00:00:00 → 00:00:02 มีสิ่งหัวใจเต้นคือเสียงการเปิดปิดของ
00:00:02 → 00:00:03 ลิ้นหัวใจ
00:00:03 → 00:00:05 [เพลง]
00:00:05 → 00:00:08 หัวใจของคุณจะไม่จำลองเซลล์เว้นแต่คุณ
00:00:08 → 00:00:10 สบัติเจ็บ
00:00:10 → 00:00:13 กระจกตาของคุณเป็นเพียงส่วนเดียวของร่าง
00:00:13 → 00:00:15 กายที่ไม่ได้รับเลือดพวกมันรับออกซิเจน
00:00:15 → 00:00:17 ผ่านอากาศโดยตรง
00:00:17 → 00:00:20 สมองของมนุษย์มีเซลล์ประสาท 1 แสนล้าน
00:00:20 → 00:00:22 เซลล์บวกหรือลบ
00:00:22 → 00:00:25 เส้นเลือดในร่างกายของคุณยาวพอที่จะวนรอบ
00:00:25 → 00:00:29 โลกได้ถึง 2 ครั้งหรือมากกว่านั้น
00:00:29 → 00:00:31 ความคิดที่ว่าเราใช้สมองเพียง 10
00:00:31 → 00:00:34 เปอร์เซ็นต์ของเราเป็นแค่ความเชื่อไม่ว่า
00:00:34 → 00:00:36 ตอนไหนก็ตามคุณใช้สมองเกือบ 100
00:00:36 → 00:00:38 เปอร์เซ็นต์ไม่อย่างนั้นคุณจะทำงานง่าย
00:00:38 → 00:00:42 ไม่ได้ฉันดื่มกาแฟสักถ้วย
00:00:42 → 00:00:45 เมื่อชาวโรมันโบราณแบ่งกว้างพวกเขาคิดว่า
00:00:45 → 00:00:47 กล้ามเนื้อของพวกเขาดูเหมือนหนูนั่นเป็น
00:00:47 → 00:00:49 เหตุผลที่คำว่า meisel ที่แปลว่ากล้าม
00:00:49 → 00:00:53 เนื้อมาจากคำว่าหนูตัวน้อยในภาษาละติน
00:00:53 → 00:00:56 ปอดข้างซ้ายของคุณเล็กปอดข้างขวาเพราะมัน
00:00:56 → 00:01:00 ต้องเผื่อที่ให้หัวใจของคุณด้วยอ่ะ
00:01:00 → 00:01:02 ผู้เ****วชาญเคยคิดว่าเราแยกกลิ่นได้
00:01:02 → 00:01:04 10000 กลิ่นเท่านั้นเกิดจากการศึกษาล่า
00:01:04 → 00:01:08 สุดพบว่ามนุษย์แยกควีนได้ถึง 1 ล้านกลิ่น
00:01:08 → 00:01:09 [เพลง]
00:01:09 → 00:01:12 สมองของคุณประกอบด้วยน้ำมากกว่า 70
00:01:13 → 00:01:15 เปอร์เซ็นต์และต้องการออกซิเจนในร่างกาย
00:01:15 → 00:01:17 ของคุณถึง 20%
00:01:17 → 00:01:21 ในปากของคุณมีแบคทีเรียต่างๆประมาณ 700
00:01:21 → 00:01:23 สายพันธุ์มีแบคทีเรียมากกว่า 6 พันล้าน
00:01:23 → 00:01:25 ตัวอยู่ในนั้น
00:01:25 → 00:01:28 ผิวของคุณเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดมันมี
00:01:28 → 00:01:31 พื้นที่พอๆกับผ้าเช็ดตัว 2 ผืน
00:01:31 → 00:01:33 ทุกครึ่งกิโลกรัมของไขมันที่เพิ่มขึ้น
00:01:33 → 00:01:36 ร่างกายของคุณจะต้องสร้างเส้นเลือดใหม่
00:01:36 → 00:01:38 106 กิโลเมตรเพื่อลำเลียงออกซิเจนและสาร
00:01:38 → 00:01:40 อาหารให้ร่างกายของคุณ
00:01:40 → 00:01:43 กระเพาะอาหารของคุณสร้างเยื่อบุใหม่ทุก 6
00:01:43 → 00:01:46 วันเพื่อหลีกเลี่ยงการย่อยตัวเอง
00:01:46 → 00:01:49 เยื่อหุ้มเซลล์หลอดเลือดและกล้ามเนื้อรอบ
00:01:49 → 00:01:52 ๆสมองของคุณมีตัวรับความรู้สึกเจ็บปวดแต่
00:01:52 → 00:01:54 สมองของคุณไม่มีหน้าไปเหตุผลว่าทำไมคุณ
00:01:54 → 00:01:56 ถึงไม่ปวดสมอง
00:01:56 → 00:01:59 ฟันถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงกระดูกของคุณ
00:01:59 → 00:02:01 แต่ไม่ธนี่เป็นกระดูก
00:02:01 → 00:02:04 เซอร์ประสาทส่งกระแสประสาท 1000 กระแสต่อ
00:02:04 → 00:02:08 วินาทีพวกมันเดินทางที่ 1.6 ถึง 431
00:02:08 → 00:02:10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
00:02:10 → 00:02:14 DNA ของเรามีไวรัส 1 แสนตัวนัก
00:02:14 → 00:02:16 วิทยาศาสตร์ได้ค้นพบไวรัสที่มีอยู่เมื่อ
00:02:16 → 00:02:19 100 ล้านปีก่อนด้วย
00:02:19 → 00:02:22 ถ้าคุณพิม 60 คำต่อนาทีเป็นเวลา 8
00:02:22 → 00:02:24 ชั่วโมงต่อวันคุณจะต้องใช้เวลา 5 10 ปี
