00:00:00 → 00:00:02 เนื้อหาพฤติกรรมการทำงานที่ถ่วงความเจริญ
00:00:02 → 00:00:05 ก้าวหน้าหูฟังแล้วปวดใจหรือกันขอเป็นภาษา
00:00:05 → 00:00:08 อังกฤษแล้วกันนะ 5 เคาน์เตอร์โปรดักทีฟ
00:00:08 → 00:00:11 Works be happier หมายความว่าไม่ควรทำ
00:00:11 → 00:00:16 นะจะฟังก่อนข้อแรกคือคนที่ชอบวิจารณ์คน
00:00:16 → 00:00:20 ที่ชอบออกความเห็นคนกลุ่มนี้เป็นไงพูด
00:00:20 → 00:00:22 เก่งตำหนิเก่ง
00:00:22 → 00:00:27 เลี้ยงที่ให้ปากเก่งใช้ปากทำงานนะไปที่
00:00:27 → 00:00:30 ไหนมีใครชอบหรอกครับคนกลุ่มนี้มากจะส่ง
00:00:30 → 00:00:33 พลังทางลบเห็นในก็ต้องนี่เห็นเลยก็ไม่ชอบ
00:00:33 → 00:00:36 อย่างนั้นอย่างนี้ไม่ดีคนละเนี้ยมักจะมี
00:00:36 → 00:00:39 คนจับกลุ่มกันนินทาเพื่อจะบอกว่าแม่ที่
00:00:39 → 00:00:42 ตัวเองไม่ทันชอบสั่งชอบบอกคนคนนี้ชอบจะมี
00:00:42 → 00:00:44 คนคนนี้ทำได้ไหมตัวเองอะไรเงี้ยนะครับดัง
00:00:44 → 00:00:47 นั้นเราอย่างแรกคือเราไม่อยากให้วิจาหรือ
00:00:47 → 00:00:50 ไม่อยากให้ตำหนิจนกระทั่งส่งผลกระทบทางลบ
00:00:50 → 00:00:53 กับคนอื่นนะครับคือการที่ 2 ที่เมแนะนำ
00:00:53 → 00:00:57 ให้ทำคือคนที่ชอบทำงานเดิมๆซ้ำๆในยุคของ
00:00:57 → 00:01:00 สัตว์ตัวที่ 11 เนี่ยพูดถึงทักหรือที่เรา
00:01:00 → 00:01:04 เรียกว่าการ V สกิลการอัพสกิลทักษะเดิม
00:01:04 → 00:01:09 เดิมๆที่ทำซ้ำๆได้ใช้ความง่ายซ้ำๆเชื่อผม
00:01:09 → 00:01:11 นะครับอนาคตคุณจะไม่มีงานทำว่าคุณจะถูก
00:01:11 → 00:01:15 หุ่นยนต์ทำงานแทน AIA เก่งมากๆในการทำงาน
00:01:15 → 00:01:19 ที่ซ้ำๆเหมือนเดิมดังนั้นถ้าเมื่อไหร่ที่
00:01:19 → 00:01:23 คุณไม่อยากถูกหุ่นยนต์แย่งงานมาชวนกัน
00:01:23 → 00:01:27 เพิ่ม skill ตัวเองมาชวนกันหาสกิลใหม่ๆ
00:01:27 → 00:01:30 ว่าฉันจะทำยังไงฉันจะทำอะไรต้องเพิ่มนะ
00:01:30 → 00:01:33 ครับยิ่งคนที่อาวุโสมากขึ้นในการทำงานคน
00:01:33 → 00:01:36 กูเนี้ยองค์กรคาดหวังว่าคุณจะเป็น mentor
00:01:36 → 00:01:39 ให้คนอื่นได้คุณจะโค้ชคนอื่นได้คุณจะ
00:01:39 → 00:01:41 Continue ให้องค์กรได้มากกว่าเด็กๆที่จบ
00:01:41 → 00:01:44 ไปใหม่ดังนั้นไม่แนะนำให้ทำงานเดิมๆ
00:01:44 → 00:01:46 พฤติกรรมที่สามที่จะเกิดการเคาน์เตอร์พูด
00:01:46 → 00:01:49 ทักถีบนะครับเพื่อกลุ่มที่ไม่มีการวาง
00:01:49 → 00:01:52 เป้าหมายในการเมืองชีวิตหรือเรียกง่ายๆ
