00:00:00 → 00:00:02 ก็สวัสดีครับหลังจากที่ผมทำคลิปเกี่ยว
00:00:02 → 00:00:04 ข้องกับการอธิบายเรื่องของแอลดีแอล
00:00:04 → 00:00:07 โคเลสเตอรอลนะครับร่วมกับการใช้สแตติน
00:00:07 → 00:00:10 พรุ่งนี้นะครับก็มีคนสอบถามมาว่าถ้าเราทำ
00:00:10 → 00:00:12 ประทานอาหารที่เป็น ketogenic Diet นะ
00:00:12 → 00:00:14 ครับกินอาหาร keto นั่นเองนะคะแล้วก็กด
00:00:14 → 00:00:17 ว่าค่า l d เอาของเรามันสูงนะครับ 200
00:00:17 → 00:00:20 กว่าอะไรอย่างนี้นะครับถามว่าเราควรจะ
00:00:20 → 00:00:22 ต้องกังวลแค่ไหนนะครับแล้วเราจะต้องทำ
00:00:22 → 00:00:24 อะไรกับมันบ้างนะครับวันนี้ก็จะมาอธิบาย
00:00:24 → 00:00:26 เรื่องนี้ให้ฟังว่าในมุมมองของผมเนี่ย
00:00:26 → 00:00:29 ปกติแล้วผมจะคิดแบบนี้ผมทำยังไงนะครับพบ
00:00:29 → 00:00:31 กับผมนะครับนายธานีธัญญะวันนะครับเป็น
00:00:31 → 00:00:33 อาจารย์แค่อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกานะ
00:00:33 → 00:00:35 ครับเชี่ยวชาญโรคปอดการปลูกผ่านปอดและมัน
00:00:35 → 00:00:38 เกิดบำบัดนะครับอ่ะก่อนอื่นเลยนะครับคน
00:00:38 → 00:00:42 เหล่านี้เนี้ยก็ก็มักจะกินคีโตด้วยเหตุผล
00:00:42 → 00:00:44 ต่างๆนะครับเช่นต้องการที่จะลดน้ำหนักนะ
00:00:44 → 00:00:47 ครับต้องการที่จะควบคุมเบาหวานต้องการที่
00:00:47 → 00:00:50 จะแก้ไขภาวะไขมันพอกต่ำหรือว่าเป็นความ
00:00:50 → 00:00:53 ดันสูงนะครับก็พอกินคีโตไปแล้วเนี่ยสิ่ง
00:00:53 → 00:00:56 ที่เกิดขึ้นก็คือร่างกายของท่านเนี่ยน้ำ
00:00:56 → 00:00:59 หนักก็จะลดลงนะครับอันนี้อันนี้นะครับมัน
00:00:59 → 00:01:02 ลดลงได้ลดน้ำหนักลดลงความดันสามารถผมได้
00:01:02 → 00:01:04 ง่ายขึ้นถ้าเป็นเบาหวานเบาหวานก็จะสามารถ
00:01:04 → 00:01:07 คุมได้ง่ายขึ้นนะฮะไขมันต่างๆก็จะลดลงนะ
00:01:07 → 00:01:10 ครับถ้าแปลงตีสลายของท่านที่ตอนแรกมันอาจ
00:01:10 → 00:01:12 จะสูงมันก็อาจจะกลับมาไม่สูงแล้วนะครับ
00:01:12 → 00:01:16 ค่า SD L ของท่านมันก็จะเพิ่มขึ้นนะฮะ
00:01:16 → 00:01:19 แต่ว่าสิ่งหนึ่งซึ่งตามมาด้วยก็คือค่าของ
00:01:19 → 00:01:22 แอลดีแอลโคเลสเตอรอลซึ่งมันสูงนะครับแล้ว
00:01:22 → 00:01:25 บางคนจะสูงระดับ 200 กว่าด้วยนะครับอ่าก็
00:01:25 → 00:01:28 จะมีคนสงสัยและเล็กแล้วอย่างนี้จะทำยังไง
00:01:28 → 00:01:30 ทั้งๆที่ทุกอย่างมันดีขึ้นกำหนดผู้อ่านนะ
00:01:30 → 00:01:32 ครับคือการก็รู้สึกว่าตัวเองผอมลงนะครับ
00:01:32 → 00:01:35 ว่าคุณง่ายความดันคุมง่ายนะครับไขมันต่าง
00:01:35 → 00:01:37 ๆวันนี้หมดแล้วนะฮะไม่น่ามีปัญหาอะไรนะ
00:01:37 → 00:01:39 ครับแต่มันเป็นอย่างนี้นะครับอย่างที่ผม
