00:00:00 → 00:00:14 [เพลง]
00:00:14 → 00:00:18 187 กลมันก็เลยแบบเอ่อลึ้มฮึมเลยอลังการ
00:00:18 → 00:00:23 ไปเลยอ่ะนะแล้วมันก็น่าสนใจที่ว่าเคสแบบ
00:00:23 → 00:00:27 เนี้ยคือเคสอึดๆเลยอ่ะของก็คือคนที่มัน
00:00:27 → 00:00:31 เป็นทรงเอสโตรเจนไทยอ่ะมันเป็นทรงอื่นไป
00:00:31 → 00:00:34 ไม่ได้หรอกมันก็คือมันเป็นอย่างนี้แหละนะ
00:00:34 → 00:00:38 เอสโตรเจนมันจะอึดมันอึดที่จะเป็นเบาหวาน
00:00:38 → 00:00:42 มันอึดนะที่ที่อย่างเงี้ยน้ำำหนักพอมัน
00:00:42 → 00:00:45 ขึ้นๆพุ่งๆๆไปแล้วเนี่ยมันลงมาแล้วมันก็
00:00:45 → 00:00:49 คล้ายๆคนพุงเครียดนั่นแหละมันลงแบบไม่ได้
00:00:49 → 00:00:54 ลงแบบวูบวาบเหมือนสายแป้งเา้าอ่ะนะไอ้พวก
00:00:54 → 00:00:58 ไทรอยด์สายแป้งอ่ะนะเวลาลงมันลงวูบเลยเหม
00:00:58 → 00:01:00 แต่ไอ้พวกสายนเื้อเนี่ยจะปรุงเครียด
00:01:00 → 00:01:03 เอสโตรเจนเนี่ยมันเยมันลงแล้วมันเป็นไข
00:01:03 → 00:01:08 มันดื้อด้านนะครับงั้นการแอชต่างๆเนี่ย
00:01:08 → 00:01:11 มันจะคล้ายๆกันแต่มันจะมีประเด็นแตกต่าง
00:01:11 → 00:01:14 กันนิดหน่อยระหว่างพุงเครียดกับ
00:01:14 → 00:01:17 เอสโตรเจนอันนี้เราอัดไป
00:01:17 → 00:01:22 มั้ยอัดอยู่ครับพี่หมอเหรอเอออัดอัดไว้
00:01:22 → 00:01:25 ก่อนก็ดีเ้ขอขอเวลาที่เมื่อกี้ขอเวลาขอ
00:01:25 → 00:01:27 เวลาเตรียมเครื่องเพราะว่าปิดเครื่องหมด
00:01:27 → 00:01:32 แล้วแล้วลงมาจากข้างบนฮอ๋อแล้วๆแล้ว
00:01:32 → 00:01:34 สุทัศน์ได้เข้าไปอ่านรือยังไพโรจอ่านแล้ว
00:01:34 → 00:01:37 อ่ะผมผมยังครับพี่หมอเพิ่งได้เห็นเนี่ย
00:01:37 → 00:01:40 ครับอ๋อพอดีเพิ่งตัดอันสุดท้ายเสร็จเพิ่ง
00:01:40 → 00:01:42 ตัดวีดีโออันสุดท้ายที่ค้างไว้เสร็จนะ
00:01:42 → 00:01:44 ครับ
00:01:44 → 00:01:48 โอครับเอ๊เคสนี้คุณหมอก็เพิ่งมาเห็นนะแต่
00:01:48 → 00:01:51 ไม่รู้เ้าโพสต์มากี่ชั่วโมงแล้วนะครับ
00:01:51 → 00:01:54 โพสต์ตั้งแต่เช้าแล้วแหละครับแต่คือคือ
00:01:54 → 00:01:57 ล่าสุดอ่ะคุณคุณหมอวัชนีเไปคอมเมนต์ละก็
00:01:57 → 00:02:01 ดีะผมก็เลยไปเสริมตรงนั้นนิดนึงอืครับผม
00:02:01 → 00:02:05 เออมันมันไม่ใช่อย่างงั้นนะไพโรจเดี๋ยว
00:02:05 → 00:02:09 มันจะหลงทางนะเพราะว่าจริงๆแล้วเนี่ยคิด
00:02:09 → 00:02:12 ว่าคนๆเนี้ยคือคนคนเนี้ยก็เหมือนว่าเค้า
00:02:12 → 00:02:16 ไปถึงที่สุดและนะเาจะใช้ไดเอดอะไรก็ได้
00:02:16 → 00:02:19 มันจะไม่แตกต่างกันนักมันไม่แตกต่างกัน
00:02:19 → 00:02:22 หรอกครับนะคือคือหลายเห็นหลายคอมเมนต์ใน
00:02:22 → 00:02:25 70 คอมเมนต์ในนั้นเนี่ยก็จะไปพูดถึง
00:02:25 → 00:02:28 เรื่องดื้ออินซูลินเรื่องน้ำเรื่องคาฟ
00:02:28 → 00:02:32 เรื่องอ่าให้กินอะไรอ่ะไขมันดีอะไรแต่ว่า
00:02:32 → 00:02:34 เคสเยมันจะรอดเพราะว่า TE Oil มันจะรอด
00:02:34 → 00:02:38 เพราะว่า Good Healthy Fat น่ะนะแต่ถ้า
00:02:38 → 00:02:40 ไม่ใช่ Good Healthy Fat เนี่ยมันก็จะ
00:02:40 → 00:02:42 ค้างอยู่เงี้ยเป็นไขมันดื้อด้านแล้วมันไป
00:02:42 → 00:02:47 ต่อไม่ได้มันไปต่อไม่ได้นะเพราะว่ามันมัน
00:02:47 → 00:02:50 มันมันเอาอินซูลินเอ้ยมันเอาเลปตินออกมา
00:02:50 → 00:02:54 ที่จะเผาผลาญพลังงานกับไทรรอยด์อ่ะไม่ได้
00:02:54 → 00:02:59 เอแล้วอย่างไทรรอยด์ที่เป็นพิษเนี่ยมัน
00:02:59 → 00:03:01 ไม่ได้เป็นรโรคไทรอยด์เป็นพิษคือไม่ได้
00:03:01 → 00:03:02 เป็นเฟ disease หรือว่าเป็น
00:03:02 → 00:03:04 hyperthyroidism แบบที่เป็น pathology
00:03:04 → 00:03:07 อันนี้มันเป็น physiologic เป็น sub
00:03:07 → 00:03:09 clinical Hyper เออร์ไทรรอยด์คุณหมอก็
00:03:09 → 00:03:14 มีเคสคนนึงชื่ออะไรน้อที่เล่นมวยจีนอะไร
00:03:14 → 00:03:16 ต่างๆผู้ชายอ่ะก็เป็นอย่างเงี้ยเป็นสัตว์
00:03:16 → 00:03:20 ที่เข้าไฮโปไทรอยด์เอ้ยไฮเปอร์ไทรรอยด์นะ
00:03:20 → 00:03:23 เคก็มางุมมะงาหราอยู่กับไอ้เรื่องที่ว่า
00:03:23 → 00:03:26 เอ๊มันดื้ออินซูลินมันเป็นเบาหวานมันอะไร
00:03:26 → 00:03:27 อย่างเงี้ยมันน่าจะมีปัญหาเรื่อง
00:03:27 → 00:03:31 ไฮโปไทรอยด์ไม่ใช่มันมี 20% ที่จะเป็นไ
00:03:31 → 00:03:35 ไฮเปอร์ไทรรอยด์นะครับเออแต่แต่อันเนี้ย
00:03:35 → 00:03:37 มันเป็นผู้หญิงที่มันเป็นเอสโตรเจนที่มัน
00:03:37 → 00:03:41 จะเป็นไฮเปอร์ไทรรอยด์เราลองคิดง่ายๆเลย
00:03:41 → 00:03:43 น้ำหนักเนี่ยหรือพลังงานมันสะสมพุ่งมา
00:03:43 → 00:03:48 ตั้ง 187 เนี่ยเราคิดว่าอินซูลินน่าจะน่า
00:03:48 → 00:03:51 จะมีการตอบสนองที่คล้ายๆกับว่ามันพุ่ง
00:03:52 → 00:03:54 เยอะอ่ะแล้วก็น่าจะเป็นทั้งก้าวร้าวไม่
00:03:54 → 00:03:57 ก้าวร้าวอะไรเนี่ยมันน่าจะสมควรหรือยัง
00:03:57 → 00:04:00 อ่ะที่จะเป็นเบาหวานเนี่ยแต่ทำไมมันทำไม
00:04:00 → 00:04:04 ไม่เป็นน่ะมันไม่เป็นนะนะแล้วคนเนี้ยเขา
00:04:04 → 00:04:06 เป็นไฮเปอร์ไทรรอยด์ตอนน้ำหนัก
00:04:06 → 00:04:10 164 แล้วพอไปกินยาต้านไทรอยด์อ่ะยาต้าน
00:04:10 → 00:04:13 ไทรรอยด์เป็นพิษนี่แหละนะมันก็เลยพุ่งไป
00:04:13 → 00:04:16 เป็น 187 แล้วยิ่งกินยาต้านไทรอยด์เป็น
00:04:16 → 00:04:22 พิษเนี่ยมันจะหิวไงมันจะหิวมันก็กินดะเลย
00:04:22 → 00:04:25 เนี่ยมันก็เลยควบคุมไม่ได้มันก็เลยพุ่งไป
00:04:25 → 00:04:27 160 กว่าเป็น
00:04:27 → 00:04:32 187 แต่ตอนเนี้ยพยายามใช้คีนไดเอตลดลงมา
00:04:32 → 00:04:35 ทำไมอ่ะทำไมลดมาถึง 150 แล้วมันเริ่มจะมี
00:04:35 → 00:04:40 พี diabetes ะเนี่ยทำไมน้ำตาลสะสมเริ่ม
00:04:40 → 00:04:44 ขึ้นนะอินซูลินก็น่าจะเริ่มมาแต่ถ้าตรง
00:04:44 → 00:04:46 เนี้ยถ้าเจาะอินซูลินเนี่ยอินซูลินก็อาจ
00:04:46 → 00:04:52 จะลิมิหรือสูงไปกว่าปกติแต่คิดว่าไม่น่า
00:04:52 → 00:04:55 จะเกินไม่น่าจะเกิน 30 นะาริอินซูลินไม่
00:04:55 → 00:04:57 น่าจะเกิน 30 อะไรต่างๆคือคนเนี้ย
00:04:57 → 00:05:00 อินซูลินเนี่ยมองผ่านไปได้เลยนะไม่ค่อยจะ
00:05:00 → 00:05:04 มีบทบาทนะเพราะฉะนั้นการกินค้งกินาฟอะไร
00:05:04 → 00:05:07 ต่างๆกินได้ไม่ไม่ถึงขนาดที่ว่าจะต้องไป
00:05:07 → 00:05:11 ห้ามหรือไปสติ๊กว่าโอ้ยนี่เหรอนี่ยังวัน
00:05:11 → 00:05:14 นึงกิน 2 ทัพพีเช้าทัพพีเย็นทัพพีนึงหรือ
00:05:14 → 00:05:17 ไอ้ช้าเช้าทัพพีเที่ยงทัพพีเนี่ยเอ่อไม่
00:05:17 → 00:05:19 ได้เดี๋ยวจะยิ่งกระตุ้นอินซูลินคนนี้
00:05:19 → 00:05:23 อินซูลินไม่ได้ไปอะไรนักหนาหรอกถ้าไม่
00:05:23 → 00:05:26 งั้นเนี่ยมันพุ่งสวิงสวายเยอะแยะไปหมด
00:05:26 → 00:05:29 แล้วอ่ะนะแล้วตอนเที่มัน 5.5 แล้วกลาย
00:05:29 → 00:05:32 เป็น 5 5.9 น่าจะเป็นผลของคอร์ติซอลด้วย
00:05:32 → 00:05:35 นะนะแต่อินซูลินเนี่ยไม่มีอะไรไม่มีอะไร
00:05:35 → 00:05:40 แม้ว่าน้ำหนักจะพุ่งซะจนแบบเท่าไหร่นะ
00:05:40 → 00:05:41 เนี่ย
00:05:41 → 00:05:46 ออนี้ 154 ลงมาเหลือ 150 นี่มันแค่ในระยะ
00:05:46 → 00:05:49 เวลา 5 เดือนนะซึ่งมันก็แปลว่าน้ำหนักมัน
00:05:49 → 00:05:52 นิ่งอ่ะมันไม่ไปต่อหรอกสำหรับคนเยอะๆ
00:05:52 → 00:05:55 เนี่ยถ้ามันคีโต 4 ใต้ถ้ามันแช adapt ได้
00:05:55 → 00:05:58 อ่ะมันก็ลงไปกว่านี้แล้วล่ะนะแต่อันเนี้ย
00:05:58 → 00:06:01 มันแปลว่ามันค้างไม่เบลิมัน struck อ่ะ
00:06:01 → 00:06:04 มันหมายถึงว่ามันหยุดมันมันไม่ไปไหนต่อะ
00:06:04 → 00:06:08 นะแล้วมันก็เริ่มจะป่วยมากกว่าเนี่ยไคี
00:06:08 → 00:06:10 สไลก็ขึ้นเนาะ
00:06:10 → 00:06:14 เนี่ยคืออะไรก็ตามนะที่เหมือนว่าที่มีหมอ
00:06:14 → 00:06:18 ไปแนะนำในเรื่องที่ว่ากลัวจะอะไรนะกลัวจะ
00:06:18 → 00:06:21 ไปกระตุ้นอินซอินซูลินอะไรต่างๆอ่ะไม่ใช่
00:06:21 → 00:06:24 หลักการก็คือเขาต้องคุมเอสโตเจนเนี่ยค
00:06:24 → 00:06:28 เนี้ยน่าจะตรวจพวกเอสโตเจนแล้วก็ตรวจไม่
00:06:28 → 00:06:32 รู้ว่าลักษณะบไ้เป็นยังไงกินยังไงแล้วก็
00:06:32 → 00:06:34 แล้วก็ไอ้เรื่องของระบบเจริญพันธุ์เนี่ย
00:06:34 → 00:06:38 นะมีอะไรผิดปกติร่วมด้วยมั้ยเพราะถ้าน้ำ
00:06:38 → 00:06:42 หนักตั้ง 180 กว่า 160 กว่า 150 กว่าอะไร
00:06:42 → 00:06:45 เงี้ยโอ้โหนะคิดว่า
00:06:45 → 00:06:50 เอสโตรเจนมันต้องมีบทบาทอะไรแล้วล่ะอคนเย
00:06:50 → 00:06:55 ก็บอกว่าอ่ารบกวนเนี่ยนะจะกินแบบไหนดี
00:06:55 → 00:06:58 ตั้งแต่สังสิงหาคมปีที่แล้วนะก็ปรับการ
00:06:58 → 00:07:02 กินมาจนถึงบัดนี้สิงหาคมสิงหาคมมาจนถึง
00:07:02 → 00:07:06 อ่าเนี่ยเอ่อก็ประมาณ 6 เดือนแล้วแหละนะ
00:07:06 → 00:07:10 กินข้าววันละ 2 ทัพพีค่ะนะนี่ 6 เดือนนะ 6
00:07:10 → 00:07:14 เดือนนะอ่าเนื้อสัตว์ส่วนใหญ่จะไม่ติดมัน
00:07:14 → 00:07:19 นะจะเป็นการกินคลีนเออนี่แหละกินคลีน
00:07:19 → 00:07:21 เนี่ยมันจะไม่เหมาะเลยนะก็คือกินแล้วมัน
00:07:21 → 00:07:25 เครียดอ่าแต่ความเครียดของคนเนี้ยมันไปไป
00:07:25 → 00:07:30 มีคไปมีผลต่อต่อรังไข่อ่ะต่อโอต่อระบบ
00:07:30 → 00:07:34 เจริญพันธุ์มากกว่าต่อหมวกไตคือมันบพาไอ้
00:07:34 → 00:07:37 พวกตับอ่อนต่อหมวกไตไปแต่กลายไปเล่นงาน
00:07:37 → 00:07:43 แนอเอ้ไปเล่นงานไอ้พวกโกนาดแกนต่างๆนะนี่
00:07:43 → 00:07:46 แหละเพราะว่ามันเป็นคนไดเอตแล้วว่าไขมัน
00:07:46 → 00:07:48 มันต่ำๆมาก
00:07:48 → 00:07:52 นะอย่างอื่นก็ทานสลัดอ้าไม่กินน้ำสลัดซะ
00:07:52 → 00:07:55 ด้วยนะแต่ว่าถ้าน้ำสลัดไม่ได้ปรุงเองนี่
00:07:55 → 00:07:58 ไม่ได้อยู่แล้วนะก็ดีไปะนะกินสลัดไม่ได้
00:07:58 → 00:08:01 กินน้ำสลัดอ่าก็ไม่มีผักใบเขียวเยอะขึ้น
00:08:01 → 00:08:06 เนากินไข่เท่าเนี้ยนะไม่กินขนมของหวานนะ
00:08:06 → 00:08:09 มีบ้างเดือนละ 1 2 ครั้งอ่าเครื่องปรุง
00:08:09 → 00:08:12 ส่วนใหญ่เป็นสูตรกีโตแล้วก็ปรุงน้อยอ่า
00:08:12 → 00:08:15 ก่อนหน้านี้น้ำหนัก 187 ปัจจุบัน 150 นะ
00:08:15 → 00:08:18 มีโรคประจำตัวคือไทรอยด์เป็นพิษกับความ
00:08:18 → 00:08:21 ดันสูงอันเนี้ยมองผ่านไปได้เลยพวกนี้เป็น
00:08:21 → 00:08:24 secondary ไม่ได้เป็นโรคจริงๆของเขาเป็น
00:08:24 → 00:08:26 reaction reactive physiologic
00:08:26 → 00:08:30 physiological state นะอ่าที่มันมีภาวะ
00:08:30 → 00:08:32 การตอบสนองบางอย่างต่อเรื่อง hormonal
00:08:32 → 00:08:36 disturbance หรือ disruption เออแล้วก็
00:08:36 → 00:08:39 ผลแลปมันเป็นอย่างเงี้ยนะกันยายน 67 เป็น
00:08:39 → 00:08:41 อย่างงี้กุมภาพันธ์ 68 เป็นอย่างงี้ที่
00:08:41 → 00:08:44 เปรียบเทียบในตารางเนาะอ่าคนนี้ก็เป็น
00:08:44 → 00:08:45 ลักษณะ
00:08:45 → 00:08:49 อ่าเนี่ยลักษณะข้างบนเนี่ยข้างบนเนี่ยดู
00:08:49 → 00:08:52 จะไม่ค่อยมีอะไรนะยังไม่เค้าเรียก
00:08:52 → 00:08:56 striking นะแล้วก็เาทำไมไม่ตรวจอินซูลิน
00:08:56 → 00:09:01 คำนวณฮ่า ir มานะแล้วก็พวกไตพวกตับเนี่ย
00:09:01 → 00:09:04 ก็ไม่ได้ตรวจแต่จริงๆตรวจเนี่ยในแง่
00:09:04 → 00:09:06 อินซูลินเนี่ยหมอว่าไม่ได้มีอะไรที่จะผิด
00:09:07 → 00:09:10 ปกติหวือหวเนี่ยมีฝั่งด้านซ้ายมือก็เป็น
00:09:10 → 00:09:14 คำถามกันบของเขานะขวามือเนี่ยหมอลงตาราง
00:09:14 → 00:09:17 ให้แล้วคนี้ว่าเป็นอ้วนระดับ 3 นะเป็น
00:09:17 → 00:09:20 บอดี้ type แบบเอสโตรเจนเด่นไม่รู้อายุ
00:09:20 → 00:09:25 ไทโรรู้อายุมั้ยเออไม่ทราบครับก็น้ำหนัก
00:09:25 → 00:09:28 เนี่ยคิดว่าน่าจะ 30 กว่า 40 นะยังไม่ใช่
00:09:28 → 00:09:32 วยทองอ่ะเนานะแต่ว่ามันเป็นลักษณะมันเป็น
00:09:32 → 00:09:36 Over obesity น่ะเป็นอ้วนอันตรายอันดับ
00:09:36 → 00:09:39 3 นี่อันตรายหมดแะนะเพราะฉะนั้นน่าสงสาร
00:09:39 → 00:09:42 และต้องน่าจะต้องเข้าไป Take Action คือ
00:09:42 → 00:09:46 ต้องไปว่าไปอะไรซะหน่อยนึงอ่ะไปสกิดสะกิด
00:09:46 → 00:09:49 อะไรต่างๆหรือจะไปทำให้งงงวยมากขึ้นก็
00:09:49 → 00:09:53 แล้วแต่เพราะว่าที่ทำมานะหรือคำแนะนำที่
00:09:53 → 00:09:56 ดูๆแล้วเนี่ยยังไม่ยังไม่ครอบคลุมยังไม่
00:09:56 → 00:10:00 ถูกถูกใจอ่ะนะเนี่ย
00:10:00 → 00:10:04 อ่าอันนี้เราพอเห็นเนาะในในในคอลัมน์บนๆ
00:10:04 → 00:10:07 เนี่ยนะเรื่อง fing ัเรื่อง a1c อ่ะนะแต่
00:10:07 → 00:10:10 เขาก็ลงแลบมาแค่ช่วงนี้นะมีตรวจวันที่ 19
00:10:10 → 00:10:14 กันยายนกับเ่อ 15 กุมภาพันธ์เนี่ยเมื่อ
00:10:14 → 00:10:18 วานนี้เนาเนี่ยอย่างแลบเมื่อวานนี้ก็จะมี
00:10:18 → 00:10:21 แค่เนี่ย a1c ขึ้นจาก 5.5 เป็น 5.9 ก็
00:10:21 → 00:10:26 เกิน 5.7 ิดนึงเนี่ยถ้าคนนี้นะถ้ามันเกิน
00:10:26 → 00:10:30 6 นะ 6 6.1 6.2 เนี่ยเอาเรื่องเลยนะนะ
00:10:30 → 00:10:34 เพราะว่าถือว่าถือว่าการปฏิบัติต่างๆที่
00:10:34 → 00:10:39 จะที่จะ Go On เนี่ยไม่ถูกคุณต้องแก้
00:10:39 → 00:10:43 อย่าไปอย่าไปต่อไปต่อไม่ได้นะแล้วก็จริงๆ
00:10:43 → 00:10:46 น่าจะอ้วนๆน่าจะตรวจอินซูลินน่ะอินซูลินโ
00:10:46 → 00:10:49 ir เนี่ยต้องตรวจอยู่แล้วถึงจะปกติถึงจะ
00:10:49 → 00:10:55 แบบอ้วน 150 180 เหอะนะนะมันก็มันก็มัน
00:10:55 → 00:10:58 ก็ไม่ได้อยู่แถวๆ 10 หรอกมันก็เกินไปแหละ
00:10:58 → 00:11:02 นะแต่ค่าปกติอินซูลินของเราอ่ะเห็นมใน
00:11:02 → 00:11:06 อะไรอ่ะในชาร์จเนี่ยนะเท่าไหร่นะ
00:11:06 → 00:11:09 5-25 นะ 5-25 เพราะฉะนั้นจริงๆคนเ
00:11:09 → 00:11:13 อินซูลินไปถึงเกือบๆ 30 เนี่ยก็ยังอาจจะ
00:11:13 → 00:11:17 อยู่ในเกณฑ์ปกติคือเป็นปกติของคนที่มัน
00:11:17 → 00:11:20 อ้วนมากๆอย่างนี้แหละนะแล้วก็อินซูลินมี
00:11:20 → 00:11:24 การตอบสนองอยู่ในระดับเพดานบนเลยนะแล้ว
00:11:25 → 00:11:28 ร่างกายมันเก็บสะสมพลังงานได้ดีเซลล์ต่าง
00:11:28 → 00:11:32 ๆีนควบคุมอะไรต่างๆมันมียุ้งฉางที่จะให้
00:11:32 → 00:11:35 ไอ้ตัวไขมงไขมันเนี่ยมาแทรกมาเป็นพลังงาน
00:11:35 → 00:11:39 ส่วนเกินเก็บๆๆอย่างไรก็ตามเนี่ยคิดว่านะ
00:11:39 → 00:11:44 การอ้วนนี่มันเยอะมากไปจะถึงใกล้ๆ 200
00:11:44 → 00:11:45 เนี่ยมัน
