00:00:00 → 00:00:02 เริ่มเลยพี่ยเราน่าสจนะคะเพราะว่าเมื่อ
00:00:02 → 00:00:06 กี้เห็นคุณรีมบอกว่าเอ๊ะแบบหน้าฝนเนี่ย
00:00:06 → 00:00:09 คือท่านผู้ฟังหลายๆท่านเี่จะเจอฝนหรือว่า
00:00:09 → 00:00:12 บางทีบางพื้นที่อาจจะมีน้ำท่วมอย่าเงี้
00:00:12 → 00:00:15 ใช่มั้ยคะก็อาจจะทำให้ผิวหนังเส้นผมก็อาจ
00:00:16 → 00:00:19 จะเกิดความสกปรกแล้วก็อาจจะมีหนังศีรษะมี
00:00:19 → 00:00:22 กลิ่นเหม็นได้นะคะอืค่ะอืครับผมค่ะเนี่ย
00:00:22 → 00:00:25 แหละค่ะเลยต้องรบกวนถามอาจารย์เลยค่ะว่า
00:00:25 → 00:00:28 ตกลงแล้วเนี่ยค่ะไอ้อาการที่แบบอย่างที่
00:00:28 → 00:00:30 เราคุยกันน่ะค่ะอาจารย์ว่าความชื้นเนี่ย
00:00:30 → 00:00:33 ค่ะมันทำไมมันถึงเป็นสาเหตุให้เราแบบหัว
00:00:33 → 00:00:35 เหม็นได้อ่ะคะอาจารย์แล้วทั้งที่เราก็สะ
00:00:35 → 00:00:38 ้มสะผมนะคะขยันที่จะพยายามทำความสะอาด
00:00:38 → 00:00:41 เส้นผมแต่ว่าทำไมบางคนแบบโอ้โหแบบเดือยืน
00:00:41 → 00:00:45 แล้วหัวหัวเปีกะรีบะเราจะได้สอากาศมันก็
00:00:45 → 00:00:47 ไม่น่าจะทำร้ายหนังหัวเราได้ขนาดนี้เลย
00:00:47 → 00:00:49 อยากถามอาจารย์ค่ะว่าสาเหตุมันเกิดจาก
00:00:49 → 00:00:52 อะไรแล้วพอมันเป็นอย่างเงี้ยค่ะมันแก้ได้
00:00:52 → 00:00:56 มั้ยคะอาจารย์ค่ะคืออย่างงี้นะคะคือกรณี
00:00:56 → 00:01:00 ที่เอ่อหนังศีษะหรือมีกลิ่นเหม็นนะคะคือ
00:01:00 → 00:01:02 หมออยากให้มองงี้นะคะว่าคือหนังศีรษะ
00:01:03 → 00:01:06 เนี่ยมันก็เหมือนรักแร้อืก็คือมันจะ
00:01:06 → 00:01:09 ประกอบไปด้วยขนใช่มั้ยคะแล้วก็อาจจะมี
00:01:09 → 00:01:13 เรื่องของเหงื่อดังนั้นพอสมมุติว่ามี
00:01:13 → 00:01:16 เหงื่อมีขนแล้วก็บวกกับเรื่องของ
00:01:16 → 00:01:20 แบคทีเรียหรือเชื้อราหรือเอ่อสิ่งสกปรก
00:01:21 → 00:01:25 อื่นๆที่มีบนหนังศีษาเนี่ยมันก็เลยประกอบ
00:01:25 → 00:01:29 กันทำให้มีกลิ่นเหม็นค่ะดังนั้นโดยรวมๆก็
00:01:29 → 00:01:33 คือ 1 มีเรื่องเหงื่ออันที่ 2 ก็คือสาร
00:01:33 → 00:01:37 สิ่งประกอบต่างๆค่ะเช่นบางคนมีรังแคบางคน
00:01:37 → 00:01:41 เป็นเชื้อราบางคนเป็นสะเก็ดเงินหรือแม้
00:01:41 → 00:01:44 กระทั่งเอ่อเรื่องอาหารที่เราทานที่จะทำ
00:01:44 → 00:01:47 ให้มีกลิ่นน่ะนะคะหรือพอลลูชั่นอย่างฝุ่น
00:01:47 → 00:01:49 หรือสิ่งสกปรกต่างๆหรืออะไรก็ตามที่เรา
00:01:49 → 00:01:53 ใส่ไปที่บนหลังศึษาค่ะมันก็จะมาประกอบกัน
00:01:53 → 00:01:57 กับเหงื่อแลทำให้มีกลิ่นเหน็นค่ะอืผมสนใจ
00:01:57 → 00:02:01 เรื่องของอาหารการกินอาหารการกินเนี่ยมัน
00:02:01 → 00:02:05 ส่งผลให้ศีรษะของเราเนี่ยมีกลิ่นตามสิ่ง
00:02:05 → 00:02:07 ที่เรากินได้ด้วยหรอครับคุณหมอครับค่ะคือ
00:02:08 → 00:02:11 ปกติอาหารที่ทานน่ะนะคะบางทีมันก็จะเค้า
00:02:11 → 00:02:14 เรียกว่าพอเข้าไปสู่ร่างกายอย่างเงี้ยบาง
00:02:14 → 00:02:18 บางอย่างเนี่ยคือมันก็อาจจะออกมาเอ่อกับ
00:02:18 → 00:02:21 เหงื่อได้แต่ว่าต้องไม่ได้บอกว่าเออแบบ
00:02:21 → 00:02:23 เอ่อกลิ่นเมันมาจากอาหารอย่างเดียวไม่
00:02:24 → 00:02:28 เกี่ยวแต่ว่ามันจะเค้าเรียกว่ามีส่วนมี
00:02:28 → 00:02:32 ส่วนบ้างแต่ว่าจริงๆแล้วส่วนประกอบใหญ่
00:02:32 → 00:02:35 ที่ทำให้มีกลิ่นมันจะเป็นเรื่องของเหงื่อ
00:02:35 → 00:02:39 บวกแบคทีเรียมากกว่านะคอยกเว้นว่าบางท่าน
00:02:39 → 00:02:42 ถ้าเป็นเสื้อราที่หนังศีรษะหรือบางท่าน
00:02:42 → 00:02:46 ที่เป็นสะเก็ดเงินอย่างเงี้ยค่ะก็อาจจะ
00:02:46 → 00:02:51 เอ่อมีกลิ่นเปลี่ยนไปตามสิ่งที่เขาเป็นอื
00:02:51 → 00:02:55 ค่ะก็คือดังนั้นบางทีบางท่านเอ๊ะทำไมแบบ
00:02:55 → 00:02:58 เหม็นมเหม็นไม่เหมือนกันมีเหม็นไม่เหมือน
00:02:58 → 00:03:01 เหม็นเหม็นมีจำนกิน้วค่ะใช่ค่ะก็คือ
00:03:01 → 00:03:03 สมมุติว่าเหม็นแบบเอ่อบางท่านถ้าเป็นเอ่อ
00:03:03 → 00:03:08 โรครังแคโรคสะเก็ดเงินหรือบางท่านเป็น
00:03:08 → 00:03:10 เชื้อราอะไรอย่าเงี้ยค่ะก็อากลิ่นไม่
00:03:10 → 00:03:12 เหมือนกันแล้วก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนด้วยนะ
00:03:12 → 00:03:14 คะเพราะแบคทีเรียเราก็อาจจะไม่เหมือนกัน
00:03:14 → 00:03:15 อื
00:03:16 → 00:03:19 อก็ถ้าเกิดว่าไม่อยากให้หนังศิษามีกลิ่น
00:03:19 → 00:03:24 อ่าคือลดปัจจัยเช่นเหงื่อออกมากก็คือคนทำ
00:03:24 → 00:03:27 ยังไงก็ได้ที่ไม่ให้เหงื่อออกมากอาจจะ
00:03:27 → 00:03:30 อยู่ห้องแอร์หรืออยู่ในที่ที่มีการปาย
00:03:30 → 00:03:34 อากาศดีๆหรือสระผมบ่อยๆอย่างเงี้ยค่ะแต่
00:03:34 → 00:03:37 ว่า้าที่อาจจะมีแบบต้องทำงานกลางแจ้งอาจ
00:03:37 → 00:03:40 จะเอ่อต้องสัมผัสกับสิ่งสกปรกเป็นประจำ
00:03:40 → 00:03:42 อะไรอย่าเงี้ยอันนี้ก็ต้องเน้นเรื่องไป
00:03:42 → 00:03:46 ชำระล้างสิ่งสกปรกต่างๆอืคือจะชำระล้านก็
00:03:46 → 00:03:50 คือก็ต้องสะผมอยู่ดีอืก็จะช่วยทำให้เอ่อ
00:03:50 → 00:03:53 มันเค้าเรียกว่าลดเรื่องของเค้าเรียกว่า
00:03:53 → 00:03:55 เอ่อน้ำมันที่หนังศีรษะลดเรื่องของ
00:03:56 → 00:03:59 แบคทีเรียหรือสิ่งที่อยู่บนหนังศีรษะเรา
00:03:59 → 00:04:02 ให้ลดลงดังนั้นกลิ่นก็จะดีขึ้นค่ะอาจารย์
00:04:02 → 00:04:06 ครับพวนี้เราเลือกไม่ได้ค่ะมิแม่ขอโทษค่ะ
00:04:06 → 00:04:09 มิกระทั่งเราซ้ำร้ายเพราะเรารู้ว่าสำหรับ
00:04:09 → 00:04:11 ว่าคนเราสำหรับคนหัวชื้นหรือว่ามีผมเนี่ย
00:04:11 → 00:04:14 มีเหงื่อออกมากเราก็เอาหมวกมาสวมมันจะ
00:04:14 → 00:04:16 ยิ่งอับแล้วมันจริงทำให้เราเหม็นมากขึ้น
00:04:16 → 00:04:21 มั้ยคะอาจารย์เพราะว่าค่ะค่ะค่ะๆอันนั้น
00:04:21 → 00:04:24 มีส่วนแน่นอนค่ะเพราะว่าคือหมออยากให้มอง
00:04:24 → 00:04:27 ว่าเอ่อหนังศีรษะก็เหมือนรักแรถ้าพูดถึง
00:04:27 → 00:04:30 เรื่องกลิ่นน่ะนะคะดังก็คือมันก็ต้องให้
00:04:30 → 00:04:34 มันระบายอากาศอืได้ดีที่สุดอย่างเช่นถ้า
00:04:34 → 00:04:37 บางท่านอาจจะเหงื่อออกมากที่สีสะอย่า
00:04:37 → 00:04:40 เงี้ยแล้วยิ่งเราไปใส่หมวกไว้มันก็จะยิ่ง
00:04:40 → 00:04:43 ทำให้อับหรือว่าเพิ่มเรื่องของจำนวนเชื้อ
00:04:43 → 00:04:47 โรคที่เรามีที่อาจจะมีที่หนังศีรษะอืไม่
00:04:47 → 00:04:49 ว่าจะเป็นเอ่อแบคทีเรียที่เราอาจจะมีกัน
00:04:49 → 00:04:52 ทุกคนอยู่แล้วอนะคะมันอาจจะเพิ่มจำนวน
00:04:52 → 00:04:55 ขึ้นหรือสิ่งที่สมมุติว่าแทนที่เราอาจจะ
00:04:56 → 00:04:59 มีเรื่องสิ่งที่เราใส่บนหนังศีษาเช่นพวก