00:01:39 → 00:01:42 เคยเล่าเรื่องที่ด็อกเตอร์เคล้านะครับ
00:01:42 → 00:01:45 ซึ่งเป็นคนที่คิดวิธีในการตรวจ L เดียว
00:01:45 → 00:01:47 โคเลสเตอรอลและ L เดียวทาลิเคิลนะครับ
00:01:47 → 00:01:50 แล้วเป็นคนที่ทำงานวิจัยมากเลยนะครับ
00:01:50 → 00:01:52 เรื่องเกี่ยวข้องกับ Small เด่น l d เอา
00:01:52 → 00:01:56 พาเลโก้นะครับคนเนี้ยคือเวลาที่เราลงไปดู
00:01:56 → 00:02:00 นะครับว่าเราเดียวที่สูงนะท่านก็เตือนไว้
00:02:00 → 00:02:03 แต่ว่ามันไม่ใช่ของปกตินะฮะปกติเวลาถ้า
00:02:03 → 00:02:05 เราดูให้เอาเบียร์ที่สูงขนาด 200 กว่า
00:02:05 → 00:02:09 เนี่ยเราคิดยังไงกันบ้างนะโอเคคำที่คนกิน
00:02:09 → 00:02:12 คีโตบ่อยๆแล้วก็กินโลว์คาร์โบไฮเดรตบ่อยๆ
00:02:12 → 00:02:15 แล้วรู้เยอะนะครับเขาจะเอามานั่งอยู่
00:02:15 → 00:02:19 คำนึงนะครับคือการที่เรามีไอเดียสูงจาก
00:02:19 → 00:02:22 การกินคีโตเจนิคไดเอทเนี่ยมันดีเพราะว่า
00:02:22 → 00:02:25 ว่าค่า ldl ที่เป็นค่าเช่าที่มันสูงขึ้น
00:02:25 → 00:02:28 เนี่ยส่วนมากแล้วมันเป็นล้อแซวเดียวเอา
00:02:28 → 00:02:32 เดียวกูโตนะครับอ่ะแล้วเราพบว่าเดียวตัว
00:02:32 → 00:02:35 โตๆมันไม่ค่อยมีผลอะไรต่อการเกิดโรคหลอด
00:02:35 → 00:02:37 เลือดหัวใจหลอดเลือดสมองและหลอดเลือดแดง
00:02:37 → 00:02:41 ส่วนกลางนะครับแต่เอาดีเอาตัวเล็กนะครับ
00:02:41 → 00:02:43 ที่จะมีปัญหาที่ทำให้เกิดเรื่องพวกนี้ดัง
00:02:43 → 00:02:45 นั้นเขาก็เลยคิดว่าถ้าเป็นเอาเถอะเดียว
00:02:45 → 00:02:47 ตัวโตเยอะๆหมดเนี่ยให้มันสูงมันก็ไม่น่า
00:02:47 → 00:02:49 มีปัญหานะครับ
00:02:49 → 00:02:52 มีขั้นต้องคิดต่อเพิ่มอีกว่าเธอทำไมมัน
00:02:52 → 00:02:54 ถึงไม่มีปัญหาแล้วทำไมมันจะมีปัญหาได้นะ
00:02:54 → 00:02:57 ครับต้องยอมถึงตรงนี้ครับว่า L เดียว
00:02:57 → 00:03:00 เนี่ยมันมีกลไกกันผลิตแล้วก็การดูดซึม
00:03:00 → 00:03:03 เข้าไปอย่างไรนะครับปกติแล้วในตับของเรา
00:03:03 → 00:03:05 เนี่ยมันก็จะมีการสร้าง L เดียว
00:03:05 → 00:03:08 โคเลสเตอรอลออกมานะครับออกมาสู่ร่างกาย
00:03:08 → 00:03:10 เพื่อที่จะเอาเดียวตัวเนี้ยมันจะประกอบ
00:03:10 → 00:03:14 ด้วย 3 อย่างด้วยกันคือ a โปไลโปรตีน b100
00:03:14 → 00:03:17 นะครับโคเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ตอนแรก
00:03:17 → 00:03:20 มันจะตัวใหญ่ก่อนนะครับแต่ตอนแรกเขาจะไป
00:03:20 → 00:03:21 สร้างเป็นเอาเดียวเราจะสร้างเป็น VR
00:03:21 → 00:03:23 เดียวมาก่อนนะครับเราเอาเดียวตรงเนี้ยนะ
00:03:23 → 00:03:26 ครับมันจะปล่อยใจกี่ slide เข้าไปตามที่