00:11:45 → 00:11:49 ก็มันก็ถึงเวลาแล้วล่ะที่สุดๆแล้วล่ะที่
00:11:49 → 00:11:51 เซลล์ไขมันตามที่เราเคยพูดกันไปเมื่อวัน
00:11:51 → 00:11:55 พฤหัสบดีเนี่ยว่ามันน่าจะมีมีอะไรที่เกิด
00:11:55 → 00:11:57 การตอบสนองด้วยตัวมันเองแล้วมันไม่ฟังคำ
00:11:57 → 00:12:00 สั่งใครแล้วล่ะนะนะก็คือมีการเผาผลาญแล้ว
00:12:00 → 00:12:04 ก็สลายกีซอลสลายทั้งไอ้อะไร
00:12:04 → 00:12:06 อ่ะ non
00:12:07 → 00:12:10 efi fatty Acid ออกมานะเนี่ยๆมันต้อง
00:12:10 → 00:12:14 มันต้องมีอยู่แล้วนะเพราะฉะนั้นทุกอย่าง
00:12:14 → 00:12:17 เนี่ยมันก็เลยทำให้เขาค้างไปต่อไม่ได้นะ
00:12:17 → 00:12:22 คีโตสิสไม่ได้ตับกล้ามเนื้อดื้ออินซูลิน
00:12:22 → 00:12:26 นะแต่ว่าตัวตับอ่อนเนี่ยกลับดีอ่ะเออดู
00:12:26 → 00:12:31 แล้วแปลกๆมว่าคนสเนื้อเนี่ยนะยังไงยังไง
00:12:31 → 00:12:34 ตับผ่อนมันไม่เดี้ยงอ่ะมันไม่ฟังก์ชันมัน
00:12:34 → 00:12:37 ไม่ผลิตอินซูลินน้อยอ่ามันก็อาจจะผลิต
00:12:37 → 00:12:40 อินซูลินปกติหรือค่อนข้างสูงหรือสูงมากๆ
00:12:40 → 00:12:46 ไปเลยนะนะแล้วก็อะไรต่างๆที่เกี่ยวกับ
00:12:46 → 00:12:48 คุณสมบัติหรือคุณภาพประสิทธิภาพอินซูลิน
00:12:49 → 00:12:50 ก็ยังอยู่ในเกณฑ์
00:12:50 → 00:12:54 ปกติเพียงแต่ว่าตัวเซลล์ต่างๆของร่างกาย
00:12:54 → 00:12:58 นี่แหละมันไม่ตอบสนองไปอันเนี้ยอันนี้ก็
00:12:58 → 00:13:02 ไม่มีอะไรเกี่ยวกับตรงอินซูลินตรงเนี้ยนะ
00:13:02 → 00:13:06 คิดว่านะแต่ว่าเค้าก็ต้องตรวจ 1 ต้องตรวจ
00:13:06 → 00:13:09 แล้วก็ 2 ต้องตรวจตับตรวจไตสักทีนึงถึงจะ
00:13:09 → 00:13:12 อายุน้อยก็เหอะนะแล้วก็อย่ามั่นใจใน
00:13:12 → 00:13:15 เรื่องของตับนะเพราไงก็ตามอินซูลิน
00:13:15 → 00:13:22 คอร์ติซอลอ่าแนอแกนนะหรือไม่ก็อะไรอ่ะ
00:13:22 → 00:13:26 เนี่ยพวกพวกระบบเมตาบอลิกเ่ะตับเนี่ย
00:13:26 → 00:13:29 เอนไซม์ตับอย่างน้อยต้อง 2 ตัวต้องรู้
00:13:29 → 00:13:33 นะแล้วคนนี้เนี่ยไปกินนยาต้านไทรอยด์เทิ
00:13:33 → 00:13:37 ด้วยนะไอ้ตัวระบบน้ำดีนะอคสมันจะสูงนะ
00:13:37 → 00:13:41 เอฟมันจะสูงเพราะว่ายาต้านไทรรอยด์เนี่ย
00:13:41 → 00:13:45 มันมีผลในการทำลายเยื่อบุท่อน้ำดีเยื่อบุ
00:13:45 → 00:13:47 ท่อดีมันจะมันจะมีการอักเสบแล้วมันจะ
00:13:47 → 00:13:51 ปล่อยเอนไซม์เพรางั้นตัวแคลฟอสจะสูงใน
00:13:51 → 00:13:53 กรณีที่คุณเป็นปัญหาเกี่ยวกับไทรอยด์เป็น
00:13:53 → 00:13:56 พิษแล้วกินยาต้านไทรอยนะทั้ง ptu ทั้งเมิ
00:13:56 → 00:14:00 มาโซนนะเพราะฉะนั้นเวลาตรวจเอาคฟสกีตนึง
00:14:00 → 00:14:03 นะมันก็จะมักจะเกิน 100 หรือใกล้ๆ 100
00:14:04 → 00:14:07 ซึ่งปกติถ้าเกิน 100 เนี่ยต้องต้องเริ่ม
00:14:07 → 00:14:11 ตรวจอาต้าท่งอัตซาวต้องตรวจหาสาเหตุทาง
00:14:11 → 00:14:14 ด้านเนื้อตับกับทางด้านระบบน้ำดีต่างๆอ่า
00:14:14 → 00:14:17 แต่กรณีที่กินยาต้านพิษของไทรรอยด์อะไร
00:14:17 → 00:14:21 อย่าเงี้ยนะอันนี้มันเป็นเป็น tion หรือ
00:14:21 → 00:14:24 เป็นเรื่องของผลข้างเคียงของยาอย่างนึงนะ
00:14:24 → 00:14:27 ระบบน้ำดีมันก็จะมีลักษณะอย่างนั้นเป็น
00:14:27 → 00:14:30 ข้อสังเกตเลยล่ะนะทีนี้เลยปิดโปรไฟล์นะ 2
00:14:31 → 00:14:33 ตารางเนี่ยนะอันนี้ก็ไม่มีอะไรก็ทั่วๆไป
00:14:33 → 00:14:37 ก็เป็นลักษณะภาวะดื้ออินซูลินนะคล้ายๆกับ
00:14:37 → 00:14:38 จะ
00:14:38 → 00:14:41 เป็นคือจริงๆเนี่ยถ้าน้ำหนักเยอะๆนะเรา
00:14:41 → 00:14:45 เอาประเด็นน้ำหนักเป็นหลักว่าโอ้โห Over
00:14:45 → 00:14:49 obesity อ้วน 3 ระดับ 3 ระดับ 4 เนี่ยนะ
00:14:49 → 00:14:53 คิดว่านะยังไงๆังไงเนี่ยนะอินซูลินนี่จะ
00:14:53 → 00:14:57 ต้องพังเยอะเลยอ่ะใช่มั้นะเอแต่ทำไมเนี่ย
00:14:57 → 00:14:59 ดูด้วการด้วยอินซูลินเนี่ยเ่ะอืมไม่ได้
00:15:00 → 00:15:02 เยอะอะไรนะไม่ได้เยอะ
00:15:02 → 00:15:05 เออนะเพราะฉะนั้นคิดว่าตับอ่อนและตัว
00:15:05 → 00:15:08 ฮอร์โมนจริงๆเนี่ยก็ไม่ได้จะปิดเพี้ยน
00:15:08 → 00:15:12 อะไรไปเยอะนะก็เลยไม่ค่อยจะไปไปไปเอาเป็น
00:15:12 → 00:15:16 เอาตายกับเรื่องอินซูลินนะเแล้วก็เนี่ย
00:15:16 → 00:15:19 หลังจากปฏิบัติตัวมาเท่าไหร่อ่ะเนี่ย 5
00:15:19 → 00:15:23 เดือนเนาะเนี่ยแลปมันก็คล้ายๆกันน่ะฮะแต่
00:15:23 → 00:15:27 ว่าเนี่ยคล้ายๆไกิซอาหาร hl เนี่ยมันก็
00:15:27 → 00:15:31 มันก็ยังเยอะอยู่อ่ะนะมันก็ยังเยอะไปหมด
00:15:31 → 00:15:34 นะนะมากขึ้นกว่าเดิมไปอีก
00:15:34 → 00:15:38 นะมากขึ้น
00:15:38 → 00:15:41 นะแต่ว่ามันมากขึ้นเพราะอะไรส่วนใหญ่มัน
00:15:41 → 00:15:45 มากขึ้นก็เพราะว่าเรื่องของไอ้ตัว fy
00:15:45 → 00:15:49 ทิชชูอ่ะนะอิพทิชชูต่างๆนี่แหละนะมัน
00:15:49 → 00:15:53 เริ่มปล่อยทั้งกีอปล่อยทั้งไอ้ตัว non
00:15:53 → 00:15:56 eif fatty Acid ออก
00:15:56 → 00:16:00 มาแล้วก็ไิสล 110 18 นี้ 125 ดูไม่แตก
00:16:00 → 00:16:04 ต่างนะ 5 เดือนนะเนี่ยโตคอเลสเตอรอลก็ไม่
00:16:04 → 00:16:08 ค่อยแตกต่างนิดๆนะ hdl เท่าๆเดิม 48 47
00:16:08 → 00:16:13 นะ ldl ก็เนี่ยอยู่ในเกณฑ์เๆนิดๆเนี่ยก็
00:16:13 → 00:16:16 คือไม่เปลี่ยนนะไม่เปลี่ยนนะที่ก็ดำเนิน
00:16:16 → 00:16:19 การอยู่กินีนโยองไดเอดอะไรอย่างเงี้ยก็
00:16:19 → 00:16:23 ไม่เปลี่ยนอะไรนะฮะมันไม่ได้ไงนะนะกิน
00:16:23 → 00:16:26 ข้าววันละ 2 ทับพีกินอะไรต่างๆเหล่าเนี้ย
00:16:26 → 00:16:29 โอ้นะ
00:16:29 → 00:16:33 ทีนี้เรามาดูในเรื่องเนี่ยไลโปโปรตีนเซนิ
00:16:33 → 00:16:36 ก็ดูเหมือนจะดีทั้งพลังงานทั้งสารอาหารเ
00:16:36 → 00:16:40 เพราะคนเยังไงก็ตามนะร่างกายมันก็มีทั้ง
00:16:40 → 00:16:42 กล้ามเนื้อมีทั้งพลังงานสะสมมีสารอาหาร
00:16:42 → 00:16:46 สะสมเนะไม่ค่อยจะเป็นปัญหาอะไร
00:16:46 → 00:16:50 นะเพราะฉะนั้นถึงได้บอกไงจะเปลี่ยนยังไง
00:16:50 → 00:16:53 ก็ได้เรื่องอาหารเนี่ยนะแต่มันไม่ใช่
00:16:53 → 00:16:57 ประเด็นหลักนะประเด็นหลักคือเอสโตเจนมา
00:16:57 → 00:17:01 ยังไงเอต้องไปหาเรื่องตัวเอสโตเจนเด่นเ่อ
00:17:01 → 00:17:04 ถึงจะมันมีปัญหากับระบบเจริญพันธุ์เต้านม
00:17:04 → 00:17:07 มลูกผิมะลูกรำไข่ประจำเดือนหรือก้อนอะไร
00:17:07 → 00:17:12 ต่างๆหรือถุงน้ำอะไรอย่าเงี้ยนะ
00:17:12 → 00:17:15 เออนะหรืออย่างน้อยเอสโตรเจนเนี่ยก็จะทำ
00:17:15 → 00:17:19 ให้แฟตเซลล์อ่ะนะมันเยอะขึ้นน่ะนะมันทั้ง
00:17:19 → 00:17:23 Hyper เพีย hypertrophy อะไรเงี้นะแล้ว
00:17:23 → 00:17:28 มันก็ยิ่งสะสมจนแบบขึ้นไปตั้ง 80 กว่าได้
00:17:29 → 00:17:32 นะเหมือนกับว่ากรพันธ์คนๆเน่าจะอ้วนอาจจะ
00:17:32 → 00:17:35 อ้วนทั้งบ้านเลยล่ะนะนะเพราะฉะนั้นก็เลย
00:17:35 → 00:17:39 มียุ้งฉางในการเก็บอะไรต่างๆโดยที่ยัง
00:17:39 → 00:17:44 สามารถที่จะซื้อเวลาที่จะป่วยเป็นแบบเ่า
00:17:44 → 00:17:47 สุดๆของภาวะดื้ออินซูลินแต่อนี้ก็น่าจะ
00:17:47 → 00:17:50 ทรมานแล้วล่ะนะเพราะว่าจะ 200 แล้วเงี้ย
00:17:50 → 00:17:54 นะหายใจจหายคอขนาดไหนนะฮะนะแค่นั่งแค่นอน
00:17:55 → 00:17:56 ก็เหนื่อยแล้วล่ะอือ
00:17:56 → 00:18:01 เนอะน่าสงสารานนะเดี๋ยวต้องเข้าไปช่วยกัน
00:18:01 → 00:18:04 นะเไม่มีอะไรนะเบอกกินคีนเวลา 2 มื้อนะ
00:18:05 → 00:18:08 กินเช้ากินเที่ยน 2 เวลาเย็นไม่ได้กินจะ
00:18:08 → 00:18:10 ก็ได้คุณจะกินอย่างงนี้ก็ได้กินมื้อเดียว
00:18:10 → 00:18:15 ก็ได้นะไโปลฟาอะไรก็ทำได้นะฮะนะแต่ว่ามัน
00:18:15 → 00:18:17 ก็เท่านั้นแหละมันก็ก็ช่วยช่วยประคับ
00:18:17 → 00:18:21 ประคองไปนิดๆหน่อยๆนะนะเดินก็อย่างเงี้ย
00:18:21 → 00:18:24 นะเดิน 6 6, ต่อวันไม่ได้ออกกำลังกาย
00:18:24 → 00:18:29 อะไรตอนแรกอ่าความดันตัวล่างสูงต่อมาก็
00:18:29 → 00:18:33 ยังอยู่ในเกณฑ์คือๆเก่านะก็เท่าๆเดิมหมด
00:18:33 → 00:18:36 ดูแล้วไม่เปลี่ยนนะ 5 เดือนมาเนี้ยนะมัน
00:18:36 → 00:18:40 ก็เลยเหมือนค้างเหมือนตันน่ะนะเคสนี้น่า
00:18:40 → 00:18:44 จะเป็นั clinical ไฮเปอร์ไทรอยนะฮซึ่ง
00:18:44 → 00:18:47 เป็น reactive physiologic นะของคนทรง
00:18:47 → 00:18:51 เอสโตเจนก็คือคนเเอสโตเจนเด่นเอเจนเด่น
00:18:51 → 00:18:56 เนี่ยเอเจนเนี่ยคือเอสโตรเจนมันก็จะมามา
00:18:56 → 00:19:00 ตามไทรรอยด์เอ้มาตามอินซูลก่อนนะฮะนะ
00:19:00 → 00:19:02 เพียงแต่ว่าอินซูลิน
00:19:02 → 00:19:05 เนี่ยอินซูลินเค้าก็อาจจะไฮเปอร์อินซูลิน
00:19:05 → 00:19:09 นีเมียหรือว่าด้วอินซูลินแต่ไม่มากแต่ว่า
00:19:09 → 00:19:12 มันไปกระตุ้นหรือว่ามันไปทำให้ไอ้ตัว
00:19:12 → 00:19:15 เอสโตรเจนเนี่ยเกิดปฏิกิริยาการตอบสนอง
00:19:15 → 00:19:18 อะไรค่อนข้างมากนะก็เป็นเป็นลักษณะ
00:19:18 → 00:19:22 สัญลักษณ์ของคนทรงนี้นว่าเ่อเอสโตรเจน
00:19:22 → 00:19:25 เด่นเนี่ยแปลว่าถ้าเกิดไปกระตุ้นหรือไปไป
00:19:25 → 00:19:30 ไปแหย่ไปมีปัจจัยเสริมปัจจัยเสี่ยงอะไร
00:19:30 → 00:19:33 ต่างๆให้ฮอร์โมนตัวนี้เนี่ยเขาสร้างเยอะๆ
00:19:33 → 00:19:36 เขาแบบเ่อควบคุมตัวเขาเองไม่ได้ดีนักอะไร
00:19:36 → 00:19:39 อย่างเงี้ยนะมันก็จะมีผลเยอะๆๆๆแล้วผล
00:19:40 → 00:19:42 หนึงของเอสโตรเจนเนี่ยคล้ายๆอินซูลินนั่น
00:19:42 → 00:19:46 แหละนะก็คือเป็นเรื่องสะสมพลังงานเพราะ
00:19:46 → 00:19:49 ฉะนั้นไม่แปลกที่ Fat เซลนะอพที่ิอะไร
00:19:49 → 00:19:52 ต่างๆมันจะ hypertrophy Hyper เพียแล้ว
00:19:52 → 00:19:57 มันก็เลยอ้วนๆๆๆๆนะโดยที่อินซูลินเนี่ยนะ
00:19:57 → 00:20:01 ก็อาจจะเยอะแต่ว่าไม่ได้เยอะโดดเด่นเท่า
00:20:01 → 00:20:04 นะเพราะฉะนั้นในฝั่งเอสโตรเจนเอินซูลิน
00:20:04 → 00:20:07 เนี่ยถ้าเาเด่นทั้งตัวพ่อตัวลูกสาวคนโต
00:20:07 → 00:20:12 เนี่ยนะพวกนี้ก็จะเป็นเด่นในลักษณะที่แบบ
00:20:12 → 00:20:14 ไม่ไม่ได้เดือดร้อนใครอ่ะเอสโตรเจนเป็น
00:20:14 → 00:20:16 ฮอร์โมนลิเย็นเนี่ยนะเพราะฉะนั้นพวกนี้
00:20:16 → 00:20:21 เวลาอ้วนมันก็อ้วนแบบแบบเหมือนแบบแบบแบบ
00:20:21 → 00:20:25 อ้วนแบบผ่อนคายแบบสบายๆไม่ได้อ้วนแล้วก็
00:20:25 → 00:20:30 โอ้โหนะจะไปวุ่นวายอะไรมากมายนะกอ้วนแบบ
00:20:30 → 00:20:35 เย็นๆนะเอ่อเพราะฉะนั้นนะเพราะฉะนั้น
00:20:35 → 00:20:41 เนี่ยนะเอ่อสารอาหารพลังงานนะเยอะนะสะสม
00:20:42 → 00:20:46 สะสมสะสมนะฮทีนี้เนี่ยเอสโตรเจนเนี่ยนอก
00:20:46 → 00:20:48 จากเกี่ยวกับอินซูลินเกี่ยวกับคอร์ติซอล
00:20:48 → 00:20:51 แล้วก็จะเกี่ยวกับไทรอยด์อีกตัวนึงเออ
00:20:51 → 00:20:54 เพราะฉะนั้นการสะสมสะสมต่างๆนะทั้ง
00:20:54 → 00:20:57 เอสโตรเจนทั้งอินซูลินเนี่ยก็กลายเป็นว่า
00:20:57 → 00:21:00 นะคือไไทรอยด์อ่ะไทรรอยด์อ่ะมันจะต้อง
00:21:00 → 00:21:03 อะไรมันจะต้องการอินซูลินน่ะมาช่วยในการ
00:21:03 → 00:21:05 สะสมสารอาหารเพราะว่าองค์ประกอบของ
00:21:06 → 00:21:08 ไทรอยด์มันเป็นฮอร์โมนที่มีโครงสร้างที่
00:21:08 → 00:21:10 ต้องใช้อะไรเยอะไปหมดนะเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:21:10 → 00:21:15 เ่อพอเอสโตรเจนมาช่วยในการสะสมอีกแรงนึง
00:21:15 → 00:21:17 เสริมกับอินซูลินแล้วเอสโตรเจนมีบทบาทมาก
00:21:17 → 00:21:21 กว่าก็ปรากฏว่าสารอาหารมันก็เยอะเกินเอ่อ
00:21:21 → 00:21:24 พอมันเยอะเกินไปเนี่ยนะมันก็มีโอกาสที่จะ
00:21:24 → 00:21:26 เกิดการเปลี่ยนแปลงกลายเป็นไทรรอยด์
00:21:26 → 00:21:29 ฮอร์โมนเยอะไปอันนี้แหละเรียกว่าเป็น
00:21:29 → 00:21:31 physiologic condition เป็น reactive
00:21:31 → 00:21:36 นะ reactive จากอะไรก็จากเสารอาหารเยอะ
00:21:36 → 00:21:40 เออมีการสะสมมากมีการมิที่จะเป็นไทรอยด์
00:21:40 → 00:21:43 ฮอร์โมนเยอะก็เลยกลายเป็นไฮเปอร์ไทรรอยด์
00:21:43 → 00:21:46 ซึ่งปรากฏการณ์อย่างเงี้ยมันจะเกิดน้อยนะ
00:21:46 → 00:21:50 ถ้า 80 20 ไอ้พวกนี้ก็อยู่ในโซน 20% ไม่
00:21:50 → 00:21:53 ไม่ใช่ 80 ถ้า 80 มันเป็นไฮโปไทรอยด์อะไร
00:21:53 → 00:21:56 งี้นะคือดื้ออินซูลินไงพอดื้ออินซูลิน
00:21:56 → 00:21:59 ดื้ออินซูลินกูก็กีดกันหมดเลยสารอาหารไม่
00:21:59 → 00:22:01 ให้เข้าไม่ให้เข้าจะไปสังเคราะห์ฮอร์โมน
00:22:02 → 00:22:06 ตัวนั้นตัวนี้ไม่เอาไม่เอานะเ่อกันหมดนะ
00:22:06 → 00:22:10 เข้าไม่ได้เข้าไม่ได้นะอินซูลินกันหมดแต่
00:22:10 → 00:22:12 อันนี้เนี่ยอินซูลินไม่ได้เยอะแต่
00:22:12 → 00:22:15 เอสโตรเจนเยอะแต่เอสโตรเจนเนี่ยเสะสมนะ
00:22:15 → 00:22:19 อาจจะสะสมแบบโลภมากนะเพราะฉะนั้นก็เลยไม่
00:22:19 → 00:22:23 แปลกที่ไฮเปอร์ไทรรอยด์มันก็จะพ่วงมาด้วย
00:22:23 → 00:22:27 เพฉะนั้นคนนี้ทรงเอสโตเจนเดมแล้วก็ลงเอย
00:22:27 → 00:22:30 ด้วยเรื่องของไฮเปอร์ไทรอย hens อะไเงี้ย
00:22:30 → 00:22:32 นะแต่จะสังเกตว่าถึงจะไฮเปอร์ไทรอยด
00:22:32 → 00:22:36 hypertension เตัวเลขหรือตัวแลบเนี่ยมัน
00:22:36 → 00:22:39 ไม่ได้โดดเด่นอะไรนะไฮเปอร์ tension มัน
00:22:39 → 00:22:42 ก็ไม่ได้เป็นไฮเปอร์ tension แบบโอ้โห
00:22:42 → 00:22:45 เอ่อจะ 200 อย่างเงี้ยนะตัว syic อะไร
00:22:45 → 00:22:48 ต่างๆหรือ di asic จะ 100 กว่าอะไรอย่า
00:22:48 → 00:22:51 เงี้เมื่อกี้เราเห็นมล่ะ 130 กว่า 111
00:22:51 → 00:22:55 อะไรอย่าเงี้ยนะคือมันเป็นความดันมัน
00:22:55 → 00:22:58 เหมือนแค่สวิงนิดๆหน่อยๆอะไรอย่าเงี้นะก็
00:22:58 → 00:23:02 เหมือนกันเนะเนี่ยไทรรอยด์ฮอร์โมนเนี่ยนะ
00:23:02 → 00:23:06 สร้างเยอะเยโดยแบบมันสะสมมากนะเพราะ
00:23:06 → 00:23:08 ฉะนั้นแบบเนี้ยเอายาไปใส่อย่างเงี้ยไม่
00:23:08 → 00:23:11 ใช่แล้วแปลว่าคุณไม่เข้าใจ physiology
00:23:11 → 00:23:15 แล้วนะแล้วยาไทรรอยด์เนี่ยมันก็เป็นยาที่
00:23:15 → 00:23:20 ยังไงนะมันไปเบรกไทรรอยด์อ่ะนะเบรก
00:23:20 → 00:23:24 ไทรอยด์ก็ไปอะไรอ่ะนะยับยั้งการยิ่งไปยับ
00:23:25 → 00:23:27 ยั้งการสลายพลังงานเนี่ยก็ยิ่งกระตุ้นให้
00:23:27 → 00:23:30 เกิดการสัสสมมากขึ้นน่ะนะก็เหมือนไปเข้า
