00:00:00 → 00:00:00 อา
00:00:00 → 00:00:08 [เพลง]
00:00:08 → 00:00:11 และหลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าในปัจจุบัน
00:00:11 → 00:00:14 นั้นการติดเชื้อได้อยากเป็นสาเหตุการเสีย
00:00:14 → 00:00:17 ชีวิตอันดับต้นๆของคนไทยซึ่งสาเหตุที่ทำ
00:00:17 → 00:00:20 ให้ผู้ป่วยมีอาการเชื้อได้อย่างนั้นส่วน
00:00:20 → 00:00:22 มากมักเกิดจากการใช้ยาปฏิชีวนะมากเกินไป
00:00:22 → 00:00:25 จึงส่งคนให้เชื้อจะได้ยามากขึ้นได้เรื่อย
00:00:25 → 00:00:29 ๆและในวันนี้แพ้ผู้เชี่ยวชาญก็จะมาให้ข้อ
00:00:29 → 00:00:31 มูลความรู้เกี่ยวกับการติดเชื้ออย่างนั้น
00:00:31 → 00:00:34 ว่าเราต้องดูแลตนเองอย่างไรให้ห่างไกลจาก
00:00:34 → 00:00:38 อาการนี้ครับมาช่วยหรือยาเป็นปัญหาที่
00:00:38 → 00:00:40 สำคัญที่ทำให้ประชาชนไทยเสียชีวิตจำนวน
00:00:40 → 00:00:43 มากเลยนะครับแต่ละปีเนี้ยจะมีผู้เสีย
00:00:43 → 00:00:47 ชีวิตจากเชื้ออย่างไม่น้อยกว่า 20,000 คน
00:00:47 → 00:00:50 หรือคิดเป็นประมาณ 15 นาทีนะครับต่อ 1 คน
00:00:50 → 00:00:53 ชั่วโมงละ 4 คนนะครับเพราะฉะนั้นถ้าเรา
00:00:53 → 00:00:56 เทียบอัตราแบบเสียชีวิตนี้กับอัตรา 8
00:00:56 → 00:00:58 เสียชีวิตจากอุบัติเหตุการเสียชีวิตจาก
00:00:58 → 00:01:01 เชื้อได้อย่ามากกว่าคนที่เสียชีวิต
00:01:01 → 00:01:04 จังหวัดเหตุครับเชื้อในที่นี้หมายถึงเธอ
00:01:04 → 00:01:07 โรคนะครับซึ่งเรามีทั้งเชื้อไวรัสเชื้อ
00:01:07 → 00:01:10 แบคทีเรียเชื้อราที่เราจะเน้นเป็นพิเศษ
00:01:10 → 00:01:12 เนี่ยจะเป็นเชื่อแบคทีเรียนะครับที่เกิด
00:01:12 → 00:01:16 การด้วยยาแล้วก็ทำให้เกิดโรคในมนุษย์เช่น
00:01:16 → 00:01:18 ติดเชื้อที่ทิปปอดหรือติดเชื้อในกระแส
00:01:19 → 00:01:22 เลือดถ้าหากเป็นเชื้อที่ไม่ได้ยาคุณหมอ
00:01:22 → 00:01:25 ไชยาไปที่จะว่ายาปฏิชีวนะอาการก็จะหาย
00:01:25 → 00:01:28 กลับบ้านได้นะครับแต่ถ้าเป็นเชื้อยาสระยา
00:01:28 → 00:01:32 ไปก็รักษาไม่ได้อาการทรุดหนักและอาจจะ
00:01:32 → 00:01:36 เสียชีวิตได้ครับยาปฏิชีวนะเนื้อหาที่เรา
00:01:36 → 00:01:39 ใช้ในการต่อสู้กับโรคติดเชื้อแบคทีเรียนะ
00:01:39 → 00:01:42 ครับเรียกว่าเป็นยาต้านแตกทีเรียยาเหล่า
00:01:42 → 00:01:45 นี้ประชาชนมักจะเรียกผิดผิดว่ายาแก้
00:01:45 → 00:01:49 อักเสบนะครับเจ็บคอเอาคอแดงอักเสบขอกินยา
