00:00:03 → 00:00:06 Med CMU Podcast Fun for
00:00:06 → 00:00:07 [เพลง]
00:00:07 → 00:00:10 help fung for Health
00:00:10 → 00:00:13 Podcast รายการที่จะมาพูดคุยเรื่องราว
00:00:13 → 00:00:16 ของสุขภาพและแบ่งปันประสบการณ์จากแพทย์
00:00:16 → 00:00:19 ผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆของคณะ
00:00:19 → 00:00:22 แพทยาศาสตร์มหาวิทยาลัย
00:00:23 → 00:00:29 เชียงใหม่เพราะสุขภาพที่ดีเริ่มได้จากตัว
00:00:29 → 00:00:33 เราสวัสดีค่ะขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ฟัง
00:00:33 → 00:00:37 Forcสอยู่กับดิฉันฟ้าธัญลักษณ์สดสวยนัก
00:00:37 → 00:00:40 ประชาสัมพันธ์คณะแพทยาศาสตร์มหาวิทยาลัย
00:00:40 → 00:00:42 เชียงใหม่เรื่องที่จะมาพูดคุยในวันนี้
00:00:42 → 00:00:46 เป็นเรื่องเกี่ยวกับโรคความดันโลหิตสูง
00:00:46 → 00:00:49 ค่ะความดันโลหิตสูงคืออะไรปัจจัยอะไรที่
00:00:49 → 00:00:52 มีผลต่อความดันโลหิตสูงค่ะแล้วเราจะ
00:00:52 → 00:00:56 ปฏิบัติตัวยังไงให้ห่างไกลจากโรคนี้ผู้
00:00:56 → 00:00:58 ที่จะมาพูดพูดคุยกับเรานะคะท่านคือ
00:00:58 → 00:01:01 อาจารย์แพทย์หญิงทัศลักษ์ทองหงส์อาจารย์
00:01:01 → 00:01:03 ประจำหน่วยโรคหัวใจและหลอดเลือดภาควิชา
00:01:03 → 00:01:06 อยุรศาสตร์คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัย
00:01:06 → 00:01:09 เชียงใหม่ค่ะวันนี้เรามาพูดกันถึงเรื่อง
00:01:09 → 00:01:12 ของโรคความดันโลหิตสูงค่ะก่อนอื่นอยากให้
00:01:12 → 00:01:15 อาจารย์ช่วยเล่าให้ฟังก่อนค่ะว่าความดัน
00:01:15 → 00:01:19 โลหิตสูงคืออะไรคะความดันโลหิตสูงก็คือ
00:01:19 → 00:01:22 การที่มนุษย์เนี่ยพอเราเกิดมาเนี่ยความ
00:01:22 → 00:01:24 ดันของเราเนี่ยจะต้องเกิดจากหลอดเ่อ
00:01:24 → 00:01:26 เขาค้าเรียกว่าเกิดจากหัวใจเนี่ยบีบตัว
00:01:26 → 00:01:29 ค่ะไปเลี้ยงอายวะส่วนปลายด้วยความดัน
00:01:29 → 00:01:33 โลหิตระดับที่เหมาะสมนะคะตอนเราเกิดมาตัว
00:01:33 → 00:01:35 เล็กๆเด็กๆก็อาจจะความดัน 90
00:01:36 → 00:01:39 พอเรามีอายุเยอะขึ้นใช้งานมันเยอะขึ้น
00:01:39 → 00:01:41 หลอดเลือดแข็งตัวขึ้นนอกจากถูกกระแทกทุก
00:01:41 → 00:01:44 วันนะคะก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทำให้เส้น
00:01:44 → 00:01:46 เลือดมันแข็งขึ้นความดันก็จะเริ่มต้องใช้
00:01:46 → 00:01:49 แรงเยอะขึ้นในการส่งตัวมันก็เลยกลายเป็น
00:01:49 → 00:01:51 ความดันตอนเราอายุสัก 30 เราจะเหลือขึ้น
00:01:51 → 00:01:55 มาเป็น 110 พออย่างงั้นไปเนี่ยเราอายุ
00:01:55 → 00:01:57 เยอะขึ้นเราไม่ออกกำลังกายหนักขึ้นเราทำ
00:01:58 → 00:02:00 ชีวิตให้มันสบายมากขึ้นพอมันก็จะเริ่ม
00:02:00 → 00:02:04 เสื่อมขึ้นหลอดเริ่มแข็งตัวขึ้นหัวใจก็
00:02:04 → 00:02:06 ต้องบีบตัวหนักขึ้นค่ะเพราะฉะนั้นน่ะกว่า
00:02:06 → 00:02:09 จะส่งเลือดไปถึงปลายมือปลายเท้าเราหรือ
00:02:09 → 00:02:12 สมองส่วนที่มันอยู่ปลายๆเนี่ยก็ต้องใช้