00:04:59 → 00:05:03 คิอหรือว่าในกรณีที่บางคนใส่เจลสเปรยอะไร
00:05:03 → 00:05:06 อย่าเงี้ยค่ะแทนที่มันจะหลุดไปกับลมบ้าง
00:05:06 → 00:05:09 มันก็จะยิ่งเอ่อเค้าเรียกว่ามันก็ยยิ่ง
00:05:09 → 00:05:11 เกาะติดแน่นที่สีสาวคือมันไม่ไม่ไปไหน
00:05:11 → 00:05:14 เหมือนเราปิดห้องไว้เฉยๆออคือมันก็จะมี
00:05:14 → 00:05:17 กลิ่นมากกว่ากรณีที่เราเปิดอากาศให้มัน
00:05:17 → 00:05:19 ระบายออกอย่างเงี้ยค่ะ
00:05:19 → 00:05:24 อืแต่ทีนี้ถ้าอาจารย์บอกว่าผมผมเราหัวเรา
00:05:24 → 00:05:27 เท่ากับรักแร้นะคะอาจารย์อย่างรักแร้เรา
00:05:27 → 00:05:30 ใช่ไหมยคะเราก็จะมียางับกลิ่นใช่มั้ยคะ
00:05:30 → 00:05:33 หรือมีสเปรย์ฉีดระงับเงือแต่ผมเราเนี่ย
00:05:33 → 00:05:36 ค่ะเอาตัวเดียวกันมาฉีดได้มั้ยคะอ๋อค่ะ
00:05:36 → 00:05:39 น่าสนใจนะคะแต่ว่าจริงๆในทางกลับกันเนี่ย
00:05:39 → 00:05:42 ต้องบอกว่ามันเป็นสิ่งที่เราใช้กันคนละ
00:05:42 → 00:05:45 พื้นที่ดังนั้นเสร้างมาเนี่ยไม่เหมือนกัน
00:05:45 → 00:05:49 อืครับเช่นว่าเสร้างเอ่อตัวระงับกลิ่น
00:05:50 → 00:05:53 เนี่ยเช่นเอ่อมามันมันจะมันมันหลายแบบ
00:05:53 → 00:05:56 เหมือนกันนะคะอย่างเช่นเอ่ออย่างเป็นน้ำ
00:05:56 → 00:06:00 ยาที่ลดเหงื่อค่ะที่บางทีใช้ไปกระแกได้
00:06:00 → 00:06:04 แต่ว่าถ้าบางทีเราไปทาที่หนังศีรษะมันอาจ
00:06:04 → 00:06:06 จะไปทำให้มันเหมือนมันเป็นสารประกอบอยู่
00:06:06 → 00:06:09 ที่หนังศีษะแล้วมันอาจจะไม่ได้เหมาะสมกับ
00:06:09 → 00:06:11 หนังศีสะอย่างเงี้ยค่ะอือมันก็อาจจะทำให้
00:06:12 → 00:06:15 แห้งหรือว่ามีอาการระคายเกืองได้ค่ะดัง
00:06:15 → 00:06:19 นั้นถ้าสมมุติว่ามีหนังศีษะมีกลิ่นน่ะ
00:06:19 → 00:06:21 จริงๆที่ง่ายที่สุดแทนที่เราจะคิดว่าเออ
00:06:21 → 00:06:26 เอาน้ำหอมมาใส่หรือเอาเอ่อโออนมทะศีษะละ
00:06:26 → 00:06:29 กันก็ก็คือใช้แชมพูเพราะแชมพูก็จะมีน้ำ
00:06:29 → 00:06:33 หอมหรือว่ามีกลิ่นอยู่แล้วอืมันก็จะเอ่อ
00:06:33 → 00:06:36 เทียบเท่าใกล้เคียงกันน่ะค่ะว่าเราใช้
00:06:36 → 00:06:39 แชมพูทำความสะอาดมันก็ยังมีกลิ่นอยู่บน
00:06:39 → 00:06:42 หนังศีรษะได้ดังนั้นก็จะมีส่วนช่วยทำให้
00:06:42 → 00:06:45 เรื่องหนังศีรษะเนี่ยมีกลิ่นที่ดีขึ้นได้
00:06:45 → 00:06:48 ค่ะแต่ว่าหมออยากจะเน้นอย่างงี้ค่ะว่าคือ
00:06:48 → 00:06:51 ต้องดูก่อนด้วยนะคะว่าสาเหตุเนี่ยเป็นจาก
00:06:51 → 00:06:55 อะไรเช่นบางท่านเนี่ยเอ่อเป็นสะเกดเงิน
00:06:55 → 00:06:58 แล้วสมมุติพยายามจะไปรดเหงื่อหรือสระผม
00:06:58 → 00:07:01 เท่าไหร่มันก็อาจจะไม่ได้ช่วยค่ะอืคือดัง
00:07:01 → 00:07:04 นั้นถ้าท่านใดที่มีโรคของหนังศีรษะอยู่
00:07:04 → 00:07:08 เนี่ยเช่นเป็นผื่นหรือเป็นเชื้อรามีภาวะ
00:07:08 → 00:07:11 ต่างๆเนี่ยอันนั้นหมอแนะนำว่าต้องรักษา
00:07:11 → 00:07:14 ที่สาเหตุก่อนก็คือให้ผื่นหายให้โรคของ
00:07:14 → 00:07:18 หนังศีรษะและผมเนี่ยหายแล้วหลังจากนั้น
00:07:18 → 00:07:21 น่ะก็คือถึงจะดูแลเรื่องของหนังศีษะและ
00:07:21 → 00:07:25 เส้นผมได้ตามปกติค่ะอืก็ต้องไปนั้นสำคัญ
00:07:25 → 00:07:30 คือต้องหาสาเหตุก่อนหาต้นเหตุก่อนอือืมัน
00:07:30 → 00:07:34 ไอ้อาการศีรษะเหม็นอะไรอย่างเงี้ยคุณหมอ
00:07:34 → 00:07:38 ครับมันถือว่ามันเป็นโรคที่ถ่ายทอดทาง
00:07:38 → 00:07:41 พันธุกรรมได้มครับใช่คำว่าเป็นโรคได้เลย
00:07:41 → 00:07:44 มั้ยคุณหมอหรือมันเป็นแค่ลักษณะอาการ
00:07:44 → 00:07:46 อย่างหนึ่งของของหนังศีรษะอะไรเงี้ยคุณ
00:07:46 → 00:07:48 หมอครับค่ะเหมือนเราตอนเด็กๆเราจะได้
00:07:48 → 00:07:50 กลิ่นแบบสมมุติว่าคุณตาคุณยายหรือคุณพ่อ
00:07:50 → 00:07:52 เราเงี้ยค่ะอนี่มันกลิ่นหัวล้านนี่นาอะไร
00:07:52 → 00:07:57 อย่าเงี้ยค่ะอ๋อค่ะค่ะคือไม่เกี่ยวนะคะ
00:07:57 → 00:08:00 คือภาวะนี้เนี่ยจะไม่ได้เกี่ยวกับเรื่อง
00:08:00 → 00:08:03 มีความถ่ายทอดทางพันธุกรรมครับแต่แต่ว่า
00:08:03 → 00:08:08 คือการที่สมมุติว่าเอ่ออยู่ในบางครอบครัว
00:08:08 → 00:08:11 ที่อาจจะมีคือคือหมอว่ามันเกี่ยวกับ
00:08:11 → 00:08:14 เรื่องของเอ่อเราคุ้นเคยเคยชินกับการ
00:08:14 → 00:08:19 ปฏิบัติตัวเช่นการอาบน้ำสับผมบ่อยแค่ไหนอ
00:08:19 → 00:08:23 หรืออาหารที่รับประทานหรือเอ่อเรื่องของ
00:08:23 → 00:08:28 หมอนผ้าห่มหรือการดูแลกิจวัตรประจำวันมาก
00:08:28 → 00:08:31 กว่าที่ทำให้คนที่มาจากครอบครัวเดียวกัน
00:08:31 → 00:08:35 น่ะบางทีอาจจะมีการปฏิบัติคล้ายเิกันอ๋อ
00:08:35 → 00:08:37 ก็ก็อาจจะมีผลเกี่ยวกับเรื่องกลิ่นในแบบ
00:08:37 → 00:08:40 นั้นมากกว่าอะไรอย่างเงี้ยค่ะอเช่นไม่สัก
00:08:41 → 00:08:44 ผ้าปูที่นอนหรือว่าปอกหมอนเป็นเวลานาน
00:08:44 → 00:08:46 เพราะว่าบ้านส่วนใหญ่เจะซักก็จะซักพร้อม
00:08:46 → 00:08:49 กันใช่มั้ยคะกลิ่นก็จะอวนๆคล้ายๆกันค่ะ
00:08:49 → 00:08:53 หรือบางท่านก็คือไม่อยากสะผมบ่อยเช่นบาง
00:08:53 → 00:08:56 ท่านอาจจะสะอาทิตย์ละครั้งอย่าเงี้ยค่ะ
00:08:56 → 00:08:59 ค่ะก็อันนั้นก็จะมีกลิ่นได้ง่ายมากกว่าคน
00:08:59 → 00:09:03 ที่สระทุกวันอืมแล้วในสภาพอากาศที่มัน
00:09:03 → 00:09:06 ชื้นอย่างเงี้ยค่ะสระทุกวันกับสระวันเว้น
00:09:06 → 00:09:08 วันหรืออาทิตย์ละครั้งอันไหนมันเหมาะกว่า
00:09:08 → 00:09:12 กันนะคะอาจารย์ขึ้นอยู่กับเอ่อ 1 คือสภาพ
00:09:13 → 00:09:17 อากาศน่ะนะคะหรือกิจวัตประจำวันของเรา
00:09:17 → 00:09:20 เช่นถ้าบางท่านเนี่ยสมมุติทำงานในออฟฟิศ
00:09:20 → 00:09:23 ที่ไม่ได้จะต้องมีเหงื่อออกเยอะๆเอ่อก็
00:09:23 → 00:09:26 อาจจะสะวันเว้นวันหรือห่างกว่านั้นได้
00:09:26 → 00:09:28 ขึ้นอยู่กับสภาพหนังศีรษะแต่ถ้าท่านที่ทำ
00:09:28 → 00:09:31 งานอยู่กลางแจ้งหรือว่าที่บ้านไม่ได้ติด
00:09:31 → 00:09:34 แอร์อยู่ร้อนๆหรือว่าไปตักฝนเปกลับมาอะไร
00:09:34 → 00:09:37 อย่างเงี้ยค่ะอคือแบบเนี้ยก็ควรที่จะต้อง
00:09:37 → 00:09:41 สะทุกวันเพราะว่ามันก็จะทำให้เค้าเรียก
00:09:41 → 00:09:46 ว่าเอ่อสมดุลของแบคทีเรียแล้วก็ชราที่
00:09:46 → 00:09:49 หลังศีษาเนี่ยมันอยู่ในเกณฑ์ปกติอืไม่
00:09:49 → 00:09:52 งั้นถ้าเราไปเพิ่มคือเหมือนกับเพิ่มความ
00:09:52 → 00:09:55 ชื้นเรื่องกันติดเชื้อราหรือตัวเชื้อรา
00:09:55 → 00:09:58 ที่มันเป็นไม่ได้ก่อโรคอ่ะนะคะแต่ว่าอยู่
00:09:58 → 00:10:00 บนหนังศีรษะแล้วมันมันอาจจะมีส่วนทำให้มี
