ความจำเสื่อมเกิดจากอะไรบ้าง

สิ่งต่อไปนี้ ไม่ควรพูดกับผู้ป่วยความจำเสื่อม

จากช่อง : Doctor Tany


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:03 สวัสดีครับสังคมของเราในปัจจุบันนั้นก็มี

00:00:0300:00:06 ผู้ป่วยสูงอายุมากพอสมควรเลยนะครับแล้ว

00:00:0600:00:08 ปัญหาที่ตามมาก็คือเรื่องของความจำครับ

00:00:0800:00:11 ความจำเสื่อมเป็นปัญหาที่ค่อนข้างที่จะ

00:00:1100:00:16 รับมือลำบากเลยทีเดียวนะครับคนที่ป่วยเอง

00:00:1600:00:19 ก็มีปัญหาเยอะแยะไปหมดนะครับเขาอาจจะรู้

00:00:1900:00:21 ตัวหรือไม่รู้ตัวก็แล้วแต่นะครับแต่ผู้ดู

00:00:2100:00:25 แลก็ประสบปัญหาไม่แพ้กันเลยนะครับไม่ว่า

00:00:2500:00:27 จะเป็นปัญหาในด้านของความสัมพันธ์การ

00:00:2700:00:30 ทะเลาะเบาะแว้งนะครับความเชื่อใจซึ่งกัน

00:00:3000:00:32 และกันความเครียดซึ่งเกิดจากการต้องดูแล

00:00:3200:00:35 ผู้ป่วยความจำเสื่อมทำความเครียดที่เกิด

00:00:3500:00:38 จากการต้องตอบคำถามซ้ำๆนะครับหรือต้องคอย

00:00:3800:00:42 ดูแลเรื่องของปัญหาต่างๆนะครับวันนี้ผมก็

00:00:4200:00:44 เลยอยากจะเอาประสบการณ์ของตัวเองเนี่ยมา

00:00:4400:00:47 เล่าให้ฟังนะครับว่าสิ่งไหนที่ไม่ควรทำ

00:00:4700:00:50 บ้างในการที่จะรับมือกับผู้ป่วยที่มีความ

00:00:5000:00:53 จำเสื่อมนะครับหรือผู้ป่วยสูงอายุต่างๆ

00:00:5300:00:55 ที่เรารู้สึกว่าเขาเริ่มมีปัญหาทางด้าน

00:00:5500:00:58 ความจำนั้นเรามีวิธีในการรับมืออย่างไร

00:00:5800:01:00 บ้างเพื่อไม่ให้เรามีความเครียดเพิ่มขึ้น

00:01:0000:01:04 กว่าที่ควรจะเป็นนะครับพบกับผมนะครับนาย

00:01:0400:01:06 แพทย์ธนินธนียวรรณนะครับเป็นอาจารย์แพทย์

00:01:0600:01:08 อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาครับเชี่ยวชาญ

00:01:0800:01:11 โรคปอดการปลูกถ่ายปอดและวิกฤตบำบัดนะครับ

00:01:1100:01:14 สำหรับสิ่งที่ผมจะพูดในวันนี้นั้นมันก็มา

00:01:1500:01:17 จากประสบการณ์ตรงของผมในการที่ผมจะต้องดู

00:01:1700:01:20 แลคนไข้สูงอายุจำนวนมากนะครับแล้วก็มี

00:01:2000:01:22 หลายครั้งที่ผมจะต้องดูแลคนไข้ที่มีปัญหา

00:01:2200:01:27 ทางด้านความจำแล้วก็สังเกตว่ามันมีสิ่ง

00:01:2700:01:30 ต่างๆเหล่านี้ที่จะพูดในวันนี้นะครับที่

00:01:3000:01:32 มันทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ดูแลกับ