00:03:26 → 00:03:28 ต่างๆของร่างกายเราแล้วเราจะนำก็จะเล็กลง
00:03:28 → 00:03:30 เรื่อยๆจนกันทั้งสุดท้ายแล้วก็กลายเป็น L
00:03:30 → 00:03:32 เดียวที่ผมบอกนะครับเอาเดียวก็ยังมีสาร
00:03:32 → 00:03:34 ประกอบอยู่ 3 อย่างที่บอกนะครับแล้วก็จะ
00:03:34 → 00:03:36 มีขนาดใหญ่กลางเล็กเรื่อยๆนะครับจะดึง
00:03:36 → 00:03:40 เล็กจิ๋วน่ะถ้าแบบใหญ่เนี่ยนะฮะมันจะหาย
00:03:40 → 00:03:44 ไปจากนอกด้วยของเราได้ด้วยการนำเข้าไปสู่
00:03:44 → 00:03:46 ตาเหมือนเดิมนะครับที่ตัดเนี่ยจะมี
00:03:46 → 00:03:48 รีเซ็ตเตอร์หรือตัวรับตัวหนึ่งนะครับก็
00:03:48 → 00:03:51 ที่ดูดเอาถ้าเรากลับไปถ้าเป็นเอาเดียวตัว
00:03:51 → 00:03:54 โตๆจะดูดซึมได้ง่ายกว่าก็จะถูกเอาออกไป
00:03:54 → 00:03:56 จากเลือกง่ายกว่านั้นโอกาสที่มันจะไปเกาะ
00:03:56 → 00:03:59 เรื่องทำให้เส้นเลือดอุดตันต่างๆเนี่ยมัน
00:03:59 → 00:04:01 ลดลงนะครับแต่ถ้าเป็นตัวเล็กเนี่ยมันออก
00:04:01 → 00:04:03 ไปจากเลือดได้ไม่ค่อยยากไม่ค่อยได้นะครับ
00:04:03 → 00:04:04 มันก็จะค้างอยู่นั้นแล้วก็เป็นเกาะเรื่อง
00:04:04 → 00:04:08 นะครับทีนี้ปัญหาอยู่ตรงนี้นะครับเรารู้
00:04:08 → 00:04:11 แค่นี้เราก็โอเคอยู่นะฮะแต่ปัญหามันก็คือ
00:04:11 → 00:04:15 ถ้าท่านมีเอาเดียวตัวโตๆเยอะมากๆล่ะมันจะ
00:04:15 → 00:04:18 เกิดอะไรขึ้นนะครับตัวรับของท่านอาจจะมี
00:04:18 → 00:04:21 ไม่เข้มพอที่จะเราๆอยู่เงี้ยเข้าไปในตับ
00:04:21 → 00:04:24 ได้ถึงได้เร็วทันใจท่านนะครับมันก็จะค้าง
00:04:24 → 00:04:27 อยู่ข้างนอกนะครับและเอาเดียวตัวโตๆเนี่ย
00:04:27 → 00:04:30 ต่อให้มันไม่มีปัญหาอะไรแล้วดูตัวๆมันก็
00:04:30 → 00:04:33 จะกลายเป็นตัวเลขได้นะครับมันไม่ใช่เอาดี
00:04:33 → 00:04:35 เอาตัวๆตัวเล็กเนี่ยมันเป็นคนละชนิดคนละ
00:04:35 → 00:04:37 อย่างกันเลยไม่ใช่นะครับเป็นอย่างเดียว
00:04:37 → 00:04:39 กันนะครับจริงแต่ว่ามันต่างขนาดกันเท่า
00:04:39 → 00:04:41 นั้นเองแล้วก็ต่างองค์ประกอบนะครับเพราะ
00:04:41 → 00:04:44 ว่า ldl ตัวเล็กเนี่ยมันจะมีคอเลสเตอรอล
00:04:44 → 00:04:47 น้อยกว่าอ่ะเนี่ยไม่ค่อยมีคนตาเท่าไหร่
00:04:47 → 00:04:49 แล้วก็ใส่คือแสดงว่าจะน้อยกว่าตามไปด้วย
00:04:49 → 00:04:50 พี่
00:04:50 → 00:04:52 แป๋วเดี๋ยวโตๆนะครับนี่มันจะมี
00:04:52 → 00:04:54 คอเลสเตอรอลที่เยอะกว่านะครับมันจะดู
00:04:54 → 00:04:57 เหมือนว่าเออชอบของท่านขึ้นนะฮะงั้นถ้า
00:04:57 → 00:05:00 ลองคิดดูถ้ามีเอาเเอลโตให้ชื่อว่ามันปกติ
00:05:00 → 00:05:02 มากแล้วไม่เกิดเลยขึ้นอ่ะลองคิดดูนะครับ
00:05:02 → 00:05:06 ว่าถ้ามีประตูอยู่ซะ 3 บานนะฮะแล้วก็ก็
