00:00:06 → 00:00:10 มันเป็นคำที่นิยามบุคลิกภาพแบบหนึ่งนะ
00:00:10 → 00:00:13 ครับว่าเป็นคนที่อาจจะชอบเก็บตัวมากกว่า
00:00:13 → 00:00:15 เป็นคนที่คล้ายๆชอบลิงพลังงานกลับมาที่
00:00:15 → 00:00:17 ตัวไม่ได้ชอบเข้าสังคมชอบใช้เวลากับตัว
00:00:18 → 00:00:20 เองรู้สึกว่าแบบชีวิตที่มีความสุขคือการ
00:00:20 → 00:00:21 ได้อยู่กับตัวเองแล้วอ่านหนังสือเงียบๆ
00:00:21 → 00:00:24 ซึ่งบุคลิกเขาไม่ได้มีความต้องการจะพัฒนา
00:00:24 → 00:00:27 ทักษะทางสังคมด้วยจริงๆแล้วการที่เขาเข้า
00:00:27 → 00:00:29 สังคมเขาอาจจะรู้สึกไม่ได้เป็นตัวของตัว
00:00:29 → 00:00:31 เองก็ได้ครับตัวเขาจะมีความชอบตัวเองแบบ
00:00:31 → 00:00:34 นึงเขาจะมีความสบายใจแบบนึงแต่ทุกครั้ง
00:00:34 → 00:00:36 ที่เขาเข้าสังคมเขารู้สึกเหมือนตัวเองจะ
00:00:36 → 00:00:38 ต้องเปลี่ยนเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้ใครสัก
00:00:38 → 00:00:41 คนถูกใจหรือให้คนรอบข้างถูกใจเขาเลยเลือก
00:00:41 → 00:00:42 ที่จะเก็บพลังงานไว้กับตัวมากกว่า
00:00:42 → 00:00:44 [เพลง]
00:00:44 → 00:00:47 ฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคภัยฟังราย
00:00:48 → 00:00:54 การโรงหมอดิฉันสุรีพรวงสถิตพรค่ะ
00:00:54 → 00:00:57 สวัสดีค่ะคุณผู้ฟังคะขอต้อนรับเข้าสู่ราย
00:00:57 → 00:00:59 การโรงหมอทางไทย PBS port Cast ค่ะวัน
00:00:59 → 00:01:02 นี้เรามาพบกันเช่นเคยนะคะวันนี้เราจะคุย
00:01:02 → 00:01:06 กันถึงเรื่องของเมื่อคนอินโทรเวิร์ดต้อง
00:01:06 → 00:01:08 เป็นผู้นำนะคะเอ๊ะเป็นยังไง Intro Word
00:01:08 → 00:01:10 นะคะคุยกับด็อกเตอร์ศุภวุฒิวงศ์ธาร
00:01:10 → 00:01:12 สวัสดิ์ค่ะนัดจิตวิทยาการศึกษาหรือคุณ
00:01:12 → 00:01:16 เอิ้นสวัสดีค่ะสวัสดีครับคุณผู้ฟังวันนี้
00:01:16 → 00:01:20 มาแนวเหมือนแบบว่าคำว่า introver อันนี้
00:01:20 → 00:01:23 ถ้าถ้าไม่ได้แบบว่ารู้ความหมายมาก่อนนะ
00:01:23 → 00:01:27 อาจจะรู้สึกว่าเอ๊ะเราออกอยู่ในวงโคจร
00:01:27 → 00:01:29 ครับผมอะไรประมาณ
00:01:29 → 00:01:32 นี้เพราะว่าก่อนหน้านี้มันก็จะมีคำพวกนี้
00:01:32 → 00:01:35 เนาะแต่อินโทรเวิร์ดได้ยินมาเมื่อไม่นาน
00:01:35 → 00:01:38 มาเนี้ยแต่ว่าอยากให้คุณเอิ้นได้ช่วย
00:01:38 → 00:01:41 อธิบายถึงความหมายคำคำนี้หน่อยว่าหมายถึง
00:01:41 → 00:01:43 อะไรนะครับ introward เนี่ยมันเป็นคำที่
00:01:43 → 00:01:46 นิยามปุคลิกภาพแบบนึงนะครับว่าเป็นคนที่
00:01:46 → 00:01:49 อาจจะชอบเก็บตัวมากกว่าเป็นคนที่คล้ายๆ
00:01:49 → 00:01:52 ชอบดึงพลังงานกลับมาที่ตัวไม่ได้ชอบเข้า
00:01:52 → 00:01:55 สังคมชอบใช้เวลากับตัวเองนี่คือบุคลิกของ
00:01:55 → 00:01:57 คนที่เราระบุว่าเป็น Intro Word ไงครับ
00:01:57 → 00:01:59 Intro ก็คือ in ดึงกลับเข้ามาเข้าตัว
00:01:59 → 00:02:02 Intro เข้ามาที่ตัวเองซึ่งมันจะตรงข้าม
00:02:02 → 00:02:05 กับคำที่เรียกว่า extrovert Intro นั้น
00:02:05 → 00:02:07 ก็คือดึงกลับเข้ามาในตัว EXO คือเข้าหา
00:02:07 → 00:02:10 สังคมคือเอาพลังงานออกไปข้างนอกหมายถึง
00:02:10 → 00:02:12 ว่าตัวคนที่เป็น expert เนี่ยนะครับก็จะ
00:02:12 → 00:02:14 คล้ายๆมี Energy ในการจะเข้าสังคมในการ
00:02:14 → 00:02:17 ชวนคนอื่นคุยในการอยากจะแบบเฮ้ยเธอเป็น
00:02:17 → 00:02:21 ยังไงติดตามข่าวสารอาจจะแบบเฮ้ยชอบติดต่อ
00:02:21 → 00:02:23 กันตลอดหรือพาตัวเองเข้าไปอยู่ในชุมชนใน
00:02:23 → 00:02:26 ปาร์ตี้หรืออะไรก็ตามที่มีผู้คนห้อมล้อม
00:02:26 → 00:02:28 อันนี้จะเป็นบุคลิกของคนที่เป็น Excel
00:02:28 → 00:02:31 Word ที่ชอบไปข้างนอกเหมือนมันต่างกันคน
00:02:31 → 00:02:35 ละขั้วคนละซึ่งก็จะมีคำว่า ambot อีกหมาย
00:02:35 → 00:02:37 ถึงว่าคนๆหนึ่งอาจจะเป็นทั้ง 2 แบบไม่ได้
00:02:37 → 00:02:41 สุดขั้วทั้ง 2 อย่างไม่ได้เก็บตัวสุดโต่ง
00:02:41 → 00:02:44 อาจจะแบบอาจจะแบบอยู่กับตัวเองบางเวลาแต่
00:02:44 → 00:02:46 เวลาเข้าสังคมก็ไม่มีปัญหา
00:02:46 → 00:02:48 Enjoy สนุกได้ซึ่งต้องบอกว่าคนส่วนใหญ่
00:02:48 → 00:02:51 ก็จะเป็นอะนี่แหละที่เราก็จะแบบมีทั้งหมด
00:02:51 → 00:02:54 ที่เราเก็บตัวด้วยแล้วก็มีโหมดที่เอาไป
00:02:54 → 00:02:56 ข้างนอกด้วยแต่สำหรับบางคนเราจะเคยเห็น
00:02:57 → 00:03:00 เพื่อนบางคนนะครับที่แบบโอ้โหเก็บสุดขี้
00:03:00 → 00:03:02 อายไม่คุยกับใครแล้วก็รักที่จะอยู่กับตัว
00:03:02 → 00:03:04 เองมากๆแม้กระทั่งอยู่คนเดียวไม่ต้องไป
00:03:04 → 00:03:07 กับใครอยู่บ้านคนเดียวก็ไม่รู้สึกเหงาไม่
00:03:07 → 00:03:09 รู้สึกถูกทอดทิ้งเพราะเขาชอบอยู่กับตัว
00:03:09 → 00:03:13 เองอันนี้เขาไม่ได้เป็นโรคความส่วนตัวสูง
00:03:13 → 00:03:15 ใช่มั้ยอ่าคล้ายๆอย่างงั้นนะครับมีความ
00:03:15 → 00:03:17 เป็นโลกส่วนตัวสูงเพราะคำว่าโลกส่วนตัว
00:03:17 → 00:03:20 สูงหมายถึงว่าเขาอยู่ภายในโลกของเขาซึ่ง
00:03:20 → 00:03:21 มันสอดคล้องกับคำว่าอินโทรอ่ะครับ
00:03:21 → 00:03:24 อินโทรเวิร์ดเข้าไปข้างในคือคนอื่นเข้า
00:03:24 → 00:03:27 ถึงใช่แล้วก็เปิดให้คนอื่นเข้ามายากด้วย
00:03:27 → 00:03:31 ก็มีเหมือนกันอ่าส่วน EXO จะแบบ open มาก
00:03:31 → 00:03:34 ๆเปิดทุกคนมาฉันเปิดออกคนอื่นเปิดเข้าหา
00:03:34 → 00:03:37 ฉันได้ปาร์ตี้จะสุดขั้วไม่ค่อยชอบอยู่
00:03:37 → 00:03:40 บ้านอะไรเงี้ยแต่จริงๆต้องบอกว่าบุคลิก
00:03:40 → 00:03:42 พวกเนี้ยมันเป็นการที่เราอาจจะพูดถึงคำ
00:03:42 → 00:03:45 กว้างๆเวลาเราจะระบุถึงบุคลิกบางอย่างแต่
00:03:45 → 00:03:49 ว่าเวลาเราพูดถึงชีวิตคนจริงๆครับเราอาจ
