00:00:04 → 00:00:08 [เพลง]
00:00:08 → 00:00:12 เกิดจากสารระบบประสาทมันมีตัวนึงอ่ะมันไป
00:00:12 → 00:00:15 ขวางไม่ให้ร่างกายเราทำงานได้ปกติเขาพบ
00:00:15 → 00:00:18 ว่าคนไข้เนี่ยมันไปเจอว่าตัวต่อมไทมัส
00:00:18 → 00:00:21 เป็นตัวกระตุ้นที่ไปบล็อกสารสื่อประสาท
00:00:21 → 00:00:23 ให้ลงร่างกายเราทำงานไม่ได้มักจะเป็นใน
00:00:23 → 00:00:27 ผู้หญิงอายุน้อยมักเป็น 2 ข้างมักเป็นตอน
00:00:27 → 00:00:30 บ่ายฉะนั้นเนี่ยผู้ป่วยเริ่มมีหนังตาล้า
00:00:30 → 00:00:33 การตกปลาเนี่ยมันคนตาหยีเลยมาแบบเหมือนตา
00:00:33 → 00:00:36 จะปิดกันสองข้างในบางรายเนี่ยอาจจะเริ่ม
00:00:36 → 00:00:39 มาที่แขนขาในบางรายเนี่ยอาจจะโจมตีที่
00:00:39 → 00:00:43 ระบบหลอดอาหารคือลำบากหรือว่าเหนื่อยง่าย
00:00:43 → 00:00:46 นะครับจนถึงบางรายมีขั้นหายใจล้มเหลวเลย
00:00:46 → 00:00:46 ทีเดียว
00:00:46 → 00:00:48 [เพลง]
00:00:48 → 00:00:52 ฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคภัยฟังราย
00:00:52 → 00:00:55 การโรงหมอการดิฉันสุรีพรวงสถิตย์พรค่ะ
00:00:55 → 00:00:58 เอสช้อยอีเวีย
00:00:58 → 00:01:01 คุณผู้ฟังคะวันนี้เรามาติดตามกันสำหรับ
00:01:01 → 00:01:04 ที่เราจะคุยกันนะอาจจะเป็นเรื่องใกล้ตัว
00:01:04 → 00:01:06 อย่างนึงนะคะแต่ก็อาจจะไม่เคยได้ยิน
00:01:06 → 00:01:08 เรื่องนี้มาก่อนก็ได้กับเรื่องของต่อม
00:01:08 → 00:01:11 ไทมัสนะคะแล้วก็บวกกับเรื่องของเอ่อกล้าม
00:01:11 → 00:01:14 เนื้ออ่อนแรงหนังตาตกเอ้ยมันมาเกี่ยวข้อง
00:01:14 → 00:01:16 กันยังไงใน 3 คำนี้นะคะเดี๋ยววันนี้พูด
00:01:16 → 00:01:19 คุยกับผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์ศิระเรา
00:01:19 → 00:01:21 ขอไทยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญศยศาสตร์ทรวงอก
00:01:21 → 00:01:24 เฉพาะทางด้านโรคปอดวชิระพยาบาลค่ะสวัสดี
00:01:24 → 00:01:27 ค่ะคุณหมอคะสวัสดีครับอ่ามาคุยกันเรื่อง
00:01:27 → 00:01:31 นี้มันมีคำสามคำหนังตาตกกล้ามเนื้ออ่อน
00:01:31 → 00:01:35 แรงกับต่อมไทมัสมันมาเกี่ยวข้องยังไงอ่ะ
00:01:35 → 00:01:37 ถ้าอย่างกล้ามเนื้ออ่อนแรงหนังตาตกยังพอ
00:01:37 → 00:01:39 เข้าใจได้แต่ต่อมไทมัสต่อมไทมัสคืออะไร
00:01:39 → 00:01:43 อยู่ตรงไหนก็ต้องบอกก่อนเลยว่าเริ่มจาก
00:01:43 → 00:01:46 ปกติก่อนคือต่อมไทมัสนะครับนะมันอยู่ตรง
00:01:46 → 00:01:50 ไหนในร่างกายมันอยู่ข้างหน้าหัวใจข้าง
00:01:50 → 00:01:52 หน้าหัวใจข้างหน้าต่อหัวใจใต้กระดูกหน้า
00:01:52 → 00:01:54 อกเนี่ยเราคลำโลกข้างใต้กระโดดมีต่อม
00:01:54 → 00:01:55 ไทมัสทุกคน
00:01:55 → 00:01:59 นะเด็กๆมันจะเป็นตัวที่สร้างภูมิคุ้มกัน
00:01:59 → 00:02:02 ให้กับร่างกายแต่พอร่างกายเรามีพุงขึ้นมา
00:02:02 → 00:02:04 ถึงจุดนึงเนี่ยไอ้ตัวต่อพวกนี้ก็ไม่ค่อย
00:02:04 → 00:02:07 ได้ใช้แล้วมันก็จะกลายเป็นต่อมไขมันที่ปก
00:02:07 → 00:02:10 ป้องหัวใจอยู่ข้างหน้าบริเวณหัวใจฉะนั้น
00:02:10 → 00:02:13 เนี่ยทุกคนมีหมดทุกคนมีหมดนะฮะ
00:02:13 → 00:02:16 แล้วทีเนี้ยไอ้เจ้าตัวเนี้ยมันมันไปก่อ
00:02:16 → 00:02:19 เรื่องได้ยังไงนะครับก็ต้องมาคุยเลยว่า
00:02:19 → 00:02:21 ไอ้โรคกล้ามเท่านั้นแหละคืออะไร
00:02:21 → 00:02:24 โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเนี่ยไม่ใช่คนไข้ที่
00:02:24 → 00:02:28 เราได้เราพูดกำหนดแรงงานเฮ้ยเราเป็น
00:02:28 → 00:02:30 อัมพฤกษ์อัมพาตหรือเปล่าเฮ้ยมันถือกำเนิด
00:02:30 → 00:02:33 แล้วก็อ่อนแรงนะแต่นี่ไม่ใช่
00:02:33 → 00:02:37 อันนี้กำหนดแรงคือโดยปกติเนี่ย
00:02:37 → 00:02:40 อ่าร่างกายเราจะสั่งการมาทางสมองนะครับ
00:02:40 → 00:02:44 สั่งออกมาไปที่บริเวณเซลล์นะครับถ้าสมอง
00:02:44 → 00:02:45 ขาดเลือดเราก็จะเกิดกล้ามเนื้ออ่อนแรง
00:02:45 → 00:02:48 เช่นเดียวกันนะครับทีนี้สิ่งที่เกิดขึ้น
00:02:48 → 00:02:51 ก็คือร่างกายก็จะมีการอ่อนแรงข้างเดียว
00:02:51 → 00:02:53 แต่ว่าไอ้โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือที่เรา
00:02:53 → 00:02:57 พูดกลุ่มนี้เราจะเรียกว่ากลุ่ม mg mg
00:02:57 → 00:03:00 หรือว่าเป็นกลุ่ม Mass grania Massage
00:03:00 → 00:03:03 grayis พวกนี้มันคือเกิดจากสารระบบ
00:03:03 → 00:03:06 ประสาทนะครับจะมีตัวนึงอ่ะมันเป็น
00:03:06 → 00:03:11 ขวางไม่ให้ร่างกายเราทำงานได้ปกตินะครับ
00:03:11 → 00:03:14 มันเป็นบล็อคสารสื่อประสาท
00:03:14 → 00:03:16 เขาพบว่าคนไข้เนี่ย
00:03:16 → 00:03:20 กลุ่มเหล่านี้เนี่ยนะครับที่เป็นเนี่ย
