00:00:01 → 00:00:06 เป็นที่ฮือฮาถูกใจสายมากที่มีข่าวแม้น
00:00:06 → 00:00:10 กระทั่งใน CNN ออกมาว่าคนที่กินคีโตนั้น
00:00:10 → 00:00:13 เสี่ยงเป็นโรคหัวใจเดี๋ยวผมจะมาอธิบายให้
00:00:13 → 00:00:17 ฟังและต้องขอบอกก่อนว่าคลิปนี้มีโฆษณาที่
00:00:17 → 00:00:20 คุณสามารถกระโดดข้ามได้ถ้าเกิดคุณไม่อยาก
00:00:21 → 00:00:24 ดูไม่จำเป็นต้องรอ 10 วินาทีถึงจะกระโดด
00:00:24 → 00:00:26 ข้าม
00:00:26 → 00:00:29 สวัสดีครับผมรอยชุนพงษ์ทอง
00:00:29 → 00:00:33 เริ่มจากคำว่าโรคหัวใจซะก่อนว่าหมายถึง
00:00:33 → 00:00:39 การที่หลอดเลือดมันตีบตันโปรตีนมันเข้าไป
00:00:39 → 00:00:42 ในผนังหลอดเลือดโดยเฉพาะผนังที่มีการ
00:00:42 → 00:00:46 อักเสบและโปรตีนที่คุณหมอเ้ามองว่ามัน
00:00:46 → 00:00:51 ร้ายเนี่ยก็คือ LDL เป็นตัวที่จะส่ง
00:00:51 → 00:00:56 ไตรกีซรายจากตับไปยังเซลล์ต่างๆเพื่อให้
00:00:56 → 00:00:59 ใช้เป็นพลังงานแต่ว่า LDL นั้นมันมี 2
00:01:00 → 00:01:06 ชนิดแบบที่ดีกับแบบที่ไม่ดีไอ้การตรวจ LDL
00:01:06 → 00:01:10 จากแลบราคาถูกนั้นมันบอกไม่ได้ตัวที่เป็น
00:01:10 → 00:01:14 อินดิเคเตอร์สำคัญในการที่จะบอกจากแลบ
00:01:14 → 00:01:19 ราคาถูกก็คืออัตราส่วนของไตรกิไรต่อ HDL
00:01:19 → 00:01:22 ถ้าเกิดมันมีค่าน้อยกว่า 2 ความเสี่ยงของ
00:01:22 → 00:01:26 คุณต่ำแม้นว่า LDL ของคุณจะพุ่งเป็น 300
00:01:26 → 00:01:31 แบบผมก็ตามหลายคนที่กินแบบผมสาย low cฟ
00:01:31 → 00:01:34 high fat เนี่ย ldl มันมักจะสูงเพราะ
00:01:34 → 00:01:38 ว่าตับมันว่างงานแต่ลองไปตรวจแคลเซียม
00:01:38 → 00:01:42 สกoreสิมันเป็น 0 หรือเปล่าหลายคนก็พบว่า
00:01:42 → 00:01:45 มันเป็น 0 เอาไว้ให้มันถึง 20 เมื่อไหร่
00:01:45 → 00:01:50 ค่อยว่ากันผมยังไม่เจอใครที่ติดตามผมและ
00:01:50 → 00:01:54 กินเหมือนผมมีแคลเซียมสกอร์เกิน 5 ด้วย
00:01:54 → 00:01:59 ซ้ำไปขณะเดียวกันคนที่กินสตน Tin และมี
00:01:59 → 00:02:04 LDL ต่ำตามที่คุณหมอจำนวนมากชอบไม่ได้
00:02:04 → 00:02:06 หมายความว่าเขาไม่มีความเสี่ยงจากการเป็น
00:02:06 → 00:02:10 โรคหัวใจนะครับเขาอาจจะเล็ดรอดจากการตรวจ
00:02:10 → 00:02:14 โดยเฉพาะคนที่ไม่เคยตรวจแคลเซียมสกoreเลย
00:02:14 → 00:02:17 ดูแต่ LDL แล้วก็ประทับใจกับตัวเลขที่ออก
00:02:17 → 00:02:21 มารายละเอียดเรื่องของไขมันและโปรตีนนั้น
00:02:21 → 00:02:23 เดี๋ยวผมจะแนบคลิปที่ผมอธิบายเอาไว้
00:02:23 → 00:02:28 ละเอียดแต่โดยสรุปสาเหตุที่ LD DL ชนิด B
00:02:28 → 00:02:32 ชนิดซอมบี้มันเข้าไปฝังตัวในผนังหลอด
00:02:32 → 00:02:35 เลือดจนกระทั่งหลอดเลือดมันตีบตันเนี่ย
00:02:35 → 00:02:39 มันเกิดจากออกซิเดชของ LDL ทำให้มันเป็น
00:02:39 → 00:02:44 ซอมบี้และสาเหตุของมันก็คือคุณกินแป้งทอด
00:02:44 → 00:02:48 กินน้ำมันพืชจากของผัดไฟแรงและตัวที่ร้าย
00:02:48 → 00:02:52 ที่สุดก็คือการสูบบุหรี่อีกด้านนึงก็คือ
00:02:52 → 00:02:55 ตัวผนังหลอดเลือดเองมันมีการอักเสบที่
00:02:55 → 00:02:59 เรียกว่า inflammatory มีกลูโคสในเลือด
00:02:59 → 00:03:02 จากการที่คุณกินแป้งกินน้ำตาลเข้าไปเยอะ
00:03:02 → 00:03:05 อินซูลินคุณหลั่งบ่อยหลั่งเยอะเพราะ
00:03:05 → 00:03:08 ฉะนั้นคนที่เป็นเบาหวานถึงมีโอกาสเป็นโรค
00:03:08 → 00:03:12 หัวใจมากกว่าคนทั่วไปสาเหตุอีกอันนึงก็
00:03:12 → 00:03:16 คือขาดไวตามินอแต่ผมไม่ได้หมายความว่า
00:03:16 → 00:03:19 อยากจะให้คุณกินอาหารเสริมไวตามินอีนะ