00:03:49 → 00:03:52 จะระบุให้มันแค่อยู่แค่ 3 คำพวกนี้ไม่ได้
00:03:52 → 00:03:55 หรอกเพราะว่าคนเรามันจะมีจุดที่แบบสามารถ
00:03:55 → 00:03:58 เป็น extrard ได้ในจังหวะกับบุคคลบาง
00:03:58 → 00:04:00 กลุ่มและสามารถเป็น introvert ได้เลย
00:04:00 → 00:04:03 เมื่อเจอสถานการณ์สถานการณ์หนึ่ง
00:04:03 → 00:04:06 ไม่ได้เหมือนว่าคือถ้าเป็น introved ก็
00:04:06 → 00:04:10 ต้องเป็น introver ส่วนตัวสูงก็อยู่นะผม
00:04:10 → 00:04:13 ผมก็เจอคล้ายๆคนที่เป็น Intel แบบเข้มๆ
00:04:13 → 00:04:17 อะไรก็มีเขาจะแบบว่ารู้สึกว่าแบบชีวิตที่
00:04:17 → 00:04:19 มีความสุขคือการได้อยู่กับตัวเองแล้วอ่าน
00:04:19 → 00:04:21 หนังสือเงียบๆซึ่งบุคลิกเค้าครับเวลาเรา
00:04:21 → 00:04:24 สัมผัสตัวเขานั้นเราจะรู้สึกว่ามันจะ
00:04:24 → 00:04:25 สัมผัสตรงไปถึงไปแตะตัวเขานะหมายถึงว่า
00:04:25 → 00:04:28 ได้สัมผัสความเป็นเขาเนี่ยเขาจะเหมือนกับ
00:04:28 → 00:04:32 มีความไม่ค่อยมีทักษะในการเข้าสังคมและ
00:04:32 → 00:04:35 จริงๆตัวเขาเองนะโดยเนื้อเนื้อของจิตใจ
00:04:35 → 00:04:37 เขาเองเขาไม่ได้มีความต้องการจะพัฒนา
00:04:37 → 00:04:40 ทักษะทางสังคมด้วยเขาอาจจะเคยไปเข้าสังคม
00:04:40 → 00:04:43 แล้วรู้สึกไม่ชอบอะไรอย่างนั้นป่ะจริงๆ
00:04:43 → 00:04:46 แล้วการที่เขาเข้าสังคมเขาอาจจะรู้สึกไม่
00:04:46 → 00:04:49 ได้เป็นตัวของตัวเองก็ได้ครับ
00:04:49 → 00:04:50 เพราะว่า
00:04:50 → 00:04:53 ตัวเขาจะมีความชอบตัวเองแบบนึง
00:04:53 → 00:04:55 เขาจะมีความสบายใจแบบนึงแต่ทุกครั้งที่
00:04:55 → 00:04:57 เขาเข้าสังคมอ่ะเขารู้สึกเหมือนตัวเองจะ
00:04:57 → 00:04:59 ต้องเปลี่ยนเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้ใครสัก
00:04:59 → 00:05:02 คนถูกใจหรือให้คนรอบข้างถูกใจ
00:05:02 → 00:05:05 ก็เลยรู้สึกว่าเออไม่ชอบแนวแบบนั้นใช่
00:05:06 → 00:05:07 ครับเขาเลยเลือกที่จะเก็บพลังงานไว้กับ
00:05:07 → 00:05:11 ตัวมากกว่ามันจะเป็นอารมณ์เหมือนรักตัว
00:05:11 → 00:05:14 เองไหมอ่ะรักตัวเองก็ด้วยค่ะแต่ว่าอย่าง
00:05:14 → 00:05:18 ที่บอกนะบางทีบริบททางสังคมไม่ได้อนุญาต
00:05:18 → 00:05:20 ให้เขาเก็บตัว
00:05:20 → 00:05:24 เช่นไปเรียนมหาวิทยาลัยต้องไปเรียนกับ
00:05:24 → 00:05:27 เพื่อนต้องเจอเพื่อนไปทำงานคุณต้องมี
00:05:27 → 00:05:30 ปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนในทีมหรือวันหนึ่ง
00:05:30 → 00:05:32 คุณเป็นหัวหน้างานคุณก็ต้องคุยกับลูกทีม
00:05:33 → 00:05:36 คุยกับผู้บริหารคุยกับ CEO คุยกับหัวหน้า
00:05:36 → 00:05:39 มันกลายเป็นว่าบริบทชีวิตไม่อนุญาตให้เขา
00:05:39 → 00:05:42 เก็บตัวแต่จริงๆตัวเขาลึกๆอยากเก็บตัวนะ
00:05:42 → 00:05:45 โอ้โหทำยังไงอ่ะทีนี้คือแบบว่าเพราะว่า
00:05:45 → 00:05:49 อาการที่เขาจะเข้ามาในบริบทสังคมที่มัน
00:05:49 → 00:05:51 ต้องเป็นแบบนี้เขาอาจจะรู้สึกว่ามันไม่
00:05:51 → 00:05:56 ได้มีความสุขอ่ะแล้วก็แต่มันต้องอยู่แต่
00:05:56 → 00:05:58 ในขณะเดียวกันฉันก็จะมีความเป็นมายุ่งกับ
00:05:58 → 00:06:01 ใครอยู่ในที่ทำงาน
00:06:01 → 00:06:03 อันนี้มันเลยขึ้นอยู่กับว่าชีวิตแต่ละคน
00:06:03 → 00:06:05 นะครับมีความจำเป็นในการจะต้องเข้าไปอยู่
00:06:05 → 00:06:10 ในสังคมมากน้อยแค่ไหนผมลองยกตัวอย่างนะคน
00:06:10 → 00:06:13 interward นะครับจริงๆไม่ต้องทำงานที่มี
00:06:13 → 00:06:17 เพื่อนร่วมงานก็ได้ไม่ต้องทำงานที่แบบพา
00:06:17 → 00:06:19 ตัวเองไปอยู่กับชุมชนก็ได้เดี๋ยวนี้มันมี
00:06:19 → 00:06:22 เนื้องานหลายอย่างที่ทำให้คนอินโทรเวิร์ด
00:06:22 → 00:06:23 สามารถทำงานอยู่กับตัวเองคนเดียวไม่ต้อง
00:06:23 → 00:06:26 ยุ่งกับใครก็ได้โอ้โหยิ่งหรือยุ่งกับคน
00:06:26 → 00:06:28 ให้น้อยที่สุดก็ได้มันจะกลายเป็นยิ่งอี๊ด
00:06:28 → 00:06:39 เข้าไปหนักกว่าเดิม
00:06:39 → 00:06:42 อาจจะเป็นสิ่งน่าเป็นห่วงก็ได้จากคนที่
00:06:42 → 00:06:44 มองมุมข้างนอกก็คือเอ๊ะแล้วถ้าวันหนึ่ง
00:06:44 → 00:06:45 เขาจำเป็นต้องมีสังคมเลยต้องเข้าสังคม
00:06:45 → 00:06:48 หรือต้องปรับตัวเข้าสังคมเขาจะอยู่ได้ไม่
00:06:48 → 00:06:51 นานนะครับแต่บางทีคนกลุ่มนี้เขาอาจจะปรับ
00:06:51 → 00:06:54 ตัวได้นะแต่เขาจะเลือกทำเท่าที่เขาจำเป็น
00:06:54 → 00:06:56 ต้องใช้
00:06:56 → 00:07:00 เช่นถ้าต้องสั่งอาหารถ้าต้องสมมติเขาทำ
00:07:00 → 00:07:02 เป็นเจ้าของกิจการบางอย่างต้องคุยกับคน
00:07:02 → 00:07:04 ที่เป็นอาจจะเป็นดีลเลอร์หรืออาจจะเป็น
00:07:04 → 00:07:06 supplier ที่แบบต้องผลิตให้อะไรอย่างนี้
00:07:06 → 00:07:09 ครับหรือเป็นคนที่แบบต้องเป็นพ่อค้าคน
00:07:09 → 00:07:11 กลางส่งต่อเขาอาจจะเลือกคุยกับคนแค่ไม่
00:07:11 → 00:07:14 กี่คนเพื่อให้งานก็สำเร็จแต่ก็ไม่ได้คุย
00:07:14 → 00:07:16 เจ๊าะแจ๊ะแบบชีวิตเป็นยังไงลูกเป็นยังไง
00:07:16 → 00:07:18 เขาอาจจะไม่เจ๊าะแจ๊ะก็ได้นะเขาอาจจะ
00:07:18 → 00:07:20 เลือกคุยเฉพาะเท่าที่จำเป็นที่เป็นเนื้อ
00:07:20 → 00:07:23 งานที่ต้องทำแล้วพอคุยเสร็จปั๊บงานก็ราบ
00:07:23 → 00:07:25 รื่นดีแล้วเขาก็กลับไปอยู่กับชีวิตที่เขา
00:07:25 → 00:07:28 ชอบถูกไหมฮะบางคนสามารถใช้ชีวิตอย่างนั้น
00:07:28 → 00:07:30 ได้เพราะฉะนั้นอย่าไปห่วงอะไร entert
00:07:30 → 00:07:33 เนี่ยครับ introvert จะปรับตัวเท่าที่เขา
00:07:33 → 00:07:34 จำเป็น
00:07:34 → 00:07:38 ถ้าอะไรเกินความจำเป็นเขาอาจจะเลือกไม่ทำ
00:07:38 → 00:07:40 เพราะเขาอยากเก็บพลังงานไว้กับตัวมากกว่า
