00:00:00 → 00:00:03 ก็

00:00:03 → 00:00:06 สวัสดีค่ะเกินเที่ยงอ่ะเรากินค่ะพี่นะคะ

00:00:06 → 00:00:08 ตอนนี้เราอยู่ใน Happy เดียวอายนะคะความ

00:00:08 → 00:00:12 สุขง่ายที่เราทำได้เองวันนี้เราจะมาทำได้

00:00:12 → 00:00:16 เองนะด้วยกันรู้จักปฏิเสธเหตุฆ่าคุณรู้

00:00:16 → 00:00:20 สึกยังไงบ้างคะกับคำๆนี้นะบางคนเนี่ยก็

00:00:20 → 00:00:23 รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องยากจังเลยนะการที่

00:00:23 → 00:00:27 จะปฏิเสธอะไรหรือปฏิเสธใครสักคนใช่ไหมคะ

00:00:27 → 00:00:30 ก็ต้องบอกว่าหมอเองนะก็เป็นจริตนี้เหมือน

00:00:30 → 00:00:34 กันนะแผ่นชนิดพี่รู้สึกว่าการปฏิเสธผู้คน

00:00:34 → 00:00:37 เนี่ยมันเป็นเรื่องยากลำบากในขณะที่นะคะ

00:00:37 → 00:00:40 บางคนเนี่ยไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นปัญหา

