00:00:00 → 00:00:00 [เพลง]
00:00:00 → 00:00:03 ติดมือถือมากเสี่ยงป่วยเป็นโรคกลัวการขาด
00:00:03 → 00:00:05 โทรศัพท์มือ
00:00:05 → 00:00:09 ถือติดมือถือขนาดนี้ป่วยแล้วหรือยังเช็ค
00:00:09 → 00:00:13 อาการโรคกลัวการขาดโทรศัพท์มือ
00:00:13 → 00:00:17 ถือช่วงฟิตเต็มร้อยกับ bu FC ทำความรู้
00:00:17 → 00:00:20 จักกับ GPS Tracker เซือกตรวจจับความ
00:00:20 → 00:00:23 เคลื่อนไหวสำหรับนักกีฬาติดตามเรื่องราว
00:00:23 → 00:00:31 ทั้งหมดได้ในรายการที่ and help วันนี้
00:00:31 → 00:00:34 สวัสดีค่ะขอต้อนรับเข้าสู่รายการ TE and
00:00:34 → 00:00:37 Health เข้าถึงทุกสาระสุขภาพเสริมภูมิ
00:00:37 → 00:00:40 คุ้มกันรู้ทันโรคกับ TE แอ Health ค่ะและ
00:00:40 → 00:00:43 ดิฉันหมอดาวแพทย์หญิงัตดาวจังวังกรแพทย์
00:00:43 → 00:00:46 เฉพาะทางสาขาเวชศาสตร์ครอบครัวพร้อมที่จะ
00:00:46 → 00:00:49 รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการพาคุณผู้ชม
00:00:49 → 00:00:52 มาเข้าถึงสาระสุขภาพดีๆกันค่ะ
00:00:52 → 00:01:04 [เพลง]
00:01:04 → 00:01:07 สำหรับสัปดาห์นี้นะคะเราจะมารู้จักกับโรค
00:01:07 → 00:01:10 ที่เป็นภัยใกล้ตัวและเป็นภัยยุคใหม่ของ
00:01:10 → 00:01:13 พวกเราด้วยค่ะนั่นก็คือโรคกลัวการขาด
00:01:13 → 00:01:17 โทรศัพท์มือถือค่ะหรือว่าโฟเบียเป็นอย่าง
00:01:17 → 00:01:20 ไรไปฟังพร้อมๆกันค่ะโรคกลัวการขาด
00:01:20 → 00:01:25 โทรศัพท์มือถือหรือโฟเบียย่อมาจาก No
00:01:25 → 00:01:28 mobile phone fobia เป็นกลุ่มอาการ
00:01:28 → 00:01:31 กลัวกังวลใจและวิตกกังวลกับการไม่มี
00:01:31 → 00:01:34 โทรศัพท์ใช้และรู้สึกว่าโทรศัพท์เป็นส่วน
00:01:34 → 00:01:37 หนึ่งของชีวิตเป็นอาการหวาดกลัวเมื่อต้อง
00:01:37 → 00:01:40 ดำรงชีวิตอยู่โดยไม่มีโทรศัพท์มือถือหรือ
00:01:41 → 00:01:43 ไม่ได้ใช้โทรศัพท์มือถือไม่ว่าจะเป็นการ
00:01:43 → 00:01:46 ลืมพกโทรศัพท์มือถือติดตัวโทรศัพท์มือถือ
00:01:46 → 00:01:49 แบตเตอรี่หมดหรือการอยู่บริเวณที่ไม่มี
00:01:49 → 00:01:52 สัญญาณโทรศัพท์จะทำให้ผู้ที่มีภาวะนี้รู้
00:01:52 → 00:01:56 สึกกระวนกวายใจหงุดหงิดเครียดมีเหงื่อออก
00:01:56 → 00:02:00 ตัวสั่นหรือคลื่นไส้ทั้งนี้พฤติกรรมนี้
00:02:00 → 00:02:02 อาจส่งผลกระทบต่อการเรียนการทำงานความ
00:02:02 → 00:02:05 สัมพันธ์ต่อคนรอบข้างหรือการใช้ชีวิต
00:02:05 → 00:02:07 ประจำวันด้านต่าง
00:02:07 → 00:02:11 ๆแล้วคุณผู้ชมทราบหรือไม่คะว่าการใช้
00:02:11 → 00:02:15 โซเชียลมีเดียของคนไทยมีการศึกษาวิจัยพบ
00:02:15 → 00:02:18 แล้วว่ามีผลกระทบทางจิตใจของคนไทยค่ะ
00:02:19 → 00:02:20 สถาบันบัณฑิต
00:02:20 → 00:02:24 พัฒนบริหารศาสตร์เปิดเผยว่าสถิติการใช้
00:02:24 → 00:02:28 งานอุปกรณ์ดิจิทัลของคนไทยเมื่อปีที่ผ่าน
00:02:28 → 00:02:31 มามากถึงร้อยละ 76 และไม่เคยหยุดใช้
00:02:31 → 00:02:35 โซเชียลมีเดียแม้แต่วันเดียวขณะที่ผู้
00:02:35 → 00:02:39 ป่วยโรคซึมเศร้าและสุขภาวะทางจิตอื่นๆมี
00:02:39 → 00:02:43 แนวโน้มพบเห็นในสังคมมากขึ้นโดยผลสำรวจพบ
00:02:43 → 00:02:46 ข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างเกือบ 5,000 คนคน
00:02:46 → 00:02:49 ส่วนใหญ่ใช้อุปกรณ์ดิจิทัลเพื่อทำงานและ
00:02:49 → 00:02:53 เรียนหนังสือ 5-6 ชมงต่อวันและเพื่อความ
00:02:53 → 00:02:57 บันเทิง 3-4 ชมต่อวันเรียกว่าแทบทั้งวัน
00:02:57 → 00:03:00 จะอยู่ติดกับโทรศัพท์มือถือตลอดเวลาอีก
00:03:00 → 00:03:03 ทั้งยังพบการใช้โทรศัพท์มือถือขณะรับ
00:03:03 → 00:03:06 ประทานอาหารหรือพูดคุยกับเพื่อนและ
00:03:06 → 00:03:10 ครอบครัวคิดเป็น 4 ใน 5 ของกลุ่มตัวอย่าง
00:03:10 → 00:03:14 และร้อยละ 62 ไม่จำกัดเวลาการใช้งานนอก
00:03:14 → 00:03:18 จากนี้จากผลสำรวจยังพบว่าพฤติกรรมการใช้
