00:00:00 → 00:00:01 ตรีผลาคืออะไร
00:00:01 → 00:00:03 >> กินนานๆเป็นอันตรายคะ
00:00:03 → 00:00:06 >> ใครไม่ควรกินพบกับคำตอบทั้งหมดนี้ได้ใน
00:00:06 → 00:00:15 รายการวันใหม่ไกลโรค
00:00:15 → 00:00:19 สืบทอดภูมิปัญญาไทยใส่ใจคุณภาพยาร้าน
00:00:19 → 00:00:24 เจริญสุขโกสถนครปฐม
00:00:25 → 00:00:27 สวัสดีค่ะพบกันในรายการวันใหม่ไกลโรคค่ะ
00:00:27 → 00:00:29 รายการที่จะพาทุกท่านไปเปิดมุมมองเกี่ยว
00:00:29 → 00:00:31 กับยาแผนไทยและสมุนไพรไทยเพื่อคนไทยห่าง
00:00:32 → 00:00:34 ไกลโรคเพราะทุกวัยเริ่มใหม่ได้เสมอกับวัน
00:00:34 → 00:00:36 ใหม่ไกลโรคนะคะวันนี้อยู่กับอาจารย์
00:00:36 → 00:00:38 รุ่งรวีค่ะอาจารย์คณะเพศัชศาสตร์
00:00:38 → 00:00:40 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์อาจารย์สวัสดีค่ะ
00:00:40 → 00:00:41 >> สวัสดีค่ะ
00:00:41 → 00:00:44 >> อาจารย์วันนี้เป็นอีกหนึ่ง EP ที่เชื่อ
00:00:44 → 00:00:46 ว่าน่าจะได้ประโยชน์เพราะว่ามีคนถามมาค่ะ
00:00:46 → 00:00:49 เป็น Q&A นะคะถามบอกว่าไม่ทราบว่าคนเป็น
00:00:49 → 00:00:53 โรคไตสามารถกินตรีผลาได้มั้ยคะก็เลยนำมา
00:00:53 → 00:00:55 ซึ่ง EP นี้เลยดีกว่ามาเจาะลึกกันว่าตรี
00:00:55 → 00:00:57 ผลาเนี่ยถ้าใครเรียนแพทย์แผนไทยหรือว่า
00:00:57 → 00:00:59 จริงๆคนไทยในปัจจุบันเนาะได้ยินกันเยอะ
00:00:59 → 00:01:01 เยอะมากเลยเป็นยาปรับธาตุมั่งช่วยระบาย
00:01:01 → 00:01:04 มั่งช่วยปรับสมดุลเลือดลมมั่งจริงๆแล้ว
00:01:04 → 00:01:07 ตรีผลาคืออะไรและมีสรรพคุณยังไงคำถามแรก
00:01:07 → 00:01:09 เลยค่ะอาจารย์ตรีผลาคืออะไรคะ
00:01:09 → 00:01:13 >> ค่ะตรีผลาจริงๆมันย่อมมาจากคำว่าตรีผลนะ
00:01:13 → 00:01:18 คะตรีผลก็คือผลไม้ 3 ชนิดผลไม้ 3 ชนิดที่
00:01:18 → 00:01:21 ว่าเริ่มต้นด้วยสมองพิเพกสมอไทยและมะขาม
00:01:22 → 00:01:26 ป้อมนะคะอันนี้เป็นเอ่อจุดเริ่มต้นของการ
00:01:26 → 00:01:30 ใช้ตรีผลาชื่อนะคะแล้วแล้วก็พบว่ามีคนนำ
00:01:30 → 00:01:33 มาใช้มากมายนะไม่ใช่เฉพาะประเทศไทยนะคะตี
00:01:33 → 00:01:35 ผลาเนี่ยคนที่นำมาใช้เนี่ยอินเดียก็ใช้
00:01:35 → 00:01:38 เยอะค่ะอินเดียนี่ถึงขนาดผลิตแล้วส่งออก
00:01:38 → 00:01:41 ต่างประเทศด้วยค่ะมีงานวิจัยเยอะแยะมาก
00:01:41 → 00:01:42 มายเกี่ยวกับตีผลาค่ะ
00:01:42 → 00:01:44 >> อ่ะอันนี้เป็นเรื่องชื่อเนาะแล้วสรรพคุณ
00:01:44 → 00:01:45 ล่ะคะอาจารย์ช่วยว่าอะไร
00:01:45 → 00:01:49 >> เอ่อในแพทแผนไทยนะคะเราก็ใช้อ่าตรีผลา
00:01:49 → 00:01:51 เนี่ยเนื่องจากว่ามันมีรสเปรี้ยวกับฝาด
00:01:51 → 00:01:54 ผสมกันนะคะแล้วเราก็พบว่าเอ่อมันออกฤทธิ์
00:01:54 → 00:01:56 กันคนละครั้งนะคะแล้วก็ช่วยปรับให้ทั้ง 2