00:00:40 → 00:00:43 เลยเพิ่งมันง่ายมากเลยสำหรับฉันนะและฉัน

00:00:43 → 00:00:47 ก็มักจะปฏิเสธไว้ก่อนด้วยซ้ำนะคะถามว่า

00:00:47 → 00:00:51 การบริษทเนี่ยสำหรับคนที่ปฏิเสธง่ายเมือง

00:00:51 → 00:00:55 คงง่ายเนอะแต่สิ่งที่จะตามมาคือฟังทีเรา

00:00:55 → 00:00:59 ก็เสียความสัมพันธ์จากการที่ปฏิเสธง่ายจน

00:00:59 → 00:01:03 เกินไปเช่นมีการนะคะเค้านี้ความพอดีของ

00:01:03 → 00:01:06 เรื่องนี้อยู่ตรงไหนกันนะคะความพอดีของ

00:01:06 → 00:01:09 เรื่องนี้เนี่ยมันก็คืออยู่ที่เรานะคะ

00:01:09 → 00:01:12 เป็นคนที่เลือกได้ค่ะเรื่องได้ว่าเราควร

00:01:13 → 00:01:16 จะเป็นพิเศษเรื่องนี้หรือเปล่านะคะหรือ

00:01:16 → 00:01:21 เรื่องนี้เนี่ยเราควรที่จะยอมรับและช่วย

00:01:21 → 00:01:24 เหลือเรียกง่ายว่าการปฏิเสธไม่ควรเป็น

00:01:24 → 00:01:27 สิ่งที่เป็นอัตโนมัตินะไม่ว่าจะไม่กล้า

00:01:27 → 00:01:30 ปฏิเสธหรือเอาแต่ปฏิเสธก็ตามค่ะตอนนี้เรา

00:01:30 → 00:01:34 จะมาพูดถึงในเรื่องของถ้าเกิดว่าการ

00:01:34 → 00:01:37 ปฏิเสธมันเป็นเรื่องยากนะของคนในกลุ่มที่

00:01:37 → 00:01:42 ไม่กล้าที่จะปฏิเสธเราจะปฏิเสธได้อย่างไร

00:01:42 → 00:01:45 นะคะอันนี้อยากชวนมาคิดนิดนึงนะคะว่าแล้ว

00:01:45 → 00:01:49 ชีวิตเรานะจะดีขึ้นได้ยังไงบ้างนะถ้าเกิด

00:01:49 → 00:01:52 ว่าเรารู้จักปฏิเสธจากที่เคยไม่ปฏิเสธ

00:01:52 → 00:01:55 อะไรเลยนะคะหรือไม่กล้าหรือกลัวที่จะ

00:01:55 → 00:01:59 ปฏิเสธนั้นสิ่งที่จะดีขึ้นแน่นอนนะหนึ่ง

00:01:59 → 00:02:01 เลยคือเรื่องของเดี๋ยวเราจะมีเวลามากขึ้น

00:02:01 → 00:02:05 นะคะที่เราจะทำในสิ่งที่ควรทำถูกไหมคะ

00:02:05 → 00:02:10 เพราะเราไม่ได้ใช้เวลากับความขี้เกรงใจ

00:02:10 → 00:02:13 ของตัวเองจนเยอะจนเกินไปนะอ่ะอันที่สองคน

00:02:13 → 00:02:16 เราได้เวลาสิ่งที่ตามมาคืออะไรเราก็จะมี

00:02:16 → 00:02:19 ประสิทธิภาพในการทำในสิ่งที่ควรจะต้องทำ

00:02:19 → 00:02:23 หรือสิ่งที่เราตัดสินใจว่านี่ความถนัด

00:02:23 → 00:02:26 หรือนี่คือความชอบของเรามากขึ้นผลที่ตาม

00:02:26 → 00:02:30 มาคืออะไรแน่นอนคุณภาพนะในเรื่องของงาน

00:02:30 → 00:02:32 เนื่องในการใช้ชีวิตเรามันดีขึ้นแน่นอน

00:02:32 → 00:02:37 ค่ะเพราะเรามีสิ่งที่เราจะต้องทำน้อยลง

00:02:37 → 00:02:40 แล้วเราจะเริ่มต้นในการปฏิเสธอย่างไรดี

00:02:40 → 00:02:44 นั้นเรามาเริ่มต้นนะคะลองถามตัวเองนะคะ

00:02:44 → 00:02:47 ว่าแล้วที่ผ่านมาเนี่ยอะไรที่ทำให้ฉัน

00:02:47 → 00:02:50 เนี่ยไม่กล้าที่จะปฏิเสธล่ะฮะบางคนเนี่ย

00:02:50 → 00:02:53 ก็จะพบว่าบางทีเนี่ยเราอาจจะเคยมี

00:02:53 → 00:02:56 ประสบการณ์ในที่ถูกปฏิเสธมาแล้วเรารู้สึก

00:02:56 → 00:02:59 ว่าโฮ้ฉันรู้สึกไม่ดีเลยนะทั้งนั้นฉันก็

