00:00:00 → 00:00:02 เราจะไปลงลึกถึงรายละเอียดของโรคอาหาร
00:00:02 → 00:00:07 เป็นพิษโบทูลิซึมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาก
00:00:07 → 00:00:10 ขึ้นสวัสดีค่ะอาจารย์ขอเริ่มที่คำถามแรก
00:00:10 → 00:00:11 เลยนะ
00:00:11 → 00:00:18 [เพลง]
00:00:18 → 00:00:23 คะภาวะโทรึจากอาหารค่ะคืออะไรคะอาจารย์
00:00:23 → 00:00:26 โรคบึมนะครับมีอาการที่รุนแรงครับแต่ว่า
00:00:26 → 00:00:28 เราพบได้ไม่บ่อยนะครับซึ่งเกิดจากสารพิษ
00:00:28 → 00:00:31 หรือว่าท็อกซินซึ่งสารพิษตัวนี้เนี่ยผลิต
00:00:31 → 00:00:33 มาจากแบคทีเรียที่ชื่อว่าคอิ ulum ครับ
00:00:33 → 00:00:36 แล้วสารพิษของมันเนี่ยชื่อว่า ulum
00:00:36 → 00:00:38 นิโรธกิจให้เกิดอาการอัมพาดนะครับกล้าม
00:00:38 → 00:00:41 เนื้ออ่อนแรงผู้ป่วยโรคนี้จะมีการอ่อนแรง
00:00:41 → 00:00:42 ของกล้ามเนื้อทั่วร่างกายครับโดยเฉพาะ
00:00:42 → 00:00:45 บริเวณใบหน้าแล้วก็กล้ามเนื้อที่ใช้ในการ
00:00:45 → 00:00:48 หายใจทำให้ผู้ป่วยมีภาวะหายใจล้มเหลวครับ
00:00:48 → 00:00:51 แล้วก็เสียชีวิตได้หนึ่งในช่องทางที่สาร
00:00:51 → 00:00:53 พิษเหล่านี้จะเข้าสู่ร่างกายก็คือการกิน
00:00:53 → 00:00:56 แล้วก็จะปนเปื้อนมากับอาหารนั่นเองครับ
00:00:56 → 00:01:00 อาจารย์คะแล้วเชื้อโรคโบทูลิซึมคืออะไร
00:01:00 → 00:01:03 uris นะครับเป็นชื่อของโรคนะครับหรือว่า
00:01:03 → 00:01:06 ชื่อของอาการแต่ว่าสารพิษที่เรียกว่าิั
00:01:06 → 00:01:08 นรทกินซึ่งสารพิษนี้สร้างจากแบคทีเรีย
00:01:08 → 00:01:11 ชื่อว่าคอิ botulinum ครับเป็นแบคทีเรีย
00:01:11 → 00:01:13 ที่ปนเปื้อนอยู่ในธรรมชาติโดยเฉพาะในดิน
00:01:13 → 00:01:16 นะครับฟังชื่อแล้วอาจจะคล้ายๆกับโบท็อกซ์
00:01:16 → 00:01:18 ที่เราเอาไว้ฉีดรักษาโรคหรือว่าฉีดหน้า
00:01:18 → 00:01:22 ด้านความงามนะครับซึ่งินันรินก็คือเป็น
00:01:22 → 00:01:25 ตัวเดียวกันเลยครับสารพิษโบ tourism ค่ะ
00:01:25 → 00:01:28 เกี่ยวข้องกับอาหารได้อย่างไรคะเชื้อโรค
00:01:28 → 00:01:30 เหล่านี้นะครับเป็นเชื้อโรคโรคที่อาศัย
00:01:30 → 00:01:32 อยู่ในดินอยู่ในธรรมชาติทั่วไปอยู่แล้ว
00:01:32 → 00:01:34 ครับแต่ว่าเมื่อเรานำสิ่งเหล่านั้นมาทำ
00:01:34 → 00:01:37 อาหารนะครับปรุงไม่สุกหรือว่าไม่สะอาดก็
00:01:37 → 00:01:39 จะมีเชื้อโรคที่ปนเปื้อนมาจากดินเนี่ย
