00:00:00 → 00:00:03 คุณหมอคะทำไมคนเราจึงรู้สึกหนาวแต่คนรอบ
00:00:03 → 00:00:05 ตัวเราก็บอกว่าไม่หนาวอย่างที่เราได้
00:00:05 → 00:00:08 เกริ่นกันเมื่อสักครู่นี้ทำไมเขาเรียกว่า
00:00:08 → 00:00:11 หูยเธอนี่ขี้หนาวนะเนี่ยเอ่อความรู้สึก
00:00:11 → 00:00:14 หนาวกว่าปกติกว่าคนอื่นน่ะมันคืออะไรคะ
00:00:14 → 00:00:15 คุณหมอคะ
00:00:15 → 00:00:20 ก็ก่อนที่จะตอบว่าทำไมคนอื่นถึงรู้สึก
00:00:20 → 00:00:24 หนาวกับเราอะไรเงี้ยขออธิบายก่อนว่าทำไม
00:00:24 → 00:00:27 เราถึงรู้สึกหนาวอาการหนาวเนี่ยมันเกิด
00:00:27 → 00:00:30 ขึ้นได้อย่างไรนะคะอาการหนาวอ่ะค่ะมันก็
00:00:30 → 00:00:33 เป็นการตอบสนองของร่างกายค่ะเพื่อรักษา
00:00:33 → 00:00:36 สมดุลของอุณหภูมิภายในร่างกายนะคะเมื่อ
00:00:36 → 00:00:40 อากาศภายนอกมียาคุมที่เย็นลงโดยปกติเนี่ย
00:00:40 → 00:00:43 ที่ผิวหนังเราอ่ะค่ะจะมีตัวรับการเปลี่ยน
00:00:43 → 00:00:45 แปลงของอุณหภูมิที่เราจะเรียกว่าเป็น
00:00:45 → 00:00:47 เทอร์โมนรีเซ็ตเตอร์ไอ้ตัวรับอุณหภูมิ
00:00:47 → 00:00:49 ร้อนเย็นเนี่ยก็จะอยู่ที่บริเวณผิวหนัง
00:00:49 → 00:00:53 เมื่อมีอุณหภูมิของสิ่งแวดล้อมที่ลดลงอ่ะ
00:00:53 → 00:00:56 ค่ะตัวรับอุณหภูมิตรงเนี้ยที่ผิวหนังของ
00:00:56 → 00:00:59 เราเนี่ยก็จะส่งสัญญาณไปยังสมอง
00:00:59 → 00:01:02 ที่เราเรียกว่าเป็น hypothalamus ซึ่ง
00:01:02 → 00:01:05 เป็นสมองส่วนนี้ของเราค่ะก็จะเป็นส่วนที่
00:01:05 → 00:01:08 ควบคุมการรับรู้อุณหภูมิร้อนเย็นคือเช่น
00:01:08 → 00:01:10 อากาศเย็นลงกว่าอุณหภูมิ
00:01:10 → 00:01:13 แกนกลางภายในร่างกายของเรานี้ก็จะรู้สึก
00:01:13 → 00:01:16 ที่หนาวเกิดขึ้นมาอันนี้ก็คือเป็นกลไก
00:01:16 → 00:01:20 ปกติเวลาที่คนเรารู้สึกหนาว
00:01:20 → 00:01:24 อธิบายเพิ่มเติมอีกนิดนึง
00:01:24 → 00:01:25 การที่
00:01:26 → 00:01:29 ร่างกายจะตอบสนองต่อความหนาวเนี่ยมันจะมี
00:01:29 → 00:01:32 อะไรเกิดขึ้นบ้างนะคะก็เวลาที่เรารู้สึก
00:01:32 → 00:01:35 หนาวเนี่ยเลือดส่วนใหญ่ในร่างกายส่วนไหน
00:01:35 → 00:01:38 ก็จะพยายามไปเลี้ยงอวัยวะที่สำคัญๆเช่นไป
00:01:39 → 00:01:41 ที่สมองไปที่หัวใจอะไรอย่างนี้จะเพิ่ม
00:01:41 → 00:01:43 เลือดไปเลี้ยงอวัยวะเหล่านั้นมากขึ้น
00:01:43 → 00:01:47 เพื่อนำพาความเพื่อให้ความนำพาความร้อนไป
00:01:47 → 00:01:50 ให้เกิดเลือดไปเลี้ยงเกิดสร้างความร้อนก็
00:01:50 → 00:01:53 จะเกิดสร้างความอบอุ่นในร่างกายแต่ว่า
00:01:53 → 00:01:56 บริเวณที่ปลายมือปลายเท้าของเราค่ะจะเกิด
00:01:56 → 00:02:00 การหดตัวของหลอดเลือดเพราะว่าจะต้องเอา
00:02:00 → 00:02:03 เลือดไปเลี้ยงอวัยวะที่สำคัญเพราะฉะนั้น
00:02:03 → 00:02:05 เวลาที่เกิดอากาศหนาวหรือว่าเรารู้สึก
00:02:06 → 00:02:09 หนาวขึ้นเนี่ยปลายมันปลายเท้าสังเกตว่าก็
00:02:09 → 00:02:12 จะเย็นขึ้นกว่าปกตินะคะเลือดเลือดไม่อยู่
00:02:12 → 00:02:14 ใช่ไหมคะเลือดเข้าไปที่ส่วนอื่น
00:02:14 → 00:02:17 นอกจากการที่มีเส้นเลือดหดตัวที่บริเวณ
00:02:17 → 00:02:20 ปลายมือปลายเท้าของเราแล้วเนี่ยอาการการ
00:02:20 → 00:02:23 ตอบสนองของร่างกายอื่นๆต่อความหนาวของเรา
00:02:23 → 00:02:27 เช่นอาจจะเกิดมีอาการสั่นขึ้นมาการสั่น
00:02:27 → 00:02:30 เป็นเป็นการที่กล้ามเนื้อหดตัวอย่างรวด
