00:00:00 → 00:00:14 [เพลง]
00:00:14 → 00:00:18 สวัสดีครับทุกคนครับสวัสดีวสวัสดีครับคุณ
00:00:18 → 00:00:21 หมอสวัสดีครับสสวัสดีครับคุณหมอครับ
00:00:21 → 00:00:23 สวัสดีครับสวัสดี
00:00:23 → 00:00:27 ครับวันเนี้ยมามาจะมาคุยแค่ทำความเข้าใจ
00:00:27 → 00:00:32 ในเรื่องในเรื่องอ่าไอ้ไอ้น้ำมันสกัดเย็น
00:00:32 → 00:00:37 ทออยที่ว่ามันเข้าทางระบบน้ำเหลืองแล้วก็
00:00:37 → 00:00:41 ครับอ่าแล้วก็มันไปยังไงอะไรอย่างนี้แหละ
00:00:41 → 00:00:45 ก็ก็แค่นั้นแหละว่ามันไปโดยวิธีการแพร่
00:00:45 → 00:00:49 เอ่ออย่างเงี้ยนะแต่ว่ามันก็เดี๋ยวๆถ้า
00:00:49 → 00:00:53 ฟังหรือว่าถ้าคุยแล้วก็ร่วมถามกันแล้ว
00:00:54 → 00:00:57 เนี่ยมันจะเข้าใจมันจะเข้าใจแล้วก็มันจะ
00:00:57 → 00:01:00 ตอบปัญญหา
00:01:00 → 00:01:03 หรือว่ามันทำให้คนที่เขาฟังแล้วก็จะได้
00:01:03 → 00:01:07 ไม่กลัวคือมันมีทศทางของมันที่จะไปรวม
00:01:07 → 00:01:11 ทั้งไปแล้วไปสร้างเรื่องสร้างาวที่ดีๆแต่
00:01:11 → 00:01:14 ต้องทำให้ถูกเ่านั้นแหละเออวันเนี้หลักๆ
00:01:14 → 00:01:18 ก็คือเอาเรื่องนี้เพราะว่าตอนนั้นเนี่ย
00:01:18 → 00:01:22 คุยเสร็จแล้วก็ไปไปสรุปออกมาแล้วก็ตอน
00:01:22 → 00:01:26 หลังๆก็แค่มาโพสต์โพสๆ
00:01:26 → 00:01:30 ไปก็ไม่น่าจะนานหรอกเนอะ
00:01:30 → 00:01:36 เราก็เริ่มเลยนะแต่ช่วงแรกก็จะพูดเกริ่น
00:01:36 → 00:01:41 นำหลายๆอย่างก่อนซึ่งมันจะเป็นเบสิคเบสิค
00:01:41 → 00:01:44 สำหรับคาร์โบไฮเดรตโปรตีนไขมันนะถ้าใครจะ
00:01:44 → 00:01:47 ถามอะไรแทรกถามเลยเพราะว่าพวกเมันเป็นหัว
00:01:47 → 00:01:52 ใจของ low C High Fat หมดเลยนะอ่าก็
00:01:52 → 00:01:58 อันนี้ไม่มีอะไรนะแล้วก็อ่า We is
00:01:58 → 00:02:03 Health อนะแล้วก็นิวตริเนี่ยมันเป็นพื้น
00:02:03 → 00:02:07 ฐานของการรักษาในทุกๆรูปแบบของทางการ
00:02:07 → 00:02:11 แพทย์อยู่แล้วนะแต่ใครจะให้ความสำคัญใน
00:02:11 → 00:02:13 ระดับไหนแค่ไหนก็แล้ว
00:02:13 → 00:02:17 แต่เนี่ยอันเนี้ยพื้นฐานที่สุดเลยนะฮะของ
00:02:17 → 00:02:19 วิชา low C High
00:02:19 → 00:02:24 Fat ก็คือความเข้าใจในเรื่องเอ่อในวิชา
00:02:24 → 00:02:27 เนี้ยข้าเอาโปรตีนขึ้นต้นน่ะเป็นโปรตีน
00:02:27 → 00:02:31 เป็นแฟตแล้วก็เป็นคาฟเขาไม่ได้เรียงเป็น
00:02:31 → 00:02:34 คาโปรตีนแฟตเเรียงเป็นโปรตีนแฟตแล้วก็คา
00:02:35 → 00:02:38 นะฮะอ่าหัวข้อคือความสมดุลทางด้าน
00:02:38 → 00:02:40 โภชนาการของกลุ่มอาหารหลักหรือแมคโคร
00:02:40 → 00:02:46 นิวเทรียนอ่าโปรตีนแฟตแล้วก็คาฟเนี่ยนะฮะ
00:02:46 → 00:02:50 นี้ 3 คำเนี้ยในภาษาอังกฤษเนี่ยมันจะเป็น
00:02:50 → 00:02:53 แบบนี้นะว่าตัวโปรตีนต้องมีลักษณะแบบนี้
00:02:53 → 00:02:55 เท่านั้น
00:02:55 → 00:03:00 เนี่ยแต่จะในรายละเอียดที่จะพูดถึงคำเ
00:03:00 → 00:03:03 เนี่ยนะก็ต้องจับใจความให้ให้เข้าใจเใช้
00:03:03 → 00:03:08 คำว่า adequate อ่า Balance โปรตีนโปรตีน
00:03:08 → 00:03:11 เนี่ย Balance โปรตีน Balance โปรตีนก็
00:03:11 → 00:03:14 คือต้องมีทั้งพืชทั้งสัตว์นะแต่จะสัดส่วน
00:03:15 → 00:03:18 เท่าไหร่เนี่ยมันก็แี่ไปในแต่ละบุคคลนะ
00:03:18 → 00:03:22 โปรตีนเนี่ยเอ่อก็มันก็จะอยู่ที่เรื่อง
00:03:22 → 00:03:25 เ่อเเอาคำว่า Balance ก่อนเดี๋ยวจะมีราย
00:03:25 → 00:03:28 ละเอียดนะทีนี้ Fat เนี่ยเขาใช้คำว่า
00:03:28 → 00:03:30 Healthy Good fat หรือ Good Healthy
00:03:30 → 00:03:34 Fat ก็ได้นะฮะก็คือต้องเป็นไขมันดีดี
00:03:34 → 00:03:39 เนี่ยมีคำจำกัดความต่อไปอีกนะแล้วก็ค
00:03:39 → 00:03:42 เนี่ยต้องเป็น Quality คือคุณภาพ good to
00:03:42 → 00:03:44 get Car นะ
00:03:44 → 00:03:48 ฮะแต่ทั้งหมดเนี่ยทั้งหมดเยมันไม่ใช่กฎ
00:03:48 → 00:03:52 ตายตัวนะไม่ใช่กฎตายตัวที่ดีที่สุดสำหรับ
00:03:52 → 00:03:57 ทุกๆคนนะแต่ว่ามันจะต้องนำไปปรับใช้อย่าง
00:03:57 → 00:04:02 มีความรู้หรือมีมีเข้าใจถึงรายละเอียดนะ
00:04:02 → 00:04:07 เข้าใจเข้าถึงน่ะนะฮะนะแล้วเอาไปทำฮะทออำ
00:04:07 → 00:04:11 ทำนะในแต่ละบุคคลน่ะเพื่อค้นหาสูตรหรือ
00:04:11 → 00:04:13 ค้นหา
00:04:13 → 00:04:19 อ่าลักษณะเฉพาะของตัวแมคโครนิทน 3 อย่าง
00:04:19 → 00:04:22 นี้สำหรับคนๆนั้นนะฮะนี้ประเด็นที่จะมี
00:04:22 → 00:04:26 การให้ความสำคัญนะฮะอันแรกก็คือเรื่องของ
00:04:26 → 00:04:29 Balance โปรตีนเ Balance โปรตีนก็คือ
00:04:29 → 00:04:33 ต้องต้องเป็นโปรตีนจากสัตว์กับพืชในสัด
00:04:33 → 00:04:38 ส่วนทั่วๆไปนะก็คือ 703 นะก็คือ 1 ใน 3
00:04:38 → 00:04:41 กับ 2 ใน 3 สัตว์ต้องมากกว่าพืชนะฮะแล้ว
00:04:41 → 00:04:46 ก็อาจจะแี่แบบที่เราเคยรู้กันน่ะนะก็คือ
00:04:46 → 00:04:50 บางทีสัตว์เนี่ยก็ขึ้นไปได้สูงๆเลยอนะนะ
00:04:50 → 00:04:55 แทบจะไม่ต้องมีพืชหรือมีพืชไม่ถึง 10% ก็
00:04:55 → 00:04:59 มีนะแต่บางครั้งเนี่ยพืชก็ต้องเยอะนะนะ
00:04:59 → 00:05:03 โดยอาจจะ 50 50 1 ต่อ 1 แต่จะไม่มีการ
00:05:03 → 00:05:07 ที่จะต้องรับโปรตีนจากพืชมากกว่าโปรตีน
00:05:07 → 00:05:11 สัตว์เด็ดขาดนะอันนี้ในกรณี optimal
00:05:11 → 00:05:14 Health นะแล้วก็ 2 คำเลยนะสำหรับคำว่า
00:05:14 → 00:05:16 Balance โปรตีนเนี่ยคือคุณภาพของตัว
00:05:17 → 00:05:22 โปรตีนกับความเพียงพอนะเ่อคุณภาพนะหรือ
00:05:22 → 00:05:26 Quality นะของตัวโปรตีนเนี่ยนะก็คือต้อง
00:05:26 → 00:05:28 เป็นโปรตีนพืชโปรตีนสัตว์คือต้องมีทั้ง
00:05:28 → 00:05:32 โปรตีนสมสมบูรณ์และไม่สมบูรณ์แต่โปรตีน
00:05:32 → 00:05:36 สมบูรณ์เนี่ยก็จะต้องมากกว่านะแล้วก็ 3
00:05:36 → 00:05:39 แมคโครนิวเทรียนเนี่ยมันจะเป็นไปตามกฎ 802
00:05:39 → 00:05:44 ด้วยนะฮะเนี่ยก็คือก็คือส่วนใหญ่โปรตีน
00:05:44 → 00:05:49 จากสัตว์เนี่ย 80 จากพืชก็ประมาณตัวเลข 20
00:05:49 → 00:05:54 นะแล้วก็เพียงพอเพียงพอคือปริมาณเนี่ย
00:05:55 → 00:06:00 ต้องถึงห้ามขาดเกินได้นิดหน่อย
00:06:00 → 00:06:05 นะเกินมากๆไม่ได้นะเพียงพอดีที่สุดแต่ขาด
00:06:05 → 00:06:09 อันนี้ไม่ได้เอาตายเลยนะฮะขาดไม่ได้มีแค่
00:06:09 → 00:06:13 นั้นเนี่ยๆคือคำของเานะในแง่ของโปรตีนนะ
00:06:13 → 00:06:16 อันนี้พื้นฐานที่สุดนะทนี้ Healthy Good
00:06:16 → 00:06:21 Fat นะ Healthy Good Fat ก็คือชนิดของ
00:06:21 → 00:06:25 Fat นะชนิดของ Fat นะชนิดหรือประเภทนะฮะ
00:06:25 → 00:06:29 นะแต่เขามาโฟกัสที่เรื่องสัดส่วนสัดส่วน
00:06:29 → 00:06:34 นะตามสูตรพื้นฐานของแฟตที่อยู่ในเซลล์ของ
00:06:34 → 00:06:38 ร่างกายโดยเฉพาะเซลล์เมนหรือมเซลล์นะนะก็
00:06:38 → 00:06:44 คือมีกรดไขมันที่เป็นอ่าอิ่มตัวอ่าแล้วก็
00:06:44 → 00:06:46 ไม่ตัวเชิงเดียวไม่ตัวเชิงซ้อนในอัตรา
00:06:47 → 00:06:51 ส่วนก็ประมาณนี้นะฮะ 30 50 20 นะตาม
00:06:51 → 00:06:55 สูตรของดรเจฟนะฮะเ่อที่ได้รับรางวัลโนเบล
00:06:55 → 00:07:00 นะอันเนี้ยก็เรื่องของ Fat อยู่ที่สัด
00:07:00 → 00:07:03 ส่วนนะลองลงมาก็เป็นชนิดและประเภทนะราย
00:07:03 → 00:07:07 ละเอียดต่างๆเราก็พอรู้กันไปเยอะแล้วเนาะ
00:07:07 → 00:07:12 ทีนี้ Car นะฮะนะคฟเนี่ย Quality good
00:07:12 → 00:07:16 to get cf นะฮะนะมันก็เป็นลักษณะชนิด
00:07:16 → 00:07:19 หรือประเภทของกันนั่นแหละนะฮะแต่เขาเอา
00:07:19 → 00:07:23 เป็นเอาตายในเรื่องปริมาณนะฮะปริมาณฮะ
00:07:23 → 00:07:27 เนี่ยนะอเพราะฉะนั้นาฟเนี่ยต้องจำกัดควบ
00:07:27 → 00:07:29 คุมปริมาณนะ
00:07:29 → 00:07:33 แล้วทั้งหมดเนี่ยทั้งโปรตีนแฟตแล้วก็คาฟ
00:07:33 → 00:07:36 เนี่ยเราใช้คำว่า
00:07:36 → 00:07:40 อ่าเราใช้คำว่าสุทธิสารอาหารสุทธินะก็คือ
00:07:40 → 00:07:45 เน็ตอเน็ตโปรตีนเน็ตแฟตเน็ตาฟนะโดยเฉพะ
00:07:45 → 00:07:49 เน็ตาฟเนี่ยนะในกรณีที่าฟเราให้ความสำคัญ
00:07:49 → 00:07:54 กับปริมาณนะปริมาณเนี่ยนะเพราะฉะนั้นเน็ต
00:07:54 → 00:07:56 าฟมันก็เลยมีตัวเลขของมันเนี่ยที่เรารู้
00:07:56 → 00:08:02 กันว่าน้อยที่สุดก็ย 10 นะถึง 25 เอ่อ
00:08:02 → 00:08:07 กรัมต่อวันนะกลางๆทั่วๆไปขนาดมาตรฐาน
00:08:07 → 00:08:09 เนี่ยก็คือประมาณ 50-60
00:08:09 → 00:08:13 แล้วในระดับที่เยอะหน่อยก็ 80 - 100 ก็
00:08:13 → 00:08:16 แล้วแต่คนตัวใหญ่ตัวเล็กเลยด้วยนะอันนี้
00:08:17 → 00:08:20 ก็คือเนี่ยสารอาหารสุทธิแต่ละอย่างนะที่
00:08:20 → 00:08:27 เป็นเน็ตเนๆนะฮะเพราะฉะนั้นโปรตีนแฟตคาฟ
00:08:27 → 00:08:30 นะฮะจะต้องมีรายละเอียดที่เป็นไส้ในแบบ
00:08:30 → 00:08:36 ที่หมอว่าเนี่ยนะเออแล้วทั้งหมดนี้นะให้
00:08:36 → 00:08:42 เอามาทำให้เอามาทำนะนะคือปกติอ่ะคนเรามัน
00:08:42 → 00:08:46 ก็ต้องมีเรื่องการเรียนรู้แล้วก็ต้องลง
00:08:46 → 00:08:51 มือทำแล้วถึงจะมาประเมินผลนะหรือดูผล
00:08:51 → 00:08:55 ลัพธ์นะเรียนเนี่ยสำคัญที่สุดนะฮะเรียนจะ
00:08:55 → 00:08:59 เรียนยังไงก็ได้จะอ่านจะฟังจะดูจะเ่อ
00:08:59 → 00:09:04 ศึกษาให้มันให้มันได้มีความรู้นะฮะนะนะ
00:09:04 → 00:09:08 แต่แต่รู้เนี่ยคำว่ารู้นะฮะเรียนรู้ใช่
00:09:08 → 00:09:12 มั้นะแต่เรียนแล้วบางทีก็รู้บ้างไม่รู้
00:09:12 → 00:09:15 บ้างรู้ครึ่งๆกลางๆหรือรู้มากรู้น้อยอัน
00:09:15 → 00:09:18 นี้ก็เรื่องรู้เป็นเรื่องที่จะเป็นผล
00:09:18 → 00:09:22 ลัพธ์หลังสุดนะฮะนะแต่ในขณะเรียนไปแล้ว
00:09:22 → 00:09:26 เนี่ยนะเมื่อได้ถึงเวลาหรือถึงจุดแล้ว
00:09:26 → 00:09:29 ต้องทำนะฮะต้องทำในเรื่องวิชาโพชนาการ
00:09:29 → 00:09:33 หรืออาหารเนี่ยทำก็คือคือต้องกินนะกินใน
00:09:33 → 00:09:36 แนวทางที่เราได้เรียนไปนะฮะแล้วหลังจาก
00:09:36 → 00:09:41 นั้นเนี่ยถึงจะอ่ามีผลออกมานะให้เราบวกลบ
00:09:41 → 00:09:48 คูณหารหรือให้เราอ่าสังคยนานะว่าสรุปว่า
00:09:48 → 00:09:51 อย่างไรมันจะดีที่สุดสำหรับเรานะในกรณี
00:09:51 → 00:09:54 ที่มีความต้องการในเรื่อง optimal Health
00:09:54 → 00:09:58 นะฮะเราก็ใช้อย่างเงี้ยนะฮะนะคือเรียนรู้
00:09:58 → 00:10:01 ก็จริงแต่ว่าไม่จำเป็นเรื่องความรู้
00:10:01 → 00:10:04 เรื่องเรื่องรู้เนี่ยรู้ขึ้นมาเนี่ยนะรู้
00:10:04 → 00:10:08 จนชำนาญเชี่ยวชาญนะหรือรู้แค่เอาตัวรอด
00:10:08 → 00:10:12 ได้แก้ปัญหาได้เนี่ยนะให้มันอยู่หลังสุด
00:10:12 → 00:10:15 นะไม่ต้องรีบร้อนในช่วงแรกๆ
00:10:15 → 00:10:19 แต่เรื่องของเรียนแล้วไปถึงระยะนึงซึ่งก็
00:10:19 → 00:10:22 ต้องไม่นานนักนะก็ทำ
00:10:22 → 00:10:26 ไปทีนี้อ่าในวิชาคราฟเนี่ยเราเน้นที่
00:10:26 → 00:10:30 ปริมาณของคาฟนะเพะเพราะว่าคาฟจะไปกระตุ้น
00:10:30 → 00:10:33 ฮอร์โมนอินซูลินซึ่งเป็นฮอร์โมนตัวพ่อใช่
00:10:33 → 00:10:37 มนะทีนี้ในปริมาณของคาฟเนี่ยมันก็จะมีตัว
00:10:38 → 00:10:41 ดัชนีที่เขาเอามาใช้ในการจับนะฮะเนี่ยก็
00:10:42 → 00:10:45 มีอินซูลิน index นะแล้วก็มีไมิ index
00:10:45 → 00:10:50 gic โลดนะก็สิ่งเหล่านี้มาตามยุคสมัยและ
00:10:50 → 00:10:54 กาลเวลาแรกๆเขใช้ gic โดก่อนต่อมามันก็มี
00:10:54 → 00:10:58 เนี่ย gic index นะ gic index นี่ส่วน
00:10:58 → 00:11:01 ใหญ่ก็คือคต้องถูกย่อยแล้วนะแล้วก็ดูดซึม
00:11:01 → 00:11:06 ออ่าเร็วช้าอะไรก็แล้วแต่นะฮะนะไมิโหลด
00:11:06 → 00:11:10 เนี่ยมันส่วนใหญ่มันก็เป็นเป็นาฟหยาบๆนะ
00:11:10 → 00:11:15 ฮะนะที่ที่รับเข้าไปนะอ่าในปริมาณที่เ
00:11:15 → 00:11:19 เรียก serving S นะนะส่วน insulin index
00:11:19 → 00:11:23 เนี่ยก็คือมันเป็นระดับนะของตัวอ่า Food
00:11:23 → 00:11:26 portion หรือตัวอาหารเลยนะที่จะไป
00:11:26 → 00:11:30 กระตุ้นฮอร์โมนตัวเนี้ยนะเพรานั้นความน่า
00:11:30 → 00:11:34 เชื่อถือต่างๆนะในเรื่องที่บอกว่าอาหารนะ
00:11:34 → 00:11:37 เป็นตัวกระตุ้นฮอร์โมนแล้วฮอร์โมนที่ว่า
00:11:37 → 00:11:39 การสำคัญที่สุดเกี่ยวกับเรื่องอาหารก็คือ
00:11:39 → 00:11:41 ตัวพ่ออินซูลินนะเพราะฉะนั้นการวัด
00:11:41 → 00:11:45 อินซูลิน index จึงเป็นสิ่งที่หรือเป็น
00:11:45 → 00:11:50 มาเกอร์นะที่ดีที่สุดกว่าไมิลด gic index
00:11:50 → 00:11:54 นะเนี่ยนะในปัจจุบันเขาก็เลยใช้ค่านี้กัน
00:11:54 → 00:11:57 มาเป็นหลักนะฮะแต่หลายคนก็ยังไม่ถึงไม่
00:11:57 → 00:12:02 เข้าถึงไม่รู้อก็ผ่านๆรู้ๆอย่างเงี้ยนะมี
00:12:02 → 00:12:07 ที่มาที่ไปนะฮะแล้วในวิชาโลคราฟเนี่ยนะฮะ
00:12:07 → 00:12:14 นะมีข้อ 3 ข้อหลักๆนะฮะนะที่จะใช้ในการดู
00:12:14 → 00:12:18 ว่าอาหารก้อนนั้นเนี่ยนะฮะที่จะเข้าสู่
00:12:18 → 00:12:21 ร่างกายเราเนี่ยนะเอ่อมันเป็นยังไงมัน
00:12:21 → 00:12:23 เหมาะมนะฮะ
00:12:23 → 00:12:27 เอ่อมีเน็ตคาฟเท่าไหร่อันนี้สำคัญที่สุด
00:12:27 → 00:12:29 เพราะว่าคาฟเราเน้นที่ปริมาณใช่มั้ยเพราะ
00:12:29 → 00:12:32 ฉะนั้นเราก็ต้องรู้อ่าสารอาหารสุทธิในแง่
00:12:32 → 00:12:35 ของความเป็นคาร์โบไฮเดรตนะฮะก็คือเต C นะ
00:12:36 → 00:12:40 แล้วก็เต C จะเป็นตัวควบคุมหรือเป็นตัว
00:12:40 → 00:12:41 ที่
00:12:41 → 00:12:46 อ่าเรากำหนดน่ะว่าของเราในแง่ของตัวเรา
00:12:46 → 00:12:49 เนี่ยนะควรรับเน็ตาฟได้ไม่เกินวันละเท่า
00:12:49 → 00:12:52 ไหร่นะก็ขึ้นอยู่กับพื้นฐานด้านสุขภาพนะ
00:12:52 → 00:12:55 หรือ metabolic สตัสนะฮะต่อมาเราดูใน
00:12:55 → 00:12:59 เรื่องสารอาหารนะฮะนะสารอาหารเนี่ยสาร
00:12:59 → 00:13:03 อาหารต่างๆนะทั้งความเนี่ยก็คือ Energy
00:13:03 → 00:13:07 Balance นะฮะนะทั้งโปรตีนทั้งแฟตทั้งคาฟ
00:13:07 → 00:13:12 นะฮะอ่าเพียงพอไหมสัดส่วนเป็นยังไงนะแล้ว
00:13:12 → 00:13:16 ก็มีการเเรียก circulate มีการอ่ออะไร
00:13:16 → 00:13:20 หมุนเวียนเ่าปรับเปลี่ยนไปไปด้วยนะฮะนะ
00:13:20 → 00:13:25 ไม่ได้กินซ้ำๆนะแล้วสุดท้ายก็คือการกิน
00:13:25 → 00:13:28 แล้วจะเกิดประโยชน์กินเพื่ออะไรกินทำไม
00:13:28 → 00:13:30 เนี่ยนะฮะ
00:13:30 → 00:13:35 ซึ่งเจะมีข้อสรุปเป็นแบบที่เราเคยผ่าน
00:13:35 → 00:13:38 ผ่านตาอยู่บ่อยๆกินอะไรกินเท่าไหร่กินยัง
00:13:39 → 00:13:41 ไงกินเมื่อไหร่แล้วกินทำไมเี่เป็นอย่าง
00:13:41 → 00:13:43 นี้
00:13:43 → 00:13:49 นะอันนี้หมอก็เอามาสรุปให้นะฮะนะอันนี้
00:13:49 → 00:13:52 เป็นหัวใจเลยนะของแมคโครนิวเทรียน 3 ตัว
00:13:52 → 00:14:00 โปรตีนแฟตอ่าคาร์โบไฮเดรตนะฮะ
00:14:00 → 00:14:06 ก็ดูความสำคัญแล้วก็ดูเอ่อผลต่อร่างกาย
00:14:06 → 00:14:09 ต่างๆที่เกิดขึ้นนะฮะนะก็มีข้อเปรียบ
00:14:09 → 00:14:11 เทียบนี่แหละนะ
00:14:11 → 00:14:15 abate ก็เป็น source ของ Energy นะฮะนะ
00:14:15 → 00:14:17 อย่างโปรตีนเนี่ยเ่อสิ่งที่เป็นซอส
00:14:17 → 00:14:20 เอนเนอร์ยีในโปรตีนก็คือน้ำตาลแล้วก็
00:14:20 → 00:14:24 อะมิโนกดอะมิโนเนี่ยก็คือโปรตีนที่ล้น
00:14:24 → 00:14:27 เกินมันก็เปลี่ยนเป็นเป็นกลูโคสใช่มั้ย
00:14:27 → 00:14:31 ล่ะแต่นี้แของแฟตเนี่ยนะซอสในแง่ของการ
00:14:31 → 00:14:35 เป็นพลังงานก็มีทั้งกลูโคสนะฮะจากอะไรอ่ะ
00:14:35 → 00:14:40 จากกีอนะฮะที่ถูกเปลี่ยนนะฮะอ่าเวลาไตกิล
00:14:40 → 00:14:41 มันสลาย
00:14:41 → 00:14:45 อ่าหัวของมันเนี่ยก็คือกีอก็ถูกเปลี่ยน
00:14:45 → 00:14:49 เป็นกลูโคสนะฮะอ่าแล้วก็ตัวี fatty Acid
00:14:49 → 00:14:53 ก็อาจจะเป็นแค่ี fatty Acid แล้วเปลี่ยน
00:14:53 → 00:14:56 เป็นอิ co a ให้พลังงานไปหรือเปลี่ยนได้
00:14:56 → 00:14:59 ถึงขั้นเป็นคีโตนนะฮะอันนี้ก็คือสุด
00:14:59 → 00:15:02 ปรารถนาของเรานะนะแต่อย่างอื่นๆก็ไม่มี
00:15:02 → 00:15:06 สิทธิ์ที่จะไปถึงคีโตนเลยนะฮะโปรตีนนี่
00:15:06 → 00:15:09 มันเป็นคีโตนเมันก็เป็นแอลฟ่าคีโตนน่ะ
00:15:09 → 00:15:12 ร่างกายมักเอาไปใช้ไม่ได้นะฮะนะแล้วมัน
00:15:12 → 00:15:14 ถูกเปลี่ยนกลับไปเป็นไตกีสไลถ้ามันเยอะนะ
00:15:14 → 00:15:18 ฮะนะทนี้อย่างอื่นๆเนี่ยในแง่ของโปรตีน
00:15:18 → 00:15:20 กับแฟตเนี่ยมันก็มีคุณสมบัติอีกเยอะแยะไป
00:15:20 → 00:15:26 หมดเลยนะฮะนะก็ตามเนี้ยนะฮะแต่ในแง่ของ
00:15:26 → 00:15:29 คาร์โบไฮเดรตนะก็จะไม่มี
00:15:29 → 00:15:33 นะมีหลักๆของคือแค่เป็นพลังงานนะฮะเป็น
00:15:33 → 00:15:36 พลังงานแล้วก็ source of Energy อันนี้
00:15:36 → 00:15:40 เนี่ยที่สำคัญก็คือร่างกายต้องการใช้เป็น
00:15:40 → 00:15:45 ไกลโคเจนโดยเฉพาะไกลโคเจนที่ตนะแล้วก็
00:15:45 → 00:15:47 เป็นบางส่วนที่จะกลายเป็นไกลโคเจนที่
00:15:48 → 00:15:55 กล้ามเนื้อนะนะเนี่ยก็ก็มีมีส่วนอยู่แค่
00:15:55 → 00:15:58 นั้นน่ะนะฮะนะส่วนในแง่ของความเป็นสาร
00:15:58 → 00:16:01 อาหารของคฟหรือคาร์โบไฮเดรตเนี่ยเราก็
00:16:01 → 00:16:04 ต้องการเป็น minor นะไม่ได้เป็นอ่าเป็น
00:16:04 → 00:16:08 อ่าไมโครนินนะฮะนะก็ไม่ได้เป็นแมคโครนิน
00:16:08 → 00:16:12 คือในแง่ของเนี่ยอ่าเรื่องแมคโครนินเนี่ย
00:16:12 → 00:16:15 นะคฟมันเป็นแค่ source of Energy ที่
00:16:15 → 00:16:19 เป็นกลูโคสเท่านั้นนะฮะนะอย่างฟุสกคสอ่า
00:16:19 → 00:16:24 หรือหรือตัวอื่นๆน่ะมสอะไรเงี้ยมันมัน
00:16:24 → 00:16:27 เป็นไม่ได้แลคอะไรเงี้ยเป็นไม่ได้นะฮะนะ
00:16:27 → 00:16:29 มันก็ต้องถูกเปลี่ยนแปลง
00:16:29 → 00:16:32 นะมาถึงขั้นที่จะเป็นกลูโคสแต่ถ้าไม่
00:16:32 → 00:16:36 สามารถเป็นกลูโคสได้มันเป็นตัวอื่นๆน่ะก็
00:16:36 → 00:16:39 เป็นภาระหน้าที่ของสัตว์ที่จะต้องมีการ
00:16:39 → 00:16:42 จัดการนะฮะเพราะสิ่งเหล่านี้เนี่ยไม่ได้
00:16:42 → 00:16:43 เป็นประโยชน์อะไรต่อร่าง
00:16:43 → 00:16:48 กายแต่ในงทั้โปรตีนกับแฟตเนี่ยนะฮะหลักๆ
00:16:48 → 00:16:52 ก็คือการที่เขาเป็นสารอาหารนะที่จะเป็น
00:16:52 → 00:16:55 โครงสร้างหลักของร่างกายโดยโปรตีนเนี่ย
00:16:55 → 00:16:59 ไม่ได้มีหน้าที่อะไรเลยที่จะเป็นพลังงาน
00:16:59 → 00:17:05 นะแบบแบบแบบคาร์โบไฮเดรตนะหรือไขมันนะฮะ
00:17:05 → 00:17:09 เนี่ยยกเว้นในยามวิกฤตนะส่วนไขมันเนี่ยก็
00:17:09 → 00:17:13 2 หน้าที่นะครึ่งนึงเป็นเกี่ยวกับโครง
00:17:13 → 00:17:16 ร่างต่างๆนะฮะนะอย่างเป็นฮอร์มงฮอร์โมน
00:17:16 → 00:17:19 อะไรเงี้ยเราถือว่าเป็นโครงร่างร่างกายนะ
00:17:19 → 00:17:22 นะแต่อีกครึ่งนึงเขาจะเป็นอ่าเป็น
00:17:22 → 00:17:26 เอนเนอร์ยีหรือเป็นพลังงานนะอันนี้ก็จะ
00:17:26 → 00:17:29 เป็นข้อสรุปนะฮะที่ทำออกมาเป็นตารางแยก
00:17:29 → 00:17:31 แยะให้
00:17:31 → 00:17:36 ดูทีนี้ในในในหลักการเนี่ยของอาหารเนี่ย
00:17:36 → 00:17:40 ถ้ามันถูกต้องนะแบบที่เราอารัมภบทมาตั้ง
00:17:40 → 00:17:44 แต่หน้าแรกเนี่ยนะฮะนะให้ดูหลักๆ 3
00:17:44 → 00:17:47 เรื่องเนี้ยนะฮะซึ่งจะเป็นตัววัดหรือเป็น
00:17:47 → 00:17:53 ตัวถือว่านะว่าตัวไดเอตนะแล้วก็อ่าสิ่ง
00:17:53 → 00:17:55 สนับสนุนไดเอตไม่ว่าจะเป็น If หรือการออก
00:17:55 → 00:17:58 แรงออกกำลังเนี่ยแต่ส่วนใหญ่ไดเอตมันก็
00:17:58 → 00:18:01 คู่ไปกับการการออกกำลังกายเนี่ยนะนะกิน
00:18:01 → 00:18:04 แล้วก็ใช้นะฮะนะเรื่อง If เนี่ยมันมาที
00:18:04 → 00:18:08 หลังนะฮะนะทีนี้เหมาะมั้นะฮะนะในเรื่อง
00:18:08 → 00:18:11 ของอ่าอาหารหลักๆโดยเฉพาะแมคโครนิวเทรียน
00:18:12 → 00:18:15 ต่างๆนะที่เรากินเนี่ยนะฮะเราก็ดูว่าเอ่อ
00:18:16 → 00:18:20 หิวไม่หิวหิวไม่บ่อยนะฮะหรือหิวเป็นเวลา
00:18:20 → 00:18:24 นะอ่าก็เพราะว่ามีเรื่องของเลปตินนะฮะมา
00:18:24 → 00:18:29 เป็นตัวอ่ากระตุ้นและมีภาวะคีโตซิสนะเกิด
00:18:29 → 00:18:33 ขึ้นนะจะเป็นแค่ Fat adapt หรือคีโ adap
00:18:33 → 00:18:36 ด้วยก็แล้วแต่นะฮะอันนี้ก็จะมีผลต่อความ
00:18:36 → 00:18:42 หิวความอิ่มนะฮะนะไขมันลดลงนะฮะไขมันลดลง
00:18:42 → 00:18:46 ก็คือการสะสมของไขมันน้อยที่สุดนะฮะนะ
00:18:46 → 00:18:50 เพราะว่าเอ่อถ้าร่างกายอยู่ในฝั่งหรือ
00:18:50 → 00:18:53 อยู่ในโมดของการเผาผลาญพลังงานได้นะตาม
00:18:53 → 00:18:56 เกณฑ์หรือตามองค์ความรู้อ่ะที่เราคุยกัน
00:18:56 → 00:19:01 มาตลอดนะฮะนะอันนี้ก็จะไม่เกิดการสะสมนะ
00:19:01 → 00:19:04 ฮะนะเอ่อแล้วก็ฮอร์โมนต่างๆก็เป็นฮอร์โมน
00:19:04 → 00:19:07 เผาผลาญพลังงานคือกลุ่มฮอร์โมนลูกเทพนะฮะ
00:19:07 → 00:19:10 นะส่วนฮอร์โมนตัวพ่อตัวแม่เนี่ยฝั่งสะสม
00:19:10 → 00:19:12 พลังงานเนี่ยอ่าอินซูลินคอร์ติซอล
00:19:12 → 00:19:16 เอสโตรเจนเนี่ยเขาก็จะออกมาในระดับเซอ
00:19:16 → 00:19:21 Level นะฮะนะคือออกมาเท่าที่จำเป็นนะฮะ
00:19:21 → 00:19:23 ไม่ได้ออกมาเกินเลยหรือไม่ได้ออกมาแบบ
00:19:23 → 00:19:30 เอ่อดูดันก้าวร้าวหรือออกมาแบบไม่ไม่
00:19:30 → 00:19:34 ธรรมชาตินักนะเพราะฉะนั้นร่างกายมันอยู่
00:19:34 → 00:19:40 ในโหมดนะของอะไรของทั้งฮอร์โมนและทั้งไอ้
00:19:40 → 00:19:44 สมดุลโฮมสเตสิแนวเนี้ยนะฮะนะก็คือเป็น
00:19:44 → 00:19:47 ฝั่งของการเผาผลาญพลังงานเป็นส่วนใหญ่คือ
00:19:47 → 00:19:51 เเรียกว่าเผาผๆๆนะฮะช่วงการสะสมพลังงานก็
00:19:51 → 00:19:55 มีแค่จำกัดประมาณักไม่เกิน 4 ชั่วโมงหรือ
00:19:55 → 00:19:58 เรทที่สุดก็ไม่เกิน 6 ช่วโมงนะก็ประมาณ
00:19:58 → 00:20:01 นี้นะฮะนะเนี่ยเราก็จะอยู่ในโหมดของการ
00:20:01 → 00:20:05 เผาผลาญพลังงานนะเพราะงั้นไขมันนะไม่ว่า
00:20:05 → 00:20:09 จะกินเข้าไปหรือไขมันที่สะสมอยู่ก็จะลดลง
00:20:09 → 00:20:17 นะแล้วก็มาอยู่ในในเกณฑ์ของค่าค่าค่า
00:20:17 → 00:20:21 Normal Range ต่างๆนะฮะนะก็พวก body
00:20:21 → 00:20:25 fat visceral Fat นะรวมทั้งอันต่อมาก็
00:20:25 → 00:20:29 คือเรื่องของ Muscle mas เนี่ยนะนะ mus
00:20:29 → 00:20:32 mas เนี่ยคือในขณะที่ไมาลดเนี่ยแต่ mus
00:20:32 → 00:20:36 mas ควรจะเพิ่มนะฮะนะนะหรืออาจจะนิ่งแต่
00:20:36 → 00:20:42 ว่าเต้องค่อยๆขยับในระยะยาวๆนะฮะนะนะถ้า
00:20:42 → 00:20:46 มี 3 เรื่องเนี้ยนะมันก็จะถือว่า di อัน
00:20:46 → 00:20:48 นั้น Work out อันนั้นการทำ If หรือการ
00:20:48 → 00:20:51 มีไลฟ์สไตล์แบบเก้าอี้สีขาเช่นนั้นเนี่ย
00:20:51 → 00:20:57 นะมีมีมีคุณภาพหรือว่ามีมีความถูกต้อง
00:20:57 → 00:20:59 แล้วนะแล้วก็เหมาะเหมาะสมสำหรับคนๆนั้นนะ
00:21:00 → 00:21:02 ฮะนะเอ่อคือกล้ามเนื้อเพิ่มเพราะอะไร
00:21:02 → 00:21:05 เพราะว่าเนี่ยเเรียกว่า optimal Strength
00:21:05 → 00:21:09 Training นะฮะนะร่างกายมีความแข็งแรง
00:21:09 → 00:21:13 optimal recovery นะก็คือเนี่ยสามารถ
00:21:13 → 00:21:16 ที่จะฟื้นฟูร่างกายกลับคืนมาอยู่ในเกณฑ์
00:21:16 → 00:21:20 ปกติได้นะตามช่วงเวลานะมีภว่า insulin
00:21:20 → 00:21:22 sensitivity นะฮะซึ่งอันนี้ก็จะเป็น
00:21:22 → 00:21:25 ประโยชน์ในเรื่องที่จะเกิดการสร้างมวล
00:21:25 → 00:21:29 กล้ามเนื้อนะฮะเพราะว่าเขจะต้องไปเปลี่ยน
00:21:29 → 00:21:32 igf เอ่อไปเปลี่ยนโดฮอร์โมนเป็น IG F1
00:21:32 → 00:21:37 นะแล้วก็ทำงานร่วมกับตัว igf ไ้ gf1 จะ
00:21:37 → 00:21:40 เป็นตัวหลักในการสร้างนะฮะนะสร้างกล้าม
00:21:40 → 00:21:44 เนื้อนะแล้วก็สะสมไกลโคเจนนะฮะแต่
00:21:44 → 00:21:46 อินซูลินเนี่ยเหมือนเป็นตัวประเดิมนะฮะนั
00:21:47 → 00:21:50 แหละนะก็ต้องคู่กันไปโคกันไปนะถ้าเกิดไม่
00:21:50 → 00:21:53 มีอินซูลินมันก็มันก็ยากนะฮะถ้าอินซูลิน
00:21:53 → 00:21:56 มันเดี้ยงมันบอดหรือว่ามันเค้าเรียกว่า
00:21:56 → 00:21:59 มันมันมันฟังก์ชันมันถูกกดมัน Su อะไร
00:21:59 → 00:22:02 อย่างเงี้ยนะฮะอันนี้ก็ต้องไปปรับให้ขึ้น
00:22:02 → 00:22:05 มาที่ดีๆก่อนนะจากไดอนี่แหละเป็นหลักนะฮะ
00:22:05 → 00:22:08 นะหลังจากนั้นก็จะมีเรื่องของ Natural
00:22:09 → 00:22:12 anabolic Hormone นะฮะนะตกตัว a ไปนะฮะ
00:22:12 → 00:22:15 นะ anabolic Hormone อันนี้ก็คือสิ่งที่
00:22:15 → 00:22:21 ควรจะต้องดูนะฮะนะถ้าไดเอตโปรตีนอ่าแฟต
00:22:21 → 00:22:25 แล้วก็คาฟนะถูกต้องตามที่เล่ามาตั้งแต่
00:22:25 → 00:22:26 หน้า
00:22:26 → 00:22:29 แรกนี้อย่างอันเนี้ยเราก็พอรู้แล้วนะฮะนะ
00:22:29 → 00:22:33 ทางทฤษฎีด้านวิวัฒนาการเนี่ยนะว่า
00:22:33 → 00:22:37 อ่าในวิถีทางของวิวัฒนาการแล้วร่างกาย
