00:00:00 → 00:00:02 สวัสดีค่ะขอต้อนรับกลับเข้าสู่ช่องซน
00:00:02 → 00:00:04 ไทยแลนด์และดิฉันหมอฟ้านะคะแพทยหญิงวนพุท
00:00:05 → 00:00:07 สรรพสิทธิวงค่ะสัปดาห์นี้หัวข้อที่ฟ้านำ
00:00:07 → 00:00:10 มาแชร์ให้ทุกคนฟังเนี่ยฟ้ามั่นใจว่าพอทุก
00:00:10 → 00:00:12 คนฟังแล้วเนี่ยจะต้องคิดเป็นครั้งที่ 2
00:00:12 → 00:00:14 ค่ะก่อนที่จะทานพวกเนื้อย่างหรือว่าหมู
00:00:14 → 00:00:17 กระทะนั่นเองโดยหัวข้อที่ฟ้าจะเล่าให้ฟัง
00:00:17 → 00:00:19 ในวันนี้นะคะก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับงาน
00:00:19 → 00:00:21 วิจัยค่ะซึ่งมีการตีพิมพ์ล่าสุดในวารสาร
00:00:21 → 00:00:25 แลนเสนะคะเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาค่ะ
00:00:25 → 00:00:27 เป็นการที่ตอกย้ำเข้าไปอีกว่าการที่เรา
00:00:27 → 00:00:30 รับประทานเนื้อแดงแล้วก็เนื้อแปรรูปเนี่ย
00:00:30 → 00:00:33 เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานอย่าง
00:00:33 → 00:00:36 ชัดเจนค่ะโดยงานวิจัยฉบับนี้นะคะ Lead
00:00:36 → 00:00:38 investigator หรือว่านักศึกษานักวิจัย
00:00:38 → 00:00:41 หลักเนี่ยก็ชื่อว่าคุณชุนเสี่วลีนะคะถ้า
00:00:41 → 00:00:43 อ่านชื่อผิดต้องขอโทษด้วยหัวข้อของงาน
00:00:43 → 00:00:46 วิจัยนะคะชื่อว่า Meat consumption ก็
00:00:46 → 00:00:49 คือการบริโภคเนื้อ and incident type 2
00:00:49 → 00:00:52 diabetes และอุบัติการณ์การเกิดโรคเบา
00:00:52 → 00:00:56 หวานชนิดที่ 2 นะคะซึ่งเป็นงานวิจัยที่ทำ
00:00:57 → 00:01:01 ในประชากรทั้งหมดนะคะ 1.9 7 ล้านคนค่ะ
00:01:01 → 00:01:04 แล้วก็ทำในทั้งหมดเนี้ย 31 ฮอร์ดพูดง่ายๆ
00:01:04 → 00:01:07 คือ 31 ที่ 31 งานวิจัยใน 20 ประเทศทั่ว
00:01:07 → 00:01:10 โลกค่ะโดยความรู้เกี่ยวกับเรื่องของการ
00:01:10 → 00:01:14 บริโภคเนื้อแดงเนี่ยแล้วก็การเป็นวาเนี่ย
00:01:14 → 00:01:16 ไม่ใช่เรื่องใหม่ค่ะถ้าเกิดว่าเราเนี่ยไป
00:01:16 → 00:01:18 ค้นงานวิจัยเนี่ยแม้แต่ทางทีมผู้วิจัย
00:01:18 → 00:01:20 เนี่ยก็ไปสืบค้นมานะตั้งแต่งานวิจัยที่
00:01:20 → 00:01:23 อยู่ในฐานข้อมูลที่เราเรียกว่าฐานพมนะคะ
00:01:23 → 00:01:27 ตั้งแต่ช่วงระยะเวลาคือ 1 มกราคม 1970 จน
00:01:27 → 00:01:31 ถึงเอ่อ 1 ธันวาคมค.ศ 2023 ก่อนที่เขาจะ
00:01:31 → 00:01:33 ทำงานวิจัยเนี่ยก็พบว่ามีงานวิจัยเกี่ยว
