00:00:00 → 00:00:03 คำถามยอดฮิตกินอะไรเพิ่มภูมิรู้จริงรู้
00:00:03 → 00:00:05 ลึกเกี่ยวกับการเพิ่มภูมิด้วยตัวเองเสริม
00:00:05 → 00:00:16 ภูมิอย่างปลอดภัยในรายการวันใหม่ไกลโรค
00:00:16 → 00:00:20 สืบทอดภูมิปัญญาไทยใส่ใจคุณภาพยาร้าน
00:00:20 → 00:00:24 เจริญสุขโกสก
00:00:24 → 00:00:27 นครปฐมสวัสดีค่ะนี่คือรายการวันใหม่ไกล
00:00:27 → 00:00:31 โรคนะคะรายการทดดีที่จะพาทุกคนไปเปิดมุม
00:00:31 → 00:00:34 มองยาและสมุนไพรแผนไทยเพื่อเราสุขภาพดีไป
00:00:34 → 00:00:36 ด้วยกันนะคะเพราะทุกวัยเริ่มใหม่ได้เสมอ
00:00:36 → 00:00:39 กับวันใหม่ไกลโรคค่ะวันนี้ยังคงอยู่กับ
00:00:39 → 00:00:43 อาจารย์รุ่งรวีนะคะกับคำถามยอดฮิตเลยอยาก
00:00:43 → 00:00:46 จะเพิ่มภูมิคุ้มกันช่วงนี้โอ้โหมลภาวะเอย
00:00:46 → 00:00:49 นอนดึกเอยอยากจะแข็งแรงแผนไทยมีวิตามิน
00:00:49 → 00:00:51 มั้ยคืออยากธรรมชาติไงแล้วก็อยากหาซื้อ
00:00:51 → 00:00:54 แบบธรรมชาติกินแต่ไม่รู้ว่าจะกินตัวไหนดี
00:00:54 → 00:00:56 ในทางแผนไทยค่ะอาจารย์เรามีสมุนไพรเพิ่ม
00:00:56 → 00:00:59 ภูมิคุ้มกันมั้ยคะเอ่อที่จริงถ้าพูดถึง
00:00:59 → 00:01:02 แผนไทยเนาะแผนไทยไม่เคยพูดถึงเรื่อง
00:01:02 → 00:01:04 สมุนไพรเพิ่มคุมเหมือนกันเลยเพราะเรามอง
00:01:04 → 00:01:06 แค่ว่าร่างกายเป็นเรื่องของความร้อนความ
00:01:06 → 00:01:09 เย็นนะที่สำคัญก็คือเราต้องปรับสมดุลให้
00:01:09 → 00:01:12 ได้ทีนี้เวลาปรับสมดุลให้ได้เนี่ยเค้าก็
00:01:12 → 00:01:15 ใช้ 1 อาหารเพราะว่าของไทยเนี่ยใช้อาหาร
00:01:15 → 00:01:18 เป็นยามานานมากแหละนะแม้กระทั่งในคัมภีร์
00:01:18 → 00:01:22 ของแผนไทยเองเอ่อจริงๆแล้วเนี่ยยาบาง
00:01:22 → 00:01:24 อย่างเค้าเรียกบอกให้แกงกินด้วยซ้ำไป
00:01:24 → 00:01:27 เนี่ยมีลักษณะของการใช้อาหารเป็นยาแล้วก็
00:01:27 → 00:01:30 ในเมื่อมีการเอ่อเอ่อสมดุลมันเปลี่ยนไป
00:01:30 → 00:01:33 นิดเดียวเราก็จะใช้ยานะคะถ้าอย่างงั้น
00:01:33 → 00:01:36 เนี่ยเราควรจะทำอย่างไรเกี่ยวกับพฤติกรรม
00:01:36 → 00:01:38 ที่ทำให้เรามีภูมิคุ้มกันแข่งขันภูมคุ้ม
00:01:38 → 00:01:41 กันนะคะเพราะว่าอย่างตัวส่วนตัวเองเนี่ย
00:01:41 → 00:01:45 ก็ไม่ชอบที่จะฉีดวัคซีนพูดตรงๆเลยเราจะ
00:01:45 → 00:01:48 ไม่ฉีดวัคซีนไม่เอาเชื้ออะไรเข้ามาในตัว
00:01:48 → 00:01:51 เรานะคะถ้าไม่จำเป็นจริงๆแล้วพยายามทำให้
00:01:51 → 00:01:54 ตัวเราเนี่ยแข็งแรงทีนี้เวลาทำให้แข็งแรง
00:01:54 → 00:01:56 เนี่ยเราก็จะดูเรื่องของเลือดนะดูของ
00:01:56 → 00:01:58 เลือดของน้ำเหลืองดูเรื่องของความร้อน
00:01:58 → 00:02:00 ร้อนเรื่องของความเย็นทำยังไงร่างกายเรา
00:02:00 → 00:02:03 ถึงสมดุลนะคะเราเริ่มต้นจากอาหารนะฮะ
00:02:03 → 00:02:06 อาหารที่กินเนี่ยต้องเป็นอาหารสุขภาพดี
00:02:06 → 00:02:09 ซึ่งจริงๆปัจจุบันเนี้ยมีเด็กรุ่นใหม่
00:02:09 → 00:02:13 หลายคนนะพยายามจะกินกรีนกินคลีนนะคะก็จะ
00:02:13 → 00:02:16 บอกว่ากรีนกับคลีนก็เป็นเรื่องดีนะคะแต่
