00:00:00 → 00:00:03 ก็สวัสดีค่ะเมย์นะคะฝากมาเจอกันตั้งสัญญา
00:00:03 → 00:00:06 ค่ะวันนี้เมย์จะมาชวนทุกๆคนมาคุยกัน
00:00:06 → 00:00:08 เกี่ยวกับเรื่องของอาหารกับความอ้วนค่ะ
00:00:08 → 00:00:11 เพราะว่าหลายๆคนอาจจะเคยได้ยินว่ากินให้
00:00:11 → 00:00:14 น้อยออกกำลังกายให้เยอะแล้วเราจะผอมไป
00:00:14 → 00:00:17 ด้วยกันแต่ทำไมล่ะฉันกินนิดเดียวฉันก็วัน
00:00:17 → 00:00:21 แล้วในขณะที่มันกินน้ำเยอะเลยเนี่ยทำไม
00:00:21 → 00:00:25 มันหอมคลิปนี้มีคำตอบข่าวว่านอกจากปริมาณ
00:00:25 → 00:00:27 อาหารแล้วยังมีเรื่องเกี่ยวกับอาหาร
00:00:27 → 00:00:29 เรื่องไหนอีกบ้างที่เกี่ยวข้องกับความ
00:00:29 → 00:00:31 อ้วนค่ะ
00:00:31 → 00:00:38 [เพลง]
00:00:38 → 00:00:41 การจะไปคุยกันนะคะอย่าลืมกด like กด Share
00:00:41 → 00:00:43 กด Subscribe และอย่าลืมกดกระดิ่ง
00:00:43 → 00:00:46 กรุ๊งกริ๊งไว้เราได้มาคุยการพบกับเรื่อง
00:00:46 → 00:00:49 ราวดีๆก่อนใครนะคะเรื่องของอาหารกับความ
00:00:49 → 00:00:51 อ้วนจะไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของปริมาณ
00:00:51 → 00:00:54 อาหารเท่านั้นแต่ยังมีเรื่องอื่นอีกมาก
00:00:54 → 00:00:56 มายเลยไปก่อนเกิดเนี่ยเรามาพูดกันถึง
00:00:56 → 00:00:59 เรื่องของปริมาณอาหารที่คิดที่สุดกันก่อน
00:00:59 → 00:01:01 เลยดีกว่าคือเรื่องของปริมาณอาหารนั้น
00:01:01 → 00:01:05 หลายๆคนคงจะทราบดีอยู่แล้วกินเยอะใช้น้อย
00:01:05 → 00:01:08 พลังงานก็เหลือแคลอรี่ก็เหลือร่างกายจึง
00:01:08 → 00:01:11 จะนำพลังงานเหล่านี้ไปเก็บไว้ในรูปของไข
00:01:11 → 00:01:13 มันนั่นเองโดยฮอร์โมนตัวร้ายที่ชื่อว่า
00:01:13 → 00:01:16 อินซูลินค่ะที่นี่เราจะรู้ได้ไงว่าพลัง
00:01:16 → 00:01:19 งานที่เรากินเข้าไปเพียงพอน้อยไปหรือมาก
00:01:19 → 00:01:23 เกินไปเราจะดูกันที่ค่า 2 ค่าค่ะคือค่า
00:01:23 → 00:01:26 bmr มากับค่าทีดีอีค่ะสองค่านี้คืออะไร
00:01:26 → 00:01:30 เราไปฟังกันค่ะสำหรับสองค่านี้นะคะท่าแรก
00:01:30 → 00:01:33 ท่าบีมาที่หมอพูดถึงเรียกว่าค่า basal
00:01:33 → 00:01:36 metabolic Rate ค่ะซึ่งค่านี้เป็นค่า
00:01:36 → 00:01:39 ของพลังงานพื้นฐานที่เราใช้ในชีวิตประจำ
00:01:39 → 00:01:42 วันต่อให้เรานอนเฉยๆไม่ได้ขยับไปไหนเราก็