00:01:34 → 00:01:35 กับเรื่องการบริโภคเนื้อแดงแล้วก็เพิ่ม
00:01:35 → 00:01:37 ความเสี่ยงของโรคเบาหวานเนี่ยมาก่อนอยู่
00:01:38 → 00:01:40 แล้วแต่ข้อจำกัดของงานวิจัยในช่วงก่อน
00:01:40 → 00:01:42 หน้านั้นเนี่ยมักจะเป็นงานวิจัยที่อยู่ใน
00:01:42 → 00:01:45 ฝั่งคนชาวตะวันตกค่ะเพราะฉะนั้นเนี่ยตอน
00:01:45 → 00:01:47 ทำงานวิจัยนี้ใหม่ขึ้นเนี่ยข้อดีของงาน
00:01:47 → 00:01:51 วิจัยฉบับนี้ก็คือมีการทำงานวิจัยในกลุ่ม
00:01:51 → 00:01:53 ของเขาเรียกว่าประชากรชาวเอเชียไม่ว่าจะ
00:01:53 → 00:01:56 เป็นโซนเอเชียใต้มีทำเอ่อในเรื่องของตัว
00:01:56 → 00:01:58 สิงคโปร์ chines Health study นะคะที่
00:01:58 → 00:02:01 ประเทศสิงคโปร์มีที่ประเทศญี่ปุ่นแล้วก็
00:02:01 → 00:02:02 ประเทศจีนเพราะฉะนั้นเนี่ยงานวิชาฉบับ
00:02:02 → 00:02:06 เนี้ยก็เลยได้ข้อมูลที่สามารถนำไปใช้สอด
00:02:06 → 00:02:08 คล้องกับประชากรทั่วโลกได้จริงๆไม่ได้
00:02:08 → 00:02:11 จำกัดอยู่แค่เฉพาะชาวตะวันตกเท่านั้นค่ะ
00:02:11 → 00:02:14 ซึ่งผลที่ออกมานะคะก็ไม่น่าตกใจเลยค่ะเขา
00:02:14 → 00:02:16 พบว่ากลุ่มคนที่ทานเนื้อแปรรูปเนื้อแปร
00:02:16 → 00:02:19 รูปเช่นอะไรพวกเนื้อแดงแปรรูปนะคะเช่นแฮม
00:02:20 → 00:02:23 เบคอนไส้กรอกกุนเชียงพวกนี้เนาะก็จะเพิ่ม
00:02:23 → 00:02:26 ความเสี่ยงการเป็นเบาหวานเนี่ยมากที่สุด
00:02:26 → 00:02:29 ค่ะรองลงมานี่คือพวกเนื้อแดงพวกเนื้อหมู
00:02:29 → 00:02:31 เนื้อวัวที่ไม่ได้ผ่านการแปรรูปก็คือเป็น
00:02:31 → 00:02:33 พวกสเต็กหมูกระทะเอ่อสเต็กเนื้อวัวอะไร
00:02:33 → 00:02:36 อย่างเงี้ที่เราชอบกินแบบเกรดเฟ้ง A5 วิ
00:02:36 → 00:02:38 อะไรเงี้ยนะคะก็เป็นกลุ่มที่ 2 ค่ะที่
00:02:38 → 00:02:40 เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานชนิด
00:02:40 → 00:02:42 ที่ 2 อย่างค่อนข้างชัดเจนในขณะที่
00:02:42 → 00:02:45 เปเปอร์ฉบับนี้ความน่าสนใจคือมีการศึกษา
00:02:45 → 00:02:47 ความเสี่ยงจากการทานเนื้อไก่ด้วยค่ะผลของ
00:02:47 → 00:02:50 เนื้อไก่ออกมานะคะน่าสนใจมากค่ะผลออกมา
00:02:50 → 00:02:53 พูดง่ายๆว่าสรุปไม่ได้นั่นเองค่ะคือเพบ
00:02:53 → 00:02:55 ว่าในบางพื้นที่เนี่ยความเสี่ยงจากการทาน
00:02:55 → 00:02:57 เอ่อความเสี่ยงจากการเป็นเบาหวานชิ้นที่ 2
00:02:57 → 00:03:00 เพิ่มขึ้นในการทานเนื้อไก่นิดหน่อยไม่มาก