00:22:37 → 00:22:40 มนุษย์มีนะแนวโน้มที่จะใช้พลังงานจาก
00:22:40 → 00:22:45 สัตว์น้อยนะฮะนะแต่จะใช้สารอาหารจากสัตว์
00:22:45 → 00:22:49 ให้มากที่สุดนะขณะเดียวกันจะมีแนวโน้มที่
00:22:49 → 00:22:53 จะใช้พลังงานจากไขมันพืชมากที่สุดนะแต่
00:22:53 → 00:22:56 สารอาหารที่ได้จากพืชเนี่ยมนุษย์ก็นำไป
00:22:56 → 00:22:59 ใช้อ่าไม่ได้เยอะนะฮะนะไม่ใช้เป็นตัว
00:22:59 → 00:23:03 ประกอบนะก็เป็นอ่าเป็นไมโครนิวเทรียนไปนะ
00:23:03 → 00:23:07 ฮะนะแต่ก็มีความจำเป็นน่ะเพราะว่ามนุษย์
00:23:07 → 00:23:10 เราสร้างไม่ได้นะเาสร้างมาจากพืชนะฮะนะ
00:23:10 → 00:23:16 อย่าตัวเลขมันก็จะ 80 20 นะฮะ 80 20 นะ
00:23:16 → 00:23:19 ก็คือในกรณีอย่างเป็นพลังงานเนี่ยควรจะ
00:23:19 → 00:23:23 ได้พลังงานจากพืชเป็นหลักัก 80 เปนะพลัง
00:23:23 → 00:23:26 งานจากสัตว์เนี่ยมันเต็มที่จริงๆเนี่ยนะ
00:23:26 → 00:23:30 มันก็พอนำมาใช้ได้ไม่เกิน 20% นะอย่างสาร
00:23:30 → 00:23:33 อาหารเนี่ยสารอาหารส่วนใหญ่มาจากสัตว์
00:23:33 → 00:23:37 เนี่ยก็ประมาณ 80% ขึ้นน่ะ 80% อันะฮะสาร
00:23:37 → 00:23:40 อาหารจากพืชที่เป็นอ่าไมโครนิวเทรียนไอ้
00:23:40 → 00:23:43 พวกอะไรอ่ะไฟเบอร์วิตามินแร่อธาตุเอนไซม์
00:23:43 → 00:23:46 สารศึกษาเคมีฮอร์โมนอะไรอย่าเงี้ยนะพวก
00:23:46 → 00:23:51 นี้ก็น้อยไม่เกิน 20% นะฮะนี่มันเป็นเป็น
00:23:51 → 00:23:55 เป็นตัวเลขด้วยอ่ะนะฮะนะแล้วก็เป็นเรื่อง
00:23:55 → 00:23:58 ของเหตุและผลนะจากแนวงทางทางด้าน
00:23:58 → 00:24:02 วิวัฒนาการของของมนุษย์เรานะซึ่งเราก็ถือ
00:24:02 → 00:24:04 ว่ามนุษย์เนี่ยก็เป็น
00:24:04 → 00:24:08 opportunistic นะอนอกินได้ทั้งพืชทั้ง
00:24:08 → 00:24:12 สัตว์ opportunistic ก็ขึ้นอยู่กับอ่า
00:24:12 → 00:24:15 ความแปรผันทางด้านสิ่งแวดล้อมนะว่าอยู่
00:24:15 → 00:24:19 ยังไงเอ่ออยู่หนาวอยู่ร้อนอยู่เย็นอยู่
00:24:19 → 00:24:23 เขตไหนอยู่อ่าแม่น้ำภูเขาที่สูงที่ต่ำ
00:24:23 → 00:24:26 อะไรต่างๆนะฮะซึ่งวิวัฒนการเนี่ยก็จะทำ
00:24:26 → 00:24:30 ให้เกิดการปรับตัวนะแล้วก็จะต้องกินหรือ
00:24:30 → 00:24:33 อยู่หรือเอาชีวิตรอดด้วย
00:24:33 → 00:24:38 อ่าด้วยแมคโครนิวเทรียนหลักๆนะทั้งโปรตีน
00:24:38 → 00:24:42 แฟตแล้วก็คาร์โบไฮเดรตนะจะพืชจะสัตว์อะไร
00:24:42 → 00:24:45 ยังไงก็เนี่ยมันก็ต้องเป็นไปตามหลักการ
00:24:45 → 00:24:51 พวกเนี้ยนะฮะนะก็แล้วแต่ว่าว่า
00:24:51 → 00:24:55 เอ่อได้แค่ไหนนะฮะนะเพราะว่าการมีชีวิต
00:24:56 → 00:25:00 รอดเนี่ยมันก็ยังมีหลายๆปัจจัยหลายๆแอรนะ
00:25:00 → 00:25:04 เนื่องจากเราแต่ก่อนเราไม่ได้เป็นเ่อสิ่ง
00:25:04 → 00:25:07 มีชีวิตที่ใหญ่ที่สุดแล้วก็ครองโลกครอง
00:25:07 → 00:25:11 ป่าครองเมืองอะไรได้นะมันยังมีสิ่งอื่นๆ
00:25:11 → 00:25:15 ที่ใหญ่โตกว่าเยอะแยะไปหมดนะจนกระทั่งทุก
00:25:15 → 00:25:18 อย่างอ่ะมันวิวัฒนาการแล้วก็เปลี่ยนสิ่ง
00:25:18 → 00:25:20 แวดล้อมเปลี่ยนอะไรอะไรไปะจนมาถึง
00:25:20 → 00:25:24 ปัจจุบันเนี้ยก็ยิ่งกลายเป็นกลายเป็นอะไร
00:25:24 → 00:25:29 ที่รู้ๆกันเนี่ยนะฮะนะเ้อ
00:25:29 → 00:25:32 นะก็อันนี้ก็ย้ำนั่นแหละนะฮะเราก็คงพอ
00:25:32 → 00:25:35 ทราบแล้วนะในแง่ของความเป็นแหล่งพลังงาน
00:25:35 → 00:25:39 ของพืชนะเนี่ยแหล่งพลังงานนี้ถ้าจะดีที่
00:25:39 → 00:25:44 สุดก็คือเรื่องของการเอาพืชนะฮะมาสกัด
00:25:44 → 00:25:49 เป็นน้ำมันแต่ต้องไม่อ่าเรียกว่าโสหรือ
00:25:49 → 00:25:52 ไม่เอ่อสกัดเย็นเนี่ยคำคำเนี้ยหมายถึงว่า
00:25:52 → 00:25:56 เเรียกว่าเป็นการแปรรูปทางกายภาพไม่ใช่
00:25:56 → 00:26:01 ทางเคมีไม่ใช่ยังโสหรือ Ultra โสนะที่จะ
00:26:01 → 00:26:06 มีเป็นพวกสารเคมีเป็นเอ่อระบบอุตสาหกรรม
00:26:06 → 00:26:09 อะไรต่างๆเหล่านั้นมันไม่ไม่ได้นะไม่ใช่
00:26:09 → 00:26:13 นะนะเนี่ยเราถือว่าเป็นเเรียกว่าเป็นหีบ
00:26:13 → 00:26:18 เย็นหรือเป็นการแปรรูปแบบแบบกายภาพนะฮะ
00:26:18 → 00:26:21 ที่ไม่ใช้ความร้อนไม่ใช้สารเคีไม่ใช้สาร
00:26:21 → 00:26:26 สกัดอะไรต่างๆนะอันนี้อันนี้ถึงจะถูกต้อง
00:26:26 → 00:26:29 นะฮะนะแล้วเนี่ยก็คือแหล่งพงานเนี่ยนะที่
00:26:29 → 00:26:34 คนเราร่างกายเราต้องการจริงๆนะเพราะว่า
00:26:34 → 00:26:38 เราจะไปกินแบบสัตว์ 4 กระเพาะเอ่อเคี้ยว
00:26:38 → 00:26:41 เอื้องกินทั้งวันอะไรต่างๆเหนั้นไม่ได้นะ
00:26:41 → 00:26:47 เราก็ต้องใช้เรื่องของอ่อเรื่องของตัวไอ้
00:26:47 → 00:26:50 อะไรอ่ะองค์ความรู้ต่างๆเนี่ยมาช่วยทำให้
00:26:50 → 00:26:55 มันสะดวกในการกินขึ้นมาในระดับนึงนะนะแม้
00:26:55 → 00:26:59 ว่าเจะเป็นการแปรรูปแต่ก็เป็นการแปรรูปใน
00:26:59 → 00:27:05 ขั้นที่ในขั้นที่ยังดีต่อร่างกายอยู่เนาะ
00:27:05 → 00:27:10 อ่าส่วนแหล่งของสารอาหารเนี่ยก็เอ่ออัน
00:27:10 → 00:27:13 นี้มันก็ไม่ไม่ได้เยอะตามที่บอกใช่มั้ย
00:27:13 → 00:27:18 ล่ะนะในแง่ของพืชนะแต่ถ้าสัตว์เนี่ยแหล่ง
00:27:18 → 00:27:22 สารอาหารนี่จะดีที่สุดนะนะเราก็จะกินหมด
00:27:22 → 00:27:26 เลยนะฮะ Note to TA นะฮะนะตั้งแต่ชั้น
00:27:26 → 00:27:30 นอกนะไปจนถึงอหล่ะโบนแมโร่หรือไขกระดูกนะ
00:27:30 → 00:27:33 ฮะเนี่ยมันต้องกินถึงขนาดนั้นไงั้นจะ
00:27:34 → 00:27:37 สังเกตเห็นว่าในวิชาโฟเนี่ยเขาก็เลยแนะนำ
00:27:37 → 00:27:40 ให้กินแบบเกเกินหมูเป็นตัวกินวัวเป็นท่อน
00:27:40 → 00:27:43 น่ะแล้วก็กระด่งกระดูกนะก็ยังเอาไปไปต้ม
00:27:43 → 00:27:48 ไปสกัดไปอะไรอีกอ่ะนะนะสุดๆเลยนะฮะนะคือ
00:27:48 → 00:27:55 ใช้ทุกทุกรูขุมขนนะฮะนะทุกองคคาพายกนะที่
00:27:55 → 00:27:57 เป็นองค์ประกอบเนี่ยนะเอามาทำประโยชน์ได้
00:27:57 → 00:28:00 หมดนะฮะเนี่ยอันนี้เราเหล่านี้เป็นแหล่ง
00:28:00 → 00:28:06 สารอาหารนั่นแหละนะฮะนะั้นในแง่ของ
00:28:06 → 00:28:10 เอ่อสัตว์เนี่ยที่เรากินสารอาหารก็คือ
00:28:10 → 00:28:14 โปรตีนนะแต่เขาจะมีไขมันปะปนมาด้วยก็แล้ว
00:28:14 → 00:28:16 แต่ว่าเป็นโปรตีนไขมันสูงไขมันปางกลางไข
00:28:16 → 00:28:21 มันต่ำๆมากหรือเป็นลีนโปรตีนนะฮะนะนะซึ่ง
00:28:21 → 00:28:23 อันเนี้ย
00:28:23 → 00:28:27 นะไขมันเหล่าเนี้ยนะฮะในแง่ที่จะส่วนใหญ่
00:28:27 → 00:28:30 ไขเหล่าเนี้เค้าเป็นสารอาหารนะฮะก็ไม่ได้
00:28:30 → 00:28:35 เป็นพลังงานนะแต่ว่าถ้าจำเป็นจริงๆหรือ
00:28:35 → 00:28:38 ว่าในเรื่องการกินเนี่ยแล้วเราไม่มีความ
00:28:38 → 00:28:41 เข้าใจไม่ได้รู้ละเอียดเนี่ยนะเค้าก็อาจ
00:28:42 → 00:28:45 จะแปลงตัวเค้าเป็นพลังงานได้แต่ก็จะอยู่
00:28:45 → 00:28:48 ในเกณฑ์ 802 ก็คือไม่เกิน 20% ก็เป็น
00:28:48 → 00:28:52 อย่างนั้นนะฮะนะถ้าจำเป็นน่ะนะถ้าไม่มี
00:28:52 → 00:28:57 แหล่งพลังงานอะไรเลยนะฮะนะเนี่ยนะแล้วก็
00:28:57 → 00:29:00 ้าหมดนี้นะนะเนี่ยทั้งหมดนี้ในกรณีของ
00:29:00 → 00:29:04 สัตว์เนี่ยเรานับทุกสิ่งทุกอย่างเหล่านี้
00:29:04 → 00:29:09 นะเป็นโปรตีนฮะเป็นโปรตีนนะยกเว้นแต่กรณี
00:29:10 → 00:29:14 ที่เราเอาเปลมันหรือตัวมันเนี่ยออกมานะ
00:29:14 → 00:29:19 เ่าอย่างงั้นก็เป็นไขมัน 100% นะฮะนะแต่
00:29:19 → 00:29:22 ถ้ายังมีติดโนนติดนี่มาอะไรต่างๆเราจะไม่
00:29:22 → 00:29:26 ถือว่าเป็นไขมันนะเราถือว่าเป็นโปรตีน
00:29:26 → 00:29:30 จริงๆไม่ใช่เราถือหรอกนะร่างกายโดยกาย
00:29:30 → 00:29:34 หยาบกายละเอียดเค้าจะมีการตอบสนองด้วย
00:29:34 → 00:29:39 ฮอร์โมนและระบบอัตโนมัตินะเป็นแบบอาหาร
00:29:39 → 00:29:42 ที่เรียกว่าโปรตีนนะฮะเพราะฉะนั้นในแง่
00:29:42 → 00:29:46 ของการกระตุ้นอินซูลินนะเอ่อคาฟอันดับ 1
00:29:46 → 00:29:50 โปรตีนนะอันดับ 2 นะฮะนะแต่ถ้าแฟตนี่แทบ
00:29:50 → 00:29:54 จะไม่กระตุ้นนะงั้นแบบเนี้ยเขาจะตอบสนอง
00:29:54 → 00:30:00 ในแบบของความเป็นโปรตีนนะ
00:30:00 → 00:30:04 แล้วก็หลักการเนี่ยนะโดยสรุปก็คือการ
00:30:04 → 00:30:06 Balance optimal Health ก็คือกินให้
00:30:06 → 00:30:11 ครบและพอดีตามสัดส่วนนะฮะเมื่อร่างกายได้
00:30:11 → 00:30:15 พลังงานสารอาหารเหมาะสมนะจะเกิดปฏิกิริยา
00:30:15 → 00:30:19 อ่าในฝั่งของการสลายเผาผลาญพลังงานโดย
00:30:19 → 00:30:24 ฮอร์โมนและระบบการทำงานอัตโนมัตินะนะแล้ว
00:30:24 → 00:30:27 ก็อวัยวะหลักที่จะเป็นตัวทำงานก็คือตับ
00:30:27 → 00:30:30 ร้องก็พวกตับอ่อนต่อมหมวกไตกล้ามเนื้อ
00:30:30 → 00:30:34 อะไรก็นะแต่ตับเนี่ยก็คือเอ่อ Center
00:30:34 → 00:30:37 หลักนะฮะนะที่จะจัดการกับเรื่องอาหารนะ
00:30:37 → 00:30:42 ที่เป็นแมคโครนิวเทรียนเหล่านี้นะนะผลที่
00:30:42 → 00:30:45 ตามมานี่นะทั้งพลังงานและสารอาหารเนี่ยจะ
00:30:45 → 00:30:49 ก่อให้เกิดนะประโยชน์ต่อร่างกายในเรื่อง
00:30:49 → 00:30:53 ของเนี่ยการได้ใช้พลังงานและการได้นำเอา
00:30:53 → 00:30:57 พลังงานและสารอาหารไปซ่อมแซมส่วนที่สึกลอ
00:30:57 → 00:31:00 เสียหายหรือมีการสร้างใหม่และไม่เกิดการ
00:31:01 → 00:31:04 ต้องเก็บสะสมให้เป็นภาระนะเจะเป็นอย่าง
00:31:04 → 00:31:08 เงี้ยนะอันนี้คือคือมันเค้าเรียก Balance
00:31:08 → 00:31:14 optimal Health นะฮะแต่ว่านะก็ตามที่
00:31:14 → 00:31:20 บอกนะฮะนะความไม่รู้นะความไม่เข้าใจนะฮะ
00:31:20 → 00:31:25 นะแล้วก็สิ่งที่เป็นความจริงหรือเหตุะผล
00:31:25 → 00:31:29 อะไรต่างๆที่มันมาเกิดในตอนตอนหลังๆเนี่ย
00:31:29 → 00:31:32 ก็ทำให้เราเนี่ยคิดว่านะฮะเมื่อเราคิด
00:31:32 → 00:31:34 ย้อนกลับไปแล้วเนี่ยนะกลายเป็นว่าเรา
00:31:35 → 00:31:37 เนี่ยพยายามเอาทั้งของดีของไม่ดีอะไรต่าง
00:31:37 → 00:31:42 ๆเข้าร่างนะฮะนะเ่อถูกผิดอะไรไม่รู้อ่ะก็
00:31:42 → 00:31:45 รู้ไปตามเท่าที่รู้ในขณะนั้นน่ะนะตอนหลัง
00:31:45 → 00:31:47 ๆมันรู้มากขึ้นมากขึ้นมากขึ้นก็แปลว่า
00:31:47 → 00:31:51 เนี่ยเราอ่ะไปเสียเวลากับสิ่งที่ไม่ถูก
00:31:51 → 00:31:57 ต้องนะฮะนะไม่จำเป็นไม่เหมาะสมนะนะมาก
00:31:57 → 00:32:01 กว่ากว่านะมากกว่าเวลาที่ร่างกายเนี่ยจะ
00:32:01 → 00:32:05 ไปจัดการกับสิ่งดีๆหรือสิ่งที่เหมาะสมนะ
00:32:05 → 00:32:10 ฮะเพราะฉะนั้นเนี่ยในการเรียนนะที่จะไปทำ
00:32:10 → 00:32:15 เพื่อให้เกิดความรู้นะนะอันเนี้ยนะก็คือ
00:32:15 → 00:32:18 พยายามเอาสิ่งดีๆสิ่งที่บอกสิ่งที่สรุป
00:32:18 → 00:32:22 แล้วสิ่งที่ถูกต้องเห่าเนี้ยนะไปลงมือทำ
00:32:22 → 00:32:24 เลยนะฮะนะไม่ต้องมานั่งเรียนอะไรมากมาย
00:32:24 → 00:32:30 อยู่นะแล้วค่อยมาีมารู้นะมารู้มาสรุปนะ
00:32:30 → 00:32:36 เออมาหาเหตุหาผลมาอธิบายทีหลังเออให้ให้
00:32:36 → 00:32:41 ให้ให้ให้ดำเนินไปตามคันลองแบบนี้นะฮะนะ
00:32:41 → 00:32:44 นะเพราะว่าไม่งั้นมันก็จะไปเสียเวลาน่ะนะ
00:32:44 → 00:32:46 ฮะอไปเสียเวลาทดสอบทดลองก็ไอ้เรื่องไม่
00:32:46 → 00:32:51 เป็นเรื่องไอ้เรื่องเอ่อขอไม่ดีก็ทำโน่น
00:32:51 → 00:32:54 ทำนี่อยู่แค่นั้นแหละนะไม่ดีก็ตัดไปเลยนะ
00:32:54 → 00:32:58 ฮะนะหาแต่ของดีๆสิ่งดีๆนะแล้วก็มาทำๆๆต่อ
00:32:58 → 00:33:04 ไปนะฮะนะร่างกายเจะไม่ไม่ไม่เสียเวลาอ่า
00:33:04 → 00:33:07 ไปวุ่นวายนะแล้วบางทีเขาก็จะหมดแรงไปกับ
00:33:07 → 00:33:10 ไอ้เรื่องไม่ดีอ่ะพอไปเจอของดีๆก็ทำอะไร
00:33:10 → 00:33:13 ต่อไม่ได้นะก็เอาทิ้งหมด
00:33:13 → 00:33:18 นทีนี้วันเนี้ยเราจะคุยกันถึงเรื่องแฟตนะ
00:33:18 → 00:33:21 ฮะถึงเรื่องแฟตนะโดยเฉพาะน้ำมันสกัดเย็น
00:33:21 → 00:33:25 ที่มีช่องทางเข้าอะไรต่างๆนะฮะคนนี้ตอน
00:33:25 → 00:33:30 นี้กำลังดังนะฮะกำลังดังมามามากนะเนี่ยนะ
00:33:30 → 00:33:35 อ่าหมอคนนี้นะฮะนะก็มีประสบการณ์น่าจะ
00:33:35 → 00:33:40 ประมาณสัก 10 13 ปีนะฮะเนี่ยอันนี้ก็
00:33:40 → 00:33:44 เป็นคำพูดของเขานะฮะว่านะสิ่งสำคัญสตป
00:33:44 → 00:33:47 สำคัญที่สุดนะในการที่จะ improve
00:33:47 → 00:33:50 metabolic Health อ่ะนะฮะนะก็คือการ
00:33:51 → 00:33:56 adap นะในการใช้ Flash นะฮะเพื่อเป็น
00:33:56 → 00:34:02 พลังงานลำดับแรกนะฮะนะแทนคาร์โบไฮเดรตนะ
00:34:02 → 00:34:05 นะและนะ
00:34:05 → 00:34:10 เอ่อและเป็นเป็นเป็นอะไรเป็นเป็นสิ่งนำเ
00:34:11 → 00:34:15 นะฮะนะของการที่ร่างกายเนี่ยนะจะใช้แฟต
00:34:15 → 00:34:19 เป็นพลังงานหลักนะนะ
00:34:19 → 00:34:26 เนี่ยก็อันเนี้ยนะให้ก็คือก็คือก็คือแบบ
00:34:26 → 00:34:29 ที่เราทำอยู่นี่แหละฮะนะก็คือโภชนาการ ow
00:34:29 → 00:34:32 C High GR Z Oil นี่แหละนะฮะนะอัน
00:34:32 → 00:34:35 นี้คือทางลัดที่สุดแล้วอ่ะนะฮะว่ามีน้ำมง
00:34:36 → 00:34:38 น้ำมันมีแหล่งพลังงานจากพวงจากพืชดีอย่าง
00:34:38 → 00:34:42 งั้นดีอย่างนี้แล้วนะฮะนะแล้วก็อ่าไม่ใช้
00:34:42 → 00:34:44 พลังงานจากสัตว์เพราะอะไรอะไรอย่างเงี้ย
00:34:44 → 00:34:48 นะฮะนะเนี่ยก็ให้เราดำเนินไปนะฮะเนี่ย
00:34:48 → 00:34:51 อันเนี้ยอันนี้มันก็ตรงกับจริตนะของทาง
00:34:51 → 00:34:55 กลุ่มเราเลยหมอก็เลยโค้ดออกมานะฮะนะอัน
00:34:55 → 00:34:59 นี้รู้สึกเมื่อวานนี้เองนะฮะนะอ่าใครล่ะ
00:34:59 → 00:35:07 เจดหมอ Gerard อีลี่นะฮะ
00:35:07 → 00:35:12 นะอย่างนึงเนี่ยเราก็รู้แล้วว่าเนี่ย
00:35:12 → 00:35:16 เรื่องของแฟชต่างๆนะฮะนะที่สะสมในร่างกาย
00:35:16 → 00:35:19 เนี่ยนะอันเนี้ยมันมาจาก
00:35:19 → 00:35:27 คาฟหรือน้ำตาลนะฮะนะนะ 90% นะฮะนะนะมันจะ
00:35:28 → 00:35:30 มาจากแฟตด้วยกันเองอะไรต่างๆที่บอกว่า
00:35:30 → 00:35:34 เข้าทางระบบน้ำเหลืองหรือแฟตที่เป็นอ่า
00:35:34 → 00:35:36 สายสั้นสายกลางแล้วเข้าทางระบบน้ำเลือด
00:35:36 → 00:35:40 อันนี้เกิดได้ยากมากนะฮะอ่าการเกิดสิ่ง
00:35:40 → 00:35:45 เหล่านี้ของร่างกายมันเป็นไปได้ยากนะส่วน
00:35:45 → 00:35:49 ใหญ่แล้ว Fat deposit ต่างๆของร่างกายนะ
00:35:49 → 00:35:52 ก็จะเกิดจากเรื่องของคาฟเป็นหลักเรื่อง
00:35:52 → 00:35:55 ของคาฟเป็น
00:35:55 → 00:36:00 หลักก็อันนี้ก็ก็เนี่ยนะปันเนี่ยอย่าง
00:36:00 → 00:36:03 กรณีที่เราตรวจเลือดแล้วมีไตกีสไลในเลือด
00:36:03 → 00:36:06 สูงนะฮะถ้าคนๆนั้นยังังไม่ใช้โภชนาการแบบ
00:36:07 → 00:36:10 โลคาฟนะอาจจะมีาวดอินซูลินมีไขมันพอกตับ
00:36:10 → 00:36:15 นะหรือเป็นคนทั่วๆไปอ่ะนะฮะนะอ่าแล้วมี
00:36:15 → 00:36:18 ไตกีสไลในเลือดสูงนะฮะอันนี้พบว่าแคลอรี่
00:36:18 → 00:36:22 ส่่วนเกินเนี่ยจะมาจากทั้งคาร์โบไฮเดรต
00:36:22 → 00:36:26 และไขมันส่วนเกินนะที่กินจากอาหารในชีวิต
00:36:26 → 00:36:29 ประจำวันเพราะมันก็คือภาวะ randle Cycle
00:36:29 → 00:36:34 นะฮะนะซึ่งไตกีสไลที่มาจาก randle Cycle
00:36:34 → 00:36:37 นะฮะก็คือไตรกลีเซอไรด์ที่ล้นมาจาก
00:36:37 → 00:36:39 คาร์โบไฮเดรตเยอะแล้วก็เปลี่ยนเป็น
00:36:39 → 00:36:44 ไตรกลีเซอไรด์และนะอินซูลินไปปิดสวิตช์
00:36:44 → 00:36:49 ของการนำเอาไขมันไตรกีซาไลน์ที่กินเข้าไป
00:36:49 → 00:36:51 จากอาหารไปใช้และไป
00:36:51 → 00:36:56 เก็บสมมุติว่าคนเนี้ยนะเอ่ออ้วนหรือผอมก็
00:36:56 → 00:37:00 ตามนะแต่ตัวกดแลแล้วเนี่ยไกินในเลือดสูง
00:37:00 → 00:37:03 นะฮะถ้าเป็นคนอ้วนก็แปลว่าแหล่งที่เก็บไข
00:37:03 → 00:37:07 มันต่างๆเขาหมดะหมดสต๊อกที่จะเก็บนะมันก็
00:37:07 → 00:37:10 เลยล้นลงมาในกระแสเลือดแต่ถ้าเป็นไอ้คน
00:37:10 → 00:37:15 ผอมเนี่ยนะฮะนะไอ้พวกเ่าการเก็บพลังงาน
00:37:15 → 00:37:20 ต่างๆทั้งในับคและในรออ่ะนะมันก็เต็มะนะ
00:37:20 → 00:37:23 เพราะฉะนั้นช่วงนี้นะมันก็จะสะท้อนออกมา
00:37:23 → 00:37:28 แบบเนี้ยนะฮะนะนะอ่าก็คือเป็นไซสไลนที่
00:37:28 → 00:37:32 อยู่ในเลือดนะนะเพราะว่าอินซูลินเค้าเค้า
00:37:32 → 00:37:34 เคเก็บไม่ได้อ่ะมันดื้ออินซูลินไปหมดแล้ว
00:37:34 → 00:37:38 นะฮะอ่ามันดื้ออินซูลินไปหมดนะทีนี้ถ้า
00:37:39 → 00:37:42 กรณีที่เรากินโชการโลคาฟนะฮะนะแล้ว
00:37:42 → 00:37:46 ไตกีสไลในเลือดสูงนะฮะ ow คาฟเราก็ไม่ได้
00:37:46 → 00:37:50 กินคาฟนะฮะนะแต่พอไปเช็คอัพตรวจแลบปรากฏ
00:37:50 → 00:37:53 ว่าไตกีสไลมันเยอะนะฮะนะในกรณีนี้เนี่ย
00:37:53 → 00:37:57 ตัวไตรกีซาไลน์เนี่ยก็จะมาจากไขมันส่วน
00:37:57 → 00:38:02 เกินที่กินแบบผิดๆนะฮะนะซึ่งไขมันส่วน
00:38:02 → 00:38:06 เกินที่กินแบบผิดๆก็คือไขมันที่มากับ
00:38:06 → 00:38:10 เนื้อสัตว์เนื้อสัตว์นั่นแหละนะฮะนะนะ
00:38:10 → 00:38:13 แล้วก็มักจะเป็นกลุ่มประเภทอ่าไขมันอิ่ม
00:38:14 → 00:38:19 ตัวนะอิ่มตัวต่างๆนะฮะอ่าเดี๋ยวเดี๋ยวเรา
00:38:19 → 00:38:22 จะมาวิเคราะห์กันในตรงนี้นะฮะนะอันนี้ก็
00:38:22 → 00:38:28 พอเข้าใจหลักะเนานะอันนี้ก็เคยฉายไปแล้ว
00:38:28 → 00:38:32 นะฮะนะก็ไม่รู้ว่าเค้าคิดยังไงกันเหมือน
00:38:32 → 00:38:38 กันเนาะนะเนี่ยเราไปบอกว่าต้องไม่ปฏิบัติ
00:38:38 → 00:38:40 ตามธงโภชนาการ
00:38:40 → 00:38:44 อ่าไม่งั้นแล้วจะกลายเป็นการกินเ่อ you
00:38:44 → 00:38:48 are eating disease นะฮะนะเพราะอะไร
00:38:48 → 00:38:51 อะไรอย่างเงี้ยนะฮะนะส่วนในแง่ของคนที่
00:38:51 → 00:38:55 กินโลคาฟแล้วไอ typ โปรตีนนะแล้วไม่เข้า
00:38:55 → 00:38:59 ใจเรื่องแหล่งพลังงานจาก Fat ที่เป็น Good
00:38:59 → 00:39:03 Healthy Fat นะฮะนะก็จะมีปัญหานะโปรตีน
00:39:03 → 00:39:08 ล้นเกินเไขมันที่ผิดๆนะแล้วก็ก็ไปบางคนก็
00:39:08 → 00:39:14 ไปเกิดไลนในในค่าราปิดโปรไฟล์มันสูงขึ้น
00:39:14 → 00:39:17 ฮะนะทั้งร่างกายเนี่ยใช้แฟตเป็นพลังงาน
00:39:17 → 00:39:21 แล้วไก็ยังขึ้นไปอีกนะฮะนะ
00:39:21 → 00:39:25 เนะแล้วก็มีการอ่าจะมีกินคฟอย่างไม่เหมาะ
00:39:25 → 00:39:28 สมเพราะทั้งหมดเยเป็นความรู้ความไม่เข้า
00:39:28 → 00:39:31 ใจนั่นแหละนะฮะอเป็นภาวะ Energy
00:39:31 → 00:39:36 imbalance เนาะนะเนี่ยในปัจจุบันเนี่ย
00:39:36 → 00:39:40 ที่เราหันมากิน low cf High Fat หรือ
00:39:40 → 00:39:43 ketogenic di อะไรต่างๆนะฮะมันก็จะเป็น
00:39:43 → 00:39:47 ในลักษณะเนี้ยนะฮะก็คือส่วนใหญ่นะเราใช้
00:39:48 → 00:39:51 เรื่องของไขมันที่เป็นทั้งนะไขมันจาก
00:39:51 → 00:39:56 สัตว์นะฮะไขมันเอ่อแปรรูปที่ดีนะแล้วไข
00:39:56 → 00:40:00 มันที่ที่เป็นน้ำมันสกัดเย็นนะอันนี้เรา
00:40:00 → 00:40:02 ก็กินผสมผสานอะไรกันไปนี้คือแหล่งของไข
00:40:02 → 00:40:07 มันนะนะส่วนแหล่งโปรตีนเนี่ยนะเราก็จะให้
00:40:07 → 00:40:10 ความสำคัญกับโปรตีนต่างๆสัตว์บกสัตว์น้ำ
00:40:10 → 00:40:14 สัตว์ใหญ่สัตว์ปีกนะเ่าแล้วก็สัตว์ทะเล
00:40:14 → 00:40:18 อะไรอย่างงี้นะฮะนะแล้วในส่วนที่เป็นแป้ง
00:40:18 → 00:40:22 เชิงซ้อนเนี่ยเราก็จะให้ผักใบผักหัวนะฮะ
00:40:22 → 00:40:24 ในกลุ่มผลไม้ก็มีอยู่ 3-4 อย่างมี
00:40:24 → 00:40:29 อะโวคาโดเนื้อมะพร้าวมะนาาวมะกอกอ่ามะกอก
00:40:29 → 00:40:34 มะกอกอ่าฝรั่งนะฮะมะกอกต่างประเทศนะฮะนะ
00:40:34 → 00:40:37 เอออะไรอย่างเงี้ยอาจจะมีมันแกวอะไรบาง
00:40:37 → 00:40:42 สิ่งบางอย่างนะแล้วก็มีกลุ่มถั่วอ่าถั่ว
00:40:42 → 00:40:45 นะฮะแต่ก็กินได้ไม่เยอะนะฮะนะเพราะว่าใน
00:40:45 → 00:40:50 กลุ่มคำว่าคาฟเนี่ยนะฮะนะต้องเป็นเรื่อง
00:40:50 → 00:40:54 การจำกัดปริมาณจำกัดปริมาณโปรตีนเนี่ย
00:40:54 → 00:40:58 ต้องได้ทั้งพืชทั้งสัตว์นะฮะนะนะแล้วก็
00:40:58 → 00:41:01 ได้เป็นแบบ Quality นะฮะกินได้ทั้งมื้อ
00:41:01 → 00:41:04 แรกมื้อเย็นนะฮะถ้ามื้อแรกก็เป็นโปรตีนไข
00:41:04 → 00:41:07 มันสูงไขมันปานกลางมื้อเย็นควรจะเป็น
00:41:07 → 00:41:11 โปรตีนไขมันต่ำๆมากนะอาจจะมีีนโปรตีนแ on
00:41:11 → 00:41:14 เข้าไปด้วยถ้าเกิดมีการออกแรงออกกำลัง
00:41:14 → 00:41:17 อยากสร้างกล้ามเนื้อนะเพราะว่ามื้อเย็น
00:41:17 → 00:41:20 เราไม่ต้องการพลังงานนะฮะนะพลังงานเดี๋ยว
00:41:20 → 00:41:25 คืนนี้นะเวลาเซ่อมอะไรต่างๆเนี่ยก็ไปทำ
00:41:25 → 00:41:28 ให้ร่างกายกดเกิดกลไกในการที่เอาพลังงาน
00:41:28 → 00:41:32 จากไขมันที่สะสมในร่างกายออกมาใช้นะฮคือ
00:41:32 → 00:41:36 ช่วงกลางวันเราใช้พลังงานจากจาก DIY Fat
00:41:36 → 00:41:39 นะฮะจากอาหารที่กินจากภายนอกเนี่ยนะฮะแต่
00:41:39 → 00:41:42 ถ้ากลางคืนเนี่ยเราใช้พลังงานจากไขมันที่
00:41:42 → 00:41:44 สะสมไว้ในตัวเรานะแล้วทั้งหมดเนี่ยร่าง
00:41:45 → 00:41:48 กายก็จะหมุนวนในเรื่องของกระบวนการเผาผล
00:41:48 → 00:41:51 พลังงานเผาผันพลังงานเผาๆๆเป็นล่ะ
00:41:51 → 00:41:59 นะนะอันนี้ก็ก็เป็นในลักษณะที่นะทีนี้การ
00:41:59 → 00:42:05 จะนำในเรื่องสิ่งเนี้ยมาแก้ปัญหานะ
00:42:05 → 00:42:09 ฮะอย่างในแนวทางของกลุ่ม longevity เนี่ย
00:42:09 → 00:42:12 เรามีเรื่องของ Body typ di นะฮะเราก็
00:42:12 → 00:42:16 มีอ่า hormonal Reset ก่อนนะแล้วก็มา
00:42:16 → 00:42:19 Body type Diet Reset นะฮะ rebalance
00:42:19 → 00:42:24 อะไรอย่างงี้นะฮะนะก็อย่างอย่างคนเนี่ย
00:42:24 → 00:42:26 ที่เป็นสายเนื้อน่ะก็คือพุงเครียด
00:42:26 → 00:42:30 เอสโตรเจนไเนี่ยนะฮะเอสโตรเจนเด่นนะนะ
00:42:30 → 00:42:33 อันเนี้ยมันก็เหมาะกับพวกเนี้ยนะฮะนะก็
00:42:33 → 00:42:36 คือเหมาะกับสัตว์หลายกระเพาะนะฮะเนี่ย
00:42:36 → 00:42:40 เป็นเบสเลยนะฮะนะรองลงมาก็คือเป็นสัตว์
00:42:40 → 00:42:46 กระเพาะเดี่ยวอ่าต่างๆนะฮะเนี่ยอ่านะแล้ว
00:42:46 → 00:42:50 ก็มีตัวคล้ายๆเป็นอ่าอาหารเสริมแต่
00:42:50 → 00:42:53 อันเนี้ยอาหารเสริมเป็นซุปเปอร์ฟู้ดที่
00:42:53 → 00:42:56 เป็นโปรตีนที่ดีที่สุดก็คือไข่น้ำฟองนะนะ
00:42:56 → 00:43:00 ก็ต้องมีอ่ะนะฮะต้องมีนะอย่างล่างสุด
00:43:00 → 00:43:02 เนี่ยนะสัตว์กระเพาะเดี่ยวเรากินมื้อแรก
00:43:02 → 00:43:05 นะสัตว์หลายกระเพาะสัตว์น้ำอะไรต่างๆพวก
00:43:05 → 00:43:09 นี้นะเอ้โทษทีสัตว์กระเพาะเดยวเนี่ยนะกิน
00:43:09 → 00:43:12 มื้อเย็นสัตว์หลายกระเพาะเี้ยวเอื้อง
00:43:12 → 00:43:15 เนี่ยอันนี้กินมื้อแรกนะแล้วทั้ง 2 มื้อ
00:43:15 → 00:43:21 เนี่ยสามารถที่จะมีพวกไข่เป็นตัวเสริมนะอ
00:43:21 → 00:43:24 แล้วก็มี Daily product นะอ่าของ Animal
00:43:24 → 00:43:27 Fat นะฮะนะอันนี้ส่วนใหญ่แนะนำให้กินมือ
00:43:27 → 00:43:29 มื้อแรกมื้อ
00:43:29 → 00:43:34 แรกแล้วก็ส่วนออร์แกนดต่างๆนะฮะนะเนี่ย
00:43:34 → 00:43:36 พวกเลือดเพื่อกเครื่องในอะไรต่างๆพวกนี้
00:43:36 → 00:43:42 แนะนำให้กินมื้อเย็นนะมื้อเย็นนะ
00:43:42 → 00:43:46 เนี่ยมันมันจะช่วยเรื่องของการไอ้รักษา
00:43:47 → 00:43:51 กล้ามเนื้อน่ะนะฮะนะนะหรือหรือถ้าจะสร้าง
00:43:51 → 00:43:56 กล้ามเนื้อเนี่ยนะก็เนี่ยนะก็คือก็คือพวก
00:43:56 → 00:43:57 กลุ่ม
00:43:57 → 00:44:02 สัตว์สัตว์กระเพาะเดี่ยวสัตว์น้ำนะฮะนะ
00:44:02 → 00:44:05 แล้วก็พวกออร์แกนต่างๆนะฮะเครื่องในสัตว์
00:44:05 → 00:44:13 เนี่ยนะอันนี้ก็มันมีมันมีโปรตีนไขมันไข
00:44:13 → 00:44:18 มันปานกลางไขมันเอ่อต่ำนะอ่าแล้วก็ต่ำมาก
00:44:18 → 00:44:22 นะถ้าพวกสัตว์น้ำแต่มันจะมีคอเลสเตอรอลไป
00:44:22 → 00:44:25 ด้วยเพราะในการสร้างกล้ามเนื้อเนี่ยสาร
00:44:25 → 00:44:30 อาหารนะคอเลสเตอรอลลอก 3 นะอ่าอันนี้
00:44:30 → 00:44:36 สำคัญนะฮะนะก็ค่อนข้างครบเครื่องครบ
00:44:36 → 00:44:39 เครื่องเกลืออันนี้นะอันนี้ก็เหมาะกับสาย
00:44:39 → 00:44:43 เนื้ออยู่แล้วนะฮะตามปิระมิดแบบนี้นะฮะ
00:44:43 → 00:44:47 แต่ถ้าเป็นสายแป้งอ่าสายแป้งก็เป็นสายพุง
00:44:47 → 00:44:51 ตับกับไทรรอยด์นะฮะนะคือพวกเนี้ยก็จะต้อง
00:44:51 → 00:44:55 มีพืชมากขึ้นเอาง่ายๆนะฮะนะอ่ามีพืชมาก
00:44:55 → 00:44:59 ขึ้นแลแล้วเรื่องของเ่อเนื้อสัตว์ที่จะ
00:44:59 → 00:45:04 กินเนี่ยนะฮะคือสายแป้งเนี่ยนะก็จะมักจะ
00:45:04 → 00:45:09 มีปัญหากับระบบการย่อยนะฮะคือท้องไส้นะ
00:45:09 → 00:45:12 ตับไตไส้พุงม้ามอะไรอย่าเงี้ยเขาไม่ได้
00:45:12 → 00:45:16 แข็งแรงแบบเอ่อเหมือนสายเนื้อเนี่ยที่จะ
00:45:16 → 00:45:18 ย่อยหมูเป็นตัวย่อยวัวเป็นท่อนๆอะไรอย่าง
00:45:18 → 00:45:23 งี้นะนะสายแป้งเนี่ยนะเมักจะผอมมักจะลีน