00:10:00 → 00:10:03 กลิ่นได้เนี่ยมันก็อาจจะเพิ่มจำนวนเยอะ
00:10:03 → 00:10:06 ขึ้นหรือบางท่านก็อาจจะเป็นลังแคเยอะขึ้น
00:10:06 → 00:10:09 อย่างเงี้ยค่ะก็จะมีส่วนทำให้เป็นมีกลิ่น
00:10:09 → 00:10:13 เยอะขึ้นได้เช่นกันค่ะค่ะอืบางคนเลือกที่
00:10:13 → 00:10:17 จะไม่ได้สะทุกวันแม้ว่าอาจจะทำกิจกรรมที่
00:10:17 → 00:10:20 เสี่ยงต่อการมีเหงื่ออะไรอย่างเงี้ยออก
00:10:20 → 00:10:23 เพราะว่าเขาบอกว่าถ้าสระทุกวันอันนี้อัน
00:10:23 → 00:10:25 นี้ผมได้ยินมานะคุณบอกคือเขาบอกว่าถ้าสะ
00:10:25 → 00:10:27 ทุกวันเนี่ยมันจะทำให้น้ำมันเนี่ยมันมัน
00:10:27 → 00:10:32 ออกไปจากหนังสีีศีรษะมันก็จะแห้งผมมันก็
00:10:32 → 00:10:35 จะแข็งกระด้างอะไรอย่าเงี้ยไม่สวยไม่ทราบ
00:10:35 → 00:10:37 ว่าตรงนี้มันมันข้อเท็จจริงเป็นยังไงอ่ะ
00:10:37 → 00:10:41 ครับคุณหมอครับเอ่อมีทั้งจริงและไม่จริง
00:10:41 → 00:10:45 นะคะครับเอ่ออย่างเวลาเราใช้แชมพูเนี่ย
00:10:45 → 00:10:49 เอ่อตัวแชมพูเนี่ยมันจะประกอบไปด้วยสารทำ
00:10:49 → 00:10:54 ความสะอาดค่ะเช่นพวกโซเดียมริวซัลเฟต
00:10:54 → 00:10:57 โซเดียมดซัลเฟตพวกเนะคะเอ่ออันนี้คือหมาย
00:10:57 → 00:10:59 ถึงส่วนประกอบชพูปกติ
00:10:59 → 00:11:02 ซึ่งสารทำความสะอาดพวกนี้เนี่ยมันก็อาจจะ
00:11:02 → 00:11:05 ทำให้ด้วยความที่มันต้องทำความสะอาดออก
00:11:05 → 00:11:08 คือมันก็จะชำระล้างพวกน้ำมันออกดังนั้นผม
00:11:08 → 00:11:12 เนี่ยก็มีโอกาสที่อาจจะแห้งขึ้นได้อืแต่
00:11:12 → 00:11:15 ว่าประเด็นมันอยู่อย่างนี้ค่ะว่าคือถ้า
00:11:15 → 00:11:19 เราใช้ชมพูที่เหมาะสมรวมถึงถ้าท่านใดที่
00:11:19 → 00:11:22 ผมยาวเนี่ยแล้วเราใช้คอนดิชันเนอร์ร่วม
00:11:22 → 00:11:25 ด้วยเพื่อไม่ผมพันกันน่ะนะคะดังนั้นเราก็
00:11:25 → 00:11:28 ไม่ได้ไปทำสีหรือว่าไม่ได้ใช้ความร้อนมาก
00:11:28 → 00:11:31 จนเกินไปเนี่ยผมก็จะไม่ได้แห้งหรือหยาบ
00:11:31 → 00:11:35 กระด้างนะคะอืเพราะว่ามันมันก็จะมีเรื่อง
00:11:35 → 00:11:39 ของเอ่อคริมนวดผมที่ที่มันจะเคลือบอยู่
00:11:39 → 00:11:42 แล้วดังนั้นก็ไม่ต้องกลัวว่าจะทุกวันแล้ว
00:11:42 → 00:11:45 จะแห้งถ้าเรามีการใช้คอนดิชันเนอร์ค่ะอื
00:11:45 → 00:11:47 คอนเนอร์นี่สำคัญใช่มั้ยคะต้องใช้ทุก
00:11:47 → 00:11:50 ครั้งสำคัญค่ะสำคัญเพราะว่ามันจะทำให้ผม
00:11:50 → 00:11:53 เนี่ยไม่ค่อยพันกันดังนั้นเวลาผมมันก็จะ
00:11:53 → 00:11:56 เหมือนผิวเหมือนกันนะคะคือพอเวลามันสีกัน
00:11:56 → 00:12:01 เยอะๆเนี่ยมันก็เป็นริ้วรอยแล้วก็ออแข็ง
00:12:01 → 00:12:05 หรือทำให้มันดูสีผมด้านๆไม่ไม่มันอะไร
00:12:05 → 00:12:08 อย่าเงี้ยค่ะเราก็ขัดง่ายดังนั้นการที่
00:12:08 → 00:12:11 เราใช้คอนดิชันเนอร์มันจะเป็นการที่ทำให้
00:12:11 → 00:12:15 มีอะไรไปเคลือบที่ผมอืเอ่อดังนั้นความเสษ
00:12:15 → 00:12:19 สีเนี่ยมันจะลดลงรวมถึงปัจุไฟฟ้าเนี่ยที่
00:12:19 → 00:12:21 เวลาเราหวีผมแล้วแป๊บๆอะไรอย่างเงี้ยหรือ
00:12:21 → 00:12:24 มันชี้ฟูอะไรงี้ขึ้นมาเนี่ยมันก็จะลดลง
00:12:24 → 00:12:25 ค่ะ
00:12:25 → 00:12:29 อืมันเป็นอย่างงี้นะเออเพิ่งเห็นความสสาด
00:12:29 → 00:12:32 อย่างนึงค่ะเหมือนแบบว่าเอ่อเหมือนเอ่อดู
00:12:33 → 00:12:36 แลผมคือดูแลหน้าเรายังไงไนดูแลผมก็ประมาณ
00:12:36 → 00:12:39 นั้นค่ะอืคือก็ต้องการมีการบำรุงมีการใช้
00:12:39 → 00:12:42 ครีมนวนเหมือนแบบครีทาผิวอย่างเงี้ยค่ะ
00:12:42 → 00:12:46 ค่ะออมันก็จะทำให้เอ่อหนังศีรษะและเส้นผม
00:12:46 → 00:12:49 เสุขภาพดีได้ค่ะค่ะเมื่อกี้ก่อนหน้านั้น
00:12:49 → 00:12:51 เห็นอาจารย์พูดถึงเรื่องรังแคมาแล้วค่ะ
00:12:51 → 00:12:54 เพราะผัวทั้งศีรษะเราอ่ะค่ะพอเวลาเหม็น
00:12:54 → 00:12:57 หรือว่าเป็นรังแครังแคกับหนังศีษะถ้าเรา
00:12:57 → 00:12:59 แก้พร้อมกันด้วยกันสระผมมันจะหายเห็นมั้ย
00:12:59 → 00:13:01 คะการสระผมอย่างเดียวหรือเราต้องเติมอะไร
00:13:01 → 00:13:04 ไปอ่ะคะอือค่ะเป็นคำถามที่น่าสนใจมากเลย
00:13:04 → 00:13:09 ค่ะคือรังแคนะคะถ้าเอ่อถ้าเป็นทางทางการ
00:13:09 → 00:13:12 แพทย์เนี่ยเค้าเรียกว่าอาจจะเป็นเ่อโรค
00:13:13 → 00:13:17 รังแคอักเสบหรือบิ dermatis หรือบางที
00:13:17 → 00:13:19 เวลาคนไข้มาหาเนี่ยเขาก็จะบอกเซ็ฟเดิมเซบ
00:13:19 → 00:13:22 เดิมอย่างเงี้ยนะอคือคือภาวะนี้เนี่ยไม่
00:13:22 → 00:13:27 มีสาเหตุค่ะค่ะแต่ว่ามันมีเอ่อส่วนประกอบ
00:13:27 → 00:13:30 คือหมายถึงว่าเอ่อการที่เกิดเนี่ยมันอาจ
00:13:30 → 00:13:33 จะทำคือมันเหมือนมันมีชื้อราที่เป็นชื้อ
00:13:33 → 00:13:36 ราบนหนังศีรษะปกติของเราอยู่แล้วเนี่ยนะ
00:13:36 → 00:13:40 คะมันไปย่อยเรื่องของน้ำมันที่ศีษะแล้วก็
00:13:40 → 00:13:43 เลยทำให้พอมันย่อยปุ๊บปฏิกิริยามันก็เลย
00:13:43 → 00:13:46 เกิดปฏิกิริยาการอักเสบขึ้นมาดังนั้น
00:13:46 → 00:13:49 เนี่ยถ้าเวลาที่เป็นบางแคเนี่ยจะต้องดู
00:13:49 → 00:13:53 ว่ามีภาวะหนังศีรษะอักเสบร่วมด้วยมากหรือ
00:13:53 → 00:13:57 น้อยนะคะถ้าเกิดสมมุติว่าเป็นบางแคนิด
00:13:57 → 00:13:59 หน่อยไม่ได้มีหนังศีรษะอักเบอย่างงั้นก็
00:13:59 → 00:14:03 อาจจะใช้แชมพูที่เป็นแชมพูสำหรับกษัตร์
00:14:03 → 00:14:07 ลังแคเพราะว่าเขาอาจจะผสมสารที่เอ่อชื่อ
00:14:07 → 00:14:10 ซิงคไทออนอะไรอย่าเงี้ยนะคะก็จะช่วยลด
00:14:10 → 00:14:14 เรื่องของนาแคได้แต่ถ้าสมมุติว่าบางท่าน
00:14:14 → 00:14:17 ที่มีหนังศีรษะอักเสบร่วมด้วยนะคะบางที
00:14:17 → 00:14:21 อาจจะต้องใช้ชมพูที่มากกว่านั้นเช่นชพู
00:14:22 → 00:14:25 ที่เป็นซิลิเนียมฟาย
00:14:25 → 00:14:30 หรือโซแชมพูหรือทาแชมพูเอ่อก็จะช่วยลด
00:14:30 → 00:14:32 เรื่องของการอักเสบได้ดีกว่านะคะแต่ถ้า
00:14:32 → 00:14:34 บางท่านเป็นผื่นเยอะกว่านั้นอีกอาจจะต้อง
00:14:34 → 00:14:37 ทายาร่วมด้วยอย่างเงี้ยค่ะค่ะอาจารย์คะ
00:14:37 → 00:14:39 แล้วเมื่อกี้อาจารย์พูดถึงว่าภาวะอักเสบ
00:14:39 → 00:14:42 อ่ะค่ะบางคนนก็จะไม่รู้ว่าเอ๊ะหนังศีรษะ
00:14:42 → 00:14:44 เราหรือว่าอะไรอย่างเงี้ค่ะมันอักเสบมัน
00:14:44 → 00:14:47 เปิดจบาคนชอบคิดว่าเนี่ยเราเป็นสิวเรามี
00:14:47 → 00:14:49 สะเก็ดหรือเราเป็นอะไรอย่างเงี้ยค่ะอัน
00:14:49 → 00:14:51 นี้คือเรียกอักเสบมั้ยคะอาจารย์หรือว่าคำ
00:14:51 → 00:14:54 ว่าอักเสบของหนังศีษะที่ที่ที่อาจารย์พูด