00:02:12 → 00:02:15 แรงเพิ่มขึ้นก็กลายเป็นว่าคำนันเราก็จะ
00:02:15 → 00:02:19 เป็น 140 ถึงวันนึงเรายิ่งไม่ทำอะไรเลย
00:02:19 → 00:02:23 นั่งนอนรอให้หมดอายุไขไปเส้นเลือดก็ยิ่ง
00:02:23 → 00:02:27 แข็งขึ้นไปอีกหัวใจจะต้องบีบตัวหนักขึ้น
00:02:27 → 00:02:29 เพื่อส่งเลือดไปสวดปลายให้เราเพียงพอ
00:02:29 → 00:02:32 เนี่ยทำนั้นก็เลยต้องขึ้นไปอีกเป็น 150
00:02:32 → 00:02:36 160 ค่ะทางการแพทย์เองนี่สูงนี้ประมาณ
00:02:36 → 00:02:39 เท่าไหร่คือเริ่มสูงล่ะคะอาจารย์อ่าจริงๆ
00:02:39 → 00:02:41 แล้วเนี่ยถ้าเราอยากจะมีอายุที่ยืนยาวและ
00:02:41 → 00:02:44 ไม่มีโรคแทรกซ้อนจากความนโรหิตสูงเนี่ยเา
00:02:44 → 00:02:49 แนะนำว่าควรจะคนปกติคือ 120 80 นะคะนแต่
00:02:49 → 00:02:53 ถ้าเกิดเรา 130 เนี่ยเราก็ต้องระวังแล้ว
00:02:53 → 00:02:56 140 เนี่ยเนี่ยจะให้โอกาสปรับพฤติกรรม
00:02:56 → 00:02:59 3-4 เดือนถ้าไม่ดีขึ้นก็ต้องรับประทานยา
00:02:59 → 00:03:02 ลูกคำนันแล้วค่ะค่ะปัจจัยเสี่ยงค่ะที่ทำ
00:03:02 → 00:03:05 ให้มีผลต่อความดันโลหิตสูงค่ะอาจารย์แน่
00:03:05 → 00:03:08 นอนเรื่องใกล้ตัวที่สุดคือการรับประทาน
00:03:08 → 00:03:10 การรับประทานอาหารที่มีรสเค็มจัดเช่นบาง
00:03:10 → 00:03:14 คนบอกว่าขอเติมน้ำปลาเพิ่มขอซีอิ๊วเพิ่ม
00:03:14 → 00:03:16 ถ้าไม่มีความเค็มเนี่ยทานไม่ได้อันเนี้
00:03:16 → 00:03:19 แน่นอนใกล้ตัวที่สุดคือเราเป็นคนชอบทาน
00:03:19 → 00:03:21 อาหารที่มีเกลือค่อนข้างสูงแม้กระทั่งผง
00:03:21 → 00:03:25 ชูรสขนมซองทองขนมที่ผ่านการพรีเสิร์veการ
00:03:25 → 00:03:28 รักษาโดยใช้เกลือเป็นหลักความดันเกลือ
00:03:28 → 00:03:31 เนี่ยพอเรากินแต่สมมุติเราไปกินข้าวนอก
00:03:31 → 00:03:35 บ้านเรากินปุ๊บหิวน้ำค่ะพอเรากินเกลือ
00:03:35 → 00:03:37 เข้าไปเรากินน้ำตามฉันแสดงว่าความนานเรา
00:03:37 → 00:03:40 กำลังเพิ่มเพราะเรากินทั้งเกลือและน้ำตาม
00:03:40 → 00:03:42 เข้าไปนะคะแน่นอนเรื่องปัจจัยเสี่ยงอัน
00:03:42 → 00:03:45 นี้อันดับ 1 เลยที่เราใช่เพราะว่าเป็น
00:03:45 → 00:03:47 เรื่องใกล้ตัวที่เราปรับได้ง่ายสุดนะคะ
00:03:47 → 00:03:51 อันที่ 2 ลักษณะของการใช้ชีวิตเช่นนั่งทำ
00:03:51 → 00:03:54 งานทั้งวันเดินเนี่ยแทบจะน้อยมากเส้น
00:03:54 → 00:03:56 เลือดมันก็อยู่นิ่งๆมันไม่มีการขยับ
00:03:56 → 00:03:58 เขยื้อนมันไม่มีการนวดไม่มีการเคลื่อนไหว
00:03:58 → 00:04:01 ที่ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะแน่นอน
00:04:01 → 00:04:03 ลักษณะการใช้ชีวิตแบบเนี้ยมักจะเป็น
00:04:03 → 00:04:07 ปัจจัยเสี่ยงให้เกิดความดันโลหิตสูงนะคะ
00:04:07 → 00:04:10 ค่ะอันที่ 3 ก็คือบางคนลักษณะของครอบครัว
00:04:10 → 00:04:13 ค่ะถ้าเราไปถามถามคนไข้คนนึงเนี่ยที่เขา
00:04:13 → 00:04:15 มาด้วยความเป็นสุขในอายุประมาณ 40 เนี่ย
00:04:16 → 00:04:18 ถ้าเราถามเนี่ยคุณพ่อคุณแม่มักจะเป็นก็