00:45:23 → 00:45:27 อะไรต่างๆนะเนี่ยส่วนใหญ่พวกนี้ก็จะเหมาะ
00:45:27 → 00:45:29 นะระบบการย่อยการดุซิมอะไรต่างๆเนี่ยเขา
00:45:29 → 00:45:33 ก็จะเหมาะกับอ่าสัตว์เล็กหน่อยนะฮะสัตว์
00:45:33 → 00:45:37 เล็กสัตว์น้ำสัตว์อ่าสัตว์ปีกอะไรพวก
00:45:37 → 00:45:41 เนี้ยนะฮะนะเพราะฉะนั้นส่วนใหญ่แล้วเนี่ย
00:45:41 → 00:45:44 ก็จะให้กินนะโปรตีนไขมันปานกลางหรือไขมัน
00:45:44 → 00:45:47 ต่ำอะไรต่างๆที่อยู่ในกลุ่มของสัตว์ค่อน
00:45:47 → 00:45:51 ข้างเล็กนะฮะนะแล้วถ้าจะมีสัตว์ใหญ่เนื้อ
00:45:51 → 00:45:54 แดงของสัตว์บก 4 ขาเนี่ยก็มีได้เป็นบาง
00:45:54 → 00:45:59 มื้อบางวันนะฮะบางมื้อบางวนะอันเนี้ยนะฮะ
00:45:59 → 00:46:01 ก็จะเป็นอย่างนั้นนะเพราะว่าไม่งั้นแล้ว
00:46:01 → 00:46:04 พวกเนี้ยกินไปแล้วเนี่ยสายแป้งมักจะเกิด
00:46:04 → 00:46:07 ปัญหาท้องอืดท้องน่นสุกเสียดนะไม่ย่อย
00:46:07 → 00:46:10 ทรมานทรกรรมอะไรอย่างงี้นะฮะนะเพราะพวก
00:46:10 → 00:46:14 นี้มันเป็นโปรตีนไขมันสูงนะนะแต่พวกนี้
00:46:14 → 00:46:17 โปรตีนไขมันต่ำนะฮะนะมีคอเลสเตอรอลเยอะมี
00:46:17 → 00:46:21 โอเมก้า 3 นะฮะเนี่ยอันนี้มันจะสบายท้อง
00:46:21 → 00:46:24 มากกว่านะฮะเพราะฉะนั้นสายแป้งเนี่ยปรุง
00:46:24 → 00:46:28 ตับไทรรอยด์นะก็มักจะชอบนะแล้วสายนี้
00:46:28 → 00:46:31 เนี่ยเขาก็ยังมีคาฟเชิงซ้อนนะฮะมีการกิน
00:46:31 → 00:46:35 ไอ้พวกคาร์โบไฮเดรตนะที่เป็นแป้งอะไรบาง
00:46:35 → 00:46:40 ส่วนได้นะมีการกินผลไม้ได้นะแต่ถ้าสาย
00:46:40 → 00:46:42 เนื้อเนี่ยส่วนใหญ่พวกนี้แทบจะต้องตัดไป
00:46:42 → 00:46:47 เลยนะแทบจะต้องตัดไปเลยนะฮะนะถ้าสายแป้ง
00:46:47 → 00:46:51 เนี่ยมันก็จะได้นะได้เยอะกว่านะนอกจากนี้
00:46:51 → 00:46:56 เนี่ยส่วนใหญ่นะฮะอาหารในแนวแบบเนี้ยนะฮะ
00:46:56 → 00:47:00 ที่มันก็คือคล้ายๆกับ meditan Diet นะ
00:47:00 → 00:47:04 Modify นะฮะนะเเรียก Modify meditan
00:47:04 → 00:47:08 Diet นะฮะนะซึ่งพวกเนี้ยนะฮะพวกเนี้ยเรา
00:47:08 → 00:47:12 ก็อาจจะเอามาปรับในคนที่่ายผอมเยอะๆนะ
00:47:12 → 00:47:14 เพราะงั้นพวกนี้ต้องการพลังงานและสาร
00:47:14 → 00:47:17 อาหารเยอะนะโดยเฉพาะสารอาหารเนี่ยถ้ากิน
00:47:17 → 00:47:19 แบบเยมันจะได้เยอะกว่านะฮะ
00:47:19 → 00:47:26 นะนะแล้วก็พลังงานก็พอดีพอดีนะฮะนะเนี่ย
00:47:26 → 00:47:30 รือหรือน้ำหนักตัวน้อยนะหรือต้องการจะ
00:47:30 → 00:47:33 สร้างกล้ามนะเพราะอาหารพวกนี้มันเป็น
00:47:33 → 00:47:36 อาหารที่เหมาะกับการกินในมื้อเย็นนะที่
00:47:36 → 00:47:39 ต้องการจะนอนแล้วก็สร้างกล้ามนะฮะหรือ
00:47:39 → 00:47:43 กรณีที่มีผลแลบนะฮะนะก็คือเป็นคล้ายๆ LM
00:47:43 → 00:47:46 Hyper respond นี่แหละนะนะแล้วก็มีตัว
00:47:46 → 00:47:49 Total cholesterol กับ ldl เยอะมากนะ
00:47:49 → 00:47:53 แล้วจนแบบตกอกตกใจเนี่ยก็มาปรับในการกิน
00:47:53 → 00:47:57 พวก Modify meditan di นะฮะซึ่งซึ่งพวก
00:47:57 → 00:47:59 นี้ก็จะมีการกินพืชผักมีการกินคาฟมีการ
00:47:59 → 00:48:03 กินไฟเบอร์นะฮะแล้วก็ไอ้พวกไขมันอิ่มตัว
00:48:03 → 00:48:07 ต่างๆจากสัตว์ใหญ่ๆเนี่ยนะเอ่อมันก็กิน
00:48:07 → 00:48:11 ให้น้อยนะมาเพิ่มพวกไขมันไม่อิ่มตัวอ่า
00:48:11 → 00:48:14 เชิงเดี่ยวเชิงซ้อนให้มากขึ้นก็จะเป็น
00:48:14 → 00:48:16 สัตว์ขนาดเล็กแล้วก็สัตว์
00:48:16 → 00:48:19 น้ำนะอันนี้มันก็จะเป็นการกินเพื่อตอบ
00:48:19 → 00:48:24 โจทย์ในลักษณะหลายอย่างพวกนี้
00:48:24 → 00:48:28 นะนะอันนี้มีใครสงสัยอะไรมั้ยก็เลยเอามา
00:48:28 → 00:48:32 พูดเผื่อไว้เลยนะฮะว่าเดี๋ยวนี้พีรมิด
00:48:32 → 00:48:36 อาหารเนี่ยนะถ้าจะเอาแบบกันสรุปง่ายๆนะ
00:48:37 → 00:48:42 เอานำไปใช้ได้ก็จะเป็นแบบนี้กันนะฮะกินไป
00:48:42 → 00:48:46 ก่อนนะฮะทำไปกินไปแล้วเสร็จแล้วตรวจแหลบ
00:48:46 → 00:48:49 นะฮะแล้วค่อยมาปรับเดินหน้าถอยหลังกันอีก
00:48:49 → 00:48:53 ทีนึงสิ่งต่างๆเหล่านี้ไม่ได้คอขาดบาดตาย
00:48:53 → 00:48:55 ไม่ได้จะเป็นเรื่องเป็นราวที่จะทำให้ร่าง
00:48:55 → 00:48:59 กายเสียสุขภาพหรือเกิดเอ่อการเหวี่ยงของ
00:48:59 → 00:49:06 ค่าแลบอะไรซะจนแบบโอ้โหนะวุบๆวาบๆอ่าเ่อ
00:49:06 → 00:49:11 ดิ่งพุ่งขึ้นตกท้องช้างอะไรอย่างงั้นนะ
00:49:11 → 00:49:16 ฮะแล้วในกรณีของแฟตเนี่ยนะฮะนะก็คือนอก
00:49:16 → 00:49:20 เหนือจากไอ้พวกเอ่อน้ำมันสกัดเย็นที่ทำ
00:49:20 → 00:49:23 เป็นรูปน้ำสลัดทีออยแล้วเนี่ยนะฮะนะเรา
00:49:23 → 00:49:27 ให้ข้อมูลไปเยอะมากแล้วอ่ะก็คิดว่าเอ่อ
00:49:27 → 00:49:30 แล้วแต่ถ้าใครยังกลัวหมอก็ไม่รู้จะพูดยัง
00:49:30 → 00:49:35 ไงแล้วนะฮะนะเอ่อเนี่ยอ่าอันนั้นก็
00:49:35 → 00:49:38 ประเด็นนั้นก็อ่ายกไปก่อนนะฮะนะส่วนใน
00:49:38 → 00:49:42 กรณีของแฟชคงรูปเนี่ยนะฮะนะอันเนี้ย
00:49:42 → 00:49:45 Healthy High Fat Food นะฮะเนี่ยมัน
00:49:45 → 00:49:48 ก็จะมีของพวกเนี้ยนะฮะนะเ่อเนี่ยอย่าง
00:49:48 → 00:49:53 มะกอกนะฮะนะมันก็เนี่ยที่เรารู้กันนะ mct
00:49:53 → 00:49:57 Olive Oil เอ่อกีนะฮะนะอะโวคาโดเนื้อ
00:49:57 → 00:50:02 มะพร้าวนะไข่ทั้งฟองนะอัลมอนบัตเตอร์อ่า
00:50:03 → 00:50:07 นะก็เนื้อวัวอะไรต่างๆเนี่ยบาซิลนัสอ่า
00:50:07 → 00:50:14 เมล็ดฟักทองเมล็ดอ่าเฮมนะฮะนะเอ่อกัญชงนะ
00:50:14 → 00:50:19 เชียสีดแกสีดนะออแกน me เครื่องในโบน
00:50:19 → 00:50:22 แมโร่ทำน้ำซุปต้มกระดูกเนี่ยนะอันนี้
00:50:22 → 00:50:27 เหล่าเนี้ยนะกินได้ตลอดนะทุกวันนะฮทุกวัน
00:50:27 → 00:50:29 นะฮะนะหมุนเวียนสลับสับเปลี่ยนกันไป
00:50:29 → 00:50:33 เรื่อยๆนะไม่ต้องไปกลัวนะฮะ
00:50:33 → 00:50:36 เอ่อที
00:50:36 → 00:50:41 นี้จำได้ว่าตอนนั้นอธิบายไปเนี่ยจะงงๆนะ
00:50:41 → 00:50:45 ฮะนะอันนี้หมอก็ไปค้นข้อสรุปมาให้นะฮะนะ
00:50:45 → 00:50:48 ถึงเรื่องว่าน้ำมันสกัดเย็นทรีออยอิ่ม
00:50:48 → 00:50:52 เดี่ยวซ้อนเนี่ยนะฮะถ้าเราใช้สัดส่วนและ
00:50:52 → 00:50:56 ปริมาณที่ถูกต้องกินในมื้อแรกนะอันอันนี้
00:50:57 → 00:51:01 เนี่ยเขาจะนะมีตัวนำหรือมีเรือนำไปก็คือ
00:51:01 → 00:51:07 ไคโรไมคอนนะฮะนะนำไปนะในระบบน้ำเหลืองที่
00:51:07 → 00:51:10 อยู่ในช่องท้องหลังจากเกิดการดูดซึมผ่าน
00:51:10 → 00:51:15 เยื่อบุลำไส้ไปแล้วนะฮะนะแล้วไปทางระบบ
00:51:15 → 00:51:19 น้ำเหลืองนะฮะนะการผ่านไปทางระบบน้ำ
00:51:19 → 00:51:23 เหลืองโดยตัวไมคอนพาไปเนี่ยนะฮะเขาก็จะไป
00:51:24 → 00:51:28 ที่เซลล์ต่างๆนะฮะที่ต้องการที่จะใช้ไข
00:51:28 → 00:51:32 มันเป็นพลังงานนะฮะนะเนี่ยนะแล้วก็เซลล์
00:51:32 → 00:51:35 ลำดับแรกๆเลยนะที่จะมีการใช้ก็คือเซลล์
00:51:35 → 00:51:41 กล้ามเนื้อหัวใจเนี่ยนะซึ่งอันเนี้ยนะเขา
00:51:41 → 00:51:45 ก็จะมีกระบวนการนะผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ที่
00:51:45 → 00:51:46 เรียกว่า Passive Cellular
00:51:46 → 00:51:49 transportation นะนะซึ่งกระบวนการแบบ
00:51:49 → 00:51:54 เนี้ยเป็นการซึมผ่านนะหรือเป็นการแพร่นะ
00:51:54 → 00:51:58 ฮะผ่านเยืหุ้มเซลล์นะโดยไม่ต้องใช้พลัง
00:51:58 → 00:52:02 งานไม่ต้องใช้ฮอร์โมนและไม่ต้องมีตัวลับ
00:52:02 → 00:52:07 หรือรีซอร์ใดๆนะฮะอย่างไรก็ดีมันมีเงื่อน
00:52:07 → 00:52:12 ไขอ่ะมันมีเงื่อนไขว่านะว่าสัดส่วนของน้ำ
00:52:12 → 00:52:14 มันนะฮะสกัดเย็นเนี่ยที่กินในรูปของน้ำ
00:52:14 → 00:52:18 สลัดทีออยเนี่ยจะต้องค่อนข้างถูกต้องและ
00:52:19 → 00:52:22 มีความละไม้คล้ายเหมือนนะกับองค์ประกอบ
00:52:22 → 00:52:24 ของ
00:52:24 → 00:52:28 อ่าตัวตัวหนไ่อตัวไขมันชนิดต่างๆที่เยื่อ
00:52:28 → 00:52:33 หุ้มเซลล์นะฮะนะอิ่มเดี่ยวซ้อนนะฮะนะก็
00:52:33 → 00:52:36 คือตามสูตรแบบนี้นะฮะอิ่มเดี่ยวซ้อน 30
00:52:36 → 00:52:36
00:52:37 → 00:52:41 20 ถ้า 2 อย่างเนี้ยนะฮะมันคือกันมัน
00:52:41 → 00:52:44 คล้ายคึงกันนะฮะเพรางั้นกระบวนการแพร่
00:52:44 → 00:52:47 หรือเเรียกอัตราการแพร่อย่างอิสระนะฮะนะ
00:52:47 → 00:52:52 selective เอ่อ Free permeable นะฮะ
00:52:52 → 00:52:55 เนี่ยที่จะเข้าสู่เซลล์ก็เข้าไปในสต
00:52:55 → 00:53:00 พลาซึมนะแล้วก็ไปที่ไมโทคอนเดรียซึ่งเป็น
00:53:00 → 00:53:03 ตัวออร์แกแนลที่อยู่ในพลาซึมนะฮะนะเพื่อ
00:53:03 → 00:53:08 จะเ่าานเป็นพลังต่อไปนะก็เป็นเบต้าอิชนะ
00:53:08 → 00:53:12 เพราะนั้นถ้าสัดส่วนพวกเนี้ยนะมันคือกัน
00:53:12 → 00:53:15 นะฮะนะเพราะฉะนั้นการแพร่จะยิ่งมากและรวด
00:53:15 → 00:53:20 เร็วนะแล้วก็นำไปใช้ได้อย่างเกิดการเผา
00:53:20 → 00:53:25 ผลาญนะและเบอกว่ายิ่งสัดส่วนถูกต้องเท่า
00:53:25 → 00:53:29 ไหรปริมาณพอดีเป๊ะเลยเนี่ยอัตราการเผาผลา
00:53:29 → 00:53:34 เ่อ bmr เนี่ยนะฮะที่จะเกิดไเค้าเรียก
00:53:34 → 00:53:39 อะไรอะไรอ่ะนะอ่าก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นนะ
00:53:39 → 00:53:42 ฮะคือคืออัตราการเผาผลาญพลังงานของร่าง
00:53:42 → 00:53:45 กายเนี่ยนะต่อวันเนี่ยมันจะเฉลี่ยเพิ่ม
00:53:45 → 00:53:49 ขึ้นเรื่อยๆนะฮะในคนที่กินแบบโ High z
00:53:49 → 00:53:50 แบบนี้
00:53:50 → 00:53:56 นะก็เป็น OC High Fat P Oil นะฮะ
00:53:56 → 00:54:01 อันเนี้ยนะเข้าใจเนาะเข้าใจแต่ทีนี้คนที่
00:54:01 → 00:54:05 ไม่รู้เรื่องอ่าน้ำสมันสกัดเย็นทีออยนะก็
00:54:05 → 00:54:08 คือรู้ว่าเอาล่ะกินอะไรอ่ะน้ำมันมะกอกดี
00:54:08 → 00:54:11 กินน้ำมันมะพร้าวดีกิน mct ดีแต่เขาไม่
00:54:11 → 00:54:15 ได้มาเข้าสูแล้วก็เขาก็ไม่ได้มามาทำเป็น
00:54:15 → 00:54:19 น้ำสลัดพีออยมาตกแต่งอะไรต่างๆให้มันอยู่
00:54:19 → 00:54:22 ในตัวเนื้ออาหารอะไรอย่างเงี้ยนะฮะ
00:54:22 → 00:54:24 อันเนี้ยอันเนี้ยมันก็แล้วแต่ตัวใครตัว
00:54:24 → 00:54:28 มันเก็แปลว่าสัดส่วนเนี่ยนะมันไม่พอดีกับ
00:54:28 → 00:54:32 สัดส่วนของเยื่อหุ้มเซลล์นะฮะก็ถามว่า
00:54:32 → 00:54:35 แล้วจะยังไงอ่ะแล้วมันจะดูดซึมมั้ยก็ก็
00:54:35 → 00:54:39 ดูดซึมฮะนะแพร่มั้ยแพร่ฮะนะแต่มันไม่เต็ม
00:54:39 → 00:54:44 เล็ดเต็มหน่วยเ่อจะได้ 20% 50% 80% 60%
00:54:44 → 00:54:48 อันนี้ก็ไม่รู้นะฮะนะไม่รู้นะแต่ถ้าเรา
00:54:48 → 00:54:51 อ่าข้อแนะนำของของทางทางกลุ่มเราก็ก็ใช้
00:54:51 → 00:54:57 เนี่ย 30 50 20 นะฮะครับทีนี้เอ่อเ่อ
00:54:57 → 00:55:00 มันมากมันน้อยเกินไปมันขาดมันเกินไปนิดๆ
00:55:00 → 00:55:03 หน่อยๆอ่ะนะอันนั้นอย่าไปอย่าไปวิตกกังวล
00:55:03 → 00:55:06 อะไรนะฮะเพราะว่าร่างกายเนี่ยเยังมีระบบ
00:55:06 → 00:55:09 อีกระบบนึงเเรียกระบบ summation ทุกๆ 8-10
00:55:09 → 00:55:14 วันนะฮะนะวันนี้ไม่ได้กินเอ่อวันนี้ไปิ้
00:55:14 → 00:55:18 วันนี้ไปโิอย่างโงนอย่างงี้นะฮะนะอ่าวัน
00:55:18 → 00:55:21 นี้น้ำมันไม่พอนะเอาตัวนั้นแทนเอาตัวนี้
00:55:21 → 00:55:25 แทนอะไรอย่างเงี้ยนะฮะนะก็ไม่เป็นไรฮะนะ
00:55:25 → 00:55:27 เดี๋ยวพอักสัก 8 วัน 10 วันอะไรต่างๆ
00:55:27 → 00:55:31 เนี่ยเขาจะเกลี่ยจะเฉลี่ยนะก็หมอถึงได้
00:55:31 → 00:55:35 บอกไว่าไม่คอขาดบาตตายนะไม่ต้องเปี๊ยะๆๆ
00:55:35 → 00:55:38 เดี๊ยะๆๆเ่าเป๊ะอะไรถึงขนาดนั้นนะฮะไม่
00:55:39 → 00:55:44 ต้องทำให้มันสบายๆนะฮะนะเอ้อนะอันนี้ก็
00:55:44 → 00:55:46 หวังว่าแอคชั่นถึงขนาดนี้แล้วน่าจะ
00:55:46 → 00:55:49 กระทุ้งเยือกเข้าไปถึงขั้วหัวใจนะครับผม
00:55:49 → 00:55:54 ครับทีนี้เรามาดูนิดนึงนะฮะนะตอนเนี้ยอ่า
00:55:54 → 00:56:00 ไพโรจสุทัศน์เอ่อเรามาช่วยกันดูนะฮะนะใน
00:56:00 → 00:56:03 เรื่องว่าตอนเจะกินน้ำมันสกัดเย็นอิ่ม
00:56:03 → 00:56:06 เดี่ยวซ้อนอ่าปริมาณแล้วก็ตามสูตรแล้วก็
00:56:06 → 00:56:09 ทำเป็นน้ำสลัดจีออยแล้วกินเข้าไปแล้วมัน
00:56:09 → 00:56:12 เข้าอยู่ในลำไส้แล้วนะฮะนะเนี่ยแล้วตอน
00:56:13 → 00:56:17 เนี้ยเราก็กินบริการโลคาฟเอ่อเราตัดคาฟ
00:56:17 → 00:56:22 เราจำกัดคาฟควบคุมคาฟไปซะเยอะแยะนะฮะนะ
00:56:22 → 00:56:27 งั้น 2 ระบบของร่างกายนะฮะคือหมอต้องบอก
00:56:27 → 00:56:31 ก่อนว่าร่างกายก็มีระบบทางคู่ขนาน 2 ระบบ
00:56:31 → 00:56:34 นะฮะในการเอาพลังงานสารอาหารเข้าล่าง
00:56:34 → 00:56:37 เนี่ยเข้าไปใช้ประโยชน์นะในระดับเซลล์นะ
00:56:37 → 00:56:43 ฮะนะอย่างลำไส้เนี่ยนะถ้าถ้าเเข้าทาง
00:56:43 → 00:56:47 กระแสเลือดนะกระแสเลือดแล้วก็มาที่ตับ
00:56:47 → 00:56:52 เนี่ยนะเนี่ยอันนี้อันนี้ก็คือคือระบบ
00:56:52 → 00:56:55 เลือดใช่มล่ะระบบเลือดเนี่ยนะสิ่งที่จะ
00:56:55 → 00:57:00 ดูดซึมผ่านลำไส้เข้าสู่ระบบเลือดนะแล้วมี
00:57:00 → 00:57:04 ฮอร์โมนออกมารับเพื่อจะนำไปที่ตับแล้วต่อ
00:57:04 → 00:57:08 ไปก็กระจายไปส่วนต่างๆของร่างกายอ่ะนะก็
00:57:08 → 00:57:13 มีอะไรบ้างก็มีพวกอ่าพวกาฟต่างๆคาฟต่างๆ
00:57:13 → 00:57:16 ก็ต้องเข้าช่องนี้อยู่แล้วเพราะเค้าละลาย
00:57:16 → 00:57:22 น้ำนะฮะนะเนี่ยอ่า 1 คาฟ 2 โปรตีนอ่า
00:57:22 → 00:57:26 โปรตีนที่เป็นกรดอะมิโนต่างๆนะฮะนะเนี่ย
00:57:26 → 00:57:31 กดอะมิโนมันมีกี่กี่ชนิดล่ะนะก็ 22 2
00:57:31 → 00:57:35 ชนิดนะฮะก็คือกดอะมิโนส่วนใหญ่นะฮะนะ
00:57:35 → 00:57:40 ประมาณเกิน 80% นะฮะมันจะเข้าทางระบบ
00:57:40 → 00:57:44 เลือดมันจะเข้าทางระบบเลือด
00:57:44 → 00:57:47 นะ
00:57:47 → 00:57:53 เอ่อพวกเนี้ยนะฮะนะเอ่อก็จะมีคาฟมีโปรตีน
00:57:53 → 00:57:58 ที่เป็นกรดอะมิโนนะมีไขมัน
00:57:58 → 00:58:02 นะคือกดอะมิโน 80% เข้าทางระบบเลือด 20%
00:58:02 → 00:58:06 เข้าทางระบบน้ำเหลือนะฮะไขมันเนี่ยไขมัน
00:58:06 → 00:58:10 20% นะไม่เกินนะนะเข้าทางระบบเลือด 80%
00:58:10 → 00:58:15 เข้าทางระบบน้ำเรืนะฮะนะอย่างกรดอะมิโน
00:58:15 → 00:58:17 ที่เข้าทางระบบน้ำเหลืองเนี่ยก็คือกรด
00:58:17 → 00:58:22 อะมิโนที่มันสามารถไปเปลี่ยนเป็นคีโตนได้
00:58:22 → 00:58:27 นะฮะมันจะมีกดอมิโนประมาณ 3 ตัวนะครับผม
00:58:27 → 00:58:34 ประมาณ 3 ตัวเป็นกรดอมิโนจำเป็นด้วยนะฮะ
00:58:34 → 00:58:38 นะแต่ทีนี้อย่างไขมันเนี่ยนะมันจะมีไขมัน
00:58:38 → 00:58:41 อยู่ประมาณ 20% ที่มันเข้าทางระบบเลือด
00:58:41 → 00:58:44 ได้นะ 80% เข้าทางระบบน้ำเหลืองเป็นหลัก
00:58:44 → 00:58:48 อยู่นะนี้ไขมันที่เข้าทางระบบเลือดนะฮะนะ
00:58:48 → 00:58:51 พร้อมกับกดอะมิโนพร้อมกับคาฟอ่าแล้วก็พวก
00:58:51 → 00:58:54 วิตามินแร่ธาตุอะไรต่างๆเหล่าเนี้ยนะสาร
00:58:54 → 00:58:59 ศึกษาเคมีบางส่วนอะไเงี้ยนะพวกเนี้ยนะ
00:58:59 → 00:59:03 อ่าพวกนี้ก็จะก็คือคือกฎไขมันประเภทไหน
00:59:03 → 00:59:08 สายสั้นกับสายกลางนะฮะนะอพวกตั้งแต่ C
00:59:08 → 00:59:15 ต้นๆไปนะอ่าจนกระทั่งถึงถึงประมาณ C8 410
00:59:15 → 00:59:19 นะฮะนะครับผมอันนี้ยังสามารถเข้าทางระบบ
00:59:19 → 00:59:23 เลือดได้นะฮะนะอ่ามันมันเร็วอ่ะระบบเลือด
00:59:23 → 00:59:26 มันเร็วกว่านะแล้วพวกเนี้ยเขาก็ไม่อ้อย
00:59:26 → 00:59:31 อิ่งไม่อืดอาดนะฮะนะเเป็นระดับโมเลกุลที่
00:59:31 → 00:59:36 ฟ้านะที่ที่ว่องไวอ่ะนะที่จะเคลื่อนแล้ว
00:59:36 → 00:59:39 ก็ไปเกิดปฏิกิริยานะกับร่างกายอะไรต่างๆ
00:59:39 → 00:59:43 นะเพราะฉะนั้นเนี่ยเนี่ยเนี่ยพวก C8 c10
00:59:43 → 00:59:45 เนี่ยกินเข้าไปแล้วเนี่ยมันเข้าทางระบบ
00:59:45 → 00:59:48 เลือดอ่าไม่ได้ไปเข้าทางระบบน้ำเรือแต่
00:59:48 → 00:59:51 c12 เนี่ยลกเนี่ยนะเราถือว่าเป็นกรวดไข
00:59:52 → 00:59:55 มันสายยาวละนะฮะนะซึ่งกวดไขมันสายยาว
00:59:55 → 00:59:59 เนี่ยมันมี 20% ที่เข้าทางระบบเลือดนะแต่
00:59:59 → 01:00:02 80% เนี่ยิมันไปเข้าทางระบบน้ำเหลืองนะ
01:00:02 → 01:00:08 ฮะนะแล้วก็ส่วนไอ้พวก C 144 ไิ 16 18
01:00:08 → 01:00:11 20 22 24 พวกนี้เข้าทางระบบน้ำเหลือง
01:00:11 → 01:00:16 หมดเข้าทางระบบเลือดไม่ได้นะฮะ lac c12
01:00:16 → 01:00:21 นะฮะที่เข้าทางระบบเลือดเนี่ยนะร่างกายจะ
01:00:21 → 01:00:26 เอาเข้าไปนะพร้อมกับพวกโปรตีนพวกอ่าอ่า
01:00:26 → 01:00:28 วิตามินธาตุอะไรต่างๆเนี่ยเขาจะไปสร้าง
01:00:28 → 01:00:33 ภูมิคุ้มกันนะนะที่บอกว่าเป็นไข้หวัดนะ
01:00:33 → 01:00:36 เป็นภูมิแพ้อะไรต่างๆจะกินพวกน้ำมัน
01:00:36 → 01:00:39 มะพร้าว MC เอ่อจะกินพวกน้ำมันมะพร้าวที่
01:00:39 → 01:00:42 มันสกัดเย็นที่มันมีกดลอริกอ่ะแล้วก็ไป
01:00:42 → 01:00:45 สร้างภูมิต้านทานเนี่ยนะก็คือมันมีตัวิ
01:00:45 → 01:00:47 อยู่ประมาณไม่เกิน 20% ที่มันเข้าทางระบบ
01:00:47 → 01:00:51 เลือดแล้วก็ไปสร้างภูมิต้านทานนะแต่ิ c12
01:00:51 → 01:00:54 เนี่ยมันเป็นสายยาวนะกึ่งสายปานกลางกับ
01:00:54 → 01:00:57 สายยาวนะแต่เนับไปทางสายยาวถ้าเป็นส่วน
01:00:57 → 01:00:59 ใหญ่เพราะงั้นก็เลยต้องไปเข้าทางระบบน้ำ
01:00:59 → 01:01:03 เหลือง 80% นะอันนี้ก็คือเป็นเรื่องของ
01:01:03 → 01:01:07 ของไขมันเนี่ยนะมีส่วนน้อยที่เข้าทางระบบ
01:01:07 → 01:01:11 เลือดส่วนใหญ่ทางระบบน้ำเรือนะกดอะมิโน
01:01:12 → 01:01:15 ส่วนใหญ่ 80% เข้าทางระบบเลือดส่วนน้อย
01:01:15 → 01:01:19 เข้าทางระบบน้ำเหลืองคาฟคาฟส่วนใหญ่เข้า
01:01:19 → 01:01:23 ทางระบบเลือดนะซึ่งฮอร์โมนที่ออกมาตอบ
01:01:23 → 01:01:28 สนองในระบบเลือดก็คืออินซูลินนะฮะเอ่อ
01:01:28 → 01:01:33 อินซูลินจะมานะยกเว้นว่าเอ่อมันมีอะไร
01:01:33 → 01:01:36 แปลกประหลาดมหัศจรรย์กว่านั้นนะฮะนะเช่น
01:01:36 → 01:01:40 มีทานแฟตเช่นมีอ่าการแปรรูปนะ
01:01:40 → 01:01:44 คาร์โบไฮเดรตโปรตีนไขมันอ่าแปลกๆแล้วมัน
01:01:44 → 01:01:48 เข้ามาทางระบบเลือดนะคอซอก็ออกมาพร้อมกับ
01:01:48 → 01:01:52 เม็ดเลขเพื่อจะต้องมาจัดการกับสิ่งที่มัน
01:01:52 → 01:01:56 แปลว่ามันเป็นสิ่งแตกปลอนะอครับผมนี่ก็
01:01:56 → 01:01:58 ไม่ใช่อินซูลินอย่างเดียวแล้วคอร์ติซอล
01:01:58 → 01:02:01 ออกมาตะลุมบอด้วยแล้วก็ไปเกิดการอักส่ง
01:02:01 → 01:02:04 อักเสบหรือก็ทั้งอินซูลินทั้งคอร์ติซอล
01:02:04 → 01:02:07 บอกว่าเอาไปเก็บเก็บเอาไปเก็บไว้ค่อยคิด
01:02:07 → 01:02:11 หาวิธีการานะตอนนี้แหมมันเข้าได้เข้าดี
01:02:11 → 01:02:15 อ่าคนกินมันกินเข้ามาแบบไม่ยั้งเลยครับผม
01:02:15 → 01:02:20 อร่อยแซ่บหลายแซ่บหลายรถรกแจกแถมเอนัวน
01:02:20 → 01:02:24 เออเพราะฉะนั้นเนี่ยทางลำไส้เนี่ยนะมันก็
01:02:24 → 01:02:28 จะมีการเข้าทางระบบเลือดนะทางล้ำไส้เนี่ย
01:02:28 → 01:02:31 ถ้าเข้าทางระบบน้ำเหลืองนะพวกนี้ส่วนใหญ่
01:02:31 → 01:02:34 ก็เป็น dietary Fat นะมีกฎอิโนบางส่วนนะ
01:02:35 → 01:02:40 ฮะนะท Diary Fat เนี่ยนะส่วนใหญ่ที่เข้า
01:02:40 → 01:02:43 ทางระบบน้ำเหลืองเนี่ยมันมักจะเป็นพวก
01:02:43 → 01:02:48 พลังงานต่างๆนะฮะพวกพลังงานนะนะแล้วก็
01:02:48 → 01:02:52 เนี่ยแหละถูกนำไปใช้โดยวิธีการที่อธิบาย
01:02:52 → 01:02:54 แบบเนี้ยไป
01:02:54 → 01:03:00 นะนะนะแล้วก็การไปไปกระจายพลังงานให้กับ
01:03:00 → 01:03:03 เซลล์ต่างๆทางระบบน้ำเหลืองเนี่ยนะมันก็
01:03:03 → 01:03:07 ไปของมันเรื่อยๆเรื่อยๆๆๆนะฮะนะเวลาเรา
01:03:07 → 01:03:10 เคลื่อนไหวมันคือมันไม่มีไม่มีตัวปั๊มแบบ
01:03:10 → 01:03:14 เป็นหัวจงหัวใจเลยนะนะฮะจนสุดท้ายนะฮะสุด
01:03:14 → 01:03:19 ท้ายเลยเนี่ยนะฮะสุดท้ายเลยเนี่ยมันก็จะ
01:03:19 → 01:03:22 ไปอยู่ที่ตำแหน่งนี้นะฮะนะก็คือตำแหน่ง
01:03:23 → 01:03:28 ไอ้ตัวรสิกดักที่ไปเปิดอ่าไปเปิดเข้ากับ
01:03:28 → 01:03:30 อ่าหัวใจ
01:03:30 → 01:03:36 อ่าไปเปิดเข้ากับหัวใจห้องบนขวาห้องบนขวา
01:03:36 → 01:03:41 ครับผมแล้วก็ตอนเนี้ยมันจะเข้าไปรวมกับ
01:03:41 → 01:03:46 เลือดและนะหลังจากนั้นมันก็จะบีบเข้านะ
01:03:46 → 01:03:51 ห้องล่างขวาจากห้องล่างขวานะก็จะออกไปที่
01:03:51 → 01:03:56 ปอดนะเพื่อไปรับออกซิเจนไปฟอกนะฮะ
01:03:56 → 01:04:00 คือตอนเนี้ยถือว่าถ้าไขมันต่างๆใช้ไม่หมด
01:04:00 → 01:04:04 นะจะไขมันดีไม่ดีอะไรก็ไม่รู้อ่ะอตอนเ
01:04:04 → 01:04:08 เข้ามาอยู่ในระบบเลือดแล้วอืครับหลังจาก
01:04:08 → 01:04:12 นั้นหัวใจก็จะปั๊มไปเรื่อยๆนะฮะนะว่ามี
01:04:12 → 01:04:15 อวัยวะอะไรต้องการพลังงานจากไขมันที่จะ
01:04:15 → 01:04:19 ใช้มเพราะตอนนี้เรากินโลคราฟเราไม่มีพวก
01:04:19 → 01:04:23 น้ำตรงน้ำตาลเพียงพอที่จะนำมาใช้นะฮะนะ
01:04:23 → 01:04:29 อ่าถ้ามีใช้ก็ใช้ใช้ใช้ๆๆๆไปนะฮะ
01:04:29 → 01:04:34 นะใช้ไปจนกระทั่งสุดท้ายนะฮะสุดท้ายก็นะ
01:04:34 → 01:04:39 ไคโรไมคอนต่างๆนะหลังจากจ่ายพลังงานนะให้
01:04:39 → 01:04:41 กับเซลล์ไปใช้แล้วเนี่ยนะก็จะกลายเป็น
01:04:42 → 01:04:46 ไคโรคอนเลมแนนที่ที่จะเอาไอ้ตัวไขมัน
01:04:46 → 01:04:51 เนี่ยไตกีสไลนี่แหละนะกลับมาที่ตัมาให้
01:04:51 → 01:04:57 ตัมาให้ตันะแล้วจากนั้นไคมคอนเนี่ยก็มี
01:04:58 → 01:05:01 อันจะต้องถูกเก็บกลับไปนะไม่หลงเหลือใน
01:05:01 → 01:05:06 กระแสเลือดนะนะเคือพวกนี้ plma Resident
01:05:06 → 01:05:10 Time เต่ำนะเถูกเก็บหมดนะฮะเไม่ได้แช่
01:05:10 → 01:05:14 อ้อยอิงแบบ ldl อืครับ
01:05:14 → 01:05:19 ผมเพราะฉะนั้นตรงนี้เนี่ยเราต้องมาดูด้วย
01:05:19 → 01:05:23 นะฮะเราต้องมาดูด้วยว่าเออนะน้ำมันสกัด
01:05:23 → 01:05:27 เย็นของเราตอนเนี้ยนะเข้ามามาแล้วก็เรา
01:05:27 → 01:05:31 คิดสูตในปริมาณที่พอดีสัดส่วนที่พอดีปรุง
01:05:31 → 01:05:35 ออกมานะอย่างถูกต้องเข้าเป็นเนื้อในของ
01:05:35 → 01:05:38 อาหารนะกินแล้วสามารถไปแยกเข้าระบบน้ำ
01:05:38 → 01:05:42 เหลืองนะและร่างกายสามารถนำไปเก็บนำไปใช้
01:05:42 → 01:05:47 ได้อย่างพอดีนะก็ไม่หลงเหลือมาที่ตัหรือ
01:05:47 → 01:05:50 ถ้าหลงเหลือมานะก็จะน้อยมากไม่ค่อยเป็น
01:05:50 → 01:05:53 ปัญหาอะไรนะเพราะเราคำนวณสิ่งเหล่านี้ตาม
01:05:53 → 01:05:56 เซอ metabolic เลย
01:05:56 → 01:05:58 นะ
01:05:58 → 01:06:03 เนี่ยแต่แในกรณีที่เราไม่รู้จักน้ำมัน
01:06:03 → 01:06:08 สกัดเย็นนะเรากินโลคราฟแต่เราไปออทโปรตีน
01:06:08 → 01:06:15 โปรตีนเยอะๆนะฮะนะเแล้วก็เราก็ตัดคาฟนะ
01:06:15 → 01:06:18 เ้าเราก็มาช่วยกันดูแล้วกันว่าพอกิน
01:06:18 → 01:06:22 โปรตีนเยอะๆโปรตีนเหล่านี้ก็มีไขมันนะแต่
01:06:22 → 01:06:25 ถ้าเกิดกินหมูกินเนื้ออะไรต่างๆมันก็จะ
01:06:25 → 01:06:28 เป็นเป็นพวกกลุ่มไขมันจากเนื้อสัตว์ใหญ่
01:06:28 → 01:06:31 นะเนื้อสัตว์บกขนาดใหญ่นะ
01:06:31 → 01:06:35 เนี่ยเวลาเข้าถูกย่อยในทางเดินอาหารเรียบ
01:06:35 → 01:06:39 ร้อยแล้วเนี่ยมันจะไปไหนอ่ะตัวโปรตีนก็
01:06:39 → 01:06:42 ต้องมาทางระบบเลือดเลือดครับผมเออตัว
01:06:42 → 01:06:45 โปรตีนเนี่ยก็ต้องมาทางระบบเลือดนะทีนี้
01:06:45 → 01:06:47 เนื้อสัตว์พวกเยมันก็มีไขมันน่ะแต่ส่วน
01:06:47 → 01:06:51 ใหญ่มันเป็นไขมันอิ่มตัวงั้นไขมันหยิ่ม
01:06:51 → 01:06:55 ตัวพวกเนี้ยมันก็เป็นไขมันหยิมตัวสายสาย
01:06:55 → 01:06:58 ยาใยาวครับเอออาจจะไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว
01:06:58 → 01:07:02 เชิงซ้อนอะไรต่างๆพวกนี้ก็สายยาวหมดนะฮะ
01:07:02 → 01:07:06 งั้นในแง่ของตัวไขมันเ่ะทั้งอิ่มตัวทั้ง
01:07:06 → 01:07:09 ไม่อิ่มตัวเนี่ยนะนะถ้ามาจากสัตว์ถ้ามา
01:07:09 → 01:07:12 จากสัตว์ส่วนใหญ่มันก็เป็นสายยาวหมดนะฮะ
01:07:12 → 01:07:17 นะพวกนี้อ่าในความเป็นเนื้อเป็นเครื่องใน
01:07:17 → 01:07:18 เป็น
01:07:18 → 01:07:22 กระดูกเนี่ยมันมันจะมีไอ้ตัวที่เป็นสาย
01:07:22 → 01:07:26 สั้นที่เป็นสายปานกลางน้อยมากน้อยมากนะจะ
01:07:26 → 01:07:30 เรียกว่าแทบเกือบูเลยก็ได้นะฮะเพรานั้น
01:07:30 → 01:07:33 ทุกอย่างที่เป็นสายยาวเนี่ยนะฮะมันเข้า
01:07:33 → 01:07:36 ทางระบบเลือดไม่ได้นะมันก็ต้องเข้าทาง
01:07:36 → 01:07:40 ระบบน้ำเหลืองนะฮะนะไอ้เนื้อก้อนอะไรต่าง
01:07:40 → 01:07:43 ๆที่เป็นโปรตีนน่ะเอามันเข้าทางนี้นะฮะนะ
01:07:44 → 01:07:48 เ่าแล้วก็พร้อมวิตมินแร่ธาตุเก็แล้วแต่นะ
01:07:48 → 01:07:54 ฮะนะแต่ว่าตัวไขมันต่างๆที่เป็นสายยาวไป
01:07:54 → 01:07:56 ทางระบบน้ำเหลือง
