันเป็นแบบนี้
00:09:03 → 00:09:08 มันคือเริ่มต้นจากไม่เข้าหูไม่ชอบคำว่า
00:09:08 → 00:09:12 ป้านะคะมันเหมือนเป็นทัศนคติบางอย่างที่
00:09:12 → 00:09:15 คำว่าป้ามันไม่ดีไงมันไปเกี่ยวโยงมันบ้า
00:09:15 → 00:09:17 อะไรเงี้ยทั้งๆที่พฤติกรรมอย่างที่
00:09:17 → 00:09:20 อาจารย์บอกอ่ะมันก็มนุษย์ป้านี่แหละฉัน
00:09:21 → 00:09:24 น่ะไม่ยอมรับนะคะก็คือพอไม่พอใจมันก็มัน
00:09:24 → 00:09:28 ก็มีเอ่อพฤติกรรมที่ต่อต้านอะไรประมาณนี้
00:09:28 → 00:09:33 คราวนี้เนี่ยพอหลังจากนั้นคือเมื่อ 10
00:09:33 → 00:09:35 กว่าปีก่อนกับ 20 ปีเนี่ยตอนนั้นยังไม่
00:09:35 → 00:09:38 ได้เรียกว่ายังไม่ได้พัฒนาตัวเองยังไม่
00:09:38 → 00:09:40 ได้เรียนรู้ยังไม่ได้ปรับทัศนคติยังไม่
00:09:40 → 00:09:44 ได้อะไรแต่พอหลังจากนั้นน่ะเราค่อยๆเริ่ม
00:09:44 → 00:09:47 ต้นเรียนรู้แล้วก็ปรับวิธีคิดของตัวเองนะ
00:09:48 → 00:09:51 คะพอปรับมาเรื่อยๆเรื่อยๆเวลาเราปรับความ
00:09:51 → 00:09:55 คิดมันไม่ใช่ปรับเรื่องใดเรื่องหนึ่งมัน
00:09:55 → 00:09:58 ปรับเนี่ยมันมีผลเกี่ยวเนื่องไปกับแต่ละ
00:09:58 → 00:10:01 เรื่องราวในชีวิตไปหมดเลยอันนี้ก็มันก็
00:10:01 → 00:10:03 ได้รับผลกระทบจากการปรับวิธีคิดของตัวเอง
00:10:03 → 00:10:07 แล้วก็ตัวเองก็ไปเรียนโค้ชชิ่งนะคะทั้ง
00:10:07 → 00:10:11 สาย nlp แล้วก็สาย Action Learning Post
00:10:11 → 00:10:16 นะคะก็เอ่อได้ๆเข้าใจกระบวนการของการทำ
00:10:16 → 00:10:17 งานของสมองกับจิตใต้สำนึกอะไรอย่างเงี้ย
00:10:18 → 00:10:23 นะคะว่าเวลาเรารับข้อมูลเข้ามาทางตาทางหู
00:10:23 → 00:10:25 ทางอะไรอย่างเงี้ยค่ะแล้วมันวิ่งไปยังไง
00:10:25 → 00:10:28 ไปทำกระบวนการยังไงแล้วเราก็จะมี
00:10:28 → 00:10:32 รีแอคชั่นกลับมายังไงเราก็รู้ว่าอ๋อเรา
00:10:32 → 00:10:35 ควบคุมคนอื่นไม่ได้คนอื่นน่ะเขาจะเรียก
00:10:35 → 00:10:38 ร้องป้าเรายายหรือจะมาบอกเอ๊ะวันนี้ทำไม
00:10:38 → 00:10:41 หน้าโทรมจังอะไรก็ได้นะคะเราควบคุมเขาไม่
00:10:41 → 00:10:45 ได้แต่เราควบคุมรีแอคชั่นหรือสิ่งที่เรา
00:10:45 → 00:10:48 จะตอบกลับออกไปได้
00:10:48 → 00:10:49 เลยครับ
00:10:49 → 00:10:53 เราควบคุมคนอื่นไม่ได้งั้นแต่เราควบคุม
00:10:53 → 00:10:56 ตัวเราเองได้ใช่พอพอเรารู้กระบวนการแบบ
00:10:56 → 00:11:01 นี้ปุ๊บเราก็บอกว่าจะเป็นไรไปล่ะใครจะ
00:11:01 → 00:11:04 เรียกอะไรฉันก็ไม่เป็นไรหรอกถ้าใครบอกว่า
00:11:04 → 00:11:08 วัยนี้มันเป็นป้าได้แล้วแหละ 50 อ่ะฉันก็
00:11:08 → 00:11:11 เรียกตัวเองว่าป้าซะเลย