00:01:42 → 00:01:45 ยังต้องใช้พลังงานเข้านี้อยู่ดีนั่นแปล
00:01:45 → 00:01:47 ว่าคนไข้ที่นอนอยู่ในโรงพยาบาลต้องใช้
00:01:47 → 00:01:50 พลังงานนี้เหมือนกันซึ่งพลังงานนี้สามารถ
00:01:50 → 00:01:53 คำนวณได้จากน้ำหนักส่วนสูงและอายุตามสูตร
00:01:53 → 00:01:56 นี้นั่นเองค่ะเดี๋ยวคุณเพื่อนๆจอดๆก่อนนะ
00:01:56 → 00:01:59 คะแล้วเราเอาไปคำนวณเป็นของเรากันดูนั่น
00:01:59 → 00:02:02 แปลว่าต่อขอให้เพื่อนๆไม่สัตว์ไม่ได้ใช้
00:02:02 → 00:02:04 พลังงานอะไรเลยไม่ได้ออกกำลังอะไรเลยไม่
00:02:04 → 00:02:06 ได้เดินเลยเพราะยังต้องใช้พลังงานเท่านี้
00:02:06 → 00:02:10 อยู่ดีแปลว่าเราไม่ควรกินน้อยกว่าค่า bmr
00:02:10 → 00:02:14 นั่นเองค่ะสำหรับค่าที่ 2 นะคะค่าทีดีอี
00:02:14 → 00:02:17 หรือย่อมาจาก Total Daily n g s
00:02:17 → 00:02:20 เฟนิเจอร์ค่ะซึ่งค่านี้จะเป็นค่าพลังงาน
00:02:20 → 00:02:23 จริงๆที่เพื่อนๆใช้ในแต่ละวันโดยถ้าคำนวณ
00:02:23 → 00:02:27 จากลักษณะกิจกรรมที่เพื่อนๆใช้จริงเราจะ
00:02:27 → 00:02:29 เทียบเคียงจากค่า bmr นำมาคูณกับตัวเลข
00:02:29 → 00:02:34 ตามกิจกรรมนั้นๆเช่นคนที่นอนอยู่เฉยๆทำ
00:02:34 → 00:02:36 งานนั่งโต๊ะไม่ค่อยได้ออกกำลังก็จะคุยกับ
00:02:36 → 00:02:39 ตัวเลขค่านึงถ้าคนที่ออกกำลังกายปั่นกลาง
00:02:39 → 00:02:42 จะใช้ตัวเลขค่าหนึ่งคนที่ออกกำลังกายเยอะ
00:02:42 → 00:02:44 ก็จะเปิดตัวเล็กอีกข้างหนึ่งเดี๋ยวแม่จะ
00:02:44 → 00:02:46 ขึ้นสูตรไปให้นะคะว่าเราจะใช้ยังไงบ้าง
00:02:46 → 00:02:50 โดยพลังงานตัวนี้จะเป็นค่าพลังงานจริงๆ
00:02:50 → 00:02:54 ที่เพื่อนๆไม่ควรกินเกินค่า tdee ค่ะนั่น
00:02:54 → 00:02:56 แปลว่าถ้าเพื่อนกินเกินค่าเหล่านี้พลัง
00:02:56 → 00:02:59 งานก็จะเหลือและนำเก็บไว้ในรูปของไขมัน
00:02:59 → 00:03:01 หากเพื่อนแม้ว่าจะเริ่มลดน้ำหนักในขั้น
00:03:01 → 00:03:05 ต้นอาจจะลองจากการทานให้น้อยกว่าค่าทีดี
00:03:05 → 00:03:08 อีวันละนิดวันละหน่อยอาจจะเป็นการเริ่ม
00:03:08 → 00:03:10 ต้นที่ดีก็ได้ค่ะนอกจากเรื่องของปริมาณ
00:03:10 → 00:03:13 อาหารที่กินสิ่งที่เราจะต้องดูอีกอย่าง
00:03:13 → 00:03:15 หนึ่งไม่แพ้กันก็คือเรื่องของชนิดอาหาร
00:03:15 → 00:03:18 ที่กินค่ะโดยอาหารตัวร้ายของเราก็คือ
00:03:18 → 00:03:21 อาหารกลุ่มของคาโบไฮเดรตค่ะเช่นข้าวแป้ง