00:03:00 → 00:03:02 เท่ากับทานเนื้อแดงแล้วก็เนื้อแปรรูปนะคะ
00:03:02 → 00:03:04 แต่ในบางพื้นที่เนี่ก็พบว่าอุ้ยไม่ได้
00:03:04 → 00:03:06 เพิ่มความเสี่ยงของโรคเบาหวานเลยเพราะ
00:03:06 → 00:03:08 ฉะนั้นเนี่ยก็เชื่อได้ว่างานวิจัยฉบับนี้
00:03:08 → 00:03:11 เนี่ยก็ตอกย้ำคำแนะนำที่เราแนะนำกันทั่ว
00:03:11 → 00:03:14 ไปว่าอ่ะถ้าเราอยากจะทานอาหารที่ให้
00:03:14 → 00:03:16 สุขภาพดีสิ่งแรกเลยที่ต้องเลียกนี่ก็คือ
00:03:16 → 00:03:19 พวกเนื้อแปรรูปถัดมาอันที่ 2 ก็คือพวก
00:03:19 → 00:03:21 เนื้อแดงเนื้อแดงเนี่ยไม่ได้ห้ามทานทาน
00:03:21 → 00:03:24 ได้เรา Enjoy สเต็ก Enjoy หมูกระทะได้แต่
00:03:24 → 00:03:26 ว่าก็ไม่ควรเกิน 3 ครั้งต่อสัปดาห์นะคะ
00:03:26 → 00:03:29 ส่วนเนื้อไก่เนี่ยน่าสนใจกว่าค่ะเนื่อง
00:03:29 → 00:03:31 จากว่าความเสี่ยงเนี่ยขึ้นไม่ได้ชัดเจน
00:03:31 → 00:03:33 เขาก็เลยบอกว่าจริงๆอาจจะถ้าต้องเลือก
00:03:33 → 00:03:35 ระหว่างเนื้อแดงกับเนื้อไก่เนื้อไก่เนี่ย
00:03:35 → 00:03:37 ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าแต่ว่าอย่าง
00:03:37 → 00:03:39 ไรก็ดีเนี่ยน่าจะมีการศึกษาเพิ่มเติมว่า
00:03:39 → 00:03:41 เอ๊ะอะไรเป็นปัจจัยที่ลดความเสี่ยงของการ
00:03:42 → 00:03:44 เป็นเบาหวานจากการทันเนื้อไก่และกลุ่มไหน
00:03:44 → 00:03:45 อะไรเป็นตัวที่มันเพิ่มปัจจัยเสี่ยงแต่
00:03:46 → 00:03:48 ถ้าเกิดว่าดูจาก Data เท่าที่เาศึกษาณวัน
00:03:48 → 00:03:50 นี้ที่ฟ้าเอามาเล่าให้ฟังเนี่ยก็ถ้าเรียง
00:03:50 → 00:03:52 ลำดับขั้นนะคะเพิ่มความเสี่ยงมากที่สุด
00:03:52 → 00:03:54 คือเนื้อแปรรูปอันดับที่ 2 ก็คือเป็น
00:03:54 → 00:03:56 กลุ่มเนื้อแดงและอันสุดท้ายก็คือเป็นพวก
00:03:56 → 00:03:59 เนื้อไก่นั่นเองค่ะทีนี้ถามว่าทำไมเนี่ย
00:03:59 → 00:04:02 การพวกเนื้อแปรรูปกับเนื้อแดงเนี่ยถึง
00:04:02 → 00:04:04 เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานชิ้น
00:04:04 → 00:04:08 ที่ 2 ค่ะก็มีสารตัวนึงนะคะที่พบว่าน่าจะ
00:04:08 → 00:04:11 เกี่ยวข้องนั่นก็คือสารที่เราเรียกว่า
00:04:11 → 00:04:15 ไมิเอออกไซด์หรือว่า tmao นั่นเองค่ะซึ่ง
00:04:15 → 00:04:18 เจ้า tmao เนี่ยมันจะเป็นสารนะคะที่เกิด
00:04:18 → 00:04:20 ขึ้นเวลาเราทานพวกอาหารโดยเฉพาะพวกเนื้อ