00:01:3200:01:36 ผู้ป่วยมันแย่ลงนะครับแล้วก็แนะนำว่าอย่า

00:01:3600:01:40 ไปทำนะครับก่อนที่เราจะเข้าเรื่องผมจะ

00:01:4000:01:43 ต้องแนะนำก่อนว่าปัญหาของคนที่ความจำ

00:01:4300:01:47 เสื่อมนั้นมันมีปัญหาที่เปรียบเทียบได้

00:01:4700:01:51 กับว่าถ้าเรามีปัญหาที่สมองก็คือปัญหาทาง

00:01:5100:01:53 ด้านความจำเสื่อมการที่เราไปพยายามใช้

00:01:5300:01:56 เหตุผลกับเขาเนี่ยมันจะไม่ได้ผลนะครับมัน

00:01:5600:01:59 ก็เหมือนกับเราพูดให้คนที่เขาตามบอร์ด

00:01:5900:02:03 มองเห็นนั่นแหละครับเช่นถ้าเราเจอคนตาบอด

00:02:0300:02:06 คนนึงแล้วเราบอกเขาว่าลืมตากว้างๆสินะ

00:02:0600:02:09 ครับเดี๋ยวก็เห็นเองเราโฟกัสตาที่ตรงนี้

00:02:0900:02:12 นะเดี๋ยวเราจะเห็นภาพนะเราหันไปทางนั้นสิ

00:02:1200:02:14 เราจะเห็นภาพต่อให้เราบรรยายให้ดียังไง

00:02:1400:02:15 ให้

00:02:1500:02:19 สมองเรายังไงก็ตามนะครับเราก็ไม่สามารถทำ

00:02:1900:02:21 ให้คนตาบอดเนี่ยเขาเห็นภาพเหมือนกับคนตา

00:02:2100:02:24 ดีได้หรอกครับนะครับเช่นเดียวกับคนที่มี

00:02:2400:02:27 ปัญหาทางด้านความจำความจำเสื่อมต่อให้เรา

00:02:2700:02:31 บอกเขาแนะนำเหตุผลให้ดียังไงก็แล้วแต่ยัง

00:02:3100:02:33 ไงเขาก็ไม่มีทางที่จะเข้าใจได้เหมือนเรา

00:02:3300:02:36 นะครับดังนั้นสิ่งที่เราจำเป็นจะต้องจำ

00:02:3600:02:39 ไว้ในหัวเลยก็คือว่าคนป่วยที่มีความจำ

00:02:3900:02:43 เสื่อมนั้นหลักการในการเข้าใจของเขานั้น

00:02:4300:02:47 จะแตกต่างไปจากเราโดยสิ้นเชิงนะครับเราจะ

00:02:4700:02:50 เอาเหตุผลของเราไปให้เขาเข้าใจมันเป็นไป

00:02:5000:02:53 ไม่ได้ครับแล้วต่อให้เราทำยังไงมันก็จะ

00:02:5300:02:55 เกิดปัญหาเรื่องการถกเถียงแล้วก็เรื่อง

00:02:5500:02:58 ของความสัมพันธ์ตามมานะครับดังนั้นสิ่ง

00:02:5800:03:00 นี้คือสิ่งที่เราต้องเข้าใจไว้ก่อนนะครับ

00:03:0000:03:04 เป้าหมายของการที่เราดูแลคนไข้ที่ความจำ

00:03:0400:03:06 เสื่อมแล้วก็การพูดคุยกับเขานั้นเป้าหมาย

00:03:0600:03:09 ของเราก็คือเพื่อต้องการให้ความสัมพันธ์

00:03:0900:03:13 เป็นไปอย่างดีนะครับมีความสงบสุขนะครับ

00:03:1300:03:16 แล้วก็ไม่อยู่ในความสัมพันธ์ที่โมโหหรือ

00:03:1600:03:19 โกรธหรือว่าขึ้นเสียงอะไรกันแต่อย่างใดนะ

00:03:1900:03:22 ครับให้ความสัมพันธ์มันราบรื่นให้มีความ

00:03:2200:03:24 เชื่อใจกันนะครับนั่นคือสิ่งที่เราต้อง

00:03:2400:03:27 มุ่งหวังให้เกิดขึ้นนะครับทีนี้

00:03:2700:03:31 สิ่งผิดพลาดซึ่งมักจะเกิดขึ้นระหว่างผู้

00:03:3100:03:34 ดูแลกับผู้ป่วยคืออะไรบ้างนะครับประการ

00:03:3400:03:39 แรกเป็นการที่เราพยายามแก้ไขเป็นพยายาม

00:03:3900:03:42 แก้ไขของเขาเช่นผู้ป่วยพูดอะไรผิดขึ้นมา

00:03:4200:03:44 สักอย่างเนี่ยเราต้องรีบแก้ไขเขาเช่นว่า

00:03:4400:03:49 เราไปเจอผู้ป่วยบอกว่าเอ้ยวันนี้เรายัง

00:03:4900:03:51 ไม่กินข้าวเลยอ่ะแล้วเราก็รู้สึกว่าเขา

00:03:5100:03:55 กินแล้วเนี่ยเฮ้ยกินแล้วจำไม่ได้เองแหม

00:03:5500:03:59 กินไปเมื่อกี้เองนะครับหรือบางทีเราเจอ

00:03:5900:04:02 คนไข้บอกว่าเนี่ย

00:04:0200:04:05 ยังไม่ได้ให้ตังค์เขาเลยนะครับเพราะว่า

00:04:0500:04:08 เขาจะเอาตังค์ไปซื้อขนมกินจะเอาตังค์ไป

00:04:0800:04:11 จ่ายค่าไฟค่าน้ำทำไมเรายังไม่ให้ตังค์เขา

00:04:1100:04:13 อีกนะครับแต่จริงๆคือเราให้ไปแล้วเราก็

00:04:1300:04:16 บอกว่าไม่ใช่เนี่ยเมื่อกี้ให้ไปก็เพิ่ง

00:04:1600:04:19 บอกไปแล้วไงว่าให้ไปนะครับสิ่งเหล่านี้

00:04:1900:04:21 เนี่ยนะครับเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงนะ

00:04:2100:04:24 ครับถามว่าทำไมควรหลีกเลี่ยง

00:04:2400:04:27 การที่ท่านไปพยายามแก้ไขทุกๆอย่างของเขา

00:04:2700:04:30 ให้มันถูกต้องเนี่ยนะครับคือสมองของคนที่

00:04:3000:04:32 เขามีปัญหาทางด้านความจำเนี่ยนะครับเขาจำ

00:04:3200:04:36 ไม่ได้นะครับเขาจำไม่ได้เวลาที่ท่านยิ่ง

00:04:3600:04:39 ไปพยายามแก้ไขเขาเนี่ยสิ่งที่เขาจะเกิด

00:04:3900:04:42 ขึ้นก็คือการปกป้องตัวเองหรือที่ภาษาทาง

00:04:4200:04:44 ภาษาอังกฤษเราเรียกว่า defensive นะครับ

00:04:4400:04:49 ก็คือเขาก็จะไม่ใช่ละเพราะว่าในหัวเขา

00:04:4900:04:51 เชื่อแบบนั้นน่ะแล้วถ้าท่านไปเปลี่ยนแปลง

00:04:5100:04:53 ความเชื่อของเขาเนี่ยมันจะเกิดการทะเลาะ

00:04:5300:04:56 กันขึ้นมาเลยนะครับเขาก็จะบอกว่าเฮ้ยเขา

00:04:5600:04:58 ยังไม่ได้กินแบบเนี้ยถ้าเขาพูดเรื่องของ

00:04:5800:05:00 การกินอาหารอยู่เขาไม่ได้กินยังไงเขาก็

00:05:0000:05:02 ยังไม่ได้กินแต่ถ้าท่านไปพยายามแก้ไขเขา

00:05:0200:05:04 เนี่ยยังไงก็ไม่สำเร็จแล้วก็สุดท้ายก็จะ

00:05:0400:05:07 ลงเอยด้วยกันถกเถียงกันการเปลืองพลังงาน

00:05:0700:05:10 ของท่านในการพยายามไปแก้ไขทุกสิ่งทุก

00:05:1000:05:12 อย่างของเขานะครับ

00:05:1200:05:16 เราเนี่ยไม่จำเป็นจะต้องไปแก้ไขทุกสิ่ง

00:05:1600:05:18 ทุกอย่างของเขาให้มันถูกต้องนะครับต่อให้

00:05:1800:05:20 เขาเข้าใจผิดเขาพูดผิดอะไรก็แล้วแต่ปล่อย

00:05:2000:05:22 ไปครับไม่มีปัญหา

00:05:2200:05:25 อาจจะมียกเว้นในกรณีที่เป็นความเข้าใจผิด

00:05:2500:05:30 ที่มันจะส่งผลเสียมากมายนะครับอ่าส่งผล

00:05:3000:05:32 เสียเยอะๆนะครับพวกนี้ที่เราจำเป็นจะต้อง

00:05:3300:05:35 ไปแก้ไขแต่โดยทั่วไปเราไม่ต้องแก้ไขแล้ว

00:05:3500:05:38 ถ้าเป็นไปได้นะครับเช่นสมมติมีบุคคลทั้ง

00:05:3800:05:41 หมด 3 คนคือตัวท่านผู้ป่วยแล้วก็บุคคลที่

00:05:4100:05:43 3 นะครับสมมุติว่าผู้ป่วยเนี่ยไปเจอ

00:05:4300:05:46 บุคคลที่ 3 แล้วก็พูดอะไรที่มันรู้สึกว่า

00:05:4600:05:49 เอออาจจะไม่ถูกต้องเช่นอ่าผู้ป่วยบอกว่า

00:05:4900:05:54 เอ้ยวันก่อนให้เงินเธอไปซื้อรถเนี่ยเป็น

00:05:5400:05:56 ยังไงซื้อรถหรือยังซึ่งจริงๆสมมุติว่า

00:05:5700:05:58 เหตุการณ์นั้นมันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนะ

00:05:5800:05:59 ครับ

00:05:5900:06:02 ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนไม่เคยมีผู้ป่วยไม่