00:02:30 → 00:02:32 เร็วการที่กล้ามเนื้อส่วนตัวอย่างรวดเร็ว
00:02:33 → 00:02:35 ก็จะมีการสร้างความร้อนเกิดขึ้นให้เกิด
00:02:35 → 00:02:38 ความร้อนขึ้นในบริเวณร่างกายของเราอีก
00:02:38 → 00:02:41 อาการหนึ่งที่เกิดขึ้นเวลาที่เราร่างกาย
00:02:41 → 00:02:44 ต่อความหนักดินก็คืออาจจะมีอาการขนลุก
00:02:44 → 00:02:48 ขึ้นได้ซึ่งอาการขนลุกเนี่ยเกิดเพราะว่า
00:02:48 → 00:02:50 กล้ามเนื้อที่อยู่บริเวณรอบๆรูขุมขนของ
00:02:51 → 00:02:55 เราหดตัวหดขนจริงตั้งขึ้นมาเรียกว่าการขน
00:02:55 → 00:02:57 ลุกก็จะเป็นอีกกลไกในที่ช่วยรักษา
00:02:57 → 00:03:01 อุณหภูมิของร่างกายให้เราอุณหภูมิร่างกาย
00:03:01 → 00:03:05 มากขึ้นในภาวะที่เกิดอากาศหนาวแต่ว่าเรา
00:03:05 → 00:03:08 แค่ไหนล่ะถึงจะเรียกว่าขี้หนาวกว่าคนส่ง
00:03:08 → 00:03:13 ครับก็จะสังเกตว่าถ้าเราอยู่ในอุณหภูมิ
00:03:13 → 00:03:16 หรือสิ่งแวดล้อมที่เป็นปกติอย่างนี้ทั้งๆ
00:03:16 → 00:03:19 ที่ไม่ควรหนาวยกตัวอย่างเช่นอุณหภูมิภาย
00:03:19 → 00:03:21 นอกสัก
00:03:21 → 00:03:26 3-8 องศา 30 องศาซึ่งคนปกติไม่ควรจะหนาว
00:03:26 → 00:03:29 ชายแล้วแต่ว่าเรามีความรู้สึกว่าโอ้ยมัน
00:03:29 → 00:03:32 หนาวจังเลยอะไรอย่างนี้แล้วเป็นตลอดเนี่ย
00:03:32 → 00:03:34 ก็อาจจะต้องมองหาแล้วว่าเอ๊ะมีความผิด
00:03:34 → 00:03:38 ปกติอะไรอย่างอื่นร่วมด้วยหรือเปล่าคะ
00:03:38 → 00:03:41 เท่าที่เราสังเกตเห็นในคนรอบข้างเราเนี่ย
00:03:41 → 00:03:44 คิดว่าน้องดรีมน้องคงจะเคยเจอคนที่เป็น
00:03:44 → 00:03:47 ลักษณะขนลุกอ่ะเขาก็จะลูบๆแขนของเขาตลอด
00:03:47 → 00:03:49 เขาขนลุกจริงๆแล้วเขาก็จะหนาวจริงๆอย่าง
00:03:49 → 00:03:52 เงี้ยเค้าก็จะเป็นคนที่มีลักษณะผอมค่ะ
00:03:52 → 00:03:59 เกี่ยวไหมคะอืมค่ะ
00:03:59 → 00:04:03 ไขมันในร่างกายของเราค่ะคือก็จะเป็นฉนวน
00:04:03 → 00:04:08 กันความร้อนถ้าเกิดกรณีที่แบบคนที่มีไข
00:04:08 → 00:04:10 มันในร่างกายเยอะขึ้นใช่ไหมคะคนอ้วนอย่าง
00:04:10 → 00:04:13 นี้ท้วมๆมีไขมันเยอะแล้วก็จะคิดว่าโอเค
00:04:13 → 00:04:16 เขาอาจจะไม่ค่อยหนาวเพราะว่าเขามีสงวนกัน
00:04:16 → 00:04:19 ความร้อนออกจากร่างกายได้เยอะอะไรอย่าง
00:04:19 → 00:04:22 นี้ก็เป็นจริงในลักษณะนี้เพราะว่าคนอ้วน
00:04:22 → 00:04:26 เนี่ยมีฉนวนป้องกันไข่เป็นไขมันที่เป็น
00:04:26 → 00:04:28 ส่วนป้องกันความร้อนเยอะแต่ในความเป็น
00:04:28 → 00:04:31 จริงเราอาจจะเข้าใจว่าคนผอมไม่ค่อยมีไข
00:04:31 → 00:04:35 มันจะขี้หนาวคนอ้วนหรือเปล่าอะไรอย่างนี้
00:04:35 → 00:04:39 นะคะจริงๆเนี่ยในร่างกายคนเรามันมีกลไก
00:04:39 → 00:04:42 ที่ในการป้องกันความหนาวซับซ้อนกว่าการ
00:04:42 → 00:04:46 ที่มีไขมันเยอะกว่านั้นคือจริงๆแล้วเนี่ย
00:04:47 → 00:04:50 เออเวลาเกิดความหนาวขึ้นมาเนี่ยร่างกายก็
00:04:50 → 00:04:53 จะมีการเพิ่มการใช้พลังงานของร่างกายมาก
00:04:53 → 00:04:56 ขึ้นเพื่อสร้างความร้อนอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:04:56 → 00:05:00 ในการวิจัยก็มีการวิจัยเค้าก็มีคำถาม
00:05:00 → 00:05:04 อย่างนี้ค่ะว่าคนอ้วนกับคนผอมเนี่ยจะคน
00:05:04 → 00:05:06 ผอมจะหนาวกว่าคนอ้วนจริงหรือเปล่าแต่ว่า
00:05:06 → 00:05:10 ในการวิจัยนะคะเขาก็วิจัยมาปรากฏว่าไม่
00:05:10 → 00:05:13 ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไปเพราะว่าเราพบว่า