00:23:30 → 00:23:33 พวกพอดีอ่ะทำให้หิวก็เลยกินแบบยักษ์กับ
00:23:33 → 00:23:37 หมูผีอ่ะนะคือเดิมจะเป็นด้วยอินซูลินดื้อ
00:23:37 → 00:23:41 เลปตินเอสโตรเจนเด่นหรืออะไรก็ตามนะแต่พอ
00:23:41 → 00:23:45 ไปได้ยาอีกยาไฮเปอร์ไทรอยด์ก็จะเป็นยาที่
00:23:45 → 00:23:50 กระตุ้นการสะสมพลังงานเพิ่มนะก็ก็หิว
00:23:50 → 00:23:55 เพิ่มอ่ะน้ำหนักก็ 164 กลายเป็น 187
00:23:55 → 00:24:00 นะนะแล้วก็ไม่รู้ไปอีรูปตุบตับกันยังไงนะ
00:24:00 → 00:24:05 เอในที่สุดก็บอกว่ามาขอเปลี่ยนไดเอตนะพวก
00:24:05 → 00:24:09 นี้ดื้ออินซูลินดื้อเลปตินไม่มากนะอิซอก็
00:24:09 → 00:24:12 ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรมากหรอกนะฮะเพราะพวก
00:24:12 → 00:24:16 นี้ก็สายเย็นน่ะนะสายนาเย็นนะนะแต่ว่า
00:24:16 → 00:24:20 อ้วนเพราะว่าเอสโตรเจนมันเด่นเแล้วก็สาร
00:24:20 → 00:24:23 อาหารพลังงานเต็มไปหมดเพราะฉะนั้นถึงได้
00:24:23 → 00:24:26 บอกนะไอ้พวกทรงเอสโตรเจนเเวลาไปเต้นหน้า
00:24:26 → 00:24:30 ห้างอ่ะมันชนะไครอยอ่ะเพราะว่าอะไรมันอึด
00:24:30 → 00:24:33 สารอาหารมันเยอะนะพลังงานสะสมในส่วนล่าง
00:24:33 → 00:24:37 มันเยอะยิ่งมาเต้นๆๆด้วยกูสู้ใจตุดใจขาด
00:24:37 → 00:24:40 ดิ้นนะไทรอยด์เต้นไปแล้วพักไปอ่ะแต่
00:24:40 → 00:24:43 เอสโตรเจนนี่เต้นยาว 3 ชั่วมง 4 ชั่วโมง
00:24:43 → 00:24:46 ไม่ล้าขาด้วยนะใช่
00:24:46 → 00:24:52 มเขาบอกเป็นไทรอยด์ตอนเป็นพิษตอน 164 กล
00:24:52 → 00:24:55 พอไปกินยาต้านพิษน้ำหนักเพิ่มเป็น 187
00:24:55 → 00:24:57 เฮ้อ
00:24:57 → 00:25:01 นะนี่แหละนะเอ่อเราเห็นไทรรอยด์ฮอร์โมน
00:25:01 → 00:25:05 มั้ยคือคนที่เป็นไทรรอยด์เป็นพินะเวลาที่
00:25:05 → 00:25:10 มันจะรีเวสเนี่ยนะรีเวสแรกๆเนี่ยนะมันอัด
00:25:10 → 00:25:12 ยาเยอะนะภายใน
00:25:12 → 00:25:16 6 ภายใน 3 -6 สัปดาห์เนี่ยก็จะต้องกด
00:25:16 → 00:25:20 พิษลงมาให้อยู่ในเกณฑ์เกือบๆปกติหรือปกติ
00:25:20 → 00:25:24 นะแล้วหลังจากนั้นเนี่ยก็ต้องปรับในการ
00:25:24 → 00:25:28 ที่จะรักษาอ่าควบคุมไม่ให้เป็นทิษเอ่อเ่อ
00:25:28 → 00:25:30 พุ่งขึ้นไปอีกเนี่ยนะในช่วงประมาณปีครึ่ง
00:25:30 → 00:25:34 ถึง 2 ปีปีครึ่งถึง 2 ปีนะซึ่งคนนี้เนี่ย
00:25:34 → 00:25:37 ไทรรอยด์ฮอร์โมนต่างๆที่เขเแสดงให้ดูอไม่
00:25:37 → 00:25:39 รู้ว่าเมื่อไหร่ล่าสุดหรือเปล่าน่าจะล่า
00:25:39 → 00:25:43 สุดมั้งถ้าล่าสุดก็ปกตินะคือการที่มัน
00:25:43 → 00:25:46 เป็นพวก physiologic เนี่ยนะ
00:25:46 → 00:25:50 เอ่อมันอาจจะมีผลข้างเคียงของยาแต่เวลา
00:25:50 → 00:25:52 ที่ไอ้ฮอร์โมนต่างๆมันอยู่ในเกมปกติมันจะ
00:25:52 → 00:25:55 ลงมาเร็วอ่ะเพราะมันไม่ใช่ผิดปกติจริงๆ
00:25:55 → 00:25:58 ถ้าคุณมีโรคไทรอยด์มพิษจริงๆอ่ะมันเอาไม่
00:25:58 → 00:26:02 ลงหรอกนะมันถึงต้องไปคืนแร่ไปผ่าตัดไง
00:26:02 → 00:26:07 เอถ้าเป็นแบบเคี้ยวๆเป็นแบบโหดๆเนี่ยนะ
00:26:07 → 00:26:10 ไทลอยเป็นพิษพวกเนี้ยเออกินยาไปเหอะบางคน
00:26:11 → 00:26:14 ก็กิน 3 ปี 5 ปีนะส่วนใหญ่มันก็ต้อง
00:26:14 → 00:26:17 ประมาณปีครึ่งถึง 2 ปีถ้าปีครึ่งถ 2 ปี
00:26:17 → 00:26:19 เนี่ยฮอร์โมนความเป็นพิษยังคุมไม่ได้
00:26:19 → 00:26:22 เนี่ยเขาก็จะพิจารณาไปคืนแรก iod 131
00:26:22 → 00:26:27 หรือไม่ก็ักแต่คนนี้น่าจะไม่รู้น่ะตอนนี้
00:26:27 → 00:26:30 ยังกินยาอยู่นะแต่มันก็ลงมาแล้ว่ะนะน่าจะ
00:26:30 → 00:26:33 เป็นเค้าเรียกเทป Off ยาจนกระทั่งอ่าต่ำ
00:26:33 → 00:26:36 สุดแล้วล่ะนะแต่ก็ต้องตรวจตับนะฮะพวกนี้
00:26:37 → 00:26:40 นะเพราะยาต้านไทรอยด์มีผลต่อตับนะอันนี้
00:26:40 → 00:26:43 ก็มีคนไปถามอ่ะไอ้ใหม่ก็ไปถามนะบอกว่าฟัง
00:26:43 → 00:26:46 ดูแล้วขัดๆนะครับไทรรอยด์เป็นพิษแต่ทำไม
00:26:46 → 00:26:50 น้ำหนักเยอะอยู่อ่าขอสอบถามว่าเป็นพิษ
00:26:50 → 00:26:53 แล้วทำยังไงอยู่นะเนี่ยเบอกเป็นพิษมา 2
00:26:53 → 00:26:56 ปีแล้วนะเนี่ยตอนเป็นพิษก็น่าจะยังอก็
00:26:56 → 00:26:59 อ้วนนั่นแหละนะอ้วนจนกระทั่งเป็นจิสเนี่ย
00:26:59 → 00:27:02 ถึงได้บอกว่า 164 ขึ้นมาเป็น 107 แต่ตอน
00:27:02 → 00:27:06 นี้อ่าอ่าเนี่ย 187 เพราะว่ากินไม่เลือก
00:27:06 → 00:27:10 ก็ธรรมดาแหละผลข้างเคียงนยาหลังจากนั้นก็
00:27:10 → 00:27:13 หันมาลดน้ำหนักจนเหลือ 150 นะแต่ไม่รู้
00:27:13 → 00:27:17 เหตุจรุงใจอะไรหรือเกิดอะไรขึ้นเนาะเอ่า
00:27:17 → 00:27:21 แล้วถ้าไม่กินยามันจะลดลงเร็วมั้ย
00:27:21 → 00:27:25 อืมก็มันก็ไม่ลดไงนะเพราะว่าเนี่ยมันมี
00:27:25 → 00:27:28 กินยงกินยาด้วยยังไม่ออฟยาเนี่ยตอนนี้ก็
00:27:28 → 00:27:32 ยังกินยาอยู่ใช่มั้เนี่ยอันนี้ก็บอกไอ้
00:27:32 → 00:27:35 ตวจไทฮอร์โมนตัวอื่นๆนะเออก็ตรวจไปเหอะก็
00:27:35 → 00:27:38 ตรวจได้ก็ตรวจนะฮะเพราะใหญ่ปานเนี้ยน้ำ
00:27:38 → 00:27:41 หนักเยอะอย่างเงี้ยนะแต่ก็ไม่น่าจะมีอะไร
00:27:41 → 00:27:45 ที่ผิดปกติอย่างมีนัยยะสำคัญนะปรับกิน
00:27:45 → 00:27:49 เพิ่มขึ้นงดข้าวไปเลยจะงดทำไมล่ะมันก็ไม่
00:27:49 → 00:27:52 ได้มีผลอะไรอย่างนั้นน่ะต้องดูให้ออกด้วย
00:27:52 → 00:27:57 นะกินคีโตทำไนะเรื่องไทรรอยด์เอ่อตรวจจน
00:27:57 → 00:28:00 รู้แน่ว่าเป็นแบบไหหนมันไม่ได้เป็นเฟ
00:28:00 → 00:28:04 disease หรือคือถ้าสงสัยออโตอิมมูนเนี่ย
00:28:04 → 00:28:06 ที่ไปมีผลทำให้ไทรรอยด์เป็นพิษเนี่ยนะเรา
00:28:06 → 00:28:10 ก็ไปตรวจแอนติบอดี้นะเเรียกว่าตรวจไรีแิอ
00:28:10 → 00:28:13 ที่คนมันจะเป็น grp disease เนี่ย grp
00:28:13 → 00:28:15 disease เนี่ยก็เป็นไฮเปอร์ไทรรอยด์ที่
00:28:15 → 00:28:18 เป็นพิษแบบเป็นโล่เอซึ่งเฟ disease เนี่ย
00:28:18 → 00:28:22 โอมันไม่ลงง่ายๆหรอกไอ้พิษพวกเนี้ยนะแล้ว
00:28:22 → 00:28:25 ยิ่งเกฟซีสมัจันเนี่ยไปลงเอยด้วยการกืน
00:28:25 → 00:28:30 กืนแร่กืนน้ำแร่หมดนะนะเอ่อควบคุมกันยาก
00:28:30 → 00:28:32 นะเพราะว่าคนไข้มันควบคุมการดื้ออินซูลิน
00:28:32 → 00:28:37 ไม่ได้นะเออเออก็ไม่ไม่ค่อยเหมือนนะฮะไม่
00:28:37 → 00:28:39 ค่อยเหมือนนะไม่นึกถึงนะ
00:28:39 → 00:28:45 เก็เ้าก็อย่างงี้แหละเนาะเอออันนี้ก็เป็น
00:28:45 → 00:28:49 รายละเอียดของเา้าอนะที่มีคนส่งไปส่งมานะ
00:28:49 → 00:28:53 เอ่อเอ่อเขบอกว่าเนี่ยคนนี้เโพสต์ในนาม
00:28:53 → 00:28:55 ของสมาชิกไม่ระบุตัวตนนะแต่จริงๆมีชื่อ
00:28:55 → 00:28:59 อะไรก็ไม่รู้นะเอ่อเบอกว่าเนี่ยแทบไม่ได้
00:28:59 → 00:29:03 แทบไม่ได้ทานขนมเลยนะเ่อไม่ไม่กินขนมไม่
00:29:03 → 00:29:08 กินน้ำหวานนะฮะนะเเ่อแล้วกินไอ้พวกผลไม้
00:29:08 → 00:29:13 น้ำผลไม้สำเร็จรูปคาอื่นๆอีกมยนะเขก็ตอบ
00:29:13 → 00:29:16 ว่าของสำเร็จรูปอาหารโส Food ไม่เลยค่ะ
00:29:16 → 00:29:20 ไม่แตะเลยจะมีไอู้หน้ากระป๋องบ้างอผลไม้
00:29:20 → 00:29:23 จะทานตระกุลเบอร์รี่กินฝรั่งค่ะแต่ก็ทาน
00:29:23 → 00:29:27 ไม่เยอะนะก็คืออันเนี้ยให้มองผ่านๆนะฮะนะ
00:29:27 → 00:29:31 อย่าไปแบบโฝรั่งเหรอตายสไม่ได้ผลไม้มีฟุก
00:29:31 → 00:29:35 โต๊ดเงี้ยแอย่าไปถึงขนาดนั้นเลยนะออก
00:29:35 → 00:29:39 กำลังกายบ้างไหมครับเไม่ได้ออกเลยค่ะแต่
00:29:39 → 00:29:42 ว่าเดินต่อวันเนี่ยมีอาจจะใช้เครื่องนับ 9
00:29:42 → 00:29:46 นะ 6,9 นะนะก็อันนี้คือใช้กล้ามเนื้อสี
00:29:46 → 00:29:49 แดงเป็น slow ทวิตนะก็พยายามคาร์ดิโอ
00:29:50 → 00:29:54 เพื่อจะลดไขมันนะก็ถูกถูใช้ได้ใชได้นะฮะ
00:29:54 → 00:29:58 ควรต้องออกกำลังกายเพิ่มค้าต้องเพิ่มการ
00:29:58 → 00:30:02 ออกกำลังกายเหรอคะเนะลองออกกำลังกายเพิ่ม
00:30:02 → 00:30:05 20 นาทีช่วงเย็นทานอะไรครับ 20 นาทีไม่
00:30:05 → 00:30:10 พอหรอกอันนี้นะออกไปเลยนะนานๆหน่อยนะฮะ
00:30:10 → 00:30:15 นานๆหน่อยนะ 3-4 ชั่วมงแหละนะพลังงานสะสม
00:30:15 → 00:30:20 มันเยอะนะทาน 2 มื้อค่ะเช้าเที่ยนเออเขา
00:30:20 → 00:30:24 บอกว่าเออมีน้ำตาลตกค้างแปลกมากก็แน่นอน
00:30:24 → 00:30:28 นะก็เหมือนกับที่เราคุยกันไปนะฮะนะนะ
00:30:28 → 00:30:31 เพราะว่าปัญหาของคนพวกเนี้ยก็คือปัญหาของ
00:30:31 → 00:30:36 ของ fy ทิชชูนะหรือก็เป็นพวกการสะสมพลัง
00:30:36 → 00:30:39 งานของเนื้อเยื่อไขมันต่างๆนะทั้งนอกทั้ง
00:30:39 → 00:30:42 ในอ่ะแหละนะทั้งสับกินกับ visceral Fat
00:30:42 → 00:30:48 นะแล้วก็จะไปมีผลอ่าของตัวกิออ่าของตัว
00:30:48 → 00:30:52 non efi fatty Acid อโดยเฉพาะมีผลกับ
00:30:52 → 00:30:55 ตับกับกล้ามเนื้อก็พวกนี้ก็ดื้อที่จะเป็น
00:30:55 → 00:30:59 ต้องไปใช้พลังงานจากของของพวกเนี้ยนะมัน
00:30:59 → 00:31:03 ก็เลยเกิดภาวะการคั่งค้างนะของพลังงานของ
00:31:03 → 00:31:07 น้ำหนักอะไรต่างๆนะแล้วก็อีกอย่างนึง
00:31:07 → 00:31:13 เนี่ยเกรงว่าจะมีปัญหาเรื่องเซลมานะเอแต่
00:31:13 → 00:31:16 ว่ามันก็ไม่เหมือนคนผู้ชายอ่ะที่เป็นทรง
00:31:16 → 00:31:19 พรุงเครียดนะเพราะว่าคนเเอสโตเจนเด่นนะฮะ
00:31:19 → 00:31:23 เอสโตเจนเด่นเนี่ยมันมันก็มันมันเย็นน่ะ
00:31:23 → 00:31:26 มันเย็นมันไม่ค่อยแอคทีที่จะเปลี่ยนแปลง
00:31:26 → 00:31:29 อะไรมากมายนักนะเหมือนกับไอ้พวกคอร์ติซอล
00:31:29 → 00:31:34 แดนีนะนะเพราะฉะนั้นคนพวกเนี้ยมันเลยแก้
00:31:34 → 00:31:39 ยากหน่อยนะแก้ยากนะเซไนไม่น่าจะเยอะนะ
00:31:39 → 00:31:42 เหมือนกับเคสกรุงเครียดที่เราไลฟ์ไปเมื่อ
00:31:42 → 00:31:44 วันพฤหัสบดีปัญหาอยู่ที่เซลล์กล้ามเนื้อ
00:31:44 → 00:31:47 กับเซลล์ตับคล้ายๆกันนะเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:31:47 → 00:31:49 เพราะฉะนั้นเนี่ยในการแก้ไขเนี่ยก็ต้อง
00:31:49 → 00:31:53 ระวังเรื่องตับนะอ่าแล้วก็ต้องใช้กล้าม
00:31:53 → 00:31:56 เนื้อแบบที่เราไลฟ์ไปนะฮะนะเนี่ยต้อง
00:31:56 → 00:31:59 ระวังอะไรที่จะมาใส่เข้าต่ำนะโดยเฉพาะไข
00:31:59 → 00:32:04 มันซึ่งอ่าพวกไขมันต่างๆที่เป็นช chain
00:32:04 → 00:32:08 medium chain ไม่แนะนนะไม่ว่าจะมาจากเร
00:32:08 → 00:32:11 Food มาจากเนื้อสัตว์หรือมาจากไอ้พวก mct
00:32:11 → 00:32:15 อะไรต่างๆไม่ได้นะแล้วพยายามให้เขาใช้
00:32:15 → 00:32:19 พลังงานในระบบน้ำเหลืองให้เยอะที่สุดนะนะ
00:32:19 → 00:32:23 ให้จบนะฮะในในระบบน้ำเหลืองนะก็ต้องมีการ
00:32:23 → 00:32:28 คำนวณอ่าแล้วก็จะต้องอ่ามีความพอดิบพอดี
00:32:28 → 00:32:30 อะไรต่างๆด้วยไม่เหลือไม่เหลือเพราะถ้า
00:32:30 → 00:32:33 เหลือปุ๊บเนี่ยมันก็จะต้องมาหาทางเข้าที่
00:32:33 → 00:32:35 ตับเพราะว่าตอนนี้ตับมันดื้ออินซูลิน
00:32:35 → 00:32:39 เนี่ยมันก็เข้ายากนะอ่าขณะเดียวกันเห็นม
00:32:39 → 00:32:42 ไอ้ตัวอะไรอ่ะเนื้อเยื่อไขมันนี่แหละมัน
00:32:42 → 00:32:48 ก็ปล่อยเนี่ยเนี่ยฟ่านี่แหละนานิแี้ a นะ
00:32:48 → 00:32:52 ออกมาให้ตลกนะฮะคือปล่อยออกมาปุ๊บเนี่ย
00:32:52 → 00:32:55 กล้ามเนื้อเอามตับเอามกล้ามเนื้อเอามตับ
00:32:55 → 00:32:58 เอามเนี่ยนะแล้วกล้ามเนื้อก็ด้วยอินซูลิน
00:32:58 → 00:33:01 ตับก็ด้วยอินซูลินอก็โดยเฉพาะตับเนี่ยนะ
00:33:02 → 00:33:05 เอ่ออันนี้ก็จะต้องเช่วยกันประกบประหงม
00:33:05 → 00:33:09 ดังิบเพราะฉะนั้นก็เปลี่ยนทิศทางไปพยายาม
00:33:09 → 00:33:12 ใช้กล้ามเนื้อสีแดงสีขาวช่วยนะเพราะ
00:33:12 → 00:33:14 ฉะนั้นอัตราการออกกำลังกายต่อวันต้อง
00:33:14 → 00:33:18 เพิ่มต้องเพิ่มเป็นอย่าเโดยเฉพาะพยายาม
00:33:18 → 00:33:22 ใช้กล้ามเนื้อสีแดงให้เยอะๆนะทั้งวันแหละ
00:33:22 → 00:33:26 นะเหมือนคาร์ดิโอตลอดนะนะ 6,900 อาจจะไม่
00:33:27 → 00:33:30 พอก็เพิ่มเพิ่มนะฮะเพิ่มไม่อยู่นิ่งอ่ะ
00:33:30 → 00:33:32 ไม่อยู่นิ่ง
00:33:32 → 00:33:36 นะส่วนเวทเนี่ยไหวมั้ยล่ะถ้าไม่ไหวก็ก็
00:33:36 → 00:33:39 ได้เท่าที่ไหวสักอาทิตย์ละวัน 2 วันไม่
00:33:39 → 00:33:42 ได้จริงๆก็เอาแต่เรื่องคาร์ดิโอไปก่อนเลย
00:33:42 → 00:33:47 นะนั่นแหละนะเนี่ยทำมัน 7 วันเลยก็ได้นะ
00:33:47 → 00:33:50 ฮะนะก็อย่านิ่งอย่านิ่งแล้วกันเนาะ
00:33:50 → 00:33:54 อันเนี้ยนสำคัญสำคัญก็คือเรื่องของอาหาร
00:33:54 → 00:33:58 ที่จะกินถ้าเกิดจะแนะนำอะไรอ่ะนะฮะนะใน
00:33:58 → 00:34:02 มื้ออาหารเนี่ยจะมี low C very low cf
00:34:02 → 00:34:08 อ่าจะมีีนโปรตีนอ่าอ่าีนโปรตีนได้นะฮะ
00:34:08 → 00:34:11 เป็นคล้ายๆคลีนเนี่ยนะไม่ต้องติดหนังติด
00:34:11 → 00:34:13 มันอะไรก็ได้
00:34:13 → 00:34:17 นะแต่นะพลังงานในรูปของไขมันที่จะพอ
00:34:17 → 00:34:20 สำหรับร่างกายตาม eline Body เทของเขา
00:34:20 → 00:34:25 เนี่ยนะเสูง 162 ใช่มยล่ะนะเนี่ยก็ต้อง
00:34:25 → 00:34:27 เข้าตรงนี้แต่ต้องเป็นรูปแบบน้ำมันสกัด
00:34:27 → 00:34:28 เย็น
00:34:28 → 00:34:32 เป็นพลังงานจากพืชเออแล้วจะได้ใช้ในระบบ
00:34:32 → 00:34:34 น้ำเหลืองไปนะไม่ต้องมายุ่งอะไรอย่าง
00:34:34 → 00:34:40 เงี้ยเอก็กินกินคือจะกินเนื้อสัตว์แบบที่
00:34:40 → 00:34:44 หมออะไวาชินีอะไรแนะนำก็ได้นะฮะแต่ว่า
00:34:44 → 00:34:47 ต้องมีการคำนวณคือต้องต้องความพอดีของ
00:34:47 → 00:34:49 พลังงานและสาร
00:34:49 → 00:34:55 อาหารมันก็จะต้องทำให้ฝ่าฟันไปเรื่อยๆ
00:34:55 → 00:34:58 ต้องกิน ow C High Good Fat นะเป็นพอ
00:34:58 → 00:35:01 เพราะว่าในรูปแบบอื่นก็มองแล้วมันไม่รู้
00:35:02 → 00:35:09 จะจะหาพลังงานมาได้ยังไงถึงจะพอนะแล้วก็
00:35:09 → 00:35:12 มีบางส่วนที่เป็นพวกไขมันอิ่มตัวที่ไปให้
00:35:12 → 00:35:17 ตับไ้นะนะแต่ว่าไม่ต้องไปเหลือนะไม่ต้อง
00:35:17 → 00:35:20 ไปเหลือให้ตับที่จะต้องมีภาระต้องสร้าง
00:35:20 → 00:35:24 ไอ้ออกมาในเบอร์ 5 อะไรอย่างงี้
00:35:24 → 00:35:27 นะคือคืออย่างงี้ต้องปรับสัดส่วนของของ
00:35:27 → 00:35:32 ตัวทีที่เป็นไขมันอิ่มตัวลงมยครับเอ่อก็
00:35:32 → 00:35:35 อย่างน้อยนะต้องมีครึ่งนึงอ่ะนะเพราะว่า
00:35:36 → 00:35:39 เราบอกว่าอิ่มเนี่ย 30% ใช่มั้ย 30% หรือ