00:03:19 → 00:03:23 ครับไวตามินอีมีเยอะมากในธรรมชาติผมอยาก
00:03:23 → 00:03:28 สรุปสั้นๆสำหรับคนที่กลัวโรคหัวใจ 1 เลิก
00:03:28 → 00:03:30 สูบบุหรี่ทันที
00:03:30 → 00:03:34 2 เปลี่ยนจากน้ำมันพืชเป็นน้ำมันหมู
00:03:34 → 00:03:39 3 เลิกกินข้าวไม่ว่าข้าวขาวข้าวกล้องน้ำ
00:03:39 → 00:03:42 ตาลน้ำผลไม้เพราะมันเป็นฟรุกโตสมันทำให้
00:03:43 → 00:03:46 ตับทำงาน 2 เท่า
00:03:46 → 00:03:53 เน้นการกินผักไข่ต้มถั่วปลากินโปรไบโอติก
00:03:53 → 00:03:56 อย่างชิมฉิโยเกิร์ตคีเฟอร์
00:03:56 → 00:04:00 อาหารเสริมที่สำคัญก็คือโอเมก้า 3 และ
00:04:00 → 00:04:04 ไวตามินดีผมไม่รู้จะย้ำยังไงเกี่ยวกับ
00:04:04 → 00:04:08 ไวตามินดีพูดแล้วพูดอีกพูดแล้วพูดอีกจนคน
00:04:08 → 00:04:11 เขาเบื่อแล้วไวตามินดีนั้นจะให้ดีก็ต้อง
00:04:11 → 00:04:15 คู่กับไวตามิน K2 แมกนีเซียมแต่นี่เป็น
00:04:15 → 00:04:20 การรักษาหรือเป็นการป้องกันที่ใช้เวลานาน
00:04:20 → 00:04:23 แล้วมันได้ผลดีที่สุดไม่ใช่เอะอะอะไรก็
00:04:23 → 00:04:27 รับยาสตติตินจากหมอแล้วก็เป็นโรคสมอง
00:04:27 → 00:04:31 เสื่อมกันหลายคนบอกว่าจะกินอะไรก็กินไป
00:04:31 → 00:04:34 เหอะขอให้ออกกำลังกายแล้วก็เผาผลาญมันให้
00:04:34 → 00:04:37 หมดแล้วผมย้ำอีกครั้งนึงว่าการออกกำลัง
00:04:37 → 00:04:40 กายนั้นมันไม่ได้ช่วยอะไรมากคุณเห็นมว่า
00:04:40 → 00:04:43 คนออกกำลังกายเยอะเนี่ยเป็นโรคหัวใจวาย
00:04:44 → 00:04:48 เยอะแยะเลยมันแค่มีผลทางอ้อมก็คือมันเอา
00:04:48 → 00:04:51 แป้งเอาน้ำตาลที่คุณกินเข้าไปเปลี่ยนเป็น
00:04:51 → 00:04:55 พลังงานมันจะเข้าสู่โหมดที่เรียกว่า
00:04:55 → 00:04:58 คีตosisได้ง่ายขึ้น
00:04:58 → 00:05:01 สำหรับผลิตภัณฑ์ของ Loy Choice ในขณะนี้
00:05:01 → 00:05:04 คุณสามารถสั่งซื้อได้ที่ Line @loy
00:05:04 → 00:05:07 Choice อันแรกที่ขายดีมากก็คืออาหาร
00:05:07 → 00:05:09 อรแกนิค
00:05:09 → 00:05:12 Energy Boost นั้นคนที่รู้สึกอ่อนเพลีย
00:05:12 → 00:05:16 ตอนบ่ายและไม่สะดวกที่จะดื่มกาแฟหรือชาก็
00:05:16 → 00:05:20 สามารถกินไอ้แบบที่ผมบอกสูตรให้คุณทำกิน
00:05:20 → 00:05:24 เองก็ได้แต่ถ้าไม่มีเวลาก็ซื้อและในขณะ
00:05:24 → 00:05:27 ที่ที่ขายดีมากก็คือโกโกนิสกับโกโกmasส
00:05:27 → 00:05:31 ถ้าเกิดคุณหาเจ้าที่หอมไปกว่านี้ได้ดีไป
00:05:31 → 00:05:34 กว่านี้ได้ช่วยกรุณาบอกผมด้วยเพราะนี่คือ
00:05:34 → 00:05:37 โกโก้masสโกโก้นิที่เรียกว่าเป็นตัวแทน
00:05:37 → 00:05:41 ของประเทศไทยส่งประกวดที่ปารีสส่วนผงแบรส
00:05:41 → 00:05:45 นั้นเป็นสูตรของผมเองผมเป็นคนปรุงขึ้นมา
00:05:45 → 00:05:48 เองและหลายคนก็ชอบมาก
00:05:48 → 00:05:53 เอาล่ะทีนี้มาถึงหัวข้อของข่าวที่ฮือฮา
00:05:53 → 00:05:56 กันมากเใช้คำว่าคีโต
00:05:56 → 00:06:00 ก็คืออาหารประเภทคีโตแต่ไม่ได้หมายความ
00:06:00 → 00:06:03 ว่าเป็นคีโตนะครับเใช้คำว่าคีโตไลคอาจจะ
00:06:03 → 00:06:07 เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงของโรคหัวใจที่
00:06:07 → 00:06:10 เพิ่มขึ้นขณะที่สื่อในเมืองไทยนั้นถอด
00:06:10 → 00:06:14 ความหมายออกมาในทำนองที่ว่ากินขีโตติดต่อ
00:06:14 → 00:06:17 กันเป็นเวลานานเสี่ยงเป็นโรคหัวใจและหลอด
00:06:17 → 00:06:22 เลือดแล้วหัวหน้าที่ทำการศึกษานี้ก็อยู่
00:06:22 → 00:06:25 ในแคนาดานี่แหละเป็นหมออยู่แancว
00:06:25 → 00:06:29 เดี๋ยวผมจะต้องมาอธิบายไอ้การตีพิมพ์ผล