00:05:06 → 00:05:08 เอาเดียวตัวโตในก็เหมือนคนที่เดินเข้าใน
00:05:08 → 00:05:11 ประตูนะครับตอนแรกก็มีอยู่ศักดิ์สิทธิ์คน
00:05:11 → 00:05:14 เดินเข้าประตูได้ง่ายนะครับแล้วถ้าวันดี
00:05:14 → 00:05:17 คืนดีอ่ะถ้าเมียเดียวๆตัวโตๆมหาศาลเช่น
00:05:17 → 00:05:20 ท่านที่จะมีคนจิตคนถ้ามีคนหนึ่งหมื่นคน
00:05:20 → 00:05:23 ขึ้นอาจจะเกิดอะไรขึ้นหนึ่งหมื่นคนเนี่ย
00:05:23 → 00:05:25 ก็จะเข้าประตู 3 ประตูนี้แล้วออกไปจาก
00:05:25 → 00:05:28 บ้านตรงนั้นได้นะฮะมันใช้เวลานานแค่ไหนนะ
00:05:28 → 00:05:31 ครับถ้ามันใช้เวลานานเนี่ยมันก็ค้างอยู่
00:05:31 → 00:05:33 ในเรื่องนานๆทำยังไงแล้วมันครั้งเลือกนาน
00:05:33 → 00:05:36 มันทำอะไรครับมันก็ต้องกลายเป็นตัวอื่น
00:05:36 → 00:05:39 ถ้ากลับก็เอาเดียวขนาดตัวมันก็กันเป็น
00:05:39 → 00:05:41 โปรแกรมตัวเล็กได้แต่ใดก็ตามที่มันมีการ
00:05:42 → 00:05:44 ดึงเอาไปตีสลายออกไปใช้จากตัวเดียวมันก็
00:05:44 → 00:05:46 จะขนขนาดลงเป็นธรรมดาของมันอยู่แล้วนะ
00:05:46 → 00:05:49 ครับนี่เป็นปกติของวงจรมันธรรมดาธรรมะตัว
00:05:49 → 00:05:52 อย่างนี้นะฮะนั้นนี้ก็คือเป็นสาเหตุหนึ่ง
00:05:52 → 00:05:55 ซึ่งถ้าคนที่ดูเรื่องเที่ยวความเชี่ยวชาญ
00:05:55 → 00:05:58 ทางด้านของไขมันเขาก็จะกังวลเรื่องนี้
00:05:58 → 00:06:00 เหมือนกันนะฮะแต่ถามว่าผมมีเหตุผลมีหลัก
00:06:00 → 00:06:02 ฐานอะไรสนับสนุนตรงนี้มากน้อยแค่ไหนตรง
00:06:02 → 00:06:05 นี้ก็ยังไม่มีหลักฐานโดยตรงนะครับเพียง
00:06:05 → 00:06:06 แต่ว่ามันเป็นข้อสันนิษฐานที่น่ากังวล
00:06:06 → 00:06:09 แล้วก็ที่สำคัญคือถ้าท่านไปดูงานวิจัยของ
00:06:09 → 00:06:12 น้องก็เค้าที่หลายและคนยกหน้านะครับว่า
00:06:12 → 00:06:14 ไหมว่าทำกี่ตัวจะนี้ได้อย่างเงี้ย
00:06:14 → 00:06:16 เอาดีเอาสุขขึ้นมามันปลอดภัยแต่ถ้าลืมดู
00:06:16 → 00:06:19 ไปอย่างนะครับว่าเอา dl Diet L เดียว
00:06:19 → 00:06:21 ที่จะสูงขึ้นของเก่งคนเล็กเล่าในกรณีของ
00:06:21 → 00:06:24 นกเขาที่เขาทำงานวิจัยเนี่ยมันสุกมากนะ
00:06:24 → 00:06:28 ครับ 130 140 เองนะไม่ใช่ 200 บาทของของ
00:06:28 → 00:06:32 ที่เรากังวลกันนะฮะถ้าสมมติว่าโอเคเรากิน
00:06:32 → 00:06:34 ขี้ตัวจริงได้เองไปแล้วเอาดีเอาเราขึ้นมา
00:06:34 → 00:06:36 สักประมาณ 160 เราจะสิบวันนี้ผมยังไม่ได้
00:06:36 → 00:06:39 กังวลมากนะแต่ถ้ามันโอน 180 200 เนี้ย
00:06:39 → 00:06:44 ไม่น่าปกติแล้วนะทีนี้ถามว่าเราจะมีโอกาส
00:06:44 → 00:06:48 ทราบไหมว่าทำแบบนี้เร็วสูงจากกี่ตัวสั่น
00:06:48 → 00:06:50 internet แล้วนะมันอันตรายดีหรือเปล่าผม
00:06:50 → 00:06:52 คิดว่าในอนาคตมันก็จะมีงานวิจัยตรงนี้ออก