00:05:13 → 00:05:17 ในกลุ่มของคนผอมอ่ะค่ะจะมีการสร้างพลัง
00:05:18 → 00:05:20 งานจะมีการใช้พลังงานที่เพิ่มมากขึ้นใน
00:05:20 → 00:05:23 ขณะที่เราเกิดอาการหนาวมากขึ้นนะคะก็คือ
00:05:23 → 00:05:26 จะสร้างพลังงานเพิ่มขึ้นมาเพื่อทำให้ร่าง
00:05:26 → 00:05:29 กายเนี่ยอบอุ่นมากขึ้นเพราะฉะนั้นการที่
00:05:29 → 00:05:35 บอกว่าคนอ้วนจะควรผอมจะกันที่หนาวของคนก็
00:05:35 → 00:05:38 อาจจะไม่ลอยเปอร์เซ็นต์นะคะ
00:05:38 → 00:05:41 มีปฏิกิริยาในร่างกายของเขาเนี่ยเกิดขึ้น
00:05:42 → 00:05:47 เยอะกว่าคนอ้วนหรอคะก็คือใช่ค่ะคนผอมคน
00:05:47 → 00:05:50 ผอมที่เป็นคนแข็งแรงส่วนใหญ่อ่ะค่ะก็จะมี
00:05:50 → 00:05:54 การเอ่อใช้พลังงานเพิ่มการใช้พลังงานที่
00:05:54 → 00:05:56 มากขึ้นในการเผาผลาญที่ดีอะไรอย่างเงี้ย
00:05:56 → 00:05:59 ค่ะมันก็เวลาเกิดอาการหนาวอ่ะก็คือจะไม่
00:06:00 → 00:06:04 ได้หนาวไม่ได้หนาวผิดปกติดอยจะเป็นคนนะคะ
00:06:04 → 00:06:09 ไม่จำเป็นเสมอไปว่าหนักรอคนผอมจะหนาวมี
00:06:09 → 00:06:12 อาการหนาวมากกว่าคนอ้วนแต่ว่าถ้าในพูดใน
00:06:12 → 00:06:15 ทางกลับกันบอกว่าถ้าคนอ้วนเนี่ยไม่หนาวก็
00:06:15 → 00:06:20 อาจจะหนาวยากกว่าคนผอมอะไรอย่างนี้เพราะ
00:06:20 → 00:06:23 ว่าเขามีไขมันเยอะมันก็เป็นฉนวนป้องกัน
00:06:23 → 00:06:26 ความร้อนที่แบบจะออกจากร่างกาย
00:06:26 → 00:06:30 คุณหมอครับแล้วไอ้เรื่องของภาวะถ้าเรา
00:06:30 → 00:06:33 เป็นอย่างที่คุณหมอได้อธิบายไว้ในเบื้อง
00:06:33 → 00:06:38 ต้นแล้วว่าไอ้ภาวะขี้หนาวที่ที่บางคนอาจ
00:06:38 → 00:06:41 จะเจอบางคนอาจจะเป็นเนี่ยมันสามารถบ่งชี้
00:06:41 → 00:06:45 ถึงภาวะสุขภาพหรือว่าโรคบางอย่างในตัวเขา
00:06:45 → 00:06:48 ได้บ้างไหมครับว่ามันจะมีความสุ่มเสี่ยง
00:06:48 → 00:06:49 หรือว่า
00:06:49 → 00:06:53 ในร่างกายของเรากำลังก่อตัวอะไรขึ้นอยู่
00:06:53 → 00:06:58 มั้ยฮะได้ค่ะก็เป็นได้ของเหมือนกันยกตัว
00:06:58 → 00:06:59 อย่างเช่น
00:06:59 → 00:07:02 มันมีแบบความหนาวผิดปกติในกรณีที่แบบคน
00:07:02 → 00:07:07 อื่นก็ดูไม่น่าคือภาวะปกติก็ดูไม่หนาวไร
00:07:07 → 00:07:08 เงี้ยแต่ทำไมมันหนาวจังเลยอะไรอย่างเงี้ย
00:07:08 → 00:07:11 ค่ะก็อาจจะมีโรคที่สงสัยได้ยกตัวอย่าง
00:07:12 → 00:07:16 เช่นในภาวะที่มีเอ่อไทรอยด์ฮอร์โมนที่ใน
00:07:16 → 00:07:20 ระดับต่ำอ่ะค่ะก็จะเป็นหนึ่งในสาเหตุที่
00:07:20 → 00:07:24 มีอาการหนาวผิดปกติได้เพราะว่าฮอร์โมน
00:07:24 → 00:07:26 ไทรอยด์เนี่ยเป็นฮอร์โมนที่สำคัญหรือเป็น
00:07:27 → 00:07:29 ที่เป็นตัวควบคุม metabolism ของร่างกาย
00:07:29 → 00:07:32 การเผาผลาญพลังงานของร่างกายถ้าเกิดว่ามี
00:07:32 → 00:07:35 ฮอร์โมนตัวนี้ต่ำก็อาจจะทำให้มีอาการที่
00:07:35 → 00:07:40 หนาวได้ง่ายแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าเรา
00:07:40 → 00:07:43 สงสัยในเรื่องของไทรอยด์ต่ำค่ะก็อาจจะมี
00:07:43 → 00:07:46 อาการอื่นๆของไทรอยด์ต่ำร่วมด้วยยกตัว
00:07:46 → 00:07:50 อย่างเช่นอาจจะมีแบบอาการเฉยๆชาๆดูไม่
00:07:50 → 00:07:53 ค่อย Active หรือว่ามีน้ำหนักขึ้นที่ผิด
00:07:53 → 00:07:59 ปกติมีท้องผูกง่ายผิวแห้งอะไรอย่างนี้ค่ะ
00:07:59 → 00:08:02 บ่งบอกว่าอัตรามีปัญหาเรื่องของไทรอยด์