00:03:21 → 00:03:25 น้ำตาลขนมหวานต่างๆเป็นต้นโดยการสะดือว่า
00:03:25 → 00:03:28 คาร์โบไฮเดรตตัวไหนร้ายกว่ากันเราจะดูกัน
00:03:28 → 00:03:31 ที่ค่าดัชนีน้ำตาลหรือไกลสนิท index นั่น
00:03:31 → 00:03:33 เองค่ะแปซิฟิก index ตัวนี้คือค่าที่แสดง
00:03:33 → 00:03:37 ว่าขบวนเดชที่เรากินเข้าไปสามารถย่อยและ
00:03:37 → 00:03:40 ดูดซึมได้เร็วแค่ไหนเกิดการเปลี่ยนแปลง
00:03:40 → 00:03:43 ของน้ำตาลในเลือดมากขึ้นเร็วแค่ไหนว่างๆๆ
00:03:43 → 00:03:47 เราแบ่งเป็นสองกลุ่มก่อนค่ะคือค่าดัชนี
00:03:47 → 00:03:50 น้ำตาลสูงกับค่าดัชนีน้ำตาลต่ำโดยกลุ่ม
00:03:50 → 00:03:53 แรกนะคะค่าดัชนีน้ำตาลสูงจะเป็นกลุ่มที่
00:03:53 → 00:03:57 เวลาเรากินเข้าไปร่างกายจะย่อยและดูดซึม
00:03:57 → 00:04:00 อย่างรวดเร็วเกิดไปน้ำตาลในเลือดพุ่งสูง
00:04:00 → 00:04:04 หมอนวดเร็วยกตัวอย่างนะคะเช่นนักลงของมัน
00:04:04 → 00:04:08 บทเป็นไฟล์โดนัทเป็นต้นซึ่งกลุ่มนี้คือ
00:04:08 → 00:04:10 กลุ่มที่เป็นตัวร้ายเลยค่ะส่วนอีกกลุ่ม
00:04:10 → 00:04:14 นึงในทิศทางตรงข้ามกันนะคะคือค่าไฟซีนิค
00:04:14 → 00:04:17 index ต่ำกลุ่มนี้นะคะร่างกายจะย่อยและ
00:04:17 → 00:04:20 ดูดซึมได้ช้าน้ำตาลในเลือดขึ้นสูงอย่าง
00:04:20 → 00:04:24 ช้าๆและจะคงที่อยู่นานทำให้เราอิ่มอยู่
00:04:24 → 00:04:27 นานผิวชานั้นเองค่ะยกตัวอย่างอาหารใน
00:04:27 → 00:04:31 กลุ่มนี้นะคะเช่นวุ้นเส้นแอปเปิลผักต่างๆ
00:04:31 → 00:04:35 เป็นต้นนั่นเองค่ะซึ่งค่าดัชนีน้ำตาลที่
00:04:35 → 00:04:38 สูงจะทำให้ค่าน้ำตาลในเลือกสูงขึ้นเร็ว
00:04:38 → 00:04:41 ขึ้นซึ่งการที่น้ำตาสูงขึ้นเร็วแบบนี้จะ
00:04:41 → 00:04:44 ทำให้ฮอร์โมนตัวร้ายของเราจะได้ว่าอินสุ
00:04:44 → 00:04:47 ลินสูงขึ้นตามไปด้วยค่ะและจะทำให้เรามี
00:04:47 → 00:04:51 ภาวะอ้วนลงถุงตามมานั่นเองค่ะนอกจาก
00:04:51 → 00:04:53 เรื่องของปริมาณอาหารและชนิดอาหารที่เรา
00:04:53 → 00:04:56 พูดกันไปแล้วนะคะประเด็นที่สามที่สำคัญ
00:04:56 → 00:04:59 ไม่แพ้กันคือเรื่องของความถี่ของมื้อ
00:04:59 → 00:05:02 อาหารค่ะคือเรื่องของความถี่ของเนื้อหาน
00:05:02 → 00:05:05 ตัวร้ายของเราคือฮอร์โมนอินซูลินที่เรา
00:05:05 → 00:05:07 เคยพูดถึงแว่วไปเมื่อสองหัวข้อที่แล้วนะ