00:01:39 → 00:01:41 แล้วก็พิษของเชื้อโรคเหล่านี้ก็จะมาปน
00:01:41 → 00:01:45 เปื้อนในอาหารจนก่อให้เกิดโรคได้ครับทำไม
00:01:45 → 00:01:49 สารพิษโบทูมส่วนใหญ่มักพบในอาหารกระป๋อง
00:01:49 → 00:01:51 คะกระบวนการการผลิตอาหารกระป๋องใน
00:01:51 → 00:01:53 ปัจจุบันนะครับถือว่าทันสมัยแล้วก็ได้
00:01:53 → 00:01:56 มาตรฐานนะครับแต่ว่าหากกระป๋องเหล่านั้น
00:01:56 → 00:01:58 มีรอยุบรอยรั่วนะครับก็จะมีเชื้อโรคจาก
00:01:59 → 00:02:01 ภายนอก 3 สามารถปนเปื้อนเข้าไปสู่ใน
00:02:01 → 00:02:03 กระป๋องได้ครับและเมื่อเชื้อนั้นเจริญ
00:02:03 → 00:02:05 เติบโตนะครับก็จะสร้างสารพิษสะสมอยู่ใน
00:02:05 → 00:02:08 อาหารกระป๋องเหล่านั้นพอเอาอาหารนั้นไปทำ
00:02:08 → 00:02:10 อาหารกินไม่ได้มาตรฐานต่างๆก็จะเกิดอาการ
00:02:10 → 00:02:13 ได้แต่ว่าสำหรับอาหารกระป๋องอีกแบบนึงนะ
00:02:13 → 00:02:15 ครับที่เป็นอันตรายแล้วก็ต้องน่าเฝ้า
00:02:15 → 00:02:17 ระวังนั่นก็คืออาหารกระป๋องที่ทำเองครับ
00:02:17 → 00:02:20 ทำที่บ้านกันเองแบบไม่ได้มาตรฐานรวมถึง
00:02:20 → 00:02:22 หน่อไม้ปี๊บก็เช่นเดียวกันนะครับที่เคย
00:02:22 → 00:02:24 เป็นข่าวว่าป่วยกันแบบยกหมู่บ้านนแม้ว่า
00:02:24 → 00:02:27 อาหารเหล่านั้นนะครับจะผ่านความร้อนจนถึง
00:02:27 → 00:02:29 จุดเดือดคือ 100 องศเซซแล้วนะครับเชื้อ
00:02:29 → 00:02:33 โรคตายครับแต่ว่าสปอของเชื้อยังไม่ตาย
00:02:33 → 00:02:35 เพราะว่าสปอของเชื้อนั้นทนอุณหภูมิสูงถึง
00:02:35 → 00:02:38 120 องศาดังนั้นเนี่ยจึงเป็นสาเหตุที่พอ
00:02:38 → 00:02:41 เมื่ออาหารกระป๋องหรือว่าหน่อไม้ปี๊บเย็น
00:02:41 → 00:02:44 ลงหลังจากการต้มสุกแล้วนะครับสปอที่อยู่
00:02:44 → 00:02:46 ในภาชนะที่บรรจุปิดสนิทดีแล้วก็เจริญเติบ
00:02:46 → 00:02:49 โตกลายเป็นเชื้อโรคแล้วก็สร้างสารพิษขึ้น
00:02:49 → 00:02:50 มายิ่งอยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ไม่มี
00:02:51 → 00:02:53 ออกซิเจนเข้าด้วยนะครับสปอก็จะโตกลายเป็น
00:02:53 → 00:02:55 เชื้อและเชื้อก็กลายเป็นแบคทีเรียและ
00:02:55 → 00:02:58 แบคทีเรียก็จะสร้างสารพิษออกมาสู่คนไข้
00:02:58 → 00:03:01 นั่นเองครับสารพิษโบ tourism ค่ะเข้าสู่
00:03:01 → 00:03:04 ร่างกายได้ทางใดบ้างคะถ้าพูดถึงโรคโบ
00:03:04 → 00:03:06 tourism นะครับแบ่งได้หลายแบบนะครับแต่