00:03:18 → 00:03:21 อุปกรณ์ดิจิทัลของคนไทยล้วนแต่ส่งผลต่อ
00:03:21 → 00:03:25 สังคมสุขภาพกายไปจนถึงสุขภาพจิตที่เชื่อม
00:03:25 → 00:03:29 โยงไปถึงการพบผู้ป่วยโรคซึมเศร้าโรคสมาธิ
00:03:29 → 00:03:32 สั้นหรือปัญหาสุขภาพจิตอื่นๆที่เพิ่มมาก
00:03:32 → 00:03:36 ขึ้นแล้วคุณผู้ชมทราบไคะว่าการสำรวจ
00:03:37 → 00:03:39 เรื่องของการใช้โทรศัพท์มือถือในเรื่อง
00:03:40 → 00:03:42 การใช้โซเชียลมีเดียนั้นมีผลกระทบต่อ
00:03:43 → 00:03:47 สุขภาพจิตของคนไทยโดยการสำรวจข้อมูลกลุ่ม
00:03:47 → 00:03:51 เด็กและวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 18 ปีจำนวน
00:03:51 → 00:03:53 สะสม
00:03:53 → 00:03:54 [เพลง]
00:03:54 → 00:03:58 5388 4 รายของกรมสุขภาพจิตผ่าน
00:03:58 → 00:04:01 แอปพลิเคชัน mental Health checkin
00:04:01 → 00:04:05 ระหว่างวันที่ 12 กุมภาพันธ์
00:04:05 → 00:04:09 2565 ถึง 14 ตุลาคม
00:04:09 → 00:04:13 2567 พบกลุ่มเด็กและวัยรุ่นเสี่ยงซึม
00:04:13 → 00:04:16 เศร้าถึง
00:04:16 → 00:04:20 5178 รายคิดเป็นรอยละ 10.28 เสี่ยงทำ
00:04:20 → 00:04:22 ร้ายตนเองจำนวน
00:04:22 → 00:04:27 87 718 รายคิดเป็นรอยละ
00:04:27 → 00:04:31 17.4 จากการสำรวจของของกรมสุขภาพจิตนะคะ
00:04:31 → 00:04:35 พบว่าเด็กและเยาวชน 1 ใน 7 มีปัญหาเรื่อง
00:04:35 → 00:04:39 ของภาวะซึมเศร้าแม้ว่าคนส่วนใหญ่ของคนวัย
00:04:39 → 00:04:43 นี้จะใช้ช่องทางสื่อโซเชียล Media เป็น
00:04:43 → 00:04:46 ช่องทางหลักในการสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับ
00:04:46 → 00:04:50 สุขภาพจิตแต่ก็ยังเผชิญกับความท้าทายใน
00:04:50 → 00:04:52 การเข้าถึงแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือและ
00:04:52 → 00:04:56 พบเจอปัจจัยเสี่ยงต่างๆที่อาจส่งผลกระทบ
00:04:56 → 00:05:00 ทางลบต่อจิตใจสะท้อนให้เห็นว่าเด็กและชน
00:05:00 → 00:05:02 คือวัยที่ได้รับผลกระทบจากเทคโนโลยี
00:05:02 → 00:05:06 ดิจิทัลมากที่สุดดังนั้นแล้วการปลูกฝัง
00:05:06 → 00:05:09 ภูมิคุ้มกันการใช้งานดิจิทัลในกลุ่มเด็ก
00:05:09 → 00:05:13 และเยาวชนควรเป็นเรื่องแรกที่ต้องรีบทำ
00:05:13 → 00:05:16 ทราบเรื่องราวผลสำรวจของคนไทยแล้วนะคะเรา
00:05:16 → 00:05:20 มารู้กันดีกว่าว่าโรคกลัวการขาดมือถือมี
00:05:20 → 00:05:23 สาเหตุมาจากอะไรสาเหตุของโรคกลัวการขาด
00:05:23 → 00:05:27 โทรศัพท์มือถือหรือโนโมโฟเบียยังไม่รู้
00:05:27 → 00:05:31 แน่ชัดแต่จากการศึกษาคว่าอาจเกิดจากหลาย
00:05:31 → 00:05:34 ปัจจัยรวมกันหรืออาจเกี่ยวข้องกับการใช้
00:05:34 → 00:05:37 เทคโนโลยีที่เพิ่มมากขึ้นทำให้เกิดความ
00:05:37 → 00:05:40 กังวลเมื่อไม่ได้ใช้โทรศัพท์มือถือซึ่ง
00:05:40 → 00:05:44 ความกังวลเหล่านี้จะแสดงอาการออกมาทางการ
00:05:44 → 00:05:47 กระทำต่างๆเช่นนำโทรศัพท์มือถือมาไว้ใกล้
00:05:47 → 00:05:51 ตัวตลอดเวลาตั้งแต่เวลาตื่นจนถึงเวลานอน
00:05:51 → 00:05:53 และยังต้องบอกอีกว่าการใช้โทรศัพท์มือถือ
00:05:53 → 00:05:56 บ่อยจนเกินไปรวมถึงการวางท่าทางที่ไม่
00:05:56 → 00:05:59 เหมาะสมขณะใช้โทรศัพท์มือถือเช่นการกม
00:05:59 → 00:06:02 หน้าเพ่งจอใกล้ๆเป็นเวลานานหรืออยู่ในท่า
00:06:02 → 00:06:05 ที่ถือและใช้มือถือนานๆอาจก่อให้เกิดโรค
00:06:05 → 00:06:08 หรืออาการป่วยหลายอย่างตามมาได้เช่นปวด
00:06:08 → 00:06:11 เกร็งบริเวณคอบ่าไหล่จอประสาทตาเสื่อม
00:06:11 → 00:06:14 หมอนรองกระดูกที่คอเสื่อมก่อนไวเส้น
00:06:14 → 00:06:17 ประสาทสันหลังบริเวณคอถูกกดทับจนเป็นเหตุ
00:06:17 → 00:06:20 ให้เกิดอาการชาที่แขนหรือไม่มีแรงเป็นต้น
00:06:20 → 00:06:23 นอกจากนี้ผู้ที่นั่งหรือนอนเล่นโทรศัพท์
00:06:23 → 00:06:25 มือถือเป็นระยะเวลานานยังเสี่ยงต่อการ