00:02:59 → 00:03:02 จะก็ไม่ปฏิเสธใครเลยเพราะฉันไม่อยากให้คน

00:03:02 → 00:03:06 อื่นรู้สึกไม่ดีนะคะเพราะการที่เขารู้สึก

00:03:06 → 00:03:08 ไม่ดีเนี่ยจะหมายถึงว่าเขาก็จะไม่ยอมรับ

00:03:08 → 00:03:11 เราก็ได้ใช่ไหมคะหรือบางคนอาจจะมี

00:03:11 → 00:03:14 ประสบการณ์ว่าพอเราปฏิเสธแล้วเนี่ยเราถูก

00:03:14 → 00:03:18 ตอบกลับมานะด้วยคำพูดนะคะหรืออะไรที่ทำ

00:03:18 → 00:03:22 ให้เรารู้สึกแย่และเราก็เลยไม่กล้าที่จะ

00:03:22 → 00:03:26 ปฏิเสธอีกนะเนี่ยเราก็ต้องลองมาทบทวนเอ้อ

00:03:26 → 00:03:30 ว่าที่ผ่านมาอะไรที่ทำให้เราไม่กล้าที่จะ

00:03:30 → 00:03:33 ปฏิเสธในเมื่อเรารู้แล้วค่ะก็อยากให้เรา

00:03:33 → 00:03:37 เข้าใจคีย์สำคัญเลยนะว่าการที่เราจะ

00:03:37 → 00:03:39 ปฏิเสธหรือไม่ปฏิเสธเนี่ยมันเป็นคนละ

00:03:39 → 00:03:42 เรื่องกับการที่จะเป็นการยอมรับของคนอื่น

00:03:42 → 00:03:46 ใครคนนึงก็จะรักเราใครคนนึงก็จะชอบเราไกล

00:03:46 → 00:03:48 คนนึงเขาจะยอมรับในตัวเรามันไม่อยู่ที่

00:03:48 → 00:03:52 ว่าเราจะปฏิเสธหรือไม่ปฏิเสธแล้วค่ะคะนี้

00:03:52 → 00:03:55 เมื่อเราเนี่ยรู้ในเรื่องของทัศนคติรุ้ง

00:03:55 → 00:03:57 มองในเรื่องของการประเทศของเราแล้วนะคะ

00:03:57 → 00:04:02 เราก็ลองมาเช่คือเรื่องของแมนขับนะคะของ

00:04:02 → 00:04:05 การปฏิเสธว่าได้เรื่องนี้มันควรปฏิเสธ

00:04:05 → 00:04:07 หรือเปล่าสมเหตุสมผลหรือเปล่านะยกตัว

00:04:07 → 00:04:10 อย่างนะคะเรื่องของการยืมเงินมีพยานคนนึง

00:04:10 → 00:04:12 ก็มาปรึกษาหมอเหมือนกันนะว่าเขาเองเนี่ย

00:04:12 → 00:04:15 ก็ลำบากใจนะคะว่ามีรุ่นพี่เนี่ยมายืมเงิน

00:04:15 → 00:04:19 นะแล้วเขาก็รู้ว่ารุ่นพี่อาจจะใช้เงินใน

00:04:19 → 00:04:21 ทางที่ไม่ถูกต้องจะได้ขณะเดียวกันเขาก็

00:04:21 → 00:04:25 รู้เหมือนกันนะคะว่าทางครอบครัวหรือหรือ

00:04:25 → 00:04:28 พยานของลูกพี่เนี่ยก็ไม่สบายซึ่งอาจจะ

00:04:28 → 00:04:31 จริงหรือไม่จริงก็ได้จะเนี่ยสิ่งที่กังวล

00:04:31 → 00:04:34 ที่สุดนั่นก็คือว่าการที่จะเกิดว่าเหยื่อ

00:04:34 → 00:04:39 ให้ยืมเงินก้อนใหญ่ไปแล้วเนี่ยแล้วไม่ได้

00:04:39 → 00:04:41 คืนนะเพราะมีโอกาสที่จะเสียความสัมพันธ์

00:04:41 → 00:04:45 กับพี่ที่ทำงานคนนี้ไปได้อันนี้ค่ะก็เป็น

00:04:45 → 00:04:49 สิ่งที่จะต้องมาพิจารณาว่ากับเรื่องนี้

00:04:49 → 00:04:53 เนี่ยเราควรปฏิเสธหรือเปล่านะคะแรงขับของ

00:04:53 → 00:04:56 ผู้ชายคนนี้นะคะคือเรื่องของความไม่สบาย

00:04:56 → 00:05:00 ใจว่าเราอาจจะเสียความ

00:05:00 → 00:05:04 อันนี้ค่ะของเพื่อนร่วมงานที่ดีไปจากการ

00:05:04 → 00:05:08 ที่เราเองเนี่ยไม่ปฏิเสธเรื่องนี้และเก็บ

00:05:08 → 00:05:11 เป็นความไม่สบายใจของตัวเองอันนี้เป็นแรง