00:01:56 → 00:01:59 อันเนี้ยมันไปด้วยกันได้ทั้ง 2 รถนะคะก็
00:01:59 → 00:02:03 คือรสเปรี้ยวเนี่ยมันใช้ในแง่ของการทำให้
00:02:03 → 00:02:06 ระบายนะฮะแล้วในขณะเดียวกันเนี่ยรถฝาดก็
00:02:06 → 00:02:08 จะทำให้หยุดระบายเพราะฉะนั้นตีผลาในแผน
00:02:08 → 00:02:11 ไทยก็เลยเรียกว่าเป็นยาที่ถ่ายแล้วหยุด
00:02:11 → 00:02:15 เองนะคะรู้เปิดแล้วก็รู้ในขณะเดียวกันนอก
00:02:15 → 00:02:18 จากเรื่องของระบายแล้วเนี่ยตีผลายังใช้ใน
00:02:18 → 00:02:21 แง่ของการแก้ไอขับสิมหะได้ด้วยนะคะเพราะ
00:02:21 → 00:02:25 ว่ามะขามป้อมเนี่ยมันมีฤทธิที่เปรี้ยวนะ
00:02:25 → 00:02:27 คะแล้วก็ขมนิดๆทำให้ชุ่มคอ
00:02:27 → 00:02:29 >> อ่าเห็นยาแก๊ไอ้มะขามป้อมเยอะเลย
00:02:29 → 00:02:32 >> ใช่ตัวอื่นก็จะนำมาใช้ด้วยและอันที่ 3
00:02:32 → 00:02:35 สำหรับประโยชน์ของตรีผลาะก็คือใช้ในยาที่
00:02:35 → 00:02:38 เกี่ยวข้องกับเลือดของผู้หญิงนะคะก็คือไป
00:02:38 → 00:02:41 ปรับทำให้เอ่อเลือดเนี่ยมันค่อนข้างจะมี
00:02:41 → 00:02:44 เยอะขึ้นมีความอุ่นมากขึ้นนะคะแล้วในขณะ
00:02:44 → 00:02:48 เดียวกันเนี่ยมันมีความสะอาดดีขึ้นค่ะ
00:02:48 → 00:02:51 >> อือย่างงี้ถ้าเรามีอาการอะไรเราถึงเหมาะ
00:02:51 → 00:02:52 ในการใช้ตรีผลา
00:02:52 → 00:02:56 >> เอ่อจริงๆในในแง่ของการใช้ตรีผลาเดี่ยวๆ
00:02:56 → 00:03:00 เนี่ยนะคะใช้แค่ 2 อาการเท่านั้นค่ะคือ
00:03:00 → 00:03:04 อาการไอกับท้องผูกค่ะนะคะในกรณีที่ยา
00:03:04 → 00:03:07 เลือดเนี่ยไม่ได้แนะนำให้ใช้ตีผลาเพราะ
00:03:07 → 00:03:09 ว่าการแก้ปัญหาเรื่องเลือดเนี่ยไม่ใช่แค่
00:03:09 → 00:03:12 ตีผลาอย่างเดียวที่จะแก้ปัญหาได้อันนี้
00:03:12 → 00:03:14 เป็นแค่ตัวเสริมอยู่ในตำรับเท่านั้นนะคะ
00:03:14 → 00:03:17 ลักษณะฤทธิ์ที่เขา้าทำงานวิจัยมานะคะก็
00:03:17 → 00:03:20 คือว่าตีผลาเนี่ยมันจะมีฤทธิ์ที่เด่นมาก
00:03:20 → 00:03:23 ที่สุดที่เราเรียกว่าต้านอนุมูลอิสระนะคะ
00:03:23 → 00:03:27 ซึ่งเอ่อถ้าดูแล้วถ้าใครที่จำ EP ส่วนๆ
00:03:27 → 00:03:30 ได้ก็คงจะเห็นว่าคมินิจันก็เป็นตัวที่มี
00:03:30 → 00:03:33 ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่สูงพอสมควรนะคะ
00:03:33 → 00:03:36 เช่นเดียวกันเลยแต่ทีนี้ในแง่ของการออก
00:03:36 → 00:03:39 ฤทธิ์เนี่ยมันแตกต่างกันนิดนึงค่ะตรงที่
00:03:39 → 00:03:42 ว่าถ้าเป็นพวกขมิ้นชันสังเกตนะคะคราวที่
00:03:42 → 00:03:45 แล้วบอกให้ละลายไขมันนะคะเพราะฉะนั้น
00:03:45 → 00:03:46 ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของขมิ้นชันจะเป็น
00:03:46 → 00:03:50 คล้ายๆพวกวิตามินอีนะคะในขณะที่ตีผลา