00:06:0200:06:05 เคยเอาตังค์ไปให้บุคคลที่ 3 เพื่อซื้อรถ

00:06:0500:06:08 อะไรอย่างนี้นะครับตอนนั้นเนี่ยเราไม่

00:06:0800:06:10 ต้องไปแก้ไขอะไรทั้งสิ้นนะครับไม่ต้องไป

00:06:1000:06:14 บอกอะไรแต่ว่าวิธีก็คือให้เราดึงบุคคลที่

00:06:1400:06:17 3 นี้ออกไปคุยเป็นการส่วนตัวว่าเออคนนี้

00:06:1700:06:19 เขาความจำเสื่อมนะเมื่อกี้จริงๆไม่ได้

00:06:1900:06:22 เกิดขึ้นหรอกนะครับไม่ต้องไปคิดอะไรเยอะ

00:06:2200:06:25 นะครับสำหรับคนที่ความจำดีเนี่ยเราใช้

00:06:2500:06:28 วิธีพูดแบบนี้เหตุผลเขาก็จะเข้าใจแต่เรา

00:06:2800:06:31 จะใช้วิธีพูดแบบมีเหตุผลกับคนที่ความจำ

00:06:3100:06:34 เสื่อมมันไม่ได้ครับเรื่องพวกนี้ที่เป็น

00:06:3400:06:36 เรื่องใหญ่ๆเนี่ยเราจะต้องมีการชี้แจงให้

00:06:3600:06:40 คนนอกทราบนะครับแต่ว่าการไปชี้แจงให้คน

00:06:4000:06:42 ที่มีความจำเสื่อมสภาพนะครับหรือว่าไป

00:06:4200:06:46 พยายามแก้ไขสิ่งที่เขาพูดผิดให้ถูกไม่ได้

00:06:4600:06:48 หรอกครับอ่าเรื่องนี้จะไม่สำเร็จนะครับ

00:06:4800:06:53 อ่าดังนั้นการแก้ไขอย่าไปทำนะครับอ่าอย่า

00:06:5300:06:56 ไปทำอันที่ 2 คือการไปเถียงกับเขานะครับ

00:06:5600:07:00 ไปเถียงกับเขานี่ยังไงก็ไม่จบแน่นอนนะ

00:07:0000:07:03 ครับที่เจอบ่อยๆจริงๆญาติผมก็เคยเจอแบบ

00:07:0300:07:06 นี้เหมือนกันนะครับผมคิดว่าท่านอาจจะเคย

00:07:0600:07:07 เจอมันเหมือนกันนะครับสำหรับท่านที่ต้อง

00:07:0700:07:11 ดูแลคนที่มีความจำเสื่อมเช่นคนที่มีความ

00:07:1100:07:14 จำเสื่อมจะบอกว่าเธอขโมยตังค์ฉันไปอ่ะ

00:07:1400:07:18 เอาตังค์ฉันไปไหนนะครับขโมยตังค์ไปได้ยัง

00:07:1800:07:19 ไงนะครับ

00:07:1900:07:22 คำถามนี้ผมคิดว่าหลายๆคนคงจะเจอบ่อย

00:07:2200:07:25 เหมือนกันบอกว่าเออลูกหลานขโมยตังค์แล้ว

00:07:2500:07:28 กังวลว่าจะขโมยตังค์นะครับแล้วถ้าท่าน

00:07:2800:07:30 เป็นลูกหลานท่านจะทำยังไงถ้าบอกเฮ้ยไม่

00:07:3000:07:35 ได้ขโมยไหนขโมยอะไรใช่ไหมไม่มีไม่มีอะไร

00:07:3500:07:37 ที่เราขโมยตังค์โอ๊ยมั่วแล้วใช่ไหมครับ

00:07:3700:07:38 แล้วก็จะเถียงกันไปเถียงกันมากคือเราไม่

00:07:3800:07:41 ได้เอาตังค์ไปเราไม่เอาตังค์เขาไปเราเข้า

00:07:4100:07:43 ใจอยู่กับใจนะครับว่าเราไม่ได้เอาไปเขามา

00:07:4300:07:45 เขามาโบ้ยว่าเราออกไปได้ยังไงเราก็โกรธ

00:07:4500:07:47 แล้วก็เถียงกับเขาแล้วเถียงไปเถียงมามัน

00:07:4700:07:50 ก็ไม่จบครับแล้วความสัมพันธ์ก็จะแย่ลง