00:02:24 → 00:02:28 ในการพิมพ์จีโนมของมนุษย์
00:02:28 → 00:02:31 โมเลกุลที่ใหญ่ที่สุดในร่างกายมนุษย์คือ
00:02:31 → 00:02:34 โครโมโซม 1 เสริมมนุษย์มีโครโมโซม 23 คู่
00:02:34 → 00:02:36 และโครโมโซมหนึ่งแต่ละตัวประกอบด้วยอะตอม
00:02:36 → 00:02:40 หนึ่งหมื่นล้านตัว
00:02:40 → 00:02:44 คุณหายใจเข้าไปสองหมื่นห้าพันล้านโมเลกุล
00:02:44 → 00:02:48 ในการหายใจ 1 ครั้งนั้นคือ 25 ตามด้วย 0
00:02:48 → 00:02:50 21 ตัวแล้วคุณสนะป่ะนะ
00:02:50 → 00:02:51 [เพลง]
00:02:51 → 00:02:54 คุณมีบานพับรูปใบไม้ที่ด้านบนของกล่อง
00:02:54 → 00:02:57 เสียงซึ่งจะปิดทุกครั้งที่คุณกลืนเพื่อ
00:02:57 → 00:03:00 ป้องกันให้อาหารเข้าสู่บ่อนอัครบ
00:03:00 → 00:03:02 ที่ร้านไก่ใช้เวลาประมาณ 1 เดือนในการ
00:03:02 → 00:03:05 ผลัดเซลล์ผิวใหม่ทั้งหมดเราผลัดเซลล์ผิว
00:03:05 → 00:03:08 ที่ตายแล้วประมาณ 3 หมื่นเซลล์ทุกๆ 60
00:03:08 → 00:03:11 วินาทีสูญเสียผิวหนังประมาณ 4 กิโลกรัมใน
00:03:11 → 00:03:14 แต่ละปีดังนั้นเมื่อเพื่อนของคุณแซวว่า
00:03:14 → 00:03:17 ลอกคราบหรอเขาก็ไม่ผิดสักทีเดียวนะ
00:03:17 → 00:03:21 เน็ตมือของพวกเรางอกเร็วกว่าเล็บเท้าซึ่ง
00:03:21 → 00:03:23 ออกช้ากว่าเกือบ 4 เท่านั้นเนื่องจากเล็บ
00:03:23 → 00:03:26 เท้าเกิดความเสียหายน้อยกว่าเล็บมือแปล
00:03:26 → 00:03:28 ว่าเราจะสะดุดล้มบ่อยครั้งที่ความเสียหาย
00:03:28 → 00:03:33 จากการล้ม Smile ดีมีผลมากนักขนตามีอายุ
00:03:33 → 00:03:36 เพียง 150 วันเท่านั้นคนตาที่ได้รับการ
00:03:36 → 00:03:39 บันทึกสถิติโลกยาวประมาณ 3 นิ้วแล้วก็ยัง
00:03:39 → 00:03:42 เป็นบ้านของตัวอะไรขนาดจิ๋วด้วยเรา
00:03:42 → 00:03:45 กระพริบตาประมาณ 4 ล้าน 2 แสนครั้งต่อปี
00:03:45 → 00:03:49 อย่างน้อยก็ทุกๆ 8 วินาทีเมื่อเราจะมา
00:03:49 → 00:03:52 อากาศที่เราพูดออกมามีความเร็ว 160
00:03:52 → 00:03:55 กิโลเมตรต่อชั่วโมงซึ่งเร่งได้เร็วกว่ารถ
00:03:55 → 00:03:58 เฟอร์รารี่คันใหม่เอี่ยมนอกจากนี้ซี่โครง
00:03:58 → 00:04:00 ของคุณหักได้ง่ายๆถ้าคุณจ๋าถ้าเกินไป
00:04:00 → 00:04:04 มนุษย์ผลิตน้ำลายตั้งแต่ 500 ML ไปจนถึง
00:04:04 → 00:04:08 950 ML ในทุกวันขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย
00:04:08 → 00:04:10 ของแต่ละคนนั้นพอที่จะเติมในอ่างอาบน้ำ
00:04:10 → 00:04:14 ได้หลายอ่างได้ 1 ปีแต่ไม่ได้ให้ผมน้ำลาย
00:04:14 → 00:04:17 นะน้ำลายเป็นยารักษาโรคสุด Perfect แผลใน
00:04:17 → 00:04:20 ปากของเราหายเร็วกว่าที่อื่นนอกจากนี้ยัง
00:04:20 → 00:04:24 ช่วยในการรับรสอาหารด้วยต่อมรับรสของเรา
00:04:24 → 00:04:26 ตรงที่จะรับรถเมื่อมันชุ่มด้วยน้ำลายเท่า
00:04:26 → 00:04:29 นั้นอาจฟังดูน่าเหลือเชื่อกระดูกของเรา
00:04:29 → 00:04:32 นั้นแข็งแรงกว่าที่เห็นกระดูกมนุษย์ 16
00:04:32 → 00:04:35 ลูกบาศก์เซนติเมตรสามารถรับน้ำหนักได้
00:04:35 → 00:04:38 ประมาณ 8 พันหกร้อยกิโลกรัมซึ่งแข็งแรง
00:04:38 → 00:04:41 กว่าคอนกรีต 4 เท่าสิ่งเดียวที่ทำให้
00:04:41 → 00:04:44 กรุ๊ปเลือดของเราแตกต่างกันคือน้ำตาล
00:04:44 → 00:04:48 เลือดกรุ๊ป AB และ AB มีน้ำตาล 5 ชนิดใน
00:04:48 → 00:04:50 ขณะที่กรุ๊ป O มีเพียง 4 ชนิดเท่านั้น
00:04:50 → 00:04:53 ซึ่งเหมาะที่จะเป็นผู้บริจาคเลือดการขาด
00:04:53 → 00:04:55 น้ำตาลอีกชนิดไม่ได้ทำให้กรุ๊ป O มีรส
00:04:55 → 00:04:58 หวานน้อยลงแต่ในความเป็นจริงมันดึงดูดยุง