00:03:20 → 00:03:23 มันไปเจอว่าตัวต่อมไทมัสเป็นตัวกระตุ้น
00:03:23 → 00:03:27 ที่ไปบล็อกสารสื่อประสาทให้เราร่างกายเรา
00:03:27 → 00:03:29 ทำงานไม่ได้แต่ว่ามันสอบไปแล้วไม่ใช่หรอ
00:03:29 → 00:03:33 คะใช่แต่มันยังสร้างเรื่องอยู่ไม่ใช่ว่า
00:03:33 → 00:03:35 ทุกคนเป็นนะแต่เขาบอกว่าคนไข้ที่เป็นโรค
00:03:35 → 00:03:38 กลุ่มนี้พบว่ามันจะไอ้เจ้าตัวปัญหานี่
00:03:38 → 00:03:40 แหละนะครับเจ้าตัวต่อมไทมัส
00:03:40 → 00:03:43 ฉะนั้นเนี่ยอาการของคนไข้เนี่ยก็จะค่อน
00:03:43 → 00:03:46 ข้างที่จะน่าสนใจมากๆนะครับข้อที่ 1 พอ
00:03:46 → 00:03:49 มันเป็นเรื่องสารสื่อประสาทนะครับมันก็
00:03:49 → 00:03:52 เลยต้องเป็นส่วนมากก็คือเป็นทั้ง 2 ข้าง
00:03:52 → 00:03:55 มันไม่เป็นครั้งเดียว
00:03:55 → 00:03:58 แล้วทำไมไปเป็นที่หนังตาเหรอ
00:03:58 → 00:03:59 ก็เพราะว่า
00:03:59 → 00:04:02 มันเป็นกล้ามเนื้อย่อยที่เราใช้งานหนัก
00:04:02 → 00:04:05 ที่สุดในร่างกาย
00:04:05 → 00:04:07 กระพริบตา
00:04:07 → 00:04:10 มันเลยใช้งานบ่อยงั้นไม่กระพริบตาบ่อยก็
00:04:10 → 00:04:13 ได้
00:04:13 → 00:04:16 ที่ใช้งานหนักที่สุดฉะนั้นมันก็เลยไปออก
00:04:16 → 00:04:18 ฤทธิ์ที่ตาก่อน
00:04:18 → 00:04:24 ใช่ไม่ใช่แบบ 80 ปีหนังตาตกมานะครับหรือ
00:04:24 → 00:04:28 ว่าหรือว่า 78 70 ปีขึ้นไปหนังตาตกเกิด
00:04:28 → 00:04:30 จากหนังอันนี้ไม่ใช่อันนี้คือเกิดจาก
00:04:30 → 00:04:33 กล้ามเนื้ออ่อนแรงอ้าวเอาทีนี้มันต้องมา
00:04:33 → 00:04:35 แยกแล้วแหละว่ามันเกิดจากความที่เราอายุ
00:04:36 → 00:04:39 มากขึ้นหนังตาตกเพราะว่าเคยไปหาคุณหมอตา
00:04:39 → 00:04:42 มันเมื่อก่อนก็ห่างตาตกไม่รู้วันเดียวกัน
00:04:42 → 00:04:45 หรือเปล่านะแต่หางตาตกแล้วก็เขาก็บอกว่า
00:04:45 → 00:04:48 ถ้ายังปล่อยไว้เนี่ยอนาคตมันก็อาจจะทำให้
00:04:48 → 00:04:51 การมองเห็นของเรามีปัญหาได้ก็เข้าใจว่า
00:04:51 → 00:04:54 เป็นเรื่องของเอ่อภาวะความอ้วนด้วยแหละ
00:04:54 → 00:04:58 ส่วนนึงกะอายุมากขึ้นนี่แหละก็แต่ว่ามัน
00:04:58 → 00:05:04 จะภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงจากสิ่งที่ต้องดู
00:05:04 → 00:05:06 ก่อนเลยว่าเอ๊ะมันเป็นจากกล้ามนอนแรงหรือ
00:05:06 → 00:05:09 ว่าเป็นจากอายุมันต้องแยกให้ก่อน
00:05:09 → 00:05:13 วิธีการหลักการดูง่ายๆว่าเราจะเป็นแยกได้
00:05:13 → 00:05:17 ยังไงคือ 1 ในกลุ่มคนไข้พูดง่ายๆคืออายุ
00:05:17 → 00:05:19 น้อยๆส่วนมากโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงนะครับ
00:05:19 → 00:05:20 มักจะเป็นในผู้หญิง
00:05:20 → 00:05:25 อายุน้อย 20 30 หรือ 30 40 ฉะนั้นอัน
00:05:25 → 00:05:28 นี้ตัดเลยอายุคงไม่หนังหย่อนตอนอายุ 23
00:05:28 → 00:05:29 ปีอันนั้นก็เกินไป
00:05:29 → 00:05:33 2 มักเป็น 2 ข้าง
00:05:33 → 00:05:38 3 ที่น่าสนใจที่สุดคือมักเป็นตอนบ่าย
00:05:38 → 00:05:40 กินอิ่มง่วงมาก
00:05:40 → 00:05:43 แต่จริงๆแล้วเนี่ยเหตุผลนะว่าทำไมถึง
00:05:43 → 00:05:47 เพราะว่าแต่เราตื่นเช้ามาร่างกายเราก็พอ
00:05:47 → 00:05:49 เราหลับตาสนิทถูกไหมพอตื่นฉันมาปุ๊บเรามี
00:05:49 → 00:05:52 ศาลที่แบบพร้อมที่จะทำงานได้เต็มไปหมดเลย
00:05:52 → 00:05:56 ปรากฏพอเรากระพริบตาใช้สารกันไปหมดปุ๊บ
00:05:56 → 00:05:59 พอตกช่วงบ่ายปุ๊บสิ่งที่เกิดขึ้นคือศาลนะ
00:05:59 → 00:06:01 มันใช้เต็มที่เวลา
00:06:01 → 00:06:03 แล้วมันโดนบล็อกไปเรียบร้อยแล้วมันหมด
00:06:03 → 00:06:06 โควต้าแล้วการมันก็เลยทำให้เริ่มเกิดตอน
00:06:06 → 00:06:11 บ่าย
00:06:11 → 00:06:13 ฉะนั้นเนี่ยผู้ป่วยเนี่ยก็จะเริ่มแบบ
00:06:13 → 00:06:17 เริ่มมีหนังตาล้านะครับเริ่มมีหนังตาตก
00:06:17 → 00:06:20 ตายเหมือนคนตาหยีเลยมาแบบเหมือนตาจะปิด
00:06:20 → 00:06:27 กันสองข้างไม่ใช่ง่วงนะแต่ลืมตาไม่ขึ้น
00:06:27 → 00:06:29 อันที่ 2
00:06:29 → 00:06:32 ในบางรายเนี่ยไอ้ตัวกำหนดแรงที่มันเริ่ม
00:06:32 → 00:06:36 เป็นมากขึ้นน่ะอาจจะนอกจากตัวตาเนี่ยอาจ
00:06:36 → 00:06:38 จะเริ่มมาที่แขนขา
00:06:38 → 00:06:43 ก็คือเริ่มปวดนะครับเริ่มเมื่อยเริ่มเดิน
00:06:43 → 00:06:46 ขึ้นบันไดไม่ไหวในบางรายเนี่ยอาจจะโจมตี
00:06:46 → 00:06:49 ที่ระบบหลอดอาหารคือกลืนลำบากหรือว่า
00:06:49 → 00:06:52 เหนื่อยง่ายนะครับจนถึงบางรายมีขั้นหายใจ
00:06:52 → 00:06:53 ล้มเหลวเลยทีเดียว
00:06:54 → 00:06:56 เอ้ยไม่ใช่เรื่องเล็กแล้วเนี่ยสร้าง
00:06:56 → 00:06:58 เรื่องได้ใหญ่มากเลยแต่ทีนี้เราจะรู้ได้