00:07:40 → 00:07:43 เออมันมีมันมีหลายๆคำอยู่ในคนคนเดียวเลย
00:07:43 → 00:07:47 นะโลกส่วนตัวสูงมีความเป็นตัวตนใช่ไหมกับ
00:07:47 → 00:07:50 การรักตัวเองรักพี่ก็ชอบชอบความเงียบๆสงบ
00:07:50 → 00:07:54 กับตัวเองเอออย่างเงี้ยค่ะ
00:07:54 → 00:07:55 เพราะงั้น introver ก็จะเป็นคาแรคเตอร์
00:07:55 → 00:07:58 นึงที่ถ้าสมมุติเป็นคนที่ Intel Word
00:07:58 → 00:08:01 สุดขั้วมากๆอย่างเงี้ยครับการทำงานกับคน
00:08:01 → 00:08:02 อื่นหรือการต้องอยู่ในสังคมจะเป็นเรื่อง
00:08:02 → 00:08:04 ยากของเขา
00:08:04 → 00:08:08 ผมคิดว่าคนอินเทอร์เน็ตแท้ๆแบบที่เป็น
00:08:08 → 00:08:11 บุคลิกแบบแท้ๆเลยอ่ะฮะเข้มๆเลยเนี่ยอาจจะ
00:08:11 → 00:08:13 ไม่ค่อยเลือกงานที่ต้องเข้าไปอยู่กับคน
00:08:13 → 00:08:21 เยอะๆตั้งแต่แรก
00:08:21 → 00:08:24 ว่าเขาไม่ได้ชอบเพราะงั้นถ้าคนเรามีทาง
00:08:24 → 00:08:26 เลือกอ่ะครับโดยส่วนใหญ่เนาะถ้าคนรู้จัก
00:08:26 → 00:08:28 ตัวเองมากพอเขาอยากจะเลือกสิ่งที่เหมาะ
00:08:28 → 00:08:31 กับตัวเองก่อนเขาจะไม่พาตัวเองไปอยู่ใน
00:08:31 → 00:08:33 จุดที่มันไม่เหมาะกับตัวเองตั้งแต่แรกนอก
00:08:33 → 00:08:35 จากว่าสถานการณ์จำเป็นเช่นเหมือนที่ผม
00:08:36 → 00:08:39 เล่าให้ฟังว่าไปเรียนมหาวิทยาลัย
00:08:39 → 00:08:42 มันจำเป็นต้องมีรายงานกลุ่ม
00:08:42 → 00:08:44 จำเป็นต้องไปเรียนกับเพื่อนใน sec เดียว
00:08:44 → 00:08:46 กันทั้งคลาสอย่างนี้ครับ
00:08:46 → 00:08:49 มันทำให้เขาไม่มีทางเลือกเขาอาจจะเก็บตัว
00:08:49 → 00:08:51 เงียบๆอยู่ในมุมห้องสักมุมหนึ่งระหว่าง
00:08:51 → 00:08:53 ที่เขาเรียนหรืออาจจะเลือกหน้าห้องจะได้
00:08:53 → 00:08:56 ไม่ต้องคุยกับใครก็มีแต่บางทีสุดท้ายพอมี
00:08:56 → 00:08:58 งานกลุ่มมีสังคมที่ต้องทำกิจกรรมของรุ่น
00:08:58 → 00:09:02 แล้วแต่ก็ทำให้เขาจำเป็นต้องไปทำหรือถ้า
00:09:02 → 00:09:04 เป็นงานอย่างที่เราคุยวันนี้
00:09:04 → 00:09:07 ผมเชื่อว่าทุกคนบินบางทีเขาอาจจะไม่ได้มี
00:09:07 → 00:09:10 ความคิดอยากจะเป็นหัวหน้าก็ได้นะแต่เขา
00:09:10 → 00:09:12 อาจจะมีความคิดอยากเป็นเจ้าของงานเองซะ
00:09:12 → 00:09:14 มากกว่า
00:09:14 → 00:09:19 แต่ถ้าเกิดเขาวันนึงแบบท้ายสุดได้รับ
00:09:19 → 00:09:24 โอกาสในการที่จะต้องเป็นผู้นำแล้วก็มีลูก
00:09:24 → 00:09:29 น้องคนที่เขาต้องๆประสานงานเป็นทีมซึ่งใน
00:09:29 → 00:09:32 บางส่วนอาจจะเป็นลักษณะของลูกน้องไปเลย
00:09:32 → 00:09:34 อย่างนี้จะมีปัญหาไหมเพราะความเป็น
00:09:34 → 00:09:38 introver ที่เขาจะมีความเป็นปัญหาแน่นอน
00:09:38 → 00:09:40 เพราะว่าต้องบอกว่ามันคือมันคือของแสลง
00:09:40 → 00:09:44 สำหรับชาวอินทรถูกไหมแต่ว่ามันก็ทำให้เขา
00:09:44 → 00:09:46 ได้ก้าวหน้าในหน้าที่การงานมันคือความ
00:09:46 → 00:09:48 ก้าวหน้าที่เขาใช่แต่เป็นความก้าวหน้าที่
00:09:48 → 00:09:50 ทำให้เขาก็ทุกข์ไประหว่างทางที่ก้าวหน้า
00:09:50 → 00:09:51 ด้วย
00:09:51 → 00:09:53 เพราะว่าตัวเขาแทบอาจจะแบบไม่ได้มีพร
00:09:53 → 00:09:55 สวรรค์ใช่มั้ยอาจจะไม่ได้มีพรสวรรค์ที่
00:09:55 → 00:09:58 เกิดมาพร้อมกับการที่แบบเฮ้ยคุยกับใครก็
00:09:58 → 00:10:00 เฮฮาปรับตัวได้หมดเขาจะรู้สึกว่ามีความ
00:10:00 → 00:10:03 ยากลำบากมากกว่าคนอื่นเพราะงั้นแน่นอนเขา
00:10:03 → 00:10:05 จะมีความทุกข์บางอย่างเหมือนกันนะในการทำ
00:10:05 → 00:10:07 งานถูกไหมครับแต่ว่าจริงๆเราต้องบอกว่า
00:10:07 → 00:10:10 อย่างนี้ฮะผมก็จะเจอหลายๆเคสนะครับที่
00:10:10 → 00:10:13 เป็นผู้นำเป็นแบบผู้บริหารหรือเป็นหัว
00:10:13 → 00:10:15 หน้างานเนี่ยมานั่งคุยเรื่องนี้เหมือนกัน
00:10:15 → 00:10:17 ว่าตัวเขาอยากจะปรับปรุงตัวเองให้เป็นคน
00:10:17 → 00:10:21 ที่แบบเหมือนกล้าคุยมากขึ้นหรือว่ากล้า
00:10:21 → 00:10:23 เข้าสังคมมากขึ้น
00:10:23 → 00:10:24 อย่างนี้ครับเพราะเขากำลังรู้สึกว่า
00:10:24 → 00:10:26 ตำแหน่งเขาจำเป็นมากๆที่เขาต้องพัฒนา
00:10:26 → 00:10:28 บุคลิกภาพตรงนี้
00:10:28 → 00:10:32 ทีนี้ผมเลยมองว่าสมมุตินะถ้าคนเราเป็น
00:10:32 → 00:10:34 Intel Word แท้ๆและเลือกเนื้องานได้คง
00:10:34 → 00:10:37 เลือกไปแล้วล่ะถูกไหมครับแต่ทีนี้ถ้าถึง
00:10:37 → 00:10:39 จุดที่แบบมันอยู่ในจุดที่จำเป็นต้องทำ
00:10:39 → 00:10:43 เลือกไม่ได้แล้วชีวิตมันพาไปสิ่งที่เราทำ
00:10:43 → 00:10:45 ได้มันคือการขัดเกลาตัวเองนะครับให้เป็น
00:10:45 → 00:10:48 เวอร์ชั่นที่ดีขึ้นหรือเป็นเวอร์ชั่นที่
00:10:48 → 00:10:51 เพียงพอต่อการใช้ชีวิตในบริบทนั้นนะครับ
00:10:51 → 00:10:54 เพราะงั้นหลายๆคนมาเนี่ยผมจะต้องตั้งหลัก
00:10:54 → 00:10:57 ให้เขาถูกต้องก่อนว่าการที่คุณเป็น
00:10:57 → 00:11:00 introvert ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้อง
00:11:00 → 00:11:01 เปลี่ยนไปเป็นอีกขั้วนึงที่เป็น extrovert
00:11:01 → 00:11:04 แล้วคุณต้องปาร์ตี้คุณต้องเข้าสังคมคุณ
00:11:04 → 00:11:07 ต้องแบบไปทุกอันอย่างเงี้ยฮะอันนั้นมันจะ
00:11:07 → 00:11:10 เป็นนรกของเขาเลยแหละเพราะตัวเขาจะยิ่ง
00:11:10 → 00:11:12 ห่างไกลจากการชอบตัวเองเพราะเขาเป็นบาง
00:11:12 → 00:11:13 อย่างที่ตัวเองไม่ได้ชอบแล้วไม่ได้พร้อม
00:11:13 → 00:11:16 จะเป็นเพราะงั้นสิ่งที่ต้องตั้งหลัก
00:11:16 → 00:11:19 สำหรับคนอินโทรเวิร์ดที่กำลังอยากจะขัดใจ
00:11:19 → 00:11:23 ตัวเองคือคุณต้องขยับจากฐานที่คุณเป็นแต่
00:11:23 → 00:11:25 คุณอย่ากระโดดข้ามโลกไปเป็นอีกขั้วนึง
00:11:25 → 00:11:27 เพราะนั่นไม่ใช่คุณ