00:03:50 → 00:03:55 เนี่ยมันไม่ละลายในไขมันแต่ละลายได้ดีใน
00:03:55 → 00:03:59 น้ำเพราะว่าสารมันส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกกรด
00:03:59 → 00:04:02 อันนึงที่เราเรียกว่ากรดฟีโนลิคนะคะซึ่ง
00:04:02 → 00:04:05 กรดฟีโนลิคของมันเนี่ยก็จะมีฤทธิ์จับกับ
00:04:05 → 00:04:09 ตัวอนุมูลอิสระนะคะแล้วก็ทำลายตัวอนุมูล
00:04:09 → 00:04:13 อิสระซะนะดังนั้นเนี่ยก็ถือว่าเป็นตัวที่
00:04:13 → 00:04:16 สามารถต้านอนุมูลอิสระหรือต้านออกซิเดชั
00:04:16 → 00:04:19 เนี่ยในตัวที่ละลายน้ำซึ่งคล้ายๆวิตามิน
00:04:19 → 00:04:22 ซีนะฮะก็เห็นว่าแตกต่างกันและมีความแตก
00:04:22 → 00:04:26 ต่างแล้วก็พอถามว่าความแรงปี่ผลาก็แรงแรง
00:04:26 → 00:04:29 พอสมควรดังนั้นก็ทำให้มีคนที่สนใจและนำมา
00:04:29 → 00:04:32 ใช้เยอะทีนี้นอกจากนอกจากเรื่องของฤทธิ์
00:04:32 → 00:04:35 ต้านออกซิเดชหรือต้านอมอิสระแล้วเนี่ยตี
00:04:35 → 00:04:38 ผลายังมีความแรงในเรื่องของลดอาการอักเสบ
00:04:38 → 00:04:43 นะคะและออมีคนนำมาใช้ในเรื่องของเบาหวาน
00:04:43 → 00:04:47 นะคะก็พบว่าในเอ่อการรักษาเบาหวานเนี่ย
00:04:47 → 00:04:50 โดยเฉพาะอินเดียนะคะเราไปตามงานวิจัยของ
00:04:50 → 00:04:52 อินเดียนะฮะเราจะเห็นว่าคนอินเดียเนี่ย
00:04:52 → 00:04:55 เวลาใช้เอ่อยาสมุนไพรเนี่ยรักแล้วแต่
00:04:55 → 00:04:58 รักษาเบาหวานเนี่ยส่วนใหญ่เลยเกือบจะทุก
00:04:58 → 00:05:00 ตำรับมีตรีผลาเป็นองค์ประกอบ
00:05:00 → 00:05:01 >> อื
00:05:01 → 00:05:04 >> นะคะเพราะว่าพอเอาตรีผลาเดี่ยวๆมาทำมันก็
00:05:04 → 00:05:06 มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดแต่ว่าในขณะเดียว
00:05:06 → 00:05:09 กันเนี่ยการใช้พวกนี้นานๆในลักษณะของ
00:05:09 → 00:05:11 พิกัดยาเนี่ยมันไม่ดีอ
00:05:11 → 00:05:14 >> นะฮะเพราะว่าเอ่อพิกัดยากับตำรับยาเนี่ย
00:05:14 → 00:05:16 มันแตกต่างกันนะคะตรงที่ว่าถ้าเป็นตัว
00:05:16 → 00:05:18 พิกัดเนี่ยมันจะออกฤทธิ์พุ่งไปทางเดียว
00:05:18 → 00:05:20 กันคือมันลดน้ำตาลในเลือดแต่มันอาจจะมี
00:05:20 → 00:05:25 ปัญหาไอ้เรื่องต่างๆที่ยังมีเอ่อติดตามมา
00:05:25 → 00:05:27 หลังที่เราเป็นเบาหวานแล้วเพราะฉะนั้นใน
00:05:27 → 00:05:30 การดูแลแผนไทยหรือว่าแม้กระทั่งแผนอุรเวท
00:05:30 → 00:05:32 ของอินเดียเนี่ยก็ไม่ได้มองถึงประเด็น
00:05:32 → 00:05:33 เดียวเช่นเดียวกัน
00:05:33 → 00:05:34 >> เตั้งเป็นตำรับมากกว่า
00:05:34 → 00:05:35 >> ใช่เพราะฉะนั้นก็จะตั้งเป็นตำรับก็เหมือน
00:05:36 → 00:05:38 ของไทยก็จะตั้งเป็นตำรับแต่เอ่อก็มีคน
00:05:38 → 00:05:41 พยายามนำมาใช้นั้นก็ประเด็นนี้ก็เหมือน
