00:00:00 → 00:00:02 สวัสดีค่ะคุณหมอแม่ขออนุญาตส่งคำถามจาก

00:00:02 → 00:00:04 ทางบ้านค่ะแม่เป็นแม่ลูกอ่อนที่ยังให้นม

00:00:04 → 00:00:07 น้องอยู่อ่ะค่ะเอ่อแม่อยากทราบว่าเวลาที่

00:00:07 → 00:00:10 แม่ให้นมเกิดอาการป่วยหรือว่าไม่สบายอะไร

00:00:10 → 00:00:13 แบบเยค่ะสามารถที่จะทานยาอะไรได้บ้างอ่ะ

00:00:13 → 00:00:16 ค่ะแล้วก็ยาที่ทานเข้าไปอ่ะค่ะจะส่งผลกับ

00:00:16 → 00:00:18 น้ำนมที่น้องทานหลังจากนี้หรือเปล่าค่ะ

00:00:18 → 00:00:21 แม่ต้องปฏิบัติตัวยังไงบ้างค่ะขอคำแนะนำ

00:00:21 → 00:00:28 จากคุณหมอหน่อยนะคะขอบคุณค่ะ

00:00:28 → 00:00:38 [เพลง]

00:00:38 → 00:00:41 แพทย์หญิงสไลอรธงเเนตกุมารแพทย์โรคหัวใจ

00:00:41 → 00:00:44 โรงพยาบาลจุฬาพรณ์นะคะวันนี้คุณหมอจะมา

00:00:44 → 00:00:46 ตอบคำถามค่ะของคุณแม่ตอมแต๋มที่ว่าถ้าคุณ

00:00:46 → 00:00:49 แม่ให้นมบุตรแล้วเป็นหวัดสามารถทานยาอะไร

00:00:49 → 00:00:51 ได้บ้างค่ะคำถามนี้นะคะเป็นคำถามที่คุณ

00:00:51 → 00:00:54 แม่ให้นมบุตรหลายท่านนะคะมีความกังวลใจ

00:00:54 → 00:00:56 วันนี้หมออยากจะมาอธิบายค่ะให้คุณแม่เข้า

00:00:56 → 00:00:59 ใจแล้วก็สบายใจมากขึ้นนะคะอย่างแรกค่ะเรา

00:00:59 → 00:01:01 ควรจะทราบก่อนว่าช่วงที่เราให้นมบุดค่ะ

00:01:01 → 00:01:03 แล้วเรารับประทานยานะคะยาเหล่านี้เนี่ย

00:01:04 → 00:01:06 สามารถจะผ่าไปทางน้ำนมนะคะแต่อย่างไรก็

00:01:06 → 00:01:08 ตามค่ะระดับยาในน้ำนมเนี่ยจะน้อยกว่า

00:01:08 → 00:01:11 ระดับยาในเลือดของคุณแม่ยาบางตัวนะคะอาจ

00:01:11 → 00:01:13 จะส่งผลต่อเด็กได้เพราะฉะนั้นการใช้ยาใน

00:01:13 → 00:01:16 ช่วงที่ให้นมบุดนะคะคุณแม่ควรมีความระมัด

00:01:16 → 00:01:19 ระวังแล้วก็ปรึกษาแพทย์และไปสัชกรก่อนค่ะ

00:01:19 → 00:01:21 หลักการสำคัญ 2 อย่างนะคะในการใช้ยาในคุณ

00:01:21 → 00:01:23 แม่ให้นมบุตรก็คืออย่างแรกค่ะคุณแม่มี

00:01:23 → 00:01:26 ความจำเป็นที่จะต้องใช้ยานะคะเช่นคุณแม่

00:01:26 → 00:01:28 มีภาวะเจ็บป่วยบางอย่างที่จำเป็นจะต้อง

00:01:28 → 00:01:31 ใช้ยาแต่อย่างที่ 2 ค่ะเราก็จะพิจารณานะ

00:01:31 → 00:01:34 คะว่ายาตัวนั้นเนี่ยผ่านน้ำนมสู่บุตรมาก

00:01:34 → 00:01:36 น้อยเพียงใดนะคะแล้วก็มีความปลอดภัยใน

00:01:36 → 00:01:38 เด็กมากน้อยเพียงใดเพราะฉะนั้นเนี่ยค่ะ

00:01:38 → 00:01:40 เราจะเทียบความเสี่ยงนะคะแล้วก็ประโยชน์

00:01:40 → 00:01:43 ของการใช้ยาในครั้งนั้นๆค่ะยาในกลุ่มหวัด

00:01:43 → 00:01:46 นะคะจะมียาอยู่ประมาณ 5 ตัวนะคะในกรณีที่

00:01:46 → 00:01:48 คุณแม่เป็นหวัดซึ่ง 5 กลุ่มเนี้ยค่อนข้าง

00:01:48 → 00:01:51 จะเป็นยาที่ปลอดภัยในการให้นะคะคุณแม่รับ

00:01:51 → 00:01:54 ประทานในช่วงที่ให้นมบุตรค่ะอย่างแรกเลย

00:01:54 → 00:01:57 นะคะยาพาราเซตามอลนะคะเป็นยาลดไข้ค่ะคุณ

00:01:57 → 00:02:00 แม่สามารถทานยานี้ได้อย่างปลอดภัยส่่วนยา

00:02:00 → 00:02:02 กลุ่มไอบู profen นะคะไดค fenac เป็นยา

00:02:02 → 00:02:05 ที่สามารถลดไข้แก้ปวดไม่ตามตัวนะคะคุณแม่

00:02:05 → 00:02:08 สามารถรับประทานยาในระยะเวลาสั้นๆได้ค่ะ

00:02:08 → 00:02:11 ส่วนอย่างที่ 2 นะคะยาแก้คัดจมูกลดน้ำมูก

00:02:11 → 00:02:15 นะคะยากลุ่มสูโดเอรีนค่ะยาตัวนี้เนี่ยมี

00:02:15 → 00:02:19 การศึกษาพบว่าสามารถอ่าทำให้คุณแม่นะคะลด

00:02:19 → 00:02:21 การผลิตน้ำนมลงนะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยคุณ

00:02:21 → 00:02:24 แม่ควรใช้ในกรณีที่จำเป็นเท่านั้นนะคะยา

00:02:24 → 00:02:27 กลุ่มที่ 3 ค่ะยาแก้แพ้ยารักษาโรคภูมิแพ้

00:02:27 → 00:02:30 นะคะหมอเขาอยากจะแบ่งยากลุ่มที่ 3 นี้นะ

00:02:30 → 00:02:33 คะออกเป็น 2 กลุ่มย่อยค่ะก็คือ 1 ค่ะยา

00:02:33 → 00:02:36 แก้แพ้ที่ออกฤทธิ์ระยะยาวนะคะยาตัวเนี้จะ

00:02:36 → 00:02:41 ทานแค่วันละ 1 ครั้งเช่นยาลอลตานนะคะเซีน

00:02:41 → 00:02:44 ยา 2 ตัวเยค่ะสามารถอ่ารับประทานในช่วง

00:02:44 → 00:02:46 ที่ให้นมหมุดได้นะคะผ่านทางน้นมน้อยและ

00:02:46 → 00:02:49 ไม่ทำให้เกิดความง่วงซึมในน้องนะคะแต่ใน

00:02:49 → 00:02:51 กรณีที่คุณแม่ต้องรักษาภูมิแพ้และรับ

00:02:51 → 00:02:54 ประทานยานี้เป็นเวลานานเช่นเป็นเดือนนะคะ

00:02:54 → 00:02:57 คุณแม่ควรจะปรึกษากับแพทย์ค่ะเพราะบาง

00:02:57 → 00:02:59 ครั้งนะคะเราสามารถจะพิจารณาเปลี่ยนเป็น

00:02:59 → 00:03:02 ยาสเปรย์นนจมูกแทนได้ค่ะส่วนยากลุ่มแก้

00:03:02 → 00:03:05 แพ้ที่ออกฤทธิ์ระยะสั้นนะคะเช่นคอเฟนิาน

00:03:05 → 00:03:08 นะคะหรือ cpm ยาตัวเนี้ยค่ะอาจจะทำให้

00:03:08 → 00:03:10 เกิดความง่วงซึมในคุณแม่และคุณลูกด้วยนะ

00:03:10 → 00:03:12 คะเพราะฉะนั้นหากคุณแม่มีความจำเป็นต้อง

00:03:12 → 00:03:14 ใช้ยาตัวนี้เนี่ยแนะนำให้ทานเพียงแค่วัน

00:03:14 → 00:03:18 ละ 1 ครั้งเท่านั้นและทานระยะสั้นค่ะส่วน

00:03:18 → 00:03:20 กรณีที่คุณแม่นะคะมีการติดเชื้อแบคทีเรีย

00:03:20 → 00:03:23 นะคะเช่นเป็นคออักเสบหูชั้นกลางอักเสบ

00:03:23 → 00:03:26 หรือไซนัสอักเสบนะคะกรณีเนี้ยคุณแม่

00:03:26 → 00:03:28 สามารถรับประทานยาฆาดเชื้อหรือยาปฏิชีวนะ

00:03:28 → 00:03:31 กลุ่มเพนิซิลินได้ค่ะเช่นยา

00:03:31 → 00:03:36 อิิินะคะโอกิหรือกลุ่มเฟสปินนะคะยากลุ่ม

00:03:36 → 00:03:40 นี้ผ่าน้ำนมน้อยและไม่ส่งผลต่อบุตรนะคะ

00:03:40 → 00:03:44 สุดท้ายค่ะยากลุ่มยาละลายเสียมหาดนะคะยา

00:03:44 → 00:03:46 ละลายเสียมหาดเนี่ยมีการศึกษาที่จำกัดใน

00:03:46 → 00:03:49 มนุษย์นะคะในคุณแม่ที่ให้นมแต่อย่างไรก็

00:03:49 → 00:03:52 ตามค่ะมีการศึกษาในเ่อกลุ่มวัวนะคะแล้วพบ

00:03:52 → 00:03:55 ว่ายาตัวเนี้ยสามารถผ่าน้ำนมไปได้น้อยมาก

00:03:55 → 00:03:58 จึงมีความปลอดภัยนะคะในการที่ใช้แต่อย่าง

00:03:58 → 00:04:02 ไรก็ตามค่ะคุณแม่ก็ควรจะเลือกใช้ยาตามข้อ

00:04:02 → 00:04:05 บ่งชี้ของยานะคะกรณีที่คุณแม่มีเสียมหะ

00:04:05 → 00:04:08 มากน้ำนะคะเป็นยาลาลัยเสียมหะที่ดีนะคะ

00:04:08 → 00:04:10 คุณแม่ควรดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อทำให้