00:05:07 → 00:05:10 คะที่นี้เราจะมาลงลึกกันค่ะว่าฮอร์โมน
00:05:10 → 00:05:12 อินซูลินคืออะไรฮอร์โมนอินซูลินคือ
00:05:12 → 00:05:15 ฮอร์โมนที่ร่างกายของเราสร้างออกมาเพื่อ
00:05:15 → 00:05:18 จัดการกับน้ำตาลในเลือดของเราที่ขึ้นสูง
00:05:18 → 00:05:21 ขึ้นโดยเขาจะจัดการโดยนำค่าน้ำตาลในเลือด
00:05:22 → 00:05:24 ที่อยู่ในร่างกายของเราที่ขึ้นหลังจาก
00:05:24 → 00:05:27 เนื้อหานไปเก็บตามที่ต่างๆของร่างกายค่ะ
00:05:27 → 00:05:31 ไม่ว่าจะเป็นเซลล์กล้ามเนื้อเซลล์ตับหรือ
00:05:31 → 00:05:34 เซลล์ไขมันของเรานั่นเองโดย Hormone ตัว
00:05:34 → 00:05:37 นี้จะขึ้นหลังจากที่ค่าน้ำตาลของเราสูง
00:05:37 → 00:05:40 ขึ้นหลังมื้ออาหารนั่นแปลว่าเมื่อเรากิน
00:05:40 → 00:05:42 อาหารมื้อเช้าน้ำตาสูงขึ้นฮอร์โมน
00:05:42 → 00:05:45 อินซูลินจะสูงขึ้นตามไปค่ะหลังจากเรากิน
00:05:45 → 00:05:48 อาหารเช้าเสร็จทางบนอิสลินจะค่อยๆต่ำลง
00:05:48 → 00:05:50 เมื่อเรากินมื้อเที่ยงของวันที่จะเน้นก็
00:05:50 → 00:05:53 สูงขึ้นอีกค่ะมื้อเย็นก็จะสูงขึ้นอีกเป็น
00:05:53 → 00:05:56 แบบนี้โดยระหว่างมื้อจะเป็นช่วงที่
00:05:56 → 00:05:59 ฮอร์โมนอินซูลินของเราได้พักจากการใช้งาน
00:05:59 → 00:06:02 ระดับต่ำถ้าลงในช่วงกลางคืนในช่วงที่เรา
00:06:02 → 00:06:04 หลับเราไม่ได้ทานอาหารใช่ไหมคะพ่อมดที่
00:06:04 → 00:06:06 สนิทของเราก็จะได้พักจากการใช้งานเช่นกัน
00:06:06 → 00:06:11 ค่ะแต่ถ้าสมมติว่าเราทานอาหารมากๆมื้อมาก
00:06:11 → 00:06:14 ขึ้นไม่ว่าจะเป็นทานขนมระหว่างมื้อหรือ
00:06:14 → 00:06:17 ทานอาหารมื้อดึกลองดูนะคะหลังมื้อเช้าใช่
00:06:17 → 00:06:20 ไหมคะข้อมูลที่สรีระเพิ่มสูงขึ้นยังไม่ทำ
00:06:20 → 00:06:23 อะไรเลยเรากินของว่างอีกแล้วพอม้วนก็สูง
00:06:23 → 00:06:25 ขึ้นดิยังไม่ทันลงมาเลยนะคะหลังจากนั้น
00:06:25 → 00:06:28 กินงวดที่แล้วสูงก็ไม่มีหลังจากนั้นอุ้ย
00:06:28 → 00:06:32 เดินไปเจอลูกชิ้นอีกค่ะหนูว่างกินอีกมื้อ
00:06:32 → 00:06:36 เย็นกินก่อนนอนมื้อดึกยังหยิบมากินอีกรวม
00:06:36 → 00:06:39 แล้วกี่มื้อนะคะ 6 มื้อ 56 มื้อแบบนี้
00:06:39 → 00:06:42 ร่างกายเราไม่ได้พักสักข้อมูลอินซูลินเลย
00:06:42 → 00:06:46 ค่ะภาวะที่จะเกิดตามมานะคะคือภาวะดื้อ