00:07:5000:07:54 แล้วถามว่ากรณีเนี้ยเรามีวิธีในการรับมือ

00:07:5400:07:57 ยังไงที่จะทำให้เราไม่เถียงนะครับมีด้วย

00:07:5700:07:59 กัน 3 ข้อที่ผมคิดมานะครับ

00:07:5900:08:02 ข้อแรกทางภาษาอังกฤษเราจะเรียกว่า acnolex

00:08:0200:08:07 คือการยอมรับรับรู้ก่อนนะครับยอมรับรับ

00:08:0700:08:11 รู้ในสิ่งที่ผู้ป่วยพูดนะครับอันที่ 2 ก็

00:08:1100:08:14 คือว่าพอเรายอมรับไปแล้วเนี่ยเราจะต้องมี

00:08:1400:08:19 การตอบสนองแบบสงบไม่เสียงดังไม่ขึ้นเสียง

00:08:1900:08:22 แล้วก็สั้นที่สุดอย่าใช้คำเยอะนะครับยิ่ง

00:08:2200:08:25 เราใช้คำเยอะยิ่งเราใช้ความงกมานะในการ

00:08:2500:08:27 อธิบายเยอะๆมันจะยิ่งไม่ได้ผลนะครับเพราะ

00:08:2700:08:29 ว่าคนที่มีความจำเสื่อมนั้นเขามีปัญหาทาง

00:08:2900:08:33 ด้านการรับรู้เข้าใจคำยาวๆประโยคยาวๆอยู่

00:08:3300:08:36 แล้วยิ่งยาวยิ่งไม่ดีครับต้องยิ่งสั้น

00:08:3600:08:38 เข้าไว้แล้วก็เป็นไปด้วยความสงบไม่ขึ้น

00:08:3800:08:42 เสียงนะครับไม่โต้เถียงแล้วอันที่ 3

00:08:4200:08:45 สำคัญที่สุดคือเรายอมรับแล้วแล้วเราตอบ

00:08:4500:08:49 กลับด้วยข้อความที่สั้นๆไม่ขึ้นเสียงอัน

00:08:4900:08:51 ที่ 3 คือเปลี่ยนเรื่องครับถือโอกาส

00:08:5100:08:54 เปลี่ยนเรื่องอ่ะสมมุติว่าเป็นเรื่องของ

00:08:5400:08:57 การที่เขาบอกว่าเราขโมยตังค์ไปนะครับเรา

00:08:5700:09:00 ก็ต้องสมมุติว่าถ้าเป็นผมตอบผมก็ต้องตอบ

00:09:0000:09:01 เขาว่า

00:09:0100:09:06 เออรู้สึกว่ารู้สึกว่าคุณลุงเนี่ยเรียก

00:09:0600:09:08 ว่าเขาลุงละกันสมมุติว่าเป็นลุงผมแล้วกัน

00:09:0800:09:11 ที่ความจำเสื่อมนะครับผมก็จะบอกว่าเออ

00:09:1100:09:16 ลุงรู้สึกว่าลุงห่วงเรื่องเงินเนี่ยค่อน

00:09:1600:09:18 ข้างที่จะมากเลยนะเอาจริงๆก็แล้วกัน

00:09:1800:09:22 เดี๋ยวผมจะช่วยดูให้ให้มั่นใจเลยว่าเงิน

00:09:2200:09:26 ของคุณลุงเนี่ยมันปลอดภัยนะครับเนี่ยตอบ

00:09:2600:09:29 แค่นี้สั้นๆจบเลยนะครับเราไม่ต้องอธิบาย

00:09:2900:09:31 อะไรยืดยาวนะครับข้อแรกคือการยอมรับแล้ว

00:09:3100:09:35 ว่าโอเคลุงรู้สึกว่าตอนนี้ลุงมีความห่วง

00:09:3500:09:39 ในเงินของลุงนะครับผมเข้าใจแต่ว่าผมจะ

00:09:3900:09:41 พยายามช่วยให้เงินของลูกมันปลอดภัยเดี๋ยว

00:09:4100:09:44 ผมมาดูแลเรื่องของบัญชีอะไรให้ลุงดีกว่า

00:09:4400:09:46 นะครับแล้วตรงนี้ล่ะครับถือโอกาสนี้

00:09:4600:09:49 เปลี่ยนเรื่องทันทีเออพูดถึงเรื่องเงิน

00:09:4900:09:53 วันก่อนเนี่ยผมไปซื้อผลไม้อันนี้มาผมอยาก