00:35:39 → 00:35:41 ประมาณเท่าไหร่
00:35:41 → 00:35:43 27% เพราะฉะนั้นครึ่งนึงเนี่ยครึ่งนึง
00:35:43 → 00:35:47 อ่ะอย่างน้อย 15% น่ะจะต้องมีเอ่อจะต้อง
00:35:47 → 00:35:51 ไม่ไม่ไม่ไม่น้อยกว่าน้อยกว่าครึ่งนึงของ
00:35:51 → 00:35:55 27% ต้องไม่น้อยกว่าเพราะว่าไม่งั้นตับ
00:35:55 → 00:35:57 จะไม่พอใช้เนื่องจากตับเป็นอวัยวัที่ต้อง
00:35:57 → 00:36:01 ใช้ใช้ฟรี fatty Acid เอ้ยฟรีต้องใช้ fy
00:36:01 → 00:36:04 Acid ที่มาจากที่มาจาก Out source ที่
00:36:04 → 00:36:06 ต้องกินเข้าไป
00:36:06 → 00:36:09 ครับแล้วก็ไปเพิ่มในสส่วนของฟ่าแทนใช่
00:36:09 → 00:36:12 มั้ยครับใช่เพื่อจะให้ระบบน้ำเหลืองเนี่ย
00:36:12 → 00:36:16 มันอาบอิ่มไปทั่วเลยนะในการเป็นพลัง
00:36:16 → 00:36:20 งานะนั้นเวลาเจะไปคาดีโอเจะไปออกแรงออก
00:36:20 → 00:36:23 กำลังเจะอยู่ไม่สุกอะไรก็ตามเนี่ยเขาจะ
00:36:23 → 00:36:26 ได้ใช้ระบบน้ำเหลืองนี่แหละนะที่จะแพร
00:36:26 → 00:36:28 พลังงานให้
00:36:28 → 00:36:32 เซลล์ไม่ต้องมาผลักดันออกจากตับๆมันก็จะ
00:36:32 → 00:36:35 ทำงานหนักนะยังไงก็ไปตรวจอินซูลินไปตรวจ
00:36:36 → 00:36:41 อิอก็ได้นะไปตรวจการทำงานตับุงไปนะหรือจะ
00:36:41 → 00:36:45 ไปตรวจการอักเสบด้วยก็ดีนะ hsrp อ่ะนะ
00:36:45 → 00:36:47 วิตามินดีตรวจหยังเนี่ยอ้วนๆอย่างเงี้ย
00:36:47 → 00:36:51 ไม่รอดหรอกวิตามินดีต่ำเออครับหลายอย่าง
00:36:51 → 00:36:55 เลยอ่ะที่เป็นแลบที่แนะนำแหละนะมาตรวจแบบ
00:36:55 → 00:36:59 นิดๆหน่อยๆแล้วก็มาโพสต์ถามอย่างเงี้ยแ
00:36:59 → 00:37:01 อยากจะไปแบบ
00:37:01 → 00:37:06 อืไม่งั้นมันก็จะพายอะไรกัน
00:37:06 → 00:37:10 ยากอันนี้ก็ไม่มีอะไรแล้ว
00:37:10 → 00:37:13 ก็ออกกำลังกายก็เนี่ยพยายามใช้กล้ามเนื้อ
00:37:13 → 00:37:17 สีแดงเพราะมันจะได้เอาไขมันปดไขมันอิสระ
00:37:17 → 00:37:22 นั่นแหละนะไปใช้ได้
00:37:22 → 00:37:26 ตลอดอันนี้มันใช้ได้ทั้งตับนะกล้ามเนื้อ
00:37:26 → 00:37:28 สีแดงตับก็ใช้ด้วย
00:37:28 → 00:37:32 ด้วยแต่ถามว่าตับเนี่ยมันชอบใช้ไอ้พวก
00:37:32 → 00:37:36 อะไร nefa น่ะนะ non asif fatty Acid
00:37:36 → 00:37:39 ที่เนื้อเยื่อไขมันมันส่งมามั้มันก็ไม่
00:37:39 → 00:37:40 ชอบ
00:37:40 → 00:37:45 หรอกเพราะว่าเนื้อเยื่อไขมันที่ส่งที่คือ
00:37:45 → 00:37:48 คือไอ้พวก PR fatty Acid หรือไิรที่มา
00:37:48 → 00:37:50 ทางเนี้ยมันเป็น non eif ไม่มี
00:37:51 → 00:37:55 คอเลสเตอรอลมันไม่มีคอเลสเตอรอลนะนะเพราะ
00:37:55 → 00:37:57 ฉะนั้นเนี่ยการไม่มีคอเลสเตอรอลเนี่ยมัน
00:37:57 → 00:37:59 เหมือนเป็นสารอาหารหรือพลังงานที่ไม่
00:37:59 → 00:38:04 สมบูรณ์แบบนะเหตุที่เคยถามว่าแล้ว
00:38:04 → 00:38:07 คอเลสเตอรอลที่กินกับที่ร่างกายสลายออกมา
00:38:07 → 00:38:10 เนี่ยนะร่างกายก็อยากได้คอเลสเตอรอลอัน
00:38:10 → 00:38:13 ไหนนะเอยากได้คอเลสเตอรอลที่กินเข้าไปนี่
00:38:13 → 00:38:17 แหละแล้วไปกับไขมันอีกตัวแล้วก็มาเข้าตับ
00:38:17 → 00:38:20 ที่ทางเบอร์ 4 ใช่มั้ยล่ะเอยากได้แบบนี้
00:38:20 → 00:38:25 มากกว่าแต่การที่มีการสลายเนี่ยนีฟ่านี
00:38:25 → 00:38:28 ฟ่าอะไรต่างๆเหล่าเนี้ยนะ
00:38:28 → 00:38:32 มันมันไม่มีคอเลสเตอรอลมันไม่มีสารอาหาร
00:38:32 → 00:38:36 นะมันมีแต่พลังงานี fy assd เดี่ยวๆอะไร
00:38:36 → 00:38:40 อย่าเงี้ยนะนะเหมือนตับได้ไปมันก็มันก็
00:38:40 → 00:38:44 ยังไม่ได้ครบน่ะนะมันก็ได้ของเกรดไม่ดี
00:38:44 → 00:38:48 อ่ะนะงั้นตับอยากได้เบอร์ 4 เบอร์ 4 นี่
00:38:48 → 00:38:51 เกรดจะดีกว่าไคโนมาคอนเอมาสงแต่อันนี้เอา
00:38:51 → 00:38:55 บูมินเอามาส่งนะแล้วทั้งหมดเนี่ยก็มาทาง
00:38:55 → 00:38:59 ระบบหลอดเลือดพี่หลอดเลือดแดงที่จะเข้า
00:38:59 → 00:39:03 ตับนะแต่ตับอยากได้เบอร์ 4 มากกว่าเพราะ
00:39:03 → 00:39:06 ว่าเวลาที่ตับเจะต้องใช้พลังงานเป็นแบบแช
00:39:06 → 00:39:10 adap เนี่ยนะมันน่าจะมีสารอาหารด้วยพลัง
00:39:10 → 00:39:12 งานด้วย
00:39:12 → 00:39:16 นะมันถูกใจกว่าเพราะว่ามันเหมือนกับว่า
00:39:16 → 00:39:19 มันไม่มันมันมันเป็นระดับพรีเมี่ยมอ่ะ
00:39:19 → 00:39:25 เป็นสารอาหารระดับ First ค
00:39:25 → 00:39:29 เออการออกกายก็อย่างงั้นแหละนะแต่ถ้า
00:39:29 → 00:39:33 เบื่อก็ต้องมาสลับพวกเวทเอเวทโยคะยืด
00:39:33 → 00:39:35 เหยียดอะไรต่างๆแต่ยังไงคาร์ดิโอเนี่ย
00:39:35 → 00:39:37 ต้องแทบจะตลอด
00:39:37 → 00:39:40 เวลาเพราะว่าตอนเเราต้องใช้บริการของ
00:39:40 → 00:39:44 กล้ามเนื้อช่วยนะถ้าน้ำหนักมากๆอย่าอาหาร
00:39:44 → 00:39:48 ต้องปรับให้เป็นต้องช่วยต่นะแล้วขณะเดียว
00:39:48 → 00:39:52 กันเนี่ยนะเ่อเรามีเเรียกว่า
00:39:52 → 00:39:56 มีมีมีสต๊อกอ่ะหรือว่ามันมีเหมือนมีแหล่ง
00:39:56 → 00:40:00 ผลิตพลังงานเองอ่ะนะที่มันเหลือมากเหลือ
00:40:00 → 00:40:03 มากแล้วเดี๋ยวมันจะเป็นพิษเยอะนะก็ก็ต้อง
00:40:03 → 00:40:06 มาใช้ใช้มันก็เลยต้อง movement ต้องต้อง
00:40:06 → 00:40:10 มี activity ต้องมีการสลายพลังงานเกิด ATP
00:40:10 → 00:40:15 กันอยู่ตลอดนะยกเว้นว่าจะนอนนอนก็นอนนะ
00:40:15 → 00:40:18 แล้วหลังจากนั้นต้องมีการกำหนดเงื่อนไขใน
00:40:18 → 00:40:21 การที่จะต้องเคลื่อนไหว
00:40:21 → 00:40:26 เอือต้องต้องช่วยร่างกายก็อันนี้ในแนวทาง
00:40:26 → 00:40:29 ของอ่า hormonal Reset นี่เกี่ยวกับ
00:40:29 → 00:40:34 เอสโตรเจนเด่นไายมันสะสมช่วงล่างก็พยายาม
00:40:34 → 00:40:39 ทานโปรตีนที่มาจากอาหารทะเลนะพวกนี้มี
00:40:39 → 00:40:43 คอเลสเตอรอลเป็นโปรตีนไขมันต่ำถึงแม้จะ
00:40:43 → 00:40:48 กระตุ้นอินซูลินนะไพโรจนะหรือจะกินไก่ปอด
00:40:48 → 00:40:52 สารกินน่องไก่กินรีนไอ้ที่เป็นอะไรอ่ะไม่
00:40:52 → 00:40:55 ติดหนังไม่ติดมันอะไรเกินไปเหอะนะโปรตีน
00:40:55 → 00:40:59 ไขมันต่ำๆมากีนโปรตีนกินได้แต่อย่าไปเป็น
00:40:59 → 00:41:02 process โปรตีนน่ะไอ้พวกโปรตีนผงจากพืช
00:41:02 → 00:41:05 จากสัตว์หรือเวอะไรอย่างเงี้ก็ไม่แนะนำ
00:41:05 → 00:41:08 แต่เป็นโปรตีนเนื้อขาวเป็นโปรตีนสัตว์น้ำ
00:41:08 → 00:41:11 สัตว์เล็กกินเหอะไม่หมดแหละนะแล้วอย่าง
00:41:11 → 00:41:16 สัตว์ใหญ่่ะครับสัตว์ใหญ่ก็แล้วแต่นะแล้ว
00:41:16 → 00:41:19 แต่นะสัตว์ใหญ่สัตว์เล็กอ่ะได้ทั้งนั้น
00:41:19 → 00:41:22 เพียงแต่ว่าสัตว์ใหญ่ถ้าจะกินนะใหยมาก
00:41:22 → 00:41:26 เพราะว่าการมีไข่มันอิ่มตัวแล้วมีีมีไอ้
00:41:26 → 00:41:28 ตัวนี่แหละมันจะเป็นภาระต่อ
00:41:29 → 00:41:31 ับมันเป็นภาระต่อ
00:41:31 → 00:41:35 ับคือใตัวมันก็เข้าทางระบบน้ำเหลืองอ่ะนะ
00:41:35 → 00:41:40 แต่มันมี 46 เยอะเมันก็ตับมันก็อาจจะไม่
00:41:40 → 00:41:43 ค่อยมันเหนื่อยอ่ะมันเหนื่อยที่มันมัน
00:41:43 → 00:41:45 โอ้โหมันสายยาวมันหนักมันหน่วงมันเหนื่อย
00:41:45 → 00:41:50 อ่ะที่จะเบลิเบอลอะไรอย่างเงี้ยนะเอาแบบ
00:41:50 → 00:41:53 พวกนี้แหละพอนะแล้วไม่ต้องใส่ไขมันไปเยอะ
00:41:53 → 00:41:56 นักนะต้องคล้ายๆคีนน่ะคีนหรือลีนโปรตีน
00:41:56 → 00:41:59 อะไรอย่างเงี้ยนะกินได้ไม่ต้องไปกลัว
00:41:59 → 00:42:02 อินซูลินมีอินซูลินมาก็อินซูลินเไม่ทำ
00:42:02 → 00:42:06 อะไรนักหรอกนะเพราะว่าเอสโตรเจนเเด่นเออ
00:42:06 → 00:42:12 เอสโตรเจนมันเด่นซะจนแบบโอ้โหนะมันกลบนะเ
00:42:12 → 00:42:15 ตัวพ่อไปเลยแล้วทีนี้ตัวกระตุ้นเอสโตรเจน
00:42:15 → 00:42:19 ที่สำคัญก็คือนี่แหละนะก็คือพวกน้ำตาลแปร
00:42:19 → 00:42:23 รูกน้ำตาลแฝงต่างๆนะคือผู้หญิงมันชอบกิน
00:42:23 → 00:42:27 จุ๊กจิ๊กอ่ะแต่ถ้าแต่ผู้หญิงสายนี้นะเป็น
00:42:27 → 00:42:30 สายเนื้อเนี่ยเาก็ไม่ชอบนะเก็จะบอกเลย
00:42:30 → 00:42:32 เห็นมเบอกเไม่กินหวานแปรรูปไม่กินอะไร
00:42:32 → 00:42:36 ต่างๆแต่ที่เรากลัวเนี่ยก็คือกลัวเขาจะ
00:42:36 → 00:42:39 กินไอ้พวก Daily produc นี่เพราะว่าสาย
00:42:39 → 00:42:41 เอสโตรเจนเด่นที่มันเป็นอย่างงนี้เนี่ย
00:42:41 → 00:42:46 มันจะถูกใจถูกใจนะแล้วมันจะโหยหาในการกิน
00:42:46 → 00:42:51 ชีสเนยนมโยเกิร์ตอะไรอย่างเงี้ยก็คือ Milk
00:42:51 → 00:42:54 produc อ่าต่างๆเหล่าเนี้ย process Milk
00:42:54 → 00:42:57 เนี่ยนะมันจะอยู่ในหัวเตลอดเวลาเถึงได้
00:42:57 → 00:43:02 ลึ้มฮึมนะแบบที่คุณหมอตรวจเช็คอัพไอ้ที่
00:43:02 → 00:43:06 เขาต่ออะไรนะที่เขามาสอนโรงเรียนนานาชาติ
00:43:06 → 00:43:10 อยู่แถวๆตลาดวงศกรน่ะโรงเรียนใหญ่เลยนะก็
00:43:10 → 00:43:13 มีแต่อเมริกันนิโปมีแต่พวกแอฟริกันอะไร
00:43:13 → 00:43:16 ต่างๆแล้วก็พวกฟิลิปปินส์เเยอะแยะไปหมด
00:43:16 → 00:43:20 เนี่ยคนพวกผู้หญิงอ่ะ
00:43:20 → 00:43:23 นะแอฟริกันนโกอะไรต่างๆเนี่ยนะพวกนี้ก็จะ
00:43:23 → 00:43:26 เป็นทรงเอสโตรเจนไยหมดเลยถามไปเลยรายไหน
00:43:26 → 00:43:30 รายนั้นเนี่ยชอบมากชีสเนยยแต่มันไปกินไอ
00:43:30 → 00:43:35 พวกโสพวกโสอ่าบัตเตอร์อะไรต่างๆเหล่าเย
00:43:35 → 00:43:38 ที่มันมีมันถูกๆนะเมันก็มีน้ำมันพืชมี
00:43:38 → 00:43:42 อะไรต่างๆเข้าไปมีไขมันทานเยอะเนี่ยพวก
00:43:42 → 00:43:46 นี้มันกระตุ้นเอสโตรเจนนะเนี่ยเพราะ
00:43:46 → 00:43:49 ฉะนั้นลายการนมน้ำเต้าหู้นะชีสเนย Daily
00:43:50 → 00:43:53 produc นะตัดให้หมดนะไม่ได้นะเพราะว่าใน
00:43:53 → 00:43:57 ถั่วเหลืองก็มีเอสโตรเจนไฟโตเอสโตรเจน
00:43:57 → 00:44:00 แล้วก็พวกแอลกอฮอล์นี่ไม่ได้นะแอลกอฮอล
00:44:00 → 00:44:05 นี่นะกระตุ้นเอสโตรเจนในผู้หญิงเยอะมากนะ
00:44:05 → 00:44:09 เออเพราะฉะนั้นเนี่ย ess คฟนะโดยเฉพาะ
00:44:09 → 00:44:13 Ultra ess แล้วก็ ess Mu เอ process
00:44:13 → 00:44:16 Daily product อะไรต่างๆต้องระวังสุดๆ
00:44:16 → 00:44:20 เลยกับไอ้พวกเอสโตรเจนนะเพราะว่าช่วงล่าง
00:44:21 → 00:44:25 มันใหญ่บึ้มึมนะส่วนใหญ่มันจะเป็นเรื่อง
00:44:25 → 00:44:30 ของไอ้พวกไอ้พวกโสที่เป็นโปรตีนไขมันสูง
00:44:30 → 00:44:31 นี่
00:44:31 → 00:44:37 แหละแต่ว่ามันจะเป็นพวก Ultra ess จะ
00:44:37 → 00:44:40 เยอะเพราะฉะนั้นถามว่าเอสโตรเจนเด่นเนี่ย
00:44:40 → 00:44:44 ในแง่ของการกินเนี่ยปัญหาใหญ่เลยคือนมนม
00:44:44 → 00:44:46 นะต้องเรียนรู้เรื่องนมต้องเข้าใจเรื่อง
00:44:46 → 00:44:48 นมเยอะ
00:44:48 → 00:44:52 ๆแล้วก็นมเอามาแปรรูปทำโน่นทำนี่อะไรอย่า
00:44:52 → 00:44:55 เงี้ยจริงๆนะเคยถามก็เลยนะว่าถ้าตัดไม่
00:44:55 → 00:44:57 ให้กินนมและผลิตภัณฑ์จากนมเนี่ยอยู่ไหว
00:44:57 → 00:45:01 มั้ยก็บอกอยู่ไม่ได้คือมันเหมือนคือพวก
00:45:01 → 00:45:03 นี้บางทีก็ไม่ได้โหยหายอยากจะกินข้าวกิน
00:45:03 → 00:45:06 ก๋วยเตี๋ยวอะไรนะเหมือนคนเอเชียคนจีนคน
00:45:06 → 00:45:10 อะไรนะนะแต่เขาก็จะกินเป็นอะไรขนมปงขมปัง
00:45:10 → 00:45:14 เป็นเซเว่นน่ะนะอ่าแล้วก็เป็นนี้ต้องมีมี
00:45:14 → 00:45:19 ชีสมีเนยมีเนี่ยมีนมนมนี่น่าจะสั่งเป็น
00:45:19 → 00:45:20 แกลอน
00:45:20 → 00:45:22 เอ
00:45:22 → 00:45:26 เอต้องระวังนะเพราะงั้นเคสเนี้ยไรลองกลับ
00:45:26 → 00:45:29 ไปถามเซิว่าอาหารจริงๆแล้วเนี่ยตั้งแต่
00:45:29 → 00:45:32 ช่วงที่อ้วนๆมาเนี่ยนะคือเขาอ่ะเป็นคน
00:45:32 → 00:45:35 เอสโตรเจนเด่นก็น่าจะไม่ไม่ไม่หนีห่างจาก
00:45:35 → 00:45:38 การกินพวก Daily produc มากมายแล้วหรอก
00:45:38 → 00:45:41 มันจะถูกปากจุกใจถูกคอเทนี้คนที่กินพวก
00:45:41 → 00:45:45 เนี้ยมันก็ไม่นึกไงว่าโอ๊ยไม่ดืยเอออุ๊ย
00:45:45 → 00:45:48 ไม่ใช่กินน้ำตาลกินหวานนี่กินนมนมเป็น
00:45:48 → 00:45:51 โปรตีนเป็นโปรตีนไขมันสูงไขมันเ่อค่อน
00:45:51 → 00:45:55 ข้างเยอะด้วยแหละนะนะเพราะฉะนั้นเนี่ยเ่อ
00:45:55 → 00:45:58 ไม่กระตุ้นอินซูลินหรอกกินเหอะกินเหอะนะ
00:45:58 → 00:46:01 แต่ที่ไหนได้อ่ะมันเป็นกระตุ้นเอสโตรเจน
00:46:01 → 00:46:04 นะแล้วอินซูลินเอสโตรเจนเนี่ยมันเป็น
00:46:04 → 00:46:07 ฮอร์โมนสัสมพลังงานไงนะเพราะฉะนั้นพวกนี้
00:46:07 → 00:46:10 เนี่ยอินซูลินไม่เด่นน้ำหนักตั้ง 100 จะ
00:46:10 → 00:46:13 200 ไม่เป็นเบาหวานสักกทีนะแต่เอสโตรเจน
00:46:13 → 00:46:17 มันเด่นนี่ง่านะนะแต่เดี๋ยวเหอะมันจะไป
00:46:17 → 00:46:21 เป็นยิ่งกว่านั้นพวกเนื้องอกถุงน้ำก้อนนะ
00:46:21 → 00:46:25 โดยเฉพาะระบบเจริญพันุ์น่ะหรือไม่เนี่ยนะ
00:46:25 → 00:46:30 ก็เป็นสิวเป็นไรโป่านะเป็นพวกชีย SE
00:46:30 → 00:46:33 เนี่ยนะต่อมไขมันที่มันแปลกประหลาดแบ่ง
00:46:33 → 00:46:37 ตัวเยอะแยะแล้วก็แล้วก็กลายเป็นอะไรอ่ะ
00:46:38 → 00:46:42 เป็นนี่แหละไขมันสะสมเยอะแยะไปหมดนะตามเ
00:46:42 → 00:46:45 เรียกว่าตามรตรที่มันที่มันตอบสนองโดย
00:46:45 → 00:46:48 เฉพาะแถวบริเวณช่วงล่างร่างกายเเรียก
00:46:48 → 00:46:51 เอเจน
00:46:51 → 00:46:55 เดอันนี้ก็อันนี้ก็ไม่มีอะไรเลยแหละนะ
00:46:55 → 00:46:59 เพราะว่าแก้ไขอะไรตๆเนี่ยไว้ก็เคยบอกไป
00:46:59 → 00:47:03 แล้วเรื่องสารอะไรอ่าดิมนะ
00:47:03 → 00:47:04 ไดิ
00:47:05 → 00:47:08 มีนนะแล้วก็ต้องเน้นการสร้างโปรเจสเตอโรน
00:47:08 → 00:47:13 มา Counter แหรือมา Balance นะฮะเนี่ยมา
00:47:13 → 00:47:21 Balance ล้านกันในสัดส่วนสกิต่อ
00:47:21 → 00:47:26 เตนนี้เราไม่ได้รายละเอียดเกี่ยวกับอาหาร
00:47:26 → 00:47:30 เเนาะก่อนหน้าที่จะมีลักษณะอย่างเงี้ยเ
00:47:30 → 00:47:35 กินอยู่ยังไงมาแล้วก็รูปร่างเป็นทรงไหน
00:47:35 → 00:47:40 เราต้องมีประวัติเพิ่มก็หมดแล้ว่ะฮะ
00:47:40 → 00:47:44 ครับมีมีข้อสงสัยเลย
00:47:44 → 00:47:47 มั้ยคือไม่รู้นะมันไม่รู้อ่ะพอมันเห็น
00:47:47 → 00:47:51 แล้วมันผุดขึ้นมาเลยอ่ะว่าเฮ้ยน่าสนใจ
00:47:51 → 00:47:55 โอ้โหได้เคสแล้วได้เคสแล้วอะไรอย่างเงี้ย
00:47:55 → 00:47:59 ก็เลยรู้สึกว่าเออมาทำทำอะไรไปเออเราก็
00:47:59 → 00:48:02 เลยทักไปอ่ะว่าใครอยากจะรู้บ้าง