00:14:54 → 00:14:57 ไปเมื่อกี้ค่ะมันคือมันลักษณะยังไงเพื่อ
00:14:57 → 00:15:00 คุณผู้ฟังจะได้เข้าใจอย่างชัดเจนรวมถึง
00:15:00 → 00:15:03 เราด้วยค่ะหยกเดค่ะค่ะค่ะคุณหยกถามแบบน่า
00:15:03 → 00:15:06 สนใจมากเพราะว่าอย่างงี้ค่ะคืออันนี้เป็น
00:15:06 → 00:15:08 อันที่หมออยากจะอธิบายให้ท่านผู้ฟังนาน
00:15:08 → 00:15:13 มากนะคือบางทนจะแยกยากค่ะว่าเอ๊ะเอ่อเป็น
00:15:13 → 00:15:17 นาแคแล้วเป็นเพราะคือบางท่านเข้าใจว่า
00:15:17 → 00:15:20 เอ่อหนังศีรษะแห้งคือรังแคเนี่ยคือหนัง
00:15:20 → 00:15:24 ศีรษะแห้งครับหือคนเนี่ยเป็นผื่นมาแล้วก็
00:15:24 → 00:15:27 บอกเป็นจากผิวแห้งไม่ได้เป็นผื่นคือบางที
00:15:27 → 00:15:31 แยกว่ารังแคกับผื่นน่ะแยกยากใช่มั้ยคะแต่
00:15:31 → 00:15:34 หมออยากให้ดูง่ายๆงี้นะคะว่าเมื่อไหร่ก็
00:15:34 → 00:15:38 ตามเราลองแหวกหนังศีรษะดูแล้วเราเห็นว่า
00:15:38 → 00:15:42 มีสีแดงๆหรือหนังศีรษะเนี่ยเป็นผื่นนูน
00:15:43 → 00:15:45 แล้วเราคันจังเลยอย่างเงี้ยหมอคิดว่าอัน
00:15:45 → 00:15:49 นั้นเนี่ยก็คือเป็นผืน่ะค่ะอือค่ะแต่ถ้า
00:15:50 → 00:15:53 เราเห็นว่าเป็นแบบจุดขาวๆเล็กๆเหมือนเวลา
00:15:53 → 00:15:56 เราเอ่อเห็นเพื่อนเรามีนิดๆหน่อยๆอะไร
00:15:56 → 00:15:58 อย่างเงี้ยนะคะอันนั้นก็จะเรียกว่าเป็น
00:15:58 → 00:16:01 รังแคทำธรรมดาได้ค่ะดังนั้นก็ยง่ายๆแยก
00:16:01 → 00:16:05 แค่นี้เองว่ามีผื่นนะไม่มีผื่นถ้ามีผืน
00:16:05 → 00:16:08 เนี่ยคงต้องใช้อะไรที่เป็นเหมือนแชมพูยา
00:16:08 → 00:16:13 เช่นทาแชมพูคีโตโคนาโซลแชมพูซิลิเนียมแนฟ
00:16:13 → 00:16:16 แชมพูแต่ถ้าไม่มีผืนก็อาจจะใช้แชมพูตาม
00:16:16 → 00:16:20 ท้องตลาดทั่วไปได้ค่ะอืฟิแิไทออนหรือ
00:16:20 → 00:16:24 แชมพูที่เขาโฆษณากันว่าเอ่ออาจจะเหมาะกับ
00:16:24 → 00:16:29 สำหรับรังแคพวกนี้ก็น่าน่าจะเ่งที่ได้
00:16:29 → 00:16:32 เพียงพอระดับนึงค่ะอืเพียงพอระดับหนึ่งก็
00:16:32 → 00:16:36 แปลว่ามันอาจจะหายหรือไม่หายก็ได้ขึ้น
00:16:36 → 00:16:39 อยู่แต่ละสภาพศีรษะอันนี้อันนี้ถูกต้อง
00:16:39 → 00:16:41 ใช่มั้ยคุณหมอครับค่ะอันนี้ดีมากเลยค่ะ
00:16:41 → 00:16:45 คุณดิมคือการที่เราเป็นรังแคหรือว่าเรามี
00:16:45 → 00:16:48 ผืนแล้วเรารักษาหายเนี่ยคือมันหายอย่าง
00:16:48 → 00:16:51 งั้นก็จริงค่ะคุณติมแต่ว่าคือเราต้องดู
00:16:51 → 00:16:54 ว่าคือด้วยความที่โรคนี้เนี่ยเอาโรครังแค
00:16:54 → 00:16:57 อักเสบก่อนเนาะเพราจริงๆถ้าถ้ามันอาจจะมี
00:16:57 → 00:17:00 หลายโรคอ่ะนะคะแต่โรครังแคอักเสบเนี่ยมัน
00:17:00 → 00:17:03 ไม่มีสายก็จริงแต่มันมีปัจจัยกระตุ้นดัง
00:17:03 → 00:17:06 นั้นการที่เราจะกลับมาเป็นซ้ำใหม่เนี่ย
00:17:06 → 00:17:08 ไม้เนี่ยขึ้นอยู่กับว่าเราได้ดูแลตัวเอง
00:17:08 → 00:17:12 ดีพอหรือยังครับเช่นคือปัจจัยกระตุ้นก็
00:17:12 → 00:17:17 คือจะมีอย่างนี้นะคะเช่นร้อนอืนะคะอาก
00:17:17 → 00:17:22 แดดเครียดอดนอนกินเหล้าหรือกินยาบางอย่าง
00:17:22 → 00:17:26 ค่ะที่จะกระตุ้นอาจจะกระตุ้นทำให้มีภาวะ
00:17:26 → 00:17:30 หนังศีรษะอักเสบได้อั้นการที่เราจะควรจะ
00:17:30 → 00:17:33 ต้องดูแลตัวเองเพื่อป้องกันไม่ให้ผื่น
00:17:33 → 00:17:37 กลับมาเป็นซ้ำก็คือ 1 อย่าให้ร้อนอย่าไป
00:17:37 → 00:17:41 ตากแดดออย่าเครียดอย่าอดนอนอย่ากินเหล้า
00:17:41 → 00:17:45 นะคะแล้วก็ระวังเรื่องเอ่อยาที่กินบาง
00:17:45 → 00:17:48 อย่างที่ที่เอ่อเกี่ยวกับทางยาทางด้าน
00:17:48 → 00:17:51 ระบบประสาทอะไรอย่าเงี้ยค่ะก็ก็อาจจะมีผล
00:17:51 → 00:17:56 ได้แต่ว่าถ้าถ้ายาทั่วไปแบบเอ่อท่านผู้
00:17:56 → 00:17:58 ฟังที่เป็นเบาหวานควำดันทั่วไปอะไรเงี้ย
00:17:58 → 00:18:01 มันก็ไม่เกี่ยวั้นก็ทานได้ตามปกตินะคะก็
00:18:01 → 00:18:04 คือถ้าเป็นโรคอะไรแนะนำว่าเอ่ออาจจะห่วง
00:18:04 → 00:18:07 เรื่องโรคที่เป็นก่อนเรื่องเรื่องเรื่อง
00:18:07 → 00:18:09 อันนี้อาจจะรักษาง่ายกว่าอะไอย่างนี้ดี
00:18:09 → 00:18:12 กว่าค่ะอืก็เราก็แค่ต้องป้องกันดูแลตัว
00:18:12 → 00:18:15 เองไม่ให้มีปัจจัยกระตุ้นค่ะแล้วก็เรื่อง
00:18:15 → 00:18:18 ร่าแครก็จะกลับมาเป็นซ้ำน้อยลงค่ะ
00:18:18 → 00:18:22 อืืเออๆๆเพราะว่าแต่ว่าบางท่านถ้าสมมุติ
00:18:22 → 00:18:25 ว่าเป็นคือบางทีเหมือนเห็นเป็นรังแคหรว่า
00:18:25 → 00:18:29 โอ้โหมีผื่นที่หนังศีษาที่แบบเป็นสะเก็ด
00:18:29 → 00:18:33 เงินขาวมากเลยครับบางทีเป็นโรคสะเก็ดเงิน
00:18:33 → 00:18:36 นะคะอืดังนั้นก็อันนั้นอาจจะต้องทายยา
00:18:36 → 00:18:39 รักษาจริงจังต้องไปหาคุณหมอเพื่อได้รับ
00:18:39 → 00:18:43 การรักษาที่ถูกต้องค่ะมันสามารถแยกกันได้
00:18:43 → 00:18:46 ดูด้วยภายนอกเนี่ยมันดูรู้มั้ยครับว่าอ่ะ
00:18:46 → 00:18:49 อันนี้คือรังแคนะอันนี้คือสะเก็ดเงินอัน
00:18:49 → 00:18:51 นี้อาจจะเป็นรังแคที่แบบว่าโอหอยู่ในขั้น
00:18:51 → 00:18:54 ที่แบบว่าค่อนข้างสาหัดสากกันเลยทีเดียว
00:18:54 → 00:18:56 เออบางคนก็อาจจะพอเห็นปั๊บติ๊ต่างว่าเอ๊
00:18:56 → 00:18:59 สะเก็ดเงินรือเปล่าบางมันแยกออกมั้ครับ
00:18:59 → 00:19:01 คุณหมอครับคือถ้ามองด้วยตาเปล่าเงี้ยคุณ
00:19:01 → 00:19:07 หมออืคือถ้าถ้าเป็นเอ่อคือท่านผู้ฟังแยก
00:19:07 → 00:19:11 เองถ้าเอาง่ายๆเลยนะคะก็คือถ้าสะเก็ด
00:19:11 → 00:19:15 เนี่ยมันขาวมากเลยคือแล้วสะเก็ดหนามากเลย
00:19:15 → 00:19:18 อืแล้วก็มีผื่นแดงที่ศีษะมากเลยอย่าง
00:19:18 → 00:19:21 เงี้ยก็อาจจะเป็นสะเก็ดเงินค่ะอแต่ถ้าเออ
00:19:21 → 00:19:24 มันก็คันๆนิดๆหน่อยๆหนังสะเกดก็มีบ้าง
00:19:24 → 00:19:28 เล็กๆน้อยๆหนังศีรษะก็แดงนิดหน่อยไม่ได้
00:19:28 → 00:19:31 มากมาอย่างเงี้ยนะคะหรือบางทีอย่างเงี้ย
00:19:31 → 00:19:34 อาจจะเป็นเรื่องของรังแคอักเสบอืแต่อย่าง
00:19:34 → 00:19:37 เอ่ออย่างอื่นเนี่ยหมอว่าถ้าจะดูเองง่ายๆ
00:19:37 → 00:19:40 ก็เช่นเราดูก่อนด้วยนะคะนอกเหนือจาก
00:19:40 → 00:19:43 เรื่องของสเก็ตว่าขาวไม่ขาวหนาไม่หนาที่
00:19:44 → 00:19:46 สีสาแล้วเนี่ยค่ะเราก็ดูว่าเอ๊ะแล้วมีผืน
00:19:47 → 00:19:50 ที่อื่นมยออเช่นถ้าบางคนเนี่ยมีผืนที่
00:19:50 → 00:19:54 ร่องแก้มนะคะแล้วก็ที่คิ้วอย่างเงี้ยอาจ
00:19:54 → 00:19:58 จะอยู่ในกลุ่มที่เป็นบางแคอักเสบอืแต่ว่า
00:19:58 → 00:20:02 ถ้าบางท่านเนี่ยมีผืนตามศอกตามเข่าหรือ
00:20:02 → 00:20:07 ตามตัวที่เป็นผืนหนาๆแดงๆผืนนูนแล้วก็มี