00:06:25 → 00:06:28 เกิดโรคอ้วนการเดินเล่นโทรศัพท์มือถือ
00:06:28 → 00:06:30 หรือเล่นระหว่างเดินทางอาจเสี่ยงต่อการ
00:06:30 → 00:06:33 เกิดอุบัติเหตุหรือได้รับอันตรายต่อร่าง
00:06:33 → 00:06:36 กายและทรัพย์สินอีกด้วยและในช่วงนี้นะคะ
00:06:36 → 00:06:39 เราจะไปพูดคุยกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญใน
00:06:39 → 00:06:44 เรื่องของโรคกลัวการขาดโทรศัพท์มือถือ
00:06:44 → 00:06:47 กันสวัสดีค่ะอาจารย์ขอเริ่มที่คำถามแรก
00:06:47 → 00:06:47 เลยนะ
00:06:47 → 00:06:55 [เพลง]
00:06:55 → 00:06:59 คะอุบัติการณ์ของโรคกลัวการขาดโทรศัพท์
00:06:59 → 00:07:03 มือถือหรือว่าโนโมโฟเบียเป็นอย่างไรบ้าง
00:07:03 → 00:07:07 คะคือโรคโนโมโฟเบียหรือว่าการกลัวการขับ
00:07:07 → 00:07:10 ขาดโทรศัพท์มือถือนะคะอันเนี้ยก็คือพบได้
00:07:11 → 00:07:13 เรื่อยๆแต่ว่าถ้าสมมุติว่าพบจนใช้คำว่า
00:07:13 → 00:07:16 ป่วยอย่างเงี้ยค่ะอุบัติกาก็จะไม่ได้ต่าง
00:07:16 → 00:07:19 กันกับโรคโฟเบียหรือโรคกลัวเฉพาะทางค่ะ
00:07:19 → 00:07:21 ซึ่งโรคโฟเบียโดยทั้งหมดเนี่ยอาจจะสามารถ
00:07:21 → 00:07:25 พบได้ในคนถึง 5 -10% ของคนทั่วไปไม่ว่า
00:07:25 → 00:07:27 จะเป็นกลัวอะไรก็ตามอย่างเช่นกลัวความสูง
00:07:27 → 00:07:29 กลัวเลือดกลัวงูแต่ว่าในในส่วนของ
00:07:29 → 00:07:33 โนโมโฟเบียค่ะต้องบอกว่าอ่ามันขึ้นอยู่
00:07:33 → 00:07:35 กับว่าความเยอะด้วยว่าอันเนี้ยมันเยอะจน
00:07:35 → 00:07:37 ในระดับของความเป็นโรคเลยหรือว่าเป็นแค่
00:07:37 → 00:07:40 ความรู้สึกว่าไม่สบายใจเฉยๆถ้าไม่มีมือ
00:07:40 → 00:07:44 ถืออะไรเงี้ยค่ะแล้วโรคกลัวการขาด
00:07:44 → 00:07:48 โทรศัพท์มือถือคืออะไรคะโรคกลัวการขาดมือ
00:07:48 → 00:07:51 ถือค่ะเป็นโรคกลัวเฉพาะอย่างประเภทนึงแต่
00:07:51 → 00:07:53 ว่าอย่างที่บอกว่าจริงๆอ่ะค่ะมันไม่ได้
00:07:53 → 00:07:55 เป็นเหมือนการกลัวมือถือทางกายภาพแต่ว่า
00:07:55 → 00:07:57 เป็นการกลัวข้อมูลบางอย่างคือกลัวตกข่าว
00:07:57 → 00:08:00 ถ้าพูดง่ายๆคือกลัวตกขวข่าวด้วยความที่
00:08:00 → 00:08:03 สมัยเนี้ยค่ะข่าวมันมันเยอะเยอะจนบาง
00:08:03 → 00:08:06 อย่างเราไม่ได้อยากเสพมันก็เข้าเข้ามาหา
00:08:06 → 00:08:09 เราเองอะไรเงี้ยค่ะแล้วบางทีบางทีถามว่า
00:08:09 → 00:08:11 เอ๊ยการที่เรากลัวตกข่าวบางทีเราอาจจะไม่
00:08:11 → 00:08:13 ได้เป็นคนที่ชอบเสพข่าวหรือเสพดราม่าหรอก
00:08:13 → 00:08:16 แต่ว่าเราอาจจะรู้สึกว่าอุ๊ยเดี๋ยวเราจะ
00:08:16 → 00:08:18 ไม่เข้าพวกหมายถึงทำไมคนนู้นคนนี้เขาคุย
00:08:18 → 00:08:20 กันเรื่องนู้นเรื่องนี้เรื่องนั้นรู้
00:08:20 → 00:08:22 เรื่องกันหมดเลยแล้วเราแบบเอ้ามีเรื่อง
00:08:22 → 00:08:25 นี้ด้วยหรอไม่รู้เรื่องอะไรเงี้ยค่ะหรือ
00:08:25 → 00:08:26 ว่าแบบอย่างเช่นเอ๊ะไม่ได้อ่าน LINE
00:08:26 → 00:08:28 กลุ่มหรอทำไมแต่งตัวมาผิดตีมอะไรอย่าง
00:08:28 → 00:08:31 เงี้ยค่ะคือมันเป็นความกังวลใจในพวกอย่าง
00:08:31 → 00:08:35 นี้มากกว่าค่ะใครคะคือกลุ่มเสี่ยงของโรค
00:08:35 → 00:08:39 กลัวการขาดโทรศัพท์มือถืออย่างที่บอกค่ะ
00:08:39 → 00:08:42 ว่าในการเรื่องของโมโฟเบียหรือโรคกลัวการ
00:08:42 → 00:08:45 ขาดมือถือมันก็จะไปซ้อนๆกันกับพวกของโฟโม
00:08:45 → 00:08:47 หรือว่าคนที่กลัวการตกข่าว Fear of
00:08:47 → 00:08:49 Missing Out เพราะฉะนั้นหลายๆคนที่จะ
00:08:50 → 00:08:51 เป็นกลุ่มเสี่ยงจริงๆอ่ะค่ะก็คือจะเป็นคน
00:08:51 → 00:08:54 ที่ตรงไปตรงมาว่าติดมือถือติดการที่จะ
00:08:54 → 00:08:58 ต้องแบบอยู่ในสังคมจะต้องมีปฏิสัมพันธ์
00:08:58 → 00:09:01 กับคนจะต้องทันขาข่าวจะต้องไม่ตกข่าวไม่
00:09:01 → 00:09:03 เป็นคนที่เรารู้สึกว่าอุ๊ยอันนี้ทำไมเรา
00:09:03 → 00:09:06 พลาดอะไรเงี้ยค่ะซึ่งหลักๆตอนเนี้ยก็คือ