00:48:02 → 00:48:07 เออนี้เป็นตัวอย่างเเนเดเอ้ออยู่ดีๆมันก็
00:48:07 → 00:48:11 มีมาไม่ค่อยมีไม่ค่อยเจอใช่มั้แล้วอ้าว
00:48:11 → 00:48:14 แล้วอย่างอหมอถามไพโรล่ะไพโรไม่สงสัยเหรอ
00:48:14 → 00:48:17 ว่าเน้ำหนักอย่างเงี้ยทำไมดูแล้วอินซูลิน
00:48:17 → 00:48:21 หรือน้ำตรงน้ำตาลอะไรเยังมันน่าจะเยอะมาก
00:48:21 → 00:48:24 มายกว่านี้มเนอะมันแปลกๆป่ะล่ะเค้าก็ไม่
00:48:24 → 00:48:28 ได้บอกนะว่าเ้าเป็นเอพอดีผมไม่ได้ดู
00:48:28 → 00:48:32 เลยหมอเขไปอ่าน 70 คอมเมนต์เนี่ยแต่ตอน
00:48:32 → 00:48:35 นี้น่าจะกว่าแล้วนะเขาก็บอกว่าเเป็นเนี่ย
00:48:35 → 00:48:37 แค่ไอยเป็นพีกับความดันแต่น้ำหนักเขาก็
00:48:37 → 00:48:40 แต่น้ำหนักแรกๆที่มันเกิน 100 ขึ้นมา
00:48:40 → 00:48:43 เนี่ยมันเกิดจากอะไรเราก็ไม่ได้ไม่ได้ไป
00:48:43 → 00:48:45 โพสต์อะไรถามหรอกเพียงแต่ว่าเรามาแอป
00:48:45 → 00:48:48 โพสต์ใน 2 ตารางเนี่ยเราจะดูค่าแลบเนี่ย
00:48:48 → 00:48:53 เอ๊พอดูไปแล้วอุ๊ยเอไม่เห็นมีอะไรเลยนะ
00:48:53 → 00:48:56 เออแล้วก็ไอ้ยาไทรรอยยาความดันเนี่ยมันก็
00:48:56 → 00:48:59 ไม่ง่ายจะไปเปลี่ยนอะไรปิดโปรไฟล์อะไร
00:48:59 → 00:49:05 มากอคือให้รอยก็ปกติแล้วยังควรกินต่อมั้ย
00:49:05 → 00:49:09 ครับญาตให้รอยครับอ๋อถ้าความเห็นนะไม่ไม่
00:49:09 → 00:49:13 กินฮะคือคุณต้องปรับเอสโตรเจนลงมานะคุณ
00:49:13 → 00:49:16 ถ้าคุณยังไม่ปรับเอสโตรเจนให้ดีเนี่ย
00:49:16 → 00:49:18 เพราะไม่เข้าใจอะไรอย่างเงี้ยนะเดี๋ยว
00:49:18 → 00:49:21 ไทรรอยด์มันก็จะมามาๆไปๆอ่ะ
00:49:21 → 00:49:27 เออมันก็จะวูบๆวาบๆนี่แหละอ่าครับเออคุ
00:49:27 → 00:49:33 คือยังไงอ่ะร่างกายมีพลังงาน
00:49:33 → 00:49:53 เยอะอันนี้ยังคครับหกลุ่มกลุ่มอาหารที่
00:49:53 → 00:49:54 [เพลง]
00:49:54 → 00:49:59 ยังที่งไอยครับครับเิดครับ
00:49:59 → 00:50:02 ผมไม่ค่อยได้ยินเลยแต่เดี๋ยวเราจะพูด
00:50:02 → 00:50:04 เรื่องไทรรอยด์อาทิตย์หน้า
00:50:04 → 00:50:07 นะอาทิตย์หน้าเนี้ยเราจะพูดเรื่อง
00:50:08 → 00:50:10 ไทรรอยด์แบบสนุก
00:50:10 → 00:50:14 ๆมันมีเคสของคนชื่อโอตนั่นแหละครับๆ
00:50:14 → 00:50:18 เออเราเราจะคุยกันเรื่องไทรอยด์โดยเฉพาะ
00:50:18 → 00:50:21 เรื่องอาหารนี่
00:50:21 → 00:50:25 แหละแต่คนเนี้ยเราก็ตอบไปกว้างๆก่อนก็ได้
00:50:25 → 00:50:28 ไปโลดนะว่าเราก็สงสารเขอยู่เพราะว่าเข
00:50:28 → 00:50:31 อ้วนระดับ 3 แค่อ้วนระดับ 1 นี่ก็เหนื่อย
00:50:31 → 00:50:34 ตายแล้วอ่ะเออเออยัง
00:50:34 → 00:50:48 ไงต้องหาทางช่วยเหลือเในแง่
00:50:48 → 00:50:54 ของสุทัศน์ได้ยินมยเราไม่ได้ยินผมได้ยิน
00:50:54 → 00:51:00 พี่หมอชัดแต่ว่าของพี่ไพโรจเสียงขาดๆหายๆ
00:51:00 → 00:51:06 เสีย
00:51:06 → 00:51:12 เสียไม่ได้
00:51:12 → 00:51:16 ยินเอ๊ะคนนี้เขาเป็นไไฮเปอร์เหรอครับ
00:51:16 → 00:51:19 ไฮเปอร์ไทรรอยด์เหรอครับสคลินิคอลเหครับ
00:51:19 → 00:51:22 ใชใช่เป็นัพ clinical Hyper ไทรอยคือ
00:51:22 → 00:51:27 ไทรอยเนี่ยมันมี 6 เลเวลนะต่ำสุดกสูงสุด
00:51:27 → 00:51:30 คือทำงานต่ำกับทำงานสูงถ้าทำงานต่ำเนี่ย
00:51:30 → 00:51:32 เราเรียกว่าโรคไฮโปไทรอยด์
00:51:32 → 00:51:37 โรคไฮโปไทรอยด์มาอ่าแล้วเหนือกว่าโรค
00:51:37 → 00:51:39 ไฮโปไทรอยด์คือทำงานดีขึ้นมาหน่อยนึงเขก็
00:51:39 → 00:51:42 เรียกว่าสับ clinical ไฮโปไทรอยด์ซึ่งเรา
00:51:42 → 00:51:47 จะเจอเยอะในคนที่กินโลคาับที่เขไฮโปออคน
00:51:47 → 00:51:50 เนี้ยเป็นไฮเปอร์ใช่มั้ยฮะคือทำงานมากเออ
00:51:50 → 00:51:55 แล้วมันจะมี U ไทรรอยแล้วก็ Normal
00:51:55 → 00:51:59 ไทรรอยแล้วก็มาสับที่นิอไฮเปอร์ไทรอยคือ
00:51:59 → 00:52:04 ไปทผมผมสงสัยว่าเอ๊ะมันไฮเปอร์ทำไมเ้าถึง
00:52:04 → 00:52:06 อ้วนนะครับพบอก
00:52:06 → 00:52:09 อ๋อเพราะว่าความอ้วนเค้าไม่ได้อ้วนจาก
00:52:09 → 00:52:10 ดื้ออินซูลิน
00:52:10 → 00:52:14 ครับคืออาจจะมีดื้ออินซูลินแจมอยู่แต่ไม่
00:52:14 → 00:52:19 ได้เด่นมากนะแต่เขคอ้วนจากเอสโตรเจนเด่น
00:52:19 → 00:52:24 เค้าอ้วนจากภาวะเอสโตรเจนเด่น
00:52:24 → 00:52:28 อ๋อึฮอร์โมนฝั่งสะสมพลังงานมันก็จะมี
00:52:29 → 00:52:31 อินซูลินคอร์ติซอล
00:52:31 → 00:52:36 เอสโตรเจนคนนี้แหละนะชัดชัดเลยนะไม่ค่อย
00:52:36 → 00:52:38 ไม่ค่อยเจอนะเคสแบบเนี้ยเราไม่ค่อยเจอไง
00:52:39 → 00:52:43 ถึงได้ต้องรีบไลฟไงว่านี่แหละนะเจอแล้ว
00:52:43 → 00:52:45 แล้วมันเจอต่อเนื่องกับเพชรพรุงเครียดพอ
00:52:45 → 00:52:49 ดีไงอ่าครับวันพฤหัสบดีเราพูดพรุงเครียด
00:52:49 → 00:52:54 ไปใช่มั้ผู้ชาย 100 130 ก 135 กแล้วตอน
00:52:54 → 00:52:56 นี้ลงมาเหลือ 95 96
00:52:56 → 00:53:01 แต่วันเนี้ยเรามาเจอเคสผู้หญิง 187 ก
00:53:01 → 00:53:06 เนี่ยนะแล้วตอนนี้ลงมามา 37 กลเหลือ
00:53:06 → 00:53:12 150 ครับเออทีนี้เหตุของเา้าเนี่ยคือคือ
00:53:12 → 00:53:15 ผลของเอสโตรเจนเเรียกเอสโตรเจนเดดไม่ได้
00:53:15 → 00:53:17 เป็นผลอินซูลินคอร์ติซอล
00:53:17 → 00:53:21 อ๋อครับผมเพราะฉะนั้นสุทัศน์จะเห็นว่า
00:53:21 → 00:53:25 เอสโตรเจนเนี่ยมันทำให้คนเนี่ยเหมือน
00:53:25 → 00:53:28 เหมือนพองเป็นอึกอ่างอ่ะได้มากกว่า
00:53:28 → 00:53:31 อินซูลินมยอ่ะน่ากลัวมากเอ้อเพะอ้าแล้ว
00:53:31 → 00:53:34 อย่างงี้ที่ไปรักษาไทรอยด์อ่ะอะไรอย่า
00:53:34 → 00:53:38 เงี้ยเนี่ยครับครับไอ้ก้อนไอ้ซีอะไรต่างๆ
00:53:38 → 00:53:40 ที่เป็นอิทธิพลเอสโตรเจนเหรือแม้แต่นิ้ว
00:53:41 → 00:53:43 เนอะไรต่างๆเนี่ยพวกนี้เนี่ยคือฮอร์โมน
00:53:43 → 00:53:47 เอสโตรเจนหมดเลยอ๋อครับที่มีผลเอมันเป็น
00:53:47 → 00:53:51 ส่วนเกินที่ลึ้มึมเพราะฉะนั้นเวลามันจะ
00:53:51 → 00:53:54 ใหญ่มันก็ใหญ่ซะจนแบบเน้ำหนักตั้งรเท่า
00:53:54 → 00:53:57 ไหร่แล้วอย่างงี้คือไปรักสาไทรอยด์มันก็
00:53:57 → 00:53:59 เหมือนไปผิดทางหรือปป่ามันไปผิดทางฮะ
00:53:59 → 00:54:02 เพราะว่าอะไรเวลาเอสโตรเจนเด่นเนี่ยกับ
00:54:02 → 00:54:06 อินซูลินเนี่ยอินซูลินเนี่ยเวลาอินซูลิน
00:54:06 → 00:54:10 มันมันไฮเปอร์อินซูลินเนี่ยมันจะไปถึงจุด
00:54:10 → 00:54:13 นึงที่มันจะเกิดการดื้อของเซลล์แต่ถ้า
00:54:13 → 00:54:15 เป็นเอสโตรเจนเด่นเนี่ยเอสโตรเจนเค้าก็
00:54:15 → 00:54:18 สะสมพลังงานสะสมสารอาหารเหมือนกับ
00:54:18 → 00:54:21 อินซูลินนี่แหละแต่เซลล์เนี่ยเซลล์เนี่ย
00:54:21 → 00:54:24 มันไม่มีภาวะดื้อฮอร์โมน
00:54:24 → 00:54:27 เอสโตรเจนนะ
00:54:27 → 00:54:32 เพราะฉะนั้นเนี่ยเอสโตรเจนมันเลยมีผลที่
00:54:32 → 00:54:34 ค่อนข้างร้ายแรงอ่ะในการที่จะทำให้เรา
00:54:34 → 00:54:37 ใหญ่โตหรือเพิ่มปริมาตรเพิ่มมวลเพิ่มอะไร
00:54:37 → 00:54:40 ทุกอย่างอ๋อมันมันถึงสามารถทำให้เกิด
00:54:40 → 00:54:42 เนื้องอกพวกซีดพวกอะไรพวกนี้ใหญ่โตได้ไม่
00:54:42 → 00:54:45 จำกัดใช่มั้ยพี่หมอใช่นะไม่เหมือน
00:54:45 → 00:54:48 อินซูลินอินซูลินมันจะแบบถึงจุดนึงเซลล์
00:54:48 → 00:54:50 มันจะดื้อได้แต่ว่าถ้าเอสโตรเจนมันดื้อ
00:54:50 → 00:54:54 ไม่ได้เกไงเอออ๋อครับคุณหมอแล้วอย่าง
00:54:54 → 00:54:57 เงี้ยคุณหมอดูจากค่าแลบดูจากตรงไหนได้
00:54:57 → 00:55:00 บ้างอ่ะครับที่ที่ว่ามันเป็นเอสโตรเจน
00:55:00 → 00:55:02 เนี่ยหรือว่าดูจากอะไรเราไม่ได้ดูจากอะไร
00:55:02 → 00:55:05 หรอกฮะเราใช้ประสบการณ์ของเราแล้วเราก็ดู
00:55:05 → 00:55:09 จากจากเหตุจากผลเนี่ยว่าโอ้โหมึง 187
00:55:09 → 00:55:11 แล้วยังไม่เห็นบ่นเลยว่าเป็นเบาหวานน่ะ
00:55:12 → 00:55:15 ไหนล่ะเป็นเบาหวงเบาหวานไหนล่ะไขมันไตกี
00:55:15 → 00:55:18 สไลน์มันจะขึ้นเป็นพันหรือว่าไอ้ตัวอะไร
00:55:18 → 00:55:21 ปิดโปรไฟล์มันจะขึ้นเป็นเยอะแยะอะไรต่างๆ
00:55:21 → 00:55:24 หรือว่า hdl มันจะต่ำเสี้ยเลี่ยดิน 20
00:55:24 → 00:55:28 กว่า 10 กว่ามันก็ไม่ใช่อ่ะนะเห็นมั้เ
00:55:28 → 00:55:30 ใหญ่โตมโหฬารแบบเนี้ยนะมันไม่ได้ใหญ่ไม่
00:55:30 → 00:55:33 ได้มีอิทพลของอินซูลินเลยเพราะงั้นถ้าไม่
00:55:33 → 00:55:36 ใช่อินซูลินก็ผู้หญิงมันก็เอสโตรเจนนี่
00:55:36 → 00:55:38 แหละคอร์ติซอลมันก็ไม่ได้ทำอะไรให้เป็น
00:55:38 → 00:55:43 อย่างงี้ฮะนะอืที่พี่หมอบอกว่าค่าแลป
00:55:43 → 00:55:45 เนี่ยมันมันแบบลูกผีลูกคนใช่มั้ยมันไม่
00:55:46 → 00:55:48 แค่ว่าจะดีก็ก็ดีหรือว่าจะเลวก็เลวไปเลย
00:55:49 → 00:55:53 อะไรอย่าเงี้ยก็ใช่นะอืเพราะก็ทำงานเป็น
00:55:53 → 00:55:59 ทีมไงอือืแล้วทำไมอ่ะทำไมอี 60 70
00:55:59 → 00:56:02 คอมเมนต์นั่นน่ะเค้าไม่รู้เรื่องล่ะเ้า
00:56:02 → 00:56:05 ไม่เข้าใจอ่ะไอ้ที่เโพดพูดเ่อโพสต์ออกมา
00:56:06 → 00:56:09 มันคือเไม่รู้ไงเไม่รู้เรื่องเอสโตรเจน
00:56:09 → 00:56:11 เด่นเอสโตรเจนอินซูลีนฝั่งสะสมพลังงาน
00:56:11 → 00:56:15 แล้วก็มีผลอย่างงั้นอย่างงี้เผมยังไม่รู้
00:56:15 → 00:56:19 เลยเป็นธรรมดาที่ไม่รู้ก็เลยอยากให้รู้
00:56:19 → 00:56:24 อยากจะคุยไงพี่ไพรสถามครับพี่ไพรสถามว่า
00:56:24 → 00:56:27 สารอาหารที่บำรุงไทลอยยังคงต้องทานอยู่ม
00:56:27 → 00:56:31 ครับเช่นพวกเซเลเนียมสังกสีไอโอดีนนะครับ
00:56:31 → 00:56:36 ต้องทานและโอเมก้า 3 นะฮะนะเ่อตัวสำคัญ
00:56:36 → 00:56:39 อันดับ 1 เลยของคนพวกนี้นะของคนที่เป็น
00:56:39 → 00:56:41 เอสโตเจนเด่นเที่จะมีปัญหาคือเซเลเนียมนะ
00:56:41 → 00:56:45 ฮะเซเลเนียมนะแต่เซเลเนียมให้เยอะๆไม่ได้
00:56:45 → 00:56:50 นะเซเลเนียมเป็นพิษนะนะก็ต้องให้ในขนาด
00:56:50 → 00:56:53 นี่แหละนะนะในขนาด
00:56:53 → 00:56:58 1-200 นะนะก็ก็คือกินเป็นถั่วบาซิลัส
00:56:58 → 00:57:02 เนี่ยวันละ 1-2 เมดนะเซเลเนียมเดี๋ยวมี
00:57:03 → 00:57:05 แหล่งอาหารให้เดี๋ยวอาทิตย์หน้าก็รู้นะฮะ
00:57:05 → 00:57:09 1 เซเลเนียมนะ 2 ไอโอดีนไอโอดีนก็ต้อง
00:57:09 → 00:57:12 กินจากพวกที่อยู่ในน้ำแล้วพืชจะดีกว่า
00:57:12 → 00:57:15 สัตว์พืชจะดีกว่าสัตว์โดยเฉพาะสาหร่ายสี
00:57:15 → 00:57:19 น้ำตาลอันที่ 3 ต้องมีสังกสีสังกสีก็อยู่
00:57:20 → 00:57:24 ในน้ำพวกหอยนะโดยเฉพาะกลุ่มหอยต่างๆนะต่อ
00:57:24 → 00:57:29 มาเอ่อโอเมก้า 3 โอเมก้า 3 ต้องมีนะฮะ
00:57:29 → 00:57:32 แหล่งโอเมก้า 3 ก็คือไข่แดงนะฮะแล้วคนๆ
00:57:32 → 00:57:35 เนี้ยจะต้องไปสร้างโปรเจสเตอโรนที่จะไป
00:57:35 → 00:57:38 บาลานซ์กับเอสโตรเจนแล้วตัวหลักเลยในการ
00:57:38 → 00:57:41 สร้างโปรเจสเตอโรนคือไข่แดงเพรางั้นต้อง
00:57:41 → 00:57:43 กินไข่แดงต่างๆหรือไข่ทั้ฟองเนี่ยทั้ง
00:57:43 → 00:57:46 มื้อแรกและมื้อ
00:57:46 → 00:57:50 เย็นแล้วก็วิตามินดีวิตามินดอกเนี่ยนะไป
00:57:50 → 00:57:54 ตรวจซะด้วยอ่าเตรวจเลือดตรวจแลบอะไรตรวจ
00:57:54 → 00:57:57 ให้มันครบๆนะเพราะเราใหญ่โตโราณปานนี้นะ
00:57:57 → 00:58:00 ยังจะใจเย็นอยู่ผมก็อาจจะไม่รู้ว่าโทษเ้า
00:58:00 → 00:58:05 ก็ไม่ได้แต่ไอ้หมอที่ดูนี่อยากจะจิก
00:58:05 → 00:58:10 หัวจะเกินไปมยโอ้เจะเจะรู้ว่ามันเป็น
00:58:10 → 00:58:13 เอสโตรเจนรึเปล่าเนี่ยพี่ไพโรลองพูดสิ
00:58:13 → 00:58:15 ครับลองลลอง
00:58:15 → 00:58:21 ถามเดี๋ยวลองอีกชินึงอครับของว่าเคครับเ
00:58:21 → 00:58:24 ก็มีเป็นบาหวาแล้วก็เป็นคนที่ว่ามี
00:58:24 → 00:58:26 ไฮเปอร์ไทรอยด์เหมือนกันคราวนี้เบอกว่า
00:58:26 → 00:58:29 ว่าพอพอถึงตอนเย็นเ่ะเค้าไม่ค่อยหิวหรอก
00:58:29 → 00:58:33 แต่เค้าสั่นเค้าก็สั่นเค้าต้องกินน่ะพอ
00:58:33 → 00:58:36 กินแล้วเค้าถึงจะหยุดสั่นใจใจจะไม่สั่น
00:58:36 → 00:58:38 ไม่รู้มันเกี่ยวกับตัวไทรรอยที่เ้าเป็น
00:58:38 → 00:58:41 หรือเปล่า
00:58:41 → 00:58:47 เออพอได้ยินครบมครับได้ยินนะเดี๋ยวนะเขา
00:58:47 → 00:58:50 อ่ะมันไม่เหมือนกับเป็นไทรอยด์อ่ะแล้วก็
00:58:50 → 00:58:54 มาสั่นๆๆๆอะไรอย่างเงี้ยนะไม่ใช่นะแต่มัน
00:58:54 → 00:58:59 จะเป็นจากปัญหาอีอนอะไรหรือเปล่านะหรือมี
00:58:59 → 00:59:03 การสวิงของน้ำตาลน่ะนะน้ำตาลมันดรอปมน้ำ
00:59:03 → 00:59:04 ตาลตกหือ
00:59:04 → 00:59:10 เปล่าก็ตอนนั้นเมีตัวมอร์
00:59:10 → 00:59:16 อะไน้ำตาลเกือ 100 100 แต่เบอกเพอนแล้วเ
00:59:16 → 00:59:23 ก็เลยนิ่งๆไปเลยใจใจจะไม่สะถ้าเไม่กินใ
00:59:23 → 00:59:32 จะเไม่เเลย
00:59:32 → 00:59:34 เบบอกอย่า
00:59:34 → 00:59:38 เีู้
00:59:38 → 00:59:43 อะไพิมพ์น่าจะต้องพิมพ์ดีกว่าพี่ไโรฟัง
00:59:43 → 00:59:44 ไม่รู้
00:59:44 → 00:59:47 เรื่องไม่เป็นไรเดี๋ยวก็พิมพ์ถามกันก็ได้
00:59:47 → 00:59:50 ไม่เป็นไรหรอกครับเดี๋ยวพิมพ์ถามมาพิมพ์
00:59:50 → 00:59:57 ถามมา
00:59:57 → 01:00:01 สรปคือคุณอัญชรี
01:00:01 → 01:00:07 ที่อัญชรีด่านขุนโทษน่ะ
01:00:07 → 01:00:09 เออ
01:00:09 → 01:00:12 เอ้คุณอัญชลีที่เขาถามเยอะๆหรือเปล่าพี่
01:00:13 → 01:00:16 หมอใช่น่าจะใช่เพราะว่าแกแกตอนนั้นบอกว่า
01:00:16 → 01:00:21 แกกินคีโตไม่เป็นแกกินอะไรไม่เป็นก็อืๆก็
01:00:21 → 01:00:23 เลยไม่รู้จะไปยัง
01:00:23 → 01:00:27 ไงมันแสรุปเคสนี้จะต้องมามาแก้ที่
01:00:27 → 01:00:33 เอสโตรเจนโฟกัสไปที่เอสโตรเจนแทนใช่ฮะใช่
01:00:33 → 01:00:38 อืไม่งั้นเนี่ยคนเนี่ยก็จะจะไปไม่ถูกนะ
01:00:38 → 01:00:41 เพราะว่าเไม่เข้าใจว่าทำไมความดันถึงขึ้น
01:00:41 → 01:00:44 ทำไมไทรอยถึงเป็นพิษในเมื่ออ้วนจะตายอยู่
01:00:44 → 01:00:48 แล้วนะอ้วนไปถึงจะ 200 ไอ้วนไป 150 160
01:00:48 → 01:00:49 แล้วเนี่ย
01:00:50 → 01:00:54 เออก็คือเวลาเอสโตรเจนเ้าสะสมต่างๆเสะสม
01:00:54 → 01:00:56 คล้ายๆอินซูลินเนี่ย
01:00:56 → 01:00:58 นะเพราะฉะนั้นสารอาหารที่ไปสร้างไทรรอยด์
01:00:58 → 01:01:04 ฮอร์โมนเนี่ยเยอะไปหมดเลยใช่มนะมันก็เลย
01:01:04 → 01:01:06 สร้างไปสร้างมาแล้วก็สร้างซะจนแบบกลาย
01:01:06 → 01:01:10 เป็นพิษไปเลยคือทุกอย่างมันล้นไปหมดอัน