00:04:18 → 00:04:21 เป็นลักษณะของกรรมพันธ์ซึ่งจริงๆถามว่า
00:04:21 → 00:04:23 เจอน้อยไม่เยอะนะคะเพงว่าบางคนก็บอกแล้ว
00:04:23 → 00:04:27 ไม่สูบบุหรี่ไม่กินเหล้าไม่กินเค็มน้ำ
00:04:27 → 00:04:30 หนักตัวไม่เยอะเอ๊ทำไมคำนันสูงงั้นเราก็
00:04:30 → 00:04:32 ต้องกลับไปถามเอ๊ะถ้างั้นในครอบครัวสาย
00:04:32 → 00:04:34 เลือดเดียวกันเนี่ยคุณพ่อคุณแม่หรือแม้
00:04:34 → 00:04:37 กระทั่งน้องชายพี่ชายน้องสาวพี่สาวมีใคร
00:04:37 → 00:04:39 เป็นความยาโลหิตสูงหรือเปล่าอันนี้เป็น
00:04:39 → 00:04:41 อีกอันนึงที่เรารักษาทุกอย่างแล้วทำทุก
00:04:41 → 00:04:44 อย่างและมันไม่เจอจริงๆก็ต้องรับยอมรับ
00:04:44 → 00:04:47 ว่าอาจจะเป็นจากทางพันธุกรรมพันธุกรรมที่
00:04:47 → 00:04:49 ได้มาแต่ก็เป็นส่วนน้อยอย่างที่อาจารย์
00:04:49 → 00:04:52 บอกปัจจัยหลักๆเลยที่พบก็คือเรื่องอาหาร
00:04:52 → 00:04:54 การกินเรื่องการใช้ชีวิตประจำวันมากกว่า
00:04:54 → 00:04:58 ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนได้หรือว่าต้องใช้
00:04:58 → 00:05:00 การรักษาโดยการใช้ยาเลยคะอาจารย์ใน
00:05:00 → 00:05:03 ปัจจุบันเ้าเมื่อคนพบว่าเป็นโรคนี้ต้องทำ
00:05:03 → 00:05:05 ยังไงต่อคำแนะนำเริ่มต้นเลยนะคะเราก็หมาย
00:05:05 → 00:05:08 ความว่ามีให้มีคนคนนึงเนี่ยมาขอปรึกษาว่า
00:05:08 → 00:05:10 ความดันสูงมาหลายเดือนและสังเกตตัวเองงด
00:05:10 → 00:05:14 ความดันบ่อยๆและค่ะเราก็จะบอกว่า 1 แน่
00:05:14 → 00:05:16 นอนไม่มีใครอยากกินยาเพราะการกินยาต้อง
00:05:16 → 00:05:19 กินตลอดชีวิตกินหยุดๆที่เขาว่าหยุดยาเอง
00:05:19 → 00:05:21 นี้ไม่ได้เลยเพราะว่าเราต้องเข้าใจว่าการ
00:05:21 → 00:05:24 ที่ความมันลงเนี่ยเพราะยาอ๋อค่ะถ้าเรา
00:05:24 → 00:05:27 หยุดยาความมันก็ขึ้นอือ่าเพราะฉะนั้น
00:05:27 → 00:05:29 เนี่ยเมื่อไหร่เราเริ่มต้นกินยามันคือการ
00:05:29 → 00:05:32 ใช้ยารักษาความดันค่ะเราไม่ได้ใช้ตัวเรา
00:05:32 → 00:05:35 เองรักษาความดันนะคะเนี่ยเค้าก็จะบอกเลย
00:05:35 → 00:05:38 ว่าให้เวลาประมาณ 3-4 เดือนไปปรับ
00:05:38 → 00:05:40 ไลฟ์สไตล์แน่นอนถ้าเราออกกำลังกายน้ำหนัก
00:05:40 → 00:05:43 เราต้องลดพูดถูกมั้คะถ้าน้ำหนักไม่ลดก็
00:05:43 → 00:05:46 แสดงว่าเราออกกำลังกายไม่ถูกต้องรับคำ
00:05:46 → 00:05:49 ปรึกษาแนะนำนะคะแล้วก็จริงๆแล้วเนี่ยการ
00:05:49 → 00:05:52 งดกินเค็มเลยอ่ะก็เป็นสินให้ช่วยแต่จริงๆ
00:05:52 → 00:05:55 ไม่ใช่ว่าให้แบบห้ามเค็มเลยนะคะค่ะให้ลด
00:05:55 → 00:05:59 การกินลงมาปกติเนี่ยก็คือคนเราน่ะกินเค็ม
00:05:59 → 00:06:02 ได้อยู่แล้วไม่เกิน 2 ช้อนชาต่อวันค่ะ 2
00:06:02 → 00:06:04 ช้อนชาเองนะคะใช่แต่จริงๆเราอาจจะได้ได้
00:06:04 → 00:06:07 จากสิ่งที่เราไม่รู้ก็ได้ผงช้กันเมื่อวาน
00:06:07 → 00:06:10 ค่ะใช่มั้ทานอาหารนอกบ้านแม้กระทั่ง
00:06:10 → 00:06:12 ซีอิ๊วน้ำปลามีใครบ้างที่ไม่มีซีอิ๊วน้ำ
00:06:12 → 00:06:16 ปลาที่บ้านไม่มีอ่าน้ำมันน้ำมันหอยอ่าอัน