00:02:16 → 00:02:19 ว่าให้นึกถึงความร้อนความเย็นด้วยเพราะ
00:02:19 → 00:02:22 บางทีเอ่อบางคนเนี่ยกรีนกับคลีนเนี่ยกิน
00:02:22 → 00:02:25 แล้วมันเย็นเกินไปอย่างเช่นผักเนี่ยกิน
00:02:25 → 00:02:27 ผักเยอะๆแล้วไม่เลือกว่าเป็นผักอะไรส่วน
00:02:27 → 00:02:30 ใหญ่ถ้าอย่างผักสลัดเนี่ยมันค่อนข้างเย็น
00:02:30 → 00:02:33 นะคะเพราะงั้นเวลาเลือกก็ต้องอาหารต้องมี
00:02:33 → 00:02:36 อุ่นบ้างรสอุ่นบ้างมีเปรี้ยวบ้างมีเค็ม
00:02:36 → 00:02:39 บ้างมีหวานบ้างเพื่อให้มันสมดุลกับร่าง
00:02:39 → 00:02:43 กายเพราะทุกรสจะมีผลต่อสุขภาพนะคะและ
00:02:43 → 00:02:45 ประเด็นอันที่ 1 ก็คือเอ่อในเรื่องอาหาร
00:02:45 → 00:02:48 พวกแป้งและน้ำตาลต้องลดลงนะคะต้องลดลง
00:02:48 → 00:02:52 เพราะว่าตัวแป้งกับน้ำตาลเนี่ยเป็นตัวที่
00:02:52 → 00:02:54 ทำให้เกิดในแผนปัจจุบันเราเรียกว่า
00:02:54 → 00:02:57 radical นะคะในทางแผนไทยเราเรียกว่าไฟชี
00:02:57 → 00:03:00 ีลักคีอ่าไฟที่เผาให้มันเสื่อมไฟที่เผา
00:03:00 → 00:03:04 ให้แก่คร่ำเราพูดอย่างงี้นะเอ่อทุกคนก็งง
00:03:04 → 00:03:06 ว่าเอ้ยมันแก่ค่ำจริงมั้ยมันคือจริงๆมัน
00:03:06 → 00:03:10 คือทำให้เซลล์ aging นะคะถ้าเรากินเยอะ
00:03:10 → 00:03:12 เซลล์มันจะ aging ก่อนกำหนด aging ก่อน
00:03:12 → 00:03:15 อายุมันนะคะเพราะฉะนั้นตอนเนี้ยในทั้งแผน
00:03:15 → 00:03:17 ไทยและแผนปัจจุบันมันเริ่มเข้ามาหากัน
00:03:17 → 00:03:21 เห็นได้ชัดเลยนะดังนั้นเนี่ยพยายามลดพวก
00:03:21 → 00:03:25 อาหารทอดอาหารปิ้งย่างนะคะถามว่าพี่กิน
00:03:25 → 00:03:28 มั้ยพี่ก็ชอบเหมือนกันนะแต่ว่าเราก็กิน
00:03:28 → 00:03:30 ให้น้อยลงอันที่ 1 แล้วอันที่ 2 เราก็กิน
00:03:30 → 00:03:33 ผักเพิ่มขึ้นส่วนนึงและผักที่กินขอให้
00:03:33 → 00:03:36 เลือกผักเนมันจะมีผักบางอย่างกินแล้วมัน
00:03:36 → 00:03:39 เคี้ยวมันเคี้ยวเพลินอันนั้นดีนะคะผักบาง
00:03:39 → 00:03:42 อย่างเผ็ดบ้างอย่างเช่นกะเพราเงี้ยอ่านาน
00:03:42 → 00:03:45 ๆเราก็กินผักสิ้นคิดสักทีนึงนะคะสัก
00:03:45 → 00:03:47 อาทิตย์นึงกินสักครั้งนึงผักสิ้นคิดคือ
00:03:47 → 00:03:50 ผักสลัดก็คือกะเพราเนี่ยค่ะอ๋อเพราะว่า
00:03:50 → 00:03:55 เวลาเรากินบอกว่าอยากกินอะไรน้อคิดไม่ออก
00:03:55 → 00:03:57 ล่ะผัดกะเพรากับข้าวแล้วกันผักกะเพราไข่
00:03:57 → 00:04:00 ดาวอันนั้นก็เรียกว่าผักซินคิดแล้วก็พวก
00:04:00 → 00:04:03 ขิงพวกขาพวกเนี้ยเรากินเข้าไปเพื่อที่จะ
00:04:03 → 00:04:05 ให้เพิ่มความร้อนเพิ่มสมดุลกับร่างกาย
00:04:06 → 00:04:08 เนาะโดยเฉพาะผู้หญิงนะผู้หญิงเนี่ยในช่วง
00:04:09 → 00:04:11 ใกล้มีประจำเดือนต้องกินขิงเพื่อให้ตัว
00:04:11 → 00:04:13 มันร้อนขึ้นแล้วทำให้ประจำเดือนมาได้ตาม
00:04:13 → 00:04:16 กำหนดเนี่ยนี่คือการปรับสมดุลโดยธรรมชาติ
00:04:16 → 00:04:18 เลยไม่ต้องดูเรื่องแรกคือเรื่องของอาหาร
00:04:18 → 00:04:21 ในเรื่องของอาหารที่ให้ความอบอุ่นกับร่าง