00:09:06 → 00:09:08 อาจจะไม่ได้เป็นใครหรือใครเป็นพิเศษแต่
00:09:08 → 00:09:10 ว่าคนที่ติดมือถือหลักๆตอนเนี้อยก็ต้อง
00:09:10 → 00:09:13 บอกว่าอ่าส่วนใหญ่เรื่องของเจนก็มีมีผล
00:09:13 → 00:09:15 เยอะเหมือนกันเพราะว่าอ่าเติบโตมาอย่าง
00:09:15 → 00:09:17 ที่เมื่อกี้บอกไปว่าบางบางท่านอาจจะไม่
00:09:17 → 00:09:20 ทันด้วยซ้ำสมัยที่ยังไม่มีมือถือคือเกิด
00:09:20 → 00:09:22 มาก็เป็นเด็กยุคมิเลนเนียมแล้วมีมือถือ
00:09:22 → 00:09:24 อะไรเงี้ยค่ะเพราะฉะนั้นคือคนที่อยู่กับ
00:09:24 → 00:09:27 มันจนเป็นเวที่ 5 เป็นเป็นปัจจัยที่ 5
00:09:28 → 00:09:30 ของเราอะไรเงี้ยค่ะพอมันขาดมันก็อาจจะรู้
00:09:30 → 00:09:33 สึกกลัวรู้สึกกังวลรู้สึกเหมือนอุ๊ยวัน
00:09:33 → 00:09:37 นี้แบบลืมอะไรไปอย่างสำคัญมากๆอะไรเงี้ย
00:09:37 → 00:09:40 ค่ะค่ะแล้วอาการแบบไหนคะอาจารย์ที่เข้า
00:09:40 → 00:09:44 ขายเป็นโรคกลัวการขาดโทรศัพท์มือถือก็คือ
00:09:44 → 00:09:46 ก็ต้องบอกเลยว่าถ้าเมื่อไหร่ที่เป็นคำว่า
00:09:46 → 00:09:49 โรคหรือเป็นแบบอ่าถ้าไม่ใช่แค่ภาวะแต่
00:09:49 → 00:09:51 เป็นโรคที่รู้สึกว่าอุ้ยต้องมาหาแล้วหรือ
00:09:51 → 00:09:53 ว่าเข้าขายเป็นเรื่องของโฟเบียหรือความ
00:09:53 → 00:09:56 กลัวเฉพาะเจาะโจงใดๆก็ตามเงี้ยค่ะมันอาจ
00:09:56 → 00:09:59 จะไม่ใช่ความความรู้สึกแค่ว่าแบบเอ้ยวัน
00:09:59 → 00:10:01 นี้ไม่มีมือถือแล้วไม่ค่อยสบายใจจหรือว่า
00:10:01 → 00:10:03 ไม่ได้เป็นความแค่รู้สึกว่าวันเนี้ยลืม
00:10:03 → 00:10:05 เอามือถือมาแล้วก็บอกเพื่อนที่ทำงานว่า
00:10:05 → 00:10:07 วันเนี้ฉันแบบลืมเอามือถือมานะแต่อาจจะ
00:10:07 → 00:10:10 เป็นความกลัวเยอะๆจนรู้สึกว่าแบบบางคนอาจ
00:10:10 → 00:10:12 จะต้องแบบกลับบ้านไปเลยกลับบ้านไปเอา
00:10:12 → 00:10:15 โทรศัพท์หรือว่าบางคนคือกลัวจนอาจจะมี
00:10:15 → 00:10:17 เหมือนปฏิริยาทางกายไม่ใช่แค่ไม่สบายใจ
00:10:17 → 00:10:19 แต่ว่าอาจจะมีลักษณะของความรู้สึกว่าพอ
00:10:19 → 00:10:22 ไม่มีแล้วมันกระสับกระส่ายใจสั่นกระวน
00:10:22 → 00:10:25 กระวายอะไรแบบเนี้ยค่ะซึ่งถ้าถ้าเป็นเยอะ
00:10:25 → 00:10:28 ขนาดนั้นแบบว่าต้องมีตลอดเวลาไม่มีไม่ได้
00:10:28 → 00:10:32 เลยหรือว่าแม้แต่จะนอนก็ยังต้องออนไลน์
00:10:32 → 00:10:35 ตลอดไม่สามารถที่จะปิดแ Mode หรืออะไรได้
00:10:35 → 00:10:38 เลยอย่างเงี้ยค่ะจนแบบมันรู้สึกว่ารบกวน
00:10:38 → 00:10:41 ชีวิตประจำวันอาจจะใช้ชีวิตอยู่บนโลก
00:10:41 → 00:10:44 ออนไลน์โลกในมือถือมากไปกว่าโลกออฟไลน์
00:10:44 → 00:10:46 หรือโลกจริงแล้วอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:10:46 → 00:10:48 อันเนี้ยก็อาจจะต้องเข้าขายว่าเอ๊ยมันรบ
00:10:48 → 00:10:53 กวนชีวิตแล้วนะค่ะการติดมือถือค่ะกับการ
00:10:53 → 00:10:56 ที่เป็นโรคกลัวการขาดโทรศัพท์มือถือ
00:10:56 → 00:10:59 เหมือนกันหรือว่าแตกต่างกันอย่างไรคะก็
00:10:59 → 00:11:02 คืออย่างที่เมื่อกี้เล่าไปค่ะว่าถ้า
00:11:02 → 00:11:05 สมมุติว่ามันถึงกับว่าเป็นโรคเลยก็คืออาจ
00:11:05 → 00:11:08 จะไม่ใช่แค่ว่าอ่าชอบดูมือถือบ่อยๆแต่อาจ
00:11:08 → 00:11:11 จะเหมือนแบบถ้าขาดคือขาดไม่ได้เลยเหมือน
00:11:11 → 00:11:13 สมมุติว่าแม้แต่เข้าประชุมก็ยังต้องเอา
00:11:13 → 00:11:16 มือถือมาหรือแม้แต่แบบสมมุติว่าบางคนคือ
00:11:16 → 00:11:19 แบบถ้าสมมุติต้องไปคอร์สปฏิบัติธรรมหรือ
00:11:19 → 00:11:21 อะไรที่ไม่มีมือถือไม่ได้เลยหรือพอลืม
00:11:21 → 00:11:24 ปุ๊บยอมยอมที่จะนั่งรถกลับบ้านไปเอา
00:11:24 → 00:11:27 โทรศัพท์เลยทันทีทันใดอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:11:27 → 00:11:30 คือรู้สึกเดือดร้อนทุกข์ร้อนมากแต่ว่าถ้า
00:11:30 → 00:11:32 เป็นติดอย่างเงี้ยค่ะบางทีมันก็อาจจะยัง