00:06:16 → 00:06:18 นี้ล่ะค่ะซีอิ๊วหวานมีทุกอย่างนะคะเพราะ
00:06:18 → 00:06:22 น่ะแค่นี้ก็เพียงพอแล้วนะคะยังไม่รวมน้ำ
00:06:22 → 00:06:24 ดื่มหรือว่าแกงหรือว่าเนื้อสัตว์ที่เรา
00:06:24 → 00:06:27 กินเข้าไปมันก็มีความโซเดียมอยู่แล้วนะคะ
00:06:27 → 00:06:29 เพราะฉะนั้นเนี่ยแน่นอนว่าเราจะเริ่มต้น
00:06:29 → 00:06:32 เนี่ยก็คือการปรับพฤติกรรมตัวเองคือ
00:06:32 → 00:06:35 เปลี่ยนเราเป็นอีกคนนึงอ่ะค่ะซึ่งถามว่า
00:06:35 → 00:06:36 ยากมั้ย
00:06:36 → 00:06:40 ไม่ไม่ง่ายนะคะการที่เราจะเป็น new new
00:06:40 → 00:06:43 สิ new ในเวอร์ชั่นใหม่ต้องใช้พลังงานและ
00:06:43 → 00:06:47 ใช้ความตั้งใจเยอะมากเพราะ
00:06:47 → 00:06:50 ฉะนมันยังไม่ลดเนี่ยยังไงเราต้องอาศัยคน
00:06:50 → 00:06:53 อื่นแล้วค่ะเราควรต้องอาศัยยาในการเค้า
00:06:53 → 00:06:56 เรียกว่าทายทางสายกลางค่ะเราคงแบบอุ๊ยเรา
00:06:56 → 00:06:59 จะต้องไปออกกำลังกายทุกวันจนอายุ 70 มั้ย
00:06:59 → 00:07:01 มันไปวิ่งทุกวันออกกำลังกายว่ายน้ำทุกวัน
00:07:01 → 00:07:04 อาจจะทำให้เรารู้สึกว่ามันท้อค่ะการใช้ยา
00:07:04 → 00:07:07 เข้าไปอีกนิดนึงก็เหมือนผสมผสานการรักษา
00:07:07 → 00:07:10 ไปด้วยกันค่ะค่ะอันนี้ไปอาจจะคอมเมนต์
00:07:10 → 00:07:14 หลายๆคนที่มีความสงสัยค่ะเขาบอกว่าก็ไม่
00:07:14 → 00:07:17 อยากเกี่ยวกับไตทำงานหนักเลยหยุดยาความ
00:07:17 → 00:07:20 ดันเองไอ้ตัวของยาความดันกับโรคพวกไตนี่
00:07:20 → 00:07:22 กับอวัยวะที่เป็นไตนี่เกี่ยวข้องกันยังไง
00:07:22 → 00:07:25 บ้างมั้ยคะอาจารย์ต้องเท้ากลับไปว่าความ
00:07:25 → 00:07:27 ดันโลหิตสูงเนี่ยทำให้เกิดไตวายค่ะอ่าเรา
00:07:28 → 00:07:30 รู้อยู่แล้วว่าใครเป็นโรคไตวายเนี่ยถ้าไป
00:07:30 → 00:07:33 ถามว่าเธอเป็นไตวายไปฟอกไตเพราะอะไรเหตุ
00:07:33 → 00:07:37 ผลหลักอันแรกน่ะเบาหวานค่ะรองลงมาคือความ
00:07:37 → 00:07:40 ดันสูงที่ไม่ได้รับการรักษางั้นน่ะการที่
00:07:40 → 00:07:43 เรากินยาเนี่ยถามว่ายามีผลกับไตมั้ยแน่
00:07:43 → 00:07:46 นอนเพราะว่ายาออกฤทธิ์ที่เส้นเลือดทาง
00:07:46 → 00:07:49 ร่างกายอืแล้วถ้าวันนึงไตเราเริ่มเสื่อม
00:07:50 → 00:07:53 ตามอายุไขเนี่ยยาบางตัวถูกแนะนำว่าถ้าเรา
00:07:53 → 00:07:56 มีค่าไตที่เพิ่มขึ้นค่ะเราควรจะงดยากลุ่ม
00:07:56 → 00:07:59 นี้อ่ะยกตัวอย่างง่ายๆเช่นยาแก้ปวดกล้าม
00:07:59 → 00:08:02 เนื้อค่ะถามว่าถ้าเราไม่เป็นโรคไตเรากิน
00:08:02 → 00:08:05 ได้มั้ยกินได้แต่ถ้าเราเป็นโรคตายแล้วไม่
00:08:05 → 00:08:08 ให้รับประทานเหมือนกันค่ะยาคำนันก็เป็น
00:08:08 → 00:08:10 อย่างงั้นตอนที่เราไม่ได้มีปัญหาอะไรการ
00:08:10 → 00:08:13 กินยาคำนันน่ะแน่นอนมันทำให้เราอ่ะห่าง
00:08:13 → 00:08:16 ไกลจากความที่จะมีภาวะแทรกซ้อนจากความ
00:08:16 → 00:08:19 นั้นคือไตวายค่ะแต่ถ้าวันนึงเราเป็นไปตาม
00:08:20 → 00:08:21 อายุไขของเราเองหรือตัวความเสื่อมของร่าง