00:20:07 → 00:20:10 สเก็ดนะเช่นกันเนี่ยบางทีอย่างงั้นอาจจะ
00:20:10 → 00:20:13 เป็นสเก็ดเงินแต่ว่าเรื่องเรื่องบางที
00:20:13 → 00:20:15 เรื่องผื่นแดงมากแดงน้อยบางทีท่านผู้ฟัง
00:20:15 → 00:20:19 อาจจะฟังแล้วมันอาจจะยากไปนิดนึงหมอว่า
00:20:19 → 00:20:23 เอาแค่ว่าสะเก็ดมากๆเนี่ยก็ควรจะพบแพทย์
00:20:23 → 00:20:26 แล้วค่ะเพราะว่าถึงจะเป็นเอ่อังแชกเสพ
00:20:26 → 00:20:29 หรือสะเก็ดเงินหมอว่าอย่างงั้นเอ่อรักษา
00:20:29 → 00:20:32 เองอาจจะรักษาไม่ถูกพบแพทย์อาจจะหายได้
00:20:32 → 00:20:35 เร็วกว่าค่ะค่านะคะโอมันต้องถึงขั้นพบ
00:20:35 → 00:20:38 แพทย์กันเลยนะใช่ค่ะก็ถ้าหิมะร่วงมากเรา
00:20:38 → 00:20:43 ใส่เสื้อดำก็คงชัดชัดไปนะคะอ๋อเอออีกอัน
00:20:43 → 00:20:45 นึงที่อยากจะเน้นนะคะบางทีถึงจะเป็นเราก็
00:20:45 → 00:20:48 พูดกันไปแล้วถึงเรื่องรังแคอักเสบสะเกด
00:20:48 → 00:20:51 เงินใช่มั้ยคะอีกอันนึงคือโรคชราค่ะค่ะ
00:20:51 → 00:20:54 คุณหยกคุณดิมคือบางทีหน้าฝนเนี่ยเชื้อรา
00:20:54 → 00:20:57 ที่หนังศีษาก็เป็นง่ายเหมือนกันนะคะออ่า
00:20:57 → 00:21:00 เพราะว่าบาบางทีเราอาจจะรักษาความสะอาด
00:21:00 → 00:21:02 ไม่ดีอย่างเงี้ยใช่มั้ยคะแต่ว่าหมออยากจะ
00:21:02 → 00:21:05 เรียนอย่างงี้นะคะว่าเอ่อถ้าส่วนใหญ่แล้ว
00:21:05 → 00:21:09 ชราาที่หนังศึษาเนี่ยมักจะเป็นในเด็กค่ะอ
00:21:09 → 00:21:12 ดังนั้นถ้าใช่ค่ะเพราะว่าถ้าถ้าท่านใดที่
00:21:12 → 00:21:15 มีบุตรหลานเนี่ยที่ดูเหมือนเป็นร่างแคร
00:21:15 → 00:21:20 แต่ไม่ใช่รงแครเฉยๆผมร่วงแบบเอ่อเป็นตอๆ
00:21:20 → 00:21:23 หรือเป็นตอๆนะคะอย่างงั้นควรจะต้องรีบมา
00:21:23 → 00:21:26 พบแพทนะคะเพราะว่าคือควรที่จะต้องรับ
00:21:26 → 00:21:30 ประทานยารักษาร่วมกับใช้ชมพูยารักษาคู่
00:21:30 → 00:21:33 กันเพราะบางท่านก็นึกว่าเป็นรังแคไม่เป็น
00:21:33 → 00:21:35 ไรอะไรอย่างเงี้ยไม่ได้รักษาเดี๋ยวมันก็
00:21:35 → 00:21:38 จะลุกลามได้นะคะแล้วก็อาจจะทำให้คนอื่นใน
00:21:38 → 00:21:41 บ้านเติดไปกันด้วยกันได้ค่ะก็อันนี้ก็
00:21:41 → 00:21:45 สำคัญค่ะติดได้อออโอติดได้ด้วยเหรอคุณหมอ
00:21:45 → 00:21:49 ครับติดได้ค่ะรังแคเพราะว่าบางทีอย่างจะ
00:21:49 → 00:21:53 รักษาเอ่อคนไข้เด็กที่เป็นชราที่หนังสสๆ
00:21:53 → 00:21:57 เงี้ยนะคะครับค่ะก็ต้องให้ชมพูยาเนี่ยให้
00:21:57 → 00:21:59 ผู้ใหญ่ในบ้านรนถึงเด็กในบ้านใช้ไปด้วยนะ
00:22:00 → 00:22:02 คะเพราะว่าไม่งั้นเดี๋ยวคือผู้ใหญ่เอ่อ
00:22:02 → 00:22:06 อาจจะเป็นเหมือนเค้าเรียกว่าเป็นรีวัวก็
00:22:06 → 00:22:09 คือเหมือนเป็นปาหะแต่แล้วพอเด็กหายเอาไป
00:22:09 → 00:22:12 แล้วแล้วผู้ใหญ่ยังมีเชื้อที่ไม่ได้ก่อ
00:22:12 → 00:22:15 โรคแต่เอาไปให้เด็กก็ก็จะเป็นซ้ำอีกทีนึง
00:22:15 → 00:22:18 ได้ค่ะติดติดยังไงอ่ะคะอาจารย์คือคุกคี
00:22:18 → 00:22:21 หอมกรอดผมไปสะบัดหรือยังไงคะใช้เครื่อง
00:22:21 → 00:22:23 ใช้ด้วย
00:22:23 → 00:22:28 กันเดียวกันนอนด้วยกันเพราะว่าบางทีเอ่อ
00:22:28 → 00:22:31 เราอาจจะมีน้องหมาน้องแมวเงี้ยค่ะอืแล้ว
00:22:31 → 00:22:35 บางทีเอาจจะเอาน้องหน้องหมาน้องแมวไปนอน
00:22:35 → 00:22:38 ด้วยเงี้ยโดยเฉพาะน้องแมวอย่างเงี้ยนะคะ
00:22:38 → 00:22:41 ก็บางทีเขาอาจจะมีเชล่าดังนั้นพอเราไป
00:22:41 → 00:22:44 คลุกคลีหอมกอดแบบอะไรอย่างงั้นหรือนอน
00:22:44 → 00:22:47 ด้วยกันเนี่ยก็จะมีเพิ่มระยะเวลาในการ
00:22:47 → 00:22:51 สัมผัสอ่ะค่ะอืดังนั้นก็จะเป็นติดเชื้อรา
00:22:51 → 00:22:53 จากสัตว์เลี้ยงเนี่ยมาที่หนังศีรษะได้ค่ะ
00:22:53 → 00:22:57 อืค่ะต้องดูถ้าเกิดว่าสัตว์เลี้ยงมีขน
00:22:57 → 00:23:00 ร่วงมีผื่นก็ต้องพาไปรักษาดีกว่าไม่งั้น
00:23:00 → 00:23:03 เดี๋ยวเราก็จะเป็นเชื้อล่าได้ไม่ว่าจะ
00:23:03 → 00:23:06 เป็นศีรษะหรือที่ตัวนะคะโอเพิ่งรู้ว่าติด
00:23:06 → 00:23:09 กันเนี่ยแหละค่ะแล้วก็เพิ่งรู้ว่าเป็นได้
00:23:09 → 00:23:11 ทั้งตัวนั่นน่ะสินั่นน่ะสินั่นน่ะสิเพิ่ง
00:23:11 → 00:23:13 รู้ว่าติดกันได้ด้วยอ่ะเพิ่งรู้ว่าติด
00:23:13 → 00:23:16 เนี่ยแหละค่ะอาจารย์เนี่ยค่ะอาจารย์ค่ะ
00:23:16 → 00:23:18 แต่ไม่ใช่ให้ท่านผู้ฟังฟังแล้วตายแล้ว
00:23:18 → 00:23:20 เป็นรังแคคิดว่าเป็นชราไม่ใช่อย่างงั้นนะ
00:23:20 → 00:23:23 คะไม่ต้องสค่ะค่ะค่ะคือคือส่วนใหญ่ถ้า
00:23:23 → 00:23:26 เป็นชราเนี่ยมักจะมีผมร่วงเหลือเป็นตอๆ
00:23:26 → 00:23:29 ด้วยค่ะดังนั้น้าทุกท่านที่ฟังแล้วเออ
00:23:29 → 00:23:34 เป็นรังแคคันๆเฉยๆไม่ได้เอ่อมีผมร่วงด้วย
00:23:34 → 00:23:37 อย่างเงี้ยค่ะก็ไม่น่าจะเป็นชื้อรานะคะ
00:23:37 → 00:23:40 อันนั้นจะเป็นรังแคอักเสบธรรมดาค่ะอื
00:23:40 → 00:23:45 อืค่ะมีคำถามน่าสนใจมีคำถามใช่ค่ะอาจารย์
00:23:45 → 00:23:47 อันนี้น่าสนใจค่ะผมก็เพิ่งจะเคยเห็น
00:23:47 → 00:23:49 เหมือนกันท่านจะเป็นคำถามเดียวกันใช่มั้ย
00:23:49 → 00:23:52 อมี 2 คำถามที่น่าสนใจมากๆอีกอันอันนี้
00:23:52 → 00:23:54 ก่อนนะคะแบบว่าอันนี้บอกว่าเคยได้กลิ่น
00:23:54 → 00:23:58 ยีสจากศีรษะของเพื่อนค่ะผมกำลังงงกลิ่น
00:23:58 → 00:24:02 ยีสเป็นยังไงวะค่ะเราบอกว่าเพื่อนน่ะค่ะ
00:24:02 → 00:24:05 เป็นเชื้อราใช่มั้ยคะกลิ่นยีสบนหนังศีษะ
00:24:05 → 00:24:10 คุณหมอเคยได้กลิ่นฮคุณหมอฮะหมอหมอว่าเอ่อ
00:24:10 → 00:24:14 อันนี้อาจจะแบบอาจจะไม่ใช่นะคะคืออาจจะ
00:24:14 → 00:24:17 เป็นเหมือนกลิ่นที่ไม่สะอาดอยากจะเรียก
00:24:17 → 00:24:20 อย่างนี้ดีกว่าแต่ว่าเอ่อกลิ่นเนี่ยถ้าดม
00:24:20 → 00:24:23 แล้วแบบเอ่อรู้เลยว่านี่เป็นกลิ่นวสอย่าง
00:24:23 → 00:24:26 เงี้ยหมอว่ามันจะไม่ได้ขนาดนั้นน่ะค่ะ
00:24:26 → 00:24:28 เพราะว่าคือมันก็จะประกอบไปด้วยด้วยหลาย
00:24:28 → 00:24:31 อย่างที่ปนๆอยู่บนหนังศีรษะอย่างเงี้ยค่ะ
00:24:31 → 00:24:33 อือก็เหมือนที่ตัวเราเหมือนกันก็คือจะ
00:24:33 → 00:24:37 ประกอบได้วยน้ำมันหรือสิ่งต่างๆที่เราอาจ
00:24:37 → 00:24:39 จะใช้บนหนังศีษาเนี่ยทำให้เกิดกลิ่นดัง
00:24:39 → 00:24:42 นั้นมันจะไม่สามารถเฉพาะไปได้เจาะจงเลย
00:24:42 → 00:24:45 ว่ากลิ่นเนี่ยกลิ่นยีสนะกลิ่นนี้เนี่ย
00:24:45 → 00:24:49 กลิ่นชรากลิ่นนี้อะไรอย่างเงี้ยค่ะอืคือ
00:24:49 → 00:24:52 คือกลิ่นที่อาจจะมีความคล้ายคึงกันได้จะ
00:24:52 → 00:24:56 เป็นกลิ่นของเอ่อคนไ้ท่านที่อาจจะเป็น