00:08:02 → 00:08:07 ต่ำค่ะอันนี้คือไทรอยด์ต่ำภาวะอื่นด้วย
00:08:07 → 00:08:09 ไหมครับคุณหมอครับเพราะว่าผมไปลอง search
00:08:09 → 00:08:16 หาดูโอ้โหมันมันมีภาวะความเสี่ยงเยอะแยะ
00:08:16 → 00:08:17 มากเลยครับ
00:08:17 → 00:08:20 ภาวะเลือดจางเกี่ยวข้องด้วยไหมครับคุณหมอ
00:08:20 → 00:08:24 ครับค่ะ
00:08:24 → 00:08:28 ก็ทำให้ก็คือเป็นภาวะที่ร่างกายของเรา
00:08:28 → 00:08:32 เนี่ยเม็ดเลือดแดงน้อยลงก็คือสร้างเม็ด
00:08:32 → 00:08:36 เลือดแดงแบบไม่ค่อยเพียงพอต่อการที่จะนำ
00:08:36 → 00:08:38 ออกซิเจนคือเม็ดเลือดแดงเนี่ยมันจะเป็น
00:08:38 → 00:08:41 ตัวนำออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงบริเวณเนื้อ
00:08:41 → 00:08:44 เยื่อต่างๆของร่างกายเนี่ยไปเลี้ยงส่วน
00:08:44 → 00:08:47 ต่างๆถ้าเกิดว่าคนที่มีเม็ดเลือดแดงน้อย
00:08:47 → 00:08:50 หรือมีภาวะซีดอย่างเงี้ยค่ะก็อาจจะมีแบบ
00:08:50 → 00:08:55 มีเหนื่อยมีเพลียได้แล้วก็ออกซิเจนที่ไป
00:08:55 → 00:08:57 เลี้ยงอวัยวะต่างๆก็ไม่เพียงพอการสร้าง
00:08:57 → 00:09:00 พลังงานก็อาจจะเกิดสวยลงการผลิตความร้อน
00:09:00 → 00:09:04 ก็น้อยลงก็จะทำให้มีอาการหนาวได้ง่ายกว่า
00:09:04 → 00:09:06 คนปกติ
00:09:06 → 00:09:09 อันนี้คือมีความสุ่มเสี่ยงทั้งเรื่องของ
00:09:09 → 00:09:14 ภาวะต่างๆเลือดจางด้วยเรื่องของความผิด
00:09:14 → 00:09:16 ปกติเรื่องของหลอดเลือดนี่เกี่ยวข้องด้วย
00:09:16 → 00:09:20 ไหมครับคุณหมอฮะ
00:09:20 → 00:09:24 ยกตัวอย่างเช่นในกรณีที่หลอดเลือดหดตัว
00:09:24 → 00:09:28 ง่ายผิดปกติหรือว่ามีการหดตัวที่ผิดปกติ
00:09:28 → 00:09:32 ของหลอดเลือดอย่างนี้ค่ะก็อาจจะทำให้มี
00:09:32 → 00:09:36 มีอวัยวะส่วนปลายที่ที่เลือดไปเลี้ยงไม่
00:09:36 → 00:09:40 พอยกตัวอย่างเช่นถ้ามีหลอดเลือดผิดปกติ
00:09:40 → 00:09:43 บริเวณปลายมือปลายเท้าหลอดเลือดตีบอย่าง
00:09:43 → 00:09:45 เงี้ยค่ะก็จะทำให้เลือดเนี่ยไปเลี้ยง
00:09:45 → 00:09:49 บริเวณนั้นไม่พอก็จะทำให้มีการซีดมือเย็น
00:09:49 → 00:09:52 เท้าเย็นอะไรอย่างเงี้ยเป็นต้น
00:09:52 → 00:09:55 ถึงหลอดเลือดมันจะไปเกี่ยวกับเบาหวานอะไร
00:09:55 → 00:09:59 อย่างนี้ไหมคะคุณหมอค่ะใช่ค่ะ
00:09:59 → 00:10:02 ที่ผ่านมาเป็นระยะเวลานานๆก็อาจจะความผิด
00:10:02 → 00:10:05 ปกติเกี่ยวกับหลอดเลือดส่วนปลายได้และก็
00:10:05 → 00:10:08 อาจมีความผิดปกติเกี่ยวกับในเรื่องของ
00:10:08 → 00:10:12 ไฟล์ประสาทได้เช่นกันก็อาจจะทำให้ในคนที่
00:10:12 → 00:10:17 เป็นเบาหวานมาเป็นระยะเวลานานมีผลแทรก
00:10:17 → 00:10:20 ซ้อนต่อระบบหลอดเลือดส่วนปลายหรือระบบ
00:10:20 → 00:10:24 ปลายประสาทก็อาจจะทำให้มีที่หนาวได้เช่น
00:10:24 → 00:10:29 แบบมือเย็นเท้าเย็นผิดปกติแบบนี้ค่ะ
00:10:29 → 00:10:33 น่าจะไปปรึกษาหาหมออีกทีนึงว่าเขาจะมี
00:10:33 → 00:10:42 วิธีทำยังไงให้ให้มันดีขึ้นใช่ไหมคะ
00:10:42 → 00:10:46 คนอื่นดูไม่ได้หนาวเลยอุณหภูมิมันก็ไม่
00:10:46 → 00:10:49 น่าหนาวอย่างนี้ค่ะแบบอยู่ในหน้าร้อน
00:10:49 → 00:10:53 อุณหภูมิร้อนแดดเรารู้สึกหนาวผิดปกติอะไร
00:10:53 → 00:10:56 อย่างนี้ก็ควรที่จะไปพบแพทย์เพื่อหา
00:10:57 → 00:11:00 สาเหตุของความผิดปกติเพิ่มเติมค่ะว่าจะ
00:11:00 → 00:11:03 เป็นความผิดปกติจากระบบไหนได้บ้างค่ะ
00:11:03 → 00:11:07 คุณหมอครับมันมี 1 ข้อมูลที่ถูกส่งต่อกัน