00:04:10 → 00:04:13 เสียมมหะลื่นและลดอาการไอได้ค่ะคุณแม่จะ

00:04:13 → 00:04:16 เห็นว่ายา 5 กลุ่มนะคะในการรักษาหวัด

00:04:16 → 00:04:18 เนี่ยสามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยในคุณแม่

00:04:18 → 00:04:21 ให้นมบุตรนะคะหากคุณแม่มีข้อสงสัยนะคะ

00:04:21 → 00:04:25 สามารถปรึกษาแพทย์และเภสัชกรได้ส่วนยา 4

00:04:25 → 00:04:28 กลุ่มนะคะที่คุณแม่เนี่ยให้นมแลควรจะต้อง

00:04:28 → 00:04:30 หลีกเลี่ยงการให้นมในช่วงที่รับยา 4

00:04:30 → 00:04:34 กลุ่มนี้นะคะได้แก่ 1 ค่ะยาเคมีบำบัดค่ะ 2

00:04:34 → 00:04:38 นะคะยาเพดสัตว์รังสีหรือสารกัมมันตรังสี

00:04:38 → 00:04:40 นะคะซึ่งยากลุ่มเคุณแม่บางท่านที่เป็น

00:04:40 → 00:04:42 ไทรรอยด์เป็นพิษอาจจะต้องได้รับสารตัวนี้

00:04:42 → 00:04:46 นะคะเพื่อรักษาโรคไทรรอยด์เป็นพิษค่ะ 3

00:04:46 → 00:04:50 นะคะยาจิตเวทบางกลุ่ม 4 ยาโรคลมชักบาง

00:04:50 → 00:04:53 กลุ่มนะคะในกรณีที่คุณแม่นะคะมีความ

00:04:53 → 00:04:56 จำเป็นต้องได้รับยานี้คุณหมอก็จะแนะนำค่ะ

00:04:56 → 00:04:59 ให้คุณแม่หลีกเลี่ยงนะคะที่จะให้นมชช่ว

00:05:00 → 00:05:02 นั้นในกรณีที่คุณแม่งดให้นมค่ะอย่าลืมนะ

00:05:02 → 00:05:05 คะที่จะปั๊มหรือบีบเก็บน้ำนมด้วยมือทุก

00:05:05 → 00:05:08 3-4 ชมงค่ะเพื่อทำให้ร่างกายยังคงผลิต

00:05:08 → 00:05:11 น้ำนมได้ตามปริมาณปกติและเป็นการป้องกัน

00:05:11 → 00:05:13 นะคะไม่ให้เกิดการคัดตึงเต้านมค่ะซึ่งจะ

00:05:14 → 00:05:17 นำไปสู่ภาวะเต้านมอักเสบได้ค่ะค่ะการให้

00:05:17 → 00:05:20 นมบุตนะคะเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ทั้งต่อ

00:05:20 → 00:05:22 ตัวคุณแม่และคุณลูกและเป็นสิ่งที่มีคุณ

00:05:22 → 00:05:25 ค่านะคะหมออยากจะขอสนับสนุนให้คุณแม่

00:05:25 → 00:05:27 เลี้ยงลูกด้วยนมแม่และไม่มีความกังวลจน

00:05:27 → 00:05:30 เกินไปนะคะในตอนที่ต้องใช้ยาค่ะคุณแม่มี

00:05:30 → 00:05:32 ข้อสงสัยนะคะสามารถปรึกษาแพทย์และพัชกร

00:05:32 → 00:05:35 ได้หากมีข้อสงสัยในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

00:05:35 → 00:05:38 นะคะสามารถมาพบกับหมอได้ที่แผนกกุมาร

00:05:38 → 00:05:42 เวชกรรมโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ค่ะขอบคุณคุณแม่

00:05:42 → 00:05:44 ที่รับชมในวันนี้นะคะหากคุณแม่มีคำถามค่ะ

00:05:44 → 00:05:47 สามารถทิ้งคำถามไว้ใต้คลิปนี้ได้นะคะแล้ว

00:05:47 → 00:05:50 มาพบกับรายการพบหมอเด็กจุฬาภรณ์ใน Episode

00:05:51 → 00:05:58 หน้านะคะสำหรับวันนี้ขอบคุณ

00:05:58 → 00:06:02 ค่ะ H