00:01:49 → 00:01:51 แก้อักเสบหน่อยพวกนี้ล่ะครับเรียกว่ายา
00:01:51 → 00:01:55 ปฏิชีวนะครับยาปฏิชีวนะจะไม่ออกฤทธิ์เลย
00:01:55 → 00:01:58 ต่อเชื้อโรคชนิดอื่นๆได้แก่ไม่ออกฤทธิ์
00:01:58 → 00:02:01 ต่อเชื้อไวรัสไม่ออกฤทธิ์ต่อเชื้อราเป็น
00:02:01 → 00:02:04 ต้นนะครับดังนั้นเมื่อเราเจ็บป่วยมีไข้
00:02:04 → 00:02:07 ไม่สบายเนี่ยจะต้องแยกก่อนครับว่าเราจะ
00:02:07 → 00:02:10 เชื้อแบคทีเรียใช่หรือไม่ถ้าติดเชื้อ
00:02:10 → 00:02:13 แบคทีเรียจึงควรใช้ยาปฏิชีวนะครับถ้าหาก
00:02:13 → 00:02:17 เราไม่แยกเราจะใช้ยาปฏิชีวนะเกินจำเป็นไป
00:02:17 → 00:02:19 มากเลยครับอันนี้จะเป็นสาเหตุสำคัญข้อ
00:02:19 → 00:02:23 หนึ่งของการติดเชื้ออย่างในอนาคตครับตัว
00:02:23 → 00:02:25 อย่างของยาปฏิชีวนะนะครับแต่ก่อนประชาชน
00:02:25 → 00:02:29 ก็บอกย่านดำแดงอันนี้ขยะอภิสฤษฎิ์ต่อมาก็
00:02:29 → 00:02:31 จะเป็นยาแคปซูลสีฟ้าและพวกนี้ก็เป็นพวกคำ
00:02:31 → 00:02:34 ออกซีสนิทเป็นต้นบางคนก็จะรู้จักในชื่อ
00:02:34 → 00:02:38 การค้านะครับเช่นข้อมูลแรมเอเอ็มเค of
00:02:38 → 00:02:41 Men tinz โทรแมคนอกล็อกซาซินพรุ่งนี้
00:02:41 → 00:02:44 เป็นยาปฏิชีวนะทั้งสิ้นที่มีหลายชื่อ
00:02:44 → 00:02:46 เนี่ยอยากให้ประชาชนเข้าใจเบื้องต้นนะ
00:02:46 → 00:02:50 ครับว่าเพราะยาปฏิชีวนะแต่ละชื่อจะออก
00:02:50 → 00:02:52 ฤทธิ์ต่อแบคทีเรียคนละชนิดกันแบคทีเรีย
00:02:52 → 00:02:55 แต่ละชนิดจะก่อให้เกิดโรคที่คนละตำแหน่ง
00:02:55 → 00:02:58 การอ่านดังนั้นการที่ประชาชนจะนึกเอาเอง
00:02:58 → 00:03:02 ว่าไม่สบายกขอยาปฏิชีวนะตัวไหนก็ได้มากิน
00:03:02 → 00:03:03 ที่ไปซื้อกันเองเนี่ยเข้าใจผิดแล้วครับ
00:03:03 → 00:03:06 มันต้องเป็นที่ใช้ก่อนว่าเราจะเชื่อไปกิน
00:03:06 → 00:03:09 ได้จริงไหมไปเที่ยวอยู่ตรงไหนใบที่ชื่อ
00:03:09 → 00:03:12 อะไรควรใช้ยาตัวไหนครับกรณีติดเชื้อ
00:03:12 → 00:03:15 เรื่อยๆนะครับจะมีความเสี่ยงต่อไปนี้นะ
00:03:15 → 00:03:19 ครับหนึ่งเป็นบุคคลที่เมื่อไม่สบายที่เรา
00:03:19 → 00:03:23 เป็นในชื่อจำวันเลยนะครับเช่นว่าไอเจ็บคอ
00:03:23 → 00:03:25 น้ำมูกไหลท้องร่วงท้องเสียบัตรแพตช์ทั่ว
00:03:25 → 00:03:28 ไปแล้วก็ได้รับยาปฏิชีวนะแทบทุกครั้งเลย
00:03:28 → 00:03:31 อันนี้เป็นจุดตั้งต้นนะครับที่จะก่อให้