00:06:58 → 00:07:02 อย่างไรว่าเราเป็นโรคนี้พวกนี้มันมีวิธี
00:07:02 → 00:07:04 การตรวจอยู่ครับเช่นง่ายที่สุดคือการเจาะ
00:07:04 → 00:07:12 เลือดเขาจะได้ค่าเรื่องว่า
00:07:12 → 00:07:14 แสดงว่า
00:07:14 → 00:07:18 เราเป็นโรคนี้แล้วมันสามารถบอกผลได้เลย
00:07:18 → 00:07:21 จากแค่เลือดของเรา
00:07:21 → 00:07:25 แต่บางรายนะครับที่เรา
00:07:25 → 00:07:28 ไม่เจอค่าเลือดขึ้นมันก็จะมีวิธีการตรวจ
00:07:28 → 00:07:30 ร่างกายหลายๆอย่างครับแต่ว่าวิธีการ
00:07:30 → 00:07:33 สังเกตในเกมอาการง่ายๆก็คือเช่นหนึ่งเป็น
00:07:33 → 00:07:36 สองข้างไหมตาปิดกันไหมมีพวกนี้มันจะไม่
00:07:36 → 00:07:40 ใช่แค่มันแบบหนังตาปิดนะคุณเนี่ยจะมาด้วย
00:07:40 → 00:07:44 ภาพซ้อนนะครับภาพมัวแล้วก็มักเป็นในช่วง
00:07:44 → 00:07:46 บ่ายเพราะว่าเราเป็นร่างกายมันทำงานที่
00:07:46 → 00:07:49 ศาลสื่อประสาทหมดละที่แต่มันโดนบล็อกแล้ว
00:07:49 → 00:07:51 คนไข้ก็จะเริ่มมีอาการนอนช่วงบ่ายถ้าเรา
00:07:51 → 00:07:54 มีอาการดังกล่าวต่อไปนี้สิ่งที่คุณจะต้อง
00:07:54 → 00:07:58 ไปพบคือ 1 อาจจะต้องไปพบ
00:07:58 → 00:08:02 จะพบแพทย์หรืออายุและแพทย์ทางด้านอารมณ์
00:08:02 → 00:08:06 ภาษาเขาจะเป็นคนตรวจหรือมีนิสัยได้ว่า
00:08:06 → 00:08:09 เอ้ยคุณเป็นโรคการนอนแรงจริงหรือเปล่านะ
00:08:09 → 00:08:09 ครับ
00:08:09 → 00:08:14 คือถามอันนี้ย้อนไปนิดนึงว่าพอตอนช่วง
00:08:14 → 00:08:16 บ่ายหนังตาตกไปแล้ว
00:08:16 → 00:08:20 เรากลับบ้านไปอ่ะเช้าวันใหม่ขึ้นมาก็ปกติ
00:08:20 → 00:08:23 แล้วก็มาตกตอนบ่ายอีกใช่
00:08:23 → 00:08:26 แต่ว่ามันจะกลับกันในกลุ่มของใครที่หนัง
00:08:26 → 00:08:29 ย้วยหนังย้วยตลอด
00:08:29 → 00:08:33 แล้วเวลากล้ามเนื้ออ่อนแรงหนังตาตกเนี่ย
00:08:33 → 00:08:37 มันตกแบบเฉียงหรือมันตกมาแบบตกเลยตก
00:08:37 → 00:08:40 เหมือนคนตาหยีเลยปิดตาเลย
00:08:40 → 00:08:43 เหมือนเราแบบหรี่ตามองแบบกำลังงัวเงีย
00:08:43 → 00:08:45 หรือตามองอย่างนั้นเลยแต่ลืมไม่ขึ้นคือ
00:08:45 → 00:08:47 มันเหมือนกับว่าเราก็เราก็จะประเมินตัว
00:08:47 → 00:08:49 เองในเบื้องต้นว่า
00:08:49 → 00:08:53 อิ่มง่วงนอนปกติตอนบ่ายใช่ไหม 2 คือ
00:08:53 → 00:08:57 ภาพที่มองไม่ชัดพร่ามัวอะไรพวกนี้มันก็
00:08:57 → 00:08:59 เป็นผลจากการที่เราใช้หน้าจอคอมพิวเตอร์
00:08:59 → 00:09:02 อันนี้สมัยนี้เยอะก็เลยทำให้เวลามองหรือ
00:09:02 → 00:09:04 อะไรอย่างนี้มันอาจจะไม่ชัดเราไม่ได้คิด
00:09:04 → 00:09:07 ถึงเรื่องของกล้ามเนื้ออ่อนแรงเลยนะนึก
00:09:07 → 00:09:09 ถึงแว่นตาอย่างเดียวเลย
00:09:09 → 00:09:12 ฉะนั้นพอฟังวันนี้เราต้องนึกแล้ว
00:09:12 → 00:09:15 มันเป็นหรือเปล่านะไม่น่าเชื่อเลยอ่ะมัน
00:09:15 → 00:09:18 แปลกมากอ่ะอืมจริงๆก็เป็นโรคที่เจอได้
00:09:18 → 00:09:21 บ่อยนะครับโดยเฉพาะผู้หญิงอย่างที่ผมแจ้ง
00:09:21 → 00:09:25 ไปสาวๆนี่แหละโอ้มากันเต็มเลยทำไมต้องผู้
00:09:25 → 00:09:27 หญิงอย่างเดียวมาผู้ชายไม่มันจะเจอมัน
00:09:27 → 00:09:30 เป็นอุบัติการณ์แต่ผู้ชายก็เจอได้นะครับ
00:09:30 → 00:09:32 แต่ว่าผู้หญิงจะเจอบ่อยกว่า
00:09:32 → 00:09:35 ฟังดูแล้วมันเสียเปรียบเลยแต่ผู้ชายก็ยัง
00:09:35 → 00:09:37 เป็นโรคอื่นมากกว่าไม่ต้องเสียเปรียบไป
00:09:37 → 00:09:39 ไปคนละโลก
00:09:39 → 00:09:43 อ๋อก็คืออันนี้คือจุดสังเกตละตอนเช้าก็
00:09:43 → 00:09:46 ปักตินี่นาแต่ตอนบ่ายนี้ต้องเอากระจกมา
00:09:46 → 00:09:49 ตั้งอยู่บนโต๊ะทำงานแล้วว่าแบบเฮ้ยมันตา
00:09:49 → 00:09:52 หยีหรือเปล่าหรืออะไรอย่างนี้เป็นบ่อยๆ
00:09:52 → 00:09:55 นานๆเข้าถ้าเราไม่ทำอะไรเลยมันจะส่งผล
00:09:55 → 00:10:00 อะไรไหมก็ไม่ดีขึ้นก็จะอ่อนแรงภาพซ้อนภาพ
00:10:00 → 00:10:03 มัวอย่างนี้จะบอกไปบางรายก็เป็นกำหนดแรง
00:10:03 → 00:10:07 ทำงานไม่ได้เหนื่อยตลอดเวลามันก็น่าจะ
00:10:07 → 00:10:11 รำคาญเนาะรำคาญ
00:10:11 → 00:10:14 เพราะฉะนั้นก็ต้องไปพบจากสุขภาพใช่ไหมคะ
00:10:14 → 00:10:16 กับหมอ
00:10:16 → 00:10:21 อายุรกรรมที่เป็นระบบประสาทตอนที่ตรวจ
00:10:21 → 00:10:25 เนี่ยใช้เลือดตรวจอย่างบางคนตรวจสุขภาพ
00:10:25 → 00:10:28 ประจำปีมีสิทธิ์ในการรักษาเรือนอย่างนี้
00:10:28 → 00:10:30 ตรวจเลือดเขาก็เจาะเลือดเราไปตรวจเนี่ย
00:10:30 → 00:10:33 มันมีผลแสดงอยู่ในใบ
00:10:33 → 00:10:36 เป็นห้องแบบพิเศษฉะนั้นไม่ใช่ทุกที่จะ
00:10:36 → 00:10:38 ตรวจได้
00:10:38 → 00:10:40 อื้มต้องไปโรงพยาบาลใครล่ะใหญ่