00:06:29 → 00:06:33 งานทางวิชาการเนี่ยในฐานะที่ผมเป็นประธาน
00:06:33 → 00:06:36 การตรวจสอบผลงานที่จะตีพิมพ์ในJจourนal
00:06:36 → 00:06:41 ที่มีชื่อเสียงชิ้นนึงของแคนาดาและจะว่า
00:06:41 → 00:06:45 ไปของโลกด้วยมันมีอยู่ 3 ประเด็นที่ผม
00:06:45 → 00:06:50 อยากให้คุณดูในpapเปอร์ที่เขาตีพิมพ์นี้ 1
00:06:50 → 00:06:54 มันไม่ใช่ randomiz double BR place
00:06:54 → 00:06:58 control study ก็คือเป็นการศึกษาที่ไม่
00:06:58 → 00:07:03 ได้เกิดจากการสุ่มแล้วก็มีตัวหลอกมีการ
00:07:03 → 00:07:08 ควบคุมผู้ที่มารับการทดลองแบบกรณีของ
00:07:08 → 00:07:13 วัคซีนโควิดและที่ 2 มันก็ไม่ผ่านด้วยก็
00:07:13 → 00:07:17 คือมันไม่มีการรีวิวโดยคนที่เป็น
00:07:17 → 00:07:18 ศาสตราจารย์
00:07:18 → 00:07:22 ของสาขาอย่าง Journal ที่ผมเป็นประธานพี
00:07:22 → 00:07:25 รีวิวเนี่ยสาขาของผมเนี่ยผมจะต้องแต่ง
00:07:25 → 00:07:28 ตั้งผู้ที่มีความรู้มีความเชี่ยวชาญระดับ
00:07:28 → 00:07:32 ศาสตราจารย์ 2 ท่านมาตรวจสอบมาอ่านว่ามัน
00:07:32 → 00:07:37 ได้มาตรฐานที่จะตีพิมพ์หรือไม่ถ้า 2 ท่าน
00:07:37 → 00:07:41 ความเห็นตรงกันแต่ถ้าความเห็นไม่ตรงกันผม
00:07:41 → 00:07:44 ก็ต้องตัดสินว่าจะเอายังไงจะให้แก้ที่จุด
00:07:45 → 00:07:49 ไหนแต่บ่อยครั้งที่ส่งมาแล้วเนี่ยอ่านดู
00:07:49 → 00:07:53 แล้วโยนทิ้งเลยไม่ต้องส่งให้คนที่อยู่ใน
00:07:53 → 00:07:58 panel ของผมตรวจสอบละประเด็นที่ 3 ก็คือ
00:07:58 → 00:08:03 เวลาเค้าพูดถึงอาหารเค้าพูดถึง Low C
00:08:03 → 00:08:06 high fat เค้าไม่ได้ใช้คำว่าคีโตแล้ว
00:08:06 → 00:08:11 มันมีความหมายแตกต่างจากสาย low Cฟที่ผม
00:08:11 → 00:08:15 แนะนำที่ผมเชิญชวนให้คนไทยกินไอ้จุดเนี้ย
00:08:15 → 00:08:19 ผมจะต้องมาอธิบายให้ละเอียดคำว่า Low C
00:08:19 → 00:08:22 high fat diet คืออะไรความหมายที่แท้
00:08:22 → 00:08:26 จริงและผมเป็นคนที่สนับสนุน Low C high
00:08:26 → 00:08:31 fat diet แต่เวลาพูดถึง Low Cฟนั้นผม
00:08:31 → 00:08:35 หมายถึง Low Net C และ High Good Fat
00:08:35 → 00:08:39 คือคาร์โบไฮเดรตที่คุณกินเข้าไปจากผัก
00:08:39 → 00:08:44 ผลไม้ข้าวในขาบนั้นมันแบ่งเป็น 2 กลุ่ม
00:08:44 → 00:08:47 กลุ่มที่เรียกว่าให้พลังงานประมาณ 4
00:08:48 → 00:08:51 กแคลอรี่ต่อกรัมก็คือร่างกายสามารถย่อย
00:08:51 → 00:08:55 ได้กับกลุ่มที่ 2 ที่เป็น dietary fiber
00:08:55 → 00:08:59 หรือเส้นใยอาหารกลุ่มนี้ไม่ได้ให้พลังงาน
00:09:00 → 00:09:03 แต่มันเป็นกลุ่มที่มี nutritious ดีมี
00:09:03 → 00:09:07 ประโยชน์ต่อร่างกายและทุกครั้งที่ผมแสดง
00:09:07 → 00:09:10 เมนูอาหารให้คุณดูไอ้ส่วนที่เป็น
00:09:10 → 00:09:14 คาร์โบไฮเดรตนั้นคุณจะสังเกตได้ว่าผมเน้น
00:09:14 → 00:09:18 เรื่องธัญพืชเรื่องผักผลไม้กลุ่มเบอร์รี่
00:09:18 → 00:09:21 อะโวคาโดก็คือเป็นกลุ่มกลุ่มที่มีเส้นใย
00:09:21 → 00:09:25 เยอะผมไม่เคยสนับสนุนให้คุณกินข้าวกิน
00:09:25 → 00:09:28 ข้าวกล้องกินแป้งขัดสีกินซีเรียลอาหาร
00:09:29 → 00:09:32 เช้าที่เขาโฆษณากันแม้นว่าจะทำมาจาก
00:09:32 → 00:09:36 โฮเกรน 100% ก็ตามไอ้พวกนี้ผมไม่สนับสนุน
00:09:36 → 00:09:40 ไมโครนทิสต่างๆมันหายไปหมดจากการที่มัน
00:09:40 → 00:09:45 ผ่านความร้อนอีกด้านนึง high good fat
00:09:45 → 00:09:49 คุณต้องเข้าใจว่า fat นั้นมันมีทั้งดีมี
00:09:49 → 00:09:50 ทั้งเลว