00:03:31 → 00:03:35 เกิดเชื้ออย่าหมายความว่าเมื่อเราได้รับ
00:03:35 → 00:03:36 ยาปฏิชีวนะ
00:03:36 → 00:03:38 นี้นะครับยาปฏิชีวนะก็จะไปวิ่งไปทั่วร่าง
00:03:38 → 00:03:41 กายเราเลยครับเพราะเจอแบคทีเรียที่ได้
00:03:41 → 00:03:43 ร่างกายก็จะทำหน้าที่ของมันนั่นแหละก็คือ
00:03:43 → 00:03:45 พยายามจะฆ่าแบคทีเรียนะครับไปที่เรามีที่
00:03:45 → 00:03:48 ไหนบ้างนะครับแล้วมีอยู่และที่ผิวหนังใช่
00:03:48 → 00:03:51 ไหมครับในช่องปากแล้วก็มีที่ลำไส้ใหญ่
00:03:51 → 00:03:53 แล้วก็มีในอุจจาระของเราจะเป็นต้นนะครับ
00:03:53 → 00:03:55 ในช่องคลอดของผู้หญิงตอนนี้บางทีเดียว
00:03:55 → 00:03:57 เหล่านี้เนี่ยจะเรียกว่าเป็นเพื่อนแล้วก็
00:03:57 → 00:03:59 ได้หรือจะอยู่กับเรามาตั้งนานแล้วล่ะไม่
00:03:59 → 00:04:01 ได้ทำให้เราเจ็บป่วยอะไรหรอกแต่พอได้รับ
00:04:01 → 00:04:04 ยาปฏิชีวนะไปมันก็จะตามไปทำลายแบคทีเรีย
00:04:04 → 00:04:07 ที่ผิวนั้นที่ต่างๆที่ได้กลับไปหมดรูป
00:04:07 → 00:04:10 แบคทีเรียเป็นสิ่งมีชีวิตนะครับเมื่อมี
00:04:10 → 00:04:13 สิ่งคุกคามคือยาปฏิชีวนะมาพยายามจะทำร้าย
00:04:13 → 00:04:17 บางทีเดียวก็ทำการวิวัฒนาการนะครับทำการ
00:04:17 → 00:04:20 กลายพันธุ์และก็สร้างความสามารถในการต่อ
00:04:20 → 00:04:23 ต้านยาเมื่อต่อต้านสำเร็จแล้วก็เรียกว่า
00:04:23 → 00:04:26 เป็นเชื้ออย่างเชื้อที่ไม่ได้ป่ะตายไปแปล
00:04:26 → 00:04:29 ว่าเมื่อเราฉายาปฏิทินอ้าไปแต่ละครั้งเรา
00:04:29 → 00:04:31 กำลังทำลายเพื่อนเรานะครับใบทีเดียวดีๆ
00:04:31 → 00:04:34 ทั่วๆไปในร่างกายเราแล้วก็ค้างไว้ในร่าง
00:04:34 → 00:04:37 กายที่สะสมและเพิ่มปริมาณและก็คือเชื้อ
00:04:37 → 00:04:40 แบคทีเดียวที่เหลืออย่ารอวันว่าเมื่อใดจะ
00:04:40 → 00:04:43 ทุกคำเราถ้าเราสะสมแบคทีเรียอย่าไปที่ผิว
00:04:43 → 00:04:46 หนังเมื่อเกิดบาดแผลก็จะติดเชื้อดวยอ่า
00:04:46 → 00:04:48 ติดเชื้อที่ผิวหนังเฉยๆก็อาจจะไม่เป็นไร
00:04:48 → 00:04:51 นะครับแต่ถ้าทิ้งไว้แต่ลุกลามเชื้อเข้า
00:04:51 → 00:04:54 กระแสเลือดเราก็อาจจะเสียชีวิตจากเชื้อ
00:04:54 → 00:04:57 ตัวอย่างที่เข้ากระแสเลือดถ้าหากว่าเราไป
00:04:57 → 00:04:58 สร้างใช้ได้อย่างสะสมไม่ได้รับใช่ของเรา
00:04:58 → 00:05:02 เชื้อยาเหล่านี้มีชื่อว่า e.coli นะครับ