00:11:11 → 00:11:13 ตัวเองว่าป้าซะแล้วเนี่ยเราจะโกรธทำไม
00:11:13 → 00:11:16 เนี่ยก็เราก็ไม่ต้องโกรธแล้วอ่ะก็ฉัน
00:11:16 → 00:11:19 เรียกตัวเองแล้วอ่ะตั้งแต่นั้นมาก็เรียก
00:11:19 → 00:11:21 ตัวเองว่าบ้าตลอดค่ะ
00:11:21 → 00:11:24 แบบเค้าเรียกว่าอะไรนะเหมือนกับผมพอพูด
00:11:24 → 00:11:27 อย่างนี้ปุ๊บท้ายผมนึกถึงพวกตลกอ่ะแหละ
00:11:27 → 00:11:30 เค้าบอกว่าตลกเวลาที่จะโดนแซวเค้าจะเค้า
00:11:30 → 00:11:33 จะแซวกันเจ็บๆไงตลกเขาก็เลยบอกว่าถ้า
00:11:33 → 00:11:36 อย่างนั้นก็เล่นเองเลยก่อน 700 กว่าฮ่าๆๆ
00:11:36 → 00:11:41 เล่นตัวเองเออใช่ 700 กว่าอันนี้พี่อ้อย
00:11:41 → 00:11:45 ก็ใช้กลยุทธ์นี้เลยก็คือเอ้าอย่างนี้เหรอ
00:11:45 → 00:11:48 เรียกเลยว่าป้าไปเลยจบแล้วเราก็ไม่มี
00:11:48 → 00:11:52 ปัญหาอีกเลยนะไม่มีแล้วพอบางครั้งอ่ะคือ
00:11:52 → 00:11:57 คือกลับกลายเป็นว่าพอเรียกตัวเองว่าป้านะ
00:11:57 → 00:12:01 คะไอ้คนที่เราพูดกับเขาเขาบอกว่าอะไรจะ
00:12:01 → 00:12:04 มาเรียกป้าพี่ยังไม่แก่เลยนะพี่อายุเท่า
00:12:04 → 00:12:08 ไหร่แล้วเราก็บอกว่า 50 ตอนนั้น 50 กว่า
00:12:08 → 00:12:10 ประมาณ 60 อะไรอย่างเงี้ยเฮ้ย
00:12:10 → 00:12:14 เหมือนแบบว่าผึ้ง 40 กว่าไปปลายเหมือน 50
00:12:14 → 00:12:18 ต้นๆอะไรอย่างเงี้ยกลับกลายเป็นดีอีก
00:12:18 → 00:12:22 สถานการณ์ดีค่ะเราจะขึ้นแท่นป้าเราจะมา
00:12:22 → 00:12:24 ดึงเราลงไป
00:12:24 → 00:12:25 ใช่ค่ะ
00:12:25 → 00:12:31 ว่ากระบวนการของคำทักกระบวนการที่ที่ผมสน
00:12:31 → 00:12:34 ใจนะก็คือกระบวนการที่พี่อ้อยใช้ในการจัด
00:12:34 → 00:12:37 การกับคำทักที่มันทำให้เราเจ็บจี๊ดแต่ว่า
00:12:37 → 00:12:40 กระบวนการของพี่อ้อยเนี่ยอาจจะเกิดจากการ
00:12:40 → 00:12:43 เรียนรู้ที่เราแบบรู้สึกว่าเอ๊ะเราไม่ชอบ
00:12:43 → 00:12:45 แล้วเราเกิดนู่นนี่นั่นเป็นเพราะความคิด
00:12:45 → 00:12:47 แล้วก็หลังจากนั้นก็ค่อยๆปรับค่อยๆปรับ
00:12:47 → 00:12:52 แต่ว่าผมก็คิดว่ามันมีหลายวิธีนะแล้วก็
00:12:52 → 00:12:55 อันนี้ก็เป็นวิธีหนึ่งแต่สำคัญที่สุดนะ
00:12:55 → 00:12:56 คุณผู้ฟังก็คือ
00:12:56 → 00:13:00 ทุกมันจะมีสิ่งที่เราเจอแล้วทำให้เราเจ็บ
00:13:00 → 00:13:03 จี๊ดเนี่ยนั่นหมายความว่าทุกอย่างนั้น
00:13:03 → 00:13:07 เนี่ยมันมีวิธีที่เราสามารถที่จะจัดการ
00:13:07 → 00:13:09 กับความเจ็บจี๊ดเพื่อเราจะได้ไม่เจ็บจี๊ด
00:13:09 → 00:13:13 เสมอเพราะจริงๆคำทักที่มันจะทำให้เราเจ็บ