00:11:27 → 00:11:30 เพราะงั้นเราก็ต้องย้อนกลับมาดูว่าเอ๊ะ
00:11:30 → 00:11:33 แล้วมีอะไรบ้างนะที่มันยังคงเป็นความขัด
00:11:33 → 00:11:35 เป็นสิ่งที่ขัดขวางให้เขาไม่สามารถพัฒนา
00:11:36 → 00:11:38 จาก introvert ให้เข้าไปสู่การเป็น amward
00:11:38 → 00:11:40 The Last แล้วแต่ที่เขาสามารถใช้ชีวิต
00:11:40 → 00:11:42 ในการทำงานอย่างพอดีได้
00:11:42 → 00:11:44 บางครั้งเกิดขึ้นจากความกลัว
00:11:44 → 00:11:46 คน interward บางครั้งอาจจะมีความรู้สึก
00:11:46 → 00:11:50 ไม่มั่นใจในตัวเองว่าถ้าฉันพูดอย่างนี้
00:11:50 → 00:11:54 เขาจะคิดยังไงนะฉันทำอย่างนี้มันจะดูน่า
00:11:54 → 00:11:57 อายไหมนะครับพอทุกอย่างเป็นการคาดเดาด้วย
00:11:57 → 00:12:00 ความกลัวปั๊บบางทีเราก็จะรู้สึกวิตก
00:12:00 → 00:12:03 ประมาณและเราก็เลย Play save ก็คือปลอด
00:12:03 → 00:12:06 ภัยไว้ก่อนด้วยการเก็บตัวซะเลย
00:12:06 → 00:12:09 มันก็เลยทำให้เราแบบพัฒนาอะไรไม่ได้เพราะ
00:12:09 → 00:12:12 งั้นสมมุติถ้าเป็นกรณีอย่างนี้นะครับโดย
00:12:12 → 00:12:14 ส่วนใหญ่ผมอาจจะคล้ายๆชวนเขาท้าทายความ
00:12:14 → 00:12:15 คิดตัวเองว่า
00:12:15 → 00:12:18 จากประสบการณ์ที่อยู่มามันมีคนสนใจเรา
00:12:18 → 00:12:20 อย่างนั้นหรือเปล่า
00:12:20 → 00:12:23 เรากำลังถูกจับจ้องอย่างนั้นหรือเปล่าว่า
00:12:23 → 00:12:25 แบบคนกำลังจับจองทุกอย่างที่เราทำหรือ
00:12:25 → 00:12:27 จริงทุกคนกำลังสนใจตัวเองเราไม่ได้สำคัญ
00:12:27 → 00:12:28 ขนาดนั้นหรอก
00:12:28 → 00:12:31 อ่าอันไหนแบบไหนใช่ไหมหรือบางอย่างถ้าเรา
00:12:31 → 00:12:34 กังวลว่าเอ๊ะเราทำไปแล้วดูไม่ดีไหมโดย
00:12:34 → 00:12:38 ปกติเราจะเก็บไว้ในใจคนเดียวและก็คงรู้
00:12:38 → 00:12:39 สึกอย่างนั้นแน่ๆเลย
00:12:39 → 00:12:42 แต่ถ้าเราอยากเอาชนะความที่เก็บไว้ในใจ
00:12:42 → 00:12:45 แล้ววิตกเองอยู่คนเดียวเนี่ยครับต้องใช้
00:12:45 → 00:12:49 วิธีการถามถามให้รู้ไปเลยว่าเขาคิดว่าที่
00:12:49 → 00:12:52 เราทำเนี่ยมันแย่ไหมกูไปถามไปเลยหรอแล้ว
00:12:52 → 00:12:55 ถ้าเกิดคำตอบแบบไอ้นี่ไงแต่อันนี้อันนี้
00:12:55 → 00:12:57 ต้องเลือกคนถามก่อนครับเพราะว่าเราอาจจะ
00:12:57 → 00:12:59 ตั้งต้นจากคนที่เรารู้สึกว่าคนนี้ปลอดภัย
00:12:59 → 00:13:03 สำหรับเราถ้าคนนี้ปลอดภัยครับการถามเรา
00:13:03 → 00:13:06 อาจจะได้คำตอบที่เขาสกรีนหรือเลือกคำที่
00:13:06 → 00:13:09 ดีมาถูกไหมครับหรือเขาอาจจะให้กำลังใจเรา
00:13:09 → 00:13:12 ด้วยซ้ำกับอีกอย่างหนึ่งคือสมมุติถ้าถาม
00:13:12 → 00:13:14 ไปแล้วได้คำตอบที่แบบใช่มันดูอย่างนู้น
00:13:14 → 00:13:15 อย่างนี้
00:13:15 → 00:13:19 เราจะทำยังไงนะไม่ให้คำตอบนั้นเป็นแค่การ
00:13:19 → 00:13:22 เอามาตำหนิตัวเองว่าเราแย่แต่เราเอาคำตอบ
00:13:22 → 00:13:25 นั้นมาเปลี่ยนเป็นครูของเราว่าโอเคถ้าเรา
00:13:25 → 00:13:27 ทำสิ่งนี้แล้วเขารู้สึกอย่างนี้เราจะ
00:13:27 → 00:13:29 เปลี่ยนผลลัพธ์ในอนาคตได้ยังไงบ้างนะ
00:13:29 → 00:13:32 เพื่อให้สิ่งนี้ไม่เกิดขึ้นเพราะงั้นพอ
00:13:32 → 00:13:33 ถึงเวลาเราเป็นหัวหน้างานนะครับเราจะมา
00:13:33 → 00:13:36 นั่งแต่ตัดเพราะว่าฉันเปลี่ยนไม่ได้ฉัน
00:13:36 → 00:13:38 มันแย่มันไม่ต้องก้าวหน้าไปไหนถูกมั้ยฮะ
00:13:38 → 00:13:40 แต่เรากำลังจำเป็นที่ต้องปรับตัวเพื่อ
00:13:40 → 00:13:42 ก้าวหน้าเพราะฉะนั้นเราอย่าเพิ่งไปมองว่า
00:13:42 → 00:13:45 เขาพูดว่าไม่ดีปั๊ปแล้วเราจะชีวิตล้มเหลว
00:13:45 → 00:13:47 หรือว่าท้อแท้ไปเลยแต่เราต้องเอาตรงนั้น
00:13:47 → 00:13:49 แหละเปลี่ยนเป็นโทหรือเป็นประสบการณ์ที่
00:13:49 → 00:13:52 สอนเราบางอย่างเพื่อให้เราขัดเราตัวเองใน
00:13:52 → 00:13:55 ฐานะหัวหน้าที่ดีขึ้นอย่างนี้ครับหรือถ้า
00:13:55 → 00:13:58 เกิดว่าเราอยู่ในในที่ทำงานที่เราอาจจะทำ
00:13:58 → 00:14:02 งานกันมาในระยะเวลาหนึ่งแล้วที่รู้จักกัน
00:14:02 → 00:14:04 อย่างคุ้นเคยอ๋อคนนี้เป็นแบบนี้คนนี้อัน
00:14:04 → 00:14:07 นี้อันนี้อาจจะครอบเก็บตัวเลยวันนึงที่
00:14:07 → 00:14:09 เขาขึ้นมาเป็นหัวหน้าเราคนในแผนกอาจจะมี
00:14:09 → 00:14:12 ความเข้าใจมากกว่าที่เราคิดก็ได้นะก็ได้
00:14:12 → 00:14:14 ครับใช่
00:14:14 → 00:14:17 คนๆนี้เหมาะสมขึ้นไปคนอื่นจะอาจจะไม่คาด
00:14:17 → 00:14:19 หวังอะไรกับเราเลยก็ได้นะ
00:14:19 → 00:14:21 ถูกไหมไม่คาดหวังก็ตามงานก็หัวหน้างาน
00:14:21 → 00:14:24 แล้วก็เนื้องานจบก็กลับแยกย้ายไงเออก็ดี
00:14:24 → 00:14:27 ก็ไม่ต้องแบบว่ามาบ่นว่าอะไรเยอะแยะก็ได้
00:14:27 → 00:14:29 นะมันจะมีข้อดีอยู่ในนั้นก็ได้นะคะแล้วก็
00:14:30 → 00:14:32 มีอีกอย่างนึงที่เคยเจอก็คือว่าเอ่อคน
00:14:32 → 00:14:34 อินเวิร์ดเนี่ยนะครับพอถึงตำแหน่งที่ต้อง
00:14:34 → 00:14:37 คุยกับคนเนี่ยอืมเขาจะมีความกังวลมากๆใน
00:14:37 → 00:14:39 การต้องต่อบทสนทนา
00:14:39 → 00:14:42 แล้วเขารู้สึกว่าจะต้องคุยสนุกก็ต้องคุย
00:14:42 → 00:14:43 ให้ยาว
00:14:43 → 00:14:47 อยากไปอีกอ่าเขาจะกดดันตัวเองผมเลยจะบอก
00:14:47 → 00:14:51 หลายๆคนว่าเอ่อบางทีอ่ะครับในบาง
00:14:51 → 00:14:53 สถานการณ์คุณอาจจะไม่จำเป็นต้องมี
00:14:53 → 00:14:55 ประโยชน์อะไรสักประโยคอะไรก็ได้เวลาที่
00:14:55 → 00:14:56 คุณไปทำงาน
00:14:56 → 00:14:59 คุณอาจจะแค่มองลูกน้องสักคนนึงแล้วก็ทัก
00:14:59 → 00:15:02 ทายเอ้ยสวัสดีตอนเช้าแล้วก็ยิ้มให้แล้ว
00:15:02 → 00:15:04 คุณก็เดินไปโดยที่ไม่ต้องต่อประโยคอะไรก็
00:15:04 → 00:15:05 ได้
00:15:05 → 00:15:08 บางทีแค่พวกนี้ก็เป็นสิ่งที่มีเสน่ห์หรือ