01:07:56 → 01:08:00 ไปทางระบบน้ำเหลืองแล้วไฮโรมาคอนก็พาไปนะ
01:08:00 → 01:08:02 ฮะพาไป
01:08:02 → 01:08:04 เอ่อที
01:08:04 → 01:08:10 นี้ส่วนใหญ่เนี่ยนะส่วนใหญ่พาไปเนี่ยนะ
01:08:10 → 01:08:14 ร่างกายก็งงๆอยู่อ่ะนะฮะก็คือร่างกายเชอบ
01:08:14 → 01:08:17 ใช้ไขมันจากพืชใช่มั้ยมันมีคุณสมบัติที่
01:08:17 → 01:08:20 ดี 1 2 3 อะไรต่างๆเนี่ยนะมีสารศึกษา
01:08:20 → 01:08:26 เคมีอ่อเป็นเพียวเอนเนอร์ยีที่อ่า
01:08:26 → 01:08:30 อะไรอ่ะที่ที่เป็นไปตามลักษณะของเซลล์ของ
01:08:30 → 01:08:33 ร่างกายที่เป็นองค์ประกอบเยี่มเซลล์อ่ะนะ
01:08:33 → 01:08:36 ฮะนะแต่ไอ้ไขมันที่คุณกินจากเนื้อวัว
01:08:36 → 01:08:38 เนื้อหมูบ้างเนื้อเป็ดเนื้อไก่กุ้งปูปลา
01:08:38 → 01:08:42 หอยอะไรต่างๆพวกเนี้ยนะเออโดยเฉพาะถ้า
01:08:42 → 01:08:44 เนื้อสัตว์บกขนาดใหญ่เนื้อแดงๆอะไรต่างๆ
01:08:44 → 01:08:47 เนี่ยมันก็มีอิ่มตัวไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว
01:08:47 → 01:08:49 เชิงซ้อนอะไรของมันเนี่ยแต่มันอาจจะไม่
01:08:49 → 01:08:53 แมทกับเซลล์นะฮะของร่างกายคนคนนั้นของ
01:08:54 → 01:08:57 ร่างกายมนุษย์เรานะฮะนะเพราะฉะนั้นเนี่ย
01:08:57 → 01:09:02 การแพร่ที่จะไปเป็นพลังงานนะกับเซลล์ต่าง
01:09:02 → 01:09:05 ๆเหล่าเนี้ยมันก็มันก็ได้ไม่เต็มเม็ดเต็ม
01:09:05 → 01:09:09 หน่วยนักอ่ะนะฮะนะก็ก็จะได้แล้วแต่นะฮะนะ
01:09:09 → 01:09:13 แต่ส่วนใหญ่มันจะได้ไม่เกิน 20% นะฮะหลัง
01:09:13 → 01:09:17 จากนั้นมันก็จะไปเข้าระบบเลือดนะฮะโดย
01:09:17 → 01:09:21 เนี่ยไคโรไมคอนนะนะเอาผ่านทางระบบเลือดไป
01:09:21 → 01:09:26 นะนะก็แล้วแต่นะคราวนี้อ่ามีการผ่านระบบ
01:09:26 → 01:09:30 เลือดนะอ่าก็เอาไปใช้ได้ก็ไปใช้นะฮะแต่
01:09:30 → 01:09:32 มันก็ใช้ได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยอีกแหละ
01:09:32 → 01:09:36 เพราะเพราะสัดส่วนของมันเนี่ยนะคือไขมัน
01:09:36 → 01:09:39 เนี่ยมันโฟกัสที่สัดส่วนไงหมอถึงบอกว่าไข
01:09:39 → 01:09:43 มันสำคัญที่สุดสัดส่วนซึ่งมันจะต้องคล้าย
01:09:43 → 01:09:46 คลึงนะกับเซลล์ของเราด้วยกับเยื่อหุ้ม
01:09:46 → 01:09:49 เซลล์ของเราด้วยแต่ถ้ามันไม่ไม่คล้ายคลึง
01:09:49 → 01:09:52 เนี่ยมันก็แล้วแต่นะฮะมันใช้ได้ไม่เต็ม
01:09:52 → 01:09:56 เ็ดเต็มหน่วยในที่สุดเนี่ยพวกเนี้ยก็จะมา
01:09:56 → 01:10:01 กลับมาที่ตับนะนะคือมันก็มาตามไคโรไมคอน
01:10:01 → 01:10:04 นะแล้วไคโรไคออนสุดท้ายที่เราเรียกไมคอน
01:10:04 → 01:10:08 เนี่ยนะเตัวไคลคอเนี่เขาต้องมีอันเป็นไป
01:10:08 → 01:10:12 นะเขาอยู่นานไม่ได้ในเลือดนะอ่าเพราะ
01:10:12 → 01:10:15 ฉะนั้นเขาก็จะต้องพยายามจ่ายอ่าไอ้ตัวไไ
01:10:15 → 01:10:22 ออกนะก็ไม่ให้ที่ตัดนะเพราะฉะนั้นถ้ากิน
01:10:22 → 01:10:26 ไขมันนะที่ปะปนมากับเนื้อสัตว์เยอะๆนะ
01:10:26 → 01:10:29 เยอะๆเพราะไม่ไม่เข้าใจเรื่องของการใช้
01:10:29 → 01:10:33 น้ำมันสกัดเย็นอะไรเลยนะฮะนะแนวโน้มนะที่
01:10:33 → 01:10:38 จะไม่ถูกใช้จะมากนะเพราะสัดส่วนไม่พอดี
01:10:38 → 01:10:42 กับเยหุมเซลล์นะฮะนะและการที่จะถูกนำมา
01:10:42 → 01:10:47 ที่ตับนะฮะนะเหมือนก็จะเยอะนะฮะ
01:10:47 → 01:10:51 นะอันนี้อันนี้น่าจะพอเข้าใจนะ
01:10:51 → 01:10:57 เอว่าเพราะเพราะอะไรเพราะอะไรครับผมทีนี้
01:10:57 → 01:11:01 เอ่อที่ตับเนี่ยนะเวลาที่เขาได้ไขมันมา
01:11:01 → 01:11:07 เยอะๆนะนะเพราะเรากินฟไงนะเรากินโฟเขาก็
01:11:07 → 01:11:10 อาจจะเอาไขมันน่ะมาใช้เพราะตับเนี่ยมัน
01:11:10 → 01:11:14 เป็นเซลล์ของอวัที่มันใช้ได้เฉพาะตัวไิน
01:11:14 → 01:11:17 หรือฟ fy aid เท่านั้นมันใช้น้ำตาลไม่
01:11:17 → 01:11:22 ได้มันใช้คีโตนไม่ได้นะฮะนะเนี่ยตับมัน
01:11:22 → 01:11:27 เวลาตับมันมันต้องใช้ไตกีจากจากไขมันจาก
01:11:27 → 01:11:30 สัตว์บกเนื้อแดงขนาดใหญ่เนี่ยมันจะ
01:11:30 → 01:11:32 เหนื่อยมล่ะ
01:11:32 → 01:11:36 หคิดว่ามันน่าจะเหนื่อยมเมื่อเทียบกับสับ
01:11:36 → 01:11:40 เนี่ยเได้น้ำมันสกัดเย็นทอยแล้วเเอามาใช้
01:11:40 → 01:11:44 อ่ะนะฮะเพราะฉะนั้นอย่างนึงเนี่ยนะเวลา
01:11:44 → 01:11:46 เรากินเนื้อสัตว์พวกนี้เยอะๆแล้วเราไม่
01:11:46 → 01:11:50 ได้กินน้ำมันสกัดเย็นเนะนะมันก็แน่นอนล่ะ
01:11:50 → 01:11:53 นะคือตับมันก็เหมือนมันต้องทำงานหนักอ่ะ
01:11:53 → 01:11:57 คุณไอโปรตีนแล้วก็กินแบบไอ้เคสที่ผ่านมา
01:11:57 → 01:12:00 วันละ 2 กอ่ะนะ 3 ชั้นครึ่งกลเนื้อแดงกล
01:12:01 → 01:12:04 ครึ่งเงี้ยนะเอนไซม์ตับมันจะเป็นยังไงอ่ะ
01:12:04 → 01:12:07 ตับเิบมันก็เหนื่อยอ่ะมันใช้ไขมันลากเ
01:12:07 → 01:12:11 ครับผมเออมันก็มันก็มันก็น่าจะมีอะไรที่
01:12:11 → 01:12:16 แปลกๆอ่ะนะนะนะแล้วเนี่ยถ้าเกิดมีปัจจัย
01:12:16 → 01:12:19 บางสิ่งบางอย่างเขาหรือว่าอินซูลินมา
01:12:19 → 01:12:23 คอร์ติซอลมาเพราะมันเครียดมากมันสสมากนะ
01:12:23 → 01:12:26 ร่างกายมันไม่ได้ไขมันที่เหมาะสมสักทีนึง
01:12:26 → 01:12:30 เยี้ im นานๆเนี่ยคอร์ติซอลก็บอกว่ากูไม่
01:12:30 → 01:12:33 เผาผลาญต่อไม่จ่ายให้ใครแล้วเก็บสะสมเลย
01:12:33 → 01:12:36 นะฮะเพราะฉะนั้นถ้าคอร์ติซอลเเข้าโหมดของ
01:12:36 → 01:12:39 การสะสมพลังงานเมื่อไหร่เนี่ยนะตำแหน่ง
01:12:40 → 01:12:43 แรกที่จะเกิดพลังงานสะสมก็คือตับนี่แหละ
01:12:43 → 01:12:46 ก็เป็นภาวะไขมันทอกตับเอนไซม์ก็ชู้ดขึ้น
01:12:47 → 01:12:51 มานะหรือเอนไซม์มันไม่ไม่ไม่ไม่ไม่สวยๆ
01:12:51 → 01:12:55 อ่ะไม่สวยๆ 10 กว่าสักกที hpt อ่ะครับนะ
01:12:55 → 01:12:59 เออก็กินเนี่ยกินโลคาไโปรตีนอะไรมาแต่
01:12:59 → 01:13:03 ทำไมเอนไซม์ตับไปแต่ๆ 403 กว่านะฮะก็
01:13:03 → 01:13:06 เพราะว่าส่วนหนึ่งเนี่ยนะเขาใช้ไอ้ตัวี fy
01:13:07 → 01:13:09 Acid จากเนื้อแดงอะไรอย่างเงี้ยซึ่งมัน
01:13:09 → 01:13:12 มันไม่รู้ว่าเขากินมากกินน้อยกินยังไง
01:13:12 → 01:13:15 แล้วเนื้อแดงปัจจุบันเนี่ยคุณไม่ได้
01:13:15 → 01:13:17 เลี้ยงหมูเลี้ยงวัวเองแล้วก็แล่เนื้อมา
01:13:17 → 01:13:21 กินนี่คุณต้องไปผ่านอะไรไม่รู้อ่ะนะแล้ว
01:13:21 → 01:13:23 เนื้อแดงเหล่านั้นไขมันเหล่านั้นน่ะก็
01:13:23 → 01:13:25 ยิ่งบอกอยู่ว่าเอ่อสัตว์สิ่งมีชีวิตเนี่ย
01:13:25 → 01:13:28 เก็ไม่ได้เก็บไว้ที่กล้ามเนื้อกระดูกนะ
01:13:28 → 01:13:31 พีทเพิร์อะไรต่างๆเนี่ยที่บำรุงบำเรอปน
01:13:31 → 01:13:34 เปอฉีเฉิดอะไรให้เอ่ะนะเขาก็เก็บไว้ในไข
01:13:34 → 01:13:37 มันล่ะนะไขมันไม่ว่ามันจะอยู่ใต้ผิวหนัง
01:13:38 → 01:13:40 มันแทรกอยู่ในไอ้เซลล์กล้ามเนื้อเนี่ยมัน
01:13:40 → 01:13:43 ก็เต็มไปด้วยพิษั้นั้นแรว่านะเพราะฉะนั้น
01:13:43 → 01:13:48 เนี่ยเอนไซม์ตับผิดปกตินะเหรือตับผิดปกติ
01:13:48 → 01:13:51 จนกระทั่งไทรอย์เดี้ยงเป็นรูปโซ่ไปเลยนะ
01:13:51 → 01:13:54 เพราะฉะนั้นอันเนี้ยถ้าจะอธิบายเนี่ยมัน
01:13:54 → 01:13:58 ก็ต้องพูดไปถึงจุดนี้นะฮะนะเนี่ยอธิบาย
01:13:58 → 01:14:03 กันอย่างเงี้ยนะพอแต่หมอถามเนตหรือไฮโรกน
01:14:03 → 01:14:06 ว่าเราเอารูปนี้มาเนี่ยมันจะอะไรมยังพอ
01:14:06 → 01:14:12 มองออกกันนะเนอ
01:14:12 → 01:14:17 เออไม่ไดุ้ครับทีนี้อย่างนึงเนี่ยนะฮะใน
01:14:17 → 01:14:20 กรณีที่ไขมันเนี่ยนะที่มาที่ตับเนี่ยนะฮะ
01:14:20 → 01:14:26 นะแล้วแล้วจากการรอบที่ผ่านมาเนี่ยนะร่าง
01:14:26 → 01:14:28 กายมันเหมือนมันได้พลังงานยังไม่พอเนี่ย
01:14:28 → 01:14:33 นะตับนมันก็ต้องแกิอ่า Packing พลังงาน
01:14:33 → 01:14:36 ที่เป็นไตกลนเนี่ยเพื่อจะส่งออกนะฮะเพื่อ
01:14:36 → 01:14:40 จะส่งออกนะซึ่งเราก็ทราบว่าเส่งในรูปของ
01:14:40 → 01:14:45 vldl นะอ่าที่จะเอาพลังงานเนี่ยไปในระบบ
01:14:45 → 01:14:49 กระแสเลือดนะฮะแล้วก็เป็นเซลอ่ายังไม่พอ
01:14:49 → 01:14:51 ใช่มยังอยากจะได้พลังงานใช่มั้ยเห็นเรียก
01:14:51 → 01:14:56 ร้องเรนะเดี๋ยวมีเรือลำนี้ชื่อ vldl
01:14:56 → 01:14:58 เนี่ยไปส่งส่งเสร็จแล้วเก็เปลี่ยนเป็น
01:14:58 → 01:15:02 อะไรอ่ะเป็น ldl ไป ldl ครับผมเพราะ
01:15:02 → 01:15:06 ฉะนั้น L vldl เนี่ยนะเนี่ยถ้าเกิดว่า
01:15:06 → 01:15:09 น้ำมันเนี่ยน้ำมันนะหรือไขมันอะไรต่างๆ
01:15:09 → 01:15:12 เนี่ยมันไม่เหมาะสมเนี่ยนะฮะนะมันก็จะ
01:15:12 → 01:15:16 ต้องเนี่ยเกิดการทำงานของตับเกิดการใช้
01:15:16 → 01:15:21 งานของตับที่เหนื่อยนะแล้วก็ยังจะต้องส่ง
01:15:21 → 01:15:24 ออกไปให้เซลล์อื่นๆอีกด้วยนะฮะเพราะเก็
01:15:24 → 01:15:28 ต้องการพลังงานนะฮะนี่แหละนะตับมันก็เลย
01:15:28 → 01:15:33 ทำงั้นน่ะนะฮะถ้าเราจัดไขมันไม่เป็นไม่
01:15:33 → 01:15:36 ถูกต้องไม่เข้าใจนะ
01:15:36 → 01:15:40 ฮะเเนี้ยก็คือพอมาเป็นหน้าที่ของ VL VL
01:15:40 → 01:15:42 แล้วก็คือเป็น
01:15:42 → 01:15:47 ลักษณะแแล้วใช่มครับใช่เนี่ย
01:15:48 → 01:15:53 เนี่ยทีนี้ vldl ที่เเอาไปส่งอ่ะนะก็ไม่
01:15:53 → 01:15:58 ได้แปลว่าถ้าถ้าเขเอาไิรจากตับแกิเ่ะแล้ว
01:15:58 → 01:16:01 ไปส่งแล้วเนี่ยเซลล์เยังจะต้องการน่ะนะ
01:16:02 → 01:16:06 มันก็ขึ้นอยู่กับว่าว่าสัดส่วนของไอ้ตัว
01:16:06 → 01:16:09 ไตกีสไลที่มันเป็นอิ่มเดี่ยวซ้อนอะไรต่าง
01:16:09 → 01:16:14 ๆอ่ะนะมันเป็นยังไงอ่ะมัน 30 50 20
01:16:14 → 01:16:19 หรือเปล่านะเนี่ยนะเพราะฉะนั้นเซลล์เก็
01:16:19 → 01:16:22 ใช้ได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยนะด้วยเหตุ
01:16:22 → 01:16:25 เนี้ยมันก็เลยที่เราเรียกว่า Energy
01:16:25 → 01:16:28 imbalance น่ะหรืออาจจะบอกว่าพลังงานไม่
01:16:28 → 01:16:32 พอ lack of Energy หรือว่ากินพลังงาน
01:16:32 → 01:16:35 ผิดเพราะว่า vldl เค้าก็เป็นเรือที่จะส่ง
01:16:36 → 01:16:41 พลังงานอยู่ใช่มั้ยล่ะส่งส่งแต่ว่าเซลล์
01:16:41 → 01:16:46 ใช้ใช้ไม่พอเออเซลล์เค้าเซลล์เ้าอยากจะ
01:16:46 → 01:16:48 ใช้พลังงานจากไขมันเพราะธรรมชาติเนี่ย
01:16:48 → 01:16:52 เอ่อร่างกายของคนและสัตว์เนี่ยมันใช้ไข
01:16:52 → 01:16:55 มันเป็นพลังงานอยู่แล้วเออครับผมทั้งวัว
01:16:55 → 01:16:58 ทั้งหมูทั้งเป็ดทั้งไก่อะไรต่างๆเนี่ยเขา
01:16:58 → 01:17:02 ไม่โอเคที่จะใช้ไผใช้ใช้กลูโคสนะฮะนะอื
01:17:02 → 01:17:05 ไม่มีนะฮะ Animal Kingdom เนี่ยเขาใช้
01:17:06 → 01:17:10 พลังงานจาก Fat ทั้งนั้นนะฮะนะวัวกินหญ้า
01:17:10 → 01:17:13 นะหญ้าเนี่ยนะคุณเรียกว่ามันเป็นคาฟแต่
01:17:14 → 01:17:16 มันเป็นคาฟประเภทไฟเบอร์แล้วไไฟเบอร์
01:17:16 → 01:17:18 เนี่ยมันถูก Convert หรือเปลี่ยนเป็นไข
01:17:18 → 01:17:21 มันสายสั้นแล้วไปเป็นพลังงานกับวัวนะ
01:17:21 → 01:17:23 เพราะฉะนั้นวัวเนี่ยใช้อะไรเป็นพลังงานก็
01:17:23 → 01:17:27 ใช้ไขมันไขมันครับผมเออเพราะฉะนั้น Animal
01:17:27 → 01:17:30 Kingdom เนี่ยเขาใช้ไขมันเป็นพลังงานเขา
01:17:30 → 01:17:33 ไม่ได้ใช้น้ำตาลเป็นพลังงานเขาไม่ได้ใช้
01:17:33 → 01:17:40 นะฮะนะเออแต่ก็แปลกมยล่ะนะมนุษย์จะว่าโง่
01:17:40 → 01:17:44 หรือฉลาด่ะนะนะอยู่ดีๆก็เอาแต่พิษที่เป็น
01:17:44 → 01:17:48 น้ำตาลน่ะใส่เข้าร่างมันไม่ได้ใช้อ่ะแล้ว
01:17:48 → 01:17:51 จะกินเขไปทำไมเพราะฉะนั้นการที่หมอโวยวาย
01:17:51 → 01:17:54 บอกว่าแล้วจะกินเขไปทำไมจะกินเขไปทำไม
01:17:54 → 01:17:55 อะไรอย่างเงี้ย
01:17:55 → 01:17:59 ครับผมมันต้องรู้จริงอ่ะว่าเไม่ได้ใช้เออ
01:17:59 → 01:18:03 เขาอยากใช้ไขมันก็กินไขมันเข้าไปสิเอแล้ว
01:18:03 → 01:18:06 เลือกหน่อยมีความรู้หน่อยเออจะกินไขมัน
01:18:06 → 01:18:09 อะไรกินแล้วเซลล์เก็แฮปปี้กระดีกระดามาๆๆ
01:18:09 → 01:18:14 มาๆๆอยากได้อยากได้เออแต่ถ้าคุณกินไขมัน
01:18:14 → 01:18:16 สัตว์เข้าไปกินน้ำมันหมูเข้าไปเนี่ยเา
01:18:16 → 01:18:19 อยากได้มยฉันก็ว่าเซลลเก็ไม่อยากได้อ่ะ
01:18:19 → 01:18:25 แต่เจำใจจะได้อ่ะครับผมเออมันก็ต้องกัน
01:18:25 → 01:18:29 แบบเนี้ยมันถึงได้มีรถมีชาติครับผมจำใจจำ
01:18:29 → 01:18:35 ใจได้เอจำใจยอมจำใจยอมได้แต่ว่าถ้าเป็น
01:18:35 → 01:18:40 อิ่มเดี่ยวซ้อเนี่ยเซลจะชอบเลยถูกใจก็ใช่
01:18:40 → 01:18:45 อ่ะสินะใช่เนี่ยเ่อจริงๆแล้วเนี่ยนะมันก็
01:18:45 → 01:18:48 จากจากลำไส้นะมันก็ไปทางไคโรไอคอนอะไร
01:18:48 → 01:18:51 ต่างๆนะฮะนะอันนี้อันนี้ไม่มีอะไรอันนี้
01:18:51 → 01:18:55 ไม่มีอะไรเนี่ยนะเนี่ยนะเราก็เทียบเป็น 2
01:18:55 → 01:18:59 ตารางแบบนี้เลยนะฮะอืครับผม
01:18:59 → 01:19:02 เนี่ยก็อย่าลืมว่ามันภาระหนักมันอยู่ที่
01:19:02 → 01:19:07 ตับจริงๆนะในแง่ของการจัดพลังงานเนาะคือ
01:19:07 → 01:19:11 ตอนที่แพคกิเป็น vldl แล้วเนี่ยยังยังมี
01:19:11 → 01:19:15 ความเป็นน้ำมันอินเดี่ยวซ้อนอยู่มครับอ๋อ
01:19:15 → 01:19:19 มันเป็นโครงสร้างของไตกีสลยนะฮะครับนะมัน
01:19:19 → 01:19:25 เป็นโครงสร้างไกินนะซึ่งไกินนั้นเนี่ยไป
01:19:25 → 01:19:29 คลนอันเนี้ยมันก็คือเป็นเป็นอิ่มเดี่ยว
01:19:29 → 01:19:32 ซ้อนอยู่แล้วนะคือคืออ้าวไพโรจไพโรจหลับ
01:19:32 → 01:19:36 สิเพราะหมอบอกตอนนี้แล้วว่าไอ้สิ่งที่มัน
01:19:36 → 01:19:39 จะเข้าทางระบบน้ำเหลืองเนี่ยมันไม่มีสาย
01:19:39 → 01:19:42 สั้นกับสายปานกลางมันมีแต่สายยาวหมดเลยส
01:19:42 → 01:19:46 ยาวนะซึ่งสายยาวเนี่ยมันจะมีตั้งแต่ิ 42
01:19:46 → 01:19:51 80% หลังจากนั้น C 144 c16 c18 C ไป
01:19:51 → 01:19:55 จนถึง c24 เนี่ยนะทุกซีเนี่ย 100% ต้อง
01:19:55 → 01:19:59 เข้าทางระบบน้ำเหลืองและจัดตัวเองอยู่ใน
01:19:59 → 01:20:04 รูปของไตรกีซาไลน์ครับผมอ่ออยู่รูปของ
01:20:04 → 01:20:07 ไตรกีสไลซึ่งไตรกีสไลก็จะมี
01:20:07 → 01:20:12 อ่าอิ่มเดี่ยวซ้อนนะแล้วก็จะต้องมีสัด
01:20:12 → 01:20:17 ส่วนนะไขมันมันสำคัญที่สัดส่วน 30 50 20
01:20:17 → 01:20:21 นะอิ่มตัว 30 นะเพราะฉะนั้นเนี่ยการที่
01:20:21 → 01:20:26 เราผสมแล้วกินอิ่มเดี่ยวซ้อนนะเข้าไปเลย
01:20:26 → 01:20:28 อันนี้เขาก็เข้าทางระบบน้ำเหลืองนี่ได้
01:20:28 → 01:20:35 เลยะนะนะแล้วก็ไปโดยไคโรไมคอนพาไปเลยนะเ
01:20:35 → 01:20:38 ให้หัวหัวใจใช้ให้เซลล์ต่างๆใช้โดยการ
01:20:38 → 01:20:46 แพร่นะที่เหลือกลับมาให้ตับใช้นะเนี่ยตับ
01:20:46 → 01:20:52 ใช้หมดหมดก็พอนะโดยครับทุกอย่างเี่มันมี
01:20:52 → 01:20:56 ฮอร์โมนลูกเทพเป็นตัวบงการให้ใช้อคุณหมอ
01:20:56 → 01:21:00 ครับเหมือนเหมือนไอ้พวกสารพฤกษาเคมีในพวก
01:21:00 → 01:21:03 พวกน้ำมันพืชสกัดเย็นเนี่ยมันจะไปอยู่ตรง
01:21:03 → 01:21:06 ไหนครับผมอ๋อมันก็มาทางระบบน้ำเหลืองฮะ
01:21:06 → 01:21:10 คือคือสารพฤกษาเคมีเนี่ย 20% มันเข้าทาง
01:21:10 → 01:21:15 ระบบเลือดนะฮะ 80% มาคู่กันน้ำมันนะเ่อไป
01:21:15 → 01:21:19 ทางระบบน้ำเหลืองนะฮะคือระบบน้ำเหลืองไม่
01:21:19 → 01:21:22 ใช่ระบบขนส่งพลังงานระบบน้ำเหลืองเป็น
01:21:22 → 01:21:27 ระบบขนส่งพลังงาน 80% ระบบน้ำเหลืองขนส่ง
01:21:27 → 01:21:31 อาหารสารอาหารนะฮะ 20% สารอาหารอ๋อครับผม
01:21:31 → 01:21:36 ระบบเลือดขนส่งสารอาหาร 80% ขนส่งพลังงาน
01:21:36 → 01:21:39 จริงๆอ่ะระบบเลือดเ้าขนส่งแค่ไม่เกิน 20%
01:21:39 → 01:21:43 นะไม่เกิมันเป็นสูต 20 80 นะครับผมระบบ
01:21:43 → 01:21:48 น้ำเหลืองขนส่งพลังงานนะโดยอยู่ในรูปของ
01:21:48 → 01:21:53 ไตกิลซึ่งเป็นกดไขมันสายยาวนะและกดไขมัน
01:21:53 → 01:21:56 สายยาวนี่แหละร่างกายก็ชอบใช้เป็นพลังงาน
01:21:56 → 01:21:59 นะฮะแต่ยังไงก็ตามมันยังมีความเป็นสาร
01:21:59 → 01:22:04 อาหารด้วยที่จะมาในระบบน้ำเหลืองนะโดย
01:22:04 → 01:22:09 ร่วมไปร่วมไปกับร่วมไปกับพลังงาน 80% สาร
01:22:09 → 01:22:11 อาหารที่ว่านี้ได้แก่อะไรบ้างอันที่ 1
01:22:11 → 01:22:15 คือคอเลสเตอรอลนะคอเลสเตอรอลเป็นสารอาหาร
01:22:15 → 01:22:20 นะฮะนะที่มากับไขมันอิ่มตัวนะอันที่ 2 ก็
01:22:20 → 01:22:23 คือวิตามินที่ละลายในไขมันถือว่าเป็นสาร
01:22:23 → 01:22:25 อาหารนะ
01:22:25 → 01:22:31 ade นะ EK จะมากับไขมันต่างๆนะทั้งอิ่ม
01:22:31 → 01:22:36 เดี่ยวซ้อนนะส่วนใหญ่มันมากับอ่าพวกอ่า
01:22:36 → 01:22:39 ไม่อิ่มตัวนะเชิงเดี่ยวเชิงซ้อนนะฮะเยอะ
01:22:39 → 01:22:45 ade นะอมาครบแต่คอเลสเตอรอลจะมา
01:22:45 → 01:22:49 กับมากับอิ่มตัว
01:22:49 → 01:22:52 นะและจะต้องเป็นอิ่มตัวจากสัตว์ถึงจะมี
01:22:52 → 01:22:55 คอเลสเตอรอลมาด้วยอิ่มตัวจากพืชไม่มีนะฮะ
01:22:55 → 01:23:00 นะนอกจากนี้สารพฤกษาเคมี 80% เนี่ยนะจะมา
01:23:00 → 01:23:05 กับไขมันอิ่มเดี่ยวซ้อนนะฮะอิ่มเดี่ยว
01:23:05 → 01:23:08 ซ้อนนะเพราะฉะนั้นระบบน้ำเหลือง 20% มัน
01:23:09 → 01:23:15 มีสารอาหารมาด้วยนะนะโอเมก้า 3 จากสัตว์
01:23:15 → 01:23:19 ก็จะมาเป็นสารอาหารนะฮะนะในระบบน้ำเหลือง
01:23:20 → 01:23:22 อในระบบน้ำเหลืองนะ
01:23:22 → 01:23:26 ฮะแบบนี้มันก็แพร่เข้าเซลล์ได้เร็วแล้วก็
01:23:26 → 01:23:31 ใช้ได้ได้ได้ง่ายกว่าถูกต้องฮะถูกต้องนะ
01:23:31 → 01:23:34 เนี่ยนะเพราะฉะนั้นเนี่ยคอเลสเตอรอลไม่
01:23:34 → 01:23:37 ได้เข้าทางระบบเลือดนะฮะนะครับเพราะ
01:23:37 → 01:23:42 คอเลสเตอรอลเนี่ยเต้องจับคู่กับรี fatty
01:23:42 → 01:23:46 Acid หรือไตรกีซาไลน์แล้วเข้าทางระบบน้ำ
01:23:46 → 01:23:49 เหลืองครับเพราะฉะนั้นการที่คุณมี
01:23:49 → 01:23:55 คอเลสเตอรอลในเลือดสูงนะในเลือดสูงมันไม่
01:23:55 → 01:23:57 ได้เกี่ยวกับคอเลสเตอรอลที่คุณกินเข้าไป
01:23:57 → 01:24:00 จากอาหารน่ะนะเพราะคอเลสเตอรอลที่คุณกิน
01:24:00 → 01:24:03 จากอาหารเไม่ได้เข้าทางระบบเลือดเเข้าทาง
01:24:03 → 01:24:06 ระบบน้ำเหลืองเพราะฉะนั้นเมื่อพลังงานใน
01:24:06 → 01:24:09 ระบบน้ำเหลืองน่ะถูกนำไปใช้โดยกระบวนการ
01:24:09 → 01:24:13 แพร่เนี่ยนะแล้วถ้าคุณกินอย่างพอดีสัด
01:24:13 → 01:24:17 ส่วนถูกต้องนะมันจะเหลือคอเลสเตอรอลให้
01:24:17 → 01:24:20 สูงในกระแสเลือดแล้วให้ต้องมานั่งไก่หน้า
01:24:20 → 01:24:23 ผากวิตกกังวลแล้วก็ถามโน่นถามนี่บ้าบอคอ
01:24:24 → 01:24:26 แตกเลยทำไมนัก
01:24:26 → 01:24:32 อ่ะนะนะก็คือเนี่ยเราต้องเข้าใจนะฮะนะ
01:24:32 → 01:24:36 เอ่ออย่างโปรตีนเนี่ยนะโปรตีนโปรตีนก็
01:24:36 → 01:24:39 เป็นสารอาหารแต่โปรตีนก็เข้าทางระบบเลือด
01:24:39 → 01:24:43 มันมีโปรตีน 20% น่ะนะฮะที่มันเป็นอะไรนะ
01:24:43 → 01:24:54 คีตนิพนธ์
01:24:54 → 01:24:57 กูโกเอ้ยไม่ใช่ไม่
01:24:57 → 01:24:59 ใช่
01:24:59 → 01:25:03 อินจิอะไรอ๋อครับผมคือกดอะมิโนที่จะ
01:25:03 → 01:25:06 เปลี่ยนเป็นคีโตนน่ะนะอันนี้เเข้าทางระบบ
01:25:06 → 01:25:10 น้ำเหลืองแต่กดอะมิโนนะที่ไม่ได้เปลี่ยน
01:25:10 → 01:25:11 เป็น
01:25:11 → 01:25:16 คตนคือเปลี่ยนเป็นพวกกูกูดเนี่ยนะเขาจะ
01:25:16 → 01:25:20 เข้าทางระบบเลือกนะครับมันก็จะเป็นสูตร 80
01:25:20 → 01:25:23 20 นี่นะตัวเลขเหล่าเนี้ยมันเป็นตัวเลข
01:25:23 → 01:25:24 ที่แบ่ง
01:25:24 → 01:25:27 เพราะฉะนั้นเนี่ย 2 ระบบทั้งน้ำเหลืองน้ำ
01:25:27 → 01:25:29 เลือดเนี่ยก็จะมีทั้งพลังงานและสารอาหาร
01:25:29 → 01:25:36 เข้านะแต่ว่าต้องไปกระจายตัวให้ดีๆนะ
01:25:36 → 01:25:40 ฮะแล้วก็คอเลสเตอรอลนะเคเข้าทางระบบน้ำ
01:25:40 → 01:25:44 เหลืองนะการที่เราตรวจพบคอเลสเตอรอลต่างๆ
01:25:44 → 01:25:48 ในเลือดสูงนะมันเป็นคอเลสเตอรอล
01:25:48 → 01:25:53 ที่ที่ขบวนการของร่างกายอ่ะสร้างขึ้นมา
01:25:53 → 01:25:57 ตรง VL rl ที่มีการ Packing ไิรออกจาก
01:25:57 → 01:26:01 ตับนี่แหละตรงนี้แหละนะเนี่ยอกระบวนการ
01:26:01 → 01:26:05 ที่จะสะสมพลังงานหรือจะใช้พลังงานอะไร
01:26:05 → 01:26:08 ต่างๆจากตัว vldl เนี่ยนะจะเป็นตัวทำให้
01:26:08 → 01:26:11 เกิดคอเลสเตอรอลนะแต่คอเลสเตอรอลที่เรา
01:26:11 → 01:26:16 กินเข้าไปเนี่ยนะนะถ้าถูกต้องอะไรต่างๆนะ
01:26:16 → 01:26:21 นะพวกนี้ไม่มามีผลนะเป็นคอเลสเตอรอลใน
01:26:21 → 01:26:24 กระแสเลือดหลอก
01:26:24 → 01:26:27 ครับใครอ่ะลองติดตัวไอโซโทปเข้าไปดูก็ได้
01:26:27 → 01:26:32 นะฮะนะนะอันนี้มันเป็นข้ออธิบายอย่างนึง
01:26:32 → 01:26:36 ่ะฮะที่อธิบายว่าทำไมกินคอเลสเตอรอลจาก
01:26:36 → 01:26:38 ข้างนอกเข้าไปเยอะๆแล้วคอเลสเตอรอลใน
01:26:38 → 01:26:42 เลือดก็ไม่ได้สูงจริงนะเพราะมันเข้าทาง
01:26:42 → 01:26:44 ระบบน้ำเหลืองอ่ะไม่ได้เข้าทางระบบเลือด
01:26:44 → 01:26:47 แต่คนก็ไม่พูดถึงระบบเลือดระบบน้ำเหลือง
01:26:47 → 01:26:49 ระบบเลือดระบบน้ำเหลืองเนี่ยนะเไม่เข้าใจ
01:26:49 → 01:26:53 กันแล้วเไม่เข้าใจเรื่องฮอร์โมนนะมันยัง
01:26:53 → 01:26:56 มีเรื่องของแอชของฮอร์โมนที่มาปฏิบัติการ
01:26:56 → 01:27:01 ด้วย
01:27:01 → 01:27:06 อนะก็เนี่ย vldl Packing เอาไกไลไปให้
01:27:06 → 01:27:12 เซลล์ใช้แต่ถามว่าแล้วเซลล์เนี่ยนะเคเ
01:27:12 → 01:27:15 อยากจะใช้มที่มาที่ไปของตัวไตกิลอันเนี้ย
01:27:15 → 01:27:19 มันอิ่มเดี่ยวซ้อนในอัตราส่วน 30 50 20
01:27:19 → 01:27:23 หรือเปล่านะถ้ามันไม่ใช่แบบนี้นะเซลล์มัน
01:27:23 → 01:27:27 ก็ก็มันก็รับได้ไม่เต็มไม่เต็มหน่วยล่ะนะ
01:27:27 → 01:27:32 ฮะอนะเพราะฉะนั้นทุกอย่างหมอทนี้บอกไว่า
01:27:32 → 01:27:35 ต้องลองไปปฏิบัติก่อนแล้วร่างกายเกิดความ
01:27:35 → 01:27:39 สมดุลในขนาดไหนนะฮะต้องใช้เวลาต่ออีกไป
01:27:39 → 01:27:43 เรื่อยๆมเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรต่างๆนะ
01:27:43 → 01:27:45 เดี๋ยวค่าแลบเนี่ยมันฟ้องจากสิ่งที่เรา
01:27:46 → 01:27:49 ปฏิบัติและเอาไปทำกินเนี่ยแล้วทั้งนั้น
01:27:49 → 01:27:56 แหละนะฮะมันจะพออธิบายได้นะ
01:27:56 → 01:28:01 ก็สุทัศน์ก็เงียบไปเนอะถ้าสุทัศน์อยู่เคง
01:28:01 → 01:28:07 จะถามจุ๊กจิ๊กอ่ะนะอ่ะไม่เป็นไรนะนี่แหละ
01:28:07 → 01:28:12 ทีนี้อ่าหมอเคยให้ตารางอันเนี้ยไปนะแต่
01:28:12 → 01:28:16 ตอนนั้นก็พูดแค่คร่าวๆนะฮะนะถ้าวันนี้นะ
01:28:16 → 01:28:20 ถ้าวันเนี้ยเราพอเข้าใจเรื่องเรื่องตาราง
01:28:20 → 01:28:24 อันเนี้ยนะนะเรื่องการเข้าออกของไขมันน้ำ
01:28:25 → 01:28:28 มันสกัดเย็นหรือไม่สกัดเย็นหรือไขมันต่าง
01:28:28 → 01:28:31 ๆอิ่มเดี่ยวซ้อนอะไรต่างๆที่มากับเนื้อ
01:28:31 → 01:28:34 สัตว์ก็ตามคืออย่าลืมว่าเรากินโปรตีน
01:28:34 → 01:28:36 เนื้อสัตว์โปรตีนเนื้อสัตว์มีไขมันใช่มั้
01:28:36 → 01:28:41 แล้วไขมันของหมูไขมันของวัวมันมีมันมี
01:28:41 → 01:28:45 อิ่มตัวอย่างเดียวเหรอไม่นะฮะนะเ้ามีทั้ง
01:28:45 → 01:28:47 อิ่มตัวไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวไม่อิ่มตัว
01:28:47 → 01:28:51 เชิงซ้อนเนี่ยนะฮะมันก็แล้วแต่นะแต่ถ้า
01:28:51 → 01:28:54 เป็นวัวเนี่ยอิ่มตัวเนี่ยมันก็เกือบ 50
01:28:54 → 01:29:00 นะฮะวัวเนี่ยอิ่มตัวประมาณ 46% นะฮะนะนะ
01:29:00 → 01:29:03 เสร็จแล้วมันก็มีอะไรอ่ะมีไม่อิ่มตัวเชิง
01:29:03 → 01:29:07 เดี่ยวอ่าไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนอะไรอย่าง
01:29:07 → 01:29:12 เงี้ยนะฮะครับอย่างหมูอ่ะหมูเนี่ยมันเป็น
01:29:12 → 01:29:17 ไขมันไขมันไม่อิ่มตัวนะเอ่อไม่อมตัวเชิง
01:29:17 → 01:29:21 เดี่ยวอ่ะเยอะอิ่มตัวน้อยนะแต่วัวนี่อิ่ม
01:29:21 → 01:29:25 ตัวเยอะไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวน้อยนะอืแต่
01:29:25 → 01:29:27 หมูเนี่ย
01:29:27 → 01:29:32 มีมีไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนเยอะฮะนะเพราะมัน
01:29:32 → 01:29:35 เปลี่ยนต่อไม่ได้มันเปลี่ยนต่อไม่ได้นะ
01:29:35 → 01:29:38 หมูเนี่ยไม่มีตัวเชิงซ้อนเยอะแล้วโอเมก้า
01:29:38 → 01:29:42 6 ก็เยอะคือสัดส่วนของเนื้อหมูที่เป็นไข
01:29:42 → 01:29:45 มันไม่อิมตัวเชิงซ้อนโอเมก้า 6 จะมากกว่า
01:29:45 → 01:29:48 3 แต่ในเนื้อวัวเนี่ยไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน
01:29:48 → 01:29:54 น้อยแล้วสัดส่วนของ 3 กับ 6 เนี่ยนะเกือบ
01:29:54 → 01:29:58 ๆจะ 1 ต่อ 1 นะโดยเฉพาะวัวเลี้ยงด้วยหญ้า
01:29:58 → 01:30:01 หรือวัวเลี้ยงด้วยหญ้าเนี่ยบางทีโอเมก้า 3