00:13:13 → 00:13:18 จี๊ดมันไม่ใช่แค่มนุษย์ป้าอย่างเดียวนะ
00:13:18 → 00:13:23 ช่วงนี้ดูอ้วนนะใช่คำว่าอ้วนเนี่ยกับผู้
00:13:23 → 00:14:26 หญิงเนี่ยนะคะ
00:14:26 → 00:14:29 มันสวยอวบอิ่มนะอะไรอย่างเงี้ยเราก็โต้
00:14:30 → 00:14:31 ตอบไปแบบนั้นก็ได้เพราะฉะนั้นมันอยู่ที่
00:14:31 → 00:14:36 เราว่าเราจะโต้ตอบอะไรออกไปแล้วตรงนั้น
00:14:36 → 00:14:41 น่ะมันจะทำให้สถานการณ์มันราบรื่นนะคะไม่
00:14:41 → 00:14:44 ต้องเกิดความโกรธโมโหกันทำให้เราสดใสหรือ
00:14:44 → 00:14:47 ทำให้เราขุ่นมัวใช่ค่ะมันเหมือนเรามี
00:14:47 → 00:14:52 อารมณ์ที่เป็นบวกอ่ะค่ะสู้ต่อได้
00:14:52 → 00:14:54 แล้วพี่อ้อยรู้ไหมครับคุณฟังเชื่อไหมครับ
00:14:54 → 00:14:56 ว่าเนี่ยคือ
00:14:56 → 00:14:59 แนวความคิดหรือเบื้องหลังของความคิดของ
00:14:59 → 00:15:01 รายการศัลยกรรมความสุขเลย
00:15:01 → 00:15:04 เราจะบอกว่ารายการนี้ก็จะบอกว่าชีวิตเรา
00:15:04 → 00:15:08 เจออะไรก็ได้นะแต่ว่าการที่เราเจอสิ่ง
00:15:08 → 00:15:10 นั้นแล้วเราจะมีความสุขหรือมีความทุกข์
00:15:10 → 00:15:14 เนี่ยมันขึ้นอยู่กับวิธีคิดของเราเองก็
00:15:14 → 00:15:16 คือเราศัลยกรรมมันได้ด้วยตัวเองซึ่งอัน
00:15:16 → 00:15:17 นี้
00:15:17 → 00:15:20 ในระหว่างที่ผมฟังเนี่ยครับพี่อ้อยผมก็
00:15:20 → 00:15:22 เกิดความคิดอีกอันนึงอยากจะชวนคุณผู้ฟัง
00:15:22 → 00:15:26 มันร่วมคิดด้วยนะว่าเนี่ยเราพูดถึงเรื่อง
00:15:26 → 00:15:30 คำทักที่ทำให้เราเจ็บจี๊ดแต่เชื่อไม่เข้า
00:15:30 → 00:15:33 ว่าเวลาที่มีการทักทายแล้วทำให้ใครสักคน
00:15:33 → 00:15:38 เจ็บจี๊ดเนี่ยมันมีตัวละคร 2 ตัวเฮ้อตัว
00:15:38 → 00:15:42 หนึ่งก็คือคนที่เป็นคนเอ่ยคำทักกับอีกตัว
00:15:42 → 00:15:45 ละครที่ 2 ก็คือคนที่ได้ยินคำทักนั้นแล้ว
00:15:45 → 00:15:48 เจ็บจี๊ดใช่แต่ตั้งแต่ต้นรายการถึงตอน
00:15:48 → 00:15:51 เนี้ยเรากำลังพูดถึงคนเดียวนะ
00:15:51 → 00:15:54 พูดถึงคนที่โดนทักแล้วเจ็บจี๊ดแล้วเรา
00:15:54 → 00:15:56 กำลังจะบอกว่า
00:15:56 → 00:15:59 กำลังจะแบ่งปันกลยุทธ์ว่าแล้วทำยังไงถึง
00:15:59 → 00:16:03 จะให้ไม่เจ็บจี๊ดแต่ตอนนี้ผมเกิดความคิด
00:16:03 → 00:16:04 ว่า
00:16:04 → 00:16:07 เอ๊ะเรามาพูดถึงอีกฝั่งดีไหม
00:16:07 → 00:16:14 [เพลง]
00:16:14 → 00:16:17 ตอนนี้มันจะได้ไม่เกิดประโยชน์แค่เฉพาะคน
00:16:18 → 00:16:22 ที่โดนทักแล้วเจ็บจี๊ดคนที่ทักอ่ะเราจะ
00:16:22 → 00:16:26 เกิดการเรียนรู้อะไรจากสิ่งนี้หรือไม่
00:16:26 → 00:16:31 ก็ก่อนที่อาจารย์จะไปถึงฝั่งหนทางขอเล่า