00:09:5300:09:55 ลองดูว่าลุงจะเช่าหรือเปล่าลองมากินกันดี

00:09:5500:09:57 กว่านะครับใช้เรื่องเงินในการเปลี่ยนเป็น

00:09:5700:10:00 เรื่องอื่นเลยนะครับแบบนี้ถ้าทำทำนองนี้

00:10:0000:10:03 นะครับมันก็จะทำให้เราสามารถที่จะรักษา

00:10:0300:10:06 ความสัมพันธ์กับคนที่เป็นความจำเสื่อม

00:10:0600:10:08 เข้าไม่ได้นะครับดังนั้นอย่าเถียงอย่า

00:10:0900:10:11 ขึ้นเสียงนะครับข้อแรกก็คือให้เราเป็น

00:10:1100:10:13 เพื่อนกับเขาไว้ก่อนคิดเหมือนเขาเป็นพวก

00:10:1300:10:16 เดียวกับเขาเขากังวลเรื่องเงินเขาหายเรา

00:10:1600:10:19 ก็กังวลเหมือนกับเขาบอกว่าเออเงินของลุง

00:10:1900:10:22 หายมันน่ากังวลนะเอาอย่างนี้แล้วกัน

00:10:2200:10:24 เดี๋ยวเราจะมาแก้ไขให้มันไม่หายกันเรามา

00:10:2400:10:27 ดูกันว่าเราจะทำอะไรได้บ้างนะครับแล้วก็

00:10:2700:10:30 เปลี่ยนเลือกนะครับพูดถึงเรื่องเงินวัน

00:10:3000:10:32 ก่อนเราไปซื้ออันนี้มามาลองกินกันไหม

00:10:3200:10:35 เดี๋ยวเรามาดูกันดีกว่านะครับอ่าการทำแบบ

00:10:3500:10:38 เนี้ยมันก็จะทำให้เราไม่มีการโต้เถียงกับ

00:10:3800:10:42 เขานะครับดังนั้นข้อแรกคืออย่าไปแก้ไข

00:10:4200:10:45 สิ่งผิดเขาตลอดเวลาจะเปลืองพลังงานโดยใช้

00:10:4500:10:48 เหตุอันที่ 2 คืออย่าไปเถียงกับเขานะครับ

00:10:4800:10:52 อันที่ 3 ผมพูดไปคร่าวๆแล้วคือการไป

00:10:5200:10:55 พยายามสร้างเหตุผลกับเขาอ่ะเป็นพยายามการ

00:10:5500:10:57 ให้เหตุผลกับเขาการหาเหตุผลการคุยด้วย

00:10:5700:11:00 เหตุผลเพราะว่าคนเหล่านี้เนี่ยคือเขามี

00:11:0000:11:03 เหตุผลของเขานะครับเขาเข้าใจในเหตุผลใน

00:11:0300:11:06 มุมมองของเขาแต่เหตุผลที่เขาเข้าใจนั้น

00:11:0600:11:08 มันอาจจะไม่ใช่มุมมองของท่านนะครับดัง

00:11:0800:11:12 นั้นอย่าไปพยายามคุยกับเขาด้วยเหตุผลนะ

00:11:1200:11:16 ครับมันไม่ได้มันไม่ได้อะไรที่ดีขึ้นมา

00:11:1600:11:19 หรอกครับนะเรื่องของเหตุผลเนี่ยอย่าไปคุย

00:11:1900:11:22 กับเขานะครับสุดท้ายคือเรื่องของการ

00:11:2200:11:26 พยายามจะทดสอบเขาเช่นว่าคนนี้ใครจำได้ไหม

00:11:2600:11:33 อ่าหรือว่าวันนี้วันอะไรนะครับหรืออาจจะ

00:11:3300:11:36 บอกว่าเมื่อเช้าเรากินอะไรไปนะครับกิน

00:11:3600:11:39 ข้าวอะไรนะครับคือมันเหมือนกับการที่เรา

00:11:3900:11:42 ไปถามคำถามซึ่งเขาไม่รู้อ่ะครับไม่รู้

00:11:4200:11:45 แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นเหมือนกับถ้า