00:24:56 → 00:25:00 สะเก็ดเงินหรือหรือที่มีเเรียกว่าสเก็ด
00:25:00 → 00:25:02 ที่หนังศีรษะอย่างเงี้ยค่ะบางครั้งอัน
00:25:02 → 00:25:06 นั้นอาจจะมีความคล้ายกันได้แต่ว่ากลิ่น
00:25:06 → 00:25:09 ยีสไม่ได้ขนาดนั้นมันจะไม่ได้เหมือนแบบ
00:25:09 → 00:25:11 เป็นกลิ่นขนมปังอะไรอย่างเงี้ยนะคะที่เรา
00:25:11 → 00:25:14 แบบโอเคกลิ่นอันนี้อะไรเงี้จะไม่ขนาดนั้น
00:25:14 → 00:25:17 อ่ะค่ะดังนั้นแยกกันไม่ได้โดยกลิ่นนะคะ
00:25:18 → 00:25:21 อ๋อต้องตรวจดูอย่างที่อาจารย์บอกว่าผิว
00:25:21 → 00:25:23 หนังของเรามีเป็นผื่นเป็นอะไรอย่างงี้
00:25:23 → 00:25:25 หรือเปล่าอะไรอย่างเงี้ใช่มยคะใช่ค่ะอ่า
00:25:25 → 00:25:29 นะคะโดยรวมก็ดูง่ายๆเลยว่ามีมีผื่นมั้ยอื
00:25:29 → 00:25:34 2 เอ่อผมร่วงหรือเปล่าคะอืนะคะมีผื่นที่
00:25:34 → 00:25:37 อื่นมั้ยอย่าที่จะช่วยดูได้นะคะพิสูจน์
00:25:37 → 00:25:41 จากกลิ่นไม่ได้อืนี่ผมเห็นคำถามนี้ผมเลย
00:25:41 → 00:25:44 ก็ขยากไปหากีกว่าดูดมว่ากลิ่นยีสเนี่ยมัน
00:25:44 → 00:25:47 เป็นยังไงงนึกึงนึกกิ่นตขนมปังขปังอะไร
00:25:48 → 00:25:50 อย่างงี้เหรออ๋อโอเคโอเคโอเคอันนี้อันนี้
00:25:50 → 00:25:52 จินตนาการเาอันนี้อีกคนนึงค่ะอาจารย์ก็
00:25:52 → 00:25:55 น่าสนใจไม่แพ้กันทีเดียวขออนุญาตถามคุณ
00:25:55 → 00:25:59 หมอค่ะว่ากลิ่นคนแก่ค่ะจากแบบมาเกิดจากฟ
00:25:59 → 00:26:02 ฟีโรโมนของเราในร่างกายมันบูดหรือเปล่าคะ
00:26:02 → 00:26:06 เอออันนี้หนูก็คอสงสัยได้วยเอฟิลมพูดยาก
00:26:06 → 00:26:09 นะคะเพราะว่าจริงๆกลิ่นเนี่ยก็มีส่วนจาก
00:26:09 → 00:26:14 ฮอร์โมนได้เหมือนกันนะคะอืก็คือเวลาถ้า
00:26:14 → 00:26:18 เอ่อมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนน่ะนะคะก็
00:26:18 → 00:26:22 มีอาจจะมีโอกาสที่เอ่อทำให้มีกลิ่นที่
00:26:22 → 00:26:29 หนังศีรษะได้เช่นกันอืเอ่อแต่ว่าคือมันจะ
00:26:29 → 00:26:31 มันจะบอกว่าอ้าคือสมมติได้กลิ่นอันเนี้ย
00:26:31 → 00:26:34 กลิ่นคนแก่ไม่เป็นอะไรอะไรอย่างเงี้ยหมอ
00:26:34 → 00:26:38 คิดว่าสำคัญเลยคือหนึอาจจะต้องดูนิดนึง
00:26:38 → 00:26:43 ว่าเมีฝืนที่หนังศีรษะมยแล้วก็มีผมร่วงมย
00:26:43 → 00:26:47 แล้วก็รักษาตามสาเหตุจะดีกว่าค่ะอืค่ะเออ
00:26:47 → 00:26:50 ตอนอันนี้เป็นคำถามอีกอันนึงนะคะอาจารย์
00:26:50 → 00:26:53 ที่ในอันนี้ใน line นะคะเราย้ายจากโซน
00:26:53 → 00:26:54 เมื่อกี้อยู่ทาง Facebook ที่เราบอกจาก
00:26:54 → 00:26:57 บ้านฟ้ามาบ้านเขียวบ้างมาบ้านเขียวบ้าน
00:26:57 → 00:26:59 เขียวเถเถามแบบแบบนี้ค่ะอันนี้น่าสนใจค่ะ
00:26:59 → 00:27:01 ที่อาจารย์เคยบอกไปว่าการใช้
00:27:01 → 00:27:03 คอนดิชันเนอร์เนี่ยค่ะมันช่วยลดผมพันธกัน
00:27:03 → 00:27:06 แต่พี่คนนี้บอกว่าบางคนเออบางคนบางคนมี
00:27:06 → 00:27:09 อาการจริงๆนะใช่ใช้คอนดิชันเนอร์แล้วผม
00:27:09 → 00:27:12 ร่วงค่ะอาจารย์แต่ก็ชอบนะคะผมนิ่มดีทำยัง
00:27:12 → 00:27:15 ไงดีอ่ะค่ะอาจารย์อ๋อค่ะคืออย่างงี้ค่ะ
00:27:15 → 00:27:19 เอ่อเวลาใช้คอนดิชันเนอร์แล้วผมร่วงเนี่ย
00:27:19 → 00:27:23 หมอว่าจะต้องดูก่อนว่าคือจริงๆอ่ะผมมัน
00:27:23 → 00:27:27 ร่วงอยู่แล้วหรือเปล่าอืเพราะว่าเอ่อคือ
00:27:27 → 00:27:30 หมอว่าต้องดูก่อนนะคะว่า 1 คือผมร่วงที่
00:27:30 → 00:27:35 เป็นเนี่ยปกติหรือผิดปกติครับค่ะเพราะว่า
00:27:35 → 00:27:37 ถ้าบางทีวันที่เราสะผมหรือเราใช้
00:27:38 → 00:27:40 คอนดิชันเนอร์แล้วเวลาบางทีมันอาจจะ
00:27:40 → 00:27:42 เหนียวแล้วเราล้างออกเนี่ยเราเราเลยรู้
00:27:42 → 00:27:46 สึกว่าเอ๊ะมันวันนั้นมันร่วงเยอะกว่าปกติ
00:27:46 → 00:27:49 ซึ่งธรรมดาวันที่ิสระผมเนี่ยมันผมจะร่วง
00:27:49 → 00:27:52 เยอะกว่าปกตินิดหน่อยอยู่แล้วนะคะเพราะ
00:27:52 → 00:27:55 มันเป็นการไปเอ่อดึงทำให้ผมที่กำลังจะ
00:27:55 → 00:27:57 หลุดอยู่แล้วเนี่ยมันหลุดออกมาได้ง่าย
00:27:57 → 00:28:01 ขึ้นจากการที่เราใช้ใช้แบบเอ่อการสระผม
00:28:01 → 00:28:05 เนี่ยแหละค่ะแต่ว่าถ้าร่วงผิดปกติเนี่ยก็
00:28:05 → 00:28:08 คือผมเนี่ยร่วงมากกว่า 100 เส้นต่อวันอื
00:28:08 → 00:28:12 นะคะเอ่อหมอคิดว่าเวลาที่ท่านผู้ฟังบอก
00:28:12 → 00:28:15 ว่าใช้คอนดิชันเนอร์แล้วร่วงเนี่ยไม่ไม่
00:28:15 → 00:28:17 น่าจะใช่จากคอนดิชันเนอร์ถ้าไม่ได้แบบ
00:28:17 → 00:28:22 คอนดิชันเนอร์เป็นเอ่ออะไรที่มันแบบเอ่อ
00:28:22 → 00:28:24 ไม่ได้คอนดิชันเนอร์ปกติอย่าเงี้ยนะคะหมอ
00:28:24 → 00:28:27 ก็ไม่ทราบว่าเอ่อท่านผู้ฟังใช้แบบไหนอะไร
00:28:27 → 00:28:29 เงี้ยนะคะครับแต่ถ้าเป็นคินเนอร์ที่ใช้
00:28:29 → 00:28:32 ตามทตลาดทั่วไปเนี่ยไม่ไม่น่าที่จะทำให้
00:28:32 → 00:28:36 ผมร่วงนะคะน่าจะเป็นร่วงอยู่แล้วเอ่ออยู่
00:28:36 → 00:28:39 แล้วจากไม่ปกติก็ผิดปกติอันนี้อาจจะต้อง
00:28:39 → 00:28:44 แยกว่าว่าว่าเป็นแบบไหนแล้วก็รักษาตาม
00:28:44 → 00:28:47 สาเหตุจะดีกว่าเพราะว่ามันจะมีคนไข้จำนวน
00:28:47 → 00:28:50 เยอะพอสมควรนะคะที่เหมือนกับเออร่วงมานาน
00:28:50 → 00:28:52 แต่ร่วงไม่ได้เยอะดังนั้นเขก็เลยอาจจะไม่
00:28:52 → 00:28:58 ทันได้สนใจอะไรแต่จริงๆคือก็คือเอ่อมีวิต
00:28:58 → 00:29:01 ต่ำในร่างกายคือเขาก็ไม่ได้มีอาการหรือ
00:29:01 → 00:29:03 ความผิดปกติอะไรอย่างอื่นแต่ว่าเออมันก็
00:29:03 → 00:29:06 ร่วงนิดนึงพอมาหาหมออย่างเงี้ยเอ่อ
00:29:07 → 00:29:11 วิตามินเ่อชนิดนี้ต่ำอที่แบบต่ำทำให้เป็น
00:29:11 → 00:29:14 สาเหตุผมร่วงได้ดังนั้นพอรักษาก็หายนะคะ
00:29:14 → 00:29:17 อ๋อค่ะแต่ว่าไม่หมายถึงให้ท่านผู้ฟังไปหา
00:29:18 → 00:29:21 ซื้อวิตามินบำรุงผมตามท้องตลาดนะคะทีนี้
00:29:21 → 00:29:23 เนี่ยก็เอ่อวิตามินที่เกี่ยวกับผมที่มัก
00:29:23 → 00:29:27 จะต่ำเนี่ยเช่นวิตามินดีนะคะแล้วก็ของ
00:29:27 → 00:29:30 เหล็กถ้าถ้า 2 อย่างเนี้ยต่ำมักจะทำให้ผม
00:29:30 → 00:29:34 โล่งแต่ต้องต่ำระดับนึงออดังนั้นก็ไม่ได้
00:29:34 → 00:29:36 เหมือนแบบต้องไปซื้อวิตามินบำรุงผมตาม
00:29:36 → 00:29:40 ท้องตลาดทั่วไปที่บางทีเขาจะชอบขายกันน่ะ
00:29:40 → 00:29:43 มาทานบางครั้งเนี่ยมันอาจจะอาจจะสิ้น
00:29:43 → 00:29:46 เปลืองเงินค่าใช้จ่ายแล้วก็รักษาไม่ถูก
00:29:46 → 00:29:50 สุดค่ะอืน่าจะต้องเจาะเลือดก่อนถ้าอเจาะ
00:29:50 → 00:29:53 เลือดก่อนเจาะครับนี่หนูกำลังจะแนะนำว่า