00:08:22 → 00:08:24 กายเราเองก็จำเป็นต้องเปลี่ยนยาเป็นสูตร
00:08:24 → 00:08:28 ที่เหมาะกับร้องไห้ที่ไตเริ่มเสื่อมอืก็
00:08:28 → 00:08:31 ขึ้นอยู่กับการรักษาของแต่ละคนด้วยเพราะ
00:08:31 → 00:08:36 ฉะนั้นการที่เราไปโทษอ่าเหมือนเราอาจจะ
00:08:36 → 00:08:39 สงสัยในการเป็นของเราแล้วก็ไปใช้วิธีการ
00:08:39 → 00:08:41 รักษาของเพื่อนอย่างเงี้ยค่ะหรือญาติกิน
00:08:41 → 00:08:44 แบบนี้ความดันตัวนี้ปริมาณเท่านี้แล้ว
00:08:44 → 00:08:46 ปรับเปลี่ยนด้วยตัวเองก็ถือว่าอาจจะไม่
00:08:46 → 00:08:49 ได้คุมได้ดีใช่มั้คะอาจารย์อ่าก็คือจริงๆ
00:08:49 → 00:08:52 แล้วเนี่ยโดยคอนเซปตอ่ะค่ะคือกินยาดีกว่า
00:08:52 → 00:08:55 ไม่กินอ่าแต่คนมักจะคิดว่ายาเป็นสารเคมี
00:08:55 → 00:08:58 ที่อันตรายต่อใจอีกค่ะใช่แต่จริงๆอย่าลืม
00:08:58 → 00:09:02 ว่าถ้าเราไปกินยาที่เป็นเม็ดมาจากเพื่อน
00:09:02 → 00:09:06 โสมอ่าหรือผมอ่าหรือบอกว่าเป็นสมุนไพรถาม
00:09:06 → 00:09:09 ว่ามันก็คือสารเคมีแบบนึงหรือเปล่าใช่
00:09:09 → 00:09:12 มั้ยคะเพราะฉะนั้นบางทีบอกว่าเนี่ยยาตัว
00:09:12 → 00:09:14 นี้เป็นสารเคมีใช่แต่วิตามินซีที่อัดเม็ด
00:09:15 → 00:09:17 มาเนี่ยมันก็สารเคมีเหมือนกันเพราะฉะนั้น
00:09:17 → 00:09:19 เนี่ยอืมันเป็นแค่ความเชื่อค่ะจริงๆเรา
00:09:19 → 00:09:22 แค่เชื่อที่ว่าการกินยาคือความสุขภาพไม่
00:09:22 → 00:09:25 ดีค่ะอ่ามันคือความเสื่อมคนที่ไม่โดนตัว
00:09:25 → 00:09:27 เองต้องกินยาใช่มั้คะแต่จริงๆถ้าเราบอก
00:09:27 → 00:09:31 ว่าแล้วทุกวันนี้เรากินสมุนไพรกินอะไรบาง
00:09:31 → 00:09:34 อย่างผักอ่าใช่ผักบางอย่างที่เอามาสกัด
00:09:34 → 00:09:38 อัดเม็ดหรือต้องไปต้มน้ำขิงน้ำกระชายจริง
00:09:38 → 00:09:41 ๆมันก็คือสารเคมีแบบนึงที่มันลงมาในน้ำ
00:09:41 → 00:09:44 แล้วเราก็กินเข้าไปนะคะเพราะต้องขอให้แยก
00:09:44 → 00:09:47 ก่อนว่าเพียงแต่ว่ายาที่มันได้มีประโยชน์
00:09:47 → 00:09:50 กว่าเพราะมันอยู่ในมือผู้เชี่ยวชาญในการ
00:09:50 → 00:09:54 ใช้ยาตัวนี้อืคุณหมอทุกท่านเนี่ยจะถูกสอน
00:09:54 → 00:09:57 มาอยู่แล้วว่า 1 ยาตัวนี้กินเพราะอะไรและ
00:09:57 → 00:10:00 ผลห้างเคียงมันคืออะไรเราเลยสามารถจัดการ
00:10:00 → 00:10:03 กับมันได้ก่อนที่จะเกิดปัญหาอืแต่ถ้าเรา
00:10:03 → 00:10:08 ไปกินกระชายอ่าลูกยอถ้ามันมีปัญหาปุ๊บเรา
00:10:08 → 00:10:10 จะรู้ได้ยังไงใช่มั้ยคะอันเนี้คือสิ่งที่
00:10:10 → 00:10:13 เราไม่ได้รักษาสมุนไพรอยู่ในมือผู้เชี่ยว
00:10:13 → 00:10:17 ชาญที่รู้ผลข้างเคียงของมันอืใช่ใช่ค่ะ
00:10:17 → 00:10:19 ใช่ค่ะอันนี้ก็เป็นสิ่งที่เราจะบอกคนไข้
00:10:19 → 00:10:22 เสมอว่าพอดีมีคนไข้มาปรึกษาเนาะว่ากินยา
00:10:22 → 00:10:25 ตัวนั้นสั่งยาตัวนี้คุณหมอว่ายังไงแนะนำ
00:10:25 → 00:10:29 มั้ยบอกว่าต้องถามว่าอันนี้เ้ามีแผ่นแผ่น
00:10:29 → 00:10:32 แนะนำการใช้มั้ยอืค่ะถ้ามีก็อ่านตามนั้น
00:10:32 → 00:10:34 เลยเพราะเราเองก็ไม่ได้ถูกหมอเองก็ไม่ได้