00:04:21 → 00:04:23 กายนะคะนอกจากตัวอาหารที่มีรสร้อนแล้ว
00:04:23 → 00:04:27 เนี่ยตัวอุณหภูมิของอาหารน่ะมีส่วนสำคัญ
00:04:27 → 00:04:30 เนื่องจากว่ามีหลายๆคนหรือว่าส่วนใหญ่ของ
00:04:30 → 00:04:33 คนในปัจจุบันเนี้ยชอบกินเครื่องดื่มชอบ
00:04:33 → 00:04:35 ดื่มเครื่องดื่มเย็นนะแล้วดื่มทั้งวัน
00:04:35 → 00:04:38 ด้วยซึ่งตรงเนี้ยมันก็จะมีผลต่อ 1 เรื่อง
00:04:38 → 00:04:41 ของการย่อยแล้วก็อันที่ 2 ก็จะมีผลต่อ
00:04:41 → 00:04:43 ความอุ่นของในร่างกายแล้วก็จะพบว่าพวกนี้
00:04:43 → 00:04:45 จะมีปัญหามากมายเกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน
00:04:45 → 00:04:47 เพราะว่ามันลดลงมันสมดุลเรื่องร้อนเย็น
00:04:47 → 00:04:50 มันลดลงดังนั้นเนี่ยก็ควรปรับนะถ้าไม่
00:04:50 → 00:04:54 จำเป็นจริงๆถ้าปรับเป็นอุณหภูมิห้องนะ
00:04:54 → 00:04:57 เป็นน้ำดื่มอุณหภูมิห้องไม่ต้องใส่กาแฟ
00:04:57 → 00:04:59 ไม่ต้องใส่ชาไม่ต้องอะไรทั้งสิ้นเป็นน้ำ
00:04:59 → 00:05:03 ดื่มพวกเนี้ยได้ถ้ายังคิดว่าไม่ไหวก็ขอ
00:05:03 → 00:05:06 แค่วันละแก้วเดียวก็คงพอนะคะแล้วเอาแก้ว
00:05:06 → 00:05:10 เล็กๆนะคะอย่าเอาแก้วใหญ่ค่ะอืนอกจาก
00:05:10 → 00:05:12 เรื่องของความร้อนความเย็นแล้วกากอาหาร
00:05:12 → 00:05:16 จำเป็นนะคะเพราะว่าสมุนไพรที่มีใหญ่อาหาร
00:05:16 → 00:05:19 กากอาหารมากๆเนี่ยมันจะช่วยทำให้เราขับ
00:05:19 → 00:05:21 ถ่ายได้ดีเดี๋ยวจะไปพูดถึงเรื่องขับถ่าย
00:05:21 → 00:05:24 ด้วยว่าเอ้ยขับถ่ายมันเกี่ยวข้องกับภูมิ
00:05:24 → 00:05:27 คุ้มกันยังไงนะจะเห็นว่าพวกผักที่มีใย
00:05:27 → 00:05:31 อาหารเยอะๆนะคะก็คือผักที่กรอบๆกรอบๆแข็ง
00:05:31 → 00:05:35 ๆเคี้ยวแล้วมันไม่ย่อยไม่ยุ่ยหายนะฮอย่าง
00:05:35 → 00:05:41 เช่นพวกเอ่อผักกระเฉดนะฮะผักคะน้าผักบุ้ง
00:05:41 → 00:05:44 นะคะขี้เหล็กนะหรือสะเดาเนี่ยพวกเนี้ยนะ
00:05:44 → 00:05:46 คะซึ่งเด็กรุ่นใหม่ไม่ค่อยกินกันเนาะแต่
00:05:46 → 00:05:49 ก็พยายามลองหาดูนะว่ามีผักอะไรที่มี
00:05:49 → 00:05:51 texture แบบนี้แล้วเรากินได้เหมือนผัก
00:05:51 → 00:05:53 ที่ได้เคี้ยวเยอะๆเคี้ยวนานๆอ่าได้เคี้ยว
00:05:53 → 00:05:56 ได้เคี้ยวนานนะฮะมันก็จะทำให้เพิ่มกาก
00:05:56 → 00:05:58 ขึ้นอันนี้ตั้งเรื่องแรกอาหารไปแล้วเอ่อ
00:05:58 → 00:06:02 เรื่องที่ 2 ก็คือเรื่องของการออกกำลัง
00:06:02 → 00:06:05 กายการออกกำลังกายเนี่ยทุกคนก็บอกว่าควร
00:06:05 → 00:06:09 ออกต้องออกนะจริงๆแล้วมัน the mus ต้อง
00:06:09 → 00:06:12 ออกต้องพูดอย่างนี้เลยเด็กรุ่นใหม่จะบอก
00:06:12 → 00:06:15 ไม่มีเวลาไม่มีเวลาต้องออกค่ะแต่ต้องออก
00:06:15 → 00:06:19 ให้พอดีพอควรทำไมต้องออกเพราะว่าการขับ
00:06:19 → 00:06:22 ของเสียเนี่ยมันออกมา 1 ทางเหงื่อ 2
00:06:23 → 00:06:24 เนี่ยทางอุจจาระ
00:06:24 → 00:06:27 ของเสียแต่ละวันต้องออกให้หมดเพราะถ้าออก
00:06:27 → 00:06:30 ไม่หมดความร้อนจะไม่หมดค่ะมันจะขังจะค้าง