00:04:58 → 00:05:01 มากกว่าเลือดกรุ๊ปอื่นเอาเงินคนเรามี
00:05:01 → 00:05:04 กรุ๊ปเลือดเพียง 8 ชนิดในขณะที่วัวมีถึง
00:05:04 → 00:05:08 800 กรุ๊ปและอาจมีมากกว่านั้นอีกโดยปกติ
00:05:08 → 00:05:12 ผมของเราร่วมประมาณ 50-150 เส้นต่อวัน
00:05:12 → 00:05:15 อายุขายโดยเฉลี่ยของเส้นผมคือ 5 ปีได้ทัน
00:05:15 → 00:05:18 ทีที่เช่นผมเก่าบอกลาหนังศีรษะของคุณเส้น
00:05:18 → 00:05:22 ผมใหม่ก็จะงอกขึ้นมาทันทีเส้นผมของมนุษย์
00:05:22 → 00:05:24 แข็งแรงกว่าเส้นลวดทองแดงที่มีเส้นผ่าน
00:05:24 → 00:05:27 ศูนย์กลางเข้ากันผม 1 เส้นกับน้ำหนักได้
00:05:27 → 00:05:30 ถึง 100 กรัมและถ้าเลือกใช้ผมอย่างถูก
00:05:30 → 00:05:33 วิธีผมทั้งศีรษะสามารถรับน้ำหนักได้ถึง
00:05:33 → 00:05:37 8400 กิโลกรัมกระพบของเราใหญ่กว่าที่คิด
00:05:37 → 00:05:40 ด้วยความจุเกือบ 0.2 กิโลกรัมเมื่อจำเป็น
00:05:40 → 00:05:43 ในขณะที่ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 900 50
00:05:43 → 00:05:47 ML อาหารจะถูกย่อยภายใน 4-6 ชั่วโมงและ
00:05:47 → 00:05:50 ยังย้อยโลหะได้ด้วยดังนั้นความจุจึงสำคัญ
00:05:50 → 00:05:55 มากริมฝีปากรับสัมผัสได้ไวกว่านิ้วมากมัน
00:05:55 → 00:05:57 มีปลายเส้นประสาทประมาณล้านเส้นซึ่งไว
00:05:57 → 00:06:01 กว่าปลายนิ้วถึง 100 เท่ามีร่องแล้วรอย
00:06:01 → 00:06:04 ย่นทำให้รอยริมฝีปากของเราไม่เหมือนใคร
00:06:04 → 00:06:06 เช่นเดียวกับลายนิ้วมือพลอยนั้นจะไม่
00:06:06 → 00:06:09 เรียนแปลงตลอดชีวิตของเรารอยบนลิ้นก็เป็น
00:06:09 → 00:06:12 เอกลักษณ์เช่นกันแล้วเราจะมีเครื่องอ่าน
00:06:12 → 00:06:13 รอยบนลิ้นเมื่อไหร่กันนะ
00:06:13 → 00:06:15 [เพลง]
00:06:15 → 00:06:18 สะดือของเรามีสวนสัตว์ทั้งสวนอยู่ในนั้น
00:06:18 → 00:06:21 โดยมีแบคทีเรียประมาณ 70 ชนิดบางชนิดพบ
00:06:21 → 00:06:24 ได้ในดินของญี่ปุ่นแล้วแต่ทีเรียหลายชนิด
00:06:24 → 00:06:27 ที่พบได้ทั่วไปบนน้ำแข็งครัวโลก
00:06:27 → 00:06:31 ร่างกายของเราเรื่องแสงได้จริงๆนะแม้ตอน
00:06:31 → 00:06:33 นี้เราจะมองไม่เห็นการเรืองแสงได้ด้วยตา
00:06:33 → 00:06:36 เปล่าเนื่องจากแสงที่เราเพลงออกมานั้นมี
00:06:36 → 00:06:38 ความเข้มน้อยกว่าระดับต่ำสุดถึง 1000
00:06:38 → 00:06:42 เท่าของระดับที่เรารับรู้ได้หัวใจสูบฉีด
00:06:42 → 00:06:45 เลือดด้วยแรงดันที่มากจนสามารถยกหัวใจ
00:06:45 → 00:06:48 ขึ้นไปถึงชั้น 4 ของอาคารได้และใช้เวลา 45
00:06:48 → 00:06:51 วินาทีสำหรับเลือดของคุณในการปั๊มจากหัว
00:06:51 → 00:06:53 ใจผ่านร่างกายทั้งหมดและกลับไปยังจุด
00:06:53 → 00:06:56 เริ่มต้นนอกจากนี้ผัวใจยังสูบฉีดเลือด
00:06:56 → 00:06:59 ประมาณเจ็ดพันหกร้อยลิตรภายในวันเดียว
00:06:59 → 00:07:01 นั้นเกี่ยวจะหลังจากที่รถบรรทุกผสม
00:07:01 → 00:07:04 คอนกรีตทำได้เลยข้อมูลเคลื่อนไปตามเส้น
00:07:04 → 00:07:07 ประสาทที่ความเร็วประมาณ 320 กิโลเมตรต่อ
00:07:07 → 00:07:09 ชั่วโมงเกินรับจากที่หนึ่งไปยังอีกที่
00:07:09 → 00:07:12 หนึ่งในเวลาไม่กี่มิลลิวินาทีนั่นเป็น
00:07:12 → 00:07:14 เหตุผลว่าทำไมคุณถึงดึงมือของคุณกลับมา
00:07:15 → 00:07:18 อย่างรวดเร็วมาคุณเผลอไปแต่ที่สร้างร้อนๆ
00:07:18 → 00:07:21 สมองของคุณมีเซลล์ประสาทแปดหมื่นหกพัน
00:07:21 → 00:07:23 ล้านเซลล์ที่รวมกันเพื่อสร้างการเชื่อม
00:07:23 → 00:07:25 ต่อ 100 ล้านครั้งเพื่อการเปรียบเทียบ
00:07:25 → 00:07:28 กาแล็กซีทางช้างเผือกของเรามีดาวแค่