01:30:01 → 01:30:06 เนี่ยนะมากกว่าโอเมก้า 6 อีกนะแต่ถ้าหมู
01:30:06 → 01:30:08 อ่ะไม่ใช่หมูเนี่ยถ้าเลี้ยงด้วยหัวอาหาร
01:30:08 → 01:30:13 ด้วยข้าวโพดด้วยอะไรอ่ะถั่วเหลืองเนี่ยนะ
01:30:13 → 01:30:17 6กไอตัวเออไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนเนี่ยนะจะ
01:30:17 → 01:30:20 เยอะจะเยอะขึ้นมาเยอะเลยเยอะกว่าอิ่มตัว
01:30:20 → 01:30:22 เยอะไม่กว่าไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวแล้ว
01:30:22 → 01:30:26 โอเมก้า 6 ก็จะเยอะขึ้นมาเยอะเยอะแยะเลย
01:30:26 → 01:30:29 เพราะฉะนั้นนี่แหละถึงได้เรียกว่าถึงคุณ
01:30:29 → 01:30:32 กินเนื้อหมูกินเนื้อวัวแต่มันเป็นอะไรที่
01:30:32 → 01:30:37 มันมาจากท้องตลาดที่มันไม่ใช่แบบอนามัย
01:30:37 → 01:30:40 ออร์แกนิคอะไรอย่างเงี้ยนะครับแล้วสัด
01:30:40 → 01:30:45 ส่วนของไขมันเนี่ยมันไม่ใช่แบบแบบที่ที่
01:30:45 → 01:30:49 สภาพอ่าเยื่อหุ้มเซลล์เค้าเค้าเอะไร 30
01:30:49 → 01:30:52 50 20 อย่าเงี้ยนะเพราะฉะนั้นเค้าก็ไม่
01:30:52 → 01:30:56 ตอบรับนักหรอกฮะการแพร่นะครับงั้นเซลล์
01:30:56 → 01:30:59 มันก็มันก็เอามีแค่ไหนมันใช้ได้แค่ไหนก็
01:30:59 → 01:31:02 แค่นั้นน่ะมันไม่กระดี้กระดางอ่ะเพราะ
01:31:02 → 01:31:05 ฉะนั้นสาเหตุหนึ่งของการที่รณรงค์ให้แนะ
01:31:05 → 01:31:08 นำให้ใช้น้ำมันสกัดเย็นทีออยเพราะว่าเรา
01:31:08 → 01:31:12 สามารถคำนวณเราสามารถเอ่อหาสัดส่วนอะไร
01:31:12 → 01:31:14 ต่างๆที่ค่อนข้างจะพอดีแล้วก็เป็นเหตุ
01:31:14 → 01:31:17 เป็นผลได้ได้เพราะฉะนั้นเวลาเอาไปกินเอา
01:31:17 → 01:31:20 ไปใช้อะไรต่างๆนะสุขภาพมันถึงได้ดีขึ้นนะ
01:31:20 → 01:31:26 ก็พูดได้แค่เออนะแต่อย่างอื่นเนี่ยเออมัน
01:31:26 → 01:31:30 ไม่ใช่แบบหมูวัวแบบสมัยก่อนอะไรเนี่ยต้อง
01:31:30 → 01:31:34 คิดนะว่าสมัยนี้นี่หมูวัวเนี่ยเราควบคุมเ
01:31:34 → 01:31:36 ได้แค่ไหนล่ะยิ่งเราอยู่ในเมืองใหญ่อย่าง
01:31:36 → 01:31:40 เงี้ยเออยากเออจะไปเลี้ยงเองก็พอดีไม่
01:31:40 → 01:31:45 ต้องกินหรอกนะเออไม่ต้องทำอะไรแล้วนะสมย
01:31:45 → 01:31:49 ก่อนเหมกันหางัวกับหมูสมัยแบบสมัยก่อนยาก
01:31:49 → 01:31:52 ครับตามธรรมชาติคงไม่มีแล้วครับผมเออนั่น
01:31:52 → 01:31:56 แหละนะเพราะฉะนั้นว่าต้องเผื่อใจไว้ว่า
01:31:56 → 01:31:58 ไม่อยากใช้หรอกไอ้น้ำมันสกัดเย็นทฤษฎีบ้า
01:31:59 → 01:32:03 บอคอแตกอะไรก็ไม่รู้นะนะเนื้อหมูเนื้อวัว
01:32:03 → 01:32:06 เนื้อไก่เนื้อเป็ดนี่แหละนะมันก็มีไขมัน
01:32:06 → 01:32:10 น่ะเออก็ลองดูแล้วกันนะก็บอกยากแต่มันมี
01:32:10 → 01:32:14 เหตุผลอธิบายก็มาอธิบายแบบเนี้ยเออใช่
01:32:14 → 01:32:18 สมัยนี้เ้าเลี้ยงกันแบบหัวอาหารทั้งนั้น
01:32:18 → 01:32:20 เลยครับผมก็เลยเออไม่ปลาดีปลาใสหรอกนะ
01:32:20 → 01:32:24 ทั้งคนนะเออ
01:32:24 → 01:32:27 นะอันนี้เนี่ยนะฮะนะเดี๋ยวจะมาฉายให้ดู
01:32:27 → 01:32:31 วันเเราจะเข้าใจนะนะเอ่อเสียโอกาสเนื้อ
01:32:31 → 01:32:34 สุทัศนไม่อยู่เนี่ยอ่าหมอทำมาให้ใหม่แล้ว
01:32:34 → 01:32:39 นะฮะนะเนี่ยนะมันน่าจะพิมพ์ใหม่เขียนใหม่
01:32:39 → 01:32:44 เนอะเนี่ยครับก็คือเนี่ย Diary component
01:32:44 → 01:32:49 ในเรื่องของ Flash นะฮะนะเนี่ยอ่ะอย่างดู
01:32:49 → 01:32:52 ตารางสีม่วงก่อนนะฮะก็คือตรงเนี้ยเราจะดู
01:32:52 → 01:32:57 ตัวเเรียกไ micon product นะกับ vldl
01:32:57 → 01:33:01 product นะเราจะดู 2 ฝั่งนี้นะฮะถ้า
01:33:01 → 01:33:06 ไมคอนเนี่ยนะก็คือสิ่งที่เข้าทางระบบน้ำ
01:33:06 → 01:33:08 เหลืองถ้า vldl product Production
01:33:08 → 01:33:12 เนี่ยก็คือสิ่งที่ตับเนี่ยมันมันแพ็คเกจ
01:33:13 → 01:33:15 ไขมันไกินออกมาแล้วมันส่งเข้าสู่กระแส
01:33:15 → 01:33:18 เลือดอันนี้จะอยู่ในกระแสเลือดเพราะงั้น
01:33:18 → 01:33:21 เวลาเราตรวจเลือด L คอสเตอก็คือค่านี้
01:33:21 → 01:33:24 แหละฮะนะเพราะเราเจาะเลือดไปตรวจแล้ว
01:33:24 → 01:33:29 คำนวณเลก็คือ V vldl เนี่ยนะที่มันเป็น
01:33:29 → 01:33:33 เลนที่มันอยู่ในกระแสเลือดนะถ้ามันมากก็
01:33:33 → 01:33:37 แปลว่า vldl produc เนี่ยหรือตับเต้อง
01:33:37 → 01:33:41 แพคเกจตัวพลังงานไลออกไปเยอะนะฮะแล้วมาดู
01:33:41 → 01:33:44 แหล่งที่มาแล้วกันว่ามันมาจากอะไรก็สืบ
01:33:44 → 01:33:47 สาวเราเรื่องมาจากสิ่งเหล่านี้แต่ในส่วน
01:33:48 → 01:33:51 ที่เป็นไคโรไมคอนเนี่ยนะฮะนะอันนี้ก็เป็น
01:33:51 → 01:33:54 ปฏิกิริยาที่สิ่งต่างๆต่างพวกเนี้ยเจะ
01:33:54 → 01:33:57 เข้าทางระบบน้ำเหลืองไม่ได้เข้าทางระบบ
01:33:57 → 01:33:59 เลือดนะ
01:33:59 → 01:34:04 ฮะอ้าเราเราเนี่ยเดี๋ยว
01:34:04 → 01:34:08 นะเนี่ยก็เนี่ยเนี่ยถ้าอันนี้ก็คือไมคอน
01:34:08 → 01:34:14 produc ก็ไปทางนี้นะฮะนะแต่ถ้าฝั่งนี้
01:34:14 → 01:34:18 ฝั่งนี้นะอ่าฝั่งนี้ก็จะมาทางระบบเลือด
01:34:18 → 01:34:22 เข้าตับใชนะหรือ
01:34:22 → 01:34:26 นะเอาล่ะบางส่วนมันเข้าทางระบบน้ำเหลือง
01:34:26 → 01:34:29 แต่มันก็อย่างว่าแหละมันไม่เหมาะสมไม่ไม่
01:34:29 → 01:34:33 เป็นไขมันที่เหมาะสมที่นำไปใช้นะมันก็มา
01:34:33 → 01:34:38 เข้าระบบเลือดนะทางหัวใจแล้วก็เอามาส่ง
01:34:38 → 01:34:42 ที่ตันะฮะนะเพราะฉะนั้นตับเนี่ยในระบบ
01:34:42 → 01:34:45 เลือดแล้วตับมันรับ 2 ทางนะฮะเนี่ยตับมัน
01:34:45 → 01:34:50 รับ 2 ทางนะทางลำไส้โดยตรงหรือเนี่ยทาง
01:34:50 → 01:34:52 นี้นะฮะ
01:34:52 → 01:34:56 เนี่ยในแล้วก็เขตับเข้าเลือเอเออแล้วก็
01:34:56 → 01:35:01 ตับเนี่ยก็สร้างออกมาแล้วไอ้ตัว vldl
01:35:01 → 01:35:05 เนี่ยจะถูกเอาไขมันไปใช้มากน้อยแค่ไหนแต่
01:35:05 → 01:35:11 นะถ้าเหลือถ้าเหลือมันก็จะกลับกลับสู่
01:35:11 → 01:35:15 ระบบเลือดเนี่ยนะแล้วก็กลับมาที่ตัดต่อ
01:35:15 → 01:35:19 แต่เขาก็จะมีการเปลี่ยนแปลงกับ ldl hdl
01:35:19 → 01:35:23 อะไรต่างๆอ่าก็แล้วแต่นะแต่วันเนี้เราพูด
01:35:23 → 01:35:28 เฉพาะเรื่องไตรกิลนะครับเพราะฉะนั้นนะฮะ
01:35:28 → 01:35:33 เนี่ยนะอันเนี้ยจะเป็นตัวแยก
01:35:33 → 01:35:34 นะ
01:35:34 → 01:35:38 Holic restriction and weight loss
01:35:38 → 01:35:43 นะฮะนะเนี่ยมีการทำจำกัดอาหารจำกัดการกิน
01:35:43 → 01:35:47 การอดนะทำ If นั่นแหละนะฮะ
01:35:47 → 01:35:55 นะพวกนี้นะฮะเอ่อพวกนี้ก็จะใช้คือ
01:35:56 → 01:36:01 คือก็คือจริงๆเนี่ยจริงๆ
01:36:01 → 01:36:06 เนี่ยมันมันใช้มันใช้จากลำไส้กับใช้จาก
01:36:06 → 01:36:10 ตับเนี่ยนะน้อยนะฮะนะจะเห็นว่าไคโอ
01:36:10 → 01:36:13 Production น้อย vldl
01:36:13 → 01:36:18 Production น้อยนะฮะนะ L substrate for
01:36:18 → 01:36:24 ไ synesis นะฮะนะอันนี้หมายความว่าไงนะฮะ
01:36:24 → 01:36:27 อันเนี้ยมันหมายความว่าอย่างนี้ฮะ
01:36:27 → 01:36:32 นี่เวลาที่เราไม่ได้กินนะเวลาที่เราฟานะ
01:36:32 → 01:36:36 ฮะแล้วเรากิน ow C นะเรากิน ow C นะฮะ
01:36:36 → 01:36:40 นะตับเนี่ยนะเขาไม่ได้สร้าง vldl ออกมา
01:36:40 → 01:36:42 เยอะ
01:36:42 → 01:36:48 นะแล้วก็ลำไส้ก็ไม่มีพวกไคลน์มาส่งให้นะ
01:36:48 → 01:36:52 ฮะแต่มันจะเกิดจากอันนี้ฮะนะเกิดจากการ
01:36:52 → 01:36:55 สลายตัวตัวของเนื้อเยื่อไขมันหรืออิพ
01:36:55 → 01:37:00 ทิชชูโดยฮอร์โมนนะเนี่ยฮอร์โมน sensitive
01:37:00 → 01:37:05 Lip นะฮะนะที่จะเกิดการย่อยไตรกีสไลออก
01:37:05 → 01:37:10 มาให้เซลล์ต่างๆใช้เป็นพลังงานนะมันเกิด
01:37:10 → 01:37:13 จากตรงนี้นะฮะเนี่ย
01:37:13 → 01:37:17 นะแล้วตัวที่สั่งการก็คือฮอร์โมนรูกเทพ
01:37:17 → 01:37:20 ทั้ง 6 ตัวนะในช่วงที่เรากินโลคาฟแล้วเรา
01:37:20 → 01:37:24 ฟานะหรือตอนที่เรานอนเนี่ยฮอร์โมนลูกเทพ
01:37:24 → 01:37:29 ออกมาบอกว่าให้เนื้อเยื่อไขมันนะฮะนะมี
01:37:29 → 01:37:32 การสลายไขมันเป็นพลังงานออกมาให้เซลล์
01:37:32 → 01:37:37 ต่างๆใช้ใช้งานหรือจะใช้ทำอะไรก็ตามนะฮะ
01:37:37 → 01:37:42 นะเนี่ยก็จะมีเอนไซม์ที่เซลล์ไขมันมัน
01:37:42 → 01:37:46 เก็บไว้อ่ะมันชื่อฮอร์โมน sensitive ไสนะ
01:37:46 → 01:37:51 ฮะแล้วมันก็เกิดการสลายออกมาให้อวัยวะ
01:37:51 → 01:37:54 ต่างๆได้ใช้นะเพราะฉะนั้นเนี่ยไคโรไมคอน
01:37:54 → 01:38:00 ก็ดี vldl ก็ดีนะก็เลยน้อยหัวลูกศรมันก็
01:38:00 → 01:38:06 เลยเนี่ยปักลงหัวลูกศรมันลดลงนะฮะ High
01:38:06 → 01:38:11 Lip Lip activity นะฮะเนี่ยก็คือพวก
01:38:11 → 01:38:13 กลุ่มเอนไซม์ฮอร์โมน sensitive ไส
01:38:13 → 01:38:16 ไลโปโปรตีนไลเปสก็มีการทำงานโดยการสั่ง
01:38:16 → 01:38:20 งานของฮอร์โมนรูปเทพให้เกิดการเผาผลาญไข
01:38:20 → 01:38:25 มันต่างๆที่สะสมไว้มาเป็นพลังงานให้นะอัน
01:38:25 → 01:38:31 นี้เข้าใจต่อไปในกรณีที่เรากิน High Good
01:38:31 → 01:38:33 Fat คือกิน low c และ High Good Fat
01:38:33 → 01:38:38 นะฮะโดยรวมๆเนี่ยเขาก็บอกว่าเมื่อกิน High
01:38:38 → 01:38:41 Good Fat เนี่ยเพราะฉะนั้นเนี่ยนะทั้ง
01:38:41 → 01:38:46 ฝั่งไมอ Production และ vldl Production
01:38:46 → 01:38:51 นะก็จะมีการทำงานเพิ่มขึ้นหมดเลยนะฮะรวม
01:38:51 → 01:38:56 ทั้งไตนไ activity ก็เพิ่มด้วยนะฮะถ้าตัด
01:38:56 → 01:38:59 คแล้วกิน High Good Healthy Fat นะฮะ
01:38:59 → 01:39:02 นะทนี้เรามาดูรายละเอียดของ High Good
01:39:02 → 01:39:04 Healthy Fat เนี่ยว่ามันเป็น Fat
01:39:04 → 01:39:09 ประเภทไหนเยอะนะฮะนะถ้าเป็นอิ่มตัวเยอะนะ
01:39:09 → 01:39:14 นะอิ่มตัวเยอะก็ VL dl อ่าหรือ Lance
01:39:14 → 01:39:16 คอสอมันจะเยอะ
01:39:16 → 01:39:20 นะแต่ถ้าไม่อิตัวเชิงเดี่ยว
01:39:20 → 01:39:23 นะเนี่ยไม่อิมตัวเชิงเดี่ยวเนี่ยเบอกว่า
01:39:23 → 01:39:28 ช่วงแรกมันอ่าไคโรมาคอนจะเยอะนะช่วงหลัง
01:39:28 → 01:39:35 ไคลคอมันจะลดลงนะฮะแล้วถ้าไม่แล้วถ้าไม่
01:39:35 → 01:39:37 ตัวเชิงเดี่ยวเนี่ยนะ vldl Production
01:39:38 → 01:39:42 เนี่ยมันลดมันไม่เยอะนะฮะนะคือตับไม่ต้อง
01:39:42 → 01:39:43 สร้าง
01:39:43 → 01:39:47 vldl เหมือนการที่เชิงซ้อนคูฟ่าเนี่ยนะ
01:39:48 → 01:39:52 ก็ไม่ต้องมีการสร้าง vldl นะเพงั้นสิ่ง
01:39:52 → 01:39:56 ที่จะไปสร้าง vldl นะ repackage ออกมาก็
01:39:56 → 01:40:01 คือไม่คือไขมันอิ่มตัวเป็นหลักนะฮะเนี่ย
01:40:01 → 01:40:04 ต้องจำันนี้ไว้นะเพราะนั้นเลนคอเลสเตอรอล
01:40:04 → 01:40:08 สูงน่าจะมาจากไขมันอิ่มตัวไม่ได้เกิดจาก
01:40:08 → 01:40:12 พวกไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและเชิงซ้อนนะ
01:40:12 → 01:40:17 เนี่ยจะเห็นว่านะทั้งไคโรไมคอนทั้ง vldl
01:40:17 → 01:40:21 เนี่ยนะลดหมดเลยในกรณีที่ไม่อิมตัวนะฮะ
01:40:21 → 01:40:26 เพราะอะไรเอก็กลับมาดูรูป
01:40:26 → 01:40:31 นี้นะทุกอย่างเนี่ยมันจะเข้าทางนี้หมดนะ
01:40:31 → 01:40:36 อ่ามันจะเข้าทางระบบน้ำเหลืองหมดนะแล้ว
01:40:36 → 01:40:41 เสร็จแล้วนะตัวระบบน้ำเหลืองเนี่ยนะฮะตัว
01:40:41 → 01:40:44 ที่จะเอาไปใช้พลังงานได้ดีๆเลยเนี่ยก็คือ
01:40:44 → 01:40:51 พวกไม่อิ่มตัวนะอ่าไม่อิ่มตัวต่างๆนะฮะนะ
01:40:51 → 01:40:56 เนี่ยมันจะใช้ได้เยอะมากนะนะก็คือทั้งมู
01:40:56 → 01:41:00 ฝ้าูฝ้านะแล้วก็อิ่มตัว
01:41:00 → 01:41:06 อ่าถ้ามันอยู่ในสัดส่วน 30 50 20 นะนะ
01:41:06 → 01:41:09 พวกเนี้ยมันมันก็ใช้ได้หมดแหละนะฮะนะแต่
01:41:09 → 01:41:13 สิ่งที่มันเหลือนะนะส่วนใหญ่มันจะเหลือไข
01:41:13 → 01:41:18 มันอิ่มตัวไว้นะฮะนะเพราะว่าไขมันอิ่มตัว
01:41:18 → 01:41:23 เนี่ยร่างกายเอาไปสร้างโครงโครงร่างนะ
01:41:23 → 01:41:27 ครับผมนะซึ่งอ่ามันจะต้องเข้าสู่ระบบ
01:41:27 → 01:41:35 เลือดนะแล้วนะให้ตับเนี่ยนะพาออกไปนะฮะนะ
01:41:35 → 01:41:39 หรือนะไขมันอิ่มตัวอันเนี้ยนะฮะนะส่วน
01:41:39 → 01:41:42 ใหญ่แล้วนะตับก็จะมักจะใช้ไขมัน
01:41:42 → 01:41:47 ไตรกีซาไลน์นะต่างๆนะฮะนะที่มาจากไขมันอื
01:41:47 → 01:41:51 ตัวเนี่ยเป็นพลังงานของตับนะ
01:41:51 → 01:41:55 เนี่ยแต่เราอ่ะคำนวณตาม bmr เพราะฉะนั้น
01:41:55 → 01:42:00 เนี่ยมันจะมีทั้งอิ่มเดี่ยวซ้อนมานะฮะแต่
01:42:00 → 01:42:04 ตัวไขมันอิ่มตัวเนี่ยนะอ่าทำไมอ่ะทำไมมัน
01:42:04 → 01:42:09 ถึงจะต้องมีการหลงเหลือไว้ในกระแสเลือดนะ
01:42:09 → 01:42:14 เพื่อที่จะมาให้ vldl พาออกไปนะฮะเพราะ
01:42:14 → 01:42:16 ว่าสิ่งที่มากับไขมันอิ่มตัวก็คือ
01:42:16 → 01:42:21 คอเลสเตอรอลนะรวมทั้งอ่าวิตามินต่างๆแต่
01:42:22 → 01:42:24 วิตามินต่าง่าเนี่ยมันก็กระจายไปหมดแหละ
01:42:24 → 01:42:28 ทั้งอิ่มเดี่ยวซ้อนนะฮะนะแต่คอเลสเตอรอล
01:42:28 → 01:42:33 เท่านั้นนะฮะนะที่มันจะมากับไขมันอิ่มตัว
01:42:33 → 01:42:38 นะมันจะไม่ไปกับไม่อิ่มตัวนะฮะนะเพราะ
01:42:38 → 01:42:40 ฉะนั้นร่างกายเนี่ยเวลาเขาจะสร้างกล้าม
01:42:40 → 01:42:43 น้มกล้ามเนื้อสร้างอวัยวะสร้างโครงร่าง
01:42:43 → 01:42:45 สร้างเซลล์เมมเบรนอะไรต่างๆเนี่ยเต้องมี
01:42:45 → 01:42:49 คอเลสเตอรอลด้วยนะเพราะฉะนั้นเนี่ยจึงจะ
01:42:49 → 01:42:52 ต้องมาอาศัยพวยที่เกิดการแพ็คเกจ vldl นะ
01:42:52 → 01:42:54 ฮะ
01:42:54 → 01:42:59 เพราะฉะนั้นนะในการกินนะไขมันต่างๆแล้ว
01:42:59 → 01:43:03 ไม่กินพวกเนี่ยพวกทางคาฟอะไรเข้าไปเนี่ย
01:43:03 → 01:43:11 นะ vldl เนี่ยนะก็จะมากขึ้นมากขึ้นนะ
01:43:11 → 01:43:15 ฮะเพราะฉะนั้นเราจะเห็นว่าเนี่ย saturated
01:43:15 → 01:43:19 Fat เนี่ยตัว VL dl จะเยอะนะ lant มัน
01:43:19 → 01:43:24 ก็จะเยอะนะเพราะเวลามันไปแล้วเนี่ยเ่อมัน
01:43:24 → 01:43:28 อาจจะเหลือนะฮะนะเหลือเหลือกลอยอยู่ใน
01:43:28 → 01:43:33 กระแสเลือดนะฮะนะแต่อันอื่นน่ะไม่มีเลยนะ
01:43:33 → 01:43:37 ฮะเพราะว่าเค้าถูกใช้หมดนะถ้าสัดส่วนเขา
01:43:37 → 01:43:42 ถูกต้อง 30 50 20 นะฮะนะส่วนในเรื่อง
01:43:42 → 01:43:45 ของไม่อิ่มตัวต่างๆนะทั้งเชิงเดี่ยวเชิง
01:43:45 → 01:43:48 ซ้อนเนี่ยนะนะถ้าสัดส่วนถูกต้องเนี่ยเ้า
01:43:48 → 01:43:51 มักจะเอาไปใช้หมดเลยนะฮะเพราะฉะนั้นจะไม่
01:43:51 → 01:43:53 เหลืออ่า
01:43:53 → 01:43:58 ในการที่จะต้องมี vldl พาไปเก็บพาไปสะสม
01:43:58 → 01:44:02 ไม่มีนะฮะนะถูกใช้หมด
01:44:02 → 01:44:07 นะนะเพราะฉะนั้นในแง่ของไขมันเนี่ยนะฮะนะ
01:44:07 → 01:44:10 ก็ขยายความออกมาเป็นลักษณะนี้อย่างหนึ
01:44:10 → 01:44:13 ด้วยนะซึ่งมันจะเป็นโยงใจกับค่าแลบต่างๆ
01:44:13 → 01:44:17 เวลาเรามีเคสต่างๆนะฮะนะที่เราตรวจ laap
01:44:17 → 01:44:20 ออกมาแล้วแล้ว remnant มันผิดปกติโดย
01:44:20 → 01:44:23 เฉพาะถ้า remnant มันสูง
01:44:23 → 01:44:25 มันสูงเนี่ยแล้วเกิน ow C เนี่ยแล้วก็ทำ
01:44:26 → 01:44:28 If อะไรต่างๆเหล่าเนี้ยนะฮะนะเพราะงั้น
01:44:29 → 01:44:31 ค่า remnant เนี่ยน่าจะมาจากอะไรก็น่าจะ
01:44:31 → 01:44:35 มาจาก saturated Fat นะฮะ
01:44:35 → 01:44:41 นะเอ่ออย่างอื่นเหรอนะฟรุกโตสก็กินโลคราฟ
01:44:41 → 01:44:44 คงไม่กินฟรุกโตสมั้งเนี่ยฟรุกโตสทำให้เลม
01:44:44 → 01:44:47 แนนสูงแอลกอฮอล์ทำให้เลมแนนสูงนะฮะแต่
01:44:47 → 01:44:54 ไฟเบอร์เลนไม่สูงนะฮะอันนี้อะไริอนะนะอ่า
01:44:54 → 01:44:58 อันนี้ก็สารพรึกษาเคมีเลนก็ไม่สูงนะฮะคือ
01:44:58 → 01:45:01 เลนสูงเนี่ยเกิดจากแอลกอฮอล์เกิดจากฟุส
01:45:01 → 01:45:04 และเกิดจาก saturated
01:45:04 → 01:45:07 Fat ทีนี้คนที่ไม่รู้เรื่องน้ำมันสกัด
01:45:07 → 01:45:11 เย็นอะไรต่างๆพวกนี้เลยแล้วเไอทโปรตีน
01:45:11 → 01:45:15 เค้ากินแบบเนื้อสัตว์วันละ 2 กลเงี้ยเนส
01:45:16 → 01:45:20 ว่าเนนจะสูงมั้ยสูงครับผมก็ใช่สิมันก็มี
01:45:20 → 01:45:23 แต่ saturated Fat เพราะฉะนั้นเนี่ยครับ
01:45:23 → 01:45:28 ตัวเยอะแน่นอนนะฮะครับผมเพราะคเคิฟก็ไม่
01:45:28 → 01:45:32 ได้กินนะนะฟุกโตสอะไรก็ไม่ได้กินไอติม
01:45:32 → 01:45:35 ผลไม้ขนมหวานอะไรอย่างเงี้ไม่ได้กินเหล้า
01:45:35 → 01:45:38 เบียร์คงไม่ได้กินมั้งไม่งั้นจะมากินทำไม
01:45:38 → 01:45:45 โลคาฟใช่นะเออเนี่ยเไอ If นี่มันลดหมดนะ
01:45:45 → 01:45:47 แต่ทำไมเลนมันสูงอ่ะสูงก็มันก็มีอย่าง
01:45:47 → 01:45:51 เดียวน่ะแหละนะ saturated Fat สูงตัวจ
01:45:51 → 01:45:54 แล้ว saturated Fat มาจากไหนอ่ะก็กินหมู
01:45:54 → 01:45:58 เป็นตัวกินวัวเป็นท่อนนะนี่คือคำตอบไม่
01:45:58 → 01:46:02 ต้องไปแปลอย่างอื่นอ่าไม่ต้องมาตั่งสงสัย
01:46:02 → 01:46:04 ว่าน่าจะเป็นไขมันิตัวเชิงเดี่ยวเชิงซ้อน
01:46:04 → 01:46:07 อะไรต่างๆไม่มีหรอกฮะนะเพราะเเข้าทางระบบ
01:46:07 → 01:46:10 น้ำเหลืองแล้วร่างกายเอาไปเปลี่ยนหมดนะ
01:46:10 → 01:46:12 ถึงใช้ไม่หมดเนี่ยส่วนใหญ่เขาก็เผาทิ้ง
01:46:12 → 01:46:16 หมดนะฮะเพวกเนี้ยอืครับเ่อไม่เป็นภาระต่อ
01:46:16 → 01:46:20 ตัที่จะต้องแพ็คก้้งแพ็คกิ้งรอบใหม่นะแต่
01:46:20 → 01:46:24 การที่ไขมันอิ่มตัวเนี่ยต้องมา Packing
01:46:24 → 01:46:27 vldl เนี่ยเพราะว่าเต้องเอาคอเลสเตอรอล
01:46:27 → 01:46:32 เนี่ยนะไปให้ส่วนต่างๆของร่างกายใช้งานนะ
01:46:32 → 01:46:35 นะเพราะว่าคอเลสเตอรอลเมากับไขมันอิ่มตัว
01:46:35 → 01:46:37 เท่านั้นเก็ไม่มากับพวกไม่อิ่มตัวเชิง
01:46:37 → 01:46:44 เดี่ยวเชิงซ้อน
01:46:44 → 01:46:49 นะยังมีใครสงสัยมในเรื่องที่ว่า hdl สูง
01:46:49 → 01:46:54 hdl ต่ำ
01:46:54 → 01:46:57 อันนี้ไม่ได้อธิบายหรอกแต่อยากจะบอกว่านะ
01:46:57 → 01:47:01 เมื่อไหร่นะที่ร่างกายอ่ะอ่าอยู่ในฝั่ง
01:47:01 → 01:47:04 สะสมพลังงานเนี่ยทั้งอินซูลินทั้ง
01:47:04 → 01:47:07 คอร์ติซอลมากันเนี่ยโดยเฉพาะถ้าคอร์ติซอล
01:47:07 → 01:47:10 มาเนี่ยนะฮะนะ
01:47:10 → 01:47:14 นะอินซูลินกับคอร์ติซอลเนี่ยเวลาเวลาที่
01:47:14 → 01:47:17 เค้าถูกกระตุ้นให้ออกมาร่างกายสะสมพลัง
01:47:17 → 01:47:19 งานใช่มั้ยล่ะนะอินซูลินออกมาเนี่ยเ้าจะ
01:47:19 → 01:47:25 มี CP ออกมาด้วยนะนะแต่คอร์ติซอลอ่ะเวลา
01:47:25 → 01:47:29 ถูกกระตุ้นออกมาเยอะๆอ่ะนะเขาจะมีตัวเปติ
01:47:29 → 01:47:33 ไบสออกมาด้วยนะฮะและอีตัวเฮิไสนี่แหละ
01:47:33 → 01:47:35 เป็นตัวลด
01:47:35 → 01:47:38 hdl เพราะฉะนั้นเนี่ยถ้าคุณเครียด
01:47:38 → 01:47:41 คอร์ติซอลสูงนะฮะ
01:47:41 → 01:47:45 เ่อมันจะมีเปติไลเปสเป็นเอนไซม์ที่มา
01:47:45 → 01:47:48 พร้อมกับคอร์ติซอลที่สูงสูงโดยมันถูกผลิต
01:47:48 → 01:47:51 ออกมาจากตับนะนะแล้วคอร์ติซอลเนี่ยเป็น
01:47:51 → 01:47:54 ตัวกระตุ้นให้มันผลิตออกมาตัดผลิตออกมานะ
01:47:55 → 01:48:00 โดยเปิไสที่ออกมามันจะไปทำลาย hdl เพราะ
01:48:00 → 01:48:03 ฉะนั้นเวลาคุณเครียดคิอสูง hdl มันถึงได้
01:48:03 → 01:48:10 ต่ำครับผมครับผมแต่นะแต่มันมีเคสที่ว่าเ
01:48:10 → 01:48:13 เข้าคีโตนได้อ่ะเพรางั้นคีโตนออกมาเนี่ย
01:48:13 → 01:48:18 ตัวพ่อตัวแม่ก็ก็ก็ไม่กล้าออกนะฮะเพราะ
01:48:18 → 01:48:23 คีโตนก็ใหญ่กว่าครับเพราะฉะนั้นอ่า
01:48:23 → 01:48:28 คอร์ติซอลไม่เยอะนะเปติไบสก็ไม่เยอะเเปติ
01:48:28 → 01:48:33 ไลเปสไม่เยอะ hdl มันก็ไม่ต่ำก็สูงนะหรือ
01:48:33 → 01:48:36 Upper Limit อะไรอย่าเงี้นะอันนี้อัน
01:48:37 → 01:48:40 นี้ก็มาสรุปเล่นๆนะ
01:48:40 → 01:48:43 ฮะคือคนเราในปัจจุบันนะฮะนะส่วนใหญ่แล้ว
01:48:43 → 01:48:47 มันก็มันมันผิดที่น้ำมันอะไรอ่ะนะ
01:48:47 → 01:48:50 Vegetable Oil นี่แหละนะแล้วมันไม่ใช่
01:48:50 → 01:48:56 โสจริงใช่ครับเอก็ก็ลำบากนะฮะลำบากอยู่
01:48:56 → 01:49:00 นี้นะแล้วก็เอามาผัดมาทอดมาโดนความร้อนมา
01:49:00 → 01:49:04 ทำอาหารหลายๆรอบรวมทั้งมาระบบการค้า
01:49:04 → 01:49:06 อุตสาหกรรมอะไรต่างๆมันสร้างความเข้าใจ
01:49:06 → 01:49:10 ผิดอะไรต่างๆนะฮะก็คือดูการสวิงขึ้นน่ะ
01:49:10 → 01:49:14 ของ Vegetable Oil อ่ะนะฮะเนี่ยจาก 2.59
01:49:14 → 01:49:19 นะในช่วงปี 1900 กว่าๆแล้วตอนนี้ผ่านมา
01:49:19 → 01:49:24 100 ปีนะ 2,000 กว่าๆนะฮะเป็นยังไงอ่ะนะ
01:49:24 → 01:49:28 ขึ้นมาจาก 2 3% น่ะมาเป็น 10 18% ครึ่ง
01:49:28 → 01:49:32 อ่ะนะฮะพุ่งมากเลยพุงกระชูถ้าเปบเทียบกับ
01:49:32 → 01:49:37 ชูก้าชูก้าเนี่ยช่วงนี้เขากินอ่า 473
01:49:37 → 01:49:41 แคลอรี่นะช่วงนี้เพิ่มขึ้นมานิดหน่อย 5
01:49:41 → 01:49:44 550 แคลอรี่
01:49:44 → 01:49:48 นะหรือ
01:49:48 → 01:49:52 เปล่าเนี่ยแต่ Vegetable Oil นี่เยอะมาก
01:49:52 → 01:49:55 นะฮะนะก็คือในปัจจุบันเ
01:49:55 → 01:49:58 ปัญหาปัญหามันเกิดจากอันนี้แหละนะฮะนะ
01:49:59 → 01:50:03 เกิดจากน้ำมันแล้วเราก็ไม่มีความรู้กันก็
01:50:03 → 01:50:08 ลำบากนะอันนี้ไม่มีอะไรนะฮะคนส่วนใหญ่ขาด
01:50:08 → 01:50:11 กดไขมันจำเป็นหรือ essential fy Acid
01:50:11 → 01:50:15 มันก็จะมีอยู่ 8 อาการนี้นะฮะนะนะเนี่ยนะ
01:50:15 → 01:50:18 แล้วแก้ไขยังไงอ่ะถึงจะได้ essential
01:50:18 → 01:50:22 fatty Acid นะหลักๆก็คือน้ำมันสกัดเย็น
01:50:22 → 01:50:26 นะลองลงมาก็คือไข่ทั้งฟองเนื้อสัตว์ติด
01:50:26 → 01:50:30 หนังติดมันนะอ่าปลาทะเลหอยตับเนี่ยนะนะ
01:50:31 → 01:50:34 น้ำมันตับปลาถั่วเปลือกแข็งเมล็ดธัญพืช
01:50:34 → 01:50:37 แต่ทุกอย่างต้องมีสูตรในการกินไม่ว่าจะ
01:50:37 → 01:50:40 เป็นน้ำมันสกัดเย็นหรือไม่ว่าจะเป็นไขมัน
01:50:41 → 01:50:44 ที่ปะปนมากับโปรตีนจากสัตว์อะไรต่างๆจะมา
01:50:44 → 01:50:46 กินมั่วซั่วกินเท่าไหร่เท่าไหร่ก็ได้อะไร
01:50:46 → 01:50:50 ไม่ใช่นะมันถึงจะแก้ปัญหาการได้รับ
01:50:50 → 01:50:56 essential fatty Acid นะได้นะ
01:50:56 → 01:51:01 ฮะก็จะมีเคสมาดูกันคร่าวๆนิดหน่อยนะฮะแต่
01:51:01 → 01:51:04 ส่วนใหญ่ให้พิจารณาเรื่องอาหารอย่างเคส
01:51:04 → 01:51:08 นี้เขบอกว่าเขาตามใจป่าจาก 2 ปีที่แล้วนะ
01:51:08 → 01:51:13 a1c 99 นะฮะ a1c 9 น้ำทาสะสม 9.02 นะ
01:51:13 → 01:51:18 เอ่อก็ตัดแป้งกินแต่ไข่ต้มนะอ่าตัดแป้ง
01:51:18 → 01:51:23 แล้วกินแต่ไข่ต้มใช้เวลาปีนึงนะก็ a1c ลง
01:51:23 → 01:51:28 มาจาก 9.02 ลงมา 5.7 นะผ่านมาอีก 1 ปีก็
01:51:28 → 01:51:32 ขึ้นมาอีกแล้วนะฮะแล้วตอนนี้เป็น pcos มี
01:51:32 → 01:51:36 เนื้องอกในมดลูกนะน้ำหนักอ่าเเรียกว่าน้ำ
01:51:36 → 01:51:41 หนักค้างลงยากมากเลยค่ะพี่ๆช่วยแนะนำนู้น
01:51:41 → 01:51:45 หน่อยต้องทำยังไงดีตอนนี้หนัก 90 สูง
01:51:45 → 01:51:50 157 นะมันเหมือนกับว่ามันเหมือนกับว่า
01:51:50 → 01:51:54 มันยิ่งเด้งมากกว่าเดิมนะนะอ่าหญิงน้ำ
01:51:54 → 01:51:58 หนัก 90 นี่ pcos มีอยู่แล้วนะฮะนะเป็น
01:51:58 → 01:52:01 โรคสามัญประจำท้องน้อยนะฮะ
01:52:01 → 01:52:07 เออนะก็นี่แหละนะฮะล่าสุดเนี่ยนะฮะเอ่อ
01:52:07 → 01:52:10 ล่าสุดน้ำตาลเค้าเด้งขึ้นมาจาก 5.7 ใช่
01:52:10 → 01:52:17 มั้ยขึ้นมาเกือบ 7 นะ a1c เกือบ 7
01:52:17 → 01:52:23 นะเอ่อเค้าก็ถามว่าจะทำยังไงดีนะฮะนะก็มี
01:52:23 → 01:52:30 คนมาแชร์บอกว่าเ่อก็ลดแป้งเพิ่มโปรตีนทำไ
01:52:30 → 01:52:32 ไม่กินจุกจิก
01:52:32 → 01:52:37 เอ่อไม่จำเป็นต้องกินแต่ไข่ต้มค่ะสุขภาพ
01:52:37 → 01:52:40 ดีและมีความสุขได้ถ้าเลือกกินเป็นเป็น
01:52:40 → 01:52:45 กำลังใจให้แล้วเขาก็แนะนำอาหารว่าให้กิน
01:52:45 → 01:52:50 แบบนี้ฮะจะได้มยเนี่ยไม่ได้นะฮะนะไม่ได้
01:52:50 → 01:52:54 เออเพราะฉะนั้นการแนะนำคนเนี่ยนะฮะเค้า
01:52:54 → 01:52:56 เรียกว่าหวังดีประสงค์ร้ายหรือเปล่านะฮะ
01:52:57 → 01:53:00 นะคือหวังดีอ่ะนะแต่ว่าเนื้อในอ่ะที่แนะ
01:53:00 → 01:53:05 นำเนี่ยนะมันก็ไม่คือมันเขมันไม่รู้อ่ะ
01:53:05 → 01:53:07 มันพูดอย่างเงี้ยมันไม่ไม่ไม่ใช่แล้วอ่ะ
01:53:07 → 01:53:12 นะฮะนะนะแล้วก็กินแต่ไข่ต้มไข่ต้มต้มขนาด
01:53:12 → 01:53:14 ไหนล่ะเพราะว่าไข่ที่มีประโยชน์ไม่ใช่ไข่
01:53:14 → 01:53:17 สนิมเนี่ยนะไข่ต้มมันก็เป็นไข่สนิมได้ถ้า
01:53:17 → 01:53:21 คุณไข่ต้มเนี่ยเกิน 7 นาทีขึ้นไปอ่ะนะนะ
01:53:21 → 01:53:24 เพราะว่าไอ้ตัวไข่แดงมันสารอาหารไปหมด