00:05:41 → 00:05:44 กับแอที่พูดมาแล้วก็คือว่าถ้าในกรณีในการ
00:05:44 → 00:05:46 รักษาโรคที่เรื้อรังพวกเนี้ยก็ต้องเป็น
00:05:46 → 00:05:48 ตำรับนะคะต้องดูเรื่องของการตั้งตำรับแบบ
00:05:48 → 00:05:50 โบราณเพราะฉะนั้นก็ต้องเป็นหมอแผนโบราณ
00:05:50 → 00:05:51 ที่จะช่วยได้นะคะ
00:05:51 → 00:05:54 >> อืพออาจารย์พูดถึงต้านอนุมูลอิสระเนี่ย
00:05:55 → 00:05:57 นั่นแหละเป็นประเด็นที่ทำให้คนคิดว่ามัน
00:05:57 → 00:06:00 ช่วยเสริมภูมิทั้งช่วยระบายด้วยช่วยเสริม
00:06:00 → 00:06:03 ภูมิด้วยก็เลยกินไปเรื่อยๆเนี่ยกินไป
00:06:03 → 00:06:04 เรื่อยๆมันกินได้มั้ยคะ
00:06:04 → 00:06:07 >> คือในเรื่องของต้านอนุมูลอิสระเนี่ยมีคน
00:06:07 → 00:06:11 นำมาใช้เยอะแยะเลยนะคะว่าเอ่อเป็นตัวที่
00:06:11 → 00:06:14 ป้องกันการเกิดโรคนะคะการป้องกันการเกิด
00:06:14 → 00:06:17 โรคที่ดีอันนึงก็คือเรื่องของป้องกันการ
00:06:17 → 00:06:20 เสื่อมของเซลล์นะคะเพราะด้วยฤทธิ์เนี้ยนะ
00:06:20 → 00:06:23 หลายคนก็เอามาป้องกันแล้วป้องกันการเกิด
00:06:23 → 00:06:25 อ่าโรคนั้นโรคนี้แล้วก็ป้องกันการเสื่อม
00:06:25 → 00:06:28 เซลล์นั้นเซลล์นี้แล้วก็อย่างอ่าในกรณี
00:06:29 → 00:06:31 บางอาการนะอย่างเช่นเบาหวานเนี่ยก็มีคนสน
00:06:31 → 00:06:35 ใจว่าเอ๊ะใช้ตีผลาแล้วมันจะทำให้ป้องกัน
00:06:35 → 00:06:38 การตายของเซลล์มั้ยเพราะว่าปกติเราบอกว่า
00:06:38 → 00:06:40 เบาหวานเนี่ยส่วนใหญ่สุดท้ายก็จะกลายเป็น
00:06:40 → 00:06:44 โรคไตแต่ทีนี้คนก็เลยสนสนใจแล้วก็สงสัย
00:06:44 → 00:06:47 ว่าเอ๊ะมันทำได้จริงมยเอามาวิจัยนะคะก็พบ
00:06:47 → 00:06:50 ว่าการวิจัยในเซลล์นะอันนี้ต้องบอกก่อน
00:06:50 → 00:06:52 ว่ามันเป็นการวิจัยในเซลล์นะเพบว่ามัน
00:06:52 → 00:06:56 สามารถปกป้องเนื้อไตได้เมื่อใช้สารสังกัด
00:06:56 → 00:06:58 ตีผลาไประยะนึงนะฮะทำให้ไตเนี่ยไม่ถูก
00:06:59 → 00:07:01 ทำลายจนกระทั่งกลายเป็นโรคไตแต่อันนั้น
00:07:01 → 00:07:05 แค่เป็นการทดลองในเซลล์เท่านั้นตรงนี้ก็
00:07:05 → 00:07:08 เลยทำให้ทุกคนบางคนที่ไม่เข้าใจเรื่องงาน
00:07:08 → 00:07:13 วิจัยก็เอากลับมาคุยกันต่อว่าเอ๊ะถ้างั้น
00:07:13 → 00:07:14 คนเป็นเบาหวานก็กินได้เพราะมันลดน้ำตาล
00:07:14 → 00:07:17 ด้วยมันปกป้องเซลล์ด้วยเอ้อทำให้ไม่เป็น
00:07:17 → 00:07:19 โรคไตนะก็เลยกินต่อทีนี้การกินต่อพวกนี้
00:07:19 → 00:07:23 มันคือการกินระยะยาวพอกินระยะยาวเนี่ย
00:07:23 → 00:07:27 อย่างที่พูดตอนต้นตีผลาฤทธิ์เป็นยาระบาย
00:07:27 → 00:07:30 แล้วถ้าใครเคยกินก็จะรู้ว่าตีผลาที่เอ่อ
00:07:30 → 00:07:32 ใช้เป็นเบาหวานเนี่ยเค้าก็ใช้ประมาณซัก
00:07:32 → 00:07:36 เอ่อ 3-5 กรัมต่อวันเนาะแล้วก็ถ้าเป็นยา