00:07:28 → 00:07:31 ประมาณ 3 แสนล้านดวง
00:07:31 → 00:07:33 กล้ามเนื้อที่เร็วที่สุดของร่างกายอยู่ใน
00:07:33 → 00:07:36 ดวงตาและการกระพริบตาใช้เวลาประมาณ 1
00:07:36 → 00:07:39 ส่วน 10 วินาทีแล้วคุณทำอย่างนั้นสอง
00:07:39 → 00:07:42 หมื่นครั้งต่อวันผู้ใหญ่อาจกระพริบตาโดย
00:07:42 → 00:07:46 เฉลี่ย 15 ครั้งต่อนาทีแต่เด็กทารกกระ
00:07:46 → 00:07:48 พริบตาเพียงหนึ่งหรือสองครั้งต่อนาทีเท่า
00:07:48 → 00:07:50 นั้นนักวิทยาศาสตร์ยังคงไม่ทราบสาเหตุแต่
00:07:50 → 00:07:53 อย่าไปท้ายเด็กทารกคนไหนแข่งจ้องตาล่ะ
00:07:53 → 00:07:57 รองเท้าของคุณมีต่อมเหงื่อ 250000 ต่อม
00:07:57 → 00:08:00 แล้วพวกมันก็คือเหยื่อได้ประมาณ 250 ML
00:08:00 → 00:08:02 ในหนึ่งวันเค้าของคุณนี้ก็เล่นไหมที่จริง
00:08:02 → 00:08:05 แล้วจมูกคุณต่างหากที่ได้กลิ่นส่วนทางของ
00:08:05 → 00:08:07 คุณนะก็แชร์เหม็น
00:08:07 → 00:08:10 ความสามารถในการดมกลิ่นของสุนัขนั้นดี
00:08:10 → 00:08:13 กว่ามนุษย์ถึง 1 แสนเท่าแต่คุณอย่างแยก
00:08:13 → 00:08:16 แยะกลิ่นต่างๆถึงล้านกลิ่นกลิ่นตาม
00:08:16 → 00:08:19 ธรรมชาติของร่างกายคนมีความเป็นเอกลักษณ์
00:08:19 → 00:08:22 มากยกเว้นถ้าคุณมีคู่แฟร์หลังคลอดเด็ก
00:08:22 → 00:08:25 ทารกจำนวนมากมีดวงตาสีฟ้าที่ค่อยๆเข้ม
00:08:25 → 00:08:28 ขึ้นตามกาลเวลาเป็นเพราะปริมาณของเมลานิน
00:08:28 → 00:08:31 ซึ่งเป็นเม็ดสีที่ทำให้ดวงตาผมและสีผิว
00:08:31 → 00:08:34 ของคุณมีสีของมันเองและในมาตราจะค่อยๆ
00:08:34 → 00:08:36 เพิ่มขึ้นในช่วง 2 3 ปีแรก
00:08:36 → 00:08:40 คารกแรกเกิดเห็นโลกเป็นสีเทาดำและกลับหัว
00:08:40 → 00:08:43 ความสามารถในการแยกแยะสีและกลับภาพจะเกิด
00:08:43 → 00:08:45 ขึ้นภายหลัง
00:08:45 → 00:08:48 ดวงตาของพวกเขาอาจใช้เวลาสักพักในการ
00:08:48 → 00:08:51 พัฒนาจนสมบูรณ์ในดวงตาของทารกมีขนาดเท่า
00:08:51 → 00:08:53 กับดวงตาของผู้ใหญ่
00:08:53 → 00:08:56 เอาจมูกและหูของคุณจะไม่หยุด Love โตตลอด
00:08:56 → 00:08:59 ทั้งช่วงชีวิตเศร้าแต่ก็จริง
00:08:59 → 00:09:02 แม้ว่าเราจะมีรูจมูก 2 รูปแต่พวกมันก็ไม่
00:09:02 → 00:09:06 ได้ทำงานพร้อมกันในคน 85% อากาศจะไหลผ่าน
00:09:06 → 00:09:08 รูไดรูหนึ่งจะรอบจมูกนี้จะเปลี่ยนแปลง
00:09:08 → 00:09:11 ตลอดทั้งวัน
00:09:11 → 00:09:14 หน้าแดงเกิดจากการกระจายของอะดรีนาลิน
00:09:14 → 00:09:16 เมื่อแก้มของคุณแดงกระเพาะอาหารของคุณก็
00:09:16 → 00:09:20 แดงด้วยเช่นกันน้ำลายที่มนุษย์ผลิตได้
00:09:20 → 00:09:22 ตลอดทั้งชีวิตมีปริมาณเท่าสระว่ายน้ำ 2
00:09:22 → 00:09:26 สระงานใหม่น้ำลายเยอะมากเลยนะ
00:09:26 → 00:09:29 ลิ้นประกอบด้วยมัดกล้ามเนื้อ 8 มัจโร
00:09:29 → 00:09:31 สร้างของมันเหมือนกับหนวดของปลาหมึกหรือ
00:09:31 → 00:09:34 งวงของช้างถึงแม้จะมีความเชื่อทั่วไปว่า
00:09:34 → 00:09:36 ลิ้นเป็นกล้ามเนื้อที่แข็งแรงที่สุดใน
00:09:36 → 00:09:39 ร่างกายมนุษย์แต่ก็ไม่ทิ้งหรอกจะเป็น
00:09:39 → 00:09:42 กล้ามเนื้อการต่างหากแรงกัดของมนุษย์เท่า
00:09:42 → 00:09:45 กับแรง 90 กิโลกรัมน้อยกว่าจระเข้และฉลาม
00:09:45 → 00:09:47 มากพวกมันมีแรงกัดนับร้อยกิโลกรัมแต่
00:09:47 → 00:09:50 มนุษย์ก็ยังมีแรงกัดมากกว่าปลาปิรันย่า
00:09:50 → 00:09:52 ครั้ง
00:09:52 → 00:09:53 [เพลง]
00:09:53 → 00:09:56 ท่านผู้หญิงยังคงเติบโตและเปลี่ยนแปลงแม้