00:09:51 → 00:09:53 และไอ้แฟชที่เลวเนี่ยคนไทยชอบกินกันนักก็
00:09:53 → 00:09:56 คือไอ้พวกน้ำมันพืชขวดใสทั้งหลายแหละ
00:09:56 → 00:10:00 เรียกว่า refine oil ผมไม่แนะนำให้คุณ
00:10:00 → 00:10:04 กินเลยส่วน Good fat หรือ fat ที่ดีก็
00:10:04 → 00:10:07 คือไขมันสัตว์อิ่มตัวนี่แหละหรือจะเป็นไข
00:10:07 → 00:10:10 มันพืชไม่อิ่มตัวแต่ว่าจะต้องไม่ผ่าน
00:10:10 → 00:10:15 กระบวนการสกัดทางเคมีเช่นน้ำมันมะกรอก
00:10:15 → 00:10:18 สกัดเย็นที่เรียกว่า Extra Virgin Olive
00:10:18 → 00:10:20 oil น้ำมันมะพร้าวเท้าสกัดเย็นอย่าง
00:10:20 → 00:10:25 เงี้ย MCT Oอยอย่างเงี้ยรวมถึงกีสด้วยผม
00:10:25 → 00:10:30 แนะนำให้คุณใช้น้ำมันหมูน้ำมันกีสในการทำ
00:10:30 → 00:10:33 อาหารแล้วถ้าเกิดคุณสนใจน้ำมันกีสคุณภาพ
00:10:33 → 00:10:38 ดีทำจากวัวที่กินหญ้าไม่ใช่วัวที่กินข้าว
00:10:38 → 00:10:43 โพดแล้วถูกขังเพื่อรีดน้ำนมวัวออกมานะ
00:10:43 → 00:10:46 เป็นวัวที่อยู่ในธรรมชาติจริงๆก็สามารถ
00:10:46 → 00:10:50 สั่งซื้อได้ที่ Line แอด
00:10:50 → 00:10:54 Choice แต่ว่าเดือนนึงมีเยอะคุณอาจจะ
00:10:54 → 00:10:59 ต้องจองและใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะถึงคิว
00:10:59 → 00:11:02 แล้วไหนๆก็พูดแล้วก็บอกซะเลยว่าวัวมันมี
00:11:02 → 00:11:06 แค่ 20 กว่าตัวและทุกตัวมันกินหญ้าเพราะ
00:11:06 → 00:11:08 ฉะนั้นคุณอย่าหวังว่ามันจะมีน้ำนมอะไรออก
00:11:08 → 00:11:12 มาเยอะประเด็นที่สำคัญที่สุดของpapอรนี้
00:11:12 → 00:11:16 ที่ผมอยากจะเล่าให้ฟังก็คือมันเป็นแค่
00:11:16 → 00:11:20 observational study ก็คือเป็นการศึกษา
00:11:20 → 00:11:25 เชิงสังเกตการพูดง่ายๆก็คือวิธีที่เค้า
00:11:25 → 00:11:29 ได้ข้อมูลมาเนี่ยเกิดจากการสอบถามคนไข้ผม
00:11:29 → 00:11:32 เข้าใจว่าเป็นคนไข้นะไม่ใช่ว่าไปหาประชา
00:11:32 → 00:11:36 ชนที่ไหนมาเพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่าง
00:11:36 → 00:11:41 กลุ่มที่กินอาหารประเภทโลค fat กับกลุ่ม
00:11:41 → 00:11:45 ทั่วไปว่ากลุ่มไหนมีความเสี่ยงต่อการเกิด
00:11:45 → 00:11:49 โรคหัวใจมากกว่ากันและความเสี่ยงที่ว่า
00:11:49 → 00:11:52 นี้จะหาได้ก็ต่อเมื่อต้องเข้าโรงเข้าหมอ
00:11:52 → 00:11:55 แล้วเขาไม่ได้วัดความสัมพันธ์อย่าง
00:11:55 → 00:11:58 ละเอียดนะครับเขาไม่ได้จับตรวจแคลเซียม
00:11:58 → 00:12:03 สกอร์ทุกคนนะครับและที่สำคัญก็คือการสรุป
00:12:03 → 00:12:08 ปิดท้ายของงานศึกษานี้เเขียนว่าอย่างไรก็
00:12:08 → 00:12:12 ตามผู้ศึกษาเห็นว่าจะมีประโยชน์มากกว่า
00:12:12 → 00:12:15 ถ้ามีการวิจัยเพิ่มเติมที่ออกแบบมาอย่าง
00:12:15 → 00:12:18 ดีหมายความว่าไอ้ที่ทำมาแล้วเนี่ยเนี่ย
00:12:18 → 00:12:22 มันไม่ได้ออกแบบมาอย่างดีและมันปิดคำบอก
00:12:22 → 00:12:26 ใบ้เอาไว้นิดนึงว่าเนื่องจากคนอเมริกัน 1
00:12:26 → 00:12:31 ใน 5 แจ้งกับหมอว่ากินโลคาฟถึงคีโตคุณ
00:12:31 → 00:12:35 ต้องขีดเส้นใต้เอาไว้ว่าคุณแน่ใจเหรอว่า
00:12:35 → 00:12:41 คนอเมริกันน่ะกินโลคาฟถึงคีโตถึง 1 ใน 5
00:12:41 → 00:12:43 แล้วมันเป็นไปไม่ได้หรอกครับที่คุณจะกิน
00:12:43 → 00:12:47 คีโต 1 มื้อและอีก 1 มื้อไม่กินคีโตไอ้
00:12:47 → 00:12:49 อย่างี้จะเรียกว่าคีโตได้ยังไงมันเหมือน
00:12:49 → 00:12:52 กับคนที่อ้างว่าตัวเองเป็นมังสวิรัสแต่
00:12:52 → 00:12:55 เฉพาะมื้อเช้าไอ้อย่างี้จะเป็นมังสวิรัส