00:06:30 → 00:06:34 จะเห็นว่าเวลาเด็กวัยรุ่นเนี่ยเวลาไม่ออก
00:06:34 → 00:06:37 กำลังกายแล้วไปกินอาหารพวกมันหวานๆเยอะๆ
00:06:37 → 00:06:40 เนี่ยจะร้อนในง่ายอืแล้วร้อนในเนี่ยเราดู
00:06:40 → 00:06:43 เหมือนอืไม่มีอะไรนะมันก็แก้นั่นนะรักษา
00:06:43 → 00:06:45 หายนะแต่จริงๆนั่นคือบ่อเกิดจากโรคเยอะ
00:06:45 → 00:06:48 แยะมากมายเลยเพราะร้อนในจะต่อให้ท้องผูก
00:06:48 → 00:06:52 ท้องผูกต่อไปถึงโรคเรื้อรังอีกหลายตัวเลย
00:06:52 → 00:06:56 ร้ายที่สุดคือมะเร็งเพราะฉะนั้นทำอย่างไร
00:06:56 → 00:07:01 ที่จะทำให้เราออกกำลังกายได้สม่ำเสมอนะ
00:07:01 → 00:07:02 ตลอดทั้งอาทิตย์นะไม่จำเป็นต้องทุกวัน
00:07:02 → 00:07:05 ด้วยนะเอ่อไม่จำเป็นว่าวันนึงต้องเป็น
00:07:05 → 00:07:08 ชั่วโมงนะวันนึงแค่ครึ่งชั่วโมงพอนะ 3
00:07:08 → 00:07:11 วันต่ออาทิตย์ก็พอแล้วบางคนบอกว่างานน่ะ
00:07:11 → 00:07:14 มันต้องเดินอยู่แล้วคือก็เมื่อยจะแย่อยู่
00:07:14 → 00:07:16 แล้วนี่ถือเป็นการออกกำลังกายมั้ยคือให้
00:07:16 → 00:07:18 สังเกตอย่างี้ค่ะการเดินถ้าเดินแล้ว
00:07:18 → 00:07:21 เหงื่อออกถือว่าออกกำลังกายแต่ถ้าเดิน
00:07:21 → 00:07:25 แล้วไม่เหงื่อออกเลยมันแค่ผลาญไอ้พลังงาน
00:07:25 → 00:07:27 ส่วนต้นไปแต่ไม่ได้ออกกำลังกายจากส่วนลึก
00:07:28 → 00:07:30 มาเพราะฉะนั้นเนี่ยไม่ถือว่าเป็นการออก
00:07:30 → 00:07:32 กำลังกายโดยแท้จริงอย่างที่เราเรียกว่า
00:07:32 → 00:07:35 แอโรวิกพวกแอโรปพวกนั้นพวกนั้นไม่ได้ออก
00:07:35 → 00:07:38 เลยนะคะไม่ได้ทำให้ร่างกายเราหายใจได้
00:07:38 → 00:07:41 เต็มที่เต็มปอดอ่ะนะฮะแล้วไม่ได้ทำให้
00:07:41 → 00:07:43 เหงื่อเราออกไม่ได้เป็นการฟอกไอ้ตัวของ
00:07:43 → 00:07:47 จากเลือดเนี่ยอเมื่อกี้ที่พูดว่าพี่พูด
00:07:47 → 00:07:49 ว่าดูแลเรื่องเลือดเรื่องน้ำเหลืองการออก
00:07:49 → 00:07:51 เหงื่อหรือว่าการทำให้เหงื่อออกเนี่ยก็
00:07:51 → 00:07:55 คือการที่ทำให้เลือดและน้ำเหลืองเนี่ยมัน
00:07:55 → 00:07:58 ดีขึ้นนะคะเพราะว่าออกทางอุจจาระอย่าง
00:07:58 → 00:08:00 เดียวไม่พอออกทางเหงื่อเนี่ยก็เป็นส่วน
00:08:01 → 00:08:04 หนึ่งที่สำคัญต้องไม่มากเกินไปด้วยนะฮะ
00:08:04 → 00:08:07 ถ้ามากเกินไปก็มีปัญหานะฮะก็พี่เคยเจอคน
00:08:07 → 00:08:10 ที่ออกกำลังกายเยอะๆเกินไปก็คือวันนึง
00:08:10 → 00:08:13 อย่างน้อยตั้ง 2 ช่โมงอ่ะนะโดยเฉพาะกลุ่ม
00:08:13 → 00:08:16 เทรนเนอร์หรือว่ากลุ่มของพวกครูฝึกครูฝึก
00:08:16 → 00:08:19 ทหารน่ะพวกนี้ต้องออกกำลังกายเยอะมากเลย
00:08:19 → 00:08:22 พวกนี้ทำให้ตับทำงานหนักอือืมีปัญหาเช่น
00:08:22 → 00:08:25 เดียวกันเพราะฉะนั้นไม่ว่าอะไรก็ตามมาก
00:08:25 → 00:08:29 เกินไปไม่ดีน้อยเกินไปไม่ดีนะฮต้องทำให้
00:08:29 → 00:08:32 พอดีกันทีนี้อันสุดท้ายเกี่ยวกับอุจจาระ
00:08:32 → 00:08:36 นะคะเพราะว่าเรากินอาหารทุกวันกินอาหาร
00:08:36 → 00:08:39 วันละหลายมื้อบางคนกินถึง 5 มื้อบางคนกิน
00:08:39 → 00:08:42 แค่ 3 มื้อบางคนกินแค่ 2 มื้อแต่ยังไงก็