00:09:56 → 00:09:58 ในวัย 20 ของพวกเธอไขมันใต้ผิวหนัง
00:09:58 → 00:10:01 เคลื่อนส่วนแก้มคอและขาส่วนล่างไปอยู่ที่
00:10:01 → 00:10:04 เอวหน้าท้องและต้นขาส่วนบนการเปลี่ยนแปลง
00:10:04 → 00:10:07 ที่สำคัญบางอย่างเกิดขึ้นในสมองที่ทำหน้า
00:10:07 → 00:10:10 ที่ในการตัดสินใจและความจำระยะสั้น
00:10:10 → 00:10:13 ผู้หญิงใช้สมองทั้งสองด้านอย่างมี
00:10:13 → 00:10:15 ประสิทธิภาพมาฟังใครสักคนผู้หญิงอาจเป็น
00:10:15 → 00:10:18 คนรับฟังที่ดีกว่าและได้ยินแม้แต่สิ่งที่
00:10:18 → 00:10:21 ไม่ได้ถูกพูดต้องขอบคุณสมัครทางด้านขวา
00:10:21 → 00:10:23 ที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์
00:10:23 → 00:10:26 และยังมีโอกาสน้อยกว่าที่จะสูญเสียการได้
00:10:26 → 00:10:27 ยินเมื่ออายุมากขึ้น
00:10:27 → 00:10:30 แม้ในตอนที่ผู้หญิงกำลังล่ะประสาทการได้
00:10:30 → 00:10:33 ยินสุดวัยของสาวๆก็ยังทำงานอยู่สิ่งมี
00:10:33 → 00:10:35 เกี่ยวข้องกับวิวัฒนาการและบทบาททาง
00:10:35 → 00:10:38 ประวัติศาสตร์ของผู้หญิงในฐานะแม่ที่ต้อง
00:10:38 → 00:10:40 ตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงร้องไห้ของลูก
00:10:40 → 00:10:43 โชคดีที่มีแค่เสียงแหลมสูงที่ปลูกพวกเธอ
00:10:44 → 00:10:45 ได้ง่าย
00:10:45 → 00:10:48 เด็กผู้หญิงมีปุ่มรับรสบดินทร์มากกว่าผู้
00:10:48 → 00:10:51 ชาย 35 เปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงมีการรับรส
00:10:51 → 00:10:54 ดีเยี่ยมในลิงค์ของสาวๆมีปุ่มรับรสดีกว่า
00:10:54 → 00:10:56 30 กลุ่มในพื้นที่ขนาดเท่าหลุมของที่
00:10:56 → 00:11:00 เจาะกระดาษน้ำตาลก็หวานขึ้นโซเดียมเค็ม
00:11:00 → 00:11:03 ขึ้นแต่รสขมเนี่ยสดสาวทนไม่ได้แล้วล่ะ
00:11:03 → 00:11:05 [เพลง]
00:11:05 → 00:11:08 ผู้หญิงจำงานที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ดีแต่
00:11:08 → 00:11:11 ลืมสิ่งที่ทำไปแล้วได้อย่างง่ายใดส่วนผู้
00:11:11 → 00:11:14 ชายในคนละเรื่องเลยแถมผู้หญิงก็จดจำใบ
00:11:14 → 00:11:16 หน้าได้ดีกว่าด้วย
00:11:16 → 00:11:19 งานวิจัยชิ้นหนึ่งเผยว่าผู้หญิงเห็นผู้
00:11:19 → 00:11:21 หญิงคนอื่นที่ส่วนชุดสีแดงว่าเป็นภัย
00:11:21 → 00:11:23 คุกคามต่อความสัมพันธ์ของพวกเธอผู้เข้า
00:11:23 → 00:11:26 ร่วมการทดลองรู้สึกเฉยๆในขณะที่ได้เห็น
00:11:26 → 00:11:29 ภาพของหญิงสาวในชุดสีอื่นๆแต่ชุดสีแดง
00:11:29 → 00:11:34 เนี่ยทำให้เกิดการแสดงอารมณ์อย่างชัดเจน
00:11:34 → 00:11:37 ผู้หญิงสามารถรับมือกับความเจ็บปวดได้มาก
00:11:37 → 00:11:39 กว่าผู้ชายพวกเธออย่าลืมความเจ็บปวดได้
00:11:39 → 00:11:41 เร็วกว่าแล้วก็ไม่เครียดเมื่อนึกถึง
00:11:41 → 00:11:44 ประสบการณ์ไม่น่าจดจำก่อนนะนี้
00:11:44 → 00:11:45 [เพลง]
00:11:45 → 00:11:49 สมองทั้งสองซี่ของสาวๆมีการประสานงานกัน
00:11:49 → 00:11:52 มากกว่าในสมองผู้หญิงมีเส้นใหญ่ซิกแซ็ก
00:11:52 → 00:11:54 ระหว่างด้านตัดกัดและด้านความการสร้าง
00:11:54 → 00:11:56 สรรค์ส่วนในสมองผู้ชายส่วนใหญ่เหล่านี้
00:11:56 → 00:11:59 กลับอยู่คนละฝั่งของซิกสมองนั่นเป็นเหตุ
00:11:59 → 00:12:02 ผลว่าทำไมผู้หญิงมาขอวิธีการแก้ไขปัญหา
00:12:02 → 00:12:05 ที่สร้างสรรค์หลักคาดไม่ถึงมากกว่าถึงแม้
00:12:05 → 00:12:07 ว่าผู้เธอจะไม่ใช่คนที่ตรงไปตรงมาแล้วก็
00:12:07 → 00:12:11 มีเหตุผลที่สุด
00:12:11 → 00:12:14 มีหัวใจของผู้หญิงมีขนาดเท่ากับ 75
