00:00:00 → 00:00:02 บนโซเชียลมีการแชร์สารพัดข้อห้ามการ
00:00:02 → 00:00:04 บริจาคเลือดทั้งการฉีดวัคซีนโควิดทำให้
00:00:04 → 00:00:07 เลือดดำเขียวน้ำแข็งเสี่ยงเลือดจางจน
00:00:07 → 00:00:10 บริจาคเลือดไม่ได้รวมทั้งยังมีการแชร์กัน
00:00:10 → 00:00:12 ว่ามีผลไม้ที่ช่วยบำรุงเลือดอีกด้วย
00:00:12 → 00:00:14 เรื่องไหนจริงเรื่องไหนเท็จพบคำตอบในชั่ว
00:00:14 → 00:00:16 ก่อนแชร์เช็คลิสต์ร้อยเรียงเรื่องฮิตติด
00:00:16 → 00:00:21 อันดับจากชัวร์ก่อนแชร์
00:00:21 → 00:00:23 อันดับที่ 5 ชอบเคี้ยวน้ำแข็งเสี่ยงโลหิต
00:00:23 → 00:00:24 จางจริงหรือ
00:00:24 → 00:00:26 >> ไม่เกี่ยวครับน้ำแข็งก็คือน้ำตัวน้ำแข็ง
00:00:26 → 00:00:28 เองเนี่ยไม่มีสารอาหารอะไรอยู่แล้วการชอบ
00:00:28 → 00:00:30 เคี้ยวน้ำแข็งไม่ได้เป็นความสิเสี่ยงต่อ
00:00:30 → 00:00:32 การเป็นโลหิตจางเพียงแต่ว่าการกินน้ำแข็ง
00:00:32 → 00:00:34 เนี่ยอาจจะเป็นอาการที่พบได้บ่อยในคนที่
00:00:34 → 00:00:35 เป็นโลหิตจางจะขาดทาเหล็ก
00:00:36 → 00:00:37 >> จะรู้ได้ยังไงครับว่าเราเป็นโลหิตจาง
00:00:37 → 00:00:40 >> อาจจะเริ่มตั้งแต่แบบไม่มีอาการเลยจนถึง
00:00:40 → 00:00:43 มีอาการอ่อนเพลียง่ายเหนื่อยกว่าปกติหน้า
00:00:43 → 00:00:46 มืดเป็นลมเวลาลุกนั่งเวลาเปลี่ยนท่าทาง
00:00:46 → 00:00:48 คุณผู้หญิงมีประจำเดือนออกมาเยอะผิดปกติ
00:00:48 → 00:00:49 ก็มีความเสี่ยง
00:00:49 → 00:00:51 >> สรุปแล้วเรื่องนี้ไม่ควรแชร์ต่อนะครับแม้
00:00:51 → 00:00:54 จะมีงานวิจัยพบว่าผู้ป่วยโรคโลหิตจางบาง
00:00:54 → 00:00:56 ส่วนมักมีอาการชอบเคี้ยวน้ำแข็งอย่างไรก็
00:00:56 → 00:00:58 ตามการเคี้ยวน้ำแข็งไม่ได้มีความเสี่ยงทำ
00:00:58 → 00:01:00 ให้เกิดโรคโลหิตจังอย่างที่เข้าใจผิดกัน
00:01:00 → 00:01:03 ครับอันดับที่ 4 ผลไม้บำรุงเลือดมีจริง
00:01:03 → 00:01:06 หรือผลไม้สีแดงนี่เกี่ยวอะไรกับการบำรุง
00:01:06 → 00:01:06 เลือดมั้ยครับ
00:01:06 → 00:01:09 >> ผลไม้สีแดงไม่ใช่ว่าจะสรุปได้ว่าเป็นการ
00:01:09 → 00:01:12 กินเพื่อบำรุงเลือดแต่สารสีแดงที่อยู่ใน
00:01:12 → 00:01:14 ผลไม้เหล่านั้นเนี่ยมันคือสารต้านอนุมูล
00:01:14 → 00:01:17 อิสระในตระกูลของแคโรทีนอยผลไม้ต่างๆ
00:01:17 → 00:01:18 เนี่ยธาตุเหล็กเนี่ค่อนข้างน้อย