00:08:42 → 00:08:45 ตามเนี่ยมันมีของเสียของเหลือใช้ไอ้ของ
00:08:45 → 00:08:47 เหลือใช้ไม่ใช่แค่กากอาหารที่เราเข้ามานะ
00:08:47 → 00:08:50 มันยังมีถ้าเป็นแผนไทยเราบอกมีไฟอยู่ตัว
00:08:50 → 00:08:52 นึงที่มันเหลือจากการทำงานน่ะนะคะนั่นคือ
00:08:52 → 00:08:55 ไฟที่รักนัคคีแต่ถ้าเป็นแผนปัจจุบันพวก
00:08:55 → 00:08:58 นั้นน่ะคือ radical นะคะเป็นพวกอนุมูล
00:08:58 → 00:09:02 อิสระเป็นพวกความเครียดออกซิเดชที่มันจะ
00:09:02 → 00:09:05 เกิดขึ้นในตัวเราแล้วมันจะถูกส่งออกมาที่
00:09:05 → 00:09:08 อุจจาระแล้วมาเก็บไว้ถ้าเราไม่ถ่ายมันก็
00:09:08 → 00:09:10 วนอยู่นั่นแหละแล้วสุดท้ายมันก็จะกลับ
00:09:10 → 00:09:12 เข้ามาที่ตัวเราไม่ได้ใหม่นะฮะเพราะงั้น
00:09:12 → 00:09:15 ถ้าเราถ่ายออกในแต่ละวันเนี่ยมันก็จะช่วย
00:09:15 → 00:09:18 ได้ทีนี้เวลาถ่ายออกแล้วเนี่ยมันไม่ได้
00:09:18 → 00:09:22 ถ่ายออกแค่ไฟอย่างเดียวมันถ่ายระบบลมด้วย
00:09:22 → 00:09:25 นะคะเพราะว่าเวระบบลมในร่างกายเราเนี่ย
00:09:25 → 00:09:28 เป็นระบบปิดนะคะมันสะท้อนตั้งแต่ลมในทาง
00:09:28 → 00:09:31 เดินอาหารนะคะแล้วไปถึงprเชureถึงกล้าม
00:09:31 → 00:09:33 เนื้อถึงอะไรด้วยเรียบร้อยเลยนะคะมันมัน
00:09:33 → 00:09:36 เป็นวงกลมอ่ะมันเป็นระบบปิดเวลาเท้าขึ้น
00:09:36 → 00:09:38 มาถ้าเกิดเราได้ถ่ายออกนั่นคือเราลด
00:09:38 → 00:09:41 pressเชอร์ละเราลดpressชเอร์เราลดข้างใน
00:09:41 → 00:09:43 แล้วเพราะฉะนั้นเลือดลมข้างในมันก็จะ
00:09:43 → 00:09:45 เริ่มไหลเวียนได้ไม่งั้นมันจะอั้นใช่มัน
00:09:45 → 00:09:48 จะอั้นแล้วถ้าเราสังเกตลูกโป่งนะลูกโป่ง
00:09:48 → 00:09:50 เนี่ยตรงที่ไหนมันตึดึงแล้วเราบีบเข้าไป
00:09:50 → 00:09:53 มันก็จะสะท้อนกลับนะฮะเหมือนกันพวกนี้
00:09:53 → 00:09:55 สังเกตง่ายๆเลยถ้ากลุ่มที่ไม่ค่อยถ่าย
00:09:55 → 00:09:59 บ่อยๆหรือว่าเอ่อมีอาการลมอั้นเนี่ยเจะ
00:09:59 → 00:10:01 ปวดเมื่อยเก่งและเด็กสมัยใหม่เนี่ยเขา
00:10:02 → 00:10:04 เป็นออฟฟิศSyนrมด้วยนะเพราะฉะนั้นกลุ่ม
00:10:04 → 00:10:07 อฟิศSyนrมเนี่ยถ้าไม่ถ่ายทุกวันนะรักษา
00:10:07 → 00:10:10 ยังไงก็ไม่หายนะไปนวดยังไงก็ไม่หายเพราะ
00:10:10 → 00:10:12 งั้นการนวดเนี่ยก็จะเป็นตัวลดpressชเชอร์
00:10:12 → 00:10:15 ลงPressเชอร์ไม่ได้มีเฉพาะที่ในท้องเชอร
00:10:15 → 00:10:18 มีเฉพาะมีทั้งตัวที่กล้ามเนื้อมีอะไรด้วย
00:10:18 → 00:10:20 นะคะอืดังนั้นการถ่ายถือว่าเป็นส่วนที่
00:10:20 → 00:10:23 สำคัญค่ะแดงชอบที่อาจารย์บอกว่ามันตั้ง
00:10:23 → 00:10:26 แต่รับเข้าเลยเนาะที่อาจารย์บอกว่าเราควร
00:10:26 → 00:10:29 จะกินอาหารที่มีความเผ็ดร้อนเล็กน้อยไม่
00:10:29 → 00:10:31 ใช่ว่าแบบว่ากินคลีนแล้วมันก็เย็นไปเลย
00:10:31 → 00:10:33 เพราะว่าไอ้ไฟเนี่ยแหละมันจะทำให้เป็นจุด
00:10:33 → 00:10:35 เริ่มต้นของการขับเคลื่อนการย่อยเนาะแล้ว
00:10:35 → 00:10:37 ก็เรื่องของการออกกำลังกายด้วยเพราะว่า