00:05:11 → 00:05:16 ขับที่สมเหตุสมผลนะคะแซว่าเราก็ควรจะ

00:05:16 → 00:05:19 ปฏิเสธเรื่องนี้แต่ปัญหาเนี่ยมันคือแล้ว

00:05:19 → 00:05:23 เราจะไปเสร็จยังไงดีนะที่จะทำให้เราไม่

00:05:23 → 00:05:28 กลายเป็นคนใจร้ายนะคะหรือเสียวความ

00:05:28 → 00:05:31 สัมพันธ์เพราะเราไม่ช่วยเหลือพอ

00:05:31 → 00:05:35 เราตัดสินใจได้แล้วนะคะว่าเออเรื่องนี้

00:05:35 → 00:05:40 เนี่ยควรจะปฏิเสธนะก็มาเป็น state ถัดไป

00:05:40 → 00:05:44 นะคะนั่นก็คือแล้วจะปฏิเสธยังไงอ่ะให้เรา

00:05:44 → 00:05:50 ก็สบายใจเขาก็สบายใจการสื่อสารที่มันเป็น

00:05:50 → 00:05:54 ความชัดเจนนะคะเนื้อเรื่องของอารมณ์ใน

00:05:54 → 00:05:56 เรื่องของความรู้สึกของเราที่มีต่อเรื่อง

00:05:56 → 00:06:00 นะเนี่ยนะคะจะเป็นคีย์ที่สำคัญที่เรามี

00:06:00 → 00:06:04 ผู้ได้นะคะอย่างเช่นในกรณีผู้ชายเมื่อ

00:06:04 → 00:06:06 ตะกี้นี้ใช่ไหมคะเขารู้สึกเห็นอกเห็นใจ

00:06:06 → 00:06:11 ค่ะกับปัญหาที่รุ่นพี่มีแต่จากประสบการณ์

00:06:11 → 00:06:15 การที่มีคนมายืมเงินทำให้เค้าเจอ

00:06:15 → 00:06:19 ประสบการณ์ละลายผมเนี่ยเจอประสบการณ์ว่า

00:06:19 → 00:06:24 พอยืมไปนะผมก็กลับมาคิดกลับมากังวลแล้วพอ

00:06:24 → 00:06:29 สุดท้ายไม่ได้มีการใช้คืนมันทำให้ผมเนี่ย

00:06:29 → 00:06:32 เคยเสียความสัมพันธ์กับเรื่องนี้มาเกาะน

00:06:32 → 00:06:35 นั้นผมไม่อยากจะเสียความสัมพันธ์กับพี่

00:06:35 → 00:06:39 ตั้งซึ่งเนี้ยมันทำให้ผมกังวลนั้นเป็นไป

00:06:39 → 00:06:43 ได้ไหมนะเดี๋ยวผมนะช่วยพี่เท่านี้ซึ่งมา

00:06:43 → 00:06:46 น่าจะเป็นจำนวนที่ไม่ได้เยอะมากนะแต่มัน

00:06:46 → 00:06:50 ทำให้เราสบายใจอย่างน้อยเนี่ยเราสบายใจ

00:06:50 → 00:06:53 กับตัวเองว่าเออเราได้มีส่วนช่วยบ้างนะ

00:06:53 → 00:06:56 แม้ว่ามันไม่ได้ทั้งหมดและมันก็เป็นแค่

00:06:56 → 00:06:59 ความสบายใจแล้วเนี่ยไม่ได้ยืมนะคือให้เลย

00:07:00 → 00:07:03 ถ้าจะให้ได้เท่านี้เราสบายใจเขาสบายใจผม

00:07:03 → 00:07:04 ให้พี่ได้เท่านี้นะครับเพราะว่าจะไม่

00:07:04 → 00:07:07 สามารถให้ยืมทั้งหมดได้แต่ผมคิดว่ามันจะ

00:07:07 → 00:07:11 ดีและความสัมพันธ์ของเราทั้งสองคนมากกว่า

00:07:11 → 00:07:15 และผมก็ไม่ต้องกังวลด้วยอันนี้ค่ะก็จะ

00:07:15 → 00:07:20 เป็นศิลปะที่เราเองเนี่ยพูดได้นะเรารู้

00:07:20 → 00:07:23 สึกยังไงเราต้องการอะไรแรงสำคัญในเรื่อง

00:07:23 → 00:07:28 ของการที่เราจะปฏิเสธเรื่องนี้มันไม่ใช่

00:07:28 → 00:07:30 เป็นเพราะเราไม่ยอมรับเขานะแต่มันคือการ

00:07:30 → 00:07:33 ที่เราอยากจะเก็บความสัมพันธ์ที่ดี

00:07:33 → 00:07:37 ระหว่างเราสองคนไหวการปฏิเสธนั้นก็ก็จะ

00:07:37 → 00:07:40 เป็นการปฏิเสธที่ยังรักษาความสัมพันธ์ไว้