00:10:34 → 00:10:37 ถูกฝึกมาให้ใช้ยาตัวนี้ฉันหมอไม่มีคำตอบ
00:10:37 → 00:10:40 ให้ก็ลองใช้กับตัวเองดูก่อนถ้ามันเจาะ
00:10:40 → 00:10:43 เลื่อนมาแล้วผลทุกอย่างมันดูแย่ก็กลัว
00:10:43 → 00:10:45 แสดงว่าสิ่งที่คุณกินอยู่อาจจะไม่เหมาะ
00:10:45 → 00:10:47 กับเราอค่ะแต่ถ้าเป็นทางการแพทย์เนี่ยไม่
00:10:47 → 00:10:51 ว่ายาอะไรก็ตามเนี่ยจะมีคำแนะนำอเราไป
00:10:51 → 00:10:54 สามารถเสิร์ชในอินเทอร์เน็ตหรือในข้อมูล
00:10:54 → 00:10:56 ทั้งหลายที่เรามีอยู่เลย AI ถาม AI ก็ได้
00:10:56 → 00:11:00 ว่าเอ๊ะยาตอนนี้มันมีโทษมั้ยมีแต่อย่าลืม
00:11:00 → 00:11:02 ถามว่าเปอร์เซ็นต์ในการเกิดโทษอ่ะมันเท่า
00:11:02 → 00:11:06 ไหร่อืคนส่วนใหญ่พอพอบอกว่ามีโทษกับไต
00:11:06 → 00:11:10 0.01% 01% ค่ะก็เหมาว่ามันมีทั้งหมดแต่
00:11:10 → 00:11:13 ยังไม่ได้บอกว่าถ้าเราใช้ยาลบคำนันจะลด
00:11:13 → 00:11:16 อากาศโอกาสเสียชีวิตอได้อย่างน้อยก็อาจจะ
00:11:16 → 00:11:20 30-40% นะคะลดโอกาสไตวายได้อย่างน้อย
00:11:20 → 00:11:21 20-30%
00:11:21 → 00:11:24 ลดโอกาสเกิดเส้นเลือดสมองไม่ว่าจะแตกหรือ
00:11:24 → 00:11:29 ว่าตีบได้ 20-30% ลดโอกาสเกิดหัวใจวาย
00:11:29 → 00:11:33 เฉียบพันได้ 20-30% อือหือเห็นความสำคัญ
00:11:33 → 00:11:36 ขึ้นมากแล้วค่ะใช่ค่ะโชคดีมากที่เรียกมา
00:11:36 → 00:11:38 นั่งพูดคุยกับอาจารย์ในประเด็นนี้ค่ะ
00:11:38 → 00:11:40 เพราะว่ามันมีข้อสงสัยเยอะมากสำหรับกลุ่ม
00:11:40 → 00:11:42 ของผู้ที่เป็นความดันโลหิตสูงแล้วมีการ
00:11:42 → 00:11:45 ปรับเปลี่ยนยาเองหรือหยุดการใช้ยาหรือไป
00:11:45 → 00:11:48 กินสมุนไพรที่เพื่อนๆแนะนำนะคะตรงนี้
00:11:48 → 00:11:50 สำคัญมากๆได้มาพูดคุยกับอาจารย์หมอเน้น
00:11:50 → 00:11:53 ย้ำผู้ฟังนะคะว่าการที่จะทานอะไรก็ต้อง
00:11:53 → 00:11:55 ศึกษาข้อมูลให้ดีอย่าหลงเชื่อคำโฆษณา
00:11:56 → 00:11:58 อย่างเดียวนะคะแล้วถ้าไหนที่เราอยากจะมา
00:11:58 → 00:12:01 ทดลองกับเราแล้วทดลองแล้วเจาะเลือดดูถ้า
00:12:01 → 00:12:04 ไม่ดีขึ้นก็อย่าฝืนนะคะใช่ต้องติดตามค่ะ
00:12:04 → 00:12:06 ไม่ว่าเรากินอะไรก็ตามเราต้องติดตามเสมอ
00:12:06 → 00:12:09 ใช่มั้คะเพราะว่ามีคนบอกว่าเคยสมัยก่อนจะ
00:12:09 → 00:12:12 ชอบกินโสมกันใช่มั้คะว่าโอหโสมดีมากมัน
00:12:12 → 00:12:15 ช่วยบำรุงโอแต่จริงๆก็มีบางคนกินแล้วไม่
00:12:15 → 00:12:17 ถูกเหมือนกันนะคะงั้นเนี่ยใดๆก็ตามที่เรา
00:12:17 → 00:12:20 เอาเข้าร่างกายอ่ะเราควรจะต้องเช็คได้
00:12:20 → 00:12:22 ซึ่งถามว่าเราเช็คได้ยังไงจริงๆก็คืออยู่
00:12:22 → 00:12:25 ในมือของผู้เชี่ยวชาญถ้าเป็นยาเนี่ยหมอ
00:12:25 → 00:12:28 รับประกันเลยว่าอยู่ในมือหมอที่เชี่ยวชาญ
00:12:28 → 00:12:32 ค่ะแต่ถ้าเราไปเชื่อสิ่งที่เพื่อนบอกอื
00:12:32 → 00:12:36 โฆษณาบอกเราติดตามการรักษายังไงเราติดตาม
00:12:36 → 00:12:38 ผลงานของยาเหล่าเนี้ยอาหารเสริมอย่าง