00:11:32 → 00:11:34 ไม่ได้ถึงระดับนั้นอาจจะยังอยู่ในระดับ
00:11:34 → 00:11:37 ที่รู้ว่าเราชอบแต่ว่าเรายังสามารถอดทน
00:11:37 → 00:11:40 อย่างเช่นสามารถพอประชุมหรือปิดมือถือใน
00:11:40 → 00:11:43 โรงหนังปิดแบบปิดจริงๆหรือว่าอะไรอย่าง
00:11:43 → 00:11:46 นี้ได้อะไรเงี้ยค่ะอาจารย์คะในเมื่อ
00:11:46 → 00:11:48 เรื่องของการใช้โซเชียลมีเดียเนี่ยมีทั้ง
00:11:48 → 00:11:52 ผลดีแล้วก็ผลเสียเราจะมีวิธีในการใช้
00:11:52 → 00:11:56 โซเชียลมีเดียอย่างไรบ้างคะถึงส่งผลดีได้
00:11:56 → 00:11:58 การใช้โซเชียล Media ก็คือเหมือนเหมือน
00:11:58 → 00:12:00 การอยู่ในในสังคมทั่วไปอ่ะค่ะคือการมี
00:12:00 → 00:12:03 ปฏิสัมพันธ์ไม่ว่าจะปฏิสัมพันธ์ออฟไลน์
00:12:03 → 00:12:05 หรือปฏิสัมพันธ์ออนไลน์หรือการที่เรารับ
00:12:05 → 00:12:08 รู้สิ่งต่างๆก็คือมันส่งผลต่อจิตใจได้
00:12:08 → 00:12:11 ทั้งในแง่บวกแล้วก็ในแง่ลบทั่วไปเลยค่ะ
00:12:11 → 00:12:13 มันเพราะฉะนั้นมันสิ่งที่สำคัญก็คือการ
00:12:13 → 00:12:17 กลั่นกรองสติในการเสพแล้วก็วิจารณญาณคือ
00:12:17 → 00:12:19 อะไรที่มันเป็น Content ที่มันเป็นบวก
00:12:19 → 00:12:21 อย่างเงี้ยค่ะแต่ว่าในขณะเดียวกันอย่าง
00:12:21 → 00:12:24 ที่บอกว่ามันขึ้นอยู่กับเสพอย่างมีสติ
00:12:24 → 00:12:25 แล้วก็การเลือกการคัดกรองของเราเพราะว่า
00:12:25 → 00:12:28 ทุกวันเนี้ยข้อมูลมันเข้ามาทุกอย่างทุก
00:12:28 → 00:12:30 ทางมากๆบางข้อมูลมันก็ไม่ได้ต่างกันกับ
00:12:30 → 00:12:33 ข้อมูลในโลกออฟไลน์เองซึ่งถ้าสมมุติเรา
00:12:33 → 00:12:34 อยู่กับอะไรที่มันท็อกซิกหรือว่ามันเป็น
00:12:34 → 00:12:37 พิษมากๆอันเนี้ยมันก็ส่งผลทำให้เราเกิด
00:12:37 → 00:12:39 ความเครียดความกดดันเก็บกดแล้วก็ทำให้จิต
00:12:40 → 00:12:43 ตกได้เหมือนกันค่ะอาจารย์คะความถี่ในการ
00:12:43 → 00:12:46 ใช้โซเชียลมีเดียเนี่ยจะส่งผลต่อสุขภาพ
00:12:46 → 00:12:50 จิตหรือไม่คะถามว่าความถี่ในการเสพส่งผลม
00:12:50 → 00:12:52 ก็ต้องบอกว่าอ่าส่งผลค่ะเพราะว่าไม่ใช่
00:12:52 → 00:12:55 แค่โซเชียล Media แต่ว่าทุกอย่างค่ะอะไร
00:12:55 → 00:12:57 ที่มันสุดโต่งไม่ว่าจะน้อยเลยหรือมากเลย
00:12:57 → 00:13:00 มันก็คงไม่ใช่งค่ะเวลาเราจะใช้มันก็คง
00:13:00 → 00:13:03 ต้องใช้อย่างที่พอเหมาะพอควรโรคกลัวการ
00:13:03 → 00:13:07 ขาดโทรศัพท์มือถือรักษาได้อย่างไรบ้างคะ
00:13:07 → 00:13:09 หลักๆอ่ะค่ะส่วนใหญ่โรคกลัวหลักๆอ่ะเราจะ
00:13:09 → 00:13:12 ใช้เป็นลักษณะของการใช้พฤติกรรมบำบัดค่ะ
00:13:12 → 00:13:14 ซึ่งพฤติกรรมบำบัดอ่ะก็ค่ะก็คือเป็น
00:13:14 → 00:13:17 ลักษณะของการที่เราอาจจะค่อยๆถอยค่อยๆ
00:13:17 → 00:13:21 ห่างคืออาจจะเป็นลักษณะของว่าอ่ะแทนที่จะ
00:13:21 → 00:13:23 แบบต้องให้ห่างไปเลยอาจจะให้ปิด
00:13:23 → 00:13:26 Notification ปิดแจ้งเตือนให้น้อยลงม
00:13:26 → 00:13:28 หรือเก็บไว้ในลิ้นชักใต้โต๊ะอะไรอย่างง
00:13:28 → 00:13:30 นี้ยค่อยๆถอยไปเป็นอะไลักษณะของพิธีบรบัต
00:13:30 → 00:13:34 รวมถึงการหากิจกรรมอื่นทดแทนอะไรเงี้ยค่ะ
00:13:34 → 00:13:37 อยากให้อาจารย์แนะคุณผู้ชมทางบ้านค่ะใน
00:13:37 → 00:13:40 วิธีการแบ่งเวลาการใช้ชีวิตในแต่ละวันก็
00:13:40 → 00:13:43 คือปกติอ่ะค่ะชีวิตก็คือต้องใช้ชีวิตให้
00:13:43 → 00:13:45 สมดุลอ่ะค่ะมันอาจจะไม่ได้หมายถึงว่าไม่
00:13:45 → 00:13:48 ได้ต้องแบบนอนกี่โมงตื่นกี่โมงขนาดนั้น
00:13:48 → 00:13:50 แต่ว่าเหมือนชีวิตเราอ่ะค่ะมันมันจะมี
00:13:50 → 00:13:52 ด้านหลักๆอยู่ประมาณ 3 ด้านก็คือด้าน
00:13:52 → 00:13:56 เวิร์คด้านเลฟด้านเพควรจะต้องมีความสมดุล
00:13:56 → 00:13:59 ของชีวิตแล้วก็อย่างที่บอกว่าต้องพยายาม
00:13:59 → 00:14:01 สร้างเอ่อหมายถึงว่าสร้างสร้าปฏิสัมพันธ์