00:06:52 → 00:06:54 มาอยู่ดีนะครับว่าอันตรายหรือไม่อันตราย
00:06:54 → 00:06:56 นะครับแต่ว่าอย่างหนึ่งซึ่งผมคิดว่าด้วย
00:06:56 → 00:06:59 นะครับโลกเรานี้นะครับทุกอย่างต้องทางสาย
00:07:00 → 00:07:02 กลางนะครับอะไรมากมายมันก็ไม่ดีนะครับ
00:07:02 → 00:07:04 อะไรน้อยไปมันก็ไม่ดีเช่นกันนะครับถ้า
00:07:04 → 00:07:07 ท่านทานสุดโต่งเช่นทางกี่ตัวจริงเด็ดขาด
00:07:07 → 00:07:09 ไขมันมหาศาลมันต้องมีอะไรสักอย่างนะครับ
00:07:09 → 00:07:11 ที่มันไม่ดีนะหนึ่งในนั้นก็คือเรื่องนี้
00:07:11 → 00:07:13 แหละครับที่ผมคิดว่ามันน่าจะมีส่วนนะครับ
00:07:13 → 00:07:17 ที่สำคัญคือขี้ตัวสนิทได้เองเนี่ยมันไม่
00:07:17 → 00:07:20 ใช่เป็นอาหารที่คนเขาจะกินตลอดได้นะครับ
00:07:20 → 00:07:24 หน้าเพราะว่าถ้าเราไปดูเรื่องของโปรแกรม
00:07:24 → 00:07:25 ในการใช้กี่ตัวจะหลีกได้เอกจริงๆแล้ว
00:07:25 → 00:07:28 เนี่ยมันจะมีการกินเป็นช่วงขึ้นอยู่กับ
00:07:28 → 00:07:30 น้ำหนักตัวของเรานะครับกินในตอนแรกน้ำ
00:07:30 → 00:07:32 หนักตัวลดลงมาแล้วจนถึงที่เราโอเคและเรา
00:07:33 → 00:07:35 ต้องมีการใส่ข้อคือหยุดกี่ตัวจะเด็กๆช่วง
00:07:35 → 00:07:37 หนึ่งกลับมากินคาร์โบไฮเดรตเพิ่มขึ้นนิด
00:07:37 → 00:07:39 นึงแล้วหลังจากนั้นเนี่ยถ้าเราต้องการจะ
00:07:39 → 00:07:41 ไปไซเคิลของคีโตเจนิคไดเอทแล้วก็กลับเข้า
00:07:41 → 00:07:44 ไปใหม่อีกรอบหนึ่งโดยมีการเว้นระหว่างสอง
00:07:44 → 00:07:46 ช่วงของทีโปรเจคได้เด็กนะครับเราไม่ได้
00:07:46 → 00:07:49 กินต่อเนื่องในตัวอย่างนะฮะเพราะว่าดีมาก
00:07:49 → 00:07:52 อาหารที่เรากินเข้าไปที่เราโดนสอบว่ากิน
00:07:52 → 00:07:55 ครบ 5 หมู่ตอนเด็กๆๆมันต้องมีความหลาก
00:07:55 → 00:07:57 หลายของสารอาหารระดับไปกินอย่างไรอย่าง
00:07:57 → 00:07:59 หนึ่งมันก็มีปัญหานะครับเช่นคนที่กินแบบ
00:07:59 → 00:08:02 มีแก้ 100% เต็มเลยนะครับก็จะมีปัญหา
00:08:02 → 00:08:04 เรื่องของการขาดวิตามินบี 12 เป็นต้น
00:08:04 → 00:08:07 หนึ่ง up อย่างนี้นะฮะจะไปกินอะไรทั้งๆ
00:08:07 → 00:08:09 ที่เราบอกโอ้พี่แกมันโหมันดีอย่างนั้น
00:08:09 → 00:08:11 อย่างนี้เราสามารถที่จะลดไขมันในเลือดลด
00:08:11 → 00:08:13 ทุกอย่างทำให้ร่างกายเราแข็งแรงขึ้นแต่
00:08:13 → 00:08:16 มันก็ปัญหาของมันเองนะฮะนั้นการกินอย่าง
00:08:16 → 00:08:19 ใดอย่างหนึ่งแบบโหเข้มข้นมากจนเกินไปไม่
00:08:19 → 00:08:21 ใช่ทางสายกลางมันก็มีปัญหาแน่ๆนะครับแล้ว
00:08:21 → 00:08:24 ผมก็เราไปแล้วว่าในแง่ของไขมันวันนี้มัน
00:08:24 → 00:08:27 ปัญหาอะไรนะครับนอกจากนี้คือเรื่องของพวก