00:12:38 → 00:12:43 เงี้ยอะไรค่ะถ้าเราบอกได้น่ะยังไงหมอทุก
00:12:43 → 00:12:46 คนยินดีอยู่แล้วก็จะให้ความร่วมมือแต่บาง
00:12:46 → 00:12:48 ทีมันไม่มีการรักษามันไม่มีการติดตามไม่
00:12:48 → 00:12:52 มีคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญแม้กระทั่งคนขาย
00:12:52 → 00:12:54 เองเนี่ยก็ยังไม่ได้บอกเลยว่าคุณลองไป
00:12:54 → 00:12:58 เจาะเลือดดูสิคุณลองไปมาเจอผมดูใช่มั้มา
00:12:58 → 00:13:00 เจอดิฉันดูแล้วเดี๋ยวเราจะได้เช็คกัน
00:13:00 → 00:13:02 อย่างเงี้ยค่ะไม่มีการเช็คหลังจากที่ผ่าน
00:13:02 → 00:13:04 ใช่มั้แต่ยาทำนายเนี่ยหมอรับลงเลยว่าไม่
00:13:04 → 00:13:07 มีใครไม่มีคุณหมอท่านไหนจะไม่นัดคนไข้มา
00:13:07 → 00:13:10 ยังไงก็ต้องนัดเพื่อจะดูผลเลือดใช่มั้
00:13:10 → 00:13:12 เพราะว่าเราก็ต้องวัดความนานดูมาวัดผล
00:13:12 → 00:13:15 เลือดว่าเอ้ยสิ่งที่คุณทำอยู่เนี่ยมันถูก
00:13:15 → 00:13:18 ต้องมันดีมันไม่มีผลข้างเคียงนะอันนี้
00:13:18 → 00:13:21 เป็นสิ่งที่หมอทุกท่านน่ะจะต้องถูกทำตาม
00:13:21 → 00:13:24 มาตรฐานที่เรามีมาตรฐานวางไว้มีไกด์ไลน์
00:13:24 → 00:13:27 มีแนวทางการรักษาชัดเจนก็คือมั่นใจได้ว่า
00:13:27 → 00:13:29 เราอยู่ในมือของผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางจริง
00:13:29 → 00:13:32 ๆนะคะตรงนี้โชคดีมากค่ะที่ได้มานั่งพูด
00:13:32 → 00:13:33 คุยกับอาจารย์ค่ะสุดท้ายอยากให้อาจารย์
00:13:33 → 00:13:35 ฝากถึงผู้ฟัง
00:13:35 → 00:13:38 ที่เป็นความดันโลหิตสูงหรือยังไม่เป็นค่ะ
00:13:38 → 00:13:40 ว่าต้องใส่ใจเรื่องนี้ยังไงค่ะจริงๆเริ่ม
00:13:40 → 00:13:44 ต้นเลยนะคะก็คือการกินง่ายที่สุดเพราะว่า
00:13:44 → 00:13:46 เรากินทุกอย่าง 3 มื้อพูดถูกมั้คะเราทำ
00:13:46 → 00:13:49 เราลดอาหารที่เค็มลงแน่นอนก็คือไม่ว่าจะ
00:13:49 → 00:13:54 เป็นอ่ะหมูหมักหมูทอดที่เขา้าสงวนไว้โดย
00:13:54 → 00:13:56 การเค้าเรียกว่าพรีเสิร์ฟมันโดยการใช้
00:13:56 → 00:13:59 ความเค็มน้ำปลาพวกนี้อย่าไปทานพยายามทาน
00:13:59 → 00:14:02 อาหารสดไม่ว่าจะเป็นหมูสับหมูสดทานเลย
00:14:02 → 00:14:07 อย่าไปแบบดองออไว้นะคะผงชูรสหลีกเลี่ยง
00:14:07 → 00:14:10 ให้ไกลที่สุดค่ะคือเราคงเรียกไม่ได้เพราะ
00:14:10 → 00:14:12 ว่าเสั่งไปให้เราเพราะเราไปทานข้างนอกใช่
00:14:13 → 00:14:15 อันนี้ก็ต้องพยายามกินข้าวนอกบ้านน้อยที่
00:14:15 → 00:14:20 สุดอ่ะนะคะ 2 คือถ้ามีน้ำปลาให้เติมอย่า
00:14:20 → 00:14:24 ถ้ามีเกลือให้เติมอย่าพยายามยับยั้งชั่ง
00:14:24 → 00:14:29 ใจนะคะเหมือนกินอย่างมีสติอ่ะนะคะแล้วก็
00:14:29 → 00:14:31 นอกจากเรื่องอาหารการกินแล้วเนี่ยอยากจะ
00:14:31 → 00:14:34 แนะนำเรื่องการขยับร่างกายค่ะจริงๆอ่ะถ้า
00:14:34 → 00:14:38 เราอย่างที่เราตอนนี้ง่ายๆเดินวันละ 5,900
00:14:38 → 00:14:41 7,9,000 แค่เราขยับร่างกายเนี่ยมันก็ดี
00:14:41 → 00:14:43 แล้วแล้วอย่างตอนนี้ปัจจุบันน่ะนาฬิกาที่