00:15:08 → 00:15:11 ว่ามีอะไรนะมีความดีงามมากพอแล้วในฐานะ
00:15:11 → 00:15:14 หัวหน้างานคนหนึ่งที่มองเห็นลูกน้องอยู่
00:15:14 → 00:15:15 ในสายตา
00:15:15 → 00:15:18 บางทีพวกนี้อาจจะดีมากกว่าการเข้าไปนั่ง
00:15:18 → 00:15:20 คุยเจ๊าะแจ๊ะซะอีกเพราะวิธีการนั่งคุย
00:15:20 → 00:15:22 เจ๊าะแจ๊ะเราไม่รู้ว่าด้วยซ้ำว่าลูกน้อง
00:15:22 → 00:15:23 เราอยากคุยไหม
00:15:23 → 00:15:26 แต่ที่แน่ๆคือถามตัวเราอยากคุยหรือเปล่า
00:15:26 → 00:15:29 ตัวหลอดจะไม่ได้อยากคุยก็ได้เพราะงั้นเรา
00:15:29 → 00:15:32 เลยไม่ต้องฝึกขั้วขนาดที่ว่าคุยก็คุยให้
00:15:32 → 00:15:35 มันยาวหรือไม่คุยเลยทำเป็นไม่เห็นมันก็
00:15:35 → 00:15:37 สุดขั้วจนเกินไปเนี่ยถ้าเกิดคุยไปแล้ว
00:15:37 → 00:15:39 บรรยากาศเงียบลูกฟังกลิ้งแล้วยังได้ยิน
00:15:39 → 00:15:42 อีกก็คือแบบมันอาจจะยิ่งทำให้เรารู้สึก
00:15:42 → 00:15:43 ว่าไม่
00:15:43 → 00:15:47 อยากเข้ากลุ่มไปเลยก็ได้นะพวกนี้พวกนี้
00:15:47 → 00:15:49 เลยต้องระวังความคาดหวังที่มีตัวเองหรือ
00:15:49 → 00:15:51 คาดหวังว่าเฮ้ยมันจะต้องราบรื่นมันจะต้อง
00:15:51 → 00:15:54 ประโยชน์ยาวมันจะต้องคุยตลกบางทีเราไม่
00:15:54 → 00:15:57 ต้องคาดหวังกันก็ได้เราแค่ทำที่เราสบายใจ
00:15:57 → 00:15:59 อ่ะแม้เราจะเป็น introver แต่ว่าบรรดารอบ
00:15:59 → 00:16:03 ข้างเราเป็น Export เอ้อก็ไม่เป็นไรแล้ว
00:16:03 → 00:16:06 ก็ก็เป็นตามๆเขาไปเราก็เป็นแบบนี้เพียง
00:16:06 → 00:16:10 แต่ว่าแค่ก็ใช้คำว่าให้เรามีส่วนร่วมพอ
00:16:10 → 00:16:13 ประมาณให้ให้บรรยากาศการทำงานมันดีก็พอ
00:16:13 → 00:16:14 ครับ
00:16:14 → 00:16:16 ค่ะแต่ไม่ต้องถึงขนาดว่าฉันจะต้องเข้าไป
00:16:16 → 00:16:19 เพื่อให้ทุกคนรักฉันผมว่าอันนี้เป็นความ
00:16:19 → 00:16:21 กดดันที่สูงมากนะไม่ต้องลงสนามใช่ไหมไม่
00:16:21 → 00:16:24 ต้องไม่ต้องขนาดนั้นแค่ปรากฏตัวและเป็น
00:16:24 → 00:16:27 การคล้ายๆทำให้ทุกคนรู้สึกว่าเราก็สนใจ
00:16:27 → 00:16:29 พวกเขานะแต่แค่เราอาจจะมีจุดที่สนใจหรือ
00:16:29 → 00:16:32 มีความสะดวกประมาณนี้เพราะฉะนั้นผมจะย้ำ
00:16:32 → 00:16:35 เสมอว่าเวลาเราจะทำอะไรบางอย่างนี้ครับทำ
00:16:35 → 00:16:38 เท่าที่พอใช้ก็พอไม่ต้องถึงขนาดว่าทำ
00:16:38 → 00:16:40 เพื่อ excellence หรือ Deep มากๆเป็นคน
00:16:40 → 00:16:43 ที่แบบโอ้โหทุกอย่างทุกคนเทิดทูนมันอาจจะ
00:16:43 → 00:16:45 ไม่ต้องขนาดนั้นเพราะว่าการเปลี่ยนแปลง
00:16:45 → 00:16:48 ตัวเองไม่ใช่เรื่องง่ายการเป็นใครสักคน
00:16:48 → 00:16:50 ที่ไม่ใช่ตัวเองเนี่ยยากมากแล้วมันจะมี
00:16:50 → 00:16:52 จุดที่เราไม่ชอบตัวเองด้วย
00:16:52 → 00:16:55 เพราะงั้นอยากให้ทุกคนไม่ว่าจะเป็นจาก
00:16:55 → 00:16:57 พัฒนาเป็น intrawert ไป extrovert หรือ
00:16:57 → 00:16:59 expert เห้ยฉันเป็นคนเข้าสังคมมากไปอยาก
00:16:59 → 00:17:01 ลดลงมาหน่อย
00:17:01 → 00:17:03 ก็ให้ค่อยๆขยับจากฐานตัวเองเค้าจะได้ชอบ
00:17:03 → 00:17:04 ตัวเองด้วยครับ
00:17:04 → 00:17:08 ซึ่งเขาก็สามารถเป็นผู้นำได้นะสำคัญคือ
00:17:08 → 00:17:10 เนื้องานอย่าเสียเอาแค่นี้เลยเนื้องาน
00:17:10 → 00:17:14 อย่าเสียถ้าเนื้องานดีเนาะแล้วเรายังคง
00:17:14 → 00:17:18 คล้ายๆมีมีการสร้างสรรค์บรรยากาศให้รู้
00:17:18 → 00:17:20 สึกว่าการทำงานมันราบรื่นทุกคนรู้สึกว่า
00:17:20 → 00:17:22 การทำงานที่นี่เป็นเรื่องปลอดภัยทุกคนได้
00:17:22 → 00:17:25 รับการปฏิบัติอย่างยุติธรรมเท่าเทียมหรือ
00:17:25 → 00:17:28 แฟร์บางทีแค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับการทำ
00:17:28 → 00:17:31 งานแล้วแต่เขาจะเลือกกลุ่มเพื่อนที่เขาจะ
00:17:31 → 00:17:33 เฮฮาด้วยสมมุติลูกน้องเนาะจะมีกลุ่ม
00:17:33 → 00:17:34 เพื่อนที่เฮฮาแล้วก็แค่ให้อิสระเขาครับ
00:17:34 → 00:17:38 ส่วนตัวเราก็แค่ทำยังไงนะให้ตัวงานไปได้
00:17:38 → 00:17:41 และยังคงได้มีบรรยากาศการทำงานที่รู้สึก
00:17:41 → 00:17:43 ว่าไปแล้วมันไม่อึดอัดนะครับเอาแค่นั้นก็
00:17:43 → 00:17:47 พอก็เหมือนถ้าก็อยู่กันไปเป็นวันๆใช่ๆ
00:17:47 → 00:17:49 ครับเออสำคัญสุดท้ายก็ต้องรับฟังเนาะจะมี
00:17:49 → 00:17:52 หลายๆที่เขาบอกว่าเอ่อจุดเด่นของ
00:17:52 → 00:17:53 อินเทอร์เน็ตเนี่ยบางครั้งก็จะเป็นเรื่อง
00:17:53 → 00:17:56 ของการที่แบบอาจจะไม่ใช่คนพูดเก่งแต่เป็น
00:17:56 → 00:17:59 คนฟังเก่งเอ้าหรอก็มีเพราะว่าจะเงียบไง
00:17:59 → 00:18:01 แล้วก็เอ่อฟังว่าเขาคิดยังไง
00:18:01 → 00:18:03 ก็ดีแต่ว่าพอฟังแล้วครับเราก็ต้องอย่าลืม
00:18:03 → 00:18:05 นะว่าฟังแล้วเราก็ต้องมีการโต้ตอบเหมือน
00:18:05 → 00:18:07 กันว่าเราเข้าใจเขาว่ายังไง
00:18:07 → 00:18:09 หรือฟังแล้วถ้าเกิดมีอะไรที่เราพออำนวย
00:18:09 → 00:18:12 ความสะดวกเอื้อเฟื้อเขาได้อ่ะเราก็ทำให้
00:18:12 → 00:18:18 ตามตามที่เราพอโอเค
00:18:18 → 00:18:20 ซึ่งบางทีอาจจะมีลูกน้องสักคนนึงเดินมา
00:18:21 → 00:18:22 ปรึกษาเรา
00:18:22 → 00:18:25 ก็ได้ไม่ได้บอกว่าจะต้องไม่มีคำตอบหรือจะ
00:18:25 → 00:18:27 ต้องเงียบหรือจะต้องแบบอาจจะเป็นผู้ฟัง
00:18:27 → 00:18:29 ที่ดีก็ฟังอย่างเดียวเลยไม่มีอะไรให้กลับ
00:18:29 → 00:18:32 ไปเลยเป็นคำตอบก็ไม่ใช่ได้ต้องมีบ้างต้อง
00:18:32 → 00:18:34 มีคำชี้แนะมีอะไรบ้าง
00:18:34 → 00:18:37 บางทีบางทีการวางตัวแบบไม่ต้องไม่ต้อง
00:18:37 → 00:18:39 สนิทที่เชื่อกับลูกน้องมากในบางบริบทนะ
00:18:39 → 00:18:41 อาจจะเป็นข้อดีของคนอินโทรเวิร์ดก็ได้