00:08:27 → 00:08:29 วิตามินกับใหญ่ต่างๆซึ่งต้านทานอาหาร
00:08:29 → 00:08:32 ประเภทไขมันอย่างเดียวแล้วไม่ได้ทันใคร
00:08:32 → 00:08:35 ไม่ได้ทำวิตามินกับยายต่างๆเข้าไปทางก็จะ
00:08:35 → 00:08:37 มีปัญหาได้นะครับและที่สำคัญคือถ้าท่านไป
00:08:37 → 00:08:40 ดูงานวิจัยของเราก็เค้านะครับที่เขาเป็น
00:08:40 → 00:08:43 คีโตเจนิคไดเอทนะสิ่งที่เขาทำเนี่ยไม่ใช่
00:08:43 → 00:08:46 เข้าไปกินไขมันอะไรก็ได้นะแล้วก็ไม่ใช่
00:08:46 → 00:08:47 เป็นเพราะว่าเขาเพิ่มไขมันเข้าไปในอาหาร
00:08:47 → 00:08:49 นะครับแต่สิ่งที่ก็คือเขาไปลด
00:08:50 → 00:08:53 คาร์โบไฮเดรตเราเพิ่มโปรตีนนะครับถ้าเข้า
00:08:53 → 00:08:56 ไปดูรายละเอียดว่าเขาทำยังไงแล้ววิจัยผล
00:08:56 → 00:08:58 การทดลองของมันออกมาเป็นยังไงนะครับไม่
00:08:58 → 00:09:00 ใช่ว่าอยู่เราอยากจะไปกินไขมันก็กินได้
00:09:00 → 00:09:03 เลยเช่นเออพรุ่งนี้เรากินขี้โตเราจะไปกิน
00:09:03 → 00:09:06 ของทอดหน้าอะไรพ่อมีน้ำมันเยอะกินไม่หมด
00:09:06 → 00:09:09 เลยหรือไปหาหมอเขาบอกว่าน้ำมันหมูมันไม่
00:09:09 → 00:09:11 มีปัญหาใช่ไหมงั้นกินน้ำมันหมูมันให้หมด
00:09:11 → 00:09:13 เลยน้ำมันพืชก็ไปกินมาเลยอ่าอย่างนี้พวก
00:09:13 → 00:09:18 นี้ก็อาจจะไม่สมดุลได้นะครับแล้วสมุนอัด
00:09:18 → 00:09:21 มันเจอและถ้าท่านจึงกี่ตัวชนิดใดเด็กแล้ว
00:09:21 → 00:09:23 ไอเดียของท่านสูงมากๆสองร้อยนะท่านควรจะ
00:09:23 → 00:09:26 ทำอย่างไรดีนะครับประการแรกนะครับหลายๆ
00:09:26 → 00:09:29 ท่านอาจจะเบาใจได้ว่าโอ้เราไปดูเรื่องของ
00:09:29 → 00:09:32 ข้าไตรกีซาไลน์ค่า a เดียวค่าเบาหวานนั่ง
00:09:32 → 00:09:34 แล้วแต่ของเราค่าความดันทุกอย่างดูดีหมด
00:09:34 → 00:09:37 นะ L ดีเอาที่มันสูงที่ปกติแล้วเท่ากัน
00:09:37 → 00:09:39 ว่าเออมันจะเกิดปัญหาไปในอนาคตถามว่าทำ
00:09:39 → 00:09:43 ยังไงดีนะครับวิธีที่ผมคิดว่าน่าจะเป็น
00:09:43 → 00:09:46 ทางที่อยู่ตรงกลางที่สุดนะครับก็คือ
00:09:46 → 00:09:48 ท่านไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรเรื่องของใคร
00:09:48 → 00:09:51 มันมากนี้นะครับยกเว้นการทานไขมันมากๆ
00:09:51 → 00:09:54 เช่น 6 70% ไม่ควรนะครับถอยไปเหลือ 50%
00:09:54 → 00:09:57 40% ก็พอนะครับแล้วคาร์โบไฮเดรตเนี่ย
00:09:57 → 00:09:59 ท่านทานน้อยเหมือนเดิมได้นะครับไม่ต้อง
00:09:59 → 00:10:02 เป็นกรรมดีเป็นจำกัดมันมากขนาดนั้นนะครับ
00:10:02 → 00:10:04 ถามว่าจำกัดมากขนาดไหนทั้งกินแค่ประมาณ
00:10:04 → 00:10:06 20-30 เปอร์เซ็นต์เนี่ยโอเคนะไม่รู้ว่า
00:10:06 → 00:10:09 มันเยอะเหลืออะไรนะครับเพราะบางขั้นนี้