00:06:46 → 00:06:49 อินซูลินนั่นเองค่ะซึ่งภาวะนี้เป็นภาวะ
00:06:49 → 00:06:53 ที่ร้ายกาจมากๆสำหรับคนอ้วนนะคะเพราะอะไร
00:06:53 → 00:06:56 เพราะเท่ากับว่าร่างกายเราจะต้องอาศัย
00:06:56 → 00:07:00 อินซูลินมากขึ้นในการเอาน้ำตาในแต่ของเรา
00:07:00 → 00:07:03 ไปเก็บไว้ในเซลล์ต่างๆของร่างกายเมื่อเรา
00:07:03 → 00:07:06 ต้องการอินซูลินมากขึ้นร่างกายแล้วก็จะ
00:07:06 → 00:07:08 จัดการกับค่าน้ำตาลในเลือดยากขึ้นนั่นเอง
00:07:08 → 00:07:12 ค่ะแต่สิ่งนี้นะคะมันมีประเด็นอยู่ที่ว่า
00:07:12 → 00:07:16 เซลล์อื่นจำเป็นต้องใช้อินซูลินในการเอา
00:07:16 → 00:07:19 น้ำตาลเข้าไปในเซลล์ด้านนั้นแต่ในเซลล์ไข
00:07:19 → 00:07:22 มันเข้าแทบไม่ต้องใช้อินซูลินเลยค่ะเมื่อ
00:07:22 → 00:07:25 เรามีถนนหลายๆสายนะคะถนนไปยังเซลล์กล้าม
00:07:25 → 00:07:30 เนื้อต้องใช้อินซูลินเยอะมากๆรถติดมากๆใน
00:07:30 → 00:07:34 ขณะที่ถนนไปเซลล์ไขมันหมดไม่ติดเลยไม่
00:07:34 → 00:07:37 ต้องใช้อินซูลินเลยแบบนี้ถ้าเป็นเราเราจะ
00:07:37 → 00:07:39 เลือกเลี้ยวไปทางไหนคะหมอก็เป็นคนนึงล่ะ
00:07:39 → 00:07:42 ค่ะที่จะเลือกแล้วไปทางที่รถไม่ติดวิ่ง
00:07:42 → 00:07:45 เข้าเซลล์ไขมันไปเลยค่ะดังนั้นร่างกายของ
00:07:45 → 00:07:47 เราก็จะจัดการกับน้ำตาลในเลือดโดยการ
00:07:47 → 00:07:50 เลี้ยวเข้าเซลล์ไขมันไปเก็บไว้ในเซลล์ไข
00:07:50 → 00:07:52 มันทันทีดังนั้นคนที่มีภาวะดื้อต่อ
00:07:52 → 00:07:55 อินซูลินซึ่งมีภาวะอ้วนง่ายกว่าคนอื่น
00:07:55 → 00:07:58 นั่นเองค่ะดังนั้นเนื้อหาสำคัญมากเลยนะคะ
00:07:58 → 00:08:02 ในการทำให้มีภาวะดื้ออินสุลินหรือไม่ดื้อ
00:08:02 → 00:08:05 อินสุลินและนำไปสู่ใครอ้วนง่ายกว่ากัน
00:08:05 → 00:08:07 นั่นเองค่ะ
00:08:07 → 00:08:10 ทีนี้ทุกคนก็รู้กันแล้วใช่ไหมคะว่าเรื่อง
00:08:10 → 00:08:13 ของอาหารกับฟ้าอ้วนไม่ใช่แค่เรื่องของ
00:08:13 → 00:08:16 ปริมาณอาหารเท่านั้นเรามาสรุปกันดีกว่า
00:08:16 → 00:08:18 ค่ะว่าประเด็นเกี่ยวกับมหาและความอ้วนมี
00:08:18 → 00:08:21 อะไรบ้างประเด็นแรกนะคะประเด็นยอดฮิต
00:08:21 → 00:08:24 ปริมาณอาหารนั่นเองค่ะซึ่งอาหารในแต่ละ
00:08:24 → 00:08:28 วันเราไม่ควรกินเกินจากค่าที่ดีหรือค่า
00:08:28 → 00:08:31 Total Daily Express Major นั่นเอง