00:07:36 → 00:07:39 ระบายเราก็จะใช้ประมาณ 1-3 กรัมต่อวันก็
00:07:39 → 00:07:42 โดสมันใกล้ๆเคียงกันนะคะแต่ถ้าเราใช้ติด
00:07:42 → 00:07:45 ต่อกันนานๆนานๆเข้านั่นแปลว่าสุดท้าย
00:07:45 → 00:07:50 เนี่ยเราจะถ่ายเหลวถ่ายแบบเยอะๆทุกวัน
00:07:50 → 00:07:53 เวลาถ่ายเยอะๆทุกวันเนี่ยโอกาสที่จะเกิด
00:07:53 → 00:07:56 ปัญหาอะไรขึ้นประเด็นแรกเลยก็คือว่าอ้า
00:07:56 → 00:07:58 เชื้อในน้ำไส้ก็เปลี่ยนนะคะเพราะว่าเวลา
00:07:58 → 00:08:01 เราถ่ายเยอะๆเนี่ยไอ้เชื้อในน้ำไส้ทั้งดี
00:08:01 → 00:08:04 ทั้งเร็วก็ออกมาทีนี้พอเริ่มจะเริ่มตั้ง
00:08:05 → 00:08:07 ตัวได้ตั้งตัวได้มาอีกแล้วอะไรอย่างเงี้ย
00:08:07 → 00:08:09 ซึ่งมันก็จะเป็นปัญหาว่าความสมดุลของ
00:08:09 → 00:08:12 เชื้อในลำไส้ก็อาจจะไม่ดีนะคะนั้นก็เป็น
00:08:12 → 00:08:14 ประเด็นที่ 1 ประเด็นที่ 2 ก็คือเรื่อง
00:08:14 → 00:08:17 ของเกลือแร่เวลาเราถ่ายไปเยอะๆบางทีเวลา
00:08:17 → 00:08:20 ถ่ายบ่อยๆนานๆเนี่ยบางทีเราอาจจะไม่ได้
00:08:20 → 00:08:22 คิดถึงเกลือแร่เพราะว่าเราคิดเอ้อมันถ่าย
00:08:22 → 00:08:25 เยอะไม่เป็นไรเราก็ดื่มน้ำธรรมดาแต่สมดุล
00:08:25 → 00:08:27 เกลือแร่อย่างเช่นพวกเกลือโซเดียมเกลือ
00:08:27 → 00:08:29 โปแทสเซียมหรือแคลเซียมเนี่ยมันมีความ
00:08:29 → 00:08:32 สำคัญมากสำหรับการทำงานของเรานะทั้งใน
00:08:32 → 00:08:34 เรื่องของหัวใจเรื่องของกล้ามเนื้อเรื่อง
00:08:34 → 00:08:37 อะไรทั้งทั้งหลายทั้งระบบเราเนี่ยเราใช้
00:08:37 → 00:08:38 ไอ้เกลือแร่ 3 ตัวเนี่ย
00:08:38 → 00:08:42 >> นะคะดังนั้นเนี่ยการทำให้มีปัญหาสมขาด
00:08:42 → 00:08:45 สมดุลของเกลือแร่ 3 ตัวเนี้ยก็จึงทำให้
00:08:45 → 00:08:49 เกิดความไม่สบายหรือเกิดปัญหาต่ออวัยวะ
00:08:49 → 00:08:52 ต่างๆที่ต้องการเกลือแร่พวกนี้เช่นหัวใจ
00:08:52 → 00:08:55 หรือไตนะคะไตเองก็มีปัญหาเหมือนกันเพราะ
00:08:55 → 00:08:58 ว่าไตกรองเอาสารพวกนี้เพื่อควบคุมไอ้
00:08:58 → 00:09:00 สมดุลของมันเอาไว้นะฮะ
00:09:00 → 00:09:02 >> อย่างงั้นแปลว่าเหมือนตอบคำถามเลยว่าคน
00:09:02 → 00:09:05 เป็นโรคไตสามารถกินตรีผลาได้มั้ยคะ
00:09:05 → 00:09:09 >> เอ่อจริงๆแล้วเนี่ยถ้ากินระยะสั้นกินระยะ
00:09:09 → 00:09:12 สั้นแล้วยังไม่ได้อยู่ในช่วงที่ล้างไตนะ
00:09:12 → 00:09:15 คะคือยังไม่ถึงระยะไตวายระยะสุดท้ายที่
00:09:15 → 00:09:18 ต้องไปฟอกไต่ประมาณ 2-3 ครั้งต่ออาทิตย์
00:09:18 → 00:09:23 เนี่ยก็ยังสามารถใช้ในแง่ของยาระบายได้นะ
00:09:23 → 00:09:27 คะให้ใช้สั้นๆไปประมาณ 2-3 วันเท่านั้น
00:09:27 → 00:09:29 >> ถึงเพราะว่าพวกนี้เนี่ยตอนที่ยังไม่ไม่