00:18:41 → 00:18:43 เพราะว่าในบางบริบทนะครับจะมีลูกน้องที่
00:18:43 → 00:18:45 ไม่ค่อยเกรงใจ
00:18:45 → 00:18:47 ถ้าเรา exovert มากแล้วปล่อยตัวให้สนิท
00:18:47 → 00:18:49 มากเกินไปอาจจะมีลูกน้องบางคนที่ไม่ได้
00:18:49 → 00:18:51 เกรงใจเราก็ได้
00:18:51 → 00:18:55 เพราะงั้นบางครั้งการวางตัวห่างๆในบางชุม
00:18:55 → 00:18:58 ชนในบางบริบทอย่างนี้ครับการทำให้เขารู้
00:18:58 → 00:19:00 สึกเข้าไม่ถึงเราบ้างอาจจะเป็นประโยชน์
00:19:00 → 00:19:03 ต่อการเรื่องควบคุมการบริหารก็ได้
00:19:03 → 00:19:05 [เพลง]
00:19:05 → 00:19:08 ปกติสนิทเฮฮามากไปก็เอาแล้วไม่เหลือ
00:19:08 → 00:19:10 แล้วเช่นเส้นของความเป็นหัวหน้าลูกน้อง
00:19:10 → 00:19:14 สั่งการลำบากก็มีครับเพราะฉะนั้นก็คือ
00:19:14 → 00:19:17 จริงๆแล้วก็หมายความว่าเขาคนอินเทอร์เน็ต
00:19:17 → 00:19:21 ปรับตัวได้ในสถานการณ์ในบางอย่างตามที่
00:19:21 → 00:19:23 เขารู้สึกว่าเอ้ยเขาโอเคเราก็ไม่ได้แบบ
00:19:23 → 00:19:26 ไม่ได้แย่หรือว่าฝืนเพราะเกินไปเพราะว่า
00:19:27 → 00:19:29 มันจะยิ่งแต่ว่าถ้ามีโหมดส่วนตัวได้หรือ
00:19:29 → 00:19:31 มีมุมส่วนตัวได้เขาก็จะกลับมาอยู่ในมุม
00:19:31 → 00:19:35 ของเขาซึ่งจริงๆผมเชื่อว่าพอคนเราอายุมาก
00:19:35 → 00:19:37 ขึ้นนะครับความเข้าหาสังคมบางอย่างมันจะ
00:19:37 → 00:19:39 น้อยลงเนาะเพราะว่ามันจะมีทั้งความ
00:19:39 → 00:19:41 เหนื่อยจากงานความเหนื่อยจากการต้องแบบ
00:19:41 → 00:19:44 สังเกตหรือต้องเป็นคนอื่นที่คนอื่นพอใจ
00:19:44 → 00:19:46 เป็นๆตัวเองที่คนอื่นพอใจอะไรอย่างเงี้ย
00:19:46 → 00:19:48 ครับบางทีมันรู้สึกเหนื่อยแล้วก็เหนื่อย
00:19:48 → 00:19:50 ป่ะทุกคนเนี่ยจะเก็บพลังงานกลับมาที่ตัว
00:19:50 → 00:19:53 เองนะครับเออมันเลยทำให้ดูคล้ายๆคน
00:19:53 → 00:19:55 อินโทรเวิร์ดแต่จริงๆแล้วไม่ได้เป็นคนบวช
00:19:55 → 00:19:58 นะแต่แค่เป็นคนที่รู้สึกว่าฉันอยากจะ
00:19:58 → 00:20:01 บริหารพลังงานแบบนี้ที่กลับมาอยู่กับตัว
00:20:01 → 00:20:04 เองไม่ต้องคุยกับใครเยอะและไม่อยากให้ใคร
00:20:04 → 00:20:07 มายุ่งกับเราเยอะครับ
00:20:07 → 00:20:10 แล้วถ้าวันนึงที่คนอินเทอร์เน็ตขึ้นเป็น
00:20:10 → 00:20:14 ผู้นำอ่าเราซึ่งเป็นลูกน้องหรือว่าเป็นคน
00:20:14 → 00:20:16 ที่อยู่ในทีมอย่างเงี้ยค่ะเราจะต้อง
00:20:16 → 00:20:19 ปฏิบัติกับเขายังไงหรือว่าเออก็แค่ต้อง
00:20:19 → 00:20:20 เข้าใจ
00:20:20 → 00:20:22 แค่เข้าใจว่าเรากำลังอยู่กับใครครับเพราะ
00:20:22 → 00:20:25 ถ้าเข้าใจแล้วครับเราจะไม่คาดหวังแล้วการ
00:20:25 → 00:20:28 วางตัวมันจะพอดีกับคนที่อยู่ตรงหน้าเรา
00:20:28 → 00:20:30 คือบางคนเขาแบบค่อนข้างเก็บตัวอย่างเงี้ย
00:20:30 → 00:20:35 เราก็ไม่กล้าเข้าไปไปพูดไปคุยป่ะคนแบบคน
00:20:35 → 00:20:37 ที่แบบทั่วไปอ่ะอันนี้บางครั้งต้องบอก
00:20:37 → 00:20:40 อย่างนี้ครับบางครั้งต่างคนต่างกลัวแต่
00:20:40 → 00:20:42 บางทีอาจจะไม่ได้มีใครแบบตึงใส่กันนะ
00:20:42 → 00:20:44 เพราะว่าตึงบางทีอาจจะรู้สึกว่ามันเหมือน
00:20:44 → 00:20:47 เดาทางไม่ออกว่าเขาจะไม่ชอบเราไหมหรือเขา
00:20:47 → 00:20:49 จะแบบไม่เปิดรับเราไหมบางครั้งไม่ใช่
00:20:49 → 00:20:51 อย่างนั้นนะแค่เขาก็เป็นคนที่ไม่กล้าเปิด
00:20:51 → 00:20:53 ไม่กล้าไม่กล้าเข้าหาใครเหมือนกันแต่เขา
00:20:53 → 00:20:55 เฝ้ารอให้เรามาหาเขาก็มีนะ
00:20:55 → 00:20:57 เพราะงั้นมันอาจจะสามารถสร้างไมตรีได้
00:20:57 → 00:21:01 ด้วยการลองยับลองถามลองเข้าไปคุยก่อนนะ
00:21:01 → 00:21:03 ครับเพื่อเช็คแบบเอ้ยเค้าพอมีท่าทีในการ
00:21:03 → 00:21:06 เปิดไหมเหมือนคนขี้อายอ่ะบางทีคนสวยอาจจะ
00:21:06 → 00:21:09 เป็นคนขี้อายนะที่ไม่กล้าแบบเฮ้ยเขาจะคิด
00:21:09 → 00:21:10 ยังไงกันเรางั้นฉันนั่งอยู่นิ่งๆแล้วกัน
00:21:10 → 00:21:13 แต่บางทีเขาอาจจะเฝ้ารอใครสักคนเดินมาหา
00:21:13 → 00:21:16 เขาก็ได้ครับอย่างเชิงสถานการณ์ก่อนอืม
00:21:16 → 00:21:19 ใช่ครับอย่างเชิงไปก่อนแล้วอย่างคน
00:21:19 → 00:21:21 อินโทรเวิร์ดน่ะด้วยความที่เขามีมุมเป็น
00:21:21 → 00:21:24 ของตัวเองอ่ะเนาะเขาฟังดูแล้วอย่างเงี้ย
00:21:24 → 00:21:27 เหมือนเค้าเป็นคนที่แบบว่ามีสมาธิหรือว่า
00:21:27 → 00:21:30 ในงานที่จะแบบเออเค้าเรียกอะไรอ่ะเป็นคน
00:21:30 → 00:21:34 ที่มีวิสัยทัศน์ในการทำงานที่ในรูปแบบเขา
00:21:34 → 00:21:36 ซึ่งมันอาจจะในมุมเขาเนี่ยที่คนอาจจะมอง
00:21:36 → 00:21:38 ว่าเฮ้ยมันไม่น่าจะเป็นไปได้แต่มันอาจจะ
00:21:38 → 00:21:41 ทำให้ทีมไปได้ก็เป็นไปได้อาจจะเป็นจุด
00:21:41 → 00:21:44 แข็งของเขาก็ได้นะ
00:21:44 → 00:21:48 เป็นการวางกลยุทธ์วางแผนก็ได้เขาอาจจะ
00:21:48 → 00:21:50 เป็นคนที่ใครๆชอบคิดอยู่ในหัวเพื่อแบบ
00:21:50 → 00:21:56 คล้ายๆพัฒนาบางอย่างอยู่ก็ได้ครับ
00:21:56 → 00:21:58 พวกเราทำอันนี้กันเถอะเขาอาจจะไม่ใช่คน
00:21:58 → 00:22:00 อย่างนั้นก็ได้แต่เขาอาจจะมีกลยุทธ์บาง
00:22:00 → 00:22:02 อย่างที่คิดอยู่ในหัวเขาอยู่ก็ได้ครับเออ
00:22:02 → 00:22:05 แสดงว่าในไม่ว่าจะเป็น Intro หรือ
00:22:05 → 00:22:08 extrovert หรือหรือจุดตรงกลางเนี่ยทุกคน
00:22:08 → 00:22:09 ก็จะมี
00:22:09 → 00:22:14 มีความเป็นเอ่อความเชี่ยวชาญหรือความถนัด
00:22:14 → 00:22:16 ความถนัดความแง่ง
00:22:16 → 00:22:20 พอมาอยู่รวมกันมันอาจจะลงตัวก็ได้เนาะพวก
00:22:20 → 00:22:21 นี้มันเลยเป็นเรื่องของทีมเหมือนทีม
00:22:21 → 00:22:22 ฟุตบอล
00:22:22 → 00:22:24 มันคงไม่ใช่ว่าดึงนักเตะระดับโลกทุกคน