00:12:55 → 00:13:00 เหรอแล้วมันมาโป๊ะแตกตรงที่ว่าถามเอาไว้
00:13:00 → 00:13:04 เมื่อปีก่อนมันเป็นข้อมูลจากการถามปาก
00:13:04 → 00:13:08 เปล่าแล้วอย่างที่ผมบอกอ่ะคนอเมริกันคน
00:13:08 → 00:13:13 แคนเดียนจำนวนมากสำคัญตนผิดว่าตัวเองกิน
00:13:13 → 00:13:17 คีโตกินโลคาฟทั้งๆที่ไม่ใช่
00:13:17 → 00:13:21 จะว่าแต่ฝรั่งเลยครับคนไทยก็เหมือนกันมี
00:13:21 → 00:13:25 แม่คนนึงบอกว่าลูกเ้ากินคีโตสั่งอาหาร
00:13:25 → 00:13:30 คีโตมาเยอะแยะเลยโดยเฉพาะกินตอนเช้าแล้ว
00:13:30 → 00:13:32 ผมก็ถามว่าอ้าวแล้วกลางวันเย็นไม่ได้กิน
00:13:32 → 00:13:37 อาหารคีโตเหรอกลางวันเย็นเค้ากินตามใจปาก
00:13:37 → 00:13:41 ไอ้อย่างี้จะเรียกว่าคีโตได้ยังไง
00:13:41 → 00:13:45 แล้วผมได้อธิบายไปแล้วว่าประเด็นการลด
00:13:45 → 00:13:50 ความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจก็คือโลนขาบ
00:13:50 → 00:13:54 แต่ว่างานวิจัยนี้ใช้วิธีสอบถามพูดง่ายๆ
00:13:54 → 00:13:57 ผมถามคุณว่าคุณกินโลค high fat หรือ
00:13:57 → 00:14:01 เปล่าถ้าคุณตอบว่าใช่ผมก็เชื่อคุณผมไม่
00:14:01 → 00:14:04 ได้มานั่งดูจริงๆว่าคุณกินยังไงแล้วเมื่อ
00:14:04 → 00:14:08 เวลาผ่านไป 12 ปีผมก็เชื่อว่าคุณกิน
00:14:08 → 00:14:12 เหมือนเดิมก็คือคำถามที่ผมถามเอาไว้เมื่อ
00:14:12 → 00:14:15 ปีที่แล้วว่าคุณกิน Low Cฟ High Fat
00:14:15 → 00:14:19 หรือเปล่าผมเชื่อว่าคุณกินเหมือนเดิมไอ้
00:14:19 → 00:14:22 อย่างี้มันถูกหรือเปล่าผมเองยังกินไม่
00:14:22 → 00:14:26 เหมือนเดิมเลยจาก 2 ปีที่แล้วมันไม่มีการ
00:14:26 → 00:14:31 ควบคุมว่าเออคุณจะกินโลคไฮคุณต้องกิน
00:14:31 → 00:14:35 อย่างี้นะขอดูเมนูหน่อยแล้วขอดูเมนูทุก
00:14:35 → 00:14:39 เดือนตลอด 12 ปีที่ผ่านมาเอาแค่การสอบถาม
00:14:39 → 00:14:42 ปากเปล่าเป็นตัวแบ่ง
00:14:42 → 00:14:46 เนยกีที่น้องชายผมขายนั้นเป็นเนยจีที่ทำ
00:14:46 → 00:14:50 จากน้ำนมวัวจริงๆและเป็นวัวที่กินหญ้าจี
00:14:50 → 00:14:52 ที่ดีจะต้องเป็นออร์แกนิคและเป็น
00:14:52 → 00:14:55 ออร์แกนิคแบบ 100% คุณดมกลิ่นคุณก็พอจะ
00:14:55 → 00:15:00 บอกได้ว่าของใคร 100% ของใครไม่ 100%
00:15:00 → 00:15:03 แล้วของ 100% นั้นหายากมากในเมืองไทยแล้ว
00:15:03 → 00:15:07 ก็ไม่ใช่ว่าจะมีของทุกเดือนด้วยผลิตภัณฑ์
00:15:07 → 00:15:11 ใหม่ที่กำลังจะออกในเร็วๆนี้ก็คือปลาซาบะ
00:15:11 → 00:15:15 กระป๋องเรียกว่าผมปลงให้ถูกใจสายคีโตโคฟ
00:15:15 → 00:15:19 แต่ว่าขายทีนึงนี่ขายยกรัง 24 กระป๋อง
00:15:19 → 00:15:23 ราคายังไม่ทราบนอกจากนี้ก็ยังมีไวตามิน
00:15:23 → 00:15:27 drรopแล้วก็ดีบอมหลายคนที่ขาดไวตามินดี
00:15:27 → 00:15:30 เนี่ยโรงพยาบาลหลายแห่งเขาก็แนะนำให้ฉีด
00:15:30 → 00:15:33 ไวตามินดีเข้าสู่กระแสเลือดทันทีเลยอาจจะ
00:15:34 → 00:15:36 200,000 300,000 IU แล้วก็มีค่าใช้
00:15:36 → 00:15:39 จ่ายประมาณ 2-3,000 บาทแต่วิธีที่ดีกว่า
00:15:39 → 00:15:42 ก็คือกินไวตามินดีแบบเข้มข้นที่เรียกว่า
00:15:42 → 00:15:47 ดีบอมเม็ดนึง 60,000 IU คุณกิน 4 เม็ดก็
00:15:47 → 00:15:50 เทียบเท่ากับการฉีดไวตามินดีแล้วก็ราคา
00:15:50 → 00:15:53 ถูกกว่ากันเยอะส่วนโอเมก้านั้นอันนี้
00:15:53 → 00:15:57 เฉพาะคนที่มีอาการอักเสบหรือเป็นรองโควิด
00:15:57 → 00:16:01 เพราะว่าราคามันแพงปกติผมแนะนำให้กินแต่
00:16:01 → 00:16:05 โอเมก้า 3 เพื่อป้องกันการอักเสบไอ้ส่วน