00:16:31 → 00:16:36 เรื่องนึงที่เป็นเรื่องคนฟังคนทักคนทักคน
00:16:36 → 00:16:47 ทักคนทักแล้วเป็นเรื่องตลกค่ะ
00:16:47 → 00:16:51 มาเยี่ยมหลานตอนนั้นหลานเล็กๆ 5-6 ขวบนะ
00:16:51 → 00:16:55 คะก็พาไปร้านอาหารไปไปทานอาหาร
00:16:56 → 00:17:00 6 ขวบเนี่ยลูกอ่ะก็เรียกคนเสิร์ฟพี่ๆขอ
00:17:00 → 00:17:02 น้ำหน่อยพี่ขอน้ำ
00:17:02 → 00:17:07 คุณปู่ก็มองพฤติกรรมของหลานนะคะเราก็ไม่
00:17:07 → 00:17:10 ได้สังเกตอะไรหรอกแต่ปรากฏว่าตอนที่คุณ
00:17:10 → 00:17:14 ปู่จะเรียกคนเสิร์ฟบ้างคุณปู่ก็เรียกเขา
00:17:14 → 00:17:15 ว่าพี่ๆ
00:17:15 → 00:17:17 [เสียงหัวเราะ]
00:17:17 → 00:17:21 ก็เลยหากันทั้งโต๊ะเลยรวมทั้งคนเสิร์ฟ
00:17:21 → 00:17:23 ด้วยคนที่ถูกเลี้ยงด้วยว่าเพราะว่าปู่
00:17:23 → 00:17:27 เนี่ยผมหงอกหมดละแล้วก็คอนเสิร์ตก็เป็น
00:17:27 → 00:17:28 วัยรุ่น
00:17:28 → 00:17:31 ก็เนี่ยพี่ๆก็เลยต้องมาอธิบายกันยกใหญ่
00:17:31 → 00:17:35 เลยว่าคือคนต่างชาติเขาไม่มีนะเค้ามีไอยู
00:17:35 → 00:17:38 เห็นเขาบอกใช่ไหมคะแต่ของเรานับญาติก็เลย
00:17:38 → 00:17:40 ต้องอธิบายกันยกใหญ่ว่าอ๋อไม่ใช่ค่ะลูก
00:17:40 → 00:17:44 อ่ะเรียกคนนั้นว่าพี่แต่ว่าถ้าเป็นคุณปู่
00:17:44 → 00:17:47 อ่ะก็ต้องเรียกเขาว่าเนาะ
00:17:47 → 00:17:50 อุ๊ยอันนี้เรื่องนี้ดีนะแล้วเป็นเรื่อง
00:17:50 → 00:17:52 ที่ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่อธิบายเรื่องที่
00:17:52 → 00:17:57 ผมกำลังจะชวนคุยพอดีเลยว่าคนทักอ่ะเราก็
00:17:57 → 00:17:59 ต้องพอฟังผ่อนคลายตอนนี้เราก็ต้องตระหนัก
00:17:59 → 00:18:00 ว่า
00:18:00 → 00:18:04 การทักทายเนี่ยหลายครั้งโดยที่เราไม่รู้
00:18:04 → 00:18:07 ตัวโดยที่เป็น automatic ไม่รู้ตัวนะ
00:18:07 → 00:18:10 อัตโนมัติแล้วก็หลายครั้งเนี่ยถึงแม้ว่า
00:18:10 → 00:18:14 เราอาจจะทักทายด้วยความปรารถนาดีด้วย
00:18:14 → 00:18:18 แต่เราลืมนึกไปว่าคำทักนั้นเนี่ยมันจะทำ
00:18:18 → 00:18:20 ให้คนฟังลำบากเจ็บ
00:18:20 → 00:18:24 ซึ่งอันนี้ทำให้เราต้องระมัดระวังแต่
00:18:24 → 00:18:27 เรื่องที่พี่อ้อยเล่าเมื่อตะกี้เนี่ยมัน
00:18:27 → 00:18:30 กลายเป็นที่คุณปู่ความที่เขาไม่เป็นต่าง
00:18:30 → 00:18:33 ชาติไม่เข้าใจเขาก็เลยใช้คำนั้นแต่ว่ามัน
00:18:33 → 00:18:35 เป็นคำทักที่
00:18:35 → 00:18:38 ทำให้คนฟังอ่ะไม่ได้บาดเจ็บนะแต่มีความ
00:18:38 → 00:18:42 สุขอ่ะแล้วก็ขำอ่ะอันนี้มันเป็นตัวอย่าง
00:18:42 → 00:18:47 ของคำทักที่ออกจากปากคนคนหนึ่งแต่ว่าคน