00:05:02 → 00:05:04 มันก็จะอาจเล็ดลอดเข้าไปที่ทางเดิน
00:05:04 → 00:05:06 ปัสสาวะผู้หญิงกันบ่อยครับจะมีอาการ
00:05:06 → 00:05:09 ปัสสาวะแสบขัดพวกนี้เรียกว่ากระเพาะ
00:05:09 → 00:05:11 ปัสสาวะอักเสบแล้วต่อไปก็ขึ้นไปที่ตาย
00:05:11 → 00:05:14 เรียกว่าการติดเชื้อที่ไตต่อไปก็เข้า
00:05:14 → 00:05:16 กระแสเลือดซึ่งถ้าเป็นเชื้ออย่างก็
00:05:16 → 00:05:19 อันตรายอย่างยิ่งดังนั้นการที่เราใช้ยา
00:05:19 → 00:05:22 ปฏิชีวนะพร่ำเพรื่อใช้บ่อยครั้งจะเป็นจุด
00:05:22 → 00:05:25 ตั้งต้นของการเจ็บเชื้ออย่างหรือสะสม
00:05:25 → 00:05:29 เชื้อด้วยอย่าไว้ในร่างกายของเรานะครับยา
00:05:29 → 00:05:32 ปฏิชีวนะที่เราใช้เข้าไปเนี่ยนะครับเมื่อ
00:05:32 → 00:05:35 ก่อให้เกิดเชื้อดื้อยาก็จะมีตัวอย่างของ
00:05:35 → 00:05:37 คนที่ก็ได้รับเชิญด้วยยาแล้วก็เสียชีวิต
00:05:37 → 00:05:40 หรือเกิดปัญหาขึ้นนะครับยกตัวอย่างเช่นนะ
00:05:40 → 00:05:43 ครับมีคุณแม่นะครับของคุณหมอท่านหนึ่ง
00:05:43 → 00:05:47 ป่วยเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลคุณแม่
00:05:47 → 00:05:50 ท่านนี้หลังจากเข้าในโรงพยาบาลก็ไปติด
00:05:51 → 00:05:55 เชื้อดื้อยาในโรงพยาบาลในที่สุดก็เสีย
00:05:55 → 00:05:59 ชีวิตอันนี้ต้องการเล่าให้ฝากว่าการที่
00:05:59 → 00:06:02 บุคคลท่านหนึ่งซึ่งสามารถที่จะจ่ายเงิน
00:06:02 → 00:06:05 เท่าไหร่ก็ได้เพื่อที่จะหายามาใช้แล้วก็
00:06:05 → 00:06:08 ได้รับการดูแลอย่างดีเพราะว่าเป็นคุณแม่
00:06:08 → 00:06:10 ของหมอใช่ไหมครับก็ต้องได้รับการดูแลดี
00:06:10 → 00:06:13 มากนะครับอย่างไรก็ตามเมื่อติดเชื้อดื้อ
00:06:13 → 00:06:16 ยาก็ยังเสียชีวิตเลยครับแปลว่าถ้าใครก็
00:06:16 → 00:06:20 ตามที่เชื้ออย่างนะครับโอกาสที่จะป่วยนาด
00:06:20 → 00:06:23 นอนโรงพยาบาลนานเสียค่าใช้จ่ายเยอะหรือ
00:06:23 → 00:06:26 อาจจะเสร็จ with เรียกโอกาสสูงขึ้นเรื่อย
00:06:26 → 00:06:29 ๆถ้าหากเรายังใช้ยาปฏิชีวนะอย่างไม่สม
00:06:29 → 00:06:32 เหตุผลอยู่ต่อไปครับปัญหาเชื่ออย่างเนี่ย
00:06:32 → 00:06:35 ยังเป็นเรื่องที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็
00:06:35 → 00:06:39 คือว่าและเมื่อครู่ได้เล่าให้ฟังว่ามีคุณ
00:06:39 → 00:06:41 แม่ของคุณหมอท่านหนึ่งได้เสียชีวิตลงนะ