00:07:40 → 00:07:43 ได้อยู่นะคะแล้วสุดท้ายนะพอเราปฏิเสธใคร

00:07:43 → 00:07:47 สักคนเนี่ยเราคงจะต้องยอมรับและเขาว่าเรา

00:07:47 → 00:07:51 ก็อาจจะทำให้ใครคนหนึ่งเสียใจแต่มันคือ

00:07:51 → 00:07:56 การเสียใจที่มันสมเหตุสมผลและมันจะทำให้

00:07:56 → 00:08:00 เขาเข้มแข็งมากขึ้นการที่เราก็เพราะว่า

00:08:00 → 00:08:02 เขาอาจจะเสียใจบ้างนะเขาอาจจะผิดหวังบ้าง

00:08:02 → 00:08:06 จากการปฏิเสธของเรานะคะเราให้เวลาเค้าหา

00:08:06 → 00:08:09 เราให้โอกาสเขาที่จะเสียใจนะแล้วอย่าลืม

00:08:09 → 00:08:14 ขอบคุณเขาด้วยนะขอบคุณนะที่รับฟังเรานะคะ

00:08:14 → 00:08:18 ขอบคุณนะที่ให้โอกาสเรานะขอบคุณที่พอเขา

00:08:18 → 00:08:22 มีปัญหานะแล้วเขาคิดถึงเรานะเขาไม่มีเงิน

00:08:22 → 00:08:26 เนี่ยเขามายืมเรานะขอบคุณนะที่คิดถึงนะ

00:08:26 → 00:08:30 เราต้องขอโทษด้วยที่เราอาจจะทำให้เขาผิด

00:08:30 → 00:08:33 หวังหรือขอโทษด้วยนะที่เราจะช่วยไม่ได้

00:08:33 → 00:08:36 ทั้งหมดนะแต่เราสามารถช่วยได้นี่แหละที่

00:08:36 → 00:08:40 เราเองสบายใจและความสัมพันธ์ของเราสองคน

00:08:40 → 00:08:43 ยังคงอยู่ไม่ว่าครั้งไหนนะคะถ้าเราอยู่ใน

00:08:43 → 00:08:48 กระบวนการนี้นะก็คือเราไม่ได้มีทัศนคติใน

00:08:48 → 00:08:51 เชิงลบซะทีเดียวกับการปฏิเสธของตัวเราเอง

00:08:51 → 00:08:55 เราชัดเจนในความคิดและความรู้สึกที่เกิด

00:08:55 → 00:08:59 ขึ้นกับเรื่องนั้นและตัดสินใจว่าจะปฏิเสธ

00:08:59 → 00:09:04 และไม่อ่าเสร็จอย่างสมเหตุสมผลแล้วใช้สติ

00:09:04 → 00:09:07 ค่ะในการที่จะสื่อสารความต้องการของเรา

00:09:07 → 00:09:11 และความปรารถนาให้ความสัมพันธ์ของเราสอง

00:09:11 → 00:09:14 คนยังคงอยู่สุดท้ายอย่าลืมจบลงด้วยการ

00:09:14 → 00:09:19 ขอบคุณเขาขอบคุณที่รับฟังขอโทษที่ทําให้

00:09:19 → 00:09:23 ผิดหวังแต่ความสัมพันธ์ของเราเปลี่ยนจะคง

00:09:23 → 00:09:26 อยู่และนี่ก็จะเป็นพริกของการที่เราจะ

00:09:26 → 00:09:30 ปฏิเสธและได้เวลากลับมาและได้ความ

00:09:30 → 00:09:33 สัมพันธ์กับหมาและคุณภาพชีวิตของเราก็จะ

00:09:33 → 00:09:37 ดีขึ้นในทุกด้านค่ะถ้าเกิดใครนะคะได้

00:09:37 → 00:09:40 ประโยชน์จากคลิปนี้นะก็กด Subscribe ไลค์

00:09:40 → 00:09:43 แชร์นะกดกระดิ่งจริงๆใครมีปัญหาในเรื่อง

00:09:43 → 00:09:46 ของการสื่อสารหรือความสัมพันธ์นะคะลอง

00:09:46 → 00:09:50 คอมเมนต์มานะเดี๋ยวหมอจะเอาประเด็นที่คุณ

00:09:50 → 00:09:54 แชร์นั่นแหละลองมาทำคลิปให้ความรู้ดูดูซิ

00:09:54 → 00:09:58 ว่าชีวิตเราจะง่ายขึ้นชีวิตเราจะมีความ

00:09:58 → 00:10:01 สุขขึ้นหรือเปล่าอ่ะอันนี้สวัสดีนะคะบ๊าย

00:10:01 → 00:10:01 บาย

00:10:01 → 00:10:09 [เพลง]

00:10:09 → 00:10:11 โน้ท