00:18:47 → 00:18:52 ฟังอ่ะไม่เจ็บจี๊ดแต่ว่ามีความสุขใจมัน
00:18:52 → 00:18:56 เหมือนคนคนฟังเนี่ยผู้รับสายรับเนี่ยเขา
00:18:56 → 00:18:59 รู้ว่าคนนี้ไม่รู้เรื่องรู้ราวเขาเป็น
00:18:59 → 00:19:02 ต่างชาติเขาก็เลยไม่ได้ไม่ได้เจ็บจี๊ดไม่
00:19:02 → 00:19:04 ได้โกรธ
00:19:04 → 00:19:06 แล้วก็มีความสุขกันไปอะไรอย่างเงี้ยซึ่ง
00:19:06 → 00:19:10 กรณีของ port Cast ตอนนี้เรื่องคำทัก
00:19:10 → 00:19:12 เจ็บจี๊ดก็จริงนะแต่ว่าในอีกฟากหนึ่งของ
00:19:12 → 00:19:16 คนที่ทักเนี่ยค่ะเราก็ต้องรู้ต้องระมัด
00:19:16 → 00:19:19 ระวังว่าคำทักเราอาจจะทำให้ใครบางคนเจ็บ
00:19:19 → 00:19:22 จี๊ดแล้วมันก็เลยกลายเป็นนึกถึงของตัวเอง
00:19:22 → 00:19:26 นะครับว่าผมมักจะมีความตั้งใจเสมอเลยว่า
00:19:26 → 00:19:30 ในแต่ละวันเวลาที่เราเจอใครเนี่ยถ้าเรา
00:19:30 → 00:19:32 เจอใครสักคนนึงที่เขาอยู่ในสภาวะที่
00:19:32 → 00:19:36 เหมือนกับไม่ค่อยสบายตัวไม่ค่อยสบายใจยก
00:19:36 → 00:19:37 ตัวอย่างเช่น
00:19:37 → 00:19:43 รปภที่ยืนอยู่หน้าหน้าหมู่บ้านหรือรปภที่
00:19:43 → 00:19:46 อยู่ในตู้แจกบัตรตามห้างเนี่ยมีอยู่ครั้ง
00:19:46 → 00:19:47 หนึ่ง
00:19:47 → 00:19:51 50% แห่งหนึ่งเนี่ยตู้แจกบัตรเนี่ยคือ
00:19:51 → 00:19:54 เขาโดนแดดเข้าเต็มๆเลยเหมือนเตาอบเหมือน
00:19:54 → 00:19:57 เตาอบแล้วมันร้อนไงแล้วเวลาที่ผมเจอ
00:19:57 → 00:20:00 สถานการณ์อย่างนี้ผมชอบถามตัวเองนะว่า
00:20:00 → 00:20:03 เราจะมีคำทักสักคำหนึ่งไหม
00:20:03 → 00:20:09 ที่ทำให้เขาอ่ะคลายร้อนแล้วก็แบบสดใสและ
00:20:09 → 00:20:10 ชุ่มฉ่ำหัวใจ
00:20:10 → 00:20:13 มันท้าทายมากเลยนะว่าคนที่ต้องทำภาวะ
00:20:13 → 00:20:16 อย่างทำงานแบบนั้นในสภาวะแบบนั้นแล้วก็
00:20:16 → 00:20:19 ร้อนแบบนั้น
00:20:19 → 00:20:23 มันมีไหมคำทักที่ทำให้เขาแล้ววันนั้นผมก็
00:20:23 → 00:20:26 เจอจริงๆเลยว่าเฮ้ยทำไงดีอ่ะเราจะทักเขา
00:20:26 → 00:20:28 ยังไงดีแล้วระหว่างที่เขายื่นบัตรมาแล้ว
00:20:28 → 00:20:32 ผมก็ใช้วิธีแบบว่าโอ้โห
00:20:32 → 00:20:36 แดดแบบนี้เนี่ยถ้าตากผ้านี่คงแห้งดีมาก
00:20:36 → 00:20:42 เลยนะเนี่ยคือแล้วเขาก็ยิ้มคือถ้าผมก็ขับ
00:20:42 → 00:20:44 ผ่านไปแล้วผมถามว่า
00:20:44 → 00:20:48 เราทักแบบนี้แล้วเขาจะสุขขึ้นไหม
00:20:48 → 00:20:50 เขาจะเย็น
00:20:50 → 00:20:53 อาการร้อนจะน้อยลงไหมไม่
00:20:53 → 00:20:55 แต่เขายิ้มเพราะอะไร
00:20:55 → 00:20:58 ผมก็มาถามตัวเองว่าเขายิ้มเพราะอะไรอ่ะ