01:01:10 → 01:01:13 นี้เป็นในฝั่งที่มากเกินไงมากเกินก็กลาย
01:01:13 → 01:01:16 เป็นพิษได้แล้วสาเหตุที่เอสโตรเจนมันเด่น
01:01:16 → 01:01:19 ขนาดเยครับพี่หมอนี่ต้องไปถามนี่แหละว่า
01:01:19 → 01:01:23 มันกินนอะไรมายังไงตั้งแต่วัยรุ่นอะไร
01:01:23 → 01:01:27 หรือเปล่านะคือชอบกินพวกเี่โปดักนะกิน
01:01:27 → 01:01:30 เนื้อนมไข่เนื้อนมไข่กินแต่นมกินแต่ชีส
01:01:30 → 01:01:33 กินแต่เนยเอออะไอะไรที่มันทำให้เอสโตรเจน
01:01:33 → 01:01:36 มันสูงเวอร์ๆใช่มั้ยครับใช่หรือว่าไปฉีด
01:01:36 → 01:01:41 ยาคุมหรือว่าไปฝังยาไปใช้ฮอร์โมนเพราะว่า
01:01:41 → 01:01:44 มีปัญหาทางเอ่อเค้าเรียกสูตินารีเวชอะไร
01:01:45 → 01:01:46 อย่าง
01:01:46 → 01:01:50 เงี้ยต้องต้องต้องถามประวัติเค้าเนี่ยเรา
01:01:50 → 01:01:53 ต้องดูรูปร่างเค้าด้วยนะว่าใช่ทรง
01:01:53 → 01:01:57 เอสโตรเจนมั้ยเออเพราะว่าตอนเมันก็ร่าง
01:01:57 → 01:02:02 กายมันโห 150 160 นี่มันมัน out of
01:02:02 → 01:02:05 control ไปแล้วมันอ้วนระดับ 3 เนี่ยน่า
01:02:05 → 01:02:07 สงสารส่วนมากเราจะเจอแต่อ้วนจากอินซูลิน
01:02:07 → 01:02:11 นะพี่หมอไม่ค่อยจะเจออ้วนแบบแบบนี้เนใช่
01:02:11 → 01:02:13 คืออย่างงี้สุทัศน์เห็นมยล่ะว่าเขาถามมา
01:02:13 → 01:02:16 แค่เนี้ยนี่คือเถามอย่างเงี้ยแล้วมันก็มี
01:02:17 → 01:02:20 ตอนนั้นมันมี 68 คอมเมนต์เนี่ยแล้วเราก็
01:02:20 → 01:02:24 เข้าไปอ่านอืซึ่งมันมันไม่ใช่มันมันไม่
01:02:24 → 01:02:27 ถูกคอมเมนก็ไปคอมเมนต์เล็กๆน้อยๆให้กิน
01:02:27 → 01:02:30 พืชกินผักกินไข่กินอะไรอย่างเงี้ยมันก็
01:02:30 → 01:02:33 ไม่ใช่ต้องมีหลักการนิดนึงว่าว่าทำไมเ
01:02:33 → 01:02:38 เป็นอย่างงี้นะเราจะแก้ยังไงแก้ยังไงหลัก
01:02:38 → 01:02:41 การของคนเนี้ยไม่ได้อยู่ที่อาหารเป็นหลัก
01:02:41 → 01:02:44 นะเพราะว่าเรื่องอินซูลินเนี่ยเขาค่อน
01:02:44 → 01:02:49 ข้างโอเคอินซูลินโอเคคอร์ติซอลโอเคนะนะ
01:02:50 → 01:02:53 แต่ว่ามันเป็นผลพวงของเอสโตรเจนเรื่อง
01:02:53 → 01:02:56 เอสโตรเจนเด่นมาจากอะไรต้องไปหาก่อนแต่ใน
01:02:56 → 01:02:59 แนวทางที่จะลดจะปรับอะไรต่างๆเนี่ยเพราะ
01:02:59 → 01:03:02 ว่าตอนนี้เนี่ย 150 เนี่ยมันก็จะนิ่งะมัน
01:03:02 → 01:03:05 เริ่มนิ่งมา 45 เดือนแล้วล่ะมันลงไปแค่ 4
01:03:05 → 01:03:07 กลเนี่ยภายใน 5 เดือนเนี่ยมันก็ไม่ใช่
01:03:08 → 01:03:12 แล้วล่ะมันนิ่งอ่ะอืเออแล้วก็มันเหมือนจะ
01:03:12 → 01:03:15 จะมาเริ่มเนี่ยจะเป็นเบาหวานเนี่ยเพราะ
01:03:15 → 01:03:18 แต่ก่อนแต่ไรอ่ะไม่เคยเอปรับอาหงปรับ
01:03:18 → 01:03:20 อาหารอะไรต่างๆก็ไม่เคยจะเป็นเบาหวังเคัก
01:03:20 → 01:03:24 ทีน้ำหนักก็ขึ้นเอาขึ้นเอาอ่ะนะอือยู่ดีๆ
01:03:24 → 01:03:26 มาลดน้ำหนักแล้วมันจะกลายมาเป็นเบาหวานะ
01:03:26 → 01:03:30 แล้วหล่ะนะครับไอ้การที่เขาจะมากินอะไร
01:03:30 → 01:03:33 อะไรอย่างเงี้ยนะแล้วแลคมันก็ไม่ต่างกัน
01:03:33 → 01:03:34 น่ะ
01:03:34 → 01:03:38 นะเพราะฉะนั้นไปหาสาเหตุเรื่องเอสโตเจน
01:03:38 → 01:03:40 เด่นและ
01:03:40 → 01:03:41 [เพลง]
01:03:41 → 01:03:47 เออเออไปหาสาเหตุเรื่องเอสโตรเจนเด่นนะฮะ
01:03:47 → 01:03:49 ไปปรับเรื่องน้ำหนักเรื่องน้ำหนัก
01:03:49 → 01:03:53 อันเนี้ยเราก็แอชในแง่เ่อของคนที่เรา
01:03:53 → 01:03:55 เพิ่งจะคุยกันไปเมื่อวันพฤหัสบดีนี่แหละ
01:03:55 → 01:03:57 ใช้หลักการเดียวกันใช่มยพี่ใช้หลักการ
01:03:57 → 01:04:01 เดียวกันนะเพราะว่าตับดื้ออินซูลินกล้าม
01:04:01 → 01:04:04 เนื้อดื้ออินซูลินแต่ต้องไปปรับที่กล้าม
01:04:04 → 01:04:08 เนื้อแต่ว่าเขาต้องไปเจาะการทำงานของตับ
01:04:08 → 01:04:10 เนี่ยตับเอาจจะอยู่ในเกณฑ์ดีก็ได้นะเี่เ
01:04:10 → 01:04:14 ไม่มีมามาให้เหมือนคนผู้ชายคนนั้นน่ะคน
01:04:14 → 01:04:16 ผู้ชายคนนั้นเเห็นป่ะแลบเนี่ยตารางแดง
01:04:16 → 01:04:21 เถือกไปเลยอ่ะทรงกิจละเอียดเออนะแต่คนนี้
01:04:21 → 01:04:23 มันอย่างเงี้ยนะเราก็โพสต์ถามในกลุ่มอีก
01:04:23 → 01:04:25 กลุ่มนึงก็ไม่ใช่กลุ่มเราเก็ไม่ไม่รู้
01:04:25 → 01:04:26 เรื่อง
01:04:26 → 01:04:30 อะไรมันเรื่องเลยแหละถ้าจะไปแนะนำนี่ก็
01:04:30 → 01:04:33 เหนื่อยเลยล่ะนะฮะเพราะว่าเไม่มีโอแล้ว
01:04:33 → 01:04:36 แล้วหมอกระแสล่ะเข้าไปไปเรื่องไทรรอยด์ก็
01:04:36 → 01:04:39 ยิ่งไปกันใหญ่มันก็มันก็อย่างงี้แหละก็
01:04:39 → 01:04:43 ไม่รู้ว่าทำยังไงมันก็จะไปไปไปแปลว่ายายา
01:04:43 → 01:04:46 ของเขาเป็นยาเป็นยากดกดไทรรอยด์ใช่มั้ย
01:04:46 → 01:04:48 ครับทำให้ไทรรอยด์ทำงานได้น้อยลงใช่มั้ย
01:04:48 → 01:04:51 ใช่อ่ะอย่างงี้มันก็ยิ่งเผาผลาน้อยลงไป
01:04:51 → 01:04:55 ด้วยรึเปล่าะก็จะยิ่งเผาผลาน้อยลงอัยแล้ว
01:04:55 → 01:04:59 มันก็จะยิ่งหิวแล้วก็กินนเพิ่ม
01:04:59 → 01:05:00 ขึ้น
01:05:00 → 01:05:05 อ๋อหิวกินเพิ่มขึ้นซึ่งมันก็เลยสะสมเยอะ
01:05:05 → 01:05:09 ขึ้นใช่ซึ่งในกรณีเนี้ยเค้าก็ตอบมาไงว่า
01:05:09 → 01:05:12 เนี่ยเขาบอกว่าพอเป็นไทรรอยด์เป็นพิษตรวจ
01:05:12 → 01:05:16 เจอปุ๊บเนี่ยตอนนั้นน้ำหนัก 164 พอไปกิน
01:05:16 → 01:05:19 ยาไทรรอยด์เป็นพิษน้ำหนักกลับเพิ่มเป็น
01:05:19 → 01:05:23 187 กระโดดเลยเออมันเป็นผลข้างเคียงของ
01:05:23 → 01:05:27 ยาต้านไทรรอยด์หรือยาแก้ไทรอยด์คิดแล้ว
01:05:27 → 01:05:29 เลยจะมาคิดลดน้ำหนักเพราะว่าน้ำหนักมัน
01:05:29 → 01:05:34 พุ่งเยอะเหลือเกินเอออือๆๆคงขึ้นเป็นแบบ
01:05:34 → 01:05:36 จนตกใจอ่ะนะมันก็ไม่ใช่ไงเพราะคุณไม่ได้
01:05:36 → 01:05:38 เป็นโรคไทรรอยด์เป็นพิษโดยตรงคุณไม่ได้
01:05:38 → 01:05:43 เป็นเฟ disease นะคือคุณเนี่ยเป็นภาวะที่
01:05:43 → 01:05:47 มันมีการตอบสนองเป็น tion บางอย่างทางิ
01:05:47 → 01:05:48 ทาง
01:05:48 → 01:05:53 สรีรวิทยานะครับของฮอร์โมนอื่นๆที่มามีผล
01:05:53 → 01:05:56 ต่อต่อต่อตัว
01:05:56 → 01:06:00 ไทรอย์โอ้โหฉะนั้นต้องดับทุกข์ดับที่เหตุ
01:06:00 → 01:06:03 ก็ไปแก้เรื่องฮอร์โมนเอสโตรเจนไม่ต้องมา
01:06:03 → 01:06:05 แก้ไทรรอยด์เดี๋ยวแก้เอสโตรเจนดีขึ้น
01:06:05 → 01:06:07 ไทรรอยด์ก็จะดี
01:06:07 → 01:06:12 ขึ้นอความเป็นพิษของไทรอยด์ที่ถูกหมอบอก
01:06:12 → 01:06:14 ตัดสินว่าเป็นไทรอยด์เป็นพิษเนี่ยจริงๆ
01:06:14 → 01:06:18 แล้วมันไม่ได้เป็นแบบชนิดหนักๆอ่ะชนิดที่
01:06:18 → 01:06:22 ฮอร์โมนมันพุ่งซะเยอะแยะไปผิดหูผิดตาเป็น
01:06:22 → 01:06:24 ตัวเลข 10 10 20 อะไรอย่าเงี้ยมันไม่
01:06:24 → 01:06:26 ใช่มันเป็นแค่คลินิคอลใช่มั้ยครับเออมัน
01:06:26 → 01:06:29 เป็นนิดๆหน่อยๆนๆหน่อยๆเนี่ยแล้วคุณก็ไป
01:06:29 → 01:06:32 ตีว่าเเป็นโรคแล้วคุณก็ใส่ยาเต็มที่เลย
01:06:32 → 01:06:36 อย่าเงี้ยก็แปลว่าอ๋อมันก็เลยยิ่งทำให้
01:06:36 → 01:06:39 แย่ลงเออเพราะถ้าถ้ามันเป็นไม่ได้เป็นโรค
01:06:39 → 01:06:42 จริงๆแค่มันเป็นรีคี physiology อย่าง
01:06:42 → 01:06:45 เงี้ยนะแล้วคุณไปอัดยาเต็มที่เหมือนกับ
01:06:45 → 01:06:49 เป็นโรคเงี้ยนะก็ไม่แปลกหรอกที่มันยานี่
01:06:49 → 01:06:52 แหละมันก็จะยิ่งไปทำให้หิวเอ่าก็จะได้
01:06:52 → 01:06:55 ยิ่งกินผิดุดเพิ่มขึ้นยักษ์กับหมูขีนี่
01:06:55 → 01:06:58 นี่แหละครับเพราะฉะนั้นอันนี้มันก็ผิด
01:06:58 → 01:07:04 แล้วไงมันผิดไม่ถูกเอ
01:07:04 → 01:07:05 อ๋อ
01:07:05 → 01:07:08 โอเคก็คือต้องเอาไปเอาใช้ใช้วิธีแก้
01:07:08 → 01:07:11 เหมือนเหมือนกับเคสพุงเครียดนั่นแหละ
01:07:11 → 01:07:15 ใช่ก็ต้องดูแลตับปรับอาหารให้เข้าทางระบบ
01:07:15 → 01:07:19 น้ำเหลืองแล้วไปใช้กล้ามเนื้อสีแดงสีขาว
01:07:19 → 01:07:24 ช่วยเพราะไม่งั้นจะทำยังไงอ่ะนะไอ้เรื่อง
01:07:24 → 01:07:28 คือคือพี่หมอผมเห็นคนในวงการเราอ่ะนะที่
01:07:28 → 01:07:30 ที่เป็นทรงภูมิเครียดเนี่ยหลายคนคือมันก็
01:07:30 → 01:07:33 วนอยู่กับเรื่องอาหารเแต่ว่าแต่ว่าไอ้
01:07:33 → 01:07:36 สิ่งที่ที่ผมยังไม่เห็นอย่างจริงจังคือ
01:07:36 → 01:07:38 การออกกำลังกายไงหรือว่าการใช้ร่างกายที่
01:07:38 → 01:07:42 มันจะสามารถที่จะขับอ่าไอ้พลังงานส่วน
01:07:42 → 01:07:44 เกินออกอ่ะอย่างงี้มันก็เหมือนายเรือเ
01:07:44 → 01:07:49 อ่านบอกก็เไม่เข้าใจไงเไม่เข้าใจที่แบบ
01:07:49 → 01:07:52 ว่าในทางเยในทางเค้าเรียก clinical
01:07:52 → 01:07:56 Approach หรือในทางในในในความเป็นจริง
01:07:56 → 01:07:59 ที่อยู่ต่อหน้าถ้ามีคนไข้อยู่ต่อหน้าคุณ
01:07:59 → 01:08:02 หมอเนี่ยคุณหมอก็จะทั้งอย่างโง้นอย่างงี้
01:08:02 → 01:08:06 ให้มันเห็นภาพน่ะครับจะออกงิ้วได้เพมัน
01:08:06 → 01:08:10 เป็นอย่างงี้นะเพราะว่าเราเราไม่ได้อิงที
01:08:10 → 01:08:14 ไม่ต้องมานั่งอิงรูปอ่าอย่างโง้นอย่างงี้
01:08:14 → 01:08:16 อะไรเหมือนกับใครเ้าอ่ะเราเอาแบบรูปกุ
01:08:16 → 01:08:22 โป๊ะเชะเลยคือจี้ให้มันจงจุดน่ะนะแล้วคุณ
01:08:22 → 01:08:26 ก็ไปทำเอาอย่างนี้แหละนะแต่คนอื่นก็ต้อง
01:08:26 → 01:08:29 มางานวิจัยมาทฤษฎีมาเปอร์มา Reference
01:08:29 → 01:08:33 อะไรเงี้อกูไม่เอาหรอกอือๆ
01:08:33 → 01:08:39 ๆไม่ทันเออมันเวอรไปนะก็เหมือนคุณหมอเคย
01:08:39 → 01:08:42 บอกไงว่านี่ฉันจะฉีดยาเนี่ยคนไข้ต้องมา
01:08:42 → 01:08:45 ถามก่อนมว่ามี Reference มจะมาจีดยาอะไร
01:08:45 → 01:08:49 ฆ่าเชื้อให้เขาเนี่ยอๆๆไขแวสั่นไข้ 40
01:08:49 → 01:08:52 เงี้ยเออเอฉีดยาก็ฉีดไปเลยไม่ต้องไปถามหา
01:08:53 → 01:08:58 เรนกูไม่ฉีดเอเอเออไม่
01:08:58 → 01:08:59 หา
01:09:00 → 01:09:05 เออต้องฉีไปเลยนะพี่บอนะเออก็ต้องให้มัน
01:09:05 → 01:09:07 ให้มันอยู่บนโลก่งความเป็นจริงหน่อยอย่าง
01:09:07 → 01:09:10 งั้นเอสโตรเจนเนี่ยเรามันก็มันก็แก้แก้
01:09:11 → 01:09:12 เหมือนคูมเครียดเนี่เพียงแต่ว่าอย่าไป
01:09:12 → 01:09:15 เติมอย่าไปเติมไอ้พวกเอสโตรเจนจากข้างนอก
01:09:15 → 01:09:18 เข้าไปเสริมใช่มั้ยพี่หอใช่ฮะแล้วก็เร่ง
01:09:18 → 01:09:21 เอาเอาพลังงานส่วนเกินนี่ออกไปให้ได้เร็ว
01:09:21 → 01:09:23 ๆ
01:09:23 → 01:09:27 อืคือ 1 ก็ไปหาสาเหตุก่อนแล้วก็หาปัจจัย
01:09:27 → 01:09:30 รอบด้านด้วยนะว่าอินซูลินเป็นยังไง
01:09:30 → 01:09:32 คอร์ติซอลเป็นยังไงตับเป็นยังไงไตเป็นยัง
01:09:32 → 01:09:36 ไงวิตามินดีเป็นยังไงการอักเสบยังไงมั้ย
01:09:36 → 01:09:39 แล้วร่างกายเนี่ยเช็คดีแล้วนะว่าอ้วนๆ
01:09:39 → 01:09:42 ใหญ่ๆอย่างเงี้ยแะนะมันมีถุงมีเนื้องอกมี
01:09:42 → 01:09:45 ก้อนมีอะไรเปล่านะก็เรียกว่าต้องมี
01:09:45 → 01:09:49 เช็คอัพทั้งตัวจะไปทำมั้ยล่ะไม่ทำก็ไม่ทำ
01:09:49 → 01:09:52 นะเพราะว่าไเอเจนเด่นเนี่ยโอกาสที่จะเป็น
01:09:52 → 01:09:55 เนื้องอกซีสอะไรถุงเกี่ยวกับระบบสึทาเ
01:09:56 → 01:09:58 เยอะใช่มั้ยฮะเยอะมากนะผู้ชายก็ต่อมลูก
01:09:58 → 01:10:02 หมากโตเป็นนิ่วในท่อไตเป็นนิ่วในถุงน้ำดี
01:10:02 → 01:10:05 พวกนี้เอสโตรเจนมีเอี่ยวหมดเลยผู้หญิงก็
01:10:05 → 01:10:09 ทั้งเนื้อนมไข่อ่ะนะทั้งเ้านมทั้งมดลูกผี
01:10:09 → 01:10:13 มดลูกังไข่ทั้งประจำเดือนทั้งเซลล์ไขมัน
01:10:13 → 01:10:17 อะไรอย่างเงี้ยถ้าเป็นอายุน้อยๆก็เป็นสิว
01:10:17 → 01:10:22 เป็นก้อนอ่าอะไรอ่ะก้อนของต่อมซีเเชีย
01:10:22 → 01:10:26 สแกนก้อนของต่อมไขมันโปมอะไรเงี้อแล้วก็
01:10:26 → 01:10:28 คือตอนนี้เราไม่รู้ว่าที่เขาบอกว่ากินดี
01:10:28 → 01:10:32 นี่เขากินมานานแค่ไหนอ่ะเนาะอืแล้วก่อน
01:10:32 → 01:10:35 หน้านั้นกินอะไรอ่ะเนาะทำใจแล้วล่ะว่าเพะ
01:10:35 → 01:10:39 ว่าคนอยรู้เรื่องอาหารไส้ในอาหารหญ้าอือๆ
01:10:39 → 01:10:42 ๆเพียงแต่ว่าเกสนี้มันเป็นประโยชน์ต่อเรา
01:10:42 → 01:10:46 ในเรื่องการเรียนรู้ว่าอุ๊ยเจอแล้วเออไม่
01:10:46 → 01:10:49 ใช่เออใช่กผมเข้าใจแล้วทำไมคุณหมอถึงถึง
01:10:49 → 01:10:53 อยากนี่เพราะว่าไม่พอบอกกินครีนนี่ผมนึก
01:10:53 → 01:10:56 ถึงอะไรนะโปรตีนเช็คก่อนเลยในวงการ
01:10:56 → 01:10:59 ก็อย่างงี้ไงก็เราก็เสียวๆว่านี่แหละ
01:10:59 → 01:11:01 เอสโตรเจนที่เา้าเด่นเนี่ยเพราะอะไรเพราะ
01:11:01 → 01:11:04 ว่าเค้าก็ชอบไปกินไอ้พวก Daily ักไอ้พวก
01:11:04 → 01:11:08 เออน้ำๆปั่นๆอะไรที่มันใส่ใส่นมใส่เนย
01:11:08 → 01:11:11 อะไรงงี้แหละนะยิ่งไปกินไอ้พวกโปรตีนพวก
01:11:11 → 01:11:15 ไอ้อะไรนะโปรตีนถั่วเหลืองอะไรอย่างเงี้ย
01:11:15 → 01:11:18 เออยิ่งๆยิบันเทิงเลยนะเออก็ทั้งนั้นแหละ
01:11:19 → 01:11:22 เอามาปั่นกับนมมาปั่นกับโยเกิร์ตโอ๊ยเยอะ
01:11:22 → 01:11:26 แยะเห็นแล้ว
01:11:26 → 01:11:30 โอเคแต่ก็ได้เป็นเคสนานๆเคสหายากเออเคสหา
01:11:30 → 01:11:33 ยากเคสแล้วแปว่าเต้นทุนดีด้วยใช่ไหมครับ
01:11:33 → 01:11:36 อย่างเงี้ยต้นทุนชีวิตหมายถึงว่าอ่าเซลล์
01:11:36 → 01:11:39 ไขมันเาเก็บไขมันได้เยอะใช่เขาถึงยังไม่
01:11:39 → 01:11:42 เป็นเบาหวานแล้วแล้วทำไมถึงพอเริ่มลดแล้ว
01:11:42 → 01:11:44 มันถึงจะเริ่มเป็นเบาหวานนะพี่บอกเพราะ
01:11:45 → 01:11:48 ว่าตอนเนี้ยตอนนี้นะก็คือคอร์ติซอลมา
01:11:48 → 01:11:54 แจมเหมือนว่าการลด 37 กอ่ะนะจาก 187 ลงมา
01:11:54 → 01:11:57 เหลือ 150 50 เนี่ยมันภายใน 5 เดือนใช่
01:11:57 → 01:12:01 มยเพราะฉะนั้น 5 เดือนเนี่ยคุณลดมา 37 กล
01:12:01 → 01:12:06 สมมุติ 40 กลอ่า 5 เดือนเดือนละ 8 กเดือน
01:12:06 → 01:12:08 ละ 8 กเนี่ยน้ำหนักมันหายไปเดือนละ 8 กล
01:12:08 → 01:12:12 เนี่ยนะร่างกายมันอยู่ดีๆสมมุติว่าร่าง
01:12:12 → 01:12:14 กายมันอยู่ดีๆมันอวบอ้วนดีอ่ะแล้วร่างกาย
01:12:14 → 01:12:17 มันก็แฮปปี้กระดี้กระด้าแจ่มใสอ่ะแล้ว
01:12:17 → 01:12:20 อยู่ดีๆเดือนนึงหายไป 8 เดือนนึงหายไป 8
01:12:20 → 01:12:24 พอเดือนที่ 5 หายไป 40 กอย่างเงี้ยอืร่าง
01:12:24 → 01:12:27 กายมันจะเป็นยังไงอ่ะมันน่าจะแบบมันน่าจะ