00:29:53 → 00:29:55 ให้ไปบริจาคเลือกที่สภากาชาติเลยถ้า
00:29:55 → 00:29:58 สมมุติว่าคุณต่ำปุ๊บเส่งธาตุเล็กเด็กเลย
00:29:58 → 00:30:01 เชิญค่ะเป็นถุงเลยกี่เดือนกี่เดือนแล้ว
00:30:01 → 00:30:04 ให้มาเจาะอีกจนกว่าค่าเลือดของคุณจะเข็ข
00:30:04 → 00:30:06 มันปกติใช่มั้เออใช่เออเมื่อกี้พูดถึง
00:30:06 → 00:30:09 เรื่องของอาหารเสเชิญค่ะเชิญๆคุณหมอฮะ
00:30:09 → 00:30:12 เชิญค่ะเเวลาอาจะต้องขอให้เขาแถมเรื่อง
00:30:12 → 00:30:15 เจาะวิตามินดีให้พี่นอ๋อ
00:30:15 → 00:30:18 โอเคเมื่อกี้พูดถึงอาหารเสริมครับคุณหมอ
00:30:18 → 00:30:19 ครับเมื่อกี้คุณหมอพูดถึงเรื่องของ
00:30:19 → 00:30:22 วิตามินดีใช่มั้ยฮะอ่าเรื่องของธาตุเหล็ก
00:30:22 → 00:30:25 มันมีอยู่ตัวนึงที่ผมเห็นเนี่ยเอ่อโฆษณา
00:30:25 → 00:30:28 กันเยอะๆหรือว่ากลุ่มพวกเสริมความงามต่าง
00:30:28 → 00:30:31 ๆที่เา้ามักจะขอความรู้กันว่ามันจะมี
00:30:31 → 00:30:34 วิตามินตัวไหนที่ช่วยบำรุงเรื่องของผมให้
00:30:34 → 00:30:36 มันดกดำไม่รั่วงง่ายๆเนี่ยมันมีอยู่ตัว
00:30:36 → 00:30:38 นึงที่ชื่อว่าไบโอตินนะคุณหมอครับใช่ค่ะ
00:30:38 → 00:30:41 อันนี้ได้ยินบ่อยมากมันจะช่วยได้บ้างม
00:30:41 → 00:30:45 ครับคุณหมอครับกับการซื้อมารับประทานฮะ
00:30:45 → 00:30:50 ค่ะคืออย่างงี้ค่ะว่าไบโอตินเนี่ยเอ่อไม่
00:30:50 → 00:30:53 ว่าจะเป็นวิตามินไหนอนะคะก็คือส่วนใหญ่
00:30:53 → 00:30:56 แล้วเนี่ยถ้าเราไม่ได้ต่ำเนี่ยไม่ได้
00:30:56 → 00:31:01 จำเป็นที่จะต้องไปทานออค่ะอก็คืออย่าง
00:31:01 → 00:31:05 เวลาที่เอ่อโอกาสที่ไปโอตินต่ำอย่างเงี้ย
00:31:05 → 00:31:08 นะคะส่วนใหญ่ก็คือจะเป็นคนที่ท้องตั้งคัน
00:31:08 → 00:31:12 อย่างเงี้ยค่ะอือหรือว่าคนที่เอ่อเค้า
00:31:12 → 00:31:15 เรียกว่าทานอาหารไม่ค่อยได้ที่จะมีผลที่
00:31:15 → 00:31:20 จะทำให้อาจจะมีวิตามินต่ำบางอย่างอย่าง
00:31:20 → 00:31:24 งั้นน่ะคือก็ถึงจะควรที่จะทานไบโอตินค่ะ
00:31:24 → 00:31:28 แต่ว่าถ้าเป็นเหมือนเอ่อท่านทั่วไปที่ไม่
00:31:28 → 00:31:31 ใช่เอ่อเป็นท่านผู้สูงอายุแล้วก็เป็นอยู่
00:31:31 → 00:31:35 ในวัยทำงานรับประทานอาหารได้ปกติทุกอย่าง
00:31:35 → 00:31:38 อย่างเงี้ยก็จะไม่ได้จำเป็นที่จะต้องทาน
00:31:38 → 00:31:41 ไบโอตินเสริมทำให้ผมแข็งแรงนะคะเพราะว่า
00:31:41 → 00:31:44 คือตัวไบโอตินเนี่ยมันจะไม่ได้มีผลกับวง
00:31:44 → 00:31:48 จรชีวิตของผมหรือหรือการสร้างต่อมผมเลยอ
00:31:48 → 00:31:52 แต่ว่าในคนที่มีโอกาสจะขาดเนี่ยเช่นหญิง
00:31:52 → 00:31:55 ตั้งครรภ์หรือท่านที่มีภาวะการดูดซึม
00:31:55 → 00:31:58 อาหารผิดปกติหรือท่านที่กินอาหารไม่ได้
00:31:58 → 00:32:02 เอ่อผู้สูงอายุอย่างเงี้ยค่ะก็อันนั้นน่ะ
00:32:02 → 00:32:05 ถึงจะน่าจะทานอืนอกนอกนั้นก็ไม่ส่วนใหญ่
00:32:06 → 00:32:10 ถ้าทานอาหารปกติมักจะไม่ค่อยต่ำค่ะอ๋ออ๋อ
00:32:10 → 00:32:13 ถ้าทานอาหารปกติไม่น่าจะมีปัญหาใช่มั้ย
00:32:13 → 00:32:16 ไม่ต่ำใช่ค่ะแต่ที่ที่หมอเจอมากที่สุดเลย
00:32:16 → 00:32:20 ก็คือ 2 อย่างก็คือที่เป็นเอ่อคนไข้ที่มี
00:32:20 → 00:32:23 เหล็กต่ำเพราะว่าบางทีผู้หญิงเนี่ยอาจจะ
00:32:23 → 00:32:26 เสียเลือดไปกลับประจำเดือนอย่างเงี้ยค่ะ
00:32:26 → 00:32:29 แล้วถ้าบางท่านเนี่ยยิ่งตอนช่วงโควิดนะคะ
00:32:29 → 00:32:31 ยิ่งเจอมากเลยเพราะว่าไม่ได้ออกไปไหนไม่
00:32:31 → 00:32:34 เจอแดดไม่เจออะไรอะไรเงี้ยบางทียิ่งก็
00:32:34 → 00:32:37 ยิ่งมีวิตามินดีต่ำคู่กันไปด้วยดังนั้นก็
00:32:37 → 00:32:40 จะยิ่งมีผม่วงแนั่นนั่นก็ต้องออกไปตักแดด
00:32:40 → 00:32:44 สักนิดนึงเลือกเวลาไปสัมผัสสายลมแสงแดด
00:32:44 → 00:32:47 กันบ้างขอให้เป็นแดดเช้าอย่าแดดเที่ยงแดด
00:32:47 → 00:32:50 เที่ยงอาจจะเป็นหลบไปได้นะเจะเป็นกระเป็น
00:32:50 → 00:32:53 ้ามาหาหมออีกทีนึงนะคะบางทีถ้าไม่ได้ชอบ
00:32:53 → 00:32:57 ักดาดบางทีก็ทานอาหารที่มีวิตามินดีและ
00:32:57 → 00:33:00 เหล็กได้นะนะคะก็จะทำให้มาชดเชยในสิ่งที่
00:33:00 → 00:33:04 เราขาดได้ค่ะอืค่ะในๆอย่างวิตามินดีเนี่ย
00:33:04 → 00:33:06 ค่ะอยู่ในแสงแดดอย่างเดียวถ้าแต่ในอาหาร
00:33:06 → 00:33:10 มีมั้ยคะอาจารย์มีค่ะมีค่ะคือวิตามินดีใน
00:33:10 → 00:33:14 อาหารนะคะส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในนมในไข่
00:33:14 → 00:33:17 โยเกิร์ตนะคะคือผลิตภัณฑ์จากนมแต่ว่า
00:33:17 → 00:33:23 อย่างอื่นเนี่ยเช่นเอ่อพวกธัญพืชเห็ดนะคะ
00:33:23 → 00:33:26 แล้วก็ปลาก็จะเป็นพวกปลาซาดีนปลาแซลมอน
00:33:26 → 00:33:29 ปลาทูน่าอย่างเงี้ยค่ะครับพกลุ่มปลาทู
00:33:29 → 00:33:32 อย่างเงี้ยก็ก็จะทำให้ก็จะมีวิตามินดีสูง
00:33:32 → 00:33:36 แต่ที่หาง่ายๆเลยก็คือนมไข่เนี่ยน่ะค่ะอื
00:33:36 → 00:33:43 อืนมไข่นมนี่คือทั้งนมวัวหรือว่านมพวกที่
00:33:43 → 00:33:45 มาจากพวกพืชอะไรอย่าเงี้ยก็ก็ก็ได้เช่น
00:33:45 → 00:33:47 เดียวกันใช่มครับคุณหมอครับได้หมดเลยค่ะ
00:33:47 → 00:33:50 ได้อโอเคขอให้เป็นนม
00:33:50 → 00:33:54 อืใช่คุณคุณหมอครับมีอีกหนึ่งคำถามที่
00:33:54 → 00:33:59 เอ่อถามมาเหมือนกันเรื่องของของการสะผม
00:33:59 → 00:34:03 เสร็จแล้วเนี่ยถ้าคนที่เช็ดผมเนี่ยไม่
00:34:03 → 00:34:05 แห้งดีแล้วก็ไปนอนเลยอะไรอย่างเงี้ยมันจะ
00:34:05 → 00:34:08 มีผลตามมาในภายหลังด้วยมครับคุณหมอครับ
00:34:08 → 00:34:11 ค่ะคำถามนี้ก็ดีมากนะคะเป็นคำถามที่มีคน
00:34:11 → 00:34:15 ถามบ่อยเหมือนกันครับก็คือเอ่ออย่างหนัง
00:34:15 → 00:34:18 ศีษะเราอ่ะนะคะคือถ้าสมมุติว่าเราสะผม
00:34:18 → 00:34:20 แล้วยังเช็ดไม่แห้งแล้วไปนอนเนี่ยมัน
00:34:20 → 00:34:23 เหมือนมันทำให้หนักศีรษะบริเวณนั้นเนี่ย
00:34:23 → 00:34:27 มันเกิดความชื้นครับให้สภาพเอเหมือนสภาพ
00:34:27 → 00:34:29 แวดล้อมบนหนังศีรษะเนี่ยมันอาจจะมีการ
00:34:29 → 00:34:33 เปลี่ยนแปลงไปทำให้คันง่ายครับมันคงไม่
00:34:33 → 00:34:38 ได้เอ่อเป็นขนาดทำให้เป็นรังแคค่ะเขนาด
00:34:38 → 00:34:40 นั้นเพราะว่าก็ยังไม่ได้มีหลักฐานทางการ
00:34:40 → 00:34:44 แพทย์เขียนเอาไว้นะคะว่าการสาผมไม่แห้งเ
00:34:44 → 00:34:47 จะทำให้เป็นรังแคไม่มีนะคะแต่ว่าการสะผม
00:34:47 → 00:34:50 แบบเหมือนเหมือนเราเอ่อมีพื้นที่ที่มัน
00:34:50 → 00:34:53 แบบอับชื้นอย่างเงี้ยค่ะอือมันก็จะทำให้
00:34:53 → 00:34:58 คันง่ายอันนั้นอาจจะมีผลอืครับเป็นสาเหตุ