00:20:58 → 00:21:01 เขาก็ยิ้มเขาคงยิ้มคงมีหลายสาเหตุนะเออ
00:21:01 → 00:21:04 ไหนลองพี่อ้อยลองลองวิเคราะห์สถานการณ์
00:21:04 → 00:21:07 ว่าเขายี่ห้ออะไร
00:21:07 → 00:21:08 จะบอกว่า
00:21:08 → 00:21:31 พออาจารย์พูดคำนั้นนะ
00:21:31 → 00:21:39 [เสียงหัวเราะ]
00:21:39 → 00:21:45 [เพลง]
00:21:45 → 00:21:49 พี่อ้อยรู้ไหมว่ามันเพราะการพูดคุยอย่าง
00:21:49 → 00:21:51 นี้มันทำให้เราเห็นหรือว่าคำทักนี่มันมี
00:21:51 → 00:21:54 อิทธิพลสูงมากนะมันสามารถทำให้คนจี๊ดขึ้น
00:21:54 → 00:22:00 คนเบาลงทุกขึ้นหรือว่าเบาลงหรือว่าเย็นลง
00:22:00 → 00:22:05 แต่เมื่อกี้นี้จับใจความได้ว่าวิธีทักของ
00:22:05 → 00:22:10 พี่วีก็คือเหมือนเอาใจเขามาใส่ใจเราเรา
00:22:10 → 00:22:14 รู้ว่าเขาร้อนน่ะนะคะอันนี้มันเป็นเป็น
00:22:14 → 00:22:18 จุดแรกเลยที่แบบเหมือนกับว่าเราเราเข้าใจ
00:22:18 → 00:22:21 เขาว่าเขาร้อนน่ะเออแล้วเราจะคิดว่าเราจะ
00:22:21 → 00:22:24 ทักยังไงดีน้ออะไรอย่างเงี้ยให้เขาเบาลง
00:22:24 → 00:22:28 เพราะฉะนั้นเอ่อวิธีการที่แบบทักออกมา
00:22:28 → 00:22:31 เนี่ยด้วยเพื่อให้เขาเบาทุกข์เบาลงเนี่ย
00:22:31 → 00:22:34 ตรงนี้ก็เป็นเรื่องที่ไม่ใช่อยู่ยุคใครก็
00:22:34 → 00:22:37 ทำได้นะอาจารย์เราตั้งต้นใช่ว่าเรารู้ว่า
00:22:37 → 00:22:41 ใจเขาใจเราแต่ว่าเราก็คงต้องฝึกต้องคิด
00:22:41 → 00:22:45 หน่อยว่าอะไรแล้วมุกที่ทำให้มันเบาลงได้
00:22:45 → 00:22:49 ก็คือขำๆไปอะไรอย่างเงี้ยที่อาจารย์ทำ
00:22:49 → 00:22:52 เนี่ยอันเนี้ยดีมากเลยค่ะเทคนิคนี้เยอะ
00:22:52 → 00:22:55 อีกอันนึงที่ผมมาประเมินมาวิเคราะห์ด้วย
00:22:55 → 00:22:57 ตัวเองนะครับว่าทำให้เขามีรอยยิ้มเนี่ย
00:22:57 → 00:23:00 เป็นเพราะว่าน่าจะเป็นจากคำทักแบบนี้
00:23:00 → 00:23:04 เนี่ยมันเป็นการสื่อสารให้เขาเห็นว่ามีคน
00:23:04 → 00:23:06 เห็นว่าเราร้อน
00:23:06 → 00:23:11 ก็คือจะเหมือนกับมีคนเห็นใจเราถึงแม้ว่า
00:23:11 → 00:23:13 เห็นใจแล้วก็ไม่ได้ช่วยทำให้เขาเย็นร่าง
00:23:13 → 00:23:16 กายเขาเย็นลงเลยอย่างนี้แต่ว่า
00:23:16 → 00:23:20 แค่รู้สึกว่ามีใครสักคนนึงสังเกตเห็นเรา
00:23:20 → 00:23:23 แล้วก็รู้สึกเห็นใจเรา
00:23:23 → 00:23:28 อันนี้ก็ช่วยเขาขึ้นมาได้หน่อยนึง
00:23:28 → 00:23:32 คุณฟังครับคำทักถึงแม้ว่าตอนนี้จะเป็นตอน
00:23:32 → 00:23:35 ที่บอกว่าคำทักเจ็บจี๊ดนะซึ่งในแง่ของคน
00:23:35 → 00:23:36 ที่ถูกทักเนี่ย
00:23:36 → 00:23:40 เราสามารถจัดการได้ถึงแม้ว่าคำทักนั้นจะ