00:01:18 → 00:01:20 >> ธาตุเหล็กต่างหากคือกุญแจสำคัญที่จะช่วย
00:01:20 → 00:01:21 บำรุงเลือดได้
00:01:21 → 00:01:23 >> ธาตุเหล็กซึ่งมันจะไปช่วยในการสร้างเม็ด
00:01:23 → 00:01:25 เลือดแดงอาหารหลักๆเนื้อสัตว์ที่เป็นสี
00:01:25 → 00:01:28 แดงเครื่องในเลือดสัตว์ข้อความนี้ยังมี
00:01:28 → 00:01:31 ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเยอะพอสมควรก็แนะนำ
00:01:31 → 00:01:32 ว่าอย่าเพิ่งแชร์ต่อดีกว่า
00:01:32 → 00:01:34 >> สรุปแล้วเรื่องนี้ไม่จริงไม่ควรแชร์ต่อ
00:01:34 → 00:01:36 ครับผลไม้อย่างเช่นแตงโมแก้วมังกร
00:01:36 → 00:01:39 สตรอวเบอร์รี่ทับทิมแม้จะมีสารสีแดงที่
00:01:39 → 00:01:41 ช่วยในการต้านอนุมูลอิสระดีต่อร่างกายแต่
00:01:41 → 00:01:43 ผลไม้ดังกล่าวก็ไม่ได้ช่วยบำรุงเลือด
00:01:43 → 00:01:46 อย่างที่แชร์กันนะครับอันดับที่ 3 ฉีด
00:01:46 → 00:01:48 วัคซีนโควิดทำให้เลือดดำคล้ำเป็นพิษ
00:01:48 → 00:01:50 บริจาคโลหิตไม่ได้จริงหรือ
00:01:50 → 00:01:53 >> ไม่เป็นความจริงครับเลือดคนเราก็จะมีแต่
00:01:53 → 00:01:56 สีแดงบางคนก็อาจจะมีสีแดงเข้มเพราะว่ามี
00:01:56 → 00:01:59 เอ่อเลือดเข้มข้นก็เป็นไปได้ครับแต่ไม่
00:01:59 → 00:02:01 ถึงกับเป็นสีดำหรอกครับแล้วก็คนที่ฉีด
00:02:01 → 00:02:04 วัคซีนกับไม่ฉีดวัคซีนก็ไม่ได้มีผลอะไร
00:02:04 → 00:02:06 เกี่ยวกับสีของเลือดเวลาฉีดวัคซีนเนี่ย
00:02:06 → 00:02:09 มันฉีดไปกระตี้เดียวนะฮะเข้าไปในกล้าม
00:02:09 → 00:02:10 เนื้อนั้นวัคซีนมันก็ค้างอยู่ตรงนั้นแหละ
00:02:10 → 00:02:12 มันไม่ผสมกับเลือดที่ไหนแล้วก็อีกอย่าง
00:02:12 → 00:02:15 นึงเลือดของเราเรามีตั้ง 5 ลิตรมาเจอ
00:02:15 → 00:02:18 วัคซีน 1 ซีซอย่างเงี้ยมันก็ไม่เปลี่ยนสี
00:02:18 → 00:02:19 ไปทั้งหมดหรอกมันเป็นไปไม่ได้เอาเลย
00:02:19 → 00:02:22 >> สรุปแล้วเรื่องนี้ไม่ควรแชร์ต่อผู้ที่ได้
00:02:22 → 00:02:24 รับการฉีดวัคซีนโควิดจะได้รับวัคซีนเข้า
00:02:24 → 00:02:26 ที่กล้ามเนื้อและร่างกายจะเปลี่ยนแปลง
00:02:26 → 00:02:28 เป็นภูมิคุ้มกันเช่นเดียวกับการฉีดวัคซีน
00:02:28 → 00:02:31 ชนิดอื่นๆซึ่งไม่ทำให้สีของโลหิตมีสีดำ
00:02:31 → 00:02:33 คล้ำและเกิดการเปลี่ยนแปลงสีแต่อย่างใด
00:02:33 → 00:02:36 ครับอันดับที่ 2 คนที่สักร่างกายห้าม
00:02:36 → 00:02:37 บริจาคเลือดจริงหรือ