00:06:41 → 00:06:45 ครับแต่เชื้ออย่าไม่ได้หายไปจากโรงพยาบาล
00:06:45 → 00:06:48 นั้นนะครับไม่ได้หายไปจากจุดที่คุณแม่
00:06:48 → 00:06:51 เท่านั้นป่วยเช่นป่วยนอนไอซียูใช้ได้อยาก
00:06:51 → 00:06:54 ยังอยู่นะครับซึ่งความเป็นจริงแล้วจะได้
00:06:54 → 00:06:56 อย่างนั้นก็มาจากคนไข้ก่อนหน้านั้นแหละ
00:06:56 → 00:06:59 แล้วก็มาเข้าตัวเรานะครับซึ่งหมายความว่า
00:06:59 → 00:07:01 เราไม่ต้องอายุมากนะครับเราไม่ต้องมีโรค
00:07:01 → 00:07:04 ประจำตัวอะไรละอาจจะเข้าไปโรงพยาบาลด้วย
00:07:04 → 00:07:07 เหตุเล็กๆน้อยๆแต่มีเหตุบางอย่างที่เรา
00:07:07 → 00:07:10 ติดเชื้อในโรงพยาบาลและถ้าเราได้รับเชื้อ
00:07:10 → 00:07:13 อย่างนั้นก็จะเกิดอันตรายร้ายแรงอย่างที่
00:07:13 → 00:07:16 กล่าวไปแล้วเชื่อยาโดยทั่วๆไปแล้วถ้า
00:07:16 → 00:07:19 ปัญหาไม่รุนแรงเนี่ยมักจะเกิดขึ้นในโรง
00:07:19 → 00:07:21 พยาบาลเป็นสำคัญนะครับและปัจจุบันไม่ได้
00:07:21 → 00:07:24 เป็นฉะนั้นแล้วครับเชื้อด้วยอยากแพทย์อาจ
00:07:24 → 00:07:27 จะอยู่ในชุมชนหมายความว่าตอนนี้ประชาชน
00:07:27 → 00:07:30 ที่เจ็บป่วยด้วยโรคธรรมดาซึ่งแต่ก่อนหมอ
00:07:30 → 00:07:33 รักษาเนี่ยหมอสบายใจมากว่าหมอให้ยาไปก็คง
00:07:34 → 00:07:37 จะหายแรกโอกาสหาย 80 90 แต่เดี๋ยวนี้โรค
00:07:37 → 00:07:40 ทั่วไปเหมาะกังวลมากว่าให้อย่าไปครั้งแรก
00:07:40 → 00:07:43 นี้อาจจะไม่หายเพราะคนไข้อาจจะเป็นเชื้อ
00:07:43 → 00:07:47 ยาเหตุนี้เป็นสาเหตุที่เรากังวลเพราะ
00:07:47 → 00:07:50 ประชาชนมีการใช้ยาปฏิชีวนะที่เกิดจำเป็น
00:07:50 → 00:07:53 อยู่มากเลยครับเช่นเป็นหวัดไอเจ็บคอก็ไป
00:07:53 → 00:07:56 หายาปฏิชีวนะมาใช้ทั้งๆที่โรคเหล่านี้มัก
00:07:56 → 00:07:58 จะเป็นโรคติดเชื้อไวรัสนะครับท้องร่วง
00:07:58 → 00:08:01 ท้องเสียก็ไปหายาปฏิชีวนะมาใช้ซึ่งโรค
00:08:01 → 00:08:04 เหล่านี้ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะเลย
00:08:04 → 00:08:06 บาดแผลทั่วไปทำความสะอาดอย่างถูกต้องก็
00:08:06 → 00:08:09 ไม่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะการที่เราใช้ยา
00:08:09 → 00:08:12 ปฏิชีวนะพร่ำเพรื่อเกินจำเป็นเป็นจุดตั้ง
00:08:12 → 00:08:15 ต้นของการที่เรามีปัญหาช่วยด้วยอย่าแพร่
00:08:15 → 00:08:18 กระจายอย่างกว้างความในชุมชนซึ่งถ้าไม่