00:08:31 → 00:08:34 ค่ะซึ่งแต่ละคนสามารถคิดคำนวณค่า tdee
00:08:34 → 00:08:38 ของตัวเองได้ตามสูตรที่หมอแนบมาให้หรือจะ
00:08:38 → 00:08:40 สามารถคิดตามเว็บไซต์ต่างๆที่มีอยู่มาก
00:08:40 → 00:08:43 มายเดี๋ยวหมอจะลองแนบลิงค์ตัวอย่างในคอม
00:08:43 → 00:08:45 เม้นให้นะคะว่ามีตัวอย่างเว็บอะไรให้
00:08:45 → 00:08:48 เพื่อนๆเข้าไปกดคิดกันได้บ้างต้องระวังนะ
00:08:48 → 00:08:52 คะเราไม่ควรกินอาหารเกินค่าทีดีไม่ใช่ค่า
00:08:52 → 00:08:55 bmr นะคะจุดนี้ผิดกันเยอะเลยประเด็นต่อ
00:08:55 → 00:08:59 ไปนะคะคือเรื่องของชนิดของอาหารที่กินตรง
00:08:59 → 00:09:01 นี้อาจจะต้องระวังเกี่ยวกับค่าดัชนีน้ำ
00:09:01 → 00:09:04 ตาลหรือค่าไปรษณีย์กินเด็กนั่นเองค่ะโดย
00:09:04 → 00:09:07 เราควรจะเลือกอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาล
00:09:07 → 00:09:09 หรือฆ่า Toy Siri กินเด็กที่ต่ำนั่นเอง
00:09:09 → 00:09:12 เพื่อไม่ให้น้ำตาลในเลือดของเราสูงขึ้น
00:09:12 → 00:09:15 เร็วจนเกินไปส่วนทำให้ฮอร์โมนอินซูลินตัว
00:09:15 → 00:09:18 ร้ายของเราหลังออกมานั่นเองค่ะประเด็นที่
00:09:18 → 00:09:20 สามนะคะคือเรื่องของความถี่ของเนื้ออาหาร
00:09:20 → 00:09:25 ค่ะเราควรจะทานอาหารเป็นมื้อควรจะเว้นจาก
00:09:25 → 00:09:27 การทานมื้อว่างเหลือการทานอาหารมื้อดึก
00:09:27 → 00:09:31 ซึ่งการทานอาหารหลายๆมื้อจะเป็นผลทำให้
00:09:31 → 00:09:34 เกิดการดื้ออินซูลินและเกิดภาวะอ้วนตามมา
00:09:34 → 00:09:37 นั่นเองและควรแบบนี้คือลงยากมากๆนั่นเอง
00:09:37 → 00:09:41 ค่ะทีนี้นะคะเราก็รู้กันแล้วว่าเราจะมี
00:09:41 → 00:09:44 วิธีการปรับตัวเองยังไงบ้างนะคะหมอมีคำ
00:09:44 → 00:09:47 แนะนำง่ายๆมาฝากค่ะอันดับแรกนะคะเลือก
00:09:47 → 00:09:50 ชนิดอาหารที่กินเน้นเรื่องของจอยสนิทเด็ก
00:09:50 → 00:09:54 ที่ต่ำปริมาณอาหารที่กินตัวอยากกินได้
00:09:54 → 00:09:57 เกินค่าทีดีอีนะคะรวมไปถึงความถี่ของ
00:09:57 → 00:10:00 เนื้อหานทานอาหารเป็นมื้ออย่าทานถ้าว่าง
00:10:00 → 00:10:03 เยอะเกินไปนะคะสุดท้ายนี้นะคะอย่าลืมกด
00:10:03 → 00:10:06 ไลค์กดแชร์กดติดตาม May I help you
00:10:06 → 00:10:09 Out ไว้แล้วเราจะได้มาเจอกันก่อนใครรู้
00:10:09 → 00:10:18 ก่อนสุขภาพดีก่อนแล้วพบกันนะคะอ่ะ
00:10:18 → 00:10:28 [เพลง]