00:22:24 → 00:22:26 เท่ากัน 10 คนมาอยู่ด้วยกันแต่บางทีมัน
00:22:27 → 00:22:28 เป็นเรื่องของบุคลิกของทีม
00:22:28 → 00:22:31 ที่ต้องมีคนแบบนี้แบบนั้นแบบนอนผสมกันใน
00:22:31 → 00:22:33 ทีมเรามาถึงจะพอดี
00:22:33 → 00:22:35 เพราะฉะนั้นก็
00:22:35 → 00:22:36 เออ
00:22:36 → 00:22:39 เขาสามารถดูแลทีมได้
00:22:39 → 00:22:43 บริหารทีมได้ไม่ได้ว่าโอ้โหคือทุกวันนี้
00:22:43 → 00:22:45 เอาจริงๆถ้าคนจะมองเนี่ยคนจะมองยังอย่าง
00:22:45 → 00:22:48 คนที่แบบว่าเข้าหาสังคมเปิดหรือๆเข้าหา
00:22:48 → 00:22:50 อะไรเงี้ยมีโอกาสที่จะก้าวหน้ามากกว่าคน
00:22:50 → 00:22:52 ที่จะเก็บตัวเงียบที่แบบไม่เดินเข้าหาใคร
00:22:52 → 00:22:56 ใช่ป่ะเพราะว่าส่วนใหญ่ก็จะไม่ค่อยมีใคร
00:22:56 → 00:22:58 เห็นเหมือนๆแบบฉันอยู่นะแต่ฉันแบบกลาย
00:22:58 → 00:23:00 เป็นคนไร้ตัวตน
00:23:00 → 00:23:02 ก็เลยอาจจะไม่ค่อยได้ถูกเลือกให้เป็นผู้
00:23:02 → 00:23:04 นำสักเท่าไร
00:23:04 → 00:23:06 เห็นศักยภาพหรือเปล่า
00:23:06 → 00:23:09 เพราะบางครั้งเรื่อง Intel อาจจะไม่ได้
00:23:09 → 00:23:12 สำคัญเท่าเรื่องความเป็นมืออาชีพเนื้องาน
00:23:12 → 00:23:15 คุณได้หรือเปล่าถ้าคุณ extrovert แต่
00:23:15 → 00:23:18 เนื้องานคนแบบไม่ได้เลยมันก็ไม่มีศักยภาพ
00:23:18 → 00:23:20 ไปโชว์มันก็ไม่ควรเลื่อนขั้นเหมือนกัน
00:23:20 → 00:23:23 แต่ถ้าเกิดเนื้องานดีทุกอย่างสำเร็จตาม
00:23:23 → 00:23:25 กลยุทธ์ตามยุทธศาสตร์ตามเป้าหมาย
00:23:25 → 00:23:27 introvert ก็เป็นหัวหน้างานได้เหมือนกัน
00:23:27 → 00:23:31 ขอสำคัญที่ว่าไม่ว่าควรจะ Export entert
00:23:31 → 00:23:33 amwayward หรือบุคลิกอะไรก็ตามเนาะถ้าคน
00:23:33 → 00:23:35 คงความเป็นมืออาชีพ Professional อย่าง
00:23:35 → 00:23:36 เงี้ยครับปฏิบัติกับเพื่อนร่วมงานอย่าง
00:23:36 → 00:23:39 มืออาชีพและทุกคนมีเป้าหมายเดียวกันคือ
00:23:39 → 00:23:42 การทำให้งานราบรื่นผ่านไปด้วยดีและเกิด
00:23:42 → 00:23:44 ความงอกงามต่อองค์กรจริงๆบุคลิกอะไรก็ทำ
00:23:44 → 00:23:47 งานได้ครับจริงดูแบบอย่างคนอินโทรแบบนี้
00:23:48 → 00:23:53 น่าจะทำให้เกิดการขัดแย้งน้อย
00:23:53 → 00:23:56 บางทีชอบปั่นเลยปั่นเดี๋ยวเม้าท์มอย
00:23:56 → 00:23:58 เดี๋ยวบางทีก็มีพวกนี้เหมือนกันเนาะแต่ก็
00:23:58 → 00:24:00 ไม่ได้อยากพูดว่า exterver ยังเป็นอย่าง
00:24:00 → 00:24:02 นั้นทุกคนเนาะแต่แค่ว่า Excel Word มัน
00:24:02 → 00:24:05 เพิ่มโอกาสเสี่ยงถ้าเกิดคนนั้นเป็นคนที่
00:24:05 → 00:24:08 แบบชอบใส่ไฟด้านลบก็กลายเป็นนั้นแหละจะ
00:24:08 → 00:24:10 เป็นการปั่นให้เกิดเรียกว่าสิ่งที่มันลุก
00:24:10 → 00:24:11 ลามเป็นปัญหา
00:24:11 → 00:24:14 แต่ถ้าเกิดเป็นคนที่แบบค่อนข้างเป็นคนจิต
00:24:14 → 00:24:16 ใจดี exovert อาจจะคล้ายๆเข้าไปสร้าง
00:24:16 → 00:24:19 บรรยากาศที่ดีในการทำงานก็ได้แต่นี้มัน
00:24:19 → 00:24:21 เลยขึ้นอยู่กับว่าทุกอย่างจะดีไม่ดีไม่
00:24:21 → 00:24:23 ได้ขึ้นกับ Intel นะครับมันขึ้นอยู่กับ
00:24:23 → 00:24:26 คุณภาพจิตใจในภาคอื่นๆด้วยเหมือนกันบวก
00:24:26 → 00:24:29 กับการที่เป็นมืออาชีพในการทำงานไหมเธอจะ
00:24:29 → 00:24:31 มานั่งภาวะพะวงโอ้ยคนนี้เป็นคนเก็บตัว
00:24:31 → 00:24:33 เงียบเป็นผู้นำที่ดีไม่ได้มันไปตอบอะไร
00:24:33 → 00:24:36 แบบนั้นไม่ได้ใช่ครับไม่แน่ว่าบางทีเค้า
00:24:36 → 00:24:38 อาจจะบริหารงานได้ดีกว่าที่เราคิดไว้ก็
00:24:38 → 00:24:41 ได้ใช่ๆมันอย่างที่คุณเอิ้นบอกมันมันถูก
00:24:41 → 00:24:44 เลยที่ว่าเราไม่ควรจะแยกว่าเอ้ย Intro
00:24:44 → 00:24:47 Word แย่ Export จะดีกว่าหรือว่ามีโอกาส
00:24:47 → 00:24:49 ในการเติบโตมากกว่าแต่ถ้าเมื่อไหร่ที่
00:24:49 → 00:24:52 อินโทรเวิร์ดที่เป็นคนที่ทำงานคนเดียวชอบ
00:24:52 → 00:24:54 เก็บตัวหรือไม่ค่อยชอบสุงสิงอะไรกับใคร
00:24:54 → 00:24:57 อ่ะบางทีถ้ามีคนเห็นน่ะศักยภาพก็เผลอๆ
00:24:57 → 00:24:59 เค้ามากกว่าเพราะว่าความที่ไม่ได้ยุ่งกับ
00:24:59 → 00:25:02 ใครเออมันดีอ่ะมันอาจจะเป็นจุดดีที่มาก
00:25:02 → 00:25:05 กว่าอย่างอื่นด้วยซ้ำไปมันก็อยู่ที่ว่า
00:25:05 → 00:25:07 การอยู่ร่วมกัน
00:25:07 → 00:25:10 ตอนนี้น่าจะเปิดกว้างแล้วแหละคงไม่ได้
00:25:10 → 00:25:12 บันทึกไว้แต่ผมคิดว่าคนที่ความรู้สึกจะมี
00:25:12 → 00:25:15 ปัญหาจะเป็นลักษณะว่าคนที่อยากได้
00:25:15 → 00:25:17 บรรยากาศของการทำงานที่เป็นกันเองหรือ
00:25:17 → 00:25:20 เป็นความรู้สึกผ่อนคลายมั้งผมเคยเจอเจอ
00:25:20 → 00:25:22 แบบลูกค้าที่เขาฝึกศึกษาว่าเขาทำงานที่ทำ
00:25:22 → 00:25:24 งานแล้วหัวหน้างานก็เป็นคนเก็บตัวมากเลย
00:25:24 → 00:25:28 เขารู้สึกกังวลที่จะเข้าไปในห้องนายแล้ว
00:25:28 → 00:25:31 ปรึกษาบางอย่างเพราะเดาทางไหนไม่ออกแต่
00:25:31 → 00:25:33 นายไม่เคยก้าวร้ายกับไม่เคยก้าวร้าวกับ
00:25:33 → 00:25:35 เขานะแต่เขาแค่เดาไม่ออกว่าเข้าไปแล้ว
00:25:35 → 00:25:37 เป็นยังไงแล้วเขาก็เลยนั่งทำงานเงียบๆ
00:25:37 → 00:25:40 อยู่คนเดียวไม่รู้จะทำไงอึดอัดมากบางที
00:25:40 → 00:25:43 บางทีบางคนเขาก็อยากได้ความรู้สึกถูกทำ
00:25:43 → 00:25:46 ให้บรรยากาศการทำงานมันผ่อนคลายขึ้นว่า
00:25:46 → 00:25:48 เฮ้ยคุยได้นะมีอะไรคุยกันได้หรือว่าเจอ
00:25:48 → 00:25:50 ทักทายกันมันอาจจะทำให้รู้สึกทำงานแล้ว
00:25:50 → 00:25:51 สบายใจขึ้นนะครับ
00:25:51 → 00:25:53 แต่พออยู่เงียบๆแล้วทำตัวไม่ถูกปั๊บ
00:25:53 → 00:25:56 ทีเนี้ยทุกคนจะทำงานยากอันนี้อาจจะเป็น
00:25:56 → 00:25:58 ปัญหาของ Intel ที่มีผลก็ได้นะเพราะงั้น