00:04:20 → 00:04:23 สัตว์ที่มีสารที่เราเรียกว่าคารีทีนเข้า
00:04:24 → 00:04:27 ไปพอทานเข้าไปปุ๊บเนี่ยแบคทีเรียค่ะในลำ
00:04:27 → 00:04:29 ไส้เจ้าถิ่นของเราที่อยู่ในลำไส้ของเรา
00:04:29 → 00:04:32 เนี่ยก็ก็จะมีบางสายพันธุ์ค่ะที่เปลี่ยน
00:04:32 → 00:04:34 ทำให้เกิดการผลิตสารไอ้เจ้าตัว tmao นี้
00:04:35 → 00:04:37 ขึ้นมาซึ่งเจ้า tmao นี้เนี่ยก็มีงาน
00:04:37 → 00:04:40 วิจัยพบมาหลายปีแล้วค่ะว่าในปริมาณที่สูง
00:04:40 → 00:04:43 เนี่ยเพิ่มความเสี่ยงในเรื่องของการเป็น
00:04:43 → 00:04:45 โรคเบาหวานเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจทำให้
00:04:45 → 00:04:48 หลอดเลือดแข็งแล้วก็เพิ่มค่าการอักเสบใน
00:04:48 → 00:04:50 ร่างกายนั่นเองค่ะพอฟ้าเจอแบบนี้ปุ๊บฟ้า
00:04:50 → 00:04:52 ก็เลยเกิดข้อสงสัยค่ะว่าเอ๊ะแล้วมันเป็น
00:04:52 → 00:04:54 แบคทีเรียชนิดไหนที่ไปเพิ่มเจ้าหน้าที่
00:04:54 → 00:04:57 Mao จากงานวิจัยนะคะที่ค้นเจอเนี่ยเราก็
00:04:57 → 00:05:01 พบว่าแบคทีเรียในลำไส้ที่พบว่ามีความ
00:05:01 → 00:05:04 สัมพันธ์นะกับปริมาณของเจ้าสาร tmao ที่
00:05:04 → 00:05:07 สูงเนี่ยก็มี identify มา 2 สายพันธุ์
00:05:07 → 00:05:11 ด้วยกันนั่นก็คือสายพันธุ emen ensis
00:05:11 → 00:05:15 และ iub bacter masin nis ค่ะชื่อ
00:05:15 → 00:05:17 ประหลาดมากนะคะเพราะฉะนั้นทุกคนไม่ต้องตก
00:05:17 → 00:05:19 ใจไปแปลว่ามันก็จะต้องเกิดจากพฤติกรรมการ
00:05:19 → 00:05:21 ทานอาหารการออกกำลังกายของเรานี่แหละถึง
00:05:21 → 00:05:24 มี 2 ตัวนี้เยอะขึ้นแต่ว่าถามว่ามีลักษณะ
00:05:24 → 00:05:26 เป็นพวกโปรไบโอติกอะไรอย่างงี้มยที่ให้
00:05:26 → 00:05:28 เราซื้อมาทานหรือว่าเราจะเลี่ยงมาได้ยัง
00:05:28 → 00:05:30 ไงนะปัจจุบันก็ยังไม่เจอนะคะนี้ถ้าเกิด
00:05:30 → 00:05:33 ว่าเรารู้สึกว่าเราชอบกินเนื้อแดงใช่มั้ย
00:05:33 → 00:05:36 คะหรือว่าเราต้องการที่จะลดปริมาณสาร tmao
00:05:36 → 00:05:38 ที่เกิดขึ้นในร่างกายให้ลดลงได้ยังไงบ้าง
00:05:38 → 00:05:40 ก็น่าสนใจอีกเช่นกันค่ะเนื่องจากว่า tmao
00:05:40 → 00:05:42 เนี่ยเกิดจากการเ้าเรียกว่าทำงานของเจ้า
00:05:42 → 00:05:45 เชื้อแบคทีเรียที่มันกินสารพวกแคนเข้าไป
00:05:45 → 00:05:47 แล้วก็เปลี่ยนออกมาเป็น tmao เนี่ยเพราะ