00:10:37 → 00:10:39 มันก็ทำให้เลือดกับน้ำเหลืองเรามันได้รับ
00:10:39 → 00:10:42 การฟอกอ่ะแล้วก็ไหลเวียนได้แล้วก็การขับ
00:10:42 → 00:10:44 ถ่ายสุดท้ายที่ถ้าเกิดว่าไม่เอาออกไว้
00:10:44 → 00:10:47 ตั้งแต่แรกมันก็เหมือนสะสมแรงดันมันก็มี
00:10:47 → 00:10:48 ปัญหาอยู่
00:10:48 → 00:10:50 ถ้าเกิดว่าเราดูแลกลไกเหล่าเนี้ยให้มัน
00:10:50 → 00:10:53 ไหลลื่นได้ดีในชีวิตประจำวันนี่แหละเป็น
00:10:53 → 00:10:54 การเพิ่มภูมิคุ้มกันและพอทุกอย่างมัน
00:10:55 → 00:10:58 สมดุลร่างกายมันก็ทำงานได้เองใช่ค่ะแต่
00:10:58 → 00:11:00 คราวนี้ค่ะอาจารย์มันก็จริงๆแหละเพราะว่า
00:11:00 → 00:11:03 ในปัจจุบันเนี้ยมันก็มีอ่าความเกลียดสะสม
00:11:03 → 00:11:05 งานที่เราจะต้องทำอยู่นะเราเราต้องนอนดึก
00:11:05 → 00:11:08 อ่ะเราอาจจะไม่มีเวลาออกกำลังกายสม่ำเสมอ
00:11:08 → 00:11:10 อะไรเงี้ยเราก็รู้สึกผิดอยู่แล้วถ้าเรา
00:11:10 → 00:11:13 อยากมีตัวเสริมอ่ะค่ะอาจารย์เราจะใช้อะไร
00:11:13 → 00:11:16 ยังไงดีคืออย่างงี้นะอย่างที่พี่บอกว่า
00:11:16 → 00:11:19 มันไม่มียาอือเพราะฉะนั้นแล้วยาของไทย
00:11:19 → 00:11:22 เนี่ยเราจะใช้ต่อเมื่อมันเป็นโรคนะคะไม่
00:11:22 → 00:11:25 ได้ว่าใช้ไม่เป็นโรคแล้วอยู่ๆจะกินเข้าไป
00:11:25 → 00:11:28 เหมือนกับแผนปัจจุบันไม่ใช่นะฮผู้ยกตัว
00:11:28 → 00:11:31 อย่างอย่างงี้อ่าสมัยก่อนเนี่ยลูกชายพี่
00:11:31 → 00:11:33 เนี่ยจะเป็นคนที่นอนดึกเพราะพวกที่นอนดึก
00:11:33 → 00:11:36 เนี่ยคุ้มกันต่ำแน่นอนอ่าถูกต้องเพราะ
00:11:36 → 00:11:39 ฉะนั้นเนี่ยเค้าก็จะเป็นหวัดอย่างน้อยก็
00:11:39 → 00:11:42 เดือนละครั้งเก่งที่สุดคือเดือนเว้นเดือน
00:11:42 → 00:11:45 โหนะฮะก็คือว่าเวลาเป็นทีงก็ต้องกินขนาด
00:11:45 → 00:11:49 กินแอนตี้บอติกเพราะว่ามันเจ็บคอแล้วมัน
00:11:49 → 00:11:51 เป็นแผลเป็นอะไรสุดท้ายก็ต้องกินน่ะมัน
00:11:51 → 00:11:54 สู้ไม่ได้เลยจนกระทั่งพี่เนี่ยใจไม่ดีละ
00:11:54 → 00:11:56 เพราะว่าแอนติบติกทุกตัวกินเข้าไปแล้ว
00:11:57 → 00:11:59 เยอะๆนานๆมันก็ไม่ดีนะคะมันก็ฆ่าเชื้อ
00:12:00 → 00:12:02 ต่างๆทั้งหลายแล้วมันก็มีโอกาสทำให้ตับทำ
00:12:02 → 00:12:05 งานหนักมากขึ้นนะฮะก็พยายามที่จะทำอย่าง
00:12:05 → 00:12:08 ไรที่จะป้องกันเพราะฉะนั้นเนี่ยเราก็เลย
00:12:08 → 00:12:10 พารทหาพาร์ทในเรื่องของการป้องกันคือมัน
00:12:10 → 00:12:12 ไม่ใช่การเสริมภูมิโดยตรงแต่มันเป็นการ
00:12:12 → 00:12:17 ป้องกันไม่ให้มันเกิดอนะคะก็พบว่าตอนนั้น
00:12:17 → 00:12:20 พี่ใช้ยาหอมนวโกดนะฮก็คือให้เค้ากินพอ
00:12:20 → 00:12:23 หลังจากที่เค้าเอ่อมีอาการเริ่มมีอาการ
00:12:23 → 00:12:26 ไม่สบายอย่างเช่นไปตากฝนมาแล้วมีอาการฟึด
00:12:26 → 00:12:29 ฟิและตัวเริ่มเอ่อมีอุ่นๆนะกับจมูกเริ่ม
00:12:29 → 00:12:32 ร้อนนิดหน่อยนะให้กินเลยกินยาหอมน้ำมะกด
00:12:32 → 00:12:35 เลยนะคะปรากฏว่ากินเข้าไปแล้วเช้าขึ้นเ้า
00:12:35 → 00:12:38 หายอ่ะไม่เป็นไรเลยตอนแรกๆเค้าก็ไม่เชื่อ