00:25:58 → 00:26:01 อย่างที่ผมเล่าให้ฟังว่าบางทีเราต้องเช็ค
00:26:01 → 00:26:02 บรรยากาศในการทำงานตลอดว่าเอ๊ะตอนนี้มัน
00:26:03 → 00:26:05 แบบเงียบไปไหมชื่อไปไหมหรือมันตึงไปไหม
00:26:05 → 00:26:07 แล้วเราจะต้องหยอดอะไรบางอย่างเพื่อทำให้
00:26:07 → 00:26:09 เกิดการหล่อลื่นอยู่ในองค์กรนะครับให้มัน
00:26:09 → 00:26:12 รู้สึกสบายใจขึ้น
00:26:12 → 00:26:14 ต้องใช้อ่ะ
00:26:14 → 00:26:17 มันต้องหาจุดที่มัน Balance เพราะว่ามัน
00:26:17 → 00:26:19 คือการทำงานโดยโดยส่วนรวมมันไม่ได้เหมือน
00:26:19 → 00:26:22 เรียนที่แบบมาทำงานกลุ่มเสร็จจบอันนี้มัน
00:26:22 → 00:26:25 มีผลกับเรื่องของชีวิตเรื่องของครอบครัว
00:26:25 → 00:26:30 เรื่องของการดำรงชีพอะไรอย่างนี้คงไม่ได้
00:26:30 → 00:26:32 สนุกกับการที่จะไปนั่งหางานใหม่มันก็ไม่
00:26:32 → 00:26:34 ได้เรื่องง่ายยิ่งถ้าพบตัวเองเป็น
00:26:34 → 00:26:36 introvert ด้วยยิ่งแล้วอยากรู้สึกว่ามัน
00:26:36 → 00:26:39 อาจจะยากไปอยู่ตรงไหนก็ยากแล้วแบบนี้ก็
00:26:39 → 00:26:42 ได้นะอ่ะก็ดูแลทีมได้ค่ะไม่ได้มีปัญหา
00:26:42 → 00:26:45 อะไรนะคะอ่ะขอบคุณคุณเอิ้นค่ะสวัสดีครับ
00:26:45 → 00:26:48 หมดเวลาแล้วค่ะคุณผู้ฟังพบกันใหม่ครั้ง
00:26:48 → 00:26:51 หน้ากับรายการโรงหมอทาง Thai PBS ค่ะวัน
00:26:51 → 00:26:53 นี้หมดเวลาแล้วนะคะพบกันใหม่ครั้งหน้าค่ะ
00:26:53 → 00:26:57 ลาไปก่อนสวัสดีค่ะ This Is Choice
00:26:57 → 00:26:59 previous What Can't เวลาที่เราเครียด
00:26:59 → 00:27:01 จะส่งผลกระทบอะไรกับร่างกายของเราบ้าง
00:27:01 → 00:27:04 อาหารช่วยรักษาได้หรือไม่ผู้ช่วย
00:27:04 → 00:27:06 ศาสตราจารย์ดรเอกราชบำรุงพืชผู้เชี่ยวชาญ
00:27:06 → 00:27:09 ด้านโภชนาการมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตมา
00:27:09 → 00:27:10 เล่าให้ฟังครับ
00:27:10 → 00:27:13 ขึ้นชื่อว่าเครียดไม่ดีเนาะเราก็ต้อง
00:27:13 → 00:27:15 พยายามอารมณ์ดีไว้อย่างที่เขาว่าอารมณ์ดี
00:27:15 → 00:27:18 อยู่ยาวอารมณ์เน่าอยู่สั้นจริงๆแล้วเนี่ย
00:27:18 → 00:27:20 ต้องบอกก่อนว่าก็ต้องหาสาเหตุของความ
00:27:20 → 00:27:23 เครียดมาก่อนเราเครียดจากอะไรเพราะว่ามัน
00:27:23 → 00:27:26 ก็แก้อุบัติเหตุเนาะเราก็ต้องเอาอริยสัจ 4
00:27:26 → 00:27:29 มาจากเนาะเพราะเรารู้ว่าแบบเฮ้ยสาเหตุมา
00:27:29 → 00:27:31 จากตรงนั้นเนี่ยเราก็ต้องพยายามที่จะไปรถ
00:27:31 → 00:27:34 ที่อุบัติเหตุแต่บางคนเนี่ยเครียดแบบไม่
00:27:34 → 00:27:38 รู้เหตุเขาเรียกทรัพย์ contest อ่าซึ่ง
00:27:38 → 00:27:40 เครียดเนี่ยมันจะมีเครียดทั้งร่างกายและ
00:27:40 → 00:27:43 เครียดทั้งจิตใจร่างกายก็มีผลทำให้จิตใจ
00:27:43 → 00:27:46 กลับไม่ดีไอ้จิตใจมันก็มีผลทำให้ร่างกาย
00:27:46 → 00:27:48 ทั้งฟิสิคอล Street และ mental stress
00:27:48 → 00:27:50 ซึ่งทางการแพทย์ and Thai จริงเขาก็จะมี
00:27:50 → 00:27:52 การตรวจมีเครื่องไม้เครื่องมือเฮ้ยคุณแบบ
00:27:52 → 00:27:54 สั่งความเชื่อ Street นะอารมณ์เหมือน
00:27:54 → 00:27:57 เครียดแฝงอ่ะหรือร่างกายของคุณมีภาวะ
00:27:57 → 00:28:00 เครียดเกิดขึ้นเช่นตัวชี้วัดออกซิเดทีฟ
00:28:00 → 00:28:03 สเตรทเพราะมันจะส่งผลกระทบกับร่างกายทั้ง
00:28:03 → 00:28:05 หลายแหล่ทำให้เซลล์ของเราเนี่ยเสื่อมแก่
00:28:05 → 00:28:07 ตายและกลายพันธุ์แล้วเกิดโรคเรื้อรัง
00:28:07 → 00:28:10 ฮอร์โมนแห่งความเครียดอย่างเงี้ยก็จะสูง
00:28:10 → 00:28:13 ขึ้นเช่นคอตีเศร้าสูงขึ้นทำให้อ้วนลงพุง
00:28:13 → 00:28:15 ไขมันสะสมช่องท้องเยอะเครียดคุณจะอ้วน
00:28:15 → 00:28:18 เครียดภูมิคุ้มกันคุณจะลดลงทันทีเลยเพราะ
00:28:18 → 00:28:21 วัดเลยอีโมโนกูริน IG เอตัวชี้วัดภูมิ
00:28:21 → 00:28:24 คุ้มกันอันนึงนะครับที่น้ำลายอย่างเงี้ย
00:28:24 → 00:28:26 วัดเลยเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณเครียดวิตก
00:28:26 → 00:28:29 กังวลอิโมโนโกโบรินจะดรอปเมื่อไหร่ก็ตาม
00:28:29 → 00:28:32 ที่คุณเครียดฮอร์โมนแห่งความเครียดจะ
00:28:32 → 00:28:34 หลั่งออกมาเยอะแล้วก็ทำให้ไขมันสะสมเยอะ
00:28:34 → 00:28:38 อาหารก็มีบทบาทอันนึงที่สำคัญที่จะไปช่วย
00:28:38 → 00:28:40 ปรับสมดุลฮอร์โมนต่างๆที่ช่วยให้เราเนี่ย
00:28:40 → 00:28:44 รู้สึกระบบผ่อนคลายลดความเครียดความวิตก
00:28:44 → 00:28:46 กังวลเพราะฮอร์โมนที่จะทำให้เรารู้สึกสงบ
00:28:46 → 00:28:50 สุขได้เนี่ยมันก็จะมีซีโรโตนินหรือแม้
00:28:50 → 00:28:52 กระทั่งอินโดฟินอย่างนี้เป็นฮอร์โมนแห่ง
00:28:52 → 00:28:53 ความสุขเห็นไหม
00:28:53 → 00:28:56 เอ็นโดรฟินหลั่งก็มีความสุขนะ
00:28:56 → 00:29:00 ดูปลามีหลั่งก็แบบว่าเอ้ยไม่เครียดอย่าง
00:29:00 → 00:29:02 นี้มันก็จะมีแบบพวกคอมงฮอร์โมนทั้งหลาย
00:29:02 → 00:29:05 แหล่นี่อาหารที่มีผลว่าแบบเฮ้ยจากข้อมูล
00:29:05 → 00:29:07 การศึกษาวิจัยว่าเออมันช่วยลดเครียดได้
00:29:07 → 00:29:10 ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนทำให้เราหลับได้สบาย
00:29:10 → 00:29:14 ขึ้นนะแต่ต้องบอกว่ามันมีส่วนช่วยแต่ไม่
00:29:14 → 00:29:16 ใช่ทั้งหมดถ้าปัจจัยเหตุคุณยังไม่ถูกแก้
00:29:16 → 00:29:19 หลักๆ
00:29:19 → 00:29:24 ท้าย PBS
00:29:24 → 00:29:27 ติดตามรายการทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น
00:29:27 → 00:29:29 ของไทย
00:29:29 → 00:29:33 spotify Sound Google ผ่อนคลาย
00:29:33 → 00:29:42 และ YouTube Channel Thai PBS ผ่อนค่ะ
00:29:42 → 00:29:47 [เพลง]