00:08:18 → 00:08:21 ร่วมมือกันแก้ไขนะครับก็จะส่งผลเสียอย่าง
00:08:21 → 00:08:24 ร้ายแรงที่ทำให้รักษาโรคได้ยากโอกาสติด
00:08:24 → 00:08:27 เชื้อดื้อยาแล้วก็มีอันตรายร้ายแรงที่อาจ
00:08:27 → 00:08:30 จะทุกคลภาพจะสูญเสียอวัยวะอาจจะเสียชีวิต
00:08:30 → 00:08:33 เกิดขึ้นได้ตลอดเวลาครับการที่เราจะเรียก
00:08:33 → 00:08:36 เชื้ออยากได้นะครับเราก็อยากปฏิบัติต่อไป
00:08:36 → 00:08:39 นี้นะครับข้อที่ 1 นะครับอย่าใช้ยา
00:08:39 → 00:08:42 ปฏิชีวนะอย่างพร่ำเพรื่อนะครับในที่นี้
00:08:42 → 00:08:45 หมายถึงว่าเราควรจะรู้เสียก่อนว่าการเจ็บ
00:08:45 → 00:08:49 ป่วยของเราที่เรามีไข้ไม่สบายเนี้ยเราติด
00:08:49 → 00:08:52 เชื้อแบคทีเรียจริงไหมบ่อยครั้งมันไม่ใช่
00:08:52 → 00:08:54 นะครับใช่มาเป็นไข้ตัวร้อนปวดเมื่อยมาอาจ
00:08:54 → 00:08:56 จะเป็นไข้หวัดใหญ่ก็ได้ถ้าเป็นไข้หวัด
00:08:57 → 00:08:59 ใหญ่ก็เป็นเชื้อไวรัสนะครับถ้าอยาก
00:08:59 → 00:09:02 ปฏิชีวนะไปไม่เกิดประโยชน์ต่อที่เป็นไข้
00:09:02 → 00:09:04 มาไม่สบายปรากฏว่าเป็นไข้เลือดออกไข้
00:09:04 → 00:09:06 เลือดออกเป็นเชื้อไวรัสวัวไปกินยา
00:09:06 → 00:09:09 ปฏิชีวนะอยู่กว่าจะรู้ว่าเป็นไข้เลือดออก
00:09:09 → 00:09:12 ว่าเสียเวลาไปนะครับอาจจะทำให้อาการหนัก
00:09:12 → 00:09:16 ขึ้นเป็นข้อแรกนะครับประชาชนทุกท่านควร
00:09:16 → 00:09:18 หลีกเลี่ยงการใช้ยาปฏิชีวนะเสมอเลยตั้งใจ
00:09:18 → 00:09:21 ว่าจะไม่ใช่ยาปฏิชีวนะไว้ก่อนนะครับเพื่อ
00:09:21 → 00:09:24 ไม่ให้ได้รับยาปฏิชีวนะที่เกินความจำเป็น
00:09:24 → 00:09:27 ครับข้อที่สองภาคเราติดเชื้อแบคทีเรีย
00:09:27 → 00:09:30 จริงนะครับได้รับการยืนยันและว่าเราติด
00:09:30 → 00:09:33 เชื้อแบคทีเรียนจริงนะครับเราก็ต้องใช้ยา
00:09:33 → 00:09:36 ปฏิชีวนะนั้นให้ครบตามระยะเวลาเสื้อผ้า
00:09:36 → 00:09:38 ที่ควรจะเป็นนะครับแบตทีเดียวมีหลายชื่อ
00:09:38 → 00:09:41 โลกมีหลายโรคระยะเวลาในการรักษาโรคไม่
00:09:41 → 00:09:44 เท่ากันบางโลกขึ้นมาอาจจะบอกว่า 3 วัน 5
00:09:44 → 00:09:48 วัน 7 วัน 10 วันถ้าเป็นวัณโรคซึ่งก็เป็น
00:09:48 → 00:09:50 เชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งต้องรักษานั้น
00:09:50 → 00:09:54 ตั้ม 9 เดือนนี้เป็นต้นดังนั้นเมื่อเราจะ