00:01:52 → 00:01:56 คือใช้ชื่อไปวันๆคนที่ไม่มีการวางเป้า
00:01:56 → 00:01:59 หมายในการดำเนินชีวิตมักจะเริ่มผิดพระที่
00:01:59 → 00:02:01 สเต็ปแรกคือการที่แต่เขาไม่รู้ว่าตัวเค้า
00:02:01 → 00:02:04 เองให้คุณค่าและความหมายกับเรื่องอะไรเขา
00:02:04 → 00:02:08 ไม่รู้ว่าตัวเค้าเองกำลังอยู่ในจุดไหนของ
00:02:08 → 00:02:12 เส้นทางการเดินทางของชีวิตการทำงานแน่นอน
00:02:12 → 00:02:15 เวลาที่ที่ไม่รู้เส้นทางไม่รู้เป้าหมาย
00:02:15 → 00:02:18 มันก็เหมือนเรือที่แล่นไปแล้วไม่รู้
00:02:18 → 00:02:20 แผนที่ว่าจะไปที่ไหนมันก็ไปถึงก็มีจะทะเล
00:02:20 → 00:02:23 เวิ้งว้างอ่ะไปถึงนั้นก็แล้วแต่เจอสัตว์
00:02:23 → 00:02:26 อะไรเจออะไรมาขวางก็ชนไปแล้วก็แก้มหาย
00:02:26 → 00:02:28 เท่าหน้ากันไปวันๆมันจะไม่พูดนะถีบอย่าง
00:02:28 → 00:02:31 รุนแรงนะครับเพราะว่ามันทำแล้วมันจะไป
00:02:31 → 00:02:33 เกิดเจอแต่เรื่องของงานที่ไม่สำคัญแต่มัน
00:02:33 → 00:02:36 ด่วนตลอดเวลาผมเคยมีเป้าหมายว่าจะทำไป
00:02:36 → 00:02:38 ทำไมดังนั้นชวนตั้งเป้าหมายเพื่อไม่ถ่วง
00:02:38 → 00:02:41 ความเจริญนะครับพฤติกรรมที่ 4 คือคนที่
00:02:41 → 00:02:45 ขาดความเชื่อมั่นในตัวเองคนที่ขาดความ
00:02:45 → 00:02:48 เชื่อมั่นในตัวเองเนี่ยจะทำให้เค้าเตอร์
00:02:48 → 00:02:51 ผลถีบได้ยังไงบ้างเป็นเพราะว่าเวลาที่ไม่
00:02:51 → 00:02:53 เชื่อมั่นแล้วเนี่ยมันจะไม่กล้าทำอะไรเลย
00:02:53 → 00:02:56 นะครับว่าจะทำอะไรหรือยังเนี่ยก็จะกลับมา
00:02:56 → 00:03:00 ตั้งคำถามกับตัวเองว่าเอมันจะดีไหมเดี๋ยว
00:03:00 → 00:03:03 มีแต่คนนี้ก่อนดีกว่าเหหัวหน้าจะว่าหรือ
00:03:03 → 00:03:07 เปล่านะเพื่อร่วมงานจะมองฉันยังไงนะแล้ว
00:03:07 → 00:03:10 ถ้ามีคนเอาไปโพสโซเชียล any กลุ่ม Line
00:03:10 → 00:03:12 บริษัทจะมีคนเมาฉันเปล่านะนู่นนี่นั่น
00:03:12 → 00:03:15 โน่นสไตล์คืออะไรครับไม่ทำไม่ทำก็มันจะ
00:03:15 → 00:03:18 โดนคนที่พบนาทีกว่าเอาไปทำคุณก็ต้องมาทำ
00:03:18 → 00:03:21 งานเดิมๆซ้ำๆที่ไม่มีใครทำนะครับส่วนพิธี
00:03:21 → 00:03:23 การสุดท้ายของเคาท์เตอร์พูดทักถีบเรื่อง
00:03:23 → 00:03:27 ของการไม่เปิดใจรับฟังจริงการไม่เปิดใจ
00:03:27 → 00:03:30 รับฟังมันมีการสะท้อนถึงการไม่ยอมรับใน
00:03:30 → 00:03:33 ความแตกต่างไม่ยอมรับในความหลากหลายนะ
00:03:33 → 00:03:36 ครับคนที่ไม่เปิดใจรับฟังเนี่ยไม่เปิดใจ