00:03:06 → 00:03:09 ถ้าเกิดว่าเราแบ่งตามความเข้าใจง่ายๆแบ่ง
00:03:09 → 00:03:12 ตามช่องทางการเข้าสู่ร่างกายของมนุษย์นะ
00:03:12 → 00:03:14 ครับแบ่งออกได้ทั้งหมด 5 แบบครับแบบแรก
00:03:14 → 00:03:16 เราเรียกว่า Food Ball ิึนะครับหรือว่า
00:03:16 → 00:03:20 โรคิึที่เกิดจากอาหารที่มี ulum
00:03:20 → 00:03:23 นิโรธกิจเป็นชนิดที่พบได้บ่อยมากที่สุด
00:03:23 → 00:03:25 ซึ่งอาหารก็เป็นสาเหตุของโรคนะครับแล้วก็
00:03:25 → 00:03:28 ิึมักเป็นอาหารที่ผ่านกระบวนการการถนอม
00:03:28 → 00:03:31 อาหารแล้วก็ประจุพันธุ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน
00:03:31 → 00:03:33 เช่นอาหารกระป๋องที่มีการบุบรั่วหรือว่า
00:03:33 → 00:03:36 หน่อไม้ปี๊บนั่นเองนะครับอันที่ 2 ครับ
00:03:36 → 00:03:38 intestinal bism นะครับซึ่งเป็นโรค
00:03:38 → 00:03:40 โบทูลิซึมที่เกิดจากผู้ป่วยได้กินสปอของ
00:03:40 → 00:03:43 เชื้อคิมโบัเข้าไปแล้วะเชื้อเหล่านี้ก็ไป
00:03:43 → 00:03:46 เจริญเติบโตในลำไส้พอเจริญเติบโตแล้วก็
00:03:46 → 00:03:49 สร้างสารพิษ urin นิรินขึ้นมาสิ่งเหล่า
00:03:49 → 00:03:52 นี้สามารถพบได้ทั้งในทารกแล้วก็ทั้งในผู้
00:03:52 → 00:03:55 ใหญ่ครับแบบที่ 3 ครับเราเรียกว่า Won B
00:03:55 → 00:03:58 tourism ตามชื่อเลยครับเป็นโรค bism ที่
00:03:58 → 00:04:00 เกิดจากแผลที่มีการติดเชื้อเื้อปนเปื้อน
00:04:00 → 00:04:03 คิมโบันะครับเช่นเรามีแผลที่เท้าไปเดิน
00:04:03 → 00:04:06 เหยียบย่ำดินเข้ามาแล้วก็ติดเชื้อแล้วก็
00:04:06 → 00:04:09 เกิดเชื้อโรคขึ้นมาจนเกิดโรค uris นั่น
00:04:09 → 00:04:12 เองอันที่ 4 นะครับ biological Weapon
00:04:12 → 00:04:15 นะครับซึ่งเป็นการผลิต urin รทกิเพื่อใช้
00:04:15 → 00:04:18 เป็นอาวุธในสงครามชีวภาพสิ่งเหล่านี้เกิด
00:04:18 → 00:04:20 ขึ้นจริงตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
00:04:20 → 00:04:23 นะครับก็มีการใช้ท็อกซินนี้ในการทำสงคราม
00:04:23 → 00:04:25 ในการก่อการร้ายโดยท็อกซินก็จะมีการแพร่
00:04:26 → 00:04:29 กระจายอยู่ในอากาศแล้วก็อาหารครับส่วนอัน
00:04:29 → 00:04:31 ที่ 5 isogenic bism นะครับซึ่ง
00:04:31 → 00:04:33 ปัจจุบันเนี่ยเรามีการใช้โบท็อกซ์นะครับ
00:04:33 → 00:04:37 หรือว่าิันิรินชนิด a ในการรักษาโรคบาง
00:04:37 → 00:04:40 ชนิดเช่นโรคคอบิดเกร็งนะครับโรคใบหน้า