00:09:29 → 00:09:32 ได้ไปฟอกไตเนี่ยของเสียมันอยู่ในร่างกาย
00:09:32 → 00:09:36 เยอะนะคะการใช้แล้วเอ่อทำให้ของเสียออก
00:09:36 → 00:09:39 ระบายออกเนี่ยมันก็เป็นการช่วยเหมือนกัน
00:09:39 → 00:09:42 แต่ก็ต้องระวังว่าถ้าใช้เยอะเกินไปเวลา
00:09:42 → 00:09:45 ท่าเยอะเกินไปมันก็เกิดอาการขาดน้ำแต่นี้
00:09:45 → 00:09:48 ผู้ป่วยเ่อโรคไตเนี่ยการกรองของไตไม่ปกติ
00:09:48 → 00:09:51 อยู่และพอเวลากินน้ำเข้าไปถ้าไม่ดุลพอดี
00:09:51 → 00:09:54 อ้าวกำให้น้ำเยอะเข้าไปอีกก็บวมอีกแล้วก็
00:09:54 → 00:09:57 มีปัญหามีอาการอื่นๆตามมาจากการบวมน้ำอีก
00:09:57 → 00:09:57 อ
00:09:57 → 00:09:59 >> อืโอเคเพราะฉะนั้นสมมุติว่าถ้าให้อาจารย์
00:09:59 → 00:10:02 สรุปคร่าวๆว่าใครควรที่จะกินแล้วกินใน
00:10:02 → 00:10:04 ระยะเวลาเท่าไหรถึงจะปลอดภัย
00:10:04 → 00:10:07 >> ถ้าถ้ามองอย่างเงี้ยนะคะคนที่จะต้องหลีก
00:10:08 → 00:10:11 เลี่ยงเลยนะคะหลีกเลี่ยงแม้จะเป็นตีผลา
00:10:11 → 00:10:14 แบบขนาดน้อยๆหรือระยะสั้นก็ไม่ได้เนี่ย
00:10:14 → 00:10:18 อันที่ 1 คือถ้าเป็นไตเรื้อรังไตวัยเรื้อ
00:10:18 → 00:10:21 รังระยะสุดท้ายที่ต้องฟอกกลุ่มนี้เนี่ยโอ
00:10:21 → 00:10:25 ต้องเข้มงวดเรื่องของเอ่อเกลือแร่มากๆถ้า
00:10:25 → 00:10:27 จำเป็นต้องกินจริงๆให้ปรึกษาแพทย์ผู้
00:10:28 → 00:10:31 รักษาโรคไตนั้นก่อนนะคะว่ามันจะมีผลต่อ
00:10:31 → 00:10:34 เกลือแร่มยนะนั่นคือคนกลุ่มคนกลุ่มที่ 1
00:10:34 → 00:10:36 กลุ่มคนกลุ่มที่ 2 คือคนที่มีอาการท้อง
00:10:36 → 00:10:38 เสียอยู่แล้วขณะที่มีท้องเสียอยู่แล้ว
00:10:38 → 00:10:41 เนี่ยไม่ต้องไปกินตีผลาเพิ่มเติมและมันก็
00:10:41 → 00:10:44 จะยิ่งมีปัญหามากมายหรือว่าคนที่ธาตุเบา
00:10:44 → 00:10:47 ท้องเสียง่ายอยู่ก็ท้องเสียง่ายแล้วก็
00:10:47 → 00:10:49 อยากกินตีผสาในแง่ของยาต้านอนุมูลอิสระ
00:10:49 → 00:10:51 อันนั้นก็ไม่ควรไม่
00:10:51 → 00:10:55 >> นะฮะแล้วก็อันที่ 3 เนี่ยคนที่รับประทาน
00:10:55 → 00:11:00 ยาบางอย่างนะคะซึ่งซึ่งจะมีผลต่อไอ้ภาวะ
00:11:00 → 00:11:03 เกลือโปแทสเซียมนะอย่างเช่นยาขับปัสสาวะ
00:11:03 → 00:11:07 หรือว่ากลุ่มยาที่เอ่อเป็นยาลดความดัน
00:11:07 → 00:11:09 โลหิตบางชนิดนะคะเพราะฉะนั้นกลุ่มนี้ก็
00:11:09 → 00:11:11 ต้องระมัดระวังเช่นเดียวกันเพราะมันก็จะ
00:11:11 → 00:11:15 ไปกระทบการทำงานของยานะฮะแล้วก็ทำให้การ
00:11:15 → 00:11:17 ควบคุมเรื่องของความดันโลหิตหรือควบคุม
00:11:17 → 00:11:20 โรคพวกนั้นน่ะไม่ดีนะคะถ้ากรณีอย่างนั้น
00:11:20 → 00:11:23 เนี่ยก็ให้ปรึกษาเภสัชกรก่อนนะคะว่าเอ๊
00:11:23 → 00:11:26 ตัวนี้มันจะมีปัญหามีปฏิกิริยาต่อกันมย