01:53:24 → 01:53:27 แล้วนะฮะนะเหลือน้อยมากนะ
01:53:27 → 01:53:31 ครับคือสุขภาพดีและมีความสุขได้ถ้าเลือก
01:53:31 → 01:53:36 กินเป็นนะแล้วใช่เหรอเนี่ยอย่างนี้คือกิน
01:53:36 → 01:53:40 เป็นแล้วเหรอนะฮะเก็มีสลัดผักนะฮะแล้วก็
01:53:40 → 01:53:44 มีผัดถั่วก็หมูชิ้นเนี่ยไข่ดาวเเป็นอย่าง
01:53:44 → 01:53:47 เงี้ยอันนี้ไม่ใช่แล้วนี้ไข่สนิมแล้วมี
01:53:47 → 01:53:49 การข้าวไลเบอรี่ด้วยอย่างเงี้ยน้ำหนัก
01:53:49 → 01:53:53 ตั้ง 90 นะแล้วก็เนี่ยเอว่าไอ้ a1c ตั้ง 7
01:53:53 → 01:53:58 อย่างเงี้ยนะฮะนะนะอันนี้กินไม่ได้นะฮะนะ
01:53:58 → 01:54:00 ไลเบอร์รไฟเบอร์รี่อะไรต่างๆเนี่ยตัดออก
01:54:00 → 01:54:05 ไปจากชีวิตเลยจะกินเข้าไปทำไมนะฮะนะเนี่ย
01:54:05 → 01:54:08 นะเพราะว่าตอนนี้เนี่ยผักหัวยังแทบจะไม่
01:54:08 → 01:54:13 ได้เราเลยนะผักใบอะไรอย่าเงี้ยพอได้นะฮะ
01:54:13 → 01:54:18 นะเออหรือไม่ก็ CD kcd แบบเคร่งไปเลยนะ
01:54:18 → 01:54:23 ฮะอันนี้คิดออกแนวแนวกีนมากกว่าเออนะก็
01:54:23 → 01:54:27 ไม่รู้ทอดไข่ซะอย่างเงี้ยนะเนี่ยไข่แดง
01:54:27 → 01:54:28 ไหม้หมด
01:54:29 → 01:54:33 แล้วใช่ครับผมคือคือไม่ได้นะฮะไม่ได้ถ้า
01:54:33 → 01:54:37 แนะนำอย่างงี้เนี่ยก็ก็ไม่มีทางอ่ะนะฮะนะ
01:54:37 → 01:54:41 เออก็ยาก่ะฮะนะอีกอย่างนึงอ่ะเอ่อถ้าเป็น
01:54:41 → 01:54:44 สมาชิกไม่ระบุตัวตนเนี่ยอย่าใช้นะฮะเพราะ
01:54:44 → 01:54:47 ตอนเนี้ยหลายเพจคแอนตี้หมดแล้วนะฮะนะคุณ
01:54:47 → 01:54:51 จะมาขอความรู้ขอขอวิชาการขออะไรต่างๆ
01:54:51 → 01:54:54 เนี่ยก็ยังไม่ระบุตัวตนอะไรเงี้ยก็เกินไป
01:54:54 → 01:54:56 มั้ง
01:54:56 → 01:55:02 นะยากๆเออนะนะน้ำหนัก 90 นะฮะนะอ่าหาความ
01:55:02 → 01:55:08 รู้อ่านเยอะๆนะนะเพราะว่าอ่าเ is help
01:55:08 → 01:55:13 นะฮะนะไม่งั้นหาเงินเยอะๆนะเดี๋ยวได้ผ่า
01:55:13 → 01:55:17 ส่งผ่าตัดกินฮอร์โมนทดแทนเออแล้วก็อาจจะ
01:55:17 → 01:55:20 ต้องไปถึงขนั่นอะไรอ่ะนะตัดกระพงกระเพาะ
01:55:20 → 01:55:22 แล้วล่ะมั้งเนี่ยนะเพราะว่าตอนตอนนี้มัน
01:55:22 → 01:55:25 เหมือนโยโยอ่ะนะฮะนะก็คือเหมือนตะบะแตก
01:55:25 → 01:55:31 อ่ะนะหลังจากอะไรอ่ะไปควบคุมมาตัดโป้งตัด
01:55:31 → 01:55:34 แป้งอะไรก็ไม่รู้นะตอนนี้หนูตามใจปาก
01:55:34 → 01:55:37 เออไม่ไหว
01:55:37 → 01:55:41 ละก็ไปอดอดๆซะมากกว่าแควไม่ถึงแล้วก็เลย
01:55:41 → 01:55:46 ก็เลยโโยๆใช่เออส่วนอันนี้ก็บอกว่ามื้อ
01:55:46 → 01:55:49 เดียวเอาอยู่อ่าทีนี้มื้อเดียวของเขาคก็
01:55:49 → 01:55:54 กินอย่างเงี้ยแล้วก็หยอดน้ำปลานะฮะอเออ
01:55:54 → 01:55:59 กยะน้ำปลานะก็เป็นเป็นไฮโปรตีนน่ะฮะนะก็
01:55:59 → 01:56:05 คือตัดคาฟ No คฟ High โปรตีนนะแล้วก็อัน
01:56:05 → 01:56:09 นี้เรานับไม่ไม่นับแฟตนะฮะก็ทุกอย่างเป็น
01:56:09 → 01:56:12 โปรตีนนะไม่มีพลังงานเลยในจานนี้นะร่าง
01:56:12 → 01:56:16 กายหายหาพลังงานไม่ได้ไม่ขาดพลังงานนะฮะ
01:56:16 → 01:56:19 เพราะฉะนั้นถ้าดูจากภาพนี้ก็บอกว่าคุณกิน
01:56:19 → 01:56:21 อย่างงนี้แล้วกินวันละมื้อมส OM เนี่ยนะ
01:56:21 → 01:56:23 ฮะมื้อ
01:56:23 → 01:56:27 นะแม่มาเพียบเออคุณก็คุณก็คุณคุณไม่มี
01:56:27 → 01:56:31 พลังงานเ่ะไม่มีพลังงานเ 24 ชมก็แล้วแต่
01:56:32 → 01:56:34 ร่างกายมันจะจัดการยังไงผอมหรืออ้วนถ้า
01:56:34 → 01:56:38 อ้วนมันก็ยังพอมีสต๊อกเอามาใช้ถ้าผอมนี่
01:56:38 → 01:56:43 ก็ยิ่งยิ่งมีแต่ฮอร์โมนเครียดมานะฮะถถ้า
01:56:43 → 01:56:45 ถ้าผอมนี่คือเครื่องเครื่องสั่นแน่นอน
01:56:45 → 01:56:49 ครับผมเอันนี้บอกว่าไข่เป็ดปลา
01:56:49 → 01:56:55 กระป๋องต้มปลาสวายเนื้อบดนะฮะแล้ว
01:56:55 → 01:57:01 ก็เนื้อบดอบอบไก่ต้มเออมื้อนี้ก็้ค่อน
01:57:01 → 01:57:05 ข้างมีอะไรต่ออะไรอยู่นะฮะนะเออครับก็มี
01:57:05 → 01:57:10 น้ำจิ้มด้วยมีมีต้มอะไรของเค้าด้วยนะฮะนะ
01:57:10 → 01:57:13 แต่ว่ามันก็คือโปรตีนทั้งหมดเลยอ่ะนะ
01:57:13 → 01:57:17 เนี่ยฮะนะไข่เป็ดโปรตีนปลากระป๋อง
01:57:17 → 01:57:22 โปรตีนต้มปลาสวายโปรตีนเนื้อบด
01:57:22 → 01:57:29 อบไก่ต้มอุ๊ยเป็นรีตหมดเอออีกแล้วอีกแล้ว
01:57:29 → 01:57:34 อรีโปรตีนกระตุ้นอิสรินเอออ้าอันนี้มาวัน
01:57:34 → 01:57:42 นี้ทาน 2 คนมีเขียวหวานไก่เนื้อย่าง
01:57:42 → 01:57:45 กระทะแล้วก็อะไร
01:57:45 → 01:57:48 อะไรอะไรปลา
01:57:48 → 01:57:53 ป๋องแล้วก็ไข่แล้วก็ปลาป๋อง
01:57:53 → 01:57:54 เออ
01:57:54 → 01:57:59 อ่าก็ไม่ได้กินข้าวแต่กินกัน 2 คนเออก็
01:57:59 → 01:58:04 กินแต่โปรตีนกันเข้าไปเออนะอครับอันนี้เ
01:58:04 → 01:58:09 บอกว่าเมนูหลักมื้อเดียวจบมื้อเดียวจบอีก
01:58:09 → 01:58:13 แล้วนะมีไข่มีปลากระป๋องนะเออแล้วคนนี้ก็
01:58:13 → 01:58:17 กินน้ำมันมะกอกนะเพียวๆแบบเนี้ยฮะนะแล้ว
01:58:17 → 01:58:23 ก็กินต้มเอันนี้มีต้มเอ่อ
01:58:23 → 01:58:27 มันพอมยเนี่ยพลังงานมันก็ไม่พอฮะนะ
01:58:27 → 01:58:32 นะพวกนี้ก็าก็คือเป็นโปรตีนเกิน 50% นะฮะ
01:58:32 → 01:58:38 นะนะวันทั้งวันมีโปรตีนเกิน 50% นะฮะนะก็
01:58:38 → 01:58:41 ไม่ไม่ได้ฮะไม่ได้
01:58:41 → 01:58:46 นะเพราะว่ายังไงก็ตามนะแฟชจะต้องมากกว่า
01:58:46 → 01:58:50 คาฟบวกโปรตีนนะฮะตามวิวัฒนาการของ
01:58:50 → 01:58:54 ธรรมชาติหรือตามกฎเกธรรมชาติคุณจะกินแต่
01:58:54 → 01:58:59 โปรตีนเกิน 50% แล้วก็ตัดแฟตตัดคาฟนะหรือ
01:58:59 → 01:59:03 ตัดคอ่าตัดคาฟ low fash อะไรอย่าเงี้ย
01:59:03 → 01:59:06 มันก็ไม่ได้อ่ะนะมันอาจจะได้ช่วงแรกๆหลัง
01:59:06 → 01:59:08 จากนั้นทุกอย่างก็จะเพี้ยน
01:59:08 → 01:59:12 แบบใช่ครับผมอันนี้ก็แล้วแต่ตัวใครตัวมัน
01:59:12 → 01:59:15 นะแล้วแต่คนจะเชื่อไม่
01:59:15 → 01:59:19 เชื่อมีปลากระป๋องทุกมื้อเลยเหรอเออมีปลา
01:59:19 → 01:59:23 กระป๋องทุกมื้อก็มีอยู่กลุ่มนึงก็กนของ
01:59:23 → 01:59:28 ล่ะปลาๆๆกระตุ้นอินซูลินนะนะอันนี้ก็บอก
01:59:28 → 01:59:31 ว่าช่วยแนะนำอาหารมื้อ
01:59:31 → 01:59:35 เที่ยงอ่าเคแนะนำอาหารมื้อเที่ยงเว่าให้
01:59:35 → 01:59:39 กินอย่างงี้นะมีไก่ทอดมีไข่ต้มมีต้มข่า
01:59:39 → 01:59:43 ไก่มีต้มจืดหมูไม่กินข้าวเลยถามว่าถูกทาง
01:59:43 → 01:59:49 มั้ครับก็มันก็ถูกนะแต่ถูกไม่หมดนะครับ
01:59:49 → 01:59:53 ว่าไม่รู้จะถือว่าขาดพลังงานมั้ยเท่านั้น
01:59:53 → 01:59:56 แหละนะฮะนะถ้าเมื่อไหร่โปรตีน
01:59:56 → 02:00:01 อ่ามันรวมๆเฉลี่ยแล้วมันมากกว่า
02:00:01 → 02:00:04 คาร์โบไฮเดรตคือมันมากกว่าแคลอรี่หรือ
02:00:04 → 02:00:06 พลังงานที่มาจากคาร์โบไฮเดรตบวกแฟตเนี่ย
02:00:06 → 02:00:09 ก็ถือว่าเอเนอจี imbalance คุณก็ขาดพลัง
02:00:09 → 02:00:15 งานน่ะนะฮะนะอันเนี้ยก็ไปต้องต้องไปเนี่ย
02:00:15 → 02:00:18 ไปไปแจกแจงเอาเองอ่ะนะฮะไปคิดแจกแจงเอา
02:00:18 → 02:00:21 เองอ่ะว่าสิ่งเหล่านี้มาแล้วแล้วอะไรอ่ะ
02:00:21 → 02:00:25 นะสารอาหารมากพลังงานน้อยหรืออะไรยังไงนะ
02:00:25 → 02:00:31 ครับส่วนอันนี้นะฮะเอออันนี้ก็อันนี้กิน
02:00:31 → 02:00:34 แบบคนพุงเครียดไม่มีน้ำมันสกัดเย็นนะฮะ
02:00:35 → 02:00:38 เนี่ยก็ก็เป็นแบบนี้นะมีน้ำซุปต้มกระดูก
02:00:38 → 02:00:44 นะฮะนะนะอันนี้คือทั้งหมดที่กล่าวมาตอน
02:00:44 → 02:00:47 แรกเนี่ยไม่ใช่พุงเครียดนะฮะเป็นสายพุง
02:00:47 → 02:00:51 ตับแต่คนนี้คือพุงเครียดกินแบบนี้อันนี้
02:00:51 → 02:00:55 ยังพอผ่านฮะถึงไม่มีน้ำมันสกัดเย็นนะฮะนะ
02:00:55 → 02:01:02 อันนี้ก็ยังพอผ่าน
02:01:02 → 02:01:06 นะเพราะว่าส่วนใหญ่พุงเครียดเนี่ยมันจะมี
02:01:07 → 02:01:10 มี Fat deposit มีไขมันสะสมอยู่
02:01:10 → 02:01:14 นะคนนี้อ้วนนะเคกินอย่างนี้นะกินมื้อ
02:01:14 → 02:01:18 เดียวนะไม่มีน้ำมันสกัดเย็นนะฮะถ้าสายพุง
02:01:18 → 02:01:22 เครียดสายเอสโตรเจนยังบางคนได้ฮะนะแต่บาง
02:01:22 → 02:01:25 คนก็ไม่ได้นะหรือพอเริ่มน้ำหนักลดอะไร
02:01:25 → 02:01:28 ต่างๆเหล่าเนี้ยร่างกายมันต้องการพลังงาน
02:01:28 → 02:01:32 นะแต่อันนี้มันก็ใช้พลังงานเก่าที่มี
02:01:32 → 02:01:36 อยู่เพราะฉะนั้นก็จะไม่แปลกนะฮะว่าบางคน
02:01:36 → 02:01:39 กิน CD kcd แบบเคร่งแล้วช่วงแรกๆน้ำหนัก
02:01:39 → 02:01:44 ลดไปตั้ง 40-50 กลนะเพราะว่าพลังงานมันก็
02:01:44 → 02:01:50 คือสะสมไว้ไงนะมันก็เติมจากโปรตีนนะฮะนะ
02:01:50 → 02:01:57 ก็เป็นยังยังแต่ถ้าผอมเนี่ยไม่ได้ไม่ได้
02:01:57 → 02:02:03 นะก็เคสสุดท้ายนะฮะก็เมื่อคืนเนี้ยก็มีคน
02:02:03 → 02:02:08 เข้ามาถามนะฮะว่าเมื่อวานเชี Day ทานหมู
02:02:08 → 02:02:13 กระทะนะฮะนะเอ่อทำเองทุกขั้นตอนเลยนะเ่อ
02:02:13 → 02:02:17 ไม่ใส่ผงชูรสไม่ใส่กลูเต้นไม่ใส่ฟรุกโตส
02:02:17 → 02:02:22 แต่นะงงว่าร่างกายเป็นอะไรนะหรือว่า
02:02:22 → 02:02:27 เอ่อจะมี ldl สูงปี๊ดนะฮะนะเพราะว่าตื่น
02:02:27 → 02:02:33 เช้าขึ้นมาเวียนหัวหนักมากนะตั้งแต่ 15:00
02:02:33 → 02:02:37 เอ่อเช้าถึง 15:00 นไม่รู้ทำไงก็เลยไป
02:02:37 → 02:02:40 เดินออกไปเดินให้เหงื่อออกนะอาการก็ดี
02:02:40 → 02:02:46 ขึ้นนะฮะก็คือได้มีการเคลื่อนไหวนะ
02:02:46 → 02:02:49 เออตอนนี้จะ 20:00 นแล้วยังไม่กล้าทาน
02:02:49 → 02:02:53 อะไรเลยนะฮะไม่รู้ว่าจะไปเพิ่ม ldl อีก
02:02:53 → 02:02:54 มั้ย
02:02:55 → 02:02:59 นะเพราะเมื่อวานนี้อ่าที่ชีท Day เนี่ยนะ
02:02:59 → 02:03:03 ทานหมูกระทะนี่แหละกิน 3 ชั้นมากยังมี
02:03:03 → 02:03:09 ข้าวอีก 1 ทัพพีเล็กๆนะปกติทำ If 88/16
02:03:09 → 02:03:14 นะสุขภาพเดิมนะก็ไม่ค่อยเคเท่าไหร่
02:03:14 → 02:03:19 เออสมัยก่อนกินไม่ดีกินไม่เป็นอ่ามั่ว
02:03:19 → 02:03:23 ซั่วไปหมดนะแต่ก็ตัดน้ำตาลฟุกโตดนะครับ
02:03:23 → 02:03:28 แปรรูปมานานประมาณ 1 ปีนะเลยโดดทำ If
02:03:28 → 02:03:30 เนี่ยคือคุณจะทำ If ได้เนี่ยคุณต้องเป็น
02:03:30 → 02:03:33 Fat burner ก่อนนะร่างกายมันต้องใช้ไข
02:03:33 → 02:03:36 มันได้เก่งๆก่อนฮะนะอย่างน้อยต้องเป็น Fat
02:03:36 → 02:03:39 burner นะหรือเป็น Flash adap ก่อนยิ่ง
02:03:39 → 02:03:42 ไปถึงคี adap ได้ยิ่งดีมากๆนะนะทีนี้
02:03:43 → 02:03:46 เพิ่งจะทำ If ได้ 7 เดือนนะน้ำหนักลดไป 8
02:03:46 → 02:03:48 กนะฮะนะ
02:03:48 → 02:03:52 เอ่อปกติดีมาตลอดนะครับเพิ่งมาตกมตาย
02:03:52 → 02:03:55 เมื่อเช้านี้ที่ทำชีส Day แล้วกินหมู 3
02:03:55 → 02:03:59 ชั้นแล้วก็กินข้าวไปทัพพีนึงเล็กๆนะฮะไม่
02:03:59 → 02:04:03 รู้ยังไงนะนะวิงเวียนอย่างบ้าคั่งมาก
02:04:03 → 02:04:06 เหงื่อท่วมนะฮะก็คือเหมือนแพนิคนี่แหละนะ
02:04:06 → 02:04:11 ฮะนะอืครับผมอะไรก็ดีขึ้นอยู่นะเวลา
02:04:11 → 02:04:14 เหงื่อออกนะเวลาเหงื่อท่วมมากๆก็ดีขึ้น
02:04:14 → 02:04:17 อยู่นะฮะ
02:04:17 → 02:04:21 เนี่ยตอนนี้นั่งสับสนจะทานาฟได้มน้อใจ
02:04:21 → 02:04:25 อยากกินคาฟจะได้นอนหลับนะอีกใจก็กังวลไป
02:04:25 → 02:04:30 มดประจำเดือนเพิ่งหมดไปประมาณ 1 อาทิตย์
02:04:30 → 02:04:35 นะก็เคสเนี้ยในปัจจุบันคิดว่าถ้าน้ำหนัก
02:04:35 → 02:04:38 ลดไป 8 กลเนี่ยคิดว่าเน่า
02:04:38 → 02:04:43 จะน่าจะยังไงอ่ะไม่รู้น่าจะรูปร่างอยู่ใน
02:04:43 → 02:04:46 เกณฑ์สมส่วนมากกว่านะไม่รู้ว่าเริ่มต้น
02:04:46 → 02:04:49 ด้วยแบบไหนนะฮะแบบสายแป้งหรือสายเนื้อนะ
02:04:49 → 02:04:52 ฮะแต่มีแนวโน้มว่าน่าจะเป็นพวกกลุ่มสาย
02:04:52 → 02:04:56 แป้งมั้ยเนอะเออครับเพราะว่าอาการที่เป็น
02:04:56 → 02:05:00 มันเป็นแพนิคอ่ะนะใช่ๆที่หมอเจอส่วนใหญ่
02:05:00 → 02:05:02 ก็คือเป็นพวกสายแป้งอ่ะนะสายแป้งทรง
02:05:02 → 02:05:06 ไทรรอยด์อ่ะอาจะแพนิคกันเยอะอ่าไทรรอยด์
02:05:06 → 02:05:09 ก็พรุงตับนะฮะโดยเฉพาะไทรอยด์เนี่ยจะ
02:05:09 → 02:05:13 แพนิคกันมากอืนะก็เดาๆว่าน่าจะเป็นสาย
02:05:13 → 02:05:17 แป้งนะฮะนะแล้วมีน้ำหนักลดไปด้วย
02:05:17 → 02:05:21 นะก็ทีเนี้ยที่ตอบไปเนี่ยนะหมอก็ไปตอบว่า
02:05:21 → 02:05:23 3 ชั้นเนี่ยเป็นโปรตีนไข่มันหิตัวสูงนะ
02:05:23 → 02:05:28 ฮะนะนอกจากนี้นะ 3 ชั้นเนี่ยมันเป็นกลุ่ม
02:05:28 → 02:05:32 เนื้อสัตว์โปรตีนที่มีไขมันอ่าไม่มีตัว
02:05:32 → 02:05:35 เชิงซ้อนโอเมก้า 6 สูงด้วยนะเพราะว่าเ้า
02:05:35 → 02:05:39 เป็นหมูนะฮะนะคือหมูเนี่ยในปัจจุบันเนี่ย
02:05:39 → 02:05:43 หมูมันมีโอเมก้า 6 สูงนะแต่มันมีวิตามิน
02:05:43 → 02:05:47 B1 สูงด้วยนะถ้าจะหา B1 กินเนี่ยต้องกิน
02:05:47 → 02:05:52 หมูนะฮะวัววัวมีน้อยวัววัวไม่ไม่ไม่
02:05:52 → 02:05:55 เหมือนหมู่ะนะนะ B1 เนี่ยหมูสูงสุดนะฮะนะ
02:05:55 → 02:06:01 แก้เหน็บชงเหน็บชาก็กินหมูนะฮะนะเออคือ
02:06:01 → 02:06:05 เอ่อโปรตีนไขมันิตัวสูง 3 ชั้นเบคอนอะไร
02:06:05 → 02:06:08 พวกนี้นะนะหรือติดหนังติดมันหนานๆเนี่ยนะ
02:06:08 → 02:06:12 ต้องกินในมื้อแรกคู่กับนะคืออาหารเนี่ย
02:06:12 → 02:06:16 เค้าเเเมีไขมันที่เป็นไขมันอิ่มตัวสูง
02:06:16 → 02:06:19 เนี่ยไขมันอิ่มตัวสูงเนี่ยมันจะไม่มีการ
02:06:19 → 02:06:23 คู่กับคาฟโดยเฉพาะคาฟรูปไม่ได้นะฮะมันจะ
02:06:23 → 02:06:27 คู่ได้กับไฟเบอร์แล้วก็ผักใบผักหัวนะแล้ว
02:06:27 → 02:06:34 ก็ผักดองนะอ่าแล้วเค้าเป็นโปรตีนไขมัน
02:06:34 → 02:06:38 อิ่มตัวสูงคุณต้องรีบเอาไม่อิ่มตัวเชิง
02:06:38 → 02:06:42 ซ้อนเอ่อคือไม่อิ่มตัวทั้งเชิงซ้อนเชิง
02:06:42 → 02:06:46 เดี่ยวน่ะมาบานนะฮะเพราะฉะนั้นการกิน
02:06:46 → 02:06:48 เนื้อสัตว์ไขมันอิ่มตัวสูงหรือปานกลางก็
02:06:49 → 02:06:53 ตามคุณต้องกินคู่กับน้ำมันสกัดเย็นทีออย
02:06:53 → 02:06:57 เพราะในน้ำมันสกัดเย็นน่ะมันมีไม่อิ่มตัว
02:06:57 → 02:07:02 ถึง 70% นะฮะนะก็มีเชิงเดี่ยว 50 เชิง
02:07:02 → 02:07:06 ซ้อน 20 เนี่ยมันถึงจะมาบานนะกับไขมัน
02:07:06 → 02:07:09 อิ่มตัวสูงแขนิตัวปานกลางที่กินเนื้อ
02:07:09 → 02:07:12 เกลือไข่อ่ะในมื้อแรกได้คือทุกอย่างเนี่ย
02:07:13 → 02:07:15 ที่ให้สูดไปแล้วให้กินด้วยกันน่ะเพื่อให้
02:07:15 → 02:07:20 อาหารมันเกิดความบานกันบานกันเออนะหมอก็
02:07:20 → 02:07:23 เคยไลฟไปครั้งนึงแล้วเนี่ยว่าเวลาจะกิน
02:07:23 → 02:07:27 เนื้อสัตว์ไขมันสูงๆอ่ะเนื้อสัตว์บกเนื้อ
02:07:27 → 02:07:30 แดงสัตว์บกตัวใหญ่ๆอ่ะนะเนี่ยทำไมต้องกิน
02:07:30 → 02:07:34 มื้อแรกแล้วทำไมต้องกินแบบมีทั้งอิ่มตัว
02:07:34 → 02:07:37 จากพืชจากสัตว์มีทั้งไม่อิ่มตัวในรูปน้ำ
02:07:37 → 02:07:40 สกัดอะไรน้ำสลัดอะไรเงี้ยนะแล้วก็ต้องมี
02:07:40 → 02:07:44 ไอ้มีคาฟประเภทที่เนี่ยเป็นผักใบผักหัว
02:07:44 → 02:07:47 ผักดองอะไรต่างๆน่ะแต่ไม่ใช่ค้าประเภท
02:07:47 → 02:07:50 แป้งเชิงซ้อนกินไม่ได้นะถ้ากินกันเข้าไป
02:07:50 → 02:07:54 แล้วเนี่ยค้ากับไขมันเนี่ยมันจะตีกันกลาย
02:07:54 → 02:07:57 เป็น Random Cycle นะเพราะฉะนั้นเนี่ยคน
02:07:57 → 02:08:00 นี้ก็คือการเกิด Random Cycle แม้ว่าคุณ
02:08:00 → 02:08:04 จะอ้างว่ากินข้าวแค่ทับ P เล็กๆเดียวก็
02:08:04 → 02:08:08 คือน้ำมันเข้ามา
02:08:08 → 02:08:12 เลยยิ่งมาช่วงเช้าด้วยโอ้โหแล้วในสภาพ
02:08:12 → 02:08:17 Land ที่คาฟบวกไขมันแบบเนี้ยอินซูลินที่
02:08:17 → 02:08:21 เกิดการตอบสนองเนี่ยจะเป็นอินซูลินที่ดู
02:08:21 → 02:08:26 และก้าวเท้าอฮะนะนะนะซึ่งเขาจะแกว่งพลัง
02:08:26 → 02:08:30 งานเขาจะแกว่งพลังงานวูบวาบเลยนะแล้วดี
02:08:30 → 02:08:35 ไม่ดีครับเออเหาะลงเนี่ยมันจะลงต่ำกว่า
02:08:35 → 02:08:39 เสนนะซึ่งจะเป็นการท้าทายกระตุ้นให้ตัว
02:08:39 → 02:08:45 แม่ออกมาช่วยในการควบคุมหรือบนะเพราะ
02:08:45 → 02:08:49 ฉะนั้นการแกว่งพลังงานเนะของอินซูลินเแช
02:08:49 → 02:08:51 เป็นแชอินซูลินที่จะเกิดการแกว่งพลังพลัง
02:08:51 → 02:08:55 งานเพราะเดุเก้าวร้าวนะฮะนะพลังงานที่
02:08:55 → 02:08:58 เกิดการแกว่งเนี่ยจะทำให้สมองส่วนที่ควบ
02:08:58 → 02:09:02 คุมการทรงตัวโดยมีการเชื่อมต่อกับเส้น
02:09:02 → 02:09:05 ประสาทหูชั้นในเนี่ยเกิดเเรียกเกิดการ
02:09:05 → 02:09:10 เสียสมดุลนะฮะนะเสียสมดุลที่จะเกิดคำสั่ง
02:09:10 → 02:09:16 ในการควบคุมให้เกิดการทรงตัวนะว่าให้ยืน
02:09:16 → 02:09:19 ให้นั่งให้นอนให้เดินให้เคลื่อนที่ให้ไป
02:09:19 → 02:09:24 ซ้ายไปขวานะให้หมุนให้เอ่ออะไรอย่างเงี้ย
02:09:24 → 02:09:27 นะฮะนะอ่า movement ต่างๆเหล่าเนี้ยจะ
02:09:27 → 02:09:30 ต้องมีการประสานงานระหว่างนะโครงสร้างของ
02:09:30 → 02:09:35 หูชั้นในกับสมองนะนะที่จะสั่งให้เกิดการ
02:09:35 → 02:09:40 ทรงตัวนิ่งแล้วไม่วูบๆวาบๆไม่ไม่อะไรเดิน
02:09:40 → 02:09:45 ตกต่ำตกสูงมึงงงโก่งงนะเซซ้ายเซขวาหงาย
02:09:45 → 02:09:50 หน้าขมำหลังนะฮะนะเครับอันนี้มันถึงจะบาน
02:09:50 → 02:09:54 ได้ไม่ได้เกิดเจาก ldl สูงหลอกนะเขาเรียก
02:09:54 → 02:09:57 ว่ามันเป็นภาวะที่ฮอร์โมนมัน imbalance
02:09:57 → 02:10:00 นะทั้งอินซูลินคอร์ติซอลนะนะแต่ส่วนใหญ่
02:10:00 → 02:10:03 ก็คือเป็นอิทธิพลของอินซูลินนะเพราะงั้น
02:10:03 → 02:10:06 ทำยังไงก็ได้ที่ให้อินซูลินเนี่ยเขาไม่มา
02:10:06 → 02:10:10 หรือไม่ต้องทำงานต่อนะแล้วไปพักนะมันถึง
02:10:10 → 02:10:14 จะดีถึงจะหายนะแล้วก็ต้องระวังอย่าเครียด
02:10:14 → 02:10:16 เพะอินซูลินมาตัวเดียวนี่ก็ย่ำแย่อย่าง
02:10:17 → 02:10:21 นี้แล้วถ้าคอร์ติซอลมาด้วยนะก็เรียบร้อย
02:10:21 → 02:10:23 ก็นอน 3 วัน 3 คืนแหละหรือไม่ก็ต้องไป
02:10:23 → 02:10:27 แอดมิโรงพยาบาลนั่งก็ไม่ได้ไปไหนมาไหนก็
02:10:27 → 02:10:29 ไม่ได้ขี้เยี่ยวบนเตียงอ่ะแล้วเขาก็บอก
02:10:29 → 02:10:32 ว่าเป็นน้ำในหูไม่เท่ากันอ้วก้วๆอะไร
02:10:32 → 02:10:36 อย่างเงี้ยแต่จริงๆแล้วมันไม่ใช่นะฮะนะ
02:10:36 → 02:10:39 90% เนี่ยมันเกิดจากสมองนะฮะสมองส่วน
02:10:39 → 02:10:43 ก้านสมองอ่ะที่เเรียกว่าพอน่ะนะตรงนี้
02:10:43 → 02:10:47 เนี่ยมันเป็นส่วนของสมองอ่าประมาณ 5% นะ
02:10:47 → 02:10:50 ฮะนะซึ่งมันจะเป็นศูนย์ในการควบคุมการทรง
02:10:50 → 02:10:52 ตัว
02:10:52 → 02:10:56 แล้วสมองตรงนี้เนี่ยจะเป็นสมองที่เมื่อ
02:10:56 → 02:11:00 เข้าสู่วัยทองหรือเมื่ออายุเยอะๆนะเกิน 40
02:11:00 → 02:11:04 ปีขึ้นไปเนี่ยนะเขาจะมีความไวต่อการ
02:11:04 → 02:11:06 เปลี่ยนแปลงของ
02:11:06 → 02:11:09 ฮอร์โมนโดยความไวของการเปลี่ยนแปลงของ
02:11:09 → 02:11:12 ฮอร์โมนนะ hormonal imbalance เนี่ยนะ
02:11:12 → 02:11:17 มันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามอายุนะฮะตามวัย
02:11:17 → 02:11:22 นะฮะเพราะฉะนั้นหลังจาก 40 ไปแล้วนะฮะนะ
02:11:23 → 02:11:27 หรือจะหนักๆเลยก็คือช่วงวัยทองนะหลังจาก
02:11:27 → 02:11:30 49 50 ไปแล้วหมดประจำเดือนไปแล้วหมด
02:11:30 → 02:11:35 เร็วหมดช้าเนี่ยนะนะอาการไวนะต่อการ
02:11:35 → 02:11:37 เปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนของสมองส่วน
02:11:37 → 02:11:40 นี้เนี่ยนะจะยิ่งเ้าเรียก Hyper
02:11:40 → 02:11:44 sensitive นะอะไรนิดๆหน่อยๆเนี่ยที่มัน
02:11:44 → 02:11:47 ทำให้ฮอร์โมนอบานน่ะนะไม่ว่าจะเป็น
02:11:47 → 02:11:51 อินซูลินคอร์ติซอลหรือเอสโตรเจนอะไรก็ตาม
02:11:51 → 02:11:53 นะแต่ส่วนใหญ่มันก็เป็นเรื่องของอินซูลิน
02:11:53 → 02:11:56 กับคอร์ติซอลนี่แหละนะเนี่ยพอมัน
02:11:56 → 02:11:59 imbalance เมื่อไหร่การกลไกการทรงตัวก็
02:11:59 → 02:12:02 จะเสียสมดุลแล้วมันก็จะทรงตัวไม่ได้ซึ่ง
02:12:02 → 02:12:07 คนๆนี้เนี่ยคำอธิบายก็คือเขาไปกินนะให้
02:12:07 → 02:12:10 เกิด Random Cycle แล้วก็อินซูลินมาแบบ
02:12:10 → 02:12:13 โมโหดุดันก้าวร้าวนะก็เลยเกิดภาวะ
02:12:13 → 02:12:17 imbalance ของฮอร์โมนแล้วก็มีอาการมีแค่
02:12:17 → 02:12:24 นั้นนะข้ออธิบายครับนะเออนะบางคนก็เออถึง
02:12:24 → 02:12:26 ขนาดต้องไปแอดมิโรงพยาบาลรากเขียวราก
02:12:26 → 02:12:32 เหลืองนะมันมีแต่อ้วกๆๆอแต่สมัยก่อนเค้า
02:12:32 → 02:12:34 ก็ไม่อธิบายกันอย่างงนี้นะไปน้ำในหูไม่
02:12:34 → 02:12:38 เท่ากันไปอะไรบ้าบคอแตกอันนั้นเ่ะมันเป็น
02:12:38 → 02:12:40 องค์ประกอบฮะแต่มันเป็นองค์ประกอบของ
02:12:40 → 02:12:43 hormonal imbalance นะฮะนะนะเพราะ
02:12:43 → 02:12:45 ฉะนั้นอย่าให้มัน imbalance นะก็คุม
02:12:45 → 02:12:49 อินซูลินคุมคอร์ติซอลโดยเฉพาะเนี่ยเพราะ
02:12:49 → 02:12:53 ว่านะส่วนใหญ่มันจะอเพมากกว่าใช่ไปโทษไป
02:12:53 → 02:12:57 โทษแต่ ldl ไขมันอย่างเดียวโอไม่ได้อัน
02:12:57 → 02:13:00 นั้นก็ไม่ยากนะแต่บางทีเนี่ยไม่ได้มี
02:13:00 → 02:13:03 อินซูลินเนี่ยเอ่อคอร์ติซอลอย่างเดียว
02:13:03 → 02:13:07 เนี่ยนะมันก็มีผลนะฮะเช่นอะไรบ้างนะเอ่อ
02:13:07 → 02:13:12 เช่นเช่นอดนอนนอนไม่หลับนะคนมีอายุอ่ะก็
02:13:12 → 02:13:15 จะมีปัญหาอดนอนนอนไม่หลับไม่มี Deep
02:13:15 → 02:13:19 Sleep นะนะอันต่อมาก็คือเครียดมีปัญหา
02:13:19 → 02:13:23 รุมเร้าการเงินการทองผัวเมียเอ่อลูกเต้า
02:13:23 → 02:13:25 ญาติพี่น้องอะไรอย่างเงี้ยนะฮะคดีความ
02:13:25 → 02:13:29 อะไรอย่างเงี้ยนะฮะนะก็คิดๆๆอ่าคอซอก็
02:13:29 → 02:13:33 เยอะนะฮะหรือหรือการนี่ละเ่อเล่นแมตช์
02:13:33 → 02:13:36 เล่นเกมคืออยู่ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่มี
02:13:36 → 02:13:39 แต่ประจุบวกไอออนบวกเยอะๆอ่ะนะใช้
02:13:39 → 02:13:44 โทรศัพท์มือถือนานๆเล่นเกมเอ่อดู
02:13:44 → 02:13:48 อินเทอร์เน็ตดู netflix ดูอยู่กับบลูไลฟ
02:13:48 → 02:13:51 ไม่เจอแสงเนือนแสงตะวันอะไรต่างๆอะไร
02:13:51 → 02:13:53 อย่างเงี้ยนะเอออันนี้ร่างกายก็จะเกิด
02:13:53 → 02:13:58 เครียดคอร์ติซอลเข้ามานะฮะ
02:13:58 → 02:14:02 ครับอันนี้ก็เป็นผลจากคอซออย่างเดียวก็ก็
02:14:02 → 02:14:05 ก็ได้นะฮะแต่พอดีคนนี้ก็ให้ประวัติใน
02:14:05 → 02:14:07 เรื่องของอาหารการกินมาก็น่าจะเป็นจาก
02:14:07 → 02:14:11 เรื่องของอินซูลินนะครับผมมีอะไรก็แนะนำ
02:14:11 → 02:14:15 การแก้ไปแล้วนะฮะนะแล้วก็ต้องไปปรับคือ
02:14:15 → 02:14:18 เวลาที่จะแก้เนี่ยเราจะใช้วิตามิน B12 นะ
02:14:18 → 02:14:22 ฮะนะ B12 มาแก้แล้ว B12 เนี่ยมันอยู่ใน
02:14:22 → 02:14:26 น้ำซุปต้มกระดูกนะฮะกับเกลือพวกเกลือดำ
02:14:26 → 02:14:29 พวกพวกไอ้เครื่องในสัตว์ต้มเลือดหมูพวก
02:14:29 → 02:14:32 นี้มันจะมี B12 เยอะนะฮะแต่ถ้าเนื้อหมู
02:14:32 → 02:14:36 เนื้อหมูมันจะมี B1 เยอะ
02:14:36 → 02:14:41 เออนะถ้าถ้าพวกเครื่องในอ่ะพวกไส้พวกกึ๋น
02:14:41 → 02:14:45 พวกเครื่องในพวกเลือด B12 จะเยอะนะฮะนะ
02:14:45 → 02:14:49 B12 มันอยู่ในไม่ได้อยู่ที่ที่เนื้อมัน
02:14:49 → 02:14:53 อื
02:14:53 → 02:14:56 นะก็คนนี้
02:14:56 → 02:15:00 ก็ก็ไม่มีอะไรอันนี้อันนี้ก็เคยคุยกันไป
02:15:00 → 02:15:05 แล้วเนาะครับคือคือการกินไขมันอย่าลืมว่า
02:15:06 → 02:15:08 ถ้าเราไม่เคร่งคัดจริงๆแล้วไม่เข้าใจใน
02:15:08 → 02:15:12 เรื่องอิ่มเดี่ยวซ้อนแล้วก็ไขมันคงลูกน้ำ
02:15:12 → 02:15:15 มันสกัดเย็น mct อะไรต่างๆเหล่าเนี้ยนะ
02:15:15 → 02:15:18 เรายังไปอยู่กับไอ้เรื่องอะไรอ่ะน้ำมัน
02:15:18 → 02:15:22 หมูน้ำมันมะพร้าว processing อลน้ำมันแปร
02:15:22 → 02:15:25 รูปทานฟ้งทานแฟนอะไรต่างๆเหล่าเนี้ยนะ
02:15:25 → 02:15:27 ซึ่งถ้าเป็นถ้าเป็นอย่างนี้เนี่ยมันไม่
02:15:28 → 02:15:31 ใช่แล้วนะฮะนะนะพวกเนี้ยถึงจะมาเข้าในท่อ
02:15:31 → 02:15:35 น้ำเหลืองก็ตามนะแต่เซลล์ต่างๆมันไม่โอเค
02:15:35 → 02:15:39 ที่จะเอาไปใช้อ่ะนะนะมันก็เข้าระบบเลือด
02:15:39 → 02:15:43 นะเป็นภาระนะกับ vldl นะแล้วก็เสร็จแล้ว
02:15:43 → 02:15:47 นะ vldl ก็เอาออกมานะเพื่อจะเอาไปเก็บที่
02:15:47 → 02:15:50 ช่องท้องนะฮะเพราะฉะนั้นการเนี่ยกินพวกไข
02:15:50 → 02:15:54 มันไม่ถูกต้องเลยเนี่ยนะก็ยิ่งไปกันใหญ่
02:15:54 → 02:15:56 ยิ่งหนักเลยกระตุ้นทั้งอินซูลินทั้ง
02:15:56 → 02:15:58 คอร์ติซอลไปหมดนะแล้วเก็ไปทางระบบน้ำ
02:15:59 → 02:16:02 เหลืองนี่แหละนะนะแต่เขไปใช้ไม่ได้เลยอ่ะ