00:11:07 → 00:11:10 ในโลกออนไลน์กันเยอะมากเกี่ยวกับเรื่อง
00:11:10 → 00:11:12 ของอาการขี้หนาวเนี่ยเขาบอกว่ามันเป็น
00:11:12 → 00:11:16 อาการบ่งชี้ถึงเรื่องของโรคไตเสื่อมก็เลย
00:11:16 → 00:11:18 อยากจะรู้ว่าเออไอ้เรื่องของอาการโรคไต
00:11:18 → 00:11:20 เสื่อมเนี่ยมันมีความเกี่ยวข้องกับขี้
00:11:21 → 00:11:23 หนาวด้วยไหมครับคุณหมอครับ
00:11:23 → 00:11:27 ใช่ครับ
00:11:27 → 00:11:30 ถูกส่งต่อกันผ่านทางโลกออนไลน์เขาบอกว่า
00:11:30 → 00:11:33 ถ้าคนที่ถ้าขี้หนาวหน้าถ้าสังเกตว่าคุณ
00:11:33 → 00:11:35 ขี้หนาวเนี่ยแสดงว่าไตเสื่อมแล้วคุณเนี่ย
00:11:35 → 00:11:38 มีอาการของโรคไตเสื่อมแล้วมันมีข้อมูล
00:11:38 → 00:11:40 สุขภาพเยอะค่ะช่วงนี้คุณหมอทางไลน์อย่าง
00:11:40 → 00:11:44 เงี้ยค่ะ
00:11:44 → 00:11:48 พิจารณาดีๆและคือไม่แน่ใจว่าไปเสื่อมของ
00:11:48 → 00:11:55 เขาเนี่ยมันมันคือแค่ความรุนแรงแค่ไหนยก
00:11:55 → 00:11:57 ตัวอย่างเช่นถ้าสมมุติว่าคนไข้ที่มีการทำ
00:11:57 → 00:12:01 งานของไตที่แย่ลงหรือว่าว่าเป็นโรคไตใน
00:12:01 → 00:12:05 ระยะที่ค่อนข้างรุนแรงอยู่ในระยะที่ท้ายๆ
00:12:05 → 00:12:07 การทำงานของไตแย่ลงเยอะอะไรอย่างนี้ค่ะ
00:12:07 → 00:12:12 เขาก็จะมีภาวะที่เกิดขึ้นก็คือซีดได้ก็
00:12:12 → 00:12:14 คือเม็ดเลือดแดงอย่างน้อยลงได้ก็อาจจะ
00:12:14 → 00:12:17 เป็นจริงในกรณีที่แบบไปเสื่อมเยอะมากมี
00:12:17 → 00:12:19 เม็ดเลือดแดงน้อยลงก็คือมีภาวะที่อย่าง
00:12:19 → 00:12:23 นี้ก็อาจจะทำให้มีอาการอย่างที่เราคุยกัน
00:12:23 → 00:12:25 ไปในเบื้องต้นว่าในคนที่มีเม็ดเลือดแดง
00:12:25 → 00:12:29 ต่ำมีภาวะเลือดจางอาจจะทำให้ขี้หนาวกว่า
00:12:29 → 00:12:32 ปกติได้อะไรอย่างนี้เป็นต้นแต่ว่าไป
00:12:32 → 00:12:36 เสื่อมแบบเริ่มมีการลดลงของการทำงานของไต
00:12:36 → 00:12:39 อยู่ในระยะต้นๆเพียงเล็กน้อยยังไม่ได้มี
00:12:39 → 00:12:43 ภาวะอื่นๆเช่นมีเรื่องของเลือดจางร่วม
00:12:43 → 00:12:47 ด้วยอะไรอย่างนี้ค่ะก็อาจจะอาจจะไม่ได้
00:12:47 → 00:12:51 เจอว่ามีความที่หนาวผิดปกติในคนไข้กลุ่ม
00:12:51 → 00:12:55 อย่างนี้ค่ะแล้วคำว่าไตเสื่อมที่แชร์ๆกัน
00:12:55 → 00:12:58 มาอย่างที่ดรีมบอกเนี่ยครับมันกว้างคุณ
00:12:58 → 00:13:01 หมอคุณหมอก็ตอบด้วยวิเคราะห์ในลักษณะของ
00:13:01 → 00:13:05 ว่ามันมาทั้งเลือดไหมความไม่สมบูรณ์ของ
00:13:05 → 00:13:09 เม็ดเลือดที่มันจะส่งผลให้เกิดอาการหนาว
00:13:09 → 00:13:11 อาการซีดอะไรอย่างที่คุณหมอบอกในตอนต้น
00:13:11 → 00:13:15 คือมันเชื่อมโยงกันหมดต้องไปตรวจให้มัน
00:13:15 → 00:13:19 ละเอียดอีกทีนึงใช่ๆๆคุณหมอครับอาการของ
00:13:19 → 00:13:23 กลุ่มขี้หนาวอย่างที่เราได้อธิบายไปกัน
00:13:23 → 00:13:26 เนี่ยฮะส่วนใหญ่เนี่ยจากข้อมูลที่ทำการ
00:13:26 → 00:13:32 รักษาเนี่ยมักจะเจอในกลุ่มคนอายุเท่าไหร่
00:13:32 → 00:13:37 ก็อาจจะเจอในคนที่แบบเอ่อถ้าเกิดว่ามีคน
00:13:37 → 00:13:40 ทั่วๆไปนะคะหมายถึงว่าไม่ได้มีโรคอะไรแบบ
00:13:40 → 00:13:43 ซ่อนอยู่อ่ะค่ะในคนที่สูงอายุอ่ะค่ะก็พบ
00:13:43 → 00:13:46 ว่าอาจจะหนาวได้ง่ายกว่าหลายคนที่อายุ
00:13:46 → 00:13:50 น้อยกว่าอันที่ 1 อาจจะเป็นจากการที่คน
00:13:50 → 00:13:53 ที่สูงอายุเนี่ยตัวเรื่องของ metabolism