01:12:27 → 01:12:30 แบบไม่โอเคอ่ะแล้วไม่รู้ว่ารดแบบไหนกิน
01:12:30 → 01:12:33 แบบไหนถึงรดได้ขนาดนั้นเออนั่นแหละนะ
01:12:33 → 01:12:35 เพราะว่าถเค้าบอกว่ากินข้าวนิดเดียวนี่แ
01:12:35 → 01:12:38 ว่าเคตัดพลังงานตัดแคลอรี่
01:12:38 → 01:12:42 เออตัวแม่มาแล้วตัวแม่มามันทำให้เป็นเมาา
01:12:42 → 01:12:45 หวานยังไงครับพี่บอกอ้าวก็เวลาคอร์ติซอล
01:12:45 → 01:12:49 มาเนี่ยคอร์ติซอลเ้าก็จะต้องมาพุ่งน้ำตาล
01:12:49 → 01:12:53 น่ะหลักการนั้นแหละโอเคเออพุ่งอีท่าไหน
01:12:53 → 01:12:57 พุ่งเมื่อไหรอ่ะเวลาเมาเก็มาตอนเช้าเก็
01:12:57 → 01:12:59 พุ่งเช้าๆนี่แหละ
01:12:59 → 01:13:03 อ๋อหรือโอเคเอ่อถ้าพลังงานคุณไม่พอคุณ
01:13:03 → 01:13:06 เล่นรถน้ำหนักหายไปเดือนละ 8 กล 5 เดือน
01:13:06 → 01:13:10 แล้วไปแล้ว 37 กลเนี่ยนะมันก็กลางคืนนอน
01:13:10 → 01:13:14 ไม่ดีด้วยหรือเปล่าคิอก็มากวนเวลาคิอมา
01:13:14 → 01:13:16 น้ำามันก็ขึ้นน่ะอโอเคคือแต่ก่อนเ
01:13:17 → 01:13:20 เอสโตรเจนเล่นอยู่เล่นอยู่หน้าเวทีคน
01:13:20 → 01:13:23 เดียวไม่มีปัญหาเออเพราะว่าตัวแม่ไม่มี
01:13:23 → 01:13:27 ปัญหาเรื่องพลังงานครับใช่อ่าแต่พอว่าไป
01:13:27 → 01:13:32 ไปลดลงอย่างรวดเร็วอย่างเงี้ยคอซอเลยออก
01:13:32 → 01:13:36 มาเออตัวแม่สด้วว่ามันเกิดอะไรวิกฤตหรือ
01:13:36 → 01:13:38 เปล่าร่างกายมันเป็นอะไรมันก็อ้วนตากอยู่
01:13:38 → 01:13:43 ดีๆอ่ะแล้วอยู่ดีๆมาวูบไปจะ 40 กแล้ว
01:13:43 → 01:13:47 เนี่ยนะอยากกนั้นเลยอูยไม่ได้แล้วจะ 40 ก
01:13:48 → 01:13:51 แล้วนะก็ต้องมามาแอคชั่นอะไรบางสิ่งบาง
01:13:52 → 01:13:56 อย่างนะแล้วก็ก็รู้อยู่ว่าคอร์ติซอลมาก็
01:13:56 → 01:13:59 ต้องพุ่งน้ำตาลโอเคถ้าอย่างเงี้ย 1 คือ
01:13:59 → 01:14:01 คุณต้องเบรคคอร์ติซอลก่อนด้วยพลังงานคุณ
01:14:01 → 01:14:04 ต้องหาทางเติมพลังงานในท่อน้ำเหลืองได้
01:14:04 → 01:14:07 ใช่แต่เไม่มีความรู้ไงที่จะไปเติมท่อน้ำ
01:14:07 → 01:14:09 หลงน้ำเหลืองให้พลังงานให้สารอาหารเข้า
01:14:09 → 01:14:12 ทางท่อไหนท่อไหนอะไรอย่างเงี้ยอ่าแล้วก็ 2
01:14:12 → 01:14:14 คือเอาพลังงานส่วนเกินเนี่ออกไปให้ได้
01:14:14 → 01:14:18 เยอะที่สุดอ่าก็ต้องกำลังแล้ว 3 3 คือ
01:14:18 → 01:14:21 อย่าไปกินอะไรหรือทำอะไรที่ไปกระตุ้นทำ
01:14:21 → 01:14:21 ให้
01:14:21 → 01:14:25 เอสโตรเจนเพิ่มขึ้นกว่ามากกว่าเดิมได้่
01:14:25 → 01:14:28 อันนี้ก็ต้องเเราก็ต้องเรียนรู้ว่า
01:14:28 → 01:14:31 เอสโตรเจนเมีแหล่งที่มาที่ไปยัง
01:14:31 → 01:14:34 ไงแล้วก็ตัว Balance เจนที่สำคัญคือ
01:14:34 → 01:14:36 โปรเจสเตอโรนถ้าคุณยังอยู่ในวัยเจริญ
01:14:36 → 01:14:40 พันธุ์ยังไม่หมดประจำเดือนยังไม่หนะปไป
01:14:40 → 01:14:43 เพิ่มจนขึ้นมาครับคุณหมอเขียนบอกวิธีไป
01:14:43 → 01:14:46 แล้วใช่มั้ยครับก็มีตั้งหลายไลฟ์หลายอะไร
01:14:46 → 01:14:49 แล้วล่ะนะส่วนใครจะสนใจไม่สนใจคุณหมอก็
01:14:49 → 01:14:52 เหนื่อยแล้วอ่านี่ขนาดเหนื่อยนะ
01:14:52 → 01:14:56 เนี่ยไม่พอดีมันมีเคสเแล้วเป็นเป็นเคสที่
01:14:56 → 01:15:00 มาในรูปแบบของผลแบเราก็เลยแบบอู้ยกระดี้
01:15:00 → 01:15:04 กระด้าเลยใครจะนึกอะไรเราไม่รู้หรอกครับ
01:15:04 → 01:15:06 มันไม่ค่อยเห็นไงงแล้วไม่มีแล้วอีกอย่าง
01:15:07 → 01:15:09 นึงในคอมเมนต์ 70 กว่าคอมเมนต์ไม่มีใคร
01:15:09 → 01:15:12 เข้าเข้าใจเรื่องเหล่าเนี้ยไม่มีก็คุณหมอ
01:15:13 → 01:15:16 ยังบอกว่าจะใช้ประสบการณ์มองเลย
01:15:16 → 01:15:20 ครับอันนี้คือใช้ใช้กัดล่ะดูสิดูคนนี้
01:15:20 → 01:15:22 เห็นคนนี้ยังนี่
01:15:23 → 01:15:26 นะแฟนประจำของเราเนี่ยเห็นมั้ก็ยังมาแอบ
01:15:26 → 01:15:31 ถามอะไรอย่าเงี้ยเอแต่ก็ไปต่อไม่ได้
01:15:31 → 01:15:35 เออไม่ถ้าผมไปไปคู่กับแอดผมก็คงงงอยู่กับ
01:15:35 → 01:15:37 แอดเหมือนกันนนะ
01:15:37 → 01:15:41 ครับใครจะมานึกว่าเอสโตรเจนเพราะว่ามัน
01:15:41 → 01:15:44 มันไม่ได้มีเคสแบบ
01:15:44 → 01:15:47 นี้โอเคเคสของคนคนนี้มีอะไรเพิ่มอีกมั้ย
01:15:47 → 01:15:51 ครับไม่มีแล้วนะอ่าเดี๋ยวจะได้ถามคำถาม
01:15:51 → 01:15:54 พี่เพรพี่ไพโรจครับนี่แหละนะก็คือกินที
01:15:55 → 01:15:59 ออยคุมน้ำตาลหลังอาหารดีแล้วมื้อเย็นไม่
01:15:59 → 01:16:05 หิวแต่มีอาการสั่นเอ่อใจสั่นพอกินไข่ต้ม
01:16:05 → 01:16:07 แล้วอาการจะหายไป
01:16:07 → 01:16:11 เออสงสัยว่าเป็นเพราะอะไรเนี่ยถ้าถ้าจะ
01:16:11 → 01:16:16 อย่างเงี้ยก็สงสัยเรื่องอิเล็กโตรไลต์าน
01:16:16 → 01:16:20 เนี่ยอต้องต้องสงสัยเรื่องอิเลก imbalance
01:16:20 → 01:16:23 ต้องต้องสงสัยเกือแรกก่อนอันดับหนเพราะ
01:16:23 → 01:16:25 ว่าพวกเนี้ยอาการมันจะค่อนข้างปัจจุบัน
01:16:25 → 01:16:30 ทันด่วนนะเค้ากินเกลือพอมั้ย
01:16:30 → 01:16:35 นะเออไม่แน่ใจครับไม่ค่อยเหมือนไทรรอยด์
01:16:35 → 01:16:38 เพราะไทรอยด์เป็นพิอันนี้อันนี้เคสไหนนะ
01:16:38 → 01:16:42 ครับอัญชอัญชลี
01:16:42 → 01:16:47 ออีที่อยู่ที่อยู่ประลาขุนทอ่ะนะใช่ครับ
01:16:47 → 01:16:50 ที่หมอโต้งเอาทีออยไปให้อ่ะแหละอ๋อแล้ว
01:16:50 → 01:16:54 เค้ายังกังวลเรื่องเรื่องอาการเค้าสงสัย
01:16:54 → 01:16:57 ว่าน้ำตาลเต่ำหรือเปล่าเออแต่ว่ายาเบา
01:16:57 → 01:17:02 หวานไม่ได้กินแล้วะไม่ไม่ได้หมอทางทาง
01:17:02 → 01:17:05 โน้นเค้าก็ยอมให้หยุดยาละเบาหวานครับแล้ว
01:17:05 → 01:17:08 ทีนี้เดือนที่แล้วเนี่ยเค้าไปปรึกษาหมอ
01:17:08 → 01:17:10 ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านหมอโรงพยาบาลใกล้
01:17:10 → 01:17:13 บ้านเ้าก็สงสัยเรื่องเรื่องไฮโปไกลเคก็
01:17:13 → 01:17:15 เลยให้ให้หยุดยา
01:17:15 → 01:17:19 อือือสรุปว่าอาจจะเกี่ยวกับอิเล็กโตรไลต์
01:17:19 → 01:17:22 เหรอครับอจารย์ก็ถ้าเกิดต้องรู Out
01:17:22 → 01:17:25 ไฮโปไกลสีมก่อนก็มีเครื่องเจาะน้ำตรงน้ำำ
01:17:25 → 01:17:28 ตาลเครื่องวัดความดันอะไรมั้ยตอนคือเคแชท
01:17:28 → 01:17:33 มาหาผมวันเนี้ยเ้าแชทมาหาผมว่าเ้าได้ 110
01:17:33 → 01:17:36 กว่าหลังอาหารเช้าหลังหลังหลังมื้อแรกอ่ะ
01:17:36 → 01:17:39 นะะหลังมื้อแรกแต่แล้วเค้าก็ยังเหมือน
01:17:39 → 01:17:41 เหมือนเยังรู้สึกว่าเอ๊ย 110 กว่าเยอะไป
01:17:41 → 01:17:43 หรือเปล่าผมก็บอกว่าไม่เยอะ
01:17:43 → 01:17:49 เออไม่เยอะไปกลัวอะไรไม่เยอะแต่แต่แต่ถาม
01:17:49 → 01:17:51 ว่า 110 กว่ามันจะไฮโปไกลมั้ยมันก็ไม่ไง
01:17:52 → 01:17:53 ไม่อ่ะ
01:17:53 → 01:17:56 ไม่นะแล้วก็ถ้ามีอาการเมื่อไหร่เจาะเม
01:17:56 → 01:18:02 นั้นเนี่ยนะอย่าไปรออะไรอยู่นะก็เจาะเจาะ
01:18:02 → 01:18:04 ก่อนแล้วมันเป็นไอ้นี้ได้มั้ยครับอาจารย์
01:18:04 → 01:18:08 อาจจะเป็น relative ที่ไฮโปไซยได้มั้ยแบบ
01:18:08 → 01:18:11 แบบว่าเพราะคนเเป็นเป็นเป็นเบาตอนนั้นเขา
01:18:11 → 01:18:13 ก็เป็นเบาหวานใช่มั้ยเขาก็ไม่รู้ตัวว่า
01:18:13 → 01:18:19 เขาเป็นเบาหวานอือทีนี้พอเมากินโลขาใช่ม
01:18:19 → 01:18:22 ถึงจะมีทีออยช่วยยังไงก็แล้วแต่เนี่ยแต่
01:18:22 → 01:18:24 น้ำตาลมันดีขึ้นนะยาเบาหวานกินแป๊บเดีว
01:18:25 → 01:18:29 หยุดยาได้เออบางทีร่างกายมันอาจจะคล้ายๆ
01:18:29 → 01:18:31 กับมันคุ้นชินกับไอ้ช่วงที่มันไฮเปอร์โดย
01:18:31 → 01:18:33 ที่เขาไม่รู้ตัวตั้งแต่ตอนที่เยังไม่รู้
01:18:33 → 01:18:35 ว่าเค้าเป็นบาหวานอ่ะมันมันจะเป็นมันจะ
01:18:35 → 01:18:37 เป็นแบบ relative ไฮโปแล้วทำให้เครู้สึก
01:18:37 → 01:18:40 หวิวๆอย่างี้มั้ยฮะหรือหรือคิดว่าไม่น่า
01:18:40 → 01:18:44 ใช่ไม่คืออย่างเงี้ยแล้วถ้าเป็น relative
01:18:44 → 01:18:47 hypoglycemia หรือ zy phenomenal zy
01:18:47 → 01:18:50 เฟคเนี่ยมันจะเป็นจากยามันจะขึ้นอยู่กับ
01:18:51 → 01:18:55 ยาและมันจะเป็นภายใน 24 ชมอ่ะที่คุณใช้ยา
01:18:55 → 01:18:59 นะฉีดกินก็ตามแล้วมันเป็น sty เฟคเนี่ย
01:18:59 → 01:19:02 มันก็จะเป็นหมายถึงยาที่ที่เกี่ยวกับน้ำ
01:19:02 → 01:19:04 ตาลยาบาหวานอะไรพวกนี้ใช่มั้ยฮะใช่มันจะ
01:19:04 → 01:19:07 เกี่ยวกับยาแต่ถ้าเกี่ยวกับอาหารหรือ
01:19:07 → 01:19:08 เกี่ยวกับ
01:19:08 → 01:19:11 เอ่ออย่างอื่นอะไรอย่าเงี้ยมันไม่ถึงขนาด
01:19:11 → 01:19:15 จะเป็น reactive hpc ได้เพราะร่างกายอ่ะ
01:19:15 → 01:19:18 มันลคือคือคนเนี้ยผมรู้สึกว่าไอ้เรื่อง
01:19:18 → 01:19:20 น้ำตาลเรื่องเบาหวานมันไม่น่ามีปัญหามัน
01:19:20 → 01:19:23 น่าจะ liton แล้ว
01:19:23 → 01:19:28 แหละแล้วก็ก็ไทรรอยด์ก็รู้สึกว่าลดจาลงมา
01:19:28 → 01:19:30 เยอะแล้วไอ้เมิมาโซนเ่ะกินอยู่นิดเดียว
01:19:31 → 01:19:32 มันก็ไม่น่า
01:19:32 → 01:19:35 ใช่แล้วมันก็มีอีกประเด็นนึงคือเรื่องไอ้
01:19:35 → 01:19:40 ไอียเวเนี่ยที่ลงท้ายนิรเองก็ยังยังไม่
01:19:40 → 01:19:44 คอนเฟิร์ม Dict อ่ะเห็นเห็นว่าไม่แน่ไปไป
01:19:44 → 01:19:46 ไปตรวจเพิ่มคราวหน้าเนี่ยถ้าเข้าไม่คิด
01:19:47 → 01:19:49 ถึงเขาอาจจะให้ให้ T Off ยาไปเลยก็ได้
01:19:49 → 01:19:53 อ๋อนะก็ต้องสงสัยอิเล็กโตรไลต์ im
01:19:53 → 01:19:55 Balance โดยเฉพาะแมกนีเซียม
01:19:55 → 01:19:57 พวกนี้มันเกิดจากอะไรครับอาจารยเกิดจาก
01:19:57 → 01:20:00 กินอาหารไม่ได้คุณภาพแล้วมันขาดเกลือแร่
01:20:00 → 01:20:03 เรื้อรังอะไรเงี้ฮะคือเวลาเรา ow คาฟ
01:20:03 → 01:20:07 เนี่ยคาฟเนี่ยมันมีอิเล็กโตรไลต์นะแล้ว
01:20:07 → 01:20:10 มันมีอินซูลินด้วยไงนะแล้วอินซูลินเนี่ย
01:20:10 → 01:20:13 มันจะช่วยให้อิเล็กโตรไลต์ในกลุ่มคาฟต่าง
01:20:13 → 01:20:15 ๆพืชผักผักหัวผักใบต่างๆเนี่ยมันเข้า
01:20:15 → 01:20:19 เซลล์ได้แต่เวลาเรา ow าฟหรือ very low
01:20:19 → 01:20:22 Car หรือคีตเนี่ยเมันก็จะไม่มีอินซูลิน
01:20:22 → 01:20:25 นะแล้วมันจะไม่ค่อยมีอิเล็กโตรไลต์
01:20:25 → 01:20:28 นะที่จะอยู่ในรูปแบบ physiology อ่ะที่จะ
01:20:28 → 01:20:30 เข้าเซลล์ได้
01:20:30 → 01:20:37 ดีเนี่ยเพราะว่าไอ้พวกคาฟต่างๆที่เป็นผัก
01:20:37 → 01:20:39 ใบผักหัวนี่แหละนะสำคัญเลยที่จะมี
01:20:39 → 01:20:42 อิเล็กโตรไลต์และมีอินซูลินในขนาด low
01:20:42 → 01:20:45 หรือ minimal Level ที่จะพาเเข้า
01:20:45 → 01:20:49 เซลล์แต่ถ้าเกิดเราจำกัดคามากเลยอะไร
01:20:49 → 01:20:53 อย่างเงี้ยนะมันจะไม่ได้ฮะนะอินซูลินก็
01:20:53 → 01:20:57 น้อยนะแล้วก็พวกเกลือแร่สารภษาเคมีมัน
01:20:57 → 01:20:59 เข้าเซลล์ยากอยู่
01:20:59 → 01:21:02 แล้วทีนี้ของของอัญชลีเนี่ย
01:21:02 → 01:21:05 เขาคือเขาคก็ยังค่อนไปทางอ้วนน่ะเขาไม่
01:21:06 → 01:21:09 ได้ผอมอ่ะอือเป็นเเป็นเเป็นทรงปรุงเครียด
01:21:09 → 01:21:13 อ่ะประเมินแล้วเนาะแล้วก็ก็ยังยังมี
01:21:13 → 01:21:16 ลักษณะของ metabolic รมที่ที่ยังไปทางทาง
01:21:16 → 01:21:19 ลงพุงทางอ้วนอยู่อ่ะคือคือมันถึงจะลดความ
01:21:19 → 01:21:23 อ้วนลงมาพอสมควรแล้วก็ตามแต่ว่าก็ยังเกิน
01:21:23 → 01:21:25 น่ะยังไม่น่าจะขาดอ่ะผมเลยรู้สึกว่าของเา
01:21:25 → 01:21:29 เนี่ยตัวอินเลเวลมันยังไม่ได้เจาะเนาะแต่
01:21:29 → 01:21:31 คิดว่ามันไม่น่าจะต่ด
01:21:31 → 01:21:34 อืแสดงว่าสมมุติว่า in Level ไม่ต่ำ
01:21:34 → 01:21:38 เนี่ยแต่ว่ากินแป้งน้อยกิน ow ขาบเนี่ย
01:21:38 → 01:21:41 มันก็อาจจะอิเล็กโทรไลต์บางตัวไม่พอได้
01:21:41 → 01:21:45 เหมือนกันใช่แล้วก็ถ้าอยู่ในช่วง 6 เดือน
01:21:45 → 01:21:49 แรกโดยเฉพาะ 6 สัปดาห์ถึง 3 เดือนเนี่ย
01:21:49 → 01:21:52 การเกิดปัญหาเรื่อง EL disturbance หรือ
01:21:52 → 01:21:54 ฟู
01:21:54 → 01:21:59 นะนี่แหละมันก็จะเกิดขึ้นให้
01:21:59 → 01:22:04 เห็นก็แนวทางการตรวจการตรวจเลือดเพิ่ม
01:22:04 → 01:22:07 เติมที่เน่าจะไปตรวจหรือหรือขอตรวจเนี่ย
01:22:07 → 01:22:10 น่าจะตรวจอะไรม้างครับอาจารย์ถ้าแบบเอ่อ
01:22:10 → 01:22:14 ถ้าเป็นแบบนี้ก็มันตรวจไม่เจอหรอกฮะพวก
01:22:14 → 01:22:16 อิเล็กโตรไลต์เพราะมันต้องตรวจแบบคาหนัง
01:22:16 → 01:22:19 คาเขาตรงนั้นเลยซึ่งการเจาะเลือดแล้ว
01:22:19 → 01:22:22 เนี่ยนะพอเจาะตเลือดดำหมายถึงว่าเราไป
01:22:22 → 01:22:26 ตรวจตอนเช้าไปตรวจตุ่มอะไรแบบเนี้ยมันคือ
01:22:26 → 01:22:28 ถ้าไม่ได้มีอาการแล้วแล้วไปเจาะไว้ก่อน
01:22:28 → 01:22:30 อย่างเงี้ยมันจะไม่บอกอะไรเออไม่บอกนะมัน
01:22:30 → 01:22:33 ต้องส่งับไปในครึ่งภายในครึ่งชั่วโมงที่
01:22:34 → 01:22:36 มีอาการปุ๊บตรวจเลยเออเจาะเลยแล้วเอา
01:22:36 → 01:22:40 เลือดไปส่งตรวจเลยโยากมันจะยากเพราะ
01:22:40 → 01:22:44 ฉะนั้นแก้ไปเลยก็แก้ด้วยการกินเกลือหรือ
01:22:44 → 01:22:50 หาพวกผักผงผักปั่นอะไรต่างๆมากินเออแล้ว
01:22:50 → 01:22:52 คือคนนี้เได้เได้เกลือชมพูที่ที่ที่ผม
01:22:52 → 01:22:56 แบ่งขายให้ไปอ่ะนะเออนัได้ไปแล้วแล้วก็
01:22:56 → 01:23:00 แล้วเขาก็ใส่เกลือชมพูในในสูตรทอยเขาก็ทำ
01:23:00 → 01:23:03 สูตรคล้ายๆที่ที่เรากินที่ผมกินก็ให้
01:23:03 → 01:23:06 เพิ่มขึ้นไปอีกครึ่งช้อนหรือ 1 ช้อนอืต่อ
01:23:06 → 01:23:11 วันจากเดิมก็อาจจะใส่น้อยเกินไปเพราะกย้า
01:23:11 → 01:23:16 กระหยังก้าๆกลัวๆเพราะบอกแล้วว่ามันควรจะ
01:23:16 → 01:23:21 กินเกลือ 3 สีแล้วก็ Maximum ได้ก็คือสี
01:23:21 → 01:23:26 ละ 1 ช้อนโต๊ะวันนึงได้ถึง 3 ั้
01:23:26 → 01:23:30 โต๊ะ 1 งั้นก็เติม 1 นะถ้าในเมื่อมันไป
01:23:30 → 01:23:33 ตรวจจริงมันยากเราก็เติมไปเลยเบื้องต้นก็
01:23:33 → 01:23:37 คืออก็คือ inc ose ไปเลยตัวตัวตัวเกือ
01:23:37 → 01:23:41 ชมพูที่ทานอยู่แล้วก็ได้ใช่มฮะใช่แล้วพวก
01:23:41 → 01:23:46 พวกผผงผัดใบเบอร์รี่มาปั่นอิอ๋อเบอร์รี่
01:23:46 → 01:23:48 เบอร์รี่ก็เป็นแนะนำเป็น 2 ตัวที่อาจารย์
01:23:48 → 01:23:52 เคยแนะนำผมใช่มั้ยครับตัวบอกับกับแนึ
01:23:52 → 01:23:54 เปล่าหรือว่าเป็นตัวอื่นด้วยอ่าเป็นผน