00:16:05 → 00:16:08 ที่สนับสนุนการอักเสบมากที่สุดก็คือ
00:16:08 → 00:16:11 โอเมก้า 6 ไอ้นี่ห้ามกินหรือหลีกเลี่ยง
00:16:11 → 00:16:15 ได้ก็จะดีเพราะว่าคุณได้รับโอเมก้า 6
00:16:15 → 00:16:19 เยอะมากจากน้ำมันพืชขวดใสคุณจะต้อง
00:16:19 → 00:16:23 balanceซมันด้วยโอเมก้า 3 และโอเมก้า 3
00:16:23 → 00:16:26 นั้นหาง่ายมากในปลาทะเลถึงกระนั้นก็ตาม
00:16:26 → 00:16:30 โดยส่วนตัวผมเองผมก็เสริมแล้วจะหาซื้อก็
00:16:30 → 00:16:34 ไม่ยากราคาก็ถูกโอเมก้านายนั้นใช้เฉพาะ
00:16:34 → 00:16:37 กรณีที่คุณเกิดอักเสบแล้ว
00:16:37 → 00:16:41 ที่ 2 ก็คือ low car high fat นิยาม
00:16:41 → 00:16:44 ของเค้าก็คือจะต้องมีพลังงานจาก
00:16:44 → 00:16:48 คาร์โบไฮเดรตไม่เกิน 25% และจะต้องมีพลัง
00:16:48 → 00:16:53 งานจากแฟชหรือไขมันอย่างน้อย 45%
00:16:53 → 00:16:55 ถ้าใครกินแฟชน้อยกว่านี้หรือกิน
00:16:55 → 00:16:58 คาร์โบไฮเดรตมากกว่านี้เขาก็เรียกว่า
00:16:58 → 00:17:01 Standard diet นี่เป็นกลุ่มที่จะเอาไว้
00:17:01 → 00:17:04 เปรียบเทียบเรียกว่าเป็นกลุ่ม control
00:17:04 → 00:17:08 กลุ่มที่เขา้าถามแล้วพบว่าเป็นคีโตนั้นมี
00:17:08 → 00:17:13 305 คนถึงจุดนี้ผมก็ชักสงสัยแล้วว่าทำไม
00:17:13 → 00:17:17 ไอ้คนที่เขาไปสอบถามมันถึงน้อยจัง 305 คน
00:17:17 → 00:17:22 เนี่ยผมสงสัยว่าจะเป็นคนไข้คนไข้ที่มี
00:17:22 → 00:17:26 ความเสี่ยงกับการเกิดโรคหัวใจและเช่น
00:17:26 → 00:17:29 เดียวกับกลุ่มที่เขาเรียกว่ากินอาหารปกติ
00:17:29 → 00:17:35 ไม่ใช่คีโตเนี่ยก็มีน้อยด้วย 1,200 คน
00:17:35 → 00:17:38 เชื่อว่าน่าจะเป็นคนไข้ที่มีความเสี่ยง
00:17:38 → 00:17:42 ของโรคหัวใจอยู่แล้วและอย่างที่รู้กันก็
00:17:42 → 00:17:47 คือพลังงานจากแฟชมันได้ 9 แคลอรี่ขณะที่
00:17:47 → 00:17:51 พลังงานจากคาร์โบไฮเดรต 1 กรัมนั้นมันได้
00:17:51 → 00:17:53 4 แคลอรี่
00:17:53 → 00:17:58 ผมคำนวณออกมาแล้วเนี่ยพบว่ากินแฟชแค่ 40%
00:17:58 → 00:18:00 ของคาร์โบไฮเดรต
00:18:00 → 00:18:04 เขาก็เรียกว่า low carb high fat ใน
00:18:04 → 00:18:08 นิยามนี้แล้วซึ่งยังไม่ใกล้เคียงกับคีโต
00:18:08 → 00:18:12 ด้วยซ้ำไปเรียกว่าเป็นคีโตปลอม
00:18:12 → 00:18:15 คุณต้องเข้าใจอยู่อย่างนึงและเป็นเรื่อง
00:18:15 → 00:18:20 ที่สำคัญมากก็คือกินคีโตเพื่ออะไร
00:18:20 → 00:18:23 กินคีโตเพื่อให้เกิดภาวะที่เรียกว่า
00:18:23 → 00:18:25 คีโตis
00:18:25 → 00:18:30 ร่างกายจะเอาไขมันออกมาเผาผลาญแต่ว่าคน
00:18:30 → 00:18:34 ที่กินคีโตปปลอมอ่ะมันไม่เกิดคีโตซิสยก
00:18:34 → 00:18:39 เว้นเขาจะทำ IF 168 ขึ้นไปคนที่เป็น
00:18:40 → 00:18:44 คีโตซิสนั้นอายุยืนแม้ว่าจะออกกำลังกาย
00:18:44 → 00:18:47 น้อยก็ตามอย่างภิกษุที่อยู่ในป่าเนี่ย
00:18:47 → 00:18:51 ท่านฉันวันละมื้อได้ว่าท่านไม่ได้ฉัน
00:18:51 → 00:18:55 อาหารคีโตกแต่ร่างกายมันเกิดภาวะคีโตสิ
00:18:55 → 00:18:59 ทุกวันเพราะว่าท่านกินวันละมื้อคนที่กิน
00:18:59 → 00:19:03 one mil a day หรือ omat เกิดคีตos
00:19:03 → 00:19:07 แน่นอน 100% โดยที่ไม่ต้องกินอาหารขี้โต
00:19:07 → 00:19:10 ด้วยเพราะฉะนั้นคุณต้องเข้าใจว่าไม่ใช่
00:19:10 → 00:19:14 ว่ากินคีโตมื้อเช้ามื้อกลางวันกินอาหาร
00:19:14 → 00:19:18 ธรรมดาแล้วคุณจะได้คีโตซิสครึ่งนึงนะครับ
00:19:18 → 00:19:21 คุณไม่ได้คีโตสิเลย
00:19:21 → 00:19:25 และโป๊ะแตกต่อที่ 3 ก็คือการคำนวณเองผมดู