00:04:40 → 00:04:42 กระตุกหรือบางคนใช้ในความงามแต่ถ้าเกิด
00:04:42 → 00:04:45 ว่าได้สารพิษเหล่านี้มากจนเกินไปหรือผิด
00:04:45 → 00:04:47 ครอบผงชี้ก็สามารถเกิดโรคโบ tourism ได้
00:04:47 → 00:04:51 ครับและอาการค่ะเมื่อรับสารพิษโบทูลิซึม
00:04:51 → 00:04:54 เข้าสู่ร่างกายแล้วจะเป็นอย่างไรคะอย่าง
00:04:54 → 00:04:56 แรกเลยนะครับอาการแรกคนไข้จะมีอาการ
00:04:56 → 00:04:59 อาเจียนมีอาการท้องเดินในระยะแรกของโรค
00:04:59 → 00:05:01 ครับส่วนใหญ่มักจะไม่มีไข้นะครับลักษณะ
00:05:01 → 00:05:03 อาการที่สำคัญเลยนะครับจะเกิดขึ้นกับระบบ
00:05:03 → 00:05:06 ประสาทของร่างกายได้แก่หนังตาตกการมอง
00:05:06 → 00:05:09 เห็นไม่ชัดหรือว่าเห็นเป็นภาพซ้อนตามมา
00:05:09 → 00:05:11 ด้วยอาการกลืนลำบากพูดเสียงเปลี่ยนเสียง
00:05:11 → 00:05:14 ขึ้นจมูกอาการเหล่านี้นะครับก็จะตามกันมา
00:05:14 → 00:05:16 เรื่อยๆด้วยอาการอ่อนแดงของกล้ามเนื้อผู้
00:05:16 → 00:05:19 ป่วยนจะยังรู้ตัวดีนะครับสติสัมปชัญญะ
00:05:19 → 00:05:22 100% รู้ตัวตลอดเวลาแต่สิ่งที่น่ากลัว
00:05:22 → 00:05:24 ที่สุดของโรคนี้ครับคือกล้ามเนื้อที่ใช้
00:05:24 → 00:05:26 ในการหายใจหรือว่ากระบังลมของเราเนี่ยมัน
00:05:26 → 00:05:29 จะอ่อนแรงจนกระทั่งไม่สามารถหายใจเองได้
00:05:29 → 00:05:31 และเข้าสู่ภาวะการหายใจล้มเหลวนั่นเอง
00:05:31 → 00:05:35 ครับอาจารย์คะความน่ากลัวของสารพิษโบทิม
00:05:35 → 00:05:39 ค่ะคือมีการกล่าวกันว่าสารชีวพิษนี้มีพิษ
00:05:40 → 00:05:43 ร้ายแรงที่สุดมากกว่าสารชีวพิษใดๆที่รู้
00:05:43 → 00:05:45 จักกันในปัจจุบันเป็นอย่างไรคะใน
00:05:45 → 00:05:47 ประวัติศาสตร์โลกนะครับมีการที่หลาย
00:05:47 → 00:05:50 ประเทศได้พัฒนาโบนัมนิโรท็อกซินมาใช้เป็น
00:05:50 → 00:05:52 อาวุธชีวภาพนะครับเพราะว่าใช้ปริมาณสาร
00:05:52 → 00:05:56 พิษที่น้อยไร้สีไร้กลิ่นไร้รสชาตินะครับ
00:05:56 → 00:05:59 ทำให้ตรวจจับได้ยากก่อให้เกิดการบาดเจ็บ
00:05:59 → 00:06:01 ทางร่างกายที่ร้ายแรงแล้วก็ถึงแก่ชีวิต
00:06:01 → 00:06:04 ได้ซึ่งมันผลิตง่ายเคลื่อนย้ายสะดวกเพราะ
00:06:04 → 00:06:06 ว่ามันเล็กมากนะครับแล้วก็ผู้บาดเจ็บจาก
00:06:06 → 00:06:09 พิษเนี่ยต้องการการรักษาที่อย่างใกล้ชิด
00:06:09 → 00:06:11 แล้วก็ต่อเนื่องยาวนานดังนั้นจึงบอกได้
00:06:11 → 00:06:14 ว่าเป็นอาวุธชีวภาพชนิดนึงได้เลยครับและ