00:12:38 → 00:12:41 หรอกค่ะเค้าก็อื้อกินอย่างงั้นแหละพ่อแม่
00:12:41 → 00:12:43 ให้กินและอีกอย่างนึงยาหอมเนี่ยมันเป็น
00:12:43 → 00:12:45 หยงเม็ดพี่ไปหาอย่างเม็ดมาให้เค้ากินได้
00:12:45 → 00:12:47 ถ้าอย่างพงเนี่ยเค้าก็คงปฏิเสธแล้วแหละ
00:12:47 → 00:12:51 บังเอิญไปได้อย่างเม็ดมาก็ให้เค้ากินไปเ
00:12:51 → 00:12:54 ก็ไม่เชื่อแต่เค้าทำทุกครั้งที่เาค้าเป็น
00:12:54 → 00:12:57 แล้วเปรากฏว่าตอนที่เราเริ่มกันน่ะปีนั้น
00:12:57 → 00:13:00 เนี่ยเ้าเป็นแค่ปีครั้งเดียวครั้งปีนั้นเ
00:13:00 → 00:13:02 เป็นแค่ครั้งเดียวแล้วตอนหลังๆก็แทบไม่
00:13:02 → 00:13:05 ค่อยเป็นอีกเลยถ้าไม่ถ้าไม่ไปเจอเชื้อโรค
00:13:05 → 00:13:07 อะไรมากมายเก็ไม่เป็นอีกเลยทำไมอาจารย์
00:13:07 → 00:13:10 ให้นาวโกฏคะคืออย่างงี้ค่ะบังเอิญไปเจอ
00:13:10 → 00:13:13 ว่านวกโกดเนี่ย 1 มันเป็นยาหอมอ่าอันที่ 2
00:13:14 → 00:13:16 เนี่ยมันมีตัวยาลดไข้เยอะอ๋ออ๋ออ่าแล้ว
00:13:16 → 00:13:20 เป็นตัวเนี้ยมันบำรุงตับด้วยนะบางตัวมัน
00:13:20 → 00:13:23 บำรุงตับแต่นี้คำว่าบำรุงตับจริงๆแล้ว
00:13:23 → 00:13:25 เนี่ยถ้ากินเยอะไปก็ไม่ดีหรอกแต่บังเอิญ
00:13:25 → 00:13:28 ว่าในสัดส่วนตรงนั้นน่ะมันมีน้อยมันพอ
00:13:28 → 00:13:32 เหมาะแล้วก็ไปเจอในคัมภีร์ค่ะว่าตัวยา
00:13:32 → 00:13:35 นวกโกฏเนี่ยมันกินต้นไข้ได้อ๋อมันไม่ใช่
00:13:35 → 00:13:37 รักษาแค่ปลายไข้อย่างเดียวเออไม่ใช่รักษา
00:13:37 → 00:13:40 แค่ปลายไข้คือคือในอ่าบัญชียาหลักเนี่ย
00:13:40 → 00:13:45 เขาจะเขียนว่าเป็นยาแก้ลมปลายไข้นะแรกๆก็
00:13:45 → 00:13:48 เอาเอาเรื่องเนี้ยไปคุยกับครูครูก็ตีหัว
00:13:48 → 00:13:53 ทีนึงก็บอกว่าเธอแหกครูเออเค้าให้กินปลาย
00:13:53 → 00:13:56 ไข้เธอไปกินต้นไข้ได้ไงบอกก็หนูกินแล้ว
00:13:56 → 00:13:59 หายเนาะแล้วก็กินแล้วเป็นป้องกันได้ดีอ่ะ
00:13:59 → 00:14:03 แล้วก็ก็ลองดูครูก็บอกว่าอือ่ะกินหายแล้ว
00:14:04 → 00:14:07 ก็หายด้วยความที่กลัวว่าเออครูบอกว่าไม่
00:14:07 → 00:14:10 เคารพครูนะไม่เชื่อครูเลยพยายามไปหาปรากฏ
00:14:10 → 00:14:12 ว่ามันมีหนังสืออยู่เล่มนึงจริงๆบอกว่า
00:14:12 → 00:14:15 กินต้นไข้ก็ได้ด้วยอืนะคะก็เป็นความ
00:14:15 → 00:14:18 บังเอิญค่ะแล้วก็คือคือเรื่องเนี้ยจริงๆ
00:14:18 → 00:14:21 ตอนแรกอ่ะก็ไม่ได้เชื่อแต่ว่าเห็นว่ามัน
00:14:21 → 00:14:24 มีตัวยาอย่างี้ก็ลองดูถ้าลูกป้องกันไข้
00:14:24 → 00:14:28 ได้ก็ลองไปเรื่อยๆพอไปที่เอ่อเวลาเราพา
00:14:28 → 00:14:30 เด็กไปทริปอ่ะค่ะนะเราจะมีเด็กไปเยอะแยะ
00:14:30 → 00:14:32 เลยแล้วเราจะไปทริปเนี่ยส่วนใหญ่จะเป็น
00:14:32 → 00:14:35 หน้าฝนตอนนั้นนะเดือนสิงหาคมฝนก็จะตกก็จะ
00:14:35 → 00:14:38 เจอเด็กต้องไปตากฝนเพราะว่าคนนำทางอ่ะ
00:14:38 → 00:14:41 เค้าเป็นคนที่เราจ้างมาแล้วเเป็นคนที่
00:14:41 → 00:14:44 อยากสอนมากเพราะฉะนั้นฝนตกก็ไอ้เสือใจฝน
00:14:44 → 00:14:47 ก็ไปก็อยู่กันจนกระทั่งเย็นนะ 18:00 น.