00:11:26 → 00:11:28 ให้เขาเช็คก่อนนะคะมันจะมีข้อมูลให้เขา
00:11:28 → 00:11:32 เช็คพอสมควรนะคะคนกลุ่มสุดท้ายซึ่งจริงๆ
00:11:32 → 00:11:35 คนกลุ่มนี้เป็นคนที่เราจะป้องแล้วเราก็จะ
00:11:35 → 00:11:39 เอาเออกจากการกินสมุนไพรเลยก็คือตั้งคาน
00:11:39 → 00:11:43 >> อ่าผู้หญิงที่มีคันหรือว่าคนที่กำลังให้
00:11:43 → 00:11:46 นมลูกนะคะเพราะว่าในขณะที่ให้นมลูกเนี่ย
00:11:46 → 00:11:48 บางครั้งเวลาเรากินยาระบายบางชนิดเนาะมัน
00:11:48 → 00:11:52 ก็จะออกจากเอ่อนมแม่ไปผ่านนมแม่ไปสู่ลูก
00:11:52 → 00:11:56 ได้ฮะเราเคยเจอว่าให้นมลูกแต่กินยาระบาย
00:11:56 → 00:11:59 ลูกก็ท้องเสียด้วยนะคะนี่คือกลุ่มคนที่
00:11:59 → 00:12:02 จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการใช้ตรีพลาค่ะ
00:12:02 → 00:12:05 >> อืค่ะอย่างงั้นหลักๆสรรพคุณของตรีพลาเท่า
00:12:05 → 00:12:07 ที่ฟังจากอาจารย์ก็คือหลักๆก็คือแก้ไอกับ
00:12:07 → 00:12:10 คนที่เหมือนกับอยากจะระบายก็คือท้องผูก
00:12:10 → 00:12:13 อยากให้แบบของเหลวอะไรที่มันดูเป็นปะเมหะ
00:12:13 → 00:12:15 ออกไปก็สามารถทานได้แต่ว่าถ้าเกิดปลอดภัย
00:12:16 → 00:12:17 ก็คือทานระยะสั้น
00:12:17 → 00:12:17 >> ใช่ค่ะ
00:12:17 → 00:12:20 >> อ่าโอเคค่ะอ่ะคำถามสุดท้ายค่ะอาจารย์มัน
00:12:20 → 00:12:23 มีหลายรูปแบบมากเลยมันมีทั้งแคปซูลมีทั้ง
00:12:23 → 00:12:27 แบบต้มมีทั้งแบบธงแบบไหนจะเหมาะถ้าตาม
00:12:27 → 00:12:31 หลักเภสักรรมนะคะตามหลักเภสักรรมเนี่ยแบบ
00:12:31 → 00:12:34 ต้มเนี่ยดีที่สุดนะคะเพราะว่าโบราณก็ใช้
00:12:34 → 00:12:37 แบบต้มมานะคะแบบต้มคือการสกัดสารออกมา
00:12:37 → 00:12:40 แล้วนะคะเพราะฉะนั้นเวลากินก็จะง่ายแล้ว
00:12:40 → 00:12:43 ก็ออกฤทธิ์เร็วนะคะออกฤทธิ์ได้ตามที่
00:12:43 → 00:12:45 ต้องการมันก็จะต่างจากแคปซูลเพราะแคปซูล
00:12:45 → 00:12:48 เนี่ยกินเข้าไปเป็นผงแล้วเข้าไปในร่างกาย
00:12:48 → 00:12:52 กว่าผงจะแตกตัวกว่าจะดูดซึมกว่าจะสกัดออก
00:12:52 → 00:12:55 มาแล้วดูดซึมมันก็เป็นปัญหามากนะแต่แบบ
00:12:55 → 00:13:00 ต้มจะดีกว่าแต่นี้ข้อเสียของแบบเอ่อแบบ
00:13:00 → 00:13:03 ต้มนะฮะก็คือว่ามันเป็นสารสกัดน้ำอ่ะมัน
00:13:03 → 00:13:07 เป็นน้ำต้มนะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยถ้าเค้าทำ
00:13:07 → 00:13:11 มาไม่ดีหรือไม่ได้ใส่ยากันเสียมาเนี่ยมัน
00:13:11 → 00:13:13 ก็มีโอกาสที่จะเสียได้ง่ายนะคะดังนั้น
00:13:13 → 00:13:16 เนี่ยเวลาเราซื้อแบบประเภทที่เป็นตีตีผลา
00:13:16 → 00:13:18 แบบเป็นน้ำมาเนี่ยพยพยายามอย่าซื้อขวด
00:13:19 → 00:13:21 ใหญ่อันนี้อันนี้หน่อยนะฮะ
00:13:21 → 00:13:23 >> เราไม่จำเป็นต้องกินเยอะและไม่จำเป็นต้อง