00:23:40 → 00:23:44 เป็นเหมือนลูกศรที่พุ่งมาที่เราเลยนะเรา
00:23:44 → 00:23:48 สามารถมีเกาะกำบังคุ้มการตัวเองไม่ให้ลูก
00:23:48 → 00:23:51 ศรหรือคำทักนั้นมาทำให้เราเจ็บจี๊ดซึ่ง
00:23:51 → 00:23:53 วันนี้พี่อ้อยได้แบ่งปันกลยุทธ์นิดหน่อย
00:23:53 → 00:23:58 นะก็คือเล่นตัวเองก่อนเลยเรียกเองป้าเลย
00:23:58 → 00:24:14 จบตั้งตัวเป็นป้าเลยค่ะ
00:24:14 → 00:24:17 มันเป็นคล้ายๆช่องเหมือนประตูแต่มันไม่
00:24:17 → 00:24:21 ใช่ประตูมันเป็นช่องการกั้นห้องแบบมีช่อง
00:24:21 → 00:24:24 ให้เข้าออกได้นิดนึงแต่ไม่ได้ใส่ประตูไม่
00:24:24 → 00:24:26 งั้นมันไม่ได้กว้างเท่าประตู
00:24:26 → 00:24:29 มันก็จะกว้างกว่าครึ่งหนึ่งของประตูนิด
00:24:29 → 00:24:31 นึงอะไรก็เดินเข้าเดินออกได้
00:24:31 → 00:24:34 คราวนี้เขามาบ่อยก็มีอยู่วันหนึ่งล่าสุด
00:24:34 → 00:24:36 เนี่ยเข้ามาแล้วเขาก็
00:24:36 → 00:24:39 เราก็สังเกตเห็นว่าแล้วเราก็ได้ข่าวว่า
00:24:39 → 00:24:44 เขากำลังเขาเป็นคนชอบชอบกินอาหาร
00:24:44 → 00:24:45 และกินขนม
00:24:45 → 00:24:48 แล้วช่วงนี้เขามีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัว
00:24:48 → 00:24:52 แบบพูดง่ายๆว่าอ้วนขึ้นน่ะแล้วก็ต้องถึง
00:24:52 → 00:24:55 ขั้นต้องกินยาต้องลดไขมันต้องวุ่นวายเลย
00:24:55 → 00:24:58 เราก็สังเกตเห็นว่าเขาอ้วนขึ้นอย่าง
00:24:58 → 00:25:00 สังเกตเห็นได้ชัด
00:25:00 → 00:25:05 แล้วเราก็พอเจอปุ๊บเราก็บอกตัวเองเลยที
00:25:05 → 00:25:06 แรกนึกว่าจะทักอะไรบางอย่างแต่บอกเลยว่า
00:25:06 → 00:25:08 ไม่ทักดีกว่า
00:25:08 → 00:25:11 เพราะเราสังเกตเพราะเรารู้ว่าคำทักบาง
00:25:11 → 00:25:13 คำเนี่ยมันอาจจะทำให้เขา
00:25:13 → 00:25:17 เจ็บจี๊ดก็เลยก็ในเมื่อไม่รู้จะทักไงก็
00:25:17 → 00:25:18 ไม่ทัก
00:25:18 → 00:25:23 ก็เฉยๆไปเออปรากฏว่าเขาใช้กลยุทธ์นี้ฮะ
00:25:23 → 00:25:26 เล่นตัวเองก่อนเลยพอมาถึงนิ้วเขาก็เข้า
00:25:26 → 00:25:30 ประตูนี้แล้วบอกว่าโอ้ยมาคราวหน้าจะเข้า
00:25:30 → 00:25:37 ประตูนี้ได้ไหมเนี่ย
00:25:37 → 00:25:40 สงสัยประตูนี้มันคงเล็กลง
00:25:40 → 00:25:41 [เพลง]
00:25:41 → 00:25:45 ก็เลยกลายเป็นพอพี่อ้อยพูดถึงก็เลยนึกถึง
00:25:45 → 00:25:49 ว่าอ๋อเขาใช้กลยุทธ์นี้นี่เองเล่นตัวเอง
00:25:49 → 00:25:52 ก่อนเลยแล้วการเล่นตัวเองก่อนเนี่ยมัน
00:25:52 → 00:25:55 มันเหมือนกับเป็นการแบบเหมือนกับเป็นมุก
00:25:55 → 00:25:57 ตลกนะแต่ที่จริงแล้ว
00:25:57 → 00:26:00 กลยุทธ์ในการเล่นตัวเองก่อนเนี่ย