00:10:40 → 00:10:42 เหรียญที่ 2 ก็คืออาจจะต้องตัวมันจะมี
00:10:42 → 00:10:45 วิธีการวัดทางเส้นประสาทนะครับว่าจะเป็น
00:10:45 → 00:10:47 โรคนี้จริงๆหรือเปล่าอันนี้ก็จะเป็น
00:10:47 → 00:10:49 เครื่องมืออีกเครื่องนึงซึ่งก็จะมักจะ
00:10:49 → 00:10:52 อยู่ในโรงพยาบาลขณะใหญ่นะครับฉะนั้นถ้าไป
00:10:52 → 00:10:55 โรงพยาบาลเล็กๆก็อาจจะอาจจะไม่มีต้องส่ง
00:10:55 → 00:10:59 อ่าก็แสดงว่าต้องเฉพาะเจาะจงไปในเรื่อง
00:10:59 → 00:11:02 นี้ถูกต้องครับแล้วก็อย่างที่คุณหมอตาก็
00:11:02 → 00:11:05 จะบอกได้ชัดเจนว่ามันเป็นกล้ามเนื้ออ่อน
00:11:05 → 00:11:07 แรงหรือเปล่าหรือเป็นเรื่องของสายตาที่
00:11:07 → 00:11:11 เราใช้มันเยอะถูกต้องครับถูกต้องก็จะแยก
00:11:11 → 00:11:13 ให้เลยใช่ไหมคะ
00:11:13 → 00:11:16 ต้องไปหาหมออายุรกรรมด้วยหรอเพราะว่าใน
00:11:16 → 00:11:18 บางรายเนี่ยเขาเริ่มมีอาการรุนแรงมากขึ้น
00:11:18 → 00:11:21 ก็คือเป็นกล้ามเนื้ออ่อนแรง
00:11:21 → 00:11:23 ถ้าสมมุติเป็นแค่ตานะครับอันนี้อาจจะเจอ
00:11:23 → 00:11:26 พวกหมอตาได้ครับแต่เราไม่ได้ก็ตามมากขึ้น
00:11:26 → 00:11:28 นะอาจจะต้องไปพบหมอระบบประสาทร่วมด้วย
00:11:28 → 00:11:31 เมื่อกี้ที่คุณหมอบอกว่าอะไรนะตรง
00:11:31 → 00:11:34 กล้ามเนื้อน่องหรอเอ้ยไม่ใช่สิที่นอก
00:11:34 → 00:11:36 เหนือจากตา
00:11:36 → 00:11:38 ต้นแขนต้นขา
00:11:38 → 00:11:42 มันยังไงอ่ะมันจะเป็นยังไงมันหย่อนหรอ
00:11:42 → 00:11:44 เมื่อย
00:11:44 → 00:11:46 เดินขึ้นบันไดลำบากเดินลากพอไหวจะเดิน
00:11:46 → 00:11:49 ขึ้นบันไดแล้วมันใช้ตัวกล้ามเนื้อมัด
00:11:49 → 00:11:54 บริเวณตรงต้นขาเยอะมันก็จะเดินไม่ค่อยไหว
00:11:54 → 00:11:57 ถ้าจะสังเกตตัวเองก็ตรงจุดนี้แหละจากเดิม
00:11:57 → 00:12:02 ที่เคยเดินขึ้นเดินลงได้ปกติวันนึง
00:12:02 → 00:12:04 แล้วมันจ่ายทำให้
00:12:04 → 00:12:09 เดินไม่ได้เลยไหมอ่ะในบางราย
00:12:09 → 00:12:12 ก็จะมีอาการเหนื่อยมากเดินไม่ไหวแม่จะ
00:12:12 → 00:12:15 อายุไม่มาก 20 30 40 ประมาณนี้บางคนหาย
00:12:15 → 00:12:17 ใจไม่ได้ด้วย
00:12:17 → 00:12:21 อะไรนะหายใจหายใจไม่ได้เองไม่ได้ต้องใส่
00:12:21 → 00:12:24 ใจที่มีภาวะนึงที่เรียกว่าภาวะ mg crisis
00:12:24 → 00:12:28 ก็คือภาวะอ่อนแรงจากพลันพวกนี้เนี่ยถึง
00:12:28 → 00:12:31 ขั้นที่หายใจหดหายใจล้มเหลวเลยต้องใส่ท่อ
00:12:31 → 00:12:34 ช่วยหายใจแล้วก็ต้องให้ยาต้านนะครับเป็น
00:12:34 → 00:12:38 ยา ivg กดภูมิพวกนี้อย่ากดภูมินะครับแล้ว
00:12:38 → 00:12:41 ก็ต้องปรับยาพวกนี้แหละคือหนักสุดๆเลยมัน
00:12:41 → 00:12:44 อยู่ๆก็เป็นฉับพลันได้ด้วยหรอใช่ครับเป็น
00:12:44 → 00:12:45 ได้
00:12:45 → 00:12:49 หมายความว่าอยู่ๆฉันก็แบบต้องไปนอนอยู่ใน
00:12:49 → 00:12:50 โรงพยาบาล
00:12:50 → 00:12:53 ใช่ถูกต้องอ้าวแล้วตัวเองจะเอาตัวเองมัน
00:12:53 → 00:12:58 เกิดขึ้นจากพันจะเอาตัวเองไปยังไงโอ๊ย
00:12:58 → 00:12:59 [เพลง]
00:12:59 → 00:13:00 เจอได้
00:13:00 → 00:13:03 หรอใช่ซึ่งพรุ่งนี้แหละเป็นสิ่งที่เราเรา
00:13:03 → 00:13:08 ต้องอย่าปล่อยให้ให้ร่างกายเราเป็นหนัก
00:13:08 → 00:13:10 แล้วค่อยไปโรงพยาบาลต้องมาดูแลตัวเองก็
00:13:10 → 00:13:13 มันมีเจ้าตัวปัญหาอยู่ไม่ใช่หรอที่บอกว่า
00:13:13 → 00:13:16 มันน่าจะเกิดจากต่อมไทมัสที่ว่ามันฝ่อ
00:13:16 → 00:13:20 เป็นไขมันไปแล้วแต่ว่าก็คือต้นเรื่องเอา
00:13:20 → 00:13:21 มันออกเลยได้ไหมอ่ะ
00:13:21 → 00:13:24 จริงๆแล้วก็เราก็มันก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะ
00:13:24 → 00:13:27 ไม่เกาะเรื่องได้ฉะนั้นมันก็ตามที่เรามี
00:13:27 → 00:13:30 อาการเหล่านี้เกิดขึ้นนะครับเรื่องกล้อง
00:13:30 → 00:13:32 และแรงและจะแนะนำว่าควรจะต้องเอาต่อม
00:13:32 → 00:13:34 ไทมัสเจ้าปัญหานี้อ๋อ
00:13:34 → 00:13:36 หรือบางรายเจ้าต่อมไทมัสอาจจะมีเนื้องอก
00:13:36 → 00:13:39 ร่วมด้วยได้เขาพบว่าในกลุ่มคนไข้กลุ่ม
00:13:39 → 00:13:41 เนี้ยจะเจอเนื้องอกร่วมกันได้พวกนี้ก็จะ
00:13:41 → 00:13:45 แนะนำว่าเอาออกให้หมดนะครับก็คือบางทีอาจ
00:13:45 → 00:13:48 จะไม่ได้จากไทยมาอย่างเดียวแต่ว่ามันเป็น
00:13:48 → 00:13:51 เนื้องอกที่มันอยู่ในไทมัสอีกทีนึง
00:13:51 → 00:13:55 ก็ตัดได้ครับโดยวิธีการผ่าตัดเนี่ยก็บอก
00:13:55 → 00:13:57 แล้วเลยว่าไม่มีผลอะไรเพราะว่ามันไม่ได้
00:13:57 → 00:13:59 ใช้งานอยู่แล้วมันอยู่ใกล้หัวใจนะมันอยู่
00:13:59 → 00:14:02 ข้างหน้าหัวใจเรานะใช่แต่มันไม่ได้ทำ
00:14:02 → 00:14:07 ฟังก์ชันอะไรเลยฉะนั้นเราสามารถตัดมันได้