00:02:37 → 00:02:40 >> เป็นเรื่องจริงเพราะว่าการไปสักหรือว่าไป
00:02:40 → 00:02:43 ฝังเข็มถ้าสมมุติว่ากระทำโดยแพทย์หรือว่า
00:02:43 → 00:02:46 ใช้เข็มสระหรือว่าการฝังเข็มที่ใช้เข็ม
00:02:46 → 00:02:48 ครั้งเดียวอันนี้จะปลอดภัยก็จะงดบริจาค
00:02:48 → 00:02:51 โลหิตชั่วคราวเท่านั้นแต่ถ้าหากว่าไปสัก
00:02:51 → 00:02:54 ไปลบรอยสักซึ่งทำโดยคนที่อาจจะไม่ใช่
00:02:54 → 00:02:57 แพทย์นะคะหรือว่าไม่มั่นใจในความสะอาดอัน
00:02:57 → 00:03:00 นี้เราขอให้งวดบริจาคมาอีก 1 ปีเหตุผล
00:03:00 → 00:03:03 เนี่ยก็เนื่องจากว่าอุปกรณ์ที่ไม่สะอาดจะ
00:03:03 → 00:03:04 มีการติดเชื้อได้
00:03:04 → 00:03:06 >> แล้วหลักการนี้ครอบคลุมการสักทุกแบบครับ
00:03:06 → 00:03:09 >> คนที่เข้าไปสักเขียวแบบที่ไม่ใช่สักถาวร
00:03:09 → 00:03:12 อันเนี้ยก็ให้บริจาคคิดได้แต่กรณีที่ไป
00:03:13 → 00:03:16 สักตัวอันเนี้ยแน่นอนแหละว่ามันไม่ได้ทำ
00:03:16 → 00:03:18 โดยแพทย์ไม่ได้ทำอะไรอันเนี้ยก็ห้าม 1 ปี
00:03:18 → 00:03:20 >> สรุปแล้วเรื่องนี้จริงแชร์ต่อได้แต่ต้อง
00:03:20 → 00:03:23 อธิบายเพิ่มว่าคนที่สักร่างกายห้ามบริจาค
00:03:23 → 00:03:25 เลือดนั้นจริงแต่เป็นการห้ามแค่ชั่วคราว
00:03:26 → 00:03:28 ประมาณ 1 ปีเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีเชื้อ
00:03:28 → 00:03:30 โรคปะปนอยู่ในกระแสเลือดและอาจจะก่อ
00:03:30 → 00:03:33 อันตรายต่อผู้ที่ได้รับโลหิตนั้นนะครับ
00:03:33 → 00:03:35 และอันดับที่ 1 บริจาคโลหิตทำให้อ้วนจริง
00:03:35 → 00:03:36 หรือ
00:03:36 → 00:03:39 >> อันนี้ไม่เป็นความจริงคนที่อ้วนก็เกิดจาก
00:03:39 → 00:03:41 การที่รับประทานอาหารไม่ถูกส่วนรับประทาน
00:03:41 → 00:03:44 ไขมันมากเกินไปแป้งมากเกินไปขาดการออก
00:03:44 → 00:03:46 กำลังกายเพราะฉะนั้นการบริจาคโลหิตเนี่ย
00:03:46 → 00:03:47 ไม่ทำให้อ้วน
00:03:47 → 00:03:50 >> ถ้าไม่ทำให้อ้วนแล้วยิ่งบริจาคโลหิตจะ
00:03:50 → 00:03:51 ยิ่งทำให้ผอมมั้ครับ
00:03:51 → 00:03:54 >> คนที่อ้วนอย่าได้หวังว่าการบริจาคโลหิตจะ
00:03:54 → 00:03:56 ทำให้ผอมลงอันนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน
00:03:56 → 00:03:59 ไม่ได้ทำให้ทั้งอ้วนไม่ได้ทำให้ทั้งผอม
00:03:59 → 00:04:01 >> หลายคนที่เคยบริจาคโลหิตก็เคยยืนยันไว้ใน