00:26:00 → 00:26:05 มันแสดงถึงการยอมรับตัวเอง
00:26:06 → 00:26:09 ทุกกลยุทธ์ทุกมุกนะที่เราเล่นตัวเองก่อน
00:26:09 → 00:26:12 เนี่ยมันแสดงถึงการที่เรายอมรับตัวเองใน
00:26:12 → 00:26:14 แบบที่เราเป็น
00:26:14 → 00:26:18 แล้วมนุษย์เราเนี่ยจะมีใจที่สงบเย็นแล้ว
00:26:18 → 00:26:22 มีความสุขต่อเมื่อเรายอมรับตัวเราเองใน
00:26:22 → 00:26:24 แบบที่เราเป็นจริง
00:26:24 → 00:26:28 อันนี้เป็นเป็นความเป็นจริงของมนุษย์อัน
00:26:28 → 00:26:30 หนึ่งที่อยู่เบื้องหลังของการเล่นตัวเอง
00:26:30 → 00:26:32 ก่อน
00:26:32 → 00:26:36 จริงๆจะบอกว่าอะไรนะการยอมรับเนี่ยโอ้โห
00:26:36 → 00:26:40 บางคนบอกว่ามันยากเย็นที่จะให้ฉันแก่แล้ว
00:26:40 → 00:26:43 มาเรียกฉันป่าฉันอ้วนจะมาบอกว่าฉันอ้วน
00:26:43 → 00:26:45 หรืออะไรอย่างเงี้ยจริงๆอย่าไปซีเรียส
00:26:45 → 00:26:50 ขนาดนั้นค่ะขำๆไปค่ะแล้วมันก็ยอมรับได้ก็
00:26:51 → 00:26:54 ลืมไปว่าคำดีอะไรอย่างนี้คือขอให้แบบยอม
00:26:54 → 00:26:58 รับมันง่ายๆหน่อยแต่ว่าอยากคุยในมุมนึง
00:26:58 → 00:27:01 อาจารย์เพิ่มว่าค่ะ
00:27:01 → 00:27:04 แต่ว่าตอนนี้เนี่ยครับคุณผู้ฟังครับ
00:27:04 → 00:27:07 ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเวลาเราประมาณ
00:27:07 → 00:27:09 ครึ่งชั่วโมงนี่มันผ่านไปเร็วมากเวลาที่
00:27:09 → 00:27:12 เราคุยกัน 2 คนนะครับพี่วีกับพี่อ้อย
00:27:12 → 00:27:15 เนี่ยนะแล้วก็วันนี้เนี่ยว่าด้วยเรื่อง
00:27:15 → 00:27:19 ของคำทักที่ทำให้เราเจ็บจี๊ดแต่เราก็ลาม
00:27:19 → 00:27:21 ไปถึงเรื่องของขยายไปถึงเรื่องของทั้งคน
00:27:21 → 00:27:24 ทักด้วยแล้วคนถูกทางแต่ยังไงก็ตามครับคุณ
00:27:24 → 00:27:27 ผู้ฟังไม่ว่าเราจะอยู่ฝ่ายไหนนะเราก็จะ
00:27:27 → 00:27:30 วันนี้ผมเชื่อว่าเราได้ค้นพบกลยุทธ์ที่ทำ
00:27:30 → 00:27:34 ให้เราอยู่กับมันอย่างอย่างมีความสุขแล้ว
00:27:34 → 00:27:38 ก็ชีวิตแบบสดใสมีพลังนะครับซึ่งเป็นไปตาม
00:27:38 → 00:27:41 แนวความคิดของรายการศัลยกรรมความสุขครับ
00:27:41 → 00:27:43 คุณผู้ฟังรายการศัลยกรรมความสุขวันนี้
00:27:43 → 00:27:47 เวลาหมดโรงแล้วนะครับผมพี่วีครับแล้วก็
00:27:47 → 00:27:50 พี่อ้อยค่ะก็ต้องลาไปก่อนนะครับพบกันใหม่
00:27:50 → 00:27:55 ตอนหน้าครับสวัสดีครับสวัสดีค่ะ
00:27:55 → 00:27:58 ติดตามรายการทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น
00:27:58 → 00:28:00 ของไทย
00:28:00 → 00:28:13 spotify Google
00:28:13 → 00:28:18 [เพลง]