00:14:07 → 00:14:10 แล้วแต่คนหัวใจ 1 กำปั้นมือเรา
00:14:10 → 00:14:15 เป็นแผ่นบางๆที่คุมอยู่หน้าหัวใจ
00:14:15 → 00:14:18 ก็ประมาณสัก 10 cm 10% คือจริงๆเขามี
00:14:18 → 00:14:20 ประโยชน์ใช่ไหม
00:14:20 → 00:14:24 สมัยก่อนปัจจุบันก็อาจจะในแง่ที่ว่าปก
00:14:24 → 00:14:36 ป้องหัวใจ
00:14:36 → 00:14:40 จริงๆตัดไปเลยได้ไหมถ้างั้นน่ะ
00:14:40 → 00:14:42 แต่ว่าถ้ามีอาการนะถ้าไม่มีอาการก็ไม่
00:14:42 → 00:14:44 ต้องไปตัดเนาะ
00:14:44 → 00:14:46 [เพลง]
00:14:46 → 00:14:50 อย่างนี้ก็คือเอาออกได้เลยแค่นั้นแล้วก็
00:14:50 → 00:14:53 ไม่มีอะไรก็จบไปใช่แต่ว่าเอาออกเนี่ยมัน
00:14:53 → 00:14:55 ก็จะมี 2 วิธี
00:14:55 → 00:14:57 สมัยก่อนเนี่ยมันต้องเนื่องจากมันอยู่
00:14:57 → 00:15:00 หน้าหัวใจถูกไหมกระโดดนอกมันขวางก็ต้องทำ
00:15:00 → 00:15:04 ไงเลิกกระดูกหน้าออก
00:15:04 → 00:15:06 ก่อนออก
00:15:06 → 00:15:08 นะครับแต่ว่าปัจจุบันเนี่ยวิธีการรักษา
00:15:08 → 00:15:10 ที่บทบาทกับส่องกล้องเข้ามาเนี่ยมัน
00:15:10 → 00:15:12 สามารถผ่าตัดส่องกล้องได้แล้วก็แอบดูข้าง
00:15:12 → 00:15:15 ๆผ่าตัดตรงช่องซี่โครงแล้วก็มองไปใต้
00:15:15 → 00:15:56 กระโดดแล้วก็เอาตัวต่อต่อให้หมดก็ทำได้
00:15:56 → 00:15:58 แต่ว่าต้องบอกเลยว่าปัจจุบันการผ่าตัด
00:15:58 → 00:16:00 แล้วเมื่อเปรียบเทียบกับการผ่าตัดเปิด
00:16:00 → 00:16:03 หลายๆคนก็ยังยังสงสัยกันว่าเอ้ยผ่าตัด
00:16:03 → 00:16:05 ส่องกล้องจะเอาหมดหรือเปล่าต้องบอกเรา
00:16:05 → 00:16:08 จริงๆแล้วการผ่าตัดมันพัฒนาไปมากการ
00:16:08 → 00:16:11 บัญญัติเปิดกัมมัดส่องกล้องเนี่ยมีผลเท่า
00:16:11 → 00:16:14 เทียมกันโดยที่ลดภาวะแทรกซ้อนได้ดีกว่าใน
00:16:14 → 00:16:16 มือของคนที่ผ่าตัดส่องกล้องได้
00:16:16 → 00:16:20 ฉะนั้นผู้ป่วยหลายๆคนเนี่ยก็ยังอ่าไปโดน
00:16:20 → 00:16:22 กามผ่าตัดเปิดเยอะอยู่เพราะเรื่องความ
00:16:22 → 00:16:25 ความเสพติดฉะนั้นก็ถ้าเรามีโอกาสเราได้
00:16:25 → 00:16:27 รู้จักมันก็บอกว่าจริงๆแล้วการผ่าตัดส่อง
00:16:27 → 00:16:29 กล้องนั้นมันไม่น่ากลัวอีกต่อไปแล้วผู้
00:16:29 → 00:16:31 ป่วยที่กำลังจะตัดสินใจเรื่องการผ่าตัด
00:16:31 → 00:16:34 เรื่องอะไรก็ตามผมก็แนะนำว่าเฮ้ยเข้ามา
00:16:34 → 00:16:37 ปรึกษาว่ามันทำได้จริงๆหรือเปล่าไม่ว่า
00:16:37 → 00:16:40 ค่าใช้จ่ายมันค่อนข้างสูงมันก็ไม่ต่างกัน
00:16:40 → 00:16:42 มากเดี๋ยวนี้เรามีสิทธิ์เยอะแยะสิทธิ์ 30
00:16:42 → 00:16:45 บาทสิทธิ์ประกันสังคมนะครับสิทธิ์ข้า
00:16:45 → 00:16:48 ราชการทุกอย่างเนี่ย 10 เนี่ยมันเบิกได้
00:16:48 → 00:16:51 เกือบ 80-90% แล้ว
00:16:51 → 00:16:53 นะครับที่เหลืออาจจะเป็นส่วนต่างที่แต่ละ
00:16:53 → 00:16:56 10 อาจจะเบิกไม่ได้แต่อะไรก็ตามผมคิดว่า
00:16:56 → 00:16:59 ก็เข้ามาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนผม
00:16:59 → 00:17:01 ว่าทุกอย่างมันมีทางออกหมดนะครับแล้วพอ
00:17:01 → 00:17:04 เอาไม่ใช่เยอะต่อมไทมัสตัวนี้ออกไปปุ๊บ
00:17:04 → 00:17:05 เนี่ย
00:17:05 → 00:17:08 อาการต่างๆที่ว่า
00:17:08 → 00:17:11 มันดีขึ้นไหมหรือมันค่อยๆดีขึ้นแล้วมันก็
00:17:11 → 00:17:15 ปกติ
00:17:15 → 00:17:17 ว่าโดยรวมหลังจากผ่าตัด 80 กว่า
00:17:17 → 00:17:19 เปอร์เซ็นต์ดีขึ้นนะแต่ไม่ใช่ผ่าตัดปุ๊บ
00:17:19 → 00:17:23 ฉันกลายเป็นคนใหม่เลยวิ่งฉิวปุ๊บๆๆๆไม่
00:17:23 → 00:17:26 ใช่ไม่ขนาดนั้นมันอาจจะค่อยๆดีขึ้นครับใน
00:17:26 → 00:17:28 บางรายอาจจะเป็นอย่างนั้นจริงๆแต่ในบาง
00:17:28 → 00:17:32 รายนะครับเอ่อใช้เวลาประมาณปีนึงนะครับ
00:17:33 → 00:17:36 เนาะกว่าจะออโต้ผมมีคนไข้คนนึงนะครับเขา
00:17:36 → 00:17:39 เล่าให้ฟังว่าก่อนเขาจะมาเนี่ยเขาอ่อนแรง
00:17:39 → 00:17:41 แบบฉับพลันล้มเหลว
00:17:41 → 00:17:45 เฉียบพลันแล้วล้มเหลวคือมาปุ๊บเหนื่อยใส่
00:17:45 → 00:17:48 ท่อส่วนใหญ่เลยแล้วก็กินถ่ายอยู่บนเตียง
00:17:48 → 00:17:50 เป็นเวลาเดือนสองเดือน
00:17:51 → 00:17:53 คือขยับไม่ได้เลยจนต้องปรับยานิ่ง
00:17:53 → 00:17:56 เขาก็เลยส่งมาให้ผ่าตัดนะครับหลังผ่าตัด
00:17:56 → 00:17:58 ไปเนี่ยแกก็แข็งแรง
00:17:58 → 00:18:01 ก็ไปวิ่งมาราธอน
00:18:01 → 00:18:03 ผมก็ตกใจเหมือนกัน
00:18:03 → 00:18:07 ขนาดนั้นเลยเหรออะไรเนี่ยแกก็บอกใช่คุณ
00:18:07 → 00:18:11 เปลี่ยนชีวิตผมตอนนี้ท่องเที่ยววิ่งตามศพ
00:18:11 → 00:18:14 คือเขาวิ่งแบบระยะสั้นสุดนะแต่ไม่ได้เร็ว