00:06:14 → 00:06:17 จะวินิจฉัยได้อย่างไรคะว่าอาหารเป็นพิษ
00:06:17 → 00:06:20 ค่ะจากสารพิษโบทูลิซึมสิ่งที่สำคัญเลยนะ
00:06:20 → 00:06:22 ครับนั่นคือประวัติของคนไข้ครับโดยเฉพาะ
00:06:22 → 00:06:26 เรื่องของอาหารการกินชนิดอาหารระยะเวลา
00:06:26 → 00:06:28 ที่กินไปแล้วจนเริ่มเกิดอาการขึ้นนะครับ
00:06:28 → 00:06:31 มีใครที่กินกับเราบ้างมีใครที่มีอาการ
00:06:31 → 00:06:33 บ้างแล้วก็สิ่งเหล่านั้นเนี่ยถ้าเกิดเก็บ
00:06:33 → 00:06:34 ตัวอย่างอาหารมาได้จะเป็นสิ่งที่เป็น
00:06:34 → 00:06:37 ประโยชน์มากที่สุดรวมถึงลำดับอาการในการ
00:06:37 → 00:06:39 เป็นนะครับว่ามีอาการอะไรบ้างที่เกิดขึ้น
00:06:39 → 00:06:42 กับระบบประสาทนั่นเองครับต้องมีอาการของ
00:06:42 → 00:06:44 อาหารเป็นพิษระดับไหนคะถึงจะต้องไปพบ
00:06:44 → 00:06:47 แพทย์หากสงสัยนะครับว่าเป็นิึนะครับให้
00:06:48 → 00:06:50 รีบไปพบแพทย์ครับเพราะว่าการรักษาที่เร็ว
00:06:50 → 00:06:52 ได้รับยาต้านพิษหรือว่าแอนตี้ท็อกซินที่
00:06:52 → 00:06:54 เร็วนะครับมักจะมีการตอบสนองต่อการรักษา
00:06:54 → 00:06:57 ได้ดีลดอัตราการตายได้อย่างชัดเจนครับ
00:06:57 → 00:06:59 ทั้งนี้ต้องบอกว่าไม่จำเป็นเลยนะครับที่
00:06:59 → 00:07:01 ต้องรอผลการตรวจพิเศษทางห้องปฏิบัติการ
00:07:01 → 00:07:04 ก่อนหรือว่ารอให้อาการหนักแล้วค่อยมา
00:07:04 → 00:07:07 รักษาให้รักษาได้เลยครับยิ่งรักษาเร็ว
00:07:07 → 00:07:11 ยิ่งดีครับอาหารเป็นพิษจากสารพิษโบทิมค่ะ
00:07:11 → 00:07:15 รักษาได้อย่างไรคะนอกจากที่เราจะรีบทำการ
00:07:15 → 00:07:17 วินิจฉัยแล้วก็รีบให้การรักษาด้วยแอนตี้
00:07:17 → 00:07:19 ท็อกซินแล้วนะครับยังต้องเฝ้าสังเกตอาการ
00:07:19 → 00:07:22 ของผู้ป่วยโดยเฉพาะอาการทางระบบประสาท
00:07:22 → 00:07:25 เช่นหนังตาตกเห็นภาพซ้อนพูดไม่ชัดกลืน
00:07:25 → 00:07:27 ลำบากแล้วก็ทางเดินหายใจล้มเหลวนะครับหาย
00:07:27 → 00:07:30 ใจเองไม่ไหวหายใจเองไม่ได้ต้องใช้เครื่อง
00:07:30 → 00:07:32 ช่วหายใจหรืออาจจะต้องมีการเจาะคอในผู้
00:07:32 → 00:07:34 ป่วยที่ต้องใช้เครื่องหายใจเป็นระยะเวลา
00:07:34 → 00:07:36 ที่ค่อนข้างจะนานขณะเดียวกันครับต้องมี
00:07:36 → 00:07:39 การสืบสวนโรคโดยการจัดการแหล่งต้นตอของ
00:07:39 → 00:07:41 อาหารนะครับเช่นมีกินหน่อไม้ปี๊บหรือ