00:14:01 → 00:14:05 ในโลกในโลกจริงๆได้มาเจอหน้าแล้วคุยคุย
00:14:05 → 00:14:08 แบบเห็นหน้ากันจริงๆแค่ 10 นาทีบางทีมัน
00:14:08 → 00:14:10 รู้สึกว่ามันเติมเต็มกว่าเยอะกว่าการที่
00:14:10 → 00:14:14 เราจะนั่งคุยไปแบบชั่วโมงครึ่งกับคนอื่นๆ
00:14:14 → 00:14:18 บนโลกออนไลน์เงี้ยค่ะและสุดท้ายค่ะอยาก
00:14:18 → 00:14:21 ให้อาจารย์ฝากถึงคุณผู้ชมทางบ้านว่าจะทำ
00:14:21 → 00:14:24 อย่างไรให้ห่างไกลจากโรคกลัวการขาด
00:14:24 → 00:14:27 โทรศัพท์มือถือและใช้โซเชียลมีเดียอย่าง
00:14:27 → 00:14:31 มีสติได้คะสำคัญสุดก็คือเสพอย่างมีสติอ่ะ
00:14:31 → 00:14:33 ค่ะค่อยๆกลั่นกรองแล้วอะไรที่สมมุติว่า
00:14:33 → 00:14:35 มันเป็นดราม่าเราอ่านอย่างอย่างบางข่าว
00:14:35 → 00:14:37 เงี้ยค่ะอ่านไปแล้วมันก็หดหู่ใจมันก็คง
00:14:37 → 00:14:40 ไม่ได้จำเป็นต้องไปอ่านซ้ำๆแล้วในขณะ
00:14:40 → 00:14:42 เดียวกันเราก็ต้องรับผิดชอบต่อสังคมบาง
00:14:42 → 00:14:44 Content ที่เรารู้สึกว่ามันเป็น Content
00:14:44 → 00:14:47 ที่มันเป็นพิทก็ไม่ควรที่จะไปแชร์ไปไลฟ์
00:14:47 → 00:14:50 เพื่อที่คือไม่ควรไปสนับสนุนคทนเหล่านั้น
00:14:50 → 00:14:52 อย่างเงี้ยค่ะ Social ดีททำยังไงอาจจะ
00:14:52 → 00:14:55 เริ่มอย่างค่อยๆปิด Notification อ่า
00:14:55 → 00:14:57 อย่างบางคนอาจจะรู้สึกว่าอุ๊ยไม่ถ้าให้ลบ
00:14:58 → 00:15:00 แอปหรืออะไรไปเลยก็คงทำไม่ได้ใช้เวลาให้
00:15:00 → 00:15:03 ห่างหรือว่าเดี๋ยวนี้มือถือหลายๆรุ่นก็จะ
00:15:03 → 00:15:05 มีตั้งเตือนว่าเอ้ยคุณดูหน้าจอมากเกินไป
00:15:05 → 00:15:08 แล้วนะเราก็อาจจะต้องพยายามที่จะลองทำแบบ
00:15:08 → 00:15:10 นั้นค่อยๆห่างลงแล้วอย่างที่พูดค่ะว่าถ้า
00:15:10 → 00:15:14 มันมีกิจกรรมที่มันอยู่นอกจอเยอะเราก็จะ
00:15:14 → 00:15:18 พิ่งพาอะไรที่อยู่ในจอน้อยลงอยู่แล้วค่ะ
00:15:18 → 00:15:21 ขอบพระคุณอาจารย์ที่มาให้ความรู้ความเข้า
00:15:21 → 00:15:23 ใจในเรื่องของโรคกลัวการขาดโทรศัพท์มือ
00:15:23 → 00:15:27 ถือและการใช้โซเชียลมีเดียอย่างมีสตินะคะ
00:15:27 → 00:15:30 และในช่วงนี้นะคะเราจะไปฟิตเต็มร้อยกับ
00:15:30 → 00:15:34 bufc กันไปรู้กันว่า GPS แทกเกอร์ช่วยใน
00:15:34 → 00:15:38 การเคลื่อนไหวของนักกีฬาอย่างไร
00:15:38 → 00:15:41 [เพลง]
00:15:41 → 00:15:42 [ปรบมือ]
00:15:42 → 00:15:46 [เพลง]
00:15:46 → 00:15:48 [ปรบมือ]
00:15:48 → 00:15:52 [เพลง]
00:15:52 → 00:15:55 ค่ะสวัสดีครับผมโคชอั๋นนะครับนายทศพลดวง
00:15:55 → 00:15:57 ใจครับวันนี้เราจะมาทำรู้จักกับตัว GPS
00:15:57 → 00:16:00 แทกเกอร์นะครับหลายๆคนอาจจะสงสัยนะครับ
00:16:00 → 00:16:03 ว่าอ่าเวลานักกีฬาใส่อุปกรณ์ตัวเนี้ยมี
00:16:03 → 00:16:06 ส่วนสำคัญยังไงกับตัวนักกีฬาแล้วก็ใคร
00:16:06 → 00:16:08 อยากนำไปปรับใช้ยังไงนะครับเดี๋ยวผมจะ
00:16:08 → 00:16:13 อธิบายให้ฟัง
00:16:13 → 00:16:14 [ปรบมือ]
00:16:14 → 00:16:18 ครับ GPS Tracker นะครับเป็นเทคโนโลยี
00:16:18 → 00:16:21 ที่จะสามารถจับตัว Performance ของนัก
00:16:21 → 00:16:23 กีฬาได้หมดทุกอย่างครับอยู่ที่หัวข้อว่า
00:16:23 → 00:16:25 เราอยากจะดู Performance ของเขาในด้านของ
00:16:25 → 00:16:28 อะไรเช่นความเร็วเท่าไหร่าร Rate เท่า
00:16:28 → 00:16:31 ไหร่สปีดโซนไหนนะครับทำงานยังไงโหลดเท่า
00:16:31 → 00:16:34 ไหร่าทิยังไงเมื่อยล้าขนาดไหน GPS
00:16:34 → 00:16:37 Tracker จะสามารถตอบโจทย์ให้กับโค้ชได้
00:16:37 → 00:16:39 หมดเลยครับที่เราสามารถเช็คกับนักกีฬาได้
00:16:39 → 00:16:41 ครับแม้กระทั่งเรื่องของความฟิตต่างๆเรา
00:16:41 → 00:16:44 ประเมินว่าวันนี้เฟิตขนาดไหนกล้ามเนื้อเา
00:16:44 → 00:16:46 พร้อมหรือยังเอ่อการจดระเบิดของกล้าม
00:16:46 → 00:16:49 เนื้อทำงานยังไงคือหัวข้อมันเยอะมากครับ