00:05:47 → 00:05:50 ฉะนั้นเนี่ยก็เลยมีคนไปเจอว่าแบคทีเรีย
00:05:50 → 00:05:53 สายพันธุ์นึงนะคะชื่อว่า Lactobacillus
00:05:53 → 00:05:56 plantarum ยมาอีกทีค่ะ Lactobacillus
00:05:56 → 00:05:58 plantarum ไม่ใช่แค่ Lactobacillus ทั่ว
00:05:58 → 00:06:00 ไปนะคะชื่อห้อยไทยน้ำสกุลคุต้องเป็นแพั
00:06:00 → 00:06:04 ด้วยพบว่ามีความสามารถในการลดปริมาณของ
00:06:04 → 00:06:07 tmao ได้แล้วก็ลดการอักเสบได้ค่ะเห็น
00:06:07 → 00:06:10 อย่างนี้แล้วนะคะก็อยากจะแนะนำทุกคนว่า
00:06:10 → 00:06:12 อันดับแรกไม่ต้องกลัวกันทันหมูกระทะค่ะ
00:06:12 → 00:06:14 ทันได้แต่ว่ายทันบ่อยแค่ 1 ครั้งต่อ
00:06:14 → 00:06:16 สัปดาห์ก็พอนะคะอย่างที่ 2 ถ้าเกิดว่าไป
00:06:16 → 00:06:18 ทานแล้วอยากจะลดความเสี่ยงให้น้อยลงก็อาจ
00:06:18 → 00:06:21 จะมองหาโปรไบโอติกที่มีสายพันธุ์
00:06:21 → 00:06:23 Lactobacillus plantarum อยู่ในนั้นก็
00:06:23 → 00:06:25 ได้หรือจะดียิ่งไปกว่านั้นนะคะลองหมักพวก
00:06:26 → 00:06:28 คอมบูชาหรือว่าไอ้ตัวน้ำหมักเนี่ยหรือว่า
00:06:28 → 00:06:30 หมักไอ้พวกคีเฟอร์หรือว่าโยเกิร์ทันเอง
00:06:31 → 00:06:33 เพราะว่าเราจะได้ปริมาณของจุลินทรีย์ที่
00:06:33 → 00:06:35 มันหลากหลายแลก็ดีต่อร่างกายในปริมาณที่
00:06:35 → 00:06:38 มากกว่าซื้อจากตามเชลในร้านสะดวกซื้อนั่น
00:06:38 → 00:06:40 เองค่ะหวังว่าคลิปสัปดาห์นี้จะเป็น
00:06:40 → 00:06:43 ประโยชน์กับทุกคนนะคะแล้วก็ไม่ได้ยาวจน
00:06:43 → 00:06:45 เกินไปแต่ว่าถ้าอยากฟังเรื่องของการดูแล 6
00:06:45 → 00:06:47 เสาหลักแบบยาวๆฟังแบบเหมือนเพื่อนสาวคุย
00:06:47 → 00:06:51 กันก็ฝากติดตามรายการ Stream Class นะคะ
00:06:51 → 00:06:53 swch podcast ทางช่อง YouTube Stream
00:06:53 → 00:06:55 Class ที่ฟ้ามีโอกาสได้ไปคุยกับพี่จ่า
00:06:55 → 00:06:57 ยศสินีซึ่งเป็นพี่สาวที่น่ารักมากๆของฟ้า
00:06:57 → 00:06:59 คนนึงเลยหรือว่าถ้าใครอยากจะฟังอะไรที่
00:06:59 → 00:07:02 มันจริงจังแล้วก็นานขึ้นมาหน่อยนะคะก็ลอง
00:07:02 → 00:07:05 ฟังที่เอ่อรายการ Just curious นะคะทาง
00:07:05 → 00:07:08 ช่องไ doot ค่ะโดยพี่โจ้ธนาถ้ายังไงก็ฝาก
00:07:08 → 00:07:10 ทุกคนไว้ด้วยนะคะแล้วก็อย่าลืมติดตามกัน
00:07:10 → 00:07:13 ต่อนะคะสัปดาห์หน้าจะมีเรื่องสนุกๆน่าสน
00:07:13 → 00:07:18 ใจอะไรมาฝากอย่าลืมติดตามค่ะขอบคุณค่ะ