00:13:23 → 00:13:26 กินยาวเพราะฉะนั้นซื้อขวดเล็กๆพอแทบจะกิน
00:13:26 → 00:13:29 หมดภายในสัก 2-3 วันก็พอแล้วนะคะแต่
00:13:29 → 00:13:33 สำหรับคนที่อยากกินแบบประเภทเป็นเอ่อยา
00:13:33 → 00:13:36 ต้านอนุมูลอิสระกินยาวๆก็อาจจะกินแบบ
00:13:37 → 00:13:40 ประเภทแคปซูลหรือเป็นสารสกัดก็ได้แต่ให้
00:13:40 → 00:13:43 เทียบนะคะให้เทียบเอ่อว่าสารสกัดเนี้ยมัน
00:13:43 → 00:13:46 เทียบเท่ากับตรีผลาเท่าไหร่นะคะแล้วก็ไป
00:13:46 → 00:13:50 ดูขนาดใช้ของตรีผลาที่เขาใช้กันอยู่นะฮะ
00:13:50 → 00:13:53 เพราะฉะนั้นอย่าคิดว่าพอเข้มข้นแล้วเราจะ
00:13:53 → 00:13:55 กินเท่ากับแคปซูลที่เป็นผง
00:13:55 → 00:13:57 >> เพราะมันทำให้เราได้รับยาที่มากเกินไปนะ
00:13:58 → 00:14:01 คะอ่าอันนี้ก็เป็นหลักการที่เราจะตรวจสอบ
00:14:01 → 00:14:04 แล้วก็อีกอันนึงก็คือว่าเวลาดูผลิตภัณฑ์
00:14:04 → 00:14:07 พวกเนี้ยให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่เขาเรียกว่า
00:14:07 → 00:14:10 มีการผลิตที่ดีนะคะแล้วก็เป็นบริษัทที่
00:14:10 → 00:14:14 ใส่ใจในการผลิตนะคะมีความสะอาดปราศจากการ
00:14:14 → 00:14:17 ปนเปื้อนพวกโลหะหนักพวกอะไรพวกเนี้ยซึ่ง
00:14:17 → 00:14:19 จริงจริงๆแล้วเนี่ยออยยอจะอนุญาตได้ก็
00:14:19 → 00:14:22 ต้องมีพวกนี้อยู่แล้วแต่ว่ายังไงก็ตาม
00:14:22 → 00:14:25 เนี่ยก็พยายามดูแล้วก็อีกอันนึงก็อย่า
00:14:25 → 00:14:29 ซื้อที่มันเก่ามากแล้วอ่ะบางคนเนี่ยก็จะ
00:14:29 → 00:14:32 เจอว่าบางทีมันใกล้ๆหมดอายุแล้วบางบริษัท
00:14:32 → 00:14:35 ก็จะมีการใกล้ๆหมดอายุแล้วเก็อาจจะลดราคา
00:14:35 → 00:14:38 อ่าถ้าเราคิดว่าเอ๊ะใกล้หมดอายุแล้วแต่
00:14:38 → 00:14:41 เราจะมากินแค่สัก 2-3 วันหมดก็ยังโอเค
00:14:41 → 00:14:43 อยู่แต่ถ้าคิดว่าจะกินอเก็บเอาไว้เผื่อๆ
00:14:44 → 00:14:45 อันนั้นอย่าซื้อ
00:14:45 → 00:14:48 >> อืค่ะก็เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์มากเลยนะ
00:14:48 → 00:14:50 คะลองเลือกดูว่าอาการที่เราเป็นมันเหมาะ
00:14:50 → 00:14:53 หรือเปล่ากับตรีผลานะคะบางทีอาจจะได้ยา
00:14:53 → 00:14:56 ที่ตรงกับอาการมากกว่าตรีผลาด้วยซ้ำนะคะ
00:14:56 → 00:14:58 ก็หวังว่าข้อมูลวันนี้จะเป็นประโยชน์นะคะ
00:14:58 → 00:15:02 ใครที่ถามมานะคะก็ตอบให้แล้วเนาะจะได้นำ
00:15:02 → 00:15:04 ไปปรับใช้กันนะคะวันนี้แดงก็ขอบคุณ
00:15:04 → 00:15:06 อาจารย์อีกครั้งนะคะให้คำตอบพวกเราแล้วก็
00:15:06 → 00:15:09 ขอลาไปเลยค่ะครั้งต่อไปจะหยิบคำถามไหนมา
00:15:09 → 00:15:11 พูดคุยมาตอบอีกก็อย่าลืมมาติดตามกันนะคะ
00:15:11 → 00:15:14 วันนี้ลาไปก่อนค่ะบ๊ายบายค่ะบาย
00:15:14 → 00:15:30 [เพลง]