00:16:49 → 00:16:51 อยู่ที่ว่าเราจะเอาไปปรับใช้ยังไงกับนัก
00:16:51 → 00:16:59 กีฬาครับ
00:16:59 → 00:17:01 ประโยชน์ของ GB Tracker สำหรับนักกีฬา
00:17:01 → 00:17:04 ครับมันมีเยอะมากๆครับอยู่ที่หัวข้อที่
00:17:04 → 00:17:06 เราอยากจะเล่นครับผมยกตัวอย่างคือเราเป็น
00:17:06 → 00:17:09 กีฬาฟุตบอลนะครับเพราะฉะนั้นกีฬานักกีฬา
00:17:09 → 00:17:11 ฟุตบอลเนี่ยมันจะมีหัวข้อในหลายๆหัวข้อ
00:17:11 → 00:17:14 ที่โค้ชจำเป็นต้องรู้เช่นระยะของการ
00:17:14 → 00:17:16 เคลื่อนที่เท่าไหร่กองหลังวิ่งความเร็ว
00:17:16 → 00:17:18 เท่าไหร่กองหน้าวิ่งความเร็วเท่าไหร่มี
00:17:18 → 00:17:21 การกลับตัวกี่ครั้งมีการสปีดจำนวนกี่
00:17:21 → 00:17:23 ครั้งมีการเปลี่ยนทิศทางกี่ครั้งไอ้ตัว
00:17:23 → 00:17:25 นั้นละครับมันจะเป็นตัวที่มาตอบโจทย์เรา
00:17:25 → 00:17:27 ในการที่เราจะไปสามารถพัฒนานักกีฬาและเรา
00:17:27 → 00:17:30 จะเอานักกีฬาที่เรากำลังพัฒนาอยู่ไปสู่ใน
00:17:30 → 00:17:37 ระดับทีมเพื่อพัฒนาทีมเราไปด้วยนะ
00:17:37 → 00:17:40 [เพลง]
00:17:40 → 00:17:42 [ปรบมือ]
00:17:42 → 00:17:44 [เพลง]
00:17:44 → 00:17:47 ครับส่วนต่อไปนะครับผมจะอธิบายในเรื่อง
00:17:47 → 00:17:49 ของหมวดหมู่เรื่องของทีมเมื่อเราพัฒนานัก
00:17:49 → 00:17:53 กีฬาได้นะครับในระดับบุคคลแล้วนะครับเรา
00:17:53 → 00:17:55 จะเอามายกระดับภายในหมวดหมู่ทีมก็คือว่า
00:17:55 → 00:17:58 เราจะเก็บสถิติครับยกตัวอย่างเช่นเกมนี้
00:17:58 → 00:18:00 ที่เราเล่นไปนะครับ everage ของการ
00:18:00 → 00:18:03 เคลื่อนที่นักกีฬาเราอยู่ที่กี่กิโลยกตัว
00:18:03 → 00:18:05 อย่างเช่นถ้าเราอยู่ที่ 8 กเราจะทำยังไง
00:18:05 → 00:18:07 ให้มันถึง 9 ทำยังไงให้มันถึง 10 เช่น
00:18:07 → 00:18:10 เอ่อแมทช์ที่เราจะไปเจอนะครับถ้ามันเป็น
00:18:10 → 00:18:11 บิก Match เรารู้อยู่แล้วว่าทีมที่เราจะ
00:18:11 → 00:18:13 แข่งเนี่ยเป็นทีมที่แข็งแกร่งมากๆเคลื่อน
00:18:13 → 00:18:15 ที่เยอะมากๆนั่นแหละครับเราก็จะเอาข้อมูล
00:18:15 → 00:18:17 ต่างๆนะครับเรามาวิเคราะห์ของเราแล้วเรา
00:18:17 → 00:18:19 จะเพิ่มประสิทธิภาพของนักกีฬาของเราเพื่อ
00:18:19 → 00:18:29 เอาไปสู้แล้วก็เอาไปชนะเให้ได้
00:18:29 → 00:18:32 บุคคลทั่วไปนะครับก็สามารถใช้อุปกรณ์ GPS
00:18:32 → 00:18:33 Tracker ได้เหมือนกันนะครับยกตัวอย่าง
00:18:33 → 00:18:35 เช่นเราสามารถเอ่อใช้อุปกรณ์ที่เราใช้
00:18:35 → 00:18:37 อยู่ประจำเมื่อคืนนาฬิกานะครับนาฬิกา
00:18:37 → 00:18:40 สามารถจับารสได้สามารถจับ Everest ของของ
00:18:40 → 00:18:42 H Rate เราได้ everage ของความเร็วเรา
00:18:42 → 00:18:46 ได้แม้กระทั่งจับเรื่องของระยะทางของของ
00:18:46 → 00:18:49 การวิ่งของเราได้นะครับจริงๆนาฬิกานะครับ
00:18:49 → 00:18:51 มันจะมีแอปพลิเคชันที่เราสามารถไปดูได้
00:18:51 → 00:18:53 เลยครับว่าเอ่อวันนึงเราตั้ง target ไว้
00:18:53 → 00:18:56 ว่าเราจะเผาผลาญไปกี่แคลอรี่วันนึงเรากิน
00:18:56 → 00:18:59 ไปกี่แคลอรี่หรือวันนึงเราตั้งทาร์เกตไว้
00:18:59 → 00:19:01 ว่าเราออกกำลังกายเนี่ยฮาร์ Rate เราต้อง
00:19:01 → 00:19:04 ดีกว่าเดิมนะเราสามารถใช้ตัวนาฬิกาเครับ
00:19:04 → 00:19:06 เปรียบเทียบกับตัว GP Tracker ได้เหมือน
00:19:06 → 00:19:09 กันครับเช่นระยะสปีดความเร็วทุกกิจกรรม
00:19:09 → 00:19:12 ทุกการกีฬาครับไม่ใช่ว่ายน้ำเอยวิ่งเอย
00:19:12 → 00:19:14 หรือว่าเราจะเอาอาจจะใส่นาฬิกาไปออกกำลัง
00:19:14 → 00:19:17 กายหรือว่าทำกิจกรรมต่างๆนะครับมันก็จะ
00:19:17 → 00:19:20 คล้ายคึงคันครับแค่ตัว GPS Tracker ที่
00:19:20 → 00:19:22 ทีมใช้เนี่ยมันจะละเอียดกว่าแล้วก็มันจะ
00:19:22 → 00:19:24 ไปสู่ Performance ที่สูงกว่าที่เราอยาก