00:12:14 → 00:12:16 เปอร์เซ็นต์ของหัวใจผู้ชายและเส้นเลือด
00:12:16 → 00:12:18 แดงในนั้นแค่กว่าเพื่อให้เห็นความแตกต่าง
00:12:18 → 00:12:21 หัวใจของผู้หญิงจะเต้นเร็วกว่าเป็นได้
00:12:21 → 00:12:24 ประมาณ 18 ครั้งต่อนาทีมากกว่าของผู้ชาย
00:12:24 → 00:12:27 ถึง 8 ครั้ง
00:12:27 → 00:12:31 ผู้หญิงใช้เวลาโดยเฉลี่ย 47 ชั่วโมงในการ
00:12:31 → 00:12:33 ย่อยอาหารในขณะที่สำหรับผู้ชายใช้เวลาสาม
00:12:33 → 00:12:36 สิบสามชั่วโมงทั้งนี้เป็นเพราะผู้หญิงมี
00:12:36 → 00:12:38 กระเพาะอาหารขนาดเล็กที่ผลิตกรดน้อยกว่า
00:12:38 → 00:12:41 นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมความเร็วของการย่อย
00:12:41 → 00:12:46 อาหารนั้นช้าลง 20%
00:12:46 → 00:12:49 ผู้หญิงโดยเฉลี่ยพูดประมาณ 2 หมื่นคันต่อ
00:12:49 → 00:12:52 วันมากกว่าผู้ชาย 7000 คำพื้นที่สมองที่
00:12:52 → 00:12:54 ทำหน้าที่ด้านทักษะภาษาและการปฏิสัมพันธ์
00:12:54 → 00:12:58 ทางสังคมของเพศหญิงมีขนาดใหญ่กว่ายิ่ง
00:12:58 → 00:13:00 กว่านั้นผู้หญิงมีระดับที่เรียกว่าโปรตีน
00:13:00 → 00:13:03 ภาษาสูงกว่าสิ่งที่ทำให้สดสาวพูดเยอะขึ้น
00:13:03 → 00:13:07 แล้วก็เร็วกว่าผู้ชายดูแล้วนะตอนนี้
00:13:07 → 00:13:10 คุณมะเขือรู้สึกคลื่นไส้หลังจากเล่นรถไฟ
00:13:10 → 00:13:13 เหาะมาเล่นเกมส์ biar สิ่งเหล่านี้เกิด
00:13:13 → 00:13:15 จากการที่สมองของคุณไม่ได้รับการปรับให้
00:13:15 → 00:13:18 เข้ากับอาการวินเวียนศีรษะในลักษณะแบบนี้
00:13:18 → 00:13:20 มันจะคิดว่านี่คือสัญญาณของการที่คุณกิน
00:13:20 → 00:13:23 อะไรที่ไม่ดีเข้าไปอย่างนั้นคุณจะรู้สึก
00:13:23 → 00:13:25 อยากอาเจียนเนื่องจากสมองทำการส่งสัญญาณ
00:13:25 → 00:13:27 ไปยังกระเพาะอาหารของคุณเพื่อให้กำจัด
00:13:27 → 00:13:30 สิ่งที่มีพิษออกไปจากร่างกายแม้ว่าจริงๆ
00:13:30 → 00:13:33 แล้วมันจะไม่มีอะไรแบบนั้นอยู่ก็ตามก็ดู
00:13:33 → 00:13:35 กำปั้นของเด็กทารกจะยังไม่เจริญเติบโต
00:13:35 → 00:13:37 สมบูรณ์เต็มที่ที่ส่วนกระทั่งถึงอายุสิบ
00:13:37 → 00:13:39 ขวบที่เป็นแบบนั้นเพราะวัยเด็กเป็นวัยที่
00:13:39 → 00:13:42 ต้องการความยืดหยุ่นมากดังนั้นกระดูกหลาย
00:13:42 → 00:13:44 แห่งจึงยังคงเป็นกระดูกอ่อนอยู่
00:13:44 → 00:13:47 ในช่วงที่ทารกยังคานด้วยมือนั้นต้องอาศัย
00:13:47 → 00:13:50 แรงกดที่ข้อมือเป็นอย่างมากหากพวกเขามี
00:13:50 → 00:13:51 กระดูกความบ้านที่เจริญเติบโตสมบูรณ์แล้ว
00:13:51 → 00:13:54 จะก่อให้เกิดอันตรายได้
00:13:54 → 00:13:56 เซอร์ไพรส์เหงื่อไม่ใช่ต้นเหตุของกลิ่น
00:13:57 → 00:13:58 ที่ทำให้คุณต้องรีบไปอาบน้ําหลังออก
00:13:58 → 00:14:01 กําลังกายต้นเหตุจริงๆที่ทำให้เกิดกลิ่น
00:14:01 → 00:14:03 กายที่แบบชีวิตต่างหากแต่อย่าเพิ่งต่อว่า
00:14:03 → 00:14:06 พวกมันเลยมีแบคทีเรียบางชนิดที่ดีสำหรับ
00:14:06 → 00:14:08 ร่างกายเราเพราะพวกมันจะต่อสู้กับ
00:14:08 → 00:14:10 แบคทีเรียชนิดอื่นเพื่อให้ตัวเองมีที่
00:14:10 → 00:14:12 อยู่เป็นของตัวเองๆและนั่นทำให้คุณห่าง
00:14:12 → 00:14:15 ไกลจากสิวหรือปัญหาการติดเชื้อหนึ่งได้
00:14:15 → 00:14:17 ความจริงฟังก์ชั่นการใช้งานของมันได้แล้ว
00:14:17 → 00:14:19 หมดไปแล้วตั้งแต่ที่มนุษย์มีการใส่รอง
00:14:19 → 00:14:22 เท้านิ้วก้อยเช้าถูกสร้างขึ้นมาเพื่อช่วย
00:14:22 → 00:14:24 รักษาการทรงตัวขณะที่เราเดินด้วยเท้า
00:14:24 → 00:14:27 เปล่าแต่ตอนนี้ดูเหมือนมันมีประโยชน์ไว้