00:18:14 → 00:18:17 มากไม่ได้คว้าแชมป์แต่เขาก็วิ่งจนจบ
00:18:17 → 00:18:22 แต่ผมอาจจะวิ่งไม่จบเพราะว่าเพราะว่าเขา
00:18:22 → 00:18:25 ค่อนข้างที่จะแข็งแรงฉะนั้นจะบอกว่าจริงๆ
00:18:25 → 00:18:26 แล้วการผ่าตัดก็เข้ามามีบทบาทในกลุ่มนี้
00:18:26 → 00:18:30 ค่อนข้างมากฉะนั้นในกลุ่มคนไข้ที่เป็นโรค
00:18:30 → 00:18:33 กลุ่มนี้หรือว่าจริงๆเราเช็คอัพเจอก้อนจะ
00:18:33 → 00:18:35 เป็นเนื้องอกต่อมไทมัสไม่ต้องกังวลเดี๋ยว
00:18:35 → 00:18:37 นี้เนี่ยการผ่าตัดค่อนข้างที่เข้ามามีบท
00:18:37 → 00:18:41 บาทนะครับแล้วก็กลับบ้านได้เร็วมากไม่
00:18:41 → 00:18:43 ต้องกังวลว่าเจ้าต่อมนี้ฉันจะหายใจไม่ฉัน
00:18:43 → 00:18:45 จะทำอะไรพวกนี้ไม่มีประโยชน์เราตัดได้
00:18:45 → 00:18:48 แล้วแหละคือคุณหมอบอกว่ามันอยู่ข้างหน้า
00:18:48 → 00:18:51 หัวใจเราอ่ะมันก็กังวลแล้วแหละหัวใจนะมัน
00:18:51 → 00:18:54 ไม่ได้แบบเอ้ออยู่ตรงกระเพาะมันยังพอไอ้
00:18:54 → 00:18:58 นี่เออเบาๆได้แต่แบบหัวใจหัวใจสูบฉีด
00:18:58 → 00:19:01 เลือดแสดงว่าถ้าเกิดว่าไม่ได้มีอาการอะไร
00:19:01 → 00:19:06 ปกติอย่างเราๆก็ปล่อยมันไปใช่ถูกต้องแต่
00:19:06 → 00:19:08 วันใดวันหนึ่งวันดีคืนร้ายมันอาจจะมี
00:19:09 → 00:19:11 เนื้องอกระงอกก็ได้นะใช่มั้ย
00:19:11 → 00:19:15 พวกนี้คือคงต้องผ่าตัดนะครับมันมีปัจจัย
00:19:15 → 00:19:17 อย่างอื่นที่ทำให้กระตุ้นเกิดการ
00:19:17 → 00:19:20 กล้ามเนื้ออ่อนแรงขึ้นมาได้ไหม
00:19:20 → 00:19:23 ต้องบอกตรงๆว่าไม่
00:19:23 → 00:19:26 ไม่มีไม่ค่อยมีความเสี่ยง
00:19:26 → 00:19:29 มันก็จะพร้อมบุคคลมากเลยนะซึ่งบอกไม่ได้
00:19:29 → 00:19:33 อีกว่าใครจะเป็นจะเร็วแล้วแต่ดวงก็พูดยาก
00:19:33 → 00:19:36 อีกแต่ก็เป็นประมาณนั้นนะครับแต่ว่าอย่าง
00:19:36 → 00:19:40 นั้นเราก็รู้แล้วว่าถ้าเราเป็นจริงเราควร
00:19:40 → 00:19:42 จะต้องทำอย่างไรต่อคนจะต้องตรวจเช็คร่าง
00:19:42 → 00:19:46 กายยังไงควรจะต้องแต่ทางการรักษาควรจะ
00:19:46 → 00:19:50 เป็นยังไงและสุดท้ายเราต้องได้รับการ
00:19:50 → 00:19:53 วินิจฉัยยังไงนะครับผมว่าถ้าเรารู้เราก็
00:19:53 → 00:19:54 สามารถแก้ปัญหาได้ก็กลับมาใช้ชีวิตปกติ
00:19:54 → 00:19:58 ได้เร็วนะครับแต่จริงๆเท่าที่ฟังคุณหมอมา
00:19:58 → 00:20:01 เนี่ยคือด้วยความที่อันนี้เราตอนแรกๆอ่ะ
00:20:01 → 00:20:03 เราอาจจะไม่ได้คิดว่ามันเป็นเรื่องของ
00:20:03 → 00:20:06 ต่อมไทม์จากต่อมไทมัสหรือการมีเนื้องอก
00:20:06 → 00:20:08 อยู่ในนั้นอะไรอย่างนี้เราอาจจะคิดว่า
00:20:08 → 00:20:11 เอ้ยกล้ามเนื้ออะไรไปหาคุณหมอจากแพทย์
00:20:11 → 00:20:14 อย่างเงี้ยเอ่ออายุรกรรมหรืออะไรเงี้ยมัน
00:20:14 → 00:20:16 ก็ทำให้เราได้เช็คอัพหลายๆอย่างนะทีละ
00:20:16 → 00:20:19 ส่วนว่าอ้อไม่ได้เกี่ยวกับตานะมันเป็น
00:20:19 → 00:20:21 เรื่องของกล้ามเนื้ออ่อนแรงจริงๆไม่ได้
00:20:21 → 00:20:25 เกี่ยวกับอายุเยอะไขมันใต้ตาเยอะหรืออะไร
00:20:25 → 00:20:27 อย่างนี้มันก็ทำให้เราไปหาหมอที่ถูกต้อง
00:20:27 → 00:20:32 อ่ะเป็นแบบเวลาส่วนทีละส่วนอะเนาะใช่ครับ
00:20:32 → 00:20:35 เป็นกันเยอะไหมอ่ะจริงๆแล้วพวกนี้เนี่ย
00:20:36 → 00:20:40 เจอได้บ่อยนะครับแล้วก็อัตราส่วนเนี่ยผม
00:20:40 → 00:20:42 คิดว่าก็มีพอสมควรเลยแต่อาจจะไม่ได้บ่อย
00:20:42 → 00:20:47 มากนะครับแต่บางคนเนี่ยคนที่มีอาการพวกตา
00:20:47 → 00:20:51 เหล่นะครับภาพมัวพวกนี้ก็เป็นอีกกลุ่มโลก
00:20:51 → 00:20:54 หนึ่งที่ต้องคิดถึงในบางทีเราคิดว่าทำ
00:20:54 → 00:20:58 เป็นออฟฟิศทำงานนานแต่ว่าเอ๊ะฉันก็ไม่ได้
00:20:58 → 00:21:02 ทำงานสักพักแล้วนะทำไมตามันยังมัวเลยภาพ
00:21:02 → 00:21:06 มันซ้อนอยู่แล้ว
00:21:06 → 00:21:09 มันทำไมไม่เท่ากันสองข้าง
00:21:09 → 00:21:13 ต้องนึกถึงและโลกนี้มันมีให้เอะใจละร่าง
00:21:13 → 00:21:16 กายมันฟ้องออกมาและว่า
00:21:16 → 00:21:20 น่าจะแต่จะใกล้ตัวกับที่คิดก็ได้แต่ทั้ง
00:21:20 → 00:21:22 หมดทั้งมวลมันคือเราวินิจฉัยเองไม่ได้นะ
00:21:22 → 00:21:25 คะคุณผู้ฟังเราก็ต้องไปให้คุณหมอผู้
00:21:25 → 00:21:29 เชี่ยวชาญแล้วต้องเอาไปเจาะเลือดก่อนใช่
00:21:29 → 00:21:31 ต้องไปเจาะเลือดก่อนแล้วก็หลังจากนั้นถ้า
00:21:31 → 00:21:32 เราคอนเฟิร์มว่าเป็นก็ต้องทำเอกซเรย์
00:21:32 → 00:21:35 คอมพิวเตอร์เพื่อดูว่ามันมีต่อมไทมัสโต้
00:21:35 → 00:21:38 ไหมหรือว่ามีเนื้องอกร่วมด้วยไหมแล้วเขา
00:21:38 → 00:21:41 ก็เข้าไปสู่ระบบกระบวนการรักษาคือทานยาพอ
00:21:41 → 00:21:44 ทานยาอาการนิ่งปุ๊บก็เข้าสู่กระบวนการผ่า