00:19:24 → 00:19:25 ได้แค่นั้นเองนะครับเพราะฉะนั้นนะครับ
00:19:25 → 00:19:29 เอ่อการมีข้อมูลนะครับหรือว่าทำข้อมูล
00:19:29 → 00:19:32 ต่างๆในร่างกายใช้ GPS แทกเกอร์เอยหรือ
00:19:32 → 00:19:34 ว่าใช้นาฬิกาเอยนะครับมันก็จะเป็นสิ่งที่
00:19:34 → 00:19:36 ตอบโจทย์ให้กับบุคคลที่สามารถออกกำลังกาย
00:19:36 → 00:19:39 นะครับดีกว่าเราทำอะไรไปแล้วแล้วเราแบบตา
00:19:39 → 00:19:41 บอดครับเรามองอะไรไม่เห็นเราไม่รู้ว่าเรา
00:19:41 → 00:19:43 เพลินไปกี่แคลอรี่เราไม่รู้ว่าระยะของการ
00:19:43 → 00:19:44 เคลื่อนไหวเราไปเท่าไหร่ฮาร์ Rate เราดี
00:19:44 → 00:19:46 ขึ้นหรือเปล่านะครับผมก็อยากแนะนำนะครับ
00:19:46 → 00:19:49 เมื่อเราออกกำลังกายแล้วเราควรใช้อุปกรณ์
00:19:49 → 00:19:56 ที่ช่วยสำหรับตัวเราเองด้วยนะ
00:19:56 → 00:19:59 [เพลง]
00:19:59 → 00:20:01 สำหรับกีฬาประเภทอื่นนะครับใช้ได้เกือบ
00:20:01 → 00:20:04 ทุกชนิดกีฬาเลยครับแล้วแต่ว่าเอ่อโค้ชแต่
00:20:04 → 00:20:07 ละชนิดกีฬานั้นนะครับอยากจะใช้หัวข้อไหน
00:20:07 → 00:20:10 ในการพัฒนาร่างกายของนักกีฬาแน่นอนครับ
00:20:10 → 00:20:13 กีฬาฟุตบอลกีฬาเ่อชนิดอื่นๆนะครับเรื่อง
00:20:13 → 00:20:16 ของการทำงานในร่างกายกลไกในการทำงานของ
00:20:16 → 00:20:18 ร่างกายไม่เหมือนกันนะครับคนที่มีความรู้
00:20:18 → 00:20:20 เรื่องเฉพาะเจาะจงก็ไม่เหมือนกันนะครับ
00:20:20 → 00:20:24 อยู่ที่ว่ากีฬาแต่ละประเภทเราสามารถมาหา
00:20:24 → 00:20:26 ข้อมูลเรื่องเรื่องเกี่ยวกับ Performance
00:20:26 → 00:20:28 ของนักกีฬาได้อย่างไรยกระดับได้อย่างไร
00:20:28 → 00:20:30 พัฒนาได้อย่างไรครับยกตัวอย่างถ้าเป็น
00:20:30 → 00:20:32 ฟุตบอลเราก็ใช้ความเร็วใช่มั้ยครับเราใช้
00:20:32 → 00:20:34 การเปลี่ยนทิศทางนะครับเราใช้ระยะในการ
00:20:34 → 00:20:36 เคลื่อนไหวนะครับกีฬาชนิดอื่นก็เหมือนกัน
00:20:36 → 00:20:39 ใช้ความเร็วใช้ระระยะเยอะแต่อาจจะเปลี่ยน
00:20:39 → 00:20:41 ทิศทางน้อยรูปแบบการฝึกก็ไม่เหมือนกัน gp
00:20:41 → 00:20:43 attacker ที่เราอยากดูก็อาจจะไม่เหมือน
00:20:43 → 00:20:46 กันนะครับแต่สามารถใช้ได้เกือบทุกชนิด
00:20:46 → 00:20:49 กีฬาเลยครับ
00:20:49 → 00:20:50 [เพลง]
00:20:50 → 00:20:51 [ปรบมือ]
00:20:51 → 00:20:55 [เพลง]
00:20:55 → 00:20:57 [ปรบมือ]
00:20:57 → 00:21:01 [เพลง]
00:21:01 → 00:21:04 เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับสาระสุขภาพดีๆที่
00:21:04 → 00:21:07 TNN H นำมาฝากคุณผู้ชมกันในวันนี้หวัง
00:21:08 → 00:21:10 เป็นอย่างยิ่งว่าคุณผู้ชมจะสามารถนำสาระ
00:21:10 → 00:21:14 สุขภาพดีๆที่ได้ไปดูแลตัวเองและครอบครัว
00:21:14 → 00:21:17 ให้มีความสุขสุขภาพแข็งแรงนะคะและขอบคุณ
00:21:17 → 00:21:20 คุณผู้ชมที่ติดตามรับชมรายการ TE And He
00:21:20 → 00:21:23 มาโดยตลอดค่ะคุณผู้ชมสามารถติดตามรับชม
00:21:23 → 00:21:26 รายการ TE Hell ได้เป็นประจำทุกวันเสาร์
00:21:27 → 00:21:31 เวลาดี 15:00 นถึง 15:30 นที่นี่ TNN
00:21:31 → 00:21:35 ช่อง 16 ค่ะและต้องไม่ลืมนะคะที่จะกดไลค์
00:21:35 → 00:21:38 กดแชร์กด Subscribe กดติดตามกดกระดิ่ง
00:21:38 → 00:21:41 กิ๊งๆเพื่อเป็นกำลังใจให้หมอดาวและทีมงาน
00:21:41 → 00:21:44 TNN He ในช่องทางโซเชียล Network ต่างๆ
00:21:44 → 00:21:47 ไม่ว่าจะเป็น YouTube tiktok Facebook
00:21:47 → 00:21:49 Instagram LINE official เพื่อที่จะ
00:21:49 → 00:21:52 เข้าถึงทุกสาระสุขภาพเสริมภูมิคุ้มกันรู้
00:21:52 → 00:21:55 ทันโลคไปด้วยกันค่ะและสำหรับวันนี้นะคะ
00:21:55 → 00:21:58 หมอดาวและทีมงาน TNN Health ต้องขอตัวลา
00:21:58 → 00:22:02 คุณผู้ชมไปก่อนสำหรับวันนี้สวัสดี
00:22:02 → 00:22:27 [เพลง]
00:22:27 → 00:22:31 ค่ะอ