00:10:09 → 00:10:12 ต้องโหเข้มขึ้นมาจนเกินไปคือกินต่ำกว่า 5
00:10:12 → 00:10:13 เปอร์เซ็นต์นะหรือ 10 เปอร์เซ็นต์และคือ
00:10:13 → 00:10:17 นั้นก็จะเข้มข้นมากเกินไปนะฮะวิธีให้ควร
00:10:17 → 00:10:19 จะทำก็คือท่านเพิ่มโปรตีนที่ท่านทานเข้า
00:10:19 → 00:10:22 ไปนะครับเพิ่มสัดส่วนโปรตีนแค่สมมุติ
00:10:22 → 00:10:24 หนึ่งร้อยส่วนเนี่ยทานโปรตีนเข้าไปซัก 30
00:10:24 → 00:10:27 ส่วนนะครับแล้วคาร์บอเนตสัก 20 ส่วน 20
00:10:27 → 00:10:29 30 เปอร์เซ็นต์เนี่ยนะฮะแล้วก็อีกที่
00:10:29 → 00:10:31 เหลือ 50% หรือว่าจะน้อยกว่านั้นก็ได้
00:10:31 → 00:10:34 เป็นไขมันนะครับแบบนี้มันจะทำให้มีการ
00:10:34 → 00:10:36 เปลี่ยนแปลงของข้าวเดียวของท่านได้นะครับ
00:10:36 → 00:10:38 แล้วก็เป็นการที่ถ้าไม่จำเป็นจะต้องทานไข
00:10:38 → 00:10:41 มันมากเกินไปก็ได้นะครับถ้านั้นไขมัน
00:10:41 → 00:10:44 อย่าง 6 70% แล้วท่านก็ลดลงไปให้เหลือ 50
00:10:44 → 00:10:46 40 เปอร์เซ็นต์โดยการเพิ่มเอาโปรตีนเข้า
00:10:46 → 00:10:49 ไปทดแทนในบริเวณนั้นนะครับก็ทำให้สิ่งทุก
00:10:49 → 00:10:51 อย่างมันดูมีความสมบูรณ์มากขึ้นนะครับว่า
00:10:51 → 00:10:55 ท่านก็จะเจอว่าคนไข้เราเนี้ยท่าเรือของ
00:10:55 → 00:10:56 เขามันก็จะลดลงได้นะครับ
00:10:56 → 00:11:00 ก็มีบางคนมีคนดูหน้าไปกว่านั้นอีกครึ่ง
00:11:00 → 00:11:02 เอาเดียวที่มันสูงขึ้นเช่นฮะสมบูรณ์ว่า
00:11:02 → 00:11:06 กินตีโตแล้วอ่ะ 230 น่ะแล้วก็อยู่ในที่
00:11:06 → 00:11:08 ที่สามารถตรวจเดียวพาลีก็ได้นะครับก็ไป
00:11:08 → 00:11:11 ตรวจมาบอกว่าเกิดเรามีสวีเดน L เดียวน้อย
00:11:11 → 00:11:14 มากนะครับผ้าที่ก็ก็ไม่ได้เยอะมากนะครับ
00:11:14 → 00:11:17 คำว่าจะไรไหมมันอะไรดีนะครับเพราะว่าตัว
00:11:17 → 00:11:20 ราชาเดียวอย่างที่ผมบอกไปฆ่ามันมีเยอะจน
00:11:20 → 00:11:22 เกินที่ร่างกายจะขับออกไปจากเลื่อนได้นะ
00:11:22 → 00:11:25 ครับมันก็จะไปทำบัตรอีกระยะท้ายมันก็กลาย
00:11:25 → 00:11:27 เป็นมองดีเอาได้อยู่ดีนั่นแหละครับน่ะอัน
00:11:27 → 00:11:31 นี้ก็เป็นสิ่งซึ่ง Dog เค้าก็เตือนมาด้วย
00:11:31 → 00:11:34 นะครับว่าเออคนที่กินกี่ตัวสั่นอีก Diet
00:11:34 → 00:11:36 แล้วคิดว่าน้ำตาเองคิดว่าตัวไขมันเอา
00:11:36 → 00:11:38 เดียวของตัวของเค้าเนี่ยมันสูงๆมันเป็น
00:11:38 → 00:11:41 อันตรายนะครับมันก็ไม่ใช่ทุกกรณีนะครับ
00:11:41 → 00:11:43 เราต้องไปดูประกอบอย่างอื่นด้วยก็นี้ผม
00:11:43 → 00:11:45 พูดถึงแค่เรื่องของไขมันเท่านั้นๆยังไม่
00:11:45 → 00:11:47 พูดเรื่องอื่นเลยนะครับเพราะว่าเรื่อง