00:21:44 → 00:21:48 ตัดอ๋อไม่ได้หมายความว่าเราจะคุณหมอคะเจอ
00:21:48 → 00:21:54 ปุ๊บ
00:21:54 → 00:21:57 เพราะว่ามันเหมือนเราจะขึ้นชกอ่ะโคตรร่าง
00:21:57 → 00:22:00 กายตาเขอ่อนแรงอยู่เลยครึ่งชกเราจะชนะไหม
00:22:00 → 00:22:03 ก็ภาวะแทรกเสียงก็จะเยอะฉะนั้นถ้าเราแบบ
00:22:03 → 00:22:06 ว่าเรามาเดินแบบแข็งแรงดีปรับยาจนแบบร่าง
00:22:06 → 00:22:09 กายไม่มีอ่อนแรงเข้ามาผ่าตัดโอกาสเราชก
00:22:09 → 00:22:10 ชนะก็สูง
00:22:10 → 00:22:16 ฉะนั้นก็จะเป็นบทบาทในแต่ละทีนะครับอ๋อก็
00:22:16 → 00:22:18 คือแบบว่าฟื้นฟูร่างกายให้มันแบบพร้อมที่
00:22:18 → 00:22:22 จะรับการผ่าตัดอีกทีนึงก่อนใช่ครับคือ
00:22:22 → 00:22:25 วิธีการนี้จะเป็นวิธีการที่ทำให้ผู้ป่วย
00:22:25 → 00:22:28 เนี่ยมีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นน้อยน้อย
00:22:28 → 00:22:31 ที่สุดเท่าที่เป็นไปได้นะครับก็
00:22:31 → 00:22:34 เพราะฉะนั้นมันมีโอกาสผู้หญิงสังเกตตัว
00:22:34 → 00:22:36 เองเยอะๆหน่อยเพราะว่าโรคนี้มันไปเน้นที่
00:22:36 → 00:22:39 ผู้หญิงซะเยอะเออนะครับผู้ชายก็เป็นได้นะ
00:22:39 → 00:22:42 แต่ว่าอาจจะไม่ได้เยอะเท่าความเสี่ยงยัง
00:22:42 → 00:22:45 ไงคุณหมอก็บอกคุณผู้ฟังไปแล้วอ่าก็เดี๋ยว
00:22:45 → 00:22:49 ให้คุณหมอได้ได้สรุปหนึ่งคือเพราะว่ายัง
00:22:49 → 00:22:52 ยังรู้สึก Amazing กับพี่คนไข้คุณหมอเคส
00:22:52 → 00:22:55 นี้เลยเพราะว่าเอ้ยมันคนละขั้วเลยนะตอน
00:22:55 → 00:22:58 แรกที่แบบว่าอะไรทำอะไรไม่ได้แล้วแบบ
00:22:58 → 00:23:00 สะพานมาถึงอีกทีนึงเฮ้ยวิ่งมาราธอนได้
00:23:00 → 00:23:03 แล้วอ่ะใช่ฉะนั้นเนี่ยจริงๆแล้วต้องบอก
00:23:03 → 00:23:06 ว่าอยากจะให้ผู้ป่วยนะครับหรือผู้ชมที่
00:23:06 → 00:23:08 ฟังนะครับที่ประสบปัญหาเหล่านี้อยู่นะ
00:23:08 → 00:23:11 ครับจริงๆแล้วอยากจะสื่อว่าไม่ได้ก็ตาม
00:23:11 → 00:23:14 ที่มีโอกาสนะครับอย่างที่ผมเล่าไปมีหนัง
00:23:14 → 00:23:17 ตาตกมีกำหนดแรงและนำไปหาแพทย์ประจำตัว
00:23:17 → 00:23:20 ใกล้บ้านนะฮะอะไรก็ตามที่คุณนะครับได้รับ
00:23:20 → 00:23:22 การวินิจฉัยว่าเป็นโรคหนังตาตกหรือกับนอน
00:23:22 → 00:23:26 แรงหรือว่า mg นะครับพวกนี้เนี่ยวิธีการ
00:23:26 → 00:23:28 ปัจจุบันรักษาเนี่ยคนไข้ที่มีบทบาทมากโดย
00:23:28 → 00:23:37 เฉพาะการผ่าตัดส่องกล้องนะครับ
00:23:37 → 00:24:30 [เพลง]
00:24:30 → 00:24:34 แต่ว่ามีส่วนต่างอาจจะมีแล้วแต่สิทธิ์นะ
00:24:34 → 00:24:36 ครับแล้วแต่สิทธิไม่ว่าจะเป็น 30 บาท
00:24:36 → 00:24:38 ประกันสังคมแต่ว่าน้อยนะครับข้าราชการมี
00:24:38 → 00:24:41 น้อยมากเพราะว่าจริงๆแล้วตัวสื่อต่างๆเขา
00:24:41 → 00:24:43 ตัว Cover หรือครอบคลุมได้เกลือหมดแล้ว
00:24:43 → 00:24:46 เกือบเกิน 90 กว่าเปอร์เซ็นต์อีกแค่นิดๆ
00:24:46 → 00:24:49 หน่อยๆแค่นั้นเองนะครับก็จัดการผ่าให้
00:24:49 → 00:24:53 เรียบร้อยดีกว่ามันจะต้องถ้าจะต้องไม่ได้
00:24:53 → 00:24:55 บอกว่าจะต้องจบด้วยการผ่าตัดทุกคน
00:24:55 → 00:24:57 [เพลง]
00:24:57 → 00:25:00 แต่ว่าถ้าผ่าตัดแล้วในบางรายที่มีข้อบ่ง
00:25:00 → 00:25:02 ชี้นะครับแล้วผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้
00:25:02 → 00:25:04 ชีวิตได้ดีขึ้นผมคิดว่ามันก็คุ้มที่จะ
00:25:04 → 00:25:08 เข้าไปทำการผ่าตัดกัน
00:25:08 → 00:25:10 กลับบ้านแล้วแผนนิดเดียว 2-3 ซมแค่นั้น
00:25:10 → 00:25:13 เองนะครับใช่ๆผ่าตัดส่องกล้องมาก่อนค่ะ
00:25:13 → 00:25:16 ก็เลยรู้ว่าแผลมันเล็กเราก็ทำให้เราฟื้น
00:25:16 → 00:25:19 ตัวได้เร็วขึ้นด้วยนะคะวันนี้ก็ต้อง
00:25:19 → 00:25:22 ขอบคุณคุณหมอศิระค่ะที่มาร่วมพูดคุยให้
00:25:22 → 00:25:23 ความรู้กับเรามีอะไรก็ปรึกษาคุณหมอได้นะ
00:25:24 → 00:25:27 คะก็วันนี้ขอบคุณค่ะสวัสดีค่ะขอบคุณครับ
00:25:27 → 00:25:29 หมดเวลาแล้วค่ะคุณผู้ฟังค่ะพบกันใหม่
00:25:29 → 00:25:31 ครั้งหน้ากับรายการโรงหมอทาง Thai PBS
00:25:31 → 00:25:33 podcast สำหรับวันนี้ลาไปก่อนสวัสดีค่ะ
00:25:33 → 00:25:38 This Is Choice PBS เมื่อความรักกลาย
00:25:38 → 00:25:40 เป็นความลับเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้างความ
00:25:40 → 00:25:43 ลับแบบไหนอาจไม่ใช่ความรักผู้ช่วย
00:25:43 → 00:25:45 ศาสตราจารย์ดรจันทร์วิภาดิลกซัมพันธ์ผู้
00:25:45 → 00:25:47 เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์และครอบครัวมา
00:25:48 → 00:25:49 เล่าให้ฟังครับ