00:07:42 → 00:07:44 เปล่ามีอาหารกระป๋องในล็อตเดียวกันที่ไม่
00:07:44 → 00:07:46 ได้ที่ไม่ได้มาตรฐานหรือเปล่าเพื่อเป็น
00:07:46 → 00:07:49 การจำกัดวงของการแพร่ระบาดนั่นเองครับ
00:07:49 → 00:07:52 สาเหตุการเสียชีวิตของคนที่อาหารเป็นพิษ
00:07:52 → 00:07:54 เกิดจากอะไรคะอาจารย์เนื่องจากโรค
00:07:54 → 00:07:57 โบทูลิซึมนะครับมีผลต่อระบบประสาททำให้
00:07:57 → 00:07:59 ระบบประสาทเป็นอัมพาตทั้งที่ผู้ป่วยนยัง
00:07:59 → 00:08:02 คงมีสติรู้ตัวยังคงรับรู้สิ่งต่างๆได้
00:08:02 → 00:08:04 เหมือนเดิมนะครับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง
00:08:04 → 00:08:07 มักจะมีภาวะหายใจล้มเหลวครับซึ่งกินระยะ
00:08:07 → 00:08:09 เวลานานกว่าเกือบๆ 2 เดือนได้เลยนะครับ
00:08:09 → 00:08:11 ดังนั้นระหว่างที่ผู้ป่วยนอนโรงพยาบาลและ
00:08:11 → 00:08:14 มีภาวะหายใจล้มเหลวเนี่ยมีโอกาสที่จะเกิด
00:08:14 → 00:08:16 การติดเชื้อแล้วก็มีภาวะแทรกซ้อนต่างๆได้
00:08:16 → 00:08:19 นะครับซึ่งมีโอกาสเสียชีวิตสูงถึง 20
00:08:20 → 00:08:22 กว่าเปอร์เซแต่ว่าในปัจจุบันนะครับเรามี
00:08:22 → 00:08:24 วิวัฒนาการทางการแพทย์มีแอนตี้ท็อกซินถ้า
00:08:24 → 00:08:27 รู้เร็วรักษาเร็วโอกาสการเสียชีวิตก็น้อย
00:08:27 → 00:08:30 ลงแทบจะไม่มีล่ะครับอยากให้อาจารย์ฝากคุณ
00:08:30 → 00:08:33 ผู้ชมขาว่าจะทำอย่างไรให้ห่างไกลจากอาหาร
00:08:33 → 00:08:35 เป็นพิษค่ะอยากจะแนะนำทุกท่านนะครับให้
00:08:35 → 00:08:38 รับประทานอาหารที่สุขสดสะอาดสำหรับอาหาร
00:08:38 → 00:08:41 กระป๋องต้องได้มาตรฐานไม่มีรอยบุบรอยรั่ว
00:08:41 → 00:08:43 หรือว่ากระป๋องบวมนะครับหากพบว่าอาหาร
00:08:43 → 00:08:46 กระป๋องนั้นรั่วบวมให้ทิ้งเลยครับอย่า
00:08:46 → 00:08:47 เสียดายนะครับเพราะว่าหากมีเชื้อ
00:08:47 → 00:08:50 โบทูลินัมจนก่อเกิดโรคโบทูลิซึมแล้ว
00:08:50 → 00:08:53 อันตรายถึงแก่ชีวิตได้สุดท้ายเลยครับให้
00:08:53 → 00:08:56 กินร้อนช้อนกลางล้างมือสุขสดสะอาดได้
00:08:56 → 00:09:00 มาตรฐานครับขอบคุณนะคะสำหรับสำหรับการรับ
00:09:00 → 00:09:03 ชมรายการ TNN Health ค่ะและอย่าลืมค่ะกด
00:09:03 → 00:09:06 Subscribe กดไลคกดแชร์ในทุกช่องทาง
00:09:06 → 00:09:10 ออนไลน์ของ TNN ช่อง 16 ค่ะเพื่อที่จะไม่
00:09:10 → 00:09:13 พลาดการรับชมรายการสดคลิปวดีโอที่น่าสนใจ
00:09:14 → 00:09:18 ของทาง TNN นะคะ