00:14:43 → 00:14:45 เราใส่กันน่ะส่วนใหญ่จะเป็น SM Watch
00:14:45 → 00:14:48 แล้วเพราะฉะนั้นน่ะเราจะดูว่าพอถึงมา 1
00:14:48 → 00:14:51 ช่มงปุ๊บมันจะเตือนเตือนใช่มคะอ่าว่าลุก
00:14:51 → 00:14:53 ได้แล้วนะขยับตัวได้แล้วเออใช่จริงๆแล้ว
00:14:53 → 00:14:55 เป็นสิ่งที่ดีนะคะเพราะว่ามันเป็นการ
00:14:55 → 00:14:59 เริ่มต้นว่าเรากำลังใช้ชีวิตแบบที่ไม่ถูก
00:14:59 → 00:15:02 ต้องค่ะนะคะแล้วถ้ามีเวลาอีกหน่อยนึงอยาก
00:15:02 → 00:15:05 ให้ลองวิ่งเหยาะเล่นเวทเนนิ่งหรือว่าจะ
00:15:05 → 00:15:08 exercise ที่หน้าทีวีที่บ้านก็ได้ค่ะวัน
00:15:08 → 00:15:11 ละอย่างน้อย 30 นาทีเนี่ยแน่นอนการขยับ
00:15:11 → 00:15:13 แบบนั้นน่ะมันช่วยทำให้ชิปจรเราเต้นเร็ว
00:15:13 → 00:15:16 ขึ้นมาเต้นเร็วเนี่ยดีนะคะมันทำให้ร่าง
00:15:16 → 00:15:20 กายถูกฝึกแล้วก็ทำให้ปอดเราขยายเวลาหายใจ
00:15:20 → 00:15:22 แรงๆพอเหนื่อยสมมุติเราเดินขึ้นบันได 3
00:15:22 → 00:15:24 ชั้นเนี่ยถามว่าร่างกายทำอะไรมั้ยร่างกาย
00:15:24 → 00:15:27 ปรับตัวแน่นอนค่ะงั้นเนี่ยการออกกำลังกาย
00:15:27 → 00:15:29 มันกระทั่งเดินขึ้นบันไดอ่ะเวลาเราไปทำ
00:15:29 → 00:15:32 งานสัก 3 ชั้น 4 ชั้นเนี่ยมันก็ช่วยชีวิต
00:15:32 → 00:15:35 เราได้เยอะมากแล้วนะคะเนี่ยอันเนี้ยเป็น 2
00:15:35 → 00:15:39 อย่างที่หมอเน้นเพราะว่าอายุคนเนี่ยจะบอก
00:15:39 → 00:15:42 เลยนะคะว่ายืนหมอเชื่อว่ารุ่นของเราเนี่ย
00:15:42 → 00:15:45 ที่เรายังอยู่ในวัยทำงานเนี่ยจะยืนถึง 90
00:15:45 → 00:15:49 หรือ 100 ปีนะคะโอ้โหถ้าเราไม่ดูเองตั้ง
00:15:49 → 00:15:52 แต่วันเนี้ยเราจะมีคุณภาพชีวิตหลังเกษียณ
00:15:52 → 00:15:55 ไปแล้วหรือหลัง 70 ไปแล้วเนี่ยจะต้องนั่ง
00:15:55 → 00:15:59 ร้องเห็นค่ะจะต้องมีโรคมากมายอืจะต้องมา
00:15:59 → 00:16:02 หาคุณหมอจะต้องกินยาเป็นกำเนี่ยเราเห็น
00:16:02 → 00:16:04 เลยเพราะฉะนั้นทุกวันนี้เราย้อนกลับมา
00:16:04 → 00:16:06 เนี่ยพยายามจะแนะนำคนไข้อ่อถ้าไม่ใช่คน
00:16:06 → 00:16:08 ไข้ประชาชนทั่วไปเนี่ยเราอยากให้คนไข้
00:16:08 → 00:16:12 ป้องกันตัวเองที่สุดใช่จากโรคร้ายน่ะมี
00:16:12 → 00:16:14 แค่ 2 อย่างนี่เองค่ะไม่ได้มีอย่างอื่น
00:16:14 → 00:16:17 เลยสามารถทำได้ตั้งแต่ตอนนี้เลยที่เราได้
00:16:17 → 00:16:19 ยินพอcสนะคะรู้สึกมีกำลังใจแล้วก็เป็นข้อ
00:16:19 → 00:16:22 มูลเป็นช่วงเวลาที่ดีมากๆค่ะที่ได้มานั่ง
00:16:22 → 00:16:24 พูดคุยกับอาจารย์นะคะต้องขอบพระคุณ
00:16:24 → 00:16:27 อาจารย์มากๆเลยค่ะค่ะยินดีนะคะมีอะไรก็
00:16:27 → 00:16:30 ปรึกษาได้อย่าไปคิดว่าการเจอหมอเป็น
00:16:30 → 00:16:32 เรื่องน่ากลัวจริงๆไปมาหาหมอฟันอาจจะน่า
00:16:32 → 00:16:33 กลัว
00:16:33 → 00:16:36 ค่ะวันนี้โชคดีจริงๆค่ะที่ได้นั่งทูทุย
00:16:36 → 00:16:40 กันขอบพระคุณอาจารย์มากๆค่ะสวัสดีค่ะ CMU
00:16:40 → 00:16:44 Podcast Fun for เพราะสุขภาพที่ดี
00:16:44 → 00:16:48 เริ่มได้จากตัวเรา