01:23:54 → 01:23:58 สตรอเบอร์รี่เอ่ออะไรอย่างนี้ก็ได้เลยแต่
01:23:58 → 01:24:01 ว่าไม่ได้เอาเยอะแยะเอานิดๆหน่อยๆมาปั่น
01:24:01 → 01:24:05 กับพวกผักใบผักผงอ่ะ
01:24:05 → 01:24:08 นะปัจจุบันเนี่ยมันมีผักผงขายเต็มไปหมด
01:24:08 → 01:24:11 เลยพวกผักผงเนี่ยมันจะเด่นเรื่อง
01:24:11 → 01:24:16 โปแตสเซียมเอโปแตสเซียมแมกนีเซียมแล้วเรา
01:24:16 → 01:24:19 ก็เติมพวกเกลือไปปั่นอย่าเงี้ยนะแล้วอาจ
01:24:19 → 01:24:23 จะหาเบอร์รี่มาเติมไปนิดๆหน่อยๆจะเป็นผง
01:24:23 → 01:24:24 ก็ได้หรือจะเป็นรูป
01:24:25 → 01:24:28 สุกๆเลยเป็นสตรอเบอร์รี่หรือแหรืออะไรพ
01:24:29 → 01:24:32 กินกินไปหลังอาหารเย็นอย่างงี้ก็ได้ได้ฮะ
01:24:32 → 01:24:36 เป็นผลไม้ตระกุลเบี่เออกินเป็นสนคเป็น
01:24:36 → 01:24:39 มื้อว่างหรือเป็นพร้อมๆใกล้ๆเวลาอาหาร
01:24:40 → 01:24:43 หรือก่อนเวลาที่มันจะมีอาการมาเป็นแบบ
01:24:43 → 01:24:47 อะไรอ่ะกระตุกระสั่นๆอะไรเงยอันอันนี้เ
01:24:47 → 01:24:52 โพสต์ในของเรารป่าหรหรือห้องคุณหมอเจเค
01:24:52 → 01:24:56 ถามไพโรจอยู่มั้งอ๋อถามพี่ไพโรจเอออ๋อใช่
01:24:56 → 01:24:58 ๆเพราะเคคุยกับพี่ไพโรจก่อนก่อนก่อนจะมา
01:24:58 → 01:24:59 เจอ
01:24:59 → 01:25:02 ผม
01:25:03 → 01:25:09 คุยก็แล้วพวกเกือแตัวรองๆแมกนีเซียมอะไร
01:25:09 → 01:25:11 พวกนั้นมันมันต้องไปหากินด้วยมั้ยฮะ
01:25:11 → 01:25:13 อาจารย์
01:25:13 → 01:25:17 เอ่อถ้าถ้าถ้าทำแบบที่ว่านี้แล้วอ่ะกิน
01:25:17 → 01:25:22 ผักผงกินกินอะไรกินเกลืออะไรแล้วยังไม่
01:25:22 → 01:25:25 ค่อยดีขึ้นก็ต้องหาพวกเอ่อแคลเซียม
01:25:25 → 01:25:27 แมกนีเซียมสังกสี
01:25:27 → 01:25:32 เออมากินโปแทสเซียมอะไรเออเป็นเม็ดอ่ะ
01:25:33 → 01:25:36 เป็นอาหารเสริม
01:25:37 → 01:25:41 อือก็คครหาหาอาหารเสริมเติมเข้าไปแต่ส่วน
01:25:41 → 01:25:43 ใหญ่แมกนีเซียมนี่เป็นตัวที่คนมักจะขาด
01:25:43 → 01:25:49 ลองจากพวกวิดีครับเลยมฮอจารใช่โปแตสเซียม
01:25:49 → 01:25:54 แมกนีเซียมวิตามินดีสังกสีเซเลเนียม
01:25:54 → 01:25:57 แต่ผมลองหาดูใน shopee อย่างเงี้ยส่วน
01:25:57 → 01:26:00 ใหญ่มันก็ขายแยกๆนะมันไม่ค่อยมีที่แบบว่า
01:26:01 → 01:26:03 รวมตัวเด่นๆมาเลย 3-4 ตัวที่เราพูดกัน
01:26:03 → 01:26:07 เนี่ยอืหรือบางทีมันก็ไปจับคู่อะไรก็ไม่
01:26:08 → 01:26:10 รู้บางทีมันจะชอบให้เป็นว B with C
01:26:10 → 01:26:12 ซึ่งผมว่าเราส่วนใหญ่มันมันก็อาจจะไม่ได้
01:26:12 → 01:26:17 ขาดมากมาย
01:26:17 → 01:26:20 อืแมกนีเซียมนี่โดสมันเท่าไหร่นะครับ
01:26:20 → 01:26:24 อาจารย์แมกนีเซียมนะถ้ากินก็คือ 400 400
01:26:24 → 01:26:26 ขึ้นไป 400
01:26:26 → 01:26:30 -800 ต่อวันเลยนะฮะต่อวันนะเป็นเป็น
01:26:31 → 01:26:34 ไมโครกรัมใช่มั้ยเป็นมิลลิกรัมนะเพราะว่า
01:26:34 → 01:26:37 ปกติเม็ดนึงที่เทำมาก็ประมาณ 150 หรือ 200
01:26:37 → 01:26:41 มิลลิกรัมนะถ้ากิน 400 ก็ 2 เมดส่วนใหญ่
01:26:41 → 01:26:44 ก็กิน 400 เพราะว่าโดยทั่วไปเราได้อาหาร
01:26:44 → 01:26:46 จากอาหารในชีวิตประจำวันอยู่ก็ประมาณ
01:26:46 → 01:26:49 เกือบๆ 400 เช่นเดียวกันรู้สึกผมเพิ่ง
01:26:49 → 01:26:52 ซื้อมาวันก่อนมัน 150 หรือเปล่าถ้า 150
01:26:52 → 01:26:54 แล้วก็ควรจะกิน 3 เลยมยฮะก็กินกิน 2 เม็ด
01:26:54 → 01:27:01 พอ 300 ออก็พออก็ 300 ก็ยังดีฮะอืแต่กิน
01:27:01 → 01:27:04 200 ไม่พอ 200 ไม่พอ
01:27:05 → 01:27:08 อืแมกนีเซียมแล้วแล้วแล้วมันสำคัญมั้ยว่า
01:27:08 → 01:27:12 จะต้องเป็นแมกนีเซียมและไอ้ไอไอ้ตัวเคมี
01:27:12 → 01:27:15 ที่มันลงท้ายอ่ะมันมันเพราะผมเห็นมันก็มี
01:27:15 → 01:27:16 อยู่ 3-4 ตัวเหมือนกันรือเปล่าที่ที่มัน
01:27:17 → 01:27:24 ขายสำคัญฮะสำคัญนะแต่ส่วนใหญ่ตัวที่จะได้
01:27:24 → 01:27:29 ผลค่อนข้างดีก็คือแมกนีเซียมอะไรอะไรนะ
01:27:29 → 01:27:34 บีสอะไรเทเทออะไรสักอย่างป่ะเเนตรเทต
01:27:34 → 01:27:37 อะไรตมันดีต่อ
01:27:37 → 01:27:45 สมองมิตเอ้ยไอ้ไอ้ตัวแมกนีเซียมกิตอ๋อไซต
01:27:45 → 01:27:46 เออ
01:27:46 → 01:27:49 ไซตตัวนี้ก็เห็นบ่อยเหมือนกันเป็น
01:27:49 → 01:27:55 แมกนีเซียมไซตหรือบีสไซตก็ได้นะตัวบต
01:27:55 → 01:27:57 เนี่ยมันมันจะทำให้ความเข้มข้นของ
01:27:57 → 01:28:01 แมกนีเซียมเพิ่มขึ้นไปอีก 0.5 เท่า
01:28:01 → 01:28:05 อืพูดง่ายๆว่าถ้าเรากิน 300 มันก็ได้มัน
01:28:05 → 01:28:07 ก็เท่ากว่าจริงๆแล้วเอฟเฟคมันมันจะเบิ้ล
01:28:07 → 01:28:11 ไปเป็น 450 อะไอย่างงั้นเลยอือ๋อแต่มันจะ
01:28:11 → 01:28:15 แพงกว่าเแพงกว่าเหน่อยนะแมกนีเซียมบิตนะ
01:28:15 → 01:28:20 ถ้าไม่มีก็แมกนีเซียมไตอือันนี้ก็จะแต่
01:28:20 → 01:28:22 ถ้าเป็นแต่ถ้าเราหาไม่ได้หรือเราไปได้ตัว
01:28:22 → 01:28:25 อื่นมามันก็คือได้ใช่มฮะแต่ว่าสิิผลมันก็
01:28:25 → 01:28:29 จะด้อยกว่าบ้าง
01:28:29 → 01:28:33 เออคือถ้าเ้าเป็น My แนกแวสเนี่ยส่วนใหญ่
01:28:33 → 01:28:37 ก็มีปัญหาแมกนีเซียมนั้นแหละที่หนังตามัน
01:28:37 → 01:28:40 ตกรีก
01:28:40 → 01:28:47 นะคือคือประเด็นไอ้ไเวสเนี่ยเหมือนเหมือน
01:28:47 → 01:28:50 เค้าก็เหมือนหมอนิวโรเก็ไม่แน่ใจวินิจฉัย
01:28:50 → 01:28:52 อ่ะอือแล้วคนไข้เก็เป็นมาตั้งแต่เด็กแล้ว
01:28:52 → 01:28:54 ไอ้เรื่องหนังตาตกเหมือนเเหมือนเค้าไม่
01:28:54 → 01:28:56 ได้คอนเซิร์นเไม่ได้เดือดร้อนเรื่องนี้
01:28:56 → 01:29:00 ด้วยซ้ำไปอ่ะอือือๆคือก่อนที่เ้ามาคุยกับ
01:29:00 → 01:29:02 พี่ไพโรจอ่ะเรื่องของเรื่องคือเ้ามีมี
01:29:02 → 01:29:05 เครียดเรื้อรังสะสมที่ว่าพ่อแม่เเสียแล้ว
01:29:05 → 01:29:08 ก็ก่อนเสียก็ป่วยเรื้อรังต้องดูแลต้อง
01:29:08 → 01:29:11 อะไรแบบเนี้ยนอนไม่พอแล้วตัวเองก็เป็นแบบ
01:29:11 → 01:29:14 อ้วนคุงเครียดสายเนื้ออะไรแบบผมนี่แหละนะ
01:29:14 → 01:29:17 แล้วเขาก็พอไปเจอปุ๊บก็โอ้โหไทรรอยด์เป็น
01:29:17 → 01:29:19 พิษเบาหวานอีกต่างหากมาพร้อมกันหมดทุก
01:29:19 → 01:29:22 อย่างเลยก็ไม่รู้จะเอายังไง
01:29:22 → 01:29:27 ดีเอเออ
01:29:27 → 01:29:31 เอ้อก็ไม่มีอะไรก็แก้ไปเรื่องคล้ายๆ
01:29:31 → 01:29:33 อิเล็กโตรไลต์นี่แหละเพราะว่าเวลา ow C
01:29:33 → 01:29:35 แล้วเนี่ยมันก็จะมีปัญหาเรื่อง
01:29:35 → 01:29:39 อิเล็กโตรไลต์เนี่ยหลักในช่วงแรก
01:29:39 → 01:29:44 ๆทีนี้ถ้าเน็ตไอ้ถ้าเบาหวานมาิัแล้วแบบ
01:29:44 → 01:29:48 เนี้ยตัวเน็ตาฟมันก็ไม่ต้องสตกมากก็ได้
01:29:48 → 01:29:51 ใช่มออาจจะุดขึ้นมาแถวๆ 50-80 กรัก็น่าจะ
01:29:51 → 01:29:54 ได้ใช่ก็ยังไม่ควรเกิน 100 กรั
01:29:54 → 01:29:56 แต่อยากให้อยู่แถวๆ 100 กรัก็ต้องออก
01:29:56 → 01:30:02 กำลังกายให้เยอะขึ้นอือก็ขึ้นอยู่คือเหตุ
01:30:02 → 01:30:05 ผลของการกินคาฟน่ะอย่างหนึงก็คือคือกล้าม
01:30:05 → 01:30:08 เนื้อคือแหล่งที่คาฟมันจะไปคือตับกับ
01:30:08 → 01:30:11 กล้ามเนื้อเพราะฉะนั้นอยากกินมากขึ้นจริง
01:30:11 → 01:30:13 ๆเนี่ยก็คือใช้กล้ามเนื้อเพื่อจะให้กล้าม
01:30:13 → 01:30:17 เนื้อเนี่ยไปเก็บอ่าเก็บคาฟน่ะที่จะกิน
01:30:18 → 01:30:20 เยอะ
01:30:20 → 01:30:24 ๆก็มีแค่นั้นแหละนะ
01:30:24 → 01:30:28 เพราะว่าคาฟในร่างกายเนี่ยมนุษย์ใช้คาฟ
01:30:28 → 01:30:31 ได้ 2 ที่เท่านั้นแหละคือตับกับกล้าม
01:30:31 → 01:30:33 เนื้อไม่มีที่
01:30:33 → 01:30:36 อื่นกับกล้ามเนื้อเป็นตำแหน่งของอวัยวะ
01:30:36 → 01:30:38 ที่จะเป็นตัวรองรับ
01:30:38 → 01:30:40 คาร์โบไฮเดรตเพราะฉะนั้นตับเนี่ยมันไม่
01:30:40 → 01:30:45 เยอะมันมีข้อจำกัดในการกลูโคโนกลายเป็น
01:30:45 → 01:30:46 ไกลโคเจน
01:30:46 → 01:30:49 กล้ามเนื้อจะเยอะหน่อยยิ่งคุณสร้างก้าม
01:30:49 → 01:30:51 เยอะๆคุณก็เก็บคาฟได้เยอะ
01:30:51 → 01:30:55 ๆหลังจากนั้นที่อื่นอืไม่มีแหล่งที่ไปนะ
01:30:55 → 01:31:00 าฟเนี่ยไม่มีเอได้แค่
01:31:00 → 01:31:04 นี้ไม่งั้นอยากได้คาฟเยอะๆใช่มั้ยได้ก็
01:31:04 → 01:31:06 ออกกำลังกายให้เยอะสร้างกล้ามเนื้อไว้
01:31:06 → 01:31:11 เยอะๆนี่แหละต่ออนอกนั้นก็คือเอาให้สะสม
01:31:11 → 01:31:15 นอกนั้นเนี่ยาฟก็จะเปลี่ยนเป็นไขมงไขมัน
01:31:15 → 01:31:19 หรือไปมีฤทธิ์ร้ายแรงเป็นพิษไม่ดีอะไร
01:31:19 → 01:31:25 ต่างๆ
01:31:25 → 01:31:28 โอเคครับเอพี่หมอเดี๋ยวอันนี้พี่หมอเอา
01:31:28 → 01:31:33 สไลด์ขึ้นเลยได้มั้ยครับอุ้ยเหรอเออคน
01:31:33 → 01:31:36 อื่นเขาจะว่าอะไรเรามยเพราะว่าเราไม่ได้
01:31:36 → 01:31:39 เลเบลอะไรเรามาเหมือนมาคุยกันเองอ่ะเป็น
01:31:39 → 01:31:43 ตัวอย่างเครับๆกินได้เดี๋ยวเราต้องเข้าไป
01:31:44 → 01:31:46 รบกินได้กินได้ครับกิน
01:31:46 → 01:31:50 กินแต่ว่ามันก็ไม่ได้ภาพพิมพ์ไทยอะไรนะ
01:31:50 → 01:31:54 คุณหมอเหรเออ
01:31:54 → 01:31:56 ครับๆเพราะว่ายังไงในวีีดีโอมันก็ลบไม่
01:31:56 → 01:32:02 ได้อยู่แล้วตอถูมยครับจะจะได้เอาไป
01:32:02 → 01:32:07 ตอบโอเยคุยกันไปยเลยล่ะครับๆเพราะว่าเ
01:32:07 → 01:32:12 หน่าตัดได้ไม่นานอ่ะคแค่ชั่วโมงึ่งโอเหรอ
01:32:12 → 01:32:15 ันนี้รอกๆเหรอครับอาจารย์ก็พอดีมันมีเคส
01:32:15 → 01:32:19 เอสโตรเจนเด่นน่ะมาให้เห็นแล้วมีผลแหบชัด
01:32:20 → 01:32:25 เจนเลยฮะมันเหมาึงการอธิบายขับรถมาจาก
01:32:25 → 01:32:28 โคราชมาทำธุระที่ที่เมืองนนท์มาพักบ้าน
01:32:28 → 01:32:30 กรุงเทพฯครับผมก็เลยไม่ได้เข้ามาปังด้วย
01:32:30 → 01:32:33 เลยไม่รู้คุยเกสอะไรกันแต่เมื่อกี้เห็น
01:32:33 → 01:32:36 เห็นเห็นเป็นเคสคุณอัญชลีพอดีนี่ๆนี่ก็
01:32:36 → 01:32:40 นัดเอาเอาาน้ำมันให้เ้าเหมือนกันพรุ่งนี้
01:32:40 → 01:32:42 พรุ่งนี้เขาจะมาเอาที่โคราชผมก็เลยฝากที่
01:32:42 → 01:32:45 ที่ทำงานเอาไว้เพราะว่าผมมาธุระกรุงเทพฯ
01:32:45 → 01:32:49 เออมันเป็นเคสต่อเนื่องกับเคสที่เราไลฟ์
01:32:49 → 01:32:52 ไปเมื่อวันพฤหัสบดีอันนั้นผู้ชายพรุง
01:32:52 → 01:32:55 เครียดแต่อนี้เป็นผู้หญิงหญิงเอออ๋อแล้ว
01:32:55 → 01:32:57 เอสโตรเจนเป็นสายเนื้อเหมือนกันเป็น
01:32:57 → 01:33:00 เอสโตรเจนเด่นสายเนื้อแต่ต้องต้องแก้ไข
01:33:00 → 01:33:02 คล้ายๆกับผู้ชายคนนั้นแหละคือต้องออก
01:33:02 → 01:33:06 กำลังกายแล้วก็ต้องประคบประหงมตับแล้วก็
01:33:06 → 01:33:09 ต้องให้พลังงานเข้าทางระบบน้ำเหลืองเป็น
01:33:09 → 01:33:14 หลักแต่ทีนี้ถ้าหัวเอสโตรเจนเนี่ยการออก
01:33:14 → 01:33:18 กำลังกายเาอาจจะปรับตัวหรือเขอาจจะทำได้
01:33:18 → 01:33:21 ได้ได้ดีกว่าได้ดีกว่าคงมเียบนะหมายถึง
01:33:21 → 01:33:25 ว่าชนะเลิศทุกกลุ่มเลยชนะไทรอยด์ด้วย
01:33:25 → 01:33:28 เพราะเวลาทดสอบเต้นหน้าห้างเนี่ยพวก
01:33:28 → 01:33:31 เอสโตรเจนเนี่ยจะอึดจะไม่พักเลยไทรรอยด์
01:33:31 → 01:33:35 เดี๋ยวมาเดี๋ยวไปอ่ะนะไรอยอ่ะเดี๋ยวมา
01:33:35 → 01:33:39 เดี๋ยวไปแต่เอสโตรเจนเนี่ยก็ดูสิดูท่อนขา
01:33:39 → 01:33:43 ดูก้นดูสพกนะกล้ามเนื้อมหาศาลออึดๆอึอ๋อ
01:33:43 → 01:33:46 อึดกว่าพวกพวกสายแป้งอีกว่างั้นอึดกว่า
01:33:46 → 01:33:50 อึดกว่าสายอึดกว่าพวกไทรรอยด์
01:33:50 → 01:33:54 ฮะคือเต้นไม่หนีอ่ะเต้นไม่หนีแล้วมาทุก
01:33:54 → 01:33:59 วันนะมาทุกวันเต้นไม่หนีนะแล้วก็ต้นขาย
01:33:59 → 01:34:03 ใหญ่มาเริ่ม
01:34:03 → 01:34:06 เทิ่ก็เป็นอย่างนี้แหละนะก็ให้ขึ้นไปนำ
01:34:06 → 01:34:10 เต้นเลยหน้าห้าง
01:34:10 → 01:34:13 โลตัสนะเพราะฉะนั้นก็ต้องใช้กล้ามเนื้อสี
01:34:13 → 01:34:17 แดงนี่แหละนะที่มันเพื่อกคาร์ดิโออ่ะมัน
01:34:17 → 01:34:20 จะใช้ไขมันได้เยอะนะเออเพราะฉะนั้นกดไข
01:34:20 → 01:34:24 มันอิสระป fy Acid non แฟตตี้แอซิดต่าง
01:34:24 → 01:34:28 ๆที่เนื้อเยื่อไขมันสะสมแล้วมันปล่อยออก
01:34:28 → 01:34:31 มาเนี่ยเพราะว่ามันสุดๆแล้วที่จะสะสมพลัง
01:34:31 → 01:34:34 งานส่วนเกินนี่แหละนะมันก็เลยต้องมาใช้
01:34:34 → 01:34:37 เรื่องเหล่านี้เนี่ยนะเป็นหลักในการช่วย
01:34:37 → 01:34:40 ลดน้ำหนักช่วยควบคุมพลังงานส่วนเกินแล้ว
01:34:40 → 01:34:43 ก็ทำให้เกิดการรีวการดือินซูลินที่กล้าม
01:34:43 → 01:34:44 เนื้อและที่
01:34:44 → 01:34:47 ต่ำหลักการก็เป็นอย่าง
01:34:47 → 01:34:51 เงี้นะคล้ายๆกันเลยนะเสายเนื้อทำอย่างนี้
01:34:51 → 01:34:55 นะถ้าอ้วนเยอะๆนะหรือน้ำหนักนิ่งค้างก็มา
01:34:55 → 01:34:59 ปรับนะแต่ต้องปรับให้เป็นนะอาหารจะกินยัง
01:34:59 → 01:35:02 ไงดูแลตับดูแลกล้ามเนื้อใช้กล้ามเนื้อ
01:35:02 → 01:35:06 ช่วยเหลือทำงานเลยทำยังไงอีกทิศทางนึงก็
01:35:06 → 01:35:10 พยายามตรวจนะให้ละเอียดว่าที่มาที่ไปของ
01:35:10 → 01:35:13 สาเหตุต่างๆที่เราเป็นอย่างนี้เพราะอะไร
01:35:13 → 01:35:16 นะแล้วก็จะได้ไปดับทุกข์ดับที่เหตุแลแก้
01:35:16 → 01:35:18 ต้นเหตุ
01:35:18 → 01:35:21 ด้วยวันนี้ก็แค่เคอย่างเงี้ถ้าเกิดเขาใช้
01:35:21 → 01:35:23 ยาคุมก็ต้องหยุดยาคุมรือเปล่าพี่หมอต้อง
01:35:23 → 01:35:26 หยุดยาคุมต้องคุมโดยวิธีอื่นฮะต้องคุม
01:35:26 → 01:35:29 วิธีอื่นเนาะเออก็แล้วแต่ให้ผู้ชายใช้ถุง
01:35:29 → 01:35:33 ยางอะไรอย่างเงี้ยแล้วก็แล้วก็ต้องลงลึก
01:35:33 → 01:35:36 ว่าเอสโตรเจนอะไรที่มันที่มันกินเข้าไป
01:35:36 → 01:35:40 แล้วเติมเข้าไปแล้วทำให้มันมีปัญหาอ๋อถ้า
01:35:40 → 01:35:44 ในแง่ของนรีเวชเนี่ยกลุ่มยาคุมเราไม่ใช้
01:35:44 → 01:35:49 ก็อาจจะต้องไปไปใส่ห่ใส่ห่วงใส่ถุงยาง
01:35:49 → 01:35:54 อะไรอย่าเี้ยถ้ายังอยู่ในระยะวัยเจริญพร
01:35:54 → 01:35:57 เราไม่ฝังยาคลุมเราไม่กินยาคุมเราไม่ฉีด
01:35:57 → 01:35:58 ยาคุม
01:35:58 → 01:36:00 [เพลง]
01:36:00 → 01:36:06 อืครับผมเออเคนะวันนี้ก็แโอเคแหละครับ
01:36:06 → 01:36:09 ครับเดี๋ยวๆเดี๋ยวผมตัดขึ้นให้เลยครับ
01:36:09 → 01:36:14 ครับสัสดีครับสวัสดีครับทุกคนครับสัสดี
01:36:14 → 01:36:22 [เพลง]
01:36:22 → 01:36:30 ครับเ
01:36:30 → 01:36:35 [เพลง]