00:03:36 → 00:03:39 เนี่ยจะเกิดส่งผลกับตัวเองและส่งต่อคน
00:03:39 → 00:03:41 อื่นเพราะว่าอะไรตัวเองก็จะหงุดหงิดไม่
00:03:41 → 00:03:44 โอเคไม่พึงพอใจกับสิ่งที่เล่นกำลังทำอยู่
00:03:44 → 00:03:48 ในการส่งผลต่อคนอื่นยังไงถ้าคนนั้นเป็น
00:03:48 → 00:03:51 หัวหน้าเป็นคนที่เป็นผู้บังคับบัญชาหรือ
00:03:51 → 00:03:53 คนก็มีความสำคัญในทีมก็มาจะคอยขาดคนอื่น
00:03:54 → 00:03:56 ตลอดเวลาเพราะว่าจะบอกอันนั้นไม่ดีนะไม่
00:03:56 → 00:03:58 เหมาะให้ฟังคำให้เชื่อเขาอย่างเดียวแต่
00:03:58 → 00:04:00 ถ้าคนคนนั้นเป็น
00:04:00 → 00:04:02 เนื้อครีมไม่เปิดใจให้ฟังบางคนไม่ใส่วิธี
00:04:02 → 00:04:04 การด้วยกันที่พูดออกไปว่าฉันไม่เห็นด้วย
00:04:04 → 00:04:07 เต็มที่เป็นการไม่ทำดึงเงียบเพราะว่าอะไร
00:04:07 → 00:04:10 ไม่สนใจไม่ฟังไม่ยอมรับความรักหลายคนที่
00:04:10 → 00:04:13 ไม่ทำไม่ยอมรับความหลากหลายก็จะไม่สามารถ
00:04:13 → 00:04:15 ทำงานร่วมกันเป็นทีมได้ซึ่งจริงแล้ว
00:04:15 → 00:04:17 คุณสมบัติของการทำงานร่วมกันเป็นทิปส์
00:04:17 → 00:04:19 เป็นวันสำคัญอย่างหนึ่งเลยนะครับในการ
00:04:19 → 00:04:22 ดำรงชีวิตอยู่ในโลกยุคปัจจุบันเป็นไงบ้าง
00:04:22 → 00:04:24 ครับได้ฟังไปทั้งหมดแล้วนะครับทั้งเรื่อง
00:04:24 → 00:04:28 ของ 7 วิธีการเพิ่มความภารกิจและ 5
00:04:28 → 00:04:31 พฤติกรรมของการทำงานที่ถ่วงความเจริญก้าว
00:04:31 → 00:04:32 หน้า
00:04:32 → 00:04:35 เลือกได้แล้วเนาะว่าอยากจะทำข้างไหนอะไร
00:04:35 → 00:04:39 ควรทำอะไรไม่ควรทำเราจะได้ใช้เวลา 24
00:04:39 → 00:04:42 ชั่วโมงของเราให้พ้นนักถีบให้เกิดการทำ
00:04:42 → 00:04:46 งานที่มีประสิทธิภาพให้เราเป็นคนที่องค์
00:04:46 → 00:04:49 กรต้องการให้เราไม่บุญเอาให้เรามีคุณค่า
00:04:49 → 00:04:53 และมีความหมายมาพบกับรายการวีมายรู้ทัน
00:04:53 → 00:04:56 ปัญหาสุขภาพจิตสำรวจอารมณ์ความคิดเข้าใจ
00:04:56 → 00:05:00 พฤติกรรมของตนเองและคนใกล้ตัวทุกวัน
00:05:00 → 00:05:03 จันทร์เวลา 18:00 นที่มหิดลแชแนล port
00:05:03 → 00:05:05 Cash ผ่านช่องทาง Facebook Mahidol
00:05:05 → 00:05:08 Channel YouTube Mahidol Channel
00:05:08 → 00:05:11 Apple Care http File and
00:05:11 → 00:05:14 เคอร์เซอร์บล็อกติด
00:05:14 → 00:05:17 ดำเนินรายการโดยหมอหลิวอาจารย์นายแพทย์
00:05:17 → 00:05:23 สมบูรณ์พระทัยอยู่สุข
00:05:23 → 00:05:26 ป.ล