00:19:25 → 00:19:28 รายละเอียดของการคำนวณเนี่ยพบว่า 30 คน
00:19:28 → 00:19:34 จากกลุ่มคีโตปลอมซึ่งมี 305 คนมีปัญหาโรค
00:19:34 → 00:19:39 หัวใจคิดเป็น 9.8% 18% ขณะที่ 52 คนจาก
00:19:39 → 00:19:44 กลุ่มมาตรฐาน 1,200 คนมีปัญหาโรคหัวใจก็
00:19:44 → 00:19:45 คือ 4.3%
00:19:46 → 00:19:49 เค้าก็เอาไอ้ 9.8 18 / 4.3 3 เนี่ย
00:19:49 → 00:19:52 แล้วก็บอกว่า 2 เท่า
00:19:52 → 00:19:56 และเนื่องจากผมคุ้นเคยกับงานวิจัยที่เส
00:19:56 → 00:20:01 แสร้งที่จอมปลอมคุณดูให้ดีนะว่ามีประชากร
00:20:01 → 00:20:08 ไหนบนโลกนี้ที่มีโอกาสหัวใจวายถึง 4%
00:20:08 → 00:20:12 หรือถึง 10% ไปเอาประชากรกลุ่มนี้มาจาก
00:20:12 → 00:20:16 ไหนคำตอบก็คือเอามาจากคนไข้ไม่ใช่บุคคล
00:20:16 → 00:20:22 ทั่วไปเขาไปเอามาจากกลุ่มเสี่ยงโรคหัวใจ
00:20:22 → 00:20:25 คุณคิดดูแล้วกันว่ามี 305 คนน่ะคนที่มี
00:20:25 → 00:20:29 อาการขนาดที่ว่าเรียกว่าหัวใจวายหรือต้อง
00:20:29 → 00:20:32 ผ่าตัดเงี้ยนะมีถึง 30 คนน่ะมันเป็นไปได้
00:20:32 → 00:20:35 ยังไงแม้แต่กลุ่มที่เรียกว่ามาตรฐานไป
00:20:35 → 00:20:39 หยิบมา 1,200 คนน่ะเป็นอัมพาตเป็นเส้น
00:20:39 → 00:20:45 เลือดตีบตันหัวใจวายรวมกันแล้วมากถึง 52
00:20:45 → 00:20:48 คนไอ้อย่างี้คุณก็ต้องรู้แล้วว่าไอ้ไอ้
00:20:48 → 00:20:52 ประชากรที่เขาไปหยิบมานั้นไม่ใช่คนปกติ
00:20:52 → 00:20:57 สามัญแต่เป็นคนไข้ที่มาหาหมอแล้วเาก็ไป
00:20:57 → 00:21:02 สอบถามจากคนไข้เหล่านี้มาเป็นข้อมูลไอ้
00:21:02 → 00:21:06 การสอบถามนั้นผมเชื่อว่ามันมีความลำเอียง
00:21:06 → 00:21:12 อยู่ว่าจากจะให้ผลการศึกษามันออกมาในแนว
00:21:12 → 00:21:16 ทางไหนพูดง่ายๆเหมือนกับตั้งธงเอาไว้แล้ว
00:21:16 → 00:21:20 ขอย้ำอีกครั้งนึงว่างานวิจัยใจนี้ไม่ผ่าน
00:21:20 → 00:21:23 ไม่มีศาสตราจารย์หรือผู้เชี่ยวชาญระดับ
00:21:23 → 00:21:27 สูงของสาขามารีวิวอย่างน้อย 2 คนและตัด
00:21:27 → 00:21:31 สินจะให้ผ่านหรือจะให้ตกและหลังจากที่ขุด
00:21:31 → 00:21:35 ลงไปที่คนที่ทำวิจัยและอยู่เบื้องหลังการ
00:21:35 → 00:21:41 วิจัยแล้วคนเหล่านี้เป็นพวกweกนเป็นกลุ่ม
00:21:41 → 00:21:44 ที่ต่อต้านการกินเนื้อสัตว์คนกลุ่มนี้มี
00:21:44 → 00:21:47 ธงปักเอาไว้แล้วว่าเนื้อสัตว์เป็นสิ่งที่
00:21:47 → 00:21:52 ไม่ดีผมไม่มีอะไรต่อต้านหรือคัดค้านหรือ
00:21:52 → 00:21:56 ใบแอดใดๆทั้งสิ้น
00:21:56 → 00:22:00 อาหารที่ผมกินมีการปรับตลอดปัจจุบันผมกิน
00:22:00 → 00:22:05 พืชประมาณ 3 ใน 4 กินสัตว์ 1 ใน 4 และผม
00:22:05 → 00:22:10 ไม่อยากให้คุณทำตามผมถ้าเกิดคุณยังกินวัน
00:22:10 → 00:22:16 ละหลายๆมื้อผมแนะนำสำหรับคนส่วนมากที่ยัง
00:22:16 → 00:22:17 ต้องกิน 3 มื้อ
00:22:17 → 00:22:21 ให้คุณกินLฟ High Fat กินสัตว์ให้เยอะ
00:22:21 → 00:22:26 กว่าค่ามาตรฐานของคนไทยกินข้าวแป้งขัดสี
00:22:26 → 00:22:30 กินน้ำตาลให้น้อยจนกระทั่งคุณกินได้วันละ
00:22:30 → 00:22:34 มื้อแล้วนั่นแหละคุณถึงจะมาเปลี่ยนมากิน
00:22:34 → 00:22:38 พืชให้เยอะกินสัตว์ให้น้อยลงและผมเสียใจ
00:22:38 → 00:22:43 กับกลุ่มแกนและกลุ่มที่ดื่มน้ำปัสสาวะ
00:22:43 → 00:22:47 ดื่มน้ำด่างกลุ่มพวกนี้ควรจะศึกษางาน
00:22:47 → 00:22:50 วิจัยที่เป็นวิทยาศาสตร์ให้มากกว่านี้
00:22:50 → 00:22:53 หรืออย่างน้อยที่สุดกลับตัวกลับใจจาก
00:22:53 → 00:22:56 วีแกนมาเป็นมังสวิรัก
00:22:56 → 00:22:59 ก็คือมีการกินไข่หรือกินนมถ้าเกิดเขาไม่