00:13:53 → 00:13:58 ระบบเผาผลาญเค้าอ่ะจะไม่ค่อยดีเท่าในคน
00:13:58 → 00:13:59 ที่แบบอายุ
00:13:59 → 00:14:04 ในคนวัยรุ่นการสร้างความร้อนในร่างกายการ
00:14:04 → 00:14:07 ใช้พลังงานการเผาผลาญพลังงานอาจจะหรือไม่
00:14:07 → 00:14:12 เท่าอันนี้คือในคนคนปกตินะคะไม่นับว่าคน
00:14:12 → 00:14:14 ที่แบบเป็นโรคแสงอย่างที่เราคุยกันข้าง
00:14:14 → 00:14:17 ต้นเพราะอันนั้นจะไม่เกี่ยวกับอายุอ่ะค่ะ
00:14:17 → 00:14:21 คือถ้าในวัยแล้วโดยทั่วไปเนี่ยผู้สูงอายุ
00:14:21 → 00:14:25 ก็จะมีแนวโน้มที่เขาจะหนาวอยู่แล้วมัน
00:14:25 → 00:14:28 เป็นเรื่องของความเม็ดเลือดมันจะไม่ไม่
00:14:28 → 00:14:30 เต็มที่ไม่สมบูรณ์อะไรอย่างนี้เกี่ยวไหม
00:14:30 → 00:14:32 คะคุณหมอ
00:14:32 → 00:14:37 ครูอาจจะเป็นในแง่ของ metabolism คือระบบ
00:14:37 → 00:14:42 ศาลของร่างกายอาจจะลดลงในกรณีที่แบบอายุ
00:14:42 → 00:14:45 เยอะขึ้นอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:14:45 → 00:14:52 ครับผมครับ
00:14:52 → 00:14:56 ผมคือเป็นผู้สูงอายุซะอย่างนึงก็อะไรก็
00:14:56 → 00:15:00 ชะมัดกับใครเล็กน้อยใช่คุณพี่คุณสุขก็บอก
00:15:00 → 00:15:03 ว่ามีคำถามที่
00:15:03 → 00:15:07 น่าสนใจอยู่นะคะก็เลยคือคล้ายกับฟังแล้ว
00:15:07 → 00:15:11 ก็ถูกใจเพราะว่าเนี่ยๆอย่างคุณผู้ฟังท่าน
00:15:11 → 00:15:13 นี้บอกว่าคือมันมันมีข้อมูลมันมีคำถามใน
00:15:13 → 00:15:17 LINE หลายห้องที่ถูกส่งต่อกันเข้ามาใน
00:15:17 → 00:15:19 ลักษณะแบบนี้นะครับคุณหมอครับที่ว่าเตือน
00:15:19 → 00:15:21 ว่าถ้าคุณมีลักษณะอาการขี้หนาวเนี่ยนะคุณ
00:15:21 → 00:15:24 อาจจะต้องเจอโลกนู่นนี่นั่นวันนี้เราก็
00:15:24 → 00:15:27 เลยถามถามแทนคุณผู้ฟังทางบ้านแล้วก็คุณ
00:15:27 → 00:15:30 หมอก็ได้อธิบายได้ชัดเจนมากๆเลยนะครับคุณ
00:15:30 → 00:15:33 หมอครับแล้วถ้าถ้าเรามีอาการลักษณะขี้
00:15:33 → 00:15:35 หนาวเนี่ยคือมันเราจะต้องปล่อยไว้นานขนาด
00:15:35 → 00:15:37 ไหนหรือว่าเราจะต้องหมั่นสังเกตตัวเองยัง
00:15:37 → 00:15:40 ไงถึงมันอันตรายควรจะต้องรู้สึกว่ามันไม่
00:15:40 → 00:15:41 ปกติแล้วอ่ะครับคุณหมอ
00:15:41 → 00:15:46 อ๋อคือแสดงว่าหนูค่ะคือว่าเออเรารู้สึก
00:15:46 → 00:15:51 ว่ามีอาการผิดปกติเช่นแบบหนาวผิดปกติอะไร
00:15:51 → 00:15:55 อย่างเงี้ยคือเป็นตลอดเวลาแล้วก็หรืออาจ
00:15:55 → 00:15:57 จะมีแบบอาการอื่นๆร่วมด้วยไม่ใช่แบบหนาว
00:15:57 → 00:16:00 เรียงๆยกตัวอย่างแต่ว่าถ้าเป็นอาการที่
00:16:00 → 00:16:04 บ่งบอกถึงฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำก็นอกจากมี
00:16:04 → 00:16:07 อาการหนาวผิดปกติหนาวง่ายผิดปกติแล้วอาจ
00:16:07 → 00:16:10 จะมีอาการอื่นๆร่วมด้วยก็มีท้องผูกร่วม
00:16:10 → 00:16:14 ด้วยมีผมร่วงมีผิวแห้งอะไรอย่างนี้ค่ะก็
00:16:14 → 00:16:17 อาจจะต้องรีบมาพบแพทย์
00:16:17 → 00:16:23 เจออากาศเย็นๆแล้วปลายมือปลายเท้าซีดหรือ
00:16:23 → 00:16:26 เป็นสีม่วงคล้ำอะไรอย่างนี้อันนี้ก็ต้อง
00:16:26 → 00:16:28 อันนี้ก็ปกติแล้วก็ควรจะรีบมาพบแพทย์
00:16:28 → 00:16:31 เพราะว่าอาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับระบบของตัว
00:16:31 → 00:16:35 หลอดเลือดที่ผิดปกติอย่างนี้พอเห็นเรื่อง
00:16:35 → 00:16:38 ของสีสีผิวเนี่ยสอบถามคุณหมออันนี้เป็น