00:25:49 → 00:25:53 จริงๆแล้วเนี่ยส่วนหนึ่งของการที่จะเปิด
00:25:53 → 00:25:55 เผยหรือไม่เปิดเผยกรณีเรามีความรักเนี่ย
00:25:55 → 00:25:59 ส่วนนึงเนี่ยมันก็ขึ้นแก่วัฒนธรรมของ
00:25:59 → 00:26:02 สังคมนั้นๆด้วยแต่ก็นั่นแหละนะคะเอ๊ะแล้ว
00:26:02 → 00:26:04 ทำไมมันต้องเป็นเรื่องของความละอายหรือ
00:26:04 → 00:26:08 มันก็ไม่ใช่นะคะบางทีมันไอ้โลกโซเชียล
00:26:08 → 00:26:11 เนี่ยมันทำให้คนขยายเยอะอ่ะโดยปกติก่อนละ
00:26:11 → 00:26:13 กันนะคะเราพูดถึงคนคน
00:26:13 → 00:26:15 ทั่วๆไปเนี่ยนะคะว่าเมื่อผู้หญิงผู้ชาย
00:26:15 → 00:26:18 เราเนี่ยเริ่มพูดคุยกันเริ่มรู้สึกว่าเออ
00:26:18 → 00:26:22 ปิ๊งคนนี้แหละเราก็จะเริ่มพูดคุยดูใจกัน
00:26:22 → 00:26:25 ไปเรื่อยๆก่อนนะซึ่งเรายังไม่รู้เลยค่ะ
00:26:25 → 00:26:28 ว่าความสัมพันธ์เนี่ยมันจะลงเอยแบบไหนนะ
00:26:28 → 00:26:32 คะมันจะเป็นลักษณะของประสบความสำเร็จหรือ
00:26:32 → 00:26:34 fail ว่ะมันจะออกหัวออกก้อยเรายังไม่รู้
00:26:34 → 00:26:37 เลยเพราะฉะนั้นในช่วงนี้นะคะในช่วงที่ยัง
00:26:37 → 00:26:40 ปิ๊งกันดูใจกันน่ะไม่มีใครที่จะมาเป่า
00:26:40 → 00:26:43 ประกาศหรอกโดยทั่วไปอ่ะนะฮะคือถ้าดีก็ดี
00:26:43 → 00:26:46 ไปอย่างที่บอกใช่ไหมลูกแต่ถ้ามันไม่ดีอ่ะ
00:26:46 → 00:26:49 ประกาศตั้งแต่ต้นเพิ่งจะแหมประสบการณ์กัน
00:26:49 → 00:26:51 เพิ่งมาพูดคุยกันทั้งนั้นน่ะไปเที่ยว
00:26:51 → 00:26:54 ประกาศแล้วเนี่ยบางทีไก่ตื่นนะเพราะ
00:26:54 → 00:26:56 ฉะนั้นในระยะแรกๆเนี่ยโดยทั่วไปอ่ะนะฮะ
00:26:57 → 00:26:59 นี่เราพูดถึง in General นะในคนทั่วไป
00:26:59 → 00:27:02 เนี่ยก็คือยังไม่อยากจะแสดงออกอยู่แล้ว
00:27:02 → 00:27:05 โดยทั่วๆไปนะฮะถ้ามันยังไม่ชัวร์ทีนี้พอ
00:27:05 → 00:27:08 ความสัมพันธ์ต่อมาพัฒนาขึ้นนะคะความ
00:27:08 → 00:27:11 สัมพันธ์ชัดเจนขึ้นเริ่มๆเสร็จแล้วเออเธอ
00:27:11 → 00:27:14 จีบฉันนะเออฉันรู้นะว่าเธอมาจีบนะฮะอะไร
00:27:14 → 00:27:17 อย่างเงี้ยนะคะบางคู่ก็อาจจะแสดงออกบาง
00:27:18 → 00:27:20 คู่ก็อาจจะยังไม่อยู่นั่นแหละนะฮะอาจจะ
00:27:20 → 00:27:23 เพราะเขินอายกลัวโดนล้อนะฮะหรือยังเลือก
00:27:23 → 00:27:26 ที่จะไม่แสดงอะไรออกไปก่อนนะฮะยังไม่
00:27:26 → 00:27:30 ชัวร์มากพอถึงมันจะพัฒนาขึ้นก็ตามนะคะใน
00:27:30 → 00:27:33 นี้ถ้ามีคนถามในระยะนี้บางคนก็อ่ะถามมาก็
00:27:33 → 00:27:36 บอกอันนี้เป็นสไตล์ของแต่ละคนไม่เหมือน
00:27:36 → 00:27:39 กันนะคะบางคนก็อาจจะบอกบางคนก็อาจจะยิ้มๆ
00:27:39 → 00:27:41 ไม่รับอะไรอย่างนี้นะคะก็แล้วแต่ความ
00:27:42 → 00:27:44 สัมพันธ์พัฒนาขึ้นไปอีกขั้นนึงเนี่ยบางคน
00:27:44 → 00:27:46 ก็อาจจะตั้งใจเก็บเป็นความลับไว้ก่อนโดย
00:27:46 → 00:27:49 ความสมัครใจของเราคุยกันก่อนคุยกันก่อน
00:27:49 → 00:27:52 ด้วยเหตุผลหลายอย่างนะฮะ
00:27:52 → 00:27:54 เช่นความรักในออฟฟิศเพราะว่าบางทีเนี่ย
00:27:54 → 00:27:57 มันเพื่อนกลุ่มเดียวกันหรือเป็นรักข้าม
00:27:57 → 00:28:01 รุ่นหรือรู้ว่าคนนี้พ่อแม่ไม่โอเคหรือว่า
00:28:01 → 00:28:05 เป็น lgbt หรือว่ากลุ่มเพื่อนไม่โอเคกับ
00:28:05 → 00:28:08 คนนี้หรือเป็นรักต้องห้ามรักต้องห้ามเช่น
00:28:08 → 00:28:11 เขามีเจ้าของแล้วแล้วเราก็รักกันคนเรา
00:28:11 → 00:28:14 เนี่ยเมื่อมีความสัมพันธ์กันหรือชอบพอใคร
00:28:14 → 00:28:17 สักคนเนี่ยเราก็อยากให้เขาหรือเธอคนนั้น
00:28:17 → 00:28:18 เนี่ย
00:28:18 → 00:28:21 เข้ามามีบทบาทในชีวิตของเราแต่ถ้าไม่ยอม
00:28:21 → 00:28:24 ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเนี่ยไม่ยอมหรือไม่อยากนะ
00:28:24 → 00:28:28 ถึงขั้นปิดกั้นสิ่งแรกที่คิดก็คือเขาไม่
00:28:28 → 00:28:29 พร้อมที่จะมีความสัมพันธ์กับเราจริงจัง
00:28:29 → 00:28:32 ใช่มั้ยเราเอาไว้ควงเล่นใช่ไหมแต่ไม่ได้
00:28:32 → 00:28:34 คิดจะพัฒนามากกว่านี้ใช่ไหมเพราะฉะนั้น
00:28:34 → 00:28:37 เนี่ยถ้าฝ่ายนึงเนี่ยบอกอีกฝ่ายหนึ่งว่า
00:28:37 → 00:28:40 อย่าเพิ่งไปบอกใครนะปิดเงียบไปก่อนนะว่า
00:28:40 → 00:28:42 เราเป็นแฟนกันหรืออะไรนะให้เก็บความ
00:28:42 → 00:28:44 สัมพันธ์ที่เป็นความลับนะมันคงไม่ใช่
00:28:44 → 00:28:53 เรื่องดีแน่
00:28:53 → 00:28:56 ติดตามรายการทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น
00:28:56 → 00:28:58 ของไทยพีแดช็อต
00:28:58 → 00:29:02 spotify Sound Google podcast Apple
00:29:02 → 00:29:05 podcast และ YouTube Channel Thai PBS
00:29:05 → 00:29:11 portcast Thai PBS
00:29:11 → 00:29:16 [เพลง]