00:04:01 → 00:04:02 กระทู้พันทิพย์นะครับบอกว่าไม่ได้ทำให้
00:04:02 → 00:04:05 อ้วนหรือไม่ทำให้ผอมกว่าปกติครับอย่าง
00:04:05 → 00:04:08 เช่นคุณลิซี่ที่บอกว่าเป็นคนอ้วนอยู่แล้ว
00:04:08 → 00:04:10 ถ้าบริจาคเลือดแล้วอ้วนขึ้น 40 กว่าครั้ง
00:04:10 → 00:04:13 นี่คงทำให้ผมตัวแตกไปแล้วและบางท่านก็
00:04:13 → 00:04:15 ตั้งข้อสังเกตว่าบริจาคเสร็จมักจะอ่อน
00:04:15 → 00:04:17 เพลียและหิวจึงทำให้กินแบบไม่ยั้งจนอ้วน
00:04:17 → 00:04:20 ในที่สุดครับชัดแล้วนะครับการบริจาคโลหิต
00:04:20 → 00:04:21 นั้นไม่เกี่ยวกับน้ำหนักตัวสรุปแล้ว
00:04:21 → 00:04:23 เรื่องนี้ไม่จริงไม่ควรแชร์ต่อครับการ
00:04:23 → 00:04:25 บริจาคโลหิตไม่ได้ทำให้อ้วนแต่เป็นเพียง
00:04:25 → 00:04:28 เพียงการถ่ายเทโลหิตบางส่วนที่ร่างกายไม่
00:04:28 → 00:04:30 ใช้แล้วออกไปส่วนน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นนั้น
00:04:30 → 00:04:32 อาจเกิดจากพฤติกรรมการกินอาหารที่มีไขมัน
00:04:33 → 00:04:35 มากเกินความต้องการหรือสาเหตุอื่นก็ได้
00:04:35 → 00:04:37 เรื่องนี้จึงไม่ควรแชร์ต่อนะครับคุณผู้ชม
00:04:37 → 00:04:39 สามารถรับชมเนื้อหาโดยละเอียดของทั้ง 5
00:04:39 → 00:04:41 เรื่องฮิตและคลิปตรวจสอบข้อเท็จจริงอีก
00:04:41 → 00:04:43 กว่า 2,000 เรื่องได้ที่ช่อง YouTube
00:04:43 → 00:04:45 ชัวร์ก่อนแชร์นะครับส่งเรื่องน่าสงสัย
00:04:45 → 00:04:47 แจ้งเตือนภัยข้อมูลเท็จเพียงแอด Line
00:04:47 → 00:04:49 ศูนย์ชัว์ก่อนแชร์ไว้นะครับเข้าไปที่
00:04:49 → 00:04:51 เพิ่มเพื่อนและค้นหา@ชัวร์andอน share
00:04:51 → 00:04:53 ยังมีอีกหลายเรื่องน่าสงสัยบนสังคม
00:04:53 → 00:04:56 ออนไลน์หากได้รับอะไรมาอย่าเพิ่งแชร์ต่อ
00:04:56 → 00:05:00 ร่วมตรวจสอบไปด้วยกันกับชัวร์ก่อนแชร์
00:05:00 → 00:05:02 >> ชัวร์ก่อนแชร์cซเบอร์ระวังเพจปลอมรับแจ้ง
00:05:03 → 00:05:05 ความออนไลน์อ้างมีทนายมือดีมีทีมงานเก่ง
00:05:05 → 00:05:08 แบบนี้ของปลอมสำนักงานตำรวจแห่งชาติขอย้ำ
00:05:08 → 00:05:10 ไม่มีนโยบายรับแจ้งความผ่านเพจหรือผ่าน
00:05:10 → 00:05:13 Line ใดๆทั้งสิ้นหากต้องการแจ้งความทำ
00:05:13 → 00:05:15 ได้ 2 ทางคือสายด่วน 1441 หรือ
00:05:15 → 00:05:17 thapolitisonline.go.th
00:05:17 → 00:05:21 TS
00:05:21 → 00:05:24 [เพลง]