00:16:38 → 00:16:41 กับตัวเองนะคุณหมอสังเกตเล็บของนิ้วเท้า 2
00:16:41 → 00:16:45 ด้านทั้งด้านซ้ายและขวาสีไม่เหมือนกันค่ะ
00:16:45 → 00:16:48 เป็นไปได้ไหมคะคุณหมออย่างทางด้านขวาเล็บ
00:16:48 → 00:16:52 เท้าอ่ะก็จะสีชมพูดีปกติก็แบบปกติอ่ะนะคะ
00:16:52 → 00:16:57 แต่สีเอ่อออกจากคล้ำๆในทางด้านซ้ายค่ะเรา
00:16:57 → 00:16:59 ก็มีความรู้สึกว่าเอ๊ะเลือดเราไม่พูดถึง
00:16:59 → 00:17:02 ปลายเท้าหรือเปล่าเกี่ยวไหมคะคุณหมอคะ
00:17:02 → 00:17:06 นอกจากสีของเล็บที่ผิดปกติค่ะ
00:17:06 → 00:17:11 ยกตัวอย่างเช่นสัมผัสที่เท้าข้างที่เล็บ
00:17:11 → 00:17:15 มีสีผิดปกติมันเย็นมากกว่าอีกข้างหนึ่ง
00:17:15 → 00:17:17 ไหมคือ
00:17:17 → 00:17:21 เย็นกว่าจะดูแบบเย็นกว่าหรืออะไรอย่างนี้
00:17:21 → 00:17:32 ค่ะหรือว่ามีอาการชาร่วมมีชาค่ะ
00:17:32 → 00:17:35 มีปัญหาหรือเปล่าน่าน่าจะเกี่ยวข้อง
00:17:35 → 00:17:37 เรื่องกับเลือดใช่ไหมคะเพราะว่าแต่ก่อน
00:17:37 → 00:17:40 แต่รายนี้เราก็ไม่ได้เคยดูว่าเล็บสีทำไม
00:17:40 → 00:17:44 ถึงได้ตังค์กันแต่ก็ไม่ได้มากแต่เราจะชอบ
00:17:44 → 00:17:50 สังเกตนะคะ
00:17:50 → 00:17:55 [เพลง]
00:17:58 → 00:18:03 ไม่ใสไม่เหมือนจะแบบจะกดเราจะพยายามกด
00:18:03 → 00:18:07 เล็บเท้าว่าให้มีสีเข้มขึ้นมาเท่ากันไหม
00:18:07 → 00:18:10 มันก็จะยังไปส่องที่แดดหรืออะไรอย่างนี้
00:18:10 → 00:18:14 ค่ะอันนี้ควรพบแพทย์ใช่ไหมคะคุณหมอคะ
00:18:14 → 00:18:17 อย่างที่บอกก็ลองสังเกตดูว่าถ้าเราจับ
00:18:17 → 00:18:20 บริเวณเท้าของแบบแต่ละข้างอ่ะลองเทียบดู
00:18:20 → 00:18:24 ว่าอุณหภูมิมันต่างกัน
00:18:24 → 00:18:27 ปกติแล้วมันก็รู้สึกว่ามันเย็นกว่าอีก
00:18:27 → 00:18:35 ข้างหนึ่งดูอุณหภูมิมันนะคะ
00:18:35 → 00:18:40 หรือว่าแบบลองดูลองจับที่ผจญที่บริเวณ
00:18:40 → 00:18:43 หลังเท้าอย่างเงี้ยค่ะถ้าชีพจรข้างที่
00:18:43 → 00:18:46 เล็กมีปัญหามันรู้สึกเบาหรือว่าคลำไม่ได้
00:18:46 → 00:18:49 อย่างเงี้ยค่ะมันเป็นแบบอย่างเงี้ยอันนี้
00:18:49 → 00:18:53 ก็คือปวดท้องรีบไปพบแพทย์และเพื่อดูว่า
00:18:53 → 00:18:57 มันสาเหตุอะไรที่ทำให้ผิดปกติหรือเปล่า
00:18:57 → 00:19:01 แล้วมันก็จะมีวิธีการหรือว่าแนวทางในการ
00:19:01 → 00:19:04 ป้องกันนะเรื่องของอาการขี้หนาวนี้ได้
00:19:04 → 00:19:07 บ้างไหมครับคุณหมอครับเพราะว่ามันถ้าถ้า
00:19:07 → 00:19:09 มันมีส่วนผสมของ
00:19:09 → 00:19:12 อาการร่วมหลายๆอย่างที่มันอาจจะบ่งบอกถึง
00:19:12 → 00:19:15 เรื่องของโรคเนี่ยการป้องกันอาการขี้หนาว
00:19:15 → 00:19:19 เนี่ยมันจะสามารถช่วยลดความสูญเสียของโรค
00:19:19 → 00:19:23 ภัยไข้เจ็บที่มันจะตามมาทำไมจะป้องกันโรค
00:19:23 → 00:19:26 ใหญ่ๆได้ใช่ไหมคะคุณหมอ
00:19:26 → 00:19:31 ถามว่าจะต้องการได้ไหมคืออาจจะต้องแนะนำ
00:19:31 → 00:19:33 ในแนวกว้างๆว่า
00:19:33 → 00:19:38 หลักการทั่วๆไปก็คือพยายามทำให้เรามีแบบ
00:19:38 → 00:19:41 รักษาสุขภาพให้แข็งแรงจากการพักผ่อนที่
00:19:41 → 00:19:45 เพียงพอรับประทานอาหารครบ 5 หมู่มี
00:19:45 → 00:19:47 ประโยชน์อะไรอย่างเงี้ยค่ะออกกำลังกายก็
00:19:47 → 00:19:51 จะทำให้สุขภาพโดยรวมเนี่ยแข็งแรงขึ้นก็
00:19:51 → 00:19:54 อาจจะหลีกเลี่ยงก็อาจจะห่างไกลโรคที่อาจ
00:19:54 → 00:19:58 จะเป็นสาเหตุเช่นอาจจะเอ่อเสี่ยงเป็นเบา