00:14:27 → 00:14:30 เพื่อให้เราเตะตามองปริเจอเท่านั้นบางที่
00:14:30 → 00:14:33 นาคดด้วยกระบวนการวิวัฒนาการของมนุษย์พวก
00:14:33 → 00:14:36 เราอาจไม่มีมันอีกต่อไปก็ได้ถึงเวลาส่ง
00:14:36 → 00:14:40 ลูกหมูตัวน้อยกลับบ้านแล้วบาย
00:14:40 → 00:14:44 เส้นผมขนเล็บจะยาวเร็วขึ้นหากได้รับสาร
00:14:44 → 00:14:47 อาหารมากขึ้นจากการส่งผ่านของเลือดและ
00:14:47 → 00:14:48 ความจริงก็คือร่างกายของเราไม่มีความ
00:14:48 → 00:14:51 สมมาตรร่างกายซิ่งมักจะมีจำนวนหลอดเลือด
00:14:51 → 00:14:54 มากกว่าซิ่งเสมอดังนั้นผมและเล็บในส่ิง
00:14:54 → 00:14:57 นั้นจึงยาวเร็วกว่าตามไปด้วยเมื่อคุณกรีด
00:14:57 → 00:14:59 ร้องหรือจามสมองของคุณจะพยายามปกป้องคุณ
00:14:59 → 00:15:02 จากเสียงดังพวกนั้นเพื่อการระดับเสียงลง
00:15:02 → 00:15:04 ให้โดยอัตโนมัติถ้าไม่เชื่อคุณก็ลองทำดู
00:15:04 → 00:15:06 สิก็อยากตะโกนดังเกินไปล่ะเดี๋ยวคนอื่น
00:15:06 → 00:15:10 เขาจะมองคุณแปลกๆ 14 ยังคงมีสัญชาตญาณ
00:15:10 → 00:15:13 ความเป็นแม่มีอยู่ในตัวเราไม่ใช่แค่ฟัน
00:15:13 → 00:15:15 เขี้ยวเท่านั้นที่เราสืบทอดมาจาก
00:15:15 → 00:15:17 บรรพบุรุษที่กินเนื้อเป็นอาหาร
00:15:17 → 00:15:19 แต่เรายังมีความรู้สึกใกล้เคียงแบบนั้นใน
00:15:19 → 00:15:22 เวลาที่หิวประสาทสัมผัสของเราจะคมชัดขึ้น
00:15:22 → 00:15:26 เห็นรายละเอียดได้ดีขึ้นและที่สำคัญที่
00:15:26 → 00:15:28 สุดคือดมกลิ่นได้ดีขึ้นจะทันทีที่เราอิ่ม
00:15:28 → 00:15:31 เราจะผ่อนคลายลงเพราะร่างกายหลั่งสารแห่ง
00:15:31 → 00:15:35 ความสุขที่ชื่อว่าเซโลนาออกมา
00:15:35 → 00:15:38 ซึ่งทำให้ประสาทสัมผัสช้าลงและหยุดยั้ง
00:15:38 → 00:15:39 ความเป็นนักล่าในตัวคุณ
00:15:39 → 00:15:43 อีกหนึ่งความสุขที่นอกเหนือจากการกินนั่น
00:15:43 → 00:15:45 คือการจามฮอร์โมนแห่งความสุขที่ชื่อเอ็น
00:15:45 → 00:15:48 โดรฟินจะล้างออกมาพร้อมเสียงฮาชิลของคุณ
00:15:48 → 00:15:51 และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมคุณจะรู้สึกของ
00:15:51 → 00:15:54 ขันหลังจากการจานอะไรครั้งติดต่อกันสาร
00:15:54 → 00:15:56 เอ็นโดรฟินจะช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน
00:15:56 → 00:15:59 เพื่อต่อสู้กับแบคทีเรียที่ไม่ดีดังนั้น
00:15:59 → 00:16:02 มันจะมีประโยชน์กว่าที่คิดเมื่อตกใจหรือ
00:16:02 → 00:16:04 แค่กลัวค่าของคุณอาจแข็งที่เป็นต่อหมาย
00:16:04 → 00:16:08 ขึ้นมาหัวใจของคุณจะสูบฉีดเลือดและคุณลูก
00:16:08 → 00:16:11 ฉันทั้งหมดนี้เป็นผลจากกระบวนการเดียวอัน
00:16:11 → 00:16:13 นั้นคือปฏิกิริยาของการที่อะตรีนรินทร์
00:16:13 → 00:16:16 หลายเข้าสู่กระแสเลือดคุณเมื่อ unwritten
00:16:16 → 00:16:19 เข้าสู่ร่างกายจะทำให้เกิดปฏิกิริยาที่
00:16:19 → 00:16:22 เรียกว่าสู้หรือนี้ปฏิกิริยานี้เป็น
00:16:22 → 00:16:24 สาเหตุของอาการตึงเครียดของกล้ามเนื้อการ
00:16:24 → 00:16:28 สูบฉีดเลือดทำให้คุณรู้สึกขานักซึ่งระบบ
00:16:28 → 00:16:30 ทั้งหมดในร่างกายจะอยู่ในภาวะตื่นตัว
00:16:30 → 00:16:33 อย่างมากเพื่อเตรียมตอบโต้อย่างรุนแรงและ
00:16:33 → 00:16:36 รวดเร็วในขณะเดียวกันปฏิกิริยานี้อาจเป็น
00:16:36 → 00:16:39 ไปได้ในสองทิศทางคุณอาจจะวิ่งเร็วอย่าง
00:16:39 → 00:16:41 กับนักกีฬาโอลิมปิกหรือไม่อาจขยับกล้าม
00:16:41 → 00:16:45 เนื้อได้สักนิดเลยเพจผลก็คือมีปฏิกิริยา 2