00:09:54 → 00:09:57 เชื้อแบคทีเรียเราก็ต้องใช้ยาปฏิชีวนะให้
00:09:57 → 00:10:01 ครบตามระยะเวลานั้นเพราะถ้าหากว่าเราต้อง
00:10:01 → 00:10:03 รักษาเช่น 7 วันนะครับแล้วกินยาไปวันสอง
00:10:03 → 00:10:05 วันแล้วก็เอออาการดีแล้วหยุดยาดีกว่า
00:10:05 → 00:10:08 อย่างนี้แบคทีเดียวมันก็ยังไม่หมดไปใช่
00:10:08 → 00:10:11 ไหมครับแต่แตกทีเดียวเกาะโรคเหล่านั้นมัน
00:10:11 → 00:10:13 รู้จักยามากิชุดนั้นแล้วมันก็จะเริ่มมี
00:10:13 → 00:10:16 ความสามารถในการด้วยยาแล้วเท่ากับเรา
00:10:16 → 00:10:18 กำลังทิ้งไปที่จะได้อยากเก็บไว้ในร่างกาย
00:10:18 → 00:10:21 ของเราและแบคทีเรียด้วยยาสามารถกระจายจาก
00:10:22 → 00:10:25 บุคคลหนึ่งไปยังบุคคลอีกคนหนึ่งได้จากการ
00:10:25 → 00:10:27 สัมผัสกันอยู่ใกล้ชิดกับนี้ได้ด้วยนะครับ
00:10:27 → 00:10:31 ดังนั้นใครก็ตามที่ใช้ยาปฏิชีวนะอย่างไม่
00:10:31 → 00:10:34 สมเหตุผลเมื่อได้สะสมเชื้อดื้อยาหรือได้
00:10:34 → 00:10:37 สร้างเธอได้อย่างไว้แล้วและก็จะส่งผลเสีย
00:10:37 → 00:10:40 กับทุกคนในสังคมทำให้คนที่ระมัดระวังตัว
00:10:40 → 00:10:43 อย่างดีปฏิบัติตัวถูกต้องก็ได้รับผลเสีย
00:10:43 → 00:10:45 นั่นไปด้วยเมื่อได้รับเชื้ออย่างที่ผู้
00:10:45 → 00:10:48 อื่นเป็นผู้สร้างขึ้นนะครับประการถัดไป
00:10:48 → 00:10:51 การใช้ยาปฏิชีวนะที่ถูกต้องเราจะต้องใช้
00:10:51 → 00:10:54 ให้ถูกขนาดเสมอนะครับเช่นต้องใช้ 1 กรัม
00:10:54 → 00:10:57 เราก็ต้องใช้ 1 กรัมแต่ถ้าประชาชนขาดความ
00:10:57 → 00:11:00 รู้อาจจะได้รับยามาเพียง 1 เม็ดซึ่งมันมี
00:11:00 → 00:11:03 เพียง 500 เมตรครับถ้าใช้อย่างนี้เรียก
00:11:03 → 00:11:06 ว่าเราใช้ยาที่มีขนาดใหญ่อาทิตย์ต่ำเกิด
00:11:06 → 00:11:09 ไปขนาดยาที่ต่ำเกินไปก็จะไม่ออกฤทธิ์ใน
00:11:09 → 00:11:12 ลักษณะที่ไปทำลายแบคทีเรียได้ทั้งหมดนะ
00:11:12 → 00:11:15 ครับได้ทำรายได้บางส่วนแบคทีเรียที่เหลือ
00:11:15 → 00:11:18 อยู่ก็จะมีความสามารถในการหรืออย่างนะ
00:11:18 → 00:11:21 ครับสรุปว่าสิ่งสำคัญ 3 ประการหนึ่งไม่
00:11:21 → 00:11:24 ใช่ยาปฏิชีวนะอย่างพร่ำเพรื่อ 2 เมื่อติด
00:11:24 → 00:11:28 เชื้อแบคทีเรียใช้อยากให้ครบระยะ 3 เมื่อ
00:11:28 → 00:11:30 ติดเชื้อแบคทีเรียใช้ยาปฏิชีวนะนั้นให้
00:11:30 → 00:11:34 ครบตามขนาดที่ควรจะเป็นครับการใช้ยา