00:11:4500:11:48 อาจารย์มาถามคำถามอะไรที่คุณไม่รู้อ่ะนะ

00:11:4800:11:52 ฮะวันดีคืนดีอาจารย์เดินมาแล้วบอกว่าไอ้

00:11:5200:11:55 คุณข้อนี้ยังไงบ้างไอ้ไหนอธิบายเรื่องนี้

00:11:5500:11:57 แล้วถ้าถ้าเกิดว่าเป็นสิ่งที่ทำไม่รู้ว่า

00:11:5700:11:59 ท่านจะเกิดอะไรขึ้นน่ะ

00:11:5900:12:03 แรกเฮ้ยไม่รู้ไม่รู้ทำไงมั่วออกไปเลยดี

00:12:0300:12:06 กว่านะครับมั่วอะไรสักอย่างออกไปพอมั่ว

00:12:0600:12:09 ออกไปแล้วมันผิดเกิดอะไรขึ้นท่านก็จะเข้า

00:12:0900:12:13 วน Loop เหมือนเดิมก็คือพยายามที่จะแก้ไข

00:12:1300:12:15 เขาไงครับแก้ไขให้ถูกต้องแล้วเมื่อกี้ผม

00:12:1500:12:18 บอกว่าการแก้ไขมันก็ยิ่งไม่เกิดอะไรขึ้น

00:12:1800:12:21 กับครับยิ่งทำให้ท่านเปลืองพลังงานเข้าไป

00:12:2100:12:23 มากกว่าเดิมอีกดังนั้นเนี่ยเรื่องนี้อย่า

00:12:2300:12:26 ตกหลุมต้องอย่าไปพยายามทดสอบนะครับพยายาม

00:12:2600:12:28 ทดสอบแล้วเขาพูดอะไรต่อมามั่วๆเราก็จะ

00:12:2800:12:30 พยายามแก้ไขเขาอีกอันนี้ก็ไม่ถูกต้องนะ

00:12:3000:12:34 ครับหรือบางครั้งถ้าเราไม่รู้นะครับเขาก็

00:12:3400:12:37 อาจจะรู้สึกว่าเอ่อเสีย Self มาครับเขิน

00:12:3700:12:40 อายไม่กล้าตอบพอไม่กล้าตอบมันก็จะเป็น

00:12:4000:12:44 บรรยากาศที่เอ่อเงียบระหว่างท่านกับเขาก็

00:12:4400:12:46 เป็นบรรยากาศที่ไม่ดีนะครับดังนั้นไอ้

00:12:4600:12:48 เนี่ยก็ไม่ควรนะฮะหรือบางอย่างเขาตอบมา

00:12:4800:12:50 แล้วเขามั่นใจว่าเขาถูกนะครับซึ่งจริงๆ

00:12:5100:12:55 มันอาจจะผิดก็ได้พอมันผิดแล้วเขาเข้าใจ

00:12:5500:12:57 ว่าถูกท่านจะเกิดอะไรขึ้นครับท่านก็จะ

00:12:5700:12:59 เถียงกับเขาไม่ใช่

00:12:5900:13:01 ไม่ใช่เมื่อกี้ไม่ได้พูดอย่างงี้แล้วไม่

00:13:0100:13:04 ได้เป็นแบบนี้นะครับเช่นเขาบอกว่าเอ่อ

00:13:0400:13:07 เมื่อเช้าเนี่ยถามว่าเอ้ยลุงกินอะไรอ๋อ

00:13:0700:13:10 เมื่อเช้ากินเมื่อเช้ากินพิซซ่าเฮ้ยลุง

00:13:1000:13:13 ไม่ได้กินพิซซ่าลุงกินเนี่ยข้าวต้มกับจับ

00:13:1300:13:14 ชาย

00:13:1400:13:17 ไม่ได้กินพิซซ่านะครับก็จะเถียงกับเขาอีก

00:13:1700:13:18 นะครับเถียงกันเรื่องไม่เป็นเรื่องดัง

00:13:1800:13:21 นั้นเนี่ยสิ่งที่เราพยายามไปทดสอบไปถามคำ

00:13:2100:13:25 ถามเขาเนี่ยอย่าทำนะครับอย่าทำถามว่าเออ

00:13:2500:13:28 แล้วเราอยากทำแล้วคุณจะทำยังไงนะครับเรา

00:13:2800:13:31 ควรจะให้คำตอบกับเขาไปเลยเช่นสมมุติว่ามี

00:13:3100:13:35 หลานของลุงมาเยี่ยมเราก็บอกว่าลุงร้านคน

00:13:3500:13:39 นี้ชื่อบีมนะครับเนี่ยไอ้บีมันไม่ค่อยได้

00:13:3900:13:41 มาหาลุงเลยนะครับแต่วันนี้มันมาเรามาคุย

00:13:4100:13:44 เล่นกันดีกว่าคือเราเป็นการให้คำตอบกับ

00:13:4400:13:47 ลุงไปเลยว่าหลานคนนี้ชื่อบีมเราไม่ได้บอก

00:13:4700:13:49 ลุงเราไม่ได้ถามลุงว่าหลานคนนี้ชื่ออะไร

00:13:4900:13:52 จำได้ไหมคนที่เป็นใครเราบอกเลยว่าร้านบีม

00:13:5200:13:55 เนี่ยมาเยี่ยมลุงแล้วนะวันนี้เรามาทำ

00:13:5500:13:56 เรื่องนั้นเรื่องนี้กันดีกว่าเรามาร้อง

00:13:5700:13:59 เพลงกันดีกว่านะครับแบบนี้เป็นต้นหรือ

00:13:5900:14:01 หรือบางทีเราอาจจะบอกว่าแทนที่จะถามว่า

00:14:0100:14:04 วันนี้วันอะไรลุงรู้หรือเปล่านะครับแล้ว

00:14:0400:14:08 ก็บอกไปเลยนะครับว่าเนี่ยวันนี้วันที่ 23

00:14:0800:14:12 กุมภาพันธ์นะเป็นวันเกิดของคนนู้นคนนี้

00:14:1200:14:14 อย่างนี้เราให้ข้อมูลไปเลยแล้วแบบนี้มัน

00:14:1400:14:17 จะเป็นการรักษาสัมพันธภาพระหว่างเรากับ

00:14:1700:14:19 ผู้ป่วยได้ดีกว่าแล้วเราก็จะไม่ทะเลาะกัน

00:14:1900:14:21 แล้วเวลาที่มีอะไรเนี่ยเราก็จะอยู่กัน

00:14:2100:14:24 ด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกันนะครับดัง

00:14:2400:14:28 นั้นเรามาเล่ากันใหม่นะครับว่า 4 อย่าง

00:14:2800:14:30 ที่ผมแนะนำว่าท่านพยายามหลีกเลี่ยงให้มาก

00:14:3000:14:33 ที่สุดเวลาที่ท่านจะต้องเจอกับคนไข้ที่มี

00:14:3300:14:35 ความจำเสื่อมคืออะไรบ้างข้อแรกอย่าไป

00:14:3600:14:39 พยายามแก้ไขทุกๆอย่างของเขานะครับถ้าเขา

00:14:3900:14:41 พูดอะไรผิดแล้วมันไม่ได้เป็นอะไรที่เดือด

00:14:4100:14:43 ร้อนอะไรมากมายไม่ต้องไปแก้เขาครับมันจะ

00:14:4300:14:45 เปลืองพลังงานท่านเปล่าๆแล้วก็ทำให้ท่าน

00:14:4500:14:48 กับเขาเถียงกันซะด้วยซ้ำไปนะครับแต่ถ้า

00:14:4800:14:50 มันเป็นเรื่องสำคัญอ่ะท่านอาจจะไปแก้กับ

00:14:5100:14:53 บุคคลที่ 3 อาจจะไปบอกหมอนะบอกอะไรก็ได้

00:14:5300:14:56 เช่นคนไข้ความจำเสื่อมไปบอกหมอแล้วเอ่อ

00:14:5600:14:58 อาจจะพูดผิดอะไรเงี้ยครับถ้าไม่ต้องแก้

00:14:5800:15:00 ต่อหน้าหมอนะครับให้อาจจะรู้สึกไม่พอใจ

00:15:0000:15:03 ได้นะครับพอออกไปจากห้องท่านค่อยกลับไป

00:15:0300:15:06 แก้กับหมอได้นะครับตรงนี้ถึงสำคัญอันที่ 2

00:15:0600:15:08 อย่าเถียงเถียงไปไม่ได้อะไรขึ้นมานะครับ

00:15:0800:15:12 นอกจากเปลืองพลังงานนะครับแล้วเวลาที่เจอ

00:15:1200:15:14 อะไรที่มันไม่ตรงกับสิ่งที่ความเป็นจริง

00:15:1400:15:16 มันจะเป็นแล้วท่านควรจะทำไงในการเถียง

00:15:1600:15:19 อย่าทำให้เกิดขึ้นนะครับข้อแรกคือเราต้อง

00:15:1900:15:21 ยอมรับพยายามเป็นเพื่อนพยายามคิดเหมือน

00:15:2100:15:24 กับเขากับผู้ป่วยก่อนนะครับยอมรับในสิ่ง

00:15:2400:15:29 ที่คนป่วยกังวลนะครับจากนั้นตอบกลับด้วย

00:15:2900:15:32 น้ำเสียงที่ราบเรียบไม่ให้เสียงดังนะครับ

00:15:3200:15:34 ตอบสั้นที่สุดอย่ายาวนะครับยิ่งยาวเขา

00:15:3400:15:37 ยิ่งไม่ฟังนะครับอันที่ 3 เปลี่ยนเรื่อง

00:15:3700:15:40 นะครับอย่าไปชนกับเขานะครับพยายามเปลี่ยน

00:15:4000:15:42 เรื่องไปอย่างอื่นนะครับการทำแบบนี้จะ

00:15:4200:15:45 เป็นสิ่งที่ดีนะครับข้อที่ 3 อย่าพยายาม

00:15:4500:15:48 ใช้เหตุผลกับเขาเพราะมันไม่ได้ผลนะครับ

00:15:4800:15:51 ข้อสุดท้ายก็คืออย่าพยายามทดสอบถามเขาใน

00:15:5100:15:54 เรื่องต่างๆนะครับไอ้ 4 อย่างเนี่ยนะครับ

00:15:5400:15:57 ผมเห็นคนทำผิดเป็นประจำรวมทั้งผมเองด้วย

00:15:5700:15:59 นะครับผมก็ยังพลาดบางครั้ง

00:15:5900:16:01 ในเรื่องนี้ผิดอยู่ดีนะครับมันก็จะยิ่งทำ

00:16:0100:16:05 ให้เรารู้สึกเถียงกับเขานะครับเราก็จะ

00:16:0500:16:07 ต้องเตือนตัวเองและเราตลอดเวลานะครับถ้า

00:16:0700:16:10 เราต้องดูแลคนไข้ที่มีความจำเสื่อมแล้ว

00:16:1000:16:12 เราคุยกับเขาเมื่อไหร่ที่เรารู้สึกว่าหัว

00:16:1200:16:16 ร้อนเรารู้สึกรำคาญเรารู้สึกว่ามันไม่จบ

00:16:1600:16:18 สักทีทำไมเราจะต้องมาทำอย่างนั้นอย่างนี้

00:16:1800:16:21 นะครับนั่นแหละครับเวลานั้นน่ะท่านกำลัง

00:16:2100:16:24 ทำพลาด 1 ใน 4 ข้อนี้อยู่เป็นแน่แท้นะ

00:16:2400:16:26 ครับท่านจะต้องเตือนตัวเองว่าเฮ้ยไม่ได้

00:16:2600:16:30 นะครับเขามีปัญหาทางด้านสมองสิ่งที่เขา

00:16:3000:16:33 พูดออกมาเนี่ยมันเป็นผลจากสมองของเขาเรา

00:16:3300:16:36 ต้องอย่าไปถือสาเขาเราไม่ต้องไปแข่งกับ

00:16:3600:16:38 เขาเราไม่ต้องไปให้เหตุผลอะไรเขานะครับ

00:16:3800:16:41 เราเข้าใจตรงนี้แล้วเราก็เปลี่ยนเส้นซะนะ

00:16:4100:16:44 ครับมันจะรักษาสัมพันธภาพของเรากับเขาให้

00:16:4400:16:47 ดีที่สุดนะครับแล้วก็จะอยู่ด้วยกันอย่าง

00:16:4700:16:50 ไม่เครียดนะครับความเครียดของผู้ดูแลนั้น

00:16:5000:16:54 เป็นสิ่งที่เยอะมากนะครับเราจะต้องอย่า

00:16:5400:16:56 ให้เกิดความเครียดนั้นโดยการที่เราต้อง

00:16:5600:16:58 เลี่ยง 4 ข้ออย่างที่ผมเล่าไปนะครับโอเค

00:16:5800:17:01 ผมเป็นกำลังใจให้ทุกๆท่านนะครับที่มีผู้

00:17:0100:17:04 ป่วยเป็นความจำเสื่อมอยู่นะครับเพราะดูแล

00:17:0400:17:06 ยากจริงๆนะครับสำหรับผู้ดูแลนะครับพยายาม

00:17:0600:17:09 มีสติกับ 4 ข้อนี้แล้วท่านเอาไปลองปรับ

00:17:0900:17:11 ใช้กับชีวิตประจำวันของท่านดูนะครับโอเค

00:17:1100:17:13 วันนี้เท่านี้นะครับขอบคุณมากครับสวัสดี

00:17:1300:17:15 ครับ