00:11:47 → 00:11:50 อื่นมีเรื่องอะไรบ้างมีมีบุหรี่นี้แน่นอน
00:11:50 → 00:11:52 ว่ามันไม่ดีนะครับโดยที่สองถ้าท่านมี
00:11:52 → 00:11:55 กัมมะพันธุที่เกิดหลอดเลือดหัวใจหลอด
00:11:55 → 00:11:56 เลือดสมองหรืออะไรสักอย่างเงี้ยตั้งแต่
00:11:56 → 00:11:59 อยู่ในน้อยเนี่ยนะครับท่านก็เสี่ยงนะครับ
00:11:59 → 00:12:01 เรื่องของมันแก้ไม่ได้ด้วยนะครับว่าเป็น
00:12:01 → 00:12:03 กรรมพันธุ์บางที่ก็มาทำมันเป็นออกมาอย่าง
00:12:03 → 00:12:04 นั้นเนี่ยก็จะมีความเสี่ยงเข้ามาเกี่ยว
00:12:04 → 00:12:08 ข้องนะฮะหรือว่าทันท่านที่ไม่ออกกำลังกาย
00:12:08 → 00:12:11 โดยนะครับพวกเนี้ยก็มีปัญหาได้นะครับดัง
00:12:11 → 00:12:14 นั้นเราดูความเสี่ยงอย่างอื่นด้วยนะครับ
00:12:14 → 00:12:16 ว่าเออมีโอกาสมากน้อยแค่ไหนนะครับแล้วก็
00:12:16 → 00:12:18 ท่านปรับเปลี่ยนการทานอาหารแล้วมันยัง 200
00:12:18 → 00:12:21 อยู่อย่างนะครับอันนี้นะครับที่อาจจะมี
00:12:21 → 00:12:23 ความจำเป็นจะต้องได้รับยากลุ่มแต่เต็ม
00:12:23 → 00:12:25 หรือกลุ่มอื่นอะไรก็แล้วแต่เพื่อที่จะเอา
00:12:25 → 00:12:28 มาลงมาอยู่ในระดับที่พอเหมาะครับโดยทั่วๆ
00:12:28 → 00:12:31 ไปถ้ามันเกิดเกิน 190 แล้วเนี่ยผมรู้สึก
00:12:31 → 00:12:33 ว่ามันไม่ปกติแล้วไม่ต้องมีอย่างอื่นที่
00:12:33 → 00:12:36 ทำให้ท่านเป็นใครมันที่สูงขนาดนั้นมันน่า
00:12:36 → 00:12:38 จะเป็นเพราะว่าตัวรับ l c เอาของถ้าในมา
00:12:38 → 00:12:41 ทำงานได้ไม่ค่อยดีหรือประสิทธิภาพสูงไม่
00:12:41 → 00:12:43 ค่อยเท่ากับคนอื่นได้นั้นไปตัวเดียวเนี่ย
00:12:43 → 00:12:47 ก็จะเยอะนะครับอ้าอันนี้ก็เล่ามาเท่านี้
00:12:47 → 00:12:49 เพียงพอแล้วนะครับถ้าใครมีข้อสงสัยข้อสอบ
00:12:49 → 00:12:51 ถามมาได้นะครับแต่ถ้าเกิดว่าคนไหนที่เห็น
00:12:51 → 00:12:54 แตกต่างไปผมอยากจะแนะนำให้ท่านจะไปดู
00:12:54 → 00:12:56 วีดีโอที่แล้วของผมนะครับผมแตะลิ้งก์งาน
00:12:56 → 00:12:59 วิจัยไว้เต็มไปหมดเลยนะครับท่านลงไปอ่าน
00:12:59 → 00:13:01 เอาเองเลยนะครับว่ามันมีเหตุผลอย่างไร
00:13:01 → 00:13:04 บ้างนะครับทำไมผมถึงจะสรุปมาแบบนี้นะครับ
00:13:04 → 00:13:06 ถ้าต้องลงไปอ่านเองนะครับเพราะผมมีอะไร
00:13:06 → 00:13:09 ท่านที่คิดไม่เหมือนกับผมเนี่ยนะฮะก็
00:13:09 → 00:13:13 เหมือนกับว่าท่านอ่านงานวิจัยมาไม่ลึกจน
00:13:13 → 00:13:15 ถึงเหตุผลจริงๆว่ามันเป็นยังไงและบางขั้น
00:13:15 → 00:13:18 อ่านแค่สรุปของงานวิจัยด้วยสำปะนะฮะถ้า
00:13:18 → 00:13:21 แบบนั้นมันก็อาจจะไม่สามารถใช้ได้ในทุก
00:13:21 → 00:13:23 กรณีนะครับโอเควันนี้ก็ต้องนี้นะครับ
00:13:23 → 00:13:26 ขอบคุณมากครับสวัสดีครับ