00:11:34 → 00:11:38 ปฏิชีวนะให้ครบติดตามระยะเวลานะครับก็จะ
00:11:38 → 00:11:41 มีประเด็นปิดยอดอย่างนี้นะครับสมมตินะ
00:11:41 → 00:11:44 ครับว่าเราเป็นหวัดนะโมกหลายๆเจ็บคอซึ่ง
00:11:44 → 00:11:47 จริงๆมันเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสแต่
00:11:47 → 00:11:51 เราไปรับยาปฏิชีวนะมาเสียบก่อนจะไปซื้อ
00:11:51 → 00:11:54 ยามากินเองหรือได้รับจากที่ใดก็แล้วแต่นะ
00:11:54 → 00:11:58 ครับในทันทีที่เรารู้ว่าเราไม่ได้ติด
00:11:58 → 00:12:01 เชื้อแบคทีเรียแม้เราได้รับยาปฏิชีวนะมา
00:12:01 → 00:12:04 20 เมตรแล้วกินไป 4 เม็ดที่เหลือ 16
00:12:04 → 00:12:07 เมตรต้องไม่กินต่อนะครับเพราะในกรณีนี้
00:12:07 → 00:12:10 เราไม่ได้ติดเชื้อแบคทีเรียตั้งแต่แรก
00:12:10 → 00:12:12 เมื่อรู้ว่าเราไม่ได้ติดเชื้อแบคทีเรีย
00:12:12 → 00:12:16 และเราฉายาปฏิณัฐผิดไปในทันทีที่รู้ว่า
00:12:16 → 00:12:19 ผิดแล้วต้องหยุดเลยนะครับดังนั้นประโยค
00:12:19 → 00:12:22 ที่ประชาชนมักจะจำขึ้นใจเลยว่ากินแล้ว
00:12:22 → 00:12:25 ต้องกินให้หมดอันนี้ผิดนะครับกินแล้วต้อง
00:12:25 → 00:12:28 กินให้หมดเฉพาะเมื่อเราจะเชื้อแบคทีเรีย
00:12:28 → 00:12:31 อย่างแท้จริงเท่านั้นนะครับถ้าเรามารู้
00:12:31 → 00:12:33 ภายหลังระหว่างที่กินอยู่ว่ามันเป็นการ
00:12:33 → 00:12:36 ที่ชื่อไวรัสอย่างนี้ต้องหยุดทั้งทีเหมาะ
00:12:36 → 00:12:39 สำหรับประชาชนที่เจ็บป่วยได้ปัญหาใช้ได้
00:12:39 → 00:12:42 อย่างนะครับสามารถติดต่อได้ที่อาคารภปร
00:12:42 → 00:12:45 ชั้นล่างนะครับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภา
00:12:45 → 00:12:48 กาชาดไทยครับขนาดคัดกรองก็จะส่งท่านไปพบ
00:12:48 → 00:12:51 กับแพทย์ในแผนกต่างๆตามความเหมาะสมต่อไป
00:12:51 → 00:12:54 ครับก็ทราบกันแล้วนะครับถึงความอันตราย
00:12:54 → 00:12:57 ของการติดเชื้ออย่าถ้าใครที่มีอาการเจ็บ
00:12:57 → 00:13:00 ป่วยก็ไม่ควรซื้อยาปฏิชีวนะทานเองนะครับ
00:13:00 → 00:13:03 ทางที่ดีหากพบว่ามีอาการปวดเป็นเวลานาน
00:13:03 → 00:13:06 แล้วยังไม่หายควรรีบไปปรึกษาแพทย์จะดีที่
00:13:06 → 00:13:09 สุดครับด้วยความปรารถนาดีจากโรงพยาบาล
00:13:09 → 00:13:11 จุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทย
00:13:11 → 00:13:21 [เพลง]