00:14:47 → 00:14:51 เย็นกลับมาพอเย็นกลับมาเราก็แจกยาหอมนะ
00:14:51 → 00:14:54 ทุกคนนะปรากฏว่าเด็กไม่ป่วยเลยอ่ะอืเด็ก
00:14:54 → 00:14:57 ไม่มีเป็นไข้หวัดเลยเช้าขึ้นมาเก็ปกติลูก
00:14:57 → 00:15:01 ชายเองพี่ก็มาเชื่อเอาตอนที่วันนึงเขาไป
00:15:01 → 00:15:03 ตากฝนมาแล้วมาพร้อมเพื่อนกลับมาพร้อม
00:15:03 → 00:15:07 เพื่อน 5 คนเพื่อน 4 คนเ 1 คนเป็น 5 กลับ
00:15:07 → 00:15:09 มาถึงบ้านก็พี่บอกอาบน้ำสระผมเช็ดผมให้
00:15:09 → 00:15:12 แห้งแล้วก็ให้กินยานวโกดแต่นี้พี่ก็ไม่
00:15:12 → 00:15:15 กล้าแจกเพื่อนเพื่อนเขานะพี่ก็บอกเขาว่า
00:15:15 → 00:15:17 แล้วแต่เพื่อนเขาจะเชื่อหรือไม่เชื่อเค้า
00:15:17 → 00:15:19 ก็บอกว่าเอ่อแล้วแต่ไปแจกปรากฏว่าเพื่อน
00:15:19 → 00:15:21 เ้าไม่มีใครกินเลยมีเาค้ากินอยู่คนเดียว
00:15:21 → 00:15:23 เช้าขึ้นมาทุกคนเป็นหวัดหมดมีเค้าคนเดียว
00:15:23 → 00:15:26 ที่หายที่ไม่เป็นอยู่จากนั้นมาเก็เลย
00:15:26 → 00:15:29 เชื่ออันนี้ก็เป็นอันนึงที่เรามองว่ามัน
00:15:29 → 00:15:32 คือการปรับภูมิธรรมดาปรับไอ้ความสมดุล
00:15:32 → 00:15:35 นั่นน่ะธรรมดาเท่านั้นอืค่ะจริงๆจะบอกว่า
00:15:35 → 00:15:38 เรื่องของยาหอมเนี่ยเป็นอีก EP นึงได้เลย
00:15:38 → 00:15:40 ค่ะอาจารย์มันเหมือนกับว่าวันนี้เราคุย
00:15:40 → 00:15:42 เรื่องภูมิกันอยู่ดีๆเนอะยาหอมก็โผล่มา
00:15:42 → 00:15:44 บางคนก็จะเชื่อมโยงไว้ถูกอ้ายาหอมมันต้อง
00:15:44 → 00:15:46 แก้วิงเวียนไม่ใช่หรอคนแก่ไม่ใช่หรออย่าง
00:15:46 → 00:15:48 เงี้ยแต่เฮ้ยจริงๆแล้วมันสามารถปรับใช้
00:15:48 → 00:15:51 ได้กับหลายอาการนะคะเพราะฉะนั้นก็เดี๋ยว
00:15:51 → 00:15:52 อาจจะต้องรบกวนอาจารย์อีกเรื่องของยาหอม
00:15:53 → 00:15:54 นะคะแต่วันเนี้ได้องค์ความรู้มากเลยว่า
00:15:54 → 00:15:56 จริงๆแล้วข่มๆกันเนี่ยไม่ต้องถึงขนาดยา
00:15:56 → 00:15:59 หรอกค่ะเราปรับด้วยตัวเองแล้วเรารู้ว่า
00:15:59 → 00:16:01 ร่างกายเรามันจะป่วยก็ต่อเมื่อร่างกายมัน
00:16:01 → 00:16:03 เสียสมดุลพอเราสังเกตตัวเองเรารู้ก่อนเรา
00:16:04 → 00:16:06 ปรับสมดุลได้ก่อนก็จบแล้วค่ะไม่ต้องมี
00:16:06 → 00:16:08 วิตามินไม่ต้องมียาอะไรนะคะเพราะฉะนั้น
00:16:08 → 00:16:12 ถ้าใครที่ป่วยบ่อยๆนะลองส่งเอ่อ EP นี้นะ
00:16:12 → 00:16:14 คะใครมีเพื่อนนะคะให้เค้าดูเ้าจะได้ปรับ
00:16:14 → 00:16:17 สำดนด้วยตัวเองได้นะคะก็ขอบคุณมากๆเลยค่ะ
00:16:17 → 00:16:19 อาจารย์ที่มาแชร์ประสบการณ์กันนะคะแล้วก็
00:16:19 → 00:16:21 EP หน้าในวันจันทร์หน้าจะเป็นเรื่องอะไร
00:16:21 → 00:16:24 ก็อย่าลืมกลับมาติดตามกันในรายการวันใหม่
00:16:24 → 00:16:26 ไกลโรคนะคะวันนี้แดงกับอาจารย์ก็ต้องขอลา
00:16:26 → 00:16:28 ทุกคนไปก่อนนะคะพบกันใหม่ในครั้งต่อไปค่ะ
00:16:28 → 00:16:33 สวัสดีค่ะบ๊ายบายค่ะ