00:19:58 → 00:19:58 หวานลด
00:19:59 → 00:20:03 ค่ะกินอาหารที่มีประโยชน์มีธาตุเหล็กอะไร
00:20:03 → 00:20:07 อย่างนี้ค่ะก็อาจจะทำให้มีโลหิตจางที่
00:20:07 → 00:20:09 เป็นสาเหตุจากการขาดเหล็กอะไรอย่างนี้
00:20:09 → 00:20:13 น้อยลงเป็นต้นแต่ถ้าเกิดว่าเรื่องของ
00:20:13 → 00:20:16 ไทรอยด์ต่ำบางทีมันมันอาจจะป้องกันไม่ได้
00:20:16 → 00:20:19 เพราะว่ามันเป็นโรคที่เกิดจากภูมิคุ้มกัน
00:20:19 → 00:20:21 อะไรอย่างนี้ค่ะ
00:20:21 → 00:20:25 เห็นผลพวงของตรงภูมิคุ้มกันของเราตรงนั้น
00:20:25 → 00:20:28 ก็ระมัดระวังหมายถึงว่าไม่ได้ไปอยู่ในที่
00:20:28 → 00:20:31 ที่อากาศมันจะเย็นมากก็ต้องระวังตัวเองไป
00:20:31 → 00:20:39 ใช่ไหมคะ
00:20:39 → 00:20:43 อาจจะต้องแบบที่มาพบแพทย์เพื่อเพื่อหา
00:20:43 → 00:20:46 สาเหตุเพิ่มเติมว่าในความผิดปกติอะไรหรือ
00:20:46 → 00:20:47 เปล่า
00:20:47 → 00:20:52 ก็ต้องอย่างนี้ใช่ไหมฮะมีคุณผู้ฟังบอกว่า
00:20:52 → 00:20:55 เคยมีอาการหนาวอะไรอยู่ในห้างสรรพสินค้าณ
00:20:55 → 00:20:58 ตอนฝนตกอ๋อก็ทุกคนก็จะต้องเย็นกว่าปกติ
00:20:58 → 00:21:01 นิดนึงไหมคะอุณหภูมิมันก็จะเปลี่ยน
00:21:01 → 00:21:05 คุณผู้ฟังบอกว่าเกิดจากอาการ sle กำเริบ
00:21:05 → 00:21:08 sle นี่สัมพันธ์กับเรื่องของอุณหภูมิมาก
00:21:08 → 00:21:11 เลยใช่ไหมคะคุณหมอมีทั้งเรื่องของโดนแดด
00:21:11 → 00:21:14 ไม่ได้เรื่องของ
00:21:14 → 00:21:19 ข้าคือมันก็จะมีรายละเอียดที่แบบแตกต่าง
00:21:19 → 00:21:21 กันยกตัวอย่างเช่นถ้าเกิดว่าคนไข้เนี่ย
00:21:21 → 00:21:27 เป็น sle อย่างนี้ค่ะ
00:21:27 → 00:21:30 มากกว่าคนอื่นยกตัวอย่างเช่นโดนแดดไม่ได้
00:21:30 → 00:21:34 ผิวหนังแกงขี้ถี่ต่อแสงแดดพอโดนแล้วจะมี
00:21:34 → 00:21:37 ผื่นขึ้นอะไรอย่างนี้หรือว่าบางทีอาจจะมี
00:21:37 → 00:21:42 เอ่อตัวปลายหลอดเลือดส่วนปลายนิ้วมือนิ้ว
00:21:42 → 00:21:44 เท้าเขามีปัญหาอะไรอย่างเงี้ยค่ะเวลา
00:21:44 → 00:21:49 อุณหภูมิที่เย็นก็อาจจะทำให้แบบมีนิ้ว
00:21:49 → 00:21:58 เอ่อสีผิดปกติหรือ 4 ครั้งก็
00:21:58 → 00:22:02 ก็ต้องกินยามีหลากหลายอย่างคุณพี่
00:22:02 → 00:22:04 นวลจันทร์บอกว่าพอไปรักษา sle ก็หายหนาว
00:22:04 → 00:22:10 [เพลง]
00:22:10 → 00:22:13 วันนี้ก็ต้องขอขอบพระคุณคุณหมอมากๆนะครับ
00:22:13 → 00:22:16 เรียกว่าเราก็พอจะไขเรื่องที่
00:22:17 → 00:22:20 หนาวเนี่ยใช่ไขข้อข้องใจเรื่องของอาการ
00:22:20 → 00:22:25 ขี้หนาวได้ในช่วงเวลาใช่ไหม
00:22:25 → 00:22:29 อาการชาไหมอาการอื่นร่วมไหมเราอาจเป็น
00:22:29 → 00:22:31 ไทรอยด์อาจเป็นหลอดเลือดเป็นเม็ดเลือด
00:22:31 → 00:22:34 เป็นหลากหลายโรคได้เลยทีเดียวคุยกับคุณ
00:22:34 → 00:22:38 หมอให้เอ่อแพทย์ที่เราไปพบอ่ะนะคะบอกเขา
00:22:38 → 00:22:41 จากสังเกตตัวเราใช่ครับผมวันนี้ต้องขอ
00:22:41 → 00:22:43 ขอบพระคุณคุณหมอมากๆนะครับที่มาให้ความ
00:22:43 → 00:22:45 รู้กับเราในค่ำคืนวันนี้นะครับคุณหมอครับ
00:22:45 → 00:22:46 ขอบพระคุณมากค่ะ
00:22:46 → 00:22:49 สวัสดีค่ะขอบพระคุณครับคุณหมอครับสวัสดี
00:22:49 → 00:22:53 ครับแพทย์หญิงที่ตินันท์นะครับ
00:22:53 → 00:22:56 ตรีศานุวัฒนานะครับอ่านายแพทย์ชำนาญการ
00:22:56 → 00:22:58 กลุ่มงานอายุรศาสตร์จากโรงพยาบาล
00:22:58 → 00:23:01 ราชวิถีนะครับ