02:16:02 → 02:16:05 นะเพราะว่าไอ้เยื่อหุ้มเซลล์ต่างๆมันไม่
02:16:05 → 02:16:08 รู้จักอ่ะฮะนะมึงอะไรก็ไม่รู้อ่ะทาน Z
02:16:08 → 02:16:12 เงี้ยนะเออน้ำมันแปรรูปผ่านกรรมวิธีอะไร
02:16:12 → 02:16:15 ก็ไม่รู้เยอะแยะไปหมดมีสารอะไรตอะไรล้อม
02:16:15 → 02:16:21 หน้าล้อมหลังเต็มไปหมดนะฮะเออโหนะ
02:16:21 → 02:16:23 คืออย่างคนเมื่อกี้เนี่ยนะฮะส่วนใหญ่แล้ว
02:16:23 → 02:16:27 อาการที่ผิดปกติที่เป็นอาการแสดงออกของ
02:16:27 → 02:16:29 สมองส่วนเนี้ยนะฮะก็จะมีสมองตื้อมินงง
02:16:29 → 02:16:35 วิงเวียนนะแล้วก็มีพสอเอ่อเนี่ยเ่อเทโกนะ
02:16:35 → 02:16:38 ฮะนะก็คือหน้ามืดเวลาเปลี่ยนท่าทางีสะอาจ
02:16:38 → 02:16:40 จะมีกล้ามเนื้ออ่อนล้าไม่มีแรงโดยเฉพาะจะ
02:16:41 → 02:16:43 ไปออกแรงออกกำลังต่างๆก็จะบ่นว่าไม่มีแรง
02:16:43 → 02:16:47 ยกนะหรืออาจจะมีอ่อนเพลียใจสั่นง่วงหงาว
02:16:47 → 02:16:51 หาวนอนแล้วก็อาจจะเป็นคีโตฟูได้นะนะอัน
02:16:51 → 02:16:53 นี้อันนั้นก็ต้องมาเติมอะไรต่างๆเหล่าเย
02:16:53 → 02:16:59 นะฮะเยอะแยะเลยนะแล้วก็ต้องใช้เวลาปรับ
02:16:59 → 02:17:04 ตัวนะฮะก็สุดท้ายอ่าสุดท้ายจริงๆนะนะครับ
02:17:04 → 02:17:08 ผมธรรมชาติสมองสมองนะเอาสมองอย่างเดียว
02:17:08 → 02:17:11 สมองเราเนี่ยไม่เคยมีความต้องการจะใช้น้ำ
02:17:11 → 02:17:15 ตาลกลูโคสจากภายนอกเพื่อใช้เผาผลาญเป็น
02:17:15 → 02:17:19 พลังงานอะไรเลยนะฮะไม่มีเลยนะฮะนะไม่มี
02:17:19 → 02:17:23 เซลล์สมองส่วนไหนเลยนะฮะนะที่ี่ต้องการจะ
02:17:23 → 02:17:27 ใช้นะน้ำตาลกลูโคสจากอาหารที่เรากินเข้า
02:17:27 → 02:17:32 ไปนะเพราะว่าสมองมีความรู้ดีว่านะถ้าเป็น
02:17:32 → 02:17:35 น้ำตาลกลูโคสจากอาหารภายนอกมันเป็นสิ่ง
02:17:35 → 02:17:38 ที่ก่อให้เกิดอันตรายมากๆเค้าก็เลยต้องมี
02:17:38 → 02:17:42 บัตเบนแอร์อะไรต่างๆไว้กันนะฮะนะ
02:17:42 → 02:17:47 นะแต่ผู้คนเนี่ยนะฮะนะยังยินดีติดยึดติด
02:17:47 → 02:17:51 อยากในการจะนำกลูโคสจากอาหาร
02:17:51 → 02:17:55 เข้าสู่ร่างกายกันอย่างลืมตัวลืมตายนะฮะ
02:17:55 → 02:18:01 หมอถึงได้แบบมี tion ค่อนข้างเยอะไงจะกิน
02:18:01 → 02:18:03 ทำไมอ่ะ
02:18:03 → 02:18:07 นะแล้วคำถามก็คือแล้วไอ้กลูโคสเนี่ยหรือ
02:18:07 → 02:18:13 คาฟหรือผลไม้หรือฟุกโตสหรือกาแลคโตสมส
02:18:13 → 02:18:16 เดกโตสอะไรก็ตามนะฮะนะมันอยู่ในอะไรบ้าง
02:18:17 → 02:18:21 ล่ะนะนั่นแหละฮะก็รวมไปเลยอ่ะนะเพราะว่า
02:18:21 → 02:18:23 จริงๆสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่อะไรเลยที่ร่าง
02:18:23 → 02:18:28 กายเจะต้องการนะฮะเนี่ยฮะนะนะเน require
02:18:28 → 02:18:31 กลูโคสคือแม้ว่าสมองเนี่ยต้องการน้ำตาลก็
02:18:31 → 02:18:35 ตามนะฮะนะเ่อที่จะทำให้เกิดการทำหน้าที่
02:18:35 → 02:18:39 อย่างเหมาะสมแต่กลูโคสนะจะต้องไม่ใช่มา
02:18:39 → 02:18:40 จาก
02:18:40 → 02:18:44 คาร์โบไฮเดรตที่กินจากข้างนอกนะฮะนะแต่
02:18:44 → 02:18:49 มันเป็นกลูโคสที่มาจากขบวนการกลูโค
02:18:49 → 02:18:52 neogenesis นะฮะเพราะฉะนั้นกูโคสที่สมอง
02:18:52 → 02:18:56 เขต้องการจริงๆก็คือกูโคสที่มาจากตับมัน
02:18:56 → 02:19:02 จะต้องผ่านตับเท่านั้นนะฮะนะกูโคสนี้จะ
02:19:02 → 02:19:07 ต้องผ่านมาตับจะต้องเป็นตัวทำกูโคสิทแล้ว
02:19:07 → 02:19:10 ส่งกลูโคสมาให้แต่กลูโคสโดยตรงที่กินเข้า
02:19:10 → 02:19:14 ไปดูดซึมในลำไส้แล้วไปสมองอะไรต่างๆสมอง
02:19:14 → 02:19:18 ไม่เอาด้วยนะฮะนะเจะกันออกหมดแล้วส่วนของ
02:19:18 → 02:19:21 สมองจริงๆที่ใช้กูโค้ดเนี่ยมันจะมีอยู่
02:19:21 → 02:19:22 ประมาณ
02:19:22 → 02:19:27 20% ใช้จริงๆ 100% เลยมี 5% อีก 15%
02:19:27 → 02:19:29 เนี่ยใช้ได้ทั้งกูโคแล้วใช้ทั้งได้ได้
02:19:29 → 02:19:30 ทั้ง
02:19:30 → 02:19:33 คีโตนแต่สมองส่วนที่เหลือ 80% ใช้ได้
02:19:34 → 02:19:38 เฉพาะคีโตนใช้อย่างอื่นไม่ได้เลยแล้วสมอง
02:19:38 → 02:19:41 ก็จะมีใช้กฎขายมันอิสระก็ไม่ได้นะใช้
02:19:41 → 02:19:45 กลูโคสก็ไม่ได้นะเพราะฉะนั้นสมองเลยจะมี
02:19:45 → 02:19:47 เยื่อหุ้มสมองบัตรเน Bar ที่มี
02:19:47 → 02:19:50 ประสิทธิภาพมากๆเพราะว่าเจะกันทุกสิ่งทุก
02:19:50 → 02:19:52 อย่าง
02:19:52 → 02:19:57 นะแล้วก็สมองจะเป็นเซลล์ที่สร้าง
02:19:57 → 02:20:01 คอเลสเตอรอลเองนะฮะนะโดยคอเลสเตอรอลทั้ง
02:20:01 → 02:20:05 ร่างกายเลยเนี่ย 20% จะอยู่ที่สมองนะฮะนะ
02:20:05 → 02:20:08 แล้วคอเลสเตอรอลที่สมองเป็นคอเลสเตอรอล
02:20:08 → 02:20:12 ที่ตัวสมองสร้างเองโดยมีอายุการใช้งาน
02:20:12 → 02:20:16 อยู่ในช่วงประมาณเฉลี่ย 5 ปีนะ 5 ปีถึงจะ
02:20:16 → 02:20:21 เปลี่ยนคอเลสเตอรอลทีนึงมันเป็นอย่างนั้น
02:20:21 → 02:20:26 นะเพราะฉะนั้นในเรื่องของน้ำตาลเนี่ยนะ
02:20:26 → 02:20:31 นะนะก็มันไม่มีอ่ะฮะนะที่ร่างกายเจะ
02:20:31 → 02:20:34 ต้องการนะตอนนี้เรามีองค์ความรู้แล้วนะ
02:20:34 → 02:20:37 ถ้ายังอยากจะกินจะเกินอะไรต่างๆเี่อยาก
02:20:37 → 02:20:40 กินข้าวอยากกินผลไม้อยากกินขนมปังอยากกิน
02:20:40 → 02:20:44 นมอยากกินอะไรต่างๆเ่ะอันนี้ก็แล้วแต่นะ
02:20:44 → 02:20:46 ตัวใครตัวมันน่ะนะแต่ความเป็นจริงองค์
02:20:46 → 02:20:50 ความรู้มันเป็นอย่างงนี้นะฮะนะนะส่วนคาฟ
02:20:50 → 02:20:52 หรือหรือคาร์โบไฮเดรตเนี่ยที่ร่างกายเ
02:20:52 → 02:20:54 ต้องการจริงๆเนี่ยเขาไม่ได้ต้องการในแง่
02:20:54 → 02:20:56 ของความเป็นพลังงานสิ่งที่มันเป็นพลังงาน
02:20:56 → 02:20:59 แล้วมากับคาฟนะก็คือในรูปแบบน้ำตาลต่างๆ
02:21:00 → 02:21:02 เนี่ยอันนี้เขถือว่าเป็นพิษเป็นอันตราย
02:21:02 → 02:21:06 เป็นสารพิษเป็นแอนตินิทรนะฮะนะเป็นสารที่
02:21:06 → 02:21:09 ร่างกายไม่โอเคไม่เอาด้วยนะความสำคัญของค
02:21:09 → 02:21:12 Important คาร์โบไฮเดรตเนี่ยมันอยู่ที่
02:21:12 → 02:21:14 ไม่ใช่เรื่องของพลังงานแต่มันอยู่ที่
02:21:14 → 02:21:17 เรื่องสารอาหารแต่มันเป็นสารอาหารรองเป็น
02:21:17 → 02:21:22 สารอาหารที่เป็นไมโนนิวเทรียนนะต้องการ
02:21:22 → 02:21:25 น้อยมากนะฮะนะก็ร่างกายมันสร้างไม่ได้
02:21:25 → 02:21:28 หรอกนะฮะก็คือเส้นใยวิตามินอ่าเกลือแร่
02:21:28 → 02:21:31 สารึกษาเคมีฮอร์โมนเอนไซม์และปนาอันนี้
02:21:31 → 02:21:34 คือความต้องการจริงๆของความเป็นคาฟหรือ
02:21:34 → 02:21:38 คาร์โบไฮเดรตนะต้องการความเป็นสารอาหาร
02:21:38 → 02:21:41 ไม่ใช่พลังงานพลังงานนี่ไม่เอาด้วยเลยนะ
02:21:41 → 02:21:44 ฮะแต่คนส่วนใหญ่ไม่รู้เรื่องรู้ราวกินไป
02:21:44 → 02:21:47 เพื่อหวังว่ากินข้าวเกงๆกินข้าวเยอะๆกิน
02:21:47 → 02:21:52 ข้าวอิ่มๆนะจะได้มีมีแรงไปแบกไปหาไปทำ
02:21:52 → 02:21:58 โน่นทำนี่ไม่จริงนะฮะเอก็แค่นั้น
02:21:58 → 02:22:04 เนาะอ่าพอดีเลขสวยพอดีเลย
02:22:04 → 02:22:09 22.22 25 แล้วจบแล้วจบ
02:22:10 → 02:22:14 แล้วครับผมครับจะถ
02:22:14 → 02:22:18 บ้างสมองเนี่ยมันจะแยกแยะได้เหรอครับว่า
02:22:18 → 02:22:23 กลูโคสที่ได้รับเนี่ยมันมาจากไอ้ที่ตับ
02:22:23 → 02:22:25 มันสลายไกลโคเจนส่งมาหรือว่ามันมาจาก
02:22:25 → 02:22:30 อาหารที่มีน้ำตาลหรือมีแป้งออแยกแยะได้ฮะ
02:22:30 → 02:22:32 แยกแยะได้เ้าติด
02:22:32 → 02:22:37 ไอนี่ไงเอ่อนี่ไงไอ้ไอที่ที่เค้าที่เออก
02:22:37 → 02:22:41 มาเนี้ยเนี่ยเ่อเอใครหมอตัดออกไปแล้ว
02:22:41 → 02:22:45 เอ่อเนี่ยเนี่ยๆที่ที่เขาบอกเนี่ยที่เขา
02:22:45 → 02:22:48 ยืนยันเ is Call gluconeogenesis นะ
02:22:48 → 02:22:50 Look into it เอ่อ
02:22:50 → 02:22:53 เนี่ยฮะเนี่ยๆมันเป็นงานวิจัยนะอันนี้
02:22:53 → 02:22:58 เป็นงานวิจัยนะที่บอกว่ากูโคสที่กินจาก
02:22:58 → 02:23:03 Diary กูโคสเนี่ยนะบัตเ Bar ไม่เอาไม่
02:23:03 → 02:23:07 ไม่เอาผ่านไม่ให้ผ่าน
02:23:07 → 02:23:14 นะไม่ได้ผ่านเข้าสมองนะอครับผมอืิดน้ำตาล
02:23:14 → 02:23:18 สมองไม่เอาอืแล้วมันมันแยกจากอะไรฮะคือ
02:23:18 → 02:23:20 โมเลกุลมันไม่เหมือนกันอย่าเงี้ย
02:23:20 → 02:23:23 อืมเราอันนี้เราก็ไม่รู้เป็นเรื่องลึกๆ
02:23:23 → 02:23:28 เข้าไปแล้วนะอืแต่ว่ามีงานวิจัยออกมาใช่
02:23:28 → 02:23:31 ก็คือก็คือให้จำเลยว่า
02:23:31 → 02:23:36 นะน้ำตาลที่จำเป็นต่อร่างกายในอวัยวะใดๆ
02:23:36 → 02:23:39 ก็ตามแม้แต่สมองก็คือน้ำตาลที่ต้องมีการ
02:23:39 → 02:23:43 กูโคเจนิออกมาจากตับเท่านั้นไม่ใช่เป็น
02:23:43 → 02:23:48 น้ำตาลโดยตรงที่จะพุชเข้าไปหรือเ่อที่จะ
02:23:48 → 02:23:52 กินเข้าไปอะไรอย่างเงี้ยนะฮะนะอันนั้นไม่
02:23:52 → 02:23:58 ไม่ผ่านบัตเน
02:23:58 → 02:24:01 Bar
02:24:01 → 02:24:05 อันอันนี้ถ้าถ้ามีงานวิจัยออกมาหมายถึง
02:24:05 → 02:24:07 ว่ามีเปเปอร์หรืออะไรออกมานี่สะเทือนวง
02:24:07 → 02:24:11 การเลยนะพี่หมอมันมีอยู่นะเราเราเคยโพสต์
02:24:11 → 02:24:15 ไปตั้ง 2 ปีแล้วคือมันมีคำนี้ไงจำได้มั้ย
02:24:15 → 02:24:17 คุณหมอเคยโพสต์คำว่า Important
02:24:17 → 02:24:23 คาร์โบไฮเดรตนฮะนี่แหละคนที่คนที่ตั้ง
02:24:23 → 02:24:25 ชื่อนี้ขึ้นมานี่แหละเคก็มาอธิบายเรื่อง
02:24:25 → 02:24:28 นี้แหละฮะนะเรื่องเนี้ยที่ที่มันสรุปเป็น
02:24:29 → 02:24:32 เป็นสีน้ำเงินเออกมา
02:24:32 → 02:24:36 นะคือเราไม่มี essential คาร์โบไฮเดรตแต่
02:24:37 → 02:24:39 เรามีคำว่า Important
02:24:39 → 02:24:45 คาร์โบไฮเดรตอื essential เนี่ยมันมันก็
02:24:45 → 02:24:51 คือร่างกายสร้างเองไม่ได้นะฮะอแต่คาฟหรือ
02:24:51 → 02:24:54 คาร์โบไฮเดรตยังมีความสำคัญในระดับรองที่
02:24:54 → 02:24:58 เาใช้คำว่า Important นะฮะนะก็คือส่วนที่
02:24:58 → 02:25:01 เป็นสารอาหารที่ไม่ใช่พลัง
02:25:01 → 02:25:04 งานอย่างงี้แสดงว่าสภาวะที่น้ำตาลในเลือด
02:25:05 → 02:25:07 เนี่ยมันต่ำเกินไปจนมันเกิดอันตรายอ่ะนะ
02:25:07 → 02:25:09 ฮะที่มันเป็นไฮโป
02:25:09 → 02:25:12 ไกลซีนก็ไม่เกี่ยวกับการกินหรือไม่กินน้ำ
02:25:12 → 02:25:15 ตาลเลยไม่ไม่เกี่ยวกับการกินาฟหรือไม่เลย
02:25:15 → 02:25:18 มันมันเป็นปัญหาเรื่องของตับใช่
02:25:18 → 02:25:22 ฮะทีนี้ทีนี้ถ้าเป็นไฮโปไกลซีนน้ำตาลต่ำ
02:25:22 → 02:25:24 ที่มันเกิดจากอย่างในกรณีที่ตับมันเจอ
02:25:24 → 02:25:27 โหลดของแอลกอฮอล์เข้าไปมากๆอ่ะอันนี้ยัง
02:25:27 → 02:25:30 พอเข้าใจแล้วอย่างในกรณีของยาเบาหวานนะ
02:25:30 → 02:25:33 อาจารย์ที่ที่ที่เอาที่มันที่มันไปกดน้ำ
02:25:33 → 02:25:36 ตาลลงต่ำอ่ะมันมันจะเกี่ยวยังไงที่ว่า
02:25:36 → 02:25:37 ทำไมสมองมันถึงไม่
02:25:37 → 02:25:41 ไหวเพราะว่ายามันไปกดของมันมันไปกดน้ำตาล
02:25:41 → 02:25:43 ทุกตัวหรือเป่ามันไม่สนว่ามาจากตับหรือ
02:25:43 → 02:25:46 ว่ามาจากอาหารที่มี
02:25:46 → 02:25:51 คาฟยา
02:25:51 → 02:25:55 ยาเบาหวานกินไปเยอะๆหรืออินซูลินฉีดไป
02:25:55 → 02:25:58 แล้วน้ำตาลต่ำใช่
02:25:58 → 02:26:01 มั้ยใช่
02:26:01 → 02:26:05 ครับคือคือมันกดไปหมดใช่มั้ยคือน้ำตาลจาก
02:26:05 → 02:26:09 อาหารก็มันก็ลงตามที่หมอต้องการแต่ว่าน้ำ
02:26:09 → 02:26:13 ตาลจากจากตับที่สมองเค้าเต้องการเนี่ยมัน
02:26:13 → 02:26:14 ก็ร่วงไป
02:26:14 → 02:26:20 ด้วยอ๋อมันคือมนาวน้ำตาลไล่เข้าเซลล์พอ
02:26:20 → 02:26:23 มันไล่เข้าเซลล์ปุ๊บเนี่ยตับเนี่ยนะก็จะ
02:26:24 → 02:26:26 เปลี่ยนแปลงน้ำตาลเนี่ยแล้วกลูโคเจนิไป
02:26:26 → 02:26:30 ให้สมอง
02:26:30 → 02:26:34 นะคืออินซูลินก็ดีนะหรือยาต่างๆก็ดีที่
02:26:34 → 02:26:37 ว่ากดน้ำตาลเนี่ยออกจากกระแสเลือดเนี่ยก็
02:26:37 → 02:26:44 คือพยายามยัดน้ำตาลเข้าไปในเซลล์อ่ะ
02:26:44 → 02:26:48 นะพอพอเซลล์มันได้อ่ะโดยเฉพาะเซลล์ตับมัน
02:26:48 → 02:26:51 ได้น้ำตาลแล้วเนี่ยนะมันก็สามารถที่จะ
02:26:51 → 02:26:56 เปลี่ยนอ่าเปลี่ยนน้ำตาลเป็นเป็นการกูโค
02:26:56 → 02:26:59 genesis นะฮะไปให้อวัยวะที่สมองเป็นหลัก
02:26:59 → 02:27:02 นะสมองก็เลย
02:27:02 → 02:27:08 ตื่นถามว่าถามว่า
02:27:08 → 02:27:12 อะไรคือแอคชั่นของยาต่างๆเนี่ยส่วนใหญ่ก็
02:27:12 → 02:27:15 คือง่ายๆก็คือมันพยายามเอาน้ำตาลที่อยู่
02:27:15 → 02:27:20 ในกระแสเลือดอ่ะยัดเข้าไปในเซลล์อ่ะ
02:27:20 → 02:27:22 แต่มันไม่สามารถที่จะเอาน้ำตาลเข้าสมอง
02:27:22 → 02:27:26 ได้นะมันจะต้องยัดเข้าไปที่ตับแล้วให้ตับ
02:27:26 → 02:27:30 เนี่ยเปลี่ยนเป็นน้ำตาลชนิดที่จะนำไปให้
02:27:30 → 02:27:31 สมองใช้
02:27:31 → 02:27:35 ได้แล้วคือที่มันเป็นไฮโปไกลสิเมียนี่มัน
02:27:35 → 02:27:38 เกิดจากตับมันสร้างน้ำตาลไม่ทันเหรอพี่
02:27:38 → 02:27:41 หมอจาก
02:27:41 → 02:27:45 ยาจากยาเหรอใช่
02:27:45 → 02:27:52 ครับอ๋อจับสร้างน้ำตาลไม่ทัน
02:27:52 → 02:27:56 ก็คือยามันเยอะนะแล้วมันก็จับน้ำตาลยัด
02:27:57 → 02:27:59 ใส่เซลล์ไปอ่ะฮะแล้วมันก็เลยไฮโปไลซีนอ๋อ
02:27:59 → 02:28:04 ยัดเข้าไปหมดเลยยัดไปหมดเลยอ่ะนะคือคือ
02:28:04 → 02:28:08 ความแรงของยาเนี่ยการบังคับของยาเนี่ยนะ
02:28:08 → 02:28:12 การขับเฆี่ยนของยาเนี่ยมันแรงมากไงฮะนะ
02:28:12 → 02:28:15 เซลล์อ่ะถึงจะกรีดกันแค่ไหนอะไรก็ตาม
02:28:15 → 02:28:18 เนี่ยนะมันก็ต้านไปอยู่อ่ะนะเพราะฉะนั้น
02:28:18 → 02:28:23 อ่าน้ำตาลก็ถูกจับยัดๆๆๆๆเข้าไปเลยยัด
02:28:24 → 02:28:27 เพื่อเพื่อเพื่อให้ผลน้ำตาลในเลือดได้ดู
02:28:27 → 02:28:30 ว่าในเกณฑ์ที่ปกติแต่ไม่รู้ว่าเซลล์เรา
02:28:31 → 02:28:35 ต้องการไม่ต้องการใช่มั้ยครับใช่อืโอข้อ
02:28:35 → 02:28:40 มูลตรงนี้นี่คือดีมากเพราะว่ามันมันตอบ
02:28:40 → 02:28:43 เรื่องของการกินมื้อเช้าด้วยนะพี่
02:28:43 → 02:28:46 หมอที่ที่เขาแนะนำกันน่ะว่ากินมื้อเช้า
02:28:46 → 02:28:49 เพื่อให้สมองได้รับพลังงานเนี่ยจากน้ำตาล
02:28:49 → 02:28:50 เนี่ย
02:28:50 → 02:28:53 กับอ๋อมันกับทั่วเลย
02:28:53 → 02:28:56 เออคือกินกินเข้าไปแล้วมันก็ไม่ได้พลัง
02:28:56 → 02:29:00 งานจากน้ำตาลเลยไงมันก็ได้จากได้จากไอ้ใช
02:29:00 → 02:29:06 กลูโคนิโอเจนิจากตับอยู่ดีใช่ฮะนะอืมื้อ
02:29:06 → 02:29:09 เช้าเนี่ยเรากินเข้าไปนะ
02:29:09 → 02:29:13 แล้วแล้วก็ไปที่ตับนั่นแหละนะเพราะว่าตับ
02:29:13 → 02:29:17 เนี่ยมันนอนมาทั้งคืนมันก็ไอ้ไกลโคเจนมัน
02:29:17 → 02:29:20 หมดนะมันก็ไปไปแพ็คเป็นไกลโคเจน
02:29:20 → 02:29:23 อ
02:29:23 → 02:29:26 อือทุกคนนี้เวลาแปลผลตรวจสุขภาพก็จะบอกคน
02:29:26 → 02:29:31 ไข้หรือลูกค้าเนาว่ามื้อเช้าเนี่ยถ้าเป็น
02:29:31 → 02:29:35 ไปได้ไม่ต้องาฟดีที่สุดเพราะว่าไอ้ตัว
02:29:35 → 02:29:37 สมองหรือร่างกายเราที่มันต้องที่มันยัง
02:29:37 → 02:29:40 อาจจะต้องใช้น้ำผึ้งน้ำตาลอยู่เนี่ยมัน
02:29:40 → 02:29:43 ใช้น้ำตาลจากตับซึ่งมันมาจากมื้อเย็นของ
02:29:43 → 02:29:47 วันก่อนหน้าแต่มันไม่ได้ใช้เลยไอ้ไอาฟที่
02:29:47 → 02:29:51 เรากินในในมื้อเช้าแต่ในทางตรงกันข้ามถ้า
02:29:51 → 02:29:53 เราไปใส่าฟเยอะกลัวไม่มีแรงเนี่ยสิ่งที่
02:29:53 → 02:29:56 เราจะได้มาคืออินซูลินที่มันเวอร์แล้วมัน
02:29:56 → 02:30:00 ก็จะกระชากไปมื้อถัดๆไปทำให้มันคุมอาหาร
02:30:00 → 02:30:04 ยากขึ้นนะแล้วก็ง่วงแล้วก็เพลียแล้วก็แรง
02:30:04 → 02:30:06 ตกแล้วก็สิ่งที่คาดว่าจะได้ก็จะกลายเป็น
02:30:06 → 02:30:09 ตรงกันข้ามแล้วสุดท้ายก็จะคุมน้ำหนักกับ
02:30:09 → 02:30:12 คุมโรคไม่ได้ก็จะอธิบายเ้าประมาณเนี้ย
02:30:12 → 02:30:26 ครับอื
02:30:26 → 02:30:30 ครับผมก็ไม่รู้จะทำยังไงนะเพราะว่าองค์
02:30:30 → 02:30:33 ความรู้มันเยอะมากแล้วมันก็
02:30:34 → 02:30:36 ละเอียดแล้ว
02:30:36 → 02:30:42 ก็แล้วก็คนตามเนี่ยมันตามไม่ทันนะมันตาม
02:30:42 → 02:30:45 ไม่ทันนี่ขนาดซอยให้แล้ว
02:30:45 → 02:30:51 นะถ้าจะให้เรามาจมปักจมปำอยู่เออก็คือคือ
02:30:51 → 02:30:56 เขาบอกว่าเอ่ออะไรนะเอทำไมจะต้องอินซูลิน
02:30:56 → 02:30:59 ้าร้าวด้วยล่ะอินซูลินก็อินซูลินสิ
02:30:59 → 02:31:03 คอร์ติซอลก็คอร์ติซอลสิอะไรอย่างเงี้ยนะ
02:31:03 → 02:31:07 เอ่อคีโตสก็คีโตสสิเ้าก็อยู่แค่นั้นแหละ
02:31:07 → 02:31:11 อุ๊ยอินซูลินก็ต้องอินซูลิน้าร้าวดุดัน
02:31:11 → 02:31:13 อะไรอย่างเงี้ยแล้วเดี๋ยวมึงจะกมีกี่
02:31:13 → 02:31:18 อินซูลินเนี่ย
02:31:18 → 02:31:22 อะไรสงสัยมีประเด็นแน่เลย
02:31:22 → 02:31:26 เนี่ยมันก็ไม่มีหรอกมันก็มันก็เป็นอย่าง
02:31:26 → 02:31:28 งี้
02:31:28 → 02:31:31 มาคือจริงๆเนี่ยมันก็คืออินซูลินนั่นแหละ
02:31:31 → 02:31:34 เพียงแต่ว่าเพียงแต่ว่าหน้าที่หรือ
02:31:34 → 02:31:36 ฟังก์ชันอะไรของเขาเนี่ยมันค่อนข้าง
02:31:36 → 02:31:41 ไฮเปอร์อ่ะนะมันค่อนข้างไฮเปอร์ไฮโปอะไร
02:31:41 → 02:31:45 ต่างๆเยอะขึ้นไปเรื่อยๆอ่ะนะมันก็เหมือน
02:31:45 → 02:31:48 กับวิวัฒนาการไปกับไอ้เรื่องอาหงอาหาร
02:31:48 → 02:31:50 เรื่องรูปแบบอะไรต่างๆของไลฟ์สไตล์ที่มัน
02:31:50 → 02:31:53 เปลี่ยนไปด้วยคุณหมออธิบายละเอียดแล้ว
02:31:53 → 02:31:57 ตั้งแต่เรื่องอินซูลินเนี่ยอื 2 ฝั่งอ่ะ
02:31:57 → 02:32:00 ที่ดื้ออินซูลินกับอิซูลินฟังก์ชันน่ะแต่
02:32:01 → 02:32:03 เราเรียกเรียกรวมๆกันว่า insulin
02:32:03 → 02:32:06 resistance ไงมันก็เลยเข้าใจในมิติเดียว
02:32:06 → 02:32:12 อิเดีวครับผมเข้าใจแต่มิติคนอ้วนพไออะไร
02:32:12 → 02:32:18 ที่คมอกว่าพลิ py ของอิิไม่มีไม่ไม่ค่อย
02:32:18 → 02:32:20 มีใครเข้าใจครับผม
02:32:20 → 02:32:24 เออไม่มีไม่มีแล้วเสร็จแล้วคนหอมเนี่ยก็
02:32:24 → 02:32:28 เอาสูตรของคนอ้วนไปใช้มันก็เลยเกิดกัน
02:32:28 → 02:32:30 เยอะก็นั่นแหละก็นั่น
02:32:30 → 02:32:34 แหละแล้วก็คนที่เป็น L vir Syndrome
02:32:34 → 02:32:39 เนี่ยก็คือมีทั้ง 2 ฝั่งนะฮะทั้งไฮเปอร์
02:32:39 → 02:32:43 อินซูลินในฝั่งคนอ้วนและอิซูลินฟังก์ชัน
02:32:43 → 02:32:49 และ suppression ในฝั่งของคนผอมผอมแต่แต่
02:32:49 → 02:32:53 แต่ในฝั่งของฟังก์ชันกับ SE เนี่ยมันจะ
02:32:53 → 02:32:57 แสดงออกด้วยอาการของ repin resistance
02:32:57 → 02:32:59 จริงๆแล้ว OT vor Syndrome ก็คือ 2
02:32:59 → 02:33:02 ฝั่งเนี่ยผสมกันอยู่ในคนคนเดียวกันอีกอีก
02:33:02 → 02:33:06 นิดนึงเดี๋ยวจะมีเนื้องอกแล้วนะเอสโตรเจน
02:33:06 → 02:33:11 เตรียมละใช่มพี่หมอใช่มเ๋เอสโตรเจนเตรียม
02:33:12 → 02:33:15 มาตอกฝาโรงแล้วอย่าง
02:33:15 → 02:33:17 เงี้ยจะถามอาจารย์ว่าไอ้ไอเรื่อง
02:33:17 → 02:33:20 วิวัฒนาการเนี่ยที่ว่า
02:33:20 → 02:33:22 ร่างกายที่เขาอธิบายว่าร่างกายมนุษย์
02:33:22 → 02:33:26 เนี่ยมันต้องการพลังงานจากไขมันเป็นหลัก
02:33:26 → 02:33:30 ไม่ใช่คาฟใช่มั้ยฮะแล้วก็ต้องการพลังงาน
02:33:30 → 02:33:35 จากพืชเป็นหลักแต่ทีเนี้ยในในอาหารที่มัน
02:33:35 → 02:33:39 เป็นเร Food ในธรรมชาติเนี่ยมันก็มีอยู่
02:33:39 → 02:33:43 น้อยอย่างมากมครับที่มันให้ที่มันให้ไข
02:33:43 → 02:33:47 มันมากอ่ะพอที่จะเป็นพลังงานน่ะถ้าถ้า
02:33:47 → 02:33:50 มนุษย์กินพืชมากกว่าสัตว์เนี่ยมันก็ได้
02:33:50 → 02:33:53 มันก็ได้คาฟเป็นหลักอยู่ดีป่ะหรือถ้า
02:33:53 → 02:33:57 มนุษย์ในในในส่วนที่เขาอาจจะหาพืชได้ยาก
02:33:57 → 02:33:59 ในเขตนาวหรือเขตแห้งแล้งเนี่ยเขาก็ต้อง
02:33:59 → 02:34:01 กินสัตว์เป็นหลักอยู่ดีแล้วเขาจะมาใช้
02:34:01 → 02:34:04 พลังงานจากพืชเป็นหลักแถมยังต้องใช้ใน
02:34:04 → 02:34:07 ฟอร์มของของไขมันเพืดด้วยมันมันจะเป็นไป
02:34:07 → 02:34:10 ได้ยังไงฮะในเมื่อสมัยโบราณหรือสมัยดุก
02:34:10 → 02:34:13 ตำบมันไม่มีน้ำมันสกัดเย็นซักักกับออยมัน
02:34:13 → 02:34:17 ไม่มีทั้งนั้นน่ะก็คือดังที่เคยตอบไปก็
02:34:17 → 02:34:20 คือเา้าก็กินผ่านสัตว์นั่นแหละทุกอย่าง
02:34:20 → 02:34:23 เนี่ยกินผ่านสัตว์ที่มันไปควบรวม
02:34:23 → 02:34:29 อ่าพลังงานจากพืชมาแล้วได้นะเพียงแต่ว่า
02:34:29 → 02:34:31 สัตว์อันนั้นเนี่ยจะต้องไม่สัตว์
02:34:31 → 02:34:35 อุตสาหกรรมหรือสัตว์ที่มีการเฉฉไปในการ
02:34:35 → 02:34:38 ถูกเลี้ยงมาต้องมีความเป็นธรรมชาติเยอะ
02:34:38 → 02:34:41 หรือเลี้ยงแบบปล่อยเลี้ยงแบบไล่ทุ่ง
02:34:41 → 02:34:44 เลี้ยงแบบกาสเฟร็ดอะไรอย่างเลี้ยงแบบ
02:34:44 → 02:34:47 ออร์แกนิคเลี้ยงแบบอนามัยอ่ะ
02:34:47 → 02:34:51 นะซึ่งถ้าเป็นอย่างเงี้ยเราไม่ต้องกินน้ำ
02:34:51 → 02:34:54 มันสกัดเย็นหรอกเราก็กินผ่านพืชผ่านสัตว์
02:34:55 → 02:34:57 โดยตรงได้เลย
02:34:57 → 02:35:00 ครับแต่ในปัจจุบันเนี่ยเราอยู่ในสังคม
02:35:00 → 02:35:03 เมืองอยู่ในสังคมใหญ่และโรคภัยไข้เจ็บของ
02:35:03 → 02:35:08 เราเรารอไม่ได้แล้วนะมันจะย่ำแย่มโหฬาร
02:35:08 → 02:35:12 บานตทยหลายโลกหลายเรื่องไปหมดแล้วอ่ะยา
02:35:12 → 02:35:16 เป็นกระตั๊กๆไปหมดแล้วนะอืครับผมก็เลย
02:35:16 → 02:35:19 ต้องต้องเอาสูตรแบบอย่างนี้แหละนะคือ
02:35:19 → 02:35:23 เหมือนตัดตอนหาอะไรที่ดีๆมาแล้วมาเป็นตัว
02:35:23 → 02:35:27 ช่วยอ่ะนะแล้วก็ผสมเผสนะกลายเป็นหลักสูตร
02:35:27 → 02:35:31 หรือว่ากลายเป็นแนวทางอาหารรูปแบบนึงขึ้น
02:35:31 → 02:35:35 มางั้นแสดงว่าถ้าเราจะอ้างเรื่องทฤษฎี
02:35:35 → 02:35:39 วิวัฒนาการเนี่ยมันก็จะไปเข้าในในคำ
02:35:39 → 02:35:43 อธิบายคล้ายๆกับเรื่องของพิโอ Diet หรือ
02:35:43 → 02:35:46 อาหารดึกตำบมาซึ่งความจริงหลักๆมันคือ
02:35:46 → 02:35:51 สัตว์นะมันไม่น่าจะเป็นพืชหรือป่ะใช่มัน
02:35:51 → 02:35:53 ก็คือกินนสัตว์นั่นแหละจะกินสัตว์เล็ก
02:35:53 → 02:35:55 สัตว์ใหญ่ไขมันต่ำไขมันสูงก็แล้วแต่มันก็
02:35:55 → 02:35:57 คือกินสัตว์นั่นแหละเพียงแต่ว่ามันกินแบบ
02:35:58 → 02:36:00 ออร์แกนิคจริงที่เป็นออร์แกนิคอย่างแท้
02:36:00 → 02:36:03 จริงแล้วก็แล้วก็สัตว์เโดยเฉพาะสัตว์ใหญ่
02:36:03 → 02:36:07 เนี่ยมันจะได้ได้กรดไขมันในสัตว์ส่วนที่
02:36:07 → 02:36:09 ใกล้เคียงกับมนุษย์ด้วยถ้าเป็นสัตว์สี
02:36:09 → 02:36:15 เท้าถูกมั้ยฮะออืแต่แต่ในยุคปัจจุบัน
02:36:15 → 02:36:18 เนี่ยเราเราไม่ได้ไปกินไอ้ไอแพะแกะกวาง
02:36:18 → 02:36:20 หรือหรือหรือออร์แกนิคอะไรอย่างนั้นได้
02:36:20 → 02:36:23 สักเท่าไหร่ดังเราก็เลยไปโหลดพวกโปรตีน
02:36:23 → 02:36:27 สัตว์มากๆเนี่ยไม่ได้แต่เราต้องประยุกต์
02:36:27 → 02:36:30 มาใช้โปรตีนจากเอ้ไม่ใช่โปรตีนประยุกต์มา
02:36:30 → 02:36:34 ใช้ไอ้น้ำมันสกัดเย็นตรงนี้แทนใช่พลังงาน
02:36:34 → 02:36:36 ต้องมาจากน้ำมันสกัดเย็นมากกว่า
02:36:36 → 02:36:39 คาร์โบไฮเดรตบวกโปรตีน
02:36:40 → 02:36:44 นะต้องมากกว่าเมื่อมื่อเมื่อแปลงออกมา
02:36:44 → 02:36:49 เป็นแคลอรี่แล้วอ่ะต้องมากกว่า 60% ขึ้น
02:36:49 → 02:36:50 ไปอ่ะ
02:36:50 → 02:36:53 เพราะฉะนั้นจะกินโปรตีนจากสัตว์ให้มาก
02:36:54 → 02:36:58 กว่าแฟตบวกคาฟไม่ได้นะร่างกายยัง
02:36:58 → 02:37:00 วิวัฒนาการที่จะ
02:37:00 → 02:37:05 ปรับแล้วก็เอ่อยังทนได้อยู่ได้เนี่ยไม่
02:37:05 → 02:37:09 ได้ก็จะเกิดความเจ็บป่วยผิดปกตินะแล้วก็
02:37:09 → 02:37:12 เปลี่ยนแปลงกลายเป็นโรค
02:37:12 → 02:37:23 ไปนี่แหละมันก็เป็นอย่างนี้แหละนะ
02:37:23 → 02:37:26 ก็พลังคือน้ำมันสกัดเย็นมันเป็นตัวช่วย
02:37:26 → 02:37:29 อย่าเพียงแต่ว่าเ้าเป็นพระเอกในยามนี้
02:37:29 → 02:37:31 สำหรับคนที่อยู่ใน
02:37:31 → 02:37:35 เมืองใช่ครับเพราะว่าสมัยก่อนเนี่ยอาหาร
02:37:35 → 02:37:38 มันก็ไม่ได้แปรรูปหนักเหมือนทุกวันนี้นะ
02:37:38 → 02:37:42 พี่หมอใช่แล้วแล้วคนเราก็ไม่ได้ขยับตัว
02:37:43 → 02:37:46 มากเหมือนแต่ก่อนคือคือถ้าเราได้ไปเจอ
02:37:46 → 02:37:50 สังคมอีกสังคมนึงอ่ะสังคมป่าสังคมชาวบ้าน
02:37:50 → 02:37:52 ที่อยู่ในป่าจริงๆนะพี่หมอนะในปัจจุบันเ
02:37:52 → 02:37:55 นะคือเค้าขยับตัวทั้งวัน
02:37:55 → 02:37:59 นะคือตั้งแต่เช้ามาเนี่ยคือเขาต้องไปตัก
02:37:59 → 02:38:01 น้ำที่คือผมเข้าป่าผมไปอยู่กับชาวบ้านที่
02:38:02 → 02:38:05 เขาไม่มีไฟฟ้าไม่มีน้ำไม่มีอะไรพวกนี้ใช้