00:22:59 → 00:23:04 แพ้กินโยเกิร์ตคีเฟอร์ชีสเพื่อให้ได้
00:23:04 → 00:23:07 ไวตามิน B12 และไวตามินบางอย่างที่มันไม่
00:23:07 → 00:23:10 มีในพืช
00:23:10 → 00:23:13 และจะว่าไปแล้วคำว่าคีโตนั้นยังไม่ใช่สุด
00:23:13 → 00:23:18 โต่งที่สุดของสายโลคาฟไอ้ที่สุดตรงสุดของ
00:23:18 → 00:23:22 สายโลคาฟก็คือ CD Canneiv diet หรือคน
00:23:22 → 00:23:26 ที่ไม่กินพืชเลยยกเว้นเครื่องปรุงเท่า
00:23:26 → 00:23:28 นั้นเครื่องปรุงในที่นี้ก็หมายถึง
00:23:28 → 00:23:31 กระเทียมพริกไทยเล็กๆน้อยๆที่มาทำมาจาก
00:23:31 → 00:23:35 พืชคนพวกนี้จะกินสัตว์อย่างเดียวแล้วผม
00:23:35 → 00:23:38 ย้ำหลายครั้งว่าคำว่าสัตว์นั้นไม่ใช่
00:23:38 → 00:23:41 เนื้อสัตว์ผมหมายถึงไข่ก็เรียกว่าสัตว์นม
00:23:41 → 00:23:44 ก็เรียกว่าสัตว์เครื่องในผลิตภัณฑ์ทั้ง
00:23:44 → 00:23:47 หมดที่มาจากสัตว์และมันมีประโยชน์มาก
00:23:47 → 00:23:51 สำหรับคนที่ต้องการลดความอ้วนต้องการแก้
00:23:51 → 00:23:55 ปัญหาสุขภาพที่เป็นอยู่ในระยะแรกเนี่ยผม
00:23:55 → 00:24:00 แนะนำให้คุณกินซีดีคือสุดโต่งเลยแล้วขยะ
00:24:00 → 00:24:05 มาเป็นคีโตแต่ถ้าเกิดคุณสามารถกินได้น้อย
00:24:05 → 00:24:09 มื้อก็คือคุณทำไอได้แล้วเนี่ยคุณก็ไม่
00:24:09 → 00:24:14 จำเป็นจะต้องคีโตก็ได้ขยับมาเป็นโลขาบก็
00:24:14 → 00:24:18 ได้กินพืชมากขึ้นแล้วยิ่งถ้าเกิดคุณกิน
00:24:18 → 00:24:21 ได้วันละมื้อแล้วก็โอ้โหชีวิตคุณสบายมาก
00:24:21 → 00:24:25 คุณกินพืชได้เยอะเลยเอาล่ะครับก่อนที่คุณ
00:24:25 → 00:24:28 จะเชื่อข่าวพาดหัวอะไรก็ตามผมอยากให้คุณ
00:24:28 → 00:24:32 ดูรายละเอียดนิดนึงไม่ใช่เค้าพลาดหัวข่าว
00:24:32 → 00:24:35 อะไรมาก็เชื่อไปหมดไอ้คนทำวิจัยอมันมีธง
00:24:35 → 00:24:40 มันมีการสนับสนุนมีสปอนเซอร์แฝงหรือเปล่า
00:24:40 → 00:24:44 ไอ้นั้นมันเป็นpeวหรือเปล่ามันได้รับการ
00:24:44 → 00:24:48 ยอมรับจากคนในวงการหรือเปล่าและยิ่งสมัย
00:24:48 → 00:24:51 นี้ด้วยแล้วถ้าเกิดใครเชียร์ฝั่งไหนก็จะ
00:24:51 → 00:24:55 ตะบี้ตะบันเชียร์ฝั่งนั้นคนที่เป็นเหมือน
00:24:55 → 00:24:58 กับเค้ามีชิปฝังหัวคุณไปเปลี่ยนเค้าไม่
00:24:58 → 00:25:01 ได้หรอกและอาจเป็นเช่นเดียวกันกับกลุ่ม
00:25:01 → 00:25:04 ที่เป็นซีดีบางคนก็อาจจะมีชิปฝังหัวไป
00:25:04 → 00:25:07 เปลี่ยนเค้าไม่ได้เช่นกันแต่จากที่ผมทด
00:25:07 → 00:25:13 ลองจากที่ผมอ่านมากศึกษามากทำให้ผมรู้ว่า
00:25:13 → 00:25:17 ซีดีๆนั้นมันมีข้อดีโดยเฉพาะคนที่ไม่
00:25:17 → 00:25:23 สามารถกินวันละ 1 มื้อคนที่ไม่สามารถได้
00:25:23 → 00:25:28 แต่ว่ามันไม่ดีกับคุณในระยะยาวคุณเคยเห็น
00:25:28 → 00:25:32 มีชนเผ่าไหนที่กินเนื้อสัตว์เยอะๆและอายุ
00:25:32 → 00:25:35 ยืนเป็น 100 ปีมั้ย
00:25:35 → 00:25:37 ไม่มี
00:25:37 → 00:25:40 มีแต่กลุ่มที่กินพืชค่อนข้างเยอะถึงจะ
00:25:40 → 00:25:44 อายุยืนแต่ลองสังเกตเกตสิกลุ่มที่อายุยืน
00:25:44 → 00:25:48 นั้นเป็นกลุ่มที่กินน้อยเป็นกลุ่มที่รู้
00:25:48 → 00:25:52 จักหิวไม่ใช่อิ่มตลอดเวลาเอาล่ะครับขอ
00:25:52 → 00:25:56 ขอบพระคุณที่ติดตามสวัสดีครับ
00:25:56 → 00:25:59 กาแฟป่าแบบคั่วที่ว่ายังเป็นเมล็ดอยู่คุณ
00:25:59 → 00:26:03 จะต้องเอาไปบดแล้วทำเป็นกาแฟสดเองอันนี้
00:26:03 → 00:26:07 หาซื้อได้ที่ Line Loy Shop ก็คือคนละ
00:26:07 → 00:26:14 เจ้ากันกับข้างบนที่เป็น Loy Choice
00:26:14 → 00:26:21 [เพลง]