00:34:58 → 00:35:03 ที่ทำให้เป็นรังแคเอ่อได้ได้ได้เอ่อคือ
00:35:04 → 00:35:09 คือตามตรงอ่ะนะคะครับอือืนี่เนี่ยเนี่ย
00:35:09 → 00:35:12 ใช่ๆเปียกแฉะอาบชื้นนั่นเองนะครับผมอ่า
00:35:12 → 00:35:15 คุณหมอไหนๆก็มาและคุณหมอครับคุณหมอมาทั้ง
00:35:15 → 00:35:18 ทีแนะนำวิธีการสะผมให้พวกเรานิดนึงได้ม
00:35:18 → 00:35:20 ครับคือเวลาเข้าไปปั๊บเนี่ยถ้าจะสะผม
00:35:20 → 00:35:25 เนี่ยอ่ะเข้าอาบน้ำปั๊บโยนแชมพูใส่มือ
00:35:25 → 00:35:29 แล้วก็สะใส่มั้ยหรือว่าควรจะต้องทำยังไง
00:35:29 → 00:35:32 ก่อนนี้เพราะว่าผมเคยไปอ่านเจอพวกเอ่อข้อ
00:35:32 → 00:35:34 แนะนำของคนญี่ปุ่นอะไรอย่าเงี้ยว่ามันจะ
00:35:34 → 00:35:36 มีวิธี 1 2 3 4 อะไรอย่าเงี้ยแต่ว่าใน
00:35:36 → 00:35:38 ทางการแพทย์เนี่ยเอ่อคุณหมอแนะนำยังไงดี
00:35:38 → 00:35:41 เวลาสะผมเพื่อที่จะให้ได้ประสิทธิภาพสูง
00:35:41 → 00:35:44 สุดลดการร่วงหล่นของเส้นผมอะไรอย่างนี้
00:35:44 → 00:35:48 ด้วยครับคุณหมอครับเส้นค่ะค่ะก็เอ่อเป็น
00:35:48 → 00:35:52 คำถามที่ควรรู้อ่ะนะคะครับค่ะค่ะก็คือ
00:35:52 → 00:35:56 อย่างเวลาสระผมอ่ะนะคะส่วนคือเอ่อจริงๆ
00:35:56 → 00:35:59 แล้วเนี่ยคือถ้ามีโรคที่จำเป็นต้องใช้
00:35:59 → 00:36:03 แชมพูนั้นๆเป็นพิเศษเช่นโรคเชื้อรานะคะ
00:36:03 → 00:36:07 หรือเอ่อในกรณีท่านที่เป็นรังแคแล้ว
00:36:07 → 00:36:10 ต้องการใช้แชมพูเพื่อลดการอักเสบคือการ
00:36:10 → 00:36:14 ใช้แชมพูเนี่ยเขาบอกว่าจะต้องใช้ให้ไม่
00:36:14 → 00:36:17 ให้ชมพูเนี่ยอยู่บนหนังศีรษะอย่างน้อย 3-5
00:36:17 → 00:36:21 นาทีอือถ้ากรณีสมมุติเราเอ่อต้องการส่วน
00:36:21 → 00:36:24 ประกอบของแชมพูนั้นๆเพื่อลดการอักเสบนะคะ
00:36:24 → 00:36:28 ครับอแต่ถ้าเป็นแชมพูทั่วไปที่
00:36:28 → 00:36:30 คือสมมุติเราไม่ได้มีภาวะอะไรที่หนัง
00:36:30 → 00:36:34 ศีรษะคือเราก็สามารถเหมือนสระคือให้ให้
00:36:34 → 00:36:36 เรารู้สึกสบายหนังศีรษะหรือให้มันทั่ว
00:36:36 → 00:36:39 หนังศีรษะเหมือนเราอาบน้ำเงี้ยค่ะคือเรา
00:36:39 → 00:36:42 ก็ต้องอาบให้ทั่วครับเหมือนผมต้องสะให้
00:36:42 → 00:36:45 ทั่วแล้วก็สามารถล้างออกได้เลยแต่ทีนี้
00:36:45 → 00:36:50 เนี่ยเวลาที่เอ่อจะต้องบีบชมพูออกก่อนตี
00:36:50 → 00:36:53 เป็นฟองก่อนแล้วค่อยใส่หรือใส่ไปได้เลย
00:36:53 → 00:36:55 อะไรอย่าเงี้ยอาจจะขึ้นอยู่กับความถนัด
00:36:55 → 00:36:58 ของแต่ละท่านมันมากกว่านะคะคะแล้วก็ขึ้น
00:36:58 → 00:37:02 อยู่กับเอ่อเรื่องของผมด้วยเพราะว่าอย่าง
00:37:02 → 00:37:05 สมมุติบางท่านที่อาจจะผมยาวหรือว่าท่าน
00:37:05 → 00:37:08 ผู้หญิงอะไรอย่าเงี้ยนะคะคือการที่เรา
00:37:08 → 00:37:12 เหมือนเอ่อปิดชมพูออกมาแล้วก็ตีเป็นฟอง
00:37:12 → 00:37:15 แล้วก็ใช้ที่หนังศีรษะเนี่ยมันก็จะทำให้
00:37:15 → 00:37:19 มันมีการกระจายแชมพูไปทั่วบริเวณเนี่ยได้
00:37:19 → 00:37:23 มากกว่านะคะออพอดีท่านเรียนแบบโฆษณาก็จะ
00:37:23 → 00:37:28 เห็นว่าเทกันไปเลยุผมอ่าใช่ๆๆๆๆๆเจะดูน่า
00:37:28 → 00:37:31 ใช้ค่ะเพราะว่ามันแบบมีปริมาณเยอะแล้วจะ
00:37:31 → 00:37:34 ดูน่าใช้ค่ะตแต่ตังค์จะหมดนะคะ้าเดเค้า
00:37:34 → 00:37:37 ถึงเรียกไงว่าเป็นคโฆษณาชวนเชื่อเออใช่เช
00:37:37 → 00:37:40 ดูน่าใช้อย่างที่อาจารย์บอกใช่ครับผมค่ะ
00:37:40 → 00:37:45 แต่เวลาสาผมแล้วก็คือเวลาที่เอ่อก็ถ้าถ้า
00:37:45 → 00:37:48 เป็นผู้หญิงนะคะก็อาจจะมีผมยาวกว่าก็ควร
00:37:48 → 00:37:51 จะต้องใช้กริมนวดผมร่วมด้วยอย่างเงี้ยค่ะ
00:37:51 → 00:37:55 แล้วก็เรื่องกันความร้อนสารเคมีแล้วก็
00:37:55 → 00:37:58 เวลาถ้าหวีผมอ่ะอันนี้ก็อีกอันนึงนะสะสะ
00:37:58 → 00:38:02 เสร็จแล้วหวีเมื่อไหร่ดีค่ะอ่าเพราะว่า
00:38:02 → 00:38:05 คือจริงๆเวลาเ่อสระผมเสร็จแล้วเนี่ยถ้า
00:38:05 → 00:38:09 หวีตอนผมเปลียนเนี่ยเอ่อในหลักฐานในการ
00:38:09 → 00:38:12 แช่นะคะเขาบอกว่ามันจะยิ่งทำให้ผมเมันเด
00:38:12 → 00:38:16 สีกันมากกว่าเดิมก็ควรจะหวีตอนที่ปมเริ่ม
00:38:16 → 00:38:19 แห้งหรือหมาดสักนิดนึงแล้วอย่างเงี้ยค่ะ
00:38:19 → 00:38:22 การเจ็ดสีก็จะน้อยกว่าแล้วก็ให้เลือกหวี
00:38:22 → 00:38:26 ที่เอ่อโดยเฉพาะท่านที่ทำสีผมหรืออะไร
00:38:26 → 00:38:29 เงี้ยคะก็ต้องเลือกหวีซีห่านซมากกว่า
00:38:29 → 00:38:32 เลือกหวีแบบ
00:38:32 → 00:38:36 ีอืไม่งั้นก็จะยิ่งมีการเสร็จสีมากขึ้น
00:38:36 → 00:38:39 ค่ะครับอไดเป่าผมจำเป็นมยครับคุณหมอครับ
00:38:39 → 00:38:42 ค่ะอันนี้ก็น่าสนใจนะคะเป็นคำตอบที่น่าสน
00:38:42 → 00:38:46 ใจไดป่าผมจำเป็นมยหมอแนะนำว่าเออแล้วแต่
00:38:46 → 00:38:50 ความสะดวกอืครับก็คือจะพัดลมก็ได้ไดป่าผม
00:38:50 → 00:38:54 หรือให้มันแห้งธรรมชาติก็ได้นะคะแต่ถ้า
00:38:54 → 00:38:57 เมื่อไหร่ที่เราใช้ความร้อนจากใดเนี่ยมัน
00:38:57 → 00:39:01 ก็มีโอกาสที่จะทำให้ผมแห้งแล้วก็ผมเสีย
00:39:01 → 00:39:05 ง่ายมากกว่าที่จะใช้รมปกติอือ๋อดังนั้น
00:39:05 → 00:39:08 ถ้าสมมุติว่าท่านที่ผมสั้นเช่นท่านผู้ชาย
00:39:08 → 00:39:11 อะไรเงี้ยนะคะหรือีมอะไรเงี้ยก็ก็จะใช้ได
00:39:11 → 00:39:14 ก็ได้เพราะว่าผมสั้นเดี๋ยวก็ตัดอยู่แล้ว
00:39:14 → 00:39:17 แต่ว่าถ้าท่านใดที่แบบต้องการไว้ผมยาว
00:39:17 → 00:39:19 อะไรอย่าเงี้ยนะคะแล้วก็ไม่อยากที่จะตัด
00:39:19 → 00:39:21 ผมเพราะว่าคือไม่อยากให้ผมเสียอะไรอย่า
00:39:22 → 00:39:25 เงี้ยหมอก็แนะนำว่าใช้เป็นเอ่อลมเย็นจะดี
00:39:25 → 00:39:28 กว่าไม่ว่าจะเป็นดที่เป็นใลมเย็นอย่างงี้
00:39:29 → 00:39:32 ก็ได้หรือว่าเป็นเอ่อพัดลมอะไรอย่างเงี้ย
00:39:32 → 00:39:37 ก็ได้หมดเลยค่ะออนะวันนี้ต้องขอขอบพระคุณ
00:39:37 → 00:39:40 คุณหมอมากๆเราได้ความรู้นะในช่วงหน้าฝน
00:39:40 → 00:39:42 แบบนี้ควรจะต้องปฏิบัติเนื้อปฏิบัติตัว
00:39:42 → 00:39:44 อย่างไรเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงภาวะอาการ
00:39:44 → 00:39:47 ต่างๆที่ตามมานะครับจากศีรษะของเราทั้ง
00:39:47 → 00:39:51 เรื่องของรังแคเอ่ยหรือว่าศีรษะเหม็นหัว
00:39:51 → 00:39:52 เหม็นนั่นเองนะฮะวันนี้ขอบพระคุณคุณหมอ
00:39:52 → 00:39:55 มากๆนะครับคุณหมอครับขอเดีค่ะสวดีขอบพระ
00:39:56 → 00:39:59 คุณมากๆครับคุณหมอครับขอบคุณค่ะสวัสดีค่ะ
00:39:59 → 00:40:03 อ่าคุณหมอน่ารักมากนะครับคุณหมอชินมนัอ่า
00:40:03 → 00:40:06 อ่า