00:16:45 → 00:16:48 แบบในการตอบสนองต่อสถานการณ์อันตรายคุณจะ
00:16:48 → 00:16:50 รับมือด้วยการเอาชนะหรือเจหลีกเลี่ยงไป
00:16:50 → 00:16:51 เลยก็ได้
00:16:51 → 00:16:54 เพราะเวลานิวเป็นแบบนั้นแล้วทำให้เก็บ
00:16:54 → 00:16:58 ผลไม้กวางสายฝนได้ง่ายขึ้นไม่พูดจริงๆนะ
00:16:58 → 00:17:01 ให้ฉันอธิบายให้ฟังรอยัลนี้เกิดขึ้นเมื่อ
00:17:01 → 00:17:04 หลอดเลือดเล็กๆที่อยู่ใต้ผิวหนังหดตัวแต่
00:17:04 → 00:17:06 เนี่ยไม่ใช่ส่วนที่น่าสนใจที่สุดนัก
00:17:06 → 00:17:09 วิทยาศาสตร์ค้นพบว่าค่าเส้นประสาทที่นิ้ว
00:17:09 → 00:17:12 ขึ้นเสียหายรอยัลถ้าเกิดขึ้นเลยไม่ว่าจะ
00:17:12 → 00:17:15 แช่อยู่ในน้ำนานขนาดไหนนั่นหมายความว่า
00:17:15 → 00:17:18 รอยัลเกิดขึ้นเพราะปฏิกิริยาเฉพาะอย่าง
00:17:18 → 00:17:21 หนึ่งที่ร่างกายของเรามีต่อน้ำไม่ใช่แค่
00:17:21 → 00:17:24 คุณสมบัติของผิวหนังเองดังนั้นจะต้องมี
00:17:24 → 00:17:28 เหตุผลทางชีววิทยาที่สำคัญแน่การทดสอบ
00:17:28 → 00:17:30 เพิ่มเติม 1 เรื่องของการพยายามเก็บลูก
00:17:30 → 00:17:32 แก้วเปียกด้วยมือที่แห้งและมือเปรียบแต่
00:17:32 → 00:17:36 ที่มีรอยย่นสิ่งเดียวกันนี้เกิดขึ้นกับ
00:17:36 → 00:17:39 เท้าเช่นกันการยืนบนพื้นผิวเปียกด้วยเท้า
00:17:39 → 00:17:42 ที่มีรอยย่นง่ายกว่ามากฉันเดาว่านี่เป็น
00:17:42 → 00:17:45 วิธีการตามธรรมชาติเพิ่มแรงยึดเกาะให้เรา
00:17:45 → 00:17:49 ในช่วงเวลาที่อาจเกิดอาการลืมได้
00:17:49 → 00:17:52 2 ให้คุณไม่ค่อยได้ให้ความสนใจเสี่ยง
00:17:52 → 00:17:55 หน้าตัวนั่นกับคุณมีนิสัยชอบบิดข้อต่อให้
00:17:55 → 00:17:58 ลั่นรอบๆอยู่แล้วคุณก็คงรู้จักเสียงนี้ดี
00:17:58 → 00:18:01 ว่ากันอย่างยุติธรรมยิ่งกว่าแย่ซีอีกเวลา
00:18:01 → 00:18:03 ที่คุณลุกจากโต๊ะและได้ยินเสียงเหมือนคุณ
00:18:03 → 00:18:06 ทำร้ายตัวเองหรือทำอะไรหากแต่ไม่ใช่แบบ
00:18:06 → 00:18:08 นั้นหรอกนะกลายเป็นว่าเวลาที่ข้อต่อลั่น
00:18:08 → 00:18:11 ไม่ได้เป็นผลจากสุขภาพของเราขนาดนั้นมี
00:18:11 → 00:18:14 เสียงและกรอบๆเกิดขึ้นมาข้อต่อได้รับ
00:18:14 → 00:18:16 แรงดัน
00:18:16 → 00:18:19 หรือคดงอไปในแบบที่ทำให้เกิดฟองอากาศเล็ก
00:18:19 → 00:18:23 ๆออกมาและแตกออกก็ทำนองเดียวกับเวลาที่
00:18:23 → 00:18:26 ผายลมฟองอากาศนี้มีอยู่แล้วนี่ทุกข้อสอบ
00:18:26 → 00:18:28 ของร่างกายคุณแต่ไม่ได้แสดงว่าเป็นอันต
00:18:28 → 00:18:32 รายใดๆแค่มีเสียงเท่านั้นคุณมีนิสัยแย่ๆ
00:18:32 → 00:18:34 ที่ชอบบิดข้อต่อให้มีเสียงไหมหรือคุณเป็น
00:18:34 → 00:18:37 หนึ่งในคนที่ทนฟังเสียงนั้นไม่ได้เลยบอก
00:18:37 → 00:18:40 ให้ฉันรู้ในช่องคอมเม้นต์ด้านล่างนะท้อง
00:18:40 → 00:18:43 ร้องส่งเสียงดังหรือท้องที่มีเสียงโครก
00:18:43 → 00:18:45 ครากเลือกแบบไหนก็ได้ป่าวทุกคนรู้จัก
00:18:45 → 00:18:49 เสียงที่น่าอายนั้นดีสิ่งที่เราไม่ค่อย
00:18:49 → 00:18:52 รู้กันก็คือเสียงนี้เกิดจากอะไรตามนิยาม
00:18:52 → 00:18:55 พื้นฐานสมองของคุณกำลังยกเย้ยคุณว่าคุณ
00:18:55 → 00:18:57 ยังไม่ได้กินอะไรฉันรู้ว่านี่ตังค์ดู
00:18:57 → 00:19:00 ประหลาดแต่ไม่งั้นคุณจะอธิบายเรื่องนี้
00:19:00 → 00:19:02 ยังไงเมื่อท้องว่างสมองของคุณจึงส่ง
00:19:02 → 00:19:05 สัญญาณว่าให้เริ่มย่อยและส่งอะไรมาให้
00:19:05 → 00:19:08 ระบบย่อยอาหารได้แล้วแต่ในนั้นไม่มีอะไร
00:19:08 → 00:19:11 นอกจากแก๊สจึงทำให้เกิดเสียงดังนั้นหาเอา
00:19:11 → 00:19:16 ไปใส่ของสนะรู้ไหมอ่ะ