02:38:05 → 02:38:08 อ่ะความสะดวกสบายอ่ะนะคือเขาคขยับตัวทั้ง
02:38:08 → 02:38:10 วันน่ะแล้วเขาก็ไปปลูกปลูกนั่นปลูกนี่
02:38:10 → 02:38:14 เรี้งนั่นเรี้งนี่อะไรอย่างเงี้ยแล้วก็
02:38:14 → 02:38:17 เข้าป่าไปเค้าก็ยังล่าสัตว์อยู่นะพี่หมอ
02:38:17 → 02:38:19 แต่ว่ามันไม่ได้สัตว์ใหญ่หรอกมันก็จะได้
02:38:19 → 02:38:23 พวกพวกสัตว์เล็กๆอ่ะพวกกระลอกกระแตตัว
02:38:23 → 02:38:26 ตุ่นปลาอะไรอย่างเงี้ย
02:38:26 → 02:38:31 ครับเเยังอ้าเราถามหน่อยเมื่อเมื่อวัน
02:38:31 → 02:38:34 หยุดที่ผ่านมาในช่วงอาสาหากเข้าพรรษา
02:38:34 → 02:38:39 เนี่ยคุณหมอได้แชร์คลิปอยู่ 3 คลิปเป็น
02:38:39 → 02:38:43 ผู้ชายเวียดนามอ่ะที่เขไปอยู่กลางป่าอ่าๆ
02:38:43 → 02:38:47 ๆแล้วเมีความรู้ทางด้านไฟฟ้าช่างก่อสร้าง
02:38:47 → 02:38:50 อะไรเงี้ยครับแล้วเ้าก็ก็ค่อยๆไปสร้าง
02:38:50 → 02:38:54 บ้านไปขุดดินขุดน้ำทำไฟทำอะไรต่างๆแล้ว
02:38:54 → 02:38:58 หลังๆเนี่ยเค้าก็คือไม่รู้ว่าพื้นที่แบบ
02:38:58 → 02:39:01 นั้นเป็นพื้นที่แบบสปกอะไรแบบยังไงหรือ
02:39:01 → 02:39:04 เปล่านะเนี่ยเขาคก็สร้างอะไรต่างๆสร้าง
02:39:04 → 02:39:08 ฐานะอ่าเลี้ยงเป็ดเลี้ยงอะไรต่างๆอย่าง
02:39:08 → 02:39:10 นั้นน่ะเไม่ต้องกินน้ำมันสกัดเย็นหรอกเ
02:39:10 → 02:39:13 ไม่ต้องกินอะไรที่เข้าอกเข้าใจอะไรมากมาย
02:39:13 → 02:39:16 แล้วหรอกเพราะว่าเมี activity Active
02:39:16 → 02:39:20 ตลอดทั้งวันถูกต้องใช่ครับแบบนั้นแหละพี่
02:39:20 → 02:39:23 เนี่ยชีวิตมันต้องอยู่แบบนั้นเนี่ยชีวิต
02:39:23 → 02:39:26 ของเรามันไม่ได้เป็นแบบนั้นอืคือกินข้าว
02:39:27 → 02:39:29 ก็ได้กินข้าวเหนียวก็ได้กินไปเหอะเพราะ
02:39:29 → 02:39:31 ว่ายังไงมันไม่อ้วนหรอกเพราะว่ามันใช้หมด
02:39:31 → 02:39:35 ใช่เออมันขยับทั้งวันจริงๆนะพี่หมอคนคน
02:39:35 → 02:39:36 ที่เป็นชาวบ้านเนี่ยชาวบ้านที่เป็นชาว
02:39:36 → 02:39:39 บ้านจริงๆเนี่ยเขาไม่ได้มานั่งดูทีวี
02:39:39 → 02:39:40 อย่างพวกเรา
02:39:40 → 02:39:44 นะคิดว่าเหมือสิ่งอื่นใดไม่กินน้ำตาลนะฮะ
02:39:44 → 02:39:48 เค้าไม่กินน้ำตาลแล้วเขาก็ไม่กินไอ้ไฮฟุส
02:39:48 → 02:39:49 คอนเซหลับอ่ะ
02:39:50 → 02:39:53 ซึ่งมันก็จะเหมือนกับเราพูดถึงคนไทยสมัย
02:39:53 → 02:39:55 ก่อนน่ะที่เป็นชนชั้นไพร่หรือประชาชน
02:39:55 → 02:40:00 ธรรมดาเนี่ยก็กินข้าวเยอะกินกินกินเป็นไ
02:40:00 → 02:40:04 ขาบ ow Fat ถูกมไขาบ ow Fat แต่ผมเชื่อ
02:40:04 → 02:40:06 ว่าเา้าเข้าคีโตสิสเลยแหละเพราะว่าเไม่
02:40:06 → 02:40:10 กินจุบจิบเขาใช้แรงงานเยอะแล้วไอ้ High
02:40:10 → 02:40:13 cf ของเขาเนี่ยมันมัน process บ้างแต่
02:40:13 → 02:40:15 มัน process น้อยมากอ่ะแล้วมันไม่มีไอ้ไอ
02:40:15 → 02:40:19 พวก Bad ขาบอย่างอย่างพุกไซหลับมันไม่มี
02:40:19 → 02:40:21 แล้วแล้วน้ำตาลทรายเนี่ยเกินแค่เทศกาล
02:40:21 → 02:40:24 จริงๆอ่ะน้ำตาลอาจจะไม่ใช่น้ำตาลทรายแต่
02:40:24 → 02:40:26 เป็นน้ำตาลปี๊บเป็นขนมพื้นบ้านอะไรก็ว่า
02:40:26 → 02:40:30 ไปเนี่ยมันมันเทศมันอาจจะเทศกาลจริงๆอ่ะ
02:40:30 → 02:40:32 ถึงจะได้กินนะส่วนมากจะเป็นน้ำผึ้งครับ
02:40:32 → 02:40:35 พวกน้ำตาลน้ำผึ้งอ่ะปีนึงก็มีอยู่ครั้ง
02:40:35 → 02:40:39 นึงต้องไปปีนก้อนหินปีนหน้าผาเอาอ่ะแล้ว
02:40:39 → 02:40:41 พูดถึงผลไม้ป่านี่ไม่ต้องพูดเลยเรื่องของ
02:40:41 → 02:40:44 หวานไม่มีหวาน
02:40:44 → 02:40:49 ครับคนสมัยก่อนเนี่ยเอยู่ตามวัดก็คือเรา
02:40:49 → 02:40:52 จะเห็นว่าทุก 8 วันเนี่ยจะมีการทำบุญวัน
02:40:52 → 02:40:55 โกนวันพระเพราะฉะนั้นวัฒนธรรมประเพณีสมัย
02:40:55 → 02:40:59 ก่อนเนี่ยเมื่อวันโกนกับวันพระมาถึงก็จะ
02:40:59 → 02:41:02 ไม่มีเสาร์อาทิตย์นะฮะก็คือทุกๆ 8 วันวัน
02:41:02 → 02:41:06 โกนมาถึงเนี่ยเจะไม่ทำงานนะเาก็จะไปออก
02:41:06 → 02:41:10 อ่าหาของต่างๆเพื่อว่าจะมาทำอาหารแล้ว
02:41:10 → 02:41:14 เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าจะไปทำบุญนะแล้วก็การ
02:41:14 → 02:41:18 ไปหาเค้าเนี่ยเขาคก็จะทำเป็ดทำไก่หรือจะ
02:41:18 → 02:41:21 มีสัตว์ไม่มีสัตว์หรือจะไปหาอะไรต่างๆที่
02:41:21 → 02:41:25 เป็นของปากของอะไรมานะแล้วเสร็จแล้วเก็มา
02:41:25 → 02:41:29 จัดเตรียมงานในวันโกนพอวันพระเนี่ยเขาก็
02:41:29 → 02:41:33 ไปรับศีลฟังธรรมแล้วก็ไปถวายเพลพระถวาย
02:41:33 → 02:41:38 อาหารพระไปตักไปถวายข้าวอ่ะนะแล้วเคก็กิน
02:41:38 → 02:41:42 คือเขาคจะกินตั้งแต่เย็นวันโกนน่ะที่เค้า
02:41:42 → 02:41:47 ทำอาหารไว้อ่ะนะแล้วไปกินอีกทีนึงเช้า
02:41:47 → 02:41:51 เช้าวันพระนะเนี่ยเพราะฉะนั้นทุกๆ 8 วัน
02:41:52 → 02:41:56 8-10 วันนั่นแหละเาก็จะกินดีอยู่ดีสักที
02:41:56 → 02:42:00 นึงนะแล้วเไม่แคร์ว่าจะต้องกินขนมกิน
02:42:00 → 02:42:04 ผลไม้กินแป้งกินน้ำตาลกินอาหารใส่น้ำมง
02:42:05 → 02:42:08 น้ำมันอะไรอย่างเงี้ยมันก็เป็นลอกของมัน
02:42:08 → 02:42:15 แบบชนบทเอ่อของคนสมัยก่อนแบบนี้อืครับก็
02:42:15 → 02:42:21 กินตามวันกลวันพระ
02:42:21 → 02:42:24 มันก็เปรียบเทียบกันไม่ได้นะเพราะว่าเรา
02:42:24 → 02:42:27 ไปเล่าเรื่องเหล่านี้ให้เด็กรุ่นใหม่ๆ
02:42:27 → 02:42:30 หรือคนอายุ 30 40 เขาก็ไม่รู้เรื่องเ
02:42:30 → 02:42:33 จินตนาการไม่ออกแค่หุงข้าวขัดหม้อเยังไม่
02:42:33 → 02:42:38 รู้เรื่องนเลยว่าน้ำซาวข้าวคืออะไรนะน้ำ
02:42:38 → 02:42:40 ข้าวคืออะไรมันมีด้วยเหรอโลกนี้น้ำข้าว
02:42:40 → 02:42:44 อ่ะนะไม่เคยเห็นทำไมต้องมีน้ำข้าวแล้ว
02:42:44 → 02:42:48 ทำไมหุงข้าวต้องไปขัดหม้อทำไมล่ะนะก็ใส่
02:42:48 → 02:42:52 แล้วก็กดกุ่มปึ๊บเดี๋ยวมันก็สุกแล้วเอผม
02:42:52 → 02:42:57 ผมยังพันนะสมัยอยู่ปถมนะั้นอะไรไม่รู้น่ะ
02:42:57 → 02:42:59 เเบอกว่ามีหุงข้าวเช็ดน้ำกับไม่เช็ดน้ำ
02:42:59 → 02:43:03 อ่ะก็เออสิซึ่งเราเราเห็นในในในในตำรา
02:43:04 → 02:43:05 เรียนแต่เราก็ไม่เห็นของจริงว่าเค้าเช็ด
02:43:05 → 02:43:09 น้ำกันยังไงอ่ะ
02:43:09 → 02:43:14 เออดังเข้าวเด็กสมัยนี้ยังยังไม่รู้จัก
02:43:14 → 02:43:17 ข้าวเออด้งน่ะเหรอด้งข้าวดครับดงดงข้าว
02:43:17 → 02:43:22 ครับผมของอร่อยของดีด้วครับ
02:43:22 → 02:43:26 ผมเ้อพูดไม่ได้แล้วล่ะสิ่งเหล่านี้พูดไป
02:43:26 → 02:43:35 คนเค้าก็ไม่รู้ด้วยเไม่เอาด้วยใช่
02:43:35 → 02:43:40 อือก็สำคัญมากที่สุดเลยนะเรื่องการอธิบาย
02:43:40 → 02:43:43 ช่องทางเข้าของไขมันต่างๆในระบบน้ำเหลือง
02:43:43 → 02:43:47 น้ำเลือดนะแล้วก็สิ่งแวดล้อมที่จะไปพร้อม
02:43:47 → 02:43:52 กันเออจะถามใจนึงเรื่องเรื่องของเอ่อ
02:43:52 → 02:43:56 เนื้อสัตว์นะที่มันติดมันหรือติดหนังเยอะ
02:43:56 → 02:43:58 ๆเนี่ยหรือบางทีมันมันอาจจะมากกว่าเนื้อ
02:43:58 → 02:44:01 ด้วยซ้ำเนี่ยนะฮะที่ที่อธิบายว่าร่างกาย
02:44:01 → 02:44:04 เนี่ยเขาจะตีความมาเป็นโปรตีนซะมากกว่า
02:44:04 → 02:44:08 เนี่ยทีนี้จะทีนี้ถ้าถ้าหากว่ามันผ่านการ
02:44:08 → 02:44:12 ย่อยในกระเพาะแล้วเนี่ยในส่วนที่เป็นเป็น
02:44:12 → 02:44:14 เนื้อจริงๆเนี่ยยังไงมันก็ต้องผ่านระบบ
02:44:14 → 02:44:16 เลือดถูกมั้ยฮะพวกโปรตีนน่ะผ่านเลือดเป็น
02:44:16 → 02:44:19 หลักส่วนไขมันเนี่ยถ้ามันเป็นสายยาวมันก็
02:44:19 → 02:44:23 ต้องผ่านน้ำเหลืองเป็นหลักอยู่ดีใช่ใช่มย
02:44:23 → 02:44:25 แล้วแล้วทำไมร่างกายเนี่ยมันยังจะต้องถือ
02:44:25 → 02:44:29 ว่าไอ้ไอ้หมู 3 ชั้นหรือไอ้เนื้อติดมัน
02:44:29 → 02:44:32 เนื้อเนื้อมันเยอะๆเนี่ยทำไมมันยังตีเป็น
02:44:32 → 02:44:35 โปรตีนทั้งหมดมันก็น่าจะตีเป็นโปรตีนบวก
02:44:35 → 02:44:38 ไขมันมทำไมมันตีเป็นโปรตีนอย่างเดียว่ะ
02:44:38 → 02:44:41 อ๋อในเมื่อไอ้พวกสายยาวก็ต้องผ่านน้ำ
02:44:41 → 02:44:45 เหลืองอยู่ดีะใช่มั้ยฮะเค้าตีเป็นโปรตีน
02:44:45 → 02:44:48 ตอนที่ย่อยอยู่ในลำไส้เล็กนะซึ่งยังไม่
02:44:48 → 02:44:50 ได้แยกนะฮะ
02:44:50 → 02:44:54 นะคือร่างกายเนี่ยกายหยาบน่ะกายหยาบกาย
02:44:54 → 02:44:59 ละเอียดเนี่ยเวลาที่เขาจะดิฮอร์โมนต่างๆ
02:44:59 → 02:45:02 ออกมาว่าจะเป็นอินซูลินเป็นคอร์ติซอลหรือ
02:45:02 → 02:45:05 ว่าเป็นมากน้อยแค่ไหนอะไรอย่างเงี้ยแล้ว
02:45:05 → 02:45:08 จะมาแบบดุไม่ดุอะไรอย่างงี้นะเขาคก็จะมา
02:45:08 → 02:45:13 ตั้งแต่อาหารที่เริ่มขบวนการย่อยนะที่
02:45:13 → 02:45:23 อยู่ในลำไส้เล็กส่วนอะไรอ่ะดัเจจูนัมแล้ว
02:45:23 → 02:45:27 นะจริงๆเนี่ยเค้าก็บอกว่ามันมันเริ่มตั้ง
02:45:27 → 02:45:31 แต่แรกๆในช่วงของเคี้ยวในช่องปากแล้วอ่ะ
02:45:31 → 02:45:34 เนี่ยอินซูลินจะมา
02:45:34 → 02:45:39 หรือตัวไหนจะมานะนะจะมามากมาน้อยหรือลูก
02:45:39 → 02:45:43 เทพจะมาครับพูดง่ายๆคือว่าอ่าคาร์โบไฮเดต
02:45:43 → 02:45:45 โปรตีนไขมันเนี่ยมันถูกจำแนกตั้งแต่ปาก
02:45:45 → 02:45:49 ตั้งแต่ลิ้นเราละแล้วก็ไปจำแนกให้เอาเอา
02:45:49 → 02:45:53 ไปประมวลผลอีกทีนึงอ่ะในลำไส้เล็กส่วนต้น
02:45:53 → 02:45:56 และส่วนกลางูกมั้ยฮะก็คือมชทั้งหมดในในใน
02:45:56 → 02:46:01 ในในในในขาเข้าสู่ร่างกายอ่ะแต่พอเ End
02:46:01 → 02:46:04 End produc หรือว่าการย่อยครั้งสุดท้าย
02:46:04 → 02:46:07 พอย่อยหมดจริงๆแล้วเข้าสู่น้ำเลือดน้ำ
02:46:07 → 02:46:10 เหลืองน่ะมันมาแยกมันมันถึงมาคล้ายๆกับมา
02:46:10 → 02:46:12 คำนวณอีกรอบแต่ไอ้การคำนวณรอบแรกเเขนับ
02:46:12 → 02:46:14 เป็นโปรตีนไปเรียบร้อยแล้วเพราะฉะนั้น
02:46:14 → 02:46:18 เนี่ยถ้าเรากินแคลอรี่สูงไขมันเยอะแต่ว่า
02:46:18 → 02:46:21 ร่างกายเค้าตีความมันเป็นโปรตีนเนี่ยมัน
02:46:21 → 02:46:23 ก็เท่ากับว่าขาดพลังงานอยู่ดีแถมเราได้ไข
02:46:23 → 02:46:26 มันส่วนเกินไปมากด้วยจากจากไอ้เนื้อติด
02:46:26 → 02:46:28 มันตรง
02:46:28 → 02:46:31 เนี้ยแล้วเหตุผลที่มันเป็นอย่างเงี้ยมัน
02:46:31 → 02:46:34 ส่วนนึงมันเป็นเพราะว่าเพราะว่าไอ้ไอ้
02:46:34 → 02:46:38 โปรตีนกับไอ้ๆไอไขมันที่มันแทรกในโปรตีน
02:46:38 → 02:46:39 ที่เรากินจากจากเนื้อสัตว์เนี่ยมันไม่
02:46:39 → 02:46:42 ออร์แกนิคด้วยถูกมั้ยฮะ
02:46:42 → 02:46:45 อแล้วส่วนใหญ่มันก็ไม่ค่อยจะออร์แกนิค
02:46:45 → 02:46:48 ด้วยไปให้อร่อยด้วยไม่รู้เอาอะไรปรุงเข้า
02:46:48 → 02:46:49 ไปบ้าง
02:46:49 → 02:46:53 เออหมายถึงพวกโปเสทั้งหลายสารปรุงแต่ง
02:46:53 → 02:46:57 สารพัดทุกรสไหลับผงชูรส ISS บาบคแตกอะไร
02:46:57 → 02:47:01 ทั้งหหรพวกเนี้ยมันมีส่วนยรุมยำทำให้ทำ
02:47:01 → 02:47:05 ให้ร่างกายยิ่งไม่ตีความว่าไอ้ไขมันเนื้อ
02:47:05 → 02:47:07 ตรงเนี้ยมันกลายเป็นไขมันดีหรือไขมันที่
02:47:07 → 02:47:10 เอาไปใช้ได้มันกลายเป็นใช้ไม่ได้ใช่มันจะ
02:47:10 → 02:47:14 กลายเป็นตีความให้อินซูลินกับคอร์ติซอลมา
02:47:14 → 02:47:16 เยอะขึ้น
02:47:16 → 02:47:21 อืโดยเฉพาะอินซูลินนี่แหละเมานะแล้วก็จะ
02:47:21 → 02:47:25 มาแบบภาคที่ดุก้าวร้าวที่
02:47:25 → 02:47:29 บอกเพราะว่าอาหารในปัจจุบันน่ะ
02:47:29 → 02:47:34 มันมันมันเปลี่ยนแปลงเยอะมากมันมันมัน
02:47:34 → 02:47:38 ความเป็นอาหารจริงๆแบบธรรมชาติจริงๆมัน
02:47:38 → 02:47:41 น้อยมากไปเรื่อยๆๆๆๆๆ
02:47:41 → 02:47:45 อ่ะอย่างกล้วยหอมลูกเบ้อเริ่มเิ่มเงี้ย
02:47:45 → 02:47:48 มันแค่ชื่อว่ากล้วยนะแต่เนื้อในต่างๆมัน
02:47:48 → 02:47:52 ไม่ไม่ใช่กล้วยแล้วไม่รู้จะเรียกว่า
02:47:52 → 02:47:57 อะไรองค์ประกอบด้วยอะไร
02:47:57 → 02:48:01 ด้วยคืออย่างงี้นะร่างกายถามว่ากายหยาบ
02:48:01 → 02:48:04 กายละเอียดเนี่ยจะหลั่งฮอร์โมนจะเกิด
02:48:04 → 02:48:08 ปฏิกิริยาอัตโนมัติเมื่อไหร่นะฮะเอ่อเอา
02:48:08 → 02:48:12 ง่ายๆเรากินค้าแปรรูปเช่นเรากินไอติมเรา
02:48:12 → 02:48:15 กินไอติมหวานๆช็อกโกแลตอะไอะไ
02:48:15 → 02:48:19 เี้ยตั้งแต่เรารู้สึกแล้วอ่ะนะว่าอยากเรา
02:48:19 → 02:48:22 เห็นน่ะตาเราเห็นอายตนะมันเห็นนะหรือมัน
02:48:22 → 02:48:24 ได้กลิ่นมันอะไรเี้นะคราวนี้มันก็เริ่ม
02:48:24 → 02:48:28 กระตุ้นอินซูลินละนั่นแหละแล้วพอได้ชิม
02:48:28 → 02:48:32 ได้อะไรต่างๆเนี่ยพอลงไปถึงกระพงกระเพาะ
02:48:32 → 02:48:35 ผ่านคอหอยผ่านหลอดอาหารลงไปถึงกระเพาะ
02:48:36 → 02:48:39 อะไรต่างๆเนี่ยพวกนี้อินซูลินมาภายในภาย
02:48:39 → 02:48:43 ในเร็วๆมากเลยอ่ะนะฮะนะนะเพราะฉะนั้น
02:48:43 → 02:48:47 เนี่ยการวัดระดับอินซูลินหรือหรือฆ่าน้ำ
02:48:47 → 02:48:50 ตาลอะไรต่างๆเนี่ยของคาฟนะของคฟโดยเฉพาะ
02:48:50 → 02:48:53 คฟแปรรูปต้องทำภายใน 1 ช่วโมงหลังจากกิน
02:48:53 → 02:48:57 อาหารเข้าไปแล้วถ้าเป็นผลไม้น้ำผลไม้หรือ
02:48:57 → 02:48:59 ไอ้พวกน้ำตาลน้ำหวานน้ำเชื่อมน้ำผึ้งอะไร
02:48:59 → 02:49:03 ต้องทำภายใน 30 นาทีอ่ะฮะต้องทำให้เร็ว
02:49:03 → 02:49:06 มากๆเลยนะเพราะว่าอินซูลินก็ออกมาเร็ว
02:49:06 → 02:49:09 ฮอร์โมนออกมาเร็วแต่เมื่อกี้โต้งถามว่า
02:49:09 → 02:49:14 แล้วถ้ามันเป็นไอ้พวกเอ่ออะไรอ่ะไขมันทาน
02:49:14 → 02:49:17 หรือว่าไขมันที่อยู่ในโปรตีนเนื้อส่ง
02:49:17 → 02:49:20 เนื้อสั่นอะไรต่างๆเหล่าเนี้ยนะเอ่อมันจะ
02:49:20 → 02:49:23 กระตุ้นฮอร์โมนอินซูลินเนี่ยเ่อมันก็จะมา
02:49:23 → 02:49:26 ช้าหน่อยเพราะว่ามันจะต้องรอให้ไปถึงนู่น
02:49:26 → 02:49:30 น่ะเกือบๆถึงลำไส้เล็กเพราะฉะนั้นพวกปุ่ม
02:49:30 → 02:49:33 โปรตีนเวลากระตุ้นอินซอาจจะช้า
02:49:33 → 02:49:37 กว่ามันเป็น Second เฟสมันเป็นเฟส delay
02:49:37 → 02:49:40 onset นะเพราะฉะนั้นพวกนี้ส่วนใหญ่เขาจะ
02:49:40 → 02:49:43 วัดที่ 2 ชั่วโมงขึ้นไปนะจะวัดฆ่าน้ำตาล
02:49:43 → 02:49:46 หรือวัดอินซูลินก็ตามแต่ถ้าเป็นพวกคาฟ
02:49:46 → 02:49:51 เนี่ยมักจะวัดภายใน 1 ช่วโมงนะ 1 ชั่วโมง
02:49:51 → 02:49:53 ไม่เกิน 1 ช่มครึ่งถ้าเกิน 2 ช่วโมงไป
02:49:53 → 02:49:57 เนี่ยหมดแล้วนะไอ้ไม่มีปฏิกิริยาการตอบ
02:49:57 → 02:50:00 โต้เกี่ยวกับทางด้านน้ำตาลหรืออินซูลิน
02:50:00 → 02:50:04 ของคาฟไปแล้วนะคาฟไปหมด
02:50:04 → 02:50:07 แล้วเพราะฉะนั้นปฏิกิริยาของอของฮอร์โมน
02:50:07 → 02:50:11 น่ะนะต่ออาหารเนี่ยไม่ว่าจะเป็นคาฟโปรตีน
02:50:11 → 02:50:15 หรือไขมันอะไรก็ตามนะมันก็จะเกิดขึ้น
02:50:15 → 02:50:20 เมื่อกินเข้าไปนะตั้งแต่แรกๆเลยอ่ะนะไม่
02:50:20 → 02:50:22 ต้องรอดูซึมเข้าสู่กระแสเลือดหรือเข้าสู่
02:50:22 → 02:50:27 น้ำ
02:50:27 → 02:50:31 เหลืองเพราะฉะนั้นช็อกโกลงช็อกโกแลตขนม
02:50:31 → 02:50:36 ของหวานน้ำผึ้ง้ามันยังอยู่ในกระเพาะนะ
02:50:36 → 02:50:39 แต่ตอนนี้อินซูลินมาพร้อมที่จะเอาไปเก็บ
02:50:39 → 02:50:42 ไปสร้างเป็นไขมันแตงกีสลายแล้วก็เก็บไว้
02:50:42 → 02:50:46 ที่ viser Fat หรือว่าสับค Fat
02:50:46 → 02:51:03 แล้วเขามารอรอะจนแบบรอแบบรอค้างอ่ะ
02:51:03 → 02:51:05 นะมีอะไร
02:51:05 → 02:51:10 แล้วโอเคครับมีใครสงสัยอะไรมั้ยสุสงสัย
02:51:10 → 02:51:14 อะไรมั้ยตอนนี้ยังไม่มีผมผมกำลังมีปัญหา
02:51:14 → 02:51:17 กับระบบคอมพิวเตอร์อีกอ่ะ
02:51:17 → 02:51:20 ไวแล้ววันนี้มันจะติดหมดคือที่เงียบที่
02:51:20 → 02:51:24 เงียบไปนี่กำลังวุ่นวายอยู่กับระบบไอ้
02:51:24 → 02:51:27 เครื่องคอมเนี่ยพี่
02:51:27 → 02:51:31 หมอแล้วตอนนี้อีเครื่องเครื่องใหญ่ผมค้าง
02:51:31 → 02:51:33 ไปแล้วเนี่ยไม่รู้จะอัดได้แค่ไหนเครื่อง
02:51:33 → 02:51:39 เล็กก็มาอัดได้ตอนท้ายๆอุยเหรออืเนี่ยตอน
02:51:39 → 02:51:42 เนี้ยที่อธิบายตอนเสำคัญมากๆเลยนะเนี่ย
02:51:42 → 02:51:45 เนี่ยใช่อ่ะดิเนี่ยๆตอนเนี้ยฮะสำคัญมาก
02:51:45 → 02:51:49 เลย
02:51:49 → 02:51:51 มันอัพเดต
02:51:51 → 02:51:56 อ่ะผมเลยไม่มีสมาธิโฟกัสเลย
02:51:56 → 02:52:02 นะตารางนี้ก็เนี่ยใช้แยกแยะกับผลแลบได้
02:52:02 → 02:52:06 นะคือมันต้องไปพิมพ์ให้สวยๆอ่ะนะแต่เราก็
02:52:06 → 02:52:08 ทำตารางไม่
02:52:08 → 02:52:12 เป็นเดี๋ยวต้องมาลุ้นดูครับว่ามันจะได้
02:52:12 → 02:52:14 แค่ไหน
02:52:14 → 02:52:19 ้าอือยากแค่ไหนเอาแค่นั้น
02:52:19 → 02:52:24 นะแต่วันเนี้เราสบายใจะเราได้
02:52:24 → 02:52:27 อธิบายอย่างน้อยก็
02:52:27 → 02:52:34 มีเนสกับไพโรจมารับฟังไปเอ้ยผมอยู่ฟัง
02:52:34 → 02:52:38 ตลอดพี่หมอแต่มันมันโฟกัสมันพูดไม่
02:52:38 → 02:52:42 ได้อยากจะให้เข้าใจว่ากินโลคราฟแล้วก็กิน
02:52:42 → 02:52:45 ทีออยเนี่ยนะแล้วมันเข้าทางน้ำเหลืองก็
02:52:45 → 02:52:48 เข้าทางน้ำเลือดอะไรอย่าเงี้ยอืนะอะไรแยก
02:52:48 → 02:52:52 แยะกันไปบ้างแล้วพอเข้าไปแล้วเนี่ยเาจะ
02:52:52 → 02:52:53 ต้องไปเนี่ย Passive Cellular
02:52:54 → 02:52:58 transportation นะฮะนะถ้ามันถ้ามันมีการ
02:52:58 → 02:53:02 คล้ายคลึงกันนะในส่วนประกอบนะของตัวของ
02:53:03 → 02:53:07 ตัวโครงสร้างไตกีสไลจากการกินไอ้พวกทีออย
02:53:07 → 02:53:10 หรือกินไขมันจากสัตว์ก็ตามนะฮะกับส่วน
02:53:10 → 02:53:12 ประกอบของเซลล์ของคน
02:53:12 → 02:53:16 เราซึ่งเขาคก็จะเอาไปใช้ได้มากได้น้อยแค่
02:53:16 → 02:53:19 ไหนมันก็ขึ้นอยู่กับคุณกินอะไรก็เข้าไปมี
02:53:19 → 02:53:22 สัดส่วนถูกต้องดีเปล่าเนี่ยแล้วถ้าไม่หมด
02:53:23 → 02:53:26 เค้าก็มาส่งตัดต่อ
02:53:26 → 02:53:31 นะแล้วมันก็ต้องอธิบายแยกแยะไปว่าถ้าเป็น
02:53:31 → 02:53:35 ไขมันอิ่มตัวมันไปยังไงถ้าไม่อิ่มตัวเชิง
02:53:35 → 02:53:37 เดี่ยวไปยังไงถ้าไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนไปยัง
02:53:37 → 02:53:40 ไงอิ่มตัวเนี่ยเาจะไปกับคอเลสเตอรอลไปกับ
02:53:40 → 02:53:45 วิตามินสารอาหารอะไรด้วยนะแต่ถ้าไม่อิ่ม
02:53:45 → 02:53:49 ตัวต่างๆเชิงเดี่ยวเชิงซ้อนเนี่ยเขไปแบบ
02:53:49 → 02:53:52 กับสารพรึกษาเคมีนะแค่นั้นแหละเาไม่มี
02:53:52 → 02:53:54 คอเลสเตอรอล
02:53:54 → 02:53:59 อ่าวิตามินก็มีน้อยนะฮะนะเพราะว่า adk
02:53:59 → 02:54:01 ส่วนใหญ่่มันจะอยู่กับไขมยิม
02:54:01 → 02:54:08 ตัวเก็แต่ว่าไขมันสายยาวที่เป็นไม่อิ่ม
02:54:08 → 02:54:11 ตัวเชิงเดี่ยวเชิงซ้อนก็ไปเป็นพลังงานหมด
02:54:11 → 02:54:13 เลยแล้วที่บอก
02:54:13 → 02:54:17 ว่าพอร่างกายมันคีโตสิสแล้วคุณกินไขมัน
02:54:17 → 02:54:21 เยอะๆแล้วไขมันไม่ไปพอกตามร่างกายเนี่ยนะ
02:54:21 → 02:54:24 เพราะว่าเเปลี่ยนเป็นพลังงานหมดเลยแล้วก็
02:54:24 → 02:54:26 ตัวไขมันที่เปลี่ยนเป็นพลังงานหมดเลย
02:54:26 → 02:54:29 เนี่ยก็คือไม่มีตัวเชิงเดี่ยวและเชิงซ้อน
02:54:29 → 02:54:32 นะฮะโดยเฉพาะไม่มีตัวเชิงเดี่ยวนะร่างกาย
02:54:32 → 02:54:36 ไม่เก็บเลยเปลี่ยน
02:54:36 → 02:54:40 หมดก็จะมีก็จะมีแค่อิ่มตัวเท่านั้นน่ะนะ
02:54:40 → 02:54:43 ที่จะต้องมาผ่านตับแล้วก็ส่งต่อเป็น
02:54:43 → 02:54:47 คอเลสเตอรอลไปให้อวัยวะอื่นๆไปสร้างเซลล์
02:54:47 → 02:54:51 ไปซ่อมเซ
02:54:51 → 02:54:53 อาจารย์ครับอย่างงี้ไอ้ภาวะ rand ไซเคิล
02:54:54 → 02:54:56 เนี่ยที่มันทำให้เก็บไขมันแล้วก็ทำให้
02:54:56 → 02:55:01 อ้วนเนี่ยนะมันก็จะเกิดปัญหากับในกรณีที่
02:55:01 → 02:55:05 เป็นไขมันอิ่มตัวถูกมั้ยฮะแต่ถ้าไปกิน
02:55:05 → 02:55:08 พร้อมขาบหรือโดยเฉพาะขาบไม่ดีเนี่ยแต่ว่า
02:55:08 → 02:55:12 ไปกินเป็นตัวมูฟ่าหรือปูฟ่าเนี่ยก็อาจจะ
02:55:12 → 02:55:14 ไม่ได้เก็บสะสมสักเท่าไหร่เพราะว่ามันมัน
02:55:14 → 02:55:19 มันคนละตัวกันถูกมั้ยฮะอ๋อเก็บ
02:55:19 → 02:55:23 เก็บคือ Random Cycle เนี่ยนะมันมีคาฟ
02:55:23 → 02:55:27 บวกกับไขมันคาฟเนี่ยเวลาคาฟบวกไขมันเาจะ
02:55:27 → 02:55:29 กระตุ้นอินซูลินแรงและเป็นอินซูลินก้าว
02:55:29 → 02:55:33 ร้าวนะฮะซึ่งเอฟเฟคของคาฟเนี่ยจะเป็น
02:55:33 → 02:55:37 ปัญหาแม้ว่าคาฟจะน้อยๆยิ่งแปรรูปแล้วยิ่ง
02:55:37 → 02:55:40 น้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งจะกระตุ้นอินซูลินแรง
02:55:40 → 02:55:43 เท่านั้นพออินซูลินมาปุ๊บเจะปิดสวิตช์การ
02:55:43 → 02:55:46 เผาผาญไขมันเลยฮะงั้นไขมันเนี่ยไม่ว่าจะ
02:55:46 → 02:55:50 เป็นอิ่มเดี่ยวซอสอะไรต่างๆก็จะถูกการ
02:55:50 → 02:55:51 เปลี่ยน
02:55:51 → 02:55:55 อ่าเปลี่ยนเป็นคือไม่เผาอ่ะก็คืออินซูลิน
02:55:55 → 02:55:58 เยอะะอินซูลินดุดันก้าวร้าวเนี่ยก็คือปิด
02:55:58 → 02:56:05 สวิตช์ไม่เผาเก็บนะเถ้าถ้าเก็บไม่ได้
02:56:05 → 02:56:08 เพราะว่าไอ้ body fat Test หรือว่า
02:56:08 → 02:56:10 Personal Fat Test ไม่มีอย่างเงี้ย
02:56:10 → 02:56:13 เพราะผอมเงี้ยเขาก็เอาลอยอยู่ในกระแส
02:56:13 → 02:56:15 เลือดนั่นแหละเค้าก็เอาลอยเท้งเต้งอยู่ใน
02:56:15 → 02:56:18 กระแสเลือด
02:56:18 → 02:56:22 คือเคสต่างๆนะฮะที่มันมีผลแลบแล้วก็กิน
02:56:22 → 02:56:25 ครฟมาอย่างดีทำ If มาอย่างดีนะแล้วก็รา
02:56:25 → 02:56:28 ปิดโปรไฟล์เนี่ยก็มี Total cholesterol
02:56:28 → 02:56:31 ldl สูง hdl สูงแต่อยู่ดีๆแล้วไตกีซมัน
02:56:31 → 02:56:34 สูงเนี่ยก็เพราะว่าร่างกายมันเครียดแล้ว
02:56:34 → 02:56:38 คอร์ติซอลออกมาสั่งให้เกิดการเก็บไขมัน
02:56:38 → 02:56:41 แต่ทีนี้ที่มันเก็บไม่ได้เนี่ยเพราะว่า
02:56:41 → 02:56:45 body fat H เนี่ยมันไม่มีที่เก็บนะ
02:56:45 → 02:56:48 แล้วก็ไม่มีไม่มีอินซูลินน่ะเพราะเพคุณ
02:56:48 → 02:56:51 กินโลคาฟเี่ไม่มีอินซูลินที่มี
02:56:51 → 02:56:55 ประสิทธิภาพนะที่จะมาเก็บนะเพราะฉะนั้น
02:56:55 → 02:57:00 คุณผอมอินซูลินมันฟังก์ชันอยู่นะมันก็เลย
02:57:00 → 02:57:03 1 ไม่มีพื้นที่ที่จะเก็บ 2 ตัวที่จะช่วย
02:57:03 → 02:57:08 เก็บก็ง่อยเบี้ยงเพี้ยนนะเพราะฉะนั้นก็
02:57:08 → 02:57:10 เลยลอยเท้งๆอยู่ในเลือดเพราะฉะนั้นเจาะ
02:57:10 → 02:57:12 เลือดแล้วไตกีสไลมันเลย
02:57:12 → 02:57:16 ขึ้นก็เหมือนกันนะฮะเวลาเกิด Random ไซคิ
02:57:16 → 02:57:19 เนี่ยอินซูลินที่ออกมาไม่ใช่อิซูลินเอ่อ
02:57:19 → 02:57:22 ธรรมชาติธรรมดาแล้วออกมาเยอะๆนะไม่ใช่เ
02:57:22 → 02:57:25 เป็นอินซูลินแปลกๆที่ออกมาคือดุดัน 9 ล้า
02:57:25 → 02:57:28 เพราะฉะนั้นเนี่ยถึงตัวกระตุ้นมีอยู่นิด
02:57:28 → 02:57:32 เดียวอ่ะนะเอ่อแต่แต่แต่หน้าที่ของ
02:57:32 → 02:57:35 อินซูลินอันดับ 1 เลยก็คือปิดประตูปิด
02:57:35 → 02:57:39 สวิตช์นะฮะไม่ให้เผาผลาญพลังงานนะเพราะ
02:57:39 → 02:57:43 ฉะนั้นไขมวงไขมันอะไรต่างๆนะเก็บก็ไม่ได้
02:57:43 → 02:57:46 นะเอาไปไหนก็ไม่ได้เผาก็ไม่ได้นะฮะลอย
02:57:46 → 02:57:55 อยู่ในกระแสเลือดนั่นแหละ
02:57:55 → 02:57:58 แต่ถ้ามันยังมีพื้นที่เก็บได้มันก็เก็บ
02:57:58 → 02:58:02 แต่ถ้าเถ้าไม่มีพื้นที่ยหอมๆเนี่ยมันก็
02:58:02 → 02:58:05 ค้างอยู่ในสรุปว่าอินซูลินมาแบบโหดๆเนี่ย
02:58:05 → 02:58:08 มันไม่สนหรอกว่าเป็นอิ่มเดี่ยวซ้อนเก็บ
02:58:08 → 02:58:11 โรดใช่จะเป็นเดี่ยวเป็นซ้อนมันก็เก็บอยู่
02:58:11 → 02:58:14 ดีเออเก็บหมด
02:58:14 → 02:58:19 นะสุรินเก็บน้ำตาลเก็บไขมันนะเอ่อร่างกาย
02:58:19 → 02:58:26 ขาดพลังงานไปหิวโหยแล้วก็ไปหากินต่อเพียง
02:58:26 → 02:58:29 แต่ว่ากินรอบใหม่จะกินถูกหรือกิน
02:58:29 → 02:58:33 ผิดเออมันก็ในที่สุดมันก็กลายเป็นอะไรล่ะ
02:58:33 → 02:58:37 ีนิ eating R ไอ
02:58:37 → 02:58:43 ดม
02:58:43 → 02:58:48 เอ้อ R ไซคินี่ก็ร้ายเลยร
02:58:48 → 02:58:52 เค้าก็เพิ่งมานิยามเมื่อตอนไม่กี่ปีนี้
02:58:52 → 02:58:55 อ่ะ
02:58:55 → 02:58:59 ฮะแต่ก่อนก็ไม่มีหรอก landon Cycle เอ
02:58:59 → 02:59:05 Poli พวก็ไม่มีแต่ก่อนไม่มีเอก็เพิ่ง
02:59:05 → 02:59:07 มาเรียนรู้กันเมื่อตอนเร็วๆเนี่ย 2018
02:59:07 → 02:59:18 หรืออะไรนี่แหละ
02:59:18 → 02:59:20 23 นแล้วไปนอนแล้วใช่
02:59:20 → 02:59:24 มยโอเคครับโอเปิด
02:59:24 → 02:59:31 เปิดไลฟ์ทันทีโอเคโอเคครับขอบคุณครับครับ
02:59:31 → 02:59:33 สวัสครับครับผมสวัสดีครับขอบคุณครับ
02:59:33 → 02:59:36 อาจารย์ครับสวัสดีทุกคนครับสดี
02:59:36 → 02:59:47 [เพลง]
02:59:47 → 02:59:56 ครับเฮ
02:59:56 → 03:00:03 [เพลง]